หัวข้อ: เมื่ออาหารไม่พอแบ่ง....หมาเลยกัดกัน.. เริ่มหัวข้อโดย: 55555 ที่ 30-09-2008, 10:13 [/quote] โฆษกพรรคพลังประชาชนร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวภายหลังเดินทางกลับจากการประชุมสหภาพรัฐสภา (ไอพียู) ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 7 เมษายน ถึงกรณีที่เสนอแนะให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ตอบโต้ฝ่ายต่างๆ ให้น้อยลง ว่า เรื่องนี้ไม่อยากจะพูดแล้ว แต่จะขอใช้เวทีการประชุมพรรคพลังประชาชน ในวันที่ 8 เมษายน อธิบายให้นายสมัคร เข้าใจในสิ่งที่ตนพูดด้วยความบริสุทธิ์ใจ และขอยืนยันว่าการที่ตนออกมาแสดงความคิดเห็นไม่ได้เป็นการหวังตำแหน่งทางการเมืองตามที่มีคนบางคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์แต่อย่างใด 'ไม่เป็นไรที่ใครจะออกมากระแหนะกระแหน ดูถูกดูแคลนผมว่าผมต้องการตำแหน่งทางการเมือง ที่เขาพูดเช่นนั้นเป็นเพราะเขาพูดจากวิสัยของตัวเอง เพราะวันนี้ตำแหน่งที่มีความสำคัญมากที่สุดคือตำแหน่ง ส.ส. ที่ถือว่ามีหน้าที่หนักหนาสาหัส เพราะเราอยู่ในพื้นที่รับรู้ถึงหัวอกของประชาชน ที่สะท้อนปัญหามาที่เรา เราก็ต้องแบกรับหมด ฉะนั้นถ้าไม่มีเรารัฐบาลก็อยู่ไม่ได้' ร.ท.กุเทพกล่าว ซัดทีมโฆษกรบ.มัวแต่อุ้มนายกฯ ร.ท.กุเทพกล่าวว่า สิ่งที่พูดมาเพราะหวังดีกับรัฐบาล จากการที่ได้รับการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณีดังกล่าว ตนเห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะลูกทีมที่ทำเนียบรัฐบาลไม่ดูแลปัญหาให้ครบถ้วนหรือไม่ โดยเฉพาะทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ต้องอาศัยการทำงานเป็นทีมในการดูแลสคริปต์ กำหนดยุทธศาสตร์ ให้นายกฯในการออกรายการต่างๆ การทำหน้าที่ปกป้องนายกฯอย่างเดียวไม่พอ ไม่ใช่มีใครออกมาพูดถึงนายกฯก็ออกมาสวนทันที 'ที่จริง ผมไม่อยากพูดถึงท่านนายกฯ แต่ที่ต้องการพูดคือทีมทำเนียบ ต้องถามว่ายังทำงานอยู่ไหม รู้ทิศทางการเมืองหรือมีความบกพร่องหรือไม่ และถ้าทำไม่ได้ก็มาพูดคุยหารือกันในพรรคเพื่อที่จะได้ช่วยกันกำหนดทิศทางการทำงานต่อไป' ร.ท.กุเทพกล่าว ส่วนการออกมาแสดงความเห็นที่ไม่ได้อยู่ในทิศทางเดียวกับพรรค มีการมองกันว่าเป็นตัวปัญหาของพรรคหรือไม่ นายกุเทพกล่าวว่า ระบบพรรคในปัจจุบันจะอุ้มกันอย่างเดียวไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญให้ความเป็นอิสระกับ ส.ส. ซึ่งขอขอบคุณ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่เข้าใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดี อ้างถึง อ้างถึง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่ ร.ท.กุเทพพูดอาจจะเป็นวิธีการทำงานในมุมมองของ ร.ท.กุเทพ ตามข้อเท็จจริงการทำงานของผู้นำประเทศแต่ละคนมีวิธีการที่แตกต่างกันไป แต่พร้อมรับฟังคำแนะนำต่างๆ ที่ ร.ท.กุเทพเสนอมา เพียงแต่ถ้า ร.ท.กุเทพนำเรื่องนี้มาพูดคุยกันเป็นการภายใน ก็จะเกิดความเข้าใจกันมากกว่านี้ แต่สิ่งสำคัญของการทำหน้าที่โฆษก ไม่ว่าจะเป็นโฆษกพรรค หรือโฆษกรัฐบาลนั้น ไม่ควรมาพูดวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำของตัวเอง ส่วนตัวไม่เคยมีความคับข้องหมองใจอะไรกับ ร.ท.กุเทพมาก่อน เพียงแต่ไม่เข้าใจว่าเหตุใด ร.ท.กุเทพเลือกที่จะพูดจากประเด็นเหล่านี้ในช่วงเวลานี้ 'ที่ ร.ท.กุเทพระบุว่า แสดงความคิดเห็นด้วยความบริสุทธิ์ใจนั้น ทำไมต้องพูดกันผ่านสื่อ เบอร์โทรศัพท์ก็มี เห็นหน้ากันก็เห็น ผมยังไม่เคยไปวิพากษ์วิจารณ์ทีมโฆษกพรรคเลย เพราะถือว่าทุกคนเป็นพี่น้องกัน ผมเห็นว่า ร.ท.กุเทพอาจหมายความได้เป็น 2 ทาง คือ เป็นการพูดให้ข้อคิดด้วยความจริงใจ หรือเตรียมที่จะกระโดดเรือหนียามมีภัย เพื่อหาทางที่จะไปสร้างผลงานที่อื่น การเป็นโฆษกพรรคการเมืองไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์หัวหน้าพรรคตัวเอง ถ้าจะแสดงความกล้าหาญ ก็ควรแสดงเป็นการภายใน เพราะการพูดเช่นนี้จะได้ทั้งด้านบวก ด้านลบ แต่คนที่ได้แต้มเสมอคือคนที่พูด แต่คงมีใครสั่งให้มาพูด แต่พูดเพราะเจตนาของตัวเอง' นายณัฐวุฒิกล่าว ก่อนหน้านี้ กุเทพ ได้ออกมาพูดเรื่องการจัดสรรโควต้า แบบไม่เป็นธรรม... ใคร ๆ ก็รู้ว่า รัฐบาลนี้ จะเป็นการยื้อครั้งสุดท้าย หากใครตกรถเที่ยวนี้... ต้องรอโอกาสอีกครั้ง หลังเลือกตั้ง.....ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ..... หัวข้อ: Re: เมื่ออาหารไม่พอแบ่ง....หมาเลยกัดกัน.. เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 30-09-2008, 10:36 * เค๊าว่ากันว่า ..................
ตอนนี้ ณัฐวุฒิ ไสเกื้อ หวังรอเสียบเป็นหัวหน้าโฆษกเสียเอง ...... ( เบื่อแล้วกะตำแหน่งรองฯ ) ส่วน กุเทพ เตรียมโดนเฉดหัวออกไปได้แล้ว ไม่รู้ศึกตบตีกันเรื่องนี้จะจริงอ่ะป่าว :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: เมื่ออาหารไม่พอแบ่ง....หมาเลยกัดกัน.. เริ่มหัวข้อโดย: moon ที่ 30-09-2008, 11:05 มท.ส่อเค้าป่วน!โกวิทเปิดศึกหักดิบปรีชาชิงงานงบฯ หมื่นล้าน
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 กันยายน 2551 06:46 น. มหาดไทย ส่อเค้าวุ่น เหตุ โกวิท เริ่มงานวันแรกเปิดศึกหักดิบ ปรีชา คว้างานงบประมาณหลายหมื่นล้านไปครอง ด้าน มท.1 โต้ปากสั่น อ้างไม่ได้มาจากโควตารัฐมนตรีของ เนวิน แต่มาเพราะคำเชิญของ สมชาย ขณะที่ อีสานพัฒนา สุดเดือด ต่อสายตรงฟ้อง ยงยุทธ เร่งเคลียร์เจ้ากระทรวง รายงานข่าวจากระรวงมหาดไทยแจ้งว่า ในช่วงเย็นวานนี้ (29 ก.ย.) ที่ห้องทำงานของนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมช.มหาดไทย (มท.2) ได้มีทีม ส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนา อาทิ นายไพจิตร ศรีวรขาน นายบัวสอน ประชามอญ และทีมงาน ได้หารือถึงการแบ่งงานในกรมต่างๆ ในสังกัดกระทรวงหมาดไทย ซึ่งมีรายงานว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย ได้มีการหารือนอกรอบกับนายปรีชา ถึงการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบงานแล้ว ส่วนการหารือเบื้องต้น ปรากฏว่า นายปรีชา และกลุ่มอีสานพัฒนาไม่พอใจ เนื่องจากนายปรีชา ต้องการดูแลงานที่อยู่ในความรับผิดชอบเดิมของนายสุพล ฟองงาม อดีต รมช.มหาดไทย คือ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมพัฒนาชุมชน รวมทั้งการประปาส่วนภูมิภาค แต่ พล.อ.โกวิท ต้องการปรับเปลี่ยนงานใหม่ โดยสลับบางหน่วยงาน ทำให้ทีมงานการเมืองของนายปรีชา ต้องนำเรื่องนี้กลับมาหารืออีกครั้ง ขณะที่นายไพจิตร ศรีวรขาน หนึ่งในแกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับแจ้งการแบ่งงานเบื้องต้นจาก พล.ต.อ.โกวิท แล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ และอยู่ระหว่างการเจรจาอีกครั้ง เนื่องจากนายปรีชา และทางกลุ่มอีสานพัฒนาเห็นว่า ควรได้รับมอบหมายงานเดิมของนายสุพล ทั้งหมด เพราะทางกลุ่มส่วนใหญ่เป็น ส.ส.จากจังหวัดภาคอีสาน ซึ่งงานควรสอดคล้องกับภารกิจ ทั้งกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมพัฒนาชุมชน ที่มีขอบเขตการทำงานในพื้นที่ชนบท อีกทั้งจะสอดรับกับสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ นายปรีชา ก็มีความถนัดงานด้านท้องถิ่นอยู่แล้ว ทำให้การแบ่งงานยังไม่ลงตัว หากนายปรีชา ได้รับผิดชอบหน่วยงานเดิม ก็สามารถสานงานต่อได้ทันที แต่ พล.ต.อ.โกวิท จะใช้โอกาสนี้เกลี่ยงานใหม่ ซึ่งต้องเจรจาหาข้อยุติอีกครั้งนายไพจิตร กล่าว เมื่อถามว่า กรณีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ที่มาเป็นที่ปรึกษาให้กับนายสุพล แต่ตอนนี้นายสุพล ไม่อยู่แล้ว แต่มาช่วยงาน พล.ต.อ.โกวิทอยู่ แล้วทาง มท.2 จะทำอย่างไร นายไพจิตร กล่าวว่า เป็นดุลยพินิจของ พล.ต.อ.โกวิท ว่าจะทำอย่างไรกับนายศักดิ์สยาม เพราะ มท.1 ได้ประกาศแล้วว่า ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีในโควตากลุ่มเนวิน แต่มาเพราะคำเชิญของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ซึ่งก็ต้องดูว่าจะปรับเปลี่ยนอย่างไรต่อไป รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยอีกว่า ล่าสุดในช่วงค่ำวันเดียวกัน พล.ต.อ.โกวิท ได้หักดิบในการลงนามคำสั่งแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบให้กับ รมช.มหาดไทย ทั้งสองคนอย่างเป็นทางการแล้ว อันเป็นคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 323/2511 ลงวันที่ 29 ก.ย.2551 โดย พล.ต.อ.โกวิท ขอดูแลงานดังนี้ 1.สำนักงานรัฐมนตรี 2.กรมการปกครอง 3.กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 4.สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย 5.การประปาส่วนภูมิภาค 6.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 7.งานนโยบายและงานบริหารส่วนบุคคล 8.เรื่องที่ต้องเสนอนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ส่วนนายปรีชา ดูแลงานหน่วยงาน อันประกอบด้วย กรมการพัฒนาชุมชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร และการไฟฟ้านครหลวง ขณะที่นายประสงค์ โฆษิตานนท์ (มท.3) จากพรรคเพื่อแผ่นดิน ให้ดูแลงานกรมที่ดิน กรมโยธาธิการและผังเมือง การประปานครหลวง และองค์การตลาด การแบ่งหน้าที่ดังกล่าวของ พล.ต.อ.โกวิท เป็นสาเหตุที่นายปรีชา และ ส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนา ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจาก พล.ต.อ.โกวิท นำหน่วยงานสำคัญที่มีงบประมาณหลายหมื่นล้านบาทต่อปี และมีความสำคัญต่อการหาเสียง รวมทั้งการประมูลโครงการรับเหมาก่อสร้างไปดูแลเอง คือ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มอีสานพัฒนา นำโดยนายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด เคยออกมาเปิดเผยว่า มีการหาผลประโยชน์จากงบล่ำซำในกรมนี้ 1.5 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ การที่ พล.ต.อ.โกวิท นำการประปาส่วนภูมิภาค จากเดิมที่นายสุพล ดูแล ซึ่งกลุ่มอีสานพัฒนาต้องการรับผิดชอบไปดูแลเอง ทั้งการประปาส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อีกทั้งนายปรีชา ไม่พอใจที่ พล.ต.อ.โกวิท นำกรมโยธาธิการและผังเมืองไปให้นายประสงค์ ที่เป็นรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อแผ่นดิน แล้วกลับมอบหน่วยงานที่ไม่ค่อยมีความสำคัญ และไม่ตรงกับความต้องการของฝ่ายการเมืองในอีสานพัฒนา คือ กรุงเทพมหานคร มาให้รับผิดชอบ ทั้งๆ ที่ ส.ส.ในกลุ่มทั้งหมดไม่มีใครเป็น ส.ส.กทม.เลยแม้แต่คนเดียว จึงทำให้เมื่อกลุ่มอีสานพัฒนาไม่พอใจเป็นอย่างมากเมื่อทราบคำสั่งนี้ในช่วงเย็น ทำให้ ส.ส.บางคน ถึงกับโทรศัพท์ไปรายงานให้นายยงยุทธ ติยะไพรัช ทราบ http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000115607 เรื่องนี้ก็ตรงตามกระทู้นี้เหมือนกัน หัวข้อ: Re: เมื่ออาหารไม่พอแบ่ง....หมาเลยกัดกัน.. เริ่มหัวข้อโดย: แอ่นแอ๊น ที่ 30-09-2008, 11:27 เอ่อว่าแต่ ถ้าโดนยุบพรรค กุเทพจะโดนตัดสิทธิ์ด้วยนิ :slime_smile:
หัวข้อ: Re: เมื่ออาหารไม่พอแบ่ง....หมาเลยกัดกัน.. เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 30-09-2008, 13:50 * พูดถึงเรื่อง > เมื่ออาหารไม่พอแบ่ง....หมาเลยกัดกัน.. < เนี่ยย
คิดไปได้หลายเรื่องเลยนะ .... อย่างเรื่อง แบ่งเค้ก รมต. สู่ ครม. นี่ก็ฟัดกันยังกะหมาแย่งกระดูก สุดท้ายก็ได้ ครม. ยิ่งกว่าขี้เหร่กลับมาเสียอีก ( ดูได้จาก เหลิม ได้เก้าอี้ สาธารณสุข ) หรือถ้าเป็นคนชอบเรื่องเศรษฐกิจ อย่างพี่ 55555 .... ก็สามารถวิจารณ์เชื่อมไปได้ถึงทีม เศรษฐกิจ ชุดนี้ว่า ขี้เหร่ ขนาดไหน สงสัยพวกทำ วิจัย ... ต้อง รีเสริช์ ข้อมูลเพิ่มเติม " เรื่องการขาดแคลนอาหารหมาเพราะ สส. แย่งเอาไปกินหมด " เสียแล้วมั่งนี่ :slime_sentimental: นี่ก็แย่งกัน ..... จน นาทีสุดท้าย แย่งชามข้าววุ่น อ้อเล็ก กรี๊ดถูกลดชั้นรองโฆษกลูกน้อง ณัฐวุฒิ พลังแม้ว แย่งชามข้าวกันจนนาทีสุดท้าย ล่าสุด ถึงคิวระดับเกรดสาม เกรดสี่ อ้อเล็ก กรี๊ดถูกลดชั้นมาเป็นลูกน้อง ณัฐวุฒิ ในตำแหน่งรองโฆษก จนต้องเลื่อนการแต่งตั้งออกไปก่อน วันนี้ (30 ก.ย.) นายสุขุมพงษ์ โง่นคำ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีชั่วคราว แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมครม.วันนี้ยังไม่มีการแต่งตั้งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตนยังต้องทำหน้าที่แทนต่อไป เนื่องจากยังสรรหาผู้มาดำรงตำแหน่งไม่ได้ ทั้งโฆษกฯ และรองโฆษกฯ ทั้งหมด เพราะแม้แต่ตำแหน่งทางการเมืองของพรรคก็ยังไม่มีการแต่งตั้ง แต่เชื่อว่า จะทำหน้าที่เป็นโฆษกประจำสำนักนายกฯได้อีกครั้งเดียว ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จะมาดำรงตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกฯ แทน พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกฯ ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิด นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การที่ ครม.ไม่สามารถแต่งตั้งทีมโฆษกประจำสำนักนายกฯได้ เนื่องจาก ดร.ณหทัย ทิวไผ่งาม อดีต ส.ส.กทม.พรรคไทยรักไทย ได้ขอถอนตัวจากการเป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้เหตุผลว่า ก่อนนี้เคยพูดไปแล้วว่า จะได้รับการแต่งตั้งเป็นโฆษกฯและทุกสื่อก็เสนอไปอย่างนี้ เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ยอมรับไม่ได้ ทำให้ทุกอย่างเสียขบวนไปหมด ทั้งๆ ที่นายกฯได้มีคำสั่งแต่งตั้งทีมโฆษกทั้งหมด 4 คนแล้ว ซึ่งประกอบด้วย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นโฆษกประจำสำนักนายกฯ และ น.ส.ณหทัย ทิวไผ่งาม รองโฆษกฯ น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกฯ และ น.ส.วีรินทรทิรา นาทองบ่อจรัส แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า นายกฯได้เคยติดต่อกับ นายณัฐวุฒิ ไว้ตั้งแต่วันรับพระบรมราชโองการฯแต่งตั้งเป็นนายกฯ เนื่องจากรู้ดีว่า เมื่อเข้ามาเป็นนายกฯจะต้องถูกเล่นงานในหลายเรื่อง จึงต้องการได้ นายณัฐวุฒิ เป็นตัวชน แต่ขณะเดียวกัน นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กลับได้ติดต่อ น.ส.ณหทัย มาเป็นโฆษกรัฐบาล โดยไม่ได้แจ้งให้นายกฯรับทราบ และพยายามผลักดันมาตลอด แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ นายกฯก็คงจะไปเคลียร์กับนายยงยุทธ ทั้งนี้ ก่อนที่จะมีการเซ็นคำสั่งใหม่เสนอเข้าที่สู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณาแต่งตั้งยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกใครใหม่ หรือจะตัดโควตาส่วนนี้ไปเลย ซึ่ง น.ส.ณหทัย ได้ขอถอนตัวเมื่อคืนวันที่ 29 ต.ค.ทำให้ไม่สามารถแก้ไขได้ทันเข้าที่ประชุม ครม.จึงได้มีการเลื่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.สัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวด้วยว่า น.ส.ณหทัย อาจจะไปเป็นเลขานุการให้กับ นายชูศักดิ์ ศิรินิล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี หลัง ครม.มีมติแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ไปสอบถาม น.ส.ณหทัย ไม่รับสายผู้สื่อข่าว |