ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

เปลี่ยนบรรยากาศเรื่องการเมือง มาคุยกันถึงเรื่องรถติดแก๊ส ที่ระเบิดบ่อยในระยะนี้ ที่พบได้ตามสื่อข่าวทั่วๆไป

จริงๆแล้ว รถที่ติดแก๊สนั้น ไม่ได้เพิ่งมาติดในช่วงปี หรือ 2 ปี นี้ที่ไหน

เขาก็ติดกันมานานโขแล้ว แถมยังไม่มีระบบควบคุมความปลอดภัยมากมายเหมือนในปัจจุบัน

ทำไมเราถึงไม่ค่อยเจอข่าวรถติดแก๊สระเบิดในอดีต มากมายเหมือนในปัจจุบันหล่ะ  :slime_o:

(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=1017056)

ภาวะน้ำมันขึ้นราคา ทำให้คนที่มีรถยนต์ตัดสินใจติดแก๊ส เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งตัวเลขการประมาณการสำหรับรถที่มาติดแก๊สในปีนี้ มีจำนวนมากเป็นเท่าตัว เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ทำให้ผู้ที่ขายน้ำมันต้องเดือดร้อน เพราะไม่มีลูกค้า

โดยเฉพาะผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่ต้องจ่ายค่าลงทุนไปไม่รู้กี่ร้อยล้าน(หรืออาจจะมากกว่า) ต้องเดือดร้อนหนัก

ดังนั้น สถานการณ์เกี่ยวกับรถแก๊สระเบิดจึงต้องเกิดขึ้น เพื่อให้คนกลัวกับการที่จะนำรถไปติดแก๊ส และกลับไปใช้น้ำมันอย่างเดิม

ไม่มีใครรู้หรอกว่า ตัวเรานั้น มีอุปกรณ์ หรือเครื่องควบคุมสมองในร่างกายเราหรือไม่

โดยเฉพาะพวกที่ชอบรับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ดของฝรั่ง พวกนี้เสี่ยงมาก เพราะง่ายในการควบคุม

เอาเป็นว่าไม่ขออธิบายว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นได้อย่างไรละกัน

ทีนี้เราจะมากล่าวถึงแก๊ส กันหน่อยดีกว่า

จริงๆแล้ว แก๊สที่เราเสียตังค์เติมนั้น รู้หรือเปล่าว่าเอามาจากไหน
...................................................................................
แก๊สที่เราเสียตังค์ไปเติมลิตรละ 10 บาท(ประมาณ) นั้น จริงๆแล้ว เป็นอะไรที่เราไม่ต้องเสียตังค์เลยก็ได้ เพราะตามจริงแล้ว แก๊สที่เอามาขายนั้น เป็นผลพลอยได้ฟรีๆของผู้ผลิต

เนื่องจากแก๊สนั้น เป็นของเสียที่ระเหย(อาจใช้คำผิดนะ) ออกมา จากกระบวนการต่างๆ ซึ่งจริงๆแล้ว เราก็สามารถผลิตใช้เองกันได้ง่ายๆด้วยซ้ำ

หมดเรื่องแก๊สแล้ว ขอจบท้ายด้วย ภาษีสรรพสามิต ว่าคือค่าอะไร???
...................................................................................
ภาษีสรรพสามิต ที่เก็บจากน้ำมันนั้น จริงๆแล้ว ก็คือค่าพวก คอลเล็คชั่นต่างๆ ของพวกคุณหญิงทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นพวกเครื่องสำอาง น้ำหอม เสื้อผ้า รองเท้า โอ๊ย!จิปาถะ

อ้าว...อย่าเพิ่งหัวเราะนะ เพราะว่าไม่ได้กล่าวเล่นๆ

เคยกล่าวอยู่เสมอ และขอกล่าวอีกครั้งว่า

สิ่งที่เห็น มันอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น

 :slime_bigsmile:

ช่วงน้ำมันขึ้นไม่หยุดแทบทุกวันนั้น

เจ้าของรถก็พาเหรดไปติดตั้งระบบแก๊สเยอะจนอู่ทไม่ทันแถมขึ้นราคาอีกด้วย

ก็คงมีไม่น้อยที่ขาดมาตรฐานในการติดตั้ง ไม่ทราบต่างประเทศเป็นยังงัยบ้าง

ถ้ามีรถที่ใช้น้ำเติมแทนน้ำมันสัก 50%

แต่ความเร็วหรืออัตรเร่งหายไป 30-40%  น่าสนใจมั้ยคับ

ผมว่าคงมีคนตั้งตารอวันนั้น(ไม่รู้วันไหน?)

ไม่นานหรอกค่ะ คุณ boyk

เพราะตอนนี้ที่อุดร เค้าก็สามารถทำได้แล้ว

ซึ่งจริงๆแล้ว รถที่เติมน้ำนั้น มีคนคิดได้หลายปีมาแล้วค่ะ แต่ตายไปแล้ว

และองค์กรต่างชาติ ก็นำกระบวนการนี้ ไปต่อยอด กลายเป็นระเบิดไฮโดรเจน ซึ่งอันตรายที่สุดในโลก

ลองคิดดูง่ายๆว่า โลกของเรานั้น ประกอบไปด้วย ไฮโดรเจนแทบจะทุกอย่าง

แล้วหากโครงการนี้ ไม่ถูกพับไปซะก่อน โลกเราคงเป็นจุลไปแล้ว