ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: นทร์ ที่ 10-08-2006, 22:01



หัวข้อ: แก้วสรร+นาม ติด 10 คนแรก (แค่เห็นชื่อกองเชียร์ก็ดิ้นแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 10-08-2006, 22:01
(http://www.komchadluek.net/2006/08/10/images/d_copy_copy2.jpg)
รูปจากคมชัดลึก

ศาลได้ตัว'10ว่าที่กกต.'
'วิชา-อุดม-แก้วสรร'เข้า
'อภิชาต-สมชัย'แหกโผ
'นาม'หืดจับเฉือนสวัสดิ์

ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาคัดเลือกแล้ว 10 ว่าที่กกต.สายผู้พิพากษา “วิชา-อุดม-วสันต์-สมชัย-อภิชาต” เข้าวิน รอบบ่าย “ประพันธ์-แก้วสรร-สดศรี-สุเมธ” ส่วน “นาม” หืดจับ เฉือน “สวัสดิ์” รอบสุดท้าย

วันที่ 10 ส.ค. 2549 เวลา 09.30 น.นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ประธานศาลฎีกา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ซึ่งมีผู้พิพากษาศาลฎีกา ร่วมประชุมกว่า 83 คน ประกอบด้วย รองประธานศาลฎีกา 3 คน, ประธานแผนกคดีต่าง ๆ ในศาลฎีกา, ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เพื่อสรรหาผู้สมควรเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จำนวน 10 คน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 138 (2) และ (3) โดยผู้พิพากษาศาลฎีกา 3 คน ประกอบด้วย นายนินนาท สาครรัตน์ ได้ลาป่วย เนื่องจากป่วยเป็นโรคหัวใจ, นายมนตรี ยอดปัญญา ได้ขอลากิจ และนายปราโมทย์ พิพัฒนปราโมทย์ ติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ

โดยการคัดเลือกรอบเช้า นายวิรัช ชินวินิจกุบล เลขาธิการศาลฎีกา แถลงว่า ที่ใหญ่ประชุมศาลฎีกาทั้ง 83 คน ได้ลงมติสรรหา ผู้สมควรเป็นกกต. ตามรัฐธรรมนูญ ม.138(2) โดยผู้ที่ผ่านการสรรหารผู้สมควรเป็นกกต.จำนวน 5 คน ได้แก่

1.นายวิชา มหาคุณ ประธานแผนก คดีเยาวชน และครอบครัวในศาลฎีกา ได้คะแนนสูงสุด 57 คะแนน
2.นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานแผนกคดีแรงงานในศาลฎีกา
3.นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฏีกา
4.นายอุดม เฟื่องฟุ้ง ผู้พิพากษา อาวุโสในศาลอาญากรุงเทพใต้
5.นายสมชัย จึงประเสริฐ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา

นายวิรัช กล่าวว่า การสรรหาผู้สมควรเป็นกกต.จำนวน 5 คน ตามรัฐธรรมนูญ ม. 138(2) ดังกล่าว ได้สรรหาจากผู้เสนอตัวสรรหาเป็น กกต. ตามมาตรา 138(2) จำนวน 34 คน

สำหรับบรรยากาศภายในประชุม ได้มีการจัดคูหา โดยการหันหลังเข้ากำแพง ทำให้ไม่สามารถมองเห็นการลงคะแนนของผู้พิพากษาเหล่านั้นได้ ในการให้ผู้พิพากษาลงคะแนน จะเชิญผู้พิพากษาให้ลงคะแนนทีละคณะ คณะละ 3 คน ซึ่งการลงคะแนนจะแจกบัตรลงคะแนนที่มีชื่อผู้ผ่านเกณฑ์สรรหาทั้ง 42 คน โดยไม่มีการระบุลำดับหมายเลข มีเพียงช่องให้ลงคะแนน แต่ไม่มีช่องโนโหวต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับในช่วงบ่ายเป็นการสรรหาตาม (3) อีก 5 คน ซึ่งแต่ละรอบจะมีการลงคะแนนไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง ในการสรรหาผู้มีคุณสมบัติเข้ามาเป็นกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาในช่วงบ่าย ขณะนี้เป็นการสรรหาในรอบที่ 6 และได้รายชื่อผู้ได้รับการคัดสรรแล้ว 4 คน ดังนี้

1.นายประพันธ์ นัยยะโกวิท รองอัยการสูงสุด ได้คะแนน 59 คะแนน
2.นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตส.ว.กทม.ได้ 55 คะแนน
3.นางสดศรี สัตยธรรม ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ได้ 50 คะแนน
4.นายสุเมธ อุปนิสากร ผู้พิพากษาอาวุโส ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้ 48 คะแนน

ทั้งนี้ อีกหนึ่งตำแหน่งเป็นการเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างนายนาม ยิ้มแย้ม อดีตรองประธานศาลฎีกา และที่ปรึกษา กกต.ชุดล่าสุดกับนายสวัสดิ์ โชติพานิช อดีตกกต.ชุดแรก ซึ่งล่าสุดปรากฏว่า นายนาม ยิ้มแย้ม เฉือนชนะนายสวัสดิ์ไปได้

http://www.thaiinsider.com/ShowNews.php?Link=News/Political/2006-08-10/13-34.htm


เห็น กองเชียร์ออกมาดิ้นไปดิ้นมากันใหญ่

ทองแท้ไม่แพ้ไฟ คนไม่ได้ทำผิด จะไปเกรงกลัวความยุติธรรมทำไม  :mozilla_cool:


หัวข้อ: Re: แก้วสรร+นาม ติด 10 คนแรก (แค่เห็นชื่อกองเชียร์ก็ดิ้นแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 10-08-2006, 22:21
ประวัติ 10 ผู้ได้รับการคัดเลือกให้มีความเหมาะสมเป็น กกต.

หมายเหตุ:เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ลงมติเห็นชอบคัดเลือกผู้สมควรเป็นคณะ กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 138(2) และ (3) จำนวน 10 คน ประกอบด้วยบุค คลดังต่อไปนี้ 

 
                                ผู้สมควรเป็นกรรมการการเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 138(2)

1.“นายวิชา มหาคุณ” : อายุ 60 ปี จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จบปริญญาโทนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจบปริญญาโทรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปัจจุ บันดำรงตำแหน่งประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกา ก่อนหน้านี้เคยเป็นประธานศาลอุทธรณ์ภาค 2 ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 1 นอกจากนั้นยังเป็นศาสตราจารย์พิเศษ คณะนิติศาสตร์ จุฬา ลงกรณ์มหาวิทยาลัย

                ในขณะที่ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาประจำกระทรวงยุติธรรม เมื่อปี 2519 เคยช่วยราชการเป็นเลขานุการส่วนตัวของนายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี ซึ่งขณะนั้นได้รับโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำ แหน่งนายกรัฐมนตรี ภายหลังนายธานินทร์ พ้นจากตำแหน่ง ได้กลับไปรับราชการเป็นผู้พิพากษาประ จำกระทรวงยุติธรรม ช่วยราชการศาลอุทธรณ์

                เมื่อครั้งเกิด “วิกฤติตุลาการ” ทำให้ถูกกล่าวหาว่าขัดคำสั่ง รมว.ยุติธรรม จนเป็นเหตุให้รัฐมน ตรีมีคำสั่งให้ออกจากราชการ แต่ในที่สุดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย ไม่ให้ออกจากราชการ พร้อมกับโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยถือเป็นบุค คลที่มีบทบาทในงานด้านสังคมเกี่ยวกับเรื่องเด็กและเยาวชน รวมทั้งเรื่องสิทธิมนุษยชน

2.“นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์” : อายุ 59 ปี จบการศึกษานิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปัจ จุบันดำรงตำแหน่งประธานแผนกคดีแรงงานฯในศาลฎีกา ก่อนหน้านี้เคยเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 7 ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 7 นอกจากนี้ยังเคยเป็นผู้พิพากษาเจ้า ของสำนวนและองค์คณะในคดีฟ้องเพิกถอนการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและสมาชิกสภาจังหวัดหลายครั้ง

                รวมทั้งเคยเป็นพยานจำเลยในคดีอาญาที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ฟ้องหมิ่นประมาท และ “น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ” ที่เขียนบทความดูหมิ่นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมากที่วินิจฉัยคดีให้ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” รักษาการนายกรัฐมนตรี พ้นผิดใน “คดีซุกหุ้น” โดยในการเบิกความนายวสันต์ ได้พาดพิงถึงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมากคนหนึ่งว่าได้มาพบเขาที่ศาลฎีกา เพื่อขอคำ ปรึกษาที่จะเขียนคำวินิจฉัยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีความผิดในคดีซุกหุ้น

                นอกจากนี้ในช่วง “วิกฤติตุลาการ” นายวสันต์ เป็นหนึ่งในผู้พิพากษา “กลุ่มยังเติร์ก” ที่ร่วมสนับสนุนนายประมาณ ชันซื่อ อดีตประธานศาลฎีกา ในการออกมาขับไล่นายประภาศน์ อวยชัย รมว.ยุติธรรม ในขณะนั้น โดยกล่าวหาว่านายประภาศน์ ซึ่งเป็นฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซงการแต่ง ตั้งโยกย้ายผู้พิพากษา

3.“นายอุดม เฟื่องฟุ้ง” : อายุ 67 ปี จบการศึกษานิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอาญากรุงเทพใต้ ก่อนหน้านี้เคยเป็นอธิบดีผู้พิพากษาศาลอุท ธรณ์ รองประธานศาลฎีกา อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง เคยเป็นกรรมการตุลาการ เลขาธิการสำนักธรรมศึกษากฎหมายแพ่ง เนติบัณฑิตยสภา และเคยช่วยงาน กกต. ในสมัยที่นายสวัสดิ์ โชติพานิช เป็น กกต.

                ทั้งนี้เมื่อ พ.ศ.2540 เคยแข่งชิงเก้าอี้ “ประธานศาลฎีกา” กับนายปิ่นทิพย์ สุจริตกุล แต่พ่ายแพ้ไปในที่สุด โดยนายอุดม ถือเป็นแกนนำในสายนายประมาณ ชันซื่อ อดีตประธานศาลฎีกา นอกจาก นั้นเขายังถือเป็นหนึ่งในผู้พิพากษา “กลุ่มยังเติร์ก” ในช่วง “วิกฤติตุลาการ”  เช่นเดียวกับนายวสันต์ ด้วย โดยเคยถูกตั้งกรรมการสอบสวนจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ต่อมากรรมการตุลาการได้มีมติว่าเป็นการสอบสวนโดยมิชอบและเพิกถอนการสอบสวนดังกล่าว

4.“นายอภิชาต สุขัคคานนท์” : อายุ 60 ปี จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกา ก่อนหน้านี้เคยเป็นประธานศาลอุท ธรณ์ภาค 9 ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ผู้พิพากษาศาลฎีกา ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล จ.สงขลา อธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 และอธิบดีผู้พิพากษาภาค 2

5.“นายสมชัย จึงประเสริฐ” : อายุ 59 ปี จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจบเนติบัณฑิตไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ก่อนหน้านี้เคยเป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา ผู้พิพากษาหัวหน้าแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ในศาลอุทธรณ์ภาค 3 อธิบดีผู้พิ พากษาภาค 7 และอธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งเป็นอย่างดี เคยพิจารณาคดีเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา มาหลายคดี

                                ผู้สมควรเป็นกรรมการการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 138(3)

6. “นายประพันธ์ นัยโกวิท” : อายุ 59ปี จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจบเนติบัณฑิตไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองอัยการสูงสุด ก่อนหน้านี้เคยเป็นอธิบดีอัยการฝ่ายคณะ กรรมการอัยการ(ก.อ.) อธิบดีอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร อธิบดีอัยการฝ่ายคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ เคยเป็นกรรมการเนติบัณฑิตยสภา กรรมการกฤษฎีกา กรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ฯลฯ นอกจากนั้นยังมีตำแหน่งในองค์กรที่ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งหาผลกำไร คือ เป็นกรรมการบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) บริษัทไทยออยล์ จำกัด(มหาชน) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย

                ขณะที่เขาดำรงตำแหน่งอธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ เคยรับผิดชอบคดีสำคัญ อาทิ “ค่าโง่ทางด่วน 6,400 ล้านบาท” ด้วย นอกจากนี้ยังเคยเข้าชิงเก้าอี้ “อัยการสูงสุด” ในการโยกย้ายเมื่อปี 2548 แต่พลาดให้กับนายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุด คนปัจจุบัน เขาเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับในหมู่อัยการว่าเป็นคน “ตงฉิน” คนหนึ่ง

7.“นายแก้วสรร อติโพธิ” : อายุ 55ปี จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจบเนติบัณฑิตไทย ก่อนหน้านี้เคยเป็นอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รองอธิ การบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2539 ก่อนจะลาออกจากตำแหน่งรัก ษาการสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2549 เพื่อลงสมัครเป็น กกต.

                นายแก้วสรร ได้ชื่อว่าเป็น ส.ว.อิสระ ที่ไม่ขึ้นกับรัฐบาล โดยออกมาโจมตี “รัฐบาลทักษิณ” ในหลายๆครั้ง ล่าสุดเป็นผู้จัดทำเอกสาร “ชำแหละทักษิณ” จนถูกตำรวจสันติบาลสั่งจับและเก็บไม่ให้มีการเผยแพร่ ในด้านความสัมพันธ์ทางการเมืองนั้นนายขวัญสรวง อติโพธิ น้องชายฝาแฝด เพิ่งได้รับเลือกเป็น ส.ว.กรุงเทพฯ

8.“นางสดศรี สัตยธรรม”: อายุ 60 ปี จบการศึกษานิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา

                ก่อนหน้านี้เคยเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลอุทธรณ์ภาค 9 ผู้พิพากษาศาลฎีกา ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ผู้พิพากษาพิจารณาคดีชำนัญพิเศษแผนกคดีปกครองของศาลฎีกา นอกจากนี้เคยได้รับการแต่งตั้งจากประธานศาลฎีกา ให้เป็นผู้พิพากษาพิจารณาคดีตามข้อตกลงเกี่ยวกับการพิจารณาและวินิจฉัยสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. ใน พ.ศ.2547 และ พ.ศ.2549

9.“นายสุเมธ อุปนิสากร” : อายุ 68 ปี จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปัจจุ บันดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโสประจำศาลอาญากรุงเทพใต้ ก่อนหน้านี้เคยเป็นอธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งธนบุรี ผู้พิพากษาหัวหน้าแผนกทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศในศาลฎีกา และเป็นอธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 เป็นตำแหน่งสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการใน พ.ศ.2542

10.“นายนาม ยิ้มแย้ม” : อายุ 70 ปี จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจบเนติบัณฑิตไทย เคยเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา พนักงานอัยการ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดอุ บลราชธานี ผู้พิพากษาศาลแพ่ง ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา ฯลฯ

                ก่อนเข้ามาเป็นที่ปรึกษาของ กกต.ในยุคของ “พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ” โดยทำหน้าที่เป็นอนุกรรมการในการพิจารณาเรื่องร้องเรียนคัดค้านต่างๆ แต่มาเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก เพราะถูกตั้งเป็น ประธานอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนกรณีพรรคไทยรักไทยจ้างพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง และตัดสินให้ “พรรคไทยรักไทย” เป็นผู้ผิด ทั้งๆที่ต้องขัดแย้งกับกรรมการ กกต. แต่ “นาม” ก็ยืนยันที่จะชี้ผลการสอบสวนตามข้อมูลที่ปรากฏ

http://www.naewna.com/news.asp?ID=20682


หัวข้อ: Re: แก้วสรร+นาม ติด 10 คนแรก (แค่เห็นชื่อกองเชียร์ก็ดิ้นแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Suraphan07 ที่ 10-08-2006, 22:24
"สวรรค์มีตา ฟ้ามีใจ"  


ผมยังเชื่อเช่นนั้น... :roll:

และหวังว่าท่าน รักษาการ สว.จะทำคุณให้กับประเทศชาติ
ถ่ายบาปเรื่องที่เคยทำในอดีต เพื่อรักษาชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล
ก่อนจะล่ะ อำลาจากตำแหน่ง...
เลิกตีรวนในเรื่องที่ไม่สมควรเสียเถิด...

ใครเป็นผู้ที่รู้  ตื้น-ลึก-หนา-บาง ของอดีตมากที่สุด
ผู้นั้น ควรเข้ามามีส่วนร่วมในการสะสาง...


หัวข้อ: "นาม"บอกถ้าได้รับเลือกเป็น กกต.จะย้าย กกต.จังหวัดยกชุด (ตรงเป้าเข้าประเด็น)
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 10-08-2006, 22:26
"นาม"บอกถ้าได้รับเลือกเป็น กกต.จะย้าย กกต.จังหวัดยกชุด 

21:50 น.  นายนาม ยิ้มแย้ม อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกา และประธานอนุกรรมการสอบสวนคดีพรรคไทยรักไทยจ้างวานพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง ที่เสนอให้ยุบพรรคไทยรักไทย เปิดใจต่อเครือเนชั่น กรณีได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เป็น 1 ใน 10 ผู้สมควรเป็นกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ว่า อาจเป็นทุกขลาภ และคงทำให้มีความทุกข์มากเพิ่มขึ้นมากกว่า แต่ต้องขอขอบคุณที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ที่มอบความไว้วางใจให้ เพราะตอนที่ลงสมัคร ไม่คาดคิดว่าจะได้รับเลือก แต่ผู้พิพากษาศาลฎีกาหลายคนบอกว่า ขอให้ทำงานเพื่อบ้านเมือง หากได้รับเลือกจากวุฒิสภา ให้เป็น กกต.จริง ก็พร้อมจะทำงานเต็มที่ แต่รู้สึกหนักใจ เพราะสังคมคาดหวังกับ กกต.ชุดใหม่มาก ขณะที่มีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาการทำงานที่สั้น เพราะเมื่อเข้าทำงานแล้วก็ต้องไปดูแลการเลือกตั้งทันที

นายนาม ยิ้มแย้ม กล่าวต่อว่า ข้อกังวลใหญ่ของ กกต.ชุดใหม่ คือ ไม่รู้ว่าการบริหารจัดการภายในสำนักงาน กกต.เป็นอย่างไร โดยเฉพาะการวางตัวบุคคลและเจ้าหน้าที่ ที่จะดูแลการเลือกตั้งทั่วประเทศ ไม่รู้ว่ามีการวางเส้นสนกลในไว้อย่างไร ดังนั้น อันดับแรกคงต้องไปดูเรื่องบุคลากร ซึ่งต้องเปลี่ยนแปลง กกต.จังหวัด
 
http://203.154.97.19/citizen_report/breaking/read.php?lang=T&newsid=208600

ตรงเป้าเข้าประเด็น


หัวข้อ: Re: แก้วสรร+นาม ติด 10 คนแรก (แค่เห็นชื่อกองเชียร์ก็ดิ้นแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 10-08-2006, 22:28

ชื่อของท่านทั้งหลาย ต้องถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์หน้านี้ของประเทศไทยอย่างแน่นอน ....

ประวัติศาสตร์จารึก ไว้แล้วครับ


หัวข้อ: Re: แก้วสรร+นาม ติด 10 คนแรก (แค่เห็นชื่อกองเชียร์ก็ดิ้นแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 10-08-2006, 22:28
เห็น กองเชียร์ออกมาดิ้นไปดิ้นมากันใหญ่

ทองแท้ไม่แพ้ไฟ คนไม่ได้ทำผิด จะไปเกรงกลัวความยุติธรรมทำไม
..... :?:



กองเชียร์ของใคร :?:


หัวข้อ: Re: แก้วสรร+นาม ติด 10 คนแรก (แค่เห็นชื่อกองเชียร์ก็ดิ้นแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 10-08-2006, 22:33
เห็น กองเชียร์ออกมาดิ้นไปดิ้นมากันใหญ่

ทองแท้ไม่แพ้ไฟ คนไม่ได้ทำผิด จะไปเกรงกลัวความยุติธรรมทำไม
..... :?:



กองเชียร์ของใคร :?:

ตะกี้ลองกด web รดน ฉลองศาลกันใหญ่ตอนนี้  :evil:


หัวข้อ: Re: แก้วสรร+นาม ติด 10 คนแรก (แค่เห็นชื่อกองเชียร์ก็ดิ้นแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: AsianNeocon ที่ 10-08-2006, 22:49
ในเว็บบอร์ดกรุงเทพธุรกิจ มีคนชื่อ Sam มีพฤติการณ์จาบจ้วงต่อเนื่อง ใครช่วยไปดูทีครับ แล้วดูกระทู้ย้อนหลังไปของคนๆนี้ด้วย จะให้พันธมิตรรับรู้และจัดการได้ยังไง
http://webboard.nationgroup.com/swb/list.php?rid=6 (http://webboard.nationgroup.com/swb/list.php?rid=6)


หัวข้อ: Re: แก้วสรร+นาม ติด 10 คนแรก (แค่เห็นชื่อกองเชียร์ก็ดิ้นแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: นู๋เจ๋ง ที่ 10-08-2006, 23:14
เว็บเราก็ฉลอง กันมั่งจิ

โย่ว

รู้สึกดี สะ สะ ใจ ไงม่ะรุ

ฮูเร


หัวข้อ: Re: แก้วสรร+นาม ติด 10 คนแรก (แค่เห็นชื่อกองเชียร์ก็ดิ้นแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: RiDKuN ที่ 11-08-2006, 01:20
อ่านดูประวัติทั้ง 10 คนแล้ว เจ็บหัวใจแทนพวกที่เชียร์ทักษิณจริงๆ ครับ 
มันบีบคั้นหัวใจเหลือเกิน :mozilla_laughing:


หัวข้อ: Re: แก้วสรร+นาม ติด 10 คนแรก (แค่เห็นชื่อกองเชียร์ก็ดิ้นแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: นายเบียร์ ที่ 11-08-2006, 01:34
งานนี้ถือว่า เจอของแข็งครับ เหอๆๆ :wink:


หัวข้อ: Re: แก้วสรร+นาม ติด 10 คนแรก (แค่เห็นชื่อกองเชียร์ก็ดิ้นแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: วินท์ ที่ 11-08-2006, 08:49
อจ.แก้วสรรน่ะ จะว่าแกไม่เป็นกลางก็ไม่ใช่หรอก แกแค่ไม่ชอบคนชั่ว คนทำผิด
จะบอกว่าแกเป็นพวก ปชป. น่ะ ไม่ใช่แน่นอน

ส่วน คุณนามน่ะ น่าเห็นใจที่สุด ที่แกถูกกล่าวหาว่าไม่เป็นกลาง เพราะพวกที่
ไม่พอใจที่แกลงความเห็นว่าควรยุบพรรค ทรท. ก็แกทำหน้าที่ อนุ กกต.นี่หว่า
กกต.ส่งเรื่องไปให้พิจารณา ในเมื่อแกเห็นว่าผิด ก็ว่าผิดน่ะสิ ไมเห็นว่าไม่เป็นกลางตรงไหน
ตรงข้าม ผมว่าคุณนามเป็นคนกล้าด้วยซ้ำ ขณะที่ใครๆกลัวไอ้เหลี่ยม แกก็ไม่กลัว
หาไม่ค่อยได้หรอกยุคนี้...


หัวข้อ: Re: แก้วสรร+นาม ติด 10 คนแรก (แค่เห็นชื่อกองเชียร์ก็ดิ้นแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 11-08-2006, 09:09
อ่านดูประวัติทั้ง 10 คนแล้ว เจ็บหัวใจแทนพวกที่เชียร์ทักษิณจริงๆ ครับ 
มันบีบคั้นหัวใจเหลือเกิน :mozilla_laughing:

อ.แก้วสรร ให้สัมภาษณ์เมื่อวาน บอกแต่ละคนที่ศาลเลือกมา

"มือหนักๆทั้งนั้น"

 :wink:  :mrgreen:


หัวข้อ: Re: แก้วสรร+นาม ติด 10 คนแรก (แค่เห็นชื่อกองเชียร์ก็ดิ้นแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: ThailandReport ที่ 11-08-2006, 09:29
อ่านดูประวัติทั้ง 10 คนแล้ว เจ็บหัวใจแทนพวกที่เชียร์ทักษิณจริงๆ ครับ 
มันบีบคั้นหัวใจเหลือเกิน :mozilla_laughing:

อ.แก้วสรร ให้สัมภาษณ์เมื่อวาน บอกแต่ละคนที่ศาลเลือกมา

 "มือหนักๆทั้งนั้น"  

 :wink:  :mrgreen:


ถ้าได้แบบที่ อ.แก้วสรรว่าจริงๆ ก็วางใจละคับว่า

พอคัดเหลือ....5 ใน 10 ส่งไป แข่ง "ตบ" ลูกในสนามได้

 :mrgreen: :lol:


หัวข้อ: Re: แก้วสรร+นาม ติด 10 คนแรก (แค่เห็นชื่อกองเชียร์ก็ดิ้นแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 11-08-2006, 09:51
ป่านนี้ ไทยรักไทยคงพยายามเจาะข้อมูลหาจุดอ่อนของสิบท่านนี้ ว่าใครจะสามารถเจาะเข้าได้ตรงไหนบ้าง  ขอเพียงหนึ่งเดียว ก็จะแทรกแซงการปฎิบัติงานของ กกต.ชุดใหม่ได้

น้ำเสียเพียงส่วนเดียวที่ปนอยู่ในน้ำดีอีกสี่ส่วน สามารถทำให้น้ำทั้งหมดกลายเป็นน้ำเสียได้ (โปรดอย่าไปหลงเชื่อทฎษฏีเอาน้ำดีไปปนน้ำเสีย ของนักวิชาการที่ไร้เดียงสานะคะ) และน้ำทั้งหมดก็จะมีภาพรวมเป็นน้ำเสียไปด้วย ดังโคลงโลกนิติที่ว่า

๏ ปลาร้าพันห่อด้วย  ใบคา
ใบก็เหม็นคาวปลา   คละคลุ้ง
คือคนหมู่ไปหา   คบเพื่อน พาลนา
ได้แต่ร้ายร้ายฟุ้ง  เฟื่องให้เสียพงศ์๚ะ๛

และแน่นอนยิ่งกว่าฟันธงว่า สองในสิบนั้นถูกบล็อกโหวตไม่ให้ได้รับเลือกแน่นอน คือ ท่านนาม และ อ.แก้วสรร คอบดูคะแนนเสียงวุฒิได้ค่ะ


หัวข้อ: Re: แก้วสรร+นาม ติด 10 คนแรก (แค่เห็นชื่อกองเชียร์ก็ดิ้นแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 11-08-2006, 10:01
ป่านนี้ ไทยรักไทยคงพยายามเจาะข้อมูลหาจุดอ่อนของสิบท่านนี้ ว่าใครจะสามารถเจาะเข้าได้ตรงไหนบ้าง  ขอเพียงหนึ่งเดียว ก็จะแทรกแซงการปฎิบัติงานของ กกต.ชุดใหม่ได้

น้ำเสียเพียงส่วนเดียวที่ปนอยู่ในน้ำดีอีกสี่ส่วน สามารถทำให้น้ำทั้งหมดกลายเป็นน้ำเสียได้ (โปรดอย่าไปหลงเชื่อทฎษฏีเอาน้ำดีไปปนน้ำเสีย ของนักวิชาการที่ไร้เดียงสานะคะ) และน้ำทั้งหมดก็จะมีภาพรวมเป็นน้ำเสียไปด้วย ดังโคลงโลกนิติที่ว่า

๏ ปลาร้าพันห่อด้วย  ใบคา
ใบก็เหม็นคาวปลา   คละคลุ้ง
คือคนหมู่ไปหา   คบเพื่อน พาลนา
ได้แต่ร้ายร้ายฟุ้ง  เฟื่องให้เสียพงศ์๚ะ๛

และแน่นอนยิ่งกว่าฟันธงว่า สองในสิบนั้นถูกบล็อกโหวตไม่ให้ได้รับเลือกแน่นอน คือ ท่านนาม และ อ.แก้วสรร คอบดูคะแนนเสียงวุฒิได้ค่ะ

ทรท ทำทุกวิถีทาง เพื่อจัดการเรื่องนี้อยู่แล้วครับ

คอยดูการเลือกของวุฒิสภา อีกที ว่าจะมีลูกเล่นแบบไหน



หัวข้อ: Re: แก้วสรร+นาม ติด 10 คนแรก (แค่เห็นชื่อกองเชียร์ก็ดิ้นแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: varada ที่ 11-08-2006, 10:37
ในเว็บบอร์ดกรุงเทพธุรกิจ มีคนชื่อ Sam มีพฤติการณ์จาบจ้วงต่อเนื่อง ใครช่วยไปดูทีครับ แล้วดูกระทู้ย้อนหลังไปของคนๆนี้ด้วย จะให้พันธมิตรรับรู้และจัดการได้ยังไง
http://webboard.nationgroup.com/swb/list.php?rid=6 (http://webboard.nationgroup.com/swb/list.php?rid=6)
ตามไปหยอดไว้สองกระทู้(ไว้ถ้ามีเวลาจะเข้าไปอีก)
นี่แหล่ะที่ดิฉันเคยบอกไว้ที่กระทู้นี้
http://forum.serithai.net/index.php?topic=5357.msg77149#msg77149
ว่าพวกเขากระจายคนไปตามที่ต่างๆแล้ว
แล้วพวกเราหล่ะ จะอยู่แต่ในถ้ำเหรอ


หัวข้อ: Re: แก้วสรร+นาม ติด 10 คนแรก (แค่เห็นชื่อกองเชียร์ก็ดิ้นแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: O_envi ที่ 11-08-2006, 12:28
อ.เจิมศักดิ์บอกมี 2-3 คนที่น่าห่วงอยากรู้ว่าคือใครครับ
ผมว่าศาลหาได้ยังไงก็ไม่ร้อยเปอร์เซนต์หรอกครับ
อีกอย่างคนเวลามันมีอำนาจมันเปลี่ยนกันได้