หัวข้อ: สตง."เตรียมออกคำสั่ง เรียก5บิ๊กสรรพากรสอบ ลูกนายกฯซื้อหุ้นเว้นภาษี เริ่มหัวข้อโดย: control_J ที่ 31-07-2006, 11:16 มติชน 31/07/2549 สตง.เดินหน้าลุยสอบ"อธิบดีสรรพากร" และอีก 4 ขรก.ระดับสูง กรณี"พานทองแท้-พิณทองทา"ซื้อหุ้น"ชินคอร์ป"จากแอมเพิลริช เผยเตรียมออกคำสั่งเรียก คาดยื่นถึงกรมสรรพากรภายในสัปดาห์นี้ แหล่งข่าวจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมว่า สตง.เตรียมออกคำสั่งเรียกข้าราชการกรมสรรพากรจำนวน 5 ราย ประกอบด้วย นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมสรรพากร นางไพฑูรย์ พงษ์เกษร รองอธิบดีกรมสรรพากร นางเบญจา หลุยเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง น.ส.โมฬีรัตน์ บุญญาศิริ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย และนายกริช วิปุลานุสาสน์ นิติกร 9 มาให้ข้อมูลกรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรชาย และบุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซื้อหุ้นของบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจากบริษัท แอมเพิลริช ทั้งนี้การออกคำสั่งเรียกอยู่ในระหว่างขออนุมัติจากผู้ว่าการ สตง. ก่อนหน้านี้ สตง.ทำหนังสือเชิญไปยังข้าราชการกรมสรรพากรทั้ง 5 รายดังกล่าว เพื่อมาให้ข้อมูลการซื้อหุ้นของนายพานทองแท้ และน.ส.พิณทองทา ต่อมากรมสรรพากรได้ทำหนังสือที่ กค 0706/6159 แจ้งว่าพร้อมจะให้ความร่วมมือ แต่ขอให้สตง.ระบุขอบเขต สาระสำคัญ และประเด็นของข้อมูลที่ต้องการทราบรายละเอียด เพื่อขอสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องพร้อมรับรองสำเนาถูกต้องจากกรมสรรพากรประกอบการพิจารณาตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ที่กำหนดไว้ในมาตรา 42 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 แหล่งข่าวกล่าวว่า เมื่อกรมสรรพากรต้องการให้ สตง.ระบุขอบเขตครอบคลุมเรื่องราวที่ขอให้มาตอบข้อซักถามทั้งหมด ทั้งที่หนังสือเชิญข้าราชการทั้ง 5 แต่เดิมชี้แจงไปแล้ว จากนี้ สตง.จึงอยู่ระหว่างร่างหนังสืออีกครั้ง แต่จะเป็นไปในลักษณะออกคำสั่งเรียกข้าราชการกรมสรรพากรทั้ง 5 คนแทน โดยเป็นการออกคำสั่งเรียก อาศัยอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 42 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 จากนั้นจะขออนุมัติจากผู้ว่าการ สตง.ต่อไป คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะส่งหนังสือถึงกรมสรรพากรได้ "การออกคำสั่งเรียกสอบถามข้อมูลครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากการซ้ำเติม หรือเช็คบิลผู้ที่เกี่ยวข้องกับการให้ความช่วยเหลือครอบครัวชินวัตร กรณีการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป แต่ถือเป็นหน้าที่หลักของ สตง.เมื่อสังคมยังตั้งคำถามกับภาระภาษีจากการซื้อขายหุ้นดังกล่าว และหลายคนยังแคลงใจ สตง.ในฐานะพนักงานซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบรายรับ รายจ่ายของแผ่นดิน จึงต้องหาข้อเท็จจริง ตรวจสอบเพื่อให้เกิดความป้องปราม และรักษาประโยชน์ของส่วนราชการ หากพบความผิดปกติต้องทำให้เกิดมาตรฐานที่ถูกต้องต่อไป" แหล่งข่าวระบุ ทั้งนี้ การเรียกข้าราชการมาสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายรับและรายจ่ายงบประมาณเป็นไปตามอำนาจของสตง.สามารถทำได้ และหากผู้ถูกเรียกปฏิเสธไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดตามมาตรา 64 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 มีโทษจำคุก 6 เดือน และปรับ 1 หมื่นบาท ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสาเหตุที่ สตง.เข้ามาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวเพราะได้รับแจ้งผลการพิจารณาสอบสวนและศึกษาจากคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาสอบสวนและศึกษาเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต วุฒิสภา โดย กมธ.วิสามัญมีความเห็นว่า ข้าราชการระดับสูงในกระทรวงการคลังและกรมสรรพากรหลายคนกระทำทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่โดยการละเว้นไม่เรียกเก็บภาษีอากรจากนายพานทองแท้ และน.ส.พิณทองทาทำให้รัฐ กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง และประชาชนเสียหายเป็นเงินประมาณ 5,846 ล้านบาท ทั้งนี้ กมธ.วิสามัญฯเห็นว่าข้าราชการระดับสูงหลายคนละเว้นไม่เรียกเก็บภาษีจากนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทานั้นเป็นกรณีที่บริษัท แอมเพิลริช อินเวสต์เมนท์ จำกัด ขายหุ้นชินคอร์ป จำนวน 329.2 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1 บาท ให้แก่บุคคลทั้งสองนอกตลาดหลักทรัพย์ ขณะที่ราคาตลาด 49 บาทต่อหุ้น (เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2549) ทำให้บุคคลทั้งสองได้รับประโยชน์จากส่วนต่างราคาหุ้น เป็นเงิน 15,501 ล้านบาท ส่วนต่างดังกล่าวเข้าลักษณะเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร จึงต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาคิดเป็นเงิน 5,864 ล้านบาท ในรายงานของ กมธ.วิสามัญระบุว่าสำหรับข้ออ้างของกรมสรรพากรที่ว่าบุคคลทั้งสองขายหุ้นชินคอร์ปผ่านตลาดหลักทรัพย์ให้แก่บริษัท เทมาเส็ก โฮลดิ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 23 มกราคม ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีนั้น จะเป็นส่วนต่างราคาหุ้นที่บุคคลทั้งสองขายให้แก่บริษัทเทมาเส็กในราคา 49.25 บาท จากที่ซื้อมาจากบริษัทแอมเพิลริช 49 บาท โดยมีส่วนต่างราคาหุ้นละ 25 สตางค์ รวมเป็นเงินทั้งเงิน 82.3 ล้านบาท หัวข้อ: Re: สตง."เตรียมออกคำสั่ง เรียก5บิ๊กสรรพากรสอบ ลูกนายกฯซื้อหุ้นเว้นภาษี เริ่มหัวข้อโดย: varada ที่ 31-07-2006, 11:18 รายการน้ำลด ตอผุดครับทั่น แต่ระวังหน่อย ปลาไหลคอกนี้ลื่น ต้องใช้ใบข่อยช่วยเยอะๆถึงจะจับอยู่
หัวข้อ: Re: สตง."เตรียมออกคำสั่ง เรียก5บิ๊กสรรพากรสอบ ลูกนายกฯซื้อหุ้นเว้นภาษี เริ่มหัวข้อโดย: so what? ที่ 31-07-2006, 11:28 ไอ้พวกข้าราชการที่ชอบทำตัวเป็นสุนัขรับใช้ไอ้เหลี่ยมนี่
ต้องเอาไปยัดคุกแบบเดียวกับแก๊งสามหนาให้เข็ดหลาบครับ หัวข้อ: Re: สตง."เตรียมออกคำสั่ง เรียก5บิ๊กสรรพากรสอบ ลูกนายกฯซื้อหุ้นเว้นภาษี เริ่มหัวข้อโดย: koo ที่ 31-07-2006, 11:29 จะได้หรือ :? ตอนซื้อจากแอมเพิลริช ก็ไปซื้อ(โอนนะแหละ) ที่สิงคโปร์
ตอนขายให้เทมาเส็กค่อยขายในเมืองไทย ถ้าจะตรวจน่าไปตรวจตอนที่ แอมเพิลริชซื้อหุ้นจาก ชิน ว่าบริษัทที่มันตั้งด้วยทุนจดทะเบียนเหรียญเดียว ได้จ่ายค่าหุ้นตอนนั้นหรือเปล่า ความเห็นส่วนตัวนะ สงสัยจะเหลว ดีไม่ดีไปฟอกตัวเพิ่มให้อีกหน่วยงานหนึ่ง การขายคราวนี้ใครเป็นมือกฏหมาย :? ระดับไหนแล้ว ที่ผิดเขาก็คำนวนค่าปรับไว้แล้วจิ้บจ้อย ผิดหนักๆก็รวยแล้วงกนี่แหละ หัวข้อ: Re: สตง."เตรียมออกคำสั่ง เรียก5บิ๊กสรรพากรสอบ ลูกนายกฯซื้อหุ้นเว้นภาษี เริ่มหัวข้อโดย: In The Name Of Justice. ที่ 31-07-2006, 11:31 ระดับ สตง. น่าจะเจ๋งนะครับ
ต้องดูว่าใครเป็นคนตรวจสอบด้วยน่ะสิครับ เพี้ยง ขอให้โดนทีเหอะวะ หัวข้อ: Re: สตง."เตรียมออกคำสั่ง เรียก5บิ๊กสรรพากรสอบ ลูกนายกฯซื้อหุ้นเว้นภาษี เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 31-07-2006, 11:40 งานนี้ต้องช่วยกันขุดเยอะๆ
หัวข้อ: Re: สตง."เตรียมออกคำสั่ง เรียก5บิ๊กสรรพากรสอบ ลูกนายกฯซื้อหุ้นเว้นภาษี เริ่มหัวข้อโดย: แนวสกา ที่ 31-07-2006, 11:58 :Dการตรวจสอบเริ่มทยอยกันมาแล้ว หลังจากไปเที่ยวตั้งนาน(รึโดนหน่วงเหนี่ยวหว่า) :D
หัวข้อ: Re: สตง."เตรียมออกคำสั่ง เรียก5บิ๊กสรรพากรสอบ ลูกนายกฯซื้อหุ้นเว้นภาษี เริ่มหัวข้อโดย: TheBluECaT ที่ 31-07-2006, 12:05 จะเอาผิดเรื่องที่ "ติ๊ก" ผิดได้รึเปล่าล่ะครับ...
คราวหน้าจะได้ไม่มีคนมาทำผิด แล้วอ้าง "ติ๊ก" ผิดกันบ่อยๆ :evil: หัวข้อ: Re: สตง."เตรียมออกคำสั่ง เรียก5บิ๊กสรรพากรสอบ ลูกนายกฯซื้อหุ้นเว้นภาษี เริ่มหัวข้อโดย: z e a z ที่ 31-07-2006, 12:25 ให้กำลังใจ คุณหญิงจารุวรรณ และ จนท สตง ทุกๆคนครับ :mozilla_laughing: :mozilla_laughing: :mozilla_laughing:
หัวข้อ: Re: สตง."เตรียมออกคำสั่ง เรียก5บิ๊กสรรพากรสอบ ลูกนายกฯซื้อหุ้นเว้นภาษี เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 31-07-2006, 13:12 จาก กกต.ถึงสรรพากร
คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12 โดย ประสงค์ วิสุทธิ์ prasong_lert@yahoo.com "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" เป็นวลีที่ได้ยินบ่อยในช่วงนี้ หลังจากที่ศาลอาญามีคำพิพากษาให้จำคุก พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กับพวก คนละ 4 ปี และศาลฎีกามีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวตัวด้วยเหตุผลว่า ความผิดตามคำพิพากษาของศาลอาญา เป็นความผิดร้ายแรงก่อให้เกิดความเสียหายแก่ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และก่อให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมือง เชื่อว่าการปล่อยตัวจะทำให้เกิดอันตรายและเป็นอุปสรรคในการดำเนินคดีในศาล (อุทธรณ์) "กรรม" ในที่นี้น่าจะหมายถึง การกระทำโดยเจตนาซึ่งผู้กระทำย่อมได้รับผลแห่งการกระทำนั้น ในช่วงที่ผ่านมา มีข้าราชการระดับสูงบางกลุ่มชอบทำตัวเป็น "ข้าทาส" รับใช้ผู้มีอำนาจทางการเมืองและทางการเงิน ยอมทำทุกอย่าง เพื่อสนองความต้องการของผู้มีอำนาจ แม้จะผิดกฎหมายและจริยธรรมโดยหวังว่าจะได้รับผลประโยชน์ "ต่างตอบแทน" ในรูปแบบต่างๆ และคิดว่าผู้มีอำนาจจะคอยคุ้มกะลาให้อยู่รอดปลอดภัยไปได้ตลอด อย่างไรก็ตาม คิดว่าผลแห่งกรรมของอดีต กกต.ทั้งสามคนน่าจะเป็นตัวอย่างที่ทำให้ข้าราชการเหล่านี้สำนึกได้ไม่มากก็น้อย สัปดาห์ที่ผ่านมาเล่าถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตข้าราชการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ยื่นฟ้องกรมสรรพากรต่อศาลภาษีอากรกลางเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2549 กรณีที่กรมสรรพากรมีคำสั่งคืนเงิน (เช็ค) ภาษีจำนวน 20,000 บาท ให้แก่นายเรืองไกรซึ่งกรมสรรพากรเรียกเก็บจาก "ส่วนต่าง" ราคาหุ้นที่นายเรืองไกรซื้อจากบิดาตนเองโดยกรมสรรพากรอ้างเหตุผลในการคืนภาษีว่า เป็นการประเมินผิดพลาด แต่นายเรืองไกรเห็นว่า การเสียภาษีที่คิดจาก "ส่วนต่าง" ราคาหุ้นถูกต้องแล้วเพราะเป็นหน้าที่ของผู้มีเงินได้ทุกคนคำฟ้องของนายเรืองไกรระบุว่า คำสั่งให้คืนเงินภาษีของกรมสรรพากร เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยประมวลรัษฎากรเพราะคำวินิจฉัยของคณะกรรมการอุทธรณ์เป็นที่สุดเว้นแต่จะถูกเพิกถอนด้วยคำพิพากษาของศาล กรมสรรพากรไม่มีอำนาจใดๆ ที่จะคืนเงินภาษีและเงินเพิ่มที่ได้ชำระไปแล้ว เพราะเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีเจตนาทุจริต ซ่อนเร้น เป็นการบิดเบือนการใช้อำนาจและใช้อำนาจนั้นโดยไม่สุจริต เกิดจากการที่กรมสรรพากรประสงค์ต่อผลในการนำกรณีของนายเรืองไกรไปใช้เป็นข้ออ้างเพื่อประโยชน์แก่ผู้มีอำนาจทางการเมือง และญาติพี่น้องของนักการเมืองเหล่านั้น เป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้มีอำนาจทางการเมืองและเครือญาติตามที่นายเรืองไกรระบุในคำฟ้อง มีครอบครัว "ชินวัตร" ของ พ.ต.ท.ทักษิณรวมอยู่ด้วย เพราะครอบครัวชินวัตรมีการโอนขายหุ้นชินคอร์ปกันเองในราคาต่ำกว่าราคาตลาดอย่างน้อย 2 ครั้งในปี 2543 และปี 2549 มี "ส่วนต่าง" กว่า 25,000 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าภาษี (ถ้าต้องเสีย) เกือบ 10,000 ล้านบาท คำถามคือ ถ้าศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าการเสียภาษีจาก "ส่วนต่าง" ราคาหุ้นของนายเรืองไกรถูกต้องแล้ว กรมสรรพากรจะดำเนินการอย่างไร อ้างอายุความหรือเหตุอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงที่จะดำเนินการกับครอบครัวชินวัตร?นอกจากกรณีนายเรืองไกรแล้ว สตง.ยังเข้าไปตรวจสอบกรณีที่ครอบครัวชินวัตรโอนขายหุ้นชินคอร์ปมูลค่า 73,000 ล้านบาท โดยไม่เสียภาษีแม้แต่สลึงเดียวโดยทำหนังสือเชิญข้าราชการระดับสูงตั้งแต่อธิบดีไปสอบปากคำ แต่ทางกรมสรรพากรยังสงวนท่าทีให้ทาง สตง.แจ้งประเด็นที่จะสอบไปให้ทราบก่อน เท่าที่ทราบ สตง.จะเน้นประเด็นที่บริษัทแอมเพิลริช อินเวสต์เมนต์ จำกัด ขายหุ้นชินคอร์ปจำนวน 329.2 ล้านหุ้น ในราคาเพียง 1 บาท ขณะที่ราคาตลาดกว่า 40 บาท ให้แก่นายพานทองแท้และ น.ส.พิณทองทา ทำให้บุคคลทั้งสองได้ประโยชน์จาก "ส่วนต่าง" กว่า 15,000 ล้านบาท ถ้าย้อนข้อมูลเก่าจะพบว่าความพยายามในการตรวจสอบภาษีการโอนหุ้นของครอบครัวชินวัตรมีมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยช่วงปี 2545 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชุดแรกเคยมีมติให้ไต่สวนนข้าราชการระดับสูงของกรมสรรพากรยุคนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล (ปลัดกระทรวงการคลัง) เป็นอธิบดี เนื่องจากเห็นว่าน่าจะมีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกรณีไม่ประเมินภาษีการโอนหุ้นชินคอร์ป มูลค่า 738 ล้านบาท ที่คุณหญิงพจมาน ชินวัตร โอน (ฟรี) ให้แก่นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่บุญธรรม แต่ทำในลักษณะนิติกรรมอำพรางคือ ทำเป็นซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ จนกระทั่ง ป.ป.ช.ตรวจสอบพบ คุณหญิงพจมานกลับอ้างว่าเป็นการยกหุ้นให้โดยเสน่หาตามขนบธรรมประเพณีและเป็นการอุปการะโดยธรรมจรรยาซึ่งกรมสรรพากรก็เชื่ออย่างเชื่องๆ ปรากฏว่าการไต่สวนเงียบหายไปท่ามกลางอิทธิพลทางการเมืองและการเงินแผ่ครอบคลุมองค์กรอิสระพร้อมๆ กับ ป.ป.ช.ชุดเก่าหมดวาระลง ปัจจุบันอยู่ในภาวะ "รังโจร (ใกล้) แตก" อิทธิพลทางการเมืองกำลังเสื่อมถอย และไม่อาจคุ้มกะลาหัวใครได้อีกต่อไป ถ้าข้าราชการระดับสูงบางกลุ่มในกระทรวงการคลังยังไม่กลับตัวกลับใจ อาจต้องรับผลแห่งกรรมเหมือนกับอดีต กกต.ทั้งสามคน http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01col02290749&show=1§ionid=0116&day=2006/07/29 หัวข้อ: Re: สตง."เตรียมออกคำสั่ง เรียก5บิ๊กสรรพากรสอบ ลูกนายกฯซื้อหุ้นเว้นภาษี เริ่มหัวข้อโดย: tom ที่ 31-07-2006, 20:17 อูยยยย...ตื่นเต้น
จะมีใครโดนบ้างมั้ยเนี่ย..ประชาชนรอชมด้วยอาการหัวใจสั่น สาธุ...ขอให้บาปบุญมีจริงด้วยเถอะ....... ทีคนทำมาหากินธรรมดา ไม่ได้เล่นแร่แปรธาตุ ชอบจิกหัวสับโขกดีนัก ทีนักการเมือง..ไม่เห็นทำธุรกิจที่มีประโยชน์โภคผลอะไรกับชาวบ้าน..มีแต่โยกเงินไปมา หลบเร้นซ่อนเงื่อน มันชอบยกไข่ดม ....ไม่รู้เป็นอะไร หัวข้อ: Re: สตง."เตรียมออกคำสั่ง เรียก5บิ๊กสรรพากรสอบ ลูกนายกฯซื้อหุ้นเว้นภาษี เริ่มหัวข้อโดย: คนไทยคนหนึ่ง ที่ 31-07-2006, 21:53 เอาเงิน(ภาษีประชาชน)ฟาดหัวปูนบำเน็ญความดีความชอบไปเรียบร้อยคนละ 6เดือน ขนาดเก็บภาษีไม่เข้าเป้านะนี้
หัวข้อ: สตง."เตรียมออกคำสั่ง เรียก5บิ๊กสรรพากรสอบ ลูกนายกฯซื้อหุ้นเว้นภาษี เริ่มหัวข้อโดย: hison ที่ 21-09-2006, 18:10 "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม"
:slime_dizzy: หัวข้อ: Re: สตง."เตรียมออกคำสั่ง เรียก5บิ๊กสรรพากรสอบ ลูกนายกฯซื้อหุ้นเว้นภาษี เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 21-09-2006, 18:25 ณ.วันนี้ ข้าราชการชั่ว ที่หวังอิงระบอบทักษิณขึ้นเป็นใหญ่ คงนอนไม่หลับ กินไม่อร่อย และถ่ายไม่สะดวก หน้าคงดำ ฝ้ากระขึ้นหน้า ตีนกามาเยือน และหวั่นใจที่ชาติตระกูลต้องมาป่นปี้ เพราะหวังพึ่งทรราชย์ เพื่อข้ามหัวเพื่อนร่วมงานที่ซื่อสัตย์สุจริตขึ้นเป็นใหญ่
กรรมของผู้ใด ก็จะได้รับไปในตราวนี้แหละค่ะ อย่างน้อยๆ ในการโยกย้ายข้าราชการที่จะมีเพื่อล้างระบอบทักษิณ พวกนี้คงเข้ากรุ อย่างหนักก็รับโทษทางสินัย มีคดีความ และหมดอนาคตไปค่ะ หัวข้อ: Re: สตง."เตรียมออกคำสั่ง เรียก5บิ๊กสรรพากรสอบ ลูกนายกฯซื้อหุ้นเว้นภาษี เริ่มหัวข้อโดย: hison ที่ 25-09-2006, 19:22 :slime_worship:
|