ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

วันนี้อยากเปิดแย้ม โลกส่วนตัวในบางเรื่องให้เพื่อนๆได้สัมผัสกับบรรยากาศคนไกลบ้าน

สำหรับคนที่เคยอยู่ห่างบ้าน บางครั้งคุณต้องรู้สึกเหงาแน่นอนใช่ไหมค่ะ  แต่คนไกลบ้านที่ไม่มีเพื่อนชาติเดียวกันแบบดิฉันจะเหงาขนาดไหน ถึงตอนนี้จะไม่เป็นไรแล้ว แต่เมื่อย้อนเวลาสามสี่เดือนแรกที่มาอยู่นี้ มันเหมือนกับการยืนอยู่ในป่าดิบที่ไร้ผู้คนมาพบเจอ  วันนี้อยากมาแนะนำบ้านอีกหลังของอนา ที่หลงเข้าไปอยู่อย่างบังเอิญ...........

บ้านหลังนี้ ชื่อ ดีเรียน.......  
(http://img224.imageshack.us/img224/5697/dsc01820hr7.jpg)

อนามาเจอบ้านหลังนี้ได้ยังไงนะเหรอค่ะ วันนั้นจำได้ว่า อยากขับรถเล่น.......คิดในใจว่า....ถ้าตัวเองอยุ่แต่ในห้องมีหวัง ต้องนั่งเหงา เปลืองค่าโทรศัพย์ปลายทาง คุณพ่อกับคุณแม่แน่นอน ตอนแรกว่าจะไปนั่งเล่นที่สถานีรถไฟ มองดูผู้คนเดินไปมา อย่างน้อยผู้คนก็พลุ่งพล่าน ไม่น่าเหงาแบบบ้านตัวเอง  แต่ก่อนจะถึงสถานีรถไฟ เหลือบไปเห็นร้านคอฟฟี่ชอบ ร้านหนึ่ง ภายในร้านดูสวยมาก แต่ที่ดึงดูดใจคือเค้กที่ว่างโชว์อยุ่หน้าร้าน แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเข้าไปร้านนั้น ก็สองจิตสองใจ เพราะร้านดูหรูไป เกิดไปเราไปทำอะไรเปิ่นๆทำไง ภาษายิ่งแย่ๆอยู่  มองซ้ายที ขวาที จนสุดท้าย ต้องแพ้ใจตัวเอง เพราะเจ้าเค้กชอตกาแลค ที่วางอยู่หน้าร้าน นี้เอง ............
(http://img154.imageshack.us/img154/3587/dsc01818ou0.jpg)

พอเข้าไปที่ร้าน............. มันไม่เหมือนนอกร้านแน่นอน แต่มันต่างจากที่คิดมาก....  โดยเฉพาะ..
เจ้าของร้านค่ะ ............ เวลานั้น เวลาที่เธอเข้ามาคุยกับเราแล้วรุ้ว่าเราไม่ใช่คนที่นี้ กริยาเธอเปลี่ยนไปทันที เธฮสบตาแล้วคงเห็นแววตาเหงาๆหรือประหม่าของเรามั่ง เธอยิ้ม ยิ้มแบบที่อยากจะเรียกว่า คุณแม่......  เธอให้เราเลือกว่าอยากนั่งตรงไหน .......เธอถามว่า อยากดูหนังสือไหม ........ ทุกอย่างทำให้เรารู้สึกว่า ที่นี้คงจะเป็นบ้านอีกแห่งของเรา.........(http://img224.imageshack.us/img224/4310/dsc01813fs0.jpg)

เรื่องราวในบ้านหลังนี้ เปลี่ยนแปลงชีวิตฉันหลายอย่าง แล้วจะมาเล่าต่อค่ะ ........... :mozilla_wink:.

ผู้หญิงญี่ปุ่นค้ำประคองเศรษฐกิจและสังคมญี่ปุ่นไว้มากกว่าครึ่งหนึ่งนั้นจริงเหรอ

บ้านหลังนี้มีคุณแม่บ้านชื่อ คุณมามะ และสามีของเธอซึ่งเป็นพ่อครัวชื่อ คุณอิโตะ หลังจากที่คุณมามะแนะนำให้ฉันรู้จักกับสามีของเธอผู้ที่ทำเค้กรสชาติแสนอร่อยถูกปากฉันแล้ว ฉันสังเกตดูว่าคุณมามะ คล้ายจะเป้นหญิงญี่ปุ่นยุคใหม่ที่ฉันพบเจอน้อยมากในอายุคราวเธอ ประมาณ 50 ปีได้ ดูเธอยังแข็งแรง มีชีวิตชีวา ดูแลลูกค้าได้ทั่วถึงทุกคน ดูใครๆก็รักเธอจัง เธอเล่าให้ฉันฟังว่า เธอชอบทำงานบริการ เธอกับสามีเคยอยู่ฝรั่งเศลมาไม่กี่ปี ก่อนจะมาเปิดร้านอาหารสไตร์นี้  ฉันต้องถึงบางอ้อ เธอบอกว่า เธอดีใจเมื่อเธอกลับมารัฐบาลญี่ปุ่นก็เปลี่ยนกฎหมาย ที่เปิดโอกาสในการจ้างงานอย่างเสมอภาค  เพิ่งผ่านการพิจารณาจากรัฐสภาญี่ปุ่น เมื่อปี 1985 หรือเพียง 20 ปี ที่ผ่านมา   

วันนี้อนาเลยมาชวนคุยว่า ผู้หญิงญี่ปุ่นมีส่วน ค้ำจุ้นเศรษกิจพวกเขามากน้อยแค่ไหน

แม้ว่าญี่ปุ่นจะมีกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายแรงงานที่ระบุถึงสิทธิสตรีในการเข้าทำงาน ภายใต้เงื่อนไขที่เท่าเทียมกับเพศชาย มาตั้งแต่เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่กฎหมายที่เปิดโอกาสในการจ้างงานอย่างเสมอภาค เพิ่งผ่านการพิจารณาจากรัฐสภาญี่ปุ่น เมื่อปี 1985 หรือเพียง 20 ปี ที่ผ่านมา

เพราะแต่ก่อนหน้านี้บทบาทของ ผู้หญิงญี่ปุ่นอาจถูกจำกัดไว้เพียง การเป็นแม่บ้านที่ต้องดูแลความเรียบร้อยภายในบ้านและเลี้ยงดูกุลบุตรกุลธิดา ขณะเดียวกันก็ได้รับการประเมินค่าเป็นเพียงเพศที่อ่อนแอ ซึ่งต้องได้รับการพิทักษ์ปกป้อง เมื่อกฎหมายแรงงานที่ประกาศใช้ในปี 1947 กำหนดให้สตรีสามารถทำงานล่วงเวลาได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน หรือไม่เกิน 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ พร้อมกับข้อกำหนดห้ามสตรีทำงานในช่วงกลางคืน และสามารถลาหยุดงานพิเศษในแต่ละเดือน ในช่วงที่มีประจำเดือนได้อีกด้วย.....

ข้อกำหนดในกฎหมายฉบับดังกล่าว นอกจากจะสะท้อนทัศนะคิดของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ส่วนใหญ่เป็นบุรุษเพศ และเป็นผู้พิจารณาผ่านกฎหมายที่เห็นว่าผู้หญิงมีความอ่อนด้อยทางกายภาพแล้ว กฎหมายแรงงานฉบับนี้ยังเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและบริษัทเอกชน ไม่เต็มใจที่จะจ้างหรือรับผู้หญิงเข้าทำงาน เพราะไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ เมื่อเปรียบเทียบกับแรงงานเพศชาย

ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจนะค่ะ เพราะสังคมญี่ปุ่นจะได้รับการกล่าวถึงในฐานะที่เป็น Male Dominant Society มาอย่างยาวนาน แต่ภายใต้การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเงื่อนเวลาปัจจุบัน ผู้หญิงญี่ปุ่นกำลังกลายเป็นพลังหลักในการขับเคลื่อนกลไกทางสังคมและเศรษฐกิจที่ทวีบทบาทอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน......

มีต่อค่ะ............

อ้างอิง สมศักดิ์ ดำรงสุนทรชัย

สิ่งที่น่าสังเกตนะค่ะว่า แม้แต่เพื่อนของอนาเองเธอบอกว่าเธอไม่คิดจะแต่งงาน หากจะแต่งก็ไม่ขอมีลูก.......ถึงว่าไมประชากรประเทศนี้ลดลงทุกปีๆ

สาวญี่ปุ่นนอกจากเธอจะอ่อนหวานที่สุดในโลกที่อนาเคยเจอ แต่เธอก็แสบสันที่สุดในโลกในบางเรื่อง  :lol:  

ไว้ตอนต่อไปมานินทา สาวญี่ปุ่นที่ว่าอ่อนหวานยังไง เดียวนอกเรื่องไป วันนี้มาดูว่าการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของประเทศนี้กับบทบาทของผู้หญิงญี่ปุ่นในปัจจุบัน

ความเติบโตอย่างรวดเร็วของระบบเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ในช่วงทศวรรษที่ 1950 และทศวรรษที่ 1960 ที่ได้ก่อให้เกิดชนชั้นทางสังคมลักษณะใหม่ที่ได้รับการเรียกขานในฐานะ Salary Man ซึ่งเป็นประหนึ่งอุดมคติในการดำเนินชีวิตของชาวญี่ปุ่นในขณะนั้น จึงเป็นเรื่องราวที่ผูกขาดอยู่เฉพาะแรงงานบุรุษเพศ ขณะที่บทบาทของสตรีเพศในสังคมญี่ปุ่น ถูกผลักให้จำกัดอยู่ในพื้นที่แคบๆ หรือเป็นเพียงฉากหลังของกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางสังคมนี้เท่านั้น

และคุณ Salary Man นี้ล่ะค่ะ ที่มีอัตราการฆ่าตัวตายมากที่สุด..........สาเหตุนั้นไว้ตอนหน้าค่ะ  

จนกระทั่งกฎหมายการการจ้างงานอย่างเสมอภาคได้ผ่านการพิจารณาจากรัฐสภา ส่งผลให้ผู้หญิงญี่ปุ่นไม่ต้องตกอยู่ในภาวะที่ต้องยอมจำนนอยู่เพียงการเป็นแม่บ้าน ที่ต้องพึ่งพิงรายได้จากสามีที่เป็น Salary Man เช่นในอดีต หากผู้หญิงญี่ปุ่นเริ่มผันตัวเองเข้าสู่ตลาดแรงงาน และสามารถยืนหยัดเลี้ยงตัวเองได้มากขึ้น โดยมีสถานะของการเป็น Office Ladies หรือ OLs เป็นภาพจำลองที่กระตุ้นเร้าให้ผู้หญิงเข้าทำงานในระบบอย่างต่อเนื่อง

การเกิดขึ้นของกลุ่มผู้หญิงทำงานในสำนักงานหรือ OLs ซึ่งถือเป็นชนชั้นใหม่ในสังคมญี่ปุ่นในช่วงที่ผ่านมา ได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งในมิติทางสังคมและเศรษฐกิจ ของญี่ปุ่นอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้ม ความนิยมที่จะครองความเป็นโสดของสตรีญี่ปุ่น

การไม่พึ่งพิงรายได้จากสามีของกลุ่มผู้หญิง OLs เหล่านี้ ในอีกด้านหนึ่งหมายถึงภาระทางเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้นด้วย

วิถีการดำเนินของกลุ่มผู้หญิง OLs ชีวิตที่น่าสนใจติดตามไม่น้อย เพราะแม้ว่ากลุ่มผู้หญิง OLs เหล่านี้ จะมีประพฤติกรรมที่ถูกระบุว่าเป็นกลุ่มคนที่มีลักษณะ self satisfaction อย่างสุดโต่ง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนเลือกซื้อครีมบำรุงผิวรักษาความงามที่มีราคาต่อกรัมสูงกว่าราคาทองคำ หรือสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังราคาแพงทั้ง Hermes และ Louis Vuitton ในลักษณะที่ล้นหลามถึงขนาดต้องเข้าแถวซื้อจนได้รับการกล่าวถึงว่าเป็น Louis Vuitton Nation แต่พวกเธอกลับเป็นกลุ่มที่มีอัตราการออมเงินสูงที่สุดกลุ่มหนึ่งในสังคมญี่ปุ่นในคราวเดียวกัน...........

อันนี้ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงค่ะ เพราะเพื่อนอนาหลายคนเอง ใช้ของยี่ห้อนี้ แต่ว่าพวกเธอไม่ได้ใช้เงินแบบฟูมเฟือยนะค่ะ เธอใช้วิคตรองก็จริง แต่อย่างอื่นเธอก็ประหยัดโครตๆๆ เลยค่ะ จนอนางง ในวิธีการใช้เงินของสาวประเทศนี้ ใช้ของมีญี่ห้อ แต่เก็บตังค์ได้เยอะมาก.........

อยากรู้ไหมค่ะว่าทำไมพวกเธอถึงต้องใช้ของประเภทแบรนด์ อนามองว่า เพราะเธอต้องการเสริมสร้างความมั่นใจในการเข้าสู่สังคม คนญี่ปุ่นเป็นคนขี้อาย แล้วสาวญี่ปุ่นก็อยู่ในข่ายประเภทนี้ในการเข้าสังคม เธอจะมั่นใจทันทีที่เธอใช่แบรนด์...... (ถ้าต้องเพิ่มความมั่นใจโดยการใช้เงินขนาดนี้ อนาว่าขอเปิดคอสเสริมสร้างบุคคลิดดีกว่ามั่ง)

ก็เพราะการดำเนินชีวิตแบบนี้ของพวกเธอ  ส่งผลให้ภาคธุรกิจในญี่ปุ่นต้องปรับตัวเพื่อสนองตอบต่อความต้องการของตลาด โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือผู้หญิง OLs ซึ่งเป็นฐานลูกค้าที่มีศักยภาพในการบริโภค เช่น ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายหันมาให้ความสำคัญกับการออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการและรสนิยมของผู้หญิงมากขึ้น  ไม่นับรวมการสื่อโฆษณาสินค้าอีกหลากหลายชนิด ที่มีจุดเน้นอยู่ที่ผู้หญิง OLs อย่างโดดเด่น ด้วยการสร้างให้เกิดสัญลักษณ์ ที่ระบุถึงความมั่นใจและความเป็นตัวเอง
 
นอกจากนี้ความพยายามที่จะเอาใจผู้ใช้บริการที่เป็นเพศหญิงอย่างออกหน้าออกตาของผู้ประกอบการรถไฟหลายรายที่กำหนดให้ตู้รถไฟบางส่วนเป็น women only car ได้สร้างให้เกิดความไม่พึงพอใจในหมู่บุรุษเพศอย่างหนักหน่วง เพราะกรณีดังกล่าว เป็นประหนึ่งสัญลักษณ์แห่งการผลักให้พวกเขากลายเป็นพลเมืองชั้นสองในการเข้ารับบริการสาธารณะของสังคมไปโดยปริยาย  

หากคำกล่าวที่ว่า โลกใบนี้มีมือของสตรีค้ำจุนอยู่ครึ่งหนึ่ง จะมีส่วนจริงอยู่บ้าง ดูเหมือนว่ามือของผู้หญิงญี่ปุ่นกำลังขยายเข้าค้ำประคองเศรษฐกิจและสังคมญี่ปุ่นไว้มากกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ทุกขณะ........... ฉะนั้นผู้หญิงโสดของญี่ปุ่นทุกคนน่าภูมิใจเป็นที่สุด

และแล้วหลังจากที่แวะเข้าแวะออก บ้านหลังนี้เกือบหนึ่งปี ก็เริ่มจะชินและปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมที่นี้ได้ดีขึ้นมาก

วันนี้แวะมาหาคุณมามะเพื่อมาบอกแกว่า พรุ่งนี้นุ๋จะใส่ใส่ชุดกิโมโนเป็นครั้งแรกนะค่ะ เพราะว่าจะมีงานพิธีชงน้ำชาค่ะ

ลืมบอกไปว่าอนาอยุ่ในชมรมพิธีชงชาด้วยนะค่ะ ถ้าใครที่อ่านบล๊อคก็คงทราบ

คุณมามะดูตื่นเต้นและดีใจมาก เธอบอกว่า เธอแน่ใจว่าเมื่อฉันใส่ กิโมโนต้องสวยแน่ๆๆ

ฉันอดจะชื่นชมคนญี่ปุ่นไม่ได้เลยค่ะ ว่าถึงพวกเขาจะก้าวไปกับวํฒนธรรมประเพณี แต่ทำไมการสืบสานประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์เช่นการแต่งกายของพวกเขายังคงมีอยู่  ของบ้านเราจะเห้นก็คนสูงอายุเท่านั้น แต่ก็น้อยมาก

จริงๆแล้วกิโมโนถือเป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติที่แสดงเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นอย่างแท้จริงกฝ้ว่าได้ ชุดกิโมโนชาวญี่ปุ่นในปัจจุบันจะใช้ในงานและพิธีสำคัญๆ เช่นงานแต่งงาน งานศพ งานเลี้ยงต่างๆ หรืองานเทศกาลต่างๆค่ะ

ขอนินทาหน่อยนะค่ะ ว่าชุดกิโมโนนี้มีขั้นตอนมากในการสวมใส่ คนผอมๆๆแบบอนาใส่ ต้องเพิ่มผ้าเช็ดตัวสองผืนบนหน้าอกค่ะ  :mrgreen: โดยมากชุดกิโมโนมักตัดเย็บโดยผ้าทอลวดลายหรือพิมพ์อย่างสวยงามประณีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุดเจ้าสาว ซึ่งบางชุดหนักถึง 20 กิโลกรัม ชุดผู้ชายจะเรียกว่า ชุดฮากามะ (Hakama)

ส่วนชุดยูกาตะเป็นชุดแบบลำลอง สวมใส่ได้ทั้งชายและหญิง ซึ่งจะแตกต่างกันที่ลวดลาย สีสัน ผ้าและรายละเอียด นิยมใช้เป็นชุดฤดูร้อน ปัจจุบันชาวญี่ปุ่นยังคงสวมใส่กิโมโนหรือยูกาตะในโอกาสต่างๆ เช่น ในงานเทศกาลต่างๆ


ภาพนี้เป็นชุดยูกาตะค่ะที่อนาใส่ไปดูงานเทศกาลดอกไม้ไฟกับเพื่อน ส่วนรายละเอียดเด๋วมาลงเพิ่มค่ะ
(http://img145.imageshack.us/img145/5934/12in5.jpg)

นี้เป็นชุดกิโมโน ธรรมดาค่ะ อันนี้อนาอยู่ในพิธีชงชา  :mrgreen:

จะบอกว่า หนูมั่วได้เนียนมาก อาจารย์แซวว่างั้น  คือทำผิดแต่ไม่มีใครรู้  

(http://img77.imageshack.us/img77/7452/ochajm9.jpg)

ส่วนอันนี้ อิอิ คือ ชุดกิโมโนสำหรับหญิงสาวที่ยังไม่แต่งงานค่ะ เรียกว่า ฟุริโซะเดะ 
ชุดนี้อนาใส่ในพิธีรับปปริญญาตอนจบโท ค่ะ  งานพิธีรับปริญญาส่วนมากคนญี่ปุ่นจะใส่ชุดกิโมโนค่ะ ผู้หญิงและผู้ชายนิยมใส่ ฮากามะ หรือกิโมโนธรรมดา ไม่ก็ฟุริโซะเดะ อย่างที่อนาใส่  
(http://img112.imageshack.us/img112/7287/dsc01059sb5.jpg)

จริงหรือ  :?:

ผู้หญิง ญี่ปุ่น จะ อ่อนหวานที่สุดในโลก
ประกายดาว คิดว่า ผู้หญิงไทยเสียอีกค่ะ  :mozilla_tongue:

ขอบคุณนู๋ดาวมาก นึกว่าจะไม่มีใครสนใจ  :cry: เห็นเขาไปหมกมุ่นการเมืองกันหมด  :)

ดาว ถามในเรื่องที่อนาว่าจะลงวันนี้พอดีเลย

งั้นวันนี้มาแฉ แลลละเอียดเลยดีกว่า

ถ้าเป็นยูกาตะหน้าร้อน มันมีแค่ชิ้นเดียวค่ะ ใส่หลายชั้นคงร้อนตับแล๊ปเลย คุณสามารถใส่แค่ชิ้นเดียวก็ได้นะค่ะ ไม่จำเป็นต้องใส่อันเเดอร์แว เพราะกิโมโน ด้านหน้ามันจะต้องทบด้วยผ้าสองชึ้นอยุ่แล้ว ดังนั้นเมื่อไม่ใส่อันเดอร์เลยไม่หน้าเกลียดค่ะ

ถ้ากิโมโนที่ใช้ในพิธีการ หรือกิโมโนหน้าหนาววววว ..................
อันนี้ขอให้ทุกคนนึกภาพตามนะค่ะ สำหรับคนผอมๆแบบอนาใส่เข้าไป ตอนแรกก็อันเดอร์แวร์สำหรับกิโมโน อ๋อ อาจารย์บอกอนาให้ถอดยกทรงค่ะ  :lol: จากนั้นก็ผ้าเช็ดตัวสองผืนโป่ะตรงหน้าอก ถ้าคนอวบๆๆไม่จำเป้นค่ะสำหรับผ้าเช็ดตัว จากนั้นก็ เสื้อสีขาวข้างในอีกตัว กว่าจะได้ใส่ผืนกิโมโนจริงๆๆ ก็ทำเอาอนาอึดอัดแล้วค่ะ อาจารย์สอนพิธีชงชาเป็นคนใส่ให้อนา ท่านอาจารย์จะคอยถามว่า เจ็บไหม ? โอเคไหม ตลอดเวลา เพราะ เสื้อจะต้องตรึงมากๆๆๆ พอตรึงยังไม่พอ ต้องเอาผ้าลงมาทบตรงเอวอีกชั้น แล้วจากนั้นก็รัดด้วยเชือก สองเช่น แล้วถึงใช้โอบิ โอบิคือผ้าแถบคาดเอวสวยๆๆนะค่ะ พอนึกออกไหมค่ะ ว่าถ้าคุณใส่ครั้งแรกจะอึดอันแค่ใหน

ที่นุ๋ดาวบอกว่า ทำไมเดินแบบนั้น อนาบอกเลยค่ะว่า กิโมโนมันบังคับการเดินโดยอัตตโนมัติ ใครที่เดินไม่สวยก็ต้องเดินสวย ใครที่เดินก้าวขายาวๆๆมาใส่กิโมโน ก็ต้องก้าวเล็ก ใครไม่เป้นกุลสตรีมามาใส่กิโมโน ก็ต้องเป็นไปโดยปริยายค่ะ เวลาเดิน เวลาวิ่งมันจะต้องก้าวเล็กๆๆ เป้นกุลสตรีโดยอัตโนมัติ

จากรูปที่เห็นคือชุดฮากามะ กิโมโนของผู้ชาย น้องๆในแลปของอนาเอง หล่อไหมค่ะ วันๆๆอนาก็แวดล้อมไปด้วยหนุ่มๆๆหน้าตางี้ค่ะ จนต่อมต้านทานความหล่อชินชาไปเสียแล้ว ..........
 :lol: :lol:(http://img87.imageshack.us/img87/1600/dsc00381ci2.jpg)
(http://img91.imageshack.us/img91/1482/dsc00395zp5.jpg)

อันนี้เป็นฮากามะของสาวๆๆค่ะ
(http://img164.imageshack.us/img164/7420/dsc00402rk1.jpg)





ปล. ถ้าอนาอยู่ในชุดกิโมโน จะดูไม่ออกค่ะว่าเป็นหญิงต่างชาติ แต่ในชุดธรรมดา พอจะดูออก  :mrgreen:  

แล้วเรื่อง ผู้หญิงญี่ปุ่นเล่าคะ?

อนา อธิบาย หน่อย...

เป็นยังไง

ประกายดาวชาตินิยม ค่ะ ยอมไม่ได้ :mozilla_cool:
ส่วนผู้ชายญี่ปุ่น น่ารักไหม ...

ไม่น่ารักใช่ไหม?

เพิ่งเห็นกระทู้นี้ครับ

อืม จริงอย่างที่คุณ อนาว่าเลยครับ ผู้หญิง ญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่งคนไทยที่อยู่ ญี่ปุ่น จะขี้อายทุกคนเลย

ดูได้จาก จะหันหลังหรือหันข้างใส่กล้องทุกคนเลย  :D

อันนี้เป็นมุมมองสำหรับอนาคนเดียวนะค่ะ หากแคบไปก็ต้องขออภัย

ทำไมอนาถึงมองว่า สาวญี่ปุ่นเป็นคนที่อ่อนหวานมากที่สุด อธบายยากอ่ะค่ะ   มันมีเรื่องให้อนาประทับใจกับเพื่อนหญิงญี่ปุ่นเยอะมั่งค่ะ อาจจะเพราะเป็นคนตลกๆๆ เฮฮา กล้าแสดงออก เป็นกับสาวที่นี้ ที่ขี้อาย จะคิดจะทำอะไรมักจะอยู่ในกรอบของวัฒนธรรม ต้องนั่งคุยกันค่ะแล้วอนาจะสาธิตการเดิน การคุย การกิน ของสาวที่นี้ให้ดู ซึ่งเพื่อนๆๆนักเรียนต่างชาติก็ยกนิ้วให้อนามาแล้ว ว่าทำได้เหมือนมาก  เข้าเรื่องเลยดีกว่า สาวญี่ปุ่นเอาใจเก่งมากค่ะ เทคแคร์ดีที่สุด ทำไมถึงว่าเธออ่อนหวานเหรอค่ะ เช่น วันเกิดอนา สิ่งที่อนาได้รัย จะเป้นการ์ดอวยพร หวานๆๆ ตื่นเช้ามาในวันเกิดที่โต๊ะทำงาน จะมีรูปหัวใจแปะ ทีอะไรที่คิกคุที่เธอทำไว้ให้ อนาซึ่งแต่ก่อนเป้นคนที่ไม่หวานกับอะไรไรง่ายๆๆ มาอยุ่นี้ มันก็โดนกลืนไปได้เหมือนกัน แต่ก่อนเลือกปากกาไม่เคยดูลาย ดูสี เด๋วนี้ต้องมองว่าลายอะไร สีน่ารักไหม อย่างงีไม่รุ้ว่าโดนกลืนโดยวัฒนธรรมนี้นี้ไหม  :mrgreen: หรือแม้แต่ เสื้อผ้าที่คุณสวมมาทุกวัน เขาไม่ทักหรอกว่าเสื้อคุณสวย แต่เขาจะไปทักดอกไม้ลายเล็กๆๆที่ปักบนเสื้อคุณ วาจากริยา ที่เคารพ คำพูดหวานๆๆ ที่อนาได้รับ ล้วนมาจากความสุภาพและส่วนมากออกมาจากใจจริงของพวกเธอ  


แต่ถ้ามองภายนอก ฟันธงค่ะ สาวไทยสวยกว่า มั่นใจกว่า ดูมีเสน่หากว่า  อันนี้ไมได้เข้าข้างนะค่ะ แต่มันเป้นเรื่องจริง ไม่เชื่อ ดู โพนี้ค่ะ  ถ้าความน่ารัก ยกให้สาวญี่ปุ่นไปค่ะ เธอน่ารักจริงๆๆ  :lol:
(http://img100.imageshack.us/img100/3895/japanpsddh1.jpg)

ถ้าถามอนาว่า ให้อยู่ แต่งงานกับคนที่นี้ อนาก็คงตอบว่า อนาชอบที่นี้มากค่ะ แต่ให้อยุ่ไปตลอดชีพ อนาอยู่ไม่ได้หรอก หลายอย่างที่อนามองว่า เราปรับไม่ได้ และรับไม่ได้ในวัฒนธรรมบางอย่าง

ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ นุ๋ไม่หลงกลพี่แล้วล่ะ .................

จะบอกว่า อนาหันหลังจะสวยกว่าหันหน้าค่ะ เลยเอาข้างหลังมาให้ดู  

ดีใจด้วย ค่ะ ที่อนา มีความสุขยามไกลบ้าน
ประกายดาวคิดว่านี่แหละคือของขวัญ ที่ดีที่สุดอย่างนึง ที่เรา สามารถอบอุ่นได้ แม้นไกลบ้าน

อย่าง ประกายดาว ยามไกลบ้านเกิด (แต่ต้องอยู่กับแม่ทุกๆวัน)
ก็ พบเจอเพื่อนดีๆ ที่น่ารัก ชนิดที่หลายๆ คนไม่เชื่อว่า เราจะผูกพันกันมาจนป่านนี้
แถมผูกพันกัน ทั้งตระกุลไปๆ มาๆ กัน หลายๆ เที่ยว...

ประกายดาว ว่ามันเป็นความรู้สึกของผู้หญิงตะวันออกเสียมากกว่า
 (ความเห็นส่วนตัวอีกเหมือนกันค่ะ)
ที่เราจะ ถ้อยที ถ้อยอาศัย กัน อ่อนหวานอ่อนโยนต่อกัน ...มันเป็นเรื่องน่ารัก
และ โดยสัญชาติญาณผู้หญิง ของเพศแม่ หรือความเป็นแม่ ก็ทำให้ เกิดความพร้อมจากใจ
ที่จะทำให้ การทำสิ่งต่างๆเหล่านั้นเกิดขึ้นจากหัวใจ ...แต่ประกายดาวก็อดรู้สึกว่า
ผู้ชายตะวันตกแบบ ร้อยเปอร์เซ็นต์ น่ารักสู้ แบบ ผสมผสาน ตะวันออกพบตะวันตกไม่ได้

แต่ อย่างหนึ่ง สำหรับ ผู้หญิง เมื่อเกิดความรัก ก็อยากดูแล คนที่รักกันทั้งนั้น

ใช่ไหมจ้ะ ?
คุณ หนูใบไม้ทะเล   :mozilla_tongue:

ไม่เคยรู้จัก ผู้หญิงญี่ปุ่นตัวเป็นๆ ซักคนเลยครับ เคยเห็นแต่ใน ทีวี หรือ วีซีดี  :mozilla_sealed:

เลยไม่รู้ว่านิสัยเค้าเป็นยังไง จะอ่อนหวานจริงหรือเปล่า รบกวนคุณอนาเอามาฝากซัก 2 - 3 คน เพื่อให้ผมศึกษาได้ไหมครับ  :mrgreen:

ส่วนเรื่องโพล ว่าอยากแต่งงานกับหญิงไทยหรือหญิงญี่ปุ่น คงไม่ใช่ผมที่ตอบว่าหญิงญี่ปุ่น เพราะผมไม่เคยสนใจเชื้อชาติ จะชนชาติใหน ขอแค่เป็นคนที่ผมรัก และเค้าก็รักผม และเราก็เข้ากันได้ นั้นคือคู่ชีวิตผมครับ  :oops:

ผมอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับญี่ปุ่นนะครับ ก็ขอบคุณคุณอนา ที่เอาเรื่องที่เราไม่เคยเห็นมาเปิดหูเปิดตา คนไทยแบบผม ที่ผมชอบญี่ปุ่นที่สุดก็คงเป็น การ์ตูนญี่ปุ่นแหล่ะครับ มันมีมนต์เสน่ห์ จนผมคิดว่า เค้าทำได้ยังไง  :D

ส่วนที่ว่า ไม่หลงกลผมเนี๊ยะ ผมไปสร้างกลให้คุณอนาตอนใหนครับ คนไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอย่างผมเล่นกลไม่เป็นหรอกนะครับ คุณใบไม้ :lol:

และที่ว่า  "อนาหันหลังจะสวยกว่าหันหน้าค่ะ" ผมขอค้านเต็มที่เลยครับ เพราะผมเห็นหลักฐานแล้ว  :lol:

ชอบนะ...ที่'อนา  นำเรื่องเมืองญี่ปุ่นมาเล่า ทำให้รู้จักญี่ปุ่นได้ดีขึ้น
มาให้กำลังใจ  จะได้มีเรื่องเล่าสนุกๆ อีก... :D   

ท่านรู้จัก...ลึกซึ้ง...ถึงภายใน ..จิตใจชมะครับ
มิน่า....ชุดกิโมโน ผิวเผินเกินไป....ท่านถึงต้องมาศึกษา...


(ปกติถนัดแต่ปลดเปลื้อง..............................กิเลส)  :lol:

ชุดกิโมโน ใส่ยาก แล้วก็ถอดยากด้วยค่ะ  

อย่าเพิ่งแนใจค่ะ เพราะอนาอาจจะเอารูปคนอื่นมาโชว์ก็ได้ อิอิ

ถ้าถอดยากนี่ชักไม่น่าสนใจแล้วแฮะ  :mrgreen:  :mrgreen:

เอ่อ...จากประสบกาม..เอ้ย !!  ประสบการณ์.......

มันไม่ต้อง ถอด..หมด...ก็.....ได้......นี่ครับ    :shock: :mozilla_sealed:

ถ้าแบบดิบๆๆ อย่างงั้น ก็.........

ใช่ค่ะ เพราะคล้ายผ้าซิ่น ไร้ under wear



 :lol: :lol: :lol:

ปิดกระทู้เหอะ!!

เลือด กำเดา เปรอะ ไปหมดละเนี่ย !!!

 :mozilla_sealed: :oops: :shock:

   หา!!!!

  ประกายดาวคิดว่า จะหา Daddy of the year award...มามอบให้ คุณพี่ meteorite  :evil:

  แต่ ที่ไหนได้ ......Oh my goodness !!!!

นักเรียนทุกคน " หยุดเดี๋ยวนี้ "  

ใบไม้ทะเล เอาไม้เรียวมา   :evil: :twisted:

พวกเธอทุกๆ คนทะลึ่งมากๆๆๆ
สมควรถูก ตี

เคยมีคนกล่าวไว้ว่า....
เพื่อนแท้..เห็นกัน ยามยาก...

แต่กระผม ขอเสริมว่า...สำหรับคนบางคน
ธาตุแท้ เห็นกัน..ยาม อยาก    
ครับ คุณครูประกายดาว ฮิๆ

 :mrgreen: :lol:


ไม่โกรธ กันนะ คุณ meteorite...เพราะว่าผมไม่ได้แทงข้างหลัง...ผมแทงข้างหน้า ตรงๆเยยฮิๆ

ถ้าผมจะไปหัดใส่ชุดกิโมโน จะมีที่ไหนสอนวิธีการใส่บ้างไม๊ครับ





ผมจะได้รู้ววิธีถอดที่ถูกต้อง   :shock:

วิ่งๆๆๆๆๆๆๆๆ หาไม้เรียวให้ครุประกายดาวว .......


ด้ายแย้วววคร๊าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เอาไม้เรียวมาให้ครูประกายดาวคร๊า  

(http://www.212cafe.com/freewebboard/user_board/banklong/picture/00017_15.jpg)

นักเรียนทุกคน

ครูดาวอยากให้นักเรียนไป อ่าน เรื่อง เสียงสวดมนต์ ที่ครูดาวเขียนไว้นะคะ
ถ้านักเรียนอยากให้มีเสียงประกอบ ก็คลิกไปจะได้ยิน เพลง แผ่เมตตาด้วยค่ะ
ฟังแล้วจิตใจจะสงบดีมากๆ...

ครูดาวอยากเล่าถึงเรื่อง จิตค่ะ นี่เป็นเรื่องหลักใหญ่และสำคัญมากๆ
ไม่ใช่แต่ในทาง ธรรมนะคะ แต่หมายถึงในทางธรรมชาติของมนุษยฺเรานั่นแหล่ะค่ะ
ซึ่งเป้นเรื่องใกล้ตัวที่สุด ครูดาว อยากพูดเรื่องจิตที่เป็นกุศลนะคะ
กับจิตแบบ อกุศลจิต
อ้าววววววววววววววววววววว............
ไม่มีใครตั้งใจเรียนเลย  :evil:

ก็ขนาดคุณครู ยัง เสียงสั่นๆ
นักเรียนก็ย่อมหวั่นไหวเป็น ธรรมดา ฮิๆ


คุณใบไม้ ตัวเองคลี่กิโมโนเอง...
ยังวิ่งไป...หาไม้เรียว  เอาหน้า

พูดคำเดียวว่า.....คบได้ จริงๆครับ ...... :mrgreen: :P :lol:

http://www.japaneselifestyle.com.au/fashion/how_to_wear_yukata.html
เวปนี้สอนวิธีการใส่กิโมโครับ ส่วนถ้าใครอยากรู้วิธีการถอด ให้ทำ Reverse Engineer กันเอาเอง

ปล. ผมมีภาพวิธีการถอดพร้อมเสียงบรรยายแล้วครับ แต่เอามาเผยแพร่ไม่ได้ :lol:

 
ง่า เราผิดอีกแล้วเหรอ

เด็กนักเรียนที่ดี ต้องเชื่อฟังครู ไม่ใช่เหรอค่ะ  

ปกติก็ไม่มีใครคบคร๊า ......... :lol: :lol: :lol:

ผมยอมไม่ได้ !!  ที่จะให้คุณครูอยู่คนเดียว!! ในห้อง




ถ้าจะขัง...ผมเฝ้าเอง!!
อดีตหน่วยอาสาพัฒนาฟามสัมพันธ์อันดี ระหว่างชุมชน

ขณะที่ผมกำลังโพสต์ อยู่ นั้น ปรากฎว่าได้ มีการฟาดฟันกันระหว่างครู และ ลูกศิษย์ ช่างดุเดือดยิ่งนัก ผมในฐานะ คนอยากรู้ คงต้องเอานิ้ว เจาะประตูกระดาษของญี่ปุ่น แอบดูซะแล้ว  :mrgreen:

อย่ามาทิ่มมาแทงผมเลยครับ ข้างหลังข้างหน้าก็ไม่เอา
ไม่ใช่รสนิยมผม อิ อิ    :mrgreen:

ถ้าอยากแทงจริงๆลองไปเลียบๆเคียงๆป้าแมรี่ ณ UN Secretary-General wanted to be ดูดีกว่าครับ
ได้ข่าวว่าแกมีรสนิยมด้านนี้    :mrgreen:  :mrgreen:

ครูกับนักเรียน
อืม
ครูกับนักเรียน และกิโมโน
อืม
ครูกับนักเรียน และการใส่กิโมโน
อืม
ครูกับนักเรียน และการถอดๆใส่ๆกิโมโน

ใช่แล้ว มันต้องเป็นเรื่องอย่างว่าแน่ๆ :shock:

แล้วเด็กชายคนหนึ่งก็ได้เรียนรู้ประสบการณ์ครั้งแรกของเขา ว่าไม่ควรลองใส่กิโมโนเอง เพราะ


อาเบะ ทาเคชิโร่ นักแสดงหนัง AV ท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่าเป็นสัจธรรมที่ ผู้ชายทุกคนล้วนรู้วิธีการถอดกิโมโน ส่วนผู้หญิงทุกคนล้วนรู้วิธีการใส่กิโมโน ธรรมชาติจึงสร้างให้ชายและหญิงมาอยู่ร่วมกันเพื่อให้เกิดการใส่และถอดกิโมโนอย่างสมบูรณ์

 :Dเข้ามาอ่านข้อมูลในช่วงแรก ช่วงหลังว่าจะแจมด้วยซักหน่อย

แต่เห็นไม้เรียวมาแต่ไกล ถอยยยยยย..... ดีกว่า

ไม่ถูกกับไม่เรียวตั้งแต่เด็ก จึงเข็ดไม่ยอมเปลี่ยนแปลง :D

สวัสดีค่ะ คุณ ธ.ส.  และคุณแนวสภา

มาช้าดีกว่าไม่มาค่ะ

จริงๆๆกระทู้นี้ อนาว่าจะเอาเป็นกระทู้ที่เขียนเกี่ยวกับวัฒนธรรมของคนที่นี้นะค่ะ ว่าจะเขียนเรื่อยๆๆ แต่วันนี้ออกทะเลไปหน่อย จริงๆๆต้องโทษอนาเองแระ เพราะไปเปิดประเด็นเอง  :mozilla_tongue:

ก็คิดว่าตัวเองสอนวิธีการใส่ แล้วก็น่าจะสอนวิธีการถอดนะค่ะ  :D

ยังไงอย่าลืมติดตามนะค่ะ

อ๋อ คุณแนวสภา สบายดีนะค่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ทักกันเลย มั่วแต่สวนกันไปสวนกันมา อิอิ

ขอเมาท์ด้วยคนค่ะ ดอกฟ้าฯ เคยมีเพื่อนและผู้บังคับบัญชา

เป็นคนญี่ปุ่น ดอกฟ้าฯว่าผู้ชายญี่ปุ่นนิสัยคล้ายๆผู้ชายไทยอยู่มากค่ะ

เคยทะเลาะเอาเป็นเอาตายกับเอโตะซังผู้ชายปากมาก เคยมีเจ้านายที่น่ารัก

แบบว่าเวลาไม่มีรถใช้ ยืมรถไปใช้ในงานได้ แบบอาซาโน่ซัง ที่รักเมืองไทย

เป็นอย่างมาก และฟูคูดะซังที่น่ารักและแสนดี แต่ดันทะลึ่งมีเมียแล้ว

ดอกฟ้าฯเลยขอบอกลา...

ว่าตะว่าพรุ่งนี้เป็นวันเกิดคุณอนาใช่หรือไม่

จะได้อวยพรวันเกิดค่ะ :mozilla_smile:

ผมจะตั้งตารอดูวิธีการถอดกิโมโนครับ
 :shock:
ปล ผมมักมีอาการ "หื่น" ขึ้นเสมอเลยครับเวลาใครพูดถึงกิโมโน

ดูในหนังเรื่อง Memoirs of A Geisha สิ

ค่าถอดชุด กิโมโน ครั้งแรก อย่างแพง  :shock:

ใช่ๆ ค่าถอดกิโมโนแพงมาก แล้วมันเป็นศิลปะด้วยนะ การถอดไม่ใช่ฉีกทึ้งดึงขาดแบบในหนังบางเรื่อง มันต้องค่อยๆคลี่ออกทีละชั้น มันเป็นงานศิลปะ ถ้าใครไม่อดทนพอ อาจจะทำให้หมดอารมณ์ไปเลยก็ได้ ขนาดคนดูอย่างผมยังรำคาญเลย

อันแรก คับ ผมตอบแทนให้เลยละกัน...ไม่ผิดหรอกคับ

คุณดอกฟ้าน่ารักจัง ใช่ค่ะ พรุ่งนี้  :oops: :oops: :wink:

เด๋วมิ้ทติ้งครั้งหน้า อนาจะใส่กิโมโนไปนะค่ะ เด๋วไปฝึกรำพัดแบบ เกอิชา ก่อน

อิอิ  :mrgreen:

อุ๊บ ซอรี่ครับ ผมพิมพ์ผิด ผื่น ครับ ไม่ใช่ หื่น สาบานได้ว่าพิมพ์ผิด จริงๆครับ ไม่เชื่อเหรอครับ เหะๆๆ :D

ว่าแต่คุณอนาจะใส่กิโมโนไปจริงๆเหรอครับ  :mozilla_laughing: งั้นคราวหน้าผมว่างแน่นอน

โอยๆๆๆ ไม่ต้องรำพัดหรอกครับ

แค่แต่งมาจริง มิตติ้งคงต้องจองสนามหลวงละครับ

โอ้แม่หยาดฟ้ามาดิน
ซากุระโน้มกิ่ง
หนุ่มๆแถวนี้คงต้องวิ่งแข่งกันเข้าเส้น ชัยแย้ว


ดูดิ้ พ่อซามูไรขาเป๋ ยังกะเขยกจะไปด้วยเดะ

เฮ้อ...ผมขอสละสิทธิ์ละกัน
แบบว่ารักเดียวใจเดียว......ขอโรเนียว สักปึกใหญ่ๆ ก็พออิๆ

เด๋วหลังเที่ยงคืนจะส่งของขวัญวันเกิดให้ค่ะ


คนที่เกิดในวันที่ 28 กรกฎาคม เป็นคนที่ค่อนข้างเอาแต่ใจตนเอง

มีความเชื่อมั่นสูง แต่สมองไวเรียนหนังสือเก่ง

ส่วนมากมักเกิดในที่หนึ่ง แต่จะไปรุ่งเรืองในที่อีกแห่งหนึ่ง


ดอกฟ้าฯ แอบไปพลิกตำราจีนมาฝากค่ะ ไม่ทราบแม่นป่าว :mozilla_smile:

ไม่แม่นครับ

น่ำเอี้ยง กือสือ ตัวจริงตายไปแหล่วครับ

ตำรานี่ เขียนไว้แบบพิมพ์ล่วงหน้า ก็ใช้เปิดวนกะของเก่าเอานะคับ

น่าจะเป็นลูกเค้ามั้งตอนนี้นะครับ ไม่ก็ลูกศิษย์

ตัวจริงผมเคยเจอ แม่นพอใช้ครับ

แล้วไง...น่ำเอี๊ยง กือสือง่ะ เหล่ากง ของดอกฟ้าฯย่ะ :mozilla_tongue: :mozilla_tongue:

หา...ฮ้า.....เจงเร้อะเนี่ย

อย่าโม้นาคับ แน่จิง PM ยืนยัน จะให้ดูฤกษ์วันฉุดสาวให้หน่อยงะ

กร๊ากกกกกกกกกกก จะมารบกับคุณ คาเมรอนเหรอค่ะ เพราะเธอจะแต่งแบบ ทอมครุย  

ใครเคยยเห็นคุณ คาเมรอนบ้างค่ะ

คิดหน้าไม่ออกเลย ตอนเธอใส่ชุดนี้ (http://www.samuraiswordstore.com/images/products/last-samurai-armor.jpg)

คุณดอกฟ้าใช้สนามไหนซ้อมยิงค่ะ อนาส่วนมากไปซ้อมยิง ที่ค่านสุรสีห์ จ. กาญจ นะค่ะ พอดีพี่ชายอยู่ที่นั้นคนหนึ่ง พอมาอยุ่นี้ไมได้จับนานแล้ว

ป๋ม ยิง เป้า ลม คับ

(เสหร่อตอบ)  :lol:

นู๋ล้อเล่น ที่ซ้อมนะพี่ชายค่ะ นู๋เล่นไม่เป็นหรอก แค่ไปยืนดูเขายิง สนุกดีค่ะ

สนามซ้อมที่ชอบไปสนามวังกานนท์ ลาดพร้าวค่ะ

ส่วนเป้าซ้อมแล้วแต่สถานการณ์ค่ะ :lol: :lol:

ง่า.............. ถ้าพี่เป็น  ทอม ครูซ

งั้นหนูก็ .. เดมี  มัวร์  ละคะพี่ !!!!!!!!

ว่าแล้วนี่..เอ้ เห็นถอด ๆ ใส่ ๆ ชุดกันตั้งกะบ่าย...สรุปว่าไงอ่ะ

เนี่ย !! สาวๆ เขาจะซ้อมยิงปืนกันแล้วนะคะ  :mrgreen:

ผะผะผม สัญญาว่า จะไม่ทะลึ่งกับสาวๆในที่นี้อีกครับ และจะไม่มีอาการผื่นขึ้นเมื่อเห็นชุดกิโมโน

เห็นชุดนอกไม่เป็นไร
เห็นชุดใน (คุณใบไม้บอกไม่มีชั้นใน)....ผมสู้ตาย!!!

เห็นชุดนอกไม่เท่าไหร่

เห็นชุดใน ถ้าไม่สู้ ตรูไม่ใช่ลูกผู้ชาย  :evil:

ไหนว่าไม่ หื่น แย้วไงงงงงงงง   :shock:

ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายมันค้ำคอ ฆ่าได้ หยามไม่ได้ ถอดชุดนอกแล้ว ผื่นไม่ขึ้น ไม่ใช่ลูกผู้ชาย