ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ผมยังมองไม่เห็นหนทางที่พันธมิตรจะชนะในสงครามประชาชนกับระบอบนอมินีทักษิณ ณ วินาทีนี้ได้เลยครับ
คิดไปแต่ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาล(ทีมบัญชาการ)กำลังนั่งยิ้มเพราะพันธมิตรเดินลอดเข้ากับดักที่ฝ่ายตรงข้ามทำ
เพราะดันไปสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายอาญาแผ่นดินกรณีบุกทำลายเข้าของที่ NBT
เอาหละเมื่อมีความผิด(แม้เพียงน้อยนิดแต่มันกำลังเกิดขึ้นหากเปรียบกับฐานความผิดที่รัฐบาลและทักษิณทำไว้จนต้องหนีจากแผ่นดินเกิด)
ก็ว่ากันไปแต่ช่วยกันหาทางเลือกอื่นๆให้แกนนำพันธมิตรและพี่น้องประชาชนในทำเนียบลองดูครับว่าเราในฐานะที่ไม่ได้ร่วมพันธมิตรวันนี้หรือ
ผู้ที่เคยไปแต่ด้วยภาระกิจใดๆที่ไม่ได้อยู่ ณ ทำเนียบปัจจุบัน...น่าจะมีทางออกหรือยุทธวิธีอื่นใดให้พันธมิตรชนะใจประชาชนและ
ชนะสงครามในเร็ววันได้..
ความเชื่อและความเห็นของผม
1.ผมเชื่อว่าหากแกนนำถูกจับจะไม่เป็นผลดีเลยต่อขวัญและกำลังใจพันธมิตรฯ(แม้จะมีแกนนำหลายคนก็ตาม อย่าลืมว่านักรบศรีวิชัยโดนจับไปแล้ว)
2.ผมยังให้กำลังใจพันธมิตรแต่ขณะเดียวกันจะออกความเห็นว่าควรดำเนินการอย่างไรไปด้วย(ไม่ใช่ส่งเสริมให้ไปทำลายข้าวของแต่หาจุดคานงัด)
3.พันธมิตรน่าจะรู้นิสัยคุณสมัครนั้นดื้อด้านสุดๆกว่าคนอื่นๆยากมากที่จะเอ่ยคำว่าลาออกหรือยุบสภา
4.พันธมิตรยึดทำเนียบได้แล้วไง ทำไมไม่กดดันจุดอ่อนของคุณสมัครแล้วเน้นๆไม่ปล่อย(อันนี้ต้องค้นหา)
5.เสรีไทยเราน่าจะมีส่วนร่วมในการวางยุทธศาสตร์ทำสงครามประชาชนครั้งนี้แต่ต้องไม่ให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย
6.เสรีไทยมีทั้งนักรบที่ไปร่วมรบในสนามจริงและนักรบออนไลน์
น่าจะมีทางช่วยชาติได้ในกรณีสงครามพันธมิตรกับรัฐบาลหอกหักอย่างไรบ้าง?
คิดเห็นกันอย่างไรกันบ้างครับ.......

ผมว่าที่น่าสนใจที่สุด น่าจะเป็นจุดอ่อนของสมัครนะ
เขามีจุดอ่อนอะไร ถ้าตัดเรื่องภรรยาที่บ้านแล้ว

ที่เห็นๆ จุดอ่อนของสมัคร ก็น่าจะเป็นปากของตัวเองครับ
แต่จุดอ่อนแค่นี้ สำหรับสมัคร ปลาหมอตายเพราะปากคงจะเกิดได้ยากมาก

จุดตายของสมัครอยู่ที่ไหนกัน ถ้าไม่ใช่เรื่องปาก ใครรู้บ้าง
หรือว่าจะมีแต่เรื่องคดีความในศาลเท่านั้น ที่ยังไม่ถึงงวดเวลา ต้องรอไปก่อน
 :slime_whistle:

อย่าน้อยเราก็พอคลำเห็นประเด็น..จุดอ่อนของคุณสมัคร

1.เรื่องส่วนตัว  ในครอบครัว เช่นภรรยา และแมว(ผมเพิ่มเองเรื่องแมว) จะเล่นกันหรือเปล่าครับ :slime_hmm:
2.เรื่องคำพูดจา  พฤติกรรมส่วนตัว โดยเฉพาะปาก
3.คดีความในชั้นศาล

แล้วต้องวิเคราะห์ต่อไปอีกว่า ปัจจัยอะไรที่จะทำให้คุณสมัครยุบสภาหรือลาออกได้!!

ก่อนอื่นต้องเราต้องมีข้อมูลคุณสมัคร นะครับ....

หัวหน้าพรรคพลังประชาชน

นายสมัคร สุนทรเวช

วุฒิการศึกษาและเกียรติประวัติ

สถานที่เกิด - กรุงเทพมหานคร – บ้านหน้าวังบางขุนพรหม - ถนนสามเสน
อายุ - 72 ปี (พ.ศ. 2550)
บิดา-มารดา - เสวกเอกพระยาบำรุงราชบริพาร (เสมียน สุนทรเวช)
คุณหญิงบำรุงราชบริพาร (อำพัน – สกุลเดิม จิตรกร)
ฝ่ายบิดา - เป็นหลานลุง มหาเสวกตรี พระยาแพทย์พงศาวิสุทธาธิบดี(สุ่น สุนทรเวช)
ฝ่ายมารดา - เป็นหลานตา - มหาเสวกตรีพระยาอนุศาสน์จิตรกร (จันทร จิตรกร)

พี่น้องร่วมบิดา – มารดา

- พ.อ.แพทย์หญิงมยุรี (สุนทรเวช) พลางกูร อดีตรองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ
- นางเยาวมาลย์ (สุนทรเวช) - ราชวังเมือง ประกอบธุรกิจส่วนตัว - พล.อ.อ.สมมต สุนทรเวช - รองเจ้ากรมช่างอากาศ
ที่ปรึกษากองทัพอากาศ(ถึงแก่กรรม)
- นายสมัคร สุนทรเวช
- นายมโนมัย สุนทรเวช - อดีตพนักงานรัฐวิสาหกิจ
- นายสุมิตร สุนทรเวช - สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร

ประวัติการศึกษา

ก่อนประถม - โรงเรียนสตรีบางขุนพรหม
ประถม - โรงเรียนเทเวศร์ศึกษา
มัธยม - โรงเรียนเซ็นต์คาเบรียล
อาชีวะ - โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชย์
อุดมศึกษา - มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ศึกษาเพิ่มเติม

- คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- BRYANT &STRATTON INSTITUTE, CHICAGO, U.S.A.

ประกาศนียบัตร

- ประกาศนียบัตร A.C.C. (โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชย์)

ปริญญา

- นิติศาสตร์บัณฑิต
- ประกาศนียบัตรวิชาชีพมัคคุเทศก์ (คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
- DIP. IN ACCOUNTING AND BUSINESS ADMINISTRATION.

อาชีพในอดีต-เคยเป็น

- เจ้าหน้าที่สอนเครื่องลงบัญชีไฟฟ้า NATIONAL CASH REGISTERED CO.,LTD
- เสมียนแผนกรถยนต์และภายหลังดำรงตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าแผนกเครื่องอะไหล่ BARROW BROWN (1948) CO. , LTD. (พ.ศ.2497-2502)
- ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกเครื่องอะไหล่ LOXLEY BANGKOK CO. ,LTD. (พ.ศ.2502-2505)
- FREE LANCE GUIDE, WORLD TRAVEL SERVICE CO. , LTD.(พ.ศ.2504-2506)
- ผู้จัดการแผนกเครื่องอะไหล่ บริษัท เอื้อวิทยาพาณิชย์ จำกัด (พ.ศ.2507-2509)
- DIETARY AID-FOX REVER REHABLLITION HOSPITAL, CHICAGO, U.S.A. (พ.ศ. 2510-2511)
- ผู้จัดการแผนกเครื่องอะไหล่ บริษัท เอื้อวิทยาพาณิชย์ จำกัด ( พ.ศ. 2512-2513)
- ผู้บริหารฝ่ายขาย JOHN DEERE THAILAND CO.,LTD. (พ.ศ. 2513-2514)
- เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทย (พ.ศ. 2514-2516)

งานด้านการเมือง

- สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ (พ.ศ. 2511-2519)
- กรรมการผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มหนุ่มพรรคประชาธิปัตย์
- สมาชิกสภาเทศบาลนครกรุงเทพ (ได้รับเลือกตั้งเมื่อ 15 ส.ค. 2519)
- สมาชิกสมัชชาแห่งชาติ (ได้รับแต่งตั้งเมื่อ 10 ธ.ค. 2516)
- สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ได้รับแต่งตั้งเมื่อ 23 ธ.ค. 2516)
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร (ได้รับเลือกตั้งเมื่อ 25 ม.ค. 2518, 4 เม.ย. 2519 , 22 เม.ย.2522 , 18 เม.ย. 2526 , 27 ก.ค. 2529 , 24 ก.ค. 2531 , 22 มี.ค. 2535 , 13 ก.ย. 2535 , 2 ก.ค. 2538 และ 17 พ.ย. 2539)
- รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (พ.ศ. 2518)
- รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (พ.ศ. 2519)
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (พ.ศ. 2519-2520)
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (พ.ศ. 2526-2529)
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (พ.ศ. 2533-2534)
- รองนายกรัฐมนตรี (พ.ศ. 2535)
- รองนายกรัฐมนตรี (พ.ศ. 2538-2539)
- รองนายกรัฐมนตรี (พ.ศ. 2539-2540)
- ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (พ.ศ. 2543-2547)
- สมาชิกวุฒิสภา กทม. (พ.ศ. 2549)

เคยเป็น

- กรรมาธิการตรวจรายงานการประชุม (พ.ศ. 2516-2518)
- ประธานคณะกรรมาธิการการคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน (พ.ศ. 2523-2526)
- ประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง (พ.ศ. 2529-2531)
- ประธานคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ (พ.ศ. 2531-2533)
- ประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม (พ.ศ. 2535-2538)
- กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2518, 2519, 2520, 2521, 2523, 2524, 2526, 2527 และ 2528

การปฏิบัติหน้าที่

- เป็นรัฐมนตรีขึ้นกล่าวปราศรัยในที่ประชุม I.L.O. ณ ที่ประชุมดูงานต่างประเทศ องค์การสหประชาชาติ กรุงเจนีวา ในการประชุมเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2519 และ พ.ศ. 2520
- ดูงานทั่วไปในอิสลาเอล พ.ศ. 2517
- ดูงานด้านการเกษตรและอาวุธในอิสลาเอล พ.ศ. 2520
- ดูงานด้านการตำรวจและโครงการผันน้ำ SNOWY MOUNTAIN ในประเทศออสเตรเลีย
- ผู้แทนประทศไทยร่วมประชุม รมต.แรงงานอาเซี่ยนที่ นครมนิลา-ฟิลิปปินส์
- ดูงานบริษัท การบินของประเทศญี่ปุ่น
- ผู้แทนรัฐบาลไทยร่วมประชุม รมต.สังคม ณ กรุงจาการ์ต้า อินโดนีเซีย
- ดูงานการเคหะแห่งชาติ-สิงค์โปร์ยซางคัฐบาลไทยิสลาแสลาแย. 2516
- ผู้แทนรัฐบาลไทยร่วมประชุม และดูงานประเทศแคนาดา
- ผู้แทนรัฐบาลไทยร่วมประชุมสหภาพไปรษณีย์สากล ณ นครฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมันนี
- ร่วมประชุมกับ รมต.พาณิชย์ฝรั่งเศส และดูงานบริษัท แอร์บัสอินดัสตรี้ ประเทศฝรั่งเศส
- ร่วมประชุมกับ รมต.คมนาคมที่กรุงสอนดอน ประเทศอังกฤษ
- ร่วมประชุม และดูงานด้านโทรคมนาคม กับหลายหน่วยงานในสหรัฐอเมริกา และทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุมในการประชุมด้านการคมนาคม และขนส่ง ของแอสแคปในประเทศไทย
- ดูงานด้านการเศรษฐกิจใน 5 รัฐ ประเทศสหรัฐอเมริกา
- ดูงานด้านการคมนาคม และโทรคมนาคมในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เยอรมันนี ฝรั่งเศส และอังกฤษ
- เป็นผู้แทนประเทศไทย (แทนนายกรัฐมนตรี) ปราศรัย ณ ที่ ประชุมใหญ่องค์การสหประชาชาติ (ในการประชุม EARTH SUMMIT เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2540)
- ประชุมและดูงานในประเทศเมื่อเป็นผู้ว่าฯ กทม. 4 ปี

งานเขียนหนังสือ

- เขียนบทความและความคิดเห็นทางการบ้านการเมืองแบบไม่ประจำ ในหนังสือพิมพ์สยามรัฐ, สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ และชาวกรุง ตั้งแต่ พ.ศ. 2500 ถึง พ.ศ. 2516
- เขียนบทความการเมืองในหนังสือพิมพ์ประชาไทย (พ.ศ. 2517-2520)
- เขียนบทความในคอลัมน์ประจำ (มุมน้ำเงิน) หนังสือพิมพ์เดลิมิเล่อร์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2521 จนถึง พ.ศ. 2537
- หนังสือเล่มชื่อ “สันดานหนังสือพิมพ์” พ.ศ.2521 (จำหน่าย 120,000 เล่ม ในเวลา 45วัน)
- หนังสือเล่มชื่อ “การเมืองเรื่องตัณหา” พ.ศ. 2521 (จำหน่าย 85,000 เล่ม)
- หนังสือเล่มชื่อ “จากสนามไชยถึงสนามหลวง” (จำหน่าย 50,000 เล่ม)
- หนังสือเล่มชื่อ “เรื่องไม่อยากเล่า” (จำหน่าย 45,000 เล่ม)
- หนังสือเล่มชื่อ “การเมืองเรื่องตัณหา เล่มที่ 2” (จำหน่าย 45,000 เล่ม)
- สารคดีท่องเที่ยวประเทศในยุโรป “ซำเหมาทัวร์”
- สารคดีเดินทางในประเทศจีน “เมืองจีนที่เพิ่งได้เห็น”
- สารคดีเดินทางปาฐกถาในสหรัฐ “12 วัน 15 เมือง”
- สารคดีเล่าเรื่องการเดินทางในยุโรปตะวันออก 15 วัน “วนขวาเยือนอดีตสหาย ตอนใบไม้กำลังจะร่วง” (ทั้ง 4 เรื่องลงติดต่อใน น.ส.พ.รายสัปดาห์)
- ชิมไปบ่นไป (พิมพ์ 9 ครั้ง) , ใครๆ ก็ชอบไทยฟู้ด (พิมพ์ 3 ครั้ง)
- เรื่องของคนรักแมว, จดหมายเหตุกรุงเทพฯ

งานวิทยุ

- สถานีรัฐสภา FM.87.5 ทุกวันศุกร์ เวลา 18.30 น. - 19.00 น.
- สถานี ทอ.01.AM.945 เวลา 23.00-24.00 น. ทุกวันพุธ
- สถานี 94 FM., 105.FM.
- TV 5 เช้านี้ที่เมืองไทย
- TV 9 คิดตามวัน

งานอดิเรก

- ถ่ายรูป, เดินทางต่างจังหวัดและต่างประเทศ, ปาฐกถา
-แสดงความคิดเห็นทางการบ้านและการเมืองตามคำเชิญ

ครอบครัว

- สมรสกับคุณหญิงสุรัตน์ (นาคน้อย)เมื่อพ.ศ. 2511มีบุตรีฝาแฝด 2 คน นางกาญจนากร (สุนทรเวช)ไชยสาส์น จบมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ABAC / MBA. มหาวิทยาลัยฮาร์ทฟอร์ด USA. CONN.
-ปัจจุบันทำงานอยู่ฝ่ายการเงินของ ป.ต.ท. (สผ.)
-กานดาภา สุนทรเวช จบคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย / MBA.มหาวิทยาลัยฮาร์ทฟอร์ด USA. CONN. ปัจจุบันทำงานกระทรวงการต่างประเทศ

ปัจจุบัน

- เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร (เขต1) ดุสิต
- เป็นหัวหน้าพรรคประชากรไทย (2522-2543)
- เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน (2550)

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

- ตริตาภรณ์มงกุฎไทย พ.ศ.2517
- ตริตาภรณ์ช้างเผือก พ.ศ.2519
- ทวิติยาภรณ์มงกุฎไทย พ.ศ.2519
- รัตนาภรณ์ (ขั้นที่2) พ.ศ.2520
- ประถมาภรณ์มงกุฎไทย พ.ศ.2522
- ประถมภรณ์ช้างเผือก (พ.ศ. 2524)
- มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (พ.ศ. 2526)
- ทุติยจุลจอมเกล้า (พ.ศ. 2527)
- มหาวชิรมงกุฎ (พ.ศ. 2527)
- ประถมดิเรกคุณาภรณ์ (พ.ศ. 2540)
- ทุติยจุลจอมเกล้าฯวิเศษ (พ.ศ. 2545) 

http://news.sanook.com/election50/election_217382.php

ผมยังมองปัจจัยอื่นๆที่ไม่ใช่เรื่องของพฤติกรรมส่วนตัว
เช่น ญาติพี่น้องของคุณสมัคร ผู้อยู่เบื้องหลังพรรคและปัจจัยอื่นๆอีกครับ
ไว้ค่อยๆหาข้อมูลเพื่อหาปัจจัยที่ทำให้คุณสมัคร..ลาออกโดยเร็ว

ไม่มีวิธีอื่นใดแล้ว หากทหารไม่ปฏิวัติ

การปฏิวัติโดยประชาชนจะไม่มีทางสำเร็จ หากไม่ใช่กำลังเข้าต่อสู้

ที่พันธมิตรคิดตอนนี้คือใช้การต่อสู้แบบอหิงสาแล้วให้รัฐบาลเพี่ยงพล้ำออกมาสลายการชุมนุม

และให้ทหารเข้ามาทำการรัฐประหาร

แต่รัฐบาลรู้เกมทัน ไม่ออกมาสลายการชุมนุม

เหลือวิธีเดียวเท่านั้นที่จะทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้คือการใช้กำลังและสร้างความวุ่นวาย

ซึ่งเป็นไพ่ใบสุดท้ายของประชาชน คือสร้างเงื่อนไขให้มีการจับกุมแกนนำ ทำให้ไม่มีผู้สั่งการมวลชนแล้วเกิดการจลาจลจนรัฐบาลควบคุมไม่อยู่

ทหารออกมาปฏิวัติ จึงจะล้มรัฐบาลได้ ตอนนี้อยู่ที่ใครเดินหมากเพลี่ยงพล้ำก่อนกัน

ถึงตอนนี้ไม่รู้แล้ว ถ้าหากทำตอนที่ พปช ยื่นแก้ไข รธน
ก็ยังมีทางออก ระดมพลได้ แต่ตอนนี้ ต้องบอกว่า ไม่มี
อะไรเอามาอ้างที่ทำให้คนกรุงเทพรู้สึกว่าสมควรออกไป
สมทบ ถ้าไม่มีคนกรุงเทพ แววชนะยังเลือนลาง

การกดดันของประชาชนโดยไม่ต้องมีทหารออกมาทำปฏิวัติ มีความเป็นไปได้ครับ

ให้สมัครด้านขนาดไหน แต่ถึงจุดหนึ่งแล้ว..

ให้กี่สมัครก็ไม่รอดครับ

ทหารยังไม่เคลื่อนพลออกมา
เพราะยังไม่มีเหตรุนแรงถึงขั้นจะต้องปฏิวัติหน่ะสิครับคุณริวเซย์..
คงนั่งรอคำสั่ง....และตบยุงกันอยู่

ทีมพันธมิตรที่พอจะก่อให้เกิดการทำให้คุณสมัครเดือดได้คือกลุ่มสหภาพแรงงานสมาพันธ์รัฐวิสาหกิจ :slime_v:

หลังพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.นำทหารยึดอำนาจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 กันยายน 49 คุณหญิงสุรัตน์ ได้ขอให้นายสมัครหยุดเล่นการเมืองอย่างเด็ดขาด เพื่อใช้เวลาในบั้นปลายของชีวิตไปพักพ่อนเลี้ยงหลาน  โดยนายสมัครได้ตกลงตามคำของคุณหญิงสุรัตน์ไปแล้ว

เมื่อโทรศัพน์จากลอนดอนขอร้องให้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ช่วงแรกนายสมัครให้การปฏิเสธ โดยอ้างคุณหญิงสุรัตน์ภรรยาให้เลิกเล่นการเมือง  แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ส่งนายดุสิต ศิริวรรณคู่หูของนายสมัครเข้าไปเกลี่ยกล่อมคุณหญิงสุรัตน์กระทั้งยอมให้นายสมัครกลับมาเล่นการเมืองอีกครั้งหนึ่ง  

หลังจากพรรคพลังประชาชนได้สส.เข้าสภามากเป็นอันดับหนึ่ง พร้อมเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 25 ของไทย คุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช ภรรยา ก็กลายเป็นสตรีหมายเลข 1 ของทำเนียบไปโดยปริยาย

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=207544

ผมนำเหตุปัจจัยเรื่องตัวบุคคลที่มีอิทธิพลต่อคุณสมัครมาเรียบเรียงได้ดังนี้

1.ทักษิณโทรหาสมัครให้เป็นนายก
2.คณหญิงสุรัตน์ห้ามคุณสมัครไว้ในตอนแรก
3.คุณดุสิต เพื่อนคุณสมัครมากล่อมคุณหญิงให้รับตำแหน่ง

กลุ่มบุคคลเหล่านี้มีอิทธิพลต่อการรับตำแหน่งนายกของคุณสมัคร
ก็น่าจะมีผลต่อการลาออกจากตำแหน่งได้เหมี๋ยนกัน....ใช่ไม่ใช่ :slime_v:

ข้าพเจ้ามองที่จุด ประชาชนมีความรู้สึก "ไม่อยากอยู่ภายใต้การบริหารและสภานิติบัญญัติของรัฐบาลนี้ ที่โกงกิน หน้าด้าน ทำผิดกฏหมาย ไม่มองประเทศและส่วนรวมเป็นหลัก ไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้"

อยากเสนอให้

มีการเดินออกมาเรียกร้อง ประชาชนให้ออกมาสู้ร่วมกัน มาเดินร่วมกันตามถนนสายต่างๆ...................ช่วยกันตะโกน .... ใส่เสื้อเหลือง ออกมาๆ ออกมาช่วยกัน ออกมาไล่มัน (ร้องเพลงปลุกใจเป็นระยะ)

จัดทีมเป็นชุดๆเหมือนเมื่อวานที่ไปสถานที่ต่างๆ ขออาสาให้เดินไปเดินกลับมาพัก เป็นชุดๆสลับไปตามถนนต่างๆ

อย่าหยุด นี่คือ ไม่ยอมรับต่อการบริหารประเทศของรัฐบาลนี้แล้ว

ส่วนคนที่พร้อมน้อยกว่าเดินได้บางช่วงตามบ้านที่ผ่านไปก็ออกมาเท่าที่ทำได้แล้วกลับบ้าน

ส่วนคนที่พร้อมมากกว่าก็ช่วยกันออกมาเดินเป็นหลักเหมือนเมื่อวาน


วันนี้ถ้าเราไม่ช่วยกัน แล้วใครจะช่วยเราจากการช่อฉลของรัฐบาลที่หน้าด้านนี้

จขกท. ลืมไปหรือเปล่า ว่าตอนนี้พันธมิตรฯ ยึดทำเนียบรัฐบาลอยู่
สมัคร สุนทรราชย์ จะปล่อยให้ชุมนุมกันยืดเยื้อ "ภายใน" ทำเนียบรัฐบาล ได้หรือ

ผมว่าให้ด้านแค่ไหนก็ปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ได้ เปรียบได้กับ พันธมิตรนั่งห้อยเท้าอยู่
เหนือเก้าอี้นายกของสมัคร มันทนไม่ได้หรอก ต้องทำอะไรสักอย่าง

ที่บางคนบอกว่าทหารต้องเข้ามาปฏิวัติเพื่อปิดเกมส์ อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ
เพราะถ้าทหารเข้ามาปิดเกมส์ สิ่งที่พวกเราชุมนุมกันมา 90 กว่าวัน จะสูญเปล่า

บ้านเมืองก็จะกลับสู่วังวนเดิม ๆ เหมือนตอน 19 กันยา

ดังนั้นพันธมิตรฯ คงไม่ต้องหาทางเลือกอื่น แค่ยึดที่มั่นตรงนี้ไว้ก็พอแล้วครับ
ที่น่ากังวลมากกว่าคือ ถ้าโดนศาลสั่งให้ย้าย ถึงตอนนั้นจะทำอย่างไร

ขอร่วมรับฟังความคิดเห็นทุกท่านครับ :slime_doubt:

มีหลายวิธีครับ วิธีการที่ไม่ยอมรับต่อการบริหารของรัฐบาล ใช้ได้ทั้งนั้น

นั่นสิครับคุณnopponมื่อยึดทำเนียบได้แต่แกนนำอาจโดนสอยทีละรุ่น
แล้วทำเนียบก็ของราชการไม่ใช่กลุ่มพันธมิตร.. :slime_whistle:

มาดูข่าวที่ค้นมาที่มีคนที่เป็นปัจจัยให้คุณสมัครได้เป็นนายกคือคุณดุสิต ศิริวรรณ
คำพิพากษา สมัคร สุนทรเวช /ดุสิต ศิริวรรณ
“สมัคร-ดุสิต” ติดคุก 24 เดือน! ไม่รอลงอาญา
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 12 เมษายน 2550 10:37 น.

“สมัคร-ดุสิต” อดีตคู่หูพิธีกร “เช้าวันนี้...ที่เมืองไทย” ถึงครารับผลกรรม ศาลพิพากษาจำคุก 24 เดือน โดยไม่รอลงอาญา  กรณีกล่าวหาอดีตรองผู้ว่าฯ กทม. “สามารถ ราชพลสิทธิ์” รับสินบน “บีเอ็ม ซีรีส์ 7” - แบ่งเค้ก 3 พันล้าน ประมูลงาน เมกะโปรเจกต์
 
วันนี้(12 เม.ย.)ที่ห้องพิจารณาคดี 34 ศาลอาญากรุงเทพใต้ สนามหลวง ศาล ออกนั่งบัลลังก์อ่าน คำพิพากษา คดีหมิ่นประมาท ที่นาย สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ นายดุสิต ศิริวรรณ ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิดฐาน หมิ่นประมาท โดยการโฆษณา

ตามฟ้องโจทก์ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 12 – 19 ม.ค. 49 จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นผู้ดำเนินรายการ”เช้าวันนี้ที่ช่อง 5 “ และรายการ”สมัคร – ดุสิต คิดตามวัน” ทางช่อง โมเดิร์นไนน์ทีวี โดยวันที่ 12 ม.ค. 49 จำเลยทั้งสองได้กล่าวถ้อยคำกล่าวหาว่า “มีผู้บริหารกรุงเทพมหานครบางคนออกรถบีเอ็มฯ ซีรีส์ โดยใช้ชื่อภรรยาเป็นเจ้าของ ที่แท้มีผู้รับเหมาซื้อให้ ผ่านทั้งสองรายการในวันเดียวกัน ต่อมาวันที่ 13 ม.ค. 50 นายดุสิต จำเลยที่ 2 ได้กล่าวผ่านรายการ”สมัคร – ดุสิต คิดตามวัน “ ว่า โครงการประมูลของกรุงเทพมหานคร 10 โครงการมันกินกัน 12 – 13 % เกือบ 3,000 ล้านบาท โดยมีจำเลยที่ 1 กล่าวสนับสนุน นอกจากนี้ในวันที่ 17 ม.ค. 49 จำเลยที่ 2 ได้กล่าวผ่านรายการเช้าวันนี้ที่ช่อง 5 ว่า ขออ่านจากข่าวนะ นายสามารถชี้แจงว่า ไม่เคยสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาล็อกสเป็ก ขอถามคุณสมัครหน่อยว่า ใครจะกล้ารับว่าตัวเองเป็นคนสั่ง และข้อความอื่น ๆ ซึ่งล้วนเป็นเท็จทั้งสิ้น เหตุเกิดที่แขวง – เขตห้วยขวาง และที่อื่นเกี่ยวพันกัน การกระทำของจำเลยทั้งสอง ทำให้ประชาชนที่ชมรายการดังกล่าวเข้าใจผิดคิดว่า โจทก์เป็นคนไม่ดี เรียกรับทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงนำคดีมาฟ้องขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย
 
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ทำนองเดียวกันว่า ไม่มีเจตนาหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย เพียงแต่กล่าวไปตามข้อเท็จจริงที่ทราบข้อมูลมา แต่ไม่ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งการดำเนินรายการก็เป็นการระดมความคิดเห็นร่วมกับประชาชนให้ได้รับทราบ

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า ถ้อยคำที่บ่งบอกว่า ผู้บริหารระดับสูงของกรุงเทพมหานครมีพฤติกรรมไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นความผิดทางอาญา โดยมีจำเลยที่ 1 กล่าวสนับสนุนว่าเป็นความจริง เมื่อฟังประกอบกันแล้วทำให้เห็นได้ชัดว่า เป็นผู้บริหารกรุงเทพมหานครคือโจทก์นั่นเอง เพราะขณะนั้นภรรยาโจทก์ขับรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ป้ายแดงได้ 2 เดือน ทั้งยังมีการกล่าวย้ำว่ามีการใช้ตำแหน่งแสวงหาผลประโยชน์แม้ไม่ได้ระบุชื่อก็ตาม ทั้งที่ความจริงแล้วโจทก์มีหน้าที่รับผิดชอบงานด้านโยธา ดูแลเรื่องการก่อสร้างถนน สะพานข้ามแยก อุโมงค์ทางลอดต่าง ๆ นอกจากนี้โจทก์ยังมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เบิกความเกี่ยวกับการตรวจสอบการทุจริตของโจทก์นั้น ชุดสืบสวนไม่ได้ตรวจสอบเรื่องการซื้อรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูคันดังกล่าว เพราะเป็นทรัพย์สินที่โจทก์ซื้อด้วยเงินตัวเองโดยมีการนำสำเนาบัญชีของธนาคารกรุงเทพ ฯ สำเนาเช็คเงินสด มาแสดงเป็นหลักฐานการชำระเงิน

การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการเสนอข่าวให้ประชาชนเชื่อว่า การก่อสร้างของกรุงเทพมหานครมีเงื่อนงำ ทุจริต ซึ่งเป็นการหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชังจริง ข้อต่อสู้ของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น ทั้งนี้จำเลยที่ 1 ได้เคยกระทำผิดฐานหมิ่นประมาทมาแล้วหลายครั้ง โดยศาลปรานีให้รอการลงโทษไว้เพื่อให้ปรับตัวเป็นคนดี แต่จำเลยที่ 1 กลับกระทำผิดซ้ำในความผิดเดิมอีก พิพากษาให้จำคุกจำเลยทั้งสองรวม 4 กระทง ๆ ละ 6 เดือน รวมจำคุกคนละ 24 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และให้โฆษณาคำพิพากษาย่อในหนังสือพิมพ์ติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน โดยจำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย

ภายหลังฟังคำพิพากษาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวทั้งสองไปควบคุมไว้ในห้องพิจารณาคดีที่ 15 ระหว่างนี้นายสมัคร กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า ต้องยื่นอุทธรณ์แน่นอน ต่อมาทนายความได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัวเป็นเงินสดคนละ 2 แสนบาท ระหว่างอุทธรณ์คดีโดยศาลพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้ทั้งสองประกันตัวไปโดยตีราคาประกันคนละ 2 แสนบาท

ด้าน นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ โจทก์คดีนี้กล่าวว่า รู้สึกดีใจ ที่ได้พิสูจน์ให้สังคมทราบว่าตนไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกทั้งสองกล่าวหา นอกจากนี้ตนยังได้ยื่นฟ้องทั้งสองต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 100 ล้านบาทด้วย คาดอีกไม่นานศาลจะมีคำพิพากษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไป
http://www.manager.co.th


 

1. แกนนำต้องขึ้นเป็นระยะอย่างที่ช่วงนาน
2. เอาสาเหตุและข้อที่รัฐบาลทำแล้วเป็นปัญหามาพูดเป็นประเด็นไป ปลุกให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น
3. แบ่งชุดดาวกระจายประมาณ 1,000 คน ตามกดดันคณะ ครม. ทำงานหรือประชุมทุกที่
ที่สำคัญที่สุด แกนนำต้องขึ้นเวที เจาะประเด็นให้แน่นๆใช้สติอย่าใช้อารมณ์ เปิดข้อมูลเป็นข้อๆที่รัฐบาลทำเป็นปัญหา เพื่อให้ประชาชนและสื่อมวลชนได้รับข้อมูล เพราะช่วงนี้สื่อกำลังให้ความสนใจ เพราะอย่างน้อยเราก็จะได้แนวร่วมเพิ่มมากขึ้น  

งานนี้ผมคาดว่ารัฐบาลฮุบเหยื่อชิ้นโตของพันธมิตรแล้วครับด้วยการขอหมายจับแกนนำพันธมิตร

ผมคาดว่าประเทศไทยคงเกิดเหตุการณ์รุนแรงอย่างเลี่ยงไม่ได้เสียแล้ว

สุดท้ายทหารที่อ้างว่าจะไม่ปฏิวัติก็ต้องออกมาทำการปฏิวัติอยู่ดี

หรืออาจต้องร้อนถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวออกมาห้ามทัพเองด้วยพระราชบารมีเหตุการณ์จะสงบลงอย่างรวดเร็ว

แต่รัฐบาลจะต้องประกาศลาออกเพื่อยุติความรุนแรงโดยสิ้นเชิง

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ผมคาดการณ์เอาไว้ในอนาคตครับ อีกไม่เกิน3วันนี้ หากแกนนำพันธมิตรถูกตำรวจจับไป

ทางเลือกอื่นให้พันธมิตรชนะสงครามประชาชน ก็คือ 'กลับบ้านเถอะลูก!!'  :slime_smile2:

ดาวกระจายไปบ้านสมัคร

จุดอ่อนของสมัคร?

สมัครมีแต่แผลเต็มตัว มีเรื่องฉาวโฉ่เต็มไปหมด ตั้งแต่สมัยหนุ่มจนแก่
แตะตรงไหนก็โดนจุดอ่อนทั้งนั้น

แต่มันมีจุดแข็งคือความหน้าด้านที่ไม่มีใครเทียบได้
ไม่ว่าจะขุดเรื่องไหนมาโจมตีมันก็ยังหน้าด้านต่อไปได้เรื่อย ๆ

ขอยืนยันครับว่าไม่มีทางขับไล่สมัครออกไปได้โดยใช้สันติวิธีอย่างแน่นอน

:slime_bigsmile: :slime_bigsmile:คิดได้ไงเนี่ย

น่าลองไปกันดูครับ..อยู่ใหนหว่า :slime_bigsmile:

สุขาภิบาล 1 ตรงข้ามสำนักสันติอโศกของนายรัก ไง....หุ หุ :slime_smile2:

ล่าสุดเพิ่งฟังมาจากเวที เห็นบอกว่า ถ้าศาลสั่งให้ออกจากทำเนียบ จะใช้วิธีดื้อแพ่งครับ ไม่ยอมออก
ซึ่งผมก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
ไอ้หมักไม่ลาออก พันธมิตรก็ไม่ออก (จากทำเนียบ)

หมู่บ้านโอฬาร ซอย นวมินทร์ 81
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/274/3274/images/Rhm14.jpg)
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/274/3274/images/Rhm10.jpg)
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/274/3274/images/Rhm6.jpg)

พึ่งกลับมาเมื่อเช้า    ถ้ายังไม่รู้ผลศุกร์นี้เลิกงานไปทันที      แพ้ชนะไม่สนใจขอให้ได้ไปอยู่กับพี่น้อง :slime_bigsmile: 

เมื่อครั้ง คานธี ใช้หลักอหิงสา สู้กับ อังกฤษนั้น

คานธีเคยเป็นนักเรียนเก่าอังกฤษมาก่อน และรู้จุดอ่อนอันสำคัญของอังกฤษดี นั่นคือ สุภาพบุรุษอังกฤษ

คุณสมบัติที่ดีของอังกฤษ ที่ช่วยทำให้อังกฤษเป็นเจ้าโลกได้ คือการมีความเป็นสุภาพบุรุษ รู้แพ้รู้ชนะ หน้าบาง พูดด้วยเหตุผลได้ รับฟัง และรู้เรื่อง ถ้าอังกฤษจะเบี้ยวในข้อสัญญาใดๆ ต้องมีข้ออ้างและเหตุผล ไม่มีทางหน้าด้านแบบขอไปที

คานธี ชนะอังกฤษได้ ด้วยอหิงสา

แต่เมื่อครั้ง โฮจิมิน ต้องสู้กับฝรั่งเศสนั้น จุดแข็งของฝรั่งเศสคือ ถ่***ฝรั่งเศส

โทษสมบัติของฝรั่งเศส คนไทยที่ศึกษาประวัติศาสตร์คงจะทราบดี ฝรั่งเศสไม่รักษาคำมั่นสัญญา โกงได้ทุกรูปแบบ หักหลังได้ทุกสถานการณ์ และต่ำช้าขนาดทรมาณสตรีได้ด้วยกรรมวิธีที่ มารดาของมันยังไม่กล้าคิด ว่าลูกชายที่เป็นทหารฝรั่งเศสจะกล้ากระทำ

โหดร้ายขนาดใช้ใบมีดโกนสอดเข้าไปในช่องที่พวกทหารฝรั่วเศสเดินทางออกมาดูโลก เพื่อทรมาณสตรีชาวเวียดนาม ให้บอกความลับที่พวกมันต้องการ

โฮจิมิน ไม่เคยใช้วิธี อหิงสา

อหิงสา ใช้ไม่ได้กับคนถ่อ..ยและหน้าด้าน โฮจิมิน ใช้ระบบ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน กับทหารฝรั่งเศส และโฮจิมิน ชนะฝรั่งเศส ด้วยความรุนแรงกว่า


สองกรณีที่เกิดขึ้นจริง คงจะพอให้คำตอบ กับการต่อสู้ในวันนี้ของประชาชนคนไทย

สู้กับใคร ต้อง สู้อย่างไร

ขณะนี้ โอกาศที่ประชาชนจะแพ้ รออยู่แค่เอื้อม เหมือนคนอินเดีย คนเวียดนาม ที่เคยแพ้ซ้ำซากกับผู้รุกราน

บางครั้ง บางประเทศ ต้องแพ้เสียอย่างย่อยยับก่อน ก่อนที่จะฟื้นกลับมาชนะได้

แต่บางประเทศก็ไม่มีโอกาศนั้น แต่เมื่อแพ้แล้วก็สูญสิ้นชาติไป

ไม่มีใครตอบได้ว่า นาทีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

แต่มีเรื่องที่ต้องยอมรับความจริงกันว่า

หากพันธมิตรแพ้ และไม่สามารถลุกขึ้นมาสู้ได้อีก

ประเทศไทยจะตกอยู่ในสภาวะที่เลวร้ายอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถึงตอนนั้น อาจจะมีคนคิดลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง ซึ่งจะสายเกินไปหรือไม่ก็ไม่ทราบ

ขณะที่ตอบกระทู้นี้ ฝนฟ้ากำลังตก คงจะไว้อาลัยให้พันธมิตร ที่ได้สู้อย่างสุดความสามารถแล้ว

พันธมิตร อาจจะจบสิ้นในเวลาไม่นานนี้

พร้อมกับบอร์ดที่ต่อต้านทักษิณ ซึ่งคงจะต้องปิดตัวไปในเวลาไม่นานนัก

ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกรา กำลังคิดคำอาลาเพราะๆไว้ค่ะ

อหิสาในเมืองไทยใช้บังคับบ่ได้...สุดท้ายโดนรวบตัวหรือไม่ก็โดนอุ้มไปหายไปเลย
สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพนักสู้ประชาชน...ยังมีอีกเยอะที่ยังไม่อยู่ในสนามรบ
ผมคนนึ่งหล่ะถึงไม่ได้ไปอยู่ทำเนียบ..ก็พร้อมรบครับ :slime_smile:

พัมธมิตรพลาดที่ยึด NBT ไม่สำเร็จ
เมื่อปฏิวัติไม่สำเร็จ ก็เลยกลายเป็น "กบฏ" ไปอย่างช่วยไม่ได้

มาถึงนาทีนี้ การเปลี่ยนแปลงประเทศโดยใช้วิธิสันติอหิงสา เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป
ก็ยังไม่รู้ว่าจะจบแบบไหน
แต่คงไม่สวยอย่างที่เรา ๆ คาดหวังกันครับ

แนวทาง มาตรการต่างๆของ อ.ปราโมทย เป็น civil disobedience แบบถูกกฎหมาย์

"...อหิงสาและอารยะขัดขืนนั้นมีตั้ง 198 กระบวนท่าด้วยกับวันที่ 26 สิงหาคมนี้ จะต้องลองเอากระบวนท่าใหม่ๆ ที่ได้ผลชะงัดออกมาใช้ดูบ้าง
       
        ในขณะเดียวกัน General Uprising มีลักษณะเปิดกว้าง ผู้ที่จะเข้ามาร่วมจะเป็นใคร ที่ไหน และใช้กระบวนท่าใดๆ ก็ได้ เพื่อป้องกันความผิดพลาดและโอกาสนองเลือด ผมขอเรียกร้องให้ตำรวจ ทหาร ข้าราชการ นักธุรกิจ ธนาคาร อาจารย์และปัญญาชน เข้ามาร่วมกันให้มากที่สุด
       
       1. ทหารอาจแต่งหรือไม่แต่งเครื่องแบบออกมาร่วมชุมนุม ขัดขืนและไม่ปฏิบัติตามคำสั่งให้ทำร้ายประชาชน ประกาศและบอกกล่าวว่าจะขอปฏิบัติตามปฏิญาณไม่รับใช้รัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมบั่นทอนสถาบันและเอกราชแห่งดินแดน
       
       2. สหภาพแรงงานและสมาคมวิชาชีพต่างๆ ขอลาหยุดงาน ผละงานเพื่อมาร่วมกับสหภาพรัฐวิสาหกิจ
       
       3. ข้าราชการทุกกระทรวงทบวงกรมตั้งแต่ปลัดกระทรวงลงมาถึงเสมียนภารโรงหยุดปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ลางาน หยุดงาน และแสดงการสนับสนุน General Uprising ด้วยเสียงและใบปลิว หรือสัญลักษณ์อื่นๆ เช่น การแต่งกายผูกเนกไทหรือใส่เสื้อเหลือง
       
       4. นักธุรกิจ ธนาคาร หอการค้า สมาคมอุตสาหกรรมต่างๆ พนักงานผู้ประกอบการ กระทำการที่เห็นสมควร แต่แจ้งชัดว่าสนับสนุน General Uprising
       
        5. ครู อาจารย์ นักศึกษา พยาบาล แพทย์ เดินออกจากโรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล เข้ามาร่วมหรือแสดงการสนับสนุนด้วยสัญลักษณ์ใดๆ
       
        6. พันธมิตรฯ และเครือข่าย ผู้ที่เข้าร่วมทั้ง 93 วันก็ดี มาร่วมบ้างก็ดี มาร่วมใหม่ก็ดี ศึกษาและเลือกใช้กระบวนท่าอหิงสาและอารยะขัดขืนต่างๆ เช่น นัดกันแบบต่างคนต่างทำ เริ่มถอนเงินออกจากธนาคาร ประท้วงโดยการนั่งเฉยๆ เป็นหมู่ Sit In ใช้ Electronic Civil Disobedience และ Hacking ทำสงครามข่าวสาร เลิกใช้บริการของรัฐหรือเอกชนที่เป็นกำลังของรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรม
       
        ทั้งหมดนี้ เป็นอหิงสาและอารยะขัดขืนที่เป็นกระบวนท่าของประชาธิปไตย ชอบธรรม ไม่ผิดกฎหมาย มีพันธมิตรสากลที่รักความถูกต้องรักความเป็นธรรมรักมนุษยชาติสนับสนุนอยู่ทั่วโลก..."

http://forum.serithai.net/index.php?topic=32672.0 (ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพื่อเป็นโมเดล ให้คิดต่อ สำหรับการคิดแนวทางอื่นๆ ในการต่อสู้ครับ)

ยังมีแนวทาง civil disobedience (ผมอยากแปลตาม อ.แก้วสรร คือ การขัดขืนของพลเมือง มากกว่าอารยะขัดขืน) แบบผิดกฎหมาย เนื่องจาก ความผิดกฎหมายดังกล่าว ถือว่าเล็กมาก เมื่อเทียบกับความผิดของรัฐบาล (เช่น การผิดรัฐธรรมนูญ การขายอธิปไตยของชาติ การผิดกฎหมายอาญาร้ายแรง ฯลฯ ) เช่น งดจ่ายภาษี การที่พันธมิตรตั้งมั่นอยู่ในทำเนียบไม่ยอมออกมา การตัดน้ำ ตัดไฟ ซึ่งผู้ต่อสู้ต้องยอมรับผิดตามกฎหมาย แม้หลังจากได้รับชัยชนะก็ตาม ซึ่งผมกำลังค้นคว้าอยู่และจะนำเสนอ หรือหากผู้ใดก็ตามช่วยกันศึกษา เพื่อสร้างสรรแนวทางต่อสู้ ที่มีประสิทธิผลและประสิทธิภาพต่อไป ใครคิดอะไรได้ดีๆ กรุณานำเสนอพันธมิตรโดยตรงไปเลยครับ pad2551@gmail.com 
       

เท่าที่ผมอ่านกระทู้นี้ ผมชอบไอเดีย ดาวกระจายที่บ้านสมัครที่สุด
สมัครหน้าด้านก็จริง แต่โกรธง่าย
ถ้าแบ่งกำลังคนไปโหไล่ หน้าบ้านสมัคร น่าจะทำให้สมัครควัญออกหูได้มากทีเดียว
อาจหลุดแสดงความเห็นโง่ๆออกมา อีกมาก

ไปยึดทำเนียบมันก็ไปประชุมที่อืนแทน
ถ้าไปล้อมบ้านมัน มันก็แค่ไปนอนที่อืนซึกพัก มันไม่ออกมาให้ด่าหรอกครับ

ไปตั้งขบวนหน้าตลาด อตก. สิครับ  :slime_bigsmile:

มันก็เข้าห้องน้ำหนีไปขี้สิครับ  :slime_dizzy:

เห็นด้วยครับเป็นหนึ่งทางเลือกที่กดดันได้ตรงจุด(อ่อน)มากที่สุด
การเมืองของนักการเมืองมักเริ่มต้นและจบที่คนใกล้ๆตัวที่บ้านเสมอ
หาวิธีกดดันที่ทำเนียบไม่ชอบ..ต้องให้ลุยถึงบ้าน รายใหนรายนั้นมักไม่รอด
ดูอย่างนายใหญ่ทักษิณสิครับคุณหญิงอ้อโดนหน่อยสั่นคลอนทั้งตระกูล
(http://img187.imageshack.us/img187/5082/200802001008zl3.jpg)
http://www.oknation.net/blog/kittinunn/2008/05/31/entry-1
ได้ภาพมาจากบล็อกเกอร์กิตตินันท์อีกแล้วครับท่าน
ใครรู้จักบ้านคุณสมัครและแมวมีกี่ตัวรวบมาให้หมด :slime_sentimental:

อย่าให้คนในทำเนียบพร่องลง

ยังไงก็อาจจะเป็นการรวมตัวครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายแล้ว โอกาสจะพลิกวิกฤตมีไม่มาก ลองวัดใจกับคนเมืองดูไหมครับ?


เริ่มตั้งแต่เช้ามืด นั่งกระจายหรือตั้งแถวกระจายตัวกันไปบนถนนโดยใช้ทำเนียบเป็นศูนย์กลาง ขยายออกไปทุกทิศ

กินระยะทางให้มากที่สุด และให้ผ่านย่านชุมชนให้มากที่สุด ให้เกิดภาพของกระแสสีเหลืองกระจายปกคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างกว้างขวาง

ร้องเพลงปลุกใจ เชิญชวนผู้คนให้เข้ามาสมทบกันไปเรื่อยๆ ดูว่าคน กทม. จะเอายังไง ขับไล่ไสส่งเรา หรือออกมายืนกับเรา ให้รู้กันไปเลย

แต่พันธมิตรฯ เองก็ต้องมาสมทบเป็นจำนวนมาก ไม่แพ้เมื่อวาน ยิ่งมากยิ่งดี

ผมยังมองว่าการที่พันธมิตรไปตั้งทัพที่ทำเนียบรัฐบาลนั้นไม่ใช่ทำเลเหมาะถ้าเทียบกับชัยภูมิมัฆวาน
เหมือนการถูกต้อนไว้ในจุดเดียวแต่ก็อีกนั่นและเพียงแค่จุดรวมที่ทำเนียบอาจกลายเป็นชนวนระเบิดลูกใหญ่ให้รัฐบาลแก้ไข
มีทั้งเป็นจุดอับและโอกาสที่ปะทะมากขึ้นกว่ามัฆวาน...แต่ยังมองว่ากระสุนที่ยิงหรือพ่นไปยังไม่ตรงเป้าคือตัวผู้นำรัฐบาล
คือนายสมัคร สุนทรเวช คือกดดันให้นายสมัครเครียดแล้วกลายเป็นบ้าไปในพริบตาคือสงครามจิตวิทยาไม่ใช่ล้อมทำเนียบ
เป็นมุมมองที่ต่างออกไปนะครับ(ส่วนมากเห็นด้วยกับทุกท่านในเสรีไทย) :slime_agreed:

อยู่ที่ทำเนียบเหมาะแล้วคับ

ไม่ต้องไปบ้านหอกหักหรอกคับ  ลูกเมียมันไม่เกี่ยว

ในบอร์ดเรา..ผมเห็นด้วยครับและส่งข้อความไปถึงแกนนำพันธมิตรแล้วครับ
สุดแต่ว่าแกนนำเขาจะคิดเห็นกันอย่างไรและปฏิบัติการหรือไม่ในคืนนี้หรือไม่ก็พรุ่งนี้ครับ.. :slime_v:

ตอนนี้พันธมิตรโดนข้อหากบฏ ซึ่งเป็นการทำเกินกว่าเหตุของทางตำรวจและรัฐบาล ที่ตั้งข้อหาสูงสุด
กระแสสงสารพันธมิตรเริ่มมีกลับมาบ้าง

สิ่งที่พันธมิตรต้ิงทำคือการเกณท์คนมาเพิ่ม เปรียบเทียบข้อหาที่ได้กับการโกงกินของรัฐบาลและการเมืองเส็งเคร็ง
ดังนั้นต้องชักจูงคนมาให้ได้อย่างน้อยต้องระดับเป็นล้านคนหรือสองล้านคนขึ้นไป และต้องมาเต็มพื้นที่เท่านั้น

แกนนำต้องเชิญชวนคนมา เชิญชวนคนนัดหยุดงาน
ต้องเชิญกลุ่มชนชั้นกลางที่มีพลังในกรุงเทพมาให้ได้ รวมถึงข้าราชการด้วย
โดยมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศจากกลุ่มการเมืองน้ำเน่า
แกนนำต้องขึ้นเวทีอย่างสม่ำเสมอ ชี้นำให้ได้ ปลุกเร้าอย่างสม่ำเสมอ
ต้องเชื่อมต่อกับสื่อสารมวลชนให้ได้ เพื่อส่งข่าวสารออกสื่อให้มากที่สุด
ไม่มีทางเลือก ไม่มีทางลง



 :slime_cool:

หลังพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.นำทหารยึดอำนาจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 กันยายน 49 คุณหญิงสุรัตน์ ได้ขอให้นายสมัครหยุดเล่นการเมืองอย่างเด็ดขาด เพื่อใช้เวลาในบั้นปลายของชีวิตไปพักพ่อนเลี้ยงหลาน โดยนายสมัครได้ตกลงตามคำของคุณหญิงสุรัตน์ไปแล้ว

เมื่อโทรศัพน์จากลอนดอนขอร้องให้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ช่วงแรกนายสมัครให้การปฏิเสธ โดยอ้างคุณหญิงสุรัตน์ภรรยาให้เลิกเล่นการเมือง แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ส่งนายดุสิต ศิริวรรณคู่หูของนายสมัครเข้าไปเกลี่ยกล่อมคุณหญิงสุรัตน์กระทั้งยอมให้นายสมัครกลับมาเล่นการเมืองอีกครั้งหนึ่ง  หลังจากพรรคพลังประชาชนได้สส.เข้าสภามากเป็นอันดับหนึ่ง พร้อมเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 25 ของไทย คุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช ภรรยา ก็กลายเป็นสตรีหมายเลข 1 ของทำเนียบไปโดยปริยาย

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=207544

ผมนำเหตุปัจจัยเรื่องตัวบุคคลที่มีอิทธิพลต่อคุณสมัครมาเรียบเรียงได้ดังนี้

1.ทักษิณโทรหาสมัครให้เป็นนายก
2.คณหญิงสุรัตน์ห้ามคุณสมัครไว้ในตอนแรก
3.คุณดุสิต เพื่อนคุณสมัครมากล่อมคุณหญิงให้รับตำแหน่ง

กลุ่มบุคคลเหล่านี้มีอิทธิพลต่อการรับตำแหน่งนายกของคุณสมัคร
ก็น่าจะมีผลต่อการลาออกจากตำแหน่งได้เหมี๋ยนกัน....ใช่ไม่ใช่

คนที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของคุณสมัครมากที่สุดฟันธงครับคือคุณหญิงสุรัตน์เกี่ยวล้านเปอร์เซ็น :slime_bigsmile:

ป้องกันหมักหนีเข้าส้วม...

ลองแบบนี้มั๊ยครับ

พาคนไปนั่ง "ดื้อแพ่ง" ยึดห้องน้ำในตลาดไว้ก่อนม็อบจะมา เอาให้เหลือห้องเดียว  :slime_bigsmile:

ถ้าหมักมาถึงเมื่อไหร่ ก็วัดใจกันล่ะว่า จะยอมหนีเข้าส้วมที่เหลืออยู่ สร้างความลำบากให้ประชาชนที่จะเข้าห้องน้ำจริงๆ รึเปล่า  :slime_hitted:


พอๆ เอาแบบจริงจังมั่ง...

ภาคประชาชนก็ต้องคิดเรื่องการผลักดัน ช่วยสนับสนุนพรรคการเมืองที่เป็นทางเลือกใหม่ ให้เติบโตขึ้นมาให้ได้ด้วยครับ

เพราะถึงยังไง ประเทศชาติก็ต้องมีรัฐบาลเป็นผู้บริหาร

แต่จะปล่อยให้ระบอบทักษิณยึดครองต่อไปไม่ได้อีกแล้ว

พรรค ปชป. ก็ไม่อยู่ในจุดยืนและสถานะที่จะขึ้นมา แล้วได้รับการยอมรับมากพอที่จะนำสถานการณ์คลี่คลายไปได้ดีๆ อีกเช่นกัน

ต้องเกิดขั้วที่สามที่ใช้การได้จริงๆ มาประคับประคองเท่านั้น โดยภาคประชาชนช่วยกันยันอำนาจอิทธิพลมืด น้ำเน่าในวงการเมืองไว้

เพื่อเดินหน้าสถาปนาการเมืองใหม่ให้ได้ผล

"บ้านเมืองสงบสุขดีอยู่แล้ว พันธมิตรมาทำให้เกิดความวุ่นวาย"

นี่เป็นความเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศไทยครับ

ตอนนี้ผมว่าผมท้อแล้วนะครับ..กับการชุมนุมของพันธมิตร

จะเห็นว่านิสัยของคนไทยสมัยนี้...มักจะเห็นแต่ความเดือดร้อนของตัวเอง
พันธมิตรชุมนุม..รถติด...ไปทำงานไม่สะดวก
ประเทศชาติ...ชั่งมัน...ขอให้ตัวเองได้สุขสบาย
เขาไม่เคยที่จะตั้งคำถามกันเลยครับว่า การที่คนออกมาชุมนุมเรือนแสนเรือนล้านนี่
"เพราะอะไร?"

ก็น่าสงสารคนในประเทศนะครับที่ส่วนใหญ่
"ยังคงกินหญ้าที่รัฐบาลคอยป้อนอย่างเลี่ยงไม่ได้"

หญ้าในที่นี้คือ"สื่อ"ครับ
สื่อของรัฐบาลบิดเบือนความจริง
พวกเขาแทบไม่เคยรู้เลยว่า..การเสียเขาพระวิหารเป็นผลประโยชน์ของนายเหลี่ยม
การสร้างรัฐสภาเป็นการหาทางที่จะคอรัปชั่น

พวกเขาคิดแต่ว่า
"ทักษิณ...ให้เงินเขา...ให้กองทุนหมู่บ้าน"
"ทักษิณ...ปราบปรามยาเสพติด"
"ทักษิณ...ช่วยเหรอพี่น้องคนจน"

ยุทธการที่แกนนำพันธมิตรเคยบอก
ที่ว่าให้ไปบอกคนต่อๆคนไป...คนละคน
จาก 1 เป็น 2 จาก 2 ก็เป็น 4 และก็ขยายอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
อยากจะบอกว่า..."ไม่มีทางใช้ได้ผลเลยครับ"

พวกเขาไม่รู้สึกถึงความเดือดร้อนของประเทศชาติ
พวกเขาเต็มใจที่จะกิน"หญ้า"ที่รัฐบาลหรือนายเหลี่ยมค่อยๆป้อนให้
การที่รัฐบาลนายเหลี่ยมออกมาโกงบ้านโกงเมือง
ถามว่า"ใครเดือดร้อน"

แน่นอนครับ"เดือดร้อนกันทั้งประเทศ"
แต่ถ้าถามต่อไปว่า"ใครล่ะ...ที่รู้สึกถึงความเดือดร้อนนี้?"

ส่วนใหญ่จะมีแต่"ชนชั้นกลาง"กับพวกที่มีฐานะเท่านั้นครับ

รากหญ้าเค้าจนของเค้าอยู่แล้ว ใครจะโกงใครจะกินก็ไม่มีความหมาย
สุดแต่ว่าใครจะมา"แจกเงิน"ให้พวกเขา
พวกเขาก็ย่อมจะเห็นดีด้วยกับคนที่"แจกเงิน"ให้เขาแหละครับ

ทุกคนถูกหลอกว่าเงินที่ได้น่ะเงินของนายเหลี่ยม
ซึ่งที่จริงมันเป็นเงินภาษีของประชาชน

ในเมื่อคนในประเทศประมาณ 70% ยังคงกิน"หญ้า"เป็นอาหารอยู่
ผมคิดว่า

ทางออกคงจะเป็น

"การเผยแพร่ความจริงแก่ประชาชนครับ"
ให้เขาได้เห็นถึงความเดือนร้อน
ให้เขาได้รู่้ว่า"ทำไมคนนับแสนนับล้านต้องออกมาชุมนุม"
ผมรู้ว่ายากครับ

แต่ถ้าเป็นอย่างนี้ต่ิอไป
พันธมิตรก็ไม่ต่างอะไรไปจาก"อาชญากรที่ออกมาก่อความวุ่นวายให้กับประเทศ"ในสายตาของประชาชน
ถึงแม้จะได้รับชัยชนะแล้ว
แต่แน่นอน
นายเหลี่ยมจะกลับมาเมื่อใดก็ได้
และ
คนอีก 70% ยังคงนับถือนายเหลี่ยมอยู่

โอกาสที่จะกลับมาสู่วังวนเดิม..ผมว่ามีมากครับ
ถ้ามีคนจัดตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดนายเหลี่ยมอีก
"เลือกผม...ทักษิณจะกลับมา"

ถามว่า
"ที่เราเหนื่อยไป...มันได้อะไรครับ"



แต่ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้พันธมิตรแล้วกันครับ

ผมคิดว่า คุณหญิงสุรัตน์วางตัวได้ดีเมื่อเทียบกับคุณหญิงกระบังลมที่ชอบเวอร์ๆ

ดีในที่นี้หมายถึง แยกตัวออกจากงานการเมืองของหอกหัก ไม่ทำตัวเป้นข่าวอะไรมากมาย

การไปกดดันครอบครัวด้วยวิธีนี้จึงหมิ่นเหม่ต่อการเสียแนวร่วมได้นาคับ

ถ้าจะกดดันคนที่โลว์โปรไฟล์แบบคุณหญิงก็ควรใช้วิธีเข้าหลังบ้านแบบโลว์โปรไฟล์เช่นกัน

นปก .เคยตัดสินใจผิดในกรณี ยกไปบ้านป๋าแล้ว

ถ้าคุณสมัคร โดนม็อบไปหา   คนไทยสงสารเพียบ  พธม.ตกที่นั่งผู้ร้ายอีก
ยิ่งมีภาพครอบครัว มีภาพคุณหญิงออกมาทำหน้าเศร้านะ  
จะลองเสี่ยงดูใช่ไหม  แต่อย่าหวังว่าคุณสมัครจะออก ( ใครหนอช่างเลือกคุณสมัครมารับธงต่อ )
 :slime_smile:

ช่วยกันคิดหาทางออกด้วยกันครับผมก็แค่หนึ่งความคิดหนึ่งเสียงเท่านั้นเองครับ  :slime_v:

ทำเนียบ คือที่ทำงานของรัฐบาล ผู้ปกครองประเทศนะครับ เดิมพันธมิตรล้อมแบบสัญลักษณ์ แต่คราวนี้ล้อมแบบกายภาพคือยึดเป็นชัยภูมิ

การถูกล้อมทำเนียบ จะเป็นข่าวทั่วโลก รัฐบาลถูกประจาน ทั้งในแง่ จัดการความสงบเรียบร้อยภายในประเทศไม่ได้ และทำให้ประชาคมโลกต้องสืบสวนหาข้อมูลต่อว่า เหตุใด ประชาชนไทยจึงไม่ยอมรับรัฐบาลถึงขั้นยึดทำเนียบ

ลองคิดง่ายๆ มีคนสัก 300,000 คนไปล้อม White House ประธานาธิบดีสหรัฐ จะอยู่ยังไง ???

ต่อความเห็นคุณAlbert Einsteins ผมเห็นด้วย และพันธมิตร คงอ่านตรงนี้แล้ว จึงคิดยึด NBT เพื่อสื่อต่อประชาชนไทยทั้งประเทศ แต่พลาด

แนวทาง electronic civil disobedience เช่น forward mail, hacking ก็ไม่ได้ผลมากในเมืองไทย เพราะ ประชากรอินเตอร์เนตของเราน้อย (ผมประมาณว่า 10% ของจำนวนประชากร)

ผมเสนอและจะลงมือทำเอง คือ เขียน จม.ส่งไปหา ผบ.เหล่าทัพ หลากหลายระดับ เพื่อเรียกร้องให้ ออกมาbackup ประชาชนพันธมิตร (ไม่ใช่ รัฐประหาร) เพื่อความชัดเจนของกลยุทธ์นี้ ผมขอตัดส่วนหนึ่งของบทความ อ.ปราโมทย์ มาแสดง

"...กรณีโค่นล้มมาร์กอส และแอสตราดานั้น ใช้การชุมนุมอันใหญ่หลวงของประชาชนหนุนเนื่องด้วยสื่อและปัญญาชน ผู้นำทางศาสนา เสียงในสภาสูงและสภาล่าง เสียงแตกภายในรัฐบาลเอง และที่เป็นปัจจัยชี้ขาด คือ กำลังแฝงและพลานุภาพของกองทัพที่ยืนอยู่เคียงข้างประชาชน วิธีนี้เป็นวิธีที่พลเอกสายหยุด เกิดผล เสนอให้นำมาใช้ในประเทศไทย
       
        วิธีนี้เกิดคำถามขึ้นมา 4 ข้อ (1) จะเป็นไปได้หรือ (2) ถ้าเป็นไปได้จะได้ผลหรือกับรัฐบาลที่หนังหนาหน้าด้านอย่างรัฐบาลนายสมัคร (3) จะมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้หรือไม่ และ (4) วิธีไหนจึงจะศักดิ์สิทธิ์โค่นล้มรัฐบาลนายสมัครได้เด็ดขาด
       
        ในขบวนการโค่นล้มรัฐบาลนายสมัคร ผมต้องขอสดุดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ชุมนุม ณ สะพานมัฆวานรังสรรค์มากว่า 90 วัน พร้อมทั้งดาวกระจายไปในที่ต่างๆ และต่างจังหวัด เป็นสันติอหิงสาหาที่งดงามผู้ดีหาที่เปรียบมิได้ เป็นอภิมหานาฎกรรมการเมืองบันลือโลกที่หาดูที่อื่นมิได้นอกจากเมืองไทย น่าชมตำรวจ ทหาร และรัฐบาลด้วยที่มิลุแก่อำนาจ
       
        แต่ที่เป็นพิเศษคือบุญบารมีและพระเมตตาของพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่คุ้มเกล้าปวงประชา
       
        ความผิดพลาดของรัฐบาลในเหตุการณ์หฤโหดไร้มนุษยธรรมที่อุดรธานี เหมือนกับความหฤโหดอื่นๆ ที่เกิดกับพสกนิกร ไม่มีทางที่จะพ้นสายพระเนตรและความโทมนัสของพระแม่แห่งแผ่นดินได้ ผมแน่ใจว่า แม่ทัพภาค แม่ทัพบก นายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจ จะต้องได้ยินด้วยหูว่าพระองค์รับไม่ได้ที่เห็นคนไทยถูกเข่นฆ่าเยี่ยงนี้
       
        หากเราเปลี่ยนแปลงได้ด้วยสันติวิธี ผมเชื่อว่า ผู้นำไทยคนใดคนหนึ่งน่าจะได้รับรางวัลโนเบลสันติภาพ ทำให้ประเทศไทยชื่อเสียงกระจรกระจาย
       
        วิเคราะห์คำถามสี่ข้อ
       
        (1) People Power แบบฟิลิปปินส์ กับปฏิวัติประชาชนแบบไทย พลเอกสายหยุดเสนอว่า เมื่อประชาชนตระหนักในความเลวร้ายของรัฐบาลจนทนไม่ไหว ประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงอย่างกว้างขวางจนได้ที่แล้ว ทหารไม่ควรฉวยโอกาสปฏิวัติ แต่ควรสนับสนุนประชาชน โดยตั้งมั่นอย่างมีวินัยอยู่ในกรมกอง ประกาศสนับสนุนประชาชนอย่างเปิดเผย และข่มขู่ให้รัฐบาลยอมแพ้โดย Implied Force หรือพลังแฝง ซึ่งจะไม่ยอมฟังคำบังคับบัญชาของรัฐบาลอีกต่อไป..."

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000099895

ไม่เป็นไรคับคุณScorpio6 

 ช่วยกันๆคิดหลายๆทางไว้เป็นดี

ส่วน..

นปก.มันผิดเพราะมันบ้าคลั่งคับ อย่าคิดว่าพันธมิตรจะเหมือนพวกนั้น

จะจัดการสมัคร ต้องดีดไข่สมัครค่ะ และต้องดีดให้แตกด้วย
อย่าลืมว่าสำหรับสมัคร พันธมิตรใช้ยุทธวิธีมามาก แต่ก็ยังหน้าด้านเสมอมา
ไม่ออก ไม่สน และยัดเยียดข้อหาให้คนอื่น เพราะในส่วนของประเทศชาติคนอย่างสมัครมันไม่สนอยู่แล้ว
ดังนั้น เจาะไข่มันเลย เชื่อได้ว่าสมัครสติแตกแน่นอน

รึว่าจะไปดักนายสมัครที่ อตก.ดีครับ

พอนายสมัครเข้าห้องน้ำ

เราก็ล้อมห้องน้ำเลยครับ

ล้อมตลาด อตก. เลย

จนกว่านายสมัครจะลาออก
555+

ไม่ออกก็ดมขี้ตัวเองอยู่อย่างนั้นแหละ

ผมว่าเป็นความคิดที่ดีเหมือนกันนะ
(ตรงไหนฟระ....  :slime_hmm:)

กรณี นปก.บุกบ้านป๋าไปด้วยความโกรษและแค้นพร้อมจะทำลายสัญญลักษณ์ของสถาบันฯนะครับ
แต่กรณีนี้ผมมองเห็นคำสั่งที่สามารถเหนือคำสั่งใดๆในโลกมากกว่าตำแหน่งนายกหรือประธานาธิบดี
คือหตำแหน่งหลังบ้านเห็นได้จากคุณหญิงกระบังลมที่ผ่านมาเมื่อถึงคราเขาจะออก"คำสั่งที่เหนือคำสั่ง"
ต้องไปย้อนดูโปรไฟล์คุณหญิงสุรัตน์...ก่อนสิ่งอื่นใดแน่ๆเลยงานนี้  :slime_v:

เมื่อกี้มีข้อความข่าวมาจากเมเนเจอร์..
ศาลแพ่งสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้พันธมิตรถอนจากทำเนีบยและพื้นที่โดยรอบ
แต่แกนนำบอกว่าขอความเมตตาจากศาล
ถ้าจำเป็นต้องถอนจริงก็เข้าทางเรา
คือพุ่งเป้าไปที่สมัคร  ณ บัดดล..:slime_sentimental:

ขอบคุณครับ :slime_smile:

แนวทางเดียวกันครับลุงถึก...เมื่อวานผมก็โทรไปถามสถานการณ์ที่ทำเนียบลุงพริกแล้วครับ :slime_v: :slime_v:

ขออีกสัก 2-3 คืน   :slime_fighto: :slime_fighto: :slime_fighto:

คนยังทยอยไปสมทบเพิ่มขึ้นๆ

ผ่านคืนนี้ไปอีกคืนได้ 

พรุ่งนี้เดี๋ยวสวย


 :slime_fighto: :slime_fighto: :slime_fighto:

หากไปได้สวยด้วยเกียร์ต่ำ ณ ทำเนียบ ก็โอเช  ครับ (อโลฮา(โหมดเสรีไทยเราอีกคน) เท้าแพลงที่ทำเนียบ ขอให้หายเร็วๆครับ)
http://www.oknation.net/blog/kittinunn/2008/08/28/entry-1
ยังบ่ต้องไปถึงบ้านพักคุณสมัครเห็นพรรคพวกบอกทางเข้าบ้านแคบและมีตำรวจน้อยดูแลอยู่จำนวนนึงครับ :slime_sentimental:

กดดันในทำเนียบไม่ได้ผล ..สองสามสภาร่วมก็บ่ได้ผล  :slime_surrender:
ผมเลยกลับมาบอกว่าทางเลือกของพันธมิตรคือการกดดัน
ที่ตัวของสมัครเท่านั้น :slime_agreed: