ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: *bonny ที่ 01-08-2006, 07:45



หัวข้อ: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: *bonny ที่ 01-08-2006, 07:45
เสียศูนย์ไปเลยสำหรับนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าก๊วนชาติไทย ทั้งๆ ที่วางฟอร์มเป็นต่อ ขี่ทั้งอภิสิทธิ์ และเหลื่อมทักษิณอยู่นิดๆ เสียด้วยซ้ำ ในฐานะที่เป็น "อาวุโสสูงสุด" ทางการเมืองไทย

เกือบจะได้เป็น "เสาหลักประชาธิปไตย" อยู่รอมร่อแล้ว หากไม่ไปซดหูฉลามกับนายกรักษาการ  ตอนนี้ใกล้จะกลายเป็น "เสาหักประชาธิปไตย" เสียมากกว่า

ตอนแรกที่คุณทักษิณชวนไปซดหูฉลามสมานฉันท์  ท่านบรรหารออกมาปฏิเสธทันควัน "สายไปแล้วน้อง"  ผมงี้ตะลึงไปหมด เพราะราศีของคุณบรรหารจับจนดูเป็นทองอร่ามตา

ที่ไหนได้..วันรุ่งขึ้น ท่านกลับลำมาบอกว่า "เมื่อวานนี้..ติ๊กผิด" ไปหน่อย ยินดีรับเป็นตัวกลางสมานฉันท์ ขอถามความจริงใจของนายกก่อน

ตรงนี้แหละครับที่ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่า ฉายา มังกรเติ้ง มันไปไม่ถึงสักที  หลุดจากภาพปลาไหลในน้ำมาได้ ขี้นมาบนบกได้แล้ว  กำลังจะผงาดอยู่ทีเดียว เพราะย่างกรายออกมาสง่างามตลอด ลำตัวเขียวอื๋อ หางยาวเฟื้อย แลบลิ้นแผล็บๆ  พอแก่ตัวมากๆ มีหงอนงอกออกมาบนศีรษะแพลมๆ เป็นหยัก  ก็นึกว่า นี่แหละ "มงกุฎ" เป็นแน่แท้

ที่ไหนได้ พอเขาเอา "แมลงวัน" มาล่อหน่อยเดียว ดันวิ่งเข้าใส่ ผงกหัว "หงกๆ" แลบลิ้นยาวๆ ออกมางับเหยื่อล่อ

โธ่..ท่านเติ้งครับ มังกรน่ะ ต้องกินมังสวิรัติหรือไม่ก็อาหารชั้นสูงแล้ว ถ้าจะล่อ ก็ต้องใช้ "แก้ว" ชั้นดีให้มังกรคาบเล่น ไม่ใช่ "แมลงวัน"

ตอนนี้เป็นไงล่ะ..
หลังอาหารมื้อนั้น นายกทักษิณกลับมาเป็นต่อทางการเมืองอีกหน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า แทบจะไม่มีพรรคการเมืองไหนยอมร่วมสังคกรรมด้วยแล้ว องค์กรอิสระ ศาลสถิตยุติธรรม ข้าราชการทหาร รวมทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กำลังเบือนหน้าหนี

อยู่ๆ จิ้งเหลนบรรหารมากอบกู้ศักดิ์ศรีให้ซะงั้น

กลับมากินน้ำใต้ศอกเขาอีกตามเคย ด้วยวาทะเด็ดของนายก "เรื่องสมานฉันท์ ผมให้คุณบรรหารไปคิดและคุยกับพรรคการเมืองอื่นๆ ถึงความเป็นไปได้"

มันผลักภาระความเป็นไปได้ไปที่จิ้งเหลนจนหมดแล้ว

ถ้าสมานฉันท์สำเร็จ คุณทักษิณก็รอดจากวิกฤติทางการเมือง เพราะเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย รวมทั้งกรณีเช็คบิลความผิดต่างๆ ต้องมลายหายไปสิ้น เพราะยังไงๆ ท่านก็ยังครองอำนาจอยู่ในระดับบน

แต่ถ้า สมานฉันท์ล้มเหลว ก็เป็นความผิดของเติ้งรับไป (คนเดียวซะด้วย ไม่เกี่ยวกับคนในพรรค)  เพราะนายกทักษิณไม่ได้เป็นคนคิดหาวิธี ท่านมอบหมายให้ไปจัดการแล้ว ทำไม่สำเร็จเอง(นี่หว่า)

ตอนนี้กลับไปทานอาหารร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอีกแล้ว และแน่นอนที่สุด ลีลาพญาจิ้งเหลนต้องสร้างความหวาดระแวงให้กับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ อย่างแน่นอน

สู้อภิสิทธิ์ของปชป.ไม่ได้ ฉายา "เด็กอมมือ" เมื่อวานนี้ พอสปอตออกมา ตอนนี้กำลังจะกลายเป็น "นาจา" ไปแล้วครับ


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: The Last Emperor ที่ 01-08-2006, 08:04
ฮ่าๆๆๆ  คุณบรรหารอยู่ในถนนการเมืองมาหลายสิบปี ในขณะที่คุณทักษิณเข้ามาไม่ถึง 10 ปี ในขณะที่คุณมาร์ค 14 ปี นักการเมืองที่ดีก็คือผู้ที่เอาตัวรอดเก่งเพราะเหตุการณ์ใหม่ๆเกิดขึ้นทุกวัน คุณบรรหารเองก็จัดอยู่ในระดับหัวแถวที่ขนาดโดนฝนห่าใหญ่...พรรคชท.ยังดำรงอยู่ได้ถึงวันนี้


ส่วนโฆษณาของคุณมาร์คอาจดูดีในสายตาของคนกรุงเทพฯ...แต่โจทย์ที่ยังตอบไม่ได้สำหรับผู้ที่ชื่นชมพรรคปชป.ก็คือ นโยบายลดค่าครองชีพและเพิ่มเงินเดือนนั้นในทางหลักเศรษฐศาสตร์มันค้านกันคนละเรื่องเลย ในเมื่อค่าครองชีพที่หมายถึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคก็ล้วนแต่มีค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินเดือนกว่า 30% ของต้นทุนการผลิต

ภาพในสปอร์ตออกมาดูสวยในแง่production แต่ในเรื่องcontentออกมาแนวฮากลิ้งแบบนี้...คนกรุงเทพฯฉลาดหรือโง่กันแน่เอ่ย!?!  :roll:


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: *bonny ที่ 01-08-2006, 08:33

ภาพในสปอร์ตออกมาดูสวยในแง่production แต่ในเรื่องcontentออกมาแนวฮากลิ้งแบบนี้...คนกรุงเทพฯฉลาดหรือโง่กันแน่เอ่ย!?!  :roll:

ผมว่าชาวกรุงเทพฉลาดกว่าจังหวัดอื่นนะ เพราะไม่หลงประชานิยมจนโงหัวไม่ขึ้น

ส่วนนโยบายลดค่าครองชีพ และเพิ่มเงินเดือน ไม่ค้านกันแน่นอนครับ 

ผมไม่ใช่ปชป.หรอกครับ แต่ตอบข้อข้องใจของคุณได้ในเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: The Last Emperor ที่ 01-08-2006, 08:39

ภาพในสปอร์ตออกมาดูสวยในแง่production แต่ในเรื่องcontentออกมาแนวฮากลิ้งแบบนี้...คนกรุงเทพฯฉลาดหรือโง่กันแน่เอ่ย!?!  :roll:

ผมว่าชาวกรุงเทพฉลาดกว่าจังหวัดอื่นนะ เพราะไม่หลงประชานิยมจนโงหัวไม่ขึ้น

ส่วนนโยบายลดค่าครองชีพ และเพิ่มเงินเดือน ไม่ค้านกันแน่นอนครับ 

ผมไม่ใช่ปชป.หรอกครับ แต่ตอบข้อข้องใจของคุณได้ในเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ


ยินดีแลกเปลี่ยนความเห็นกับคุณ*bonny ครับ  งั้นถ้าคุณคิดว่าทั้ง 2 เรื่องไม่ขัดกันในทางปฎิบัติแล้ว...กรุณาอธิบายหน่อยได้ไหมครับ?


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 01-08-2006, 09:03
อ้างถึง
นักการเมืองที่ดีก็คือผู้ที่เอาตัวรอดเก่งเพราะเหตุการณ์ใหม่ๆเกิดขึ้นทุกวัน

อะไรจ๊ะ พูดได้เข้าท่าก็วันนี้เอง แต่พูดไม่จบ อาจจะลืมไป  พรรคชาติไทย บรรหารชิงมาได้อย่างไร ต้องไปอ่านหนังสือของ พล.ต.ประมาณ ท่านเขียนไว้ได้เจ็บแสบดีแท้ บรรหารเป็นยังไง ไปหาอ่านเอาได้เลย

แต่ต้องขอขยายความค่ะ นักการเมืองที่ดีในความหมายของอะไรจ๊ะ หมายถึงเอาตัวรอดเก่ง (เขียนไว้เองนะคะ)  ก็แสดงให้เห็นถึงความชอบของอะไรจ๊ะ  แต่สำหรับประชาชนทั่วไป  นักการเมืองที่ดี คือนักการเมืองที่ทำเพื่อประชาชนค่ะ  ถึงทำแล้วตัวเองจะไม่รอด ก็ต้องเสียสละค่ะ  ประชาชนต้องมาก่อนไงค่ะ ไม่ใช่ประชาชินต้องมาก่อน อะไรจ๊ะ ฟังสโลแกนของมาร์คแล้วเอาไปคิดด้วยนะคะ 


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 01-08-2006, 09:10
พรรคชาติไทย บรรหารชิงมาได้อย่างไร ต้องไปอ่านหนังสือของ พล.ต.ประมาณ ท่านเขียนไว้ได้เจ็บแสบดีแท้ บรรหารเป็นยังไง ไปหาอ่านเอาได้เลย

อันนี้อยากรู้ครับ เล่าให้ฟังคร่าวๆได้หรือไม่ครับ  :mrgreen:


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: The Last Emperor ที่ 01-08-2006, 09:59
อ้างถึง
นักการเมืองที่ดีก็คือผู้ที่เอาตัวรอดเก่งเพราะเหตุการณ์ใหม่ๆเกิดขึ้นทุกวัน

อะไรจ๊ะ พูดได้เข้าท่าก็วันนี้เอง แต่พูดไม่จบ อาจจะลืมไป  พรรคชาติไทย บรรหารชิงมาได้อย่างไร ต้องไปอ่านหนังสือของ พล.ต.ประมาณ ท่านเขียนไว้ได้เจ็บแสบดีแท้ บรรหารเป็นยังไง ไปหาอ่านเอาได้เลย

แต่ต้องขอขยายความค่ะ นักการเมืองที่ดีในความหมายของอะไรจ๊ะ หมายถึงเอาตัวรอดเก่ง (เขียนไว้เองนะคะ)  ก็แสดงให้เห็นถึงความชอบของอะไรจ๊ะ  แต่สำหรับประชาชนทั่วไป  นักการเมืองที่ดี คือนักการเมืองที่ทำเพื่อประชาชนค่ะ  ถึงทำแล้วตัวเองจะไม่รอด ก็ต้องเสียสละค่ะ  ประชาชนต้องมาก่อนไงค่ะ ไม่ใช่ประชาชินต้องมาก่อน อะไรจ๊ะ ฟังสโลแกนของมาร์คแล้วเอาไปคิดด้วยนะคะ 

ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนทัศนะคติกับคุณพรรณชมพูอีกครั้งครับ

เป็นธรรมดาของนักการเมืองที่ต้องแก่งแย่งชิงไหวพริบกันเพื่อให้ตัวเองสู่อำนาจครับ ในทางทฤษฎีคุณพรรณฯอาจต้องการเห็นนักการเมืองที่ทำเพื่อปชช. แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้วการได้มาซึ่งอำนาจมันมีอะไรมากกว่าการที่จะต้อง nice กับทุกคน ตัวอย่างครับ อดีตนายกฯที่มีภาพลักษณ์คนจนก็ไม่ประสพความสำเร็จด้านครอบครัว แล้วจะมาบริหารประเทศได้อย่างไร?

อยากฟังคคห.ของคุณพรรณฯครับว่าใครคือนักการเมืองที่ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริงโดยไม่มีแผล?


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: สี่หามสามแห่ ที่ 01-08-2006, 10:20
เด็กไทย อายุไม่ถึง 20 หลายๆ คน ที่อ่านการ์ตูนเรื่อง "คุนิมิตซึ"

ยังมีความเข้าใจเรื่องคุณสมบัติของนักการเมืองที่ดี มากกว่า อะไรจ๊ะ เลยว่ะ


ถ้า นักการเมืองที่ดี คือ การเอาตัวรอดไปวันๆ มันก็ไม่ต่างกับ "สวะ" หรอก ครับ


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: varada ที่ 01-08-2006, 10:25
ป๋าเติ้งแกก็เอาตัวรอดไปวันๆเท่านั้นแหล่ะค่ะ
ไม่มีพิษมีภัยอะไรกับใครหรอกถ้าเทียบกับเหลี่ยมแล้ว
เหลี่ยมร้ายกว่าเยอะ


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: The Last Emperor ที่ 01-08-2006, 10:30
เด็กไทย อายุไม่ถึง 20 หลายๆ คน ที่อ่านการ์ตูนเรื่อง "คุนิมิตซึ"

ยังมีความเข้าใจเรื่องคุณสมบัติของนักการเมืองที่ดี มากกว่า อะไรจ๊ะ เลยว่ะ


ถ้า นักการเมืองที่ดี คือ การเอาตัวรอดไปวันๆ มันก็ไม่ต่างกับ "สวะ" หรอก ครับ


'อะไรจ๊ะ'คงไม่ถนัดที่จะไปต่อล้อต่อเถียงกับพวกเด็กเปรี้ยวที่ยังดูการ์ตูนแล้วเอาข้อมูลมาเถียงฉอดๆแบบนี้ครับ ไปดูการ์ตูนต่อเถอะครับ


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: Yodyood ที่ 01-08-2006, 10:35
เด็กไทย อายุไม่ถึง 20 หลายๆ คน ที่อ่านการ์ตูนเรื่อง "คุนิมิตซึ"

ยังมีความเข้าใจเรื่องคุณสมบัติของนักการเมืองที่ดี มากกว่า อะไรจ๊ะ เลยว่ะ


ถ้า นักการเมืองที่ดี คือ การเอาตัวรอดไปวันๆ มันก็ไม่ต่างกับ "สวะ" หรอก ครับ


'อะไรจ๊ะ'คงไม่ถนัดที่จะไปต่อล้อต่อเถียงกับพวกเด็กเปรี้ยวที่ยังดูการ์ตูนแล้วเอาข้อมูลมาเถียงฉอดๆแบบนี้ครับ ไปดูการ์ตูนต่อเถอะครับ

คุ๊คุคุคุ ที่ไม่อยากเถียงเพราะสู้ข้อมูลไม่ได้ หรือเพราะคู่กรณีดูการ์ตูนกันแน่คร๊าาาบ
หรือจะเรียกว่าหมดแรงแถแล้วดี?  :wink:


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: *bonny ที่ 01-08-2006, 11:49
สวัสดีครับทุกๆ ท่าน..

อะไรจ๊ะ..

ทำอย่างไรจึงจะลดค่าครองชีพ และเพิ่มเงินเดือน(รายได้) โดยไม่ขัดแย้งกัน

การลดค่าครองชีพ
ทำได้ทันทีหาก(สมมุติ) ผมได้เป็นรัฐบาล สิ่งแรกที่จะทำ คือ นำระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงมาขยายความ

ที่ผ่านมามีแต่พูด ไม่มีใครขยายความต่อ

ในเมื่อไม่ใช่ประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ต้องนำเข้าทั้งหมด ถ้าปล่อยให้นำเข้าในอัตราพอเพียงกับการบริโภคเช่นทุกวันนี้ ก็ต้องไปหาเงินมาอุดรายจ่าย และแก้ปัญหาเงินเฟ้อกันอุตลุต

ทำอย่างไรจึงจะลดการบริโภคน้ำมันในประเทศได้ ก็จะทำให้ค่าครองชีพลดลงโดยอัตโนมัติ (ไม่ขอขยายรายละเอียด มันจะยาว)

ทุกวันนี้ ไม่กดการนำเข้า เพราะกลัวภาวะเศรษฐกิจระดับบนชะงัก กลัวอุตสาหกรรมรถยนต์พัง เพราะคุยไว้นานแล้วว่า จะเป็นดีทรอยต์แห่งเอเซีย  จริงๆ หยุดดีทรอยต์แห่งเอเซียเอาไว้ก่อนเถอะครับ หยุดนานเท่าใดก็จะทำให้ประเทศชาติมีอายุยืนยาวเท่านั้น
..............

การเพิ่มเงินเดือนและรายได้

จำเป็นต้องทำเท่าที่จำเป็น  ไม่ใช่ให้คำสัญญากับข้าราชการ ปี 50 จะขึ้นให้นะ

ทำอย่างนี้มันฟ้องว่า คุณทักษิณไม่เข้าใจระบบเศรษฐกิจ  เพราะยังไม่รู้เลยว่า ปี50 ใครจะมาเป็นรัฐบาล ถ้าตัวเองไม่ได้เป็น นี่ก็เท่ากับวางระเบิดเวลาให้คนอื่นลำบากใจ

ถ้าจะขึ้น ถึงเวลาค่อยประกาศ การประกาศไปก่อน ก็เท่ากับเปิดช่องให้ข้าราชการก่อหนี้รอ เท่ากับต้องไปแก้ปัญหาหนี้สิน และเงินเฟ้ออีกครั้งในอนาคต

การลดค่าครองชีพได้ ก็เท่ากับได้ขึ้นเงินเดือนแล้วครับ เพราะจะมีเงินเหลือ แต่ถ้าเงินเฟ้อสูงอย่างที่เป็นในปัจจุบันนี้ ก็ต้องขึ้นเงินเดือนและเพิ่มรายได้ของประชาชนให้สอดคล้องกัน จะเพิ่มเท่าไร ขึ้นเท่าไร ต้องคุยกันทุกฝ่าย ทุกภาคส่วนว่าใครพร้อม ใครไม่พร้อม

เอะอะ จะขึ้นๆ เพื่อดึงฐานเสียง ฐานอำนาจ อย่างนี้ไม่เรียกว่า บริหารเศรษฐกิจ แต่เรียกว่า บริหารอำนาจการเมือง



หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: TheBluECaT ที่ 01-08-2006, 12:00
ผมว่าที่คุณบรรหาร ไปหลงแมลงวัน(สมานฉันท์)ที่ไอ้เหลี่ยมมันเอามาล่อ...

ขนาดลูกพรรคอย่างคุณชูวิทย์ยังรู้เลย  งานนี้โดนหลอกแน่ๆ
 
คุณบรรหารคงคิดว่าจะดึงคะแนนเสียงจากภาคอีสานกลับมาจากทุยรักทุยได้บ้าง

แต่กลับไม่รู้ตัว่าโดนหลอกใช้ให้ "สร้างภาพ" สมานฉันท์ให้ไอ้เหลี่ยมอีกครั้ง

แสดงถึงผู้นำพรรคชาติไทยยังแก้เกมส์ทางการเมืองสู้พรรคทุยรักทุย กับ ปชป ยังไม่ได้

โดนเค้าหลอกใช้ง่ายๆอย่างนี้ จะขึ้นเป็นนายกฯคนต่อไปได้อย่างไรกันครับ  :evil:


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: The Last Emperor ที่ 01-08-2006, 12:07
สวัสดีครับทุกๆ ท่าน..

อะไรจ๊ะ..

ทำอย่างไรจึงจะลดค่าครองชีพ และเพิ่มเงินเดือน(รายได้) โดยไม่ขัดแย้งกัน

การลดค่าครองชีพ
ทำได้ทันทีหาก(สมมุติ) ผมได้เป็นรัฐบาล สิ่งแรกที่จะทำ คือ นำระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงมาขยายความ

ที่ผ่านมามีแต่พูด ไม่มีใครขยายความต่อ

ในเมื่อไม่ใช่ประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ต้องนำเข้าทั้งหมด ถ้าปล่อยให้นำเข้าในอัตราพอเพียงกับการบริโภคเช่นทุกวันนี้ ก็ต้องไปหาเงินมาอุดรายจ่าย และแก้ปัญหาเงินเฟ้อกันอุตลุต

ทำอย่างไรจึงจะลดการบริโภคน้ำมันในประเทศได้ ก็จะทำให้ค่าครองชีพลดลงโดยอัตโนมัติ (ไม่ขอขยายรายละเอียด มันจะยาว)

ทุกวันนี้ ไม่กดการนำเข้า เพราะกลัวภาวะเศรษฐกิจระดับบนชะงัก กลัวอุตสาหกรรมรถยนต์พัง เพราะคุยไว้นานแล้วว่า จะเป็นดีทรอยต์แห่งเอเซีย  จริงๆ หยุดดีทรอยต์แห่งเอเซียเอาไว้ก่อนเถอะครับ หยุดนานเท่าใดก็จะทำให้ประเทศชาติมีอายุยืนยาวเท่านั้น
..............

การเพิ่มเงินเดือนและรายได้

จำเป็นต้องทำเท่าที่จำเป็น  ไม่ใช่ให้คำสัญญากับข้าราชการ ปี 50 จะขึ้นให้นะ

ทำอย่างนี้มันฟ้องว่า คุณทักษิณไม่เข้าใจระบบเศรษฐกิจ  เพราะยังไม่รู้เลยว่า ปี50 ใครจะมาเป็นรัฐบาล ถ้าตัวเองไม่ได้เป็น นี่ก็เท่ากับวางระเบิดเวลาให้คนอื่นลำบากใจ

ถ้าจะขึ้น ถึงเวลาค่อยประกาศ การประกาศไปก่อน ก็เท่ากับเปิดช่องให้ข้าราชการก่อหนี้รอ เท่ากับต้องไปแก้ปัญหาหนี้สิน และเงินเฟ้ออีกครั้งในอนาคต

การลดค่าครองชีพได้ ก็เท่ากับได้ขึ้นเงินเดือนแล้วครับ เพราะจะมีเงินเหลือ แต่ถ้าเงินเฟ้อสูงอย่างที่เป็นในปัจจุบันนี้ ก็ต้องขึ้นเงินเดือนและเพิ่มรายได้ของประชาชนให้สอดคล้องกัน จะเพิ่มเท่าไร ขึ้นเท่าไร ต้องคุยกันทุกฝ่าย ทุกภาคส่วนว่าใครพร้อม ใครไม่พร้อม

เอะอะ จะขึ้นๆ เพื่อดึงฐานเสียง ฐานอำนาจ อย่างนี้ไม่เรียกว่า บริหารเศรษฐกิจ แต่เรียกว่า บริหารอำนาจการเมือง




ขอเวลา 3 ชม. ครับ พอดีมีธุระต้องจัดการ เดี๋ยวจะกลับมาแลกเปลี่ยนคคห. ครับ


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: สี่หามสามแห่ ที่ 01-08-2006, 12:34
อ่านการ์ตูน ต้องแปลว่าเด็ก ???

ที่ญี่ปุ่น แก่ขนาดเป็นพ่อคน ยังอ่านการ์ตูน เลยคุณ

ถ้าอ่านการ์ตูนแล้วรู้จักหยิบจับสิ่งดีๆ ในนั้นมาวิเคราัะห์ ประดับสมอง

ผมว่า มันก็ดีกว่าพวกที่อ่านตำรา โดยที่ความรู้ไม่ได้เข้าสมอง แต่สักวางท่าว่าข้าเก่ง ข้าแน่

แล้วชอบมาตั้งกระัทู้ โชว์ความโง่ แถกแบบปัญญาอ่อน ชนิดเด็ก ม.ต้น เห็นแล้วยังอายแทน

น่าเสียใจที่ผู้ใหญ่ เฮงซวย พรรค์นี้ เมืองไทย มีอยู่เยอะซะด้วยสิ


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: batman ที่ 01-08-2006, 13:01
คุณบรรหารยังแสดงให้เห็นถึงการเมืองแบบเดิมๆ ทำอย่างไรก็ได้ให้เป็นรัฐบาล จะได้ปากไม่แห้ง
คนอย่างคุณบรรหารน่ะหรือจะอ่านรูปมวยไม่ออกว่าไปคุยกับเหลี่ยมแล้วจะดีจะร้ายอย่างไร
ผมว่าคุณบรรหารเลือกที่จะรักษาผลประโยชน์ส่วนตน มากกว่าที่จะสนใจสายตาที่จ้องมองอย่างสงสัย
น่าผิดหวัง


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: In The Name Of Justice. ที่ 01-08-2006, 14:24
การ์ตูนให้แง่คิดที่ดีก็มีเยอะครับ

ถ้าหัดดูให้เป็นนะครับ


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: buntoshi ที่ 01-08-2006, 14:26
คุณบรรหารยังแสดงให้เห็นถึงการเมืองแบบเดิมๆ ทำอย่างไรก็ได้ให้เป็นรัฐบาล จะได้ปากไม่แห้ง
คนอย่างคุณบรรหารน่ะหรือจะอ่านรูปมวยไม่ออกว่าไปคุยกับเหลี่ยมแล้วจะดีจะร้ายอย่างไร
ผมว่าคุณบรรหารเลือกที่จะรักษาผลประโยชน์ส่วนตน มากกว่าที่จะสนใจสายตาที่จ้องมองอย่างสงสัย
น่าผิดหวัง

สวัสดีครับ คุณบอนนี่  :D

ผมเห็นด้วยกับ คุณ batman มากครับ

ผมบอกแล้วมาทุกกระทู้เกี่ยวกับการ ตกลง ต่อรอง ของนักการเมืองทั้งหลาย มีน้อยนักที่จะเป็นการต่อรองรักษาผลประโยชน์ของชาติ

เมื่อไหร่น้ำดีๆ จะไหลเข้าไปผสมกับน้ำเสียเหล่านี้ จนกลายเป็นน้ำที่ดื่มได้ แต่ไม่จำเป็นต้องมีน้ำดีทั้งหมด เพราะมันอุดมคติ เกินไป ขอแค่ให้มันมีน้ำดีมากกว่ามากๆ น้ำเสียก็จะเป็นแค่จุดเล็กๆ ที่เราสามารถจัดการมันได้ อย่างไม่ยาก  :(


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: Solidus ที่ 01-08-2006, 15:57
การ์ตูนให้แง่คิดที่ดีก็มีเยอะครับ

ถ้าหัดดูให้เป็นนะครับ
ภาพยนตร์หลายเรื่องมันก็เอามาจากกา์ร์ตูนนี่ เห็นคนไปดูกันเยอะแยะ


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: Scorpio6 ที่ 01-08-2006, 18:30

อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ที่ชื่อบรรหาร...

สภาพไม่ต่างกับ จิ้งเหลน...หางด้วน

ในปัจจุบัน...

ซึ่งเด็กรุ่นใหม่ ยังรู้เลย..

นักการเมือง ในอนาคต...ไม่ควร เอาเยี่ยงอย่าง เด็ดขาด


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: Solidus ที่ 01-08-2006, 21:11
ว่าแต่เป็นมังกรแบบตะวันออก หรือมังกรตะวันตก ถ้าอย่างหลังก็เป็นไปเถอะ


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 01-08-2006, 23:13
เด็กไทย อายุไม่ถึง 20 หลายๆ คน ที่อ่านการ์ตูนเรื่อง "คุนิมิตซึ"

ยังมีความเข้าใจเรื่องคุณสมบัติของนักการเมืองที่ดี มากกว่า อะไรจ๊ะ เลยว่ะ


ถ้า นักการเมืองที่ดี คือ การเอาตัวรอดไปวันๆ มันก็ไม่ต่างกับ "สวะ" หรอก ครับ

มายืนยันครับ ว่าการ์ตูนเรื่องนี้ ดีมากๆ และได้ความรู้ในหลายๆเรื่องด้วยครับ  :mrgreen:


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: ThailandReport ที่ 01-08-2006, 23:23

อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ที่ชื่อบรรหาร...

สภาพไม่ต่างกับ จิ้งเหลน...หางด้วน

ในปัจจุบัน...

ซึ่งเด็กรุ่นใหม่ ยังรู้เลย..

นักการเมือง ในอนาคต...ไม่ควร เอาเยี่ยงอย่าง เด็ดขาด

เขาเรียกว่า ตาอยู่ เสียรู้ ไอ้เหลี่ยม ครับ 5555


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: woot0013 ที่ 02-08-2006, 00:25
คุณบรรหารยังแสดงให้เห็นถึงการเมืองแบบเดิมๆ ทำอย่างไรก็ได้ให้เป็นรัฐบาล จะได้ปากไม่แห้ง
คนอย่างคุณบรรหารน่ะหรือจะอ่านรูปมวยไม่ออกว่าไปคุยกับเหลี่ยมแล้วจะดีจะร้ายอย่างไร
ผมว่าคุณบรรหารเลือกที่จะรักษาผลประโยชน์ส่วนตน มากกว่าที่จะสนใจสายตาที่จ้องมองอย่างสงสัย
น่าผิดหวัง
                    เห็นด้วยกับความคิดนี้คับ...น่าผิดหวังจริงๆ..กับสิ้งที่คุณบรรหารคิดแบบนี้   แย่ๆๆจริงๆนักการเมืองไทย  ไม่รู้ว่าเป็นอย่างนี้กันทุกคนรึป่าว


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: mini ที่ 02-08-2006, 00:56
ต้องทำใจครับ
ทรท ก็รักษาผลประโยชน์ของตัวเอง
ชท ก็ชัดเจนกับนโยบาย เป็นรัฐบาลทุกสมัย
พรรคอื่นๆที่ใหญ่พอก็ไม่มี ถ้าไม่นับ ปชป
นี่ถ้า ชพ ยังอยู่ ก็คงไม่ต่างจาก ชท เท่าไหร่
พูดกันจริงๆ พรรคการเมือง เพื่อประชาชนจริงๆ
แทบจะไม่มี เพราะกลายเป็นกลุ่มทุนหมด
ไม่ว่าจะทุนระดับชาติ หรือทุนท้องถิ่น
ต้องแก้กันยาวครับ เรื่องแบบนี้


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: แอ่นแอ๊น ที่ 02-08-2006, 11:44
อย่างแรก ตอนนี่ความเป็นจริงที่เราพบคือ ค่ารถเมล์ขึ้นเร็วกว่า และในเปอร์เซ็นต์ที่มากกว่า ค่าแรงขั้นต่ำ นายกฯ รักษาการ ทำเพื่อประชาชนจริงหรือ อันนี้พูดถึงในแง่ทั้งคนจนในเมือง และคนจนต่างจังหวัด ยิ่งคนจนในเมืองยิ่งไม่ต้องพูดถึง บ้านสมัยนี้ต้องนั่งรถเมล์กันกี่ทอดกว่าจะถึงที่ทำงาน ค่าใช้จ่ายตรงนี้ปาเข้าไปวันละเกือบร้อย ค่าแรงแค่วันละ 180 กว่าบาท 200 บาท มันจะกินอยู่ยังไง

อย่างที่สอง เรื่องนโยบายพลังงาน การส่งเสริมให้ใช้ CNG ใน NGV เป็นนโยบายประหยัดพลังงานจริงหรือ หรือเพียงแต่ปัดอย่างนึง ไปใช้อีกอย่างนึงแทน ในขณะที่การตั้งปั้มและการขนส่ง CNG ทำได้ยากมา จังหวัดที่อย่างห่างจากแนวท่อก๊าซจะขนส่งยังไง ค่าใช้จ่ายในการขนส่งคุ้มมั้ยที่จะประหยัด ในขณะที่ก๊าซโซฮอลล์มีการส่งเสริมให้ใช้มาระยะนึงแล้ว ทำไมไม่ทำให้ต่อเนื่อง โรงงานที่ผลิตเอทานอล ไปๆ มาๆ จนป่านนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะทำเพิ่มขึ้น ยิ่งไบโอดีเซลยิ่งไม่ต้องพูดถึง ดูเหมือนรัฐบาลจะให้ความสนใจน้อยเหลือเกิน เล่นตามกระแสมาเป็นพักๆ ไม่มีการส่งเสริมชาบ้านให้ทำหอกลั่นไบโอดีเซลอย่างจริงจัง ทั้งๆ ที่มีการส่งเสริมให้ปลูกพืชน้ำมันแล้ว กลับไม่ทำให้ครบวงจร ปัจจุบันเกษตรกรชาวนาชาวไร่ จำนำเครื่องสูบน้ำไปกี่เครื่องแล้ว เพราะไม่มีเงิน เติมน้ำมัน นายกฯ รักษาการ ทำเพื่อประชาชนจริงหรือ อันนี้พูดถึงประชาชนทั่วไป


อย่าให้พูดถึงความไม่จริงจังในการแก้ปัญหา พูดออกมาได้ว่า การแก้ปัญหาน้ำท่วมไม่ได้ผลเพราะเรื่องการเมือง ไปตายซะเถอะ ปากพล่อยไม่หาย มิน่า เชียงใหม่มันถึงท่วมซ้ำซาก ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนไม่เคยท่วมเท่านี้ แปลกดี ภูเขาน้ำท่วม

นายกฯ รักษาการ ทำเพื่อประชาชนจริงหรือ


ปล. ที่จริงจะมาแค่ลงชื่ออ่านว่าเขียนสนุกดี แต่อ่านคำตอบของบางคนแล้วปวดหัวจี๊ดดดดดดดดด


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: เพนกวินน้อยนักอ่าน ที่ 02-08-2006, 15:54
บรรหารทำอะไรไม่ได้หรอกครับ
ที่ยึดพรรคชาติไทยไว้ไม่ยอมให้สลายหายไป
เพราะความทะยานอยากยังคงเหลืออยู่
เลยกะรอจังหวะพลิกเกมส์เหมาะๆมั้งครับ


แต่ไม่น่าจะมีโชคช่วยขนาดนั้นนะ
 :?


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: สนธิเหยียบหน้าเหลี่ยม ที่ 02-08-2006, 17:29
บรรหารเคยหลุดประโยคเด้ดจากก้นบึ้งของหัวใจครับ  คำว่า   เป็นฝ่ายค้านมันอดอยากปากแห้ง   และนี่คือตัวตนที่จะอธิบาย สิ่งที่บรรหารทำไว้ตลอดชีวิตของบรรหารครับ
ทุกสิ่งที่บรรหารทำ ก็เพื่อจะได้เข้าไปหาประโยชน์เพื่อตนเอง หาใช่เพื่อชาติบ้านเมืองและส่วนรวมไม่   ทุกอย่าง เพื่อ ตนเอง


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: ThailandReport ที่ 02-08-2006, 17:34
เป็นฝ่ายค้านมันอดอยากปากแห้ง   

ยืนยัน เคยได้ยินครับ Confirm


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: *bonny ที่ 02-08-2006, 17:44
แอ่นแอ๊น พูดได้ตรงใจมากๆ

กับคำว่า "ประชาชนรอทีหลังได้" (ขอแก้ปัญหาส่วนตัวก่อน)

......

วันนี้ระเบิดเถิดเทิงกันทั้งภาคใต้ รู้ไหมว่า มท.1 พุดว่าอย่างไร ท่านบอกว่า "เป็นเพราะแรงกดดันที่ทางการเร่งปราบปราม......และเรารู้ล่วงหน้ามาก่อนเนื่องจากการข่าวดีขึ้น ทำให้สามารถป้องกันได้"

ตกลงเอาดีใส่ตัวตลอดอย่างนี้ ปัญหาใต้มันจะจบอย่างไรครับ??????

ถ้าไม่มีระเบิด ท่านก็บอกว่า การปราบปรามได้ผล
พอมีระเบิด บอกเพราะ ผู้ก่อการร้ายถูกกดดันจึงต้องออกมาปล่อยของ

ส่วนนายกพูดอย่างไรรู้ไหมครับ????

"ปัญหาภาคใต้มันมีที่มาสะสมหลายสิบปีแล้ว จะให้แก้จบทันทีทันใดไม่ได้หรอก" 

อ้าว..ปีที่แล้วยังจำได้ พูดหลายครั้ง "จะต้องจบใน 30วัน" "ต้องจบภายในเดือนหน้า ผมจะไปบัญชาการเอง"
สงสัยเป็นโรคขี้ลืมขึ้นสมอง

ดีครับดี พูดได้ดีเสมอ แต่ไม่เคยพูดถึงความผิดของตัวเอง


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: AsianNeocon ที่ 02-08-2006, 19:41
คนจีนแต้จิ๋ว มีคำพูดชาวบ้านคำหนึ่ง

โอ๋ยเกี้ย โจ่ยซิมสื่อ
矮仔多心事
แปลตรงๆว่า คนเตี้ยคิดมาก แต่ใช้ในหมายความว่า คนเตี้ย(เตี้ยแบบแขนขาสั้น)มักคิดแต่เรื่องซิกแซ็กเต็มสมอง


เชื่อว่าไอ้เตี้ยก็รู้ดี ตรงกับมันเลย


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 02-08-2006, 19:46
ผมคงคิดว่า บรรหารเป็นตัวเลือกลำดับท้ายๆ ด้วยเหตุผลที่ว่า ชอบแทงกั๊ก หวังเอาตัวรอด


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: THX ที่ 02-08-2006, 19:50
ฮ่าๆๆๆ  คุณบรรหารอยู่ในถนนการเมืองมาหลายสิบปี ในขณะที่คุณทักษิณเข้ามาไม่ถึง 10 ปี ในขณะที่คุณมาร์ค 14 ปี นักการเมืองที่ดีก็คือผู้ที่เอาตัวรอดเก่งเพราะเหตุการณ์ใหม่ๆเกิดขึ้นทุกวัน คุณบรรหารเองก็จัดอยู่ในระดับหัวแถวที่ขนาดโดนฝนห่าใหญ่...พรรคชท.ยังดำรงอยู่ได้ถึงวันนี้


ส่วนโฆษณาของคุณมาร์คอาจดูดีในสายตาของคนกรุงเทพฯ...แต่โจทย์ที่ยังตอบไม่ได้สำหรับผู้ที่ชื่นชมพรรคปชป.ก็คือ นโยบายลดค่าครองชีพและเพิ่มเงินเดือนนั้นในทางหลักเศรษฐศาสตร์มันค้านกันคนละเรื่องเลย ในเมื่อค่าครองชีพที่หมายถึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคก็ล้วนแต่มีค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินเดือนกว่า 30% ของต้นทุนการผลิต

ภาพในสปอร์ตออกมาดูสวยในแง่production แต่ในเรื่องcontentออกมาแนวฮากลิ้งแบบนี้...คนกรุงเทพฯฉลาดหรือโง่กันแน่เอ่ย!?!  :roll:

ทักษิณเข้าการเมืองไม่ถึง 10 ปี จริงเหรอ ใครที่มันเคยนั่งเป็นรองนายกสมัยบรรหารเป็นนายกรัฐมนตรีนะ แล้วหัวหน้าพรรคพลังธรรมคนไหนที่บอกจะแก้ปัญหาจราจรใน 6 เดือน แล้วปี 2540 รองนายกหน้าเหลี่ยม ๆ นี่ชื่ออะไรนะ นับดูมากกว่า 10 ปีอีกมั่ง แล้วเข้ามาเคยทำประโยชน์อะไรให้ประเทศชาติมั่ง นอกจากเก็งกำไรค่าเงินบาท และสัมปทานโทรศัพท์มือถือ


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: decison_making ที่ 02-08-2006, 20:13
ก็ชอบแทงกั้กซะเสียเลย
ไว้ใจได้ที่ไหน อ้ายเตี้ยเนี่ย


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: superman ที่ 02-08-2006, 21:33

ทักษิณเข้าการเมืองไม่ถึง 10 ปี จริงเหรอ ใครที่มันเคยนั่งเป็นรองนายกสมัยบรรหารเป็นนายกรัฐมนตรีนะ แล้วหัวหน้าพรรคพลังธรรมคนไหนที่บอกจะแก้ปัญหาจราจรใน 6 เดือน แล้วปี 2540 รองนายกหน้าเหลี่ยม ๆ นี่ชื่ออะไรนะ นับดูมากกว่า 10 ปีอีกมั่ง แล้วเข้ามาเคยทำประโยชน์อะไรให้ประเทศชาติมั่ง นอกจากเก็งกำไรค่าเงินบาท และสัมปทานโทรศัพท์มือถือ

จ๊ะทิงจา จำข้อมูลของเจ้านายผิดหรือนี่ ต่อไปจะเชื่อถือได้อย่างไร?


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: stevie joke ที่ 02-08-2006, 22:56
เติ้งเคยถูกประจานความจริงเรื่องเป็นคนต่างด้าวไม่ใช่หรือ

คนอย่างนี้จะเป็นมังกรได้ยังไง


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 03-08-2006, 13:36
ฮ่าๆๆๆ  คุณบรรหารอยู่ในถนนการเมืองมาหลายสิบปี ในขณะที่คุณทักษิณเข้ามาไม่ถึง 10 ปี ในขณะที่คุณมาร์ค 14 ปี นักการเมืองที่ดีก็คือผู้ที่เอาตัวรอดเก่งเพราะเหตุการณ์ใหม่ๆเกิดขึ้นทุกวัน คุณบรรหารเองก็จัดอยู่ในระดับหัวแถวที่ขนาดโดนฝนห่าใหญ่...พรรคชท.ยังดำรงอยู่ได้ถึงวันนี้


ส่วนโฆษณาของคุณมาร์คอาจดูดีในสายตาของคนกรุงเทพฯ...แต่โจทย์ที่ยังตอบไม่ได้สำหรับผู้ที่ชื่นชมพรรคปชป.ก็คือ นโยบายลดค่าครองชีพและเพิ่มเงินเดือนนั้นในทางหลักเศรษฐศาสตร์มันค้านกันคนละเรื่องเลย ในเมื่อค่าครองชีพที่หมายถึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคก็ล้วนแต่มีค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินเดือนกว่า 30% ของต้นทุนการผลิต

ภาพในสปอร์ตออกมาดูสวยในแง่production แต่ในเรื่องcontentออกมาแนวฮากลิ้งแบบนี้...คนกรุงเทพฯฉลาดหรือโง่กันแน่เอ่ย!?!  :roll:



ส่วนโฆษณาของคุณมาร์คอาจดูดีในสายตาของคนกรุงเทพฯ...แต่โจทย์ที่ยังตอบไม่ได้สำหรับผู้ที่ชื่นชมพรรคปชป.ก็คือ  นโยบายลดค่าครองชีพและเพิ่มเงินเดือนนั้นในทางหลักเศรษฐศาสตร์มันค้านกันคนละเรื่องเลย ในเมื่อค่าครองชีพที่หมายถึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคก็ล้วนแต่มีค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินเดือนกว่า 30% ของต้นทุนการผลิต

ผมไม่ใช่นักการเมืองหรือคนของนักธุรกิจการเมือง ที่มีต้นทุนทางการเมืองบวกเข้าไปในราคาสินค้าด้วย แต่ผมเป็นผู้ประกอบสัมมาชีพ  จึงเห็นว่าความคิดเห็นของคุณอภิสิทธิ์จะเป็นไปได้ ด้วยสำนึกของนักการเมืองที่ไม่ได้เป็นนักธุรกิจการเมืองที่แสวงหากำไรส่วนเกินจากประเทศชาติ ระบบเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเป็นทุนสะสมสร้างฐานการเมืองและความล่ำรวยต่อไป....

ถ้าคุณอภิสิทธิ์จะไม่เบียดบัง รีดไถ่จากนักธุรกิจ พ่อค้า ไม่เรียกชักเปอร์เซ็น ไม่เรียกค่านายหน้าสัมปทาน ขอหุ้นลมในธุรกิจผูกขาดและกิจการของนักธุรกิจที่ประกอบสัมมาชีพ  ต้นทุนสินค้าและบริการจะลดราคาได้ทันที....

ผมยกตัวอย่างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เบนซิน ต่างๆ เพราะปกป้องให้บริษัทค้าน้ำมันได้ผลกำไรปกติหรือมากกว่าปกติ โดยเข้าไปสนับสนุน อุดหนุน แบกภาระภาษี หรือ ราคาส่วนหนึ่งจากเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศ  การที่ราคาขายน้ำมันต่ำกว่า เพราะรัฐบาลเข้าไปอุดหนุนราคา ทำให้ผู้บริโภคไม่รู้สึกกับราคาแท้จริง ไม่ลดการบริโภคน้ำมัน ตัดสินใจซื้อรถยนต์ใหม่ หรือ รถยนต์เก่า เพราะคิดว่า รัฐบาลจะสนับสนุนราคาน้ำมันต่อไป...

ทำให้ผู้บริโภคส่วนหนึ่งที่ไม่รู้จักคิด ใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เพราะคิดว่าได้ใช้จ่ายน้ำมันถูกกว่าคนชาติอื่นๆ  นอกจากนี้ยังปล่อยให้บริษัทค้าน้ำมันรวมหัวกันกำหนดราคาขายเสรี ไม่ได้เข้าไปตรวจสอบต้นทุนที่แท้จริง เพราะผู้นำฯ ผู้รับผิดชอบฯ มีส่วนได้ส่วนเสียในผลกำไรของบริษัทน้ำมันและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง.....

1. คนที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นยานพาหนะเดินทางไปประกอบธุรกิจหรือท่องเที่ยว ส่วนหนึ่งมาจากการตัดสินใจผิดพลาดของความเชื่อราคาน้ำมัน..... :!:

2. การเร่งร้ดการบริโภคภายในประเทศ ทำให้ส่งเสริมการบริโภคฟุ่มเฟือย การสนับสนุนให้คนในชนบท ครูต่างจังหวัด ใช้"มือถือ" และสินค้าอื่นๆฯ สร้างนิสัย"บริโภคนิยม"ทำให้มีค่าใช้จ่ายโดยตรงเพิ่มขึ้น และค่าใช้ทางอ้อมเพิ่มขึ้นด้วย....

3.  การสามารถลดค่าใช้จ่ายลง เหมือนมีรายได้เพิ่มขึ้น มีเงินเดือนเพิ่มสำหรับตนเอง โดยเฉพาะผู้ประกอบการ ผู้เป็นเจ้าของกิจการ...

4. ธุรกิจที่รายได้สม่ำเสมอ แน่นอน และลดค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่ากระแสไฟฟ้าจากรัฐบาลธรรมาภิบาล ค่าเบี้ยใบ้รายทาง เป็นต้น ย่อมมีผลกำไรเพิ่มขึ้น ที่จะปรับอัตราเงินเดือนเพิ่มให้พนักงานได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งต้องใช้เวลาอธิบายให้เข้าใจ...

5. ..........ฯลฯ



คุณ"อะไรจ๊ะ" อยู่ในสิ่งแวดล้อมรัฐบาลทุนนิยมผูกขาด ที่นักธุรกิจการเมืองประกอบธุรกิจที่ต้องการกำไรสูงสุด ยอมเสียค่าใช้จ่ายในการผูกขาด แต่ไม่ยอมเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็นสวัสดิการพนักงาน...ฯลฯ ย่อมไม่เห็นหนทางที่นักธุรกิจการเมือง เจ้าของสัมปทานจะทำอย่างนั้นให้สังคม.....



หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: The Last Emperor ที่ 03-08-2006, 13:49
ฮ่าๆๆๆ  คุณบรรหารอยู่ในถนนการเมืองมาหลายสิบปี ในขณะที่คุณทักษิณเข้ามาไม่ถึง 10 ปี ในขณะที่คุณมาร์ค 14 ปี นักการเมืองที่ดีก็คือผู้ที่เอาตัวรอดเก่งเพราะเหตุการณ์ใหม่ๆเกิดขึ้นทุกวัน คุณบรรหารเองก็จัดอยู่ในระดับหัวแถวที่ขนาดโดนฝนห่าใหญ่...พรรคชท.ยังดำรงอยู่ได้ถึงวันนี้


ส่วนโฆษณาของคุณมาร์คอาจดูดีในสายตาของคนกรุงเทพฯ...แต่โจทย์ที่ยังตอบไม่ได้สำหรับผู้ที่ชื่นชมพรรคปชป.ก็คือ นโยบายลดค่าครองชีพและเพิ่มเงินเดือนนั้นในทางหลักเศรษฐศาสตร์มันค้านกันคนละเรื่องเลย ในเมื่อค่าครองชีพที่หมายถึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคก็ล้วนแต่มีค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินเดือนกว่า 30% ของต้นทุนการผลิต

ภาพในสปอร์ตออกมาดูสวยในแง่production แต่ในเรื่องcontentออกมาแนวฮากลิ้งแบบนี้...คนกรุงเทพฯฉลาดหรือโง่กันแน่เอ่ย!?!  :roll:



ส่วนโฆษณาของคุณมาร์คอาจดูดีในสายตาของคนกรุงเทพฯ...แต่โจทย์ที่ยังตอบไม่ได้สำหรับผู้ที่ชื่นชมพรรคปชป.ก็คือ  นโยบายลดค่าครองชีพและเพิ่มเงินเดือนนั้นในทางหลักเศรษฐศาสตร์มันค้านกันคนละเรื่องเลย ในเมื่อค่าครองชีพที่หมายถึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคก็ล้วนแต่มีค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินเดือนกว่า 30% ของต้นทุนการผลิต

ผมไม่ใช่นักการเมืองหรือคนของนักธุรกิจการเมือง ที่มีต้นทุนทางการเมืองบวกเข้าไปในราคาสินค้าด้วย แต่ผมเป็นผู้ประกอบสัมมาชีพ  จึงเห็นว่าความคิดเห็นของคุณอภิสิทธิ์จะเป็นไปได้ ด้วยสำนึกของนักการเมืองที่ไม่ได้เป็นนักธุรกิจการเมืองที่แสวงหากำไรส่วนเกินจากประเทศชาติ ระบบเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเป็นทุนสะสมสร้างฐานการเมืองและความล่ำรวยต่อไป....

ถ้าคุณอภิสิทธิ์จะไม่เบียดบัง รีดไถ่จากนักธุรกิจ พ่อค้า ไม่เรียกชักเปอร์เซ็น ไม่เรียกค่านายหน้าสัมปทาน ขอหุ้นลมในธุรกิจผูกขาดและกิจการของนักธุรกิจที่ประกอบสัมมาชีพ  ต้นทุนสินค้าและบริการจะลดราคาได้ทันที....

ผมยกตัวอย่างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เบนซิน ต่างๆ เพราะปกป้องให้บริษัทค้าน้ำมันได้ผลกำไรปกติหรือมากกว่าปกติ โดยเข้าไปสนับสนุน อุดหนุน แบกภาระภาษี หรือ ราคาส่วนหนึ่งจากเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศ  การที่ราคาขายน้ำมันต่ำกว่า เพราะรัฐบาลเข้าไปอุดหนุนราคา ทำให้ผู้บริโภคไม่รู้สึกกับราคาแท้จริง ไม่ลดการบริโภคน้ำมัน ตัดสินใจซื้อรถยนต์ใหม่ หรือ รถยนต์เก่า เพราะคิดว่า รัฐบาลจะสนับสนุนราคาน้ำมันต่อไป...

ทำให้ผู้บริโภคส่วนหนึ่งที่ไม่รู้จักคิด ใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เพราะคิดว่าได้ใช้จ่ายน้ำมันถูกกว่าคนชาติอื่นๆ  นอกจากนี้ยังปล่อยให้บริษัทค้าน้ำมันรวมหัวกันกำหนดราคาขายเสรี ไม่ได้เข้าไปตรวจสอบต้นทุนที่แท้จริง เพราะผู้นำฯ ผู้รับผิดชอบฯ มีส่วนได้ส่วนเสียในผลกำไรของบริษัทน้ำมันและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง.....

1. คนที่ตัดสินใจใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นยานพาหนะเดินทางไปประกอบธุรกิจหรือท่องเที่ยว ส่วนหนึ่งมาจากการตัดสินใจผิดพลาดของความเชื่อราคาน้ำมัน..... :!:

2. การเร่งร้ดการบริโภคภายในประเทศ ทำให้ส่งเสริมการบริโภคฟุ่มเฟือย การสนับสนุนให้คนในชนบท ครูต่างจังหวัด ใช้"มือถือ" และสินค้าอื่นๆฯ สร้างนิสัย"บริโภคนิยม"ทำให้มีค่าใช้จ่ายโดยตรงเพิ่มขึ้น และค่าใช้ทางอ้อมเพิ่มขึ้นด้วย....

3.  การสามารถลดค่าใช้จ่ายลง เหมือนมีรายได้เพิ่มขึ้น มีเงินเดือนเพิ่มสำหรับตนเอง โดยเฉพาะผู้ประกอบการ ผู้เป็นเจ้าของกิจการ...

4. ธุรกิจที่รายได้สม่ำเสมอ แน่นอน และลดค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่ากระแสไฟฟ้าจากรัฐบาลธรรมาภิบาล ค่าเบี้ยใบ้รายทาง เป็นต้น ย่อมมีผลกำไรเพิ่มขึ้น ที่จะปรับอัตราเงินเดือนเพิ่มให้พนักงานได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งต้องใช้เวลาอธิบายให้เข้าใจ...

5. ..........ฯลฯ


คุณ"อะไรจ๊ะ" อยู่ในสิ่งแวดล้อมรัฐบาลทุนนิยมผูกขาด ที่นักธุรกิจการเมืองประกอบธุรกิจที่ต้องการกำไรสูงสุด ยอมเสียค่าใช้จ่ายในการผูกขาด แต่ไม่ยอมเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็นสวัสดิการพนักงาน...ฯลฯ ย่อมไม่เห็นหนทางที่นักธุรกิจการเมือง เจ้าของสัมปทานจะทำอย่างนั้นให้สังคม.....


คุณปุฯพูดยังกะว่าถ้าคุณมาร์คเป็นนายกฯแล้วประเทศไทยจะไม่มีระบบสัมปทานแน๊ะ ที่น่าสนใจมากกว่าก็คือ ในโฆษณาออกมาไม่ถึง 1 นาที มีคำพูดโก้หรูกว้างๆ...แต่ทำให้คนฉลาดอย่างคุณปุเชื่อสนิทใจว่าคุณมาร์คจะเวิร์ค คุณปุเห็นเนื้อใน/นโยบายของปชป.หรือยังเอ่ย? ทำไมถึงกล้าพูดว่าคุณมาร์คจะเวิร์คโดยที่นโยบายของปชป.ยังไม่ออกมาครับ?

เอาสั้นๆแค่นี้ก่อนน๊ะครับ


หัวข้อ: Re: **"เติ้ง"..จิ้งเหลนที่คิดว่าตัวเองเป็นมังกร**
เริ่มหัวข้อโดย: *bonny ที่ 04-08-2006, 07:40
สวัสดีครับ..

คุณอะไรจ๊ะ คุณปุถุชน..

นโยบายและแนวทางของปชป.ที่นำเสนอผ่านจอทีวี ก็คือ โฆษณาชวนเชื่อของพรรคปชป.ให้ประชาชนลองเลือกใช้ดู หากเชื่อถือในตัวคุณอภิสิทธิ์และทีมงาน

ไม่ได้บังคับว่า คุณอะไรจ๊ะจะต้องเชื่อตาม คนที่เชื่อก็มีเหมือนกัน

แต่สุดท้ายจะเป็นจริงตามสปอดหรือไม่เป็นสิ่งที่ปชป.และคุณอภิสิทธิ์จะต้องพิสูจน์ตัวเองเมื่อมีโอกาส

ความเป็นไปได้ของนโยบายและแนวทาง ผมบอกแล้วว่า เป็นไปได้อย่างแน่นอน ถ้านายอภิสิทธิ์มีกึ๋น