ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ความอุบาทว์และเน่าเฟะของการเมืองแบบเก่าๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทำให้สังคมไทยออกมาขานรับกระแส "ปฏิรูปการเมืองใหม่" อย่างคึกคักในวันนี้

 สังคมไทยเรียกร้องว่า "ปฏิรูปการเมือง" แต่นักการเมืองไทยกลับบอกว่า "แก้รัฐธรรมนูญ"

 สะท้อนว่า นักการเมืองเก่าๆ ก็ยังคงเป็นนักการเมืองแบบเก่าๆ

 เมื่อทำผิดกฎหมาย ก็ไม่ยอมรับผิด กลับจะแก้กฎหมายเพื่อให้ตนและพรรคการเมืองของตนพ้นผิด

เมื่อใช้อำนาจการเมืองโดยมิชอบ เกิดความเสียหาย สูญสิ้นความชอบธรรมทางการเมือง แทนที่จะแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง กลับดื้อด้าน สืบทอดอำนาจกันเอง แสวงหาผลประโยชน์กันต่อไป  


 เมื่อประชาชนรู้ทัน ออกมาขับไล่ เรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมืองใหม่ แทนที่นักการเมืองพวกนี้จะออกไป เพื่อเปิดทางให้เกิดการปฏิรูปอย่างแท้จริงในทันที กลับพยายามหน่วงเหนี่ยว รั้งเวลา เล่นเกมการเมือง ต่ออายุของตนเอง เพียงเพื่อรักษาอำนาจและผลประโยชน์ของพวกตนต่อไป

 น่าเจ็บใจ... ก็เพราะนักการเมืองและพรรคการเมืองพรรค์จำพวกนี้เองมิใช่หรือ ที่เป็นเสมือนตัวหนอน ชอนไชระบบการเมือง เสียจนต้องทำการปฏิรูปครั้งใหม่  

ถึงวันนี้ ยังจะมาทำตัวเป็น "ตัวถ่วง" - "กีดขวาง" - "เหนี่ยวรั้ง" กระบวนการปฏิรูปการเมืองอย่างแท้จริงของสังคมไทย

 เรื่องทำนองนี้ ทำให้นึกถึงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 6 เรื่อง "โคลนติดล้อ"

 ขอให้ลองนึกภาพ รถที่กำลังวิ่งไปช้าๆ ในถนนที่มีโคลน ล้อรถก็จะเต็มไปด้วยโคลนเหนียวเหนอะ ซึ่งจะเป็นเครื่องกีดขวาง หน่วงเหนี่ยวให้ล้อรถเคลื่อนไปได้ช้าลง

 ถ้าคิดในบริบทปัจจุบัน... นักการเมืองและพรรคการเมืองพวกนี้ ก็เป็นเหมือน "โคลนตม" ที่หน่วงเหนี่ยวการขับเคลื่อนการปฏิรูปการเมืองใหม่ในขณะนี้ ใช่หรือไม่

 จำเป็นต้องแคะออก เขี่ยทิ้ง หรือไม่ก็ต้องเร่งเครื่องเดินรถให้เร็วขึ้น เพื่อให้ล้อรถหมุนขี้โคลนพวกนี้กระเด็นออกไปให้หมด !

 ในบทที่ 5 ของพระราชนิพนธ์เรื่อง "โคลนติดล้อ" กล่าวถึง "ความเห็นผิด" ไว้อย่างน่าสนใจ

 "...ความเห็นผิดอีกอย่าง 1 ซึ่งมีฝังอยู่ในคนจำพวก 1 นั้นก็คือว่า ถ้าแม้เป็นหมอความแล้ว ถึงจะฝ่าฝืนกฎหมายๆ ก็จะคุ้มครองตน ข้าพเจ้าได้ทราบเรื่องคนๆ 1 ซึ่งจับเรียนกฎหมายโดยความมุ่งหมายอย่างเดียวจะตีหัวคนอีกคน 1 เขาได้สอบไล่กฎหมายได้จริง ๆ และเขาได้พยายามทำร้ายร่างกายเช่นที่ได้ตั้งใจไว้จริงๆ ด้วย แต่ไม่จำเป็นที่ข้าพเจ้าจะต้องกล่าวเพิ่มเติมว่า ในเวลานี้ผู้ที่ข้าพเจ้ากล่าวถึงนี้ได้ไปอาศัยอยู่ในตะรางแล้ว! ถ้าความเห็นผิดในเรื่องอำนาจแห่งกฎหมายยังมีอยู่ตราบใด สง่าแห่งกฎหมายก็ย่อมจะไม่แผ่เผยพูนเพิ่มได้ตราบนั้น เพราะฉะนั้น ถึงแม้จะต้องถูกหาว่าซ้ำซาก ข้าพเจ้าก็ยอม แต่จะต้องขอถามท่านอีกสักครั้ง 1 ว่า การเป็นอยู่ตามที่ควรจะเป็นแล้วละหรือ? ถ้าท่านเห็นว่าไม่ควรดังที่ข้าพเจ้าหวังใจว่าท่านจะเห็นเช่นนั้น ท่านจะไม่ช่วยลบล้างความเห็นที่ผิดนี้ละหรือ? ถ้าท่านจะรักษาอำนาจแห่งกฎหมาย และท่านประสงค์จะให้กฎหมายเป็นเครื่องคุ้มครองชีวิตร่างกายและทรัพย์สมบัติของท่านแล้ว ท่านก็ต้องสะบัดหน้าไม่สมาคมคบค้าพวกที่ใช้กฎหมายเพื่อประโยชน์อย่างร้ายกาจของเขานั้นอีกต่อไป..."

อย่าปล่อยให้ "ความเห็นผิด" หรือ "มิจฉาทิฐิ" เข้ามาบิดเบือนการปฏิรูปการเมืองใหม่ !  

เมื่อพูดถึงการปฏิรูป ก็ควรต้องคิดเพื่อการปฏิรูปจริงๆ ไม่ใช่เอาเรื่องปฏิรูปเป็นเพียงเครื่องมือบังหน้า อำพรางการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตนเองและพรรคพวก  

ต่อกรณีที่ว่า สภาผู้แทนราษฎรชุดนี้จะทำการแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพื่อเปิดทางให้ตั้ง "สสร.3" ขึ้นมาแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น มีข้อควรต้องช่วยกันคิดหลายประการ เช่น

 1. ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลชุดนี้ ยังมีความชอบธรรมใด ถึงจะมาทำเรื่อง "การปฏิรูปการเมือง" ในเมื่อพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาฯ ล้วนอยู่ระหว่างการถูกดำเนินคดียุบพรรค ในโทษฐานทุจริตเลือกตั้งร้ายแรง ถึงขั้นกระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

 จะต่างอะไรกับการเอาพระปาราชิกมาเป็นเป็นผู้สังคายนาพระไตรปิฎก !

 2. ถ้าให้เอา "ขี้โคลน" ไปล้าง "ขี้โคลน" มันก็ต้องได้ "ขี้โคลนกองโตกว่าเก่า" ใช่หรือไม่ ?

 เราต้องใช้ "น้ำ" ไปล้าง "ขี้โคลน" มิใช่หรือ ?

 3. ถ้าเราจับได้ว่า คนเฝ้าบ้าน แท้จริงแล้วเป็นโจร

 เรากำลังจะไปแจ้งตำรวจให้มาจับโจร ระหว่างนั้น เราจะฝากดาบไว้ในมือโจรต่อไปหรือไม่ ?

 จะยกให้โจรเป็นคนตัดสินเลือกว่า จะอนุญาตให้ใครเข้านอกออกในบ้านเรา ได้หรือไม่?

 โจร ก็ต้องเลือกโจร ใช่หรือไม่ ?

 จะปล่อยให้โจรถือดาบ อยู่ในบ้านกับทรัพย์สินและคนที่เรารักต่อไป หรือไม่?

รัฐบาลชุดนี้ และพรรคร่วมรัฐบาลชุดนี้ ไม่มีความชอบธรรมที่จะมาตั้ง สสร. แก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเด็ดขาด  !  

สารส้ม


http://www.naewna.com/news.asp?ID=126034


รัฐบาล อ้างบอก ปล่อยให้เป็นการดำเนินการของรัฐสภา.....

มันพูดเหมือน ไอ้พวก สส. ฝักถั่ว จะคัดค้านสิ่งที่มันทำอย่างนั้น

ปฏิรูปการเมือง ต้องทำควบคู่กันไป ทั้งเรื่องปฏิรูปกฎหมายและปฏิรูปฝ่ายประชาชน

สังคมต้องปฏิรูปเยอะมาก โดยต้องแก้ไขที่วัฒนธรรมทางการเมือง

ให้มีคุณธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ ลงโทษคนผิดให้รวดเร็ว ชัดเจน รุนแรงพอที่จะให้นักการเมืองขี้โกงเกรงกลัว

พรรคการเมืองต้องมองถึงประเทศชาติหรือส่วนรวมเป็นด้านหลัก

ต้องป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนให้ได้

ถ้ายังเป็นรัฐบาลนอมินี่อยู่แบบนี้ คงแก้ไข ปรับปรุง หรือ ปฺฎิรูปการเมืองไม่ได้

ต้องมีวาระแห่งชาติเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ ยุทธศาตร์ปฏิรูปการเมือง เศรษฐกิจ สังคม มีงบประมาณสนับสนุนอย่างพอเพียง

*  แน่นอนว่า ... นักการเมืองเก่า ๆ ทั้งหลายย่อมทำตัวเป็น " โคลนติดล้อ "

    เพราะไม่มีใครอยากเสียผลประโยชน์ ... และ ฐานคะแนน  ที่ตัวเองสั่งสมบารมีเอาไว้

    ทุกวันนี้ ... เรายังเห็นนักการเมืองรุ่นปู่  รุ่นพ่อ  เต็มสภา ไปหมด

    อย่างเช่น  ชัย  ชิดชอบ    เสนาะ     สนั่น     บรรหาร  ฯลฯ  ...........................

    ซึ่งคนพวกนี้ล้วนมีอำนาจต่อรองทางการเมืองในด้านต่าง ๆ มาตลอด ..... ทั้ง ๆ ที่แท้จริงพวกเขาควร วางมือ ได้แล้ว

    แต่นั่นแหละ .... กว่าจะสะสมภินิหารในการต่อรองได้ขนาดนั้น  มันลงทุนกันมากอยู่

    แก่  แค่ไหน  ก็ทำใจให้ปลง  ไม่ได้ซ่ะที .... เราถึงเห็น  ลูกหลาน  ของคนเรานี้สืบทอดเชื้อสายกันรุ่นต่อรุ่นมาตลอด

    ตราบใดที่ รุ่นเก่าทางการเมือง  ไม่ยอมวางมือ .... สภา บ้านเราก็ไม่มีวันที่จะสะอาดหรอก
    คงต้องเหนื่อยกันอีกนาน ..... ถึงจะได้เห็น  การปฎิรูปการเมืองใหม่   :slime_smile: