ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: Can ไทเมือง ที่ 12-08-2008, 12:06



หัวข้อ: "หมักโหนฟ้า"...คนไทยกล้าคิดแต่ไม่ค่อยมีคนกล้าเขียน...
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 12-08-2008, 12:06
'สมัคร' คนโหนฟ้า
:โดย หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ

อาการของ'สมัคร' ณ วันนี้..คล้ายคลึงกับอาการของ'พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร' อย่างยิ่ง ซึ่งหลังจาก'พ.ต.ท. ทักษิณ' ประกาศ'เว้นวรรค' ได้สักพัก ก็กลับมาปฏิบัติหน้าที่นายกฯ อีกคำรบหนึ่ง โดยอ้างเหตุเรื่องการจัดงานพิธีถวายเจ้านาย

'สมัคร สุนทรเวช' นายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม แถลงข่าวการจัดงาน'116 วันจากวันแม่ถึงวันพ่อ" เป็นครั้งแรก ผ่านรายการ 'สนทนาประสาสมัคร' เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ซึ่งนอกจากจะให้เหตุผลในการจัดงานเพื่อถวายเจ้านายทั้ง 2 พระองค์แล้ว

เขายังยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า '...เป็นการอ้างเหตุขอบารมีเจ้านายมาดับชนวน แบ่งซีกกันอย่างนี้ ผมก็ต้องพยายามไม่ให้แบ่งซีก..'

หลังจากนั้นมีคำยืนยันจากปาก'สมัคร' อีกครั้งในขณะร่วมงานที่วัดยานนาวา เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ว่า 'ในยามที่บ้านเมืองแตกแยก ผมก็ต้องพึ่งบารมีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน... ใครจะอะไรยังไงต่อไป แต่กระผมจะไม่ใช่คนริเริ่ม จะไม่เป็นฝ่ายไปทำความรุนแรง'

ทำให้สังคมอดสงสัยไม่ได้ว่านายกฯ ที่ประกาศตัวว่า เป็น'คนเลือดสีน้ำเงิน' มุ่งมาดปรารถนาจัดงานเทิดราชบัลลังก์อย่างแท้จริง

หรือมีวาระซ่อนเร้นกันแน่ ?

ไม่เช่นนั้นคงไม่ป่าวประกาศ'เหตุผลระหว่างบรรทัด' ซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ

บิ๊กการเมืองหลายคนวิจารณ์ว่า อาการของ'สมัคร' ณ วันนี้ดูแล้วคุ้นๆ และคล้ายคลึงกับอาการของ'พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ในช่วงปลายรัฐบาล'ทักษิณ 2' อย่างยิ่ง ซึ่งหลังจาก'พ.ต.ท. ทักษิณ' ประกาศ'เว้นวรรค' ได้สักพัก ก็กลับมาปฏิบัติหน้าที่นายกฯ อีกคำรบหนึ่ง โดยอ้างเหตุเรื่องการจัดงานพิธีถวายเจ้านาย

อย่างไรก็ตามถ้าเปรียบเทียบวิบากกรรมของนายกฯ คนที่ 23 กับนายกฯ คนที่ 25 จะพบว่า'สมัคร' ตกอยู่ในอาการ'คางเหลือง' และ'ปางตาย' กว่า'พ.ต.ท. ทักษิณ' หลายเท่า

เนื่องจาก'พ.ต.ท. ทักษิณ' ในวันนั้น ถูกตราหน้าว่าเป็น'ผู้นำที่ขาดความชอบธรรม' หลังครอบครัว'ชินวัตร' เทขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด ให้เทมาเส็กของสิงคโปร์ โดยไม่เสียภาษี

ขณะที่'สมัคร' ในวันนี้ กำลังจะถูกชี้หน้าว่า เป็น'ผู้นำที่มีปัญหาทางกฎหมาย' หลังตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาอย่างน้อย 5 คดี ใน 3 ศาล อาทิ คดีหมิ่นประมาท' สามารถ ราชพลสิทธิ์' อดีตรองผู้ว่าราชการกทม. ซึ่งอยู่ในชั้นศาลอุทธรณ์(แพ้ในคดีศาลชั้นต้น)  คดีชิมไปบ่นไปซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ฯลฯ

คดีความทั้งหมดนี้อาจทำให้เขาขาดคุณสมบัติจากการเป็นนายกฯ !

จึงไม่แปลกอะไรหาก'สมัคร' จะหลุดปากต่างกรรมต่างวาระด้วยน้ำเสียงประชดประชันว่า'ใครๆ กลัวศาลทั้งนั้น'

อย่างไรก็ตาม'คนใกล้ตัว' ผู้นำฝีปากกล้าเผยว่า'สุดยอดความกลัว' ของ'สมัคร' หาได้อยู่ที่ศาลไม่ หากแต่อยู่ที่' คน' นายสมัครเข้าใจว่าเป็น'คนชี้ทิศตุลาการภิวัฒน์'

ไม่เช่นนั้นคงไม่มีการยักคิ้วหลิ่วตาให้'ลูกหาบพปช' (พรรคพลังประชาชน) ออกมาเย้วๆ เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550  โดยอ้างว่า ต้องการตรวจสอบองคมนตรีที่เข้าไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ในบริษัทเอกชนหลายแห่ง

แม้ในเวลาต่อมา ข้อเสนอดังกล่าวจะถูกปิดเกมอย่างรวดเร็วด้วยการออกมาปฏิเสธโดย'มือกฎหมายรัฐบาล' เพราะเกรงว่าการรื้อ'รัฐธรรมนูญสีเขียว' จะล่มทั้งขบวน หากไปแตะเอาองคมนตรี เข้า

แต่อย่างน้อย 'ปากสกปรก' ก็ได้ส่งสัญญาณตรงถึง'มือที่มองไม่เห็น' แล้วว่า'รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ อย่าให้มันมากไป'

และทำให้'สัญญาลับ' ที่'สมัคร' เคยให้ไว้กับ'นายใหญ่' นั่นคือ จะไม่ยุบสภา ไม่ลาออกจนกว่างบประมาณปี 2552 จะผ่าน และการเตรียมความพร้อมเรื่องไพร่พลในกระทรวงมวลชนเสร็จเรียบร้อย มีความเป็นไปได้สูงขึ้น

แต่พลันที่'สมัคร' อ้างเหตุขอพึ่งพระบารมี จัดงาน'116 วันจากวันแม่ถึงวันพ่อ' อายุขัยนายกฯ คนที่ 25 ก็เหมือนจะถูกต่อออกไปอีก 3 เดือน (ถึงเดือนธันวาคม) จากเดิมที่ทำท่าว่า จะสิ้นสุดลงในช่วงปลายเดือนกันยายน เพราะทั้ง'นายใหญ่' กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมถึง'อำนาจที่ 3' คงไม่อยากถูกโยนข้อหาขัดขวางการจัด'งานมงคลของประเทศ' ใส่ เนื่องจากเป็นเรื่องอ่อนไหวสำหรับคนไทย

อย่างไรก็ตามปลายทางนายกฯ คนที่ 25 ที่เคยบอกเล่า ให้คนใกล้ชิดฟัง กลับมิได้สิ้นสุดลงในเดือนธันวาคม 2551 แต่'สมัคร' ต้องการครองอำนาจไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2552 เพื่อจารึกลงประวัติศาสตร์การเมืองไทยว่าบุคคลที่ถูกมองว่าเป็น'นอมินี' อย่างเขา สามารถเป็นนายกฯ ได้ครบปี

จึงทำนายได้ว่า'สมัคร' จะก่อวีรกรรม'คนโหนฟ้า' อีกหลายระลอก!!!

มติชน


หัวข้อ: Re: "หมักโหนฟ้า"...คนไทยกล้าคิดแต่ไม่ค่อยมีคนกล้าเขียน...
เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 12-08-2008, 14:48
ฟ้านั้นมีเมตตาเสมอ  :slime_worship:

หมักอยากโหนก็โหนไป   :slime_whistle:


แต่หมักยิ่งโหน  แม้วยิ่งหนาว  และหมักก็แสดงให้เห็นแล้วว่า โหนเก่งกว่าแม้ว  แม้วหรือสู้พยายามมาตั้งแต่ส่งคางคกไปหาห่านฟ้า และทำทุกวิถีทาง ก็ไม่สำเร็จ จนต้องหันดาบเข้าใส่ แล้วตนเองก็ตายไปในที่สุด  :slime_smile:


หมักกะแม้ว   น้ำลายแตกแล้วแยกทางกันไปแร้ววว  :slime_v:


หัวข้อ: Re: "หมักโหนฟ้า"...คนไทยกล้าคิดแต่ไม่ค่อยมีคนกล้าเขียน...
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 12-08-2008, 14:59
ฟ้านั้นมีเมตตาเสมอ  :slime_worship:

หมักอยากโหนก็โหนไป   :slime_whistle:


แต่หมักยิ่งโหน  แม้วยิ่งหนาว  และหมักก็แสดงให้เห็นแล้วว่า โหนเก่งกว่าแม้ว  แม้วหรือสู้พยายามมาตั้งแต่ส่งคางคกไปหาห่านฟ้า และทำทุกวิถีทาง ก็ไม่สำเร็จ จนต้องหันดาบเข้าใส่ แล้วตนเองก็ตายไปในที่สุด  :slime_smile:


หมักกะแม้ว   น้ำลายแตกแล้วแยกทางกันไปแร้ววว  :slime_v:

^
^ ตอบได้เจ๋งจริง ๆ  :slime_v: :slime_v: :slime_v:



หัวข้อ: Re: "หมักโหนฟ้า"...คนไทยกล้าคิดแต่ไม่ค่อยมีคนกล้าเขียน...
เริ่มหัวข้อโดย: Caocao ที่ 12-08-2008, 15:05
ลำพังแค่ยืนบนโพเดียม หรือนั่งเก้าอี้นายก ยังแถบล้มกลิ้งล้มหงาย ฉไหนไปเล่นบทห้อยโหนได้ อิอิอิ สงสัยคงพร้อมทั้ง สริงค์ และสแตนอินท์ แล้วกระมั่ง :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: "หมักโหนฟ้า"...คนไทยกล้าคิดแต่ไม่ค่อยมีคนกล้าเขียน...
เริ่มหัวข้อโดย: Solidus ที่ 12-08-2008, 15:09
หมักนับเป็นความผิดพลาดอย่างหนึ่งของหน้าเหลี่ยม  :slime_bigsmile: ดันเลือกคนเป็นอมินีผิด


หัวข้อ: Re: "หมักโหนฟ้า"...คนไทยกล้าคิดแต่ไม่ค่อยมีคนกล้าเขียน...
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 12-08-2008, 22:39
เมื่อนิติบัญญัติและบริหารทำผิด

จะโดน "ตุลาการ" ปรับสมดุลเสมอเพื่อรักษากฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์ และไม่ให้อำนาจอื่นๆ ใช้อำนาจเกินขอบเขต

นั่นคือการคานอำนาจในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจอธิปไตยทั้ง 3 ผ่านสถาบันทั้ง 3

อำนาจทั้ง 3 นั้น ถึงที่สุดก็ต้องมี "พระปรมาภิไธย" มารับรองความชอบธรรมเช่น

อำนาจนิติบัญญัติ สภาร่างกฎหมายตามอำนาจหน้าที่ ก็ต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ทรงลงพระปรมาภิไธย

อำนาจบริหาร ปล่อยให้รัฐบาลทำงานตามอำนาจหน้าที่ หากจะออกกฎของรัฐบาล ทำได้แต่ต้องนำไปผ่านสภาในภายหลัง

แต่ที่สำตัญที่สุด ตุลาการมีอำนาจมีอำนาจเป็นผู้รักษากฎของสังคมและกระทำในพระปรมาภิไธย ( ใช้คำนี้บ่อย )

ทำหน้าที่ชี้ผิดชี้ถูก ซึ่งทุกอำนาจต้องรับฟังและต้องยอมรับมีผลต่อทุกองค์กร

แม้นายสมัครเองก็กำลังจะโดนตรวจสอบครั้งสำคัญโดยอำนาจ "ตุลาการ" อยู่หลายคดี

แต่นายสมัครก็ไม่วายแขวะไปทาง "องค์กรอิสระ" ซึ่งโดยหลักจะต้อง "มีพระบรมราชโองการ"

นายสมัครลืมไปว่า องค์กรอิสระที่มีอยู่นั้นได้รับรองในมาตรา 298-299 ในรัฐธรรมนูญ 2550 ไปเรียบร้อยแล้ว

เนื่องเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่าง รัฐธรรมนูญ 2549 มาเป็นรัฐธรรมนูญ 2550 และ ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้รับรองความถูกต้องไว้อีกชั้นหนึ่ง

หลักวิชา "โหนฟ้า" ของนายสมัครในกรณีนี้ ลิ่วล้อต่างรับลูกกันมาเคลื่อนไหว ให้ข้อมูลผิดๆ ต่อสาธารณะ โดยนายสมัครลอยตัวเหนือปัญหา

ทั้งๆ ที่ตนเองเป็นผู้เปิดเกม "โหนฟ้า" อ้างเรื่อง "พระบรมราชโองการ" ขึ้นมาก่อน

นายสมัครโหนฟ้าก็โหนไป ทำได้เท่าที่ควรทำและไม่มีใครต่อว่านายสมัครเพราะประชาชนทุกคนรักฟ้า...อย่าว่าแต่ 3 เดือนแค่นั้น

ประชาชนทุกหมู่เหล่ายินดีเต็มใจทำกันตลอดทั้งชีวิต มืใช่แค่เวลา 116 วันเท่าที่รัฐบาลประกาศออกมาเท่านั้น

แต่ถ้าสมัครคิด "โหนฟ้า" เพื่อมาทำลายความชอบธรรมของ "มหาวิทยาลัยราชดำเนิน"

สมัครจะต้องคิดผิด เพราะพันธมิตรฯ ประกาศตั้งแต่ปี 48-49 "เราจะสู้เพื่อในหลวง" มาตั้งแต่ต้น

แม้ภาพพจน์เก่าๆ ของสมัครที่บอกว่า "มีเลือดสีน้ำเงิน" ที่ใครก็ลบล้างได้ยาก

แต่ต้องไม่ลืมว่าการกระทำของรัฐบาลนอมินีของสมัคร ก็ถูกแฉว่ากำลังขายชาติทำให้ชายแดนลุกเป็นไฟ จนถึงขั้นสูญเสียอธิปไตยและดินแดน

เมื่อไปกระแซะ "ลูกจีนรักชาติ" จึงโดนตอกกับว่า "ลูกพระยาหอกหักขายชาติ"

เรามาคอยดูกันว่า ลีลา "โหนฟ้า" ของสมัครนอกจากจะทำให้ทักษิณและลิ่วล้อหน้าแตกวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศแล้ว

รัฐบาลหอกหักขายชาติ จะโหนฟ้ามาทำอะไรที่เป็นการ "โกงกินชาติ" ด้วยการอนุมัติงบประมาณอะไรบ้างและลบล้างหลักการรัฐธรรมนูญอะไรอีกบ้าง

วันที่ 18 นี้ ลูกพรรคพลังประชาชนยังจะแข็งขืนยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อทำให้พวกพ้องตนเองพ้นผิดโดยไม่รับฟังเสียงประชาชนหรือไม่

เพราะหากจะ "อิงฟ้า" หรือ "โหนฟ้า" ต้องกลับไปฟังพระราชดำรัสที่องค์พระประมุขตรัสแก่บรรดา "ตุลาการ" หลายครั้งหลายคราในห้วง -3 ปีที่ผ่านมา

ถ้าจะอิงฟ้าโหนฟ้า ต้องให้ประชาชนมั่นใจว่านั่นเป็น "พระราชประสงค์"  ที่แท้จริง

อย่าได้"อิงฟ้า โหนฟ้า" กระทำชั่วช้าเลวทรามต่อประเทศชาติเป็นอันขาด

การขอพึ่งพระบารมี นั้นถูกต้องแล้ว เพราะคนไทยทุกคนก็อาศัยพระบารมีของพระองค์ผู้ทรงเป็นหลักชัยของแผ่นดินคุ้มเกล้าฯคุ้มกระหม่อมทั้งนั้น

และหากศาลท่านพิจารณาคดีของนายกรัฐมนตรี หรือยุบพรรคการเมือง ก็ขอให้ยอมรับ "พระบารมี" อย่าได้ออกมากล่าวหาแบบคนไม่มีหลักการอีกเลย

อย่ายึดถือคติ "ข้าไม่ผิด ข้าถูกกลั่นแกล้ง" เหมือนอดีตนายกรัฐมนตรีที่กำลังไม่มีแผ่นดินอยู่ในขณะนี้

ประเทศชาติจะได้ดำเนินไปอย่างสงบสุขกันเสียที

ที่สำคัญ นายกรัฐมนตรีต้องยึดมั่นคำพูดของตนว่าจะไม่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ใครจะออกฤทธิ์ออกเดชยังไง รัฐบาลจะอดทน

เพื่อให้เหตุการณ์สงบ...อย่าได้ออกมาข่มขู่ แตกหัก หรือบอกว่าจะให้สันติบาลตรวจสอบให้เป็นเหตุให้เกิดความบาดหมางอีกต่อไป

มิฉนั้นตัวนายกรัฐมนตรี จะโดนข้อหาหนักจากประชาชนผู้เฝ้าสังเกตการณ์ไปไม่พ้น


หัวข้อ: Re: "หมักโหนฟ้า"...คนไทยกล้าคิดแต่ไม่ค่อยมีคนกล้าเขียน...
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 13-08-2008, 08:53
ปชป.อัด 'สมัคร' สร้าง 10 ชนวนขัดแย้ง

นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการ 116 วันจากวันแม่ถึงวันพ่อ เพื่อความสมานฉันท์ ว่า วันนี้เป็นวันแรกที่เริ่มโครงการ แต่ตนเชื่อว่าโครงการนี้จะสำเร็จได้ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลเป็นหลัก แต่ที่ผ่านมา นายสมัคร ในฐานะผู้นำการบริหารประเทศ กลับมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงก่อให้เกิดชนวนเกิดความขัดแย้งแยกย่อยได้เป็น 10 เรื่อง

1.เริ่มแรกที่นายสมัครเข้ามาทำงาน ก็ได้พูดเรื่องเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 โดยระบุว่ามีคนตายเพียง1 คน

2.ที่ระบุว่าผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ตากใบ มีสาเหตุมาจากการอดอาหารและทับกันตาย

3.ที่อ้างว่ามีมือสกปรก อีแอบผมขาว และมือที่มองไม่เห็นจ้องล้มรัฐบาล

4.มีขบวนการวางแผนปฏิวัติล้มรัฐบาล แต่สุดท้ายก็โทษว่าเป็นความผิดของสื่อ

5.เหตุการณ์ปะทะคารมและมีปัญหากับสื่อหลายครั้ง

6.การที่รัฐฐาลผลักดันแก้รัฐธรรมนูญ

7.นายสมัครเคยระบุว่าจะสนับสนุนให้มีการล้างแค้นทางการเมือง

8.การประกาศว่าจะสลายม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยระบุว่าจะใช้ความรุนแรงอย่างเด็ดขาด

9.จัดรายการสนทนาประสาสมัคร เพื่อเป็นช่องทางโจมตีผู้อื่น และ

10.สนับสนุนให้กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ใช้สื่อของรัฐจัดรายการความจริงวันนี้ เพื่อโจมตีผู้อื่น โดยเฉพาะองค์อิสระ

ซึ่งทั้ง 10 ข้อคือชนวนความขัดแย้ง หากรัฐบาลไม่จริงจังที่จะสมานฉันท์ ตนคิดว่า 365 วันก็ไม่สามารถทำได้

ดังนั้น นายกฯ ต้องทำเป็นตัวอย่าง โดยงานแรกที่ต้องทำ คือถอดรายการความจริงวันนี้ ออกจากสถานีโทรทัศนเอ็นบีที

เพื่อจะได้แสดงออกถึงการเริ่มต้นสร้างความสมานฉันท์  


หัวข้อ: Re: "หมักโหนฟ้า"...คนไทยกล้าคิดแต่ไม่ค่อยมีคนกล้าเขียน...
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 13-08-2008, 09:16
 
ชีวิตหมักทำเป็นแต่ยุให้คนฆ่ากัน

สร้างความสามัคคีไม่เป็น :?


หัวข้อ: Re: "หมักโหนฟ้า"...คนไทยกล้าคิดแต่ไม่ค่อยมีคนกล้าเขียน...
เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 13-08-2008, 09:48
*  ถ้าเทียบชั้นระหว่าง  ทักษิณ กะ ลุงหมัก .... >  แม้ว  ชั้นเชิงดีกว่า หมัก หลายขุมนัก

    คนอย่าง  สมัคร  ฉลาดไม่ทัน  ทักษิณ หรอก .... ถึง สมัคร จะไม่ใช่คนโง่ก็ตาม

    สมัคร ....  ชอบโยนหินถามทาง  ด้วยการออกมาพูดหรือวิจารณ์เรื่องบางเรื่องแบบตีกัน

    แต่เพราะสำนวน ถ่ อย ๆ ของตัวเอง .... กระแสตอบรับเลยเป็น  ทางลบ  ตลอด

    อย่าริจะโหนฟ้าเลย  ลุงหมัก .... เพราะเหนือฟ้ายังมีฟ้า  นะจ๊ะ !!


หัวข้อ: Re: "หมักโหนฟ้า"...คนไทยกล้าคิดแต่ไม่ค่อยมีคนกล้าเขียน...
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 13-08-2008, 10:04
ประชาชนไล่ทุบตีกัน ทั้งที่ราชดำเนินและอุดรธานี

คนเป็นนายกรัฐมนตรีทำอะไรบ้าง พูดอะไรบ้าง เพื่อแสดงให้เห็นว่า บ้านเมืองมีขื่อมีแป

จะอิงฟ้า โหนฟ้า ทำอะไรบ้างกับคดีหมิ่นเบื้องสูง


หัวข้อ: Re: "หมักโหนฟ้า"...คนไทยกล้าคิดแต่ไม่ค่อยมีคนกล้าเขียน...
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 13-08-2008, 14:55
หมักนับเป็นความผิดพลาดอย่างหนึ่งของหน้าเหลี่ยม  :slime_bigsmile: ดันเลือกคนเป็นอมินีผิด


คัดเลือกคนนี้ เพราะค่าตัวถูกที่สุด ต้นทุนทางสังคมต่ำที่สุด.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


หัวข้อ: Re: "หมักโหนฟ้า"...คนไทยกล้าคิดแต่ไม่ค่อยมีคนกล้าเขียน...
เริ่มหัวข้อโดย: นักปฏิวัติ ที่ 13-08-2008, 15:01
“ชาวชนบทไม่ได้รับการพิทักษ์รักษา ถูกกดขี่ด้วยค่าธรรมเนียมไม่ชอบธรรม กลางคืนโจรปล้น กลางวันข้าราชการข่มเหง ในแว่นแคว้นของผู้ปกครองที่ชั่วร้าย ย่อมมีคนอาธรรม์มากมาย” พุทธพจน์

พระบรมราโชวาทของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

"...ในบ้านเมืองนั้นมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมืองและควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้ ..."


เดินหน้าไล่ พวกชั่วครองเมือง ออกไปติดคุก !!  :slime_fighto: