ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

เมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ (28 มิ.ย.49) นายอรรถพล ใหญ่สว่าง โฆษกอัยการสูงสุด ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวเช้าไอทีวี ทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี เกี่ยวกับกรณีการพิจารณาพฤติการณ์ในสำนวนของนายทะเบียนพรรคการเมืองที่ชี้มูลเหตุกระทำผิดของพรรคประชาธิปัตย์ว่าการพิจารณาใช้หลักเกณฑ์การพิจารณาอยู่ 3 หลักเกณฑ์ ประเด็นแรกคือ ในกรณีพยานหลักฐานที่นำมานั้น มีทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานวัตถุ พยานบุคคลคือการสอบพยานไว้ ในกรณีนี้น่าเชื่อถือหรือไม่ จึงจะขยับต่อไป ในประเด็นที่ 2 คือพยานที่น่าเชื่อถือนี้เป็นการกระทำเฉพาะตัวบุคคลนั้น หรือเกี่ยวโยงถึงพรรค แล้วถึงจะไปพิจารณาประเด็นที่ 3 ว่าการกระทำนั้น แม้พรรคกระทำจะมีความผิดอันเข้าองค์ประกอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 66 หรือไม่ เพราะทางนายทะเบียนพรรคการเมืองได้ชี้มาด้วย เมื่อพิจารณาไปแล้วพยานหลักฐานบางอย่างน่าเชื่อว่าเป็นการกระทำของพรรคการเมือง แต่คณะกรรมการเห็นแล้วว่าไม่เข้าองค์ประกอบมาตรา 66 ตนยกง่ายๆ เป็นข่าววันนี้ แต่รายละเอียดขอให้ไปดูจากคำร้องคือ ในกรณีมาตรา 7 นี้ คณะกรรมการเห็นว่าไม่มีความผิด  

ผู้ดำเนินรายการถามว่า  มาตรา 7 ในหนังสือพิมพ์เขียนเลยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปราศรัยขอใช้มาตรา 7 ในการขอนายกฯพระราชทาน และอัยการสรุปว่าเขาผิดในประเด็นนี้ นายอรรถพล กล่าวว่า ตนขอยืนยันว่าไม่ผิด

ผู้ดำเนินรายการถามต่อว่า  ตกลงไม่ใช่เรื่องนี้ ไม่ใช่มาตรานี้  นายอรรถพล กล่าวตอบว่า หัวข้อเรื่องที่ปราศรัย ขอนายกฯมาตรา 7 ดูรายละเอียดแล้ว ถือว่าไม่ผิด แต่ในส่วนประเด็นนี้ ขอให้ไปดูจากคำร้อง แล้วจะทราบว่าในคำร้องนั้น พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ผิดครบ 6 ประเด็น มีบางประเด็นที่ไม่ผิด ตรงนี้แสดงว่าคณะกรรมการได้ดูอย่างละเอียดรอบคอบหมดแล้ว

การขอพระราชทานนายก ตามแนว ม.7 ไม่ผิดอย่างแน่นอนครับ เพราะเมื่อใดก็ตาม ที่ประชาชนเดือดร้อน ก็จะขอพระราชทานพระเมตตาจากในหลวงเสมอ

ผมจำได้ว่า เคยได้ยิน นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา  พูดว่า ถ้าถึงทางตันก็อาจจะต้องขอพระราชทาน ตามมาตรา 7

แล้ว อย่างนี้ ปชป จะผิดในกรณีนี้ได้อย่างไร

รอดูที่อัยการเขียนส่งให้ ศาลรัฐธรรมนูญก่อนว่าเขียนยังไง

ที่สำนักงานอัยการสูงสุด สนามหลวง วานนี้ (28 มิ.ย.) นายอรรถพล ใหญ่สว่าง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีผู้ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดดำเนินการตามความในมาตรา 63 ของรัฐธรรมนูญ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการร่างคำร้องยื่นขอยุบ 5 พรรคพรรคการเมือง เพื่อยื่นต่อ ศาลรัฐธรรมนูญตามมติคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯว่า ในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีสำนวนชี้มูลความผิดของนายทะเบียนฯ ระบุมา 6 ข้อนั้น  อัยการเห็นว่ามูลความผิดนั้นไม่ได้เข้าตามลักษณะความผิดมาตรา 66 พ.ร.บ. ว่าด้วยพรรคการเมืองทั้งหมด ตัวอย่าง เช่น ที่ชี้มูลความผิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 7 ขอนายกรัฐมนตรีพระราชทานนั้น อัยการมีความเห็นตัดมูลความผิดดังกล่าวทิ้งไป  "ในที่นายทะเบียนฯระบุมานั้น มีบางประเด็นที่ไม่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 66 เช่น การขอนายกฯ พระราชทาน เราไม่ถือเป็นการกระทำตามมาตรา 66 " นายอรรถพล

โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวทิ้งท้ายว่า จะเสนอคำร้องดังกล่าวต่อ นายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุด พิจารณาและตรวจสอบได้ภายในวันที่ 30 มิ.ย. นี้ และคาดว่า อัยการจะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้อย่างช้าในเช้าวันที่ 3 ก.ค.นี้

เท่าที่ทราบมา โนโหวตไม่ผิด มาตรา 7 ไม่ผิด ไม่ลงเลือกตั้ง ไม่ผิดค่ะ

จะมีเฉพาะกรณีเรื่องจ้างพรรคเล็กหน่ะค่ะที่ว่ามีหลักฐาน (สงสัยเทปไทกร) ก็เด๋วไปดีเฟนกันในศาลแหละ  :mrgreen:


นี่ยังมีพวกบ้า ด่าเรื่องมาตรา 7 อยู่เลยอ่ะ ไม่คิดกันเลยว่า แต่ที่ตลกสุดคือ กกต ยื่นข้อหาไปได้ยังไง โดยเฉพาะอนุกรรมการสอบที่แจ้งข้อหาหน่ะ ยิ่งตลกไปกันใหญ่ ไม่รู้ว่าอ่านกม. มากันอิท่าไหน

พวกมั่วแม้วๆ ก็งี้แหละ ชอบทำอะไรมั่วๆ  :mrgreen:

ที่ นายทะเบียนพรรคการเมือง กล้าชี้มูลเรื่อง มาตราเจ็ด ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้ สุเทพน่าจะนำไปอ้างเพื่อเพิกถอนการประกันตัวได้น่ะครับ

กรณี

ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

เห็นว่าสุเทพจะฟ้องศาลแล้ว เพราะขอหลักฐานบันทึกการประชุม กับการสอบคดี แล้วพี่หนาไม่ให้ บอกว่าส่งไปไหนแล้วไม่รู้ รอบที่แล้วศาลปล่อยประกันแล้วสำทับว่าสุเทพขอหลักฐานอะไรต้องให้ ไม่งั้นจะถอนประกัน

เด็กๆ เด๋วเตรียมไปซื้อโอเลี้ยงข้าวผัดด้วย เพราะจะมีเจ้าของสวนเมืองจันทน์ย้ายที่นอนไปอยู่มุ้งสายบัวหล่ะ  :mrgreen: