หัวข้อ: หยุดโกหกประชาชน (การเศรษฐกิจ) เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 04-08-2006, 16:27 วันพฤหัสบดีที่ 03 สิงหาคม พ.ศ.2549
ความจริงทางเศรษฐกิจ กับถ้อยแถลงและคำชี้แจงของหน่วยงานภาครัฐ ดูจะเดินสวนทางกันถึงขั้นอาจกล่าวได้ว่าหน่วยงานภาครัฐชอบกล่าวเท็จหลอกลวงชาวบ้าน รูปธรรมที่สะท้อนความเป็นจริงทางเศรษฐกิจให้เป็นที่ประจักษ์ สามารถสัมผัสรับรู้ได้ชัดเจนจากฐานะประกอบการของภาคธุรกิจส่วนใหญ่ของประเทศ ที่ย่อบแย่บย่ำแย่ลงในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา รายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ยอมรับให้เป็นกิจการที่ครอบครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในระบบเศรษฐกิจ ล้วนชี้ชัดถึงความซูบซีดลงจนน่าเป็นห่วง กิจการธนาคารพาณิชย์ โดยส่วนใหญ่ ต่างก็ยอมจำนนต่อชะตากรรมของเศรษฐกิจ ถึงขั้นต้องปรับเป้าหมายการขยายตัวของสินเชื่อ เพื่อความปลอดภัยของกิจการกันโดยทั่วหน้า ตัวเลขเป้าหมายสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ ที่ถูกปรับลดลงและเป็นที่เปิดเผยออกมาอย่างแจ้งชัดแล้วคือสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ แนวโน้มการขยายตัวของสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในรอบปี 2549 นี้ จะถูกกดดันจากปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจให้มีการขยายตัวในอัตราที่ชลอตัวลงอย่างรุนแรง เมื่อเทียบกับปี 2548 โดยลดระดับอัตราการขยายตัวลงจากร้อยละ 15 ในปี 2548 มาเหลือไม่เกินร้อยละ 8 ในปีนี้ หรือเท่ากับการเติบโตของสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์หายไปเกือบร้อยละ 50 หันไปดูที่ภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ ก็ชัดเจนว่าตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ในขวบปีนี้จะไม่สวยสดงดงามอย่างที่เคยวาดฝันเอาไว้ ในทางตรงกันข้าม กระทรวงการคลังกลับยืนยันความสดใสของเศรษฐกิจในระยะ 2 ไตรมาสแรกของปีนี้ โดยระบุว่ามีอัตราการขยายตัวโดยเฉลี่ยร้อยละ 5-6 พร้อมกับแสดงความมั่นใจในอนาคตการเติบโตของเศรษฐกิจปี 2550 ด้วยว่าน่าจะเติบโตได้ในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 6 คำยืนยัน หรือความคาดหมายของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับสุขภาพเศรษฐกิจ ดูจะย้อนศรสวนทางความจริงอย่างน่าเป็นห่วง หากใครหลงเชื่อเป็นตุเป็นตะตามกระทรวงการคลัง และรู้ไม่เท่าทันความจริงที่กำลังเป็นไปทางเศรษฐกิจ แล้วหลวมตัวนำข้อมูลของกระทรวงการคลังไปประกอบการวางแผนทำมาหากิน จะมีโอกาสได้รับความเสียหายอย่างมาก เบื้องลึกที่ซ่อนอยู่ภายใต้ "การยอวาทีเศรษฐกิจ" ของกระทรวงการคลัง มิได้มีคำเฉลยให้เป็นที่ชัดเจนเลยว่าอะไรคือปัจจัยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้อ้วนท้วนบริบูรณ์ มีอัตราการเติบโตมโหฬารระดับร้อย 5-6 ในเมื่อตัวเลขกำลังซื้อภาคประชาชน และตัวเลขการลงทุน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในสมการชี้วัดความมั่นคงแข็งแรงของเศรษฐกิจ ล้วนแล้วแต่อ่อนเปลี้ยพอกัน หยุดทำบาปกับชาวบ้าน หยุดแหกตาชาวบ้านซะทีเถอะนะ คิดซะว่าเห็นแก่ชาวบ้านตาดำๆก็แล้วกัน ! http://www.siamturakij.com/book/index.php?option=com_content&task=view&id=6567 :shock: :shock: :shock: หัวข้อ: Re: หยุดโกหกประชาชน (การเศรษฐกิจ) เริ่มหัวข้อโดย: AsianNeocon ที่ 04-08-2006, 18:25 ความเห็นผมคือ ไหนๆก็ไหนๆ เราไม่สามารถเปลี่ยนความคิดอ่านของคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ไปได้ ปล่อยให้เศรษฐกิจมันแตกสลายไปเลยดีกว่า แล้วมาเก็บซากกันใหม่ (แปลงวิกฤตเป็นโอกาส) ถือหลัก "ใครโง่ ก็จงรับกรรมกันไป" ช่วยไม่ได้
รถเบรกแตกแล้ว และกำลังไหลลงเขาด้วยความเร็ว ข้างหน้ามีทางโค้ง แหกโค้งไปคือเหว เตือนผู้โดยสารก็เตือนแล้ว แต่มันไม่รู้สึกตัว แล้วคุณจะเลือกอะไร ระหว่าง ก) ลงเหวไปกับผู้โดยสารที่เขาไม่ฟังคุณเตือนเลยแถมยังมาด่าเราอีก(ได้ประโยชน์อะไร) กับ ข) โดดเอาตัวรอดก่อน แล้วค่อยมาเก็บศพกับซากรถกันใหม่??? หัวข้อ: Re: หยุดโกหกประชาชน (การเศรษฐกิจ) เริ่มหัวข้อโดย: ธ.ส. ที่ 04-08-2006, 18:33 ครับ ถ้าหลายๆคนในประเทศไทยยังไม่เลิกเชื่อรายการโหกที่ยังไกดูว่าโกหกทุกเช้าวันเสาร์ เราได้ดิ่งเหวกันแน่ๆครับ รายการนี้ฟังได้นะครับ
แต่อย่าเผลอเอาสมองคิดเชียวนะครับ เดี๋ยวจะดูถูกหัวแม้เท้าของคุณเอง เพราะดูยังไงก็โกหกวันยังค่ำ หัวข้อ: Re: หยุดโกหกประชาชน (การเศรษฐกิจ) เริ่มหัวข้อโดย: จูล่ง_j ที่ 04-08-2006, 18:45 รายการทีวี ก็เข้าข้างรัฐบาลทั้งนั้น ไม่งั้นก็โดนยุบรายการ
ไอทีวี กับ ช่อง 11 นี่ ตัวดี ชอบเอาคนของรัฐบาลมาออกรายการ โม้ข้างเดียวไปเรื่อย หัวข้อ: Re: หยุดโกหกประชาชน (การเศรษฐกิจ) เริ่มหัวข้อโดย: maniac ที่ 04-08-2006, 19:28 ก็คนทำมันอยากโดดสิบล้ออยู๋รอมร่อ ถ้ามีโอกาสโดด แต่ผมเลือกโดดสิบล้อหนีอยู่แล้วทุกวันนี้ก็ไม่มีหนี้ มีหนี้แค่เครดิตสินค้ามาขายเท่านั้น
ก็ประหยัดๆไป ไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว แต่จะฟุ่มเฟือยไม่ได้ เพราะรายได้คงลดลง เพราะคนไม่ค่อยจะจับจ่ายซื้อของมากนักถ้าเศรษฐกิจไม่ดี ในร้านนี่เห็นชัดเลยว่าของเล่นเด็กขายไม่ดีเลยช่วง หลายเดือนมานี้ เพราะคนคงลดการใช้เงินลง ตอนนี้ขายเสื้อ เหลืองเสื้อฟ้า เ็ป็นรายได้เสริม ก็พอจะมีกำไรอยู่บ้าง ส่วนอย่างอื่นก็เรื่อยๆไม่ดีนัก แต่หวย กับหวยบนดิน นี่แล้วแต่งวด ถ้าพักไหนมีเลขดังหน่อยจะหมดเร็ว อีกอย่างหวยรัฐบาลเน่ามานานตั้งแต่มีบนดิน ทำยี่ปั้วขัดทุนไปหลายล้าน หรือหลายสิบล้าน หรือเจ้าใหญ่หน้ากองอาจจะหลักพันล้าน แต่ 5 รายนั้น ได้กำไรตอนหวยรัฐบาลยังราคาดีอยู่ ใครสงสัยเรื่องหวยแพงทำไมไม่ 80 ถามได้ เพราะเขาซื้อมาก็เกิน 80 แล้ว ยี่ปั้วใหญ่มีโควต้าอยู่ คนละเป็นหมื่นเล่มขึ้น ได้มาเพราะไปผูกโควต้าไว้ คนพิการบ้างที่อยากได้เงินก้อน ก็เอาเงินไปส่วนหวยให้ยี่ปั้วไป ตอนได้กำไร ก็ได้กันเนื้อๆ เล่มละหลายร้อยอยู่ ยี่ปั้วใหญ่ งวดหนึ่ง ได้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้าน เดือนละ 600 ล้าน ขนาดยัยเจ้ข้างบ้างผมมีโควต้า ไม่กี่ร้อยเล่ม ยังมีเงินในธนาคารเป็นร้อยล้าน เหอๆๆ เจ้บอกถ้ามันไม่เน่า ทะลุสองร้อยล้านไปแล้ว แต่พอมันเน่า ก็เจ้งกันไ่ม่น้อย แล้วแต่ใครมีหวยในมือแค่ไหน กี่เล่ม ขนาดหลักร้อยเล่ม ยังเจ้งกันเป็นสิบๆล้าน แต่พวกยี่ปั้วหน้ากอง มันเป็นเสือนอนกินกันมาหลายปีแล้วไม่สะเทือนหรอก มีเงินเผลอๆน้องๆเหลี่ยม หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ไม่อยากจะจินตนาการ ถึงหลักในบัญชีพวกนี้ เลยละ 10 ปี กำไรเดือนละ 600 ล้าน ปีละหกพันกว่าล้าน แต่ขายมานานกว่านั้นตั้งแต่สมัยหวยยังไม่ใบละ 80อีกเพราะตั้งแต่แม่ผมขายหวย ผมยังเด็กๆ อยู่เลย ยัยนี่เป็นยี่ปั้วมาตั้งแต่ตอนนั้น ผมว่าคนรวยกว่าเหลี่ยมเพราะซิกแซก และใต้โต๊ะ ยังมีนะครับ แต่ไม่ออกหน้าเท่านั้น ถามว่ายี่ปั้วพวกนี้ แค้นเหลี่ยมไหม ผมว่าแค้นแน่นอน เพราะมาตัดรายได้กันเห็นๆ บางคนไม่รู้ว่าวงการนี้ เงินมันไม่น้อยหน้าใคร หัวข้อ: Re: หยุดโกหกประชาชน (การเศรษฐกิจ) เริ่มหัวข้อโดย: ชอบแถ ที่ 04-08-2006, 21:44 ก็คนทำมันอยากโดดสิบล้ออยู๋รอมร่อ ถ้ามีโอกาสโดด แต่ผมเลือกโดดสิบล้อหนีอยู่แล้วทุกวันนี้ก็ไม่มีหนี้ มีหนี้แค่เครดิตสินค้ามาขายเท่านั้น เป็นความรู้ดีครับ นานนานจะมีคน post เรื่องเฉพาะกลุ่มแบบนี้ หาข้อมูลยากครับก็ประหยัดๆไป ไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว แต่จะฟุ่มเฟือยไม่ได้ เพราะรายได้คงลดลง เพราะคนไม่ค่อยจะจับจ่ายซื้อของมากนักถ้าเศรษฐกิจไม่ดี ในร้านนี่เห็นชัดเลยว่าของเล่นเด็กขายไม่ดีเลยช่วง หลายเดือนมานี้ เพราะคนคงลดการใช้เงินลง ตอนนี้ขายเสื้อ เหลืองเสื้อฟ้า เ็ป็นรายได้เสริม ก็พอจะมีกำไรอยู่บ้าง ส่วนอย่างอื่นก็เรื่อยๆไม่ดีนัก แต่หวย กับหวยบนดิน นี่แล้วแต่งวด ถ้าพักไหนมีเลขดังหน่อยจะหมดเร็ว อีกอย่างหวยรัฐบาลเน่ามานานตั้งแต่มีบนดิน ทำยี่ปั้วขัดทุนไปหลายล้าน หรือหลายสิบล้าน หรือเจ้าใหญ่หน้ากองอาจจะหลักพันล้าน แต่ 5 รายนั้น ได้กำไรตอนหวยรัฐบาลยังราคาดีอยู่ ใครสงสัยเรื่องหวยแพงทำไมไม่ 80 ถามได้ เพราะเขาซื้อมาก็เกิน 80 แล้ว ยี่ปั้วใหญ่มีโควต้าอยู่ คนละเป็นหมื่นเล่มขึ้น ได้มาเพราะไปผูกโควต้าไว้ คนพิการบ้างที่อยากได้เงินก้อน ก็เอาเงินไปส่วนหวยให้ยี่ปั้วไป ตอนได้กำไร ก็ได้กันเนื้อๆ เล่มละหลายร้อยอยู่ ยี่ปั้วใหญ่ งวดหนึ่ง ได้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้าน เดือนละ 600 ล้าน ขนาดยัยเจ้ข้างบ้างผมมีโควต้า ไม่กี่ร้อยเล่ม ยังมีเงินในธนาคารเป็นร้อยล้าน เหอๆๆ เจ้บอกถ้ามันไม่เน่า ทะลุสองร้อยล้านไปแล้ว แต่พอมันเน่า ก็เจ้งกันไ่ม่น้อย แล้วแต่ใครมีหวยในมือแค่ไหน กี่เล่ม ขนาดหลักร้อยเล่ม ยังเจ้งกันเป็นสิบๆล้าน แต่พวกยี่ปั้วหน้ากอง มันเป็นเสือนอนกินกันมาหลายปีแล้วไม่สะเทือนหรอก มีเงินเผลอๆน้องๆเหลี่ยม หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ไม่อยากจะจินตนาการ ถึงหลักในบัญชีพวกนี้ เลยละ 10 ปี กำไรเดือนละ 600 ล้าน ปีละหกพันกว่าล้าน แต่ขายมานานกว่านั้นตั้งแต่สมัยหวยยังไม่ใบละ 80อีกเพราะตั้งแต่แม่ผมขายหวย ผมยังเด็กๆ อยู่เลย ยัยนี่เป็นยี่ปั้วมาตั้งแต่ตอนนั้น ผมว่าคนรวยกว่าเหลี่ยมเพราะซิกแซก และใต้โต๊ะ ยังมีนะครับ แต่ไม่ออกหน้าเท่านั้น ถามว่ายี่ปั้วพวกนี้ แค้นเหลี่ยมไหม ผมว่าแค้นแน่นอน เพราะมาตัดรายได้กันเห็นๆ บางคนไม่รู้ว่าวงการนี้ เงินมันไม่น้อยหน้าใคร หัวข้อ: Re: หยุดโกหกประชาชน (การเศรษฐกิจ) เริ่มหัวข้อโดย: engg ที่ 05-08-2006, 12:51 :mrgreen:ฟัง 97 คุณวีระ จะได้มุมมองกว้างขึ้น :mrgreen:
หัวข้อ: Re: หยุดโกหกประชาชน (การเศรษฐกิจ) เริ่มหัวข้อโดย: Iona ที่ 08-08-2006, 06:28 ถ้าเรามาวิเคราะห์ว่า คนหนึ่งคนพูดลวงแม้กระทั้งเรื่องเล็กน้อย เพื่อเบี่ยงเบนเรื่องเล็กน้อย
เราวิเคราะห์ไม่ออกเลยว่าสภาพทางการเงินการคลังแท้จริงเป็นอย่างไร ถ้าเกิดจำเป็นต้องประกาศ จะตอบบกพร่อง(อย่างร้ายแรง)โดยสุจริตอีกไหม ถ้าเกิดตอบจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา ดังนั้น หันกลับมามองธุรกิจเราหาวิธีป้องกันความเสี่ยง ถึงไม่เกิดหรือเกิดไม่รุนแรง ดีกว่าอยุ่เฉยๆรอมันเกิด ถ้าเกิดต้องรอดเยอะๆกันนะ มันถึงช่วยกันเก็บกวาดไหว |