หัวข้อ: เปรียบเทียบต้นเหตุการเกิดวิกฤติ ของไทย และ สหรัฐ เริ่มหัวข้อโดย: indexthai ที่ 19-09-2008, 11:35 ผู้เขียนจะอุปมา-อุปมัย อย่างนี้ 1) คนโลกกลุ่มที่ 1 ทั้งโลก มีกิจกรรม non real sectors ทั้งหมด เช่น ซื้อขายหุ้น ซื้อขายหวยเบอร์ ชกมวย เตะฟุตบอลล์ เล่นกีฬา แสดงหนัง ร้องเพลง แสดงละคร เล่นม้า และบ่อนการพนัน ..ถามว่าจะเอาข้าวที่ไหนมารับประทาน 2) คนโลกกลุ่มที่ 2 ทั้งโลก มีกิจกรรม real sector ทำนาทำไร่ ปลูกข้าว ข้าวโพด ปลูกถั่ว ปลูกงา ผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการเกษตร ผลิตรถยนต์ ผลิตคอมพิวคอมพิวเตอร์ ฮาร์ตแวร์ ซอฟท์แวร์ ..สามารถมีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ แสดงให้เห็นว่า คนกลุ่มแรกจะอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีคนกลุ่มที่ 2 ..จะไม่มีข้าวกิน คนกลุ่มที่ 2 สามารถอยู่ได้อย่างดี โดยไม่จำเป็นต้องมีคนกลุ่มที่ 2 เลยก็ได้ ..ยังไงก็มีข้าวกิน นั่นคือคนกลุ่มแรก มีกิจกรรม มีธุรกรรม เอารัดเอาเปรียบคนกลุ่มแรก ... ความเบี่ยงเบน คือ ..คนกลุ่มแรกกลับมีความมั่งคั่งกว่าคนกลุ่มที่ 2... เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร ..อาชีพอบายมุข เหนืออาชีพสุจริตชน ทุกวันนี้มีการพูดถึง Champion product ผู้เขียนไม่ได้สนใจว่ามันคืออะไร แต่พระพุทธเจ้าพูดไว้เมื่อ 2551 ปีมาแล้ว คือข้าว หรือทำนาทำไร่ วอร์เรน บัพเฟตต์ มั่งคั่ง ที่สุดในโลก แต่คนท้องถิ่นอเมริกันจนลง เห็นได้จาก ปัญหา sub prime และวิกฤติทางเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาขณะนี้ ด้วยเครื่องมือตลาดตราสารอนุพัธ์ (financial derivative) ในตลาดทุน ไม่ว่าหุ้นจะขึ้นหรือตก วอร์เรน บัพเฟตต์ สามารถทำกำไรได้ทั้ง 2 ทาง หุ้นขึ้นก็สามารถสร้างความมั่งคั่งได้ หุ้นตกก็สามารถสร้างความมั่งคั่งได้ แต่คนอเมริกันจมลง ศึกษารายละเอียดทั้งหมดที่นี่ http://www.oknation.net/blog/indexthai/2008/09/19/entry-1 :slime_mad: หัวข้อ: Re: เปรียบเทียบต้นเหตุการเกิดวิกฤติ ของไทย และ สหรัฐ เริ่มหัวข้อโดย: AsianNeocon ที่ 19-09-2008, 12:06 ก็แปลว่า อเมริกา+อังกฤษ คงจะกอดคอกันเน่าตายไป เพราะ 2 ชาิตินี้วางตำแหน่งตัวเองไว้ว่าจะเป็น "นครหลวงการเงิน" ของโลก ภาคการเงินใหญ่กว่าภาคการผลิตจริง
เพราะว่า โลกที่ 1 ชาติอื่นๆ เช่น แคนาดา ญี่ปุ่น เยอรมัน อิตาลี ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ส่วนใหญ่ยังมีภาคการผลิตจริงเป็นหลักใหญ่ของเศรษฐกิจ เช่น เกษตร แร่ธาตุ รถยนต์ เครื่องทุ่นแรง อาหาร เลยไม่ล้มตายไปกับ อเมริกา+อังกฤษ มิน่า ญี่ปุ่น+เกาหลี สามารถผลิตรถยนต์ได้เก่งกว่าอเมริกาไปแล้ว ขณะที่ Big-3 กำลังเจ๊งแหล่ไม่เจ๊งแหล่มาหลายปีแล้ว เพราะอเมริกามัวแต่ไปเอาดีกับภาคการเิงิน แล้วถ้าภาคการเงินเจ๊งจะเหลืออะไร ตอนนี้อเมริกาเหลือแต่ไอที กับอาวุธสงคราม หัวข้อ: Re: เปรียบเทียบต้นเหตุการเกิดวิกฤติ ของไทย และ สหรัฐ เริ่มหัวข้อโดย: vorapoap ที่ 19-09-2008, 12:20 [size=11pt มิน่า ญี่ปุ่น+เกาหลี สามารถผลิตรถยนต์ได้เก่งกว่าอเมริกาไปแล้ว ขณะที่ Big-3 กำลังเจ๊งแหล่ไม่เจ๊งแหล่มาหลายปีแล้ว เพราะอเมริกามัวแต่ไปเอาดีกับภาคการเิงิน แล้วถ้าภาคการเงินเจ๊งจะเหลืออะไร ตอนนี้อเมริกาเหลือแต่ไอที กับอาวุธสงคราม[/size] ก็คงใช้สงครามมากระตุ้นเศรษฐกิจตามเคย แต่ประชาชนอเมริกันจะรู้ทันหรือสมยอมไปด้วยล่ะคราวนี้ หัวข้อ: Re: เปรียบเทียบต้นเหตุการเกิดวิกฤติ ของไทย และ สหรัฐ เริ่มหัวข้อโดย: AsianNeocon ที่ 19-09-2008, 12:54 ก็คงใช้สงครามมากระตุ้นเศรษฐกิจตามเคย แต่ประชาชนอเมริกันจะรู้ทันหรือสมยอมไปด้วยล่ะคราวนี้ ทำไม่ได้แล้วครับ ทุกวันนี้อเมริกายังติดอยู่ในอิรักและอัฟกานิสถาน ที่ว่าติดเพราะว่าหากถอนทหารออกไปเมื่อไร รัฐบาลหุ่นเชิด(ที่อ้างว่าชาวอิรัก/อัฟกาเลือกตั้ง)ก็จะพังทันที ทั้ง 2 ประเทศจะกลายเป็นรัฐอิสลามที่เป็นศัตรูกับอเมริกาแบบตายกันไปข้าง (ก็แต่ก่อนอเมริกาก็ไปโค่นล้มรัฐบาลประชาธิปไตยทิ้ง แล้วไปตั้งรัฐบาลที่เชื่องๆ ผลสุดท้ายอิหร่านลุกฮือขับไล่อเมริกา แล้วกลายเป็นรัฐอิสลามชีอะห์) โดยเฉพาะอิรักที่มีซัดดัม ฮุสเซ็นก็ดีอยู่แล้วเป็นภัยกับชาวอิรักแต่ไม่ได้เป็นภัยกับใคร เสือกไปโค่นมันทิ้ง ภาษาชาวบ้านคือ ลงทุนแล้วเจ๊ง อเมริกาทุ่มเงินกับสงครามไปแล้ว ไม่น้อยกว่า 150,000,000,000 ดอลล่าร์ ทุกวันนี้ต้องจ่ายเงินอีกวันละ 300,000,000 ดอลล่าร์ มหาอำนาจมีรายรับมหาศาล แต่รายจ่ายก็มหาศาล ถ้ารายรับมากกว่ารายจ่ายก็เป็นมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่ไร้เทียมทาน แต่เผอิญลงทุนเจ๊ง รายจ่ายมโหฬารเพิ่มขึ้นทุกวัน นี่คือสาเหตุที่ญี่ปุ่นอยากก็อยากกลับมาใหญ่อีกครั้งอยู่ แต่ก็กลัวบทเรียนอดีต ส่วนจีนก็เจียมเนื้อเจียมตัวมาก หัวข้อ: Re: เปรียบเทียบต้นเหตุการเกิดวิกฤติ ของไทย และ สหรัฐ เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 19-09-2008, 13:01 กระทู้นี้ให้ความรู้ทางเศรษฐกิจดีมากๆเลยครับ
ต้องขอขอบคุณจขกท.และคุณAsianNeoconมาก ๆ ผมหวังว่าประเทศไทยจะสมารถผ่านพ้นวิกฤติทางเศรษฐกิจไปได้ในที่สุด |