ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

"ทักษิณ"นินทาอ.จุฬาฯเหน็บลูกสาวกลางชั้นเรียน

โดย komchadluek วัน อาทิตย์ ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 14:14 น.
“ทักษิณ”ปลื้มลูกสาว "ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นมีแววนักการเมืองเหมือนพ่อ" จับกลุ่มนักข่าวนินทาอาจารย์จุฬาฯ เหน็บลูกสาวกลางห้องเรียน "ยังไม่ลาออกอีกหรือ คงนินทาพ่อลำบาก" "อุ๊งอิ๊ง" สวนกลับเชิญตามสบาย แต่ขอนินทาอาจารย์ลับหลังเอาคืนให้พ่อบ้าง

(23ก.ค.) ระหว่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ยืนรอให้คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ก.และ ส.ข. อยู่ที่โรงเรียนเศรษฐเสถียร ร่วมกับบรรดาบุตรทั้ง 3 คน

ขณะที่ น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็ก เดินเข้าไปทักทายและพูดคุยอยู่กับกลุ่มเด็กนักเรียนหูหนวก อยู่นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินมาพูดคุยกับผู้สื่อข่าว พร้อมกับชี้ให้ดูถึงท่าทีของ น.ส.แพรทองธาร หรือ “น้องอุ๊งอิ๊ง” พร้อมกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “เหมือนพ่อมั๊ย เขาเหมือนพ่อมาก มีแววนักการเมืองเหมือนกัน”

จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ เล่าให้ฟังว่า “วันก่อนอิ๊งเขาไปเรียนที่จุฬาฯ อาจารย์ที่สอนเขาก็ถามออกมาว่า อ้าว! แพรทองธารเธอยังอยู่หรือ ครูนึกว่าเธอออกไปแล้วเสียอีก” อิ๊งเขาก็ตอบกลับไปว่ายังอยู่คะ อาจารย์เขาก็ยังพูดต่ออีก ซึ่งเป็นการพูดในชั้นเรียนขนาดใหญ่ที่มีนิสิต นักศึกษาจำนวนมาก อาจารย์เขาพูดต่อว่า อย่างนี้ครูก็นินทาพ่อเธอลำบากนะซิ อิ๊งเขาก็เลยตอบไปว่า ไม่เป็นไรคะ เชิญตามสบาย วันหลังหนูก็จะขอนินทาอาจารย์ลับหลังบ้าง"

-----------------------------------------------------------------------------------------

ปากจัดใช่ได้เหมือนพ่อไม่มีผิด  :mrgreen:

ดีเทลบางอย่างที่พอทราบมา

• สั่งบรรดาเพื่อนๆ ไม่ให้ความเคารพอาจารย์ที่พาดพิงพ่อเธอระหว่างเดินสวนกัน

• ไม่รู้ว่าเลิกกับแฟนที่ชื่ออ๊อฟ เด็กบัญชีจุฬาหรือยัง แล้วยิ่งได้กันหรือไม่อย่างไรก็ไม่รู้

คุณก็ชื่อ อ๊อฟนี่ครับ ผมเห็นในรูปภาพข้างใต้ข้อความคุณ
หรือจริงๆแล้วคุณเป็นคนวงในมากๆ แต่เป็นสายสืบเนี่ย

สร้างภาพ เก่งเหมือนพ่อ ไม่มีผิด

มันฝังอยู่ในสายเลือดดดดดดดดดด

.................................................................................................................................................

ทักษิณก็คงจะจำคำพูดของอาจารย์ แล้วก็นำประโยคนั้นมาถาม สุรนันท์ เวชชาชีวะ ว่า ..

"ยังอยู่หรือ"   :mozilla_money:


ถ้า สนธิ ลิ้มทองกุล เจอทักษิณ .. สนธิก็คงจะถามทักษิณว่า ..

"ยังอยู่หรือ"  :roll:

(http://img59.imageshack.us/img59/2709/p386863958cm9.gif)

อ้าว ทำไมไม่พูดด้วยละว่าในการสอบครั้เงหนึ่ง อาจารย์ให้จำแนก วิเคราะห์ข้อดี-เสีย ทั้งสองด้านของการบริหารรับฐาลนี้ แต่น้องอิ๊งอิ๊งดันไปเขียนว่าพ่อทำแต่สิ่งที่ดี เฟอร์เฟคไปหมด 555 คะแนนออกมาก็... เรื่องแบบนี้ทำไมไม่พูดซะบ้าง :twisted:

แบบนี้ไม่ถือว่าเป็นการสร้างอิทธิพลในสถาบันการศึกษาเหรอค่ะ

ไหนว่า จะกำจัดผู้มีอิทธิพลให้หมดไป

อะไรที่พ่นจากปากเหลี่ยม ไม่น่าเชื่อถือ
อย่าไปให้ความสำคัญเลย มันโม้ หาเรื่องคนอื่นไปทั่ว

เฮออ ผมเห็นเรื่องที่ท่านรักษาการณ์ภูมิใจ แล้วเศร้าครับ เรื่องแบบนี้ ยังเอามาอวดอีก ภูมิใจจริงๆ เล้ยยย  :lol:

อ้าวว ยังเรียนอยู่อีกรึ...ได้ข่าวว่า ลาออกมาตั้งนานแล้วนี่...

พูดได้มั้ยเนี่ยะว่า  ...เหมือนพ่อเด๊ะเลย เวงกำเจง ๆ...

ลูกคุยกับคนหูหนวก พ่อชอบลิ่วล้อหูหนวก เผลอๆมีอาการหูดับ

สิทธิพิเศษขนานแท้ ไปไหนไม่รอด บารมีพ่อช่วยได้ พ่อก็ใช่ที่

แทนที่จะสอนให้ลูกทำตัวดีๆให้เป็นตัวอย่างต่อคนอื่น ถึงบทบาทของศิษย์ที่ดี

นี่ยุส่งให้ตอกกลับอาจารย์ เจริญละเว้ยยยย ประเทศไทย

แฟ้มบุคคลขอสาปส่งทั้งตระกูล

หงะ ผมว่าปิดประเด็นนี้เหอะครับ ไปเล่นหนักเรื่องที่ไอ้หน้า[- - ]ทุจริต หรือวางแผนอยู่น่าจะดีกว่า

คงจะเป็นนิทานที่พ่อแต่งมาหลอกสื่ออีกเหมือนเดิม

คนอะไรทำได้ทุกอย่างให้ตัวเองดูดีแม้แต่เอาลูกตัวเองมาเล่นไม่คิดบ้างเลยว่านอกจากจะทำให้คนเขาเกลียดพ่อแล้วยังทำให้เกลียดลูกได้อีก

เหลี่ยมเอ๋ย
สอนลูกให้เป็นโจรอีกแล้ว

 :mozilla_yell:

ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น  :(

เรื่องของเวรกรรม สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

...พ่อแม่ทำอะไรไว้ ลูกหลานย่อมได้ผลกรรมนั้นด้วย...บาปกรรมของข้อสอบรั่วหนึ่งล่ะ บาปกรรมของการโกหกหลอกลวง เจ้าเล่ห์เพทุบาย ของพ่ออีกหนึ่ง...แต่ยังไม่รู้ สำนึกและสำเหนียก อีก...ช่างน่าเวทนาจริง ๆ

น่าเห็นใจเหมือนกัน คงทำอะไรไม่ถูก

ถ้าผมเป็นน้องอุ๊งอิ๊ง คงทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน

บางทีอาจรู้สึกว่า ผิด แต่มันพ่อเรานี่หว่า

รู้ไหมครับ กระทู้นี้มีคนเอาไปคิดว่าพวกคุณโจมตีทักษิน ไม่เลือกวิธีการ โจมตีแม้กระทั่งลูกเค้า

คนคิดมันก็****เข้าขั้น ทีเหลื่ยมมันยกเอาลูกสาวขึ้นมาด่า อ.จุฬา มันไม่คิดซักนิดเลยว่าเหลื่ยมเอาลูกตัวเองเข้ามาเล่นเอง

ฟังดูดีๆเหมือนชมลูก..ว่าเก่งเหมือนพ่อ

ฟังอีกทีก็เหมือนเอาลูกตัวเองมาประจาน..โตมาอย่าปากเปราะปากพล่อยเหมือนพ่อน๊ะ..มันไม่ดี

อื้ม.....

กะจะชมลูกสาว พร้อม กัดอาจารย์ได้ในคราวเดียวกัน หะ หะ .... ที่แท้ก็โชว์โง่ และ ทัศนคติแย่ๆหนาๆ ของคนที่หลงตนว่าเป็นผู้(อยากจะ)นำ...ขำกลิ้ง ปนสมเพช...อีกแล้ว.. :mozilla_laughing: :mozilla_laughing: :mozilla_laughing:

“อาจารย์อุ๊งอิ๊ง” เดือด "ทักษิณ" บิดเบือนกล่าวหารังแกเด็ก ลั่นเป็นผู้ใหญ่พอ ไม่เคยกดดัน “แพทองธาร” ท้า "คุณพ่อ" ด่าให้ตรงตัว อย่าตีขลุม "ทำจุฬาฯเสื่อม" บอกสงสารเด็กกลายเป็นเหยื่อการเมือง แถมชม "อุ๊งอิ๊ง” เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนมาก มีความกล้าแสดงออก เวลาถามก็ยกมือตอบ ถือเป็นแบบอย่างที่ดีของนิสิต


(24ก.ค.) หลังจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะว่ามีอาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แซว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง บุตรสาว ซึ่งเป็นนิสิตคณะรัฐศาสตร์ นินทาพ่อนั้น ปรากฏว่า ผศ.ดร.สุภาวดี มิตรสมหวัง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา จุฬาฯ ออกมายอมรับว่า ตนเป็นผู้ที่พูดกับอุ๊งอิ๊งเอง แต่จะขอชี้แจงว่า ที่พูดว่าทำไมยังไม่ออกนั้น เพราะว่าวันที่เจออุ๊งอิ๊ง เป็นวันที่ 7 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันแรกที่เปิดเรียน

ผศ.ดร.สุภาวดี กล่าวต่อว่า ตอนปิดเทอมนั้น ได้ยินข่าวลือมาตลอดว่าอุ๊งอิ้งจะลาออก เมื่อเจอหน้ากันเลยตกใจ จึงถามว่าอ้าวไม่ได้ลาออกหรอกหรือ คราวนี้คงจะนินทาพ่อไม่ได้นะ อุ๊งอิ๊งเมื่อได้ฟังก็หัวเราะ แถมยังบอกว่าไม่เป็นไร หนูอนุญาต ยืนยันว่าเป็นการคุยกันระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ ไม่ได้มีเจตนาเป็นอื่นเลย

"เรื่องการสอนหนังสือนั้น ดิฉันสอนวิชาการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่พูดถึงผู้นำรัฐบาล ถึงไม่ได้เป็นพ่อของอุ๊งอิ๊งก็ต้องพูดถึง เพราะต้องวิเคราะห์ให้นิสิตเห็นทุกฝ่าย แม้แต่พันธมิตร ดิฉันก็เคยด่า แต่ในส่วนรัฐบาลนั้นจะพยายามหลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยชื่อพ่อเขา เพราะสงสารเด็ก เราเข้าใจว่าเขาต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาล" ผศ.ดร.สุภาวดี กล่าวและว่า

ทางคณบดีรัฐศาสตร์ ได้ให้นโยบายไว้ขัดเจนว่า อาจารย์ในคณะสามารถวิพากษ์วิจารณ์การเมืองได้อย่างเต็มที่ แต่ห้ามแตะนิสิต ห้ามพุ่งประเด็นไปที่เด็กเด็ดขาด ไม่ให้พูดคุยกับเด็กในเรื่องการเมือง โดยเฉพาะกับอุ๊งอิ๊ง ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ และตนเป็นผู้ใหญ่เพียงพอ จะไม่ทำอะไรให้เด็กเสียเปรียบ

“อาจารย์ที่คณะทุกคนพยายามปกป้องอุ๊งอิ๊งเป็นอย่างดี อุ๊งอิ๊งคงจะเล่าให้พ่อฟังสนุกๆ แต่นายกฯเอามาพูดไม่หมด แล้วยังบิดเบือนว่าลูกโดนรังแก ทั้งๆที่อาจารย์กับอุ๊งอิ๊ง ไม่มีอะไรกัน ไม่รู้ว่านายกฯต้องการอะไร ไม่เข้าใจว่าทำไมพูดกันเป็นเดือนแล้ว ถึงมาพูดเอาช่วงนี้ หรือหวังจะเบี่ยงประเด็น เพราะเห็นคะแนน สก.-สข. ไม่ดีหรือไม่ แต่เสียใจที่ทำให้เด็กลำบาก อาจจะต้องการดิสเครดิต อาจารย์จุฬาฯ ว่าไม่เป็นผู้ใหญ่ ทำอย่างนี้ถือว่าไม่แฟร์กับอาจารย์คนอื่นที่ไม่รู้เรื่อง น่าจะบอกชื่อไปเลยว่าอาจารย์สุภาวดีเป็นคนพูด หรือเขียนจดหมายมาด่าก็ได้ ควรจะด่าให้ตรงตัว ไม่ควรเอาสถาบันมาพูดเล่น พูดอย่างนี้ถือว่าทำให้สถาบันเสื่อมเสีย” ผศ.ดร.สุภาวดี กล่าว

ผศ.ดร.สุภาวดีกล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วยังรู้สึกชื่นชม น.ส.แพทองธาร ว่าเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนมาก มีความกล้าแสดงออก เวลาถามก็ยกมือตอบ ถือเป็นแบบอย่างที่ดีของนิสิต มีความเข้มแข็งมาก เป็นที่รักในหมู่เพื่อนๆ ยังเคยชมว่าพ่อแม่เลี้ยงดูมาดี ไม่มีเหตุผลเลยที่ตนจะไปกดดันเขา ในทางกลับกันความกดดันกลับมาอยู่ที่อาจารย์มากกว่า ยกตัวอย่างข้อสอบข้อเขียนของนิสิตของคนอื่น อ่านรอบเดียวแล้วให้คะแนน แต่ของอุ๊งอิ๊ง ต้องอ่านถึง 3 รอบ เพราะว่าจะให้คะแนนผิด แล้วเด็กจะเสียเปรียบถูกหาว่ากลั่นแกล้ง

ผศ.ดร.สุภาวดี กล่าวว่า จากการพูดของนายกฯครั้งนี้ ทำให้ตนรู้สึกสงสารอุ๊งอิ๊ง เพราะต้องมาเจอกันอีกครั้งในวันพุธ จะมองหน้าเพื่อนอย่างไร เด็กกลายเป็นเหยื่อของการเมือง โดยส่วนตัวแล้วไม่มีปัญหา แต่เชื่อว่าอุ๊งอิ๊งคงต้องลำบากใจ อย่างไรก็ตามหากถามว่า จะเอาเรื่องกับนายกฯหรือไม่นั้น ตนคงไม่เอาเรื่อง เพราะผู้นำประเทศคนนี้ก็เป็นอย่างนี้ ทุกคนก็รู้ดี ไม่อยากเอาเรื่อง ไม่อยากแตะ ไม่อยากยุ่ง ไม่อยากเสวนาด้วย

ขณะที่รศ.ดร.วันชัย มีชาติ รองคณบดีฝ่ายบริหารและวางแผน รัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า หลักการสอนของคณะนั้นการจะวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่วิจารณ์ต่างหากต้องถือว่าเป็นเรื่องแปลก แต่การวิจารณ์รัฐบาลก็ต้องหมายถึงการดำเนินงานของรัฐบาล ส่วนตัวบุคคลนั้นเป็นประเด็นรองที่จะมีการหยิบยกมาพูดถึง

"อย่างไรก็ดีการแสดงออกของทั้งอาจารย์ และนิสิตตามที่เป็นข่าวก็ถือเป็นเรื่องปกติของคณะรัฐศาสตร์ คืออาจารย์วิพากษ์การทำงานของรัฐบาล และนิสิตก็มีสิทธิ์วิพากษ์การสอนของอาจารย์เช่นกัน และน.ส.แพรทองธารแม้จะเป็นลูกสาวนายกรัฐมนตรี แต่ก็มีฐานะเป็นนิสิตคนหนึ่ง ไม่ว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ก็ไม่กระทบกับเนื้อหาการสอนตามหลักสูตร แต่จะไม่กระทบกับตัวผู้เรียนและผู้สอน" รองคณบดีฝ่ายบริหารและวางแผน รัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าว

ด้าน รศ.สุริชัย หวันแก้ว อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า ไม่รู้พ.ต.ท.ทักษิณ พูดเล่นหรือเปล่า พักนี้ดูขี้เล่นมากขึ้น แต่ใครก็ตามที่เป็นนิสิตของจุฬาฯ ก็มีสิทธิและหน้าที่พร้อมมูลในการเรียน การเป็นลูกใคร พ่อหรือแม่จะเป็นอย่างไร ก็ไม่กระทบกับการเรียน ถ้ามีความตั้งใจเรียนจริง เรื่องนี้เป็นประเด็นไร้สาระ ถ้าถามว่าคนในคณะพูดกันเรื่องนี้หรือไม่ก็คงมีแต่คนหัวเราะ ถ้าใส่ใจกับเรื่องไร้สาระ จากไร้สาระยกกำลังหนึ่งก็จะกลายเป็นไร้สาระยกกำลังสอง กำลังสาม แล้วจะทำให้พลอยไร้สาระไปด้วย บ้านเมืองตอนนี้ต้องการเรื่องที่เป็นสาระมากว่า

ทั้งนี้วันที่ผศ.ดร.สุภาวดี กล่าวเรื่องนี้จนกลายเป็นประเด็นนั้น เกิดขึ้นในวันพุธที่ 7 มิ.ย. ซึ่งเป็นคาบแรกหลังจากเปิดเทอม เป็นการทักทายกันในห้องเรียน ก่อนที่จะเรียนวิชาการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม รหัสวิชา 2403350 ซึ่งเป็นวิชาบังคับของนิสิตปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ มีเรียนทุกวันพุธ เวลา 09.00-12.00 น.

นาวสาวแพรทองธารนั้น กำลังศึกษาชั้นอยู่ชั้นปีที่ 2 ในสาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำหรับหลักสูตรที่ต้องศึกษาของนิสิตชั้นปีที่ 2 ในภาคการศึกษาที่ 1/2549 ประกอบด้วย วิชา ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับความคิดทางการเมืองและสังคม วิชาความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ วิชาการศึกษาเชิงปริมาณในทางสังคมศาสตร์ วิชาความรู้เบื้องต้นทางรัฐประศาสนศาสตร์ และวิชา ภาษาอังกฤษสำหรับสาขาวิชา 1 วิชาศึกษาทั่วไป

http://www.komchadluek.net/2006/07/24/a001_30679.php?news_id=30679

เอาละซิ แม้วบิดเบือนข้อมูลเหรอ

ฉายาใหม่ A Tuky จอมลวงโลก โดนลอกเปลือกอีกแล้ว บิด ๆๆๆๆๆ เบือนทั้งชีวิต ฮ่วยบัดซบ...!  :mozilla_undecided:

แม้วบอก สื่อมั่ว เลอะเทอะ ผมพูดตอนไหน
อาจารย์ก็เหมือนกัน ไปหูเบาฟังสื่อ แล้วเชื่อ
พวกอยู่แต่ในห้องสมุด สมองทึบ

ตนคงไม่เอาเรื่อง เพราะผู้นำประเทศคนนี้ก็เป็นอย่างนี้ ทุกคนก็รู้ดี ไม่อยากเอาเรื่อง ไม่อยากแตะ ไม่อยากยุ่ง ไม่อยากเสวนาด้วย


นั่นก็คือไม่พึงโอวาท ไม่พึงเจรจา ไม่พึงว่ากล่าว ไม่คบค้า ไม่สมาคม ไม่ขาย ไม่ให้บริการ ไม่ยุ่ง ไม่เกี่ยวข้องด้วยประการใดๆ
http://forum.serithai.net/index.php?topic=4553.0

ทรามเกินคบ  :?

อีกคนฉีกบัตร อีกคนแซวเด็ก....หึหึ....
ถ้าไม่อยากให้กระทบกระเทือนถึงสถาบันฯ
ก็อย่าทำสิว้าา....

เอ้าเว้ย ปากพาไปอีกแล้วแม้วเอ้ย
ถ้า ผศ.ดร.สุภาวดี พูดจริง แม้วมันใส่ไข่เล่นอาจารย์แถมยังทำให้ ลูกสาวมองหน้าใครไม่ติดอีก
เวรกรรมของลูกแม้วจริงๆ

เหลี่ยม เอ้ย

ไม่น่าจะเอาเด็กมาเล่นเป็นประเด็นการเมืองเลย

พับเผื่อย

ต้องถามเด็ก ที่อยู่ในเหตุการณ์
เพราะปกติ อ. คณะนี้ ก็เชื่อถือไม่ค่อยได้อยู่แล้ว
ตั้งแต่คณบดีเลย

http://bangkokbiznews.com/2006/07/24/w001_122883.php?news_id=122883

เจอในกรุงเทพธุรกิจ พูดกันคนละเรื่องเลย

ขอสนับสนุนอาจารย์ทุกท่าน
ผู้นำชั้นเลวแบบนี้ซัดให้เต็มที่เลยครับ
ท่านมีสิทธิ์ที่จะใช้ Academic Freedom ได้เต็มที่อยู่แล้ว
เชื่อว่าท่านคงแยกแยะออกว่าใครน่าสงสาร
เชื่อว่าท่านคงแยกแยะออกว่าใครน่าได้รับการสาปแช่ง

เคยได้ยินว่าสุนัขมันยังไม่กัดลูกตัวเองทำอะไรนึกถึงเด็กบ้างเถอะครับ อย่านึกแต่จะดิสเครดิตคนอื่นหลอกตัวเองไปวันๆ

เลวได้กะโหลกกะลาจริงๆครับ...นายนักฆ่า(ตัวตาย) หน้า เหวอๆ... เป็นแค่หมา...ดันสเออะ มาเห่าสิงห์...เหอะ เหอะ

นี่ขนาดอาจารย์ไม่ดีซักคน ยังอุตส่าห์มีเด็กโง่ ๆ กับพ่อแม่โง่ ๆ บางคน ดิ้นรนทุกวิถีทาง ถึงขนาดเปิดข้อสอบก่อนวันสอบ เพื่อให้เด็กโง่ ๆ เข้าเรียนที่นี้ให้ได้ วันที่ลงทะเบียนวันแรกเห็นแห่กันไปทั้งพ่อทั้งแม่ยังกะไปส่งเด็กอนุบาล
ถ้ามันไม่ดีก็อย่าไปเรียน ย้ายไปเรียนที่ ม.ชินวัตร ดีกว่า จะมาหน้าด้านเรียนอยู่ทำไม แย่งที่คนอื่นเค้า เด็กเก่ง ๆ ที่เค้าไม่ได้รำรวยยังมีอีกเยอะ

นั่นสิคะ คนเป็นพ่ออวดรู้อวดเก่งมานานแล้ว ด่านักวิชาการทั้งขาจรและขาประจำมาตลอดหลายปี แล้วทำไมอยากให้ลูกเข้า จุฬา ฯ เหลือเกิน จนชาวบ้านเค้ารู้กันทั่วว่า อยากขนาดซะจน "ข้อสอบรั่ว"...และยังเรื่องการเรียนมหาวิทยาลัยของลูกสาวคนโต เรียนสายศิลป์ แต่ซิกแซกสอบเข้าคณะของเด็กสายวิทย์ อ้างว่า สอบเข้าผ่านทางภาคพิเศษ แต่ลงทะเบียนเรียนวิชาอะไรบ้างสมัยปีหนึ่ง ฟิสิกส์ เคมี ฯลฯ ลงเรียนก็ไม่ได้ แล้วยังจะสอบเข้าไปอีก ใครรู้ก็ฉงนทั้งนั้น ตลกบริโภคหรือไง ต่อมาก็ย้ายคณะแบบที่ปกติไม่มีสิทธิ์ทำได้.. และยังมีโพยซุกเข้าห้องสอบของลูกชายคนโตอีก

พ่วงเรื่อง ตำแหน่งปลัดกระทรวงของน้องเขยอีก....โกงงงงงงงงงงงทั้งน้าน คนปกติที่มีจิตสำนึกที่ดีที่ไหนเขาทำกัน.....

ทั้งหลายทั้งปวงที่โดนขุดขึ้นมาเมื่อไหร่ คนที่จิตปกติคงต้องเอาปี๊บคลุมหัวแล้ว ไม่หน้าด้านหน้าทนให้คนเขาแฉและประจานเช่นนี้หรอก

แน่จริง ลาออกเลยทั้งพ่อและลูกน่ะแหละ

เรื่อง ปลัดยุติธรรม โดย ซี 12 สำหรับอ่านประกอบ ความโกงของคนหน้าเหลี่ยม...ทำทุกอย่างโดยไม่คำนึงถึงวิธีการที่ใช้ เพื่อให้ได้อำนาจและเงินที่ตนเองต้องการ...


ปลัดยุติธรรม (2)

จำเป็นต้องบอกเล่าเส้นทางเดินของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ บนตำแหน่ง ปลัดกระทรวงยุติธรรม อันซ้ำซาก

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขึ้นดำรงตำแหน่ง ปลัดกระทรวงยุติธรรม อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2542

ถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะเกษียณอายุราชการไปภายในไม่กี่ปี แต่นี่อาศัยว่า ปลัดสมชาย ได้เป็นปลัดเมื่ออายุยังน้อยเพียง 52 ปี

เมื่อดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรมครบวาระ 4 ปี ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2546 ซึ่งตามหลักเกณฑ์แล้วจะต้องโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งอื่น แต่ก็อาศัยข้อยกเว้นของกฎหมายขยายเวลาการดำรงตำแหน่งต่อไปอีก 1 ปี จนถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2547

แถมยังมีการขยายเวลาการดำรงตำแหน่งครั้งที่ 2 ไปอีก 1 ปี จนถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2548 และเมื่อมีครั้งที่ 2 ก็มีครั้งที่ 3 ได้ โดยขยายเวลาการดำรงตำแหน่งครั้งที่ 3 ไปอีก 1 ปี จนถึง วันที่ 10 พฤศจิกายน 2549

โปรดสังเกตนะครับว่ากำหนดเวลาดังกล่าวคือ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2549 นั้นยังมาไม่ถึง

ถ้ารอไว้ใกล้ถึงเวลาแล้วขยายเวลาให้อีกเป็นครั้งที่ 4 ก็คงโดนโห่ แต่ครั้นไม่ขยายเวลาก็จะอยู่ได้แค่เพียง วันที่ 10 พฤศจิกายน 2549 ซึ่งยังไม่ถึงกำหนดเกษียณอายุราชการ

พอถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2549 พี่เมีย ก็เลยแก้ปัญหาให้เป็น ของขวัญวันวาเลนไทน์ ด้วยการย้ายสับเปลี่ยนไปเป็น ปลัดกระทรวงแรงงาน สลับกับ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ที่ต้องขยับไปเป็น ปลัดกระทรวงยุติธรรม ด้วยเวลาที่เหลือเพียง 7 เดือนเศษ ชนิดที่ยังไม่ทันได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันก็ต้องเก็บของกลับบ้านแล้ว

จากวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2549 ปลัดสมชาย ไปนั่งเก้าอี้ปลัดกระทรวงแรงงานเพียง 5 เดือนแบบก้นยังไม่ทันร้อน และจะรู้จักหน้าค่าตาอธิบดี รองอธิบดี หรือข้าราชการระดับบริหารของกระทรวงครบถ้วนหรือยังก็ไม่รู้

พอถึงวันที่ 18 กรกฎาคม 2549 ก็มีมติ ครม.วางมัดจำไว้ให้เลยว่า ตำแหน่ง ปลัดกระทรวงยุติธรรม ของข้าใครอย่าแตะ วันที่ 1 ตุลาคม 2549 จะกลับมานั่งตามเดิม

เห็นไหมครับว่าการกินน้ำบ่อโศกโยกไปก็โยกมาของ ปลัดสมชาย ระหว่างตำแหน่ง ปลัดกระทรวงยุติธรรม ไป ปลัดกระทรวงแรงงาน แล้วกลับมา ปลัดกระทรวงยุติธรรม อีกรอบล้วนอยู่ในขอบเขตเงื่อนเวลา วันที่ 10 พฤศจิกายน 2549 ทั้งนั้น

แต่มีของแถมว่าเที่ยวนี้จะอยู่เลยวันที่ 10 พฤศจิกายน 2549 ไปได้จนเกษียณอายุราชการในวันที่ 1 ตุลาคม 2550 อย่างบันเทิงโดยไม่ต้องขยายเวลาแต่ประการใด

นี่คือการบริหารงานบุคคลในราชการที่ทำราวกับบริษัทส่วนตัว.

“ซี.12”
 
http://thairath.co.th/news.php?section=education03&content=13756

เรื่องที่พี่เหลี่ยม" ไปนินทาอ.จุฬาฯว่าเหน็บลูกสาวกลางชั้นเรียนนั้น...

เป็นหนึ่งในแนวทางสมานฉันท์ของพี่เหลี่ยมแกน่ะครับ...  :lol: :lol: :lol:

อือม.... :shock:

เริ่มรู้สึกเหนื่อย ๆ แล้วหละ คนที่เห็นแก่ตัวก็พยายามสร้างเรื่องกันร่ำไปไม่หยุดหย่อน

เมื่อไหร่เราจะได้คนดีที่รุ้จักการเสียสละจริง ๆ เสียทีนะ

ขอให้ประเทศไทยสงบสุขสักทีเถิด

 :idea: :idea: :idea: :idea: :idea:

เสียงเรียกร้องความสนใจ เริ่ม อ่อนน๊า
เรื่องสร้างมา นี่ เด่ะๆ
เมื่อสองอาทิตย์ก่อน ยัง ปากดี อยู่เรยย