ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: jerasak ที่ 26-09-2008, 22:44



หัวข้อ: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 26-09-2008, 22:44
ผู้จัดการเอาบทความคุณพิษณุในมติชนมาอ้างต่ออีกที แต่ก็พอจับประเด็นได้ระดับหนึ่งครับ
บทความจริงเข้าไปดูที่เว็บมติชนแล้วเปิดไม่ได้ เพราะสงวนสิทธิ์เฉพาะสมาชิกครับ

เอาแค่ที่ผู้จัดการลงไว้มาให้ดูกันก่อนนะครับ ถ้ายังจำกันได้คุณพิษณุเคยทำนายอะไรแม่นๆ
มาแล้วครั้งหนึ่งตอนต้นรัฐบาลทักษิณ 2 ที่ไทยรักไทยได้คะแนนถล่มทลาย ว่าอีกไม่นาน
จะต้องเกิดเหตุการณ์มวลชนออกมาเดินประท้วงตามท้องถนน และ 1 ปีต่อมาก็เกิดขึ้นจริงๆ
และสุดท้ายนำไปสู่การรัฐประหาร 19 กันยา

ผมเห็นด้วยกับคุณพิษณุว่าพอเห็นรายชื่อ ครม.สมชาย แล้วรู้สึกทันทีว่าต้องปฏิรูปการเมือง
เท่าที่คุยกับคนทั่วไปก็รู้สึกไปในทางเดียวกัน ว่าสิ้นหวังกับระบบปัจจุบันแล้ว

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง
โดย ผู้จัดการออนไลน์   26 กันยายน 2551 17:16 น.
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000114424

ผู้จัดการออนไลน์ - “พิษณุ นิลกลัด” ไม่ทน “การเมืองเก่า” ชี้ ครม.สมชาย 1 ผลักให้คนเลือกข้าง “การเมืองใหม่” ของพันธมิตรฯ
ชี้ ถ้าไม่เปลี่ยนจะเหลือแต่พวกโกงบ้านกินเมือง แถมถ่ายทอดพันธุกรรมไปยังลูก-หลาน ที่คอร์รัปชันหนักมือขึ้น ร้องนักรัฐศาสตร์
ระดมสมองหาทางออก เสนอ คดีทุจริตไม่มีอายุความ-ลงโทษรุนแรง
       
       ในหนังสือมติชน สุดสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ 26 ก.ย.-2 ต.ค.2551 ปีที่ 28 ฉบับที่ 1467 หน้าที่ 96 ในคอลัมน์คลุกวงใน
นายพิษณุ นิลกลัด พิธีกร นักสื่อสารมวลชนอาวุโส ได้เขียนบทความเรื่อง “หลายมิติที่ได้เห็น ‘รัฐบาล สมชาย 1’” ระบุถึงความ
ผิดหวังในรายชื่อคณะรัฐมนตรีของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า ครม.ชุดนี้น่าจะอยู่ได้ไม่กี่เดือน
       
       ผู้ประกาศ และพิธีกรชื่อดังของช่อง 7 ผู้นี้ ยังกล่าวอีกว่า เมื่อพิจารณาจากรายชื่อ ครม.แล้วจะเห็นได้ว่า ยังคงตกอยู่ภายใต้
อิทธิพลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ปัจจุบันหลบหนีคดีอาญาไปอยู่ประเทศอังกฤษ และพิสูจน์ให้เห็นได้ชัด
ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอมรามือทางการเมืองและยังมุ่งหวังที่จะเอาเงิน 7 หมื่นล้านบาทที่ถูกอายัดไว้จากคดีทุจริตคืน
       
        “ดูโฉมหน้า ครม.แล้วประเทศไทยของเรายังคงอึมครึมไปอีกนาน คนที่เคยหัวเราะเยาะ “การเมืองใหม่” ของกลุ่มพันธมิตรฯ
เริ่มลังเลใจ เพราะถ้า “การเมืองเก่า” ทำให้นักการเมืองไม่เห็นหัวหรือไม่ใส่ใจความรู้สึกห่วงใยบ้านเมืองของปัญญาชน รวมทั้ง
คนชั้นกลางขึ้นไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ไอเดียการเมืองใหม่ของกลุ่มพันธมิตรฯ ถ้าช่วยกันปรับแต่งให้ดีบางทีอาจเป็นทางออก
และความหวังของประเทศ”
       
       จากนั้น นายพิษณุ ได้กล่าวต่อว่า ถ้าสถานการณ์เป็นอย่างนี้ ต่อไปการเมืองไทยจะไม่มีวันพัฒนา เพราะนักการเมืองรุ่นเก่า
สไตล์โบราณจะเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนเก่ง คนดี และคนซื่อสัตย์เข็ดขยาด และรังเกียจที่จะเข้าสู่การเมือง ทั้งยังไม่มีเงินมากพอ
นอกจากนี้ ลูกหลานของนักการเมืองเก่าเหล่านี้ก็กำลังเข้ามามีบทบาททางการเมือง และมีวิธีการคอร์รัปชันที่แนบเนียนขึ้นเรื่อยๆ
       
       “นักการเมืองเลวที่มีวิชันส่งลูกไปเรียนเมืองนอก กลับมาเป็นนักการเมือง ปรากฏว่า ประเทศเดือดร้อนยิ่งกว่าสมัยที่พ่อ
เล่นการเมืองคนเดียว เพราะลูกได้ “นิสัยดั้งเดิม” จากพ่อที่บ่มเพาะกันมาตั้งแต่เด็ก แล้วยังได้ความเป็นอินเตอร์ทั้งภาษาและ
โลกทัศน์ที่พ่อไม่มี นักการเมืองรุ่นลูกประเภทนี้กินเยอะกินละเอียดกว่ารุ่นพ่อ ถ้าเมืองไทยไม่ปรับแก้กติกาการเมืองกันใหม่
ให้รัดกุม ภาคประชาชนไม่แข็งแรง ความผิดฐานฉ้อราษฎร์บังหลวงยังมีหมดอายุความ ... อนาคตลำบากแน่ครับ”
       
       นอกจากนี้ นายพิษณุ ยังกล่าวด้วยว่า ในฐานะอดีตศิษย์เก่ารัฐศาสตร์ จุฬาฯ ตนขอเรียกร้องให้ทุกมหาวิทยาลัยที่มี
คณะรัฐศาสตร์ จัดสัมมนาเรื่องการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับประเทศกำลังพัฒนา และเหมาะสมกับ
สภาพเศรษฐกิจ การศึกษา ความเชื่อ นิสัยและวัฒนธรรมไทย โดยที่นักรัฐศาสตร์ทุกคนจะต้องช่วยให้ประเทศไทยไปรอดให้ได้
ทั้งนี้ทั้งนั้น เขาเสนอว่า ประชาธิปไตยใหม่นี้จะต้องมีบทลงโทษนักการเมืองที่ทุจริตอย่างรุนแรง


หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: gabiNo ที่ 26-09-2008, 23:55
คุณพิษณุ สมแล้วที่ดิฉันชื่นชอบคุณ  :slime_sentimental:


หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: May The Force Be With You ที่ 27-09-2008, 00:05
ลุงแถวบ้านผมก็บอกแบบนี้    ตั้งแต่เห็นหน้าไอ้เหลิมคุมสาธารณสุข   :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 27-09-2008, 00:12
พ่อค้า แม่ค้า แถว Office ที่เชียร์เหลี่ย เชียร์ รัฐบาล

บอก เห็นหน้าคณะ ครม. แล้วเชียร์ไม่ลง  :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: คนกวาดขยะ ที่ 27-09-2008, 00:14
ิ :slime_agreed:


หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: คนกวาดขยะ ที่ 27-09-2008, 00:16
ไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์หลายปี เพิ่งรู้ว่าพิษณุ เขียนบทความการเมืองด้วย

ความคิดอ่าน เข้าท่า รู้ลึก รู้จริง

ต่างกับนักข่าวรุ่นใหม่หลายคน หรือคอลัมนิสต์รุ่นเก่า บางคน

ที่ใช้ี่สมองควายแทนที่สมองคน โง่จนแยก ดี-ชั่ว ไม่ออก

หรือเขียนบทความตามใบสั่ง เท่านั้นเอง



หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: หมักเมถุน ที่ 27-09-2008, 01:01
คอลัมน์แกส่วนใหญ่จะเน้นไปทางด้านกีฬาครับ อยู่ท้ายๆเล่มในมติชนสุดสัปดาห์ (พอรู้บ้างเพราะอาศัยอ่านฟรีจากผู้ใจบุญครับ  :slime_shy: )


หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: พลังเงียบ ที่ 27-09-2008, 02:46
เขาเสนอว่า ประชาธิปไตยใหม่นี้จะต้องมีบทลงโทษนักการเมืองที่ทุจริตอย่างรุนแรง
ถูกใจ ใช่เลย ต้องอัดยาแรง
 :slime_fighto: :slime_fighto: :slime_fighto:


หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 27-09-2008, 02:56
พิษณุเรียนจบ รัฐศาสตร์จุฬาฯ ถ้าจำไม่ผิดเป็นนักฟุตบอล สจม.

  เริ่มเข้าสู่วงการข่าวโดยเป็นผู้สื่อข่าวการเมือง ใต่ระดับจนถึงหัวหน้าข่าวการเมือง และทำข่าวกีฬาจนเป็นบรรณาธิการข่าวกีฬา

ภาพของแกออกแนว กีฬา มากกว่าการเมือง เพราะคนเห็นแต่ภาพนั้นทางโทรทัศน์

คอลัมน์ในมติชนสุดสัปดาห์ เขียนกีฬาฯเป็นหลัก บางที่ก็ออกแนวการเมืองตามกระแส

ฉบับที่แล้วก็เขียนเรื่อง สส. ขานชื่อ นายกรัฐมนตรี

ฉบับนี้ก็เขียนซ้ำ เมื่อเห็นโผรายชื่อ รมต. แล้ว

ผู้จัดการนำมาไม่ครบหรอกครับ แค่สรุป ๆ มา

คำว่าการเมืองใหม่ กระตุ้นทุกภาคส่วนแล้ว ขนาด พี่เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ยังเสนอรูปแบบ "การเมืองในทัศนะใหม่"

เนาวรัตน์นำเสนอรูปแบบ 3 สภา เรียกว่า สภาภิวัฒน์

แบ่งเป็นสองส่วน คือ สภารัฐ กับ สภาราษฎร์

สภารัฐมี 2 สภา คือ สภาผู้แทน กับวุฒิสภา ( สภาผู้แทน ใช้ระบบขจัดการเข้าสู่อำนาจโดยมิชอบ ) วุฒิสภาเป็น สภาวิชาชีพและคนกลุ่มน้อย

ฝั่งสภาราษฎร์ มาจากการจัดตั้ง เรียกสภาประชาชน เป็นสภานอกระบบเลือกตั้ง แต่มีอำนาจตรวจสอบ

ลองๆ ไปหาอ่านนะครับ

0000000000

ส่วนหมอประเวศ วะสี เสนอให้วางกรอบประชาธิปไตยแบบอารยะเสียก่อน อย่าเพิ่งไปคุยเรื่อง "องค์กรการเมือง" มันจะทำให้ทะเลาะกันก่อน

ถึงที่สุด พรุ่งนี้จะมีการประชุมสัมนาของพันธมิตรฯ อาจมีข้อสรุปดีๆ ออกมาเพื่อให้ทั้งสังคม ช่วยกันคิด

แต่ผมเชื่อว่า อาจต้องนำ "การเมืองใหม่" ออกมาจากทำเนียบ ให้ประชาชนภาคส่วนอื่น ๆ ช่วยคิดต่อ

ถ้ายังสัมนาในทำเนียบ คนที่ไม่เห็นด้วยกับการยึดทำเนียบคงไม่เข้าร่วม

หากรัฐบาล จะยอมรับการปฏิรูปการเมืองรอบใหม่ ถ้าให้เดา ประธานน่าจะเป็น คุณหมอประเวศ วะสี


หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 27-09-2008, 03:45
จะว่าไป หากจะลงโทษนักการเมืองให้หนักมือ

รัฐธรรมนูญใหม่ ไม่ต้องมีหลายมาตรา เอาแค่โครงใหญ่ๆ ก็พอ

นอกนั้นให้ทำเป็น พรบ. จะได้ลงโทษได้ง่าย จำคุก ปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ ทำได้เลยโดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง

โดยเฉพาะประมวลจริยธรรมนักการเมือง ต้องมีโทษอาญาประกบด้วย


หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 27-09-2008, 08:28
*   ดีค่ะ  ที่คุณจีเอาเรื่อง ครม. ชุดใหม่มาลง ... เพราะดูเหมือนว่าที่นี่คุยเรื่องนี้กันน้อย

     จะว่าไปแล้ว ครม. ของ นายก  สมชาย  มันก็คือ คนหน้าเดิม ๆ ที่กลับเข้ามารับตำแหน่งนะแหละ

     แถมยังเอาคนที่ไม่มีความรู้โดยตรงมาสวมหัวโขนเสียอีก  ดูอย่าง  เฉลิม  เป็นไงเข้าไปคุม สาธารณสุข

     ครม. ชุดนี้มีสายตรงในการจัดตั้งมาจาก ลอนดอน ...........  มีการแบ่งเค้กกันในเรื่องเก้าอี้  รมต.

     การต่อรองกันแบบสุด ๆ จากหลายกลุ่มหลาบก๊วน  เพื่อที่จะให้ได้นายกคนใหม่มีชื่อว่า  สมชาย  วงสวัสดิ์  น้องเขย  แม้ว

     พวกเราก็เลยเห็น  ครม. ที่เกินเลยคำว่า ขี้เหร่  ..... ไปถึงขั้น  " อัปลักษณ์ "  แบบนี้ไงคะ  

     


หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: LunaticBomberman ที่ 27-09-2008, 10:29
แค่เห็นชื่อ เหลิม กับ ไชยา ผมก็ทนอ่านไม่ไหวแล้วครับ อีกอย่างรัฐมนตรีแต่ละคนก็จบมาไม่ตรงสาขา อย่างรมต. ศึกษา ถ้าจำไม่ผิด พี่แกจบ และทำงานมาทาง คมนาคม

เหมือนหมอให้ยาไม่ถูกโรค อย่างงี้จะไหวมั้ยเนี่ย


หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: ninja ที่ 27-09-2008, 10:42
ฟรีทีวีทุกช่อง ถ้ามี  สื่อ  ที่รู้สึกรู้สากับบ้านกับเมือง

แล้วเผยแพร่ความจริง แค่ช่องละชั่วโมง  ทุกวัน ๆๆๆๆ

การเมืองใหม่ เข้าไปถึงทุกหย่อมหญ้าแน่นอน

ขนาดมีแต่ เอเอสทีวี กับ พธม  ก็ขานรับกันกว่าครึ่ง

ก็ได้แต่ให้พวกสื่อฟรีทีวี เกิดดวงตาทำเพื่อชาติ

 :slime_v: :slime_v:


หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: Tuba ✿゚✎..✿.。.:。ღ ที่ 27-09-2008, 11:41
แค่เห็นชื่อ เหลิม กับ ไชยา ผมก็ทนอ่านไม่ไหวแล้วครับ อีกอย่างรัฐมนตรีแต่ละคนก็จบมาไม่ตรงสาขา อย่างรมต. ศึกษา ถ้าจำไม่ผิด พี่แกจบ และทำงานมาทาง คมนาคม

เหมือนหมอให้ยาไม่ถูกโรค อย่างงี้จะไหวมั้ยเนี่ย

ผมกลับเห็นตรงกันข้ามนะครับ นอกจากระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการคลังแล้ว

ผู้ที่มาเป็น รมต. หรือ รมช. ไม่ควรจะเอาผู้ที่รู้จักคุ้นเคยงานนั้น ๆ มาคุม

เพราะยิ่งรู้ละเอียดมาก ยิ่งเข้าไปล้วงลูกมาก สุดท้ายก็กลายเป็นผู้บริหารสันดานเสมียน

หรือแม้กระทั่งโยกคนที่เห็นว่าจะขวางประโยชน์ออกไปให้พ้นทาง


หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 27-09-2008, 13:39
ประเด็นสำคัญ ที่พิษณุเขียนไว้ในบทความนี้ แกบอกว่า

ตลลอด 4 ปีที่เรียนรัฐศาสตร์ ถูกสอนมาว่า ไทยใช้ระบบของอังกฤษ

( ผู้จัดการไม่ได้นำมาใส่ในข่าว )

0000000000000000000000000

ตรงนี้ก็น่าคิด เราใช้แบบของอังกฤษ มากน้อยแค่ไหน

อะไรคือ ความงดงามของประชาธิปไตยของอังกฤษ

ทำไมประชาชนเค้าถึงเข้าใจ คุณธรรม จริยธรรม ทั้งๆ ที่ไม่ได้ถือพุทธ

เริ่องนี้ นายธานินท์ กรัยวิเชียร องคมนตรี เขียนไว้ว่า

อังกฤษยึดมั่นในหลัก "อวิโธนะ" คือ ความไม่คลาดเคลื่อนแห่งหลักธรรม หรือ หลักการ

คนเรานั้นหากมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ในจิตใจ และไม่คลาดเคลื่อนจากตรงนั้น

ถือว่าสังคมนั้น เหมาะสมที่ประชาธิปไตยเจริญงดงาม

และไม่จำเป็นต้องมีรัฐธรรมนูญปรากฎเป็นลายลักษณ์อักษร

เพราะอย่างถ่องแท้ว่า อะไรดี อะไรเลว อะไรเป็นประโยชน์ส่วนตน อะไรเป็นประโยชน์สาธารณะ

แต่สังคมไทยที่ชื่นชอบนิทานศรีธนญชัยเป็นชีวิตจิตใจ ชื่นชอบวิธีคิดกบฎ ๆ แบบศรีธนญชัย

มันก็ยากเหมือนกันที่จะให้สังคมนั้น "ไม่คลาดเคลื่อนจากหลักแห่งธรรม" เพราะฝังหัวชื่นชม ศรีธนญชัย

แปลความว่า "รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี" แบบผิด แบบที่ไม่ดูว่า "รักษาตัวรอดเนื่องเพราะกระทำขัดหลักการหรือไม่"

สังคมที่เห็น "พันท้ายนรสิงห์" เป็นคนโง่ ก็ลำบากที่จะพัฒนา เพราะไม่มีคนกล้าทำ กล้ารับ

เห็นได้จากการต่อสู้ของทนายความในเมืองไทยนั่นแหละครับ

ทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกความของตนเองชนะคดี นักการเมืองไทยก็มักเป็นเช่นนั้น

ที่สำคัญ ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่กลับ "รับได้" นี่สิคือตัวปัญหา

เว้นเสียแต่ว่า เราจะมีการตรวจสอบที่เข้มแข็ง โกงเมื่อไหร่คุกทันที

โกงเลือกตั้งฉ้อฉลอำนาจเมื่อไหร่คุกทันที

แบบนี้ประเทศไทยยังมีโอกาส

ถ้าแค่คดี แจกใบแดง ใบเหลือง ยังใช้เวลาเกือบปี แล้วเราจะมี กกต. ขี้เท่อแบบนี้ไว้ทำไม

ประชาธิปไตยที่มีเรื่องการโกงตั้งแต่ชั้นเข้าสู่อำนาจ มันก็พัฒนาประชาธิปไตยไปไม่ได้ตั้งแต่ต้น


หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: chaidan ที่ 27-09-2008, 13:45
อ่านข่าวนี้แล้วผม รู้ได้เลยว่า การเมือง ประชาธิปไตย แบบไทยๆ
มันสุดๆ ขนานไหน เศร้าใจจริงๆ สส.ฝากรัฐบาล ทำสภาล่ม เพราะว่า
อดได้ตำแหน่ง  หมดหวังแล้วจริงๆ :slime_dizzy:

สภาล่มพรบ.ฟอกเงินเลื่อนลงมติรอบ2นับองค์ถึง 3 ครั้ง
http://www.komchadluek.net/2008/09/27/x_pol_k001_222850.php?news_id=222850 (http://www.komchadluek.net/2008/09/27/x_pol_k001_222850.php?news_id=222850)


หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 27-09-2008, 13:57
วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2551 เวลา 20:14:43 น.  มติชนออนไลน์

การเมืองใหม่ ต้องกำจัดนักการเมืองขี้ฉ้อ..

โดย ประสงค์ วิสุทธิ์

ยามที่พูดกันถึง"การเมืองใหม่" แต่ยังไม่มีใครจินตนาการออกว่า หน้าตาที่ควรจะเป็น หรือเหมาะสมจะเป็นอย่างไรซึ่งคงจะต้องใช้เวลาถกเถียงกันอีกนาน

แต่ที่เห็นตรงกัน 2 เรื่องคือ

หนึ่ง ภาคประชาชนจักต้องมีส่วนร่วมมากขึ้นทุกขั้นตอน ตั้งแต่การกำหนดนโยบาย การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐทั้งทางตรงและทางอ้อม

การเคลื่อนไหวภาคประชาชนต้องได้รับการยอมรับว่า เป็นการเมืองในระบบ ขณะเดียวกันการเคลื่อนไหวต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสมสามารถแสดงเจตจำนงให้ผู้มีอำนาจตระหนักถึงความต้องการที่แท้จริงของประชาชน (แต่ไม่ใช่สรรหา 70 เลือกตั้ง 30แบบที่พันธมิตรฯเสนออย่างแน่นอน)

สอง นักการเมืองต้องไม่ฉ้อราษฎร์บังหลวง ไม่ควรมีทัศนคติแบบนักการเมืองที่คอร์รัปชั่นบ้าง(ไม่มูมมาม) แต่ทำงาน พอยอมรับได้

ความคิดเช่นนี้ที่ทำให้ชนชั้นกลางในเมืองและนักธุรกิจยอมรับรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรในระยะแรก เพราะความเคยชินหรือคิดได้ประโยชน์จากรัฐบาลนี้

แต่เมื่อรัฐมนตรีในรัฐบาลแสดงความตะกละตะกลามมากขึ้น รวมถึงพ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวชินวัตรขายหุ้นชินคอร์ป 73,000 ล้านบาท โดยไม่ยอมเสียภาษีแม้แต่บาทเดียว

ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ทนไม่ได้เพราะเห็นว่า รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณกำลังมูมมามจนถึงขั้นเอาเปรียบพวกเขา

แต่การที่จะหวังให้นักการเมืองเลิกฉ้อราษฎร์บังหลวงเอง เหมือนรอให้งาช้างงอกออกจากปาก*** จึงต้องหาวิธีการในการกำจัดนักการเมืองเหล่านี้ซึ่งที่ผ่านมามีการเสนอวิธีการมากมาย แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ

เพราะสุดท้ายปลายทางแล้ว มีน้อยมากที่จะสามารถนำนักการเมืองขี้ฉ้อมาลงโทษได้ตามกฎหมาย

แม้ในช่วง 1-2 ปีนี้ ศาลได้พิพากษาจำคุกนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงไปจำนวนหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่สามารถหลบหนีเงื้อมมือกฎหมายไปเสวยสุขอยู่ต่างประเทศได้ โดยที่รัฐมนตรีในรัฐบาลมีส่วนรู้เห็น เช่น นายสมชาย คุณปลื้มหรือกำนันเป๊าะ นายวัฒนา อัศวเหม พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร

แต่นักการเมืองเหล่านี้ก็ยังไร้ยางอายลอยหน้าลอยตาหรือเป็นรัฐมนตรีอยู่ได้ ทั้งๆที่เป็นการทำลายหลักนิติรัฐและกระบวนการยุติธรรม

อย่างไรก็ตาม ยังมีคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องพิจารณาอยู่อีกหลายคดีรวมทั้งในป.ป.ช.ซึ่งจะพิสูจน์ว่า กระบวนการยุติธรรมไทยมีประสิทธิภาพหรือไม่

การจัดการนักการเมืองนักการเมืองขี้ฉ้อที่น่าจะได้ผลยังมีอีก ถ้านำวิธีการนี้มาใช้อย่างจริงจัง

ก่อนประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 สาธารณชนไม่มีทางรู้ว่า รัฐมนตรีแต่ละคนมีทรัพย์สินมากน้อยแค่ไหน หลายคนก่อนเป็นรัฐมนตรีมีฐานะยากจน แต่เป็นรัฐมนตรีเพียงปีสองปีก็ร่ำรวยอู่ฟู่

จนกระทั่งเกิดการรัฐประหารโดยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(รสช.) เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2534 มีการอายัดทรัพย์นักการเมืองในรัฐบาลพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ 25 คนและแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน(คตส.)ขึ้นมาตรวจสอบจนกระทั่งสั่งยึดทรัพย์นักการเมืองจำนวนหนึ่ง ทำให้รู้ว่า นักการเมืองเหล่านี้มีทรัพย์สินหลายร้อยล้านบาท ทั้งๆที่บางคนไม่มีอาชีพที่แน่ชัด

แม้ต่อมาศาลฎีกาจะพิพากษาให้คำสั่งให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของ คตส.เพราะถือว่า คตส.ใช้อำนาจตุลาการซึ่งขัดต่อประเพณีการปกครองและเป็นการริบทรัพย์ทางอาญาย้อนหลัง(ฎีกาที่  1131/2536)

แต่การที่นักการเมืองเหล่านี้มีทรัพย์สินจำนวนมากเป็นที่ข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ กรมสรรพากรจึงอาศัยประมวลรัษฎากร มาตรา 49 ประเมินภาษีนักการเมืองเหล่านั้น เช่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายเสนาะ เทียนทอง นายสุบิน ปิ่นขยัน พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร ฯลฯ

ทั้งนี้มาตรา 49 ให้เจ้าพนักงานมีอำนาจประเมินเงินหรือทรัพย์สินที่อยู่ในครอบครองของผู้มีเงินได้ ฐานะความเป็นอยู่หรือพฤติการณ์ของผู้มีเงินได้เมื่อเทียบกับการสถิติเงินได้ของผู้มีเงินได้ หรือกิจการของผู้มีเงินได้เป็นหลักในการพิจารณาว่า สอดคล้องต้องกันหรือไม่

แต่การใช้อำนาจตามมาตรานี้ ต้องให้อธิบดีกรมสรรพากรอนุมัติก่อนทำการประเมิน

ปรากฏว่า กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีจากนักการเมืองเหล่านี้ ทำให้นักการเมืองเหล่านี้ฟ้องต่อศาลภาษีอากรกลางให้เพิกถอนคำสั่งของกรมสรรพากรซึ่งศาลมีคำพิพากษาให้กรมสรรพากรแพ้คดี เนื่องจากเจ้าหน้าที่ประเมินภาษี โดยมิได้ขออนุมัติจากอธิบดีซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญและเป็นเรื่องพื้นฐานที่เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรไม่น่าผิดพลาด

ถึงมาบางอ้อที่หลังว่า เป็นความจงใจของเจ้าหน้าที่และผู้บริหารของกรมสรรพากรที่รับคำสั่งมากจากนักการเมือง สมัยรัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา

แม้คดีดังกล่าวจะยังไม่หมดอายุความ กรมสรรพากรก็ไม่ยอมอุทรณ์หรือเริ่มประเมินภาษีนักการเมืองเหล่านี้ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หรือรัฐบาลนายชวน หลีกภัย

ปรากฏการณ์เหล่านี้ทำให้เห็นสันดานของนักการเมืองด้วยกัน

ในปัจจุบัน ทั้งรัฐมนตรี ส.ส.และ ส.ว.ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ทำให้เห็นว่า มีส.ส.และรัฐมนตรีหลายคน รวมทั้งสมาชิก 3 เกลอมีทรัพย์สินมากอย่างน่าสงสัย รวมทั้งหุ้นมูลค่านับสิบล้านบาท

ถ้ากรมสรรพากรคิดจะล้างบาป ควรใช้มาตรา 49 ประเมินภาษีนักการเมืองเหล่านี้ รับรองจะจัดนักการเมืองขี้ฉ้อขึ้นเขียงได้อีกหลายราย


หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: นายเกตุ ที่ 27-09-2008, 13:58
ท่าทางมันคงจะมีได้แค่ ครม.สมชาย1 เท่านั้นแหละ

ไม่เคยหวังอะไรกับมันเลย ก็เลยไม่รู้สึกว่าสิ้นหวังกับครม.ชุดนี้


หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: meriwa ที่ 27-09-2008, 14:24
ในขณะคนไทยสิ้นหวัง แต่ ต่างชาติกลับชื่นชม ที่ประเทศไทยมีรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย

ยิ่งมีรัฐบาลโง่ๆ ด้วยแล้ว ยิ่งชอบ เพราะเวลาจะสั่งซ้ายหันขวาหัน มันจะได้สั่งได้ง่ายๆ หน่อย


หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: AsianNeocon ที่ 27-09-2008, 18:29
ชอบคุณพิษณุ นิลกลัด มาตั้งแต่ทั้งพากษ์มวยไทย สนุกเก้อร์ แล้วครับ  ไม่ผิดหวังจริงๆที่ก้าวออกมาเป็นผู้นำทางความคิดอีกคน  :slime_agreed: :slime_agreed: :slime_agreed:


หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: H-edge ที่ 27-09-2008, 20:56
ปัญหาอยู่ที่.... จะทำอย่างไรให้คนรากหญ้า รับรู้และเข้าใจเหมือนอย่างที่คนชั้นกลางรับรู้และเข้าใจ
ภายในช่วงระยะเวลาอันสั้น  เพราะถ้ารอให้รากหญ้าพัฒนาความคิด ด้วยการส่งเสริมการศึกษา
เกรงว่าชาติไทยคงสิ้นชาติไปสะก่อน   

ฟรีทีวีทุกช่อง ถ้ามี  สื่อ  ที่รู้สึกรู้สากับบ้านกับเมือง

แล้วเผยแพร่ความจริง แค่ช่องละชั่วโมง  ทุกวัน ๆๆๆๆ

การเมืองใหม่ เข้าไปถึงทุกหย่อมหญ้าแน่นอน

ขนาดมีแต่ เอเอสทีวี กับ พธม  ก็ขานรับกันกว่าครึ่ง

ก็ได้แต่ให้พวกสื่อฟรีทีวี เกิดดวงตาทำเพื่อชาติ

 :slime_v: :slime_v:


ที่เห็นง่ายที่สุดอย่างคุณ  ninja ว่า ก็คงจะเป็นฟรีทีวี เข้ากับคนได้ทุกระดับชั้น
ทั้งนักข่าว นักจัดรายการ ที่โด่งดัง  อยากเห็น คนไหนจะกล้าที่จะเป็นผู้นำ ให้สม
กับที่เป็นขวัญใจประชาชน
และคงต้องถามเจ้าของฟรีทีวี ว่าจะหากินกันไปอย่างนี้ โดยไม่เคยคิดช่วยประเทศชาติเลยหรือไง
อยากเห็นว่า ช่องไหนจะเริ่มก่อน  เพราะคิดว่าถ้ามีผู้เริ่ม คงจะมีผู้ตามกันเป็นทิวแถว
นอกซะจากว่า มีอะไรมันอุดต่อมความกล้าไว้อยู่


หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: เล่าปี๋ ที่ 27-09-2008, 21:20


อ่า ไม่รู้ว่าใครพูดเน๊อะ  ต้นไม้มีพิษ ดอกผลของมันก็มีพิษ :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ==สิ้นหวัง ครม.สมชาย 1 “พิษณุ นิลกลัด” ร้องระดมสมองปฏิรูปการเมือง==
เริ่มหัวข้อโดย: อยู่บำรุ๊ง .. บำรุง ที่ 27-09-2008, 21:24
ปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น ..

มันอยู่ที่ระดับการศึกษา ของคนในประเทศ

การที่จะทำให้คนเข้าใจหลักการเมืองนั้นต้องใช้ความรู้

หากไม่มีความรู้แล้ว มันก็เหมือนเดิมคือ ว่าไงว่าตามกัน

หรือไม่ก็เอาคนนี้เพราะเป็นคนใหญ่คนโตในจังหวัด

อีกอย่างคือได้เงินก็จบ

พวกแบบนี้แหละครับ จะอยู่นิ่งๆไม่สนใจอะไร

หรือเรียกตัวเองว่าเป็นกลางก็ได้

เพราะเค้าไม่ได้เดือดร้อนอะไรขอแค่ชีวิตไม่ลำบาก

 :slime_hmm: :slime_hmm: