ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

วัฒนาธรรมที่ไม่ดี หรือ "อวัฒนธรรม" สมควรถูกทำลายลงไป ไม่สมควรเก็บเอาไว้ เช่น การกราบไหว้ต้นไม้ จอมปลวก การติดการพนัน เล่นหวยเป็นนิจ

การยึดรูปแบบแสดงออกและพูดจาแบบศรีธนญชัย การอาฆาตแค้น ความวกวน ยอกย้อน การขูดรีดดอกเบี้ย ฯลฯ

ท่านมีความเห็นว่าอย่างไร? ส่วนตัวผมมองว่าเป็นปัญหาที่ต้องการการปฏิรูปสังคมอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบครับ ซึ่งก็อยู่ทีความตระหนักในปัญหา อวัฒนธรรมของคนในสังคมไทย

ตั้งกระทู้ไว้เปรียบเทียบกับพฤติกรรมของคนไทยทุกคนในสังคมไทยครับ ปัญหาต่างๆบางที่ก็เป็นเพียงยอดน้ำแข็งที่เรามองเห็น แบบใส่แว่นสีต่างๆมองดูกันด้วยซ้ำไป.

หนูไม่เข้าใจคำว่า "วัฒนธรรมแขก" อ่ะค่ะ

เห็นพี่ตองเก้าใช้จั่วหัวข้อกระทู้แล้ว สะดุ้ง!!

แล้วในเนื้อหา พี่ใช้คำว่า อวัฒนธรรมอีก จะดีเหรอค้าา  :roll:


เอิ่มมม... หนูแค่มาเยือนเฉยๆ พอดีก่า โนคอมเมนต์ค๊าบบบบ  :mozilla_tongue:

สำรวจภาพรวมดูก่อนครับ ถ้ามีสิ่งไม่ดีก็ต้องปฏิรูป

จขกท.หมายถึงที่เราเอาพิธีกรรม ของบางลัทธิ ศาสนาของอินเดีย
มารวมกับศาสนาพุทธหรือครับ? หรือหมายถึงความเชื่องมงาย ของคนบางกลุ่ม ....

ถามเจาะได้ดีครับ เพราะดูเป็นกลางๆ แต่ถ้าเราจะพูดเรื่องความเชื่อนี่ก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและก็อ่อนไหวด้วยครับ.. โดยส่วนใหญ่เราก็ต้องแยกประเด็นในกลุ่มวัฒนธรรม และเปรียบเทียบผลของมันต่อแต่ละสังคม เช่น เปรียบเทียบ อังกฤษ สหรัฐ เยอรมัน กับ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน สิงค์โปร์ กับไทย อินเดีย กับ ปากีสถาน มาเลย์ อินโดนีเชีย

ผมมองว่าไทยเราเป็นเมืองพุทธ แล้วก็มีวัฒนธรรมรากเหง้าอะไรบ้างนะครับ  แต่ก็มองว่าศรีธนญชัยและเรื่องยอกย้อน วกวน อิจริษยา ซุบซิบ นินทานี่ไทยเราก็มีปัญหาไม่น้อย..เหมือนกับว่าจะมีการวิจัยทางสังคมของไทยรองรับการสังเกตของผมและอีกหลายๆคนอยู่ด้วย.

ตัวผมเองนับถือพุทธ  แต่ตัวเองไม่ชอบพิธีกรรมที่เกินจำเป็น พิธีกรรมบางอย่างไม่ใช่ของพุทธ
เรารับเขามา  ที่ไม่ชอบเพราะทำให้เราลืมและละเลสิ่งสำคัญไป นั่นคือ "แก่นของศาสนา"
กับไปยึดถือเรื่องพิธีกรรม และคิดว่านั้นคือกิจที่พุทธศานิกชนควรทำหรือต้องทำ
* บางคนบริจาคเงินมากมายและเชื่อในอภินิหารของเทวรูป
* บางคนทำบุญก็เพื่อการอธิษฐานขอที่ตัวเองอยากได้
* บางคนหวังว่า "คาถา" และสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลายจะมาช่วยเหลือ ทำสะเดาะห์เคราะอะไรอีกมาก
   ทำให้เป็นแหล่งทำเงินของคนบางกลุ่ม

ศาสนาพุทธที่แท้เป็น "เหตุเป็นผล"  สามารถ อธิบายได้ ตามหลักวิทยาศาสตร์
เพราะพุทธเจ้าท่านสอนว่า อย่าไปเชื่อเพราะเขาบอกมา แต่ให้ไตร่ตรองถึงเหตุถึงผลด้วยตัวเอง
ผมต้องขอโทษด้วย...ถ้าบังเอิญความคิดส่วนตัวของผม ไปขัดแย้งกับความเชื่อของบางคน
...แต่ผมเชื่อในสิ่งหนึ่งครับ...เหนือศาสนาหรือประเทศ
...คือผมเชื่อในความเป็นคน เราเป็นมนุษย์ในโลกเหมือนกัน การฆ่ากันโดยเอาศาสนามาอ้าง
   หรือเอาความต่างเชื้อชาติมาอ้าง...ผมไม่เห็นด้วย

  "ภาษา ศาสนาและรัฐบาลเกิดขึ้นจากฝุ่นผง
  ที่ฟุ้งจากสองข้างทางของมนุษย์ซึ่งขยายให้ชีวิตดำเนินต่อไป" ...คาลิล ยิบราน

ครับ มาต่อในประเด็นจากคุณภูพาน..

เรื่องศาสนาตรงๆ ผมจำต้องเลี่ยง เพราะเว็บบอร์ดมีกฎเกณฑ์อยู่การฝ่าฝืนก็คงไม่เกิดผลดีอะไรได้..

ก็คงสามารถจะมองในมุมการเปรียบเทียบความเชื่อต่างๆและวัฒนธรรมได้ครับ..

-พิธีกรรมแกมบังคับทุกชนิด ผมไม่เห็นด้วยครับ ทุกอย่างควรเกิดจากจิตศรัทธา ดังนั้นไม่ควรตำหนิหรือกดดันผู้ไม่เข้าร่วม..
-เรื่องความรุนแรงก้าวร้าว ระบบตาต่อตา ฟันต่อฟันไม่เห็นด้วย เพราะเห็นปัญหามามากว่าไม่จบสิ้นลงไปได้ ถึงจบได้มันก็เกิดเรื่องใหม่ๆสืบเนื่องขึ้นมาอีก
-เรื่องวิทยาศาสตร์ ปัจจุบันยังไม่ครอบคลุมความลับทั้งหมดของจักรวาล ผมไม่เชื่อว่าจะมีวันนั้นนะครับ
-เรื่องการใช้เหตุและผลเห็นด้วย ก็ต้องค้นคว้าศึกษากันต่อไป แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องความเชื่อ มีที่มาจากหลายสาเหตุแตกต่างกันมาก ดังนั้นการเชื่อยากกว่าการไม่เชื่อครับ
-หากจัดความรักเป็นอารมณ์อย่างหนึ่ง ก็ต้องสงวนการใช้อารมณ์ที่สร้างสรรค์ไว้เป็นศิลปะที่สำคัญที่สุด
....

อวัฒนธรรมไทย ที่ผมกังวลมาก็คือการไม่เชื่อในสิ่งที่(ควร)ต้องเชื่อ และการเชื่อในสิ่งที่จะต้องไม่(ควร)เชื่อ

-การปฏิบัติกันอย่างเคยชินจนเป็นมาตรฐานของสังคมที่ล่วงละเมิดใดๆมิได้เลย..

-การเบี่ยงเบนในทางร้ายจากความกดดันทางสังคมที่เกิดขึ้นและการกระจายออกไปของปัญหาแบบปฏิกิริยาลูกโซ่

ผมเพ่งเล็ง อวัฒนธรรมไทยที่ สืบเนื่องใกล้ชิดกับอวัฒนธรรมแขกครับ เพราะเคลือบแคลงในความเชื่อต่างที่ผมไม่เชื่อ ดังได้ยกตัวอย่างไปบ้างแล้ว..

หากมันยังคงอยู่และมีคนจำนวนมากเชื่อ นี่คงต้องคาดไว้ก่อนว่า มัน(อวัฒนะรรม)มีมาตั้งแต่พวกเราแต่ละคนเกิดแล้ว จึงไม่รู้สึกแปลกแยกเป็นส่วนใหญ่

กล่าวคือ เวลาไม่เชื่อนี่แสดงข้อมูลอย่างไรก็ไม่เชื่อ แต่เวลาเชื่อก็เชื่อกันแบบผมว่าผิดๆครับ เช่น เล่นหวยแล้วจะหายจนกันได้อย่างไร? มันขัดกันหลายๆอย่าง ลองยกตัวอย่างที่ไม่กระทบพวกเราตรงนี้ดูก่อนครับ..จะได้ไม่เกิดความรู้สึกไม่ดีต่อกัน..

ควรจะมีคนเข้ามาคุยกันต่อเนื่องได้ทุกคนครับ เพราะเราคุยกันด้วยข้อเท็จจริงและความจริง อิงสิ่งที่เราแต่ละคนเชื่อกันอยู่

ความผิดพลาดข้อแรกของความเชื่อก็คือที่มาของความเชื่อรากฐาน มาจากสิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ เพราะไม่ทราบจุดตั้งตนและจุดสิ้นสุดของสิ่งต่างๆเหมือนกับกาลเวลาที่ไม่มีใครรู้ว่าเริ่มที่ใดและสิ้นสุดที่ไหน? แขกเอาสิ่งเหล่านี้มาถักทอเป็นเรื่องเป็นราวให้สนุก แต่ไม่ได้หมายความว่าแขกรู้จริงกว่าวัฒนธรรมอื่นๆ..!!!

คิดว่าคุณ999 ควรยกตัวอย่างให้เป็นรูปธรรมนิดนะครับ....จะได้พอมองกันออก
ว่าเราจะคุยกันไปในแนวใดได้  เพราะบางครั้งมันกว้างเกินไป...

ผมกำลังพยายามมองลึกลงไปถึงวิธีคิดของแขก ที่เชื่อมโยงให้เห็นสิ่งที่ปรากฎในอวัฒนธรรมแขก ส่งผลและมีอิทธิพลต่อสังคมไทยครับ
เช่น เพลงแขก หนังแขก การให้เหตุผล การปฏิบัติตัว การคิดให้เหตุและผลของแขก  วึ่งที่ยกตัวอย่างเรื่องกาลเวลาก็ต้องการให้เห็นว่า บางทีก็เป็นเช่นนั้นเอง
โดยที่เราไม่ทราบจุดตั้งต้นและจุดสิ้นสุด แบบที่จะว่ากันว่าตถตา คือจุดเริ่มต้นก็เป็นไปได้ครับ เราจึงหาเหตุตั้งต้นไม่ได้ได้แต่เชื่อมโยงอยู่บนกรอบของกาลเวลา...

ภาษิตไทย แบบแผลงๆก็คือ เห็นแขกกับงู ให้ตีแขกก่อน แต่ไทยก็รับ อวัฒนธรรมและวิธีคิดของแขกเข้ามาจำนวนมาก เป็นเหตุผลที่ไม่มีวันกระจ่างได้เพราะโยงใยไปไกลขนาดจับต้นชนปลายไม่ถูก ทางแก้ที่ดีคือการจัดลำดับให้ได้ครับ  :roll: :mozilla_cool: