ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ตรวจสอบสื่อทีวี มีช่องไหนกล้าออกภาพการชุมนุมที่ทำเนียบบ้าง

เมื่อกี้เห็นสื่อต่างชาติ เข้ามาสัมภาษณ์สนธิ สงสัยพวกเราต้องติดตามดูเว็บข่าวต่างประเทศด้วย

ส่วนในเมืองไทย ยังคงถูกปิดข่าวแทบทุกช่อง น่าอนาถ สมาคมสื่อจะจัดการยังไง

ช่องเนชั่น จะสรุปข่าวที่ชุมนุมทุกชั่วโมง และมีจอเล็กๆให้ดูด้วย

เนชั่น เป็นช่องทีวีดาวเทียม

เห็นตั้งแต่เมื่อวาน มี 2 ช่องให้ดู ระหว่าง ทำเนียบกับ NBT

น่าเสียดาย ที่ช่อง ฟรีทีวี ไม่มีสำนึกของ "สื่อ" ซึ่งต้องนำเสนอข่าวอย่างรอบด้าน เที่ยงธรรม

ตอนต่อสู้กับไอทีวี พวกเราเอาใจช่วย ไทยพีบีเอสมาตลอด

นึกว่าจะมีสำนึก พฤษภามทิฬ ที่เป็นที่เกิดของสถานีโทรทัศน์สาธารณะ

ช่วงนี้รู้สึกอย่างเดียว

ผิดหวังกับ ทีวีสาธารณะช่องนี้มากที่สุด

แบบนี้ต้องประณามค่ะ  อะไรจะขี้ขลาดขนาดนี้  :slime_evil:

เพิ่งทราบเหมือนกันค่ะ เพราะเกาะติดอยู่แต่หน้าจอคอมพ์เป็นหลัก ยิ่งเปิดไปเอ็นบีทีก็เจอแต่ลี้มกโช้ว ยังไม่นับหัวเกรียน 3 หัวนั่น  :slime_evil:

อย่างนี้ต้องสังคายนาคณะนิเทศศาสตร์ คณะวารสารฯ หรือป่าวคะ ลุงแคน  :slime_p:

ฟังอาลิ้มแป๊ะแปะพูดครั้งหนึ่ง ดีมากค่ะ อาแปะว่า มีนักวิชาการด้านสังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ สนใจจะมาทำแบบสำรวจวิจัยเกี่ยวกับผู้คนที่มาชุมนุมกับพันธมิตร นั้น ว่าอะไร อย่างไร ทำไม ฯลฯ บ้างมั้ย 

ดีแต่วิเคราะห์วิจารณ์อยู่หน้าจอ หน้าหนังสือพิมพ์ มีใครทำวิจัยการชุมนุมของพันธมิตรฯ และเหตุการณ์ครั้งนี้ในเชิงวิชาการบ้าง

ตีแสกหน้าจริง ๆ  :slime_mad:

ปล. ถ้ามี ต้องขออภัย แต่ตอนนี้ขออนุญาตด่าตามก่อน  :mrgreen: :D :mrgreen:

ผมเขียนจดหมายน้อยถึงสมาคมสื่อฯ แล้ว มีคนอ่านเยอะเหมือนกัน

http://www.oknation.net/blog/canthai/2008/08/27/entry-1

http://www.oknation.net/blog/canthai/2008/08/26/entry-1

เคยเห็นพีบีเอสทำข่าวเข้าไปสัมภาษณ์บรรยากาศผู้ชุมนุมรวมทั้งสัมภาษณ์ฝรั่งที่เข้าไปร่วมชุมนุมด้วย

เมื่อครั้งรัฐประหารหน่อมแน้มของคมช. ประกอบกับนโยบายสมานฉันท์ของขิงแก่ และคำครหาเรื่องเกี้ยเซี้ยะ

ไม่มีทีวีช่องใดเผยแพร่ความเลวร้ายของระบอบทุนนิยมสามานย์อย่างเป็นกิจลักษณะจริงจังอะไร

วันนี้จึงยังต้องเหนื่อยกันต่อไป

พวกสื่อเนี่ย ชนะไหนเข้าด้วยช่วยกระพือ+แรงจูงใจของเม็ดเงินในระบบ

ก็เลยได้แค่นี้แหละคับ..

http://news.bbc.co.uk/2/hi/asia-pacific/7583413.stm

มีช่องของ UBC รู้สึกจะชื่อ TNN มั้ง ผมไม่แน่ใจ...


ออกข่าวบ่อย...

ปล่อยภาพบ่อย... แต่ไม่มีเสียงจ้า....



 :slime_fighto: :slime_fighto: :slime_fighto:

นักวิชาการ ร้องสื่อเกาะติดสถานการณ์บ้านเมืองใกล้ชิด  
 17:51 น.

นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ จากหลายสถาบันกว่า 20 คน อาทิ นายประภาส ปิ่นตบแต่ง นายไชยันต์ ไชยพร และนายชัยวัฒน์ สถาอานันท์ ร่างจดหมายเปิดผนึก มีใจความว่า ต่อสถานการณ์ที่ผ่านมา ขอเรียกร้องให้สื่อมวลชนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และให้ความสำคัญต่อการนำเสนอข่าวมากกว่ารายการบันเทิง ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รัฐสภาควรเข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหา รวมทั้งควรชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐบาลควรแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี การตั้งข้อหากบฏรุนแรงเกินควร และ กลุ่มพันธมิตรฯ ควรต่อสู้ทางการเมืองด้วยสันติวิธี ดังเช่นปฏิบัติมากว่า 100 วัน  
 
 
 

ขนาดภาพที่พันทะมิดโดนรุมตีจนกองกับพื้นเมื่อคืนวันที่ 27 ตอนตี 3 ยังเพิ่งได้ออก TPBS เลย วันที่เกิดเรื่อง ออกข่าวฉาบ ตอนตีไม่มีช่องไหนออก มีแต่ภาพผลักๆ ดันๆ บาดเจ็บเล็กน้อย ทั้งๆ ที่วันนั้นหัวแบะไปหลายคน
แล้วสาเหตุที่ได้ออกเป็นข่าวทีวี เพราะว่า สว เข้ามาตรวจสอบ ไม่งั้น ไอ้ทีวีสาธารณะเฮงซวยนี่ก็คงไม่เอามาออกเหมือนกัน เปลี่ยนบอร์ดไม่ทันไร ลายออกเหมือนเดิม

เค้าจะไปเกาะติดได้อย่างไร  อ่านดูซะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ทำเนียบฯข้า-อย่าหือ!! การ์ดพธม.-ภูวดลถ่*** กระชากตัวนักข่าวสาว ด่าถ้อยคำ'หยาบคาย'     
Thursday, 28 August 2008 


พันธมิตรฯใหญ่คับทำเนียบฯ “รปภ.-ภูวดล” เหิมหนัก ด่ากราดด้วยถ้อยคำหยาบคาย-กระชากตัวนักข่าวหญิง บอกหน้าตาเฉย “ไม่สน” ไม่เชื่อจะใช้หนังสติ๊กยิง นักข่าวสาวถึงกับร่ำไห้ทนไม่ได้กับพฤติกรรมถ่*** ต้องขอเผ่นกลับบ้าน


วันที่ 28 ส.ค. 2551 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า หน่วยรักษาความปลอดภัย (การ์ด) ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้สร้างแนวป้องกันด้วยยางรถยนต์ ที่ประตู 9 ฝั่งสะพานอรทัย พร้อมทั้งเตรียมอุปกรณ์ต่างๆเพื่อสกัดกั้นตำรวจทั้ง เหล็กแป๊บ ไม้พลอง หนังสะติ๊ก ก้อนหิน ไม่กอล์ฟ และไม้คมแฝก  ซึ่งทันทีที่รถตู้ตำรวจ และรถ 6 ล้อ สำหรับคุมขังนักโทษ ประมาณ 20 คัน เคลื่อนผ่านฝั่งตรงข้ามวัดโสมนัส ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้โห่ร้อง โดยระหว่างนั้นผู้สื่อข่าว 3 คน ประกอบด้วย นายมนตรี จิรพรพนิต หนังสือพิมพ์ข่าวสด นายสุทธา พิมาลัย หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และน.ส.ศศินภา วัฒนวรรณรัตน์ หนังสือพิมพ์มติชน ที่ขึ้นไปสังเกตการณ์อยู่บริเวณทางเชื่อมอาคารบัญชาการ 1 และ 2 ได้ถูกการ์ดพันธมิตรฯไล่ลงข้างล่างให้หมด ทำให้ผู้สื่อข่าวทั้งสาม ได้ชี้แจง พร้อมกับโชว์บัตรประจำตัวผู้สื่อข่าวว่าเป็นสื่อมวลชน ขอสังเกตการทำหน้าที่รายงานตรงจุดนี้ แต่ทางการ์ดพันธมิตรฯบอกว่า “ไม่สน” เพราะกลัวว่าจะเป็นนปก.ปลอมตัวมา ถ้าไม่ลงจะใช้หนังสติ๊กยิง จากนั้นได้มีรปภ.ของพันธมิตรฯ 2 คนขึ้นมาเชิญตัวลงไป แต่ผู้สื่อข่าวได้ยืนยันว่าจะขอสังเกตการณ์ต่อไปโดยยืนยันว่า สามารถดูแลตัวเองได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เจรจากับการ์ดพันธมิตรฯเป็นที่เรียบร้อย ปรากฏว่านายภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ได้ขึ้นมายังบริเวณดังกล่าวด้วยอาการเกรี้ยวกราด พร้อมกับชี้หน้าไล่ผู้สื่อข่าวให้ลงไปด้านล่าง และด่าว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย โดยไม่ฟังคำชี้แจงใดๆ รวมทั้งได้กระชากตัวน.ส.ศศินภา อย่างรุนแรง ทำให้เพื่อนนักข่าวอีกสองคน ต้องเข้าไปกันเอาไว้ พร้อมกับบอกว่าทำอย่างนี้ไม่เหมาะสม เพราะน้องเป็นนักข่าวผู้หญิง จนทำให้น.ส.ศศินภาร้องไห้ด้วยความตกใจในท่าทีของนายภูวดล ซึ่งนายภูวดล ได้เอ่ยปากขอโทษ แต่ก็ขู่ว่าจะลงดีๆหรือไม่ ถ้าไม่ลงจะตามรปภ.มาไล่ให้ลงไป เพราะมันอันตราย ผู้สื่อข่าวทั้งสามจำเป็นต้องลงมาด้านล่าง ซึ่งนายภูวดล ตะโกนสั่งทีมรปภ.ไล่หลังว่า “ให้เอาพวกมันลงไป”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนั้นกลุ่มพันธมิตรฯประมาณ 10 กว่าคนกรูกันขึ้นไปชั้นบน โดยมีหญิงกลางคน ตะโกนใส่หน้าผู้สื่อข่าวว่า “เอาลงไปเลย” และขณะที่กลุ่มผู้สื่อข่าวเดินลงจากชั้นสอง กลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่ด้านล่างพากันตะโกนไล่ กระทั่งเพื่อนผู้สื่อข่าวที่ทราบเรื่องต้องมาช่วยกันพากลับเข้าห้องผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบฯ แต่ก็มีมวลชนจากพันธมิตรฯฮือมาล้อมที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล จนผู้สื่อข่าวต้องขอร้องให้การ์ดพันธมิตรฯมาช่วยรักษาความปลอดภัย และได้ปิดประตูล็อคกลอนทุกด้าน   

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้แจ้งให้นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทราบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งแจ้งว่าน.ส.ศศินภา ต้องการจะกลับบ้าน แต่รถของบริษัทจอดอยู่บริเวณที่เกิดเรื่องเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย นายสนธิได้อาสาพาตัวน.ส.ศศินภาไปส่งด้านนอกทำเนียบฯ

นายสนธิ กล่าวภายหลังไปส่งผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวว่า ตนไม่ทราบถึงต้นเหตุในเรื่องนี้จริงๆแต่ในเมื่อสถานการณ์มันตึงเครียด พันธมิตรฯทุกคนต้องระวัง

จากนั้นนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ ได้เข้ามาสอบถามกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีดังกล่าวพร้อมกับให้ผู้สื่อข่าวเขียนข้อเสนอมายังแกนนำว่าต้องการอะไร แต่ตัวแทนผู้สื่อข่าวปฏิเสธที่จะเขียนเพราะจะเหมือนเป็นการเรียกร้อง จึงขอเพียงให้แกนนำประกาศบนเวทีให้ผู้ชุมนุมรับทราบว่าขอให้สื่อมวลชนได้ทำงานเพียงเท่านั้นก็พอ และขอให้ประกาศ ซึ่งนายพิภพก็รับทราบและรับปากว่าจะประกาศเป็นระยะต่อไป

ในเรื่องนี้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ในรายการ “เรื่องเด่นเย็นนี้” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 โดยช่วงหนึ่งระบุว่า “ขณะนี้ในทำเนียบฯอยู่ในภาวะไร้การควบคุม นักข่าวจะทำข่าวก็โดนกดดัน” โดยมีการเอ่ยชื่อนายภูวดล ว่าแสดงกริยาก้าวร้าวต่อสื่อมวลชน




อีกรายการ์ดเฟอะฟะ หวิดทำร้ายนักข่าว พอได้สติ-อ้างเฉยหวาดระแวง

เวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วงที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัย นายชัยรัตน์ พัชรไตรรัตน์     ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์แนวหน้า ได้ทำหน้าที่สื่อมวลชน โดยเดินดูบรรยากาศ เพื่อรายงานสถานการณ์โดยรอบทำเนียบรัฐบาล ขณะเดินผ่านบริเวณแยกสวนมิกสกวัน ได้มีชายรูปร่างสูงใหญ่ ผิวดำแดง มีผ้าพันคอสีเหลือง เขียนว่า “กู้ชาติ” และแขนเสื้อติดคำว่า “สรส.” หรือ “สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์” ได้เดินเข้ามาต่อว่าด้วยคำหยาบคาย แต่นายชัยรัตน์ไม่สนใจ และพยายามเดินหนี เข้าหาตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณดังกล่าว แต่กลับชายดังกล่าวไม่ยอมเลิกรา ยังเดินตามหลังมาตลอด และด่าว่าด้วยคำหยาบคายอย่างรุนแรง นายชัยรัตน์ จึงได้หยุดเดิน เพื่อพยามยามสอบถามถึงสาเหตุ และแสดงตัว พร้อมทั้งยื่นบัตรประจำตัวสื่อมวลชนให้ชายดังกล่าวดู แต่ยิ่งทำให้ชายดังกล่าวเกิดความฉุนเฉียวรุนแรงมากขึ้น และทำท่าจะเข้ามาทำร้ายร่างกาย 

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า บริเวณใกล้กันนั้น ได้มีหน่วยรักษาความปลอดภัยอีกคนที่เห็นเหตุการณ์ ได้เข้ามาห้ามปราม และพยามยามไกล่เกลี่ย ประมาณ 15 นาที จนชายดังกล่าวจึงยอมขอโทษ พร้อมแจ้งว่า กลุ่มผู้ชุมนุมเกิดความเหนื่อยล้า เนื่องจากไม่ได้นอนมาหลายวัน และอยู่ในสภาวะกดดัน คิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่แฝงตัวเข้ามา เพื่อหาข่าว ประกอบกับขณะนี้มีกระแสข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องว่าจะมีบุคคลที่ 3 แฝงตัวเข้ามาก่อความวุ่นวาย และเจ้าหน้าที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อสลายการชุมชน จึงทำให้แกนนำ แจ้งให้ทุกคนระวังกับบุคคลแปลกหน้า

ด้านนายชัยรัตน์ กล่าวว่า แม้ว่ากลุ่มพันธมิตรฯจะถูกกดดันจากรัฐบาล ตำรวจก็ควรจะควบคุมอารมณ์ด้วย ทุกคนมีหน้าที่ต้องปฏิบัติ เราเข้ามาทำหน้าที่รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เสนอความเป็นจริงให้กับประชาชนได้รับทราบ ไม่คิดที่จะก่อความวุ่นวาย

"ผมทำงานสื่อมวลชนมาประมาณ 1 ปี ไม่เคยพบกับเหตุการณ์คุกคามสื่อมวลชนมาก่อน แต่ครั้งนี้เป็นการคุกคามสื่ออย่างรุนแรง จึงอยากจะเตือนเพื่อนสื่อมวลชนที่กำลังปฏิหน้าที่รายงานข่าวในการชุมชุม พันธมิตรฯให้ระวังตัว เพราะกลุ่มพันธมิตรฯอยู่ในสภาวะที่กดดัน และมีความระแวง คิดว่าคนแปลกหน้าจะแฝงตัวเข้ามาเป็นมือที่ 3 สร้างวุ่นวาย อาจจะถูกคุกคาม หรือถูกทำร้ายร่างกายได้"นายชัยรัตน์กล่าว   

หลังจากรู้ตัวว่าพลาด เวลาประมาณ 20.20 น. โฆษกบนเวที ได้ขอร้องให้ผู้ชุมนุมอย่าทำร้ายสื่อมวลชน และให้ความร่วมมือกับสื่อมวลชนภาคสนามที่เข้ามาทำงานในพื้นที่ชุมนุม ทั้งนี้เพื่อไม่ต้องการให้เปิดแนวรบหลายด้าน 



----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

นักข่าวโดนเล่นซะทุกฉบับ
เครียดกำลังได้ที่   เดี่ยวมี จี้ตัวประกัน จะฮาไม่ออก ใบกระท่อมตรูอยู่ไหน  :slime_smile:

 

ก็เหตุการณ์มันน่าตึงเตรียดจริงๆ จะถูกสลายการชุมนุมเมื่อไหร่ก็ได้ในตอนนี้

การ์ดพันธมิตรก็บอกดีๆแล้วตอนแรกไม่เชื่อ คนเขาเครียดก็ต้องมีหยาบคายกันบ้าง

อย่างน้อยก็ไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายก็นับว่าดีถมไปแล้ว

ถ้าพูดแล้วเชื่อตั้งแต่แรกก็ไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้ครับ

ลองมองตรงข้าม ถ้าเป็นพวกนปก.นักข่าวของเมเนเจอร์หรือASTVคงจะตายไปแล้ว

 :slime_shy:

รายการทีนี่ ทีวีไทย
เมื่อสักครู่กำลังดูช่องไทยทีวีตอนสัมภาษณ์พันธมิตร  ก็ดูกลางๆ ดี  มีภาพตอนที่พันธมิตรส่งข้าวกับน้ำให้พี่น้องตำรวจด้วย  
มีการเสนอข่าวที่ตำรวจทำร้ายผู้ชุมนุมด้วย

การกระทบกระทั่งมีโอกาสเสมอแหละคับ

แต่ในที่นี้ เรากำลังว่ากันถึงนโยบายการนำเสนอข่าวของสื่อทีวีที่เกรงอำนาจรัฐ กลัวไม่ได้ต่ออายุสัมปทาน  สำคัญคือบิดเบือนข่าว

โปรดแยกแยะด้วยคับ

ว่ากันด้วยเหตุและผล...มิใช่การเอาสีข้างเข้าเเถ... เพื่อเอาชนะกัน...


ถ้าถามว่ากริยา ที่ไปกระทำต่อนักข่าวสมควรไหม    ไม่ครับ..

แต่ถามต่อไปว่าในสภาวะเเบบนี้ ต้องมีการระวังตัวรึไม่   ต้องมีใช่รึไม่..


แต่ผลสุดท้ายสุดฝ่ายก็เข้าใจกันรึไม่..


และในกรณีที่ อ.แกออกมาว่า เพราะสื่อไม่ยอมทำใช่รึไม่ ซึ่งไม่ยอมทำก่อนเกิดกรณีนี้...
   

เหมือนกรณีมีคนบอก ผู้สื่อข่าวว่า  อย่าทิ้งขยะนอกถัง.. ในวันที่ 1
 
แต่วันที่ 2 นักข่าว ก็โดนห้ามไปเข้าใกล้บริเวณถังขยะ..
 
แล้วนักข่าวก็บอกว่า เพราะโดนห้ามเข้าไปใกล้ถังขยะในวันที่2 มาอ้างผมว่ามันฟังไม่ขึ้น..
 

เพราะกรณีข่มขู่นักข่าวมันเกิดที่หลัง อ.ที่ออกมาเตือนนักข่าว..

และหลังจากกรณีนี้ ก็มีการปรับทำความเข้าใจกันเเล้ว  ซึ่งถ้านักข่าวก็ยังไม่ทำอะไรอีก แล้วจะอาอะไรมาเเถอีก... ผมก็ขอทราบด้วยเเละจะรอดู..การเเถของคุณว่าจะไปท่าไหน... :slime_smile:

ตำรวจใช้สายปลอมตัวเป็นนักข่าว ก็ลำบากที่จะแยกแยะ

ส่วนการรายงานข่าวของสื่อทีวี ต้องหันไปสำรวจตัวเอง

ถ้าไม่ระวังอาจเกิดการยั่วยุให้เกิดความบาดหมาง

ประสบการณ์ในอดีต สอนเรามาแล้ว เผากรมประชาสัมพันธ์มาแล้วเพราะอะไร

ทำไมต้องมี สถานีโทรทัศน์ไอทีวี นั้น ไทยพีบีเอส ต้องสำรวจตัวเอง

ยังคงอุดมการณ์ของทีวีเสรีหรือไม่

ต้องถามกลับว่า ที่ผ่านมา พันทะมิดถูกกทำร้ายหนักๆ สื่อเคยลงอย่างชัดเจนละเอียดรอบด้าน เหมือนที่ภาพพันทะมิดบุกยานเกราะทีวีมั้ย ที่เค้าเป็นแบบนี้ เพราะสื่อไม่ได้เป็นที่พึ่งที่แท้จริง แม้แต่ tpbs ต้องมีการกระทุ้งจากหลายองค์กร ถึงได้ออกมาเป็นสกู๊ปวันนี้ ถามว่า ชุมนุมมา 90 กว่าวัน โดนอะไรมาบ้าง ชี้แจงอะไรไปบ้าง เคยมีข่าวหรือเปล่า

ถ้า น้ำหนักข่าวของสื่อกระแสหลักยังเอียงกระเท่เร่แบบนี้ ทีวีฉายภาพผ่านๆ ได้ยินแต่เสียงอ่านข่าว แล้วก็เห็นภาพ บางทีสัมภาษณ์ก็ปากพะงาบๆ ขณะที่ฝ่ายรัฐได้ออกยาวๆ เต็มๆ ถามว่า เมื่อสมัยพฤษภา ก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ ทำไมสื่อไม่เคยมีบทเรียนเลย สังคมโดยรวมจึงมองภาพผู้ชุมนุมในแง่ลบ ยิ่งฝ่ายเชียร์รัฐบาล ถึงกับบอกให้เอาระเบิดไปปามันก็มี ไม่ทราบว่า พวกคุณ มีความเห็นยังไง ทำไมไม่เห็นมีสมาคมสื่อคนไหน แถลงการณ์ด่านังตวงบ้าง แล้วที่นายกฯ บอกให้เลือกข้าง ถามว่า นี่หรือ คือ นโยบายสมานฉันท์ที่เคยแถลงไว้ ตอนนี้ที่ไม่สลายม๊อบ เพราะว่ามีใครบีบคอ ดึงหางไว้หรือไง ถึงได้หยุด ทั้งๆ ที่วันแรกออกจะกระ***นกระหือรือ อยากจะสลายกันหมด ทั้ง โค และรอโค ก็ออกมาย้ำว่าจะกวาดออกให้หมดทำเนียบ ไม่เหลือแม้แต่คนเดียว

ไทยพีบีเอส เทพชัย หย่อง คิดว่าคงไม่ได้มีอำนาจในที่นี้แล้ว
คิดว่าน้ำหน้ก น่าจะไปอยู่ที่ อ.จอน อึ้งภากรณ์ มากกว่า

ส่วนเรื่องการกระทบกระทั่ง อย่างเรื่องล่าสุดที่นักข่าวไทยรัฐ
กับเครือมติชนเดินบนทางเชื่อมตึกบัญชาการ ซึ่งมันเป็นจุดสุ่มเสี่ยง
แม้ว่านักข่าวจะบอกว่าดูแลตัวเองได้ แต่กลัวว่าถ้าคนที่ไม่ใช่
นักข่าวขึ้นไปสมทบ แล้วถ้าเป็นตำรวจ มันจะยิ่งอันตราย
การ์ดก็เลยต้องขึงขัง แม้จะเป็นผู้สื่อข่าวก็ตาม

น่าเห็นใจครับ ทุกคนก็เครียด

ตอนนี้บนเวทีประกาศแล้วว่า ให้เกียรตินักข่าวหน่อย
แต่นักข่าวต้องติดบัตรให้ช้ดๆ ว่ามาจากสำนักไหน
ไม่งั้นมีแต่กล้องอย่างเดียว ใครๆ ก็ปลอมตัวได้
ตายกันพอดี

สื่อพวกนี้เพลย์เซฟไว้ตลอด อิงกระแส เอียงอำนาจรัฐ มันสบายตัวกว่าครับ

แต่ความไม่ตรงไปตรงมาของสื่อสาธารณะมันก็มีประโยชน์เกิดขึ้นเหมือนกัน

ป้าๆ น้าๆ หลายคน แม้แต่แม่ผม บอกว่าติดตาม ASTV เพราะสื่อทั่วไปไม่กล้าที่จะนำเสนอข้อมูลหลายๆ ส่วน

เลยต้องขวนขวายหาฟัง จนถึงกับตัดสินใจเข้าร่วมชุมนุมเพื่อมาดูให้เห็นกับตา

กลายเป็นหาแฟนให้ ASTV และพันธมิตรฯ ไปโดยปริยาย

เมื่อคืนช่วงเวบเราจอดำไปช่วงหนึ่ง
ได้มีโอกาสดู TPBS เอาภาพและรายงานข่าวจาก ทำเนียบเลย
และเอาภาพที่ประชาชนถูกตีเมื่อคืนก่อน (ที่ำตำรวจอ้างว่าเปลี่ยนกะ)
มาออก นานพอสมควร
(ภาพพวกนี้ NBT และฟรีทีวีช่องอื่นไม่เอามาออกเลย)
เมื่อคืนนี้ TPBS เอามาออกแบบเต็ม ๆ สะใจดีค่ะ
 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

ไอ้หมัก ออกสปอตงานมหามงคล แต่มันดันใช้เพลง "ไทยรวมกำลัง"

ซึ่งเพลงประเภทนี้ มันเป็นเพลงปฏิวัติ ของพวกทหารเค้า

มันบ้าไปแล้ว NBT  ก็ช่างเลียเหลือเกิน