|
หัวข้อ: เพราะฝีมือ 'ทักษิณ' แท้ๆ นักการทูตยังต้องทะเลาะกัน.....! เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 09-09-2006, 03:51 เทพชัย หย่อง
เพราะฝีมือ 'ทักษิณ' แท้ๆนักการทูตยังต้องทะเลาะกัน นายกฯ ทักษิณของเราโกอินเตอร์ไปแล้วครับกับการสร้างความแตกแยก เพราะทุกวันนี้ไม่ใช่คนไทยเท่านั้นที่ต้องทะเลาะกันเองเพราะเรื่องการเมือง แม้แต่คนในวงการทูตในบ้านเราก็ยังมองตากันไม่สนิททุกครั้งที่ต้องพูดถึงการเมืองไทย จะบอกว่านักการทูตแตกออกเป็นสองเสี่ยง เพราะฝีมือของผู้นำไทยก็คงไม่ผิด พูดง่ายๆ ก็คือ บรรดานักการทูตทั้งหลายในกรุงเทพฯ ตอนนี้แบ่งออกเป็นสองฝ่ายเหมือนคนไทยที่เป็นเจ้าบ้านไม่มีผิด ฝ่ายหนึ่ง คือนักการทูตที่รักทักษิณแบบสุดๆ ผู้นำไทยจะทำอะไร ดูจะเข้าตากรรมการไปเสียหมด อีกฝ่ายหนึ่งพอจะจัดให้เป็นประเภท 'พันธมิตรนักการทูตเพื่อประชาธิปไตย' ก็น่าจะได้ คือเป็นพวกเห็นไส้เห็นพุงทักษิณ ท่านรักษาการนายกฯ จะทำอะไรดูมันขัดหูขัดตาไปหมด พูดไปแล้วไม่น่าเชื่อ นักการทูตที่ยืนเคียงข้างคุณทักษิณ ส่วนใหญ่เป็นตัวแทนของประเทศตะวันตกที่ถือได้ว่าอยู่ในขั้นพัฒนาแล้วทั้งทางด้านการเมืองและสังคม บางประเทศมีภาพของการเป็นแม่แบบของประชาธิปไตยด้วยซ้ำ นักการทูตในกลุ่มนี้ไม่คิดอะไรมาก ถ้าคุณทักษิณและพรรคไทยรักไทยของท่านได้คะแนนเสียงจากชาวบ้านในการเลือกตั้ง ก็ถือว่าทุกอย่างเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตยแล้ว เพราะฉะนั้น ท่านทูตทั้งหลายถึงต้องเกาหัวแกรกๆ ด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมคุณทักษิณถึงไม่สามารถเป็นนายกฯ ได้ ทั้งๆ ที่พรรคของท่านก็ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงแบบท่วมท้นเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา และก็ยอมรับไม่ได้ที่พรรคการเมืองเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์บอยคอตการเลือกตั้ง แถมสื่อมวลชนและนักวิชาการ ตลอดจนชาวบ้านในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ๆ ยังเห็นดีเห็นงามไปกับขบวนการ 'โนโหวต' ด้วย ข้อกล่าวหาทั้งหลายที่มีต่อคุณทักษิณไม่สำคัญ ไม่ว่าเป็นเรื่องคอร์รัปชัน ผลประโยชน์ทับซ้อน การเล่นพรรคเล่นพวก การแทรกแซงองค์กรอิสระ หรือแม้แต่การขายหุ้นในชินคอร์ปให้กับสิงคโปร์โดยไม่จ่ายภาษีแม้แต่บาทเดียว ตราบใดที่คุณทักษิณได้คะแนนเสียงจากประชาชนส่วนใหญ่ในการเลือกตั้ง ก็ถือว่าท่านมีความชอบธรรมในการบริหารประเทศ ถ้าจะพูดสั้นๆ ก็คือ นักการทูตกลุ่มนี้มอง 'รูปแบบ' ของประชาธิปไตย (นั่นก็คือการเลือกตั้ง) เป็นสำคัญ ส่วนเนื้อหาที่แท้จริงจะเป็นอย่างไรเป็นเรื่องรอง ซึ่งก็เป็นความรู้สึกที่สวนทางกับนักการทูตอีกด้านหนึ่งโดยสิ้นเชิง นักการทูตกลุ่มที่สองนี้ ส่วนใหญ่มาจากประเทศกำลังพัฒนา และหลายประเทศกำลังเผชิญ หรือเคยผ่านพ้นวิกฤติการเมืองเหมือนกับที่บ้านเรากำลังประสบอยู่ คือเป็นประเทศที่มีผู้นำสไตล์ 'ประชานิยม' ปกครองประเทศแบบกึ่งเผด็จการ ปฏิเสธระบบการตรวจสอบ เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ในเรื่องของคอร์รัปชัน แต่เอาคนยากจนเป็นฐานการเมืองด้วยนโยบายเอาอกเอาใจ ทั้งแจกทั้งแถม ผู้นำประเภทนี้มาสไตล์เดียวกันหมด คือสร้างภาพของการเป็นผู้นำของคนยากไร้ ไม่ยอมฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ไม่เคยละโอกาสที่จะสร้างกระแสชาตินิยมด้วยการแสดงตัวว่าข้าไม่ง้อประเทศมหาอำนาจหรือต้องขอใครกิน เลือกตั้งทุกครั้งไม่ต้องห่วง ระดมกลไกและอำนาจทุกอย่างในมือและใช้ทุกวิถีทางที่จะเกาะเก้าอี้ไว้ การเลือกตั้งจึงเป็นเครื่องมือพยุงอำนาจเท่านั้น ไม่ใช่เป็นกลไกของการสร้างความเป็นประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นในสายตาของนักการทูตเหล่านี้ การบริหารประเทศในสไตล์ 'ซีอีโอ' ของคุณทักษิณจึงไม่ใช่เรื่องใหม่ หรือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นอะไรเลย แถมยังเป็นวิธีการที่น่าเป็นห่วงด้วยซ้ำ เพราะนับวันก็ยิ่งจะพาประเทศไทยลงเหว เพราะประเทศที่เคยมีผู้นำแบบนี้เจ๊งมามากต่อมากแล้ว หลายประเทศในละตินอเมริกามีให้เห็นเป็นตัวอย่าง มีผู้นำประเภทชูธงประชานิยม แรกๆ ชาวบ้านก็หลงใหลได้ปลื้ม กว่าจะรู้ตัวประเทศชาติก็มีหนี้สินท่วมหัวจนเกือบเอาตัวไม่รอด ระบบการเมืองก็แทบล้มครืน ประชาชนแตกแยก จนกลายเป็น 'รัฐล้มเหลว' เหมือนที่อดีตนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน เคยเตือนไว้เมื่อไม่กี่วันก่อน ถ้าคนไทยทุกวันนี้คุยเรื่องการเมืองกันไม่ได้ เพราะแค่เอ่ยปากก็ทะเลาะกันแล้ว นักการทูตก็เหมือนกันครับ เริ่มตั้งวงเมาท์เรื่องการเมืองไทยเมื่อไร ก็เป็นอันต้องวงแตกทุกครั้ง เพราะถือหางกันคนละข้าง ทางออกของท่านทูตทั้งหลายก็คือการแยกวงคุย เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่อาจบานปลายกลายเป็นเรื่องพิพาทระหว่างประเทศ อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นักการทูตตะวันตกหลายประเทศ ชื่นชอบทักษิณเป็นพิเศษก็คือบรรดา 'เมกะโปรเจค' ที่ผู้นำไทยเคยโปรยเป็นยาหอมไว้ ทำเอาทั้งนักธุรกิจและนักการทูตน้ำลายหกไปตามๆ กัน แต่มีคำถามหนึ่งที่นักการทูตค่ายนิยมทักษิณตอบไม่ได้ก็คือ สมมติว่าผู้นำของประเทศที่เจริญแล้วทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นนายกฯ โทนี แบลร์ของอังกฤษ หรือประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐ ถูกจับได้คาหนังคาเขาว่าช่วยครอบครัวขายหุ้นในบริษัทโทรคมนาคมให้กับประเทศคู่แข่ง ประชาชนยังจะยอมให้ผู้นำที่ว่านั่งเสนอหน้าอยู่ในบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวน์นิ่ง ในกรุงลอนดอน หรือในทำเนียบขาว ต่อไปหรือไม่ บางทีฝรั่งที่ว่าก้าวหน้านักหนาในเรื่องประชาธิปไตย ก็มีดับเบิลสแตนดาร์ดได้เหมือนกัน http://www.nationweekend.com/2006/09/08/NW14_451.php?SecId=NW14&news_id=21539239 หัวข้อ: Re: เพราะฝีมือ 'ทักษิณ' แท้ๆ นักการทูตยังต้องทะเลาะกัน.....! เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 09-09-2006, 03:54 แต่มีคำถามหนึ่งที่นักการทูตค่ายนิยมทักษิณตอบไม่ได้ก็คือ สมมติว่าผู้นำของประเทศที่เจริญแล้วทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นนายกฯ โทนี แบลร์ของอังกฤษ หรือประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐ ถูกจับได้คาหนังคาเขาว่าช่วยครอบครัวขายหุ้นในบริษัทโทรคมนาคมให้กับประเทศคู่แข่ง ประชาชนยังจะยอมให้ผู้นำที่ว่านั่งเสนอหน้าอยู่ในบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวน์นิ่ง ในกรุงลอนดอน หรือในทำเนียบขาว ต่อไปหรือไม่
บางทีฝรั่งที่ว่าก้าวหน้านักหนาในเรื่องประชาธิปไตย ก็มีดับเบิลสแตนดาร์ดได้เหมือนกัน หัวข้อ: Re: เพราะฝีมือ 'ทักษิณ' แท้ๆ นักการทูตยังต้องทะเลาะกัน.....! เริ่มหัวข้อโดย: น้องแบ๊งค์เองครับ ที่ 09-09-2006, 08:12 :roll: นายกทักษิณไปเยือนเมืองนอก ภาพที่นักการฑูตหลายคนเห็นคือท่านคุยโทรศัพท์เจรจาธุรกิจอย่างเดียว
หัวข้อ: Re: เพราะฝีมือ 'ทักษิณ' แท้ๆ นักการทูตยังต้องทะเลาะกัน.....! เริ่มหัวข้อโดย: Killer ที่ 09-09-2006, 08:57 - นักการทูต ในประเทศกระจอกด้อยพัฒนา ย่อมมีความน้อยเนื้อต่ำใจ
ที่ตนเองไม่ได้รับการแต่งตั้งให้ไปประจำการในประเทศไฮโซทั้งหลาย ก็เลยเกิดความไม่พอใจรัฐบาลไทยรักไทยและดร.ทักษิณ เป็นธรรมดา - นักการทูต ที่มีนิสัยรักความสบาย คิดว่ามันคือตำแหน่งประดับวงศ์ตระกูล เมื่อมาเจอ นโยบายไทยรักไทย เจอดร.ทักษิณ เคี่ยวเข็ญให้รับบทเซลล์แมน ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกต่ำต้อย กระจอก เสื่อมเสีย เลยพาลเกลียดเข้าไปอีก พวกเขานิยมชมชอบที่จะจัดปาร์ตี้ ในวงสังคมนักการทูตและไฮโซในแต่ละประเทศ ลูกเมียพวกเขานิยมที่จะไปช้อปปิ้งยังสถานที่หรูๆ ถ้าไปสามีไปขายของให้ประเทศชาติอาจรู้สึกอับอาย และเสื่อมเกียรติ หัวข้อ: Re: เพราะฝีมือ 'ทักษิณ' แท้ๆ นักการทูตยังต้องทะเลาะกัน.....! เริ่มหัวข้อโดย: RiDKuN ที่ 09-09-2006, 09:04 - นักการทูต ในประเทศกระจอกด้อยพัฒนา ย่อมมีความน้อยเนื้อต่ำใจ ที่ตนเองไม่ได้รับการแต่งตั้งให้ไปประจำการในประเทศไฮโซทั้งหลาย ก็เลยเกิดความไม่พอใจรัฐบาลไทยรักไทยและดร.ทักษิณ เป็นธรรมดา - นักการทูต ที่มีนิสัยรักความสบาย คิดว่ามันคือตำแหน่งประดับวงศ์ตระกูล เมื่อมาเจอ นโยบายไทยรักไทย เจอดร.ทักษิณ เคี่ยวเข็ญให้รับบทเซลล์แมน ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกต่ำต้อย กระจอก เสื่อมเสีย เลยพาลเกลียดเข้าไปอีก พวกเขานิยมชมชอบที่จะจัดปาร์ตี้ ในวงสังคมนักการทูตและไฮโซในแต่ละประเทศ ลูกเมียพวกเขานิยมที่จะไปช้อปปิ้งยังสถานที่หรูๆ ถ้าไปสามีไปขายของให้ประเทศชาติอาจรู้สึกอับอาย และเสื่อมเกียรติ รู้สึกข้ออ้างแบบนี้ ใช้ได้กับทุกคนเลยนะครับคุณ Killer ขอมุขอื่นบ้างเถอะ เบื่อแล้ว เพราะพอถามหาหลักฐานที่มาทีไร ก็ไม่เคยมีซักที :lol: หัวข้อ: Re: เพราะฝีมือ 'ทักษิณ' แท้ๆ นักการทูตยังต้องทะเลาะกัน.....! เริ่มหัวข้อโดย: Sweet Chin Music ที่ 09-09-2006, 10:42 - นักการทูต ในประเทศกระจอกด้อยพัฒนา ย่อมมีความน้อยเนื้อต่ำใจ ที่ตนเองไม่ได้รับการแต่งตั้งให้ไปประจำการในประเทศไฮโซทั้งหลาย ก็เลยเกิดความไม่พอใจรัฐบาลไทยรักไทยและดร.ทักษิณ เป็นธรรมดา ไปด่าประเทศเค้าว่าด้อยพัฒนา ผมละสงสารคุณคิล จริงๆเลย ที่สมองคุณไร้ซึ่งการพัฒนา หนำซ้ำนับวันยังยิ่งถอยหลังลงโลง ระวังจะเป็น ศพ ไม่มีญาตินะครับ 555+ เพราะตอนนี้ พวกลิ่วล้อทั้งหลายนับวัน ยิ่งออกมาฆ่าตัวตาย มากขึ้นเรื่อยๆ - นักการทูต ที่มีนิสัยรักความสบาย คิดว่ามันคือตำแหน่งประดับวงศ์ตระกูล เมื่อมาเจอ นโยบายไทยรักไทย เจอดร.ทักษิณ เคี่ยวเข็ญให้รับบทเซลล์แมน ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกต่ำต้อย กระจอก เสื่อมเสีย เลยพาลเกลียดเข้าไปอีก พวกเขานิยมชมชอบที่จะจัดปาร์ตี้ ในวงสังคมนักการทูตและไฮโซในแต่ละประเทศ ลูกเมียพวกเขานิยมที่จะไปช้อปปิ้งยังสถานที่หรูๆ ถ้าไปสามีไปขายของให้ประเทศชาติอาจรู้สึกอับอาย และเสื่อมเกียรติ จิงด้วย คุณทักษิณ นิยมไป ช้อปปิ้ง สถานที่หรูๆ คุณทักษิณ เป็นคนขาดความอบอุ่น เวลาไปไหน ต้องมีสีกากี ไปด้วยกันเยอะๆ เป็นถึงนายกฯ แต่ทำได้แค่ ให้พวกควาย เชื่อฟังได้ 555+ หัวข้อ: Re: เพราะฝีมือ 'ทักษิณ' แท้ๆ นักการทูตยังต้องทะเลาะกัน.....! เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 09-09-2006, 14:43 ทักษิณขายชาติ ล้างสมองได้แต่พวกสมองไม่มีหยัก
หัวข้อ: Re: เพราะฝีมือ 'ทักษิณ' แท้ๆ นักการทูตยังต้องทะเลาะกัน.....! เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 09-09-2006, 15:52 - นักการทูต ในประเทศกระจอกด้อยพัฒนา ย่อมมีความน้อยเนื้อต่ำใจ ที่ตนเองไม่ได้รับการแต่งตั้งให้ไปประจำการในประเทศไฮโซทั้งหลาย ก็เลยเกิดความไม่พอใจรัฐบาลไทยรักไทยและดร.ทักษิณ เป็นธรรมดา - นักการทูต ที่มีนิสัยรักความสบาย คิดว่ามันคือตำแหน่งประดับวงศ์ตระกูล เมื่อมาเจอ นโยบายไทยรักไทย เจอดร.ทักษิณ เคี่ยวเข็ญให้รับบทเซลล์แมน ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกต่ำต้อย กระจอก เสื่อมเสีย เลยพาลเกลียดเข้าไปอีก พวกเขานิยมชมชอบที่จะจัดปาร์ตี้ ในวงสังคมนักการทูตและไฮโซในแต่ละประเทศ ลูกเมียพวกเขานิยมที่จะไปช้อปปิ้งยังสถานที่หรูๆ ถ้าไปสามีไปขายของให้ประเทศชาติอาจรู้สึกอับอาย และเสื่อมเกียรติ รู้สึกข้ออ้างแบบนี้ ใช้ได้กับทุกคนเลยนะครับคุณ Killer ขอมุขอื่นบ้างเถอะ เบื่อแล้ว เพราะพอถามหาหลักฐานที่มาทีไร ก็ไม่เคยมีซักที :lol: รู้สึกข้ออ้างแบบนี้ ใช้ได้กับทุกคนเลยนะครับคุณ Killer ขอมุขอื่นบ้างเถอะ เบื่อแล้ว เพราะพอถามหาหลักฐานที่มาทีไร ก็ไม่เคยมีซักที :lol: อดีตเอกอัครราชฑูตไทยประจำกรุงวอชิงตันและองค์การสหประชาชาติ ประจานทักษิณและสุรเกียรติทุกวันนี้ ประจำประเทศด้วยพัฒนา...................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า หัวข้อ: Re: เพราะฝีมือ 'ทักษิณ' แท้ๆ นักการทูตยังต้องทะเลาะกัน.....! เริ่มหัวข้อโดย: Neoconservative ที่ 09-09-2006, 17:33 ตอนนี้ เป็น ทูต ซีอีโอ เหมือน ผู้ว่า ซีอีโอ ดังนั้น การเมืองภายในประเทศ จะมีผลกระทบ ต่อ เก้าอี้ ซีอีโอ แน่นอน
การประเมิณผลงาน ซีอีโอ ใช้ระบบ balance score card หรือ key performance index โดย คำชมเชยจาก ประเทศที่ไปประจำ อยู่นั้น มีคะแนนน้อยลง ไม่เหมือนสมัยก่อน เกียรติของทูต ไม่เหมือนสมัยก่อน ที่คนยกย่องบูชา กลายมาเป็น พนักงานรับใช้ ประชาชนที่มีปัญหาในต่างประเทศ เวลานี้ ทูต ต้องเลือกขั้วการเมืองอย่าง หลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วครับ ไม่งั้นต้องทนรับ นโยบายจาก ฝ่ายที่ตยไม่ชอบต่อไป |