ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

“ทนายแม้ว” ซีด! ถูกดำเนินคดีฐานละเมิดศาล - แก๊งเชียร์เข่าอ่อนขอเมตตาวุ่น
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 1 สิงหาคม 2549 16:57 น.
 
 
 
นายธนา เบญจาธิกุล
 
 
              “แก๊งเชลียร์หนา” แสดงอาการสับสนกลางศาล บางคนรับสารภาพ-ปฏิเสธ และจำนนด้วยหลักฐาน อ้างทำไปเพราะบันดาลโทสะ โกรธแค้นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แต่ไม่วายขอความปรานีศาล บอกมีภาระต้องรับผิดชอบ ต้องดูแลบุตรที่ยังเล็ก และบางรายมีสามีที่แก่ชรา ขณะเดียวกัน ล่าสุดศาลแจ้งความดำเนินคดีกับ “ทนายแม้ว” แล้ว ฐานละเมิดศาล
       
       
       วันนี้ (1 ส.ค.) เวลา 14.00 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนั่งบัลลังก์ไต่สวนผู้ถูกกล่าวหาที่เข้าข่ายกระทำละเมิดอำนาจศาล กรณีเข้ามาก่อความวุ่นวายภายในเขตพื้นที่ศาล เมื่อวันที่ 25 ก.ค.49 ที่ศาลมีคำพิพากษาจำคุก 3 อดีต กกต. 4 ปี และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี โดยในวันนี้มีผู้ถูกกล่าวหาเพียง 12 คนจาก 16 คน เดินทางมาให้ศาลไต่สวน ประกอบด้วย 1.นางลาวัลย์ สุทธิชัยศิริ อายุ 72 ปี 2.น.ส.ฐิติรัตน์ สุรัตนกุลชัย อายุ 52 ปี 3.นายสมชาย รัตทวย อายุ 34 ปี 4.นางวลัยพร พรรณบุบผา อายุ 51 ปี 5.นายเสริมศักดิ์ เอกวัฒน์ อายุ 64 ปี 6.นายสมยศ ดวงพัตรา อายุ 56 ปี 7.นางธรรมรส สุนทรพล อายุ 50 ปี 8.นายยุทธนา ฉายสินสอน อายุ 33 ปี 9.นางวรรณา ไหมสีทอง อายุ 62 ปี 10.นางธนพันท์ ประถมเสาร์ อายุ 44 ปี 11.นางเรณู จิตร์ประสาร อายุ 53 ปี และ 12.น.ส.มะลิ เนตรขำ 40 ปี
       
       เมื่อเริ่มทำการไต่สวน ศาลทำความเข้าใจให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดทราบว่า เหตุการณ์ในวันที่ศาลมีคำพิพากษาจำคุกอดีต กกต. ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 12 คน กับพวกที่ยังไม่ได้นำตัวมาศาล ได้ก่อความวุ่นวายเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล โดยศาลจะสอบถามข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ของแต่ละคน หากผู้ถูกกล่าวหาคนใดปฏิเสธหรือต้องการดูเทปวีซีดีบันทึก ศาลก็จะเปิดเทปบันทึกของสถานีโทรทัศน์ให้ดู จากนั้นจึงเริ่มไต่สวนแต่ละคน
       
       ศาลได้เรียกผู้ถูกกล่าวหาทีละคน และอ่านพฤติการณ์ให้ฟัง ก่อนสอบถามว่าจะยอมรับหรือปฏิเสธ ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดแถลงยอมรับต่อศาล โดยอ้างว่ากระทำไปเพราะบันดาลโทสะ โกรธแค้นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และผู้ถูกกล่าวหาบางรายอ้างว่าเพราะเคารพนับถือ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีต กกต. และเคยได้ข่าวว่า กกต.เป็นคนดี โดยผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดอ้างว่าได้เดินทางมาศาลเพียงคนเดียว ไม่ได้นัดกันมา เพราะดูข่าวจากสถานีโทรทัศน์ เมื่อรู้ว่าจะมีการตัดสินคดีประวัติศาสตร์ จึงมาฟังคำตัดสินเพื่ออยากศึกษาคดีประวัติศาสตร์ว่าจะเป็นอย่างไร
       
       อย่างไรก็ตาม มีผู้ถูกกล่าวหาบางราย เช่น นายสมยศ ดวงพัตรา ที่ศาลอ่านพฤติการณ์ให้ฟังแล้ว นายสมยศไม่ยอมรับว่าได้กล่าวคำผรุสวาทบางคำออกไป ศาลจึงให้เปิดเทปวีซีดีให้ดูและฟังเป็นหลักฐาน ผู้ถูกกล่าวหาจึงได้จำนนต่อหลักฐานและแถลงยอมรับต่อศาลในที่สุด นอกจากนี้ มีบางคนที่จำไม่ได้ว่าได้กล่าวอะไรออกไปบ้าง ศาลจึงให้เปิดเทปวีซีดีให้ดูเช่นกัน
       
       นายสุกิจ พูลศรีเกษม ทนายความ ได้ถามผู้ถูกกล่าวหาว่า หากศาลให้ความปรานีจะประพฤติตนไม่เหมาะสมในบริเวณศาลเช่นนี้อีกหรือไม่ ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดแถลงยืนยันว่าจะไม่ประพฤติตนไม่เหมาะสมในลักษณะเช่นนี้อีก และที่กระทำไปเพราะไม่รู้ว่าจะมีความผิด มีโทษถึงติดคุก หากรู้ก็จะไม่กระทำการใดๆ ที่ละเมิดอำนาจศาล นอกจากนี้ บางรายก็ได้อ้างถึงภาระที่ผู้ถูกกล่าวหาต้องรับผิดชอบ โดยผู้ถูกกล่าวหาที่เป็นผู้หญิงส่วนใหญ่ แถลงว่าต้องดูแลบุตรที่ยังเล็ก และบางรายมีสามีที่แก่ชราซึ่งต้องคอยดูแล
       
       หลังการไต่สวนเสร็จสิ้น ศาลได้แจ้งต่อผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 12 คนว่าจะนำความแถลงชี้แจงของผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด ไปตรวจสอบพร้อมการเปิดวีซีดีที่บันทึกพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดต่อไป พร้อมนัดฟังคำสั่งวันที่ 3 ส.ค.49 เวลา 14.00 น.
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลได้ตักเตือนผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดว่า หากใครจะสนับสนุนใคร ศาลไม่ว่า แต่พฤติการณ์ที่จะมาก่อความไม่สงบในเขตพื้นที่ศาลนั้นไม่ถูกต้อง และมีความผิดได้ ศาลยืนยันว่าหากศาลจะดำเนินการใดก็เป็นไปตามที่หลักฐานปรากฏเท่านั้น
       
       นอกจากนี้ มีรายงานว่า อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาได้มอบหมายให้นายสมบูรณ์ ช่วยรักษา ผอ.สำนักบริหารประจำสำนักงานศาลอาญา ไปแจ้งความดำเนินคดีกับ นายธนา เบญจาธิกุล ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในข้อหาดูหมิ่นศาล ต่อพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน หลังจากนายธนาเข้าพบศาลและปฏิเสธข้อกล่าวหา พร้อมกับโยนความผิดให้กับสื่อว่านำไปตัดต่อ ทั้งๆ ที่ศาลมีหลักฐานคำให้สัมภาษณ์อย่างชัดเจน (อ่านข่าว ทนาย “แม้ว” เหิมวิจารณ์ศาล สอนผู้พิพากษาอย่าใช้ความรู้สึกตัดสิน)
       
       ส่วนในวันพรุ่งนี้ เวลา 14.00 น. มีรายงานว่า ผู้ถูกกล่าวหาอีก 2 คนจะเดินทางมาศาลเพื่อให้ศาลไต่สวน ส่วนที่เหลือหากยังไม่มา ศาลจะออกหมายเรียกอีกต่อไป
 
 
เอามาให้อ่านกันเล่นๆ แก้เซ็ง ที่มา http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000098061

ขอให้ศาลท่านช่วยเมตตาส่งเข้าเรือนจำห้อง 11
แล้วก็ได้นั่งรถตู้ติดแอร์เข้าเรือนจำด้วยนะครับ น้าๆ     :mrgreen:  :mrgreen:

คราวนี้จะมีคนไปให้กำลังใจอีกปะหว่า? 555+

เดี๋ยวเสรีไทยฯ จะส่ง คิลเล่อร์ พิเภก กับ อรจ. เป็นตัวแทนไปเยี่ยมครับ   :mrgreen:  :mrgreen:

หุ...หุ

คุณ meteorite
อย่าคิดอย่างนั้นเป็นอันขาด
ถ้า 3 คนนั้นถูกคดีหมิ่นศาลอย่างชูวิทย์
พวกเขาซัดทอดคุณmeteorite จะเดือดร้อน

สถานการณ์วันนี้ ผมคิดว่า 3 คนนั้นไม่กล้าไปหรอก

วันนี้คุณจ๊ะก็มาบอกว่าไปนั่งจิบเบียร์แถวๆศาลมา ผมยังสงสัยว่าเค้าไปนั่งแถวไหนหว่า แถวนั้นมันมีแต่อยู่ในซอยน่ะซิ

ทนายแม้วโดนโทษ หมิ่นศาลค่ะ ไม่ใช่แค่ละเมิด โทษหนักกว่า จำคุก 1-7 ปี  :mrgreen:

ด้วยวัตถุพยานแถบวีดีทัศน์ (แน่ เล่นคำจ๊าบซะด้วย) ผู้ถูกเรียกตัวหลายคน ถึงกับต้องยอมจำนนด้วยหลักฐาน ซึ่งศาลท่านเอามาให้ดูชัดๆ เพื่อจะได้สำนึก แล้วยอมรับผิดซะดีๆ

ศาลท่านปราณีค่ะ  สำนึก  ยอมรับ  แล้วจะไม่กระทำผิดอีก  ก็กลับบ้านไป  แต่ขอคาดโทษไว้สักหน่อยนึง  ว่า  ทีหลังอย่าทำ  ทีหลังอย่าทำ

แต่ผู้ร้ายปากแข็ง  ด่าศาลชัดๆ  มีหลักฐานพยานเพียบ  แต่ไม่สำนึก  ไม่ยอมรับ  ไม่ขอขมา

ก็สมควรจะโดนดีเข้าให้บ้าง  หรืออยากจะไปสำรวจดูว่า  กกต.หนา  ได้เข้าไปอยู่สบายดีไหม  ก็ไม่รู้นะคะ

อาจเป็นแผนลับ ที่เราไม่ล่วงรู้ อิอิ

ทนายน่าสนใจมาก เพราะแกฟ้องชาวบ้านไว้เยอะแยะ คราวนี้กรรมถึงตัว


กำลังลุ้นว่าจะถึง คนวางแผน ปลุกระดมด้วยรึเปล่า  8)

เห็นว่า รายการวิทยุ สายโฟนอินจะเป็นรายถัดไป ตามมาด้วยที่โพสต์ข้อความตามเวปด้วย งานนี้ต้องเตือนกันหนักๆ ค่ะ ไม่น่าจะแค่ขู่ ทางที่ดี ทำก็ยอมรับผิดซะ ศาลไม่ได้โหดร้ายกะจับขังหรอก เว้นแต่คนที่ไม่ยอมรับ ผิดจะๆ ยังดื้อดึง เถียงศาล ทั้งๆ ที่หลักฐานชัดเจนนี่สงสัยจะไม่รอด  :mrgreen:

ในอดีต เข้าไปในศาล จะมีการกล่าว สาบานว่าจะพูดแต่ความจริง

ซึ่ง สมัยก่อน ประชาชน จะมีจริยธรรม และ เกรงกลัวต่อบาปมา ร่วมทั้งจะเคารพศาลเป็นอย่างมาก

แต่เดี๊ยวนี้ รู้สึกการโกหกศาล เสียดสีศาล หมิ่นศาล จะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เหมือนจริยธรรมของชาวไทย จะค่อยๆ ลดน้อยลงไปตามผู้นำประเทศ

น่าเศร้าครับ  :D

ปลาหมอตายเพราะปาก
ค้าความตายเพราะความ

 :lol: