ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

กรมราชทัณฑ์ แจงกลุ่มนักรบศรีวิชัยตะลุมบอนกับกลุ่มยิง รอง ผกก.จร.สน.พญาไท เหตุนักรบศรีวิชัยตะโกนถาม "ไม่รักชาติหรือ" ทำให้เกิดเหตุวิวาทขึ้น ขณะที่ “นัทธี” เผย หากศาลไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวจำเป็นต้องกระจายขังตามแดนต่างๆ ป้องกันเกิดเหตุซ้ำรอยเดิม
       
       วันนี้ (9 ก.ย.) นายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงกรณีกลุ่มนักรบศรีวิชัย ผู้ต้องหาร่วมกันใช้กำลังบุกรุกเข้ายึดอาคารสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับผู้ต้องหาอื่นภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันระหว่างกลุ่มนักรบศรีชัย กับกลุ่มผู้ต้องหายิง พ.ต.ท.ภูษิต วิเศษคามินทร์ รอง ผกก.จร.สน.พญาไท เนื่องจากขณะเกิดเหตุเป็นเวลาที่ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้ให้ผู้ต้องขังมายืนเข้าแถวรอเคารพธงชาติ แต่กลุ่มผู้ต้องหายิง ตำรวจ กลับยืนคุยกันเสียงดังไม่สนใจที่จะเคารพธงชาติ กลุ่มนักรบศรีวิชัย จึงตะโกนถามว่าไม่รักชาติหรือ ทำให้เกิดเหตุวิวาทกันขึ้น แต่เจ้าหน้าที่เรือนจำระงับเหตุได้ทันไม่มีใครได้รับบาดเจ็บมากนัก เบื้องต้นได้แยกคู่กรณีไปอยู่คนละแดนเพื่อป้องกันปัญหาทะเลาะวิวาทกันซ้ำเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอีก
       
       นายนัทธี กล่าวอีกว่า โดยปกติแล้วภายในเรือนจำมักเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันระหว่างผู้ต้องขังกลุ่มต่างๆ เนื่องจากมีผู้ต้องขังจำนวนมาก ส่วนสาเหตุที่เบื้องต้นยังไม่สามารถแยกกลุ่มนักรบศรีวิชัยออกจากผู้ต้องขังรายอื่นได้เพราะเรือนจำไม่มีสถานที่เพียงพอจึงจำเป็นต้องให้อยู่ร่วมกับผู้ต้องขังรายอื่นๆไปก่อน อย่างไรก็ตามหากกลุ่มนักรบศรีวิชัยยังไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจากศาลอาญา จะสั่งการให้กระจายกลุ่มนักรบศรีวิชัยออกไปควบคุมแดนต่างๆเพื่อลดปัญหาการรวมกลุ่มกันก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับผู้ต้องหารายอื่นอีก ซึ่งจะทำให้เรือนจำดูแลด้วยความลำบากมากขึ้น

ที่มา: http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000106818

ผมรู้สึกดีนะครับ ที่ได้ติดตามข่าวของกลุ่มคนเหล่านี้มา แม้เราจะถูกสวมรอยโดยคนอีกกลุ่มหนึ่งก็เถอะ

ขอคาราวะ นักรบศรีวิชัย ด้วยใจ
อย่างไรก็ช่วยพวกเขาเหล่านี้ออกมาไวๆ นะครับ เห็นติดมาหลายวันแล้ว
เป็นกำลังใจให้ครับ

เป็นเราก็ต่อยว่ะ แค่เคารพธงชาติ แค่ไม่กี่นาที มันยังไม่ทำเลย

ส่อจริงๆว่าเลว แสดงความรักชาติ แค่วันละ 2 ครั้งแค่นี้

ทำให้เป็นนิสัยไม่ได้ ก็รู้แล้วว่าทำไมพวกมันถึงขั้นฆ่าคนแล้วทำเรื่อเลวๆได้

นักรบศรีวิชัย อยู่ที่ไหนก็เป็นคนไทยรักชาติจริงๆ

น่าสงสารกลุ่มนักรบศรีวิชัยที่ไปอยู่ในเรือนจำจริงๆ  :slime_sentimental:

ไม่มีวิธีอื่นช่วยแล้วหรือไงครับ

น่าคิดว่าถ้ามีนายโชติศักดิ์อยู่ในเรือนจำนั้นด้วยจะเป็นยังไง  :slime_o:

ศาลให้ประกัน 2 นักศึกษา ป.โท ผู้ต้องหาในกลุ่มนักรบศรีวิชัย ส่วนนักศึกษาอีก 7 ราย ต้องรอหนังสือรับรองจากสถาบัน ทนายขอบคุณบริษัทประกันให้ความช่วยเหลือ วอนประชาชนเข้าใจผู้ต้องหายังไม่ใช่ผู้กระทำผิด หลังบริษัทประกันถูกถล่มด่าผ่านเว็บไซต์ ด้านทนาย 9 แกนนำพันธมิตรฯ ยื่นขอทุเลาหมายจับ 9 แกนนำอีกรอบ
       
       วันนี้ (9 ก.ย.) เมื่อเวลา 16.20 น.ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ เดินทางเข้ายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวนักศึกษา 9 คน ที่อยู่ในกลุ่มนักรบศรีวิชัยและการ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้ต้องหาคดีร่วมกันใช้กำลังบุกรุกเข้าไปยึดอาคารสำนักงานสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) โดยใช้กำลังและมีอาวุธ ประกอบด้วย นายยุทธนา โอชาพงศ์ ผู้ต้องหาที่ 11, นายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ ผู้ต้องหาที่ 13, นายนัสเซอร์ ยีหมะ ผู้ต้องหาที่ 14, นายสัมพันธ์ อ่อนช่วย ผู้ต้องหาที่ 17, นายนภดล เอี่ยมอุดม ผู้ต้องหาที่ 27, นายคฑาวุธ ชูศรี ผู้ต้องหาที่ 30, นายสุรสิทธิ์ แย้มประชา ผู้ต้องหาที่ 36, นายอัมรินทร์ ยี่เฮง ผู้ต้องหาที่ 48 และ นายสุนทร สุวรรณ ผู้ต้องหาที่ 75 โดยยื่นหลักทรัพย์ เป็นกรมธรรม์ประกันอิสรภาพ มูลค่าคนละ 200,000 บาท รวม 1.8 ล้านบาท
       
       ทั้งนี้ คำร้องขอประกันตัว สรุปว่า ผู้ต้องหาทั้ง 82 คน ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ซึ่งการดำเนินการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำในยามวิกาลและไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา นอกจากนี้การจับกุมยังใช้เล่ห์เพทุบายหลอกลวง เพราะก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาได้มารอเพื่อใช้สิทธิในการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ เพื่อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีการใช้อำนาจไม่ว่าในทางตรงหรือทางอ้อมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองขัดขวางหรือแทรกแซงการนำเสนอข่าวของ NBT ซึ่งกำหนดเวลาไว้ 07.00 น.โดยได้แยกย้ายกันมาไม่ได้มีการนัดหมายรวมกลุ่มกันมาก่อนแต่ปรากฏว่าเมือมาถึงหน้าประตู เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยกแผงกั้นเหล็กเข้าไปในประตู ผู้ต้องหาจึงตามไปและเปิดประตูโดยไม่มีการพังเข้าไป หรือใช้กำลังแต่อย่างใด ซึ่งตำรวจก็ไม่ได้ขัดขวางโดยขอให้ผู้ต้องหาวางไม้หรือสิ่งของไว้ด้านนอกอาคารซึ่งก็ได้ปฏิบัติตามแล้ว หลังจากนั้นก็มีกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมาก มาสมทบทั้งที่ก่อนเข้ามาไม่มีตำรวจเลย อีกทั้งในการตั้งข้อกล่าวหาก็ไม่ได้แยกข้อเท็จจริงรายคน จึงก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมเพราะไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะผู้ต้องหาบางรายถูกจับกุมบริเวณนอกกำแพงและจากการค้นตัวก็ไม่พบอาวุธแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับตั้งข้อหาหนัก ส่วนการทำลายทรัพย์สินเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำลายกระจกเองขณะที่มีการจับกุม สำหรับการพิจารณาถึงพฤติการณ์ว่าหากปล่อยตัวชั่วคราวแล้วจะหลบหนีหรือไม่นั้น ผู้ต้องหาขอชี้แจงว่า เป็นเพียงการคาดเดา เพราะขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมไม่มีผู้ใดขัดขวางแต่ให้ความร่วมมือโดยตลอดซึ่งแสดงให้เห็นถึงเจตนาที่บริสุทธิ์ ว่า ไม่ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหาและพร้อมจะสู้คดีในชั้นสอบสวน อีกทั้งพนักงานสอบสวนก็ไม่เคยแสดงหลักฐานต่อศาลให้เห็นถึงพฤติการณ์พิเศษของผู้ต้องหาว่าจะหลบหนี โดยผู้ต้องหาทั้งหมดขอยืนยันว่ามีภูมิลำเนาถิ่นฐานที่อยู่แน่นอนเป็นหลักแหล่ง ไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล โดยไม่เคยมีพฤติการณ์น่าสงสัยว่าจะหลบหนีหรือเข้าไปเกี่ยวข้องพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน อีกทั้งผู้ต้องหายังมีหลักประกันที่น่าเชื่อถือและสามารถบังคับได้โดยง่าย ดังนั้นการปล่อยตัวชั่วคราวจะไม่เป็นอุปสรรคก่อให้ความเสียหายต่อการสอบสวน ซึ่งถ้าได้รับการปล่อยตัวผู้ต้องหาจะปฏิบัติตามคำสั่งของศาลอย่างเคร่งครัด
       
       ศาลพิเคราะห์แล้วแม้พฤติการณ์ตามคำร้องขอฝากขังของพนักงานสอบสวนจะเป็นการกระทำที่ร้ายแรงดังที่ได้วินิจฉัยไว้ในคำร้องจอให้ปล่อยตัวชั่วคราวของผู้ต้องหาที่ 13 และ 14 ก็ตามแต่เมื่อพิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวของผู้ต้องหาที่ 13 และ 14 ได้ความว่า ขณะนี้ ผู้ต้องหาที่ 13 และ 14 เป็นนักศึกษาและมีความจำเป็นต้องกลับไปศึกษาเล่าเรียนต่อโดยสัญญาว่าจะไม่หลบหนีหรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น และจะมาตามกำหนดนัดของศาลทุกนัดแล้ว เห็นว่าเพื่อให้โอกาสผู้ต้องหาที่ 13 และ 14 ได้มีโอกาสกลับไปศึกษาเล่าเรียนต่อ ประกอบกับทนายผู้ต้องหาระบุในคำร้องว่าผู้ต้องหาที่ 13 และ 14 จะไม่หลบหนีเชื่อว่าหากปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาจะไม่หลบหนีหรือก่อเหตุอันตรายประการอื่นจึงเห็นควรอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาที่ 13 และ 14 โดยตีราคาประกัน 200,000 บาท ทำสัญญาประกัน ยึดหลักประกัน แจ้งบริษัทประกันภัยทราบ และเห็นควรมีข้อกำหนดห้ามมิให้ผู้ต้องหาที่ 13 และ 14 ไปก่อเหตุอันตรายประการใดในลักษณะเดียวกับคดีนี้อีก มิฉะนั้น ศาลจะมีคำสั่งเพิกถอนสัญญาประกัน
       
       ด้าน นายนิติธร กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่ได้รับการประกันตัวในวันนี้ เป็นนักศึกษาระดับปริญญาโทของมหาวิทยาลัยรังสิต ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นกลุ่มนักศึกษาอีก 7 คนที่ยังไม่ได้รับการประกันตัวเนื่องจากยังขาดเอกสารใบรับรองสถานภาพการเป็นนักศึกษาจากสถาบันการศึกษา โดยเอกสารที่ยื่นมีเพียงใบเสร็จชำระค่าลงทะเบียน ศาลจึงมีคำสั่งให้ไปดำเนินการนำใบรับรองที่ออกจากสถาบันการศึกษามายื่นเพื่อพิจารณาคำร้องอีกครั้ง โดยตนและคณะจะดำเนินการขอใบรับรองจากสถาบันการศึกษาให้เสร็จสิ้นเพื่อมายื่นต่อศาลภายในวันพรุ่งนี้ ส่วนของผู้ต้องหาที่เหลืออีก 73 คน ขณะนี้ตนได้ซื้อกรมธรรม์ประกันอิสรภาพจาก บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด ไว้แล้ว แต่เมื่อปรากฏข่าวว่าได้มีการยื่นขอประกันตัว 9 นักศึกษา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาชุดแรกก็พบว่ามีประชาชนเข้ามาส่งข้อความต่อว่าบริษัทวิริยะประกันภัยในเว็บไซต์จำนวนมาก ดังนั้น บริษัท วิริยะประกันภัย จึงได้แจ้งว่า จะรายงานเรื่องนี้ต่อผู้บริหารก่อนที่จะยื่นประกันตัวผู้ต้องหาที่เหลืออีก 13 คน อย่างไรก็ดี บริษัท วิริยะประกันภัย แจ้งด้วยว่าจะประสานไปยังบริษัทประกันภัยอื่น เพื่อให้มาช่วยเหลือแบ่งเบาภาระในการขายกรมธรรม์ให้กับผู้ต้องหาซึ่งตนขอขอบคุณบริษัท วิริยะประกันภัย ที่เข้าใจเรื่องหลักการขอประกันตัวผู้ต้องหาในชั้นนี้ ว่า ยังไม่ได้มีการชี้ชัดเรื่องเจตนาว่าผู้ต้องหาตกเป็นผู้กระทำผิดแล้ว และเต็มใจขายกรมธรรม์ให้ นอกจากนี้ ยังอยากฝากถึงประชาชนทั่วไปให้รับทราบและเข้าใจเรื่องนี้ด้วยหากเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตนเองจะเป็นอย่างไร
       
       วันเดียวกันนี้ นายณฐพร โตประยูร ทนายความ 9 แกนนำพันธมิตรฯ ได้เดินทางมายังศาลอาญาเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งทุเลาหมายจับ 9 แกนนำพันธมิตรฯ ในข้อหากบฏ และอื่นๆ รวม 5 ข้อหา โดย นายณฐพร กล่าวว่า ตนได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้มีคำสั่งทุเลาหมายจับ 9 แกนนำพันธมิตรฯ ของศาลชั้นต้นไว้เป็นการชั่วคราวโดยด่วน หลังจากก่อนหน้านี้ ทนายความได้ยื่นคำร้องขอระงับหมายจับไว้แล้วแต่ศาลอุทธรณ์ยังไม่มีคำสั่งลงมา จึงต้องยื่นคำร้องใหม่อีกครั้งเนื่องจากมองว่าการออกหมายจับไม่ชอบด้วยกฎหมายและข้อกล่าวหายังไม่มีความชัดเจน
       
       “คดีนี้เกิดจากปัญหาทางการเมืองจึงแก้ด้วยวิธีทางการเมืองไม่ใช่แก้ปัญหาด้วยข้อกฎหมาย อีกทั้งผู้ต้องหาทั้ง 9 ก็ไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนีการออกหมายจับจึงไม่มีความจำเป็น”
       
       ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ได้รับคำร้องไว้แต่ยังไม่มีคำสั่งใดๆ ในวันนี้

ที่มา :: http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000106955

ขออนุญาติขุดครับ เนื่องจากผมไม่อยากให้บุคคลเหล่านี้ลบเลือนไปกับวันเวลาและความทรงจำของเราครับ โดยส่วนตัวผมขอยกย่องครับ

ในวันนี้ (10 ก.ย.) นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เตรียมยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวนักศึกษา 7 คน ที่อยู่ในกลุ่มนักรบศรีวิชัยและการ์ดพันธมิตรฯ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันใช้กำลังบุกรุกเข้าไปยึดอาคารสำนักงานสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) โดยใช้กำลังและมีอาวุธ ประกอบด้วย นายยุทธนา โอชาพงศ์ ผู้ต้องหาที่ 11 นายสัมพันธ์ อ่อนช่วยผู้ต้องหาที่ 17 นายนภดล เอี่ยมอุดม ผู้ต้องหาที่ 27 นายคฑาวุธ ชูศรี ผู้ต้องหาที่ 30 นายสุรสิทธิ์ แย้มประชาผู้ต้องหาที่ 36 นายอัมรินทร์ ยี่เฮง ผู้ต้องหาที่ 48 และนายสุนทร สุวรรณ ผู้ต้องหาที่ 75 โดยจะใช้หลักทรัพย์ เป็นกรมธรรม์ประกันอิสรภาพ มูลค่าคนละ 200,000 บาท รวมทั้งยื่นเอกสารใบรับรองสถานภาพการเป็นนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาเพื่อพิจารณาในคำร้องอีกครั้ง หลังจากวานนี้ ทีมทนายความได้ยื่นขอประกันตัวนักศึกษาไป 9 คน ซึ่งศาลอนุญาตให้ประกันตัวเพียงได้ 2 คน ส่วนที่เหลือยังขาดเอกสารขจากสถาบันการศึกษา ศาลจึงยังไม่อนุญาตให้ประกันตัว
        ส่วนผู้ต้องหาที่ยังถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ 73 คน นั้น นายนิติธร ระบุว่า ได้ซื้อกรมธรรม์ประกันอิสรภาพจากบริษัทวิริยะประกันภัย จำกัด ไว้แล้ว ซึ่งทีมทนายความจะเร่งเตรียมเอกสารก่อนยื่นขอประกันตัวต่อไป

ที่มา :: http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9510000107152

มีภาพจากเอกสารของ กลุ่ม Anti-PAD ที่อ้างว่าเป็นเหตุการณ์ตอนบุก NBT
ผมดูแล้วก็เป็นคนดีๆ เข้าไปโดยสงบ ไม่ได้ก่อจลาจลทำลายข้าวของตรงไหน

(http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P6944755/P6944755-54.gif)

ขออภัย มันขึ้นซ้ำครับ T T

จริงๆ คือ ผมพยายามตามข่าวของพวกท่านเหล่านี้ครับ เนื่องด้วยผมคารวะในจิตใจและความเสียสละ ในมุมมองผมการ์ดอาสาเล็กๆ คนหนึ่งอย่างผม ซึ่งไปประจำการบ้างไม่ประจำการบ้างแล้วแต่บริษัทจะอำนวยเวลาให้ ก็เท่านั้นครับ ผมไม่อยากให้พันธมิตรอุดมการณ์เดียวกันลืมพวกพ้องของเราเหล่านี้ครับ ผมยังคงยืนยันครับ ว่าการบุกยึด NBT เราถูกสวมรอยและจัดฉากครับ ^^

ปล. ไม่ตั้งใจดันกระทู้นะครับ แต่เจตนายกขึ้นมาไว้ด้านบน คริ คริ.. คงไม่โดน "มด" เล่นงานน้า... ^^

ปล.2 ผมเป็นไพร่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท แล้วพวกมันจะทำอะไร (มิได้หมายถึงท่านจี นะ ^^)

ตอนพวก นปก โดนจับ พวกมันมีน้ำใจตามช่วยเหลือกันแบบนี้ป่าว

ทำไมมันไม่เข็ด 

ทนายความสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ ยื่นหลักทรัพย์กรมธรรม์วิริยะประกันภัย 2 แสน ประกัน 18 นักรบศรีวิชัย แยกเป็น กลุ่มนักศึกษา ผู้หญิง และคนป่วย ล่าสุด ศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวเพิ่มอีก 2 คน ระบุต้องไปศึกษาเล่าเรียนต่อ
       
       วันนี้ (10 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ เดินทางมายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาคดีร่วมกันบุกรุกเข้าไปในอาคารสำนักงานสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) โดยใช้กำลังและมีอาวุธเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 05.30 น.เพิ่มเติมอีก 18 คน ประกอบด้วย นายธเนศร์ คำชุม ผู้ต้องหาที่ 1, นายชนินทร์ อินทร์พรหม ผู้ต้องที่ 2 อายุ 42 ปี ซึ่งระบุเป็นโรคเบาหวาน, นายวุฒิชัย บุญช่วย ผู้ต้องหาที่ 9, นายยุทธนา โอชาพงศ์ นักศึกษา ปี 3 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ผู้ต้องหาที่ 11, นายธนพัฒน์ วิไลภรณ์ ผู้ต้องหาที่ 12, นายสัมพันธ์ อ่อนช่วย นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง ผู้ต้องหาที่ 17, นายนภดล เอี่ยมอุดม นักเรียนชั้น ปวส.ปี 1 โรงเรียนมิตรพลพณิชยการ ผู้ต้องหาที่ 27, นายคฑาวุธ ชูศรี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน ผู้ต้องหาที่ 30, น.ส.อนัญชญา เพ็ญพลกรัง ผู้ต้องหาที่ 35, นายประสงค์ ตรัยรัตน์ ผู้ต้องหาที่ 44, น.ส.แก้วกาญ แพสุวรรณ์ ผู้ต้องหาที่ 45, น.ส.สายใจ มณีอุปถัมภ์ ผู้ต้องหาที่ 54, นายอดิลักษณ์ อนุชาติ ผู้ต้องหาที่ 55, นายรอย บุญนิล ผู้ต้องหาที่ 60, นายประสิทธิ มากแก้ว ผู้ต้องหาที่ 62, น.ส.วรรณวิมล แพสุวรรณ์ ผู้ต้องหาที่ 69, นายสุนทร สุวรรณ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง ผู้ต้องหาที่ 75 และ นายธนพล แก้วเชิด ผู้ต้องหาที่ 80
       
       โดยยื่นหลักทรัพย์ เป็นกรมธรรม์ประกันอิสรภาพของ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัดและเงินสด มูลค่าคนละ 200,000 บาท
       
       ทั้งนี้ ศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้ว จึงมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาไปก่อน 2 คน คือ นายยุทธนา โอชาพงศ์ นักศึกษาปี 3 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ผู้ต้องหาที่ 11 และ นายนภดล เอี่ยมอุดม นักเรียนชั้น ปวส.ปี 1 โรงเรียนมิตรพลพณิชยการ ผู้ต้องหาที่ 27 โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ขณะนี้ ผู้ต้องหาที่ 11 และ 27 เป็นนักศึกษาและมีความจำเป็นต้องกลับไปศึกษาเล่าเรียนต่อโดยสัญญาว่าจะไม่หลบหนีหรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น และจะมาตามกำหนดนัดของศาลทุกนัดแล้ว เห็นว่า เพื่อให้โอกาสผู้ต้องหาที่ 11 และ 27 ได้มีโอกาสกลับไปศึกษาเล่าเรียนต่อ ประกอบกับทนายผู้ต้องหาระบุในคำร้องว่าผู้ต้องหาที่ 11 และ 27 จะไม่หลบหนี เชื่อว่า หากปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาจะไม่หลบหนี หรือก่อเหตุอันตรายประการอื่นจึงเห็นควรอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาที่ 11 และ 27 โดยตีราคาประกัน 200,000 บาท ทำสัญญาประกัน ยึดหลักประกัน แจ้งบริษัทประกันภัยทราบ และเห็นควรมีข้อกำหนดห้ามมิให้ผู้ต้องหาที่ 11 และ 27 ไปก่อเหตุอันตรายประการใดในลักษณะเดียวกับคดีนี้อีก มิฉะนั้นศาลจะมีคำสั่งเพิกถอนสัญญาประกัน
       
       ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 16 คนอยู่ระหว่างการพิจารณาสั่งประกันของศาล

ที่มา :: http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000107427

ผู้จัดการออนไลน์ - อัปยศการเมืองเก่า ใช้อำนาจมิชอบผ่าน คปภ.บีบบริษัทประกันห้ามขายกรมธรรม์ให้นักรบศรีวิชัยผู้ต้องหาบุกเอ็นบีที ผู้ประกอบการเครียดเหตุไม่เข้าข่ายห้ามขาย แต่ยอมรับขืนฮึดฮัดอำนาจมืดจะสั่งสรรพากรเล่นงานใต้ดิน กลั่นแกล้งทางภาษี เผยต้องลุ้น "วิริยะ" รายเดียวที่อาจยืนหลักการขายตามวิชาชีพ เลี้ยบปัดแทรกแซง ยันเป็นเรื่องของเอกชน
       
       จากปัญหาความล่าช้าในการขอปล่อยตัวชั่วคราวกลุ่มนักรบศรีวิชัยและการ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้ต้องหาคดีร่วมกันใช้กำลังบุกรุกเข้าไปยึดอาคารสำนักงานสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) แหล่งข่าววงการประกันภัยเปิดเผยว่า มีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองไม่ให้เอกชนขายกรมธรรม์อิสรภาพ โดยสั่งการผ่านคณะกรรมการส่งเสริมและกำกับการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่กำกับบริษัทประกันภัยให้สั่งบริษัทประกันอีกทอด สร้างความอึดอัดให้บริษัทประกันภัยและกระทบต่อการขอปล่อยตัวชั่วคราวของผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าว
       
       ทั้งนี้ หลักทั่วไปในการซื้อกรมธรรม์ประกันอิสรภาพจากบริษัทประกันภัยนั้นคดีที่บริษัทจะปฏิเสธรับทำประกันนั้นคือคดีที่ผิดศีลธรรม เช่น คดียาเสพติดและคดีกระทำชำเรา บริษัทประกันภัยในประเทศที่รับทำประกันอิสรภาพมีการห้ามแค่ 2 เงื่อนไขนี้เท่านั้น ดังนั้นการบุกเข้ายึดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมาถือเป็นกรณีทั่วไป
       
       อย่างไรก็ตาม หากเป็นประเด็นทางการเมืองตามที่ผู้มีอำนาจพยายามกล่าวอ้าง ก็ยังถือเป็นเรื่องเล็กน้อยคือทำลายทรัพย์สินทางราชการ บริษัทประกันภัยก็สามารถรับทำประกันอิสรภาพได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใดไม่ถือเป็นเรื่องร้ายแรง
       
       "การบุกเข้าสถานที่ราชการในครั้งนี้เป็นการกระทำของฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล จึงอาจเป็นเหตุผลให้การประกันตัวล่าช้า มีการประกันได้แค่ 2 ราย ที่เหลือยังรอบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด ซึ่งขายประกันตามตามหลักธุรกิจยังคงชะลอไว้ก่อน ขณะที่หลายบริษัทปฏิเสธ กลัวว่ากระทรวงการคลังอาจใช้กรมสรรพากรมาเล่นงานเรื่องภาษี" แหล่งข่าวกล่าว
       
       สำหรับค่าใช้จ่ายการซื้อกรมธรรม์ประกันอิสรภาพนั้นโดยปกติแล้วหากผู้ที่มีอาชีพเสี่ยงซื้อไว้ก่อนเกิดคดีความจะคิดที่อัตราร้อยละ 1% ของวงเงินหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่หากซื้อหลังจากเกิดคดีความจะคิดในอัตราร้อยละ 7 ของวงเงินหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งกรณีของกลุ่มนักรบศรีวิชัยนั้นซื้อแบบกลุ่ม บริษัทอาจคิดค่าเบี้ยในอัตราส่วนลดพิเศษให้ด้วยโดยดูผู้ค้ำประกันว่ามีความน่าเชื่อถือในสังคมหรือไม่
       
       ล่าสุด ที่ศาลอาญา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการซื้อประกันอิสรภาพของกลุ่มนักรบศรีวิชัย 80 คน ขั้นตอนอยู่ในระหว่างการดำเนินการด้านเอกสารให้เรียบร้อย โดยข้อมูลของบุคคลที่ถูกดำเนินคดีทั้งหมดอยู่ในระบบของบริษัทแล้วรอเพียงขั้นตอนการอนุมัติเท่านั้น หากไม่มีคำสั่งพิเศษที่คาดไม่ถึงเข้ามา ภายในเย็นวันที่ 10 ก.ย. น่าจะอนุมัติการซื้อกรมธรรม์ทั้งหมดได้
       
       เลี้ยบปัดแทรกแซงเอกชน
       
       เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ในฐานะผู้ดูแลสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมและกำกับการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่กำกับบริษัทประกันภัย กล่าวว่า ตนไม่ได้สั่งการหรือห้ามบริษัทประกันภัยปฏิเสธการรับประกันอิสรภาพของกลุ่มนักรบศรีวิชัย เพราะเป็นเรื่องการทำธุรกิจของภาคเอกชนที่จะตัดสินใจรับทำประกันอิสรภาพให้กับกลุ่มผู้ถูกจับกลุ่มหรือไม่ "กระทรวงการคลังไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือแทรกแซง เป็นเรื่องบริหารความเสี่ยงของภาคเอกชนในการทำธุรกิจ” นพ.สุรพงษ์กล่าว

ที่มา :: http://www.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9510000107413

ทนายความสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ ยื่นหลักทรัพย์กรมธรรม์วิริยะประกันภัย 2 แสน ประกัน 18 นักรบศรีวิชัย แยกเป็น กลุ่มนักศึกษา ผู้หญิง และคนป่วย ล่าสุด ศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวเพิ่มอีก 9 คน ระบุต้องไปศึกษาเล่าเรียนต่อ
       
       วันนี้ (10 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ เดินทางมายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาคดีร่วมกันบุกรุกเข้าไปในอาคารสำนักงานสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) โดยใช้กำลังและมีอาวุธเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 05.30 น.เพิ่มเติมอีก 18 คน ประกอบด้วย นายธเนศร์ คำชุม ผู้ต้องหาที่ 1, นายชนินทร์ อินทร์พรหม ผู้ต้องที่ 2 อายุ 42 ปี ซึ่งระบุเป็นโรคเบาหวาน, นายวุฒิชัย บุญช่วย ผู้ต้องหาที่ 9, นายยุทธนา โอชาพงศ์ นักศึกษา ปี 3 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ผู้ต้องหาที่ 11, นายธนพัฒน์ วิไลภรณ์ ผู้ต้องหาที่ 12, นายสัมพันธ์ อ่อนช่วย นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง ผู้ต้องหาที่ 17, นายนภดล เอี่ยมอุดม นักเรียนชั้น ปวส.ปี 1 โรงเรียนมิตรพลพณิชยการ ผู้ต้องหาที่ 27, นายคฑาวุธ ชูศรี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน ผู้ต้องหาที่ 30, น.ส.อนัญชญา เพ็ญพลกรัง ผู้ต้องหาที่ 35, นายประสงค์ ตรัยรัตน์ ผู้ต้องหาที่ 44, น.ส.แก้วกาญ แพสุวรรณ์ ผู้ต้องหาที่ 45, น.ส.สายใจ มณีอุปถัมภ์ ผู้ต้องหาที่ 54, นายอดิลักษณ์ อนุชาติ ผู้ต้องหาที่ 55, นายรอย บุญนิล ผู้ต้องหาที่ 60, นายประสิทธิ มากแก้ว ผู้ต้องหาที่ 62, น.ส.วรรณวิมล แพสุวรรณ์ ผู้ต้องหาที่ 69, นายสุนทร สุวรรณ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง ผู้ต้องหาที่ 75 และ นายธนพล แก้วเชิด ผู้ต้องหาที่ 80
       
       โดยยื่นหลักทรัพย์ เป็นกรมธรรม์ประกันอิสรภาพของ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัดและเงินสด มูลค่าคนละ 200,000 บาท
       
       ทั้งนี้ ศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้ว จึงมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาไปก่อน 2 คน คือ นายยุทธนา โอชาพงศ์ นักศึกษาปี 3 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ผู้ต้องหาที่ 11 และ นายนภดล เอี่ยมอุดม นักเรียนชั้น ปวส.ปี 1 โรงเรียนมิตรพลพณิชยการ ผู้ต้องหาที่ 27 โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ขณะนี้ ผู้ต้องหาที่ 11 และ 27 เป็นนักศึกษาและมีความจำเป็นต้องกลับไปศึกษาเล่าเรียนต่อโดยสัญญาว่าจะไม่หลบหนีหรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น และจะมาตามกำหนดนัดของศาลทุกนัดแล้ว เห็นว่า เพื่อให้โอกาสผู้ต้องหาที่ 11 และ 27 ได้มีโอกาสกลับไปศึกษาเล่าเรียนต่อ ประกอบกับทนายผู้ต้องหาระบุในคำร้องว่าผู้ต้องหาที่ 11 และ 27 จะไม่หลบหนี เชื่อว่า หากปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาจะไม่หลบหนี หรือก่อเหตุอันตรายประการอื่นจึงเห็นควรอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาที่ 11 และ 27 โดยตีราคาประกัน 200,000 บาท ทำสัญญาประกัน ยึดหลักประกัน แจ้งบริษัทประกันภัยทราบ และเห็นควรมีข้อกำหนดห้ามมิให้ผู้ต้องหาที่ 11 และ 27 ไปก่อเหตุอันตรายประการใดในลักษณะเดียวกับคดีนี้อีก มิฉะนั้นศาลจะมีคำสั่งเพิกถอนสัญญาประกัน
       
       ภายหลังที่ศาลอาญา มีคำสั่งให้ประกันตัว นายยุทธนา โอชาพงศ์ นักศึกษา ปี 3 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ผู้ต้องหาที่ 11 และนายนภดล เอี่ยมอุดม นักเรียนชั้น ปวส. ปี 1 โรงเรียนมิตรพลพาณิชยการผู้ต้องหาที่ 27 ไปแล้วเมื่อเวลา 17.00 น.ที่ผ่านมา ต่อช่วงค่ำวันเดียวกันนี้ ศาลอาญา มีคำสั่งให้ประกันตัวผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 7 คน ประกอบด้วยนายสัมพันธ์ อ่อนช่วย นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง ผู้ต้องหาที่ 17 , นายคฑาวุธ ชูศรี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน ผู้ต้องหาที่ 30 , น.ส.อนัญชญา เพ็ญพลกรัง ผู้ต้องหาที่ 35 ,น.ส.แก้วกาญ แพสุวรรณ์ ผู้ต้องหาที่ 45 , น.ส.สายใจ มณีอุปถัมภ์ ผู้ต้องหาที่ 54 , นายรอย บุญนิล ผู้ต้องหาที่ 60 และ น.ส.วรรณวิมล แพสุวรรณ์ ผู้ต้องหาที่ 69 โดยศาลเห็นว่า หากปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาจะไม่หลบหนีหรือก่อเหตุอันตรายประการอื่นจึงเห็นควรอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยตีราคาประกันคนละ 200,000 บาท ทำสัญญาประกัน ยึดหลักประกัน แจ้งบริษัทประกันภัยทราบ และเห็นควรมีข้อกำหนดห้ามมิให้ผู้ต้องหาไปก่อเหตุอันตรายประการใดในลักษณะเดียวกับคดีนี้อีก มิฉะนั้นศาลจะมีคำสั่งเพิกถอนสัญญาประกัน
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับแต่ที่มียื่นประกันกลุ่มผู้ต้องหาตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ มีผู้ต้องหาได้รับประกันทั้งหมดรวม 11 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักศึกษาที่กำลังศึกษา และกลุ่มนักศึกษาที่ศึกษาจบแล้ว รวมทั้งกลุ่มผู้หญิง
       
       ส่วนผู้ต้องหาอีก 9 คนที่ยื่นประกันในวันนี้ด้วย คือ นายธเนศร์ คำชุม ผู้ต้องหาที่ 1 ,นายชนินทร์ อินทร์พรหม ผู้ต้องที่ 2 อายุ 42 ปีซึ่งระบุเป็นโรคเบาหวาน , นายวุฒิชัย บุญช่วย ผู้ต้องหาที่ 9 , นายธนพัฒน์ วิไลภรณ์ ผู้ต้องหาที่ 12 , นายประสงค์ ตรัยรัตน์ ผู้ต้องหาที่ 44 ,นายอดิลักษณ์ อนุชาติ ผู้ต้องหาที่ 55 ,นายประสิทธิ มากแก้ว ผู้ต้องหาที่ 62 , นายสุนทร สุวรรณ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง ผู้ต้องหาที่ 75 และนายธนพล แก้วเชิด ผู้ต้องหาที่ 80 ปรากฏว่าเอกสารยังไม่ครบถ้วน ศาลจึงยังไม่พิจารณาคำร้อง ซึ่งทนายความและญาติผู้ต้องหาเตรียมจัดหาเอกสารมายื่นต่อศาลเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาคำร้องต่อไป
       
       โดยรายชื่อผู้ที่ได้รับประกันตัวใน 2 วัน 11 คน มีดังนี้ นายยุทธนา โอชาพงศ์ ผู้ต้องหาที่ 11 , นายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ ผู้ต้องหาที่ 13 และ นายนัสเซอร์ ยีหมะ ผู้ต้องหาที่ 14 , นายสัมพันธ์ อ่อนช่วย ผู้ต้องหาที่ 17 , นายนภดล เอี่ยมอุดม ผู้ต้องหาที่ 27 , , นายคฑาวุธ ชูศรี ผู้ต้องหาที่ 30 , น.ส.อนัญชญา เพ็ญพลกรัง ผู้ต้องหาที่ 35 ,น.ส.แก้วกาญ แพสุวรรณ์ ผู้ต้องหาที่ 45 , น.ส.สายใจ มณีอุปถัมภ์ ผู้ต้องหาที่ 54 , นายรอย บุญนิล ผู้ต้องหาที่ 60 และ น.ส.วรรณวิมล แพสุวรรณ์ ผู้ต้องหาที่ 69

ที่มา :: http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000107427

ฮ่าๆๆๆ...สันดานอันธพาลชัดเจนเพราะไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน พวกมันก็เถื่อนไม่เลือกที่ ซ่าส์แบบนี้...เดี๋ยวคงมีข่าวถูกนักโทษรุมสะกรัมตายhaแน่ๆไม่ช้า หุ หุ :slime_smile2:

เรื่องจัดฉาก เลิกพูดเถอะ
ผลมันเป็นกรรมอันเกิดจากเหตุ
ลงมือทำ แต่ควบคุมสถานการณ์คนของตัวไม่ได้ ก็เงียบๆเอาไว้ อย่าไปต่อความ
ยุคนี้มันปิดหูปิดตา ยัดข้อมูลผิดๆกันไม่ได้ง่ายๆแล้ว

ศาลท่านให้ประกันก็ถือว่าปราณีมากแล้วครับ

“สมเกียรติ” เป็นตัวแทนแกนนำพันธมิตรฯเยี่ยมกลุ่มนักรบศรีวิชัยที่ยังไม่ได้ประกันตัว พร้อมมอบเงินเป็นค่าใช้จ่าย 30,000 บาท เผย ขวัญกำลังใจยังดีและขอให้แกนนำสู้ต่อไป
       
       วันนี้ (11 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ หนึ่งในแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางมายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อเข้าเยี่ยมกลุ่มนักรบศรีวิชัย ผู้ต้องหาคดีร่วมกันบุกรุกเข้าไปในอาคารสำนักงานสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) จำนวน 71 คน ที่ยังไม่ได้รับการประกันตัวโดยใช้เวลาในการพูดคุยประมาณ 1 ชม.
       
       นายสมเกียรติ กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยม ว่า ตนมาในฐานะตัวแทนแกนนำพันธมิตรฯ เนื่องจากมีตนเพียงผู้เดียวที่ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองจากสภาผู้แทนราษฎรจากกรณีถูกออกหมายจับในข้อหากบฏ และการเดินทางมาเยี่ยมครั้งนี้ เกิดจากมีข้อเรียกร้องจากบรรดาญาติของผู้ต้องหาที่ต้องการให้แกนนำพันธมิตรฯ เดินทางไปสร้างขวัญกำลังใจกับกลุ่มผู้ต้องหาที่ยังไม่ได้รับการประกันตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่า กลุ่มพันธมิตรฯได้ทอดทิ้ง ซึ่งจากการพุดคุยทุกคนมีขวัญกำลังใจที่ดี พร้อมที่จะต่อสู้และรู้สึกอบอุ่น เพราะมีประชาชนทั้งญาติและที่ไม่ใช่ญาติมาเยี่ยมจำนวนมาก และในวันนี้ทางพันธมิตรฯได้มอบเงินจำนวน 30,000 บาท ฝากไว้กับเจ้าหน้าที่เรือนจำ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายประจำวันแก่ผู้ต้องหาที่เหลือ นอกจากนี้ ยังได้มอบเงินให้กับครอบครัวของผู้ต้องหาทั้ง 82 ครอบครัว ครอบครัวละ 5,000 บาทด้วย
       
       นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ขณะนี้การประกันตัวจะทำได้เป็นรอบๆ ไป เพราะศาลจะพิจารณาให้เด็กสตรีและคนชราก่อน ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ จะต้องนำภาพถ่ายสถานประกอบการแนบพร้อมเอกสารการยื่นขอประกันตัว ซึ่งค่อนข้างยุ่งยากต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มผู้ต้องหายังให้กำลังใจแกนนำทั้ง 5 คนให้ต่อสู้ต่อไป สำหรับการเดินทางมาเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯครั้งนี้ นายทรงวุฒิ พัฒนกุล ผบ.เรือนจำพิเศษ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มาต้อนรับ และคอยอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี เพราะเข้าใจว่าเป็นคดีทางการเมือง

ที่มา :: http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000107857

เรื่องเหตุวิวาทในคุกไม่รู้ รู้แต่ว่าอีกไม่นานจะมีเหตุวิวาห์ในคุก 55555 ไม่เจื้อไปถามคุณเพ็ญดูจิ อ่ะ เนี่ยใส่ฟอนต์ฉีม่วงให้ด้วยอ่ะ  :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

เค้าจะตบตีแย่งเจ๊เพ็ญกันเหรอ  :slime_sentimental: :slime_sentimental:

อิอิ...เมื่อวานไปซื้อของคนที่ไปด้วยบอกว่า ถ้าอีเพ็ญติดคุก

จะซื้อวาสลีนไปฝาก...แล้วบอกต่อว่า สงสัยมันคงไม่อยากออกมาแน่เลย

หวายยยยยยยยยยย....ตอนอันธพาลศรีวิชัยโดนล๊อคตัวใหม่ๆ บักยะใสบอกว่าไม่เกี่ยวข้องใดๆกับพันธมาร...แล้วเป็นไงหล่ะ!?!  ถึงกับส่ง สส. ครึ่งบกครึ่งน้ำไปเยี่ยมถึงในคุกเชียว ท่าทางคงไปsurveyหาข้อมูลสถานที่เพื่อเตรียมตัวเข้าไปอยู่แหงๆ กร๊ากกกกกกกกกกก :slime_bigsmile:

นั่นอีกนาน.... จ๊ะหล่ะไม่เตรียมตัวไปรับใช้ว่าที่นักโทษชายชราอยู่เหรอ หลายกระทงเชียว :slime_v:

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก น.ส.รัศมี ไวยเนตร ทนายความ สภาทนายความและคณะ เดินทางมายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหา คดีร่วมกันบุกรุกเข้าไปในอาคารสำนักงานสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) โดยใช้กำลังและมีอาวุธเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา เพิ่มเติมอีก 3 คน ประกอบด้วย นายชนินทร์ อินทร์พรหม อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งเป็นโรคเบาหวาน นายดำรงศักดิ์ จันทพันธ์ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาที่ 38 ซึ่งขณะนี้รักษาอาการโรคเบาหวานอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากมีอาการช็อกเพราะขาดน้ำตาล และนายอัมรินทร์ ยี่เฮง อายุ 29 ปี นักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวลัยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยยื่นหลักทรัพย์ เป็นกรมธรรม์ประกันอิสรภาพของ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัดและเงินสด มูลค่าคนละ 200,000 บาท
        ทั้งนี้เมื่อเวลา 17.00 น. ศาลจึงมีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราวเพียง 2 คน คือ นายดำรงศักดิ์ จันทพันธ์ ผู้ต้องหาที่ 38 และนายอัมรินทร์ ยี่เฮง ผู้ต้องหาที่ 48 โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาทั้งสองจะไม่หลบหนีหรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น เพื่อให้โอกาสผู้ต้องหาจึงเห็นควรอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาที่ 38 และ 48 โดยตีราคาประกัน 200,000 บาท ทำสัญญาประกัน ยึดหลักประกัน แจ้งบริษัทประกันภัยทราบ และเห็นควรมีข้อกำหนดห้ามมิให้ผู้ต้องหาที่ 38 และ 48 ไปก่อเหตุอันตรายประการใดในลักษณะเดียวกับคดีนี้อีก มิฉะนั้นศาลจะมีคำสั่งเพิกถอนสัญญาประกัน
        ส่วนนายชนินทร์ อินทร์พรหม อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งระบุว่าเป็นโรคเบาหวานนั้น ศาลพิเคราะห์พฤติการณ์ตามคำร้องฝากขังแล้ว เห็นว่า ร่วมกันก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยบุกรุกเข้าในสถานีโทรทัศน์ NBT โดยใช้กำลังและมีอาวุธในเวลากลางคืน อีกทั้งยังข่มขืนใจเจ้าหน้าที่สถานีโทรทัศน์ NBT ให้หยุดทำงานให้หยุดออกอากาศ ซึ่งเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 82 คนได้พร้อมอาวุธของกลาง ถือว่ามีพฤติการณ์ร้ายแรง ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ซึ่งแม้ผู้ต้องหาที่ 2 จะระบุในคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวว่าเป็นโรคเบาหวาน แต่ศาลเห็นว่าผู้ต้องหาสามารถเข้ารักษาตัวได้ที่โรงพยาบาลในเรือนจำหากเกิดอาการป่วย กรณีจึงยังไม่มีเหตุให้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ให้ยกคำร้อง

คนดีๆประเภทคลุมหน้าปิดปากจมูกพังประตูเข้าไปแล้วไล่นักข่าวNBTกระเจิงแถมประกาศจะเกี่ยวASTVเชี่ยมสัญญาณและยึดสถานีตลอดไปเนี่ยน๊ะคนดีของคุณจีรศักดิ์!?!  ฮ่าๆๆๆ....มาตรฐานและคุณภาพทางความคิดแบบไหนกันหนอ? :slime_smile2:

เหตุการณ์นี้น่าจะเทียบเคียงได้กับคราวที่ไอ้ห้อยยกพวกปิดล้อมเนชั่น เหตุการณ์ครั้งนั้นคนในสังคมล้วนก่นด่า

แต่เหตุใดโจรศรีวิชัยกลับมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งยกย่อง?? ไหนหละมาตรฐาน?? หรือว่าใครก็ตามที่เป็นพวกเดียวกันทําชั่วยังไงก็ให้ถือว่าดี งง งง

เพื่อนกลุ่มพันธมิตรฯ และญาติรวมกลุ่มเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ “นักรบศรีวิชัย” 69 คน ที่ถูกคุมขังในเรือนจำกรุงเทพ ฐานบุกเอ็นบีที ด้านทนายยัน อีก 1-2 วันเตรียมยื่นประกันตัวชั่วคราวได้เพิ่มอีก 8 ราย
       
       วันนี้ (22 ก.ย.) ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เมื่อเวลา 10.00 น. กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและญาติประมาณ 200 คนได้เดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องหาที่เป็นนักรบศรีวิชัยและอาสาสมัคร กรณีเหตุการณ์บุกรุกสถานีวิทยุโทรทัศน์กรมประชาสัมพันธ์ ช่อง NBT ถนนวิภาวดี-รังสิต เมื่อเช้าตรู่ วันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพและไม่ได้ประกันตัวชั่วคราวจำนวน 69 คน
       
       โดยนายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง กล่าวว่า ตนเป็นผู้ต้องหาที่ได้รับการประกันตัวชั่วคราวชุดแรก และเห็นว่าผู้ต้องหาที่เหลืออีก 69 คน ต้องการกำลังใจจากญาติและประชาชนกลุ่มพันธมิตรฯ จึงได้ประสานไปยังแกนนำที่เวทีปราศรัยทำเนียบรัฐบาล เพื่อเชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมเดินทางไปเยี่ยมผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ วันนี้จึงมีผู้ร่วมชุมนุมและญาติมาเยี่ยมพร้อมกันจำนวนมาก เพื่อเป็นกำลังใจกับพวกเขา นอกจากนี้ผู้ร่วมชุมนุมยังได้ร่วมกันบริจาคเงินให้กับนักรบศรีวิชัยคนละ 400 บาท รวมประมาณ 30,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและซื้ออาหารภายในเรือนจำ
       
       ด้าน นายทรงวุฒิ พัฒนกุล ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ กล่าวว่า ญาติและกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้มาเยี่ยมจำนวนมาก เพื่อไม่ให้เกิดความชุลมุนวุ่นวายจึงได้ให้เจ้าหน้าที่เรือนจำอำนวยความสะดวกโดยจัดห้องเยี่ยมให้เพียงพอและสามารถเยี่ยมพร้อมกันได้ เมื่อเวลา 10.45 น.รอบเช้ารอบเดียว เป็นเวลา 15 นาที โดยที่ไม่เป็นการรบกวนญาติของผู้ต้องขังรายอื่นๆ ส่วนความเป็นอยู่ของผู้ต้องหาภายในเรือนจำนั้นก็มีความเป็นเรียบร้อยเป็นปกติ
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวนหนึ่งมาคอยสังเกตการณ์และดูแลความปลอดภัย ขณะที่ทนายความจากสภาทนายความเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เตรียมเอกสารและรออนุมัติกรมธรรม์จากบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด เพื่อยื่นประกันตัวผู้ต้องหาเพิ่มอีก 8 ราย คาดว่าจะสามารถยื่นประกันตัวได้ภายใน 1-2 วันนี้

ที่มา :: http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000112225

นักรบมือตบ เข้าเยี่ยมนักรบศรีวิชัยที่คลองเปรม ล้นหลาม  

“วีระ”  และ  “ทีน่า เทอร์เนอร์ เมืองไทย” นำทีมนักรบมือตบมวลชนพันธมิตรฯ กว่า 200 คน เดินทางเข้าเยี่ยมให้กำลังใจนักรบศรีวิชัย ที่เรือนจำคลองเปรม เพื่อแสดงถึงน้ำใจ ว่า พันธมิตรฯ และประชาชน ไม่มีวันทอดทิ้งนักรบผู้กล้า
       
       เวลา 14.00 น.วันนี้ (30 ก.ย.) นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน เดินทางมายังเรือนจำพิเศษคลองเปรม เพื่อสมทบกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กว่า 200 คน ที่เดินทางมารอก่อนหน้านี้ เพื่อเข้าเยี่ยมนักรบศรีวิชัย 69 คนที่ถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำพิเศษคลองเปรม
       
       นายวีระ กล่าวว่า การเดินทางมาในวันนี้เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจทั้ง 69 คน เพื่อให้ทราบว่า แกนนำพันธมิตรฯและประชาชนไม่ได้ทอดทิ้งเขา และพร้อมที่จะดูแลครอบครัวของทั้ง 69 คน ในช่วงที่ยังไม่ได้รับการประกันตัว
       
       รายงานข่าวแจ้งว่า พันธมิตรฯ และนักรบมือตบกว่า 200 คน ที่เดินทางมาให้กำลังใจและเข้าเยี่ยมนักรบศรีวิชัย ยังได้ตั้งโต๊ะเพื่อรับบริจาคเงิน ซึ่งได้รับเงินบริจาคกว่า 60,000 บาท โดยได้มอบให้กับนักรบศรีวิชัยทั้งหมด โดยเป็นเงินเพื่อจัดซื้ออาหารและคูปองระหว่างที่ถูกควบคุมตัว ขณะที่เงินอีกส่วนจะมอบให้กับญาติของนักรบศรีวิชัยทั้ง 69 คน ทั้งนี้ เมื่อรวมเงินส่วนหนึ่งที่ทางเวทีพันธมิตรฯ ได้รับบริจาคเพื่อช่วยเหลือนักรบศรีวิชัยทั้ง 69 คนแล้วกว่า 400,000 บาท
       
       รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษคลองเปรม ได้ต้อนรับให้พันธมิตรฯกว่า 200 คนเข้าเยี่ยมนักรบพันธมิตรฯทั้ง 69 คนอย่างดี โดยเปิดห้องเยี่ยมไว้ 7 ห้อง โดยให้ญาติและพันธมิตรฯเข้าเยี่ยมรอบละ 10-30 คน รอบละ 15-20 นาที โดยหลายคนได้ให้กำลังใจและระบุว่า ทุกคนที่เข้ามาอยู่ในนี้คือนักสู้ที่ต้องการให้ประเทศไทย มีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันทั้ง 69 คนได้แสดงสีหน้าแจ่มใส เมื่อพบว่า มีผู้เข้ามาเยี่ยมพวกเขาจำนวนมาก
       
       จนถึงเวลา 15.00 น.พันธมิตรฯ นักรบมือตบกว่า 200 คน ต่างแยกย้ายกันกลับโดยสงบหลังจากที่ได้บันทึกภาพหน้าเรือนจำคลองเปรม โดยหลายคนระบุว่า บ้างก็ลางาน หรือก็พักเที่ยงเพื่อมาเยี่ยมนักรบศรีวิชัย ทั้ง 69 คน

ที่มา :: http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000116075

นักรบศรีวิชัยได้ประกันอีก3ราย



เมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ญาติกลุ่มนักรบศรีวิชัย ผู้ต้องหาบุกรุกสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที 3 ราย ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 2 แสนบาทเพื่อขอประกันตัว โดยศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว 3 คน ประกอบด้วยนายวีระศักดิ์ บรรจงช่วย ผู้ต้องหาที่ 59, นายประสิทธิ์ มากแก้ว ที่ 62 และนายวิเชษฐ์ คงจันทร์ ที่ 72 โดยศาลห้ามมิให้ผู้ต้องหาไปก่อเหตุอันตรายประการใดในลักษณะเดียวกับคดีนี้อีก มิฉะนั้นจะมีคำสั่งเพิกถอนสัญญาประกัน

ขณะเดียวกัน นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ เป็นเงินสดคนละ 2 แสนขอประกันตัวเพิ่มเติมรวม 9 คน คือ นายธเนศร์ คำชุม ผู้ต้องหาที่ 1, นายวุฒิชัย ช่วยบุญชู ที่ 9, นายธนพัฒน์ วิไลภรณ์ ที่ 12, นายสุรชัย สุทธิวรานนท์ ที่ 15, นายประเสริฐ ด้วงทิพย์ ที่ 37, นายประสงค์ ตรัยรัตน์ ที่ 44, นายศตวรรษ ที่ 47, นายอดิลักษณ์ อนุชาติ ที่ 55 และนายคำรณย์ อู้สกุลวัฒนา ที่ 56 แต่ศาลพิจารณาแล้วยังมีปัญหาติดขัดเรื่องเอกสารรับรองอาชีพ ทีมทนายความจึงเตรียมยื่นประกันอีกครั้งในวันที่ 1 ตุลาคม

(กรอบบ่าย)

หน้า 15

มติชนออนไลน์ :: http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01p0107011051&sectionid=0101&selday=2008-10-01
=================================================================

แปลกแต่จริง ลิ่วล้อแม้ว ไม่มีแม้กระทั่งหมาฝูงเดียวกันซักตัวไปเยี่ยม!!!

ศาลให้ประกัน นักรบศรีวิชัยบุก NBT เพิ่มเติมอีก 9 ราย

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ 1 ต.ค. ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวกลุ่มนักรบศรีวิชัย กรณีบุกสถานีโทรทัศน์NBT อีกจำนวน 9 คน ประกอบด้วยนายธเนศร์ คำชุม , นายวุฒิชัย ช่วยบุญชู , นายธนพัฒน์ วิไลภรณ์ ,นายสุรชัย สุทธิวรานนท์, นายประเสริฐ ด้วงทิพย์ , นายประสงค์ ตรัยรัตน์ , นายศตวรรษ จอนทอง , นายอดิลักษณ์ อนุชาติ และ นายคำรณย์ อู้สกุลวัฒนา ซึ่งถูกตำรวจตั้งข้อหาข้อหาร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังบุกรุกเข้าไปยึดอาคารสำนักงานสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) เมื่อเช้ามืดวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา ตีราคาประกันคนละ 200,000 บาท

ที่มา :: http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9510000116527

ตร.ตื้อไม่เลิกยื่นแก้อุทธรณ์ถอนหมายจับ 9 แกนนำ ศาลให้ประกัน “นักรบศรีวิชัย” อีก 8 ราย

ศาลอาญาให้ประกันเพิ่ม “กลุ่มนักรบศรีวิชัย” บุก NBT อีก 8 ราย โดยตีราคาประกันคนละ 2 แสนบาท ส่วนกรณีอุทธรณ์เพิกถอนหมายจับ 9 พันธมิตรฯ ศาลอาญาเตรียมส่งสำนวนให้ศาลอุทธณ์พิจารณาและวินิจฉัย หลังพนักงานสอบสวนเดินทางมายื่นคำแก้อุทธรณ์ โดยจะพิจารณาประกอบกับคำร้องอุทธรณ์ของทนายความแกนนำพันธมิตรฯ
       
       วันนี้ (2 ต.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นางรัศมี ไวยเนตร ทนายความ จากสภาทนายความ เดินทางยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด และกรมธรรม์ประกันอิสรภาพบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด ขอประกันตัว กลุ่มนักรบศรีวิชัยการ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพิ่มเติมอีก 12 คน หลังถูกตำรวจตั้งข้อหาร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังบุกรุกเข้าไปยึดอาคารสำนักงานสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) เหตุเกิดเมื่อเช้ามืดวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา
       
       ภายหลังเมื่อเวลา 16.00 น.ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว จำนวน 8 คน คือ นายพิเชษฐ์ ด้วงช่วย, นายพรชัย บรรจงช่วย, นายอำนวย เพชรเส้ง, นายธนพล แก้วเชิด, นายสุนทร รักษายศ, นายธัชชัย ทองจิตร, นายไพศาล สุขแก้ว และ นายปัญญาเดช เอกภาณุพัตร์ โดยศาลตีราคาประกันคนละ 200,000 บาท โดยกำหนดเงื่อนไม่ให้ไปก่อเหตุลักษณะเดียวกันอีก มิฉะนั้น ศาลจะมีคำสั่งเพิกถอนสัญญาประกัน
       
       ส่วนอีก 4 คน คือ นายสัญญา สุขเกื้อ, นายสมเกียรติ รัตนพันธ์, นายบุญฤทธิ เชิญทอง, นายสมเกียรติ หนูใหญ่ นั้น เอกสารยังไม่เรียบร้อย ทนายความจึงรับสำนวนมาแก้ไขก่อนยื่นใหม่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ สำหรับผู้ต้องหาคดีทั้ง 82 คน ทนายความได้ทยอยยื่นคำร้องขอประกันตัวมาตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งศาลอาญาได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหารวมทั้งสิ้น 25 คน ซึ่งมีทั้งกลุ่มนักศึกษา ผู้หญิง ผู้ป่วย และ ผู้สูงอายุ รวมทั้งกลุ่มชายฉกรรจ์ โดยตีราคามูลค่าคนละ 200,000 บาท
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับความคืบหน้ากรณีที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงาน นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นายอมร อมรรัตนานนท์ และ นายเทิดภูมิ ใจดี แนวร่วมพันธมิตรฯ ผู้ต้องหาที่ 1-9 ที่ศาลอาญาอนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ในข้อหากบฏ และข้อหาอื่นรวม 5 ข้อหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113, 114, 116, 215 และ 216 ยื่นอุทธรณ์เพิกถอนหมายจับและศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ไว้พิจารณานั้น
       
       ล่าสุด วันนี้ (2 ต.ค.) พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์ผู้ต้องหาทั้ง 9 ส่งต่อศาลอาญาแล้วตามที่จะครบกำหนดในวันที่ 4 ต.ค.นี้ ซึ่งศาลอาญาเตรียมรวบรวมเอกสารคำร้องอุทธรณ์ของทนายความแกนนำพันธมิตรฯทั้ง 9 คน คำแก้อุทธรณ์ของพนักงานสอบสวน และสำนวนที่ศาลอาญาพิจารณาออกหมายจับ ส่งต่อศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาและมีคำวินิจฉัยต่อไปว่าจะเพิกถอนหมายจับหรือไม่


ที่มา :: http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000117103