หัวข้อ: ทักษิณ"ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ แต่ชอบฟ้องหนังสือพิมพ์ เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 20-07-2006, 17:20 โดย บุญเลิศ ช้างใหญ่
"คุณทักษิณ ชินวัตร" เป็นนายกรัฐมนตรีมานานกว่า 5 ปี (ต้นปี 2544-ปัจจุบัน) ก่อนหน้านั้นเคยเป็นรองนายกฯ รวมเวลาการเป็นนักการเมืองและดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีไม่ต่ำกว่า 10 ปี คุณทักษิณย่อมรู้ว่าธรรมชาติของสื่อมวลชนไทยโดยเฉพาะหนังสือพิมพ์นั้นเป็นอย่างไร ไม่ว่าคุณทักษิณจะ (ถนัด) พูดคนเดียว (พูดข้างเดียว) เช่น การเป็นประธานเปิดประชุม การบรรยาย การปาฐกถา การออกอากาศทางวิทยุในรายการ ""นายกฯทักษิณคุยกับประชาชน"" เป็นต้น หนังสือพิมพ์จะนำคำพูดมาตีพิมพ์อย่างละเอียดและครบถ้วน เนื่องจากคุณทักษิณเป็นนายกฯ เป็นผู้บริหารสูงสุดของรัฐบาล ที่สำคัญเวลาคุณทักษิณพูดมักจะมีอะไรใหม่ๆ มีการรับปาก รับประกันว่าจะต้องทำให้ได้ ทำให้สำเร็จ (ซึ่งหลายเรื่องเป็นไปไม่ได้ เช่น การขจัดความยากจนให้หมดใน 8 ปีที่เป็นนายกฯ) หรือไม่ก็จะมีคำพูดที่ตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามอยู่เสมอ เรียกว่าคุณทักษิณไม่เคยกลัวหรือเกรงใจใคร คำพูดของคุณทักษิณถูกนำไปจัดพิมพ์เป็นหนังสือขายในท้องตลาดไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยเล่ม ไม่เคยมีนายกฯคนไหนทำได้อย่างคุณทักษิณ การตอบคำถามผู้สื่อข่าว การหลบเลี่ยงไม่อยากเจอผู้สื่อข่าว ทำเป็นไก๋ กลบเกลื่อนเรื่องที่ถูกถาม ทำเป็นจะร้องเพลงให้ฟังบ้างล่ะ ให้กลับไปเถอะ อย่าตามเลยบ้างล่ะ พฤติกรรมเหล่านี้จะถูกหนังสือพิมพ์นำมารายงานเช่นเดียวกัน ในรอบ 5 ปีกว่าบนตำแหน่งนายกฯ คุณทักษิณพูดตำหนิหนังสือพิมพ์หลายครั้ง เป็นต้นว่า ชอบใส่ความเห็นลงไปในข่าว การเสนอข่าวบิดเบือน ฯลฯ นั่นแสดงว่าคุณทักษิณก็อ่านหนังสือพิมพ์ นอกจากนี้ คุณทักษิณยังเคยบอกว่า ตนเองใช้เวลาอ่านหนังสือพิมพ์เพียงเล็กน้อย แค่หยิบขึ้นมาอ่านแบบผ่านๆ ก็รู้เรื่องหมดแล้ว "ใครจะไปรู้ว่า เวลานี้คุณทักษิณกำลังเป็นโรค "กลัวข่าวหนังสือพิมพ์" ไปเสียแล้ว!" ""เชื่อไหมครับ บางวันผมไม่อ่านข่าวเลย เพราะอ่านไปแล้ว ฟังข่าวนี่มันผิดไปเยอะ และพูดไปก็เหมือนเดิมครับ ยิ่งหนักกว่าเดิมอีก บางทีต้องขอว่า ผมพูดน้อยดีๆ ดีกว่า พูดไปก็เป็นประเด็นหมด..."" ตอนหนึ่ง คุณทักษิณพูดในรายการ "นายกฯทักษิณคุยกับประชาชน" เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม 2549 และอีกตอนหนึ่งบอกว่า ""วันก่อน ผมไมได้อ่านข่าวครับ อยู่ๆ ก็มีสื่อมาถามเรื่องย้าย ผบ.ทบ. ผมก็ยังไม่รู้เรื่องเลย และก็ไม่เคยคิดเลย แล้วอยู่ๆ ก็มาถามว่าจะย้าย ผบ.ทบ. ผมไม่ได้อ่านข่าวจริงๆ เพราะอ่านแล้วมันเหนื่อย ผมก็เลยไม่รู้ ผมก็บอกว่า คุณอย่ามาดักถามผมเลย ไม่ได้คำตอบจากผมหรอก...."" ก็เพราะไม่ได้อ่านข่าวหนังสือพิมพ์ ทำให้ "ตกข่าว" ตามสถานการณ์ไม่ทัน เวลาเจอคำถามผู้สื่อข่าวจึงตอบไม่ถูก คุยกับใครก็ไม่รู้เรื่อง ที่สำคัญ คุณทักษิณจะไม่รู้ปฏิกิริยาของผู้คนจากฝ่ายต่างๆ ว่าคิดกับตัวเองและชาติบ้านเมืองอย่างไร ข้อเสนอแนะดีๆ ที่คุณทักษิณควรจะฟังก็ไม่มีทางได้รู้ "คุณทักษิณบอกว่า อ่านข่าวหนังสือพิมพ์แล้วมัน "เหนื่อย"" เป็นธรรมดาที่จะต้องเหนื่อย เพราะคุณทักษิณคือ """ตัวปัญหา"" ของความขัดแย้งวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวงซึ่งสั่งสมมาตั้งแต่วันแรกที่เข้าดำรงตำแหน่งนายกฯจนถึงการตัดสินใจผิดที่ไปยุบสภา เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 แล้วพรรคฝ่ายค้านบอยคอตไม่สังฆกรรมด้วย พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ชุมนุมเดินขบวนขับไล่ไสส่ง ซึ่งกลายมาเป็น "วิกฤตการณ์ที่สุดในโลก" การที่ข่าวสารของหนังสือพิมพ์โถมกระแสคุณทักษิณเป็นปรากฏการณ์ที่มิได้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ แต่มีที่มาที่ไปซึ่งสามารถอธิบายนได้ เมื่อคุณทักษิณแก้ปัญหาไม่ตกเพราะยึดติดอยู่กับอำนาจ ไม่โอนอ่อนผ่อนตามข้อเรียกร้องของฝ่ายอื่น ยืนกระต่ายขาเดียว "ไม่ลาออก ไม่เว้นวรรค" สภาพจิตใจย่อมไม่ปกติ จนมีบางคนออกมาพูดว่า คุณทักษิณกำลังป่วย ควรจะไปพบแพทย์ " นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโสพูดไว้เมื่อ 4-5 วันมานี้ว่า คุณทักษิณป่วยด้วย "สมองตกบ่วง" โดยอธิบายว่า "เวลาคนมีความทุกข์มักจะดิ้นรน มักจะมองว่า ความทุกข์ของตัวเองมาจากคนอื่น ในทางการแพทย์เรียกว่า สมองตกบ่วง"" น่าเสียดายที่คุณทักษิณไม่รู้ตัว เพราะไม่อ่านข่าวหนังสือพิมพ์ คนใกล้ชิดก็ไม่กล้าบอก คุณทักษิณอย่าคิดว่าตัวเองเท่านั้นที่เหนื่อย ประเทศชาติก็เหนื่อยล้าไม่แพ้กัน เวลานี้ ประเทศต้องการรัฐบาลที่ซื่อสัตย์ ผู้นำเปี่ยมด้วยคุณธรรม มาจากการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรมโดยการจัดการของ กกต.ชุดใหม่เป็นผู้จัดการเลือกตั้ง ไม่ใช่ กกต.ปัจจุบันที่เหลือแค่ 3 คน ซึ่งหมดความชอบธรรมไปแล้ว นอกจากนั้นยังต้องการเห็นการพิสูจน์ความจริงว่า คุณทักษิณมีผลประโยชน์ทับซ้อนในเรื่องต่างๆ ดังที่เกิดข้อครหาไม่รู้กี่เรื่องต่อกี่เรื่องจริงหรือไม่ ถ้าไม่มีมลทินมัวหมอง เพราะสุจริตตั้งแต่หัวจรดเท้าก็แล้วไป ถ้าตอบได้ไม่เคลียร์ มีพฤติการณ์ส่อไปในทางใช้ตำแหน่งและอำนาจไปในทางมิชอบก็ควรจะอำลาวงการเมืองไปได้แล้ว "ไม่ว่าคุณทักษิณจะอ่านหนังสือพิมพ์หรือไม่อ่านก็เป็นเรื่องของคุณทักษิณ แต่หนังสือพิมพ์ก็ยังทำหน้าที่ของการเป็น "กระจก" สะท้อนสังคมการเมืองและเป็น "สุนัขเฝ้าบ้าน" ที่ซื่อสัตย์ต่อไป อีกทั้งการทำหน้าที่นั้นจะหนักยิ่งขึ้นกว่าเดิมเป็นหลายเท่า เนื่องจากประเทศชาติอยู่ในสภาวการณ์ "วิกฤตที่สุดในโลก" หนังสือพิมพ์ไม่กลัวเหนื่อยกับการต้องเห่าทั้งวันทั้งคืนและกัดโจรที่เข้ามาปล้นบ้านปล้นเมือง แปลกหรือไม่ที่คุณทักษิณไม่อ่านหนังสือพิมพ์ แต่ฟ้องร้องดำเนินคดีหนังสือพิมพ์ไปหลายฉบับในข้อหาหมิ่นประมาท เล่นทั้งทางอาญาที่มีโทษจำคุกและทางแพ่งที่เรียกค่าเสียหายฐานละเมิดเป็นเงินหลายร้อยล้านบาท นักการเมืองฝ่ายค้าน แกนนำและแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ออกมาพูดจากระทบไปถึงคุณทักษิณเพื่อ "ตรวจสอบ" ก็ตกเป็นผู้ต้องหาและจำเลยเป็นทิวแถวและโดนกันคนละหลายข้อหา ต้องเสี่ยเวลา เสียเงินทองและเสียกำลังใจในฐานะต้องเป็นพลเมืองที่อยู่ภายใต้รัฐบาล "ทักษิณ" ถ้าคุณทักษิณคิดว่าตัวเองยังเป็นปกติ ไม่ได้ป่วยไข้เหมือนกับที่หลายๆ คนพูดก็ไม่ควรจะปล่อยให้ทนายความของตัวเองไปฟ้องร้องดำเนินคดีหนังสือพิมพ์และใครต่อใครมากมายเช่นนี้ คุณทักษิณเป็นนักการเมือง มีตำแหน่งสูงถึงนายกฯ มีอำนาจ นี่คือ "บุคคลสาธารณะ" ที่ต้องพร้อมรับฟังความเห็นที่แตกต่างรวมทั้งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่หนักบ้าง เบาบ้าง "ทนายความประจำตัวคุณทักษิณชอบจะแจ้งความ ฟ้องร้องใครต่อใคร ไม่เหนื่อยหรอก คุณทักษิณสิจะเหนื่อย" มติชน บทความยาว แต่อ่านได้ง่าย หัวข้อ: Re: ทักษิณ"ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ แต่ชอบฟ้องหนังสือพิมพ์ เริ่มหัวข้อโดย: Sweet Chin Music ที่ 20-07-2006, 20:22 ฟ้องกันเข้าไปครับ ทีละ 1000 ล้าน เหอๆๆ
ชื่อเสียงเหลี่ยมนะ เสีย อยู่แล้ว ด่าไปก็เท่านั้น 555+ หัวข้อ: Re: ทักษิณ"ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ แต่ชอบฟ้องหนังสือพิมพ์ เริ่มหัวข้อโดย: บุรุษไร้นาม ที่ 20-07-2006, 21:16 ฟ้องเยอะๆไปเลย ฟ้องทุกคนที่อ่านหนังสือพิมพ์ไปเลย ไอ้ทนายขี้ข้าหัวขาวก็ยิ้ม รวยไปแปดชาติ
หัวข้อ: Re: ทักษิณ"ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ แต่ชอบฟ้องหนังสือพิมพ์ เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 21-07-2006, 10:30 ต้องฟ้องครับ เพราะทักษินเป็น คนจนของแผ่นดิน
ตามนี้ http://forum.serithai.net/index.php?topic=4379.0 อิอิอิ ขออนุญาติ โปรโมทกระทู้ตัวเองหน่อย :mrgreen: หัวข้อ: Re: ทักษิณ"ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ แต่ชอบฟ้องหนังสือพิมพ์ เริ่มหัวข้อโดย: buntoshi ที่ 21-07-2006, 11:57 คนทำดี ซื่อสัตย์ พูดความจริง บริสุทธิ์ใจ ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย จริงไหมครับท่านรักษาการณ์ :mrgreen:
|