หัวข้อ: การศึกษาไทยโคม่า? เริ่มหัวข้อโดย: ชอบแถ ที่ 25-08-2006, 21:14 ข่าวที่ทำให้ผมรู้สึกใจหายและต้องถอนหายใจลึกๆอยู่หลายนาทีเมื่อวันวานนี้ เห็นจะเป็นข่าวที่หนังสือพิมพ์หลายฉบับพาดหัวว่า โรงเรียนไทยของเรากว่า 2 หมื่นโรง อยู่ในสภาพตํ่ากว่ามาตรฐาน
และจาก 2 หมื่นโรงที่ว่านี้ ถึง 15,000 โรง จัดอยู่ในขั้นโคม่า ที่จะ ต้องได้รับการแก้ไขเยียวยาโดยด่วน ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นผลจากการประเมินคุณภาพการศึกษา ของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา ที่เรียกกันสั้นๆว่า สมศ. และนำมาแถลงโดยตัวคุณ สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ผอ.สมศ.เอง ท่าน ผอ.ให้รายละเอียดว่า จากการประเมินผลรอบที่ 2 ในระหว่างปี 2549-2553 จำนวน 30,010 โรงนั้น มีโรงเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ถึง 2 ใน 3 เลยทีเดียว เมื่อคิดเป็นโรงเรียนก็จะตกประมาณ 20,000 โรงเรียนอย่างที่ว่า แต่ถ้าคิดเป็นจำนวนนักเรียนจะมีจำนวนสูงถึง 4 ล้าน 5 แสนคน โรงเรียนเหล่านี้มักเป็นโรงเรียนขนาดเล็กในชนบท กระจายอยู่ตามภาคต่างๆทั่วประเทศ เหตุที่ผมใจหายและต้องถอนหายใจลึกๆนั้น เป็นเพราะผมเห็นด้วยกับคำกล่าวของท่านผู้รู้และผู้เชี่ยวชาญทุกๆท่านที่บอกว่า ทรัพยากรมนุษย์ เป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของทุกประเทศในโลกนี้ ประเทศที่จะประสบความสำเร็จในการพัฒนา จะต้องเป็นประเทศที่มี ทรัพยากรมนุษย์เข้มแข็งในทุกๆด้าน...ทั้งในด้านสุขภาพ ในด้านความรู้ และความดีงาม ตัดแปะมาจาก www.thairath.co.th/news.php?section=society02&content=17287 เพลาเพลาจากเรื่องระเบิดมั่ง หัวข้อ: Re: การศึกษาไทยโคม่า? เริ่มหัวข้อโดย: Solidus ที่ 25-08-2006, 21:21 ถ้าให้รุ้มากเกินไปมันจะปกครองยาก
หัวข้อ: Re: การศึกษาไทยโคม่า? เริ่มหัวข้อโดย: ชอบแถ ที่ 25-08-2006, 21:29 คนเรียนต่อจาก ปวช ไป ปวส ไป ปริญญา มันเยอะขึ้นมากนะครับ
บทความเน้นเรื่อง คุณภาพการศึกษา ต้องรอท่านผู้รู้มาให้ความเห็นเรื่อง คุณภาพของ ปริญญา ในปัจจุบัน หัวข้อ: Re: การศึกษาไทยโคม่า? เริ่มหัวข้อโดย: so what? ที่ 25-08-2006, 21:37 ข่าวเดียวกันครับ แต่อันนี้มุมมองของผมกับอีกสองสามคน :lol: :mrgreen: :lol:
http://forum.serithai.net/index.php?topic=6242.0 (http://forum.serithai.net/index.php?topic=6242.0) หัวข้อ: Re: การศึกษาไทยโคม่า? เริ่มหัวข้อโดย: ชอบแถ ที่ 25-08-2006, 21:45 คุณสังเกตความแตกต่างของข่าวจากสองแหล่งมั้ย
ตรงที่รอบแรก และ รอบที่สอง หัวข้อ: Re: การศึกษาไทยโคม่า? เริ่มหัวข้อโดย: นู๋เจ๋ง ที่ 25-08-2006, 21:46 5 ปี ไม่ได้มีอะไรดี
จาตุรง จ๊กม๊ก ยังมีผลงานมากกว่า หัวข้อ: Re: การศึกษาไทยโคม่า? เริ่มหัวข้อโดย: ชอบแถ ที่ 25-08-2006, 21:55 คุณคงไม่ได้เรียนจบในห้าปีของทักษิณนี้นะครับ
การใช้ภาษาไทยของคุณยังผิดโดยที่คุณไม่รู้เลย นี่ผมไม่ได้พูดถึงคำว่า นู๋เจ๋ง หรือ ที่พิมพ์ตกอย่าง จาตุรงนะครับ แสดงว่าปัญหามันมีมานานมากแล้ว หัวข้อ: Re: การศึกษาไทยโคม่า? เริ่มหัวข้อโดย: so what? ที่ 25-08-2006, 22:02 คุณคงไม่ได้เรียนจบในห้าปีของทักษิณนี้นะครับ การใช้ภาษาไทยของคุณยังผิดโดยที่คุณไม่รู้เลย นี่ผมไม่ได้พูดถึงคำว่า นู๋เจ๋ง หรือ ที่พิมพ์ตกอย่าง จาตุรงนะครับ แสดงว่าปัญหามันมีมานานมากแล้ว อ้าว ลืมไปว่าเป็นกระทู้ของอาจารย์แถ ศิษย์เอกของท่านวรเดช ปรมาจารย์แห่งการตรวจคำผิด ทีหลังนู๋เจ๋งห้ามพิมพ์ผิดนะครับ ไม่งั้นมีหักคะแนนจริงๆด้วย :lol: :lol: หัวข้อ: Re: การศึกษาไทยโคม่า? เริ่มหัวข้อโดย: ชอบแถ ที่ 25-08-2006, 22:09 ผมไม่ไร้สาระไปจับผิดคนพิมพ์ผิดหรอกครับ พิมพ์ผิดกันเต็มไปหมดเรื่องธรรมดา
แต่เรื่องที่น่าเอาใจใส่คือการใช้ภาษาผิดโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ต่างหากครับ อย่างคำว่า นู๋เจ๋ง ผมก็ไม่ได้ว่าเป็นคำผิด เป็นตามสมัยนิยมมากกว่า หัวข้อ: Re: การศึกษาไทยโคม่า? เริ่มหัวข้อโดย: p ที่ 26-08-2006, 10:04 คนเรียนต่อจาก ปวช ไป ปวส ไป ปริญญา มันเยอะขึ้นมากนะครับ มันเป็นค่านิยมทางสังคมปัจจุบันครับ ที่อะไรก็ต้องปริญญา ที่ไหนก็ต้องปริญญา และเมื่อไรก็ต้องปริญญาอยู่ตลอดเวลา คำว่า"ปริญญา" นั้น คนในสังคมส่วนหนึ่งหมายถึง "ใบปริญญา" เท่านั้น "ใบปริญญา" ที่ว่านั้นเป็นกุญแจสำคัญหรือใบเบิกทางที่จะนำไปสู่ที่ไหนก็ได้ตามที่ต้อง แต่ "ความรู้" ที่ควรจะได้รับหรือควรจะมีกลับถูกละเลยหรือไม่ได้รับการเอาใจใส่เท่าที่ควร ดังนั้นผู้ที่อยากได้"ใบปริญญา" ก็ต้องทำทุกวิถีทางที่จะได้มาซึ่ง"ใบปริญญา" ในขณะเดียวกันผู้ที่ให้ "ใบปริญญา" ก็ทำทุกวิถีทางที่จะให้ "ใบปริญญา" มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แม้จะผิดจรรยาบรรณ ผิดศีลธรรม และคุณธรรมขนาดไหนเขาก็ไม่สนใจ ว่างๆผมอยากให้ไปสังเกตการณ์ตามหน้ามหาวิทยาลัยบางแห่งที่เปิดสอนหลักสูตรพิเศษในวันเสาร์และวันอาทิตย์ จะมีรถเข้าออกมากเป็นพิเศษ จะมีคนทุกเพศ ทุกวัย และทุกอาชีพเดินเข้าออกพลุกพล่านตลอดเวลา เขาไปทำอะไรกันเหรอ ไม่มีอะไรเป็นอย่างอื่น นอกไปจากไปแสวงหา "ใบปริญญา" ครับ ดังนี้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม คนเรียนต่อจาก ปวช ไป ปวส ไป ปริญญา มันเยอะขึ้นมาก :mozilla_wink: หัวข้อ: Re: การศึกษาไทย...ตายไปนานแล้ว ..ไม่ใช่แค่โคม่า ? เริ่มหัวข้อโดย: ThailandReport ที่ 26-08-2006, 12:11 จับตา ดู ONET
Anet ปีนี้ดีๆละกัน เหล้าเก่า ใน ขวดใหม่ ทปอ. เปลี่ยนแปลง อะไรไม่ได้ อ้างว่า แผนพัฒนา + นโยบาย กระทรวงศึกษา ต้องการให้คงมีข้อสอบอัตนัย !! อยากหาเงินอีกปี ซะมากก่า... ข้อสอบ 2-3 ข้อ อัตนัย มันช่วยอะไรได้ขนาดนั้นเลยเหรอ คิดแล้วปวดนิ้วเท้า (เพราะไม่ได้ใช้มันสมองคิดแต่ใช้นิ้วตีนคิด) !! คนบาป ส.ท.ศ. ลอยนวลแค่ลาออก +ลาบวช และ ส.ก.อ. ตัวการยัง ยืนหัวโด่ ลอยตัวเหนือปัญหา ตราบใดที่ ระบบการศึกษา เมืองไทย ยังมีคนชื่อ.... สาดตราจาน อย่างหนา ด้านเป็นพิเศษ ภาวินาศ (สันตะโร) คนนี้อยู่ ... การศึกษาไทย ตายไปนานแล้วครับ ไม่ใช่แค่ โคม่า!! หัวข้อ: Re: การศึกษาไทยโคม่า? เริ่มหัวข้อโดย: ชอบแถ ที่ 26-08-2006, 21:38 มันเป็นค่านิยมทางสังคมปัจจุบันครับ ตรงนี้แหละครับ คือ ปัญหา ถ้าลืมเรื่องทักษิณไปก่อน คิดถึงรัฐบาลข้างหน้าจะมีนโยบายเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้างที่อะไรก็ต้องปริญญา ที่ไหนก็ต้องปริญญา และเมื่อไรก็ต้องปริญญาอยู่ตลอดเวลา คำว่า"ปริญญา" นั้น คนในสังคมส่วนหนึ่งหมายถึง "ใบปริญญา" เท่านั้น "ใบปริญญา" ที่ว่านั้นเป็นกุญแจสำคัญหรือใบเบิกทางที่จะนำไปสู่ที่ไหนก็ได้ตามที่ต้อง แต่ "ความรู้" ที่ควรจะได้รับหรือควรจะมีกลับถูกละเลยหรือไม่ได้รับการเอาใจใส่เท่าที่ควร ดังนั้นผู้ที่อยากได้"ใบปริญญา" ก็ต้องทำทุกวิถีทางที่จะได้มาซึ่ง"ใบปริญญา" ในขณะเดียวกันผู้ที่ให้ "ใบปริญญา" ก็ทำทุกวิถีทางที่จะให้ "ใบปริญญา" มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แม้จะผิดจรรยาบรรณ ผิดศีลธรรม และคุณธรรมขนาดไหนเขาก็ไม่สนใจ ว่างๆผมอยากให้ไปสังเกตการณ์ตามหน้ามหาวิทยาลัยบางแห่งที่เปิดสอนหลักสูตรพิเศษในวันเสาร์และวันอาทิตย์ จะมีรถเข้าออกมากเป็นพิเศษ จะมีคนทุกเพศ ทุกวัย และทุกอาชีพเดินเข้าออกพลุกพล่านตลอดเวลา เขาไปทำอะไรกันเหรอ ไม่มีอะไรเป็นอย่างอื่น นอกไปจากไปแสวงหา "ใบปริญญา" ครับ ดังนี้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม คนเรียนต่อจาก ปวช ไป ปวส ไป ปริญญา มันเยอะขึ้นมาก ต้องแยกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ยังไม่เรียนแต่กำลังจะเรียน กลุ่มที่กำลังเรียนอยู่ และ กลุ่มที่จบมาแล้ว มองในมุมกลับกลุ่มคนที่ใช้แรงงานกลุ่มหนึ่งได้โอกาสเรียนก็จะเรียนให้ถึงที่สุด โดยสถาบันก็จัดให้ เหมือนกับให้โอกาสคนได้พัฒนาความรู้ ก็ยังดีกว่าไม่รู้ แต่มันก็ไปจนเละสร้างอีกปัญหาหนึ่ง ถ้าจะแก้ปัญหา ไม่น่าจะทำได้ในหนึ่งรัฐบาลนะครับ ตอนนั้นกลุ่มที่จบมาแล้วก็จะมีขนาดใหญ่ จนหามาตรฐานไม่เจอ แล้วจะปรับปรุงพวกจบมาแล้วให้เข้ามาตรฐานอย่างไร ทุกวิชาชีพ ต้องมี ใบประกอบวิชาชีพแบบต้องสอบหรือไม่ ตอนนี้ผู้จบทางบัญชีทำงานด้านบัญชีก็ต้องเข้ามาตรฐาน ที่ทางรัฐกำหนด จะเป็นตัวอย่างของสาขาอาชีพอื่นหรือไม่ |