หัวข้อ: เศรษฐีจีนชนะประมูลซื้อมงกุฎเจ้าหญิงอังกฤษ - เศรษฐกิจญี่ปุ่นดี (ข่าวดีหรือร้าย?) เริ่มหัวข้อโดย: AsianNeocon ที่ 14-06-2006, 20:55 ข่าวแรกวันนี้ทางทีวี ได้ฟังผ่าน เศรษฐีจีนกระเป๋าหนักคนหนึ่งชนะประมูลซื้อมงกุฎเจ้าหญิงอังกฤษ มูลค่า $60 ล้าน
ฟังเผินๆ คงตกใจ โอ้โห เดี๋ยวนี้จีนมั่งคั่งขนาดนี้แล้วหรือ กล้าไปประมูลซื้อของหรูหราในระดับโลก แต่เมื่อย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ไม่เกิน 20 ปีที่แล้ว เหมือนประสบการณ์ dejavu (ความรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอมาก่อน) ญี่ปุ่นก็เคยผ่านประสบการณ์คล้ายๆกัน กล่าวคือ ยุคนั้นญี่ปุ่นเศรษฐกิจโตแบบทะยาน มีแต่ข่าวเศรษฐีหรือบริษัทญี่ปุ่นออกช้อปปิ้งสินทรัพย์ทั่วโลก ไปประมูลตรงนั้น ไปเทคโอเวอร์ตรงนี้ อเมริกาขาดดุลมโหฬารแก่ญี่ปุ่น จึงบีบให้ญี่ปุ่นเพิ่มค่าเงินเยน ญี่ปุ่นไปเชื่อ นำมาซึ่งข้อตกลง Plaza Accord (พลาซ่า อะขอร์ด) ต่อมาไม่นานต้นยุค 90 ญี่ปุ่นฟองสบู่แตก ตรงการเพิ่มค่าเงินเท่านั้นที่ทำให้จีนแตกต่างจากญี่ปุ่น ซึ่งจีนยังไม่ทำ ใช้เวลา 15 ปีกว่าจะฟื้นเมื่อเร็วๆนี้ ตรงนี้คงบอกไม่ได้ว่า จีนจะร่อนลงอย่างราบรื่นได้หรือเปล่า แต่จากแบบแผนของเหตุการณ์มันคล้ายคลึงกันมาก แล้วมันจะกระทบมาที่ไทยยังไง :?: ข่าวที่ 2 สัญญาณเศรษฐกิจฟื้นแน่นอนแล้ว ทุกอย่างดูสดใสสำหรับญี่ปุ่น ถ้าเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออกไปญี่ปุ่น เราน่าจะดีใจที่ญี่ปุ่นอาจจะออกมาจับจ่ายซื้อของเรามากขึ้น แต่ว่า อัตราดอกเบี้ยญี่ปุ่นยังต่ำเรี่ยดิน เนื่องจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายมโหฬารมาเป็นเวลานาน ดังนั้นธนาคารกลางญี่ปุ่นคงจะต้องขึ้นดอกเบี้ย อันเป็นการปิดก๊อก ซึ่งจะทำให้เงินไหลย้อนกลับเข้าสู่ญี่ปุ่นมากขึ้น ตรงนี้เป็นคำถามว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นที่จะฟื้นเป็นข่าวดีสำหรับไทยแน่หรือ :?: ในยามที่ผู้คนในบ้านนี้เมืองนี้กำลังสาละวนอยู่กับการใช้หนี้บัตรเครดิต เงินผ่อน ในระบบ นอกระบบต่างๆ หลังจากที่รัฐบาลหน้าเหลี่ยมรณรงค์ให้ กู้ กิน ใช้ ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาเพื่อดันตัวเลข GDP เช่น วลีอันลือลั่น "กู้แล้วจะรวยอย่างผม" ขณะนี้เครื่องยนต์ 4 เครื่องยนต์ ที่ประกอบเป็น GDP คือ - การใช้จ่ายรัฐบาล (G) ดับไปแล้วหนึ่ง จนกระทั่งกรมสรรพากินต้องออกขูดรีดพ่อค้าแม่ขายในขณะนี้ ส่วนนายก(เถื่อน)ก็สั่งให้ "ทนงซัง" เร่งออกหาเงินฝากกองทุนสารพัดเพื่อนำมากระตุ้นโดยด่วน เพราะตลอดมารัฐบาล(เถื่อน)ได้นำไปปล่อยกู้ในโครงการประชานิยมต่างๆ แต่ไม่รู้กระตุ้นท่าไหน ถ้ามันสำเร็จ น่าจะมีผลตอบแทนกลับมาอย่างยั่งยืนไปนานแล้ว - การบริโภคของประชาชน (C) ดับไปแ้ล้วอีกหนึ่ง ไม่ต้องอธิบายต่อ - การลงทุนภาคเอกชน (I) ทาง BOI ออกมายอมรับกลายๆแล้วว่า คงไม่เป็นไปตามเป้า ส่วน megaprojects 1.7 ล้านล้านที่เคยคุยไว้ก็คงได้แค่ฝัน เพราะแม้แต่รัฐบาล(เถื่อน) ก็มีปัญญาแค่ไปเชิญต่างชาติมา แต่เสือกไม่มีทิศทาง บอกให้ต่างชาติไปศึกษาและเสนอมา (ใครวะ อยู่ดีๆเสียเงินไปศึกษา แต่ไม่มีหลักประกันว่าจะเอาโปรเจ็กต์ที่กูเสนอไปหรือเปล่า) คงเหลือเพียง การส่งออกสุทธิ (X) หรือส่งออก-นำเข้า เพียงตัวเดียวเท่านั้น แต่ว่าขณะนี้อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกอยู่ในขาขึ้นเพื่อสะกัดเงินเฟ้อจากราคาสินค้าพื้นฐาน (commodities) ที่มันแพงขึ้นมา กระทบการบริโภคของโลก และกระทบมาที่ต้นทุนของธุรกิจหลายราย การเปิด FTA ก็ทำให้สินค้าจากต่างประเทศทะลักเข้ามามาก ประกอบกับโลกาภิวัตน์ทำให้การฟาดฟันกันรุนแรงมากขึ้น หมู่นี้ เลขาฯสภาพัฒน์ ดร.โกร่ง ดร.ลิ่ม ซึ่งล้วนเป็นคนของฝ่ายรัฐบาล(เถื่อน)ออกมาให้สัมภาษณ์ แสดงความอ่อนอกอ่อนใจไปตามๆกัน ซึ่งผิดจากปกติวิสัยที่มักจะปลาบปลื้มกับนโยบายประชานิยมของรัฐบาล(เถื่อน) สรุปว่า วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือ "คอกใครคอกมัน" แล้วกัน ถ้าคุณและครอบครัวคุณ และคนไทยเฉพาะที่ยึดเศรษฐกิจพอเพียงมาตลอด ไม่เชื่อตามที่ไอ้เหลี่ยมมันยุ คุณสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง ก็เท่ากับคุณสร้างให้กับประเทศชาติ ยิ่งจำนวนคนยึดเศรษฐกิจพอเพียงมีมากเท่าไร ประเทศก็จะแข็งแรงตามไปด้วย คนที่ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงไม่ว่าจะอาชีพชาวนายันมนุษย์เงินเดือนยันเถ้าแก่ คุณจะเป็น "ก๊อก 2" แม้น้อยนิด ให้แก่ประเทศ และตัวคุณจะรอดและพาชาติฟื้น ในยามที่พวกโง่ที่ไปเชื่อไอ้เหลี่ยม กู้ กิน ใช้แล้วก็ล้มตายกันหมด หัวข้อ: Re: เศรษฐีจีนชนะประมูลซื้อมงกุฎเจ้าหญิงอังกฤษ - เศรษฐกิจญี่ปุ่นดี (ข่าวดีหรือร้า เริ่มหัวข้อโดย: Yodyood ที่ 14-06-2006, 21:34 คุณ Thaitruth
ผมว่าก็อกสองมันก็จะโดนหางเลขไปตามภาวะประเทศไม่น้อยเหมือนกันนะครับ ถึงจะเป็นทางอ้อมก็เถอะ หัวข้อ: Re: เศรษฐีจีนชนะประมูลซื้อมงกุฎเจ้าหญิงอ เริ่มหัวข้อโดย: AsianNeocon ที่ 14-06-2006, 22:15 คุณ Thaitruth ผมว่าก็อกสองมันก็จะโดนหางเลขไปตามภาวะประเทศไม่น้อยเหมือนกันนะครับ ถึงจะเป็นทางอ้อมก็เถอะ ก็ดีกว่าไม่มีก๊อกสองเลยอะครับ ผมเชื่อว่า ถ้าพวกเราไม่ว่าจะ ชาวนา นักธุรกิจ ลูกจ้าง ประหยัดการใช้จ่ายตอนนี้ ตัวเลข GDP มันทรุดแน่ แต่มันเป็นการทรุดเพื่อรักษาตัวเอง เอาไว้เป็น "ก๊อกสอง" ยามวิกฤต ในหลวงเคยมีพระราชดำรัสหลังเกิดวิกฤติ ที่หลายๆคนลืมไปแล้วว่า "ถอยหลังเพื่อก้าวหน้า" พร้อมๆกับเศรษฐกิจพอเพียง แต่พวกหน้าเหลี่ยมกลับจะหาทางกระตุ้นตัวเลข GDP โดยบิดเบือนหาว่า ถ้าไม่ใช้จ่ายเดี๋ยวเศรษฐกิจมันไม่โต(แต่ตัวมันเองและพวกตักตวงเต็มที่) ก็เลยใช้จ่ายกันจน overheat ไปเลยแล้วก็ทรุดไปดื้อๆ เหมือนตอนนี้อะ แล้วมันยังไม่สำเหนียกจะกระตุ้นต่ออีก หัวข้อ: Re: เศรษฐีจีนชนะประมูลซื้อมงกุฎเจ้าหญิงอังกฤษ - เศรษฐกิจญี่ปุ่นดี (ข่าวดีหรือร้า เริ่มหัวข้อโดย: Yodyood ที่ 14-06-2006, 22:18 จากตัวเลขหนี้ที่เพิ่มขึ้น ผมคิดว่าเหลี่ยมต้องการกระตุ้น GDP เพื่อทำให้
อัตราส่วนระหว่างหนี้คงค้าง กับ GDP มันดูดีด้วยนะครับ (ถึงจริงๆมันจะไม่ดีก็เถอะ) อันนี้ผมคิดว่าอันตรายไม่น้อยเลย ถ้า GDP ปลอมๆมันถึงทางตันเมื่อไหร่ ผมไม่อยากจะคิดอ่ะ หัวข้อ: Re: เศรษฐีจีนชนะประมูลซื้อมงกุฎเจ้าหญิงอังกฤษ - เศรษฐกิจญี่ปุ่นดี (ข่าวดีหรือร้า เริ่มหัวข้อโดย: AsianNeocon ที่ 14-06-2006, 22:22 จากตัวเลขหนี้ที่เพิ่มขึ้น ผมคิดว่าเหลี่ยมต้องการกระตุ้น GDP เพื่อทำให้ อัตราส่วนระหว่างหนี้คงค้าง กับ GDP มันดูดีด้วยนะครับ (ถึงจริงๆมันจะไม่ดีก็เถอะ) อันนี้ผมคิดว่าอันตรายไม่น้อยเลย ถ้า GDP ปลอมๆมันถึงทางตันเมื่อไหร่ ผมไม่อยากจะคิดอ่ะ ตรงนี้จริงอย่างยิ่งครับ เป็นการตกแต่งตัวเลขอย่างหนึ่ง สังเกตว่า การแถลงสถานการณ์หนี้ประเภทไหนก็ตาม ไอ้เหลี่ยมมักพูดในแง่อัตราส่วนกี่% ต่อ GDP แต่ไม่พูดส่วนที่เป็นตัวเลข แล้วก็ไม่ได้บอกว่า แล้วถ้าสถานการณ์พลิกผัน GDP หยุดโต มันจะเกิดอะไรขึ้น หัวข้อ: Re: เศรษฐีจีนชนะประมูลซื้อมงกุฎเจ้าหญิงอังกฤษ - เศรษฐกิจญี่ปุ่นดี (ข่าวดีหรือร้าย?) เริ่มหัวข้อโดย: The Tiger ที่ 14-06-2006, 23:08 ตั้งแต่เจอภาวะต้มยำกุ้งปี 2540 ครอบครัวผม ซึ่งมีพี่สาวเป็นหัวเรือ ทำธุรกิจนำเข้า ใช้หลักพอเพียงมาตลอดคือไม่ก่อหนี้ ช่วงที่เกิดวิกฤต เรายังได้ที่ดินแปลงงามๆราคา๔กมากๆมาหลายแปลง ช่วงนั้นมีแต่ผมคนเดียวที่หน้ามึดซื้อหุ้นโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ ก็หมดเงินที่ออมไว้ หลังจากนั้นก็เข็ด ยึดแนวทางห้ามเป็นหนี้เด็ดขาด ผมว่าถ้าเกิดอีกรอบพวกรากหญ้าและพวกใช้แรงงาน ตลอดจนพวกทำงานกินเงินเดือนไม่ถึง 20000 บาทต่อเดือนตายก่อน เพราะพวกนี้ไม่มีระเบียบวินัยในการใช้เงิน เปลี่ยนโทรศัพท์ป็นว่าเล่น หน้าเหลี่ยมมันสอนให้คนฟุ้งเฟื้อ ยึดทุนนิยมป็นลมหายใจเข้าๆออกๆ คนรอบข้างของมันเข้าไปปั่นหุ้นในตลาด จนนักลงทุนรายย่อยเจ๊งระนาว วิกฤตคราวนี้ ซึ่งคาดว่าอีก 2-3 ปีข้างหน้าถึงจะเกิด ตอนนี้ยังมีจีน ญี่ปุ่น อินเดีย ช่วยดึงไปด้วย ทำให้ส่งออกเรายังโอเค อีก 2-3 ปีข้างหน้า ฟองสบู่จีนแตก ตอนนั้นทุกคนโดยเฉพาะรากหญ้าจะสาปแช่งหน้าเหลี่ยม เพราะทำให้เขาเป็นหนี้เป็นสินล้นตัว วิกฤตคราวนี้จะกระทบผู้คนในสังคมอย่างประมาณมิได้
หัวข้อ: Re: เศรษฐีจีนชนะประมูลซื้อมงกุฎเจ้าหญิงอังกฤษ - เศรษฐกิจญี่ปุ่นดี (ข่าวดีหรือร้าย?) เริ่มหัวข้อโดย: สมชายสายชม ที่ 14-06-2006, 23:25 เห็นด้วยกับกระทู้ของคุณ ThaiTruth
เจอภาวะน้ำมันแพง .. ขาดดุล .. ดอกเบี้ยขาขึ้น .. สินค้าแพง .. เงินเฟ้อ อย่าประมาทเรื่อง ฟองสบู่แม้วแตก ต้องรีบสร้างภูมิคุ้มกันตัวเอง หัวข้อ: Re: เศรษฐีจีนชนะประมูลซื้อมงกุฎเจ้าหญิงอ เริ่มหัวข้อโดย: AsianNeocon ที่ 14-06-2006, 23:37 ช่วงที่เกิดวิกฤต เรายังได้ที่ดินแปลงงามๆราคา๔กมากๆมาหลายแปลง โห เก่งมากเลยครับ แปลงวิกฤตเป็นโอกาส ครอบครัวผมมีแต่ติดดอยที่ดินที่ราคายอดดอย ไม่กล้ากลับเข้าไปซื้อของถูก จำได้ว่าไอ้พวกไต้หวัน สิงคโปร์ อะแสบสุด มันเข้ามาเก็งกำไรที่ดินแล้วก็ขายออกไปตอนยอดๆเลย ฉลาดมาก เสร็จแล้วพอเกิดวิกฤต มันก็เอาเงินกลับมาฝากในธ.ไทยตอนที่ไทยต้องตรึงดอกสูงๆสู้กับการทุบเงินบาท สูบดอก 17% แถมบางรายผจก.สาขาควักส่วนตัวแถมอีก กันอิ่มไปเลยตอนนั้นทุกคนโดยเฉพาะรากหญ้าจะสาปแช่งหน้าเหลี่ยม เพราะทำให้เขาเป็นหนี้เป็นสินล้นตัว วิกฤตคราวนี้จะกระทบผู้คนในสังคมอย่างประมาณมิได้ |