หัวข้อ: ยามบ้านเมืองวิกฤตและสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม อย่าให้นามแฝงพรรค์นี้ ตะแบงต่อไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 10-10-2008, 14:37 ทัศนะวิจารณ์ กาแฟดำ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2551 05:00:00 เมื่อต้องเลือกระหว่างวิชาชีพ กับสำนึกชั่วดีในยามวิกฤติ ผมเขียนคอลัมน์ที่ตีพิมพ์เมื่อวานนี้ ก่อนจะได้อ่าน "บันทึกทูตไทยถึงบัวแก้ว" กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : ก่อนจะได้ข่าวกัปตัน การบินไทย ประกาศว่าถ้า ส.ส. ของพรรครัฐบาลที่มีส่วนทำให้เกิด "ตุลาฯทมิฬ" เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เป็นผู้โดยสาร เขาจะไม่ขับเครื่องบินลำนั้น ก่อนที่จะมีข่าวว่าหมอบางคนที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จะไม่รับรักษาคนไข้ ที่เป็นฝ่ายกระทำต่อผู้ชุมนุมจ นต้องบาดเจ็บและล้มตายเป็นจำนวนมาก ข่าวนักการทูต หมอ นักบิน ซึ่งล้วนเป็นคนมีเกียรติและศักดิ์ศรี ปฏิเสธจะทำหน้าที่ ที่มโนธรรมตนเองเตือน ว่าไม่ถูกต้องและไม่ชอบธรรม เป็นประเด็นน่าคิดน่าใคร่ครวญยิ่งนัก เพราะโดยหลักแห่งจริยธรรมวิชาชีพแล้ว หมอไม่มีสิทธิจะไม่รักษาคนไข้ด้วยเหตุผลว่าเขาหรือเธอมีความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน หรือด้วยเหตุผลของเพศ ศาสนา หรือ ชนชั้น โดยหลักสากลแล้ว กัปตันเครื่องบินก็ย่อมจะไม่ปฏิเสธผู้โดยสารเพียงเพราะเขาหรือเธอมีสถานะทางสังคมอย่างใดอย่างหนึ่ง และนักการทูตในฐานะข้าราชการประจำโดยหน้าที่ก็จะต้องชี้แจงกับรัฐบาลของประเทศนั้นๆ ตามคำสั่งของกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเขาปฏิเสธที่จะทำหน้าที่ด้วยเหตุผลอะไร? ตอบได้ว่า ด้วยความสำนึกแห่งความเป็นคนไทยในยามที่จะต้องแสดงจุดยืนของตนเอง แน่นอนว่าโดยหลักวิชาชีพแล้ว พวกเขาย่อมรู้ว่าการปฏิเสธที่จะทำหน้าที่ของตนเป็นสิ่งผิดหลักปฏิบัติ และรู้ต่อไปด้วยว่าอาจจะถูกหัวหน้าหน่วยงานของตนเพ่งเล็ง สอบสวน และ ถึงขั้นลงโทษ แต่ในยามบ้านเมืองวิกฤติ ในยามที่มโนธรรมของสุจริตชน ต้องตอบตัวเองว่าจะทำงานรับใช้ใคร เพื่ออะไร และสำนึกแห่งชั่วดีกระตุ้นเตือนให้ปัจเจกชนทุกคน ต้องเลือกข้างระหว่างธรรมกับอธรรม คนที่ถือว่าเป็นมืออาชีพ ก็ต้องตัดสินใจว่าจะยืนอยู่ตรงจุดไหนของสังคม การยืนอยู่ตรงกลาง การแสดงความลังเล และ การทำประหนึ่งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในบ้านเมืองหรือยังคงทำหน้าที่เดิมตามปกตินั้น ย่อมมิใช่วิสัยของผู้ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง จดหมายของ "เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศหนึ่งในเอเชีย" ที่ปฏิเสธที่จะชี้แจงกับรัฐบาลประเทศนั้นๆ ตามคำสั่งของกระทรวงการต่างประเทศนั้น ให้เหตุผลดั่งที่วิญญูชนผู้มีสติปัญญาพึงจะคิด เพราะคนระดับเอกอัครราชทูต ระดับนายแพทย์ ระดับกัปตันสายการบินแห่งชาติ ย่อมแยกแยะได้ว่าอะไรคือความจริง อะไรคือความเท็จ อะไรคือคำสั่งการไร้จริยธรรม และอะไรคือสำนึกแห่งความเป็นมืออาชีพของตน "ท่านทูต" ผู้นี้ถามอย่างผู้มีสติปัญญาครบถ้วน ในฐานะคนไทยที่รับผิดชอบว่า จะให้ท่านอธิบายกับรัฐบาลนั้นๆ ได้อย่างไร ในเมื่อท่านในฐานะคนไทยเอง ยังไม่เชื่อตามที่กระทรวงการต่างประเทศให้แถลงเลย ท่านถามในจดหมายเปิดผนึกฟ้องคนไทยที่เป็นเจ้าของประเทศตอนหนึ่งว่า "...จะอธิบายอย่างไรว่ามาตรการของตำรวจ ระลอกแล้วระลอกเล่าตลอดวันที่ 7 ตุลาคม เป็นการกระทำที่เป็นไปตามกฎหมาย มาตรฐาน และ หลักปฏิบัติสากล...?" "จะอธิบายอย่างไรกับมาตรการอันรุนแรงเกินกว่าเหตุของตำรวจ อันนำมาซึ่งการเสียชีวิตและบาดเจ็บของคนไทยจำนวนมาก...?" "การชี้แจงสิ่งที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือยังมีความเคลือบแคลงในข้อเท็จจริง หรือภาพเพียงบางส่วน รังแต่จะทำลายความน่าเชื่อถือของผู้ชี้แจงไปด้วย..." นี่คือ ถ้อยคำที่ออกมาจาก "ความสำนึก" ของคนเป็นตัวแทนของประเทศไทยในต่างแดน ที่ต้องทำหน้าที่ตามมาตรฐานที่คนไทยรับได้และที่สังคมโลกตรวจสอบได้ เป็นความสำนึกที่ตอบตัวเองได้ ว่าเขาไม่ใช่ขี้ข้าของนักการเมืองที่บังเอิญขึ้นมามีอำนาจในแผ่นดิน แน่นอน ทั้งหมอ นักบิน และ นักการทูต ที่แสดงจุดยืนไม่ยอมทำหน้าที่ของตนเพื่อต่อต้านการกระทำของรัฐบาลต่อประชาชนนั้น ย่อมรู้ดีว่าตนกำลังเสี่ยงกับการถูกลงโทษและกล่าวหาจากบางวงการ แต่ในยามบ้านเมืองวิกฤติและความสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมโดยส่วนรวมแล้ว เราเคารพในการกล้าตัดสินใจที่จะยกเว้นการปฏิบัติตามหลักการแห่งวิชาชีพบางข้อ เพื่อแสดงความกล้าหาญจากสำนึกแห่งมโนธรรมต่อสังคม พวกเขาเลือกแล้วระหว่างการทำหน้าที่ตามปกติแล้วรู้สึกผิดต่อวิญญาณของคนไทยที่ถูกทำร้าย และสังหาร กับการปฏิเสธที่จะรับใช้อธรรมเพื่อให้สังคมที่หดหู่รันทดและสิ้นหวังได้เห็นแสงสว่างเล็กๆ แสงสว่างที่เรียกว่า "มโนสำนึก" ของคนกล้าในยามบ้านเมืองวิกฤติ (เข้ามาร่วมแสดงความเห็นในยามบ้านเมืองวิกฤติ ได้ที่ www.oknation.net/blog/black และ www.suthichaiyoon.com ตลอด 24 ชั่วโมง) http://www.bangkokbiznews.com/2008/10/10/news_301992.php "การยืนอยู่ตรงกลาง การแสดงความลังเล และ การทำประหนึ่งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในบ้านเมืองหรือยังคงทำหน้าที่เดิมตามปกตินั้น ย่อมมิใช่วิสัยของผู้ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง......."!!! ความ'เป็นกลาง' ของพวกเขามีประโยชน์อะไรสำหรับสังคมไทย ประเทศไทย และระบอบประชาธิปไตย......? ยามบ้านเมืองวิกฤติและความสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมโดยส่วนรวมแล้ว..... อย่าให้นามแฝง'' ตะแบงต่อไปเลย เลิกเสวนาดีไหม.....? หัวข้อ: Re: ยามบ้านเมืองวิกฤตและสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม อย่าให้นามแฝงพรรค์นี้ ตะแบงต่อไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: 1ktip ที่ 10-10-2008, 16:09 เลิกเสวนาด้วยนานแล้วล่ะครับ แต่ผมเข้าใจเพื่อนๆ หลายคน ที่เป็นเดือดเป็นแค้นกับคำยั่วยุไร้สำนึกที่สรรหามาป้ายสีพวกเรา
แอดมินจะพิจารณาอย่างไรก็ดูเอาเถิด ใคร คนไหน เข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยน โต้ตอบ สนทนา ด้วยจิตสำนึกแบบไหน ผมว่ามันดูกันไม่ยากเลยนะ อย่าเกรงว่าจะเป็นการปิดกั้นความคิดเห็นต่างไป ขอบเขต กรอบจริยธรรมในการอยู่ร่วมกันมันต้องมีบ้าง หัวข้อ: Re: ยามบ้านเมืองวิกฤตและสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม อย่าให้นามแฝงพรรค์นี้ ตะแบงต่อไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: มารุจัง ที่ 10-10-2008, 16:47 เหนื่อยแล้วค่ะ และคงไม่เตือนแล้ว
ปล่อยให้เพื่อนสมาชิกพิจารณากันเอง ว่าจะให้บอร์ดไปในทางไหน :slime_surrender: :slime_surrender: หัวข้อ: Re: ยามบ้านเมืองวิกฤตและสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม อย่าให้นามแฝงพรรค์นี้ ตะแบงต่อไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: นู๋เจ๋ง ที่ 11-10-2008, 07:23 มันก็แค่คนอยากดัง..
หรือมาโพสเพื่อหาเงินกระทู้ละ 20-30 บาท รับจ้างโพส.. ไม่สนับสนุนการทำมาหากิน เริ่มมองข้าม มองไม่เห็นข้อความของคนพวกนี้แล้วค่ะ หัวข้อ: Re: ยามบ้านเมืองวิกฤตและสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม อย่าให้นามแฝงพรรค์นี้ ตะแบงต่อไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: istyle ที่ 11-10-2008, 20:25 เห็นด้วยครับ
ขอร้องเถอะ โปรดเดินข้ามไปราวกับว่ามันเป็นเพียงขี้หมาริมทางนะครับ หัวข้อ: Re: ยามบ้านเมืองวิกฤตและสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม อย่าให้นามแฝงพรรค์นี้ ตะแบงต่อไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: อิรวันชาห์ IrWanSyah ที่ 12-10-2008, 00:08 สำนึกรับผิดชอบของแกนนำที่พาคนไปตายหละครับไปใหน ทั้งๆที่ประเทศมันจะล่มจมอยู่แล้ว พาลทะมิดยังจะประท้วงไม่เลิก เรียกร้องให้เกิดความรุนแรงไม่เลิก เพียงเพราะต้องการให้ทหารออกมาปฏิวัติหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในทางการเมืองไปในทิศทางที่ตนต้องการ
ทั้งๆที่ศาลปกครองยืนยันชัดเจนว่าม๊อบพาลทะมิดไม่ใช่ม๊อบที่เข้าค่ายได้รับการคุ้มครองตาม รธน. 63 เพียงแต่ว่าถ้ารัฐจะปราบก็ให้เป็นไปตามหลักสากล ส่วนที่มีคนตายก็ต้องดูว่าสาเหตุอะไร ไม่ได้ปฏิบัติตามหลักสากลหรือมีมือที่สามก็ต้องว่ากันไป ผู้อ่านที่มีใจเป็นธรรมในเสรีไทยลองสังเกตดูวาทกรรมของเหล่าสาวกผู้ภักดีต่อพาลทะมิดนะครับ เหมือนๆกันหมดไม่ว่าที่ใหนๆ "สำนึกรับผิดชอบต่อสังคม" "อหิงสา" "สันติวิธี" "อารยะขัดขืน" "สิทธิมนุษยชน" "ภาคประชาชน" "ประชาธิปไตย" "วาทกรรมประชาชนเป็นเหยื่อของรัฐ (14 ตุลา 6 ตุลา และพฤษภาทมิฬ)" "ลูกจีนกู้ชาติ" "ต่อต้านโลกาภิวัฒน์ (ทุนนิยมสามานย์)" "ชาติ ศาสน์ กษัตริย์" ฯลฯ พาลทะมิดได้ขโมยฉาก (scene stealing) หรือปล้นช่วงชิง (hijack) วาทกรรมและรูปแบบการแสดงออกของขบวนการทางสังคมจากหลายสถานที่และหลายยุคสมัย เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเองและเพื่อเรียกร้องความสนใจและเห็นใจจากคนหลายกลุ่มหลายฝ่ายได้อย่างทรงพลัง ไม่ว่าเราจะชอบใจหรือไม่ก็ตาม ตรงนี้เราต้องระวัง ต้องรู้เท่าทันจะได้ไม่คลื้ม เวลาฟังแกนนำพาลทะมิดปราศรัย หรือแม้แต่คำแก้ตัวเพื่อปัดความรับผิดชอบของแกนนำ โดยบรรดาเหล่าสาวกผู้จงรักภักดี ไม่ว่าในบอร์ดนี้ บอร์ดอื่นๆ หรือในสื่อต่างๆ กระทู้นี้ก็เช่นกัน วิธีการเหมือนกันเดี้ยะเลย หัวข้อ: Re: ยามบ้านเมืองวิกฤตและสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม อย่าให้นามแฝงพรรค์นี้ ตะแบงต่อไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: อิรวันชาห์ IrWanSyah ที่ 12-10-2008, 00:11 ข้อสังเกตเพิ่มเติม
การ กรอกหู มวลชนของพาลทะมิดด้วยศัพท์หรูหราที่ว่านะครับ จะมีลักษณะซ้ำๆและทำให้แพร่หลายในหลายๆเวที หลายๆสื่อ หลายๆช่องทาง แรกๆเราอาจจะรู้สึกน่าเบื่อน่ารำคาญและเห็นว่าถูกใช้พร่ำเพรื่อ แต่ด้วยวิธีการอันแยบยลที่ว่ามา ทำให้นามธรรมกลายเป็นรูปธรรม จากมโนทัศน์หรือทฤษฎีอันเลื่อนลอย ที่ดูแปลกๆ ในช่วงแรกที่แป๊ะนรกหรือแกนนำคนอื่นๆกล่าวบนเวที ที่สุดก็จะกลายมาเป็น ความเป็นจริง ที่ยากจะปฏิเสธ ด้วยวิธีการที่ว่ามานี่แหละ ในเว็บบอร์ดนี้ก็เช่นกัน บรรดาสาวกจะพยายามตั้งกระทู้ที่หยิบยืมศัพท์แสงหรูหราที่ว่านี้กับผู้ที่โต้แย้งพาลทะมิด ซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลายๆกระทู้ เพื่อที่จะได้ขาดความชอบธรรมในการโต้แย้ง สุดท้ายผู้อ่านเว็บบอร์ดก็จะไม่สนใจในเนื้อหาของผู้ที่เห็นต่างจากพาลทะมิด ตรงนี้..เหล่าเสรีไทยผู้มีความคิด มีสติปัญญาต้องระวัง มิฉะนั้นจะตกไปสาวกของแป๊ะนรกปีศาจทันที หลายวาทกรรมจะมีบริบทรองรับ เช่นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ใช้กำลังปราบปรามอย่าง รุนแรงนี่แหละ จะถูกขยายความ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเรารู้สึกว่า รัฐต้องรับผิดชอบแต่ผู้เดียว โดยหลงลืมไปว่า ใครเป็นผู้นำม็อบไปปิดล้อมเพื่อให้เกิดความรุนแรง ม๊อบดังกล่าวอยู่ในขอบข่ายที่ต้องได้รับการคุ้มครองตาม รธน. มาตรา 63 หรือไม่ สำหรับใครที่หลงผิดไปกับพาลทะมิดแล้ว บังก็ขอให้ระวังว่าอย่างน้อยต้องไม่สับสนระหว่างวาทกรรมของสังคมที่พาลทะมิดดึงมาใช้และตอกย้ำเพื่อความชอบธรรมและการดำรงอยู่ของตน กับวาทกรรมที่พาลทะมิดพยายามยัดเยียดให้สังคม เป็นต้นว่าเรื่องของการเมืองใหม่ซึ่งอยู่ในระหว่างเริ่มต้น ยังไม่แพร่หลาย ตรงนี้ ต้องระวังอย่าเหมารับเป็นแพคเกจอย่างเด็ดขาด :slime_o: :slime_o: :slime_o: หัวข้อ: จงระวังวิธีการล้างสมองของพาลทะมิด จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ !!!! เริ่มหัวข้อโดย: อิรวันชาห์ IrWanSyah ที่ 12-10-2008, 00:13 จะว่าไปแล้ว วิธีการของแป๊ะนรกปีศาจตอนนี้ ไม่ต่างจากที่โจรใต้มันเคยใช้ปลุกระดมผู้คนให้มาต่อต้านรัฐบาลเลย ด้วยวาทกรรมสวยหรูที่มีบริบทล้อมรอบรองรับอยู่แล้ว เป็นต้นว่า
เจ้าหน้าที่รัฐกดขี่ประชาชน คนพูดไทยได้รับการปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่รัฐดีกว่าคนมลายู ข้าราชการส่วนใหญ่เป็นไทยพุทธที่ส่วนกลางส่งมา ประเทสไทยเป็นของคนไทยพุทธ ฯลฯ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนผู้คนคล้อยตาม หลังจากนั้นก็ กรอกหู เรื่องของการแบ่งแยกดินแดน เรื่องของการทำสงครามญิฮาดต่อ รับเหมากันเป็นแพคเก็จความคิด มันหลอกให้สาวกบุกกรือเซะ ทั้งๆที่รู้ว่ารัฐจะต้องปราบแน่ และก็เอาความรุนแรงนี้แหละไป "กรอกหู" รีครูทแนวร่วมเพิ่ม สร้างความชอบธรรมให้กับองค์กร เช่นเดียวกัน แกนนำพาลทะมิดรู้แน่ว่าจะต้องเกิดความรุนแรงแน่หากให้สาวกไปล้อมรัฐสภา ไม่ยอมให้เข้าประชุม และเมื่อมันเกิด ก็เอาภาพความรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้ไปขยายความ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตน ผู้มีสติปัญญาและนิยมแนวทางสันติย่อมคิดได้ว่า ปัญหาการเมืองการปกครองของไทยทุกวันนี้ มีอีกหลายวิธีที่เป็นทางออก โดยไม่จำเป็นต้องเป็นการเมืองย้อนยุคแบบที่พาลทะมิดยัดเยียด และไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรงในการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เพราะผลเสียจะตามมาอีกมากมาย เช่นเดียวกัน ผู้มีสติปัญญาและนิยมแนวทางสันติในสามจังหวัด ก็ย่อมคิดได้ว่า ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของคนไทยชาติพันธุ์มลายู สามารถรียกร้องและแก้ไขได้ด้วยวิธีการอื่นๆอีกมากมาย ไม่ใช่ด้วยการทำสงครามแบ่งแยกดินแดน แต่ที่น่าเป็นห่วง แป๊ะนรกปีศาจ มันคิดเหมือนกับที่แกนนำขบวนการแบ่งแยกดินแดนในภาคใต้คิด การจะล้างสมองผู้คนที่ได้ผลที่สุด ต้องล้างสมองเยาวชนเป็นอันดับแรก :slime_o: :slime_o: :slime_o: :slime_o: (http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7088370/P7088370-7.jpg) หัวข้อ: Re: ยามบ้านเมืองวิกฤตและสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม อย่าให้นามแฝงพรรค์นี้ ตะแบงต่อไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: login not found ที่ 12-10-2008, 00:17 กรั๊กๆๆ อย่างน้อยก็ดีกว่าฟังความเห็นไอ้ขยะสดอย่างมรึงละกัน
หัวข้อ: Re: ยามบ้านเมืองวิกฤตและสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม อย่าให้นามแฝงพรรค์นี้ ตะแบงต่อไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: อิรวันชาห์ IrWanSyah ที่ 12-10-2008, 00:19 เอาอันนี้ไปฟังเพิ่มเติมนะครับ จะได้มองโลกในแง่ดี ไม่ตกเป็นสาวกแป๊ะนรกhttp://www.youtube.com/watch?v=oR8h6OWjsE4
หัวข้อ: จงระวังวิธีการล้างสมองของพาลทะมิด จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ !!!! เริ่มหัวข้อโดย: อิรวันชาห์ IrWanSyah ที่ 12-10-2008, 00:23 กรั๊กๆๆ อย่างน้อยก็ดีกว่าฟังความเห็นไอ้ขยะสดอย่างมรึงละกัน เป็นตัวอย่างหนึ่งของวาทกรรมที่สาวกแป๊ะนรกนำมาใช้ในเว็บบอรฺดนี้ โดยไม่สนว่าศาสดาของตนจะก่อความเดือดร้อนให้ประเทศชาติมากเพียงใด หรือจะต้องรับผิดชอบที่พาคนไปตาย พาคนไปก่อความวุ่นวาย แสวงหาผลประโยชน์และอำนาจโดยไม่สนใจว่าจะต้องมีคนตายอีกซักเท่าใด :slime_cool: :slime_cool: :slime_cool: หัวข้อ: Re: ยามบ้านเมืองวิกฤตและสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม อย่าให้นามแฝงพรรค์นี้ ตะแบงต่อไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 12-10-2008, 00:27 ยามบ้านเมืองวิกฤติและความสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมโดยส่วนรวมแล้ว..... อย่าให้นามแฝง'' ตะแบงต่อไปเลย เลิกเสวนาดีไหม.....? ยามบ้านเมืองวิกฤติและความสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมโดยส่วนรวมแล้ว..... อย่าให้นามแฝง'................' ตะแบงต่อไปเลย เลิกเสวนาดีไหม.....? ขอแก้ไขเพิ่มเติม '.........' ไว้เป็นดุลยพินิจของแต่ละคน.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า หัวข้อ: Re: ยามบ้านเมืองวิกฤตและสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม อย่าให้นามแฝงพรรค์นี้ ตะแบงต่อไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 12-10-2008, 01:33 เอาอันนี้ไปฟังเพิ่มเติมนะครับ จะได้มองโลกในแง่ดี ไม่ตกเป็นสาวกแป๊ะนรกhttp://www.youtube.com/watch?v=oR8h6OWjsE4 คนที่ไม่ใช่ฟาย....อย่ามาแหกปากฟูมฟายให้ใครตื่นเต้นเลย แป๊ะลิ้ม หรือจิวแป๊ะทงกลับชาติมาเกิด...ถ้าทำไม่ดี โดนด่าหมด (http://i175.photobucket.com/albums/w121/tussy19/-14.jpg) หัวข้อ: Re: ยามบ้านเมืองวิกฤตและสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม อย่าให้นามแฝงพรรค์นี้ ตะแบงต่อไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: samepong(ยุ่งแฮะ) ที่ 12-10-2008, 01:50 อย่าเลยครับ คุณมันไม่ได้แสดงตัวว่าเป้ฯกลางเพื่อประชาธิปไตย คันปากอยากเชิดชูทักษิน แต่กลัวเสียภาพพจน์ เชียร์ไปเถอะผมว่า บังลำใย
เพราะเรื่องลำใยคุณก้ไม่มาตอบผม ครับผมเห็นด้วย คนไทยควรสามัคคี ไม่ยอมก้มหัวให้กับนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ไอสื่อชั่วๆที่ประกาศด่า คนรักรัฐธรรมนูญให้ไปเอาเงินเดินเอาข้าวกินที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เอาอีกไหมครับ ความสามัคคีไม่ได้หมายความว่า เลิก จบ เรารักกันแล้วใครทำอะไรก็ทำไป ผมไปเผาบ้านบังแล้วมาบอกให้อภัยให้กันได้ไหมครับ มันไม่ได้ คุณต้องกลับไปคิดว่า สามัคคีไปเพื่ออะไร สามัคคีเพื่อให้ชาติไปข้างหน้าได้ คือ เอาคนไม่ดี เอานักการเมืองไม่ดี ออกจาก ชาติ เอาเหรอครับ นักการเมืองที่ไม่ไปประชุมแต่ดันเสือกเสียบบัตรโหวตได้ เอาเหรอครับ ตอบผมมั้งไม่ใช่กอะไรมาเยอะแยะ แต่ไม่เคยตอบอะไรที่มันได้ซึ่ง สามัญสำนึกของความเป็นคนเลยครับ เศษเดนนรกของแท้แน่นอน หัวข้อ: เอแบคโพล : ร้อยละ 81.4 ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มพันธมิตรที่ปิดทางเข้า ออก รัฐสภา เริ่มหัวข้อโดย: อิรวันชาห์ IrWanSyah ที่ 12-10-2008, 11:30 ไม่เห็น TPBS มันนำเสนอข่าวส่วนนี้เลย
นี่แหละลักษณะหนึ่งของแผนการโฆษณาชวนเชื่อของพาลทะมิดเพื่อล้างสมองคนไทย พยายามให้สื่อจำกัดวงการสนทนาถกเถียงเฉพาะในประเด็นที่รัฐต้องรับผิดชอบ ทั้งๆที่ความวุ่นวายมันมีสาเหตุมากพาลทะมิด ความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ความวุ่นวายในวันที่ 7-8 ตุลาคม ที่ผ่านมา เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย 1 ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุม 47.1 52.9 2 ส.ส.ฝ่ายค้านและ ส.ว. บางส่วนไม่เข้าประชุมฟังการแถลงนโย บายในรัฐสภา 26.1 73.9 3 กลุ่มพันธมิตรชุมนุมหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) 23.5 76.5 4 กลุ่มพันธมิตรปิดทางเข้า-ออกรัฐสภา 18.6 81.4 5 แพทย์บางคนปฏิเสธการรักษาตำรวจและนักการเมือง 18.0 82.0 วิธีการที่อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่มากที่สุด ในสถานการณ์ปัจจุบัน 1 ป้องกันการสร้างสถานการณ์วุ่นวาย 33.2 2 กลับไปป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่ 22.8 3 ดูแลการชุมนุมให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย 20.8 4 จับกุม สลายการชุมนุม 15.1 5 จัดระเบียบจราจร 8.1 ทางออกสำหรับสถานการณ์การเมือง เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย 1 ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ 52.4 47.6 2 ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ 49.5 50.5 3 แก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตรา แล้วใช้ฉบับ 2550 ต่อไป 48.1 51.9 4 ปรับคณะรัฐมนตรีทำงานต่อไป 47.3 52.7 5 ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ 45.3 54.7 6 นายกรัฐมนตรีลาออก 42.2 57.8 7 การยึดอำนาจ 14.7 85.3 ดูหัวข้อนี้แป๊ะนรกคงกระอักเลือด ข้อนี้ ถ้ามีอีกข้อถามว่า ให้แป๊ะนรกหยุดสร้างความวุ่นวายและถอนตัวออกจากทำเนียบ รับรองว่า 99.99% จะเห็นด้วย เพราะพวกที่อยู่ทำเนียบและสนับสนุน มีไม่ถึง 0.01% ด้วยซ้ำ ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์การเมืองของประเทศไทยขณะนี้ ค่าร้อยละ 1 ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ 39.6 2 ปรับคณะรัฐมนตรีทำงานต่อไป 14.1 3 ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ 12.0 4 แก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตรา แล้วใช้ฉบับ 2550 ต่อไป 10.9 5 ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ 8.3 6 นายกรัฐมนตรีลาออก 5.9 7 การยึดอำนาจ 2.6 8 อื่นๆ อาทิ จับกุมแกนนำ ให้เจรจากัน แยกย้ายและต่างคนต่างอยู่ 6.6 จะเห็นว่าข้อนี้ กำหนดทางออกที่ให้รัฐบาลแต่ฝ่ายเดียว ทั้งๆที่ความจริง มันเป็นเกมที่พาลทะมิดกำหนดอยู่ด้วย ถ้าเพิ่มอีกข้อว่าให้แกนนำพาลทะมิดหยุดเคลื่อนไหว ถอนตัวออกจากทำเนียบ และหันไปใช้การเมืองที่ถูกต้อง รับรองว่าคนส่วนใหญ่จะเลือกตัวเลือกนี้แน่นอน ผลสำรวจ ยังพบด้วยว่า ประชาชนเกินครึ่งหรือร้อยละ 52.9 ไม่เห็นด้วยกับตำรวจที่ใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ร้อยละ 47.1 เห็นด้วย และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 73.9 ไม่เห็นด้วยที่ ส.ส.ฝ่ายค้านและ ส.ว.บางส่วนไม่เข้าประชุมฟังการแถลงนโยบายในรัฐสภา ร้อยละ 76.5 ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มพันธมิตรที่ชุมนุมหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.4 ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มพันธมิตรที่ปิดทางเข้า ออก รัฐสภา และร้อยละ 82.0 ไม่เห็นด้วยกับแพทย์บางคนที่ปฏิเสธการรักษาตำรวจและนักการเมือง :slime_smile2: :slime_smile2: :slime_smile2: ----------------------------------------------- ที่น่าแปลกใจ วันนั้นพิธีกรข่าว TPBS กลับเสนอเฉพาะประเด็นการสลายม็อบ ส่งผลผลักดันให้ประชาชนที่เคยมีจุดยืนอยู่ตรงกลางลดน้อยลงเหลือเพียงร้อยละ 9.4 เข้าสู่การเลือกข้าง โดยร้อยละ 47.7 เลือกสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร และร้อยละ 42.9 เลือกไม่สนับสนุนกลุ่มพันธมิตร มันก็แหงอยู่แล้ว เพราะโพลล์นี้ ศึกษาประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ระยะเวลาระหว่างวันที่ 8-9 ตุลาคม พ.ศ. 2551 (หลังเกิดเหตุใหม่ๆ) นี่ขนาดสื่อช่วยกันโหมโรงโจมตีการทำงานของตำรวจ มีองค์กรต่างๆแถลงการเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบบ้าง ลาออกบ้าง ตำรวจต้องรับผิดชอบบ้าง สารพัด ผลยังออกมาขนาดนี้ ถ้าตอนนี้ที่ภาพข่าวและข้อเท็จจริงจะทยอยออกมาเรื่อยๆ ว่าพาลทะมิดก่อความรุนแรง ทำร้ายตำรวจ จ้วงแทง เหยีบตำรวจ ดังปรากฏในสื่อทั่วไปที่ออกมาทีหลัง บังว่าเปอร์เซนต์ต้องเปลี่ยนไปอีกแน่นอน ส่วนใหญ่ของคนกรุงเทพไม่เลือกพปช.อยู่แล้ว ดูได้จากจำนวน สส. และเลือกตั้งผู้ว่า คะแนนเลือกผู้ว่า ปชป. ก็มากกว่าถึงสองเท่า ฉะนั้น การที่คะแนนออกมาสนับสนุน/ไม่สนับสนุนพาลทะมิด 47.7:42.9 ก็ไม่น่าแปลกใจ ปชป. และพาลทะมิดซะอีกที่ต้องคิดให้มากว่าทำไม เพราะคะแนนมันเกือบครึ่งต่อครึ่ง |