ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

เรื่องเล่าตำนาน.. นิทานคานทอง
.. The Legend of The Golden Beam..

    ------------------------------------------
       มีคานหนึ่ง สวยสง่า เปี่ยมราศรี
       อันทางขึ้น นั้นง่าย สบายดี
       แต่ “ ... โทษที ... “
       ขาลง ยากกกกกก ลำบากลำบน
    ------------------------------------------

ต้นกำเนิด เกิดจาก สาวนางหนึ่ง
สวยสุดซึ้ง กว่าน้องแหม่ม น้องน้ำฝน
เป็นลูกสาว เศรษฐี ประจำตำบล
ชราชน หนุ่มน้อยใหญ่ ต่างหมายปอง..

ท่านเศรษฐี องอาจ ประกาศกล้า
อันลูกข้า หนึ่งนี้ ไม่มีสอง
หากแม้นใคร ใคร่อยู่ เป็นคู่ครอง
อย่างน้อยต้อง ทองล้านชั่ง! ตั้ง(ราคา)กันเอง

               แต่ลูกสาว เศรษฐี มีคนรัก
               ยากจนนัก ทุกข์ทน จนหม่นหมอง
               เพื่อความรัก จึงลาไกล ไปขุดทอง
               สั่งนวลน้อง รอได้อยู่ เป็นคู่กัน

              หายไปนาน หลายปี มีทองหลาย
              หวลกลับมา สมใจ ได้สุขสันต์
              ด้วยทราบข่าว ยอดชู้ คู่สัมพันธ์
              ยังรอวัน คืนสู่ เป็นคู่เธอ

บอกว่าที่ พ่อตา “มาแล้วครับ”
มาพร้อมกับ ทองตามข้อ คุณพ่อเสนอ
โอ้หวานใจ อยู่ไหน  "I want to see her"
พ่อบอกเออ.. อยู่ข้างใน เข้าไปดู

แสนดีใจ ได้จะพบ ประสบหน้า
ร้องถามหา กับคุณป้า ที่นั่งอยู่
ป้าบอกว่า นี่น้องไง "I want to see you"
พี่จำหนู ไม่ได้ หรือไรกัน?

               เจ้าหนุ่ม(เฒ่า) จ้องดู อยู่เนิ่นนาน
               จึงจำได้ คือนงคราญ สาวในฝัน
               ใจกระตุก แตกตื่น ดิ้นพราดพลัน
               สักพักใหญ่ ก็นิ่งงัน สิ้นลมปราณ..

               ทองมากมาย ก่ายกอง ทำไงดี?
               ป้าจึงมี โครงการใหญ่ ไว้คู่บ้าน
               สร้างคานทอง ขึ้นไว้ เป็นพยาน
               เมื่อวายปราณ มอบไว้ เป็นชาติพลี..

    ------------------------------------------
       คานทองนี้ น่าติดใจ พาเบิกบาน
       นั่งนานๆ เปี่ยมสง่า เป็นราศรี
       ไร้ปัญหา บุตรธิดา และสามี
       ดังตำนาน ว่ามานี้ นะ..ท่านผู้ฟัง..
    ------------------------------------------

(..ดัดแปลงจากที่เจอในเน็ตมาฝากกันครับ.. :mrgreen: )

ควรระบุชื่อผู้แต่ง และข้อความเดิม แยกจากที่ดัดแปลง ด้วยค่ะ

ประเด็นแรกชื่อเรื่อง
legend มี d ด้วยนะคะ
และข้างหน้า golden น่าจะมี article
คิดว่าน่าจะชื่อ Legend of the Golden Beam
อย่างหนัง Legend of the Fall ที่ Brad Pitt นำแสดง
(มักละ The ข้างหน้า legend เพื่อความเท่ แต่จะมีก็ได้และสมบูรณ์ดี)

ประเด็นที่สอง มาฝากเฉยๆ ไม่ได้หรอกค่ะ ควรต้องบอกว่า จขกท. ประทับใจหรือเห็นเรื่องนี้มีคุณค่าที่ตรงไหน
เอามาแปะเฉยๆ ไม่นับเป็นกระทู้ (ที่ดี) ควรต้องมีความเห็นผู้ตั้งกระทู้ด้วยว่าต้องการสื่ออะไร
เช่น
1) นางเอก ไม่ควรรอพระเอกนานเกินไป ควรหาคนใหม่ เมื่อเวลาผ่านไปพอสมควร
2) พระเอก เป็นโรค (หัว) ใจเสาะ สมควรตาย หากโรคดังกล่าวเกิดจากการตรากตรำทำงานเป็นเวลานาน ก็น่าเห็นใจ
    แต่ถ้าเป็นเพราะมิจฉาทิฐิในใจ ขอให้ไม่ได้ไปสวรรค์

:mrgreen:  :lol:  :mozilla_tongue:

ปัญหาคือที่ไปเจอมาในเน็ต เขาก็บอกว่าเอามาจาก Forward Mail อีกทีและไม่ได้ลงชื่อคนแต่งไว้ครับ
ต้นฉบับจะชื่อว่า "ตำนานคานทอง" หากค้นดูจาก google จะพบว่าโพสกันทั่วไปกว่า 7 ร้อยลิงค์

http://www.google.com/search?sourceid=navclient&ie=UTF-8&rls=AMSA,AMSA:2001-24,AMSA:en&q=%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87

เลยต้องเล่าย้อนกลับไปอีกว่า ต้นฉบับเดิมเขาพิมพ์ต่อกันไปไม่แยกบทแยกบาท
และการสัมผัสระหว่างบทกลอนก็ขาดๆ แหว่งๆ ไม่ค่อยสมบูรณ์ อาจเป็นเพราะผู้แต่ง
ไม่ได้ใส่ใจแต่แต่งเอาสนุกๆ หรืออาจไม่ทราบจริงๆ ว่าตัวเองแต่งผิดโครงสร้างก็ได้

พอผมได้มาแล้วคิดจะเอาไปลงต่อในอินทราเน็ต รู้สึกว่ามันดูไม่ค่อยเป็นร้อยกรอง
ที่เข้าท่าสักเท่าไหร่ จะเอาไปเผยแพร่ต่อก็รู้สึกแปลกๆ เดี๋ยวมีเด็กๆ จำผิดต่อๆ ไป
ก็จะกลายเป็นคนแต่งกลอนเพี้ยนตามไปด้วย หลังจากพยายามแยกบท วรรค ตอน
แก้ไขกลับไปกลับมาแล้วก็ได้เป็นแบบที่เอามาโพสนี่ล่ะครับ..

ต้นฉบับเดิมที่ก็อปไว้เป็นแบบนี้ครับ

---------------------------------------------------------------------------
 
Title : ตำนาน คานทอง..
 
มีตำนานเล่าขานกันสืบมา
>
>            มีคานหนึ่งสวยสง่าเปี่ยมราศรี
>            อันทางขึ้นนั้นเดินง่ายสบายดี
>            แต่ “ โทษที “ ขาลงยากกกกกก ลำบากลำบน
>            ต้นกำเนิดเกิดจากสาวนางหนึ่ง
>            สวยสุดซึ้งสวยกว่าน้องน้ำฝน
>            เป็นลูกสาวเศรษฐีประจำตำบล
>            ชราชนหนุ่มน้อยใหญ่ต่างหมายปอง
>        ...ท่านเศรษฐีองอาจประกาศว่า
>           อันลูกข้าหนึ่งนี้ไม่มีสอง
>           หากแม้นใครอยากได้ไปคุ้มครอง
>           อย่างน้อยต้องทองล้านชั่ง?นี่(ราคา)กันเอง
>       ...แต่ลูกสาวเศรษฐีมีคนรัก
>          ยากจนนักจนยิ่งกว่าจะหาไหน
>          โอ้ชาตินี้มีกรรมหนักขอพักใจ
>          แค้นบรรลัย ต้องลาไกลไปขุดทอง
>      ...หายไปร่วมสามสิบปีมีทองหลาย
>         ข่าวจากสายสมใจให้คลายหมอง
>         ว่าน้องนั้นยังดีอยู่ไร้คู่ครอง
>         อยู่ไม่ได้จำรีบต้องไปจองเธอ
>      ...บอกว่าที่พ่อตา “มาแล้วครับ”
>         มาพร้อมกับทองตามข้อพ่อเสนอ
>         อยู่ที่ไหนหวานใจ I WANT TO SEE HER
>         พ่อบอกเออ!!!อยู่ข้างในเข้าไปเลย
>      ...แสนดีใจได้จะพบประสบหน้า
>         ร้องถามป้า(ที่นั่งอยู่)
>         ป้าบอกว่าก็ตัวฉันเองนี่ยังไง
>         จำน้องน้อยไม่ได้น้อยใจนัก
>      ...เจ้าหนุ่มจ้องมองดูอยู่ไม่นาน
>         แสนดีใจประมาณว่าน้ำตาไหลหนัก
>         หัวใจเต้นระรัว ตัวเริ่มชัก
>         ดิ้นสักพักแล้วก็จากโลกนี้ไป
>      ...ทองที่ขนมามากมายทำไงดี
>         สาวจึงมีโครงการทำงานใหญ่
>         สร้างเป็นคานไว้นั่งฟังเพลงไทย
>         จนหล่อนตายจึงทิ้งไว้เป็น “ชาติพลี“
>     ...คานนี้ขึ้นไปแล้วจะติดใจอยู่ได้นาน
>        จะเบิกบานเปี่ยมสง่าและราศรี
>        ไร้ปัญหาไร้บุตรธิดา (และ) ไร้สามี
>        ของดีๆอย่างนี้ต้องแนะนำ
>

ยังรอฟังคำตอบ จขกท. อยู่นะคะ
ว่าประทับใจ อะไรที่ตรงไหน หรือต้องการสื่ออะไร?

แปะเฉยๆ ได้ไงคะ ตอบมาหน่อยน่า นะนะนะ (ลงทุนอ้อน)
ถือว่าแลกเปลี่ยนไง   :wink:

ประเด็นแรกชื่อเรื่อง

ต้นฉบับเดิมเขาไม่ได้มีชื่ออังกฤษหรอกครับ  แต่เพื่อความเท่เลยเพิ่มชื่ออังกฤษพิมพ์ตกๆ หล่นๆ มาด้วย
ตรงที่เป็นชื่อเรื่องนี่มันแก้ไม่ได้น่ะครับ  ก็เลยแก้ได้แต่เนื้อความข้างในอย่างเดียว (ต่อไปจะไม่พิมพ์คำว่า
Legend ตกๆ หล่นๆ อีกแล้วครับ)


ประเด็นที่สอง

ความจริงที่เอามาลงก็ไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนนะครับ แค่บังเอิญเปิดไปเจอไฟล์ที่ save เห็นว่ามีเนื้อเรื่องที่
แปลกแหวกแนวดีก็เลยเอามาแบ่งกันอ่านเท่านั้นเองครับ  แต่เนื่องจากเห็นว่าพอจะมีรูปแบบเป็นร้อยกรอง
อยู่บ้างเลยเอามาลงห้องนี้ครับ  ส่วนนิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่างไรไม่ได้คิดมาก่อนจริงๆ ครับและคิดว่า
คนแต่งเดิมก็คงแต่งเอามันส์ ด้นไปตามเนื้อเรื่องที่คิดไว้ก่อนเท่านั้นเอง  หากจะพยายามไปหาสาระแง่คิด
มันก็คงหาได้ ขึ้นอยู่กับพื้นฐานของผู้ตีความ แต่คงไม่ใช่วัตถุประสงค์เดิมของการแต่งหรอกครับ

หากจะหาว่ากลอนหักๆ พังๆ บทนี้มีอะไรดี ก็คงอยู่ที่การดำเนินเรื่องในรูปแบบนิทาน โดยมีการ
ตั้งชื่อเรื่องว่าเป็นตำนาน ผูกโยงกับคำที่น่าสนใจอย่าง "คานทอง" ซึ่งไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปมาก่อน
ทั้งหมดสามารถทำให้ตัวผมทนอ่านรวดเดียวตั้งแต่ต้นจนจบได้ ทั้งที่ความจริงเป็นกลอนที่แต่งได้
ผิดๆ เพี้ยนๆ อย่างมาก  เป็นวิธีที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ ในการนำเสนอเรื่องราวอื่นๆ ต่อไปครับ..


หมายเหตุ : ถึงแม้ชื่อและเนื้อหาจะมีการใช้คำว่า "คานทอง" แต่ไม่ได้มีการแสดงความเห็นทางดีหรือร้าย
               กับ "คานทอง" รวมถึงบุคคลที่เป็นโสดแต่อย่างใด  มุ่งแต่นำเสนอเนื้อเรื่องตำนานที่แต่งขึ้น
               อย่างไรก็ตามการที่ผู้แต่งนำเสนอเนื้อหาในรูปแบบร้อยกรอง แสดงถึงการให้ความสำคัญกับ
               ศิลปวัฒนธรรมไทยในระดับหนึ่ง โครงสร้างที่ผิดเพี้ยนของบทกลอนอาจสะท้อนถึงปัญหาของ
               ระบบการเรียนการสอนภาษาไทยในยุคปัจจุบันที่ขาดประสิทธิภาพ หรืออาจมองว่าปัจจุบัน
               คนไทยให้ความสำคัญกับระเบียบกฎเกณฑ์น้อยลงก็ได้ครับ

หุหุ มีสาวๆคนไหนในบอร์ดอยากขึ้นคานบ้าง

ถามเล่นๆ ตอบจริงๆ เหรอคะ?

สงสัยจะคาดคั้นมากไปหน่อย  :lol:




ต่อไปไม่แกล้งอีกแล้วนะคะ ... สัญญา  :mrgreen:

ก็นู๋ถามแบบเอาจริงเอาจังนี่ครับ :mozilla_cool:

 :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:

ว้า ทำไงดี ต้องขออภัย คุณ jerasak ด้วยนะคะ ที่เล่นแรงไป

พอดีอารมณ์ค้างจากความไม่สมหวัง ที่เกาหลีใต้ตกรอบ
แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะมาเที่ยว “วีน” ใคร

พอดีเปิดหน้าเวบมา กระทู้ของคุณ jerasak มันเตะตา
ที่บอบช้ำจากการอดนอนดูบอลมาหลายวันติด

ต้องบอกใหม่ว่า ไม่ได้โมโหตัว จขกท. นะคะ แต่เป็นที่บทความ
แล้วเลยเหมาโยนความผิดไปว่า เอามาแปะไมว้า?
เอ๊ะ อ่านแล้วยังเป็นความหมายเดิมอีกรึเปล่าเนี่ย?

อุ๊ย ต้องไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วค่ะ
มีนัดไปกินมื้อเย็นที่โรงเบียร์เยอรมัน รามอินทรา
ที่มีจอใหญ่ให้ดูถ่ายทอดสดบอลโลก
กะไปเชียร์สวีเดนให้ชนะเจ้าภาพค่ะ

ไปก่อนนะคะ คุณ narong  :mozilla_tongue:

 :slime_mad:

ตอบคุณ naree357 นะครับ

- คุณเขียนแบบนี้ แสดงว่าคนแต่งไม่เป็นหรือคะ 
  คุณนำข้อความเขามาใช้กี่ %  คุณแต่งเอง กี่%

  ผมก็เขียนชัดเจนนะครับคือ อาจแสดงว่าคนแต่งแต่งไม่เป็นจริงๆ
  หรือคนแต่งเองอาจไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องแต่งให้ถูกต้องก็ได้
  ทั้งนี้ขอยืนยันว่าความเห็นทั้งหมดไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกดูหมิ่น
  ความสามารถของคนแต่งเดิมแต่อย่างใด

  ส่วนการคงต้นฉบับส่วนใหญ่ไว้ไม่ได้แปลว่าต้นฉบับเดิมแต่งถูกต้อง
  เพราะกลอนจะแต่งถูกต้องหรือเปล่าดูกันแค่ไม่กี่พยางค์ในวรรคครับ
  ผมก็แก้ไขแค่ไม่กี่พยางค์ตามตำแหน่งที่เห็นว่าสัมผัสไม่ตรงเท่านั้น
  โดยพยายามคงเนื้อความและมุขต่างๆ ตามต้นฉบับไว้ เพราะคิดว่า
  เป็นเนื้อหาหลักที่ผู้แต่งเดิมต้องการนำเสนอ ตัวผมแก้ไขเฉพาะสัมผัส
  ในบทกลอนและการใช้คำบางคำที่ไม่ใช่เนื้อความหลักเท่านั้นครับ


คำว่าคุ้มครอง  คงลอกกันมาแบบผิดๆ คนแต่งคงใช้ คู่ครอง  

  ไม่ทราบครับ ก็เป็นไปได้ครับว่าอาจลอกกันมาผิดๆ

  แต่เท่าที่ดูตามลิงค์จาก google ก็เห็นลอกมาตรงกันว่า "คุ้มครอง"
  ไม่เห็นมีที่ไหนลอกมาว่า "คู่ครอง" นะครับ


ต้นฉบับเดิมเขาพิมพ์ต่อกันไปไม่แยกบทแยกบาท ... คนแต่งแยกแต่ลอกๆกันมาไม่แยก  

  ผมพูดถึง ต้นฉบับ ที่เจอในเน็ต ส่วนตอนแต่งผู้แต่งจะแยกไว้หรือเปล่าไม่ทราบจริงๆ ครับ


คุณลอกเขามาดัดแปลงเล็กน้อย กรุณา ให้เกียรติ คนแต่งด้วยนะคะ

  ผมก็อ้างถึงพอสมควรแล้วนะครับว่าไม่ได้แต่งเอง แต่เอาที่เจอในเน็ตมาแก้ไข
  พอคุณ naree357 ทักท้วง ผมก็ไปหาต้นฉบับเดิมมาแสดงให้ดู

  ส่วนเรื่องการแสดงความเห็นว่าต้นฉบับเดิมแต่งผิดแต่งถูกอย่างไร
  เป็นการแสดงเหตุผล ที่ทำให้ผมตัดสินใจแก้ไขบางส่วนของบทกลอน
  ซึ่งการแสดงเหตุผลดังกล่าวไม่ได้มีวัตถุประสงค์จะดูถูกดูหมิ่น-
  ความสามารถของคนแต่งเดิม หรือไม่ให้เกียรติแต่อย่างใดทั้งสิ้น
  แต่หากใครเห็นเป็นอย่างนั้น ก็ต้องขออภัยท่านผู้แต่งเดิมด้วยครับ

จุดประสงค์ที่ผมนำมาโพสลงบอร์ดเพราะเห็นว่ามีเนื้อหาแปลกแหวกแนวดี
อย่างน้อยก็อ่านเล่นได้พอเพลินๆ ซึ่งน่าจะเป็นวัตถุประสงค์ของท่านผู้แต่ง
ที่ลงมือแต่งกลอนนี้มาเผยแพร่ หากท่านใดอ่านแล้วรู้สึกดีๆ ก็ขอยกความดี
ให้ท่านผู้แต่งนะครับ แต่หากอ่านแล้วรู้สึกไม่ดีถือว่าผมเป็นคนผิดเองละกัน..

.. ข้าน้อยผิดไปแล้ว.. ( แต่ข้าน้อยยังไม่สมควรตาย  :cry: ) ..

รับทราบครับคุณ snowflake

ค่อยยังชั่วหน่อย.. ตอนแรกผมนึกว่าตัวเองทำผิดระเบียบห้องกวีฯ เสียอีก
ก็เลยพยายามตอบแบบเป็นเนื้อหาวิชาการ..  :roll:

ว่าแต่ โรงเบียร์เยอรมันฯ สาขารามอินทรา ตั้งแต่เปิดมาผมยังไม่ได้ไปเลย
ขาหมูเยอรมัน ที่นั่นอร่อยเหมือนโรงเบียร์ฯ สาขาดั้งเดิมหรือเปล่าครับ ?

เผื่อว่างๆ จะได้แวะไปสักหน่อย..

ขาหมูอร่อยค่ะ กินเสร็จมันก็มาเป็นขาเราทันที 555  :mrgreen:
แต่อร่อยเท่าสาขาดั้งเดิมหรือเปล่าไม่ทราบได้
เพราะไม่เคยไป อยู่ที่ไหนเหรอคะ?

เดี๋ยวนี้มีเยอะไปหมด ไม่รู้ใครตามใคร
อย่างอันที่ไปมานี้ ชื่อเต็มๆ ว่า โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง
อยู่บนถนนเลียบทางด่วน หรือ ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม
แต่เห็นมีชื่อ ตะวันแดงสาดแสงเดือน อีกที่ อยู่บน ถ.เกษตร-นวมินทร์
คุณ jerasak ไปที่ไหนมาแล้วบ้างล่ะคะ?
ชอบไม่ชอบดีไม่ดี ที่ตรงไหน ก็บอก
แปะเฉยๆ โดยมีแสดงความเห็น ไม่ได้นะคะ  :lol:

อาหารอื่นก็อร่อยใช้ได้ แต่แพงมาก
หรือเป็นธรรมดาก็ไม่รู้นะ ไป 5 คน 2,400 นี่แพงรึยัง?
ขนาดไม่ใช่คนจ่ายตังค์ ยังรู้สึกเสียดายแทน
แต่การแสดงบนเวทีก็ดีนะคะ มีตั้งแต่การบรรเลงดนตรีไทย
ไปจนถึงกายกรรม เชิดสิงโต ฯลฯ
เด็กๆ ที่พ่อแม่พามาเปิดหูเปิดตาด้วย ชอบกันใหญ่

บรรยากาศไม่เหมือนที่เยอรมัน แม้ตัวตึกและการวางผังจะทำให้คล้าย
ต้องบอกว่าของเรา “ดีกว่า” เพราะมีห้องสูบบุหรี่แยกให้ จึงพาเด็กเล็กมาด้วยได้
โรงที่เคยไปนั้นอยู่ในเมืองมิวนิค (Munich) เป็นอันที่เขาโฆษณาว่าเก่าแก่ที่สุด
ตั้งมาตั้งแต่ปี 18xx จำไม่ได้แล้ว ไว้หา postcard เจอแล้วจะเอามาแปะนะคะ
เดินเข้าไปวนรอบๆ แวะซื้อของที่ระลึก ซึ่งแพงมากกว่าข้างนอกเป็นเท่าตัว
แล้วต้องเดินออก เพราะทนบรรยากาศที่เต็มไปด้วยควันบุหรี่ไม่ไหว
โต๊ะเป็นไม้หยาบๆ เก้าอี้เป็นม้านั่งยาวไม่แบ่งเป็นเฉพาะตัว/ก้น อย่างของเรา
ดังนั้นถ้าไปไม่กี่คนจะดูไม่เข้ากับโต๊ะที่ยาวและใหญ่มาก (นั่งได้สักฝั่งละ 6 คนมั้ง)
ไม่แน่ใจว่าให้แชร์โต๊ะได้หรือเปล่า ปกติฝรั่งไม่ทำไง ของเราทำได้ไม่ขัดเขิน

กลับมาที่นี่ประเทศไทย
ไม่แนะนำให้ “คอบอลแท้ๆ” ไปนะคะ เพราะว่าดูไม่สนุกเท่าอยู่บ้าน
พอกินเบียร์เข้าไปแล้วหัวโต ตาลาย ดูไม่ค่อยรู้เรื่อง
คงเพราะเหตุนี้สวีเดนเลยไม่ชนะ   :mrgreen:

วันนี้อังกฤษแข่ง ต้องใช้พลังจิตแรง
งดเครื่องดื่มมี alcohol ทุกชนิด
Sponsor อะไรไม่สนใจ
รวยอยู่แล้วนี่คะคุณ เจริญ   :D

โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง มี 2 สาขาครับ..

สาขารามอินทราที่คุณ snowflake ไปมาเป็นสาขา 2 เพิ่งเปิดไม่ถึงปี
ส่วนสาขาดั้งเดิมคือที่ พระราม 3 เปิดมาตั้งแต่ปี 2542 แล้วล่ะครับ
ผมเคยไปคือสาขาพระราม 3 ขาหมูเยอรมันสุดยอด ทอดมันกุ้งอร่อยดี
แต่ไปลำบากครับเพราะผมอยู่บางกะปิ  พอเขามาเปิดสาขารามอินทรา
ก็คิดอยู่ว่าจะไปเยี่ยมสักหน่อยยังไม่ได้ไปสักที ป่านนี้ยังไม่ได้ดูเลยว่า
บัตรสมาชิกหมดอายุแล้วหรือยัง..

ต่อไปถ้าคุณ snowflake นัดใครที่โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงอย่าลืม
ระบุสาขาด้วยนะครับ ไม่งั้นอาจไปกันคนละที่ (มีคนเคยไปผิดมาแล้ว)
โดยเฉพาะคนที่จะมาเป็นเจ้ามือให้เราต้องนัดให้แม่นยำ ไม่งั้นพวกเรา
ที่เหลืออาจต้องเป็นเจ้ามือเสียเอง  :mrgreen:

---

โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง สาขาดั้งเดิม ถ.พระราม 3

(http://www.tawandang1999.com/images/map.gif)


โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง สาขา 2  ถ.เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์

(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=490688)

---

ตะวันแดงสาดแสงเดือน ไม่เคยไปครับคิดว่าคงไม่เข้ากับผมเท่าไหร่
ร้านอื่นๆ แนวนี้ก็ไม่ค่อยได้ไปหรอกครับ แต่วันนี้ไป ร้านน้ำเคียงดิน
ที่ ถ.อักษะ มา เป็นร้านดังบนถนนสายนี้ อาหารอร่อยบรรยากาศดี
สไตล์คันทรี่ ประมาณบ้านน้อยกลางทุ่งดอกไม้ครับ ขายทั้งอาหาร
ไทยและฝรั่ง ไป 4 คน ไม่ถึงพันบาท ตกคนละ 2 ร้อยกว่าบาทครับ
(มีขาหมูเยอรมันขายด้วยครับตามภาพประกอบ)

(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=260860)

คุณ jerasak ขยันหารูปมาประกอบข้อเขียนนะคะ

ดิฉันคนขี้เกียจ ป่านนี้ยังไม่ไปหารูปโรงเบียร์ที่มิวนิคนั้นมาให้ดูเลย

เมื่อวานที่ร้านให้บัตรทายผลฟุตบอลโต๊ะละใบว่า แชมป์คือ?

กับอีกแบบมากับการซื้อเบียร์ทายคู่ที่แข่งคืนนั้นว่าทีมใดชนะ?

ทายว่าเยอรมันกันทั้งสองใบ มีเราเชียร์ให้แพ้อยู่คนเดียว  :mrgreen:

Dunken ไม่อร่อยเท่า Weizen beer จริงไหมคะ?

อ่านนิทานคานทองของคุณศักดิ์
พึงตระหนักนะเจ้าเหล่าสาวใส
วันเวลาวารีมิคอยใคร
เล่นตัวไปไว้นานขึ้นคานทอง

อุทาหรณ์สอนใจในเรื่องนี้
คุณนรีคุณสโนว์เฟลคเด็กทั้งสอง
ใช้ปัญญาสมาธิหมั่นตริตรอง
เรื่องคู่ครองต้องมาก่อนลุงสอนเอย
......ลุงคม  คลายเครียด(คมเย็น)

"ประกายดาว"สาวใส............คุณ"ใบไม้"คุณ"เก็ดถวา"
อีกทั้งเจ๊"อังศนา"................เร็วเถิดหนาอย่ารอรี

เชิญรีบมาจับจอง................บนคานทองยังมีที่
อยู่เย็นเป็สุขี.......................มีศักดิ์ศรีน่านิยม

หรือจะสละสิทธิ์...................แล้วรีบคิดมีคู่ชม
ผู้ใดใครเหมาะสม..................ร่วมรื่นรมย์อยู่กลมเกลียว

.....ผู้มีชื่อข้างบน  ใครไม่โสด   หมดสิทธิ์จอง
........ลุงคม   เย็นใจ ( ผจก.หมู่บ้านคานทองนิเวศน์)

Weizen beer เป็นเบียร์เอาใจสาวๆ คุณ snowflake คงจะชอบแต่สำหรับผมชอบเบียร์ดำมากกว่าครับ

รู้สึกว่าเนื้อหากระทู้เราจะกลายเป็นเรื่องดื่มเรื่องกินไปแล้วนะครับนี่ ออกนอกห้องกวีไปไกล  :mrgreen:
ยังดีที่คุณ komyen มาช่วยแต่งกลอนเพิ่มเติมให้หน่อย ขอบคุณนะครับ..

แต่เรื่องแนะนำที่ดื่มที่กินก็น่าสนใจดี เก็บไปตั้งกระทู้กันต่อที่ห้องสโมสรริมน้ำน่าจะได้รับความนิยม
แข่งกับกระทู้ทำอาหารที่กำลังดังตอนนี้..

ว่าแต่.. ใครจะเป็นคนไปเปิดกระทู้ดีเอ่ย.. ?

อุ๊ยตายว้ายกรี๊ด มีคนแต่งกลอนให้เรา
Wow ไม่ปลื้มตอนนี้แล้วจะไปปลื้มตอนไหน

ความรู้สึกประมาณเดียวกับคุณผู้หญิง
เจ้าของเพลง Your song ที่ป้า Elton John
เธอร้องจนโด่งดังไปทั่วโลก

นั่นคือ If only Auntie John were not gay and happily married, ...
ฉันใด
If only Uncle Komyen were not old and possibly happily married, ...
ก็ฉันนั้น

 :D

ขอใช้สิทธิ์ ที่พาดพิงถึงกระทู้ทำอาหารค่ะ

ที่ว่ากระทู้ทำอาหารดังในสโมสรริมน้ำ ขอบอก...ขอบอกว่า

จิงง่ะ....อิ อิ :lol:

อ้าวววว กรี๊ดดดด  :shock: เก็ดถวาเพิ่งเห็นค่ะ

แต่เอิ่มม... มึนๆ งงๆ กับสิ่งที่ต้องการบอก เล็กน้อยค่าาา  :roll:

แอบนอนฝัน  ถึงคานทอง  ที่ฝังเพชร

เพราะแสนเข็ด  พวกพู่ชาย  สุดร้ายเหลือ

ตอนแรกรัก  ยอมกินแกลบ  แอบกินเกลือ

สุดเหลือเชื่อ  พอรักแล้ว  กินแห้วแทน :mozilla_tongue:

โอ... จริงเหรอคะคุณดอกฟ้า :shock:

ดอกฟ้าฯ แสดงความคิดเห็นไปแล้วค่ะ

ดอกฟ้าฯว่า นั่งนอนบนคานทองสบายใจกว่าเยอะเลยค่ะ :lol:

.....อันนี้ของคุณดอกฟ้ากะคุณเก็ดถวา....
แหงนมองปองดอกฟ้า.........ฝันชม
ขออย่าให้พี่ตรม.................อกช้ำ
เชิญยาตรย่างอย่างสม.........สวยสง่า
หมาวัดรอสุขล้ำ..................อยู่ใต้คานทอง

ว้าววว คุณลุงคมเย็นคะ ขอบพระคุณค่ะ  :D

แต่.. โคลงนี้ให้คุณดอกฟ้าคนเดียวดีกว่าค่ะ

เพราะต้นเก็ดถวา เป็นไม้พุ่ม ดอกก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมมือถึงค่ะ   :mrgreen:  :lol:  :lol:

โอ๊ะโอ๋ โดนพาดพิง

ปกติถ้าพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้จะไม่ค่อยคล่องแวะเท่าไร เพราะมันเป็นเรื่องไกลตัวค่ะ  :mrgreen:

ไม่ค่อยมีความรู้  :mrgreen:

ซ่อนตัวมาแอบสำรวจ target group อิ อิ โชคดีที่ไม่มีใครเห็น

....ตอบคุณสโนว์เฟลค.....
ภาษาปะกิตลุงคมอ่านไม่ค่อยออก  ร้านเบียร์มิวนิคลุงเคยไปนั่งกร่างมาแล้ว
มีแตรวงนักดนตรีเก๋ากึ้ก  เล่นมันมาก  แต่ลุงกินเบียร์ไม่เป็น  ชอบแต่น้ำเก๊กฮวย
ตอนไปแบมแบร์กเขียนโคลงไว้บทหนึ่ง
แบมแบร์กกูแบกเป้..........ปานวัว
หนักบ่าขาสั่นรัว..............แรงเปลี้ย
เยอรมันเต่าเหม็นกลัว........ทนกลิ่น
อยากด่าไอ้อ่าเอี้ย............อาบน้ำเว้นปี

ไปหารูป Beer Hall เก่าแก่ที่สุดใน Munich มาแสดงค่ะ
พอดีว่า วันนี้มีการไปอุดหนุนโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง สาขารามอินทรา อีกครั้ง
เลยคิดถึงกระทู้คุณ jerasak ขึ้นมา

(http://img112.imageshack.us/img112/2931/beerhallinmunich7dv.jpg) (http://imageshack.us)

The Hofbräuhaus am Platzl is a world famous beer hall in the city center of Munich, Germany.
This inn may be the world's most famous inn originally built in 1589 by the Bavarian duke William V

คุณลุง คมเย็น เคยไปนั่งมาแล้ว
ดิฉันกับเพื่อนแค่ไปเดินดูบรรยากาศแล้วเผ่น
sightseeing จริงๆ
เลยไม่รู้ว่าอาหารและเบียร์ รสชาติเป็นยังไงบ้าง
แต่ท่าทางจะแพงนะคะ
ก็ขนาด postcard ยังแพงมาก

ป.ล. ชอบเบียร์ดำ (Dunken) เหมือนคุณ jerasak ค่ะ
       แต่คนที่กิน Weizen เขาบอกว่าของเขาอร่อยกว่า เลยลองมาหาพวกดู
       Weizen เห็นแต่แก้วกับเบียร์สีสวยกว่าเท่านั้น  :mrgreen:

ภาพบรรยากาศ ภายในโรงเบียร์ที่มิวนิค

(http://img127.imageshack.us/img127/338/hbgastraum0vx.jpg) (http://imageshack.us)

ขอบคุณ คุณ snowflake สำหรับรูปโรงเบียร์นะครับ

สังเกตว่าของเขากับของเราต่างกัน ท่าทางว่าที่นั่นจะเน้นดื่มเบียร์
แต่ของเราจัดร้านเป็นแบบมินิคอนเสิร์ต แถมมีข้าวขายอีกต่างหาก

ว่าแต่มีใครตั้งกระทู้เรื่องที่ดื่มที่กินกันหรือยังถ้าไม่มีเดี๋ยวผมตั้งเอง..

โรงเบียร์เลียปากลิ้น.........อร่อยดี
แกล้มกับขาหมูมี.............สเต็คด้วบ
บรรเลงเล่นดนตรี.............แตรเป่า
กินดื่มพอพุงย้วย..............อิ่มท้องไม่แพง