ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

คือว่า อยากถามว่า ในรัฐบาลชุดนี้ ได้มีนโยบายเกี่ยวกับการศึกษาของไทยอย่างไรบ้างครับ

เพราะเท่าที่จำได้ รู้สึกว่าไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย

และพี่ๆคิดว่า นโยบายด้านการศึกษาของไทย สมควรเป็นไปแบบใดในอนาคตดีครับ

ในแผนพัฒน์9ที่ผ่านมา ได้วางแผนปฏิรูปการศึกษาไว้ แล้วรัฐบาลก็ทำผลงานออกมาได้อย่างที่เห็น
เรื่องการให้คะแนนคงแทบไม่ต้องบอก ส่วนแผน10ที่จะถึง - นั่นละครับ ถ้าอยากรู้ว่าต่อไปจะมีนโยบายอย่างไรไปในทางใด
ผมใคร่ขอเชิญให้สนใจต่อเนื้อหาและแนวทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ไม่ว่ารัฐบาไหนก็ต้องพยายามทำตามแผนพัฒน์ทั้งนั้นครับ ที่โฆษณาหาเสียงกันว่าจะทำโน่นทำนี่นะ
ขี้หกทั้งเพ ว่าคิดเองอะไรเอง กรอบและแนวทางมันก็มาจากแผนพัฒน์ฯทั้งนั้นแหละครับ

เค้ามี รมต ช่วยกี่คน อีกคน ขนาดจำชื่อไม่ได้เลยล่ะค่ะ
ไม่เคยเห็นผลงานเป็นเรื่องเป็นราว

สงสัยกระทรวงนี้ผลประโยชน์ไม่ค่อยมีมั้งเน๊าะ

ข่าวแต่ละกระทรวงที่ดังๆ มันจะดังเรื่องใต้โต๊ะ เรื่องจัดสรรงบประมาณทั้งนั้น

เต็ม 10 ให้ 2 แต้ม.  :mozilla_cool: :mozilla_cool: :mozilla_cool:

   ตราบใดที่  นโยบายการปฏิรูปการศึกษา ยังอิงผลประโยชน์ทางการเมือง
คงเกิดประสิทธิภาพ  เกิดผลสัมฤทธิ์กับผู้เรียนได้ยาก...  เพราะจุดยืนที่แท้จริง
จุดยืนขาดความจริงใจ  หวังผลทางเสียงคะแนน  หวังผลทางฐานเสียงของ
การเมืองมากเกินไป  เลยไปเน้น  ไปปรับ  ไปเอาใจ  ในโครงสร้างของการ
ปฏิรูปการศึกษามากเกินไป  นั่นก็คือ  มัวแต่ไปมุ่งมองแต่ที่  ตัวตำแหน่ง
การทำผลงาน  การได้มาซึ่งตำแหน่งของแต่ละฝ่ายที่ยืนอยู่บนฐานแห่งผล
ประโยชน์ของฐานเสียงทางการเมืองทั้งนั้น  รวมถึงเรื่องถ่ายโอนการศึกษา
กลับกลายเอาเป็นเรื่องใหญ่ของการปฏิรูปการศึกษา...  ซึ่งที่จริงแล้ว
การถ่ายโอนมิใช่หัวใจของการปฏิรูปการศึกษาเลย  เป็นหัวใจของฐานเสียง
คะแนนของนักการเมืองมากกว่า

.....หัวใจของการปฏิรูปการศึกษา  มันอยู่ที่ตรงนี้มากกว่า


   ทำอย่างไรให้ผู้เรียนที่มีความแตกต่างระหว่างบุคคล
ได้เรียนรู้  ได้ประสบผลสำเร็จในเรื่อง  การเป้นคนดี  คนเก่ง  และ
สามารถดำรงตนมีชีวิตในสังคมอย่างมีความสุข
 ไม่ทำความเดือดร้อนให้ตนเอง  และผู้อื่นในสังคม


...**  แล้วไงล่ะคะ  ที่ผ่านมาเอาจริงเรื่องนี้แล้วหรือยัง  ????....

เมื่อวานผมได้คุยกับพี่ที่รับราชการท่านนึง

ซึ่งท่านก็ได้หนีระบบทักษินโดยการยอมเออร์ลี่ฯ ออกมาน่ะครับ

เค้าได้บอกกับผมว่ารัฐบาลนี้ไม่เน้นเรื่องการศึกษา เพราะถ้าคนได้รับการศึกษาสูงแล้วจะปกครองยาก ซึ่งอย่างที่ทุกๆคนรู้กันว่า รัฐบาลนี้ไม่เคยส่งเสริมเรื่องการศึกษาให้เป็นชิ้นเป็นอันเลย

แล้วอย่างนี้ประเทศไทยจะเจริญได้อย่างไร

เหนื่อยใจจริงๆ :(

ถ้า A Tuky กล้าเถียง ตูจะตอบกลับง่าย ๆ ว่า สอนลูกเอ็งให้ไม่โกงแบบเอ็งให้ได้ก่อนเถอะ ค่อยมาคุยว่าจะพัฒนาการศึกษา  :mozilla_cool: :mozilla_cool: :mozilla_cool:

ยังสงสัยว่ามันจะยุบทบวงมหาวิทยาลัยไปรวมกับกระทรวงศึกษาทำไม ไปๆมาๆห่วยกว่าเดิมอีก

คือ มันไม่น่าจะทำได้ในเร็ววันหรอก
ดูการเปลี่ยนระบบสอบ O-NET A-NET
แบบกระทันหันยังเละ ต้นทางคนทำ software
ที่ว่าชัวร์ยังไม่รอด คนจัดสอบอยากให้เป็นอัตนัย
ตรวจง่ายโดยผ่านคอมพิวเตอร์ ลองอ่านลายมือ
วัยรุ่นที่สืบทอดมาจาก 20 ปีก่อน คอมพิวเตอร์
คงอ่านไม่ออกแค่เลข 1 กับเลข 7 ยังแยกยาก
สงสัยต้องติดหน้าห้องสอบว่าห้ามเขียนลายมือ
น่ารักน่ารักในกระดาษสอบ

ที่มาเละตอนนี้มันก็มาจากตอนโน้น ตอนโน้นก็มา
จากก่อนหน้าโน้น แล้วยังต้องแก้เรื่องครูอาจารย์
อีก เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับว่ายากมากไม่ว่าจะเป็น
รัฐบาลเทวดาไหนก็ตาม คนมาทำต้องเสียสละเต็ม
ที่เพราะเหมือนเอา profile ตัวเองมาทิ้ง

เอาไว้คอมพิวเตอร์ประมวลผลแบบมนุษย์ได้เมื่อไหร่ถึงค่อยใช้ตรวจอัตนัย

แค่เป็น OCR เอาเข้าเครื่องยังเน่าเลยครับ อย่างว่าวัยรุ่นกับกฎเกณฑ์มันตรงข้าม
เรื่องมหาวิทยาลัยเขาว่าจะเอาออกจากระบบ ทบวงเลยดูจะใหญ่ไปมั้งครับ

จริงๆเรื่องของการตรวจข้อสอบแบบเดิมมันก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ไม่รู้จะไปใช้ระบบใหม่เพื่ออะไร

และที่สำคัญการพัฒนาด้านการศึกษานั้น เท่าที่ผมเห็น เป็นการพัฒนาทางด้านคำพูดซะส่วนใหญ่ แล้วคุณก็อย่าไปว่าครูอาจารย์เค้า ท่านเหล่านั้นเป็นแพะทางความคิดของนักการเมือง (โดยเฉพาะยุคนี้)

ผมเคยคุยกับอาจารย์แต่ละที่ อาจารย์แต่ละท่านต่างเล่าให้ฟังเป็นเสียงเดียวกันว่า รัฐบาลนี้ ต้องการในเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เช่นอยากได้รายงานการเรียนการสอนบ่อยๆ แต่ก็ต้องการให้การเรียนการสอนเป็นไปอย่างสมบูรณ์ แล้วถามว่า ถ้าอาจารย์ต้องสอนอย่างสมบูรณ์ จะเอาเวลาไหนไปทำรายงานการเรียนการสอน แต่ถ้าเอาเวลาไปทำรายงานอย่างเดียว เดี๋ยวก็โดนผู้ใหญ่ในกระทรวงเพ่งเล็ง

เท่ากับว่านโยบายของพวกนั่งในหอคอยงาช้างเหล่านั้น ไม่สามารถเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ เพราะเล่นออกนโยบายโดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริง ใช่หรือไม่ครับ

คือ ตามหลักแล้วถ้าอาจารย์ผู้ตรวจข้อสอบอ่านลายมือไม่ออกหรือเพี้ยนเพราะความน่ารักเกินงามของตัวหนังสือ
ทำให้เกิดความผิดพลาดจากการตรวจสอบได้ หรือทำให้เกิดความเครียดในอารมณ์ของผู้ตรวจได้ การใช้ software
เพื่อให้แปลงเป็น file ในคอมพิวเตอร์เป็นความคิดที่หวังดี ผู้ตรวจจะได้อ่านจากตัวพิมพ์

ระบบเก่า ผ่านเ้ข้าคณะตูจัดการแป๊บเดียว ให้เด็กๆในศูนย์จัดการกันแบบสบายโคตร ใครอยากรู้ล่วงหน้าว่าติดอะไรส่งชื่อมาเลยดูได้ ระบบใหม่ดันหาเหาใส่หัวกันเอง ไม่มีความรู้สะเออะรีบทำ มาคราวนี้ฉลาดขึ้นมาติ๊ด ๆๆ  :mozilla_cool: :mozilla_cool: :mozilla_cool:

ปีแรกๆ เห็นมีแต่เปลี่ยน รมต ครับ

หลังๆ โผล่มาอีกที a-net o-net เลื่องลือ

รมต ไม่รับผิดชอบ ตามรอย นายก เปี๊ยบ

 :mozilla_tongue:

เชื่อแล้วล่ะ ว่า Killer เป็นพวก อ่านไม่ได้ศัพท์ แล้ว เสือกจับไปกระเดียด

แล้วก็กรุณาอ่านให้ชัดๆนะ ว่าผมเขียนว่าอะไร ตรวจข้อสอบนะเฟ้ย ไม่ใช่ ตรวจสอบระบบการศึกษา



อ่านชัดหรือยัง ไอ้ฟาย ผายลมออกมาได้  :evil:

 :cry:เรื่องนี้น่าจะสำคัญญที่สุดแล้วแต่ไม่ค่อยมีการพัฒนาอย่างจริงจัง :cry: