ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

เมื่อ วันที่ 18 กรกฎาคม 2551 นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษก กระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาบริเวณติดกับปราสาท พระวิหาร


July 18, 2008


เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2551  นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่า

วันนี้ (18 กรกฎาคม 2551) กระทรวงการต่างประเทศได้เชิญนายอึง เซียน เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย มาพบเพื่อมอบหนังสือที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามถึงสมเด็จอัคคมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ตอบหนังสือที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชามีมาถึงฝ่ายไทยเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2551

หนังสือของนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันความตั้งใจของรัฐบาลไทยที่จะแก้ไข สถานการณ์ในบริเวณพื้นที่ที่ติดกับปราสาทพระวิหารโดยสันติวิธีและเป็นธรรม โดยมอบหมายให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) สมัยพิเศษ ที่จังหวัดสระแก้ว ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2551 เพื่อหารืออย่างฉันมิตรกับฝ่ายกัมพูชา และย้ำว่าทั้งสองประเทศควรใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะป้องกันไม่ ให้เหตุการณ์ลุกลาม

นายกรัฐมนตรีไทยยืนยันว่าพื้นที่บริเวณวัดแก้วสิขเรศวรที่กล่าวถึงใน หนังสือของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาอยู่ในดินแดนของไทย  การที่ได้มีชาวกัมพูชาขึ้นไปสร้างวัด สิ่งปลูกสร้างต่างๆ รวมทั้งที่อยู่อาศัย กับทั้งมีทหารอยู่ในพื้นที่นั้น ถือว่าได้ละเมิดอธิปไตยและดินแดนของไทย ซึ่งเรื่องนี้ รัฐบาลไทยได้ทำการประท้วงเป็นลายลักษณ์อักษรมาแล้ว 4 ครั้งตั้งแต่ปี 2547 2548 2550 และครั้งหลังสุดเมื่อเดือนเมษายน 2551 

ฝ่ายไทยเห็นว่าการที่กัมพูชาเพิ่มกำลังทหารจาก 200 นายเป็นกว่า 1,000 นายได้ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้น  นายกรัฐมนตรีของไทยเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจและควรเร่ง รัดให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Commission: JBC) หารือโดยเร็วเพื่อสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนตลอดแนวระหว่างทั้งสองประเทศ อันจะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะเดียวกันนี้ขึ้นอีก และในระหว่างที่ JBC ดำเนินการอยู่ ฝ่ายไทยพร้อมที่จะเจรจาหารือถึงมาตรการชั่วคราวต่างๆ ที่จะใช้ไปก่อน เพื่อหยุดยั้งปัญหาใดๆ ที่อาจจะมีขึ้นหลังการมอบหนังสือให้เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยแล้ว กระทรวง
การต่างประเทศได้เชิญเอกอัครราชทูตของประเทศสมาชิกอาเซียนประจำ ประเทศไทยอีก 8 ประเทศมาพบเพื่อแจ้งท่าทีไทยและมอบสำเนาหนังสือลงวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ.2008 จากนายกรัฐมนตรีกัมพูชาถึงนายกรัฐมนตรีไทย  หนังสือลงวันที่ 18 กรกฎาคม ค.ศ.2008 จากนายกรัฐมนตรีไทยถึงนายกรัฐมนตรีกัมพูชาพร้อมด้วยเอกสารแนบคือสำเนา หนังสือประท้วง 4 ฉบับ ตลอดจนบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกไทย-กัมพูชา ที่ทั้งสองฝ่ายลงนามร่วมกันเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2543  นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้เวียนเอกสารดังกล่าวให้แก่สถานเอกอัครราชทูตของ ประเทศอื่นๆ ในประเทศไทยด้วย

นายธฤตฯ ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า การประท้วงทั้ง 4 ครั้งของไทยนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของบันทึกความเข้าใจฯ ปี 2543 ซึ่งข้อ 5 ของบันทึกความเข้าใจฯ ระบุว่า ระหว่างที่การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนระหว่างทั้งสองประเทศยังไม่เสร็จสิ้น ทั้งสองฝ่ายจะไม่ดำเนินการใดๆ ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมในบริเวณพื้นที่ชายแดน   บนพื้นฐานของข้อ 5 ของบันทึกความเข้าใจ ฝ่ายไทยทำการประท้วงต่อกัมพูชาเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2547 ประท้วงการขยายตัวของชุมชนกัมพูชาซึ่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในบริเวณพื้นที่ ชายแดนและก่อปัญหาขยะมูลฝอยและปัญหาน้ำเสียซึ่งส่งผลกระทบต่อชุมชนไทยใน บริเวณที่อยู่ต่ำกว่า รวมทั้งการก่อสร้างอาคารที่ทำการของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกัมพูชาในพื้นที่ดัง กล่าว  ต่อมา วันที่ 8 มีนาคม 2548  ได้ยื่นหนังสือประท้วงกัมพูชาเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ของกัมพูชาในการก่อสร้างและปรับปรุงถนนจากบ้านโกมุย อำเภอจอมกสาน จังหวัดพระวิหาร ถึงปราสาทพระวิหาร  ต่อมา วันที่ 17 พฤษภาคม 2550 ได้ยื่นหนังสือประท้วงคัดค้านเอกสารเสนอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารในบัญชี มรดกโลกของกัมพูชา และต่อการออกพระราชกฤษฎีกากัมพูชากำหนดเขตอนุรักษ์ปราสาทพระวิหาร ซึ่งล้ำดินแดนไทย และวันที่ 10 เมษายน 2551 ได้ยื่นหนังสือประท้วงกัมพูชาที่ละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และละเมิดข้อ 5 ของบันทึกความเข้าใจฯ ปี 2543 โดยย้ำคำประท้วงที่ผ่านมาทั้งสามครั้ง รวมทั้งขอให้ถอนกำลังทหารและตำรวจที่อยู่ในพื้นที่ที่มีการอ้างสิทธิทับซ้อน กันของกัมพูชาและไทยออกทันที

อย่างไรก็ดี กัมพูชาไม่เคยตอบสนองคำประท้วงของไทย

ขณะนี้ สถานการณ์ทั่วไปยังเป็นปกติ

จาก เว็บกระทรวงต่างประเทศ
http://www.mfa.go.th/web/2662.php?id=25755

จะดีกว่านี้หากไม่ไปด่าคนไทยทั้ง 3 คนก่อนหน้านี้  ครั้งนี้สมเป็นนายกของไทยเสียที

^
^
 :slime_agreed:

เฮ นาย กของเราตื่นแล้ว  :slime_bigsmile:

นายหมัก นายกนอมินีของไทย คงมึนและสลึมสลือ
คิดไม่ตก " เราบ้า " หรือว่า " คนไทยสามคนนั้นบ้ากันแน่ "


" ลิ้นกระดาษทราย น้ำลายแชลแลค "

โดนทหารที่เข้าไปประชุมด้วยจับมือเซ็นแถลงการมากกว่า
ไม่มีหวังกับนายกไร้ยางอายแบบนี้ ไม่มีทางคิดได้เอง
ไม่มีทางที่จะหาจิตสำนึกจากรัฐบาลสัตว์นรกพวกนี้ได้หรอก

 :slime_hmm:

นับว่าเป็นข่าวดี ที่ลุ้นมาทั้งวัน
ว่าหมักจะเอายังไงกะจดหมายฮุนเซน
นึกว่าจะยกธงขาวซะแล้ว
เป็นครั้งแรกน่ะเนี้ยที่เห็นด้วยกะรัฐบาลนอมินี

เจ๊ หมักมันต้มตุ๋นพาราจนเปื่อยไม่รู้กี่รอบแระ 
ไหนเอากระดาษที่มีกราครุฑ  มาโชว์ด้วยดิ๊
กลัวมันพูดอย่าง แต่จดหมายไปอีกอย่าง 
พอถึงโน่นแล้ว ต้องให้หอก ฮุนเซนมาอ่านออกทีวีด้วย

กรูเถิงจะเชื่อมาน :slime_cool:

ยังไม่เชื่อมันเหมือนกัน....จนกว่าจะเห็นหลักฐาน

..........กลัวมันแหกตาเหมือนแผนที่น่ะแหละ !!!  :slime_mad:  :slime_mad:  :slime_mad:

แถลงการก็ยังไม่เท่าไหร่หรอก
พูดกันคนละที จะเขียนยังไงก็ได้
ที่น่าเป็นห่วงคิอตอนที่ไปประชุมตกลงกันนั่นมากกว่า
เห็นท่าทีก่อนหน้านี้แล้วไม่น่าวางใใจซักคน
เผลอๆ ไปยกดินแดนเพิ่มให้เขมรซะอีก
แล้วก็ออกมาบอกชาวบ้านว่า "ไม่เสียดินแดน"
หรือไม่ก็ "ผมรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว"
ทั้งๆที่รับผิดชอบยังไงก็เทียบไม่ได้ความเสียหายของประเทศ

คงโดนทหารจับบังคับให้เซ็นมาแหงๆ เพราะก่อนประชุมได้ข่าวว่าสั่งให้ทหารเตรียมถอนกำลังมาแล้วนี้  :slime_hitted:

ประสาอะไร ขนาดผู้ก่อการร้ายยังปล่อยให้ออกทีวีหน้าตาเฉยได้

แค่ จม. สร้างภาพ หมูๆ  :slime_v:  :slime_smile:

 :slime_agreed: งานแรกของลุงหอกหัก เอ๊ยลุงหมัก ที่ทำไรเป็นชิ้นเป็นอันซะที

 

http://www.matichon.co.th/news_title.php?id=2520

หลังจากไอ้เหล่กระเด็นตกเก้าอี้
กระทรวงต่างประเทศก็เริ่มทำหน้าที่ได้อีกครั้ง :slime_fighto:

ขอชมจดหมายน้อยแผ่นนั้นหน่อยเหอะ ไม่อยากโดนต้ม :slime_inlove:
อิอิอิ ตามมาแก้ "ชม" ในที่นี้ มีความหมายเหมือนคำว่า "ดู" ครับ

อย่าเพิ่งชม ผลงานของรัฐบาลล้มเหลวมาตลอด ไปไม่รอดแล้ว

เรื่องเขาพระวิหารพวกรัฐบวยขี้เอาไว้  จะให้กองทัพไปนั่งเช็ดให้รึ

ถ้าเช็ดไม่สะอาด ก็เหม็นติดมือกองทัพ... รัฐบวยก็รอดไป

เรื่องนี้มี ลึก ลับ ลวง พลาง  ก็คอยดูก็แล้วกัน

กองทัพก็อ่อนแอ รัฐบวยก็ไม่เอาไหน เข้ามาจะโกงจะโกยอย่างเดียว

จริง ๆ แล้ว มันไม่มีอะไรต้องเจรจาแล้ว
เพราะว่า สถานะการณ์จริง ๆ ที่เกิดขึ้นก็คือ

อยู่ ๆ ไอ้พวกเขมร มันดันลวดหนาม ล้ำเข้ามาในเขตไทย ต่อหน้าต่อตา คนไทยที่ไปประท้วง
คือ ดันออกมาให้เห็น ๆ เลย 1 กิโลเมตร
คนที่ไปประท้วง ทนไม่ไหว ก็เลย เอาไม้กระดานพาด แล้ว เข้าไปนั่งประท้วง
ดันโดนทหารฝ่ายมันจับไปอีก

แถม ทหารไทย ที่ลาดตระเวน ก็โดน กับระเบิด
ซึ่ง มันมีสิทธิ์อะไร มาวางกับระเบิดในไทย

กรณีนี้ จึงไม่จำเป็นต้องออกจดหมาย ตอบโต้กับพวกมัน
เพราะไอ้ฮุนเซน มันออกจดหมาย มาสั่งให้ทางไทย ถอนทหาร
ถามหน่อย มันมีสิทธิ์อะไรมาสั่งทหารไทย

เกมนี้ ก็แค่เกมยื้อเวลา ของรัฐบาลตามเคย
ส้นตีนจริง ๆ รัฐบาล
ขอให้ตายไม่ดี ทั้งคณะ รวมทั้งลูกเมีย และผู้ที่เชียร์มันด้วย สาธุ :slime_worship:

ผมว่าโดนบีบมากกว่านะ กรณีเขาพระวิหารทำให้นายทหารจำนวนมากเริ่มไม่พอใจ

ขืนยังทำตัวเป็นนอมินีเขมรอีก ไม่แคล้วคงโดนสอย

จนปานนี้แล้ว คณะรัฐมนตรีก็ยังไม่ยอม มีมติยกเลิกเอกสารต่างๆที่เหล่ไปเซ็นไว้

แค่ปัดความรับผิดชอบให้ทหารไปเจรจา ระวังเอกสารต่างๆที่เหล่ไปเซ็นไว้จะเป็น

ข้อเสียเปรียบทางกฎหมายของไทย ระวังระเบิดเวลาที่เหล่วางเอาไว้ด้วยนะ

เอาล่ะมรึงงงงง
กระทู้ด่า + สาปแช่ง 3 คนไทยของนาย Kill...
ขณะนี้ได้กลายเป็นหลักฐานการกระทำความผิดอาญา 3 มาตราไปแล้วเรียบร้อยยยย
( 3 มาตราอะไรบ้าง  ปล่อยให้เดากันเองละกัน )

โทษทางอาญาน่ะจิ๊บ ๆ
คงไม่ติดคุกหรอก  เพราะ "เพิ่งโดนคดีเป็นครั้งแรก"
แต่ "ถ้าในวันหน้า" มีใครเขาจะเอาเรื่องที่ Kill ได้กระทำกับเขาไว้เสีย ๆ หาย ๆ จากสารพัดกระทู้
ไม่ว่าจะเป็นประธา่น กกต.  ตุลาการ  ฯลฯ
ซึั่งถือเป็นดคี "ต่างกรรมต่างวาระ" ทั้งสิ้น

คดีอาญา - อายุความ 10 ปี
แล้ว "ไอ้ที่โพส ๆ มาก่อนหน้านี้" ก็ยังไม่ถึง 2 ปีซะด้วยซ้ำ

...หมายความว่าอะไร ?

Kill ยังอายุไม่เท่าไหร่อ้ะนะ...แต่ท่านเหล่านั้นล้วนใกล้เกษียณเต็มที
ซึ่งหมายความว่าหลังเกษียณแล้ว  ท่านจะได้มีอะไรให้ทำสนุก ๆ เพื่อรักษาชื่อเสียงและ "ลับสมองประลองปัญญา" ไปพร้อม ๆ กัน
รู้ ๆ กันว่าแต่ละท่านเป็นระดับ "เชี่ยวชาญทางนิติศาสตร์อย่างโคตร ๆ" กันทั้งนั้น ( ก็แค่กรรมการเนติบัณฑิตไทยเท่านั้นเอง  อิ ๆๆๆ )
...เวลารำดาบก็เหลือเฟือ ในขณะที่คู่กรณีก็จมธรณีไปแล้วครึ่งตัว...โผล่มาแต่หัวให้ฟัน...
...แหม  รู้สึกน้ำลายเหนียวอย่างพรืดไม่ถืก ชอบกล



อร่อจะบอกว่า  สมัยนี้ไปสมัครงานที่ไหนเขาจะมี Qualify อันนึงว่า
"จะต้องไม่เป็นผู้มีคดีอาญาติดตัว..." แทบทั้งนั้น

Kill มีงานทำรึยัง ?
ถ้ายัง ก็รีบ ๆ หางานทำซะนะ
อย่างน้อยก็หาเงินไว้จ่ายทนายความ ( ซึ่งคงเรียกราคาระดับรากเลือด - เพราะโจทก์แต่ละรายเป็นถึง "ผู้พิพากษาเก่า" )
รวมทั้งเป็นค่า "สินไหมทดแทน" ( ความผิดชอบต่อการละเมิดทางแพ่งไม่เกี่ยวกับการรับโทษจากความผิดทางอาญานะจ๊ะ ) ซึ่งไม่รู้ว่าจะประเมินเป็นจำนวนเงินอีกเท่าไหร่



ปล. ที่ฟูมฟายเฟอะฟะมายืดยาวแบบนี้ไม่ใช่อะไรหรอก
...บังเอิญ
ผมได้ส่งกระทู้ที่ Kill โพสด่าทั้ง 3 ท่านให้ อ.สมาน ศรีงามไปแล้วอ้ะ
...ไม่ตั้งใจอ้ะ
...แค่เพียงอยากให้พวกท่านเหล่านั้น "เกิดทิฐิมานะ" และยืนหยัดในสิ่งที่ทำเท่านั้นเองอ้ะ
ส่วนเขาจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง Kill   อันนี้ก็เป็นสิทธิส่วนตัวของเขาอ้ะนะ
คิดเองก็แล้วกันว่าขนาด "ทหารกัมพูชา" ที่เข้ามาจับกุมตัวพวกเขาทั้ง 3 คน
ยังโดนพวกเขา "แจ้งความดำเนินคดี" ไว้แล้วที่ สน.เลย

แม้แต่ทหารป่าถืออาวุธสงครามยังไม่กลัว - จะเอาเข้าตะรางเมืองไทย  จะไปประสาอะไรกับละอ่อนหลังจอ PC + แป้นคีย์บอร์ด
...Kill ว่ามั้ย ?


 :slime_cool:

รอดูเขมรให้ข่าวคงรู้กันว่า ไอ้ที่นายกเขาว่า...นั่น มันของจริงในเอกสารรึว่าแหกตาประชาชน คนไทย :slime_v: :slime_v: :slime_v:

ถ้าไอ้หมัก ไม่ได้เป็นนอมินีคนขายชาติ ผมว่าป่านนี้เขมรกับไทย ไม่ได้เกิดเรื่องแบบนี้หรอก

เพราะตอนนั้นที่เขมรจะมาขอความยินยอมในการขึ้นทะเบียนมรดกโลก ไอ้หมักคงด่าเขมรเปิงไปแล้ว

ใครจะชม..ก็ชมไป.. แต่ผมก็คงจะไม่ชม...


เพราะผมก็จะขอถามว่า... 


ถ้าใครจะขโมยของ..แต่มีคนจ้องมองอยู่  ใครมันจะกล้าขโมยไหม..

แต่ถ้ามีคนจ้องมั่งไม่ได้จ้องมั่ง.. อย่างไรมันก็ขโมย...


และัพออีกคนมาด่าว่าไอ้ขี้ขโมย..มันก็บอกว่า เอาผมสาบานที่ไหนก็ได้ว่าไม่ขโมย...

ซึ่งนิสัยแบบนี้มันก็คือนิสันไอ้หมัก...



ที่ว่าถ้าเป็นกรณีที่มัน๕๐-๕๐มันก็คงจะไม่กระทำแบบนี้...  แต่นี้มันชัด๑๐๐%..และถ้ามันยิ่งไม่พูดแบบนี้มันก็ยิ่งตาย....


ฉะนั้นมันก็ต้องทำไปตามธรรมเนียม.. ที่ต้องเอาตัวรอดไปวันๆ


เพราะถ้ามันรักชาติจริง..ผมว่าอีตอนไปเยือนเเขมร์ ไม่ว่าใครจะไป ก็บอกไปเลยปากต่อปาก กะ ฮุนเซนซิว่า แบบนั้นแบบนี้..กรณีเรื่องนี้..ว่ากันตรงๆไปเลย

และถ้าคุณพูดไปเรื่องมันจะบานปลายขนาดนี้รึไม่ แต่นี้ไม่พูด..


ไม่รู้ปากอมอะไรอยู่   เพราะอย่างอื่นๆพูดได้๑๐๘กะฮุนเซน แต่เรื่องแค่นี้พูดไม่ได้....


ฉะนั้นผมไม่เชื่อว่านี้เป็นงานที่มันจริงใจ แต่มันเป็นงานที่มันจำใจตะหาก... ผมก็เลยไม่คิดจะชม...

ไม่ใช่นายหมักตื่น แต่เป็นเพราะผลจากการกดดันของทหาร........หมักเลยจำใจต้องขัดใจแม้ว

ผมรู้สึกอุ่นใจที่ ผบ สส นำทีมเจรจา มากกว่า หมักออกโรงเอง เพราะกลัวมันจะไปงุบงิบกะฝ่ายเขมร

เอาแล้วงัย เมื่อกี้ดูข่าว นายกเขมรตอบ จม. ไอ้หมักกลับมาว่า พื้นที่ตรงนั้นเป็นของเขมร
เอาแล้วงัย  ไอ้สัตว์ตัวใหนที่บอกว่าไม่เสียพื้นที่ ช่วยมาเคลียร์หน่อยซิ

เมื่อคุยกันไม่รู้เรื่อง ก็คงจะหลีกเลี่ยงการใช้กำลังยาก

ยืดเส้นยืดสายกันเล็กน้อย แล้วค่อยกลับไปโต๊ะเจรจา

คงต้องดูว่าหลังจากฝ่ายเขมรแสดงท่าทีอย่างนี้ออกมา ท่านนายกจะตอบโต้อย่างไร


ส่วนไอ้นพดล ตัวจั***ขายชาติ คงต้องออกมาอีกทีซะแล้ว ลาออกนี่ไม่จบอย่างแน่นอน

ทำได้ถูกต้อง แต่อยากรู้ว่าเบื้องหลังพวกมันจะตกลงกันว่ายังไง

อาจกำลังสร้างภาพอยู่ก็ได้ ไม่ควรไว้ใจ

มันต้องขับไล่พวกคนเขมรและทหารเขมรออกไปจากพื้นที่ทับซ้อนก่อนพร้อมรื้อชุมชนเขมรออกไปให้หมดถึงจะยอมเชื่อครับ

เจรจาพระวิหาร2ฝ่ายเน้นยุติตรึงเครียด
20:03 น.


พล.ท.นิพัทธ์ ทองเล็ก เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมการไปร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทยกัมพูชาว่า ตอนนี้คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องได้มีการหารือกันร่วมกันในการเตรียมความพร้อมด้านข้อมูลในเรื่องต่างๆ โดยตนได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปเตรียมการประชุมให้พร้อมแล้วที่ รร.อินโดจีน โดยจะเริ่มไปกันในวันนี้ ซึ่งข้อมูลจะเน้นในส่วนของกองทัพบก ทั้งนี้เรื่องที่จะนำไปหารือกันจะเป็นเรื่องทางการทหารจะคุยถึงปัญหาสถานการณ์ความตรึงเครียดในพื้นที่ แต่จะไม่นำเรื่องการปักปันเขตแดนไปเจรจา เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของคณะกรรมการปักปันเขตแดน ซึ่งเป็นเรื่องระดับนโยบายและกระทรวงการต่างประเทศจะเข้าไปพูดคุย

“ตอนนี้เราต้องเน้นแก้ไขปัญหาความตรึงเครียดในพื้นที่ก่อน ส่วนเขตแดนต้องหระดับนโยบายไปเจรจา ดังนั้นการเจรจาครั้งนี้จึงเป็นเรื่องของทหารเท่านั้น ซึ่งทหารเราพูดคุยกันจะเข้าใจกันง่าย เพราะที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพของ 2 ประเทศเรียกได้ว่ามีความเน้นเฟ้นกันดีมาก ส่วนเรื่องการถอนกำลังออกจากพื้นที่หรือไม่คงต้องไปพูดคุยกันในวันนั้น ว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเอาอย่างไรคิดว่าน่าจะได้ผลเป็นที่น่าพอใจ”

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=329991 (http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=329991)
 

 

ตามนั้น  :slime_agreed: :slime_agreed: :slime_agreed:

ไทยรัฐ ออนไลน์ ปีที่ 59 ฉบับที่ 18442 วันเสาร์ ที่ 19 กรกฎาคม 2551

มีคำสั่งห้ามทหารไทย ให้ข่าวปราสาทเขาพระวิหาร [19 ก.ค. 51 - 19:06]

สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (19 ก.ค.) ว่า กองบัญชาการกองทัพไทยมีคำสั่งห้ามนายทหารทุกนายให้ความเห็นเกี่ยวกับปัญหาปราสาทเขาพระวิหารเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด ความสับสนและเพื่อลดปัญหาความขัดแย้งเนื่องจากเห็นว่า ปัญหาใน ขณะนี้ เกิดจากการออกมาให้ความเห็นกันมากเกินไป โดยเฉพาะการให้ความเห็นจากผู้ที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน

ทั้งนี้ ในคำสั่งดังกล่าว ยังได้มอบหมายให้ นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ  เป็นผู้ให้ข่าวเกี่ยวกับปัญหาเขาพระวิหารแต่เพียงผู้เดียว

-------------------------------------------------------------------------------

เป็นไงละ สั่งทหารหุบปากอีกแล้ว

สงสัยถ้าปล่อยให้รัฐบาลขายชาติชุดนี้ทำต่อ คงจะเสร็จเขมร

คงต้องรีบให้ยุติการทำงานโดยเร็วที่สุดแล้ว ยิ่งอยู่นานยิ่งสร้างความเสียหายแก่ชาติมากขึ้นทุกที

จนปานนี้ยังไม่ยอมยกเลิกแถลงการณ์ร่วม ทำเสียงแข็งกับเขมร แต่จะแอบงุบงิบอะไรกันอีกละ

เกรงจะเป็นละครอีกฉากหนึ่งอ่ะสิ  อย่างเรื่องที่แสดงความรักชาติ รักแผ่นดินอย่างจริงใจให้เห็นเป็นที่ประจักร

อย่างการบอกยกเลิกแถลงการณ์ร่วม ไทย-เขมร ที่เซ็น ณ วันที่ 22 พ.ค. ให้เป็นโมฆะ ยังไม่เห็นทำ

ทำอย่างนี้เหมื่อนยื้อเวลาจริงๆ     :slime_mad:

เป็นไงละ เขมรเอาแผนที่ฉบับที่เหล่เซ็นรับรอง

ไปฟ้อง UN ว่าไทยรุกล้ำอธิปไตยเขมรแล้ว

ไหนใครบอกว่าไทยไม่เสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว

ยังไม่รีบยกเลิกแถลงการณ์ คงต้องลากคอเข้าคุกให้หมดทั้งแก๊งค์แล้ว

ช้กช้าไม่ได้ ถ้า UN มีมติอะไรออกมาไทยจะลำบากนะ

 :arrow:สันห......มาแล้วอาจเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของซ่าหมัก คุก ...คุก...คุก... :slime_hitted: