หัวข้อ: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 29-07-2006, 19:27 http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?srctag=MDQwMjI4MDc0OQ==&srcday=MjAwNi8wNy8yOA==&search=no
บทความพิเศษ จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงพระปรมาภิไธย ในพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ.2549 โดยให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ ในวันที่ 15 ตุลาคม 2549 และให้บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2549 เป็นต้นไปนั้น ตามความรู้สึกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และสมาชิกพรรคไทยรักไทย ย่อมยินดีอย่างยิ่ง ยินดีที่ดูเหมือน "เกม" กลับมาอยู่ในมือของตนเองตามที่ต้องการแล้ว อันทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณระงับความรู้สึก "ยินดี" เอาไว้ไม่อยู่ เมื่อเข้าใจว่า "ฟ้าเปิด" จึงรีบชิงเสนอให้ที่ประชุมศาลฎีกา สรรหา กกต. ให้ครบ 5 คนเพื่อที่จะเดินหน้าเลือกตั้งตามที่ต้องการ เช่นเดียวกับ 3 กกต. ที่ยืนกรานหัวชนฝา "ไม่ลาออก" มาตลอด ก็ย่อมรู้สึกไปในทางเดียวกัน นั้นคือเมื่อมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ก็มีความหมายว่า ตนเองจะต้องได้ดูแลจัดการเลือกตั้งต่อไป ไม่ต้องลาอออกตามที่หลายฝ่ายกดดัน ทั้งนี้ ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณและ กกต. อาจจะไม่ได้คิดอะไรมากกับคำแถลงของ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ด้วยคงมองว่าเป็น "หลักการทั่วไป" โดย น.พ.สุรพงษ์ระบุว่า นายอาสา สารสิน ราชเลขาธิการ ได้อัญเชิญพระราชกระแสประกอบ พ.ร.ฎ. ดังกล่าวเพื่อเรียนต่อนายกรัฐมนตรีโดยตรงเพื่อให้เร่งรัดดำเนินการสนองพระราชกระแสโดยด่วน 2 ประเด็น คือ 1.เหตุผลที่ทรงลงพระปรมาภิไธยใน พ.ร.ฎ. นั้นก็เพราะมีพระราชประสงค์จะเห็นประเทศชาติกลับไปสู่ความสงบเรียบร้อยโดยเร็ว และ 2.ทรงมีพระราชประสงค์ให้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะมีขึ้นในคราวต่อไป เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริสุทธิ์ และยุติธรรมอย่างแท้จริง แต่หากเมื่อไปพิจารณา พ.ร.ฎ.เลือกตั้งแล้ว ไม่ได้มีเพียงเนื้อหา พ.ร.ฎ. ที่กำหนดวันเลือกตั้งเท่านั้น หากแต่มีหมายเหตุต่อท้าย พ.ร.ฎ. ด้วย ซึ่งน่าสังเกตว่าโดยทั่วไป มักจะไม่ค่อยมี "หมายเหตุ" ต่อท้ายกฎหมาย เช่นคราวนี้ ซึ่งทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณและ กกต. ควรต้องเฉลียวใจ แต่อาจเพราะความ "ยินดี" จึงอาจทำให้มองข้ามไป ทั้งนี้ หมายเหตุได้ระบุว่า ตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2549 ให้มีการยุบสภาผู้แทนราษฎรและให้เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 2 เมษายน 2549 นั้น "แต่ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ 9/2549 ลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2549 วินิจฉัยว่า การดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2549 นั้นเป็นการเลือกตั้งที่ทำให้เกิดผลของการเลือกตั้งที่ไม่เที่ยงธรรมและไม่เป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง จึงเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 2 มาตรา 3 มาตรา 104 วรรคสาม และมาตร 144" ซึ่งเป็นการ "ยืนยัน" และย้ำ "อีกครั้ง" ว่าการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ดำเนินการ "กกต." ชุดนี้แหละ เป็นการดำเนินการที่ 1) การเลือกตั้งที่ไม่เที่ยงธรรม 2) ไม่เป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง 3) เป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ถือเป็นความผิดที่ "ร้ายแรง" ยิ่ง และความผิดที่ร้ายแรงนี้ แปรสู่การลงโทษอย่างเป็นรูปธรรมในวันที่ 25 กรกฎาคม เมื่อศาลอาญาอ่านคำพิพากษาที่ นายถาวร เสนเนียม แห่งพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นฟ้อง กกต. ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ โดยศาลอาญาได้ยืนยันถึงการที่ กกต. จัดการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม มิใช่เป็นการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง สอดคล้องกับหมายเหตุต่อท้าย พ.ร.ฎ. ทุกประการ ทั้งนี้ การประพฤติมิชอบในการปฏิบัติหน้าที่ที่ศาลอาญาระบุไว้คือ 1. สั่งให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ใหม่ใน 38 เขต 15 จังหวัด ในวันที่ 23 เมษายน 2549 โดยการเปิดรับสมัครใหม่ในวันที่ 8-9 เมษายน ทั้งๆ ที่ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย ขัดต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2541 (มาตรา 7/2) ที่ให้อำนาจ กกต. ในการย่นหรือขยายระยะเวลาหรือการดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้งเท่านั้น 2. การเปิดรับสมัครใหม่กำหนดให้ผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยได้หมายเลขเดิมคือ เบอร์ 2 ขณะที่ผู้สมัครจากพรรคใหม่ได้หมายเลขใหม่ เป็นการเสียเปรียบ ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม 3. ทำหนังสือเวียน ลงวันที่ 10 เมษายน 2549 ไปยัง กกต.เขต กำหนดให้ผู้สมัครในเขตเลือกตั้งหนึ่ง สามารถเวียนเทียนไปสมัครใหม่ในอีกเขตหนึ่งได้ เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้ผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยต้องแข่งขันกับการได้คะแนนเสียงร้อยละ 20 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และเป็นการขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 ที่บัญญัติให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งสามารถสมัครได้เพียงเขตเดียว 4. สั่งให้รับสมัครผู้สมัครจากพรรคเล็กใหม่ใน จ.สงขลา ระหว่างวันที่ 19-20 เมษายน 2549 โดยอ้างว่ามีการขัดขวางการรับสมัครและมีการจลาจลซึ่งขัดกับข้อเท็จจริง เป็นการหลีกเลี่ยงมิให้ผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยต้องแข่งขันกับการได้คะแนนเสียงร้อยละ 20 5.การกระทำของ กกต. ที่เริ่มมาตั้งแต่ต้นเป็นการกระทำที่เชื่อมโยงกันมาโดยตลอด แสดงให้เห็นเจตนากระทำผิดดังกล่าวอย่างชัดแจ้ง และที่สุด พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต. นายปริญญา นาคฉัตรีย์ และ นายวีระชัย แนวบุญเนียร กกต. ก็ถูกพิพากษาจำคุกโดยไม่รอลงอาญา 4 ปี ขณะเดียวกัน ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ถือเป็นคำพิพากษาลงโทษที่ถือว่า "หนักและรุนแรง" ยิ่ง หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 29-07-2006, 19:28 และความผิดที่ร้ายแรงนี้ แปรสู่การลงโทษอย่างเป็นรูปธรรมในวันที่ 25 กรกฎาคม เมื่อศาลอาญาอ่านคำพิพากษาที่ นายถาวร เสนเนียม แห่งพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นฟ้อง กกต. ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
โดยศาลอาญาได้ยืนยันถึงการที่ กกต. จัดการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม มิใช่เป็นการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง สอดคล้องกับหมายเหตุต่อท้าย พ.ร.ฎ. ทุกประการ ทั้งนี้ การประพฤติมิชอบในการปฏิบัติหน้าที่ที่ศาลอาญาระบุไว้คือ 1. สั่งให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ใหม่ใน 38 เขต 15 จังหวัด ในวันที่ 23 เมษายน 2549 โดยการเปิดรับสมัครใหม่ในวันที่ 8-9 เมษายน ทั้งๆ ที่ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย ขัดต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2541 (มาตรา 7/2) ที่ให้อำนาจ กกต. ในการย่นหรือขยายระยะเวลาหรือการดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้งเท่านั้น 2. การเปิดรับสมัครใหม่กำหนดให้ผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยได้หมายเลขเดิมคือ เบอร์ 2 ขณะที่ผู้สมัครจากพรรคใหม่ได้หมายเลขใหม่ เป็นการเสียเปรียบ ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม 3. ทำหนังสือเวียน ลงวันที่ 10 เมษายน 2549 ไปยัง กกต.เขต กำหนดให้ผู้สมัครในเขตเลือกตั้งหนึ่ง สามารถเวียนเทียนไปสมัครใหม่ในอีกเขตหนึ่งได้ เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้ผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยต้องแข่งขันกับการได้คะแนนเสียงร้อยละ 20 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และเป็นการขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 ที่บัญญัติให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งสามารถสมัครได้เพียงเขตเดียว 4. สั่งให้รับสมัครผู้สมัครจากพรรคเล็กใหม่ใน จ.สงขลา ระหว่างวันที่ 19-20 เมษายน 2549 โดยอ้างว่ามีการขัดขวางการรับสมัครและมีการจลาจลซึ่งขัดกับข้อเท็จจริง เป็นการหลีกเลี่ยงมิให้ผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยต้องแข่งขันกับการได้คะแนนเสียงร้อยละ 20 5.การกระทำของ กกต. ที่เริ่มมาตั้งแต่ต้นเป็นการกระทำที่เชื่อมโยงกันมาโดยตลอด แสดงให้เห็นเจตนากระทำผิดดังกล่าวอย่างชัดแจ้ง และที่สุด พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต. นายปริญญา นาคฉัตรีย์ และ นายวีระชัย แนวบุญเนียร กกต. ก็ถูกพิพากษาจำคุกโดยไม่รอลงอาญา 4 ปี ขณะเดียวกัน ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ถือเป็นคำพิพากษาลงโทษที่ถือว่า "หนักและรุนแรง" ยิ่ง ไม่ใช่เพียงแค่นั้น หลังศาลอ่านคำพิพากษาแล้ว กกต. ทั้งสาม ยื่นคำร้องขอประกันตัว ปรากฏว่า ไม่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งน่าพิจารณาคำวินิจฉัยของศาลยิ่ง โดยศาลอาญาระบุว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยทั้งสามเป็น กกต. ต้องมีความเป็นกลางทางการเมืองและมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 136 แต่การจัดเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2549 และการเลือกตั้งที่ต่อเนื่องมา โดยจำเลยทั้งสาม กลับถูกพรรคการเมืองหลายพรรคและประชาชนส่วนหนึ่งต่อต้าน นอกจากนี้ ยังมีแพทย์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง และประชาชนหลายสาขาอาชีพทำการประท้วงด้วยการฉีกบัตรเลือกตั้งโดยเปิดเผย ประกอบกับหลายเขตเลือกตั้งที่มีผู้สมัครเพียงคนเดียวพรรคเดียวได้คะแนนเสียงน้อยกว่าร้อยละ 20 ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ผิดปกติของสังคม แทนที่จำเลยทั้งสามจะใส่ใจรีบหาทางแก้ไขความไม่พอใจของประชาชน จำเลยกลับเดินหน้าจัดเลือกตั้งต่อไปทั้งที่ยังไม่มีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งหลายเขตอย่างเป็นทางการจนเกิดการหมุนเวียนผู้สมัครทำให้เกิดวิกฤตศรัทธาต่อการจัดเลือกตั้งของจำเลยทั้งสามมากขึ้นตามลำดับ จำเลยทั้งสามเป็นผู้มีวัยวุฒิและคุณวุฒิเคยดำรงตำแหน่งระดับสูงมาก่อนย่อมตระหนักดีว่า กกต. เป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเมือง การปกครองในระบอบประชาธิปไตย เมื่อประชาชนจำนวนมากรวมทั้งพรรคการเมืองไม่ไว้วางใจในความเป็นกลาง ความสุจริตและเที่ยงธรรมของจำเลยทั้งสามแล้วย่อมกระทบกระเทือนถึงการจัดการเลือกตั้งทุกระดับ การที่จำเลยทั้งสามยังคงปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งต่อไปโดยไม่ไยดีต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ผ่านมา และไม่ตระหนักถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในภายหน้า จึงส่อพิรุธและชี้ให้เห็นว่าจำเลยทั้งสามเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ ด้วยเหตุดังกล่าวเป็นที่ประจักษ์และเชื่อได้ว่า หากศาลอาญาสั่งอนุญาตให้ปล่อยจำเลยทั้งสามระหว่างอุทธรณ์ เพื่อให้โอกาสจำเลยกลับไปปฏิบัติหน้าที่จัดการเลือกตั้ง ส.ส. อีกก็น่าจะเกิดความไม่เรียบร้อย สุจริตและเที่ยงธรรมเหมือนการเลือกตั้งที่ผ่านมา ดังนั้น เพื่อประโยชน์สุขและความสงบเรียบร้อยของสังคมจึงเห็นสมควรให้รีบส่งคำร้องขอประกันตัวพร้อมสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป ซึ่งเมื่อศาลอุทธรณ์มีคำวินิจฉัย ปรากฏว่า สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลอาญา โดยระบุว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่ามูลเหตุแห่งคดีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของจำเลย ในการดำเนินการเลือกตั้งในการเลือกตั้ง ส.ส. ที่เป็นรากฐานสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นับแต่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่าการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน มีปัญหาเกี่ยวกับความไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ สืบเนื่องจากการทำหน้าที่ของจำเลย ยังคงปฏิบัติหน้าที่ท่ามกลางความเคลือบแคลงสงสัยของประชาชนในความเป็นกลางทางการเมืองตลอดมา โดยความเป็นทางการเมืองอันเป็นที่ประจักษ์เป็นคุณสมบัติสำคัญ กกต. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 136 ที่ระบุว่าพฤติการณ์แห่งคดีแสดงให้เห็นโดยชัดแจ้งว่า หากจำเลยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ก็จะปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการเตรียมการเลือกตั้ง ส.ส. ในวันที่ 15 ตุลาคมต่อไป ซึ่งอาจก่อความให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงและเป็นอันตรายต่อการเลือกตั้งอันจะนำไปสู่วิกฤตการณ์ที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงให้ยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวของจำเลย จะเห็นว่า คำพิพากษาลงโทษและไม่ให้ประกันของศาลนั้น ได้ระบุความผิดของ กกต. อย่างชัดเจน และชี้ให้เห็นความไม่ชอบธรรมที่จะดำเนินการเลือกตั้งและอยู่ในตำแหน่งต่อไปอย่างสิ้นเชิง สําหรับ กกต. แล้ว บรรยากาศเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม และเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ห่างกันไม่ถึงสัปดาห์ ย่อมแตกต่างกันราว "ฟ้า" กับ "ดิน" เพราะวันที่ 21 กรกฎาคม หลังมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง เหมือนการพลิกสถานะเป็นต่อ แต่พอวันที่ 25 กรกฎาคม หลังมีคำพิพากษา เหมือนความหายนะ เพราะไหนต้องโทษจำคุก ไหนไม่ได้ประกัน และต้องพ้นสภาพการเป็น กกต. ภายในพริบตา ย่อมเป็นภาวะพลิกผันอย่าง "รุนแรง" สำหรับชาวสวนเมืองจันท์ อย่าง พล.ต.อ.วาสนา ย่อมมีประสบการณ์กับภาวะของ ดอกจันทน์กะพ้อ ที่วันหนึ่งบานขาวสะพรั่งไปทั้งต้น แต่ภายในวันเดียวก็พร้อมที่จะร่วงพรูลงสู่ดินจนหมดสิ้น เป็นสภาวะ "พลิกผัน" ในชั่วข้ามวัน ที่ยากจะทัดทาน นอกจากทำใจยอมรับสภาพ การฝืน "เพื่ออยู่" อย่างสุดฤทธิ์ จนกลายเป็นการดื้อดึงนั้น ที่สุดก็พิสูจน์ว่าไม่อาจต้านทาน "ภาวะที่ต้องเป็นไป" ได้ เป็นภาวะที่เป็นไป ที่ละเอียด ลึกซึ้ง เป็นระบบ และเมื่อปรากฏผล ก็จะเป็นไปอย่าง "เด็ดขาด-ฉับพลัน" เหมือนอย่างที่ 3 กกต. เผชิญอย่างเจ็บปวด จากพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงพระปรมาภิไธย ใน พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง-หมายเหตุต่อท้าย พ.ร.ฎ.-พระราชกระแสประกอบ พ.ร.ฎ.-คำพิพากษาของศาล ล้วนมีความสัมพันธ์-เกี่ยวเนื่อง อย่างยากปฏิเสธ ซึ่งไม่ใช่ 3 กกต. เท่านั้นที่ได้รับผลแห่งการการทำของตน พ.ต.ท.ทักษิณที่เคยรู้สึกเหมือน กกต. คือเกม "เลือกตั้ง" มาอยู่ในมือตัวเองแล้ว แต่จริงๆ ไม่ใช่ กลับกลายเป็นเรื่องอื่นที่ "พลิกผันเหนือความคาดหมาย" ในอนาคตอันใกล้นี้ การ "ยุบพรรค" อาจเป็นประเด็นที่ต้องจับตากันเป็นพิเศษ! หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: คนในวงการ ที่ 29-07-2006, 19:34 เป็นกระทู้ที่ดีมากครับ ผมเห็นด้วยทุกประการ และผมชอบชื่อกระทู้มากเลยครับ :D
ปล. เกิดมาผมยังไม่รู้จักดอกจันทน์กะพ้อเลยครับ ใครมีรูปแปะให้ดูหน่อยน่า :mrgreen: หัวข้อ: Re: จันทร์กะพ้อ ร่วงพรู !! แต่จันทร์กระจ่าง.... ยังคงอยู่ !!! เริ่มหัวข้อโดย: ThailandReport ที่ 29-07-2006, 19:38 คำลงท้ายของ...คุณ ปุ....เรื่องการยุบพรรค......น่าสนใจครับ..
แต่สิ่งสำคัญที่ควรมองคือ....ความคิดฝังราก .................................ยังอยู่ ความคิด ที่อันตราย ซึ่งมีผลทำให้คนไทยแตกแยกเป็น 2 ฝักฝ่ายนี้.....ยังคงอยู่ ความรำลึกถึง...บุญคุณแห่งนโยบายประชานิยม...........................ยังคงอยู่ ระบบรวมศูนย์อำนาจ แบบ CEO.............................................ยังคงอยู่ ถามว่า......อะไรจะแก้ไขสิ่งเหล่านี้ได้...? ท่านพี่ปุถุชนครับ........กว่าถั่วจะสุก.....งาก็จะไหม้..... การณ์เบื้องหน้า มิใช่บทสรุป ของสถานะการณ์ใหญ่..... Please Take Action.../..Not only....Vision / Please......... :mozilla_cry: :mozilla_yell: จันทร์กระจ่าง ดอกสีเหลืองครับ ไม่ใหญ่นักโตกว่า จำปาสัก 3 เท่าได้ บานดูสวยดี เป็นพันธ์ไม้เลื้อย ขึ้นง่าย รดน้ำบ่อยๆ เลื้อยไปทั่วบ้านครับ โอบกอดเกาะเกี่ยวกันพัลวัน ถอนรากถอนโคนลำบากพอควรครับ ถ้าหาต้นตอไม่เจอนะ เพราะมันเป็นอะไรที่คล้ายกิ่ง เล็กๆเท่านั้นเอง (มีใครจะ...ช่วยหาภาพมาลงมั่งไหมเนี่ย สงสารตัวเอง แฮะ :mozilla_cry: :mozilla_yell: สงสัยต้องให้ไปหาแถว จตุจักร แฮะ กระถางละ 5 บาท ฮิๆ) หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: สเลเต ที่ 29-07-2006, 19:42 เก็บดอกจันทน์กะพ้อมาให้ดูกันค่ะ
(http://img204.imageshack.us/img204/2628/jankraprawph4.jpg) หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: morning star ที่ 29-07-2006, 19:43 ชอบที่เปรียบเทียบกับจันทน์กะพ้อ..นอกจากนี้ จันทน์กะพ้อยังปลูกขึ้นยากด้วย..ประมาณว่ากว่าจะหนุนให้พวกแกได้เป็นก็ยาก เวลาร่วงกลับร่วงพร้อมกันหมด เสียเวลาปลูกจริง ๆ :twisted:
หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: คนในวงการ ที่ 29-07-2006, 19:44 ขอบพระคุณ คุณสเลเตมากครับ
ได้ยินชื่อจันทน์กะพ้อมานาน เพิ่งจะเคยเห็นรูปนี่แหละน่า :mrgreen: หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 29-07-2006, 19:58 เป็นกระทู้ที่ดีมากครับ ผมเห็นด้วยทุกประการ และผมชอบชื่อกระทู้มากเลยครับ :D ปล. เกิดมาผมยังไม่รู้จักดอกจันทน์กะพ้อเลยครับ ใครมีรูปแปะให้ดูหน่อยน่า :mrgreen: ไปค้นหาภาพจันทน์กะพ้อมาให้ชม (http://i7.tinypic.com/21bvqe9.jpg) หามาแล้วค่อยเห็นภาพ"จันทน์กะพ้อ"ของคุณสเลเต... คุณอรวี สัจจานนท์ร้องเพลง"จันทน์กะพ้อร่วง" ได้ไพเราะ ซาบซึ้งมาก... ((((((ดอกจันทน์กะพ้อ....ร่วงพรู เจ้ามิใช่ร่วงสู่แผ่นดินแห่งไหนโดยง่าย ลมพา...เอากลีบ...กระจาย ร่วงปลิวพร่างพริ้วพรายไม่มีที่หมายใด))))) ขอแก้ไขเพิ่มเติมครับ... ลืมบอกที่มาของภาพครับ "ไม้ดอกและไม้ประดับ" เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ.... หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: cameronDZ ที่ 29-07-2006, 20:00 จันทน์กะพ้อ นี่...ขึ้นมากแถวเมืองจันท์ฯ ใช่ไหมครับ :mrgreen: :mrgreen:
555+ โยงไปโน่น ไม่เคยเห็นเหมือนกัน เคยแต่อ่าน บทขึ้นต้นนิยาย "แผ่นดินของเรา" ของ แม่อนงค์ (หรือเรื่องนี้ท่านใช้นามปากกา "เรียมเอง" ก็เลือนๆ ไปแล้ว) จันทน์กะพ้อร่วงพรู........... จินตนาการว่า ต้นมันต้องใหญ่ ดอกมันต้องสวยมาก หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: สเลเต ที่ 29-07-2006, 20:10 แผ่นดินของเรา...ใช้นามปากกาว่า
"แม่อนงค์"ค่ะ จันทน์กะพ้อเป็นไม้ใหญ่ มักขึ้นปนกับไม้ยางที่เกิดในที่ราบ หรือป่าดงดิบทางภาคใต้ค่ะ หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: คนในวงการ ที่ 29-07-2006, 20:12 ขอบคุณ คุณปุฯ ครับ ได้ชมหลาย ๆ ภาพ ก็ชื่นใจดีครับ
ปล. คุณสเลเต เป็นคนตรังเหรอครับ หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 29-07-2006, 20:15 จันทน์กะพ้อ นี่...ขึ้นมากแถวเมืองจันท์ฯ ใช่ไหมครับ :mrgreen: :mrgreen: 555+ โยงไปโน่น ไม่เคยเห็นเหมือนกัน เคยแต่อ่าน บทขึ้นต้นนิยาย "แผ่นดินของเรา" ของ แม่อนงค์ (หรือเรื่องนี้ท่านใช้นามปากกา "เรียมเอง" ก็เลือนๆ ไปแล้ว) จันทน์กะพ้อร่วงพรู........... จินตนาการว่า ต้นมันต้องใหญ่ ดอกมันต้องสวยมาก ต้นจันทน์กะพ้อ เป็นไม้ต้นสูง 6-15 เมตร ถิ่นกำเหนิด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขึ้นตามป่าดิบชื้นทางภาคใต้ ออกดอกระหว่างพฤศจิกายน-มีนาคม ผมเคยปลูกไว้ที่บ้าน ไม่ค่อยมีดอก ไม่ค่อยบาน เมื่อถึงเวลาบาน จะบานทั้งต้น และจะร่วงทั้งต้นในวันเดียวกัน... กลิ่นหอมชวนคิดถึง....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: cameronDZ ที่ 29-07-2006, 20:18 ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ขึ้นต้นเป้นกระทู้การเมือง แล้วกลายเป็นกระทู้ไม้ดอกไม้สวน ไม่รู้จะจบเป็นเรื่องไร อ้างถึง ปล. คุณสเลเต เป็นคนตรังเหรอครับ อิ อิ สเลเต นี่ชื่อดอกไม้ภาษาถิ่นบ้านผม ไม่น่าเป็นคนตรังนะครับ หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 29-07-2006, 20:19 คุณ"คนในวงการ"และคุณ TR กำลังเบี่ยงเบนกระทู้ของผมน่ะเนี่ย........ :?:
หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: สเลเต ที่ 29-07-2006, 20:20 คนหาดใหญ่ค่ะ
จ๊ากกกกกก ดิฉันมาทำให้กระทู้เสียไปหรือเปล่าคะนี่ ขออภัยค่ะ :oops: :oops: :mozilla_tongue: หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: อังศนา ที่ 29-07-2006, 20:21 ..แถมอีกรูป (http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/happy.png)
หน้าตาคล้ายดอกลั่นทมนะคะ สวยดี! (http://www4.pantown.com/data/4691/board2/12-20060729195130.jpg) แต่ทำไมรูปของคุณปุฯ ดอกจิ้วหริวจังคะ ยังกับคนละชนิดเลย (http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/pink_flowers.gif) หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: ประกายดาว ที่ 29-07-2006, 20:26 แต่ จันทน์กะพ้อ จะร่วงพรู เมื่อไหร่คะ ...........
หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: คนในวงการ ที่ 29-07-2006, 20:30 ขอบคุณคุณอังศนาอีกคนครับ เอาจันทน์กะพ้อมาปลูกทางเหนือจะขึ้นมั้ยน้อ
ปล. สวัสดีครับคุณประกายดาว :mrgreen: หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: varada ที่ 29-07-2006, 20:36 ต้นจันทร์กระพ้อ สมัยก่อนที่จ.จันทรบุรีมีเยอะค่ะ
หันไปถามคุณแม่เมื่อกี้(นั่งอยู่ข้างๆนี่แหล่ะ) เรียกแกมาดูดอกจันทรกระพ้อ แกบอกเออแบบนี้แหล่ะ คล้ายลั่นทม เสียดายเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีแล้ว แม่บอกเมื่อก่อนสมัยแกสาวๆแถวบ้านเยอะ พอๆกับต้นจิก ซึ่งปัจจุบันไม่มีให้เห็นแล้ว แต่ที่เขาเปรียบเทียบว่าจันทรกระพ้อร่วง คงหมายถึงพี่หนาของเรา ที่เป็นคนจันทรบุรี เนชั่นชั่นสุดสัปดาห์ยิ่งแสบกว่า เพราะเล่นพาดหัวปกเลยว่า สิ้นวาสนา ชะตาแม้ว :lol: หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 29-07-2006, 20:40 ตอนแรกว่าน่าจะให้พวกทักษินเอาไปทัดหูคนละดอก
แต่เห็นที่คุณสเลเตเอามา ดอกมันสวยเกินไป เด๋วหน้าหายเหลี่ยมหมด :lol: :lol: :lol: หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: ThailandReport ที่ 29-07-2006, 20:41 คุณ"คนในวงการ"และคุณ TR กำลังเบี่ยงเบนกระทู้ของผมน่ะเนี่ย........ :?: ผมอยู่ในประเด็นตลอดครับ คุณคนในวงการคนเดียว ที่ Out ครับ หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: cameronDZ ที่ 29-07-2006, 20:42 คุณปุ....เจ้าของกระทู้ เกาหัวแกรก ๆ ไปแล้ว
เจอ ป่วน กระทู้ แบบทำเป็นขบวนการ :mrgreen: :mrgreen: หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: คนในวงการ ที่ 29-07-2006, 20:44 อ่า ... เจอใบแดงวุ้ย แหะ แหะ :mrgreen:
หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 29-07-2006, 20:44 คุณ"คนในวงการ"และคุณ TR กำลังเบี่ยงเบนกระทู้ของผมน่ะเนี่ย........ :?: ผมอยู่ในประเด็นตลอดครับ คุณคนในวงการคนเดียว ที่ Out ครับ จันทร์กระจ่าง ดอกสีเหลืองครับ ไม่ใหญ่นักโตกว่า จำปาสัก 3 เท่าได้ บานดูสวยดี เป็นพันธ์ไม้เลื้อย ขึ้นง่าย รดน้ำบ่อยๆ เลื้อยไปทั่วบ้านครับ โอบกอดเกาะเกี่ยวกันพัลวัน ถอนรากถอนโคนลำบากพอควรครับ ถ้าหาต้นตอไม่เจอนะ เพราะมันเป็นอะไรที่คล้ายกิ่ง เล็กๆเท่านั้นเอง (มีใครจะ...ช่วยหาภาพมาลงมั่งไหมเนี่ย สงสารตัวเอง แฮะ สงสัยต้องให้ไปหาแถว จตุจักร แฮะ กระถางละ 5 บาท ฮิๆ) หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 29-07-2006, 20:47 ..แถมอีกรูป (http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/happy.png) หน้าตาคล้ายดอกลั่นทมนะคะ สวยดี! (http://www4.pantown.com/data/4691/board2/12-20060729195130.jpg) แต่ทำไมรูปของคุณปุฯ ดอกจิ้วหริวจังคะ ยังกับคนละชนิดเลย (http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/pink_flowers.gif) ภาพถ่ายจากหนังสือภาพ"ไม้ดอกไม้ประดับ" เฉลิมพระเกียรติฯ ครับ หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 29-07-2006, 20:50 ดอกจันทน์กะพ้อนี้มีกลิ่นไหมค่ะลุงปุ เพราะดอกไม้ไทยส่วนมากเป็นดอกเล็กๆ น่ารักและ
มีกลิ่นหอม ไม่เหมือนดอกไม้ที่นี้ ไม่ค่อยมีกลิ่น สีสันสวยงามก็จริง ยิ่งดอกที่เป็นช่อโตๆๆหากลิ่นไม่ได้เลยค่ะ หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: อังศนา ที่ 29-07-2006, 20:53 โธ่.. ไม่ใช่ไม่เชื่อนะคะ แค่แปลกใจเฉยๆ (http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/05.gif)
รูปโคลสอัพมันคงหลอกตา (ขออำไพค่ะ.. ยังเป๋อยู่นอกประเด็นไม่เลิก อิอิ) (http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/pink_flowers.gif) หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: ประกายดาว ที่ 29-07-2006, 20:53 ประกายดาว มาคุยกับลุงปุ ต่อดีกว่า
การเปรียบเทียบของลุงปุ แสนจะคลาสิก เกินไปไหมนี่... อ้างถึง การฝืน "เพื่ออยู่" อย่างสุดฤทธิ์ จนกลายเป็นการดื้อดึงนั้น ที่สุดก็พิสูจน์ว่าไม่อาจต้านทาน "ภาวะที่ต้องเป็นไป" ได้ เป็นภาวะที่เป็นไป ที่ละเอียด ลึกซึ้ง เป็นระบบ และเมื่อปรากฏผล ก็จะเป็นไปอย่าง "เด็ดขาด-ฉับพลัน" เหมือนอย่างที่ 3 กกต. เผชิญอย่างเจ็บปวด จากพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงพระปรมาภิไธย ใน พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง- หมายเหตุต่อท้าย พ.ร.ฎ.-พระราชกระแสประกอบ พ.ร.ฎ.-คำพิพากษาของศาล ล้วนมีความสัมพันธ์-เกี่ยวเนื่อง อย่างยากปฏิเสธ ซึ่งไม่ใช่ 3 กกต. เท่านั้นที่ได้รับผลแห่งการการทำของตน พ.ต.ท.ทักษิณที่เคยรู้สึกเหมือน กกต. คือเกม "เลือกตั้ง" มาอยู่ในมือตัวเองแล้ว แต่จริงๆ ไม่ใช่ กลับกลายเป็นเรื่องอื่นที่ "พลิกผันเหนือความคาดหมาย" เหตุการณ์ผลิกผัน ที่คุณลุงปุฯ ว่า จันทร์คงไม่มีแรงส่องหล้า ค่ะ ประกายดาวคงเปรียบเทียบแบบคุณลุง ไม่เป็น แต่ คิดว่า เหตุการร์ผลิกผันครั้งนี้ ต้นไม้ หมู่นกกา คงบินกระเจิงครั้งใหญ่ ใบไม้คงร่วงพรุ ลำต้นยืนตายแหง๋แก๋ไปด้วย ไม่ใช่เพียงผลัดใบ และ ประกายดาว ยังฝันไกลไปอีกว่า เมื่อไม้ใหญ่ยืนต้นแห้งตาย ก็ควรฟันทิ้งให้สิ้นซาก และจะมี ต้นกล้าเล็กๆ อื่นๆ จะเติบใหญ่ งอกงาม แทนที่ :mozilla_tongue: หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู จันทร์ กระจ่างยังอยู่...กู ม่ายยยย ออก !! เริ่มหัวข้อโดย: ThailandReport ที่ 29-07-2006, 20:59 คุณ"คนในวงการ"และคุณ TR กำลังเบี่ยงเบนกระทู้ของผมน่ะเนี่ย........ :?: ผมอยู่ในประเด็นตลอดครับ คุณคนในวงการคนเดียว ที่ Out ครับ จันทร์กระจ่าง ดอกสีเหลืองครับ ไม่ใหญ่นักโตกว่า จำปาสัก 3 เท่าได้ บานดูสวยดี เป็นพันธ์ไม้เลื้อย ขึ้นง่าย รดน้ำบ่อยๆ เลื้อยไปทั่วบ้านครับ โอบกอดเกาะเกี่ยวกันพัลวัน ถอนรากถอนโคนลำบากพอควรครับ ถ้าหาต้นตอไม่เจอนะ เพราะมันเป็นอะไรที่คล้ายกิ่ง เล็กๆเท่านั้นเอง (มีใครจะ...ช่วยหาภาพมาลงมั่งไหมเนี่ย สงสารตัวเอง แฮะ สงสัยต้องให้ไปหาแถว จตุจักร แฮะ กระถางละ 5 บาท ฮิๆ) ผมตีความตามอักษรนำ กระทู้ครับ จันทร์ของท่าน ร่วงพรู แต่จันทร์ส่องหล้า ของกระผม ยังกระจ่างอยู่ครับ หนูไม่ผิด...(กูม่ายยยย ผิด....ดังนั้น = กูม่ายยยยยยย ออก = No Out ครับ ) ซ.ต.พ. :mrgreen: หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 29-07-2006, 22:53 ซึ่งไม่ใช่ 3 กกต. เท่านั้นที่ได้รับผลแห่งการการทำของตน
พ.ต.ท.ทักษิณที่เคยรู้สึกเหมือน กกต. คือเกม "เลือกตั้ง" มาอยู่ในมือตัวเองแล้ว แต่จริงๆ ไม่ใช่ กลับกลายเป็นเรื่องอื่นที่ "พลิกผันเหนือความคาดหมาย" ในอนาคตอันใกล้นี้ การ "ยุบพรรค" อาจเป็นประเด็นที่ต้องจับตากันเป็นพิเศษ! ด้วยความลิงโลดที่ในหลวงทรงลงพระนามใน พรก.เลือกตั้ง ถือว่าการเลือกตั้ง 15 ตุลาคมนี้ ซึ่งอยู่ในความดูแลของ 3 กกต.(หนา) จะสร้างความมั่นใจให้พรรคไทยรักไทย ทำให้พรรคไทยรักไทยได้เสียงส่วนใหญ่เกิน 280 เสียง เป็นอย่างน้อย เป็นชัยชนะตามขั้นตอน การวางแผนของกุนซือใหญ่..... :!: ถึงแม้ความนิยมของคนไทยต่อคุณทักษิณลดลง สร้างความกังวลใจ ในระดับหนึ่ง แต่สามารถกำหนด"เกม" วันเลือกตั้ง 15 ตุลาคมได้ สร้างความลำพองใจให้แก่เขา แกนนำพรรคไทยรักไทย.... พวกเขาคิดว่า"ผู้มากบารมี"นั้นไม่สามารถสกัดกั้นพวกเขาได้แล้ว แต่พวกเขาไม่ได้เฉลียวใจ นึกระแวงว่าการลงพระนามใน พรก. พร้อมพระราชดำริพิเศษนั้น คือการนับเวลาถึงฆาตของพวกเขา เริ่มจาก 3 กกต.(หนา) ที่ต้องเป็น 3 ผู้ต้องขัง 3 นักโทษไปเรียบร้อย โดยไม่สามารถแก้ไข เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ ได้แต่โอดครวญว่า ศาลฏีกา ทำเกินไป...... :!: ถ้า 3 กกต.(หนา) จะรู้สำนึก เฉลียวใจตั้งแต่วันศุกร์ก่อนหน้า ลาออกเสีย จะทำให้"ขั้นตอน"ของศาลต้องปรับใหม่..... ศาลจะไม่สามารถดำเนินการอย่างเด็ดขาดอย่างนั้นได้ และไม่ทำให้ "รักษาการประธานวุฒิ" ต๊กใจ ประหวั่นจะถึงคิวของตนเองอย่างทุกวันนี้ จากนี้ไป ขั้นตอนยุบ 2 พรรคใหญ่และพรรคเก่า หรือหนึ่งพรรคใหญ่ จะเป็นที่สนใจ ติดตามต่อไป... พรรคไทยรักไทยถูกยุบพรรค... "คอการเมือง" จงระวัง คอยวิ่งหนี"ผึ้งแตกรัง" ให้ทัน.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า การกำหนดวันเลือกตั้ง เลื่อนไปเป็นปลายปีหรือต้นปีหน้า เพื่อให้"ผึ้งแตกรัง" ได้มีเวลาสร้างรังใหม่ เป็นส่วนหนึ่งในแผนรุกฆาต ทำลายวงจรระบอบทักษิณ.... คุณปุ( ดร.ปุราชัย)จะได้เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ที่มีสมาชิกพรรคฯ ส่วนที่เป็นความหวังใหม่เดิม ตะวันออก และบางส่วนที่ถือว่าเป็น"สายป๋าเหนาะ"..... "ป๋าเหนาะ"ที่ดูดีก่อนหน้านี้ คงจะมีสภาพเดียวกับ"เสธ์หนั่น ไม่มีอดีต สส.ทรท.ในกำกับเข้าร่วมด้วย เพราะ"ผึ้งแตกรัง" สาย"ป๋าเหนาะ" รู้ทาง รู้จำนวนกระสุน รู้แกนนำของพรรคใหม่ได้ดี... ถ้ามีการเลื่อนการเลือกออกไปเป็นปลายปีหรือต้นปี จะมีปรากฎการณ์ "ผึ้งแตกรัง" ให้เห็นแน่นอน..... ก่อนหน้านี้ อดีตสส.ทรท. ไม่กล้าย้ายออก เพราะ 1. เชื่อว่าเขย่าต้นจันทน์กะพ้ออย่างไร ก็ไม่ร่วงพรู... 2. ไม่คิดว่ามีการยุบพรรคฯ ทำให้อดีตสส.คำนวณ ไม่กล้าย้ายไปไหน เพราะ"นายทุนใหญ่" ที่อื่น ไม่กล้าลงทุนให้ ไม่กล้าเผชิญ "มิตรหรือศัตรู"... หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: p ที่ 29-07-2006, 23:51 ตกลงดอกจันทน์กะพ้อร่วงแน่ใช่ไหมครับ แล้วจะมีดอกอะไรมาแทนที่อีกไหมหนอ :mozilla_wink: หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 29-07-2006, 23:55 ตกลงดอกจันทน์กะพ้อร่วงแน่ใช่ไหมครับ แล้วจะมีดอกอะไรมาแทนที่อีกไหมหนอ :mozilla_wink: ดอก"จันทร์ส่องหล้า" กระมั่ง................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า หัวข้อ: Re: จันทน์กะพ้อ...ร่วงพรู เริ่มหัวข้อโดย: แนวสกา ที่ 30-07-2006, 12:39 ตกลงดอกจันทน์กะพ้อร่วงแน่ใช่ไหมครับ แล้วจะมีดอกอะไรมาแทนที่อีกไหมหนอ :mozilla_wink: ดอก"จันทร์ส่องหล้า" กระมั่ง................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า อ้าวผมนึกว่าต้นเดียวกัน เกิดพร้อมกัน ตายพร้อมกัน เข้าใจผิดอีกแล้ว แต่มาคิดอีกที ไม่น่าจะใช่จันทน์กะพ้อร่วง แค่ดอก รอวันผลิบานในคราต่อไป จันทร์อย่างที่คุณลุง"ปุถุชน"ว่าน่าจะเน่าไปทั้งราก เอาไว้เสียเวลา โค่นทิ้งทั้งต้นดีกว่า |