หัวข้อ: คำว่า " แร้งถามหา " ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 16-07-2006, 00:21 ภาษาไทยวันละหลายคำวันนี้ ขอเสนอคำว่า
''ความในอย่านำออก ความนอกอย่านำเข้า''หมายถึง ไม่ควรนำเรื่องที่ไม่ดีในบ้าน ในครอบครัวไปเล่าให้คนอื่นฟัง และไม่ควรนำเรื่องไม่ดี ของคนอื่นภายนอกบ้าน มาเล่าให้คนในบ้านฟัง เพราะเป็นการสร้างความรำคาญเปล่าๆ ตัวอย่างเช่น ผมบอกแก่พี่น้องหลายครั้งหลายหนแล้วว่า เวลามีเรื่องอะไร ภายในหมู่ญาติเรา อย่าเอาไปเล่าให้คนอื่นฟังซิ ปัญหาอะไร ของพวกเรา ต้องเอามาคุยกันแล้วหาทางแก้ไขให้หมดไป โบราณท่านสอนว่า ''ความในอย่านำออก ความนอกอย่านำเข้า'' หัวข้อ: Re: ภาษาไทยวันละหลายคำ อ้างจากหนังสือ ๒๐๐๐สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 16-07-2006, 01:15 ''หัวมังกุ ท้ายมังกร''
หมายความว่า ไม่เข้ากัน ไม่กลมกลืนกัน มีหลายอย่างปนเปกัน จนหมดงาม สำนวนนี้มีคนพูดผิดและเขียนผิดกันบ่อยๆ และมากทีเดียว ซึ่งเขียนเป็น''หัวมงกุฎ ท้ายมังกร'' ซึ่งเข้าใจความหมาย กันไปว่า มงกุฎเป็นของสูงที่สวมอยู่บนศรีษะ อาจจะหัว เป็นคนหน้าสวมมงกุฎ ส่านท้ายกลายเป็นสัตว์คือตัวมังกร อย่างนี้เป็นต้น แต่ ขุนวิจิตรมาตราการได้อธิบายโดยอ้างจากหนังสือเก่าว่า ''มังกุ'' เป็นชื่อเรือต่อชนิดหนึ่ง หัวเรือเป็นรูปสัตว์ที่เรียกว่า ''มังกุ'' ส่วนท้ายเป็นรูปมังกร เมื่อเรือลำหนึ่งมีลักษณะที่ หัวเรือเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งและท้ายกลับเป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง เรือคงมีรูปร่างแปลกประหลาด จึงมีคำพูดขึ้นว่า หัวมังกุ ท้ายมังกร ต่อมากลายเป็นสำนวนที่หมายถึง ของอะไรก็ตามที่ไม่เข้ากัน ไม่กลมกลืนกัน หรือไม่เป็น ไปตามที่ควรจะเป็น ขืนกันหรือขัดแย้งกัน พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานว่า เป็นสำนวนที่เป็น คำวิเศษณ์ หมายถึง ไม่เข้ากัน ไม่กลมกลืนกัน มีหลายอย่าง ปนเปกันจนหมดงาม ..อ้างอิงจากหนังสือ ''บ่อเกิดสำนวนไทย'' หัวข้อ: Re: ภาษาไทยวันละหลายคำ อ้างจากหนังสือ ๒๐๐๐สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกเข็มขาว ที่ 16-07-2006, 08:39 ดอกฟ้าขา
อยากบอกว่าอ่านและเขียนผิดเหมือนกันค่ะ ได้ความรู้แล้ว ต่อไปไม่ผิดอีกแล้วค่ะ ขอบคุณมากค่ะ หัวข้อ: Re: ภาษาไทยวันละหลายคำ อ้างจากหนังสือ ๒๐๐๐สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 16-07-2006, 20:13 ดอกฟ้าขา อยากบอกว่าอ่านและเขียนผิดเหมือนกันค่ะ ได้ความรู้แล้ว ต่อไปไม่ผิดอีกแล้วค่ะ ขอบคุณมากค่ะ อยากจะบอกว่าดอกฟ้าฯเข้าใจแบบผิดๆ มาตลอดเหมือนกันค่ะ เพิ่งจะมารู้และอ่านเจอ เลยเอามาฝากกัน ดอกฟ้าฯว่า ''สำนวนไทย'' ยังมีอีกหลายคำที่เรายังไม่รู้ และตีความหมายผิดเพี้ยนไปจากต้นฉบับเดิม ซึ่งน่าเสียดาย ดอกฟ้าฯ จะหามาเพื่อเล่าสู่กันฟังค่ะ หรืออาจเผื่อใครที่สนใจค่ะ :mozilla_smile: หัวข้อ: Re: ภาษาไทยวันละหลายคำ อ้างจากหนังสือ ๒๐๐๐สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกเข็มขาว ที่ 16-07-2006, 21:14 นำมาลงเลยค่ะ เป็นความรู้ดี
สำนวนไทยบางสำนวนบางคนอาจไม่ทราบเลยค่ะ หัวข้อ: Re: ''เป็ดขันประชันไก่'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 16-07-2006, 23:39 ''เป็ดขันประชันไก่''
เป็นสำนวนหมายความว่าไม่มีความรู้ความสามารถ คุณสมบัติ คุณภาพ ความดีงาม ฯ แต่ทำให้คนทั้งหลายเห็นว่ามี สำนวนนี้ ใช้ความหมายว่า หาคนดีจริงๆหรือสิ่งที่ดีจริงๆไม่ได้ ก็ต้องเอา คนที่ด้อยหรือสิ่งที่ด้อยเข้าแทน หรือหมายความว่าพยายาม เอาคนหรือสิ่งที่รู้แล้วว่าด้อย เข้าประชันกับคนที่ดีหรือสิ่งที่ดี ก็เปรียบได้กับว่า ไม่มีไก่ก็เอาเป็ดเข้าแทน หรือพยายามเอา เป็ดมาขันสู้กับไก่ให้ได้ สำนวนชาติอื่นมีคล้ายๆกัน ทำนองนี้ แขกอูรตูมีว่า ''เอากาใส่กรง ก็ทำให้เป็นนกแก้วไม่ได้'' อาฟริกันมีว่า ''เอาลามาตัดหู ก็ทำให้เป็นม้าไม่ได้'' ...อ้างอิงจาก หนังสือสำนวนไทย ขุนวิจิตรมาตรา หัวข้อ: Re: ''เป็ดขันประชันไก่'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 16-07-2006, 23:45 อ่านแล้วคิดถึงรายการภาษาไทยวันละคำ ตั้งแต่สมัยแรก :D
หัวข้อ: Re: ''เป็ดขันประชันไก่'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ประกายดาว ที่ 16-07-2006, 23:56 :D
ประกายดาว ขอชมว่า ระบบ การนำเสนอ ภาษาไทย สำนวนไทยของคุณดอกฟ้านี่ สุดยอดมากๆ เลือก มาแต่ละสำนวน น่าศึกษา ให้ลึกซึ้งจริงๆ ค่ะ หัวข้อ: Re: ''เป็ดขันประชันไก่'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 16-07-2006, 23:56 อ่านแล้วคิดถึงรายการภาษาไทยวันละคำ ตั้งแต่สมัยแรก :D ใช่ค่ะคุณนทร์ จำได้ว่าเป็นรายการของคุณปัญญา เจ้าของคำถูกต้องนะคร๊าบบ..ในตอนนี้ ตอนนั้นเธอนั่งพับเพียบ ใส่ชุดราชปะแตน พูดยานๆคางหน่อย เพราะชอบมากเลย ยังจำได้ไม่รู้ลืมค่ะ หัวข้อ: Re: ''เป็ดขันประชันไก่'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 17-07-2006, 00:38 :D ประกายดาว ขอชมว่า ระบบ การนำเสนอ ภาษาไทย สำนวนไทยของคุณดอกฟ้านี่ สุดยอดมากๆ เลือก มาแต่ละสำนวน น่าศึกษา ให้ลึกซึ้งจริงๆ ค่ะ :mozilla_smile: :mozilla_wink: หัวข้อ: Re: ''เป็ดขันประชันไก่'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: cameronDZ ที่ 17-07-2006, 05:02 ผมนึกภาพ คุณดอกฟ้าฯ นั่งพับเพียบ เหมือน อ.กาญจนาพร(ไม่รู้จำชื่อถูกเป่า) ในภาษาไทยวันละคำ เหมือนกัน
หวังว่าคงไม่ใช่ "รุ่นนั้น" นะครับ :mrgreen: สำหรับผม นิสัยทะลึ่ง ชอบเอาสำนวนไทยมาเปลี่ยน ล้อ เช่น เดินตามหลังผู้ใหญ่ หมาไม่กัด ------> เดินตามหลังผู้ใหญ่ หมากัดผู้ใหญ่ก่อน พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง -------> พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียแม้วครองเมือง เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร (อันนี้น่าจะเป็นคำพูดกันเล่นสนุก ๆ ไม่ใช่ สุภาษิต คำพังเพย) -----> ทองบาทละหมื่นกว่า ผัวหมา ๆ เสียไปเถอะ :mrgreen: หัวข้อ: Re: ''เป็ดขันประชันไก่'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 17-07-2006, 14:53 ผมนึกภาพ คุณดอกฟ้าฯ นั่งพับเพียบ เหมือน อ.กาญจนาพร(ไม่รู้จำชื่อถูกเป่า) ในภาษาไทยวันละคำ เหมือนกัน หวังว่าคงไม่ใช่ "รุ่นนั้น" นะครับ :mrgreen: สำหรับผม นิสัยทะลึ่ง ชอบเอาสำนวนไทยมาเปลี่ยน ล้อ เช่น เดินตามหลังผู้ใหญ่ หมาไม่กัด ------> เดินตามหลังผู้ใหญ่ หมากัดผู้ใหญ่ก่อน พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง -------> พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียแม้วครองเมือง เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร (อันนี้น่าจะเป็นคำพูดกันเล่นสนุก ๆ ไม่ใช่ สุภาษิต คำพังเพย) -----> ทองบาทละหมื่นกว่า ผัวหมา ๆ เสียไปเถอะ :mrgreen: หูยย...ว่าไปนั่น ม่ายช่ายค่ะ :roll: สำนวนไทยเรื่อง ''เสียทองเท่าหัว''นะคะ เพื่อนดอกฟ้าฯก็เคยเอามาแปลงเล่นเหมือนกันค่ะ เธอบอกว่า ''ได้ทองเท่าหัว ไล่ผัวออกไป'' :lol: หัวข้อ: Re: ''พลั้งปากเสียสิน พลัดตีนตกต้นไม้'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 17-07-2006, 20:41 ''พลั้งปากเสียสิน พลั้งตีนตกต้นไม้''
: พูดหรือทำอะไรโดยไม่ระมัดระวัง ย่อมเกิดความเสียหาย เป็นสำนวนที่เก่ามากสำนวนหนึ่ง แม้ในกฎหมายลักษณะผัวเมีย ในสมัยกรุงศรีอยุธยายังนำเอาคำนี้มาใช้ สันนิษฐานว่ามีมาก่อน แล้วภายหลังออกกฎหมายแล้วนำคำนี้มาใช้ เป็นกฎหมายลักษณะผัวเมีย ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีอู่ทอง ปี พ.ศ ๑๘๗๓ มีถ้อยคำของสำนวน พลั้งปากเสียสิน พลั้งตีนตกต้นไม้ ปรากฎอยู่ในมาตราหนึ่ง กล่าวถึงชายสู่ขอหญิง บิดามารดายกให้ ครั้นมีชายอื่นมาขออีก บิดามารดาคืนขันหมากชายคนแรก รับคนหลัง ถ้าเกิดเป็นความกัน ให้หญิงเป็นสิทธิ์แก่ชายคนแรก และปรับบิดามารดาที่กลับคำ เพราะเหตุ ''พลั้งปากเสียสิน พลั้งตีนตกต้นไม้'' ในโคลงสุภาษิตเก่า เขียนถึงสำนวนนี้เอาไว้ว่า ''พลั้งปาก พลอดพล่อยลิ้น ลุกลน เสียสิน ศีลกุศล เสื่อมด้วย พลั้งตีน บ่ดูตน ปางไต่ แม้แฮ ตกไม้ ได้ทุกข์ม้วย แหลกแล้วฤาคืน'' เป็นสำนวนที่ใช้กันในความหมาย พูดหรือทำอะไร โดยไม่ระมัดระวังย่อมเกิดความเสียหาย ...อ้างอิงจากหนังสือ บ่อเกิดสำนวนไทย หัวข้อ: Re: ''พลั้งปากเสียสิน พลัดตีนตกต้นไม้'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: จูล่ง_j ที่ 17-07-2006, 20:47 ปี พ.ศ ๑๘๗๓ มีถ้อยคำของสำนวน พลั้งปากเสียสิน พลั้งตีนตกต้นไม้
^ โหย เก่าจิงๆ อยากจะแก้เป็น พลั้งปากทักษิน พลั้งตีนตกต้นไม้ จังเลยอ่า :mozilla_tongue: หัวข้อ: Re: ''พลั้งปากเสียสิน พลัดตีนตกต้นไม้'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 17-07-2006, 20:55 ปี พ.ศ ๑๘๗๓ มีถ้อยคำของสำนวน พลั้งปากเสียสิน พลั้งตีนตกต้นไม้ ^ โหย เก่าจิงๆ อยากจะแก้เป็น พลั้งปากทักษิน พลั้งตีนตกต้นไม้ จังเลยอ่า :mozilla_tongue: เค้าป่าวตีกระทบชิ่งใครนะ... คำโบราณท่านว่ามาแบบนั้น ยังใช้ได้ดีในทุกสมัย แปลว่ามีคนพูดพล่อย คอยเอาแต่ได้กลับชาติมาเกิด ในทุกยุคสมัย :mozilla_cool: หัวข้อ: Re: ''พลั้งปากเสียสิน พลัดตีนตกต้นไม้'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: cameronDZ ที่ 17-07-2006, 21:00 รู้สึกว่า สุภาษิต คำพังเพย ที่คุณดอกฟ้า สรรหามา
มีคนอยู่คนนึงที่...รับไปเต็ม ๆ ทุกอันเลย :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: มีอีกไหมครับ หัวข้อ: Re: ''พลั้งปากเสียสิน พลัดตีนตกต้นไม้'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ภูพาน ที่ 17-07-2006, 21:10 คุณดอกฟ้ากับหมาวัด หาคำมาได้ถูกที่...ถูกเวลาพอดีครับ... :D
หัวข้อ: Re: ''พลั้งปากเสียสิน พลัดตีนตกต้นไม้'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกเข็มขาว ที่ 17-07-2006, 21:24 ตามมาอ่านที่ดอกฟ้าเขียนจ๊ะ
จริงอย่างที่คุณcameronDZว่าละค่ะ ใช้เลย หัวข้อ: Re: ''ละเลงขนมเบื้องด้วยปาก'' ภาษาไทยวันละหลายคำ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 18-07-2006, 01:53 ''ละเลงขนมเบื้องด้วยปาก''
: ดีแต่พูด เป็นสำนวนที่ใช้พูดกันมานาน แม้ในเสภาขุนช้างขุนแผน ก็พบการใช้สำนวน ''ละเลงขนมเบื้องด้วยปาก''เหมือนกัน ที่มาของสำนวนนี้มาจากการทำขนมเบื้องไทย คนที่ไม่เคยทำ เห็นคนอื่นทำคิดว่าง่ายๆ แต่ที่จริงไม่ง่ายเลย เพราะความสำคัญ ของวิธีทำอยู่ตรงที่การละเลงแป้งกลางกระทะ โดยใช้จ่าที่ตักแป้ง นั่นแหละละเลงแผ่ออกไปให้เป็นแผ่นกลมบางเรียบเสมอกัน การจะทำได้เช่นนี้จะต้องมีความชำนาญมาก ไม่เช่นนั้นแป้ง จะไม่เสมอกัน หนาๆบางๆก็จะติดกระทะ ส่วนที่บางจะใหม้เกรียม จึงเป็นการกระทำที่ไม่ง่ายเลย เช่นนี้เองเมื่อใครพูดอะไรง่ายๆ โดยไม่คำนึงถึงการกระทำ จึงพูดกันเป็นสำนวนขึ้นว่า ''ละเลงขนมเบื้องด้วยปาก'' พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ว่าเป็นสำนวนที่เป็นคำกิริยา หมายถึง ดีแต่พูด หัวข้อ: Re: ''มะกอกสามตระกร้า ปาไม่ถูก'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 19-07-2006, 00:36 ''มะกอกสามตระกร้า ปาไม่ถูก''
: พูดจาตลบแตลงพลิกแพลงไปมา จนจับคำพูดไม่ทัน : คนกลับกลอก มะกอกเป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง ผลโตเท่าไข่เป็ด บางพันธุ์เท่าไข่ไก่ กินผลได้ทั้งดิบหรือสุก บางชนิดเปรี้ยว ใช้ปรุงอาหารจำพวกยำ ใช้แทนมะนาวได้ โบราณจึงมีคำพูด ''มะกอกมะนาว''เป็นสร้อย ติดกัน ในบทร้องเล่นของเด็กมีว่า'' มีมะกอกมาแลกมะนาว มีลูกสาวมาแลกลูกเขย'' มะกอกถึงสามตระกร้าก็คงมีจำนวนไม่น้อยทีเดียว ทั้งๆที่ไม่ได้ บอกว่าตระกร้าเล็กใหญ่ขนาดไหน จำนวนตั้งมากมายยังปาไม่ถูก ตัวก็แสดงว่าเป็นคนหลบหลีกคล่องแคล่ว เมื่อเป็นสำนวนใช้ในความหมายถึงคนที่พูดจาไม่ตรงร่องรอย ประเดี๋ยวว่าอย่างนั้น ประเดี๋ยวว่าไม่ได้พูดอย่างนั้น แต่พูดอย่างนี้ ดิ้นไปเรื่อย มีโคลงบทหนึ่งในโคลงสุภาษิตเก่า ใช้คำๆนี้ได้ อย่างเห็นภาพชัดเจนว่า ''พบพาลพูดพล่ำลิ้น ลมไหว เพ้อพจน์สบถไกล หลอกล้น มะกอกสามตระกร้าไป ปาเปล่า ปลูกสักผลพ้น เล่ห์ลิ้นลมพาล'' พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ให้ความหมาย ไว้สองลักษณะ อันหนึ่งเมื่อเป็นคำกริยาหมายถึง พูดจาตลบแตลงพลิกไปมาจนจับคำพูดไม่ทัน อีกความหมายหนึ่ง เป็นคำนาม หมายถึงคนที มีนิสัยกลับกลอก ...อ้างอิงจากหนังสือ บ่อเกิดสำนวนไทย หัวข้อ: Re: ''มะพร้าวห้าวยัดปาก'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 20-07-2006, 19:31 ''มะพร้าวห้าวยัดปาก''
: พูดก้าวร้าวอาจเป็นภัยแก่ตัว พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายว่าเป็นสำนวน ที่เป็นคำกริยา หมายถึง พูดก้าวร้าวอาจเป็นภัยแก่ตัว สำนวนนี้เป็นคำเก่ามีปรากฎอยู่ในกฎหมายลักษณะอาญาหลวง แผ่นดินในรัชสมัยพระเจ้าอู่ทองมีว่า มาตราหนึ่ง ผู้ใดใจโลภนัก มักใหญ่ใฝ่สูงให้เกินศักดิ์...แลถ้อยคำมิควรเจรจาเอามาเจรจา เข้าในระวางราชาศัพท์...ท่านให้ลงโทษ ๘ สฐาน สฐานหนึ่ง ให้ฟันคอริบเรือน สฐานหนึ่ง ให้''เอามะพร้าวห้าวยัดปาก'' โทษมะพร้าวห้าวยัดปากนี้ ให้เอามะพร้าวห้าวมาปอกเปลือก ให้เกลี้ยง จนถึงกะลาข้างในแล้วยัดเข้าไปในปาก วิธีลงโทษเอามะพร้าวห้าวยัดปาก จึงกลายเป็นคำพูด กันไปทั่วสำหรับใครที่พูดก้าวร้าวล่วงเกิน หมิ่นประมาท อาจจะเป็นภัยแก่ตัวได้ ก็จะพูดกันว่า เดี๋ยวโดนมะพร้าวห้าวยัดปาก กฎหมายนี้ถูกยกเลิกไปแล้ว และปัจจุบันไม่มีใครถูกลงโทษ เช่นนั้นอีก สำนวนนี้จึงกลายเป็นมรดกชิ้นหนึ่งของสังคมไทย สมัยก่อน ....อ้างอิง จากหนังสือบ่อเกิดสำนวนไทย หัวข้อ: Re: ''มะพร้าวห้าวยัดปาก'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ประกายดาว ที่ 20-07-2006, 22:05 อะจึ๊ย น่ากลัวมากๆ .... ขอบคุณ ค่า สำหรับสำนวนภาษาไทย ที่ เป็นสุดยอดสำนวนค่ะ หัวข้อ: Re: ''มะพร้าวห้าวยัดปาก'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 20-07-2006, 22:12 อะจึ๊ย น่ากลัวมากๆ .... ขอบคุณ ค่า สำหรับสำนวนภาษาไทย ที่ เป็นสุดยอดสำนวนค่ะ น้องดาวขา กฎหมายนี้ปัจจุบันถูกยกเลิก ไปแล้วค่ะ อย่าเผลอเอาไปใช้กับใครนะคะ แอบคิด...ได้อย่างเดียว หุ หุ :mozilla_cool: หัวข้อ: Re: ''เกิดเป็นไทย'' โวหารในวรรณคดีไทย ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 22-07-2006, 01:00 เกิดเป็นไทย
เกิดเป็นไทยชายหญิงไม่นิ่งขลาด แสนสมัครรักชาติศาสนา กตัญญูสู้ตายถวายชีวา ต่อเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินสิ้นทุกคน ยามสบายปล่อยชายเป็นนายทหาร ครั้นเกิดการศึกเสือเมื่อขัดสน พวกผู้หญิงใช่จะทิ้งนิ่งอับจน ต่างออกขวนขวายช่วยด้วยไม่กลัว เปลก็ไกวดาบก็แกว่งแข็งหรือไม่ ไม่อวดหยิ่งหญิงไทยมิใช่ชั่ว ไหนไถถากกรากกรำไหนทำครัว ใช่รู้จักแต่ยั่วผัวเมื่อไร แรงเหมือนมดอดเหมือนกากล้าเหมือนหญิง นี่จะจริงเหมือนว่าหรือหาไม่ เมืองถลางปางจะจอดรอดเพราะใคร เพราะหญิงไทยไล่ฆ่าพม่าแพ้[/colo ...อ้างอิงจากหนังสือ โวหารในวรรณคดีไทย กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ หัวข้อ: Re: ''ร้องเพลงในครัว ได้ผัวแก่'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 22-07-2006, 22:11 ''ร้องเพลงในครัว ได้ผัวแก่''
(สำนวนนี้มีความหมายตรงตัว) ในธรรมเนียมไทยแต่โบราณฯนั้น ผู้หญิงตั้งแต่เริ่มเข้าสู่วัยสาว จะต้องเข้าครัวเพื่อผึกหัดเรียนรู้ในเรื่องหุงข้าวต้มแกง และฝึกทำอาหารต่างๆให้เป็น ดังนั้นการเข้าครัวของเด็กสาว จึงเป็นเวลาของการศึกษาเรียนรู้ จำต้องตั้งใจฝึกตั้งใจเรียน ใครร้องรำทำเพลงก็แสดงว่าไม่สนใจที่จะฝึก ผู้ใหญ่จึงมีคำพูด เป็นอุบายให้หญิงสาวหันมาสนใจเรียน คำพูดที่คิดว่าได้ผล สำหรับหญิงสาวก็คือ ''ร้องเพลงในครัว ได้ผัวแก่'' นอกจากจะได้ผลแล้ว ยังได้สำนวนที่มีคำคล้องจองกันดีขึ้นมา อีกหนึ่งคำด้วย ....อ้างอิงจาก หนังสือบ่อเกิดสำนวนไทย หัวข้อ: Re: ''ตบหัว แล้วลูบหลัง'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ThailandReport ที่ 22-07-2006, 22:22 "ตบหัว แล้วลูบหลัง" สำนวนนี้ กระทบกระเทียบเปรียบเปรย ในธรรมเนียมไทยแต่โบราณนั้น ผู้มีบารมี จะมีข้าทาสบริวารมากมาย เมื่อใดที่ท่านเล็งเห็นว่า จะมีคนบางคน ริคิดการใหญ่กระด้างกระเดื่อง ซ่องสุมผู้คนจะก่อการ ข่มเหงรังแกกันได้ ท่านก็จะจัดการให้ นายทวารคุมไพร่ ไล่ตรวจเช็คบัญชีรายชื่อว่ามีใครบ้างเข้าข่าย แล้วจัดการเช็คบิลซะ โดยเงียบเชียบได้ร้อยกว่านาย พร้อมกันนั้น ท่านก็จะเรียกไอ้ไพร่เลวนี้มาเฝ้า แล้วตบกบาล ซะ 1 ที ครั้นพอเห็นได้ที่จะสำนึกตนได้ แล้วก่อนที่ไอ้ไพร่นั้นจะห่มโศก ร้องฟูมฟาย ท่านก็จัก ยกมือลูบหลังลูบไหล่ ทำนองให้นิ่งเสีย ว่าพลางหยิบหนังสือ สอนมารยาทผู้ดี ให้รู้จักสมานฉันทน์ แลรู้คุณผู้เป็นนาย เสือกส่งให้ไปอ่านสัก 1 เล่ม ไอ้ไพร่นั้นก็สำนึกดีใจเหลือประมาณ ที่ได้หนังสือคุณอนันนต์เล่มนั้น ลืมอาการบาดเจ็บที่กบาลไปสิ้น จากไปพร้อมเสียงสาปแช่งด่าไล่ของเหล่าข้าบริพารแห่งผู้มีบารมี หัวข้อ: Re: ''ร้องเพลงในครัว ได้ผัวแก่'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ประกายดาว ที่ 22-07-2006, 22:29 โอ๊ะ หนูทั้งชอบร้อง และ เต้น หัวข้อ: Re: ''ร้องเพลงในครัว ได้ผัวแก่'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 22-07-2006, 22:38 ''ตบ ตีดุด่าให้...........เจ็บจิตร
หัว แรกทำบ่คิด...........สักก้อย ลูบไล้เล่ห์เหมือนมิตร..........มือลูบ หลังนา หลัง ลูบลูกสักร้อย...........ห่อนเถ้าทุบหัว'' โคลงสุภาษิต หัวข้อ: Re: ''ร้องเพลงในครัว ได้ผัวแก่'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 22-07-2006, 22:48 น้องดาวขาดอกฟ้าฯ รู้สเปคของน้องดาว มานานแล้วค่ะ ว่าชอบผู้มีวัยวุฒิ ............................. ดูจิ้...มีคนนึงและ มาแปลงกายเป็นคนแก่ อืมม..หรือว่าแก่จิงๆอ๊ะป่าว :lol: หัวข้อ: Re: ''ร้องเพลงในครัว ได้ผัวแก่'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 22-07-2006, 22:54 ดีคะ....คุณดอกฟ้า ...เอ้..เอาข้อความมาเสริม :D
ปากปราศัย...น้าใจเชือคอ ปั้นน้ำเป็นตัว........ แปดเหลี่ยมสิบสองคม...... ปากอย่างใจอย่าง... ปากหวานก้นเปรี้ยว... พูดดีเป็นศรีแก่ปาก........ พูดมากปากจะมีสี คาดว่า..ข้อความทั้งหมด..น่าจะเหมาะกะ น้าแม้ว เนาะ !!! หัวข้อ: Re: ''ร้องเพลงในครัว ได้ผัวแก่'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 22-07-2006, 23:02 ดีคะ....คุณดอกฟ้า ...เอ้..เอาข้อความมาเสริม :D ปากปราศัย...น้าใจเชือคอ ปั้นน้ำเป็นตัว........ แปดเหลี่ยมสิบสองคม...... ปากอย่างใจอย่าง... ปากหวานก้นเปรี้ยว... พูดดีเป็นศรีแก่ปาก........ พูดมากปากจะมีสี คาดว่า..ข้อความทั้งหมด..น่าจะเหมาะกะ น้าแม้ว เนาะ !!! ดีค่ะคุณเอ้ วันนี้มีใครได้เห็นเพลง ''เด็กเอ๋ยเด็กดี'' เวอร์ชั่น ''เด็กเอ๋ยเด็กชิน'' อ๊ะยังคะ ดอกฟ้าฯขำกลิ้งเร้ยยย :lol: เข้าไปอ่านในพันทิบมาค่ะ หัวข้อ: Re: ''ร้องเพลงในครัว ได้ผัวแก่'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: so what? ที่ 22-07-2006, 23:17 ไม่อยากโพสต์ เดี๋ยวคนรู้ว่าแก่ :mrgreen:
หัวข้อ: Re: ''สุภาษิต ปลอบใจคนแก่ค่ะ'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 23-07-2006, 01:01 สุภาษิต ปลอบใจคนแก่ :mozilla_smile:
ห้ามไม่ได้ บาทหลวงว่าวิสัยในมนุษย์ ฟันจะหลุดแล้วก็ห้ามปรามไม่ไหว ห้ามเกศาว่าอย่าหงอกยังนอกใจ มันขืนหงอกออกจนได้มันไม่ฟัง พระอภ้ยมณี (ท่านสุนทรภู่) หัวข้อ: Re: ''เกลียดขี้ขี้ตาม เกลียดความความถึง'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 24-07-2006, 20:40 เกลียดขี้ขี้ตาม เกลียดความความถึง
: เกลียดสิ่งไหนได้สิ่งนั้น มีนิทานเล่ากันมาว่า มีชายคนหนึ่งเกลียดการมีความอย่างที่สุด เห็นชาวบ้านมีความกันก็เกิดการเบื่อหน่าย เลยไม่อยากอยู่ ในหมู่มนุษย์ คิดว่าถ้าไปอยู่ในป่าเสียจะเป็นสุข จึงออกจากบ้าน เข้าป่า พอค่ำลงก็ปีนต้นไม้ขึ้นไปนอนบนต้นไม้ ยังมีชายอีกคนหนึ่ง เกลียดขี้เป็นที่สุด เห็นชาวบ้านเที่ยวขี้กันอุจาด ก็เลยคิดว่าไปอยู่ ในป่าจะดีกว่า เมื่อตกลงใจดังนั้นแล้วก็ออกจากบ้านเข้าป่าไป ถึงเวลาค่ะก็เข้าไปพักนอนที่โคนต้นไม้ แต่บังเอิญเป็นต้นเดียว กับชายคนที่เกลียดการมีความขึ้นไปนอนอยู่ข้างบน ถึงเวลาเช้ามืด ชายที่เกลียดการมีความรู้สึกปวดท้องขี้ เห็นว่าอยู่บนต้นไม้เหมาะดีแล้ว ก็ขี้ลงมา จำเพาะถูกชายเกลียดขี้ซึ่งกำลังตื่นนอนเปรอะเลอะเทอะไปทั้งตัว ชายเกลียดขี้โกรธหนักด้วยอุตส่าห์ทิ้งบ้านทิ้งช่องหนีมาอยู่ป่า แล้วยังมาโดนขี้เข้าเต็มที่ จึงคุมตัวชายที่เกลียดการมีความไปฟ้องร้อง ต่ออำมาตย์ใหญ่ ชายที่เกลียดการมีความก็โมโห ด้วยอุตส่าห์หลบมนุษย์ หนีความไปอยู่ป่าแล้วยังโดนเป็นความเข้าจนได้ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้ด้วยกันทั้งคู่จึงเลยว่ากันว่า ''เกลียดขี้ขี้ตาม เกลียดความความถึง'' มูลที่มาของสำนวนมีเรื่องดังเล่ามานี้ ...อ้างอิงจากหนังสือสำนวนไทย ขุนวิจิตรมาตราการ หัวข้อ: Re: ''เกลียดขี้ขี้ตาม เกลียดความความถึง'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 24-07-2006, 20:55 ง่า คุณดอกฟ้าทำไงดีค่ะ
อนาเกลียดผู้ชายหน้าตาแบบ Colin Farrell (http://www.cinematical.com/images/2005/09/Colin%20Farrell.jpg) เกลียดคนรวยแบบ บิล เกตส์ หว๊า ทำไงดีอ่ะค่ะ :mrgreen: :mrgreen: หัวข้อ: Re: ''เกลียดขี้ขี้ตาม เกลียดความความถึง'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 24-07-2006, 21:08 ง่า คุณดอกฟ้าทำไงดีค่ะ อนาเกลียดผู้ชายหน้าตาแบบ Colin Farrell (http://www.cinematical.com/images/2005/09/Colin%20Farrell.jpg) เกลียดคนรวยแบบ บิล เกตส์ หว๊า ทำไงดีอ่ะค่ะ :mrgreen: :mrgreen: เกลียดอั้ม พัชราภา เกลียด โฟร์ มด รายการทายใจ....อะไรเอ่ย... ใครทายใจดอกฟ้าฯว่าตอนนี้เกลี๊ยด เกลียด ใครเป็นพิเศษ ถ้าใครทายถูกขอเลี้ยงข้าวมื้อนึงก๊าบบบ :lol: หัวข้อ: Re: ''เกลียดขี้ขี้ตาม เกลียดความความถึง'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 24-07-2006, 21:24 :lol:ม่ายช่ายนะก๊าบบ.....คิลเลอร์ยังมี
ส่วนที่ดีทำให้เราแยกสีขาวและเทาให้เห็นชัดเจนขึ้น และเป็นคนที่ชอบสู้ซึ่งๆหน้าไม่แอบลอบแทงข้างหลัง แต่หลายครั้งพูดจาไร้เหตุผลไปหน่อยเพราะรักเจ้านาย จนไม่ลืมหูลืมตา คนแบบนี้ดอกฟ้าฯไม่เกลียดค่ะ :mozilla_smile: หัวข้อ: Re: ''เกลียดขี้ขี้ตาม เกลียดความความถึง'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 24-07-2006, 21:34 ง่า คุณดอกฟ้าทำไงดีค่ะ อนาเกลียดผู้ชายหน้าตาแบบ Colin Farrell (http://www.cinematical.com/images/2005/09/Colin%20Farrell.jpg) เกลียดคนรวยแบบ บิล เกตส์ หว๊า ทำไงดีอ่ะค่ะ :mrgreen: :mrgreen: เกลียดอั้ม พัชราภา เกลียด โฟร์ มด รายการทายใจ....อะไรเอ่ย... ใครทายใจดอกฟ้าฯว่าตอนนี้เกลี๊ยด เกลียด ใครเป็นพิเศษ ถ้าใครทายถูกขอเลี้ยงข้าวมื้อนึงก๊าบบบ :lol: อย่างน้อย เข็มมันก็อาจจะทิ่มแทง ให้อนารู้สึกเจ็บว่ามันอยุ่ตรงนั้น แต่ใจของคุณดอกฟ้า .....มันยากจริงๆๆค่ะ ปล. กระโถน อยู่ท้ายๆ กระทู้นี้นะค่ะ หัวข้อ: Re: ''เกลียดขี้ขี้ตาม เกลียดความความถึง'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 24-07-2006, 21:46 :mozilla_smile:ทายใจดอกฟ้าฯยากขนาดนั้นเลยหรือคะ
คุณอนา เอาน่าไม่อยากทายก็ไม่ว่าละกาน ฮี่ ฮี่ :lol: หัวข้อ: Re: ''เกลียดขี้ขี้ตาม เกลียดความความถึง'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ประกายดาว ที่ 24-07-2006, 22:04 โอ
สำนวนนี้ ประกายดาวไม่เคยได้ยินเลยค่ะ :mozilla_oops: ไม่เคยจริงๆ หัวข้อ: Re: ''เกลียดขี้ขี้ตาม เกลียดความความถึง'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 24-07-2006, 22:23 ยินดีและภูมิใจที่ได้นำเสนอค่ะ
แค่เพียงคาดหวังว่า อาจโดนใจใครบางคนที่ชอบ หนีปัญหา..... :mozilla_wink: หัวข้อ: Re: ''เสน่หาตาบอด'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 25-07-2006, 21:35 เสน่หาตาบอด
สำนวนนี้ตรงกับที่เราพูดกันในปัจจุบันว่า ''ความรักทำให้ตาบอด'' แปลว่าเมื่อเกิดความรักแล้วก็มองไม่เห็นอะไรหมด ไม่คำนึงถึงเหตุผล ไม่คิดถึงว่าตนจะประสบผลอย่างไร คำว่า''ความรักทำให้ตาบอด'' ดูคล้ายกับจะเป็นคำใหม่ แต่ความจริงสุนทรภู่ได้ใช้คำว่า ''เสน่หาตาบอด'' มาแล้วในพระอภัยมณี ''หน่อกษัตริย์ขัดเคืองชำเลืองค้อน สะท้อนถอนหฤทัยพิไรบ่น เสน่หาตาบอดไม่รอดตน ต้องทุกข์ทนถากหญ้าประดาตาย'' ....อ้างอิงจากหนังสือสำนวนไทย ขุนวิจิตรมาตรา หัวข้อ: Re: ''รักเหายิ่งกว่าผม'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 26-07-2006, 21:31 รักเหายิ่งกว่าผม
: รักสิ่งไม่มีคุณค่ามากกว่าสิ่งที่มีศักดิ์ศรีสูง แต่เดิมมีคำพูดคล้องจองต่อกันยาวว่า ''รักเหายิ่งกว่าผม รักลมยิ่งกว่าน้ำ รักถ้ำยิ่งกว่าเรือน รักเดือนยิ่งกว่าตะวัน'' ครั้นภายหลังนิยมเรียกสั้นๆๆ เพียงคำต้นว่า ''รักเหายิ่งกว่าผม''หมายความ เช่นเดียวกับคำอื่นๆหมด เข้าใจว่าถอดความเอาจากเวสสันดรชาดก กัณฑ์ชูชก ตอนนางพราหมณีต่อว่านางอมิตตดาถึงเรื่องที่ได้ชูชกมาเป็นสามีว่า ''แม่จะมารักดงนี่หรือกว่าเหย้า แม่จะมารักเหานี่หรือกว่าผม จะมารักลมนี่หรือกว่าน้ำ จะมารักถ้ำนี่หรือกว่าเรือน จะมารักเดือนนี่หรือกว่าตะวัน เออนี่แม่จะมารักออเจ้านั้นยิ่งกว่าตัวเล่า'' คำในความหมายเช่นนี้ มักได้ยินชาวบ้านร้านตลาดพูดกันก็มี ''อย่ามาเห็นขี้ดีกว่าใส้'' ''รักเหายิ่งกว่าผม'' เป็นสำนวนหมายความว่า รักสิ่งที่ไม่ดี ที่ต่ำ เลว ไม่สำคัญ ไม่มีคุณค่ายิ่งกว่าสิ่งที่ดีมีคุณค่าศักดิ์ศรีสูง พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานว่า เป็นสำนวนที่เป็นคำกริยา หมายถึง รักสิ่งที่ไม่มีคุณค่ามากกว่าสิ่งที่ศักดิ์ศรีสูง ...อ้างอิงจากหนังสือบ่อเกิดสำนวนไทย หัวข้อ: Re: ''รักเหายิ่งกว่าผม'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ThailandReport ที่ 26-07-2006, 21:35 เมื่อไหร่จะลง เชือดไก่ให้แม้วดู - เกลือกำลังจะเป็นหนอน -กบจะเลือกนายใหม่ -ลิงค่างจะทิ้งต้นไม้ ขอไว้นาน ละน้าๆๆๆๆๆ :evil: หัวข้อ: Re: ''รักเหายิ่งกว่าผม'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 26-07-2006, 21:42 อนาชอบ เสน่หาตาบอด
ขอตาบอดสักครั้ง หากรักนั้น มั่นคงยิ่งกว่ารัก แม้ว่า ตามองไม่เห็น......... แค่คลำก็รุสึกดี เอิ้งเอย :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: หัวข้อ: Re: ''รักเหายิ่งกว่าผม'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 26-07-2006, 21:45 เมื่อไหร่จะลง เชือดไก่ให้แม้วดู - เกลือกำลังจะเป็นหนอน -กบจะเลือกนายใหม่ -ลิงค่างจะทิ้งต้นไม้ ขอไว้นาน ละน้าๆๆๆๆๆ :evil: :lol: :lol: :lol: :lol: ใจเย็นๆซี่คร้า... เด๋วจัดห้ายคร่า... หัวข้อ: Re: ''รักเหายิ่งกว่าผม'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ThailandReport ที่ 26-07-2006, 21:48 ก็....เค้า....วัยรุ่น ใจร้อนนนนน งะ
คุณดอกฟ้า.....เอ่อ...เปลี่ยนชื่อหน่อยดีไหมครับ ? พอดีผมเห็นมีหมาวัด ออกมาป้วนเปี้ยนแยะ เลยช่วงนี้ ผมกลัวมันจะมา คาบ คุณไป งะ... ด้วยฟามปรารถนาดี เจงๆนะเนี่ย หัวข้อ: Re: ''รักเหายิ่งกว่าผม'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 26-07-2006, 22:03 อนาชอบ เสน่หาตาบอด ขอตาบอดสักครั้ง หากรักนั้น มั่นคงยิ่งกว่ารัก .............................................. คุณอนาเนี่ย... โรแมนติกมากๆเลย งั้นฝากเพลง''เสน่หา''มามอบให้สาวสวยโรแมนติก ความรักเอย เจ้าลอยลมมาหรือไร มาดลจิต มาดลใจ เสน่หา รักจริงจากใจหรือเปล่า หรือเย้าเราให้เฝ้าเสน่หา หรือแกล้งเพียงแต่แลตา ยั่วอุราให้หลง ลำพอง ฯ เวลาดอกฟ้าฯแอบชอบใคร จะแกล้งทำตาบอดข้างนึงค่ะ อิ อิ :mozilla_wink: หัวข้อ: Re: ''รักเหายิ่งกว่าผม'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 26-07-2006, 22:51 ก็....เค้า....วัยรุ่น ใจร้อนนนนน งะ คุณดอกฟ้า.....เอ่อ...เปลี่ยนชื่อหน่อยดีไหมครับ ? พอดีผมเห็นมีหมาวัด ออกมาป้วนเปี้ยนแยะ เลยช่วงนี้ ผมกลัวมันจะมา คาบ คุณไป งะ... ด้วยฟามปรารถนาดี เจงๆนะเนี่ย เข้ามาตอบด้วยความขอบคุณอย่างยิ่งค่ะว่า ย..ห..ว...ม...จ....ค...ป...ด ฮี่ ฮี่ :lol: :lol: :lol: หัวข้อ: ย..ห..ว...ม...จ....ค...ป...ด .....ฮี่ ฮี่ ภาษาไทยวันละหลายคำ 2 คำหลังแปลให้ที!! เริ่มหัวข้อโดย: ThailandReport ที่ 26-07-2006, 23:03 ย..ห..ว...ม...จ....ค...ป...ด .....ฮี่ ฮี่ ไอ้ตัวแดงๆ แปลออก แล้วครับ (อยากจะบอกว่า ตูเก่ง) แต่ ไอ้ตัวฟ้าๆ นี่....แปลว่าอารายครับ 2 He นะครับ !!! งงเจงๆนะตัวเอง .... แก้ไม่หลุดเป็นจุดด่างไปจนตายนะเออ....555 ช่วงนี้ อารมณ์ดี วางสนุ๊กพวกเดียวกันเอง ยังทำได้ลงคอ 555 :lol: หัวข้อ: Re: ''รักเหายิ่งกว่าผม'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: so what? ที่ 26-07-2006, 23:08 คล้ายๆ เห็นขี้ดีกว่าไส้ เห็นอะไรจ๊ะดีกว่าคิลเล่อร์ :mrgreen: :mrgreen:
หัวข้อ: Re: ''รักเหายิ่งกว่าผม'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 26-07-2006, 23:21 คล้ายๆ เห็นขี้ดีกว่าไส้ เห็นอะไรจ๊ะดีกว่าคิลเล่อร์ :mrgreen: :mrgreen: ถูกต้องนะก๊าบบบ..... ขอบคุณก๊าบบ....ที่ช่วยแปลให้ :mozilla_wink: หัวข้อ: Re: ''รักเหายิ่งกว่าผม'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 27-07-2006, 08:13 คำในความหมายเช่นนี้ มักได้ยินชาวบ้านร้านตลาดพูดกันก็มี ''อย่ามาเห็นขี้ดีกว่าใส้'' เสริมนิดนึงครับ.. สำนวน "เห็นขี้ดีกว่าไส้" มีการใช้ที่เฉพาะเจาะจงมากกว่า ในความหมายว่า เห็นคนอื่นดีกว่าญาติพี่น้องแท้ๆ ขณะที่สำนวน "เห็นเหาดีกว่าผม" ใช้แบบกว้างๆ มากกว่า ทำนองว่าให้ความสำคัญกับสิ่งที่ไม่มีค่ามากกว่าสิ่งที่มีค่า ..เป็นสำนวนที่คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันเสียทีเดียวครับ.. หัวข้อ: Re: ''รักเหายิ่งกว่าผม'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ThailandReport ที่ 27-07-2006, 08:20 คำในความหมายเช่นนี้ มักได้ยินชาวบ้านร้านตลาดพูดกันก็มี ''อย่ามาเห็นขี้ดีกว่าใส้'' เสริมนิดนึงครับ.. สำนวน "เห็นขี้ดีกว่าไส้" มีการใช้ที่เฉพาะเจาะจงมากกว่า ในความหมายว่า เห็นคนอื่นดีกว่าญาติพี่น้องแท้ๆ ขณะที่สำนวน "เห็นเหาดีกว่าผม" ใช้แบบกว้างๆ มากกว่า ทำนองว่าให้ความสำคัญกับสิ่งที่ไม่มีค่ามากกว่าสิ่งที่มีค่า ..เป็นสำนวนที่คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันเสียทีเดียวครับ.. Yessssssssssssssss ... Agree ....[/color] :mozilla_cool: หัวข้อ: Re: ''ฤาษีเลี้ยงลิง'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 29-07-2006, 00:43 ''ฤาษีเลี้ยงลิง''
: ผู้ทีเลี้ยงเด็กซุกซนหรือปกครองคนหมู่มาก ที่ไม่อยู่ในระเบียบวินัย ย่อมเดือดร้อนรำคาญ มีนิทานโบราณเรื่องหนึ่งเล่าต่อๆกันมาว่า ฤาษีตนหนึ่งเลี้ยงลิง ไว้หลายตัว ธรรมดาลิงซุกซนไม่อยู่นิ่ง ฤาษีจึงต้องเฆี่ยนตีลิงอยู่เสมอ อยู่มาวันหนึ่ง พระเจ้าแผ่นดินเสด็จมานมัสการฤาษี เห็นฤาษีเฆี่ยนตีลิงเช่นนั้น ก็รับสั่งว่า อันธรรมดาลิงย่อมต้องซุกซนเป็นนิสัย ทรงขอไม่ให้ฤาษีเฆี่ยนตีลิง ฤาษีก็รับคำ และขอไม่ให้พระเจ้าแผ่นดินลงอาญาราษฎรบ้าง เมื่อการปกครองของพระเจ้าแผ่นดินเลิกการลงราชทัณฑ์ คนร้ายก็กำเริบ ปล้นสดมภ์ ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายเข้าไปถึงในพระราชวัง พระเจ้าแผ่นดิน จำต้องเสด็จมาพบฤาษีขอกลับข้อตกลงให้มีการลงอาญาราชทัณฑ์อย่างเดิม ฤาษีก็ทูลว่า ตัวท่านเองเมื่อไม่เฆี่ยนตีลิงแล้ว ลิงมันก็กำเริบซุกซนเป็นการใหญ่ บางทีสำนวน ''ฤาษีเลี้ยงลิง''อาจมาจากนิทานเก่าแก่เรื่องนี้ก็เป็นได้ เพราะเมื่อเป็นสำนวนแล้วหมายความถึง ผู้เลี้ยงเด็กซุกซนวุ่นวายไม่อยู่เป็นสุข พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานว่า เป็นสำนวนที่เป็นคำนาม หมายถึง ผู้เลี้ยงเด็กซุกซนหรือปกครองคนหมู่มากที่ไม่อยู่ในระเบียบวินัย ย่อมเดือดร้อนรำคาญ ....อ้างอิงจากหนังสือบ่อเกิดสำนวนไทย หัวข้อ: Re: ''ฤาษีเลี้ยงลิง'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: 999 ที่ 29-07-2006, 01:03 ผ่านเข้ามาอ่าน ก็ลงชื่อไว้เป็นหลักฐานครับ... หัวข้อ: Re: ''ฤาษีเลี้ยงลิง'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: so what? ที่ 29-07-2006, 01:11 จำได้ว่าเป็นฉายาของท่าน มรว. เสนีย์ ปราโมช
สมัยท่านเป็นนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ครับ ฤษีท่านก็ลาโลกไปแล้ว ลิงสมัยนั้นก็ล้มหายตายจากไปเกือบหมดเหมือนกัน เป็นสัจธรรมของโลกจริงๆครับ :mrgreen: หัวข้อ: Re: ''ปั้นเจ้าชก ปั้นเจ้าไหว้'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 30-07-2006, 22:07 ''ปั้นเจ้าชก ปั้นเจ้าไหว้''
ในนนทุกปกรณัมซึ่งเป็นนิทานโบราณเก่าแก่ มีเรื่องว่าบุรุษคนหนึ่งมีทาส เป็นเด็ก ๓ คนสำหรับเลี้ยงโค เด็กทั้งสามต้อนโคไปเลี้ยงในป่า แล้วขุดดินมาปั้นเล่น ถามกันว่าจะปั้นสิ่งใดดี คนหนึ่งว่าปั้นเจ้าของเราเล่นเถิด ทั้งสามต่างก็ปั้นรูปชาย ที่เป็นนายของตน ครั้นปั้นเสร็จแล้ว คนหนึ่งเก็บดอกไม้มาบูชากราบไหว้ คนหนึ่งเฉยอยู่ อีกคนหนึ่งชกทุบถีบตีเล่น ครั้นเวลาเย็นกลับบ้าน บุรุษที่เป็นนาย เห็นเด็กที่ปั้นรูปแล้วไหว้ก็ดลใจให้รักใคร่เมตตาต่างๆ คนที่ปั้นแล้วชก ดลใจให้นายเกลียดชังด่าตี ส่วนคนที่ปั้นแล้วเฉยอยู่ ดลใจให้นายเพิกเฉย ไม่แสดงว่า รักใคร่หรือเกลียดชัง นิทานนี้เป็นมูลที่มาของสำนวน ''ปั้นเจ้าชก ปั้นเจ้าไหว้'' ใช้เป็นคำพูดให้รู้จักประพฤติตัวเป็นคนอ่อนน้อมทั้งต่อหน้า และลับหลัง เป็นสำนวนเก่าแก่สำนวนหนึ่ง คนคิดวิปลาศแท้ โทษมูล นายพระคุณบุญบูน ปกเกล้า ปั้นเป็นรูปจำรูญ ฤาวาด ไว้เฮย ชกต่อยตีค่ำเช้า ชั่วชี้ฉิบหาย คนคิดดีชอบกอบเกื้อ การสนอง เจ้าพระคุณบุญครอง ครอบเกล้า ปั้นเป็นรูปเรืองรอง ฤาวาด ไว้นา ไหว้สักการค่ำเช้า ชอบเจ้าจำเริญ .....ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์) หัวข้อ: Re: ''บิดตะกูด'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 09-08-2006, 21:16 ''บิดตะกูด''
เป็นสำนวนหมายความว่า พูดบิดพริ้วพูดไม่ตรง คำว่า ''ตะกูด'' แปลว่า หางเสือเรือ บิดตะกูด คือบิดหางเสือเรือ การถือหางเสือเรือ เป็นการทำให้เรือแล่นไปตรง แต่ลักษณะที่ทำต้องบิดหางเสือไปมา เราเอาลักษณะนี้มาเปรียบเท่ากับเปรียบหางเสือเป็นลิ้นของคน ''โจรสุหรั่งฟังนางว่าช่างพูด บิดตะกูดเกเรทำเผลไพล่ จะพาเจ้าเข้าฝั่งก็ยังไกล อดอยู่ไม่ได้ดอกบอกจริงจริง'' พระอภัยมณี (ขุนวิจิตรมาตรา) หัวข้อ: Re: ''บิดตะกูด'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: THE THIRD WAY ที่ 09-08-2006, 21:31 บิดตะกูด
ในความหมายของวัยรุ่นรุ่นผม หมายถึงอาการต่อไปนี้ ลงไปเตะฟุตบอลล์ แล้วพลาดพลั้ง โดนฝ่ายตรงข้ามกระทำการโดยวิธีไดวิธีหนึ่ง ลงไปนอนดิ้นเร่าๆ บิดไปบิดมา อย่างนี้วัยรุ่นรุ่นผมเรียกว่า บิดตะกูดครับ รู้ความจริงเมื่อเกือบสายนะเนี่ย :mozilla_tongue: :mozilla_tongue: :mozilla_tongue: หัวข้อ: Re: ''บิดตะกูด'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 09-08-2006, 21:37 บิดตะกูด ในความหมายของวัยรุ่นรุ่นผม หมายถึงอาการต่อไปนี้ ลงไปเตะฟุตบอลล์ แล้วพลาดพลั้ง โดนฝ่ายตรงข้ามกระทำการโดยวิธีไดวิธีหนึ่ง ลงไปนอนดิ้นเร่าๆ บิดไปบิดมา อย่างนี้วัยรุ่นรุ่นผมเรียกว่า บิดตะกูดครับ รู้ความจริงเมื่อเกือบสายนะเนี่ย :mozilla_tongue: :mozilla_tongue: :mozilla_tongue: :mozilla_smile: :mozilla_smile: :mozilla_smile: :mozilla_smile: หัวข้อ: Re: ''บิดตะกูด'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: THE THIRD WAY ที่ 09-08-2006, 21:54 ขอบังอาจเสนอสำนวนเด็ด
อาจทำให้เจ้าของกระทู้ หัวข้อ: Re: ''บิดตะกูด'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: THE THIRD WAY ที่ 09-08-2006, 22:04 ขอบังอาจเสนอสำนวนเด็ด
อาจทำให้เจ้าของกระทู้ ต้องนั่งอมยิ้มน้ำตาเล็ด :mozilla_cry: "ดอกฟ้ากับหมาวัด" ดอกฟ้า หมายถึงสตรีที่สูงศักดิ์กดิ์ สตรีที่เพียบพร้อมไปด้วยทุกสิ่งทุกอย่าง หมาวัด หมายความว่าบุรุษผู้ต่ำต้อย ในทุกสิ่งทุกอย่าง แต่หมาวัดบังอาจไปหลงรักดอกฟ้า ซึ่งการประสบความสำเร็จในความรัก อัตราส่วนเหมือนตลาดหุ้นไทย คือ...ต่ำมาก ดอกฟ้ากับหมาวัด จึงมิใช่ของคู่กัน นี่คือที่มาของคำว่า ดอกฟ้ากับหมาวัด..................ครับ (ใครมีตำราอื่น ว่ากันมา ของผมมีเท่านี้แล :mozilla_tongue:) หัวข้อ: Re: ''บิดตะกูด'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 09-08-2006, 22:12 ขอบังอาจเสนอสำนวนเด็ด อาจทำให้เจ้าของกระทู้ ต้องนั่งอมยิ้มน้ำตาเล็ด :mozilla_cry: "ดอกฟ้ากับหมาวัด" ดอกฟ้า หมายถึงสตรีที่สูงศักดิ์กดิ์ สตรีที่เพียบพร้อมไปด้วยทุกสิ่งทุกอย่าง หมาวัด หมายความว่าบุรุษผู้ต่ำต้อย ในทุกสิ่งทุกอย่าง แต่หมาวัดบังอาจไปหลงรักดอกฟ้า ซึ่งการประสบความสำเร็จในความรัก อัตราส่วนเหมือนตลาดหุ้นไทย คือ...ต่ำมาก ดอกฟ้ากับหมาวัด จึงมิใช่ของคู่กัน นี่คือที่มาของคำว่า ดอกฟ้ากับหมาวัด..................ครับ (ใครมีตำราอื่น ว่ากันมา ของผมมีเท่านี้แล :mozilla_tongue:) นั่งติ๊กตอก..ติ๊กต้อก..ด้วยความระทึกใจอยู่พอประมาณ และในที่สุดก็บรรลุวัตถุประสงค์ของคุณ THE THIRD WAY :lol: :lol: หัวข้อ: Re: ''บิดตะกูด'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: THE THIRD WAY ที่ 09-08-2006, 22:14 :mozilla_tongue: :mozilla_tongue: :mozilla_tongue:
เขินนะเนี่ย ไปแล่ะ หัวข้อ: Re: ''บิดตะกูด'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 09-08-2006, 22:20 :mozilla_tongue: :mozilla_tongue: :mozilla_tongue: เขินนะเนี่ย ไปแล่ะ จารีบไปไหน เด๋วดอกฟ้าฯเลี้ยงค็อกเทลสักแก้วนึง แวะไปที่บาร์ค็อกเทลริมน้ำก่อนนะคร้า.....อิ อิ :lol: หัวข้อ: Re: ''บิดตะกูด'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: so what? ที่ 09-08-2006, 22:25 :mozilla_tongue: :mozilla_tongue: :mozilla_tongue: เขินนะเนี่ย ไปแล่ะ เข้ามาดูหนุ่มขี้อายครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า คล้ายๆสำนวนหมาเห่าเครื่องบินอะไรเทือกนั้นแหละครับ ขอถามเพิ่มครับ แล้ว ดอกฟ้ากับโดมผู้จองหอง หมายถึง ????? หัวข้อ: Re: ''บิดตะกูด'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 09-08-2006, 23:04 :mozilla_tongue: :mozilla_tongue: :mozilla_tongue: เขินนะเนี่ย ไปแล่ะ เข้ามาดูหนุ่มขี้อายครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า คล้ายๆสำนวนหมาเห่าเครื่องบินอะไรเทือกนั้นแหละครับ ขอถามเพิ่มครับ แล้ว ดอกฟ้ากับโดมผู้จองหอง หมายถึง ????? ดอกฟ้าฯกับโดมผู้จองหอง อันนั้นเป็นละครค่ะ ในพจนานุกรมไม่มีค่ะ :mozilla_smile: หัวข้อ: Re: ''บิดตะกูด'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: 999 ที่ 09-08-2006, 23:08 อ่านกระทู้นี้วันนี้ได้แต่อมยิ้ม :mozilla_tongue: :mozilla_cool: หัวข้อ: Re: ''บิดตะกูด'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: so what? ที่ 09-08-2006, 23:10 ดอกฟ้าฯกับโดมผู้จองหอง อันนั้นเป็นละครค่ะ ในพจนานุกรมไม่มีค่ะ :mozilla_smile: มิน่า ผมถึงไม่รู้ ขอยืมมุกหน้าเหลี่ยมมาออกตัวหน่อย :mrgreen: หัวข้อ: Re: ''บิดตะกูด'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 09-08-2006, 23:13 ดอกฟ้าฯกับโดมผู้จองหอง อันนั้นเป็นละครค่ะ ในพจนานุกรมไม่มีค่ะ :mozilla_smile: มิน่า ผมถึงไม่รู้ ขอยืมมุกหน้าเหลี่ยมมาออกตัวหน่อย :mrgreen: มิเป็นไรมิได้ค่ะ เพราะดอกฟ้าฯเริ่มจะ ''ชิน'' กับมุกพี่เหลี่ยมแบบนี้ค่ะ :lol: หัวข้อ: Re: ''บิดตะกูด'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: THE THIRD WAY ที่ 09-08-2006, 23:18 ประทานโทษ
ย่องมาใหม่ ทำไมไม่ตั้ง หรือเรียกว่า ดอกแก้วกับแมววัด ซึ่งก็ดูดีนะ :mozilla_tongue: หรือ ดอกกุหลาบกับคนหาบไข่ปิ้ง ดอกลิลี่กับผีดิบ ดอกอุตพิตกับริดสิดวง แว่บ........................ :arrow: หัวข้อ: Re: ''บิดตะกูด'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 09-08-2006, 23:37 ประทานโทษ ย่องมาใหม่ ทำไมไม่ตั้ง หรือเรียกว่า ดอกแก้วกับแมววัด ซึ่งก็ดูดีนะ :mozilla_tongue: หรือ ดอกกุหลาบกับคนหาบไข่ปิ้ง ดอกลิลี่กับผีดิบ ดอกอุตพิตกับริดสิดวง แว่บ........................ :arrow: ประทานโทษค่ะ ก่อนหน้านี้ก็เคยพยายามนะคะ เช่น................................... ดอกลำพูคู่หิ่งห้อย......... ดอกกระทกรกกับครกกระเดื่อง... ดอกหน้าวัวกลัวโดนขวิด..... ดอกมะขวิดกับมดคันไฟ.... แหะๆ.....เยอะแยะไปหมดเร้ยยยค่า :lol: หัวข้อ: Re: ''น้ำบ่อน้อย'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 29-08-2006, 19:53 ''น้ำบ่อน้อย''
เป็นสำนวนหมายความว่าน้ำลาย เองเป็นทหารพระจักริศ เพลิงนิดเท่านี้ไม่ดับได้ น้ำในบ่อน้อยจะไว้ไย เหตุใดไม่ดับอัคคี รามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ รัชกาลที่ ๑ หัวข้อ: Re: ''น้ำบ่อน้อย'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 29-08-2006, 19:56 หนูนึกว่า พี่ดอกฟ้าจะทิ้งกระทู้นี้ไปซะแล้ว อิอิ
มาแต่หัวค่ำแบบนี้ก็ดีนะค่ะ อนาได้เล่นด้วย :mozilla_kiss: หัวข้อ: Re: ''น้ำบ่อน้อย'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 29-08-2006, 20:03 หนูนึกว่า พี่ดอกฟ้าจะทิ้งกระทู้นี้ไปซะแล้ว อิอิ มาแต่หัวค่ำแบบนี้ก็ดีนะค่ะ อนาได้เล่นด้วย :mozilla_kiss: ยังไงก็ไม่ทิ้งค่ะ พักนี้ธุรกิจมันรัดตัวค่ะ :mozilla_smile: หัวข้อ: Re: ''น้ำบ่อน้อย'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ภูพาน ที่ 29-08-2006, 20:30 น่ารักจัง...พี่สาวกับน้องสาวคู่นี้(ชื่นชม)... :mozilla_smile:
หัวข้อ: Re: ''ตาบอดสอดตาเห็น'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 01-10-2006, 01:53 ''ตาบอดสอดตาเห็น''
สำนวนนี้หมายได้สองทาง ทางหนึ่งหมายถึงตาบอดจริง หรือตาบอดไม่เห็นอะไรเลย แต่แสดงว่าเห็น อีกทางหนึ่งไม่ได้หมายถึงตาบอดจริง หมายถึงไม่ได้รู้ไม่ได้เห็นอะไร ด้วยตนเอง แต่แสดงว่ารู้เห็น สรุปแล้วก็คงอยู่ในความหมายว่า ไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย แต่อวดรู้ ''อนึ่งนั้นตัณหาตาไม่มี ไม่เห็นที่ทางสวรรค์เป็นสันดาน อนึ่งว่าตาบอดสอดตาเห็น ให้คิดเป็นทางธรรมพระกรรมฐาน'' ...พระอภัยมณี ''ตาบอดสอดเรื่องรู้ ราวกะเห็น หาแต่เรื่องเคืองเข็ญ ขอดพร้อง บาปบอดวิบากเป็น บาปปาก อีกนา ยังบ่เจียมตาต้อง สอดรู้เอาอะไร'' โคลงสุภาษิตเก่า ''ตา ไม่ดูรู้เรื่อง สำคัญ บอด หลับกลับเถียงดัน ถ่อถ้อย สอด เสือกพูดเสกสรร ผสมสิง นาแฮ เห็น เมื่อเป็นเด็กน้อย อย่างนี้ ฤาไฉน'' โคลงกระทู้สุภาษิต (อ้างอิงจาก สำนวนไทย ขุนวิจิตรมาตรา) หัวข้อ: Re: ''ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 15-11-2006, 19:08 ''ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก''
: อบรมสั่งสอนเด็กให้ประพฤติดีได้ง่ายกว่า อบรมสั่งสอนผู้ใหญ่ ภูมิปัญญาของไทยไม่ว่าจะเป็นการจักสานวัสดุเครื่องใช้ หรือสร้างบ้าน ทำเครื่องเรือน และแม้กระทั่งงานไม้ดัดโบราณที่ดัดไม้ข่อยและตะโก ให้เป็นรูปสัตว์หรือรูปร่างต่างๆ ตามความต้องการนั้น เขาจะทำตั้งแต่ ไม้เหล่านี้ยังเขียวเพราะเป็นไม้ที่ยังอ่อนอยู่ แม้ต้องใช้เวลายาวนาน กว่าจะได้ผลเป็นรูปร่างตามต้องการ แต่งานเหล่านี้ก็สอนให้รู้จักถึง ความอดทน อดกลั้น เพราะถ้าใจร้อน ใจเร็ว เอาไม้แก่มาดัด ก็จะหักไม่สามารถขึ้นรูปได้ตามที่ต้องการ งานเหล่านี้เกิดเป็นภูมิปัญญา นำมาพิจารณาการอบรมสั่งสอนคน ดังพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายไว้ว่า อบรมสั่งสอนเด็กให้ประพฤติดีได้ง่ายกว่าอบรมสั่งสอนผู้ใหญ่ เพราะผู้ใหญ่ ก็เปรียบเสมือนไม้แก่ที่ยากแก่การดัดแล้ว ข้อมูลที่มา....จากหนังสือ สำนวนไทย หัวข้อ: Re: ''บิดตะกูด'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 15-11-2006, 19:25 ดอกฟ้าฯกับโดมผู้จองหอง อันนั้นเป็นละครค่ะ ในพจนานุกรมไม่มีค่ะ :mozilla_smile: มิน่า ผมถึงไม่รู้ ขอยืมมุกหน้าเหลี่ยมมาออกตัวหน่อย :mrgreen: มิเป็นไรมิได้ค่ะ เพราะดอกฟ้าฯเริ่มจะ ''ชิน'' กับมุกพี่เหลี่ยมแบบนี้ค่ะ :lol: อิอิ ตอนนี้มีละครเรื่องใหม่ค่ะ มีชื่อว่า "ภารกิจพิชิตดอกฟ้า" :slime_inlove: เมื่อคืนนี้ ฉายเป็นตอนแรก...ดูผ่านตาแว่บ ๆ เหมือนกับว่า ดอกฟ้า ดอกนี้จะเป็นราชนิกูล ส่วนชายหนุ่มที่ได้รับมอบหมายภารกิจจากลิขิตสวรรค์ ต้องทำงานหารายได้พิเศษด้วยการชกมวยจนบอบช้ำไปทั่วสรรพางค์กาย :slime_inlove: แฮะ ๆ ความจริงอยากได้สำนวนที่มีความหมายเกี่ยวกับ แถ ตะแบง แสร้งไร้เดียงสา จะขอเก็บไปใช้ที่ "สภากาแฟ" หน่อยค่ะ :mrgreen: ปล. พึ่งจะไล่อ่านกระทู้นี้จบไปค่ะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะสำหรับหลาย ๆ สำนวนที่ไม่เคยทราบมาก่อน :slime_v: หัวข้อ: Re: ''ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 15-11-2006, 19:32 แฮะ ๆ ความจริงอยากได้สำนวนที่มีความหมายเกี่ยวกับ แถ ตะแบง แสร้งไร้เดียงสา จะขอเก็บไปใช้ที่ "สภากาแฟ" หน่อยค่ะ
อิ อิ เดี๋ยวจัดให้ค่ะ โปรดรอสักครู่ค่ะเม่ย :slime_smile: :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: ''ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 15-11-2006, 19:39 พี่เม่ยขา หนูอนาแอบอ่าน พี่เม่ยด่านักการเมืองทุกวัน ยังเจ็บๆๆแสบๆๆคันๆๆ ยังจะเอาสำนวนไปว่าเขาอีก :slime_v: :slime_v:
หัวข้อ: Re: ''ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 15-11-2006, 19:42 พี่เม่ยขา หนูอนาแอบอ่าน พี่เม่ยด่านักการเมืองทุกวัน ยังเจ็บๆๆแสบๆๆคันๆๆ ยังจะเอาสำนวนไปว่าเขาอีก :slime_v: :slime_v: :slime_bigsmile: :mrgreen: :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: ''ร้อยสี ร้อยอย่าง'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 15-11-2006, 20:16 ''ร้อยสี ร้อยอย่าง''
เป็นสำนวนหมายความว่า ทำ หรือพูด หรือแสดงต่างๆนานา คำว่า ''สี'' หมายถึงลักษณะที่แสดงออก เช่น สีหน้า ทำสีหน้าอย่างนั้นอย่างนี้ สีปาก สีปากดี สีมือ สีมือดี (สีปาก สีมือมักเขียนผิดไปเป็น ฝีปาก ฝีมือ) ''เอวเอยเอวบาง บ่นตะบอยร้อยอย่างร้อยสี พี่มากล่าวแต่โดยดี อะไรนี่น้อยหรือทำดื้อดึง'' (คาวี พระราชนิพนธ์ รัชกาลที่๒) ''ปากกล้าด่าทอไม่ท้อถอย ออกคอยสกัดรีสกัดขวาง น่าชังจังฑาลทำรานทาง ร้อยสีร้อยอย่างช่างไม่อาย'' (สังข์ทองพระราชนิพนธ์ รัชกาลที่๒) อ้างอิงจาก หนังสือสำนวนไทย ขุนวิจิตรมาตรา หัวข้อ: Re: ''ร้อยสี ร้อยอย่าง'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: so what? ที่ 15-11-2006, 22:38 ''ร้อยสี ร้อยอย่าง'' ... อ้างอิงจาก หนังสือสำนวนไทย ขุนวิจิตรมาตรา ผมเคยอ่านเจอในหนังสือสี่แผ่นดิน หม่อมคึกฤทธิ์ท่านใช้คำว่า ร้อยสี พันอย่าง ครับ รู้สึกเป็นประโยคหนึ่งที่แม่ช้อยพูดกับแม่พลอยตอนบ้านคลองพ่อยมโดนระเบิดสงครามโลก แม่พลอยจึงไปอาศัยพักอยู่กับแม่ช้อยในวังชั่วคราวระหว่างรอการบูรณะบ้านคลองบางหลวง ผิดถูกยังไงก็ยกให้หม่อมท่านไปแล้วกันนะครับ :mrgreen: :lol: :mrgreen: หัวข้อ: Re: ''ร้อยสี ร้อยอย่าง'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 15-11-2006, 22:51 ขอเรียนชี้แจงนะคะ ภาษาไทย คำพังเพย สุภาษิต
เมื่อวันเวลาผ่านล่วงเลยไป ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่ะ อย่างเช่น คำว่า สีปาก สีมือ กลับกลายเป็นฝีปาก ฝีมือไปได้ ทุกสิ่งใดล้วนเป็นอนิจจังค่ะ หัวข้อ: Re: ''ร้อยสี ร้อยอย่าง'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 16-11-2006, 16:25 ขอบคุณค่ะ พี่ดอกฟ้า ฯ ที่ใจดีจัดให้ตามคำขอ :slime_smile:
แต่ยังมีข้อติดใจนิดนะคะว่า ถ้านำไปใช้กับใคร แล้วเธอหรือเขาคนนั้น ไม่เข้าใจ เพราะไม่รู้จริง ๆ มิได้เสแสร้ง จะมีสำนวนอื่นไว้สำรองให้ใช้ป่าวคะ :slime_cool: หัวข้อ: Re: ''ร้อยสี ร้อยอย่าง'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 16-11-2006, 21:44 ขอบคุณค่ะ พี่ดอกฟ้า ฯ ที่ใจดีจัดให้ตามคำขอ
แต่ยังมีข้อติดใจนิดนะคะว่า ถ้านำไปใช้กับใคร แล้วเธอหรือเขาคนนั้น ไม่เข้าใจ เพราะไม่รู้จริง ๆ มิได้เสแสร้ง จะมีสำนวนอื่นไว้สำรองให้ใช้ป่าวคะ คงต้องขอเรียนชี้แจงเม่ยค่ะ ........หากว่าเป็นถึงขนาดนั้น คงต้องบัญญัติศัพท์ ขึ้นมาใหม่ ใว้ใช้เฉพาะแล้วค่ะ หัวข้อ: Re: ''กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้'' ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 01-01-2007, 20:14 กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้
-ไม่ทันท่วงที หมายถึง การทำอะไรไม่รอบคอบ นึกแต่ทางได้ทางได้ฝ่ายหนึ่ง ไม่นึกทางเสียอีกฝ่ายหนึ่ง ได้ทางหนึ่งมาในเวลาเดียวกันอีกทางก็เสียไป ในเสภาขุนช้างขุนแผนมีกลอนกล่าวถึงสำนวนนี้ไว้ว่า "อุปมาเหมือนงาระคนถั่ว ประดังไฟใส่คั่วกระเบื้องนั่น งาร้อนฤาจะผ่อนให้ถั่วทัน พอสุกถั่วก็จะอันตรายงา" เป็นคำพูดของสายทองที่ไปต่อว่าพลายแก้วว่าได้นางพิมแล้วก็ทำห่างเหินไป ขุนช้างกำลังมาขอนางพิม จะคิดอย่างไรก็คิดเสียให้ทันท่วงที มิฉะนั้นจะต้องเสีย นางพิมไป เป็นคำอธิบายตัวสำนวนว่า เอาถั่วกับงามาคั่วพร้อมกัน ถั่วเป็นของสุกช้ากว่างา กว่าจะสุกงาก็ไหม้ เปรียบได้กับพลายแก้วที่รักนางพิม แล้วขุนช้างมาขอมัวแต่รีรอ ทำช้าไปก็จะต้องเสียนางพิม "ฝ่ายเขมรอยู่ใกล้กับเมืองญวน เมื่อถูกญวนรบกวนก็จะยับไปเสียก่อน เหมือนคั่วถั่วกับงาพร้อมกัน กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้'' (ชุมนุมพระราชาธิบายในรัชกาลที่๔) เราต้องช่วยกันให้ความรู้แก่คนทั่วประเทศสยาม....ให้ทันท่วงที อย่าให้เป็นกว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ คือพอเกิดประเทศเสร็จแล้ว ราษฎรของเราก็จนกรอบกันหมด ถ้าไม่เป็นคนโซก็เป็นคนโจรเลยที่เดียว (เรื่องสยามใหม่ของครูเทพ เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี) อ้างอิงจาก.....ขุนวิจิตรมาตรา หัวข้อ: Re: ''โค่นกล้วยอย่าไว้หน่อ" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 09-01-2007, 20:51 โค่นกล้วยอย่าไว้หน่อ
สำนวนนี้มีต่อไปอีกว่า "ฆ่าพ่ออย่าไว้ลูก" หมายความว่า ถ้าเอาหน่อไว้ หน่อก็เจริญโตขึ้นอีก ใช้ตลอดถึงการทำลายล้างคนพาลสันดานโกงต่างๆ "การโค่นกล้วยอย่าไว้ หน่อแนม มักจะเลือกแทรกแซม สืบเหง้า โค่นพาลพวกโกงแกม กุดโคตร มันแฮ จึ่งจักศูนย์เสื่อมเค้า เงื่อนเสี้ยนศัตรู'' โคลงสุภาษิต ขุนวิจิตรมาตรา หัวข้อ: Re: ''เงื้อง่า ราคาแพง" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 28-02-2007, 00:00 เงื้อง่าราคาแพง
ในกฎหมายลักษณะวิวาทครั้งกรุงศรีอยุธยา มีมาตราหนึ่งกล่าวว่า "ถ้าเงือดเงื้อจะชกจะตี จะถอง จะถีบ จะฟัน จะแทงท่านไซร้ ให้ไหมกึ่งชกตีฟันแทงถูก" ตามกฎหมายนี้แปลว่าแค่เงื้อจะทำเท่านั้นก็ถูกปรับไหมครึ่งหนึ่งของการกระทำลงไปจริงๆ โบราณเขาจึงพูดกันเป็นสำนวนว่า "เงื้อง่าราคาแพง" เท่ากับว่าเมื่อจะทำก็ทำลงไปเลย ดีกว่าจะมัวเงื้ออยู่ ถูกปรับเปล่าๆ ไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย เงื้อง่าราคาแพง เป็นสำนวนเก่าสำนวนหนึ่ง .....สง่า กาญจนาคพันธุ์ หัวข้อ: Re: ''เงื้อง่า ราคาแพง" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: THE THIRD WAY ที่ 28-02-2007, 08:56 ภาษิตจีน "รู้ใจไม่รู้เมา"
และที่เขาขยายความให้งามหรู "เสพสุราพันจอก" บอกลองดู "กับเพื่อนผู้รักใคร่ไม่รู้เมา" ภาษิตไทย "มือที่หงายแล้วกำ" หรือจะสู้ "มือคว่ำแล้วแบ" เล่า เพื่อนน้ำมิตรสนิทรู้คู่ใจเรา ไม่คิดเอาคิดไว้แต่ให้เกลอ :slime_surrender: หัวข้อ: Re: ''หุงข้าวประชดหมา ปิ้งปลาประชดแมว" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 10-03-2007, 18:52 "หุงข้าวประชดหมา ปิ้งปลาประชดแมว"
เป็นสำนวนหมายความว่า แกล้งให้มากเพื่อประชดใครที่อยากได้มาก แล้วกลับเป็นผลเสียแก่ตนเอง ผลดีกลับกลายไปได้กับคนนั้น ทำแดกดันในสิ่งที่ไม่ควรทำ สำนวนนี้เอาหมาแมวมาเปรียบ คือเห็นหมากินข้าวมาก ก็หุงข้าวมากให้หมากินหมาก็ชอบไป แมวกินปลาย่าง ปิ้งปลาให้แมวกิน แมวก็ชอบไป หุง สารใส่หม้อล้น เหลือหลาย ข้าว คลุกใส่กระทาย ทุ่มใว้ ประชด สุนัขให้หาย โลภลัก หายฤา หมา เปรียบข้าชั่วใช้ ยิ่งให้ ยิ่งกิน ปิ้ง มัจฉาใหญ่น้อย นับอนันต์ ปลา สุกเสร็จดึงดัน แดกให้ ประชด แมวจะให้มัน หายละโมบ หายฤา แมว เช่นบ่าวชั่วใช้ ยิ่งให้ยิ่งเหิม (โคลงสุภาษิตเก่า) อ้างอิงจากที่เดิม................ หัวข้อ: Re: ''รำไม่ดีโทษปี่พาทย์" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 26-05-2007, 20:39 รำไม่ดีโทษปี่พาทย์
เป็นสำนวนหมายความว่า ตัวเองทำไม่ดี ทำไม่ถูก หรือทำผิดแล้วไม่รู้ หรือไม่ยอมรับว่าตัวผิด กลับไปซัดโทษเอาคนอื่น มูลของสำนวนมาจากการฟ้อนรำ ทำท่าที่มีการบรรเลงปี่พาทย์ประกอบ ปี่พาทย์เป็นหลักของการรำ ลีลาท่ารำต้องให้เข้ากับกระบวนปี่พาทย์ ผู้รำชำนาญก็รำเข้ากับปี่พาทย์ได้งาม ถ้าไม่ชำนาญก็ผิดจังหวะพลัดพลาดไปไม่งาม คำว่า "รำไม่ดีโทษปี่พาทย์" ก็คือ ตนรำไม่ดีเองแล้วไปโทษปี่พาทย์ว่าทำเพลงผิด ในตำราท่าละครมีกลอนว่า "แม้ชำนาญการฝึกรู้ลึกลับ บทสำหรับท่าทีที่แอบแฝง ย่อมเจนจัดคัดลอกออกสำแดง แม้นจะแกล้งทำบ้างก็ยังดี หากว่าไม่เชี่ยวชาญการฝึกหัด ถึงจะตัดตามต้อยสักร้อยสี ไม่นิ่มนวลยวนยลกลวิธี อาจโทษปี่พาทย์กลองรับร้องรำ" ดังนี้ใครทำไม่ดีเอง แล้วกลับไปโทษคนอื่น จึงพูดกันเป็นสำนวนว่า "รำไม่ดีโทษปี่พาทย์ ขี้ราดโทษร่อง" ญี่ปุ่นมีสำนวนคล้ายๆกัน อย่างนี้ว่า "ค้างคาวเอาหัวลง แล้วโทษว่าโลกกลับ" สุภาษิตของไทยเรามีอยู่อันหนึ่ง ซึ่งเรารู้จักและมักใช้อยู่บ่อยๆ คือ "รำไม่ดีโทษพิณพาทย์" การเอาความผิดไปป้ายผู้อื่นเช่นนี้เป็นธรรมดาของผู้ที่เชื่อตนจนไม่ยอมรู้สึก (หรือถึงแม้รู้สึกแล้วก็ไม่ยอมรับ) ว่าตัวอาจประพฤติผิดพลาดพลั้งไปได้บ้าง ความเห็นรามจิตติ... รำชั่ว ตัวบ่เชื้อ ชาตรี โทษพาทย์ ว่าพลาดดี บ่ต้อง ขี้ราด ชาติอัปรีย์ แปรพากย์ โทษร่อง ช่องชั่วพร้อง เพราะนั้นใครเห็น โคลงสุภาษิตเก่า.... จาก....หนังสือสำนวนไทย :slime_worship: หัวข้อ: Re: ''เหยียบแผ่นดินผิด" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 25-08-2007, 01:15 เหยียบแผ่นดินผิด
เป็นสำนวนหมายความว่า มีความนิยมหรือคิดเห็นผิดเพศผิดพวก สำนวนนี่มุ่งเอาการเกิด คือเกิดมาผิดพวก เช่น เกิดในพวกที่เขานิยมอย่างหนึ่ง กลับไปนิยมอีกอย่างหนึ่ง หรือเกิดในชาติหนึ่งภาษาหนึ่ง แต่ไปนิยมต่างชาติ ตกว่าทำอะไรหรือนิยมอะไรแตกพวกออกไปเรียกว่า "เหยียบผิดแผ่นดิน" "ทั้งสามนางต่างว่าหนักหนานัก เหมือนเลี้ยงรักลูกเสือร้ายเหลือแสน จะช่วยชุบอุปถัมภ์กลับทำแค้น เหมือนเหยียบแผ่นดินผิดจนจิตต์ใจ" พระอภัยมณี .....ขุนวิจิตรมาตรา...... หัวข้อ: Re: ''คนเรามีต่างต่าง" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 03-10-2007, 23:38 จริงจริงหนอคนเรามีต่างต่าง
ทั้งรูปร่างกิริยาแสนน่าขัน บางคนมีแต่สนุกทุกคืนวัน หัวเราะงันเหมือนนกแก้วแจ้วแจ้วไป บางคนหุบปากไว้ไม่ยิ้มหัว จำอวดเล่นรอบตัวหาขันไม่ ไม่รู้จักสนทนาฮากับใคร เหมือนเป็นไข้ไม่รู้สร่างไม่วางวาย เวนิสวาณิช... รัชกาลที่ ๖ หัวข้อ: Re: ''ตีงูให้หลังหัก" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 04-10-2007, 01:37 ตีงูให้หลังหัก
ประเพณีตีงูให้หลังหัก มันก็มักทำร้ายเมื่อภายหลัง จระเข้ใหญ่ไปถึงน้ำมีกำลัง เหมือนเสือขังเข้าดงก็คงร้าย อันแม่ทัพจับได้แล้วไม่ฆ่า ไปข้างหน้าศึกใหญ่ขึ้นใจหาย ต้องตำรับจับให้มั่นคั้นให้ตาย จะทำภายหลังยากลำบากครัน พระอภัยมณี สุนทรภู่.... หัวข้อ: Re: ''เกิดเป็นคน" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 11-10-2007, 21:49 เกิดเป็นคน
เกิดเป็นคนก็ต้องทนให้คนด่า จะทำดีทำบ้าถูกด่าหมด ทำซื่อซื่อเขาก็ด่าว่าไม่คด ทำเลี้ยวลดเขาก็ด่าว่าไม่ตรง พโยม โรจนวิภาต หัวข้อ: Re: ''เกิดเป็นคน" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: เล่าปี๋ ที่ 12-10-2007, 01:22 อ่านตามมาสองคืน ถึงจะจบอ่ะครับ ขอขอบคุณคุณ ดอกฟ้ากับหมาวัด เป็นอย่างยิ่ง ที่นำเอาภาษาไทยวันละคำและ สำนวนไทย มาให้อ่านครับ ไม่ทราบว่าคุณ ดอกฟ้ากับหมาวัด เป็นอาจารย์สอนอยู่มหาลัยไหนครับ? :slime_v: หัวข้อ: Re: ''ภาษาไทย" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 17-10-2007, 01:51 ภาษาไทย
ในโลกนี้มีอะไรเป็นไทยแท้ ของไทยแน่นั้นหรือคือภาษา ทั้งคนมีคนจนแต่ต้นมา ใช้ภาษาไทยทั่วทุกตัวคน เด็กตะโกนกึกก้องร้องเรียกแม่ เริ่มใช้คำไทยแท้มาแต่ต้น ไม่มีต่างภาษามาปะปน ทุกทุกคนก็สุขสบายใจ แม่อยากให้ลูกรักได้พักผ่อน ก็ไกวเปลให้นอนจนหลับไหล สำเนียงกล่อมร่ายร้องทำนองไทย ติดหูแต่สมัยโบราณมา พอโตขึ้นส่งเจ้าเข้าโรงเรียน ได้เริ่มอ่านเริ่มเขียนเรียนภาษา ภาษาไทยนั้นได้พัฒนา เป็นภาษาขีดเขียนได้เรียนกัน บ้างชอบอ่านถ้อยคำทำนองเสนาะ ภาษาไทยไพเราะไม่แปรผัน มีเสียงวรรณยุกต์ทุกทุกชั้น ขับร้องกันง่ายๆง่ายคล้ายดนตรี ฉะนั้นหรือจะไม่ให้รักเจ้า ภาษาไทยของเรามีศักดิ์ศรี เกิดเป็นไทยคนหนึ่งเราจึงมี ของดีดีชื่อว่า "ภาษาไทย" ม.ล. ปิ่น มาลากุล หัวข้อ: Re: ''ภาษาไทย" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 17-10-2007, 02:02 อ่านตามมาสองคืน ถึงจะจบอ่ะครับ ขอขอบคุณคุณ ดอกฟ้ากับหมาวัด เป็นอย่างยิ่ง ที่นำเอาภาษาไทยวันละคำและ สำนวนไทย มาให้อ่านครับ ด้วยความยินดีอย่างยิ่งค่ะ....ที่มีคนสนใจ ไม่ทราบว่าคุณ ดอกฟ้ากับหมาวัด เป็นอาจารย์สอนอยู่มหาลัยไหนครับ? :slime_v: เป็นแค่คนธรรมดาที่ชื่นชมภาษาไทยเท่านั้นค่ะ :slime_smile: หัวข้อ: Re: ''ฆ้องปากแตก" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 10-11-2007, 00:17 ฆ้องปากแตก
ฆ้องปากแตกเป็นสำนวนหมายถึงพูดมาก เที่ยวพูดอะไรต่ออะไรต่างๆ สำนวนนี้มีมูลมาจากสมัยโบราณ เมื่อทางบ้านเมืองต้องการให้ราษฎรรู้พระราชกำหนดกฎหมายหรือคำสั่งอันใด ก็ให้เจ้าพนักงานถือฆ้องไปตีประกาศให้รู้เรียกกันว่า "ตีฆ้องร้องป่าว" ธรรมเนียมนี้ได้เป็นมูลที่มาของสำนวน โคลงสุภาษิตมีว่า คนไรไร้ลาภสิ้น เสื่อมยศ ญาติมิตรไม่มีหมด พวกพ้อง อุตส่าห์เที่ยวกล่าวพจน์ พยุงช่วย ตนแฮ เปรียบดังคนเคาะฆ้อง ปากร้าว ฤาดัง นี้เป็นคำเปรียบเทียบไปอย่างหนึ่ง ส่วนที่เข้าใจกันทั่วๆไป นั้นหมายความว่า ปากฆ้องนั้นร้าวแตกเพราะถูกเคาะ โดยที่นำมาใช้มาก หรือจะเปรียบว่า "ฆ้อง" นั้นคือ "คน" และ "ปากแตก" หมายถึง ปากที่พูดอะไรๆ กระจายไปมากก็ได้ จาก...หนังสือ สำนวนไทย หัวข้อ: Re: ''ฆ้องปากแตก" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 21-11-2007, 18:33 กระทู้นี้ดีนะครับ มีคำอธิบายด้วย.. คำว่ากิ๊กเป็นสำนวนไทยเปล่าครับ? หรืออย่างจิ๊กโก๋ นี่ เปรียบกับเกรียน? แสดงว่าคนหนุ่มคนสาว ออกมาทำงานอกบ้านกันมากขึ้น เฒ่าเพราะอยู่นาน เด็กหนวด เยอะแยะเหมือนกัน อย่างเสือไม่กินเนื้อเสือก็ใช้ได้ไม่ตลอดแระ :slime_doubt: :slime_cool: :slime_smile: หัวข้อ: Re: ''กิ๊ก ย่อมาจากคำว่ากุ๊กกิ๊ก" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 23-11-2007, 23:07 กระทู้นี้ดีนะครับ มีคำอธิบายด้วย.. คำว่ากิ๊กเป็นสำนวนไทยเปล่าครับ? คำถามที่ถามมาตอบยากจังค่ะ แต่ก็ไปพยายามไปหามาปรากฎว่าสมมุติฐานที่คิดไว้เป็นจริง .................................... " ผลวิจัย เรื่อง "กิ๊ก" " กิ๊ก! มีคำใหม่ของ วัยรุ่นขาโจ๋ เกิดขึ้นมาอีกแล้ว คำๆนั้น คือ กิ๊ก ว่ากันว่า กิ๊ก มีมานานแล้ว แต่มาดังเอาตอนนี้ เพราะกลุ่มนิสิต คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำวิจัยเรื่อง กิ๊ก มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน และเผยแพร่ผลวิจัยออกมา เขาบอกว่า กิ๊ก น่าจะย่อมาจากคำว่า กุ๊กกิ๊ก ซึ่งแแปลว่า กะหนุงกะหนิงจู๋จี๋กัน ถ้าพูดว่า กุ๊กกิ๊ก มันอาจจะยาวไป เลยย่อสั้นๆเหลือเพียง กิ๊ก เขาบอกว่า กิ๊ก คือ ความรักในหมู่วัยรุ่นที่เป็นมากกว่าเพื่อน มีความรู้สึกพิเศษ ผูกพันกันคิดถึงกัน แต่ไม่ใช่แฟนกัน เขาบอกว่า กิ๊ก เป็น สับเซ็ต ของ ชู้ และเป็น ยูเนียน กับ การมีเพศสัมพันธ์ สับเซ็ต และ ยูเนียน เป็นศัพท์แสงทางสถิติ สับเซ็ต หมายถึงส่วนย่อย ส่วน ยูเนียน หมายถึงคาบเกี่ยว ยูเนียน ของ กิ๊ก กับ การมีเพศสัมพันธ์ หมายถึงว่าอาจมีหรืออาจไม่มีเพศสัมพันธ์ก็ได้ ขอให้ขึ้นอยู่กับใจปรารถนา เป็นสำคัญ เขาบอกว่า โดยภาพรวมแล้ว กิ๊ก คือ คนที่เราสนใจมากกว่าเพื่อน รู้สึกพิเศษเกินเพื่อน แต่ไม่ได้คิดกับเขาแบบแฟนไม่รู้สึกพิศวาส ไม่อยากอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า ไม่อยากอยู่บ้านเดียวกัน ไม่อยากนอนเตียงเดียวกัน แต่ถ้าเห็นหน้ากันทุกวันคุยกันนานๆก็คงดี เขาบอกว่า เป็นไปได้ที่ กิ๊ก คือคนที่กำลังจะมาเป็นแฟน จีบกันอยู่ในขั้นศึกษาดูใจลองคบกันแต่ไม่ผูกมัดกันให้อิสระและเปิดโอกาสให้ทั้งคู่ไปศึกษาผู้อื่นได้เพื่อค้นหาคนที่ใช่และชอบจริงๆ วลีเด็ดๆ ของ กิ๊ก คือ กิ๊กไม่ใช่ชู้แต่ถ้าแฟนรู้ต้องเลิก และ รักเหมือนแฟน แสดงเหมือนเพื่อน เขาบอกว่า คำที่สามารถใช้แทน กิ๊ก ได้คือ คู่ขา โปรคู่รัก ชู้ คู่ควง เด็ก แควน(ควาย+แฟน) และคนพิเศษ วิจัยดังกล่าวให้กฏ 10 ข้อ ของการเป็นกิ๊กไว้ว่า หนึ่ง ห้ามหึงหวง สอง มีอะไรกันได้ แต่ไม่ใช่ของกันและกัน สาม ไม่มีสิทธิเรียกร้องมากเกินเหตุ สี่ ห้ามใช้กิ๊กร่วมกันกับเพื่อน ห้า กิ๊กอาจเปลี่ยนสถานะได้ และห้ามเศร้า หก ถ้ากิ๊กคิดจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตน โดยไม่ใช่เราห้ามฟูมฟาย ต้องยอมรับด้วยความยินดี และค่อยตกลงกันทีหลังว่า จะกิ๊กกันต่อไปหรือไม่ เจ็ด ไม่จำเป็นต้องเทคแคร์กันเกินเหตุ เพราะเป็นแค่กิ๊ก แปด กิ๊กไม่ได้จำกัดจำนวน เป็นอินฟินิตี้ ไม่จำกัดเพศ วัย และ สถานภาพ ถ้าไม่กลัวตาย เพราะเอดส์ เก้า กิ๊กสำคัญรองจากแฟน สิบ กิ๊กยังไงก็เป็นกิ๊ก ต้องเจียมตัว ข้อสังเกตเกี่ยวกับ กิ๊ก มีว่า แม้ กิ๊ก ไม่ได้เน้นเรื่องเพศสัมพันธ์ แต่ความใกล้ชิดทำให้มีโอกาสพลาดพลั้งเปลืองเนื้อเปลืองตัวได้หลายๆครั้ง นำไปสู่เพศสัมพันธ์สลับคู่ แลกเปลี่ยนคู่นอน ท้องขึ้นมาก็ทำแท้ง ตามคอนเซปต์ที่ว่า ทุ่มเท ทิ่มแทง ทำแท้ง ทอดทิ้ง และนี่คือ วัยรุ่นบ้านเราในยุคนี้ ยุคที่ หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นได้เสมอ ทั้งๆที่ไม่มีใครเคยคาดคิดว่าจะเกิด ยุคที่ความเละเทะ และ ความฟอนเฟะ วิ่งเข้ามาแทน ความดีงาม อยากทำอะไรทำ โดยไม่คำนึงถึง วัฒนธรรมเก่าแก่ซึ่งควรอนุรักษ์เอาไว้แต่อย่างใด ยุคที่ วัยรุ่นที่จะปล่อยตัวปล่อยใจไปตาม ครรลองของอารมณ์ อยาก คบใคร ก็คบไป อยาก มีเพศสัมพันธ์เมื่อใด ก็มีไป อยาก จะนอกใจใครเมื่อไหร่ก็ทำไป อยาก จะเลิกเมื่อใดก็เลิกได้ สังคมไทย กับ ความซื่อสัตย์ภักดี ดูจะห่างเหินกันมากขึ้นทุกทีทุกที ยุคที่ ความเจริญทางวัตถุมีมากขึ้น แต่ความเจริญทางด้านจิตใจมีมากแค่ไหน หลายคนหลายฝ่ายยังสงสัยอยู่นัก กิ๊ก เป็นเพียงหนึ่งในร้อยของคำใหม่ๆที่บังเกิดขึ้นมาในยุคนี้ สมควรอย่างยิ่งที่คณะ ครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยน่าจะทำวิจัยต่อไปอีกถึง คำที่ฟังแล้วน่าเป็นห่วงเป็นใยบ้านเมืองคล้ายๆกับคำว่า กิ๊ก นี้ ฟังบ่อยๆ แล้วจะได้เตือนสติผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราว่า ต่อจากนี้ไปต้องให้ความรัก ความอบอุ่นแก่ลูกหลานของเรามากกว่าที่เป็นอยู่ มิฉะนั้นวัยรุ่นประเภท กิ๊ก และ ชู้ จะเกิดขึ้น ให้เห็นแบบดาษดื่นคล้ายกับว่าเป็น เรื่องธรรมดาๆ ของประเทศไปโดยไม่รู้ตัว จาก คอลัมน์ เห็นมาอย่างไร เขียนไปอย่างนั้น โดย อนุภพ หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ 14 ม.ค. 2547 ไว้ว่างๆจะมาต่อเรื่องเกรียน และอื่นๆค่ะ :slime_smile: หัวข้อ: Re: ''เกรียน-วิกิพีเดีย" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 26-11-2007, 19:15 เกรียน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี เกรียน เป็นศัพท์สแลงแทนบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ก่อกวน ไร้เหตุผล หรือคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของสังคมอินเทอร์เน็ต บุคคลกลุ่มนี้จะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลหรือการวิเคราะห์ไตร่ตรอง อาจหมายถึงคนที่ชอบแสดงตัวว่ามีความรู้ บุคลิกภาพของเกรียน บุคคลที่อยู่ในสภาวะเกรียน อาจมีบุคลิกภาพต่อไปนี้มากกว่า 1 ข้อ มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ถึงขั้นที่เชื่อว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกเสมอ หรือสร้างความน่าเชื่อถือให้ตัวเอง มี EQ ต่ำ เนื่องจากจะแสดงออกตามอารมณ์เป็นที่ตั้ง โดยไม่คำนึงถึงเหตุผล มีความอดทนต่อสิ่งเร้าภายนอกน้อยกว่าบุคคลปกติ ใช้การแสดงออกทางวาจา (หรือข้อความที่พิมพ์) มากกว่าทางความคิด และใช้คำหยาบคายบ่อยครั้ง ไม่รู้จักมารยาทในสังคม สร้างความรำคาญและไม่คิดถึงความทุกข์ร้อนของคนรอบข้าง ชอบเรียกร้องความสนใจ สร้างประเด็นปัญหา ทำให้เกิดข้อขัดแย้งและการทะเลาะวิวาท มักจะรวมกลุ่มระหว่างเกรียนกันเอง เนื่องจากผู้อื่นไม่คบหาสมาคม ชอบคิดว่าผู้อื่นด้อยกว่าตน มักจะพยายามหาทางดูถูกผู้อื่นทุกด้าน และจะคิดว่าตนนั้นมีทุกอย่างสมบูรณ์เสมอ เอามาฝากค่ะ :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: คำว่า ''เกรียน-วิกิพีเดีย" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 26-11-2007, 19:41 ประวัติ ของคำว่า เกรียน
ในช่วงแร็กนาร็อกออนไลน์เป็นที่นิยมในระยะแรกๆ เยาวชนที่เล่นเกมนี้ยังไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะจัดสรรเวลาและค่าใช้จ่ายของตน เพื่อที่จะเล่นในร้านอินเทอร์เน็ตหรือที่บ้าน กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) จึงเข้ามาดูแลส่วนนี้โดยตรง โดยออกข้อบังคับบางประการ เช่น ห้ามเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เล่นเกมออนไลน์ทุกประเภทหลัง 22 นาฬิกา หรือห้ามเล่นเกิน 3 ชั่วโมงต่อวัน[1] ซึ่งข้อบังคับนี้ส่งผลกระทบต่อเยาวชนที่ติดเกมดังกล่าว เยาวชนบางส่วนจึงเข้าไปพูดคุยกันในเว็บบอร์ดของประมูลดอตคอม ในลักษณะของการระบายอารมณ์และกล่าวโจมตีกระทรวงไอซีที ซึ่งจุดมุ่งหมายของเว็บไซต์ดังกล่าวคือการซื้อขายสินค้าเท่านั้น แต่ภายหลังเว็บบอร์ดนั้นกลายเป็นที่รวมการแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวของเยาวชนที่ขาดการควบคุมดูแล และได้มีการกล่าววลีหนึ่งขึ้นว่า "เกรียน" เพื่อเป็นการดูแคลนเยาวชนเหล่านั้น และคำนี้ได้ถูกนำไปใช้กันอย่างกว้างขวางในเว็บบอร์ดหรือเกมออนไลน์ต่างๆ คำว่า เกรียน อาจมีที่มาจากทัศนคติของเด็กชายที่ตัดผมสั้นหัวเกรียน (ตามความหมายเดิมของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานว่า สั้นเกือบติดหนังหัว ผิวหนัง หรือพื้นที่) ซึ่งมักจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวในร้านอินเทอร์เน็ตที่ให้บริการเกมออนไลน์อยู่บ่อยๆ เนื่องจากความไม่พอใจในสถานการณ์บางอย่าง เช่นขณะเล่นเกม หรือความต้องการที่จะก่อกวนผู้อื่น และเมื่อถูกใช้บ่อยครั้งเข้า คำนี้จึงใช้แทนกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเหล่านั้นไปเสีย โดยไม่คำนึงถึงอายุหรือวุฒิภาวะ อย่างไรก็ตาม กลุ่มบุคคลเหล่านั้นมักไม่พอใจที่ถูกเรียกว่าเกรียน ซึ่งดูเหมือนเป็นการแบ่งแยกทางสังคม บางครั้งก็กลับเรียกบุคคลอื่นว่าเป็นเกรียนก็มี และเนื่องด้วยนิสัยส่วนตัวที่คิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลาง เกรียนจึงใช้ศัพท์สแลงแทนตัวอีกคำหนึ่งคือ เทพ เช่น เกรียนเทพ เป็นต้น ซึ่งใช้เปรียบว่าตนเองมีอำนาจหรือมีความยิ่งใหญ่เหนือกว่าผู้อื่น และมองผู้อื่นว่าด้อยกว่าตน เนื่องจากจุดเริ่มต้นที่เว็บไซต์หรือระบบในเกมออนไลน์บางแห่งไม่รองรับอักษรไทย จึงเขียนเป็น Inw (ไอ เอ็น ดับเบิลยู) ในลักษณะลีทซึ่งคล้ายคำว่า เทพ คำนี้สามารถพบเห็นได้บ่อยพอๆ กับคำว่าเกรียนและถูกใช้ควบคู่กันเรื่อยมา เกรียนอาจจัดได้ว่าเป็น "นูบ" (noob) ประเภทหนึ่ง ซึ่งอาจใช้ในความหมายเชิงดูหมิ่น แผลงมาจากคำว่า "นิวบี" หรือ "นูบี" (newbie: อเมริกันอ่านว่า นูบี อังกฤษอ่านว่า นิวบี) คือ ผู้มาใหม่ คนไม่ประสีประสา [2] หมายถึงบุคคลในอินเทอร์เน็ตที่เป็นสมาชิกใหม่ในเว็บบอร์ดหรือเกมออนไลน์หนึ่งๆ ที่ยังไม่รู้จักธรรมเนียมและมารยาทในสังคมนั้น และทำสิ่งที่ผิดพลาดในเรื่องที่ไม่สมควรจะผิดพลาด เป็นต้น อ้างอิงจากที่เดิม..... หัวข้อ: Re: คำว่า ''เกรียน-วิกิพีเดีย" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ ที่ 26-11-2007, 20:18 พี่ดอกฟ้าครับ ประมาณ นี้รึปล่าวครับ :slime_smile:
หัวข้อ: Re: คำว่า ''เกรียน-วิกิพีเดีย" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 26-11-2007, 20:23 พี่ดอกฟ้าครับ ประมาณ นี้รึปล่าวครับ :slime_smile: ประมาณนี้...คือประมาณไหนคะ คือว่าพี่เป็นพวกหัวเจดีย์ คนโบๆ (โบราณอ่ะ) ไม่ค่อยเข้าใจวัยรุ่นเท่าไหร่ ได้โปรดขยายความด่วนน....อิ อิ :slime_smile2: หัวข้อ: Re: คำว่า ''เกรียน-วิกิพีเดีย" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ ที่ 26-11-2007, 20:32 ประมาณนี้...คือประมาณไหนคะ คือว่าพี่เป็นพวกหัวเจดีย์ คนโบๆ (โบราณอ่ะ) ไม่ค่อยเข้าใจวัยรุ่นเท่าไหร่ ได้โปรดขยายความด่วนน....อิ อิ :slime_smile2: ขอโทสทีครับมะกี้ลืมใส่ URL http://www.nocoup.org/newwebboard/main.php?board=259916&topboard=1 :slime_smile: หัวข้อ: Re: คำว่า ''เกรียน-วิกิพีเดีย" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 26-11-2007, 20:47 น่าจะเข้าข่าย....ประมาณนั้นมังคะ :slime_bigsmile:
หัวข้อ: Re: คำว่า ''เหยียบเรือสองแคม" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 28-01-2008, 23:16 เหยียบเรือสองแคม
เป็นสำนวนหมายความว่า เข้าเป็นพวกทั้งสองฝ่ายแบบมีเล่ห์เหลี่ยม คือ ฝ่ายไหนก็ตาม ถ้าเพลี่ยงพล้ำลง ก็ผละทิ้งฝ่ายนั้นไปยึดอีกฝ่ายหนึ่ง เปรียบเหมือนยืนเหยียบแคมเรือสองลำ ลำใดเอียงจะคว่ำ ก็โดดมาอีกลำหนึ่ง สำนวนนี้ หมายถึงคนที่ไม่ซื่อตรงไม่มีใจมั่นคงร่วมทุกข์ร่วมสุขกับใครจริง มุ่งจะเอาตัวรอดหรือมุ่งประโยชน์ตนฝ่ายเดียว "เหยียบเรือสองกราบเค้า คนคด จุนโจทย์จำเลยอด ต่ำแต้ม บอกกลอุบายปด ปองแต่ ทรัพย์เฮย สองฝ่ายหลงแยบแย้ม อย่างนี้บาปเหลือ" โคลงสุภาษิตเก่า อ้างอิงจากที่เดิม......หนังสือ สำนวนไทย หัวข้อ: Re: คำว่า ''เหยียบเรือสองแคม" ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 29-01-2008, 21:00 บุคคลประเภทนี้มีเยอะค่ะคุณดอกฟ้า เขาอยู่เรือลำไหนก็ได้ที่มันไม่คว่ำ หัวข้อ: Re: คำว่า " แร้งถามหา " ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 03-03-2008, 00:04 แร้งถามหา
เป็นสำนวน หมายความว่า แก่ชราจวนตาย มูลของสำนวนมาจากแร้งชอบกินศพคนตาย สมัยโบราณศพคนตายนำออกจากพระนคร ทางประตูเมืองด้านตะวันออก ที่เรียกกันว่า ประตูผี (สำราญราษฎร์ปัจจุบัน) ไปไว้ที่วัดสระเกศ ศพนั้นนอกจากเผาหรือฝัง หรือเก็บ ก็มีวิธีเชือดเนื้อให้แร้งกิน สมัยก่อน ที่วัดสระเกศ มีต้นตาลมากเป็นที่อาศัยของฝูงแร้ง จนขึ้นชื่อ ว่าแร้ง แล้วจะต้องมี วัดสระเกศ ติดอยู่ด้วย สมัยก่อน มีคำพูดคล้องจองกันว่า "ยักษ์วัดแจ้ง แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์" ยักษ์วัดแจ้งหมายถึง ผู้มีรูปร่างใหญ่โต แร้งวัดสระเกศหมายถึง วัดสระเกศที่มีแร้งมาก เปรตวัดสุทัศน์หมายถึง ตังสูงกว่าเสาชิงช้า เอามือจับยอดเสาชิงช้าเล่นได้ แร้งวัดสระเกศมีชื่อ เพราะวัดสระเกศมีต้นตาลให้แร้งกาอาศัยอยู่ คอยกินศพคนตาย เมื่อแร้งคอยกินศพ จึงเกิดสำนวนคำว่า "แร้งถามหา" ใช้เป็นความหมายว่า แก่จวนตายอยู่แล้ว คือแร้งกำลังคอยกินศพอยู่ อะไรนี่แก่เฒ่าจะเข้าโลง โมโหปากโป้งโผงอึง จงคิดอนิจจังฟังรูปห้าม นั่นแน่แร้งมันถามข่าวถึง คาวี พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๒ นางไหมว่าไฮ้ครัวตาขวาด ข่าบ่ปรารถนาเว้าเอาผัวเถร ตาจนเป็นน้ำข้าวมาเร้าเกน เดนแร้งถามข่าวทุกคราววัน เสภาขุนช้างขุนแผน อ้างอิง จากที่เดิม....... หัวข้อ: Re: คำว่า " แร้งถามหา " ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: qazwsx ที่ 03-03-2008, 02:09 แร้งถามหา เป็นสำนวน หมายความว่า แก่ชราจวนตาย มูลของสำนวนมาจากแร้งชอบกินศพคนตาย สมัยโบราณศพคนตายนำออกจากพระนคร ทางประตูเมืองด้านตะวันออก ที่เรียกกันว่า ประตูผี (สำราญราษฎร์ปัจจุบัน) ไปไว้ที่วัดสระเกศ ศพนั้นนอกจากเผาหรือฝัง หรือเก็บ ก็มีวิธีเชือดเนื้อให้แร้งกิน สมัยก่อน ที่วัดสระเกศ มีต้นตาลมากเป็นที่อาศัยของฝูงแร้ง จนขึ้นชื่อ ว่าแร้ง แล้วจะต้องมี วัดสระเกศ ติดอยู่ด้วย สมัยก่อน มีคำพูดคล้องจองกันว่า "ยักษ์วัดแจ้ง แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์" ยักษ์วัดแจ้งหมายถึง ผู้มีรูปร่างใหญ่โต แร้งวัดสระเกศหมายถึง วัดสระเกศที่มีแร้งมาก เปรตวัดสุทัศน์หมายถึง ตังสูงกว่าเสาชิงช้า เอามือจับยอดเสาชิงช้าเล่นได้ แร้งวัดสระเกศมีชื่อ เพราะวัดสระเกศมีต้นตาลให้แร้งกาอาศัยอยู่ คอยกินศพคนตาย เมื่อแร้งคอยกินศพ จึงเกิดสำนวนคำว่า "แร้งถามหา" ใช้เป็นความหมายว่า แก่จวนตายอยู่แล้ว คือแร้งกำลังคอยกินศพอยู่ อะไรนี่แก่เฒ่าจะเข้าโลง โมโหปากโป้งโผงอึง จงคิดอนิจจังฟังรูปห้าม นั่นแน่แร้งมันถามข่าวถึง คาวี พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๒ นางไหมว่าไฮ้ครัวตาขวาด ข่าบ่ปรารถนาเว้าเอาผัวเถร ตาจนเป็นน้ำข้าวมาเร้าเกน เดนแร้งถามข่าวทุกคราววัน เสภาขุนช้างขุนแผน อ้างอิง จากที่เดิม....... ไม่ได้เข้ามาเสริม ( อย่างแน่นอน ) แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาขัด ( คอ, ดอก, มัน และที่สำคัญคือ "ขัดเคือง" ) "เปรตวัดสุทัศน์" น่าจะมาจากสมัยก่อนโน้น พื้นที่บริเวณวัดสุทัศน์เป็นที่พักอาศัยของบรรดาขอทาน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นพวกแขก ( คงไหล ๆ มาจากแถวอุณากรรณ - วังบูรพา - พาหุรัด ) และใช้โบสถ์พราหมณ์เป็นแหล่งทำหามากิน ( รอรับทานจากผู้คนที่เข้าไปสักการะเทพเทวดา ) ...แล้วขอทานพวกนี้ก็มักจะไม่ได้นุ่งผ้าไม่ได้นุ่งผ่อน หรือถ้ามีก็คงเป็นเพียงเศษผ้าติดกายนิด ๆ หน่อย ๆ เข้าข่ายอุจาดนัยน์ตา อันเป็นเหตุให้ถูกนำไปบอกเล่าในเชิงส่อเสียดว่า "( อุจาดเหมือน ) เปรต" หัวข้อ: Re: คำว่า " แร้งถามหา " ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: login not found ที่ 03-03-2008, 02:29 ฟังเขาเล่าๆมาอีกที
สมัยโน้นครั้งที่ห่ากินเมือง แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์ เห็นว่ามีศพมากจนแร้งชุม แร้งดุยิ่งกว่าหมา ไม่มีใครกล้าไล่ เปรตชุมชนิดที่ตกค่ำไม่กล้าเดินผ่าน พวกเปรต(พวกตอนอยู่สวาปามของที่ไม่ควร)จะรุมขอส่วนบุญจนคนกลัวจับไข้หัวโกร๋น (ถึงรู้ว่าสวนมีมะพร้าวเยอะก็จะเอามาขายครับ :slime_shy:) ปล. แร้งถามหา - พวกที่อยากให้ตายแต่หน้าด้านไม่ยอมตาย ทุกวันนี้ก็เห็นอยู่หลายคนครับ เมื่อไม่กี่วันก่อนแร้งมาโฉบเรียกแถวสุวรรณภูมิ ไอ้แก่นั่นมันรีบหลบกลัวแร้งเห็น แต่คนเขาเอามาร่ำลือแปลกๆว่าว่าคิดถึงเมืองไทยมากๆ ไม่รู้เขาคิดกันไปได้ยังไง :slime_o: :slime_dizzy: :slime_doubt: ปล.2 ทุกวันนี้ก็ยังเห็นเปรตอยู่ แต่มีการกลายพันธุ์ ตัวเตี้ย ปากกว้าง หน้าเหลี่ยม ไม่ขอส่วนบุญ แต่ปล้นกันหน้าด้านๆกลางวันแสกๆ น้ำมนต์ก็ไม่กลัว ไล่ก็ไม่ไป เป็นเปรตที่หน้าด้านชะมัด :slime_worship: หัวข้อ: Re: คำว่า " แร้งถามหา " ภาษาไทยวันละหลายคำ สำนวนไทยและอื่นๆ เริ่มหัวข้อโดย: qazwsx ที่ 03-03-2008, 02:41 ~~~~~~ ตัวเตี้ย ปากกว้าง หน้าเหลี่ยม ไม่ขอส่วนบุญ แต่ปล้นกันหน้าด้านๆกลางวันแสกๆ น้ำมนต์ก็ไม่กลัว ไล่ก็ไม่ไป~~~~~~~ :slime_worship: บรรหาร ? :slime_doubt: |