หัวข้อ: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 18-07-2006, 10:01 คือว่า มันเป็นเรื่องที่คาใจมานานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แล้วครับ เรื่องของคลองคอดกระเนี่ย เห็นว่ามีนโยบายมานานนนนนนนนนนน พอๆกันสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ยังไม่ได้ขุดสักที เห็นว่าพอจะขุดๆ เป็นอันต้องเลิกขุดซะงั้น ผมว่าวิธีแก้เผ็ดพวกสิงคโปร์ กับ มาเลเซีย ที่ดีที่สุด เนี่ย น่าจะเป็นคลองคอดกระเนี่ยแหล่ะ ประเทศพวกนั้นจะได้ไม่ต้อง ทำตัวเป็นนายด่าน ปั่นราคานู่น ปั่นราคาเนี่ย ให้เศรฐกิจมันผันผวน มาเลเซีย ก็จะได้ไปยุ่งเรื่องเศรฐกิจของตัวเอง ไม่ต้องมายุ่งเรื่อง 3 จว. ชายแดนใต้ของไทย ภาคใต้จะได้เจริญขึ้นอีกหน่ัอย พอเศรฐกิจดีขึ้น คนว่างงานก็จะได้น้อยลง การชักชวนทำในเรื่องผิดๆ ที่ภาคใต้ ก็จะได้น้อยลงไปด้วย เพี้ยง ตูจะได้เห็นไม๊ว๊าาาาาาาาาา ไอ้คลองคอดกระเนี่ยน่ะ หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: koo ที่ 18-07-2006, 10:06 ไม่ได้เห็นหรอกครับ ถ้าขุดวันนี้ ก็ช้าไป20ปีแล้ว
หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: In The Name Of Justice. ที่ 18-07-2006, 10:07 ต้องศึกษาให้ดีว่าตอนนี้ขุดแล้วจะมีประโยชน์ไหม?
หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 18-07-2006, 10:19 ไม่ได้เห็นหรอกครับ ถ้าขุดวันนี้ ก็ช้าไป20ปีแล้ว แต่ผมว่า ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำนะครับ เพราะว่า ถ้าทำแล้วล่ะก็รับรองได้ว่า ประเทศไทย เงินไหลมาเทมาแน่นอนครับ เพราะว่าการขนส่งทางเรือจะช่วยทุ่นไปได้หลายวันเลยล่ะครับ ยิ่งช่วงนี้น้ำมันแพงๆด้วย เจ้าของธุรกิจ ก็น่าจะหาทางรัดเข็มขัดกันเต็มที่นะครับ หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: Yodyood ที่ 18-07-2006, 10:26 อืม น่าคิดเหมือนกันนะครับ
หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 18-07-2006, 15:25 ในสถานการณ์ที่น้ำมันมีแต่จะแพงและขาดแคลนขึ้นทุกวัน การขุดทางลัดระหว่างอ่าวไทยและทะเลอันดามัน น่าจะถือได้ว่ามีโอกาศคุ้มทุนในระยะเวลาไม่นาน เพราะการขนส่งสินค้าทางเรือ ประหยัดที่สุดในเวลานี้และเวลาต่อไปข้างหน้า
การขุดคลองลัดนั้น หากดูแผนที่ประเทศไทยจะพบว่า ส่วนที่แคบที่สุดของประเทศนั้น ขุดไม่ได้ เพราะเราแคบของเราข้างเดียว อีกข้างมันเป็นแผ่นดินของประเทศพม่าเขา การขุดคลองลัดนั้น จำต้องเลื่อนลงไปขุดในส่วนที่ชายฝั่งสองข้างเป็นแผ่นดินของประเทศไทย การขุดคลองระหว่างทะเลนั้น ทำไม่ได้ง่ายๆเหมือนการขุดคลองปกติ เนื่องจากน้ำทั้งสองฝั่งเป็นน้ำเค็ม และมีระดับน้ำที่ไม่เท่ากัน อีกทั้งนอกจากการขุดคลองแล้วยังต้องทำร่องน้ำลึกสำหรับให้เรือผ่านได้อีกด้วย ต้องมีประตูกั้นน้ำเพื่อรักษาระดับน้ำในคลอง แล้วถ้าคลองนั้นจะเลือกใช้น้ำเค็มเป็นน้ำในคลอง จะต้องสร้างพื้นคลองและผนังคลองทั้งสองฟาก เพื่อป้องกันน้ำเค็มซึมเข้าสู่แผ่นดินด้วย การลงทันนั้นจะมหาศาลมากกว่าโครงการใดๆในประเทศไทย แต่หากการลงทุนนั้นเป็นการลงทุนของคนไทย ใช้ทุนของไทย ใช้คนของไทย ใช้เครื่องมือที่เราจะสร้างและจัดหาภายในประเทศได้ มูลค่าทางเศรษฐกิจโดยรวมจะส่งผลดีกับประเทศเป็นอันมาก แต่ถ้าหากจะต้องกู้เงินจากต่างประเทศ จ้างบริษัทต่างประเทศมาขุด โดยอ้างเหตุผลชั่วๆอย่างที่นักการเมืองชอบอ้าง อย่าไปขุดมันเลยค่ะ หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: จูล่ง_j ที่ 18-07-2006, 15:33 ผมเคยเห็นเรื่องนี้ ถกกันในพันทิพ
สรุปคือประมาณว่า ตอนนี้ขุดไม่คุ้มแล้วครับ คือเค้าพยายามคำนวน อัตราคร่าวๆ จากการลงทุน และรายรับ ถ้าจะให้คุ้มจริงๆ เรือที่ผ่าน คลองคอดกระ ต้องต่อแถวกันแบบหัวเรือชนท้ายเรือ เป็นเวลาหลายสิบปี ซึ่งเป็นไปไม่ได้ อย่างที่คุณ koo บอกน่ะครับ ขุดช้าไป คือยิ่งช้า ความน่าจะขาดทุนก็ยิ่งสูงไปเรื่อยๆ หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 18-07-2006, 15:44 ผมเคยเห็นเรื่องนี้ ถกกันในพันทิพ สรุปคือประมาณว่า ตอนนี้ขุดไม่คุ้มแล้วครับ คือเค้าพยายามคำนวน อัตราคร่าวๆ จากการลงทุน และรายรับ ถ้าจะให้คุ้มจริงๆ เรือที่ผ่าน คลองคอดกระ ต้องต่อแถวกันแบบหัวเรือชนท้ายเรือ เป็นเวลาหลายสิบปี ซึ่งเป็นไปไม่ได้ อย่างที่คุณ koo บอกน่ะครับ ขุดช้าไป คือยิ่งช้า ความน่าจะขาดทุนก็ยิ่งสูงไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็นับว่าน่าเสียดายมากๆเลยครับ พูดแล้วนึกถึงคลองปานามานะครับ แห่ะๆๆๆ เผอิญว่าไม่กี่วันก่อนดู Discovery มาน่ะครับ หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: The Tiger ที่ 18-07-2006, 17:03 ว่าจะไม่เข้าตอบแล้วก็อดไม่ได้ เรื่องคลองกระ นี้ผมได้ไปอ่านประวัติศาสตร์ดู เคยมีดำริตั้งแต่สมัยปลายกรุงศรีต่อเนื่องมาจนสมัย ร.1 ซึ่งต้องใช้แรงงานแขกมลายูจำนวนมาก เหมือนที่นำมาใช้ขุดคลองดำเนิน คลองแสนแสบ และคลองอื่นๆอีกมากมาย แต่มีอันเปลี่ยนรัชกาลเสียทุกครั้งที่มีการดำริ เรื่องนี้ก็ได้แต่พูดกันเรื่อยมาตั้งแต่ ปลายกรุงศรีถึงปัจจุบัน
ทีนีมาพูดถึงปัจจุบัน สมัยเราเด็กๆก็อยากให้ขุดเนอะ แต่จริงๆแล้วมันมีเรื่องจิปาถะให้ต้องนำมาศึกษาถึงผลกระทบที่จะตามมา เงินทุนที่จะต้องใช้เป็นแสนๆล้าน ความมั่นคงทางการเมือง ผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ และอาจจะเรียกกลับคืนมาไม่ได้ครับ แก็บังเอิญ คุณญาติสนิทผม แกอยู่ในทีมงานศึกษาเรื่องขุดคอคอดกระ ที่มี ลุงจิ๋ว (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) ญาติผมคนนี้เห็นผมเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง แกชวนผมเข้าไปทำงานในคณะศึกษาด้วย ผมบอกผมไม่ได้เป็นวิศวกร เหมือนแก ผมก็เลยขอตัว แกก็หวังว่าผมจะเปลี่ยนใจ แกก็ส่งเอกสารที่ได้ศึกษาไปแล้วทั้งหมด ซึ่งก็หนามาก ขนาดเกลาแล้วก็พอกับ หนังสือเยลโล่เพจเจส ดีนี่เอง ใครอยากอ่านบอก มาเอาที่บ้านผมได้ แต่ต้องไปถ่ายเองน่ะ ผมขอสงวนที่จะเก็บต้นฉบับ ทีนี้มาพูดถึงเรื่องที่คณะกรรมการศึกษากลุ่มนี้ทำขึ้นมา คนที่อุตส่าห์ทุ่มตัวลงไปศึกษาก็คงจะต้องหาข้อสนับสนุนว่าทำได้ แต่พอได้มีการเปิดระดมความคิดจากนักวิชาการกลุ่มอื่นๆ ก็พบประเด็นเหล่านี้ทีทำให้ต้องคิดหนัก 1. เงินทุน จะใช้เงินทุนจากไหน ใครจะเป็นคนให้ คงไม่มีประเทศเดียวแน่ๆ ต้องเป็น อเมริกา จีน ยุโรป สิงคโปร์ เพราะเงินทุนที่จะต้องใช้ ต้องใช้เป็นแสนๆล้าน ดีไม่ไดอาจจะถึงล้านล้านบาท ระยะเวลาในการก่อสร้างก็หลายปี 2. ระยะเวลาคืนทุนก็ต้องนานมาก เพราะใช้เงินมาก อาจจะต้องทำสัญญาให้ใช้ประโยชน์แก่ผู้ที่เอาเงินมาลงทุนเป็นระยะเวลา มากกว่า 99 ปี ขึ้นไปถึงจะคืนทุน 3.การก่อสร้างต้องใช้เทคโนโลยี่สูงมาก อาจจะต้องใช้ระเบิดนิวเคลียร์ อันจะนำไปสู่มลภาวะเป็นผิด 4.ถ้ามีผลกระทบทางสะภาพแวดล้อมอย่างใหญ่หลวง (ซึ่งคาดว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพแน่ๆ ในบริเวณใกล้เคียง) คนที่จะรับภาระคือคนรุ่นหลัง 5.ถ้าการดำเนินงานไม่ประสพผลสำเร็จ อันเนื่องจากมีเทคโนโลยี่สมัยใหม่ ในอนาคต ที่สามารถ ขนสินค้าได้มากและมีต้นทุนต่ำเหมือนเรือ เช่น ยานบินขนาดใหญ่ สามารถบรรทุกได้มาก เช่น บี-52 ป้อมบินยักษ์ น่ะ ถ้าเกิดล้มเหลวหลังจากเปิดดำเนินงานอันเนื่องมาจากมีผู้มาใช้บริการน้อย จนไม่เกิด อีโคโนมี่ ออพ เสกล ไอ้ที่คาดว่าจะมีคนมาตั้งโรงงานก็ไม่ได้มีอย่างที่คาด เพราะตลาดแรงงานบ้านเราเมื่อเทียบกับจีนและเวียดนาม อินเดีย ของเขามีคน มหาศาลแถมค่าแรงถูก ถ้าไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง ขอโทษที ระยะเวลาคืนทุนอาจจะมากกว่า 100 ปี 6.ปัญหาความมั่นคง จะตามมา เพราะขนาดตอนนี้ แผ่นดินไม่ได้โดนแบ่งออกไป ยังมีผู้ไม่หวังดีกับชาติ จะพยายามแบ่งเรื่อยๆ ถ้าขุดก็ลองนึกภาพดูซิว่า อาจจะเป็นประเทศเกิดใหม่ในที่สุด รุ่นพวกเราอาจไม่ทัน อาจจะ 10-200 ปีข้างหน้า 7.อ้อ ลืมบอกด้วยว่า ผลการศึกษา ถ้า ขอย้ำ ถ้า สามารถย่นระยะเวลาเดินทางได้มากๆเช่น หลายๆวัน ก็คงจะคุ้ม แต่นี่ย่นระยะเวลา รู้สึกว่าจะแค่ 12 ชม. หรือไงนี่ มันก็เลยไม่คุ้มเท่าไร ถ้าเหมือนคลองสุเอซ ที่สามารถย่นระยะทาง ไม่ต้องไปอ้อมแหลมกู๊ดโฮป ย่นลงไปหลายวัน อย่างนี้คุ้มแน่ สรุปแล้วเกิดยาก เพราะปัจจัยแวดล้อมเยอะ ผลกระทบที่จะตามมามหาศาล หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: นู๋เจ๋ง ที่ 18-07-2006, 17:08 มีข่าวออกมาว่าจะขุด จริงจัง มีการทำวิจัยเป็นเรื่องเป็นราว
ตอนนั้นก็สงสัยว่าทำไม มาเล กับสิงคโปร์ ถึงไม่เดือดร้อนเฉย แล้วตอนั้น 3 จังหวัด รุ่งเรืองมาจะเป็นแหล่งผลิตอาหารฮาลา ของโลก เป็นเขตที่จะส่งเสริมด้านอิสลาม และแล้ว ก็ สามจังหวัดชายแดนใต้ บึ้มๆ เกิดจนได้ไงคะ ทุกวันนี้ ก็ยังคิดว่า ที่เกิดเหตุการณ์วุ่นวาย เพราะ การที่เราจะขุดคอคอดกระ เป็นจริงเป็นจังครั้งนั้นแหละค่ะ หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: Sweet Chin Music ที่ 18-07-2006, 17:30 อืม อันี้ต้องศึกษากันยาวๆ ครับว่า ได้คุ้ม เสีย หรือไม่
หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 12-07-2007, 08:56 ครบรอบ 1 ปี ขุดกระทู้นี้ขึ้นมาคุยใหม่อีกครั้ง
ไม่ทราบว่าตอนนี้ใครมีข้อมูลอะไร Update มั่งครับ หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: 55555 ที่ 12-07-2007, 09:42 คงไม่มีอะไรมา อัพเดท ครับ......
แต่อยากแสดงความเห็นเพิ่มเติม ......... ผมค่อนข้าง เห็นด้วยกับการขุดคอคอดกระ น๊ะ ....ถ้ามองในแง่ ตัดขุมกำลังสิงค์โปร์ วันนี้อาจช้าไปแล้ว.......แต่ถ้ามองในแง่ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ผม ถือว่า น่าจะได้ประโยชน์มหาศาลทีเดียว..... ผมอ่านความเห็นหนี่งข้างบน ที่บอกว่า ร่นเวลา ได้เพียง 12 ชั่วโมง(จริง ๆ แล้วผมไม่รู้จริง ๆ ว่าร่นเวลาไดเท่าไหร่แน่) .......ในทางธุรกิจ แล้ว 12 ชั่วโมง กับ ค่าใช้จ่ายที่ถูกลง เนื่องจากระยะทางสั้นลง ก็ยังนับว่าคุ้มค่า มากทีเดียวครับสำหรับผู้ใช้บริการ.......แล้วยังมีธุรกิจอื่น ๆ อีกมหาศาลที่ตามมา กับการเป็น ท่าเรือ ผมจำได้ว่า ตอนรัฐบาลชวลิต ได้เคยมีการรื้อโครงการขึ้นมา .......ขนาดผมไม่ค่อยเชื่อแกเท่าไหร่ ...ยังแอบอดเชียร์ไม่ได้เลยครับ ส่วนเรื่องเงินทุน ผมว่า ถึงวันนี้ คงไม่น่ากังวลเท่าไหร่ แล้วครับ........เราถูกระบอบทักษิณ โกงไปมากกว่านี้เยอะ ...ประเทศชาติยังอยู่ได้จนวันนี้......(อดเหน็บไม่ได้อีกตามเคย) :slime_smile: หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: ภูดิน ที่ 12-07-2007, 10:02 เรื่องขุดคอคอดกระ นี่ มีแต่คนเห็นด้วย
แต่ที่ไม่ขุดสักที ตั้งแต่สมัย รบ ชวลิต เพราะอะไร ก็รู้ๆกันอยู่ ถ้ามี พรรค ไหน ให้นโยบายเรื่องนี้ นะ โลด เลย เพราะ ไทย มีแต่จะได้ประโยชน์ อิอิ :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 12-07-2007, 10:10 คงไม่มีอะไรมา อัพเดท ครับ...... แต่อยากแสดงความเห็นเพิ่มเติม ......... ผมค่อนข้าง เห็นด้วยกับการขุดคอคอดกระ น๊ะ ....ถ้ามองในแง่ ตัดขุมกำลังสิงค์โปร์ วันนี้อาจช้าไปแล้ว.......แต่ถ้ามองในแง่ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ผม ถือว่า น่าจะได้ประโยชน์มหาศาลทีเดียว..... ผมอ่านความเห็นหนี่งข้างบน ที่บอกว่า ร่นเวลา ได้เพียง 12 ชั่วโมง(จริง ๆ แล้วผมไม่รู้จริง ๆ ว่าร่นเวลาไดเท่าไหร่แน่) .......ในทางธุรกิจ แล้ว 12 ชั่วโมง กับ ค่าใช้จ่ายที่ถูกลง เนื่องจากระยะทางสั้นลง ก็ยังนับว่าคุ้มค่า มากทีเดียวครับสำหรับผู้ใช้บริการ.......แล้วยังมีธุรกิจอื่น ๆ อีกมหาศาลที่ตามมา กับการเป็น ท่าเรือ ผมจำได้ว่า ตอนรัฐบาลชวลิต ได้เคยมีการรื้อโครงการขึ้นมา .......ขนาดผมไม่ค่อยเชื่อแกเท่าไหร่ ...ยังแอบอดเชียร์ไม่ได้เลยครับ ส่วนเรื่องเงินทุน ผมว่า ถึงวันนี้ คงไม่น่ากังวลเท่าไหร่ แล้วครับ........เราถูกระบอบทักษิณ โกงไปมากกว่านี้เยอะ ...ประเทศชาติยังอยู่ได้จนวันนี้......(อดเหน็บไม่ได้อีกตามเคย) :slime_smile: ในอนาคต ถ้ามันสามารถเป็น Port ได้แทนท่าเรือคลองเตย ผมว่าจะดีไม่น้อยนะครับ แล้วก็รอบๆ คลองนั้น ผมว่าทำเป็นนิคมอุตสาหกรรมซะ แถวนั้น ผมว่า จะเจริญขึ้นอีกเยอะ แต่กลัวปัญหาเรื่องสภาพแวดล้อมอย่างเดียวครับ :slime_shy: หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 12-07-2007, 10:34 หาไปเรื่อยเปื่อยด้วย Google แล้วไปเจอในหว้ากอครับ อันนี้ค่อนข้างไม่เห็นด้วย
http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/X3370544/X3370544.html ส่วนนี่ไม่ทราบว่าเป็นของหน่วยงานไหน แต่เท่าที่เห็น เค้าเห็นด้วยพอสมควรครับ http://www.thai-canal.org/ นี่เป็นของทหารเรือ ไม่ทราบว่าเป็นความเห็นส่วนตัวหรือไม่ http://www.navy.mi.th/navic/document/810903c.html จากการท่าเรือแห่งประเทศไทยครับ http://www1.port.co.th/knowledge/magazine/magazine469_1.html หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: login not found ที่ 12-07-2007, 11:09 ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยด้วยประการทั้งปวงครับ
หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 12-07-2007, 13:11 แต่ผมว่า ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำนะครับ เพราะว่า ถ้าทำแล้วล่ะก็รับรองได้ว่า ประเทศไทย เงินไหลมาเทมาแน่นอนครับ เพราะว่าการขนส่งทางเรือจะช่วยทุ่นไปได้หลายวันเลยล่ะครับ ยิ่งช่วงนี้น้ำมันแพงๆด้วย เจ้าของธุรกิจ ก็น่าจะหาทางรัดเข็มขัดกันเต็มที่นะครับ ผลสำรวจเมื่อปี 2547-2548 นั้น การขุดคอคอดกระจะย่นระยะเวลาหนึ่งวันเท่านั้น ไม่ได้ 7-8 วันเหมือน 20 ปีก่อน ในขณะต้นทุนการขุดคลอง การบริหารจัดการสูงมาก จนไม่คุ้มกับการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบริการ รวมการรักษาความปลอดภัยบริเวณที่ทำการ และ สามจังหวัดชายแดนไทยด้วย... แต่ความต้องการจะให้ใช้คลองขุดนี้ หรือ การขนส่ง"บนดิน"ด้วยวิธีการใดวิธีหนึ่ง เพื่อจะสามารถส่งต่อน้ำมันดิบผ่านจากฝั่งหนึ่งไปฝั่งหนึ่ง ยังเป็นความต้องการของประเทศญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ อยู่ สามชาติที่ต้องการใช้น้ำมันดิบมหาศาล ไม่ต้องการฝากอนาคตการขนส่งน้ำมันดิบไปประเทศของเขา กับช่องแคบที่ใช้อยู่ปัจจุบันนี้... อยากจะตั้ง ซูเปอร์แทงค์"ขนาดล้าน ๆ บาเรล ทั้งสองฝั่งทะเล เพื่อขนน้ำมันจากแหล่งน้ำมันมาถ่ายที่"ซูเปอร์แทงค์"ฝั่งหนึ่ง แล้วขนส่ง หรือส่งผ่านไปอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อให้เรือขนาดใหญ่มาขนน้ำมันจากฝั่งหนึ่งไปสู่ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้... สามประเทศนี้ให้ความไว้วางใจสูง เชื่อถือการเมืองไทยมากกว่า การผ่านช่องแคบที่เคยใช้อยู่ กรณ๊มีเหตุฉุกเฉิน หรือ สงคราม หรือ การปิดช่องแคบ.... หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 12-07-2007, 13:35 ผลสำรวจเมื่อปี 2547-2548 นั้น การขุดคอคอดกระจะย่นระยะเวลาหนึ่งวันเท่านั้น ไม่ได้ 7-8 วันเหมือน 20 ปีก่อน ในขณะต้นทุนการขุดคลอง การบริหารจัดการสูงมาก จนไม่คุ้มกับการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบริการ รวมการรักษาความปลอดภัยบริเวณที่ทำการ และ สามจังหวัดชายแดนไทยด้วย... แต่ความต้องการจะให้ใช้คลองขุดนี้ หรือ การขนส่ง"บนดิน"ด้วยวิธีการใดวิธีหนึ่ง เพื่อจะสามารถส่งต่อน้ำมันดิบผ่านจากฝั่งหนึ่งไปฝั่งหนึ่ง ยังเป็นความต้องการของประเทศญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ อยู่ สามชาติที่ต้องการใช้น้ำมันดิบมหาศาล ไม่ต้องการฝากอนาคตการขนส่งน้ำมันดิบไปประเทศของเขา กับช่องแคบที่ใช้อยู่ปัจจุบันนี้... อยากจะตั้ง ซูเปอร์แทงค์"ขนาดล้าน ๆ บาเรล ทั้งสองฝั่งทะเล เพื่อขนน้ำมันจากแหล่งน้ำมันมาถ่ายที่"ซูเปอร์แทงค์"ฝั่งหนึ่ง แล้วขนส่ง หรือส่งผ่านไปอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อให้เรือขนาดใหญ่มาขนน้ำมันจากฝั่งหนึ่งไปสู่ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้... สามประเทศนี้ให้ความไว้วางใจสูง เชื่อถือการเมืองไทยมากกว่า การผ่านช่องแคบที่เคยใช้อยู่ กรณ๊มีเหตุฉุกเฉิน หรือ สงคราม หรือ การปิดช่องแคบ.... งั้น ตามที่คุณปุถุชน บอกมานี้ ก็หมายความว่า เราน่าจะทำ Super Tank อยู่ทั้ง 2 ฝั่งอ่าว สร้างท่าเรือทั้ง 2 ฝั่งอ่าว แล้วต่อท่อส่งน้ำมันให้ถึงกัน พร้อมๆกันนั้น ก็ให้ทำถนน Super Highway เพื่อเชื่อมทั้ง 2 Port เข้าด้วยกัน น่าจะเป็นวิธีการที่เป็นไปได้มาก และ คุ้มค่าที่สุดในปัจจุบันใช่หรือเปล่าครับ? หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: (ลุง)ถึก สไลเดอร์ ที่ 12-07-2007, 13:38 เคยได้ยินข่าวมาเรื่องการขุดคอคอดกระมาเหมือนกัน แต่อาจจะเป็นเพียงแค่ข่าวลือ
ที่บอกว่า สิงคโปกลัวจะเสียประโยชน์ เลยเอาเงินอุดปากนักการเมืองสมัยใครก็ไม่รู้ แล้วก็ให้ปล่อยข่าวว่า การขุดคอคอดกระ จะทำให้เสียดินแดนภาคใต้ให้กับขบวนการแยกดินแดนได้ง่ายยิ่งขึ้น เลยต้องระงับโครงการนี้เสีย อะไรมันจะง่ายดายขนาดน้าน.....กร๊ากกก หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: watson ที่ 12-07-2007, 14:02 งั้น ตามที่คุณปุถุชน บอกมานี้ ก็หมายความว่า เราน่าจะทำ Super Tank อยู่ทั้ง 2 ฝั่งอ่าว สร้างท่าเรือทั้ง 2 ฝั่งอ่าว แล้วต่อท่อส่งน้ำมันให้ถึงกัน พร้อมๆกันนั้น ก็ให้ทำถนน Super Highway เพื่อเชื่อมทั้ง 2 Port เข้าด้วยกัน น่าจะเป็นวิธีการที่เป็นไปได้มาก และ คุ้มค่าที่สุดในปัจจุบันใช่หรือเปล่าครับ? ถ้าจะใช้ถนน + รถบรรทุกน้ำมัน ผมว่าจะไม่คุ้มค่าเพราะขนส่งได้ทีละน้อย ต้องใช้ปริมาณรถและจำนวนเที่ยวส่งมาก ทั้งยังสินเปลืองพลังงานด้วย ถ้าใช้ระบบรถไฟ หรือระบบท่อส่งน่าจะคุ้มกว่านะครับ หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: เอกราช ที่ 12-07-2007, 14:15 เห็นด้วยที่จะขุดคลอง
แม้ว่าจะช้าไปแค่20ปี ส่วนเรื่องทำSuper Tank และSuper Highway มันก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกครับ แต่ประโยชน์ที่จะได้รับมันคงจะสู้ขุดคลองไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เงินจำนวนมากกว่า การขุดคลองก็จะได้ผลประโยชน์มากกว่าเช่นกัน ตกลงชาตินี้คงไม่ได้เห็นแน่ ไอ้คลองที่ว่านี่อ่ะ :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 12-07-2007, 14:23 ถ้าจะใช้ถนน + รถบรรทุกน้ำมัน ผมว่าจะไม่คุ้มค่าเพราะขนส่งได้ทีละน้อย ต้องใช้ปริมาณรถและจำนวนเที่ยวส่งมาก ทั้งยังสินเปลืองพลังงานด้วย ถ้าใช้ระบบรถไฟ หรือระบบท่อส่งน่าจะคุ้มกว่านะครับ ไม่ได้คิดใช้ถนนในการขนส่งน้ำมันครับ ถนนเอาไว้ขนส่งอย่างอื่นครับ เพราะไหนๆ ทำท่าเรือแล้ว มันก็น่าจะทำให้ครบวงจรครับ ส่วนจะมีรถไฟด้วยไม๊ อันนี้ผมว่าดีครับ ส่วนน้ำมัน ผมว่า ทำเป็นระบบท่อน่าจะดีกว่านะครับ เพราะไม่ต้องเสียค่าขนส่งอะไรมาก แค่วางท่อ ก็น่าจะ OK แล้ว (ทีวางจากในทะเลมาขึ้นบกยังทำได้เลย แล้ววางไว้บนบก ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ ผมว่า :slime_smile:) เห็นด้วยที่จะขุดคลอง แม้ว่าจะช้าไปแค่20ปี ส่วนเรื่องทำSuper Tank และSuper Highway มันก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกครับ แต่ประโยชน์ที่จะได้รับมันคงจะสู้ขุดคลองไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เงินจำนวนมากกว่า การขุดคลองก็จะได้ผลประโยชน์มากกว่าเช่นกัน ตกลงชาตินี้คงไม่ได้เห็นแน่ ไอ้คลองที่ว่านี่อ่ะ :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: สำหรับเรื่องคลองนั้น ผมไม่กล้าที่จะออกความเห็นว่าเห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วย เพราะผมไม่ได้มีข้อมูลรอบด้าน แต่คิดว่า มันน่าจะมีเส้นทางเชื่อมต่อทางพาณิชย์เท่านั้นเอง (แต่อ่านในเว็บของทหารเรือ เค้าก็เห็นด้วย เพราะว่าสามารถ เคลื่อนย้ายเรือรบได้ง่าย และ เร็วขึ้นครับ ทำให้สามารถวางแนวป้องกันได้กว้างขึ้น โดยใช้กองกำลังน้อยลง) อาจจะเป็นทางเรือ หรือ ทางบกอะไรก็ได้ (ก็ไหนๆ อุตส่าห์ทำท่าเรือแล้วนี่นา จริงป่าว :slime_bigsmile:) แต่กว่าจะได้ทำเนี่ย ผมว่าคงสิ้นอายุขัยผมก่อน หรือ ว่า ภาคใต้จะจมทะเลกันก่อนแน่ว๊าาาา :slime_whistle: หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: Gun ที่ 12-07-2007, 14:41 เอ้อ ลืมเรื่องการบริหารจัดการท่าเรือไปหรือเปล่าครับ
ถ้าตั้งใจจะทำเป็นช่องลอด ต้องมีระบบที่ดีมาก ๆ เลยนะครับ เพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย แต่...ถ้ามาดูการบริหารงานของภาครัฐเช่นการรถไฟแล้ว... อย่าสร้างเลยครับ แค่ปรับปรุงการถไฟให้ได้ก่อนเถอะ :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: irq5 ที่ 12-07-2007, 14:56 :slime_shy:
ความคิดเห็นที่ 28 ยกตัวอย่างตัวเลขนิดหน่อยแล้วกันครับ ปกติค่าผ่านทาง จะคิดตามน้ำหนักระวางบรรทุก เฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 1.2 USD ต่อตัน ซึ่งเรือน้ำมันขนาด 250,000 ตัน จะเสียค่าผ่านทาง ตีซะว่า 200,000 USD ต่อเที่ยว แต่คลองกระจะย่นระยะทางได้ ประมาณ 1 วัน (จริงๆถ้าวัดตามระยะทางจะย่นได้มากกว่านั้น แต่เมื่อหักลบกับระยะเวลารอคอยคิวเพื่อผ่านคลอง / ความเร็วในการวิ่งในคลอง ฯลฯ แล้วประหยัดเวลาได้แค่ 1 วันเท่านั้น) ซึ่งค่าใช้จ่ายของเรือน้ำมันขนาด 250,000 ตัน จะอยู่ที่ 70,000 USD ต่อวัน แปลว่า การวิ่งผ่านคลอง จะเสียค่าโสหุ้ยมากกว่าการวิ่งอ้อมแหลมมะละกาเสียอีก จากคุณ : ช่างไฟ - [ 25 มี.ค. 48 21:26:48 ] ความคิดเห็นที่ 3 กรุณาดูแผนที่โลกบ้าง หากไม่รู้เรื่องการเดินเรือ กรุณาไปเรียน (อย่าเรียนจากผู้ที่เรียนในเมืองไทย) และถามผู้ที่มีประสบการณ์เดินเรือผ่านคลองใหญ่ๆเช่นปานามา สุเอซ และคีล ว่าเสียเวลาเพียงใดที่ต้นคลองและปลายคลอง ยังไม่รวมถึงทะเลสาปหรือคลองตอนใน ที่ต้องใช้ความเร็วต่ำมากๆ อย่าโพสต์แบบให้ความเห็นคาดเดาในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ และก็ Land Bridge รัฐบาล ระงับหรือชลอโครงการไปแล้ว สงสัยสอบถามได้ที่รัฐบาล จากคุณ : .. - [ 5 ต.ค. 48 20:51:33 A:58.147.82.107 X: TicketID:009839 ] ความคิดเห็นที่ 13 คลอง กระ (KRA CANAL)” ความเป็นมา : คงเป็นที่ทราบดี :- ในด้านประวัติศาตร์ โดย ไม่จำเป็นต้อง เจาะลึกลงไปให้มากกว่านี้ ด้วยเหตุผลเพียง สองประการ คือ :- ประการแรก ในด้านการ ศึกสงคราม ในประวัติศาสตร์ที่ใช้เรือ คนละแบบ และสมรรถธนะของเรือไม่เหมือนในปัจจุบัน กับ ประการที่สอง ในเรื่องของการพาณิชน์ซึ่งถ้ามีผลประโยชน์ในทางพาณิชยและการเดินเรือแล้วคงไม่มีนักลงทุนชาติใดในโลกที่จะปล่อยให้ ปัญหาของ คลองกระเหลือมาถึงวันนี้ ดังนั้น เรื่องของ “ คลองกระ” ที่จะกล่าวในบทความนี้ คงกระชับขึ้นนั้น จะเริ่มได้ ในตอนปลายปี 2540 ที่มีการนำเอาเรื่อง อภิมหา โครงการยักษ์ เข้ามาพูดกันหลังจากที่ ประเทศไทยประสพปัญหาเศรษฐกิจ และมีหลายฝ่ายพยายามสร้างภาพของตนเองในการเข้ามาช่วยประเทศให้หลุดพ้นจากเคราะห์กรรมในเวลานั้น และโครงการยักษ์นี้ ก็ถูกนำเข้ามาโดยนักฝันชาวไทยที่ร่วมมือกับนักฝันสหรัฐฯ เขาคือ นาย ………. (รายการ ฟังความรอบข้าง ใน itvs ปี 1999) และ Mr. Lyndon RaRoche ร่วมด้วยสาวกของท่าน ผู้ยิ่งใหญ่ในอดีต ท่านหนึ่งที่มาแสดงตน เพื่อสร้างปณิทาน คลองกระ(ในรายการทางทีวี ช่อง 11 ในปี 2543 ) และ ในที่สุดก็ สามารถนำเข้าสู่ นโยบายของพรรคการเมืองบางพรรคที่ขาดการรอบคอบในการวิเคราะห์ และสามารถ นำไปสู่ การตั้งกรรมาธิการในวุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่รัฐบาล สมัยนั้น และ ต่อๆมา แม้แต่ในรัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งมีการขอให้ใช้เงิน 100 ล้านบาท จากกระเปำของรัฐบาลเองมาใช้ในการทำ “ การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ “ โดยที่โดยแท้จริงแล้ว การประชาสัมพันธ์ ของโครงการนี้ในตอนปลายปี 1997 ต้นปี 1998 นั้น อ้างว่าใช้เงินอุอหนุนจากต่างประเทศทั้งสิ้น แต่จากการข่าวที่ได้รับทราบต่อมา ปรากฏว่า ในการกระทำสัมนาและเผยแพร่การสนับสนุนให้ขุดคลองกระในอดีตนั้นไม่มีต่างชาติใดๆที่สนใจเป็นตัวตนในการให้ทุน นอกจากพวกที่เข้ามาเพื่อแสวงหาโชคและประโยชน์จากการขายเครื่องมือใช้แล้ว ที่บริษัทต่างชาติเคยทำงานมาในโครงการอื่น ดังนั้นกลุ่มคณะทำงานที่มีนาย …….และสหายทั้งหลาย ได้ร่วมทุนกันลงไป จึงต้องพยายามหาเงินคืน ด้วยการขอเงินสนับสนุนจากรัฐบาลทักษิณฯในครั้งนี้ และจากการติดตามอย่างใกล้ชิด พบว่า นายก ทักษิณฯ จะจ่ายเฉพาะค่าเบี้ยเลี้ยงและพาหนะ เท่านั้น ข้อพิจารณา และการเปรียบเทียบ : 1. : ในด้าน การใช้ การขุดคลองบังหน้าแต่เพื่อสร้างประเทศใหม่ หรือ ดินแดนในอารักขาใหม่ ซึ่งหากพิจารณา จาก การเปิดประเทศของจีน และการปกครองแบบสองลัทธิหนึ่งประเทศของจีน และ การกลับตัวของลัทธิคอมมูนิสต์ มาสู่ระบบประชาธิปไตย และ ความหลงเหลือของ ทรัพย์สิน ที่เป็น ที่อยู่อาศัยภายในประเทศไทย จะเห็นว่าไม่มีแนวโน้มอื่นใดที่จะทำให้ แผ่นดินที่คิดจะสร้างคลอง ที่มีขนาด 2,000 ตารางกิโลเตร หรือ สามเท่าประเทศสิงค์โปร์ หรือเท่ากับประเทศ ลักเซมเบิร์ก เจริญขึ้นมาทันทีทันใด แม้ว่า แผ่นดินไทยในแถบนี้ของโลกจะถือว่าเป็นแผ่นดินทองที่ คนในโลกต้องการมาอาศัยอยู่ก็ตาม แต่การให้เช่าระยะยาวที่กฏหมายของชาติได้เปิดโอกาสให้ชนต่างชาติมาอาศัยแผ่นดินไทยในการทำมาหากิน ( คราวละ 30 ปี) ก็มีอยู่แล้ว(เราคงไม่เห็นด้วยกับการให้เช่ายาวถึง 99 ปี เพราะไทยไม่เข้มแข็งเหมือนอเมริกา หรือมีที่ดินมากมายแบบจีน พูดง่ายๆ ถ้าชาติที่มีอำนาจมาเช่า และเขาเอาอำนาจปืนมารักษาผลประโยชน์ของเขา ไทยจะไปเอาน้ำหน้าที่ไหนไปสู้กับเขา) มองไม่เห็นประโยชน์ว่าจะทำไปเพื่ออะไร? เว้นแต่จะเพื่อเจตนาอื่นที่ไม่สุจริต? 2. : เมื่อขุดคลองแล้ว ไม่มีเรือมาใช้ เรื่องนี้เป็นที่ถกเถียงกันมาก และ การให้ข้อมูลแบบไม่ถูกต้องของฝ่ายที่อยากจะขุด จนทำให้เกิดแนวคิดที่ไขว้เขว แต่บทความนี้จะพยายามให้คำตอบแบบถาม-ตอบ ง่ายๆ ที่มีคนถามมาบ่อยๆ ((FAQ)ไปทีละข้อและสรุปตอนท้ายด้วยการหยิบยกเอาปัญหาใหญ่คือเรื่องการย่นระยะทาง การคำนวณเวลาที่เสียไป และ การคำนวณตัวเลขสำคัญเช่นค่าเช่าเรือ และ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง เมื่อเปรียบเทียบกับ ค่าธรรมเนียมในการผ่านคลอง ซึ่งสามารถนำมาพิจารณาและใช้ในการตัดสินใจได้อย่างชัดเจน 2.1: คำ ถาม-ตอบ บ่อยๆ [ FAQ ] 2.1.1 : ถาม เรือที่ผ่านช่องมะละกาและสิงค์โปร์ ต้องเสีย ค่าธรรมเนียมในการผ่าน ช่อง หรือไม่? ตอบ ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมใดๆ เว้นแต่จะจอดเรือเพื่อ ธุระกิจของเรือเอง ซึ้งมีอัตรา ค่าจอดเป็นรายชั่วโมง และคุ้มค่า 2.1.2 : ถาม ช่องแคบทั้งสองสามารถให้เรือขนาดกินน้ำลึกกี่เมตร และ ขนาดกี่ตันผ่านได้? ตอบ เรือกินน้ำลึก 22 เมตร ขนาดบันทุกเต็มที่ เช่นเรือบรรทุกน้ำมัน VLCC(250,000 ตัน) 2.1.3 : ถาม ความถี่ห่างของเรือที่ผ่านช่องแคบทั้งสอง แออัดอย่างไร? ตอบ เดือนละ 13,000-14,000 ลำ หรือประมาณ ชั่วโมงละ 19 ลำ หรือ สามนาที จะผ่าน หนึ่ง ลำ 2.1.4 : ถาม เรือ ขนาด เป็นแสนตัน กินน้ำมันวันละกี่ตัน ต้องแวะเติมน้ำมันที่สิงค์โปร์หรือไม่? ตอบ แต่ก่อนเรือขนาดแสนตันจะใช้เครื่องจักรที่ผลักดันเรือให้แล่นไปด้วยเครื่องแบบไอน้ำเทอร์บินกิน้ำมันวันละ สองร้อยกว่าตัน แต่ในปัจจุบัน เรือขนาดแสนๆตันใช้เครื่องยนต์แบบดีเซ็ล กินน้ำมันวันละไม่ถึง ร้อย ตัน จึงไม่มีเรือต้องมาจอดเติมน้ำมันที่สิงค์โปร์เว้นแต่เพื่อประโยชน์อย่างอื่น 2.1.5: ถาม เรือ ขนาด 20,000 ตัน และขนาด หกหมื่นตัน ค่าเช่าวันละ กี่เหรียญสหรัฐฯ? ตอบ เรือขนาด 200,000 ตัน ค่าเข่าประมาณวันละ US$ 20,000.- เรือขนาด 60,000 ตัน ค่าเช่าวันละประมาณ US$ 10,000.- 2.1.6: ถาม เรือขนาด 60,000 ตัน ผ่านคลอง ปานามาและ คลองสุเอซ จะเสียค่าธรรมเนียมเท่าใด ตอบ เรือ ขนาด 60,000 ตัน ผ่านคลองปานามา เสียค่าธรรมเนียมประมาณ US$ 69,600 ผ่านคลองสุเอซ เสียค่าธรรมเนียม US$ 109,000 2.1.7 : ถาม เรือขนาด 250,000 ผ่านคลองสุเอซจะเสียค่าธรรมเนียมประมาณเท่าใด? ตอบ เรือ ขนาด 250,000 ตันผ่านคลองสุเอซ จะเสียค่าธรรมเนียมประมาณ US$ 275,000 2.1.8 : ถาม เรือขนาด 50,000 ตันความเร็ว 12 น็อต ออกจาก ท่าเรือเมืองนิวยอร์คผ่านคลองปานามา มาเมือง ปูซานเกาหลีไต้ จะย่นระยะทางได้กี่วัน? หากต้องแล่น อ้อมปลายทวีปอเมริกาไต้ด้วยการผ่านช่อง มาเจนแลน ตอบ ย่นระยะทางได้ 24 วัน 2.1.9 : ถาม เรือขนาด 250,000 ตัน ความเร็ว สิบหก น็อต ออกจากท่าเรือในนอร์เวย์ ไปยัง เมืองท่า เกาชุงในไต้หวัน หากผ่านคลองสุเอซแทนที่จะไปผ่านแหลมกูดโฮป จะย่นระยะทางได้กี่วัน? ตอบ ย่นระยะทางได้ 9 วัน 2.1.10 : ถาม เรือ ขนาด ห้าหมื่นตัน ความเร็ว 16 น็อต หาก มีคลองกระ จะใช้คลองเพื่อย่นระยะทางในการเดินเรือจาก โคลอมโบไป ฮ่องกง ได้กี่วัน? ตอบ ย่นระยะทางได้ 0.73 วัน 2.2 การคำนวณเพื่อหาระยะทางเปรียบเทียบที่ ลดลงเมื่อเรือเดินผ่านจาก หัวเกาะสุมาตรา ไปยังจุดเชื่อมต่อเส้นทางไป ฮ่องกงและตะวันออกไกล ( โปรดดู แผ่นภาพประกอบ) สมมติ ให้เรือ ตัวอย่างเป็นเรือ ขนาด 50,000 ตัน ความเร็ว 16 น็อต ใช้ ค่าผ่านคลองเท่ากับปานามา เรือกินน้ำมันวันละ 40 ตัน(IFO) 1.5 ตัน(MDO) IFO= US$ 110/ton MDO US$ 140/ton, charter hire/day us$ 7,000.- สำหรับเรือที่ใช้ช่องสุมาตรา : จุด A = lattitude 4-30 N. longitude 99 E. เป็นจุดเริ่มเปลี่ยนเส้นทางเข้าช่องมะละกา จุด A1 = บริเวณ ปากทางที่จะเข้าคลองในประเทศไทย ทางชายฝั่งทะเลภาคตะวันตก ซึ่งถือว่า เป็น จุดเริ่มคิดเส้นทางเปรียบเทียบ จุด B = จุดที่เรือที่ออกจากประเทศไทยและมาจากสิงค์โปร์จะต้องใช้เป็นเส้นทางเพื่อเดินทางไป ยังฮ่องกงและตะวันออกไกล : Lattitude: 6-30 N. longitude 107-30E. ระยะ จาก A – B = ระยะที่เรือแล่นผ่านช่องมะละกาและช่องสิงค์โปร์ วัดได้ระยะทาง 720 ไมล์ ทะเล ดังนั้น ใช้เวลาในการเดินทาง = 720 / 16 = 45 ชั่วโมง หาก ใช้ คลองกระที่จะคิดขุด :- ก) จาก A to C1 = ระยะที่เรือ มาถึงรับเรือลากจูงเข้าร่องน้ำ ให้เวลา 1 ชั่วโมง ข) จาก C1 to C2 = ระยะเวลา ที่เรือแล่นในคลอง ( กะว่าประมาณ 103km. ที่ ปานามา 82.3 km. [ใช้เวลา 10 ชม.] ให้เวลาเท่ากับ ปานามา 10 ชั่วโมง ค) จาก C2 to C3= ระยะทางที่เรือแล่นออกจากร่อง ส่งนำร่อง ให้ 0.5 ชั่วโมง ง) จาก C3 to B = ระยะเวลาที่แล่นไปยังจุด ต่อเชื่อมเข้าเส้นทางหลัก ไปฮ่องกง และตะวันออก ไกล = 400/16 – 25 ชั่วโมง ดังนั้นจะเห็นว่า จะใช้เวลาจากจุด A 1 ไปยัง B คือ = 0 ชั่วโมง จากคุณ : ตกรุ่น - [ 5 ต.ค. 48 22:15:48 ] หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: aoporadio ที่ 12-07-2007, 15:29 มีข่าวว่า หยิบโครงการขึ้นมาคุยกัน อีกแล้ว...... :slime_hmm:
อ่านๆไปสะดุดตรง คหข้างบน ที่มีตอนหนึ่งบอกว่า ขุดไปแล้วมีเรือของตัวเองหรือเปล่า? ข้อเสียก็เห็นจะเป็นเรื่องความมั่นคง ที่มันจะเกินควบคุมล่ะมังคะ :slime_hmm: หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: morning star ที่ 12-07-2007, 16:04 เคยได้ยินมาว่าคุยกันมาตั้งแต่รัชกาลที่หนึ่งแล้วมั้งครับ แต่ติดเรื่องความมั่นคง(เกี่ยวกับปัตตานีเมืองขึ้นของสยามในตอนนั้นแหละ) :slime_bigsmile:
หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 12-07-2007, 17:37 จำคร่าว ๆ ว่าผมเคยเล่นกระทู้นี้ในราชดำเนิน หรือที่ใหนซักแห่ง
อิ อิ เล่นเยอะจนจำไม่ได้ :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: 55555 ที่ 12-07-2007, 18:59 คุณ simo ขุดกระทู้นี้ขึ้นมาเล่น เวอร์ค แฮะ มีคนเข้ามาเสริมกันเพียบ .........
หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 13-07-2007, 00:13 ถ้าจะใช้ถนน + รถบรรทุกน้ำมัน ผมว่าจะไม่คุ้มค่าเพราะขนส่งได้ทีละน้อย ต้องใช้ปริมาณรถและจำนวนเที่ยวส่งมาก ทั้งยังสินเปลืองพลังงานด้วย ถ้าใช้ระบบรถไฟ หรือระบบท่อส่งน่าจะคุ้มกว่านะครับ ในการศึกษาปีโน้น..... ได้ข้อยุติจะไม่ขุดคลอง เพราะรายได้ไม่คุ้มค่าใช้จ่าย และความมั่นคงด้วย.... จึงได้พิจารณาเกี่ยวกับการขนถ่ายน้ำมัน ได้พิจารณาสร้างถนนเชื่อมสองฝั่ง... ได้พิจารณาสร้างท่อเชื่อมสองฝั่ง.... ได้พิจารณาสร้างทางรถไฟเชื่อมสองฝั่ง.... แล้วเห็นว่ายากจะเป็นไปได้..... มีรายละเอียดมากกว่านั้น เช่น เวลาและค่าใช้จ่ายในการถ่ายสินค้าลงเรือ และการถ่ายสินค้าขึ้นเรือ ฯลฯ ผมจำไม่ได้หมด เพราะได้อ่านผลการสำรวจ วิจัย สรุปคร่าว ๆ เท่านั้น หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: เอกราช ที่ 17-07-2007, 14:44 จากเวป sae-dang.com เอามาแชร์ความคิดเห็น
คอคอดกระ อีกที วันนี้อนุญาตฝากเรื่องคอคอดกระ ที่นับวันจะมีความสำคัญมากขึ้นในแง่ลอจิสติคส์ไว้กับเว็บ เสธ. แดง เป็นการคุยกันเบาๆ ขอขอบคุณล่วงหน้า แต่ก่อน ปัญหาของคอคอดกระกับเมืองไทย เป็นเรื่องความมั่นคงทางการเมืองล้วนๆ ระยะหลังมีปัจจัยด้านเศรษฐกิจเข้ามาพิจารณามากขึ้น แต่ก็ยังไม่ทิ้งเรื่องความมั่นคงที่ยังห่วงอยู่ ล่าสุดเกิดมีมิติใหม่ในการมองว่า คอคอดกระเป็นเงื่อนไขของการพัฒนาเสถียรภาพทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ คือจำเป็นต้องมี แล้วมีดีกว่าไม่มีแน่ เพราะนี่คือขุมทรัพย์มหาศาลที่ไทยจะได้รับประโยชน์ ส่วนวิกฤตไฟใต้ที่มองไม่เห็นทางดับ กลับจะมอดลงไปด้วยการมีคอคอดกระ แต่จะต้องไม่ด่วนคิดเรื่องความคุ้มทุนภายใต้หลักเศรษฐศาสตร์ทุนนิยมธรรมดาทั่วไป เพราะมิฉะนั้นแล้ว จะไม่อาจหลีกเลี่ยงการกำหนดอัตราค่าภาษีปากเรือสูง จนพวกเบนหัวเรือไปช่องแคบมะละกาเดิมหมด จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 13:49:19 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 1 แนวคิดการลงทุนแบบที่เคยทำกับทางด่วน เอามาใช้กับกรณีจะขุดคลองนี้ไม่ได้ เพราะระบบตลาดต่างกัน อย่างน้อยไม่มีบริษัทเดินสมุทร์ยอมให้มัดมือชกเหมือนพวกที่ต้องขับรถเข้าเมืองตอนเช้า กลับบ้านตอนเย็น ยอมจ่ายดีกว่า ไม่มีทางเลือกดีกว่านั้น ดังนั้นคลองไทยจึงต้องคิด ทำอย่างไรให้เรือทุกลำที่จะมาผ่านคุ้ม เพราะเขามาก็เพราะจะได้ลดค่าเชื้อเพลิงที่ไม่ต้องไปอ้อมแหลมมลายู เขาลดตรงนี้เท่าไหร่ต้องให้เขาเหลือพอ มิใช่มาเจอค่าผ่านทางเอาไปกินมากเกินควร จะอ้างว่าเขาได้ประหยัดเวลา จึงต้องชาร์จตรงนี้ด้วย มันจะเป็นคำอธิบายที่ฟังไม่ขึ้น บริการ 2 ฝั่งคลองจะมีอะไรให้กับบริษัทเดินเรือ หรือบริษัทเจ้าของสินค้าที่มากับเรือ มากกว่าที่เราคิดว่าจะเราทำกำไรให้เร็วที่สุดอย่างไร จากค่าผ่านทาง ถ้าคิดแบบนั้น จะได้ผลการคำนวนอัตราค่าผ่านทางสูงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผลคือ ไม่มีใครอยากมา เรื่องลงทุนเอง เราก็ไม่ควร แม้จะมีงบพอ ควรมีการประกาศร่วมทุนจากยุโรป อาฟริกา อเมริกา และญี่ปุ่น และต้องมิใช่นักลงทุนที่หวัง "แคชอิน" ลูกเดียว เพราะจะเข้าล๊อกเก็บค่าผ่านทางในอัตราที่แพงเกินควร จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 13:50:57 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 2 คำถามว่าจะมีเรือมาเข้าคลองไทยพอไหม ควรต้องถามใหม่ว่า ทำอย่างไรให้เรือที่จะไม่เข้าคลองไทยเหลือจำนวนน้อยที่สุด เพราะปกติมีเกินพอจากมหาสมุทร์อินเดีย สู่ทะเลจีน ทะเลฟิลิปปินส์ จนถึงทะเลญี่ปุ่น ตั้งแต่ดั้งเดิม จนกระทั่งตอนนี้มาจากในทิศทางกลับกัน คือจากจีน ญี่ปุ่น สหรัฐ แคนาดา ฯลฯ และ"โลกใหม่" ที่จะไปประเทศอาหรับ อาฟริกาและยุโรป มีเพียบ จำนวนที่จะมาผ่านคลองไทยมีเกินพอแน่ จำนวนที่ว่าเกินพอนี้จะแปรตามเงื่อนไขแรงจูงใจที่จะทำให้เรือเข้ามา มากพอไหม จะทำให้เขาคุ้มกับการที่ไม่ต้องไปอ้อมแหลมมลายูไหม หรือเขามีมาร์จินเหลือเท่าไหร่เมื่อจ่ายค่าผ่านทางให้เจ้าของคลองลัดที่ว่านั้น แต่ต่อให้มีมากเท่าไหร่ ก็ไม่มีประโยชน์ แถมจะต้องมานั่งตบยุงเพราะไม่มีเรือเข้า ถ้ายังใช้หลักเศรษฐศาสตร์โบราณคิดว่า "More is prefered to less" แต่จะต้องนำหลัก "Loss is gain" มาพิจารณาให้มาก โดยมีเป้าว่า เก็บค่าผ่านทางแต่น้อย จะมีเรือผ่านเข้ามามาก:"Less is prefered to more" ส่วนจะมากหรือน้อยแค่ไหน ต้องผ่านการกลั่นกรองจากข้อมูลที่จำเป็น ต้องเก็บกันใหม่ ตามกรอบคิดใหม่ ตามคำถามใหม่ เราจะลงทุนเพื่ออนาคตที่แจ่มใสของลูกหลานไทยกันแล้ว ไม่ใช่เพื่อตัวเรา ต้องอาศัยคนที่รักชาติ จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 13:51:37 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 3 ปัญหาที่กำลังถามกันอยู่ ถ้าไม่ย่อยให้เหลือสองสามข้อ อีกร้อยปีก็ยังเถียงกันไม่เสร็จครับ อย่างจะเอาดินที่ขุดแล้วไปไว้ที่ไหน ถ้ารู้จักที่มาของสนามบินคานไซ (Port Island/Portopia)นิดเดียว ก็เลิกถามได้เลยครับ โลกนี้ มีไม่กี่คลองที่เชื่อมทะเล และมหาสมุทร์ ที่ช่วยลัดเส้นทางเดินเรือ ซึ่งหาไม่แล้วก็จะต้องไปอ้อมแหลม ไม่แหลมใดก็แหลมหนึ่ง ซึ่งก็มักจะเป็นแหลมปลายทวีป เช่นถ้าไม่มีคลองปานามาเชื่อมมหาสมุทร์แปซิฟิค กับ แอตแลนติค คนเดินเรือก็จะต้องไปอ้อมแหลมฮอร์นที่อยู่ปลายสุดของทวีปอเมริกาใต้ สุดกู่พระเดชพระคุณท่าน แม้แมกเจลแลนจะหาช่องแคบเหนือดินแดนที่เรียกว่า "เทียร่า เดล ฟูเอโก้" เจอ แล้วพาเรือสเปนมาโผล่มหาสมุทร์แปซิฟิคสำเร็จเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 1521 นักเดินเรือจากยุโรปที่จะตัดเข้าเอเซียผ่านทวีปอเมริกา หรือนักเดินเรือจากมหาสมุทร์แปซิฟิคเข้ายุโรป ก็ยังเหนื่อยอยู่ดี จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 13:52:32 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 4 คลองปานามาจึงเกิดขึ้น ปัญหามีเยอะแยะ ถึงขนาดธรรมชาติไม่เป็นใจ ระดับน้ำสองมหาสมุทร์ต่างกัน เจอกันเป็นปะทะใส่กันยิ่งกว่าสึนามิ จึงต้องค่อยประนีประนอม ทำขั้นตอนให้เจอกันเป็นห้วงๆ มีประตูน้ำมากมายตลอดคลอง ว่างั้นเถอะ สุดท้ายก็ต้องมาแก้ปัญหาเรื่องผลประโยชน์ ใครได้น้อยได้มาก ไม่ใช่ใครได้ใครเสีย ไม่งั้นเราจะไม่เคยได้อะไรเลยจริงๆ มีแต่เสียอยู่อย่างนี้ทั้งชาติ อีกคลองคือ "สุเอซ" ตัดขึ้นมาก็ด้วยเหตุผลเดียวกัน ประหยัดเวลา และเชื้อเพลิงที่เรือเดินสมุทร์ใช้ในการขนส่งสินค้า ซึ่งถือเป็นการลดต้นทุนมหาศาล ครับ โลกนี้คลองดังๆก็มีไม่กี่คลอง รอแต่ว่าเมืองไทยจะลงมือขุดเมื่อไร "คลองไทย" ที่จะเชื่อมมหาสมุทร์อินเดียกับแปซิฟิค หรือทะเลอันดามัน กับ ทะเลจีนใต้ที่อ่าวไทย เคยคิดกันว่า ถ้ากลัวคลองจะตัดแผ่นดินไทยออกเป็นสองท่อน ผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 1 ก็ให้ทำ "LandBridge"ตรงนี้ก็ได้ จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 13:53:00 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 5 ทำไมที่ผ่านมาไม่ได้ขุดเสียที ทุกครั้ง พอเมืองไทยแอะว่าจะขุด เดี๋ยวเดีย เรื่องจะเงียบ และมักจะแอะกันเมื่อมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารทุกครั้ง 50 กว่าปีที่แล้วมาเป็นอย่างนี้ตลอด นี่ก็อีกแล้วหรือเปล่า เพราะใกล้เลือกตั้งแล้ว จะมีงบมาทำ "ฟี๊สต์" (การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ) ตอนปี 44 ทักษิณก็อนุมัติไป 3 ร้อยล้านบาท ออกอากาศทีเดียวว่าจะขุด ป่านี้ยังไม่เคยเห็นฟี๊สต์ตัวนั้น ที่ให้ พล. อ. ชวลิตนับผิดชอบเลย ไม่เห็นพูดเลยว่า ล้มเลิกโครงการเพราะอะไร ก็ไม่ได้ว่าเบี้ยว แต่รู้อยู่แล้วใช่หรือเปล่าว่า เมื่อประกาศเป็นนโยบายไปแล้ว ก็นั่งรองว่า เมือไรจะมีงบก้อนโตกว่าของรัฐบาลไทย มาช่วยทำให้โครงการนี้ไม่เกิด! จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 13:53:28 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 6 เพราะถ้าเกิด เจ้าของชุมชนเมืองท่าช่องแคบมะละกา สิงคโปร์ มาเลเซีย จะได้รับผลกระทบ จากการมี คลองไทย เราควรมียุทธศาสตร์ในการทำความเข้าใจกับทั้งสิงคโปร์และมาเลเซียว่า ในความเป็นจริง การมีคลองไทยที่มีการเก็บค่าผ่านทาง ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจของดินแดนสองฟากของช่องแคบชลอตัวลงแต่อย่างใด แม้ว่าจะมีเรือที่เคยผ่านช่องแคบมะละกาส่วนหนึ่งมาผ่านคลองไทย เครือข่ายธุรกิจเดิมที่ทั้งสองประเทศมีอยู่น่าจะขยายตัวดีขึ้นด้วยซ้ำ เพราะบริเวณสองฟากคลองไทยกลายเป็นแหล่งลงทุนที่ทั้งสิงคโปร์และมาเลยเซียจะสามารถขยายฐานการลงทุนมาที่นี่ได้ เกิดการขยายตัวทางเศรษบกิจและธุรกิจต่อเนื่องตามมา ช่องแคบมะละกาก็ยังดำรงสถานะเป็นประตูสู่หมู่เกาะอินเดียตะวันออก มิได้ลดความสำคัญลง หาไม่แล้ว พอเปลี่ยนรัฐบาลที ก็บ้าจี้ประกาศนโยบายขุดคอคลอดกระกันที แล้วสิงคโปร์ก็บ้าจี้ไปด้วยทุกที จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 13:53:55 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 7 เดี๋ยวนี้มันยังจำเป็นอยู่เรอะ จากคุณ : คิดดีๆ วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 14:37:18 [ 58.9.146.32 ] ความคิดเห็นที่ : 8 จะเสี่ยงให้ สิงคโปร์เคืองเราทำไม อยู่ดีๆไปทุบหม้อข้าวเพื่อน ...มันจะดีหรอ.. จากคุณ : คิดแปลกๆ วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 14:39:38 [ 124.121.127.34 ] ความคิดเห็นที่ : 9 สิงคโปร์ เพื่อนบักเหลี่ยม จากคุณ : นังดำขี้อิจฉา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 14:59:39 [ 125.27.76.34 ] ความคิดเห็นที่ : 10 ถ้าเราไม่ขุดคลองคอดกะแต่เราทำท่าเรือขนาดใหญ่ที่ชุมพรและทำระบบลอจิสติกที่ดี ทันสมัยและรวดเร็วเข้ามายังกรุงเทพจะได้ไหมครับ จากคุณ : ผู้หยั่งรู้ วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 15:03:14 [ 125.25.136.36 ] ความคิดเห็นที่ : 11 ตอบ 7 ทำไมต้องทำอะไรสักอย่าง เพราะจำเป็นด้วยเล่า มันควรทำมา 50 ปีแล้ว ที่จะทำตอนนี้มันไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับจำเป็นหรือไม่จำเป็น แต่คุณต้องตอบให้ได้ก่อนว่า ทำไมไม่ทำ? อย่าตอบว่าอยู่ดีๆ อย่างนี้ดีแล้ว มีใครบอกว่าคนไทยวันนี้ "อยู่ดีๆ" หรืออยู่ดีกินดี มีอะไรเป็นความหวังของคนไทยวันนี้ ใครทราบตอบที ผมไม่ได้บอกว่าคอคอดกระจะมาแก้ปัญหา ผมเพียงแต่นึกไม่ออกว่า ทำไมจะไม่ขุดคอคอดกระ เท่านั้นเอง พอดี 8 ตอบว่าจะไปทำให้เพื่อนบ้านเคือง ถ้าคุณเข้าใจความหมายของ "การแข่งขันที่เกิดจากความร่วมมือ" หรือ "การแข่งขันด้วยวิธีการร่วมมือกัน" คุณจะไม่รู้สึกว่าเราไปทำให้เพื่อนบ้านเคือง และถ้าสิงคโปร์คิดแบบกลัวไทยเคือง คงไม่มาร่วมลงทุนจนเราต้องถามหาจริยธรรมการทำธุรกิจที่ถนนสาธร จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 15:08:15 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 12 "การแข่งขันที่เกิดจากความร่วมมือ" หรือ "การแข่งขันด้วยวิธีการร่วมมือกัน" ......มันจะร่วมมือได้ไง ก็ไปทุบหม้อข้าวเขา คำพูดหรูๆต้องเอาไว้ใช้หลอกเด็กๆครับ ในทางปฎิบัตินั้นคงทำยาก จากคุณ : คิดแปลกๆ วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 15:10:30 [ 124.121.127.34 ] ความคิดเห็นที่ : 13 ที่คุณ 10 ว่า ก็สร้างเถอะครับ ผมก็คิดว่าดี มาทดแทนกับการที่ไม่ต้องขุดคอคอดกระได้บ้าง ถ้าผมเป็นเจ้าของสินค้า ผมก็เอาของลงที่ท่าอันดามัน แล้วต้องจ้างเรือจากฝั่งอ่าวไทยไปส่งที่หมาย เช่นญี่ปุ่น เขาจะทำอย่างนี้มันแพงกว่าที่เขาจะมีเรือลำเดียวจากเซ้าแทมตัน แล่นทะลุคลองไทยไปโตเกียว ตกลงท่าเรือที่คุณว่า ก็ไม่สนองลอจิสติกส์อย่างที่ผมกำลังพูดถึง ก็เป็นท่าเรือในทะเลภายในอันดามัน กับอีกท่าเรือภายในอ่าวไทย เรามีธุรกิจในประเทศรองรับไหม ถ้สไม่อาจเจ๊ง จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 15:15:46 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 14 50 ปีก่อนน่าทำ-คุ้ม เดี๋ยวนี้มันคุ้มตรงไหน เอาเงินของชาติไปผลาญเล่นแท้ๆ จากคุณ : คิดดีๆ วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 15:18:56 [ 58.9.146.32 ] ความคิดเห็นที่ : 15 บอกมาซิว่าเพื่อนของคุณเขาจะกริ้วอะไร ไม่ชอบคำหรูก็ต้องฟังรู้เรื่อง หน้าเหลี่ยมอยู่ป่านนี้เปลี่ยนเวลาเมืองไทยไปใช้ร่วมกับสิงคโปร์แล้ว โอ๋กันเหลือเกิน ซักวันสิงคโปจะถูกไล่ออกจากอุดร พูดยังงี้จะเคืองแทนสิงคโปร์มั๊ยเนี่ย คำนึงก็ทุบหม้อข้าว สองคำก็ทุบหม้อข้าว มีอะไรใหม่ๆบ้างไหม จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 15:20:22 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 16 สิงคโปร์ นะหมายถึง สัญลักษณ์ของอำนาจของ USA ในช่องแคบมะละกา ใครติดขุดคลองคอขอดกระ เท่ากับหาเรื่องนานานับประการมาสู่ประเทศ ไทย.......ไม่รู้เหรอ... จากคุณ : คิดแปลกๆ วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 15:21:46 [ 124.121.127.34 ] ความคิดเห็นที่ : 17 คิกอะไร ต้องมองภาพรวมให้ออก ชั่งผลดีผลเสีย....แคบมากๆ ไม่ดี... จากคุณ : คิดแปลกๆ วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 15:22:59 [ 124.121.127.34 ] ความคิดเห็นที่ : 18 14 คุณพูดใหม่ว่าวันนี้คุ้มกว่าเมื่อ 50 ปี จะน่าฟังกว่า ใครบอกเอาเงินของชาติ คุณทำดีๆ ไม่ต้องจ่ายด้วยซ้ำ ใครบอกว่าจะต้องทำเองแบบสุวรรณภูมิ คนจ่าย คือคนที่ต้องการถอนทุน ก็เจ้าของสินค้า กับบริษัทเดินเรือไง เราก็แค่เสือนอนกิน ในส่วนที่จะตหลงกัน กี่เจ้าก็ว่ากันไป จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 15:24:06 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 19 ขอบคุณ 16 ผมเข้าใจคุณแล้ว จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 15:25:02 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 20 "เราก็แค่เสือนอนกิน ในส่วนที่จะตกลงกันกี่เจ้าก็ว่ากันไป" โดนการก่อการร้าย โดนกำแพงภาษี โดนลดความช่วยเหลือ ฯลฯ.... จากคุณ : คิดแปลกๆ วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 15:26:28 [ 124.121.127.34 ] ความคิดเห็นที่ : 21 17 ทำให้เข้าใจ 16 มากขึ้น จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 15:26:38 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 22 คนที่ชื่อ "คิดแปลกๆ" ควรเปลี่ยนเป็น "สิ้นคิด" กลัวสิงคโปร์เคือง กลัวอเมริกา เผอิญกลัวในสิ่งที่ไม่เข้าเรื่อง แต่กลับไม่กลัวสิงคโปร์ฮั้วกับอมริกา ทำลายทั้งเศรษฐกิจ และการเมือง รวมทั้งก่อไฟใต้ ที่ผ่านมา 2 ประเทศนี้คงได้กลัวไทยจะขุดคอคอดกระสินะ ถึงต้องมาจับมือหน้าเหลี่ยม ทำลายยุทธปัจจัยความมั่นคงของชาติในหลายเรื่อง ยังไม่รู้อีกเหรอ จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 15:37:34 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 23 โธ่ๆๆๆ ........ ถ้าทำแล้วดี น่ะ ผู้บริหารชาติบ้านเมือง(ซึ่งเขาเก่งและดีกว่าอารยา) คงทำไปแล้ว นายกฯมีกี่คนมาแล้ว เขาเคยไปแตะเรื่องนี้บ้างไหม ลำพังแค่นั่งคิดนอนคิดไม่เกิดประโยชน์อะไรหรอกนะ... จากคุณ : คิดแปลกๆ วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 15:40:26 [ 124.121.127.34 ] ความคิดเห็นที่ : 24 ปัดท่อเอ๊ย ใช้ตรรกะแบบสิ้นคิดอีกแล้ว จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 15:42:53 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 25 ตรรกะ แบบตรงไปตรงมา ไม่หวานหู ก็หาว่าสิ้นคิด...คนเรา... จากคุณ : คิดแปลกๆ วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 15:44:05 [ 124.121.127.34 ] ความคิดเห็นที่ : 26 ผมบอกแล้วไงว่า นึกไม่ออกว่าทำไมจะไม่ทำ ไม่ได้แปลว่าผมหัวชนฝาบอกว่าต้องทำ แต่ที่คุณบอกมามันฟังไม่ขึ้น พอสิ้นคิด ก็ไปใช้ตรรกะแบบนั้น ขออภัยที่ต้องพูดตรงไปตรงมา จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 15:45:44 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 27 "นึกไม่ออกว่าทำไมจะไม่ทำ". ..........ไว้ค่อยนึกออกว่าทำไมต้องทำ ดีอย่างไร คุ้มอย่างไร ค่อยมาบอกสิ คนธรรมดาๆปกติๆ เขาก็ใช้วิธีนี้กันทั้งนั้น.... จากคุณ : คิดแปลกๆ วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 15:47:47 [ 124.121.127.34 ] ความคิดเห็นที่ : 28 สิ้นคิด ผมตอบคุณหมดทุกประเด็นที่คุณว่ามา ถูกผิดว่ากันไป แต่ผมทิ้งประเด็นที่เกี่ยวกับสิงคโปร์ว่าเขาจะไม่เคืองเรา จะร่วมมือกับเราได้ และเรก็ไม่ได้ไปทำให้หม้อข้าวเขาแตก (คุณไม่รู้หรือว่าเขาไม่ได้เก็บค่าผ่านทาง และฐานเศรษฐกิจของบัดนี้ เกินเรื่องซื้อมาขายไปแล้ว เขาเข้าสู่ capital-intensive service ไปนานแล้ว คุณไปห่วงเศรษฐี ไม่ดูตัวเองเสียก่อนว่า ถึงหม้อข้าวไม่แตก แต่ไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ ยังไม่รู้จักเจียมตัวอีก จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 15:59:23 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 29 ลองเทียบที่ผมนึกออกว่าทำไมต้องทำ กับที่คุณนึกออกว่าทำไมไม่ทำ ว่าต่างกันอย่างไร เอาแค่นี้แล้วค่อยมาคุยกันกว่า ไม่รู้ว่าคุณมองประเด็นไม่ออก หรือว่า สิ้นคิดจริงๆ จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 16:01:50 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 30 แล้วทำไม ร.บ. ตั้งหลายสมัยไม่ทำ ..... ลองเรือไม่ผ่าน สิงคโปร์ดิ ธุรกิจต่อเนื่องกัน ต้องพินาศไปเท่าไร เขาคงยอมหรอก ถ้ามันง่ายๆอย่าง "อารยา" ว่า .....ทำไมมาเลเซีย มันไม่งดปล่อยน้ำไปเลี้ยงสิงคโปร์หล่ะ จะได้ทรัพยากรที่เป็นดินแดนเพิ่มขึ้น ที่มาเลฯมันไม่ทำเพราะทำไม่ได้เหมือนไทยที่ขุดคอขอดกระ ไม่ได้เช่นกัน เพราะ บิ๊กบราเธอร์คงไม่ยอม... จากคุณ : คิดแปลกๆ วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 16:04:25 [ 124.121.127.34 ] ยังมีต่อ หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 17-07-2007, 14:50 ผมว่าอย่าขุดเลย เนื่องจากป่าไม้ทางใต้เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด
ถ้าหากขุด มันก็จะเหมือนการสร้างเขื่อน สัตว์ป่าก็จะเสียหายไร้ที่อยู่ ไร้ระบบนิเวศ รวมทั้งป่าไม้ที่หายไป แค่เงินไม่เท่าไหร่ กับระบบนิเวศที่สูญเสีย มันไม่คุ้มกันหรอกครับ ไม่คุ้มกันมากๆ หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: -3- ที่ 17-07-2007, 14:56 ไม่ต้องหรอกครับ เอาเงินไปสร้างสนามบินใหม่แทนสุวรรณภูมิดีกว่า
หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: เอกราช ที่ 17-07-2007, 15:10 ต่อครับ
ความคิดเห็นที่ : 30 แล้วทำไม ร.บ. ตั้งหลายสมัยไม่ทำ ..... ลองเรือไม่ผ่าน สิงคโปร์ดิ ธุรกิจต่อเนื่องกัน ต้องพินาศไปเท่าไร เขาคงยอมหรอก ถ้ามันง่ายๆอย่าง "อารยา" ว่า .....ทำไมมาเลเซีย มันไม่งดปล่อยน้ำไปเลี้ยงสิงคโปร์หล่ะ จะได้ทรัพยากรที่เป็นดินแดนเพิ่มขึ้น ที่มาเลฯมันไม่ทำเพราะทำไม่ได้เหมือนไทยที่ขุดคอขอดกระ ไม่ได้เช่นกัน เพราะ บิ๊กบราเธอร์คงไม่ยอม... จากคุณ : คิดแปลกๆ วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 16:04:25 [ 124.121.127.34 ] ความคิดเห็นที่ : 31 คืองี้นะคับ ท่าเรือใหม่ที่มาเลย์สร้างไว้แข่งกับสิงคโปร์ก็เสร็จแล้ว แถมค่าบริการยังถูกกว่า 1 ใน 3 ผมว่า ถ้าเราขุดขึ้นมา คู่แข่งเราน่าจะเป็นมาเลย์มากกว่าสิงค์โปร์ เพราะคราวที่แล้วที่คิดกันเรื่องขุดนี้ ท่าเรือของมาเลย์ยังไม่สร้าง แถมถ้าเราเก็บแพงกว่าสิงค์โปร์ พวกเรือสินค้ายอมเดินเรืออ้อมนะคับ เพราะต่างกันไม่กี่วัน แต่ปัญหาที่มาเลย์ พบก็โจรสลัด มาเลย์เคยขอร้องให้กองทัพเรือส่งเรือมาลาดตระเวณร่วมกัน สามประเทศมี สิงค์โปร์ มาเลย์ และไทย แต่เราไม่ส่งไปร่วม หรือว่า ส่งไปแบบไม่เต็มใจนัก เพราะติดปัญหาอะไรสักอย่างอันนี้ผมไม่แน่ใจ เอาเป็นว่า ที่พาณิชย์นาวี มีรายงานเรื่องขุดคลองนี่เยอะนะคับ และค่อนข้างจะครอบคลุมถึงระบบ logistics โดยรวมด้วย เหมือนที่ คห 10 เอ่ยถึงไว้นั่นแหละคับ เหมือนที่ทักษิณ ไปยุบ รพส แวให้พรรคพวกตัวเองไปเปิดบริษัทด้านlogistics มาทำแทนนั่นแหละพี่น้อง ขขขขขขขขขข จากคุณ : ผัวน้อย รุ่น 53 วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 16:05:01 [ 124.168.70.73 ] ความคิดเห็นที่ : 32 มันจะได้ไม่คุ้มเสียนะครับ ไทยจะกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ระดับโลก ที่มีปัญหาอยู่ตอนนี้ก็รับกันไม่ไหวอยู่แล้ว สาบลับทั้งหัวดำหัวแดง เพ่นพล่านกันชนิดแทบจะชนกันตายอยู่แล้ว ถ้าขุดไปรับรองเราเสียภาคใต้ด้านใต้คลองลงไปแน่นอน หมื่นล้านเปอร์เซนต์ จากคุณ : 3Q วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 16:22:08 [ 58.8.170.71 ] ความคิดเห็นที่ : 33 คุณอารยา กรุณาให้ข้อมูล และเหตุผลเพิ่มด้วยครับ เรื่องนี้ก็ฟังมานานพอดู...แต่ก็สรุปว่า ทำไม่ได้ บทโต้แย้ง...ประเดี๋ยวมีคนจัดการเอง จากคุณ : คนเขลางค์ วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 16:24:04 [ 202.29.58.30 ] ความคิดเห็นที่ : 34 เออ ถ้าบอกว่ามันไม่ไกลจากช่องแคบมะละกาเท่าไหร่ ถ้าเราเก็บแพงไป เรือจะไม่มา อย่างนี้ฟังได้ และก็จะได้คุยกันต่อได้ ไม่ใช่ ถ้ามันง่ายอย่างอารยาว่า ทำไมหลายรัฐบาลไม่ทำ อันนี้เป็นเหตุผลแบบโหลยโท่ย ฟังไม่ได้ ขอบคุณ คุณผัวน้อย มันมีประเด็นว่า ทั้งมาลย์และสิงคโปร์ไม่ได้เก็บค่าผ่านทาง ผมไม่ได้หมายถึงค่าจอดเรือ แต่คลองไทยไม่จอดก็เก็บ และคงไม่ให้จอด เพราะมันเป็นคลองผ่าน วิธีคิดก็คือเขาบริษัทเรือทุ่นค่าน้ำมันไปเท่าไหร่ ถ้าไม่ไปผ่านช่องมะละกา ที่จะต้องจอดที่สิงคโปร์มันก็ไม่มาอยู่แล้ว ประเด็นคือ เฉพาะที่ไม่อยากผ่านช่องมะละกา ทำอย่างไรจะให้ผ่านคลองไทย ข้อมูลตรงนี้คือ มีเรือปีละกี่ลำที่ไม่จอดสิงคโปร์ นั่นคือโจทย์ที่จะต้องตั้งว่า ทำอย่างไรให้เรือเหล่านี้มาผ่านคลองไทย ยังมีอีกหลายคำถามที่ต้องค่อยๆตั้งโจทย์ให้ชัดครับ ง่ายที่สุดคือไปเก็บจากกระทู้ ผมก็พยายามชวนให้ตั้งประเด็นตั้งเยอะแล้วนะ จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 16:26:20 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 35 ทำไมไม่ได้หรอก จะพูดไปทำไม ถ้าทำได้เขาทำกันไปนานแล้ว.....พูดจริงๆ .. จากคุณ : คิดแปลกๆ วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 16:37:50 [ 124.121.127.34 ] ความคิดเห็นที่ : 36 ไม่เป็นไรคับ ถือว่าแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ที่จริงมีอยู่หลายประเด็นที่อยากจะบอกแต่ ข้อมูลที่ผมจำได้ไม่แน่นพอ กลัวว่าบอกไปจะทำให้ดูเหมือนพูดขึ้นมาลอยๆ ไว้มีข้อมูลแน่นๆแล้วจะมาบอกกันอีกที แต่ถ้าจำไม่ผิด ข้อเสนอที่พาณิชย์นาวีร่วมกับกรมการขนส่งทำไว้ก็คือ ปรับปรุงระบบโลจิสติกอ่ะ ข้อนี้ผมค่อนข้างยืนยัน ขขขขข จากคุณ : ผัวน้อย รุ่น 53 วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 16:39:00 [ 124.168.70.73 ] ความคิดเห็นที่ : 37 รสพ. เขากองไว้ ที่ข้างบ้านเรานี่เอง นาน 10 --- 20 ปีแล้ว ใช่ว่าเริ่มทำส่วน ท่าเรือฯ ทางฝั่ง อันดามัน ก็มีที่ จังหวัด ระนอง ส่วนถนน ก็ อำเภอ อ่าวลึก จ. กระบี่--- อำเภอ กาญจนดิษฐ์ จ.สุราาฎร์ธานี เสร็จ นานแล้ว ( โครงการ พลเอก ชาติชาย ) เหลือแต่ ช่วงหัว ท้ายที่ยังหาท่าเรือฯไม่เจอ ( ต่อไปบ้านเมืองสงบเรียบร้อยแล้วก็น่าขุดคลองไทย ) จากคุณ : ทิพย์ วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 16:42:06 [ 203.113.34.7 ] ความคิดเห็นที่ : 38 อยากให้มีคนแย้ง หรือมีบทโต้แย้งอะไรก็ว่ามา ไม่ต้องรอผม ที่ถูกผมตั้งกระทู้แล้วอีกสามวันมาทำหน้าที่สรุป จากความเห็นหลากหลายด้วยซ้ำไป คนตั้งกระทู้อาจไม่รู้ เขลา จึงออกมาเล่าปัญหาของตัวให้พ่อแม่พี่น้องฟัง เขาไม่ใช่คนที่ออกมาบอกว่า ข้ารู้ดีกว่าใคร พอเข้าใจนะครับ แต่ด้วยอคติที่คิดว่าผมอยากขุดคลอง ก็เลยไม่ฟังที่ผมพูด แล้วออกมาตีกันแบบไม่ค่อยจะมีเหตุผลว่า ทำไม่ได้ๆๆๆๆ ไม่สนว่ามันมีอีก 20 ประเด็นที่หยิบมาคุยกัน อย่างคุณผัวน้อยเอาประเด็นลอจิสติกแท้ๆมาพูดกัน แล้วผมก็แยกเรือผ่านกับเรือจอด เพื่อให้เห็นคลองไทยไม่ใช่ช่องแคบ (strait) แต่เป็นคลอง(canal) แต่เราเรียก "คอคอด" (ithmas) ก็ตรงนั้นมันคอดกิ่งระหว่างอันดามันกับอ่าวไทยอ่ะ ประเด็นคือ ยังไงๆเราจะหากินกับภาษีปากเรือ หรือค่าผ่านทาง เพราะของเราไม่ใช่ช่องแคบธรรมชาติ เราต้องลงทุนขุดเหมือนคลองปานามา ซูเอส จะว่าเราเก็บแพงกว่าสิงคโปร์ หมายถึงค่าเทียบท่าหรือเปล่า ก็นี่คือตัวอย่างที่จะต้องคุยกันครับ คุยแบบนี้แล้วมันก็มีความสุขมากกว่า ไม่จำเป็นว่ารัฐบาลต้องเชื่อแล้วทำตามใครในเว็บนี้ บ้านเมืองมันก็ต้องช่วยๆกัน พยายามเข้าใจกันอย่างนี้ครับ จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 16:52:52 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 39 ถ้าทำได้จะดีมากๆ เลยครับ ทุกวันนี้ ผมส่งออกสินค้าไปขาย ที่ตุรกี ต้องส่งของลงที่แหลมฉบัง ขึ้นเรือ 5 วัน ต้องอ้อมผ่านช่องแคบ และแวะท่าเรือสิงคโปร์ แล้วจึงไปถึงท่าเรือกลังมาเลย์ เพราะถูกกว่าสิงคโปร์ แล้วรอเรือที่จะไปยุโรปแวะมารับของอีกที หลายทอด แต่ถ้าเราตัดทะลุ 2 มหาสมุทร หรือไม่ก็พัฒนาท่าเรือ ของตัวเองทั้ง 2 ชายฝั่ง ด้วยระบบที่ดี รวมไปถึงเรื่องราคา ที่เหมาะสมหละก็ ผู้ประกอบการอีกเยอะ คงจะหันมาใช้ เริ่มจากสายเรือต่างๆ แล้วก็ผู้ประกอบการในประเทศ แต่คงเป็นไปได้ยาก เพราะปัญหาภายนอกเป็นหลักแท้ๆ หลายประเทศไม่อยากให้เราขุดคลองนี้ มาตั้งหลายสิบปีแล้ว หนึ่งเงื่อนไขในการที่เราไม่เป็นประเทศแพ้สงครามโลก คือ ต้องไม่ขุดคลองเชื่อม 2 ทะเล โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจาก ข้าหลวงอังกฤษในสิงคโปร์ ตกลงกันไว้ตั้งแต่ 1945 ทำไม มันยัง มีผลถึงทุกวันนี้ก็ไม่รู้ จากคุณ : เด็กแหลมบัง วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 16:56:03 [ 125.27.75.33 ] ความคิดเห็นที่ : 40 คลองคอดกะเป็นแนวคิดเกือบทุกรัฐบาลที่เข้ามาบริหาร แต่แล้วก็ต้องหยุดเพราะมีการรับเงินก้อนโตจากใครหรือเปล่า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! จากคุณ : ร่วมแจม วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 16:57:01 [ 58.147.120.65 ] ยังมีต่อ หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: เอกราช ที่ 17-07-2007, 15:14 ต่อครับ
ความคิดเห็นที่ : 41 ผมก็ว่าน่าคิด อย่างคุณ 40 จึงได้แตะไวที่ คห.6 คุณ 39 ครับ ส่วนข้าหลวงใหญ่ คือลอร์ด หลุยส์ เม้าท์แบตตัน เมื่อปี 1945 มีประเด็นที่อังกฤษมีอคติ สหรัฐก็ไม่เห็นด้วย เพราะไทยไม่ได้แพ้สงคราม เรื่องอย่างนี้ต้องคุยกัน ดูแต่ญี่ปุ่นที่ห้ามมีกองทหาร แต่กองกำลังป้องกันตัวของเขา ระดับไหน เรายังต้องก้าวไปในโลกนี้อีกไกล อย่าขี้กลัวจนลูกหลานต้องมารับภาระที่ไม่สมควร จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 17:12:09 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 42 ทำไมโพสไม่ได้หว่า ขขขขขขขขข จากคุณ : ผัวน้อย รุ่น 53 วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 17:14:22 [ 124.168.70.73 ] ความคิดเห็นที่ : 43 การเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของเส้นทางคลองไทย (THAI-CANAL) เส้นทาง 2A เส้นทาง 5A เส้นทาง 7A เส้นทาง 9A เส้นทาง 2A คลองเริ่มจากบ้านราชกรูด อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ข้อดี 1. เป็นแนวคิดคลองเดิมเมื่อ 325 ปี มาแล้ว ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช 2. มีพื้นที่ติดคลองบนบกสั้นเพียง 90 กิโลเมตร 3. เป็นเส้นทางเดินเรือที่ใกล้กรุงเทพมากที่สุด (ห่างจากกรุงเทพฯประมาณ 600 กิโลเมตร) ข้อเสีย 1. อยู่ใกล้ชายแดนพม่า (ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร จากชายแดน) อาจจะมีปัญหาด้านความมั่นคงและการเมืองในภาวะไม่ปกติ เนื่องจากปัญหากรรมสิทธิ์บางเกาะในทะเลระหว่างเขตแดนไทย พม่า ยังไม่ชัดเจน 2. อยู่นอกเส้นทางเดินเรือสากล ต้องอ้อมแหลมญวนไกลเพิ่มขึ้น 3. พม่าสามารพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่อง แข่งขันกับไทย โดยพม่าจะได้เปรียบเพราะค่าแรง งานต่ำ และการลงทุนในการพัฒนาอุตสาหกรรม เป็นแรงจูงใจให้ต่างชาติไปลงทุนในพม่าแทนการลงทุนในประเทศไทย 4. ปัญหาทางธรณีวิทยามีรอยเลื่อนของเปลือกโลก มีแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง อาจเป็นอัน ตรายต่อคลองในอนาคต 5. ระดับน้ำทั้ง 2 ฝั่ง ต่างกันประมาณ 2-3 เมตร อาจต้องทำประตูน้ำ 6. เส้นทางผ่านแนวภูเขาสูงชันและเป็นช่องเขาแคบ ทำให้ไม่เหมาะในการพัฒนาท่าเรือ พื้นที่อุตสาหกรรมต่อเนื่องและเขตเศรษฐกิจพิเศษมีที่กว้างพอ 7. การขุดคลองผ่านพื้นที่ภูเขาสูงชันมีหินแกรนิตเป็นระยะทางยาวกว่า 60 กิโลเมตร ทำให้คลองสั้นแต่ราคาค่าขุดคลองจะสูง 8. การขุดคลองมิได้หวังเพียงให้เรือเดินทางเข้าท่าเรือกรุงเทพฯ แต่ต้องการให้เป็นน่านน้ำสา กลจากตะวันออกกลาง สู่อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี ยิ่งขึ้นสูงทำให้เส้นทางเดินเรือต้องอ้อมแหลมญวน ไม่ทำให้ประหยัดระยะทางหรือเป็นคลองลัดจริง ขขขขขขขขข จากคุณ : ผัวน้อย รุ่น 53 วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 17:16:04 [ 124.168.70.73 ] ความคิดเห็นที่ : 44 เส้นทาง 5A เส้นทางจากจังหวัดสตูล จังหวัดสงขลา ข้อดี 1. ปริมาณดินที่ขุดน้อยที่สุด ทำให้ค่าใช้จ่ายในส่วนเฉพาะการขุดคลองต่ำที่สุด 2. ระดับน้ำทิ้ง 2 ฝั่ง ต่างกันประมาณ 0.5 เมตร 3. ไม่ต้องตัดผ่านภูเขา เนื่องจากแนวคลองจะอยู่ในช่องเขา 4. อยู่ในแนวเส้นทางการเดินเรือสากล ข้อเสีย 1. อยู่ใกล้ชายแดนมาเลเซีย ทำให้มาเลเซียสามารถพัฒนาอุตสาหกรรม โดยไม่ต้องลงทุนขุดคลอง และมาเลเซียจะได้ประโยชน์มากกว่าประเทศไทย เพราะแนวคลองอยู่ใกล้เมื่องอลอสตาร์ และท่าเรือกลาง ของประเทศมาเลเซีย (Port Kelang) 2. ปัจจุบันมีความหนาแน่นของประชากรสูงมาก อาจจะมีปัญหาในเรื่องค่าขนย้ายและค่ารื้อย้ายมาก 3. แนวคลองพาดผ่านทะเลสาปสงขลา (ทะเลสาปสงขลาตอนล่าง) อาจจะเกิดกระแสการต่อต้านสูง ดังเช่นในกรณีเดียวกับการวางท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย 4. จากการสำรวจข้อมูลด้านธรณีวิทยา พบโพรงหินขนาดใหญ่ประมาณ 11 แห่ง บริเวณจังหวัดสตูล 5. ทางภูมิรัฐศาสตร์บริเวณพื้นที่ ใต้แนวคลองเป็นเขต ประชากรไทยมุสลิมหนาแน่นมาก กว่า ร้อยละ80หากมีการแทรกแซงจากภายนอกอาจก่อให้เกิดปัญหาด้านการแบ่งแยกดินแดนและด้านความมั่นคงในอนาคตได้ 6. แนวคลองอยู่ใกล้ช่องแคบมะละกา ทำให้ไม่ได้ร่นระยะทางการเดินเรือ 7. ไม่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ขขขขขขขขขข จากคุณ : ผัวน้อย รุ่น 53 วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 17:17:17 [ 124.168.70.73 ] ความคิดเห็นที่ : 45 เส้นทาง 7A เส้นทางจาก จังหวัดตรัง - สงขลา ข้อดี 1. ระยะทางสั้นขุด ผ่านแผ่นดินประมาณ 60 กิโลเมตร ใช้ร่องน้ำจากกันตังถึงตรัง 30กิโลเมตร ที่อำ เภอ ย่านตาขาว แล้วขุดทะเลสาบสงขลาในส่วนทะเลหลวงที่พัทลุง -สงขลาประมาณ 20 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 110 กิโลเมตร 2. ขุดผ่านภูเขาประมาณ 9 กิโลเมตร จะได้ใช้หินเพื่อก่อสร้าง 3. ผ่านสงขลาบนบกเพียง 5 กิโลเมตร ก็ทะลุออกอ่าวไทยมีท่าเรือน้ำลึกที่สงขลาอยู่แล้ว 4. ใช้ทะเลสาปสงขลาเป็นท่าเรือหลบมรสุมได้ ข้อเสีย 1. เส้นทางทับลำน้ำธรรมชาติเดิมจากกันตังถึงย่านตาขาวมีผลกระทบกับประชาชนริมน้ำ เป็นระยะทางเกือบ 30 กิโลเมตร 2. คณะสมาชิกวุฒิสภา และ สมาชิกสภาผู้แทนจังหวัดสงขลา และ ชมรมอนุรักษ์ทะเลสาปสงขลาหลายชมรมและ ประชาชนสงขลาคัดค้านที่จะให้คลองผ่านทะเลสาปสงขลา 3. พื้นที่จังหวัดสงขลาซึ่งมีประชาชนอาศัยหนาแน่น ที่ดินราคาแพง ทำให้มีผลกระทบด้านสังคมมากเพราtประชากรมุสลิมหนาแน่นกว่าแนวคลอง 9A 4. ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเป็นแหล่งชุมชนหนาแน่นและแหล่งท่องเที่ยว สำคัญของประเทศตลอดเส้นทางที่คลองตัดผ่าน 5. ใกล้กับชายแดนไทย - มาเลเซีย มากกว่าเส้นทาง 9A 6. ภูเขาที่ตัดผ่านบริเวณจังหวัดตรังเป็นพืดเขาสูงชันมาก สูงถึง 1,200 เมตร ระยะทาง 9 -10 กิโลเมตร มีอยู่ช่องเดียวคือช่องเขาพับผ้าซึ่งแคบเกินไปที่จะขุดคลอง 7. ไม่มีพื้นที่กว้างพอสำหรับการพัฒนาท่าเรือ เขตเศรษฐกิจพิเศษ และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ขขขขขขขขขขข จากคุณ : ผัวน้อย รุ่น 53 วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 17:17:40 [ 124.168.70.73 ] ความคิดเห็นที่ : 46 เส้นทาง 9A เส้นทางจากจังหวัดกระบี่ - ตรัง - พัทลุง - นครศรีธรรมราช ข้อดี 1. ตำแหน่งที่ตั้งเป็นศูนย์กลางของภาคใต้ อยู่ระหว่างกลางประเทศพม่าปลายแหลมมลายู และประเทศสิงค์โปร์ ไม่มีปัญหาด้านความมั่นคง ( ห่างจากชายแดนพม่าประมาณ 700 กิโลเมตร และห่างจากประเทศสิงคโปร์ ประมาณ 700 กิโลเมตร 2. ทางภูมิรัฐศาสตร์บริเวณคลองเป็นชาวไทยพุทธร้อยละ 95 และรวมพื้นที่ใต้แนวคลองทั้งหมดประชากรส่วนใหญ่เป็นไทยพุทธหากมีการแทรกแซงจากภายนอกที่จะก่อให้เกิดปัญหาการแบ่งแยกดินแดนจะทำได้ยาก 3. อยู่ในเส้นทางการเดินเรือสากลและสามารถพัฒนาท่าเรือหลบมรสุมได้ทั้ง 2 ฝั่งทะเล 4. ระบบโครงสร้างพื้นฐานมีความพร้อม อาทิเช่น โรงงานปูนซิเมนต์ทุ่งสง กำลังผลิต 8 ล้านตัน/ปี และศูนย์ กลางการคมนาคมทางบก มีทางหลัก 4 สาย รถไฟ 2 สาย และทางอากาศมีสนามบินใกล้ถึง 3 สนามบิน 5. มีแหล่งน้ำจืดที่ใช้ในกิจการของคลองและสนับสนุนอุตสาหกรรมเพียงพอโดยกรมชลประทานเป็นผู้วางแผน สนับสนุนเรื่องน้ำอย่างเต็มที่ 6. มีศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่สำหรับเมืองใหม่ เขตเศรษฐกิจพิเศษและที่จะสามารถพัฒนาได้กว้างใหญ่ถึง 3 ที่ คือที่ปากคลองทั้งสองฝั่งทะเลและบริเวณกลางคลอง 7. มีความหนาแน่นของประชากรน้อย ทำให้ลดค่าขนย้าย และค่ารื้อย้าย 8. ระดับน้ำทั้ง 2 ฝั่งทะเลต่างกันประมาณ 0.5 เมตร 9. ประชาชนในแนวคลอง ทั้ง 23 อ.บ.ต สนับสนุนและมีส่วนร่วมในการกำหนดแนวคลองเองตลอดแนวคลอง 9A ได้มีการประชุมกัน 15 ครั้ง ข้อเสีย 1. แนว 9A ระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร แนวที่2 ยาว 92 กิโลเมตร แนวที่ 5A ยาว 102 กิโลเมตร และแนวที่ 7A ยาว 105 กิโลเมตร 2. มีเส้นทางพาดผ่านพื้นที่เนินเขาประมาณ 10 กิโลเมตร บริเวณเทือกเขานครศรีธรรมราช 3. แนวคลองพาดผ่านพื้นที่บางส่วนเลี้ยวของพรุควนเคร็ง ถ้าไม่มีการจัดการที่เหมาะสมอาจจะทำให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมได้ 4. ไม่สามารถสร้างท่าเรือริมทะเลได้ต้องพัฒนาพรุควนเคร็งบางส่วนเป็นท่าเรือเคร็ง (Port of Kreng) เพื่อหลบมารสุมด้านอ่าวไทย ขขขขขขขขขข จากคุณ : ผัวน้อย รุ่น 53 วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 17:18:05 [ 124.168.70.73 ] ความคิดเห็นที่ : 47 เอ้า ลืมให้ที่มา http://www.thai-canal.com/canal%20line%20alternative%20T.htm ผมว่าเราดูจากข้อดีข้อเสีย แล้วแตกเป็นประเด็นมาแลกเปลี่ยนความรู้กันก็ได้เด้อออ ขขขขขขขขขขข จากคุณ : ผัวน้อย รุ่น 53 วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 17:19:24 [ 124.168.70.73 ] ความคิดเห็นที่ : 48 คอคอดกระกับปัญหาความมั่นคงของชาติ ช่องแคบมะละกา ในช่วงที่สถานการณ์ความร้อนแรงของความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นที่สนใจของเรา ๆ ท่าน ๆ จนทำให้กลบข่าวความร้อนแรงรอบบ้านที่เกิดขึ้น อย่างเช่นสถานการณ์บริเวณช่องแคบมะละกาที่มีหลายประเทศเกี่ยวข้องกันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ จากที่ผมกล่าวนำมาอย่างนี้ คิดว่าหลายท่านอาจจะสนใจแล้วว่า ช่องแคบมะละกามีความสำคัญอย่างไร? ช่องแคบมะละกาเป็นช่องแคบที่อยู่บริเวณทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศไทย ตะวันตกและใต้ของมาเลเซีย ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือและเหนือของเกาะสุมาตรา และเลยไปถึงทางด้านใต้ของสิงค์โปร์ ช่องแคบมะละกาเป็นช่องแคบที่มีความกว้างบริเวณทางเข้าประมาณ 5 ไมล์ ยาวประมาณ 600 ไมล์ ช่วงที่แคบที่สุดประมาณ 1.5 ไมล์ มีเรือผ่านประมาณ 900 ลำต่อวัน หรือประมาณ 50,000 ลำต่อปี ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบแล้วมีประมาณเรือที่ผ่านมากว่าคลองสุเอซประมาณ 2 เท่า และ มากกว่าคลองปานามากกว่า 3 เท่า นอกจากนี้ช่องแคบมะละกายังเป็นช่องแคบที่ใช้ขนส่งน้ำมันวันละ 11 ล้านบาเรล โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศ ไทย จีน และญี่ปุ่น อาศัยช่องแคบมะละกาในการนำน้ำมันเข้าประเทศกว่า 80% ของน้ำมันที่แต่ละประเทศ และโดยรวมแล้วช่องแคบมะละกายังใช้เป็นเส้นทางในการขนส่งน้ำมันทั่วโลกกว่า 50% และยังเป็นเส้นทางขนส่งสินค้ากว่า 25% ของโลก ทั้งนี้เพราะว่าช่องแคบมะละกาเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดที่เชื่อมต่อระหว่าง มหาสมุทรอินเดียและทะเลจีนใต้ ด้วยความสำคัญของช่องแคบมะละกาจึงเปรียบเสมือน เส้นทางคมนาคมทางทะเล (Sea Line of Communication: SLOC) ที่สำคัญ ทำให้หลายประเทศเริ่มหันมาสนใจ เพราะปัจจุบันภัยคุกคามจากการก่อการร้ายเป็นภัยที่ก่อให้เกิดความหวาดกลัวและยังส่งผลกระทบโดยตรงพลังอำนาจของชาติทางด้านเศรษฐกิจ และการขับเคลื่อนประเทศในด้านต่าง ๆ เช่น ถ้าเกิดการก่อการร้ายบริเวณช่องแคบมะละกาอาจจะส่งผลกระทบทำให้ประเทศไทยขาดแคลนน้ำมัน เพราะน้ำมันสำรองที่ประเทศไทยมีสามารถสำรองใช้ได้เพียง 18 วัน ทั้งนี้เพราะประเทศไทยนำเข้าน้ำมันประมาณ 710,000 บาเรลต่อวัน (ข้อมูลจากกระทรวงพลังงานในปี 2546) จากคุณ : 3Q วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 17:32:10 [ 212.227.103.74 ] ความคิดเห็นที่ : 49 นอกเหนือจากประเทศไทย ประเทศญี่ปุ่นจะประสบปัญหาเหมือนกัน เพราะ ญี่ปุ่นนำน้ำมันเข้าประมาณ 5.57 ล้านบาเรลต่อวัน เพราะหากช่องแคบมะละกาไม่สามารถเปิดให้เดินเรือได้แล้วเรือต่าง ๆ ที่เปลี่ยนเส้นทางจะต้องเดินทางอ้อมไกลจากเดิมไปอีกกว่า 100 กม. ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นและยังส่งผลตามมาในทางจิตวิทยาที่ผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากการคาดการณ์ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นเมื่อเกิดการก่อการร้ายในบริเวณช่องแคบมะละกาจะเห็นได้ว่ามีผลต่อระบบเศรษฐกิจซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญของแต่ละชาติ ซึ่งปัจจุบันการขนส่งทางทะเลมีความสำคัญในส่วนแบ่งของตลาดการค้าโลกถึง 90% นอกเหนือจากประเทศในภูมิภาคนี้แล้วประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐ ฯ เองก็มีความกังวลเป็นอย่างมาก เพราะสหรัฐ ฯ เองนั้นอาศัยการขนส่งทางทะเลถึง 80% จากทั่วโลกในการนำเข้าและส่งออกสินค้า ซึ่งสหรัฐ ฯ ถือว่าเป็นการส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลประโยชน์ของชาติสหรัฐ ฯ เอง ด้วยเหตุนี้เองหลาย ๆ ท่านจึงอาจจะเคยได้ยินข่าวว่าสหรัฐ ฯ โดย พล.ร.อ. ทอมัส บี. ฟาร์โก (Admiral Thomas B. Fargo) ผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นแปซิฟิกของสหรัฐ ฯ (Commander, US Pacific Command) เข้าให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการการทหารของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ฯ เมื่อ 31 มี.ค. 2547 ที่นำเสนอแนวความคิดเรื่อง "ความริเริ่มเพื่อความมั่นคงทางทะเลระดับภูมิภาค" (The Regional Maritime Security Initiative: RMSI) โดยที่ RMSI เป็นแนวความคิดที่มีความสัมพันธ์กับแนวความคิดในเรื่อง มาตรการเพื่อความร่วมมือและสกัดกั้นการขนส่งอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (Proliferation Security Initiative: PSI) ของสหรัฐ ฯ ที่พยายามหยุดยั้งการเคลื่อนย้าย ขนส่ง ทาง บก ทางทะเล และ ทางอากาศโดย จากคุณ : 3Q วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 17:33:02 [ 212.227.103.74 ] ความคิดเห็นที่ : 50 ทำการตรวจค้น จับกุม หรือยึดสินค้าต้องสงสัย (สำหรับประเทศไทยเองได้มีการทำการตกลงในระดับทวิภาคีกับสหรัฐ ฯ ในเรื่อง มาตรการเพื่อความร่วมมือในการป้องกันการขนส่งสินค้าที่ไม่ชอบธรรม (Container Security Initial: CSI) ซึ่งจะแตกต่างจาก PSI ตรงที่มุ่งเน้นในการตรวจตู้สินค้าที่จะส่งตรงทางเรือไปยังสหรัฐ ฯ เท่านั้น แต่ PSI รวมทั้ง ทางบก ทะเล และอากาศ) มาตรการ RMSI นั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคร่วมกันสร้างความมั่นคงในทะเล โดยดำเนินการ ลาดตระเวน ตรวจจับ และเฝ้าระวังความเคลื่อนไหวทางทะเลในพื้นที่ที่เป็นผลประโยชน์ และรวมไปถึงการสถาปนาขีดความสามารถทางด้านการข่าว ความสามารถในการประสานการปฏิบัติ และ การรักษากฎหมายของภูมิภาคเพื่อสกัดกั้นเรือต้องสงสัยในน่านน้ำระหว่างประเทศ อย่างไรก็ดีการจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกใน RMSI คงจะต้องพิจารณาให้รอบ เพราะมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกันหลายเรื่อง เช่น ความละเอียดอ่อนต่อปัญหาความมั่นคงในภูมิภาค กฎหมาย และอื่น ๆ อีกหลายประการ ดังนั้นเมื่อพิจารณาดี ๆ แล้ว จะเห็นว่าสหรัฐ ฯ เองมีความพยายามเป็นอย่างมากที่จะผลักดันให้ประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับช่องแคบมะละกายอมรับ และร่วมกันเป็นสมาชิกใน RMSI ดังที่ผ่านมา ในเดือน มิ.ย. 2547 ในการประชุม 2nd IISS Asia Security Conference Shangri La Dialogue ที่ประเทศสิงค์โปร์ โดย พล.ร.อ. ทอมัส ฯ ได้นำ RMSI มาเสนอในการประชุมอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเสียงตอบรับจากความพยายามของผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นแปซิฟิกของสหรัฐ ฯ คงมีเพียงแต่ สิงคโปร์ประเทศเดียว ส่วนมาเลเซีย และอินโดนีเซียต่างคัดค้านอย่างรุนแรงและแสดงจุดยืนที่ว่า ช่องแคบมะละกาเป็นเรื่องของความมั่นคงในภูมิภาค ดังนั้นจึงเป็นเรื่องของประเทศในภูมิภาคนี้ทำการป้องกันกันเอง อย่างไรก็ดีอินโดนีเซียยินดีที่จะรับเงินช่วยเหลือจากนานาชาติที่จะนำมาใช้ในการรักษาความปลอดภัยบริเวณช่องแคบมะละกา ส่วนไทยนั้นไม่ได้แสดงท่าทีอะไร และ เมื่อ 20 ก.ค. 47 มาเลเซีย อินโดนีเซีย และ สิงคโปร์ ได้ร่วมกันจัดตั้ง กองกำลังลาดตระเวนทางทะเล ด้วยกองเรือจำนวน 17 ลำ ภายใต้ชื่อ ยุทธการมาลินโด (Operation Malindo) เพื่อทำการทำการลาดตระเวนป้องกันและปราบปรามการก่อการร้ายและโจรสลัดในบริเวณช่องแคบมะละกา จากคุณ : 3Q วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 17:33:42 [ 212.227.103.74 ] ยังมีต่อ หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: เอกราช ที่ 17-07-2007, 15:19 ต่อครับ
ความคิดเห็นที่ : 51 อีกทั้งทางกองทัพเรืออินโดนีเซียได้เพิ่มมาตรการเฝ้าตรวจลำน้ำโดยจัดเรือ 5 7 ลำ ทำการลาดตระเวนเพื่อป้องกันและปราบปรามโจรสลัด และยังตามมาด้วย การลงนามความร่วมมือทางทหารและแลกเปลี่ยนข่าวกรองระหว่างกันระหว่างมาเลเซียและสิงค์โปร์ ในวันที่ 27 ก.ค. 2547 ต่อมาเมื่อ 9 ส.ค. 2547 มาเลเซียประกาศจัดตั้งหน่วยรักษาฝั่งที่มีโครงสร้างการจัดการคล้าย ๆ กับ หน่วยรักษาฝั่งของสหรัฐ ฯ (US Coast Guard) ภายในต้นปี 2548 เพื่อการกู้ภัยและช่วยเหลือทางทะเล จากมาตรการต่าง ๆ ที่ประเทศรอบ ๆ ช่องแคบมะละกาได้ดำเนินการสามารถใช้เป็นสิ่งบอกเหตุว่า แต่ละประเทศต่างก็มีความกังวลกับความปลอดภัยและเสถียรภาพของภูมิภาคนี้ และไม่ต้องการให้ประเทศมหาอำนาจอย่าง สหรัฐ ฯ เข้ามาแทรกแซง เมื่อถึงตรงนี้ผมคิดว่า เรา ๆ ท่าน ๆ คงจะมีคำถามในใจว่าทำไม? สหรัฐ ฯ ถึงได้ให้ความสนใจมากนักในบริเวณช่องแคบมะละกา และพร้อมที่จัดตั้งกองกำลังเข้ามาร่วมในการทำการลาดตระเวนน่านน้ำเพื่อรักษาผลประโยชน์ของสหรัฐ ฯ ในมุมมองด้านการรักษา SLOC เท่านั้นหรือ? เพราะสหรัฐ ฯ เองได้ทุ่มเททรัพยากรทางทหารจำนวนมากไปในอิรักและในอัฟกานิสถาน หรือว่าสหรัฐ ฯ จะมีวาระซ่อนเร้นที่แอบอยู่ภายใต้มาตรการ RMSI? เมื่อกล่าวถึงสหรัฐ ฯ แล้วหลาย ๆ ท่านอาจจะไม่ทราบว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ฯ ได้ประกาศว่าเส้นการคมนาคมทางทะเล (SLOC) และจุดสกัดกั้นทางทะเล (Chokepoint) เปรียบเสมือน เส้นทางการคมนาคมหลักและพื้นที่ถ่ายสิ้นค้า (US Lifelines and Transit Regions) จำนวน 8 ช่องทาง คือ จากคุณ : 3Q วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 17:34:13 [ 212.227.103.74 ] ความคิดเห็นที่ : 52 (1) คลองปานามา ที่อยู่บริเวณ ทะเลคาริบเบียนในอ่าวเม็กซิโก (2) ช่องแคบและคลองหลายคลองบริเวณ ทะเลบอลติกและทะเลเหนือ (3) ช่องแคบยิบรอนต้าที่อยู่บริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและทะเลดำ รวมถึงช่องทางเข้าสู่ตะวันออกกลาง (4) คลองสุเอซที่อยู่บริเวณทางทิศตะวันตกของหาสมุทรอินเดียและช่องแคบแห่งฮอมุซและบริเวณรอบ ๆ อัฟริกาใต้ถึงบริเวณคลองโมซัมบิก (5) ช่องแคบมะละกา และ ลอมบอด บริเวณทะเลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และ SLOC ที่ผ่านหมู่เกาะสแปรทลีย์ (6) SLOC สำคัญบริเวณทะเลในเอเซียตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เข้าสู่ญี่ปุ่น เกาหลี จีน และรัสเซีย (7) SLOC ที่สำคัญบริเวณ ตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ที่เข้าสู่ ออสเตรเลีย (8) ช่องแคบเบอริ่ง ที่ในมหาสมุทรอาร์คติก สาเหตุที่สหรัฐ ฯ กำหนดความสำคัญของ ช่องแคบ และ SLOC ต่าง ๆ ก็เพราะว่าสหรัฐ ฯ เคยประสบปัญหาต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศในช่วงสงครามระหว่างอิรักและอิหร่าน (ช่วงปี พ.ศ. 2523 2531) เนื่องจากน้ำมันที่ใช้ในประเทศสหรัฐ ฯ นั้นมากกว่าครึ่งนั้นนำเข้าจากต่างประเทศโดยนำเข้าส่วนใหญ่นั้นมาจากซาอุดิอารเบีย ซึ่งจะต้องขนส่งทางทะเลมากกว่า 800 ไมล์ทะเล ผ่านทาง SLOC บริเวณทิศตะวันตกของหาสมุทรอินเดีย ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและทะเลดำ และรวมถึงทะเลคาริบเบียนในอ่าวเม็กซิโก เพราะในช่วงสงครามดังกล่าว มีเรือขนส่งถูกโจมตีระหว่างเดินทาง 543 ครั้ง และกลาสีบนเรือ มากกว่า 200 ชีวิตได้สูญเสียไปในระหว่างที่ถูกโจมตี (ในจำนวนนี้เป็นชาวสหรัฐ ฯ 53 คน) โดยทั้งเรือเดินสมุทรและเรือรบนั้นเสียหายจนใช้งานไม่ได้ถึง 80 ลำ ส่วนคลังสินค้าและลำเรือเสียหายทั้งหมดกว่า 2 พันล้านเหรียญ และยังส่งผลให้เบี้ยประกันสูงขึ้นถึง 200% และผลกระทบที่ตามมาคือราคาน้ำมันที่สูงขึ้น จากราคาในขณะนั้น บาเรลละ 13 เหรียญสหรัฐ ไปเป็น 31 เหรียญสหรัฐ ฯ ซึ่งทำให้ราคาสินค้าทั่วโลกขยับตัวสูงขึ้นเป็นมูลค่ารวมถึง 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ จากคุณ : 3Q วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 17:34:46 [ 212.227.103.74 ] ความคิดเห็นที่ : 53 จากตัวอย่างความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสหรัฐ ฯ และเศรษฐกิจโลกในห้วงสงครามอิรัก-อิหร่าน จะเห็นได้ว่า SLOC ที่สำคัญ รอบ ๆ โลกนั้นย่อมจะส่งผลกระทบโดยตรงกับเศรษฐกิจของโลก ซึ่งในอนาคตถ้าเกิดเหตุการณ์ก่อการร้าย หรือเหตุใด ๆ ก็ตามที่ส่งผลให้ SLOC สำคัญ ๆ ไม่สามารถใช้ทำการเดินเรือได้ โดยเฉพาะอย่าง บริเวณช่องแคบมะละกา ที่มีปริมาณการขนส่งสินค้าผ่านสูงที่สุดใน 8 พื้นที่ตามที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ฯ ประกาศไว้ และยังมีบริเวณที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ เส้นทางเดินเรือบริเวณหมู่เกาะสแปรทลีย์ และจากแหล่งข่าวหลาย ๆ ที่นั้นต่างก็มีรายงานข่าวไปในทำนองเดียวกันว่าในปีหน้า (2548) การก่อการร้ายจะพุ่งเป้ามาที่ช่องแคบที่สำคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณช่องแคบมะละกา ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่กลุ่มอัลกออิดะห์ ให้ความสนใจเพราะสร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจสหรัฐ ฯ และโลกได้อย่างมหาศาลด้วยการลงทุนที่ต่ำ มาถึงตรงนี้คิดว่าหลาย ๆ ท่านคงจะเริ่มปะติดปะต่อภาพและมองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นว่าทำไมสหรัฐ ฯ ถึงให้ความสนใจในบริเวณช่องแคบมะละกา และมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะนำกำลังเข้ามารักษาความปลอดภัย ท่ามกลางการต่อต้านของมาเลเซีย และอินโดนีเซีย เพราะถ้ายินยอมให้สหรัฐ ฯ นำกำลังเข้ามาในภูมิภาคนี้แล้ว เห็นทีจะเป็นการเชื้อเชิญผู้ก่อการร้ายเข้ามาร่วมทำสังฆกรรม ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นแน่แท้ นี่แหละครับสาเหตุว่าทำไมช่องแคบมะละกาจึงเป็นเรื่องที่ไม่แคบอย่างที่ดิค เพราะ ผลประโยชน์ของชาติใด ชาตินั้นก็ต้องรักษาไว้ สวัสดีครับ ............... จาก เวป ทอ.ทหาร จากคุณ : 3Q วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 17:35:13 [ 212.227.103.74 ] ความคิดเห็นที่ : 54 นานๆ จะเจอกระทู้คุณภาพแบบนี้นะ ขอบคุณข้อมูลของทุกฝ่าย จากคุณ : นาวี วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 18:02:03 [ 125.24.40.20 ] ความคิดเห็นที่ : 55 ขอบคุณทุกท่าน สำหรับข้อมูลดีๆ โดยเฉพาะคุณผัวน้อยฯ วันนี้ขอชมเป็นพิเศษ และไม่ต้องตัดสินว่าใตรผิดใครถูกแล้วเอาแต่ว่ากัน ส่วนมากคนในบอร์ดนี้ก็มีวุฒิภาวะไม่น้อยกลั่นกรองข้อมูลได้เองนะครับ www.sae-dang.com จากคุณ : คนบางใหญ่ วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 19:05:07 [ 58.8.169.188 ] ความคิดเห็นที่ : 56 ชอบกระทู้นี้จริง ขอแจมด้วยคนครับ ตามนี้ดีกว่า ขี้เกียจก๊อบ http://www.sae-dang.com/cgi-bin2/dangBoard/OpenMessage.php?no=3386 จากคุณ : RED RANGER วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 19:12:22 [ 222.123.0.5 ] ความคิดเห็นที่ : 57 ขอถามนิด แล้วระดับความลึก ต้องลึกและกว้างประมาณเท่าไหร่ครับ บัวแก้ว จากคุณ : บัวแก้ว วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 19:13:41 [ 124.157.164.81 ] ความคิดเห็นที่ : 58 ลึก 50m กว้าง 200m มั้ง จำไม่ค่อยได้ จากคุณ : คาบิน วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 19:24:41 [ 124.120.138.120 ] ความคิดเห็นที่ : 59 ขอแก้ คห. 58 เขาศึกษาทำเป็นคลองคู่ขนานแล้ว กว้าง 350m มีแนวกลางห่างกัน 1km ความลึกไม่แน่ใจ แต่เกิน 20m แน่ๆ ที่ link ล่างมีคำตอบของหลายๆ คำถามที่ คนส่วนใหญ่ สงสัย http://www.thai-canal.com/answer01.htm จากคุณ : คาบิน วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 19:31:14 [ 124.120.138.120 ] ความคิดเห็นที่ : 60 ทำไมถึงยังไม่ตัดสินใจขุดคลองไทย... ก. พิจารณาจากข้อมูลทางด้านสมุทรศาสตร์ (Oceanography) ชายฝั่งทะเลของประเทศไทยในบริเวณที่เราคิดกันว่า น่าจะทำการขุดคลองไทย (2A 5A 7A และ 9A) นี้น สภาพชายฝั่งทั้งสองด้านจะต้องมีการปรับปรุงขุดร่องน้ำเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะให้มีความลึกอย่างน้อยประมาณ 30-50 ม. ลึกพอที่เรือใหญ่ที่ต้องการระวางขับสูง แบบเรือบรรทุกน้ำมัน สามารถวิ่งผ่านได้ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงร่องน้ำนี้ จะทำให้ต้นทุนของการขุดคลองไทยสูงขึ้นมากกว่าที่ประมาณการไว้ 25-40% ข. อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญมากๆ คือผลกระทบทางด้านนิเวศน์วิทยา ของบริเวณชายฝั่งทะเลทั้งสองฝั่งมหาสมุทร์ ที่มีเงินรายได้หลักมาจากการส่งเสริมการท่องเที่ยว อันเป็นเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ลงทุนน้อยกว่าการขุดคลองไทย โดยเฉพาะในบริเวณที่จะต้องทำการปรับปรุงร่องน้ำ และบริเวณที่เรือสินค้าทั้งหลายจำเป็นจะต้องวิ่งผ่าน จะมีการเปลี่ยนแปลงทางนิเวศน์วิทยาใต้น้ำอย่างน่าตกใจ ในประเด็นนี้ เป็นประเด็นที่ค่อนข้างจะละเอียดอ่อน จำเป็นที่จะต้องมีการศึกษาพิจารณาข้อมูลจากหลายๆ ทาง แล้วก็เอาข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์กันดูให้ถ่องแท้ ค. ประเด็นที่เกี่ยวกับการก่อการร้าย และความมั่นคงของชาติ จำเป็นที่จะต้องมีการส่งเสริมการจัดกำลังรบ และอาวุธยุทโธปกรณ์ในบริเวณภาคใต้ และคลองไทยให้เหมาะสม ซึ่งอันนี้จะนำมาสู่การเพิ่มค่าใช้จ่ายที่ทุกๆ ฝ่ายจะต้องพิจารณากันอย่างถี่ถ้วน แต่โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าน่าจะทำการขุดคลองไทยเมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว เพราะการลงทุนในระยะเวลานั้นค่อนข้างที่จะต่ำกว่าในปัจจุบันนี้มาก อีกทั้งเรื่องปัญหาทางสภาวะวิกฤติทางสิ่งแวดล้อม และนิเวศน์วิทยายังไม่เป็นปัญหาใหญ่เหมือนกันกับในปัจจุบันนี้ จากคุณ : มอสสาด วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 20:50:03 [ 64.131.228.34 ] ความคิดเห็นที่ : 61 อ้างถึง คห. 56(RED RANGER) :เสียดายน่านน้ำไทย อนาคตไทยจะไปไหนต่อ เรามีน่านน้ำทะเลมากมาย เกาะใหญ่น้อย พอสมควร แต่เราเอาไปทำแหล่งท่องเที่ยวได้แค่ด้านเดียว เท่านั้น โอ้ สมองนักการเมืองไทย จับจองปลูกโรงแรม รีสอร์ทล้นประเทศ ทะเลไทยติด 2 ด้าน ควรได้เปรียบกว่าใครในทวีป เหมือนปานามา เหมือนอียิปต์ เหมือนตุรกี ทำไมพวกมึงไม่คิดเผื่อให้ลูกหลานเขาบ้าง แดกกันออมไว้ให้ลูกครอบครัวมึงเองทั้งนั้น สัตว์นรกทั้งพรวน โอมเพี้ยง ขอให้มีคนรักชาติจริง ๆ ขึ้นมาไล่พวกแม่งตกเหวตายให้หมดทีเถอะ เอาออกไปสัก พันคน พวกหัว ๆ ทั้งหลาย เป็นเยี่ยงอย่าง คนรุ่นหลังทีเถอะ ชาวประชาผู้รักชาติแท้ ๆ จะพร้อมใจกันกราบตีนให้เลย ไม่ตัดคอคอดกระ เพราะกลัวโดนแบ่งแยกประเทศ ขำว่ะ พวกเอาส้นตีนคิดแทนสมอง แอบไปล่อเงินใครมา ค้านแม่งด่ะ ไม่ก็นั่งทรงเจ้ามาพูด เกาหลี เวียดนาม เยอรมัน มันตัดแบ่งประเทศกันหรือไง กลัวมากก็ปล่อยไปให้ทหารนักรบเขานั่นมันเรื่องการทหาร หน้าที่ทหารต้องให้เขามีเขี้ยวเล็บ จะเอาอาวุธอะไร ก็ตั้งงบไปก็จบ กองทัพเรือให้ 2 จุด 2 ฝั่ง เรือมีทุกแบบ ก็ สบมยห. แล้ว ซื้อเครื่องบิน 2 - 3 ฝูง ก็อุ่นใจแล้ว ใครจะกล้าไม่ใช่ขี้ขี้ เยี่ยวเยี่ยวแน่แน่ ผ่อนชำระไปเรื่อย ๆ ก็ยังได้ ใครก็เอา ผ่อนครบขอเทิร์นใหม่ มันก็เอา ผูกปีใช้กันไปเลย จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 21:09:07 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 62 ตอนนี้ โอกาสดีแล้วทหารหาญเอ๋ย ทำไมไม่ทำเพื่ออนาคตชาติชัด ๆ ไปสนทำไมตั้งพรรคการเมือง ใครจะเลือกคุณ แค่ 2 เดือนเขาก็เกลียดกันแล้ว ครบปีเขาคงลืมชื่อไปเลย อ้างเหตุผล ประเทศชาติขาดดุลงบ ขาดทุนสะสม ต้องเงินเอาให้ประชานิยม แหม ไอ้พวกสัตว์ เงินหลวงไม่ใช่เงินแม่มึง เสือกกลัวต้นทุนจม ทีเอาไปทำบ่อบำบัดคลองด่าน สนามบินห่วย ๆ สิ่งก่อสร้างร้างเพียบ ยังงั้นไม่ใช่ต้นทุนจมหรือไง ต้องรอให้บ้านเมืองล่มจมก่อนหรือครับพี่น้อง ถึงจะได้เห็นต้นทุนจมของจริง เรื่องหาเงินเข้าประเทศ สร้างความมั่งคั่งซิ น่าสนใจ สร้างงานที่ดี มั่นคง ให้แก่คนรุ่นต่อไป ให้มีอนาคตกว่าทำโรงงาน โดนหักค่าหัวคิว Supply contract ก็แทบบ้าแล้ว ขยันสร้างทางเลือกให้คนในชาติบ้าง ไม่ต้องไปเป็นยาม แม่บ้าน มอเตอร์ไซด์รับจ้าง หันมาทำอาชีพใหม่ อีก หลายร้อยกว่าอาชีพ จ้างงานได้อีกนับแสน ๆ คน ส่งเขาไปทำงานทั่วโลกก็ได้ ประเทศไหน ค่าแรงสูง ๆ เอาแรงงานไทยประเทศผมไปเลยครับ เดี๋ยวผมนำเข้าต่างด้าวมาแทนได้ คิดแบบนี้เป็นไหม ภาคไหนก็ได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า ชาวใต้ก็สบาย มีอาชีพกันขวักไขว่ ไม่มีใครสนใจเรื่องแบ่งแยกดินแดน รัฐอิสลาม มีความสุขประสา มุสลิม ควรจะมีตามคัมภีร์อัลกุรอาน ไม่ใช่ใครก็ไม่รู้ มาอาศัยศาสนาอิสลาม มาสนองตอบกลุ่มก๊วนของตัวเอง สร้างภาพมายาให้ชาวมุสลิมเคร่งเครียดหลงผิด มามอมเมาให้ มาเข่นฆ่ามุสลิมด้วยกัน ศาสนาอื่นกันเละไปหมด ชาวเหนือก็ดีสบาย รอรับของผ่านแดนก็สบายแล้ว เพราะของคุนหมิงลงมาทางนี้ ส่งไปได้ 2 ด้านทะเล ส่งไปอัฟริกาใกล้นิดเดียว ชาวอิสานก็สบาย ชาวลาวอยากมีสินค้าส่งไปอัฟริกา มาทางนี้ไปไวดี ส่วนเด็กรุ่นใหม่ให้เขาเรียนหลาย ๆ ภาษา เสร็จแล้วให้ทุนไปก้อน ไปสู้ชีวิตเมืองนอก 2 ปี กลับมาค่อยมาทำงานในเมืองไทย ไม่งั้นไม่รับ ให้หาแดกด้วยลำแข้งก่อน จากคุณ : RED RANGER วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2549-11-23 12:05:11 [ 222.123.4.224 ] จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 21:09:49 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 63 ความคิดเห็นที่ : 2 นิคมอุตฯ ที่ไหนก็บูมแล้ว เหลือใต้ยังไม่มีเป็นเรื่องเป็นราว ใคร ๆ ก็จ้องตาเป็นมัน เราโชคดี ที่สิงคโปร์ มันกำลังมือเติบ ให้มันมาช่วยลงทุนด้วยมันเอาอยู่แล้ว มันจะได้หายกลัวเราไปแย่ง ทางเดินเรือมัน โถ่ ใครคิดก็ไม่รู้ไอ้บ้า คิดไปได้กลัวไปได้ ไม่มีใครมาใช้คอคอดกระบ้างล่ะ เดี๋ยวคนแห่มาใช้เยอะ พวกสิงคโปร์ ช่องมะละกา มาเล อินโดเจ๊ง ปัญญาอ่อนที่สุด มันจะอดตายกันหมดหรือไง ถ้ามีคอคอดกระขึ้นมา เส้นทางเดินเรือใหม่เกิดก็แค่นั้น วิตกมั่วไปหมด ไม่งั้นอาร์เจนติน่า บราซิล มันก็แดกแกลบกันหมดแล้วซิ เวลามีถนนตัดใหม่ ถนนเส้นเก่าเขามีเลิกใช้ให้ควายนอนไหม มันมีแต่ให้ควายเดิน เพราะไอ้คนของบถนนมันทำตามคำขอ พวกตัว***ให้ผ่านที่มัน อยากเจริญไง เช่น ถนนควายเดิน หมู่บ้านควาย พรรคควายไทย กกต. ครับ กำหนดให้คนไปเลือกตั้งไปเลยครับ ปีละกี่ครั้ง ทุกวันที่เท่าไหร่ไปเลย เบื่อมานั่งจำแล้ว สนามเล็ก สนามใหญ่ สลับกันไป ไม่ต้องมาเปลี่ยนโปสเตอร์เปลืองเงินด้วย ล๊อคไปเลยเดือนนี้ วันที่นี้ หน้าที่ต้องไปลงคะแนน แล้วให้ชาวบ้านลงคะแนนสะสมให้พวกนักการเมือง ปีละหลาย ๆ ครั้ง ลงคะแนนทั้งเอา และไม่เอา มาหักลบกัน ใครห่วยก็โดนปลดไป คนใหม่มาสานงานต่อ ใครซื้อเสียงไหวก็ให้มันซื้อไป ซื้อปีละหลายครั้ง คงจับได้บ้าง จากคุณ : RED RANGER วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2549-11-23 12:07:25 [ 222.123.4.224 ] จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 21:10:40 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 64 ความคิดเห็นที่ : 7 ท่าน RED RANGER ผมว่าโครงการคอขอดกระนี่เจ๋ง แค่ 11 กม.มั้ง แต่ทว่าทำไปแล้ว สิงค์โปโตก ถึงขั้นปิด ประเทศ เดานะว่าพายุดอลล์สิงค์โปร์มันพัดกระหน่ำก่อกวน จนprojectนี้ไม่เกิดอ่ะ...เท็จจริงไงบอกกันมั่ง.... จากคุณ : หล่อ คอปืน วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2549-11-23 13:45:07 [ * .213 ] ความคิดเห็นที่ : 8 ขอบคุณมากท่าน RED RANGER ก่อนขุดคอคอดกระ เราต้องหาอาวุธยุทโธปกรณ์ให้พร้อมก่อนเกิดเหตุด้วยนะคะ เพราะล้าหลังเต็มที จากคุณ : ติดตาม วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2549-11-23 13:56:31 [ 203.147.3.226 ] จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 21:11:50 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 65 ความคิดเห็นที่ : 9 ไม่หรอกครับ ยังไงก็ไม่ปิดประเทศ รายได้อาจวูบไปบ้าง พวกค่าเทียบท่า ค่ายกขนถ่าย รายได้ทางอื่นเขาก็มองไว้แล้ว ความจริงเขาประเมินไว้แล้ว มีแผนรองรับว่าถ้าน้ำมันมันแพงขึ้นแบบนี้ พวกญี่ปุ่น จีน เกาหลี มาช่วยขุดคอคอดกระสักวันหนึ่งแน่ เขาก็กระจายการลงทุนไปด้านอื่นแต่เนิ่น ๆ มานานแล้ว เหมือนอรับ เล็งว่าไม่หวังพึ่งน้ำมัน จะทำอะไรต่อดี อรับเลยต้องหาทางให้คนเขาทำงาน ค้าขายบ้างแล้ว สิงคโปร์เก่งอยู่แล้ว สบมยห แต่ไอ้ไม่พอใจ มันก็ต้องมีอยู่แล้ว เราจึงต้องพร้อมไว้อีกทางด้วย กลัวพ่อค้านายทุนแบบพวกสิงคโปร์ ฮ่องกง ออสเตเลีย ทุนมันหนาทั้งนั้น มันจะหยิบชิ้นปลามันไปแบบที่แหลมฉบังน่ะซิครับ บริษัทคนไทยไม่ได้เกิดอยู่แร้น ส่วนกองเรือแห่งชาติ ถ้ามีได้ก็ดี อย่าไปหวังสู้ต่างชาติได้ในตอนแรก ยอม grace period ยาว ๆ หน่อย แป๊บเดียวก็เห็นหน้าเห็นหลังแล้ว แต่ต้องปูพื้นให้แน่นก่อน ไม่ใช่ตั้งปุ๊บ ตั้งโรงเรียนสอนของเราที่เดียว มันโตไม่ทันกัน มันต้องเอาเด็กไปโตที่อื่นด้วย แบบพวกปินส์ หลีแดง เวียดนาม จีน อินเดีย อินโด พวกนี้เซียนน่านน้ำสากล ทั้งนั้น จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 21:13:43 [ 124.121.17.160 ] ยังมีต่อ หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: เอกราช ที่ 17-07-2007, 15:34 ต่อครับ
ความคิดเห็นที่ : 66 จริง ๆ บ้านเราก็เก่ง ๆ เยอะ เป็นกัปตันเพียบ สู้ได้อยู่แล้ว อยู่ที่รัฐ กล้าเล่นหรือเปล่า ชอบทำทีเล่นทีจริง แล้วก็ล้มกระดานพับเก็บอีก อันนี้ สุดยอดดีกว่า ประชานิยม โคล้านตัวอีก 30 บาท อีก เพราะเงินเข้ามาประเทศทุกวัน ทุกวันนี้เงินมันไหลออกนอกไปเรื่อย ๆ เรามีโรงงานเยอะก็จริง ได้แต่ค่าแรง เลี้ยงเด็กจบสูง ๆ ไปวัน ๆ เงินที่มันเสถียรอยู่กับเราไม่มี เจอพี่แม้ว จอมซุกหมกอีก สางกันยืดเลย ไม่เหมือนจีน เวียดนาม พวกนี้ มันเล็งแล้ว กูเจาะช่องไหนได้กูทำพรุ่งนี้เลย ฝากไว้นิด "ก่อนซื้อของในซุปเปอร์ ห้างใหญ่ ยั้งใจไว้นิด เก็บตัง อดใจไว้บ้าง ปันใจซื้อร้านข้างทาง ตลาดเฉอะแฉะ ตลาดนัดเปิดท้าย หาที่จอดรถยาก ก็ยอมเดินไกลหน่อย ถือว่าได้ออกกำลัง ช่วยรักษาเงินให้เสถียรได้ คนละไม้คนละมือ ครับ อุดหนุนคนไทยด้วยกันมาก ๆ คงไม่รังเกียจนะครับ" เจอแค่เซเว่น ก็น่าเบื่อแล้วครับ โกยอยู่คนเดียวไม่พอแบ่งให้ไอ้กันไปอีก จากคุณ : RED RANGER วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2549-11-23 14:10:09 [ 222.123.4.224 ]ความคิดเห็นที่ : 14 กองทัพเรือมีบุคลากรที่เคยไปเรียนเรื่องเรือดำน้ำจากสเปน อเมริกามาเพียบตั้งแต่สมัยน้าชาติ พูดแบบวัยรุ่นหน่อย ขอได้มั้ยยยอะ เรือดำน้ำอะ อยากได้อะ ส่วนเรื่องขุดคอคอดกระหรือคลองไทย ขอคอมเมนต์ว่าน่าจะเป็นผลดีกับยุทธศาสตร์ลอจิสติกส์ของไทยเรา อยากจะเป็น hub มาก ก็ต้องลงทุนหน่อย เตรียม facilities ทั้งหลายให้พร้อม และที่สำคัญต้องเตรียมกำลังทางเรือให้พร้อมด้วยเด้อ ไอ้ลอดช่องนะมันอาจจะมีเรือติดจรวดเยอะแต่มันต้องติดป้ายโฆษณาในรถไฟฟ้าของมันให้คนมาสมัครเป็นทหารเล้ย บ้านเราไม่เป็นอย่างนั้นนะครับ จากคุณ : kiwi วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2549-11-23 19:51:13 [ 58.9.128.244 ] จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 21:15:03 [ 124.121.17.160 ] ความคิดเห็นที่ : 67 มันไม่มีการขุดคลองได้หรอก เพราะเดี๋ยวก็มีคนค้าน ไอ้พวกค้านก็คือ ngo รับเงินจากประเทศที่จะเสียประโยชน์ หรือไม่ก็ รบ.อ้างโครงการนี้มาเพื่อตบทรัพย์ ถ้าได้ทรัพย์แล้วก็ไม่ขุด จากคุณ : . วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 22:03:23 [ 124.157.213.110 ] ความคิดเห็นที่ : 68 แต่ผมว่าเป็นการพูดเพื่อหาเงินมากกว่า.............และปชปไม่มีทางกล้าทำโครงการนี้หรอกครับ..... จากคุณ : @ วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 22:21:00 [ 125.27.213.69 ] ความคิดเห็นที่ : 69 ชาตินี้ทั้งชาติ จนถึงชาติหน้า ไม่จะได้เห็นหรือเปล่า คอคอดกระ หรือจะเปลี่ยนชื่ออะไรก็แล้วแต่ เพราะนักการเมืองเมืองไทย เหมือนลิงป่วยเวลาเจอโครงการใหญ่ ๆ เป็นประโยชน์มาก ๆ ที่ว่าลิงป่วย นี่ไม่ใช่มันหมดแรงหรอกนะ เพียงแต่ว่า ทำเป็นอินโนเซนต์ ดูกระแส ใครเอากล้วยมาล่อ หรือไม่ไม่สำคัญ แอบไปหากล้วยรอไว้หลาย ๆ เครือแล้ว รองาบแดกอย่างเดียว จากคุณ : RED RANGER วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 22:32:32 [ 222.123.0.5 ] ความคิดเห็นที่ : 70 มาเลย์วางท่อส่งน้ำมันจากชายฝั่งตะวันตกถึงชายฝั่งตะวันออกเสร็จแล้ว ไทยยังงมโข่งอยู่เลย จากคุณ : อิอิ วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 22:54:34 [ 125.27.76.129 ] ความคิดเห็นที่ : 71 กลัวมันจะเป็นเหมือน Southern Seaboard ที่ตัดจาก ขนอม ไป กระบี่ ทำเสร็จ รถบรรทุก วิ่งนับคันได้ รถเล็กๆ ขับได้ความเร็วสูง แต่กับดัก คือลูกระนาด ขนาดใหญ่ ที่ทำให้รถเสียหลักได้ มันโยกยังกับ บานานาโบ๊ต หุหุ จากคุณ : คาบิน วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-16 23:59:52 [ 64.62.138.11 ] ความคิดเห็นที่ : 72 เหตุเกิดเมื่อ 500 ปีที่แล้ว มีทั้งคนหัวก้าวหน้าและโบราณ แต่คนหัวโบราณยุคนั้นก็ยังทันสมัยกว่าหลายคนที่เล่นเนตเป็นสมัยนี้ จะเล่าเรื่องจริงให้ฟังครับ: นับแต่ปลายศตวรรษที่ 15 ปอตุเกตเป็นเจ้า "เส้นทางเดินเรือสายตะวันออก" อ้อมแหลมใต้อาฟริกา ไปถึงอินเดีย เข้าช่องแคบมะละกา ประตูทองสู่ขุมทรัพย์ที่หมู่เกาะเครื่องเทศในทะเลโมลุกกะอยู่ระหว่างเกาะสุลาเวสี กับ นิวกินี/หรือระหว่างเกาะติมอร์ กับ หมู่เกาะฟิลิปปินส์ เป็นดินแดนเกาะภูเขาไฟ แหล่งผลิต "ต้นเครื่อง" ธรรมชาติที่สมบูรณ์ที่สุดในโลก (ยกเครดิตให้บาโธโลมิว ไดแอซ วาสโค ดากามา) ปี 1517 แมกเจลแลนนักเดินเรือมือเซียนแห่งราชสำนักปอตุเกตเสนอเส้นทางสายใหม่ไปหมู่เกาะเครื่องเทศโดยไม่ต้องผ่านช่องแคบมะละกา เส้นนี้กลับหลังหันไปสู่ทางตะวันตก ข้ามมหาสมุทร์แอตแลติค ไม่มีแหลมกู๊ดโฮป หาช่องทางบริเวณอ่าวปากแม่น้ำ ริโอ เดอ ลา ปลาต้า ปลายทวีปอเมริกาใต้ให้เจอ ทะลุไปให้รอด จะถึงแหล่งขุมทรัพย์ในทะเลโมลุกกะได้ครือกัน ปอตุเกตตอนนั้นขี้งก จะผูกขาดท่าเดียว แมกเจลแลนโดนราชสำนักตอกหน้ากลับว่า อยู่อย่างนี้ดีๆแล้ว ต้องไปเดือดร้อนทำไม แถมการเมืองภายในก็มีแต่ทะเลาะ ใส่ร้ายป้ายสี ล้มล้างทำลายกันไม่เป็นส่ำ คนดีอย่างแมกเจลแลนก็อยู่ไม่ได้ ต้องลี้ภัยมาสเปนเมื่อปี 1517 จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-17 07:08:08 [ 124.121.16.111 ] ความคิดเห็นที่ : 73 สเปนน่ะอยากมีส่วนแบ่งการตลาดเครื่องเทศมานานแล้ว แต่จนใจที่โป๊ปในฐานะเป็นประธานหอการค้ายุโรปไม่เอาด้วย อ้างว่าจะหาเรื่องไปทุบหม้อข้าวปอตุเกตเพื่อนบ้านแสนดีทำไม สเปนบอกเราเคารพทางใครทางมันอยู่แล้ว การเดินทางไปหมู่เกาะเครื่องเทศของสเปน ไม่เหยีบตาปลาปอตุเกต เพราะสเปนจะไปคนละทิศ ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ สเปนจะไปทางตะวันตก และถ้าโลกมันแบนอย่างที่โป๊ปก็เชื่ออย่างนั้น จะไม่ปล่อยให้เรือของสเปนที่จะไปกันทั้งหมด 5 ลำตกขอบโลกตายเรอะ ป๊อปบอก เออ จริงสิ ไม่กลัวตายก็ไสหัวไปเลย หลังจากกษัตริย์ชาร์ลส์ที่หนึ่ง (Calos I) แห่งสเปนทรงลงพระนามเห็นชอบแผนการเดินเรือของแมกเจลแลนเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ปี 1518 ปฏิบัติการข้ามขอบฟ้าสู่อุษาคเนย์ ก็ลุล่วง ประสบผลสำเร็จเมื่อปี 1519-1522 แมกเจลแลนไม่คาดมาก่อนว่า อานิสงส์แห่งความสำเร็จครั้งนั้น จะกลายเป็นปฐมบทของขบวนการโลกาภิวัตน์ เมื่อ: 1. อินเดีย ดินแดนที่อเล็กซานเดอร์มหาราชบุกไปถึงนั้น สามารถมาถึงได้จากทางเดียวกับที่โคลัมบัสพยายามจะไปให้ถึงเมื่อปี 1493 เพียงแต่ถ้าโคลัมบัสไปไกลกว่าก็ถึงก่อนแล้ว 2.โลกได้มหาสมุทร์เพิ่ม 1 แห่ง กว้างใหญ่วัดได้ประมาณขนาด 64 ล้านตารางไมล์ หรือหนึ่งในสามของพื้นที่โลก ตัวเลขนี้ไม่รวมบริเวณนอกฝั่งรอบขอบผืนน้ำมหภาคที่เป็นเกาะแก่งซับซ้อน แถมยังเป็นมหาสมุทร์ที่ลึกล้ำ ประมาณว่ามากกว่าความสูงของยอดเขาเอเวอเรสต์(29,002 ฟุต) 3. พบช่องแคบที่ปลายแหลมทวีปอเมริกาใต้ (ต่อมาเรียกว่า ช่องแคบแมกเจลแลน) นำไปสู่การค้นพบมหาสมุทร์แปซิฟิคที่พูดถึงในข้อ 2 จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-17 07:08:54 [ 124.121.16.111 ] ความคิดเห็นที่ : 74 4. มี "กลุ่มควันดาว"ที่แมกเจลแลนพบขณะลงไปใกล้ขั้วโลกใต้ช่วงปลายปี 1520 จากระบบนำร่องที่ตนเองคิดค้น และปรากฏภายหลังว่าน่าจะเป็นกาแลกซี่ที่ทางดาราศาสตร์ยังไม่เคยบันทึกไว้ก่อนหน้านั้น ระบบนำร่องดังกล่าวได้กลายต้นแบบการค้นคิดเทคโนโลยี่ GPS(Global Positioning System) ที่วันนี้เราจึงมี "The Magellan GPS" บอกว่าคนที่กำลังพูดโทรศัพท์อยู่ด้วยนั้นเดินอยูแถวสีลม หรือตลาดท่าแพที่เชียงใหม่ หรือกำลังปีนเขา ดำน้ำ อยู่ที่สิมิลัน หรือที่ทรักลากูนในไมโครนีเซีย หรือตรวจสอบได้ว่าเมื่อคืนวันส่งท้ายปีเก่าที่ผ่านมาคนที่บอกให้ไปวางระเบิดที่ซีคอนสแควร์ เวลาหกโมงเย็น โทรมาจากหมู่บ้านอะไรที่แม่จัน หรือรู้แม้กระทั่งซัดดัมกำลังนั่งกอดเข่าอยู่รูไหน แล้วก็ตามไปดูกันมาแล้วเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2546 แต่พอเจอสารรูปเข้าจริงๆ กลับหาว่าเป็นซัดแดง ไม่ใช่ซัดดัม! แมกเจลแลนมอบมรดกทางภูมิปัญญาให้กับมนุษยชาติมากมายผ่านปฏิบัติการ "สุดฟ้าที่อุษาคเนย์" ปอตุเกตนั้นรู้อยู่แก่ใจว่าโลกกลม จะไปทางตะวันออกหรือทางตะวันตกมันก็มาถึงหมู่เกาะขุมทรัพย์ในอินเดียตะวันออกได้ แต่ใจแคบเอง เลยถูกสเปนชิงดำเปิดเส้นทางตะวันตก กลัวโน่นกลัวนี่ไม่เข้าเรื่อง (ที่มา: http://aryaforum.freeforums.org) จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-17 07:09:29 [ 124.121.16.111 ] ความคิดเห็นที่ : 75 ความคิดเห็นที่ 3: ปัญหาที่กำลังถามกันอยู่ ถ้าไม่ย่อยให้เหลือสองสามข้อ อีกร้อยปีก็ยังเถียงกันไม่เสร็จครับ อย่างจะเอาดินที่ขุดแล้วไปไว้ที่ไหน ถ้ารู้จักที่มาของสนามบินคานไซ (Port Island/Portopia)นิดเดียว ก็เลิกถามได้เลยครับ ผมขออนุญาตเฉลยว่าเขาถามอะไรกัน มี 15 คำถาม ดังนี้ 1. จะมีเรือที่มาใช้ มากพอที่จะคุ้มทุนต่อโครงการคลองไทยหรือไม่ ? 2. การขุดคลองไทยจะทำให้เกิดการแบ่งแยกประเทศไทย หรือไม่ ? 3. จะมีเรือนาๆชาติมาใช้คลองไทยหรือไม่ เพราะเรือผ่านช่องแคบมะละกาไม่เสียค่าผ่าน ? 4. ความต่างระดับน้ำทะเลของสองฝั่งทะเล การขุด คลองจะต้องมีประตูน้ำ ปิดเปิดให้เรือเข้าออกหรือไม่ ? 5. โครงการ คลองไทย มีความเป็นไปได้ขนาดไหน ? 6. ผลประโยชน์ ที่ประเทศไทยจะได้รับจากคลองไทย มีอะไรบ้าง ? 7. ความมั่นคงของประเทศ ? 8. ปัญหาสิ่งแวดล้อม ? 9. ดินจำนวนมาก ที่ขุดแล้วจะเอาไปไว้ที่ใด ? จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-17 08:18:47 [ 124.121.16.111 ] ความคิดเห็นที่ : 76 * งบประมาณก่อสร้างโครงการคลองไทย ประมาณเท่าไร 11.จะหาเงินที่ไหน มาลงทุน สร้างโครงการคลองไทย ? 12.จะใช้เวลาในการ ทำโครงการคลองไทย นานเท่าใด ? 13. แนวคลองที่จะขุดอยู่ตรงไหน ? 14.การก่อสร้างคลองจะต้องใช้ระเบิดปรมณู (nuclear) ในการขุดคลองหรือไม่ ? 15.ขุดคลองไทยแล้วประเทศไทยจะได้อะไร ? ทั้งนี้ จากการประชุม 15 ครั้ง ที่คุณผัวน้อย กรุณาเอาข้อมูลด้านความเป็นไปได้พื้นฐานมาให้ดูกัน และเคลียร์กันไปหมดแล้ว ประชุม 15 ครั้ง เคลียร์แค่ 15 ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ก็เลิกประชุมได้แล้วครับ อารยาไม่รู้เรื่องที่เขานัดประชุมกันหรอก เคยผ่านตาเว็บเดียวกับที่ท่านผัวน้อยบอกมานั่นแล ขอบคุณอีกครั้งครับ และหากพินิจดูของข้อมูลที่เรามีกัน จะพบว่าเส้นทางสาย 9A มีความเป็นไปได้สูงกว่าทุกเส้น มีข้อเสียสำคัญที่สุดเพียงเรื่องเดียว แต่กลายเป็นเรื่องรองเมื่อเทียบกับทุกเส้น และแก้ไขได้แล้วด้วย รายละเอียดมีอยู่ในนั้นหมดแล้ว ผมไม่ต้องกล่าวอีก กลัวพวกไม่ฟังเสียงตีขลุมโพทนาชวนเชื่อว่า นั่นแหละเป็นข้อที่ทำให้เป็นไปไม่ได้ เมื่อก่อนผมเชื่อคนง่าย เดี๋ยวนี้ไม่แล้วครับ จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-17 08:19:12 [ 124.121.16.111 ] ความคิดเห็นที่ : 77 มีใครจะเถียงผมบ้างว่า ถ้าเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ทักษิณจับโครงการนี้ แทนที่จะเล่นสุวรรณภูมิ คนที่เถียงคอเป็นเอ็นว่า ทำไม่ได้ เพราะจะขัดผลประโยชน์กับมหาอำนาจ หรือนอมินี่ของมหาอำนาจ เพราะจะทำให้รัฐปัตตานีแยกออกไปหมืนเปอเซ็นต์ จะชื่นชมตั้งแต่วันแรกที่ลงมือขุด แถมจะตะบัติสัตย์ว่า ดีสิ เหลือแค่นี้จะได้ปกครองง่ายๆ หรือ ไม่เห็นแปลก เพราะทักษิณเขาเป็นเพื่อนกับบุช มันก็ตะแบง ไปเรื่อย วันหลังจะมาเล่าว่า ช่วง "เว้นวรรค" เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2549 ทักษิณถูกบุชหักหลังเรื่องที่สุมหัวกันคิดจะคุมช่องแคบมะละกา ตามที่ตกลงกันที่ทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2546 อย่างไร ขนาดเว็บของทำเนียบขณะนั้นต้องออกข่าวกลบเกลื่อนแทบแย่ ในวันที่ทักษิณเจ็บปวดที่สุด เมื่อบุชส่งข่าวกระทันหันไม่ให้เข้าทำเนียบขาว แล้วไล่อย่างมีมารยาทให้บินไปกินข้าวกับพ่อที่บ้านเท็กซัสโดยพลัน จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-17 08:59:59 [ 124.121.16.111 ] ความคิดเห็นที่ : 78 ผมไม่ใช่มาพูดเมื่อทักษิณเข้าเมืองไทยไม่ได้ จริงๆแล้วเรื่องที่ว่านั้น พูดปากเปียกปากแฉะว่าทักษิณชักศึกเข้าบ้านอย่างไรมาตลอด ตั้งแต่ครั้งทำปากดีว่ายูเอ็นไม่ใช่พ่อ ใครเป็นบุชได้ยินดังนี้แล้วจะไม่สะดุ้งบ้าง ว่าแล้วเรียกมาคุยเช้าไปเย็นกลับ กรุงเทพฯ-ดีซี เอาเมกะโปรเจกยัดปากทีเดียว เสียคนไม่รู้ตัวไปเลย จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-17 09:06:33 [ 124.121.16.111 ] ความคิดเห็นที่ : 79 ตกลงข้าวกับพ่อบุชก็อดกิน ต้องเปลี่ยนไปชิคาโก้แทน เพราะนักเรียนไทยแห่มารอรุมด่าที่สนามบินดัลลัส พอรู้ว่าทักษิณจะไป จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-17 09:16:30 [ 124.121.16.111 ] ความคิดเห็นที่ : 80 ตอนนี้ก็ยังหน้าด้านคบคนแถวทำเนียบขาวอีกระดับ ก็พวกเด๊ดวูด เช่น เจมส์ เบเกอร์ หัวหน้าล๊อบบี้ยีสต์ ที่เคยทำงานกับพ่อบุช อ๋อ บุชจูเนียร์ก็บอกแล้วไงครับ ว่าเขาเลิกคบคนหน้าเหลี่ยม ไม่ยี่หระที่เป็นฝ่ายหักหลัง เพราะรู้ว่าคนอย่างนี้ไร้ศักดิ์ศรี ไม่รู้บาปบุญคุณโทษเป็นทุนอยู่แล้ว ก็เลยปล่อยให้เทียวไปเทียวมาคบกับพวกตีนโรงตีนศาลไปตามบุญตามกรรม สะเออะมาขอกินข้าวด้วยเมื่อไหร่ก็ตะเพิดอีกรอบก็ไม่มีปัญหาอะไร ไอ้พวกนั้นก็หรอกว่าจะวิ่งเต้นให้เข้าเมืองไทย ทักษิณก็เผลอจ้าง ขัดแย้งกับความรู้สึกขลาดกลัวของตนเองที่ไม่กล้าเข้ามา มันก็เลยต้องจ้างไอ้คนเนรคุณทุนอนันต์มาป่วนอยู่ไม่เลิก อย่างที่เห็นนั่นแหละครับ ถูกพวกล๊อบบี้ยิสต์สิบแปดมงกุฆทำเนียบขาวหลอกไปจ่ายเงินสบายไป นานๆทีมันก็หาเรื่องป่วนที พอให้เห็นว่าทำงานให้ ทักษิณไม่ใช่คนฉลาด แต่เรายังหาผู้นำที่รักชาติยังไม่เจอ บ้านเมืองมันก็เลยยังเป็นอย่างที่เห็น ตถตา จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-17 09:28:13 [ 124.121.16.111 ] ยังมีต่อ หัวข้อ: Re: ยังจำกันได้ไหมครับ เรื่องคลองคอดกระ เริ่มหัวข้อโดย: เอกราช ที่ 17-07-2007, 15:39 สุดท้ายแล้ว
ความคิดเห็นที่ : 81 ผมก็บ่นไปตามความเป็นจริงที่ทุเรศๆ ฟังแล้วก็เหมือนน้ำเน่า แสลงหูคนรักทักษิณ ก็รู้ รู้เพียงว่าไม่ได้พูดเพราะเกลียด แต่ไม่ชอบผู้นำที่โฉ่งฉ่าง ไม่รู้ผิด ชอบ ชั่ว ดี ต่างกันอย่างไร โกหก ทุจริต โลภโมโทสัน ซึ่งทักษิณมีครบองค์ประกอบของทรราชครบ จะต่างจากในยุคโบราณที่มีเสียงข้างมากในสภาสนับสนุน ให้ใช้อำนาจโดยมิชอบ แต่เสียงเหล่านั้นก็มาจากการซื้อพรรคสุวัจน์บ้าง พรรคชวลิตบ้าง การเมืองเส็งเร็งน้ำเน่าแท้ๆ เราไม่ต้องการผู้นำเช่นนี้ไปเพื่อใครกันครับ ถ้าไม่ใช่เพื่อบริวารของเขา สมเพชแต่พวกที่ไม่ใช่บริวาร แต่ยังหลงชื่นชม วันนี้ก็ยังมีให้เห็นไม่น้อย บางคนก็เลยตกเป็นเหยื่อ กลายเป็นบริวารภายหลังเมื่อทักษิณซื้อภายหลังที่หมดอำนาจ นักวิชาการอย่างนิธิก็สารภาพไปคนหนึ่งแล้ว เงินคงจะมาก ทำให้คนที่คิดว่าดี ก็เผยธาตุแท้ว่าไม่ได้ดีจริง ถึงเรายังหาคนดีตามมาตรฐานมาเป็นผู้นำยังไม่พบ ก็ใช่ว่าเราต้องเก็บคนเลวให้มีอำนาจ คนไทยที่ยังชื่นชมทักษิณ โปรดใช้สติกันได้แล้ว จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-17 09:50:41 [ 124.121.16.111 ] ความคิดเห็นที่ : 82 กระทู้นี้ขึ้นต้นว่า "คอคอดกระ อีกครั้ง" แต่ขออภัยที่จบด้วย "ทักษิณ อีกครั้ง" ผิดนักก็ยอมให้ด่าตามถนัดครับ ขอบคุณเว็บเสธ. แดง จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-17 09:54:58 [ 124.121.16.111 ] ความคิดเห็นที่ : 83 คุณอารยา หายไปนาน มาคราวนี้ หนังยาวเลยนะครับ ขอขอบคุณข้อคิดที่ทำให้ผมรู้สึกได้ว่ามีคนคิดแบบผมเหมือนกัน www.sae-dang.com จากคุณ : คนบางใหญ่ วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-17 10:11:57 [ 58.8.166.181 ] ความคิดเห็นที่ : 84 ผมอยู่สวนใหญ่ แค่ตำบล สู้อำเภอบางใหญ่ไม่ได้เลย แต่ขอบคุณครับ จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-17 10:46:15 [ 124.121.16.111 ] ความคิดเห็นที่ : 85 เรื่องที่อยู่ผมทราบมานานแล้วครับ จริงๆแล้วผมต้องเรียกอาจารย์มากกว่า ตอนนี้บางใหญ่รถติดตอนเช้าทั้ง สะพานยูเทิร์น และหน้าด่านชั่ง อย่างที่อาจารย์เคยวิเคราะห์ไว้นานแล้วน่ะครับ www.sae-dang.com จากคุณ : คนบางใหญ่ วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-17 10:55:12 [ 58.8.166.181 ] ความคิดเห็นที่ : 86 อ้าว เป็นงั้นไป เมืองนนท์ที่ในอดีตแสนจะสงบร่มรื่นสมัยมีแค่สามแยกแคลาย (ล ลิง) พอกลายเป็นสี่แยกแคราย กลายเป็นปัญหาใหญ่โต จริงๆ พ่อแม่พี่น้องจังหวัดอืนอย่าเพิ่งว่ากัน ปัญหานี้เหมือนช่องแคบมะละกา ประตูไปสู่ขุมทรัพย์ แต่ช่องนี้ไปตะวันตกครับ คนบางใหญ่เลยเจอเข้าเต็มๆ ผมก็ทราบว่าจะเกิดเหตุ "คอคอด" ที่ตีนสพานนั่งเกล้าตั้งแต่ตัดถนนรัตนาธิเบศร์ ก่อนแล้ว ตอน 2535 เริ่มออกอาการแล้วครับ ปัญหาเมืองชานมหานครปกติต้องดูกันเป็นพิเศษอยู่แล้ว แต่เมืองนนท์พิเศษยิ่งกว่าชานเมืองใดในโลก เพราะมีดินดีสม เป็นนาสวน แต่บัดนี้เป็นอดีตที่ขมขื่นที่สุดในชีวิตของผม เนื่องจากเป็นคนเมืองนี้ ช่วยบ้านตนเองไม่ได้ แต่สะเออะไปพูดปัญหาของคนเมืองหลวงเขา นี่เรายังอยู่ในเรื่องของ "คอคอด" ตามที่คนบางใหญ่บอกอยู่นะครับ ว่า "รถติดตอนเช้าทั้ง สะพานยูเทิร์น และหน้าด่านชั่ง"!!! จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-17 11:14:47 [ 124.121.16.111 ] ความคิดเห็นที่ : 87 ขอบคุณที่จำได้ว่าผมพูดเรื่องนี้ เมื่อเมษาปีกลายนี้ เพิ่งทราบว่าคุณเองที่ถามเรื่องนี้มา ในคืนหลอกลวง! 555 จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-17 11:19:04 [ 124.121.16.111 ] ความคิดเห็นที่ : 88 เรียน อาจารย์อารยาครับ ผมต้องขออภัย ที่ไม่ได้เข้าบ้านเสียนาน พอจะเปิดหน้า"กระดานสนทนา " มันก็ freez ไปเลย(มักเป็นตอนดึก) ช่วงนี้ผมจะลองช่วงกลางวัน อาจดีขึ้นครับ จากคุณ : ตาทุ้ย วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-17 11:29:26 [ 124.121.48.253 ] ความคิดเห็นที่ : 89 เผอิญจริงๆที่ผมก็จำได้ว่าคุณตาทุ้ยอยู่บางใหญ่เหมือนกัน อยากปรึกษาครับ ถ้าผมจะเลียนแบบที่คุณตาทุ้ยเอาเรื่องจาก เว็บ ทร. มาที่บ้านเราน่ะ กระทู้นี้เป็นไงครับ คุณตาทุ้ยไม่ต้องไปเปิดกระดานสนทนา เริ่มเปิดจากกระดานสนทนามันมีปัญหาจุกจุกเยอะ ผมก็เจอ สู้เปิด http://aryaforum.freeforums หมดเรื่องหมดราวไปเลยครับ วันหลังผมจะส่ง toolbar ของ aryaforum ไปให้ครับ หากคุณตาทุ้ยไม่ลืมทิ้งอีเมล์แอดเดรซ(อันเดียวกับที่ register)ไปทิ้งไว้ในเว็บ จะสะดวกขึ้นครับ ท่านอื่นที่ register แล้วก็เหมือนกันครับ เอางี้ละกัน ผมจะขอให้คุณ EH (ซึ่งน่าจะมีทูลบาร์ในคอมพ์ส่วนตัว) ส่งไปให้สมาชิก เพราะท่านทราบอีเมล์แอดเดรซของทุกสมาชิกครับ ขอบคุณเว็บเสธ.แดงอีกครั้ง ที่ชักนอกเรื่อง แหะ แหะ จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-17 11:48:45 [ 124.121.16.111 ] ความคิดเห็นที่ : 90 Oops! http://aryaforum.freeforums.org จากคุณ : อารยา วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-17 11:50:44 [ 124.121.16.111 ] ความคิดเห็นที่ : 91 สุดยอดจริงๆ ได้ความรู้เพียบ จากคุณ : นาย...ก วัน/เวลาที่ตั้งกระทู้ : 2550-07-17 15:19:27 [ 203.113.17.149 ] หมดแล้วครับ ได้ความเห็นมุมมองอีกหลายเด้อ |