ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

คุณ Killer คิดว่าครอบครัวทักษิณ ไม่ปกติหรือ :?:
 อย่าทำตัวเป็นจิ้งจอกหางด้วน หรือ องุ่นเปรี้ยว .....................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

การที่รวยแล้ว ไม่ได้แปลว่าจะไม่โกง...
 :lol:

พรรคนั้นเค้าเห่อวัฒนธรรมใหม่ก็เงี๊ยะ...เพราะปรกตินี่ชอบล่อกันนัวเนียไม่รู้ใครหัวใครหาง ไม่เชื่อลองถามหัวหน้าชวนดูซิครับ  ฮ่าๆๆๆ

การที่ครอบครัวร่ำรวยอู้ฟู่จากสัมปทานผูกขาด โจมตีค่าเงินบาท ใช้อำนาจ และเส้นสนกลในอย่างไร้ยางอาย แปลว่า บริหารประเทศได้เลวร้ายจนต้องถูกอัปเปหิในที่สุด อิอิ

เอ๊ะ หรือครอบครัวดูเหมือนปกติ มีเมียถือกระเป๋าแอร์เมสใบละสองแสน ลูกติดยา ซุกโพยเข้าห้องสอบ ลูกโอนย้ายคณะได้แบบนักศึกษาทั่วไปทำไม่ได้ ข้อสอบเอ็นทรานซ์รั่ว อุ้มชูสามเกลอจนต้องนอนคุกสามวันสามคืน ... จะบริหารประเทศได้ดีซะจนถูกสาปแช่งและขับไล่ กันล่ะทั่น  :mrgreen:

คิลเลอร์เขาคงยอมรับล่ะมั๊งครับลุงปุฯ ว่าครอบครัวน้าแม้วแกไม่ปกติซักเท่าไหร่

มีสามีที่โดนคนขับไล่ แต่ก็ด้านจะอยู่ มีภรรยาที่สั่งรัฐมนตรีได้ มีลูกๆ ที่...ช่างโปเตโต้แล้วกัน

ส่วนนโยบายที่ดี ต้องเป็นลูบปะทำแบบของ ทรท. เหรอครับ คิลเล่อร์ ถึงจะใช้ได้  :?:

อันนี้วิชาการนะ

มหาวิทยาลัยชิคาโก ที่สหรัฐ เคยทำงานวิจัยเรื่องคุณภาพของครอบครัวกับภาวะผู้นำทางการเมืองในยุคของ จอห์น เอฟ เคเนดี้ พบว่า ประชาชนร้อยละ 70 จะไม่ยอมลงคะแนนให้ผู้สมัครประธานาธิบดีที่เป็นโสด หรือมีสถานภาพหย่าร้าง เพราะคนอเมริกันในยุคนั้นเชื่อว่า ผู้นำทางการเมืองที่ดีต้องมีคุณภาพชีวิตสมรสที่ดีด้วย ปัจจัยทางด้านคุณภาพชีวิตสมรสจึงเป็นปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจเลือกประธานาธิบดี ทีนี้พอมาถึงยุคของคลินตั้น ซึ่งมีข่าวอื้อฉาวกับสาวสวยนางหนึ่ง งานวิจัยนี้ถูกนำมาปัดฝุ่นอีกครั้งหนึ่ง พบว่าดีกรีของคุณภาพชีวิตสมรสที่มีอิทธิพลต่อการเลือกผู้นำลดลงเล็กน้อย จึงจะยังคงสรุปได้ว่า คุณภาพของชีวิตสมรสยังคงมีอิทธิพลต่อการเลือกผู้นำทางการเมืองในสหรัฐต่อไป

อันนั้นผมไม่ทราบนะคิลเลอร์ว่าเขาไปเจอมาหรือเปล่า แต่ผมคิดว่าเมืองไทยน่าจะมีงานวิจัยประเภทนี้อยู่ แต่ยังหาไม่เจอ ไว้เจอแล้วจะบอก แต่ในประเทศแถบเอเชีย ผมว่าไม่ได้คำนึงถึงเรื่องครอบครัวเท่าไหร่หรอกนะคิลเลอร์ เพราะบทบาทของภรรยาผู้นำประเทศในแถบนี้ไม่ได้โดดเด่นขนาดของสหรัฐ นายกญี่ป่น แกยังเคยหย่าเมียมาแล้วเลย ตอนนี้แกก็โสด คนญี่ปุ่นก็ยังลงคะแนนให้ตั้งสองสมัย ส่วนของเมืองไทยผมว่า ชูประเด็นนี้หรือไม่ชู ก็ค่าเท่ากัน

ก็เห็นด้วยค่ะ  จะเอาสภาพครอบครัวมาชี้วัดว่า ผู้บริหารคนนั้นจะบริหารได้ดีหรือไม่  คงจะไม่เกี่ยวกันทั้งหมด

แบบผู้นำมีลูกโง่ทั้งครอก ก็อาจจะบริหารประเทศดีก็ได้  ต้องลองดูมั้งค่ะ

หรือมีลูกติดยา มีลูกโกงข้อสอบ ก็อาจปราบยาเสพติดได้ดี หรือบริหารการศึกษาได้เด่น

ของมันไม่แน่ไม่นอนค่ะ

อย่างนี้คิลเลอร์คงไม่ไปว่านายกที่ไม่อยู่กับเมียนะคะ  เพราะครอบครัวมันไม่เกี่ยวกัน  จริงไหมคะ

ครอบครัวคุณอภิสิทธิ์น่ารักดี หน้าไม่เหลี่ยม

ขี้เกียจตอบอะ

ไปว่าพี่มาร์ค ขวัญใจคนที่นี่ทำไม อย่างน้อยก็ทำตัวเป็นผู้รักษาผลประโยชน์ประชาชน โดยชำนาญแต่ตั้งข้อสังเกตุ กะแหน่ะกะแหน่ ใส่ความ แจ้งความ

เล่นงาน กกต แถมคัดค้านประกันตัว  ทั้งที่ตัวเองไม่ลงสมัคร  ชาวบ้านเห็นแล้วสงสาร กกต. บวกกับเรื่องเทปลับไทกรออกทีวีสรยุทธ์ คนดูทั่วประเทศ

คงได้ยุบพรรค15ตุลา
ไม่ก็ซื้อเสียงได้ส่วนหนึ่งได้เป็นฝ่ายค้านต่อไป

ถ้าตอบตามหัวข้อ ก็ถูกต้อง
การมีครอบครัวกับการบริหารประเทศ ไม่รู้ว่าได้มีการศึกษาหานัยยะความเกี่ยวข้องกันหรือยัง

แต่นัยยะที่ จขกท ตั้งขึ้นเพื่อจะถากโฆษณาของปชป
ก็เป็นการจับประเด็นที่ไม่ใช่เรื่องมาถาม
ก็เค้าจะโฆษณาของเค้าน่ะ

เหลี่ยมพาลูกไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ ผมยังว่าน่ารักดี
แต่อันนี้ไม่เกี่ยวกับ การย้ายคณะ การเปิดดูข้อสอบ หรือการฝิ่่นคำตอบน่ะ

ครอบครัวไม่ปกติ บริหารประเทศได้ดี ต้อง

1. โกงข้อสอบทั้งครอบครัว พยายามเอาชนะให้ได้โดยไม่ขวนขวายในทางที่ถูก
2. เปิดบริษัทเหมือนเล่นขายของ ว่างไม่ว่างก็ถ่ายดะ งานก็โยนให้บริษัทอื่นกินหัวคิว
3. มีทรัพยากรของตัวเอง กินใช้ได้ไม่มีวันหมด ทั้งสัมปทานโทรคมนาคม
4. เบ่ง กล้า อวดดี มีอำนาจ สั่งให้เพื่อนๆ ไม่กราบไหว้ครูบาอาจารย์ได้
5. อัพยา มั่วเซ็กส์ ไม่เกี่ยงว่าชายหรือหญิง เย็นดูบอล ดึกเลียบอล
6. มีที่พำนักในต่างประเทศมูลค่าหลายสิบล้าน แต่ห่างไกลย่านคนขับไล่