ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => ร้อยรักษ์กวีวรรณ => ข้อความที่เริ่มโดย: komyen ที่ 07-06-2006, 15:55



หัวข้อ: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 07-06-2006, 15:55
"ร้อย"อักษรกลอนกานท์ให้หวานหยด
เชลงพจน์รจนาภาษาศิลป์
ฝากเพลงฝันบรรโลมหล้าฝากฟ้าดิน
ให้ยุพินยินเพลงบรรเลงรมย์

"รักษ์"อักษรกลอนกวีที่ไพเราะ
แต่งให้เหมาะเจาะลงตรงใจสม
ทั้งหวานซึ้งตรึงไว้ใจนิยม
ทั้งเศร้าตรมขมใจไม่แน่นอน

"กวี"วากย์ฝากฝันบรรโลมหล้า
เก็บดาราเรียงสลักเก็บรักซ้อน
ก่อนลาจากฝากฝันกับจันทร
ช่วยวิงวอนอ้อนคำก่อนอำลา

"วรรณ"ศิลป์ถิ่นไทยวิไลลักษณ์
ร่างจำหลักร้อยเรียงไว้เคียงหล้า
ทั้งสาระสุขเศร้าเคล้าน้ำตา
ทั้งบอบ้าฮาเฮ"เสรีไทย"




หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: ทิมมี่ ที่ 07-06-2006, 16:25
 :lol:

ห้องร้อยรักษ์ กวีวรรณ เสกสรรกลอน
มีทั้งอ่อน ทั้งแข็ง ตามแรงฝัน
แตะการเมือง เรื่องยุ่ง มุ่งตามวัน
หรือผกผัน แซวเรื่องรัก มักเฮฮา

แหล่งฝึกซ้อม ภาษา พาคล่องมือ
กลัวจะทื่อ  สนิมเกาะ เลาะมาหา
เขียนโน่นนิด นี่หน่อย ปล่อยวาจา
กลั่นออกมา บอกเล่า เท่าที่มี

อาจถูกใจ หรือไม่ ใช่รู้แจ้ง
ก็เขียนแต่ง เติมไป ให้เร็วจี๋
หวังสนุก ปลุกทำ คำวจี
สำนวนพี่ น้องลุง มุ่งต่อเติม.....

สวัสดีครับ ลุงคมเย็น
 


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: เลิศภพจบพสุธา ที่ 07-06-2006, 16:37


ร่ายอักษรกลอนกานท์มาสาน"ร้อย"
บรรเลงรมย์ตามรอยวรรณศรี
สร้างบทเพลงแห่งสวรรค์ชั้นวาที
บันทึกถ้อยพจนีย์ที่ทาบทา

บนเส้นทางบากบั่นฉันทะ"รักษ์"
วิถีไทยประจักษ์สลักภาษา
เขียนกลอนกล่อมโลกโศกอุรา
รำพันรักร่วมฟ้าสีอำพัน

ร้อยกรองกรองคำลำนำ"กวี"
วางใจใส่วจีที่เลือกสรร
หมายจากถ้อยคำจึงจำนรรจ์
เป็นวจนะประพันธ์ดังบันดาล

จากสิบเป็นร้อย รักษ์ กวี "วรรณ"
จากร้อยเป็นหมื่นพันมหาศาล
จากแสนล้านแทนค่าจักรวาล
จากสูงสุดผันผ่านสู่สามัญ  


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อำพัน ที่ 07-06-2006, 18:30

"ร้อย"อักษรกลอนกานท์กังวานจิต
ร่ายลิขิตบรรเลงเพลงสวรรค์
บันทึกถ้อยพจนีย์ที่รำพัน
ร้อยรวมกันเป็นบันไดไต่ฟากฟ้า

"รักษ์"ภาษาเส้นทางวางอักขระ
ไม่ลดละความเพียรแวะเวียนหา
จากศูนย์พูนเต็มร้อยคอยสอยมา
ดังทาบทาแสงทองของตะวัน

"กวี"ความหมายไม่ตายจากโลกนี้
รอยวรรณศรีย่างไปด้วยใจฝัน
รำพันรักร่วมฟ้าสีอำพัน
ก้าวพร้อมกันด้วยหวังกำลังใจ

"วรรณ"กวียอมพลีแม้ชีวาตน์
ไม่ถึงฆาตเข่นฆ่าได้ฤาไฉน
บรรจงจารกานท์รักสลักไว้
เพื่อเตือนใครยามไหลลู่สู่สามัญ

สวัสดีครับ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 08-06-2006, 11:51
คุณทิมมี่นี่ว่องไว.................อ่านที่ใดมักเจอะเจอ
สรรคำนำเสนอ...................ช่วยบำเรอกล่อมอารมณ์
คารวะคุณเลิศภพ................ผู้เจนจบลือชื่อสม
คุณอ้อมพันสรรคารม............น่านิยมชมชื่นเอย
     ไม่รู้อ่านชื่อคุณอ้อมพันถูกไหม
      บทท้ายคุณเลิศภพโดนใจจริงๆ
      สวัสดีทุกคนครับ......คมเย็น


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 08-06-2006, 15:43
"ร้อย"ดาวเดือนเกลื่อนฟ้า............ทอฝัน
 หวัง"รักษ์จักผูกพัน..................พจน์สร้อย
 ขีดเขียน"กวี"สรร....................สรรพสิ่ง
 จำหลักเรียง"วรรณ"ร้อย............ร่วมไว้รอยสมัย

 ใจรักจำหลัก"ร้อย"...............รจนา
 ฉันทลักษณ์"รักษ์"ภาษา............สืบไว้
 หวัง"กวี"รุ่งเรืองตรา..................ตราบชั่ว  กัลป์นา
 "วรรณ"วากย์ฝากโลกไซร้...........บ่สิ้นสุดเลย

 ร้อย....พันสรรเสกร้อย................รจนา
 รักษ์...สิ่งศิลป์ภาษา..................สืบสร้าง
 กวี.....วากย์บ่โรยรา..................เรืองรุ่ง 
 วรรณ..ศิลป์บ่โรยร้าง.................รุ่งเรื้องนิรันดร


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: เลิศภพจบพสุธา ที่ 08-06-2006, 18:20
"ร้อย" คำเคียงร่วมเข้า.........เรียงความ
"รักษ์" อักษราราม..............เรื่อไว้
"กวี" เขียนขีดตาม..............ตรองตรึก
"วรรณ" ศิลป์สืบไซร้...........สลักสร้อยภาษา


"วรรณ" กรรมกล่าวถ้วน.......ทวนแถลง
"กวี" เปลี่ยนร้อยแก้วแปลง....ปรับถ้อย
"รักษ์" อักขระแสดง............ดังสดับ
"ร้อย" บทร้อยกรองร้อย.......รักร้อยเรืองสมัย


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อังศนา ที่ 08-06-2006, 20:59
สวัสดีค่ะ คุณคมเย็น และทุกท่าน (http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/pink_flowers.gif)

ร้อย....อักษรเสกสร้าง.............สื่อสาร
รักษ์....กฏกระบวนกานท์..........บ่วงแก้ว
กวี......กลั่นบทแกมหวาน.........เพียงวิเวก
วรรณ...รสสัมผัสแล้ว...............เหนี่ยวรั้งให้หลง

แวะมาเข้าขบวน..(http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/smile.png)

(ขออนุญาตบอกนิดนึงนะคะว่า วรรคหลังบาทสุดท้ายของโคลง
ให้เขียนติดกันทั้งสี่คำค่ะ ..ไม่ต้องเว้นวรรค :wink:)


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อำพัน ที่ 08-06-2006, 23:06


ร้อย...มะลิใส่ไว้..............ในพาน
รักษ์..ร่ายรำนำหวาน........ส่งให้
กวี....แก้วร่วมจดจาร........ประดิษฐ์  คำเอย
วรรณ.สืบสานศิลป์ไซร้.....รักแล้วยากถอน

สวัสดีครับ ผมอำพันครับ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: พริกขี้หนู ที่ 09-06-2006, 07:18
ยินดีค่ะที่เป็นกระทู้ติดหมุด


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: morning star ที่ 09-06-2006, 13:30
ร้อยพันหมื่นแสนล้านคำรำพัน
รักษ์กลอนไทยร่วมกันไม่พลันหาย
กวีกลอนอักษรภาษาไทย
วรรณ ชนชาวไทย ภูมิใจจัง :D


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 09-06-2006, 17:48
ร้อย.....เรียงเละตุ้มเป๊ะ.............ปวดหมอง
รัก.......สุรายาดอง.................เบียร์เหล้า
กวี.......แกร่วแก้วหนี่งสอง........สามสี่   ชักเซ
วัน.......ตื่นคืนดื่มเข้า...............ค่ำแล้วเฮฮา

วัน.......ยังค่ำดื่มเหล้า..............เมามาย
กวี.......ตื่นตอนสาย.................สว่างซ้ำ
รัก.......เพื่อนพวกมากมาย..........เมาบ่อย   บ่ดี
ร้อย.....รักมักชอกช้ำ................ดื่มเช้าดื่มเย็น
     ขอบคุณ  คุณอังศนาที่แนะนำ 
     สวัสดีทุกท่านครับ.....คมเย็น


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: River no return ที่ 24-06-2006, 21:50
ร้อย...ชู้หรือจะสู้............เมียตน
รัก.....มั่นนิรันดร์จน.........แก่เถ้า
กวี....มือใหม่ฝึกฝน..........สมัครเล่น
วัน...ละนิดคอยเฝ้า.........แต่งแต้มแจมโคลง

วัน...ไหนหากดื่มเหล้า......เมามาย
กวี...หลั่งไหลพรั่งพราย.....ลื่นล้น
รัก...เผื่อแผ่แม่ยาย..........ถึงพ่อ ตาเอย
ร้อย...พจน์วจีค้น.............ออดอ้อนคำหวาน

 :lol: :lol: :lol:
สวัสดี ครับ ลุง คมเย็น และทุกๆท่าน


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 27-06-2006, 13:49
ยี่สิบหกมิถุนามาบรรจบ
เป็นวันครบชาตะกาลของท่าน"ภู่"
คารวะมือประนมบรมครู
ได้เรียนรู้รักกลอนแต่อ่อนเยาว์

"พระอภัยมณี"เพลงปี่เพราะ
กลอนเสนาะทั้งสนุกสุขทุกข์เศร้า
"พระไชยสุริยา"เคยเรียนเพียรท่องเอา
ทั้งก.กา ก.เกาเราชอบจัง

(พระโหยหวนครวญเพลงวังเวงจิต
ให้คนคิดถึงถิ่นถวิลหวัง
ว่าจากเรือนเหมือนนกที่จากรัง
อยู่ข้างหลังก็จะแลชะแง้คอย

เมื่อยามค่ำย่ำฆ้องจะร้องไห้
ร่ำพิไรรัญจวนหวนละห้อย
โอ้ยามดึกดาวเคลื่อนเดือนก็คล้อย
น้ำค้างย้อยเย็นฉ่ำที่อัมพร)

สองบทขานอ่านเพียงครั้งยังจำได้
จับหัวใจให้สุโขสโมสร
บันดาลใจไฝ่รักเป็นนักกลอน
ท่าน"สุนทร"สอนถ้อยถักร้อยเรียง

นิราศร้างนิราศร่ำ"รำพันพิลาป"
ยังกำซาบกาพย์กลอนฉะอ้อนเสียง
เคยอ่านไปให้ย่าฟังข้างตั่งเตียง
มิเคยเกี่ยงเลี่ยงการงานที่ทำ

น้อมเคารพนบพระคุณ"สุนทรภู่"
สร้างศิลป์ชูคู่ชาติให้ชื่นฉ่ำ
กาพย์กลอนโคลงจรรโลงหล้าพ้นอาธรรม
ขอน้อมนำสำนึกคุณ"สุนทร"เอย
(.....)จาก พระอภัยมณี  เมื่อวานครบรอบวันเกิดสุนทรภู่
สวัสดีครับคุณ river


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: banana_dot ที่ 28-06-2006, 13:29
ลองเล่นโคลงดูไม่รู้ใช้ได้รึปล่าว ถ้าผิดตรงไหนขออภัยเด๊อ..
  ร้อย...รักโลภโกรธหลง...ฤหาญ
    รักษ์...กาลวิเวกหว่าง.....ดาวไว้
     กวี....กล่อมบทพิกุล......ชรเกตุเกล้า
   วรรณ...กรรมสุดไร้แดน.....กั้นกำบังไว้


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อังศนา ที่ 29-06-2006, 11:16
ขออนุญาตนะคะ คุณคมเย็น จขกท.. (http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/08.gif)
อยากชี้แนะน้องด็อทซักกะนิด เผื่อจะได้กวิแก้วกะรัตใหม่

ร้อย....รักโลภโกรธพร้อม.......ผูกหลง
รักษ์....จิตจำต้องปลง...............ปลิดขว้าง
กวี......เพียงผ่านพจน์ชง...........ธรรมเชิด
วรรณ..กล่อมใจน้อยบ้าง..........มากบ้างตามวิสัย

น้องด็อท ลองเทียบโคลงที่พี่ปรับแต่งกับผังนี้ดูนะคะ  (http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/lil-pink.gif)
(http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/Miscellaneous/Poem-chart.jpg)

ตำแหน่งสัมผัส : สีแดง ๓ ตำแหน่ง และสีน้ำเงิน ๒ ตำแหน่ง
ตำแหน่งบังคับคำเอก ขีดเส้นใต้ ๗ แห่ง (ใช้คำตายแทนได้)
ตำแหน่งบังคับคำโท ตัวหนา ๔ แห่ง

..สำหรับคนลองแต่งครั้งแรกจะรู้สึกว่ายุ่งและยาก แต่ท้าทายค่ะ
ไม่เชื่อถาม จขกท. ดู ..อิอิ  (http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/lol.png)

(http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/pink_flowers.gif)


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 29-06-2006, 12:10
ขอบคุณ คุณอังศนา ทำให้ได้ศึกษาไปด้วย ผมเองอยากแนะนำแต่ไม่มีปัญญา

ร้อย....รักโลภอีกทั้ง..........โกรธหลง
รักษ์...จิตควรจักปลง.........ปล่อยหว้าง
กวี......เขียนยากยังงง.......งกเงิ่น
วรรณ...ช่วยย้อมใจว้าง.......ฝึกไว้ตามวิสัย

ขออิงของคุณอังตามวิสัย   คุณด็อทลองดูบ่อยๆนะครับ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 30-06-2006, 14:18
.....ช่วงหนึ่งในชีวิต  เคยไปตรากตรำ  ลุยน้ำ  นอนแพ....
.....อยู่ที่ทะเลสาบเขื่อนศรีนครินทร์.....

เรือนแพ...
ริมกระแสธารใสไหลล้นฝั่ง
คลื่นกระฉอกระลอกพัดซัดเสียงดัง
เฉาะแฉะฟังเป็นจังหวะประทะแพ

ริมเรือนแพแลปลามาเวียนว่าย
สลาดสวายกรายกดกระดี่กระแห
นกโผผินบินไปไกลตาแล
เหนือกระแสสายชลค้นหาปลา

ลมพัดเฉื่อยเรื่อยมาพาชื่นฉ่ำ
เห็นเรือน้อยลอยลำน้ำจรดฟ้า
ใบไม้ร่วงหล่นธารลอยผ่านมา
เอาเท้าราเล่นทำน้ำกระเซ็น

น้ำกระเพื่อมแพเขยื้อนเหมือนโยกเยก
เอกเขนกอิงเขนยเคยนั่งเล่น
ฟังเพลงรักเรือเร่เวลาเย็น
สุขดังเป็นเช่นวิมานในธารทอง

จวนโพล้เพล้เวลาเย็นเห็นแดดอ่อน
ตะวันรอนสท้อนแสงรังสีส่อง
ตะวันทาบฉาบธารางามน่ามอง
ตะวันล่องลานทีสีเรื่อแดง

นั่งล้อมวงตรงแพลานอาหารพร้อม
มีแกงอ่อมหอมเหลือกลิ่นเนื้อแห้ง
ข้าวสวยพร้อมน้ำพริกผักตักน้ำแกง
ต่างจัดแจงแบ่งสรรช่วยกันกิน

กินพออิ่มพอดีมีอดบ้าง
หากินกลางแก่งแควกระแสสินธุ์
สุขพอเพียงเคียงฝันมั่นดวงจินต์
รักไม่สิ้นถิ่นธาร"บ้านเรือนแพ"



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 06-07-2006, 15:44
เรือนแพแลฝั่งฟ้า...................ฝากฝัน
หลับตื่นทุกคืนวัน..................คลื่นเพ้อ
ดังเพลงกล่อมสุขสันต์.............กระซิบสั่ง
รอรักเราฤาเก้อ.....................อยู่ไร้แรมศรี

เรือน้อยลอยล่องน้ำ................เหน็บหนาว
สายหมอกบังแสงดาว.............รุ่งเช้า
ตะวันเจือเรื่อแสงขาว..............ไขม่าน  ฟ้านา
นกร่อนเวหาเร้า.....................เร่งร้องเรียกกัน

เรือ......น้อยลอยล่องน้ำ...........กลางชล
เปล่า...เปลี่ยวเหลียวหาคน........คู่เคล้า
เรา......เราพายล่องลอยวน........หาฝั่ง
เปลี่ยว..เปล่าเงียบเหงาเศร้า......โศกช้ำเดียวดาย

เขาสูงยอดเสียดฟ้า..................ผาหิน
เงาสท้อนวาริน.......................วาดน้ำ
พายเรือล่องชลสินธุ์..................กระแสส่ง
ตรงมุ่งหมายพายจ้ำ..................จ่อคุ้งแควธาร

เรือนแพแลฝั่งโพ้น....................พฤกษ์ไพร
ชื่นชุ่มชอุ่มใบ.........................โบกฟ้า
ลมโบกโยกโยนไหว..................วาดกิ่ง
นกผินบินจากหล้า.....................แหล่งพื้นโผไป

เรือนแพแลฝั่งน้ำ.......................นองชล
มีหมู่ปลาเวียนวน......................ว่ายเคล้า
ริมหาดกรวดทรายปน.................น้ำเปี่ยม
สงบสุขปลดทุกข์เศร้า.................โศกร้างกลางฝัน



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 13-07-2006, 16:12
ร้อย..อักษรสลับแกล้ง.........กลกวี
กล....หลากมากแบบมี........บทอ้าง
บท...บาทวาดวรรณศรี........กวีวากย์
กวี....จักมิจางร้าง..............จากหล้าแหล่งสยาม

กลบท  นาคบริพัตธ์  แอบเรียนมาจาก อ.อังศนา


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 14-07-2006, 13:35
ภูเขาเขาป่ายขึ้น..........ปีนลง
สุดยอดยอดเขาตรง........สู่ฟ้า
ใจมุ่งมุ่งเจตน์จง.............จักป่าย  ปีนนา
พลัดตกตกเขาล้า..............เหนื่อยแล้วลงเขา

อันนี้เรียก  บุษบารักร้อย

นึกคำนึงคู่น้อง...........เนาว์เคียง
รักอย่าร้างอยู่เรียง........ร่วมเหย้า
สองฟากสู่ฟังเสียง..........เฝ้าสั่ง
หวังรักเวียนร่วมเว้า..........ร่ายไว้รอยหวาน

อันนี้เรียก  อักษรสลับ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 17-07-2006, 12:06
จันทร์เพ็ญเห็นแจ่มหล้า...........ลอยหาว
ดึกดื่นหมื่นพันดาว..................เด่นฟ้า
น้ำค้างพร่างพรมพราว..............ไพรพฤกษ์
เย็นฉ่ำน้ำชุ่มหล้า...................โลกล้วนหลับไหล

เรไรหรีดหริ่งร้อง.........ระงมเสียง
ฟังนั่งวังเวงเพียง.........พรากน้อง
เคยแนบแอบอกเคียง....เคล้าคู่
ฟังแผ่วเพลงรักพ้อง.......ร่ำร้องเรียกขวัญ

ลมหยุดพัดพฤกษ์ล้วน........หลับฝัน
ป่าเปลี่ยวร้างห่างหัน.........ร่ำไห้
ในอ้อมกอดแสงจันทร์........จักห่ม   หนาวเฮย
อ้อมกอดพี่ร้างไร้..............รักน้องนอนหนาว

ดาวตกแสงวูบแล้ว.........ลับสลาย
เสน่หาฤาจักวาย............ว่างร้าง
ยิ่งดึกนึกใจหาย.............หวนโศก
ใจเปลี่ยวเหลียวอ้างว้าง...ว่างแล้งรักหาย

ลำธารไหลชะล้าง...........กรวดทราย
กระซิบเล่าหลากหลาย......เรื่องเศร้า
กรวดนิ่งมิติงกาย.............ทรายโศก
เรานั่งฟังยังเฝ้า...............โศกเศร้าสุดฝืน

ฝากสายธารกระซิบถ้อย.........ฝากคำ
ฝากโศกฝากเศร้าระกำ..........สุดร้าว
ฝากดาวฝากเดือนนำ............คำรัก  ไปรา
ฝากนุชฝากโน้มน้าว............เรียกน้องกลับคืน


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 19-07-2006, 13:35
ล้วนเล่ห์ลิ้นลวงหลอกบอกให้หลง
เจ็บจิตจงใจจำถลำเชื่อ
คนคิดคดแค้นคลั่งยังเศร้าเจือ
น้องนิ่มเนื้อนงนุชดุจกากี

สุดโศกเศร้าแสบแสนแค้นใจนัก
เรืองร้าวรานร้างรักหักอกพี่
เมื่อไม่มองหมองหม่นเชิญคนดี
พี่พร้อมพลีเพราะแพ้แก่รักเธอ

กลบทเบญจวรรณ๕สี


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 20-07-2006, 13:32
หมั่นหมั่นเขียนเพียรตรองให้ต้องจิต
ค่อยค่อยคิดลิขิตกลอนให้อ่อนหวาน
หวังหวังไว้ให้น้องใจต้องการ
รอรอนานผ่านมาพากังวล

นับนับดูรู้ดีพี่คอยเจ้า
ทุกทุกเช้าเฝ้าคอยอยู่บ่อยหน
นานนานทีที่เธอยิ้มอิ่มกมล
หวั่นหวั่นจนเธอพ้นไปไม่กล้ามอง

แอบแอบส่งบรรจงใส่กลอนให้อ่าน
คอยคอยนานผ่านไปใจยิ่งหมอง
นึกนึกหัดตัดสินใจให้กล้าลอง
แบ๊ะแบ๊ะร้องแบ๊ะแบ๊ะพลันฉันรักเธอ

กลบท  ธงนำริ้ว


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 21-07-2006, 13:50
หมั่นหมั่นเรียนเพียรใส่ใจไว้บ่อยบ่อย
วันวันคอยค่อยฝึกนึกซ้ำซ้ำ
เหมือนเหมือนเพื่อนเหมือนพี่ที่ทำทำ
ค่อยค่อยจำคำครูรู้จริงจริง

ดูดูท่าอย่าถลำทำโง่โง่
กล้ากล้าโวอย่าโม้ป่วนควรนิ่งนิ่ง
เฉยเฉยช้าอย่าลุกลนอย่างลิงลิง
เลิกเลิกสิ่งเสียหายให้ดีดี

กลบท  มยุราฟ้อนหาง

ฝึกสมองลองแต่งดูรู้ดีชั่ว
แต่งมั่วมั่วมันมันอย่าขันขำ
ฝึกให้คล่องลองให้รู้ดูให้จำ
ลองลองทำลองลองนึกลองฝึกดู


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 25-07-2006, 15:05
ชีวิตเรา  เราสร้าง  ทางชีวิต
บางครั้งคิด  คิดถอย  บ่อยบางครั้ง
ใจยังสู้  สู้ไม่ไหว  แต่ใจยัง
คงใจหวัง  หวังนั้น  มั่นคงใจ

มั่นรักเธอ  เธอรู้ไหม  ใจมั่นรัก
คนไหนจัก  จักไฝ่  ใครคนไหน
ดั่งไฟสุม  สุมขอน  ร้อนดั่งไฟ
ในทรวงไหม้  ไหม้รักรุม  สุมในทรวง

กลบท  พระจันทร์ทรงกลด


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: ธ.ส. ที่ 26-07-2006, 12:13
คำกวีรีร่ายระยับจับ
ฟังสดับขับขานกังวานใส
คำไพเราะเพราะพริ้งกว่าสิ่งใด
หาเปรียบไม่คำกวีที่นี่เอย

กวีการเมืองเรื่องคอขาด
ถ้อยคำบาดขยาดหูดูเสียวไส้
นักการเมืองกินเมืองเรื่องจานไร
ขอละไว้ไม่กล่าวถึงหนึ่งเพลา

ใจอยากร่ายระยับให้จับจิต
ในใจคิดคำหวานได้ปานไหน
อ่านกวีบทกลอนแล้วนอนใจ
เราหนึ่งไซร้ก็กวีมีอารมณ์

อันการเมืองเรื่องรกหูดูอุบาทว์
เรื่องของชาติเอามาเล่นเป็นอิเหนา
มีคนดูมีคนติดคิดแล้วเมา
โถอิเหนาประโลมโลกย์โศกระทม

ขออภัยถ้ากลอนนี้มันไม่นิ่ง
เพราะทุกสิ่งยามนี้น่าชวนหัว
เดี๋ยวก็รักเดี๋ยวก็หวาดเดี๋ยวก็กลัว
ดูมั่วๆในอามรมณ์ระทมจริง



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 27-07-2006, 10:28
ยิน......ยลงานท่านค้น..........ขีด..............เขียน
ดี........ยิ่งสิ่งพากเพียร..........พจน์............ได้
ต้อน.....คำร่ำวนเวียน............วาด.............แต่ง
รับ.......ว่าแววกวีใกล้............แต่งได้เขียน...ดี

สวัสดีครับคุณ ธ.ส.


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: ธ.ส. ที่ 27-07-2006, 13:04
ยามนี้มืดครึ้มอึมครึมนัก
ใจจะพักสักงีบก็น่าสน
ลมเย็นๆใกล้จะบ่ายดูน่ายล
แสนสับสนงานไม่ล่วงง่วงจริงๆ

มือหนึ่งพิมพ์มือหนึ่งคลิกยิกๆสู้
เหลือบมาดูเกือบจะบ่ายแล้วนี่เหวย
ตายละหวาข้าวปลายังไม่เชย
โอ้อกเอ๋ยอดข้าวเที่ยงเดี้ยงเลยตู

ฟังท้องไส้ให้ปั่นป่วนรัญจวนจิต
ใจก็คิดจิตก็เห็นเป็นอาหาร
ว่าจานข้าวอาหารปลามากันบาน
บอร์ดเป็นจานเมาส์เป็นหมูดูน่ากิน

คิดแล้วซึ้งซึ่งก็เห็นเป็นเช่นธรรม
พระมานำทำให้จิตนิ่งสิเหวย
พุทโธพุทโธโอ้ท้องเอย
หิวแล้วเว้ยไปกินข้าวดีกว่าตู

สวัสดีหลังเพลคุณ Komyen หวข้าวแล้วไปก่อนนะ เดี๋ยวมาใหม่


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: THE THIRD WAY ที่ 27-07-2006, 13:44
****"100"..อย่าว่า แต่หนึ่งร้อย
บางแห่งน้อย ห้าสิบบาท มันแจกแหลก
ไม่สนว่า จะเป็น เบี้ยหัวแตก
ขอให้ได้ เสียงแลก ก็พอใจ
***"รัก"..แต่ปาก บอกว่า กติกา
ที่ทำมา ล้วนหลีกเลี่ยง น้ำใสใส
วิธีการ มันมหา โคตรจั***
มันทำไป เพราะต้องการ ครองแผ่นดิน
**"กวี"..ร้อย กวี ตีข่าวกล่าว
พูดเรื่องราว ก็ไม่ฟัง ช่างใจหิน
คนที่มี แต่รอยบาป คราบมลทิน
ฟ้าดินคง ลงโทษ เข้าสักวัน
*"วรรณ-"..กรรม ของประเทศ ต้องบันทึก
ว่ามันนึก ยังไง? สมานฉันท์
แต่พวกพ้อง ล้วนแต่ ปากเป็นมัน
วันหนึ่งกรรมตามทัน......นู่นตราง
-----------------------------------------------------

















 :mozilla_tongue: :mozilla_tongue: :mozilla_tongue:





หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 28-07-2006, 11:31
สอบอ...สบาย...ยิ่งแล้ว............ลุง................ขอ
มอ.......มาก.....อยากหยุดยอ.....ยก...............ให้
ยอ.......อย่า.....ปล่อยสัตว์"หอ"...นำ..............โชค
หอ.......ห่วง.....กลัวคุกใกล้........อยากให้โชค...ดี

จากลุงคม เย็นใจ
สวัสดีครับคุณธ.ส.  คุณ3rd way  ช่วยมาแก้คำที่ถูกดาวกาๆหน่อย
อยากอ่านเต็มๆ  ใช้คำใกล้เคียง  จะได้ไม่โดนกา


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ ภาษาไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 30-07-2006, 20:10
ในโลกนี้มีอะไรเป็นไทยแท้
ของไทยแน่นั้นหรือคือภาษา
ทั้งคนมีคนจนแต่ต้นมา
ใช้ภาษาไทยทั่วทุกตัวตน

เด็กตะโกนกึกก้องร้องเรียกแม่
เริ่มใช้คำไทยแท้มาแต่ต้น
ไม่มีต่างภาษามาปะปน
ทุกทุกคนก็สุขกายสบายใจ

แม่อยากให้ลูกรักได้พักผ่อน
ก็ไกวเปลให้นอนจนหลับใหล
สำเนียงกล่อมร่ายร้องทำนองไทย
ติดหูแต่สมัยโบราณมา

พอโตขึ้นส่งเจ้าเข้าโรงเรียน
ได้เริ่มอ่านเริ่มเขียนเรียนภาษา
ภาษาไทยนั้นได้พัฒนา
เป็นภาษาขีดเขียนได้เรียนกัน

บ้างชอบอ่านถ้อยคำทำนองเสนาะ
ภาษาไทยไพเราะไม่แปรผัน
มีเสียงวรรณยุกต์ทุกทุกชั้น
ขับร้องกันง่ายดายคล้ายดนตรี

ฉะนั้นหรือจะไม่ให้รักเจ้า
ภาษาไทยของเรามีศักดิ์ศรี
เกิดเป็นไทยคนหนึ่งเราจึงมี
ของดีดีชื่อว่า ''ภาษาไทย''


''ภาษาไทย'' ม.ล. ปิ่น มาลากุล


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: 999 ที่ 30-07-2006, 20:37



อาลัยรัก รักอะไร ไม่ทราบได้
แต่ก็คล้าย คล้ายรักเธอ เสมอนี่
หากเป็นรัก รักแล้ว แม้วคนดี
ขอสักที ที่เว้นวรรค ไม่ทักเลย...


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 31-07-2006, 00:15
มาครวญคร่ำร่ำหา''อาลัยรัก''
สุดใจหักลาแล้วพ่อแม้วนี่
พวกเหาเห็บหนีกระจายไม่ใยดี
หากเว้นวรรคสักทีคงดีแท้

ไปครวญคิดให้ดีมีเหตุผล
หากตั้งหน้าฝ่าประจญคงพ่ายแพ้
ที่ผ่านมาร้าวลึกถูกลอยแพ
เว้นวรรคทีคงดีแน่เลียแผลใจ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 31-07-2006, 11:22
วันนี้วุ่นนักเว้น.................หนึ่งวรรค
เรื่องป่วนราษฎร์ไป่รัก........ปวดร้าว
ใจโก่งจิตกินจัก...............โกงโจ่ง   แจ้งนา
ในพรรคเน่าเพียรน้าว..........เพื่อโน้มพรางนัย

เสียดายโคลงอักษรสลับ  มาใช้กับคนขี้โกง
สวัสดีคุณดอกฟ้า  คุณ๙๙๙


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 01-08-2006, 12:01
อยากจะเป็นเช่นกวีมีใจฝัน
ทุกคืนวันสรรวจีที่เหมาะเจาะ
จะเรียงถ้อยร้อยอักษรกลอนไพเราะ
เขียนโคลงเพราะเสนาะฉันท์บรรโลมจินต์

อยากฝากฝันบรรเลงเพลงกล่อมหล้า
เชลงพจน์รจนาภาษาศิลป์
เชลงกานท์หวานล้ำฉ่ำฟ้าดิน
จนกายสิ้นวิญญาณลาญแหลกไป

สรรอักษรกลอนโคลงจรรโลงโลก
ให้คลายโศกกล่อมสุขทุกสมัย
ให้ใจรักอักษราภาษาไทย
ให้คงไว้ในแผ่นดินจนสิ้นกาล

เขียนเมื่อวันภาษาไทย


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: ประกายดาว ที่ 01-08-2006, 12:35
ร้อยคำความผูกเคียงคือเรียงถ้อย
ฤาชะรอยใจหมายในภาษา
บรรเลงต่างบทเพลงเจรจา
ส่งผ่านมาละมียดละไมซึ้งในการ

ประสานความประสาใจเพื่อให้รู้
ใคร่ครวญดูจะเห็นความตามขับขาน
ความลึกล้ำจึงดำดิ่งถึงวิญญาณ
ณ วันวาร ถึงวันนี้ ที่มีใจ
/color]


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 01-08-2006, 13:10
จำเรียงถ้อยร้อยความวาบหวามจิต
ร่างลิขิตเขียนกลอนได้อ่อนหวาน
อ่านแล้วซึ้งตรึงจิตติดวิญญาณ
ช่างขับขานกานท์เสนาะเพราะจับใจ

จากวันวานถึงวันนี้ไมตรีจิต
เคยมอบมิตรสนิทมั่นมิหวั่นไหว
ความรู้สึกลึกซึ้งละเมียดละไม
ยังคงไว้ไม่เปลี่ยนผันทุกวันคืน


สวัสดีครับ  หนูดาว


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: ประกายดาว ที่ 01-08-2006, 13:31
ร้อยคำความผูกเคียงคือเรียงถ้อย
ฤาชะรอยใจหมายในภาษา
บรรเลงต่างบทเพลงเจรจา
ส่งผ่านมาละมียดละไมซึ้งในการ

ประสานความประสาใจเพื่อให้รู้
ใคร่ครวญดูจะเห็นความตามขับขาน
ความลึกล้ำจึงดำดิ่งถึงวิญญาณ
ณ วันวาร ถึงวันนี้ ที่มีใจ
/color]

ฤา จะหวั่นไหวหวามตามภาษา
ใช่ร่ำหารำพันถึงซึ่งใครไหน
หนึ่งเดียวนั้นหนักแน่นในฤทัย
ครองใจไว้หวานหนึ่งซึ้งนานเนาว์

ไม่อาจเปรียบดาริกากล้าแสงวิบ
ซึ่งระยิบฝากฟากฟ้าไปหาเขา
ในล้ำลึกซึ้งประสานผ่านสองเรา
ฤาความเขลาชั่วราตรีที่ปลงใจ

ปล. ประเดี่ยวจะหาคำสุดท้ายมาแทนคำว่า "ใจ " นะคะ

สวัสดีค่ะ ลุงคมเย็น  


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 01-08-2006, 15:15
เปรียบเธอเป็นเช่นดาวสกาวฟ้า
ทุกคืนคราราตรีมีแขไข
ยังมีดาวพรางพร่างกลางฟ้าไกล
เป็นธงชัยนำชีวิตจิตผูกพัน

หวังสักวันฝันเป็นจริงได้อิงแอบ
สนิทแนบน้องได้ดังใจฝัน
เธอคือดาวเราคือดินถวิลกัน
เพียงแค่นั้นรำพันไปใจเศร้าตรม

เขียนยังงี้รู้สึกหนุ่มขึ้นอีก๔๐ปี



หัวข้อ: ร้อยกรองเรียง เคียงคำ ลำนำคิด - - - - - - - ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: ThailandReport ที่ 01-08-2006, 19:00
 :slime_p:


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: ประกายดาว ที่ 02-08-2006, 13:33
เปรียบเธอเป็นเช่นดาวสกาวฟ้า
ทุกคืนคราราตรีมีแขไข
ยังมีดาวพรางพร่างกลางฟ้าไกล
เป็นธงชัยนำชีวิตจิตผูกพัน

หวังสักวันฝันเป็นจริงได้อิงแอบ
สนิทแนบน้องได้ดังใจฝัน
เธอคือดาวเราคือดินถวิลกัน
เพียงแค่นั้นรำพันไปใจเศร้าตรม

เขียนยังงี้รู้สึกหนุ่มขึ้นอีก๔๐ปี



หนูเป็นเพียงแค่ดาวดวงเล็กเล็ก
เป็นเพียงเด็กเมื่อวานซืนช่างสงสัย
ลุงคมเย็นรำพึงหวานไปถึงใคร
แม่ไอ้หนูคนไหนกันคะลุง  :?:


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: ThailandReport ที่ 02-08-2006, 13:43
เปรียบเธอเป็นเช่นดาวสกาวฟ้า
ทุกคืนคราราตรีมีแขไข
ยังมีดาวพรางพร่างกลางฟ้าไกล
เป็นธงชัยนำชีวิตจิตผูกพัน

หวังสักวันฝันเป็นจริงได้อิงแอบ
สนิทแนบน้องได้ดังใจฝัน
เธอคือดาวเราคือดินถวิลกัน
เพียงแค่นั้นรำพันไปใจเศร้าตรม

เขียนยังงี้รู้สึกหนุ่มขึ้นอีก๔๐ปี



หนูเป็นเพียงแค่ดาวดวงเล็กเล็ก
เป็นเพียงเด็กเมื่อวานซืนช่างสงสัย
ลุงคมเย็นรำพึงหวานไปถึงใคร
แม่ไอ้หนูคนไหนกันคะลุง  :?:


ไม่กลัวลุงเขาตอบว่า...ไปส่องกระจกเอาสิหลาน !! เหรอ?


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 02-08-2006, 15:06
เธอดุจเป็นเช่นดาวสกาวแสง
ส่องฟ้าแจ้งแข่งจันทร์เฝ้าฝันถึง
ถนอมรักปักใจไฝ่รำพึง
รำพันซึ้งคนึงหาทุกราตรี

ตรองใจคิดติดใจครวญคอยหวนหา
เห็นท้องฟ้าคราใดตรึงใจพี่
พราวประกายดาวพร่างกระจ่างฤดี
ดลชีวีชี้ทางสว่างเอย

ยังงี้ต้องบอกว่า  กลอนพาไปอภัยด้วยช่วยเกื้อหนุน
สวัสดีครับคุณดาว  คุณไทยแลนด์
ข้างบนเป็นกลบท  งูกระหวัดหาง  คำสุดท้ายวรรคต้นกับคำแรกวรรคต่อไป
จะเป็นอักษรเดียวกันไปเรื่อยๆ 



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: 999 ที่ 02-08-2006, 15:19




จะแต่งกลอนเนิบนาบกลัวนานนม
น้องหนูดมชมแล้วก็ผลักไส
สอนให้รักไม่ยักจะทอดใจ
จากเมื่อใดให้ลืมเสมอเลย

ร่วมนัวเนียคลอเคลียเหมือนหนังแขก
ขับขานแหลกแหกค่ายอย่างขื่นขม
ขัดตรงจิตคิดไปไร้อารมณ์
ร่วมชื่นชมคมคำอย่างธรรมใจ..


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: softly gun ที่ 02-08-2006, 17:26
ร้อยครบร้อย นับไว้ ได้หนึ่งหมื่น
ร้อยยังตื่น นับไป ได้ถึงแสน
ร้อยระยับ นับใจ ในดินแดน
ร้อยความแค้น นับตก อกเอ๋ยกู

   รักษ์แสนรักษ์ รักใคร ไทยทั้งชาติ
รักษ์ผูกขาด รักฉัน นั้นเลิศหรู
รักษ์สังคม รักมิตร คิดเฟื่องฟู
รักษ์โลกรู้ รักจริง ยิ่งงดงาม

   กวีครบ จบกวี เป็นที่หนึ่ง
กวีจึง ตามกวี ไม่มีถาม
กวีเห็น เป็นกวี ทำดีตาม
กวีหยาม เศษกวี ธุลีดิน

   วรรณะปน ชนชั้น สำคัญเลิศ
วรรณะเกิด ชนหยุด สะดุดหิน
วรรณะเร่ง ชนสู้ สุดชีวิน
วรรณะสิ้น ชนมา “ประชาธิปไตย”
---------------------------------


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: 999 ที่ 02-08-2006, 17:57






      ขอ               แต่ง              กลอน           หนึ่ง       บท          สะ       กด       จิต

      ไทย             ต้อง              คิด              พิษ         ร้าย          ทัก      ษิณ      หรือ

      รัก                ตี                 ด้วย            หนึ่ง        ใจ           สะ       หาย      คือ

      ชาติ             ด้วย              สื่อ              ข่ม          ชั่ว          ใจ        ส่อ       ธรรม


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 04-08-2006, 11:46
วรรณ...วากย์อยากร่วมสร้าง..............ร้อย.....พัน
กวี......ร่างรจเรขสรรค์.....................รักษ์....ไว้
รักษ์....หวังหลั่งรินฝัน......................กวี......ฝาก   โลกเฮย
ร้อย.....คิดเรียงคำให้.............ฝากไว้..วรรณ...ศิลป์


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 08-08-2006, 11:52
แม่เราเขาบ้านนอก............ชาวนา
งานตรากตรำตลอดมา........แม่สู้
ทนเหน็ดเหนื่อยกายา.........มิย่อ   ท้อเลย
แม่ส่งลูกเรียนรู้.................โลกกว้างทางเจริญ

แม่เราเขาเก่งแท้............ทำงาน
เช้าค่ำทำอาหาร............อร่อยแท้
วันยังค่ำชื่นบาน.............มิบ่น   เหนื่อยเลย
รักลูกรักผัวแม้...............ยากแท้ยังทน

แม่เราเขาฉลาดด้วย........ใจดี
สอนลูกอย่าอยากมี.........มักได้
เขียนได้อ่านออกซี..........คนเก่ง
สอนลูกร่ำเรียนไว้............เพื่อรู้ทันคน

แม่อ่านกลอนให้ลูก..........รับฟัง
นิทานเก่าเฝ้าปลูกฝัง........ไฝ่รู้
คุณธรรมพร่ำสอนยัง..........เยาว์อยู่
ให้ซื่อสัตย์ใจสู้................ระลึกรู้คุณคน

ลูกแม่เติบใหญ่แล้ว..........รักเรียน
บากบั่นหมั่นพากเพียร.........เที่ยงแท้
อยากให้แม่ยังเวียน.............สอนสั่ง
ลูกแม่คนซื่อแม้....................ยากไร้ใจดี

รักแม่อยากกราบเท้า...........แม่เรา
รักแม่อยากอยู่เนา.............แนบข้าง
รักแม่ช่วยแบ่งเบา...........ยามทุกข์
รักแม่จุดธูปอ้าง.............เอ่ยรู้บูชา


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 09-08-2006, 14:57
"รัก"ไหนในโลกนี้.........เทียมเทียบ
ดัง"แม่"รักจักเปรียบ........เท่าฟ้า
ชีวิต "ที่"สงบเงียบ.............เรียบง่าย   แม่นา
รักแม่ใหญ่"สุด"หล้า...............สุดฟ้าสุดดิน

...แม่รักลูก "รัก"ล้น..........เหลือคณา
สายเลือด"แม่"หลั่งมา..........กล่อมเลี้ยง
...ดื่ม "ดูด"กษิระธารา.............จากอก
..."ดื่ม"ด่ำฉ่ำรักเพี้ยง.................ดั่งน้ำทิพย์สวรรค์



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 11-08-2006, 12:11
จะคิดกิจคิดการงานใดนั้น
ควรจัดสรรจัดสร้างถูกทางที่
ต้องวางแผนวางผังตั้งใจดี
ล้วนอยากมีอยากได้กำไรเกิน

ขออย่าโกงอย่าคดคอยปดโป้
ชอบคุยโม้คุยเบ่งอวดเก่งเอิ้น
ไม่เก่งจริงเก่งจ้อขี้ฉ้อเพลิน
อยากจะเชิญจะใช้ไปไกลไกล (กินนรเก็บบัว)


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 15-08-2006, 16:16
ร้อย.....พัน....หลาก....เรื่อง....ล้วน...........ชวน..............ตรอง
รักษ์.....ผูก....หลาย....บท.....กรอง..........กวิ...............ถ้อย
กวี.......วจี....เรื่อง......ราว.....สนอง.........เสนอ.............พจน์
วรรณ....วากย์.ราว.......ฝัน......ร้อย...........ค่อย..สร้างกวี..ศิลป์

เป็นกระทู้อ่านลง๗แถว   ร้อยรักษ์กวีวรรณ  พันผูกวจีวากย์   หลากหลายเรื่องราว
เรื่องบทราวฝัน   ล้วนกรองสนองร้อย   ชวนกวิเสนอค่อย   ตรองถ้อยพจน์ศิลป์


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 18-08-2006, 15:43
"ฝาก"รักไว้ในสายลมที่พรมผ่าน
ฝาก"ใจ"ซ่านหวานซึ้งเสน่หา
ฝากไป"กับ"กวีกานท์ผ่านเวลา
ในแสงจ้า"จันทร์"สกาวดาวพร่างพราย
แม้ยามจากหวัง"ฝาก"มานผ่านฟ้ากว้าง
ยามอ้างว้างร้างขวัญ"ฝัน"สลาย
ยามห่างกัน มั่นไว้ ใจ "กับ"กาย
รักมิคลาย เคยชม ห่มแสง"ดาว"

กระทู้ทแยงมุม  ฝากใจกับจันทร์  ฝากฝันกับดาว


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 22-08-2006, 12:10
ความฝันสรรสุขให้.........ใจเกษม
ปลุกจิตปลื้มปรีเปรม.........ปลอบเศร้า
ไร้ทุกข์สุขอิ่มเอม...............ชื่นอก
พรางทุกข์สุขรื่นเร้า................ฝากเฝ้าไฝ่ฝัน

โลกฝันสรรสุขไว้..........ใจหวัง
รักชื่นไร้ชิงชัง...............ชอกช้ำ
หวังยามตื่นฟื้นพลัง............พ้นโศก
พ้นยากยอกใจย้ำ.................ผ่านร้ายขื่นเข็ญ

โลกจริงยิ่งยอกย้อน..........ร้อนเย็น
ลำบากยากลำเค็ญ...........ค่นแค้น
ไร้สุขทุกข์แสนเข็ญ...........ขมขื่น
ยามหลับยลฝันแม้น...........แม่นฟ้าสรวงสวรรค์

อยากฝันสรรสุขร้าง..........โลกจริง
มากมิตรสหายชายหญิง........แวดล้อม
อบอวลอุ่นรักอิง.....................อกชื่น
ทุกสิ่งสรรพ์สุขพร้อม...................พ่างเพี้ยงพิมานแมน


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 30-08-2006, 14:52
นกนางนวลเหนือน้ำลำธารใส
บัวบังใบบานบึงถึงตอนสาย
ชูช่อชมเชยชื่นรื่นพระพาย
ผึ้งผันผายโผผินเที่ยวบินตอม

ระรื่นเรื่อยรวยรินกลิ่นดอกไม้
อวลอบไออ้อยอิ่งทิ้งกลิ่นหอม
ยูงเยี่ยมยอดยางใหญ่ใกล้พยอม
เหล่าลิงล้อมแลลานคลานป่ายปีน


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 30-08-2006, 15:40


(http://www.butterfly.org.tw/2004butterflyseason/img/plan_10c.jpg)

ร้อย......ดวงดาวเป็นสายสร้อยห้อยคอเจ้า
รักษ์.....บ้านเราร่วมสร้างอย่างที่หวัง
กวี.......จารงานเขียนไว้ให้จีรัง
วรรณ....รวมพลังบันทึกไว้ให้โลกลือ


ร้อย......น้ำใจเป็นหนึ่งเดียวดังเกลียวเชือก
รักษ์.....ไม่เลือกก้าวไปใจยึดถือ
กวี.......ใหม่ก่อความดีด้วยฝีมือ
วรรณ....ใช่แย่งยื้อแต่เสกสร้างหนทางตน


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: ฟ้าเข้ม ที่ 30-08-2006, 17:03
ร้อย....รักษ์กวีวรรณศิลป์
รักษ์...ร้อยหลั่งรินวรรณสาร
กวี.....เรียงร้อยถ้อยแถลงงาน
วรรณ..วารผ่านหวังยังคง

ร้อย....ถ้อยร้อยเรียงเคียงร้อย
รักษ์....ถ้อยร้อยคำสมประสงค์
กวี......ถ่ายทอดคำด้วยบรรจง
วรรณ...ศิลป์ยืนยงแลคงนาน


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: ariyaka ที่ 31-08-2006, 07:15
สวัสดีครับ จขกท

๐ วรรณกรรม ๐

สัทธราฉันท์ ๒๑…..

๐ งามนัก…วรรควรรณประพันธ์จาร
วิจิตระนยะผสาน
ฟุ้งจรุงมาน
ละลานมี

๐ งามนัก…วรรคผุดประดุจธีร์
ศักยะวุฒิวิถี
นำเพราะคัมภี-
รภาพสรรค์

๐ งามกลอน…ย้อนศัพทะรับกัน
ศิลปะวรรณะประพันธ์
เอมเขษมปัน
กระชั้นใจ

๐ งามโคลง…โยงความพิรามไข
ลิขิตะอรรถะประไพ
วางสว่างไหว
ณ ใจนี้

๐ งามกาพย์…วาบตรึงคะนึงมี
รัถยะธิระวจี
เพื่อจะเอื้อศรี
ฤดีสม

๐ งามฉันท์…นั้นดุจวิพุธพรม
ขจิตะคติภิรมย์
วาทะปรารมภ์
บรมกานท์

๐ งามคำ…นำคิดประดิษฐ์ขาน
วิทยะคุรุอุฬาร
หวังจะหยั่งมาน
สราญแล.



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 31-08-2006, 11:36
"ร้อย"เรียงคำลำนำพ้องสอดคล้องสร้อย
จะ"เรียง"ถ้อยคอยคลอพนอขวัญ
วางคำ"เคียง"เรียงคำเพราะเสนาะกรรณ
ทุกคืนวัน  "คำ"วอนคอยอ้อนเธอ
จะร้อยเรียงเคียง"ลำ"นำคำเหมาะสม
หวังเธอชมชื่นคำ "นำ"เสนอ
เฝ้าฝากฝันบรรเลงพร่ำ"เพลง"เพ้อ
เฝ้าบำเรอรักร่ำพร่ำโคลง "กลอน"

สวัสดีครับคุณอธิษฐาน  คุณฟ้าเข้ม  คุณอริยกะ  เขียนฉันท์เพราะมาก


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 01-09-2006, 13:41
ยอดเยี่ยมเทียมเทพลิขิตสรรค์
อักขระจารประพันธ์
พริ้งเพราะเพียงฝัน
สราญใจ

สร้างสรรค์ฉันท์สัทธราไว้
ศิลปะชำระหทัย
จินตภาพใส
ไสววาร

ลองเขียนสัทธราฉันท์ตามคุณอริยกะ  ไม่รู้เขียนถูกหรือเปล่า
วันนี้สมองแก่ๆทำงานหนักจริงๆ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 01-09-2006, 18:58


(http://files.myopera.com/dearlotus/albums/51181/thumbs/butterfly.jpg_thumb.jpg)


จับใจหทัยประดุจลอย............จิตด้อยมิรู้ความ
ซาบซึ้งประหนึ่งสุริยะงาม........จรผ่านพิภพไตร



ยากนักที่จะเห็นใครเขียนฉันท์ได้ไพเราะ อย่างคุณ ariyaka
แค่ได้อ่านก็ถือว่าเป็นบุญตาแล้วค่ะ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: ariyaka ที่ 01-09-2006, 23:03
สวัสดีครับคุณคมเย็น
สัทธราฉันท์ ๒๑ เป็นฉันท์ใหญ่
ใกล้เคียง สัททุลฯ๑๙ และ อีทิสัง ๒๐

ฉันทลักษณ์
0000102
1111112
0102
103

0...ครุ
1...ลหุ...สระเสียงสั้นทั้งหมด...คำบาลี..สันสกฤต..แยกอ่านเอา
2...ครุ รับส่งสัมผัสในบท
3...ครุรับส่งสัมผัสระหว่างบท


๐ ลำดับนั้นวัสสการพราหมณ์.........ธก็ยุศิษยะตาม....อ่านว่า...ทะ..ก็..ยุ..สิ..สะ..ยะ..ตาม
เล่ห์อุบายงาม..........................ฉงนงำ
๐ ปวงโอรสลิจฉวีดำ..................ริหะวิรุธะและสำ
คัญประดุจคำ...........................ธเสกสัน


คุณอธิษฐานครับ
ยังเพียงผู้ฝึกเขียนครับ
ยังไม่งามสมกับที่ชม

๐ พระราชอำนาจ ๐
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

๐ โบราณะผ่านสหัสวรรษ
ถิระรัฐะสีมา
ทวยไทยฤทัยสหะสถา-
ปนะราชะนั่งเมือง

๐ อำนาจและอาชญะผสาน
บริบาละรุ่งเรือง
ด้วยทศะพิธธรรมะประเทือง
ทะนุเนื่องและอุดหนุน

๐ อำรุงผดุงพระสัทะธรรม
อุปถัมภะเจือจุน
มนตรีบดีรัถยะสุน-
ทริยะกุลกวีกานท์

๐ สังคีตประณีตบทะประดิษฐ์
นิรมิตะกังวาน
สู่โสตประโมทยะทะยาน
ปริมาณ ฤ อาจหมาย

๐ คือภาวะอารยะขบวร
จะประมวลก็มากมาย
รองรับสำหรับจะอภิปราย
กิติคล้ายบ่เคยคลอน

๐ คือราชะอาชญะดรง-
คะผจงและกำจร
เกื้อหนุนกรุณรัฐะนิกร
อดิศรประทานถึง

๐ เพ่งภาษพระราชจริยะวัตร
พจนัตถะคำนึง
งดงามเหมาะความบทะจะพึง
มรรคะซึ่ง ธ สืบสรรค์

๐ โดยเนติ์ประเพณ์ผิวะจะยึด
และประพฤติผูกพัน
อำนาจและอาชญะถวัลย์
กระจะมั่นฤทัยหมาย

๐ โดยควร ณ ส่วนนิระประสิท-
ธิลิขิตะบรรยาย
ย่อมคงธำรงนยะบ่คลาย
ภวะคล้ายบ่เคยคลอน

๐ อำนาจและอาชญะประภาพ
ประลุคาบและนาคร
เต็มฐานะภาวะอดิศร
นิระผ่อนพลาผล

๐ ใคร่ครวญประมวลพฤติวิกฤต
ยุติฤทธิคำรน
มวลหมู่และผู้ประพฤติฉล
ยุติกละหยาบหยาม

๐ เพิกเฉยจะเผยรหัสะเลศ
ระบุเจตนาทราม
กังฉินจะกินปุระสยาม
ผิวะลามจะบรรลัย

๐ เพ่งกิจลิขิตวรรณะประสงค์
จะณรงคะจันรัย
เขตขอบและกรอบอธิปไตย
พิเคราะห์ใหม่จะเห็นหมาย

๐ อำนาจพระราชะวินิจฉัย
ระบุนัยะมากมาย
ควรภาษะปราชญะสยาย
อธิบายะจำนง

๐ แม้นมาตรจะปราศลิขิตะอัก-
ขระลักษณ์จะยังคง
เนื่องในฤทัยชนะประสงค์
ถิระวงศ์นิรันดร.


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 02-09-2006, 17:16
"เขียน"โคลงโยงผูกร้อย........เรียงคำ    "ยาก"เวย
ฝึก"บ่อย"คอยเขียนทำ..........คล่อง "แท้"
ครูพัก"ค่อย"ลักจำ..............."คอย"จด
หวังเก่งเลง"แล"  "แก้".........ก่อเกื้อกานท์กวี

เพียรนึกฝึก  "รัก"ร้อย............"โยง"ฝัน
เขียนมาก"แต่"ยากครัน..........ยอก"ย้อน"
เพียร "เขียน"ทุกคืนวัน...........วนวัจน์   "ยาก"เวย
"โคลง"บทกลซับซ้อน...........ซ่อนกระทู้แซม"เฉลย"

กระทู้อ่านว่า"เขียนบ่อยค่อยแล  ยากแท้คอยแก้  รักแต่เขียนโคลง   โยงย้อนยากเฉลย"
สวัสดีคุณอธิษฐาน  คุณอริยกะ  ขอบคุณในคำแนะนำ  ผมคงต้องคิดอีกนาน จะลองพยายามดู


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 02-09-2006, 20:26
พากเพียรเขียนคิดพินิจพจน์
วิริยะจิตะจรด
มานะกำหนด
จะจดจาร

วาดหวังรังสรรค์ประพันธ์กานท์
มนะตริวจนะศานต์
รังสฤษดิ์งาน
ละลานใจ

จิตฝันมั่นคงประจงไข
วรกวิตริหทัย
เพื่อผดุงไว้
วิไลศิลป์

ถึงยากหากปลงประสงค์จินต์
ปิติสิละสละสิ้น
หวังประสพวิญญ
มิสิ้นเพียร

หวังว่าจะเป็น  สัทธราฉันท์   คงต้องรบกวนคุณอริยกะอืกครั้ง   ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 12-09-2006, 11:36
สนธยาสายัณห์เยือน........รวีเลือนเตือนวิกาล
ยอแสงสีแดงฉาน............สะท้อนผ่านม่านเมฆซ้อน

แดดจับระยับวาว............ม่วงครามขาวเคล้าแดงอ่อน
รอนแรงแสงทินกร...........รอจันทรจรมาแทน

เงาไม้ทอดไกลยาว..........นกเหินหาวสุดด้าวแดน
กลับรังรีบบินแล่น............ปากคาบเหยื่อเผื่อลูกน้อย

ชาวนาพากันกลับ............ก่อนแดดลับลูกเมียคอย
วัวควายเดินตามต้อย........ทยอยกันตามคันนา

บนบ่าแบกคันไถ.............เดินกันไปตามประสา
เหนื่อยนักพักกายา...........ถึงเคหาพาสุขใจ

ทอดตามองฟ้ากว้าง..........ดูเวิ้งว้างทางยาวไกล
ข้าวเขียวเรียวไสว.............ลมลูบไล้ใบอ่อนเอน

ลานบ้านแลเป็ดไก่.............เลี้ยงเอาไว้ไข่ให้เห็น
เด็กเล็กเที่ยววิ่งเล่น............เป็นสนุกทุกทุกวัน

ครอบครัวอยู่พร้อมหน้า.........หาข้าวปลามาแบ่งปัน
ล้อมวงลงกินกัน.................เหนื่อยล้านั้นก็พลันคลาย

ค่ำลงไร้แสงสี....................ใช้ชีวีที่เรียบง่าย
พอเพียงพอเลี้ยงกาย............มิมุ่งหมายจะมั่งมี

อาบเหงื่อเพื่อหว่านไถ...........เก็บเกี่ยวให้ได้ผลดี
เพื่อข้าวเพื่อชีวี....................เพื่อโลกนี้มีข้าวกิน



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 13-09-2006, 14:03
คืนเพ็ญฟ้าผ่องแผ้ว..........พรรณราย
ลอยเด่นดวงเดือนฉาย..........เฉิดฟ้า
ทรงกลดหมดเมฆกราย..............ดาวเกลื่อน
แสงส่องสุดภพหล้า.......................แหล่งพื้นพสุธา

แลลิ่วทิวทุ่งกว้าง...........ทางไกล
เห็นตะคุ่มพุ่มพฤกษ์ไพร.........สลับซ้อน
ไม้สูงเยี่ยมฟ้าใส......................เยือนเมฆ
เงาศศิส่องสะท้อน.........................สู่น้ำลำธาร

มนต์แสงจันทร์ร่ายฟ้า.........ฝันละเมอ
ฟ้าสั่งฝั่งดินเผลอ...............รักฟ้า
เรไรหรีดร่ำเสนอ................เพลงรัก
สังคีตทิพย์กล่อมหล้า...........โลกล้วนหลับฝัน

ลมแผ่วพัดพฤกษ์โพ้น...........โอนไหว
ใบโบกโยกแกว่งไกว...........กิ่งก้าน
ดอกไม้หลับฝันละไม............ลมกล่อม
พรมพร่างน้ำค้างสะท้าน.........สั่นสะเทิ้นทนหนาว

ดาวกระพริบระยิบฟ้า..........ชวนฝัน
ดึกดื่นดาวหมื่นพัน.............ผ่องโพ้น
สาดแสงดั่งแข่งจันทร์........จรแจ่ม
ไกลสุดฟากฟ้าโน้น............นั่นล้วนดาริกา

ธรรมชาติพิลาศล้ำ..........พรรณนา
ปลอบทุกข์ปันสุขครา.........หม่นเศร้า
ก่อกำเนิดจินตนา..................การแจ่ม   แจ้งนอ
หลับตื่นฟื้นฝันเฝ้า......................ไฝ่เพ้อละเมอถึง


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 14-09-2006, 15:17
ลำห้วยเล็กริมบ้านธารน้ำตื้น
ยามเด็กยืนย่ำถึงครึ่งหน้าแข้ง
น้ำใสเย็นเห็นปลาว่ายไหวไหวแซง
แดดรอนแสงแฝงเมฆไม้ใหญ่บัง

ลำห้วยน้อยลอยไรปลาไล่ฮุบ
เสียงดังผลุบโผไปในน้ำขัง
แมลงปอโบกปีกเปี่ยมพลัง
ผีเสื้อยังรั้งรออยู่ตอไม้

อยากกินปลาหาท่อนไม้ไว้กั้นน้ำ
ก้อนหินด้วยช่วยกันนำมากั้นได้
เป็นเขื่อนกักวักน้ำออกให้ว่องไว
น้ำแห้งไปไล่จับปลาอย่ารอรี

ปลากระโดดโลดดิ้นเด็กไล่จับ
ตะครุบหมับจับใส่ถังสังกะสี
ปลาซิวสร้อยน้อยใหญ่ได้มากมี
ปลาดุกซีมีเงี่ยงเกี่ยงกลัวกัน

จับปลาไหลในรูต้องรู้จัก
มันลื่นนักมักหนีขมีขมัน
สองมือจับขยับไขว้ให้เร็วทัน
เพราะลื่นครันเอามันใส่ในถังเลย

จับเสร็จแล้วอย่าแจวจรก่อนรื้อเขื่อน
อย่าลืมเลือนปล่อยน้ำไหลไว้เกลอเอ๋ย
วันหลังกลับมาจับใหม่ได้อย่างเคย
พอแล้วเหวยวันนี้มีปลากิน


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 19-09-2006, 16:16
สระน้ำใหญ่ใสเย็นเห็นมัจฉา
เริงธาราปลาใหญ่ไล่ปลาน้อย
มีนกน้ำดำผุดมุดเล่นลอย
มีกุ้งหอยน้อยใหญ่ในน้ำเย็น

น้ำสระใหญ่ใสเย็นชวนเล่นว่าย
สาวผันผายผลัดผ้ามาลงเล่น
ค่อยเยื้องกรายชายฝั่งบังไม้เอน
ค่อยบังเร้นบัวใบใกล้ฝั่งธาร

แลใต้น้ำรำไรไหวไหวร่าง
ยลผิวนางนวลใยในละหาน
อยากเป็นน้ำฉ่ำเย็นให้เล่นนาน
เป็นบัวบานบังใบใกล้ชิดนาง

เป็นปลาน้อยลอยว่ายในสายน้ำ
ได้ชื่นฉ่ำเชยชิดสนิทร่าง
ยลปทุมพุ่มนวลชวนชมพลาง
ใจดั่งค้างคว้างหวิวปลิวหลุดลอย

สนธยาสายัณห์ตะวันลับ
สาวน้อยกลับขยับไกลใจตามต้อย
อยู่ริมฝั่งยังขยิ่มกริ่มใจคอย
รอสาวน้อยสรงสระจะเฝ้ารอ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 20-09-2006, 08:16
ทรนงหลงเลิศล้น..........คนเกรง
ทรราชรัฐข่มเหง...........เร่งรู้
ทรชนบ่ยำเยง.............เกรงบาป
ทรหดหาญหักสู้...........สัตว์ส้องการเมือง

ทรราชชาติชั่วพ้น.........เผ่นหนี
ทรยศคดย่ำยื..............ยกเค้า
ทรชนหมดศักดิ์ศรี.........ลี้หลบ
ทรหดทหารเฝ้า............พิทักษ์ฟ้าหล้าสยาม


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 20-09-2006, 16:57
ทะ...วารนรกอ้า............ออกเชิญ
ลุ่ม...หล่มเลวทรามเดิน........มุดได้
ปุ่ม...งิ้วปูดแหลมเกิน..............คำกล่าว
ปู.....สู่อเวจีให้.........................ห่าเฮี้ยการเมือง

ทุ..เรศสุดทุดทุ้ย...........ทักษิณ
สุ...นัขไม่ยักกิน............เกลือกกลั้ว
มุ...ทะลุโหดหิน............คนห่า
ดุ...ด่าไอ้คนชั่ว.............แช่งเช้าแช่งเย็น

อุ....บาทว์ชาติชั่วช้า..........ทรชน
สา...หัสกัดกินจน............ป่นปี้
นา...นาห่าแร้งขน..........คนข่ม   แค้นนา
รี.....รีบเร่งเร็วนี้..........หนอยล้างจังไร

โก......หกหน้าเหลี่ยมไร้.........ยางอาย
วา......ระซ่อนเร้นลาย.............เล่ห์ลิ้น
ปา......อึใส่ใจหมาย...............มุ่งพิฆาต
เปิด.....ตูดไปให้สิ้น................สัตว์ส้องการเมือง

จก...เปรตจากป่าช้า...........ชั่วทราม
จี้.....จ่อจี้กินกาม...............กิเลสกล้า
รี้......ลื้อเร่งเกินงาม............งกแดก
ไร.....บ่กลัวบาปช้า.............ชั่วร้ายสารเลว

คิดว่าต่อไปคงไม่ต้องเขียนถึงพวกนี้อีก


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 26-09-2006, 10:46
ทะ....เลร่ำน้ำระลอก...............ซัดแรง
ลุ่ม....หล่มลึกรักแฝง..............ฝากเศร้า
ปุ่ม....เปือกเปื่อยซากแสลง......ดุจรัก สลายนา
ปู......สู่หลุมศพเฝ้า.................ไฝ่เพ้อละเมอฝัน

ทุ......รนร่านเรื่องร้าว...............รักราน
สุ......คติหรือคือสถาน.............สุดท้าย
มุ......สาผิดใจผลาญ...............พรากรัก
ดุ......ด่าว่าโหดร้าย..................รักร้าวใจสลาย

อุ......กฤษฏ์ผิดพลาดพ้น...........อภัยกัน
สา.....หัสเหือดใจหัน.................ห่างร้าง
นา.....นาสิ่งผูกพัน....................ผันเปลี่ยน
รี.......ร่างเรื่องร้ายอ้าง...............แอบเร้นรักหนี

โก......หกพกพิษเฮี้ยม................ประหัตประหาร
วา.......หนึ่งก้าวผิดพาล...............พลาดสิ้น
ปา......ไปไป่ต้องการ..................รักเก่า
เปิด.....ปากหลากหลายลิ้น...........เล่ห์ร้ายใจหญิง

จก......จ้วงล้วงจิตแล้ว.................ร่างเหลือ
จี้........จิตฤทธิ์รักเจือ...................พิษร้าย
รี้.........รื้อร่างดุจเรือ....................ท้องรั่ว
ไร........ไม่เหลือใจคล้าย..............ขาดไร้วิญญาณ

บทนี้เคยลงในห้องสมุด pantip เมื่อก.ค.บทข้างบนเขียนตอนเม.ย.
ตอนนั้นเพิ่งหัดเขียนโคลง




หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 26-09-2006, 20:06


(http://www1.istockphoto.com/file_thumbview_approve/441184/2/istockphoto_441184_two_bears.jpg)




ร้อย......อักษรอันอ่อนด้อย..........คารม
รักษ์......รื่นรมย์เพียงชม.............เล่นลิ้น
กวี........จรจากตรอมตรม...........เกินกล่าว
วรรณ.....ห่างดังชีพสิ้น..............สุขแล้วสโมสร


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 27-09-2006, 16:09
หลากลีลาร่ายไว้...................วัจน์เวียน
หวังกาพย์กลอนโคลงเขียน........คู่หล้า
สานสืบอักษราเพียร................พจน์พากย์
ขวัญลิ่วลอยล่องฟ้า.................ฝากไว้ไฟฝัน

ฉันทลักษณ์ประจักษ์แจ้ง........เจนใจ
เพียรวาดลายสือไหว..........ห่อนเว้น
หวังเกลากล่อมน้อมใน......หทัยมั่น
ฝังฝากวากย์วัจน์เฟ้น......เฟื่องฟุ้งโคลงฝัน

จรรโลงใจไป่ร้าง..........รจนา
สร้างสิ่งศิลป์ภาษา........สืบไว้
มาดหมายมุ่งมรรคา.......เขียนคิด
โลกทัศน์จัดเจนให้........จุ่งรู้หลากหลาย

หมายผดุงมุ่งหมั่นสร้าง.........วรรณสิลป์
เพียรคิดจิตจ่อจินต์.............เจตน์รู้
กวีแล้งโลกรักถวิล............เวียนวาด   วัจน์นา
ตราบชีพม้วยมั่นสู้...........รักสร้างสืบศิลป์

"ร้อย"วิญญาณผ่านห้วง.........เวลา
หวัง"รักษ์"ศิลป์ภาษา............สืบสร้าง
เพียรเขียน"กวี"พา................พบสุข
ตราบโลกไร้"วรรณ"ร้าง..........รักษ์ร้อยกวีศิลป์


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อังศนา ที่ 01-10-2006, 09:22
(http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/flowersgif3.gif)
อาทิตย์สวัสดิ์ค่ะ คุณคมเย็น และทุกท่าน (http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/happy.png)

ร้อย....รวมเลือดเนื้อจาก.........หัวใจ
รักษ์...ประชาธิปไตย..............หลักตั้ง
กวี.....กลั่นบทอ่อนไหว...........วางพจน์
วรรณ..พิภพผ่าวทุกครั้ง..........ที่เคล้าการเมือง

(http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/pink_flowers.gif)



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 02-10-2006, 12:24
ฟ้าสีฟ้าจ้าสว่างกลางแสงแดด
ที่เผาแผดผ่าวร้อนตอนบ่ายคล้อย
ดังลมเสกเมฆผ่องล่องลมลอย
เงาเมฆค่อยคอยบังแดดยังร้อน

มองทุ่งร้างทางไกลใต้ฟ้ากว้าง
ดูกระจ่างกลางกระไอแดดสะท้อน
แลลิบลิ่วทิวเขาเราเคยจร
ความคิดย้อนตอนเยาว์เคยเนาไพร

กระท่อมเล็กกลางทุ่งริมธารน้อย
ใกล้ดงดอยเคยเดินเพลินป่าใหญ่
ขึ้นยอดเขาเราไม่ท้อต่อทางไกล
ลำธารใสไหลเย็นเคยเล่นน้ำ

เคยจับปลาหาปูดูผีเสื้อ
สนุกเหลือเมื่อสายจนบ่ายค่ำ
รับแสงแดดแผดทั่วจนตัวดำ
จนเย็นย่ำหนำใจสนุกจริง

เคยดูเดือนเยือนฟ้าเวลาค่ำ
เคยดื่มด่ำดูดาวผ่าวไฟผิง
กองไฟกรุ่นอุ่นไอโคนไม้พิง
เคยนั่งอิงแอบแม่แลดาวเดือน

ฟังนิทานท่านเล่าเฝ้าถามไถ่
แม่สอนให้ใจดีมีแบ่งเพื่อน
มีมานะแน่วแน่ดังแม่เตือน
อย่าคลาดเคลื่อนเลือนคำจำมั่นไว้

โลกหมุนเวียนเปลี่ยนวัยใจยังคิด
รักสนิทในผืนดินถิ่นบ้านไร่
กลับถิ่นเก่าคราวนี้ไม่มีใคร
เราแปลกใหม่แปลกหน้ามาจากเมือง

หางนกยูงสูงใหญ่ใบร่วงหล่น
สีส้มปนแซมแดงแฝงสีเหลือง
ดังเปลวเพลิงเริงไพรให้เรื่อเรือง
เคยอยู่เยื้องเบื้องหลังบังบ้านเรา

หางนกยูงสูงเด่นเห็นประจักษ์
ขึ้นเป็นหลักปักอยู่คู่บ้านเขา
ไร้กระท่อมริมธารบ้านเคยเนา
ฝืนยิ้มเศร้าเจ้าของใหม่รื้อไปแล้ว

สวัสดีครับคุณอังศนา   ไม่ได้อ่านของคุณเสียนาน


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 03-10-2006, 11:28
เมฆโปรยฝนฉ่ำฟ้า.........ชุ่มดิน
ไหลหลั่งถั่งสายริน............สู่หล้า
อสนีบาตฟาดยิน...................ครืนครั่น
วิชชุแลบแปลบจ้า....................ปลาบเปรี้ยงเสียงดัง

สุดสายฟ้าวาบฟ้า........มืดฝน
เมฆลิ่วลอยลมบน..........มืดคลุ้ม
หล้าโลกโชกฉ่ำชล...........ชระอุ่ม
พฤกษ์พุ่มสุมทุมกลุ้ม............เกลื่อนน้ำเนืองนอง

หยาดเม็ดฝนสุดท้าย.........หายจาง
ไอหมอกละอองบาง..........ชุ่มชื้น
แลเลือนภาพเพียงลาง........โลกสงบ
ฝนหยดค้างร่วงพื้น............จากไม้ไพรพง

บันดาลธารเอ่อท้น..........ธรณี
ซึมแทรกสายชลธี...........ทั่วหล้า
พืชสัตว์ส่ำชีวี................ใช้-ดื่ม
วัฏจักรหลักฝนฟ้า............หล่อเลี้ยงโลกคง

พงไพรพืชเพียบพื้น..........พฤกษ์ไสว
น้ำหล่อเลี้ยงรากใบ.........ใหญ่กล้า
ชีวิตพึ่งชลใส.................กินอาบ
หากขาดน้ำแล้งหล้า........โลกสิ้นชีพสลาย

ไอระเหยเลยแหล่งน้ำ.......ล่องลอย
เป็นเมฆกลุ่มทยอย..........เกลื่อนกลุ้ม
เป็นฝนหยดดังพลอย.........ผลอยร่วง
คลุมภพด้วยเมฆคลุ้ม.........คล่าวน้ำฉ่ำฝน

วนวัฏจักรหลักภพหล้า.......ฟ้าดิน
น้ำ-เมฆ-ฝนหล่นริน...........แหล่งพื้น
หล่อเลียงเหล่าชีวิน..........สัตว์พืช
วนกลับเป็นฝนชื้น............เช่นนี้ชั่วกัลป์


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 06-10-2006, 16:09
ภรรยาจะว่าสุรากะเบียร์
ตะบี้ตะบันกระเดือกซะเพลีย.........ละเหี่ยใจ

เย็นตะวันจะค่ำก็ร่ำซะใหญ่
กระแช่สะเกกะเบียร์และไวน์.........บได้เว้น

เมาสะงอกสะแงกผิว์เมียปะเห็น
จะด่าจะว่าจะบ่นจะเป็น...............ประเด็นดัง

ใช่จะกลัวจะเกรงทว่ามิยั้ง
ก็พูดก็พร่ำซะคร้านจะฟัง...............จะชังเอา

นอนบ่พลิกกระดิกกระเดี้ยเพราะเมา
จะบ่นจะว่ามิเถียงเพราะเรา............มิได้ยิน

อีทิสังฉันท์๒๐  ฉบับชาวบ้าน


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 06-10-2006, 17:13

คราตะวันจะส่องสว่างไสว
ศศีจะจรกระจ่างกระไร...........ฤ ในฝัน

ดาริการะยิบระยับประจัญ
เขย่อเขย่งเขม้นประพันธ์.........มิเว้นเลย




หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 06-10-2006, 23:28
(http://phileomusic.com/goodnight/goodnight.jpg)


ค่ำจะคืนละมุนพิกุลขจาย
เสมือนละม้ายประพิมพ์ประพาย..ประหนึ่งเธอ

รอรตีไฉนมิมีละเมอ
จะร่ำจะร้องประโลม ฤ เออ........ประหวั่นใจ

ดึกและดื่นจะตื่นมิหลับมิไหล
ผจงผจารระวังระไว.................ลิขิตเขียน

พายุเอยอุราจะร่ำจะเรียน
ประโยคประพันธ์จะดีจะเพี้ยน......วิกาลยาม


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ...
เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 07-10-2006, 00:24
เริงระบำ อักษร ในเวบบอร์ด

เพื่อพลอดพร่ำ เจรจา ภาษาสวย

ร้อยอารมณ์ พรมผูกจิต  ให้อำนวย

เป็นตัวช่วย  อวยลีลาท้าคารม



แค่อักษร  กลอนพาไป  ที่ตรงหน้า

เชื่อมั๊ยว่า  ตาที่อ่าน  พานสุขสม

จะนั่งเฝ้า  หน้าจอ  ด้วยอารมณ์

คอบปูพรม  ข่มอักษร  เพื่อพรคุณ



พิมพ์ทุกวัน  วันละนิด จิตแยกแยะ

เพื่อชี้แนะ  อักษร  วอนสนับสนุน

รักษ์ "  เพียงพอ  และพอเพียง  เถียงนายทุน

ทั้งเรา/คุณ  เช่นนี้ สตรีไทย



มาวันนี้  ชี้ลีลา  ภาษากลอน

จิตอาจหลอน  นอนไม่หลับ  แน่ไฉน

ตั้งใจอ่าน  ให้ดีนะ  กลอนพาไป

ได้เนื้อหา  หรือไม่  วานบอกที   :) :) :)


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 07-10-2006, 12:39


(http://www.bangkokbiznews.com/2005/10/10/images/122.jpg)


เข้ามาเพื่อศึกษาหาความรู้
ใช่หาคู่หากิ๊กใหม่ให้สุขสม
ไม่เคยคิดกลั่นแกล้งแฝงอารมณ์
แต่ชื่นชมอักษรท่านที่ผ่านตา

มิตรภาพมีได้คล้ายเพื่อนรัก
ทุกทุกวันทายทักประจักษ์ค่า
อักษรที่เคยสนิทใกล้ชิดมา
ปรารถนาให้เขาสุขทุกราตรี

ไม่เคยคิดไขว่คว้าใครมาใกล้ชิด
เพียงสนิทดังเห็นก็เช่นนี้
หากคุณคิดแค่เพื่อนไปเยือนซี
แล้วฉันนี้จะต้อนรับขับสู้กัน


สวัสดีค่ะคุณครูใบไม้



ใครต้องการความจริงใจ ก็ต้องจริงใจกับเขาก่อนค่ะ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: คำตัดพ้อของใบไม้ ที่ 07-10-2006, 14:56
..อธิฎฐาน...ขอทานชื่อ  ไม่ถือนะ

เราเคยจ๊ะ...จ๊ะจ๊ะเอ๋  บ้างไหมหนอ
หรือจะเคย  เชยชิดน้อง  ห้องรอดอนอ ( ราชดำเนิน )   :) :)
คงไม่ขอ  คืนหลัง (อดีต) ชั่งปล่อยไป


...สวัสดี  น้องที่รัก  นักอธิฏฐาน
ขอช่วยวาน  เฉลยนาม  สำคัญไฉน
ชื่อเท่ห์ดี มีคำสะกด แปลกออกไป
เลยจะไคร่  ไคร่อยากรู้  ดูแปลกดี


 พักชายคา  น่าอยู่  ประตูใจ
เพื่อนใหม่ๆ  ใจมีศักดิ์  รักศักดิ์ศรี
เสรีไทย  ชายคาใหม่ ล้วนใจดี
เจอคนที่  มีน้ำใจ ใฝ่หมายปอง


 คำวิพากษ์ วิจารณ์ ต้องเลือกข้าง
จะยืนอย่าง ยืนยง  คงไม่หมอง
ประเทศไทย ใจเราไซร้ ให้ใครครอง
เราเจ้าของ  ของประเทศ เขตเราเอง


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 08-10-2006, 17:19
..อธิฎฐาน...ขอทานชื่อ  ไม่ถือนะ

เราเคยจ๊ะ...จ๊ะจ๊ะเอ๋  บ้างไหมหนอ
หรือจะเคย  เชยชิดน้อง  ห้องรอดอนอ ( ราชดำเนิน )   :) :)
คงไม่ขอ  คืนหลัง (อดีต) ชั่งปล่อยไป


...สวัสดี  น้องที่รัก  นักอธิฏฐาน
ขอช่วยวาน  เฉลยนาม  สำคัญไฉน
ชื่อเท่ห์ดี มีคำสะกด แปลกออกไป
เลยจะไคร่  ไคร่อยากรู้  ดูแปลกดี


 พักชายคา  น่าอยู่  ประตูใจ
เพื่อนใหม่ๆ  ใจมีศักดิ์  รักศักดิ์ศรี
เสรีไทย  ชายคาใหม่ ล้วนใจดี
เจอคนที่  มีน้ำใจ ใฝ่หมายปอง


 คำวิพากษ์ วิจารณ์ ต้องเลือกข้าง
จะยืนอย่าง ยืนยง  คงไม่หมอง
ประเทศไทย ใจเราไซร้ ให้ใครครอง
เราเจ้าของ  ของประเทศ เขตเราเอง




อธิฏฐานคือการตั้งจิตมั่น
ศรัทธานั้นมุ่งมาดปรารถนา
ก้าวที่ไกลกำลังใจที่ศรัทธา
เพิ่อวันหน้าฟ้าใหม่ใฝ่เสรี

รักอักษรกลอนกานท์วังวานจิต
เริ่มประดิษฐ์คำเขียนเวียนวกหนี
เมื่อท่านเห็นสิ่งใดใช่สิ่งดี
หากเป็นพี่ติงบ้างอย่าร้างไกล



สวัสดีค่ะคุณใบไม้ อธิฏฐาน กับ อธิษฐาน ความหมายเดียวกันค่ะ
แต่เห็นว่าปัจจุบันการใช้ ฏ มีน้อยมาก ก็เลยเลือกใช้ตัวนี้ และจะได้
ไม่ซ้ำกับของคนอื่นด้วยค่ะ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 09-10-2006, 16:09
เย็นรวีจะลาจะลับไศล
ระเรื่อระเรืองอร่ามวิไล...............มิมีเเหมือน

จวนจะค่ำสุรียะต่ำจะเลือน
ณ.รัตติกาลพระจันทร์จะเยือน.......และเคลื่อนจร

สนธยาคณาสกุณสิร่อน
ทิชาฉวัดเฉวียนวะว่อน...............จะย้อนไป

ธรรมชาติสอาดพิลาสพิไล
พระพายพะพัดละมุนละไม.............จะไฝ่ชม

ดังประดิษฐ์ผิว์พิศสิน่าภิรมย์
นิมิตธรรมชาติสิสม....................สคราญตา

แสงพระจันทร์สว่างกระจ่างนภา
ศศีวิไลละไมสง่า.......................ณ.ราตรี

ดาวกระพริบระยิบระยับฉนี้
พระจันทร์สว่างสะท้อนนที............ฤดีรมย์

ปัฐพีสงบพิภพอุดม
มนัสสุโขมโนเหมาะสม................ระทมลา

ธรรมชาติประสิทธิจินตนา
ประสานหทัยตลอดทิวา...............และราตรี

อีทิสังฉันท์๒๐ 
สวัสดีครับคุณชื่อเรียกยากทั้ง๒
คุณอธิฏฐาน  วรรคแรกคำที่๒เป็นคำลหุ  ตกไป๑คำ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 09-10-2006, 22:39

ขอบคุณค่ะคุณคมเย็น  เพิ่มแล้วคงไม่ขาดแล้วค่ะ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 11-10-2006, 13:47
กลั่นจิตคิดร่วม"สร้าง"..........."เรียง"คำ
จารึกโคลง"กล"นำ..............ผนึก"ร้อย"
จารพจน์"บท"พากย์จำ..........จรดบ่อย  "ค่อย"เพียร
จำ "หลัก"อักษรสร้อย...........เสกสร้างสลับ"เวียน"

"ร้อย"เรียงรักคิดค้น...............คำคม  "เขียน"นา
สรร  "รักษ์"ลิขิตสม...............ค่อย"ด้น"
กาพย์กลอน"กวิ"พินิจชม........."ฝัน"ชื่น
คอยคิดวาด  "วรรณ"  "ค้น".......คู่ไว้เคียงสยาม

กลบท สกัดกระทู้ตลับกล กระทู้อ่านทวนเข็มนาฬิกา
"สร้างกลบทหลัก  ร้อยรักษ์กวิวรรณ  ค้นฝันด้นเขียน  เวียนค่อยร้อยเรียง"


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 18-10-2006, 16:00
ใจ...นี้...ให้....นุช...น้อง.......นาง.ใด
พลี..จิต..หมั่น..มั่น...ใจ.........รัก..สู้
จัก..ไหว.หวั่น..รัก....ใคร.......รัก..ไม่...รัก...เอย
ภักดิ์.จิต..เพราะ.รัก...รู้..........ชื่น..ชู้...ชิด...เชย

ใจ..รัก..หวัง..จัก....รู้...........เรียน..เพียร
ไฝ่..รัก..ย้ำ....คำ...เขียน.......จัก....สร้าง
ฝัน..ที่...ภักดิ์..มอบ.เวียน.......ใจ....ชอบ..ชม..เชย
มั่น..จิต..ภักดิ์..มิ.....ร้าง.........สัก...น้อย...เลย.หวัง

บท๑ขดเข้าเริ่มที่  รัก..  บท๒คลายออกเริ่มที่  จัก..

รักเอยเชยชิดชู้ชื่นรู้รัก
เพราะจิตภักดิ์จักพลีใจนี้ให้
นุชน้องนางใดสู้ไม่รักใคร
รักหวั่นไหวจิตหมั่นมั่นใจรัก

จักเขียนคำย้ำรักที่ภักดิ์มอบ
เวียนใจชอบสร้างเพียรเรียนรู้จัก
หวังรักใจไฝ่ฝันมั่นจิตภักดิ์
มิร้างสักน้อยเลยหวังเชยชม




หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 19-10-2006, 15:27
กลอน๘ซ่อนอยู่ในโคลง๔
เริ่มคำแรกของกลอนจาก๑วนไปจบที่๓๒

14>>15>>16>>17>>18>>19>>20
13////28>>29>>30>>31>>32///21
12////27<<26<<25<<24<<23<<22///01>>02
11<<10<<09<<08<<07<<06<<05<<04<<03

อย่างนี้คือขดเข้า แล้วเราก็วนจาก 32 กลับไปจบที่ 1 เหมือนเดิม

14<<15<<16<<17<<18<<19<<20
13////28<<29<<30<<31<<32///21
12////27>>26>>25>>24>>23>>22///01<<02
11>>10>>09>>08>>07>>06>>05>>04>>03

อย่างนี้คือคลายออก

โยงไยยากยอกย้อน..........บทตอน
โคลงคิดโคลงในกลอน.......ซ่อนซ้อน
เพียรจิตจ่อไว้สอน.............ใจใส่    ใจเย็น
เขียนคิดออกอยากย้อน.......บอกย้ำเห็นใจ

โยงฝึกฝนไฝ่รู้..................โคลงกล
"โคลงขนดกลอน"ค่อยวน........คิดไว้
ตรองวนวากย์ฝึกตน..................ใจไฝ่   เพียรเขียน
ลองคิดเขียนคล่องให้.....................คิดไว้คิดเพียร

บท๑คลายออกเริ่มจาก"ซ่อน"เป็นตำแหน่ง๓๒
บท๒วนเข้าเริ่มจาก"ใจ"เป็นตำแหน่ง๑
เป็นกลอน๒บท

ซ่อนกลอนในโคลงคิดจิตจ่อไว้
สอนใจใส่ซ้อนตอนบทย้อนยอก
ยากไยโยงโคลงเพียรเขียนคิดออก
อยากย้อนบอกย้ำเห็นใจเย็นใจ

เพียรเขียนเพียรคิดไว้คิดให้คล่อง
เขียนคิดลองตรองโคลงโยงฝึกฝน
ไฝ่รู้โคลงกลไว้ไฝ่ใจตน
ฝึกวากย์วนขนดกลอนค่อยวนคิด


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 20-10-2006, 14:13
ศร.....คม.....ตา....จาก..เจ้า.........จิต......ชาย
เนตร..เสียบ..บาด..ยาก...หาย........ห่อน...แก้
ปัก....จม.....จิต....สุด....คลาย.......คิด.....ก่อน...นอน...ตรม
สลัก...มิด.....คิด....ถอน..แม้..........ค่อน....ม้วย...มรณ์..ตาย

อ่านจากบนลงล่าง๙แถว  เป็นกลอน๘

ศรเนตรปักสลักคมเสียบจมมิด
ตาบาดจิตคิดจากยากสุดถอน
เจ้าหายคลายแม้จิตห่อนคิดค่อน
ชายแก้ก่อนม้วยนอนมรณ์ตรมตาย


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 21-10-2006, 21:31



(http://www.aub.edu.lb/common/graphics/images/flower-spring.jpg)


ยามอรุณนภาสว่างไสว
วิหคขยับจะเคลื่อนจะไป.............จะเหินหาว

บุปผชาติสะอาดสะพรั่งสะพราว
พิกุลขจรลดาอะคร้าว..................ประดับไพร

ชัยพฤกษ์จะบานจะร่วงกระไร
สุคนธ์อร่ามละมุนละไม................อุดมดี

บุษกรจะบานประดับนที
เสน่ห์พนาประหนึ่งจะมี................ฤ.เทวา


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 25-10-2006, 15:06
ยามเริ่มอรุณรวิเลื่อน............จรเยือนนภาลัย
แสงพร่างสว่างวนไสว..........ณไศลพนาสันต์

เซงแซ่สกุณจรบิน...............ผละผินนิราศพลัน
เพื่อภักษหารกิมิบสรร...........ชิวะนั้นสิหากิน

โบกปีกขยับกระพือว่อน.........จรร่อนภมรบิน
ไฝ่หาผการะรินกลิ่น..............รสเสาวคนธ์ชม

คลี่กลีบยะแย้มผกาบาน.........ณละหานสิชวนดม
สีสันสะสวยสะท้านลม............ตละล้วนตระการจริง

พงพฤกษ์สะพรั่งพระพายไกว.....ประทะใบสบัดกิ่ง
หยุดสายพระพายบไหวติง.......วนนิ่งบเอนไหว

ชุ่มชื่นตฤณชะอุ่มเขียว...........ระดะเรียวระบัดใบ
นำค้างสะท้อนตะวันใส...........กลเพ็ชรัตน์ราย

ชมธรรมชาติอรุณรุ่ง..............รพิพุ่งระเรืองฉาย
ส่องหล้าจรัสประกายพราย......บริสุทธิ์ประทับใจ

วสันตดิลกฉันท์๑๔



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 25-10-2006, 23:57


(http://www.smugmug.com/photos/81379614-S.jpg)


ยามเย็นรวีรุจิระอ่อน
ทินกรก็ลาไกล
ราตรีกระจ่างศศิประไพ
จรเคลื่อนมิเลือนลา

ค่ำคืนพระพายประดุจโบย
ปะทะโปรยวสันต์มา
ดวงดาวระยิบระดะนภา
มะลิซ้อนสะพรั่งบาน

เรือนรักประดับทวิหทัย
จิตใส่นิรันดร์กาล
นาวาจะฝ่าอุทกพาล
สติมั่นประคองลำ

พิณเพลงประเลงคีตะผสาน
จรผ่านคละลำนำ
แว่วหวานสะท้อนอุระจะร่ำ
มธุรสประหนึ่งเธอ



วสันตดิลกฉันท์ ๑๔


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 27-10-2006, 13:12
จนเครียดจะกินสุราบ่อย.............ขณะค่อยละเลียดกิน
เสียงด่ากระทบผวาจินต์.............เพราะติฉินน่ะฉันกลัว

กินเหล้าซะเมาเละบ่อยนา............ภริยาจะตีหัว
กินกับจะอ้วนผิว์หมูวัว.................บมิมั่วนะหนูเอย

วสันต์กระดกฉัน๑๔

ซาหวัดดี  หนูอาทิดถานนนนน


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 27-10-2006, 15:57
ฟ้าหลังฝนดลหมอกออกขาวหม่น
โลกอาบฝนอบเพาะพืชเหมาะสม
กระไอฝนฝากชื้นชวนรื่นรมย์
หลังฝนพรมพฤกษ์ชุ่มชอุ่มใบ

วสันต์หยาดขาดเม็ดเหลือเกล็ดแก้ว
ชลใสแวววาวพร่างค้างใบไม้
สุรีย์แรงแสงทองส่องพฤกษ์ไพร
ขับชื้นไล่กระไอฝนปนหมอกจาง

เหนือโค้งฟ้าปรากฏรุ้งสดใส
งามจับใจวิไลตาฟ้าสว่าง
เมฆเคลื่อนคล้อยลอยลมพรมเบาบาง
รุ้งกระจ่างจับใจในนภา

ธรรมชาติวาดไว้วิไลล้ำ
หลังฝนฉ่ำน้ำละอองไอล่องฟ้า
สะท้อนแดดแผดจับระยับตา
เป็นรุ้งจ้าเจิดจรัสประภัสร์พราว

เงยหน้ามองท้องฟ้าตามองภาพ
โค้งรุ้งทาบอาบแสงแห่งห้วงหาว
ประทับในใจฝังทุกครั้งคราว
คิดเรื่องยาวเทพนิยายสายรุ้งทอง

ธรรมชาติวาดไว้วิไลเลิศ
รุ้งพราวเพริศเจิดจรัสประภัสร์ผ่อง
แสงเจ็ดสีจับนัยน์ชื่นใจมอง
แสงรุ้งส่องสองฝั่งฟ้าพาใจชม



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 27-10-2006, 23:20


(http://msnbcmedia.msn.com/j/msnbc/Components/Photos/050511/dream_sandy_spit_bobfriel.standard.jpg)


หาดทรายทะเลประดุจกลืน
ปะทะคลื่นผสานกัน
ฟองพรายประกายมธุรจันทร์
กลกาลประจักษ์จินต์

นาวาจะฝ่าอุทกไป
ภวภัยชลาสินธุ์
เพลงแผ่วหทัยทมยิน
คีตผ่านสราญรมย์



สวัสดีค่ะคุณคมเย็น





หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 28-10-2006, 11:48
คลื่นทะเลครวญเห่เพ้อ..........เพลงฝัน
กระซิบสั่งคำรำพัน.............พร่ำถ้อย
ซัดหาดสาดฝั่งวัน............คืนค่ำ
เพลงรักโลมฝั่งร้อย.........หลากล้วนเรื่องราว

ขาวระลอกคลื่นพลิ้ว.........ทิวแถว
ซัดฝั่งหลั่งรินแนว..............เนื่องน้ำ
พรายชลพร่างพราวแพรว.........ไหลพลั่ง
ไหวโยกพฤกษ์ลมย้ำ.................เหล่าไม้เอนไหว

ใจหาดหวาดคลื่นร้าย...........ลมหวน
คลื่นแผ่วคลอเพลงครวญ..........ขับร้อง
เพลงคลื่นรักชักชวน...................เชยฝั่ง
เสียงสั่งดั่งเพลงพ้อง......................แผ่วเพ้อละเมอฝัน

คลื่นครวญชวนฝั่งเพ้อ..........ฝันเพลิน
ริ้วระลอกซัดหยอกเอิน..........อยู่ซ้ำ
ม้วนกลับลับหลังเดิน............ไกลฝั่ง
ลมไล่ซัดใหม่ย้ำ..................ลบยัอนรอยทราย



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 30-10-2006, 14:58
ทุนสามานย์ประศาสน์ธนมหิทธิ์
โกงกินมิกลัวผิด...................ผงาด

ล่มล้างชาติทุรกรรมอุบาทว์ตริวิปลาส
บังหลวงและฉ้อราษฎร์............มิอาย

ต่างชาติถืออธิปัตย์มหันตมหเลศ
บ้านเมืองสิอาเพศ..................พินาศ

กินโกงโยงคณะพรรคและวงศคณะญาติ
โลภย้ำขย้ำชาติ.....................ชะล่า

ผลกรรมย้อนจรลีสิหนีละพสุธา
โลภหลงและบาปหนา..............สนอง

อุทธาหรณ์ธรราชพินาศลุทุขะครอง
คือทางอธรรมผอง...................เผชิญ

(สัททุลวิกกีฬิตฉันท์๑๙)


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 02-11-2006, 11:27
เพ็ญสิบสองเปี่ยม"น้ำ"............."นที"ธาร
เต็มปริ่มเนือง"นอง"ละหาน.........ฝั่ง"ห้วย"
สองข้าง "ตลิ่ง"แลละลาน...........ริมฝั่ง  "ฟาก"นา
หลาย"หลาก"ไม้ใบกล้วย...........กลีบร้อยลอย"เรียง"

"ฝาก"รักลอยค่อยคล้อย.............คู่คอย  "เคียง"นา
ใส่"กระ"ทงลงลอย...................ชิด"ใกล้"
จุดกระ"ทง"ประทีปพลอย.........."ค่อย"สว่าง
ไหลล่องชล"ลอย"  "ไว้"............ฝากร้อยสวาทหวัง

สกัดกระทู้ตลับกล กระทู้อ่านว่า"น้ำนองตลิ่งหลาก  ฝากกระทงลอย  ไว้ค่อยใกล้เคียง
เรียงล่องฟากนที"


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 02-11-2006, 21:08

คืนวันเพ็ญสว่าง ด้วย.............ดวง เดือน
น้ำหลากไหล แรง เสมือน..........เนตร น้อง
ดารา แห่ง นภาเยือน...............เกินเปรียบ...ปานเอย
ดัง รัก คอยเรียกร้อง.................ชิดใกล้กันเสมอ

เรา กุมมือเกี่ยวก้อย................เดินเคียง...ไปนา
หวัง ร่วม ฝันมีเพียง................จิต เจ้า
ดังคู่   คิด ร้อยเรียง.................คำ ฝาก
มีปรารถนา ฝัน..เฝ้า.............ฝ่าข้ามเนินไศล



ด้วยแรงแห่งรัก  เราร่วมคิดฝัน เฝ้าคำเจ้าไป เสมอปานน้องดวง

โหดจังเลยค่ะคุณคมเย็น



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 03-11-2006, 15:35
กระฉอกฉานผ่านคุ้ง...........แควธาร
ระลอกคลื่นผ่านดุจปาน.......รักข้น
ไหววนเลาะชลธาร............เกลียวเชี่ยว    เนืองนอง
ไกลฝั่งเลาะไหลล้น............ท่วมท้นนทีธาร

โคลง ขนด  กลอน  เริ่มจากเนืองนองวนเข้าเป็นกลอน๘

เนืองนองธารนทีท้นท่วมล้นไหล
เลาะฝั่งไกลไหวระลอกกระฉอกฉาน
ผ่านคุ้งแควธารข้นเชี่ยวเกลียวธาร
ชลเลาะวนคลื่นผ่านดุจปานรัก

สวัสดีครับ  คุณอธิฏฐานเป็นคนที่๓ที่เขียนสกัดกระทู้ตลับกล
ให้ตั้งกระทู้ให้คล้องจองกันขึ้นก่อน  ดูให้เอกโทตรงตำแหน่ง
บทแรกสัมผัสซ้ำคำว่าเยือน  โหดไหม


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อังศนา ที่ 19-11-2006, 11:21
อาทิตย์สวัสดิ์ค่ะ คุณคมเย็น และทุกท่าน (http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/red-lil-flower.gif)
อนุสนธิจากคูหาที่ ๘๘ ..หลังจากข้าพเจ้าสูญเสียเหงื่อไป ๕ ปี๊บ :slime_hmm:
ก็ได้กลบท (ที่ฟังทะแม่งๆ อ่านเองยังงงเอง.. อิอิ) มาทันฉลองคูหาที่ ๑๐๐ ของกระทู้
ดังนี้..

วาด...ถ้อย...แนบ...เล่ห์....เน้น........ให้.....คะนึง
คำ.....พูด....สนิท...เสน่ห์..ถึง.........ทาบ..ซ้ำ
หวาน..ร้อย...มิตร...หลัก....พึง.........ใจ.....ยิ่ง....รัก....(นา)
วาน....จิต....เจ้า....กล่าว...ย้ำ..........รัก.....ต้อง..ภักดิ์..นิรันดร์


วาดคำหวาน วานถ้อย พูดร้อยจิต
แนบสนิท มิตรเจ้าเล่ห์ เสน่ห์หลัก
กล่าวเน้นถึง พึงย้ำให้ ทาบใจรัก
คะนึงซ้ำ ยิ่งต้องภักดิ์ รักนิรันดร์

หมายเหตุ : ข้าพเจ้าฝ่าฝืนกฎเล็กน้อย โดยละเลยคำสร้อย 'นา' เสีย   :slime_smile:
เนื่องจากมิได้เป็นคำที่มีเจตนัง ตรงตามฉันทลักษณ์ของโคลงที่ว่า
คำสร้อยของโคลงต้องไม่มีเจตนัง

(http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/pink_flowers.gif)


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: KO_man ที่ 19-11-2006, 19:24

KO_man นามใหม่น้อง . .. . .. . .. . แดนกวี
สอดส่องไทยเสรี .. . .. .. .. .. .. .. ..เนิ่นน้อย
ขอฝากชื่อเป็นศรี . .. .. . .. .. . .. . . อีกหนึ่ง เพื่อนเอย
ในบอร์ดลานรักร้อย .. .. . .. .. .. ... .ช่วยร้อยกวีวรรณ






หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 19-11-2006, 22:33


(http://www.aidscommunityresources.com/images/merchandise/missing-you.jpg)


เพียงพึงใจบทถ้อย............คำวลี
เลยรักษาวรรณกวี.............ร่วมร้อย
หวังจารจดไมตรี...............บนบอร์ด
สานถักลำนำถ้อย..............หนึ่งนั้นเคียงขวัญ



สวัสดีค่ะคุณอังศนา คุณโคแมน กลบทของลุงคมเย็นอธิฎฐาน ยังคิดไม่ออกเลยค่ะ



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 21-11-2006, 09:12
รักรึงสาย บ่ ร้าง เสกสร้างรัก
พิศพักตร์ มิเว้นว่าง ห่างหาย
ว่าพร้องพาน รานคล้ายคว้าง มัดใจกาย
แนบนานร้าย ยิ่งเฟ้นสุด จิตประคอง


รักร้างพิศว่างพร้อง   คว้าง แนบนาน
รึงเสกพักตร์ห่างพาน มัดร้าย
สายสร้าง มิหายราน ใจยิ่งจิต
บ่ รักเว้นว่าคล้าย  กายเฟ้น สุดประคอง


ผิดถูกช่วยตรวจทานด้วยครับ                                                                :slime_smile:  :slime_hmm: :slime_cool:


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 21-11-2006, 11:23
"จวบ"สิ้นฟ้าสิ้นดินไม่สิ้น"รัก"
ถึง"โลก"จักจมร้างรัก"ยัง"มั่น
แม้ชีพ"ดับ"ฤดีหมาย"มั่น"นิรันดร์
รักไม่ดับ "ลับ""ฝัน"ทุกวันวาร
หวังฝากใจ"ไฝ่""ดาว"เมื่อคราวไร้
รักจริง "ใจ"ไม่สุด"สิ้น"รักหวาน
รัก "มั่น"คงปลงใจใน"ดวง"มาน
"คง"คู่กาลนานแข่งแสงสูรย์"จันทร์"

กระทู้ทแยงมุมกากะบาท "จวบโลกดับลับดาวสิ้นดวงจันทร์
รักยังมั่นฝันไฝ่ใจมั่นคง"
สวัสดีทุกท่านครับ  ขอบคุณคุณอังสำหรับกระทู้ที่๑๐๐  เวลาเขียนกลบทแปลกๆ
ผมเองก็มักรู้สึกว่ามันอ่านแล้วทแม่งๆบ่อยๆ
หลานอาทิดลองกลอนกระทู้ทแยงมุม  ใหม่ๆเอามุมเดียวก่อน
คุณโคแมนน้องใหม่ผมว่าคงเป็นมือเก่าฝีมือดี
คุณQลองศึกษาไปเรื่อยๆนะครับ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 21-11-2006, 14:35


มีเธอเป็นแสงสว่างอยู่กลางทรวง




"มี"ตะวันส่องนภาเวลาเช้า
มี"เธอ"เฝ้าติดตามยามฉันล้า
มีเมฆ"เป็น"ร่มสวยบังกายา
มีดารา"แสง"ผ่องส่องนำใจ

มีแสงเทียนสุก"สว่าง"วางในห้อง
มีนกร้องขันคู"อยู่"เคียงใกล้
มีดอกไม้บานสะพร่างณ."กลาง"ไพร
มีหัวใจคนรักสลัก"ทรวง"



ขอด้านเดียวก่อนค่ะ



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 08-12-2006, 11:45
เพียงพิศพักตรอนงค์..................ดุจวงพระจันทร์เพ็ญ
เพียงแรกประจักษ์นยนะเห็น........ผิว์จะเข่นฤทัยวาย

เลอโฉมประโลมรติพิลาส............นุชนาฏดนูหมาย
แรกเห็นระทึกหทัยะชาย.............ระอุคล้ายพระเพลิงผลาญ

เพียงชมภิรมย์ปิติพินิจ................มนะคิดมโนซ่าน
เพียรหมายภิปรายพจนกานท์........สิละลานและลืมหลง

เธอชายชม้ายนยน์ประสาน...........สิสะท้านและงุนงง
ดังชีพจะปลิดชิวะจะปลง..............บมิคงมิกลับคืน

วันใดมิเห็นสิหฤทัย............ดุจไหม้เพราะไฟฟืน
ฝืนทนกมลทุขะฝืน.............ระยะยืนก็ยากเย็น

ฉันใดจะสมรติประสงค์...............ประลุคงจะยากเข็ญ
เปรียบดังกระต่ายกะศศิเพ็ญ........ฤจะเห็นถวิลหา

ต่ำต้อยและด้อยกลธุลี............บมิมีมิเทียมหน้า
ไม่กล้าจะหมายนภผกา...........จำละลามิกล้าหวัง

เพียงเห็นก็สุขหฤทัย............ชิวะไซร้ก็พอยัง
เพียงมองก็พอรติประทัง.........มิประดังซะคลั่งตาย

ไม่หวังจะมีรติสนอง...........มนะตรองสะกดกาย
เพียงพลีฤดีดนุถวาย...........บมิหมายจะได้ครอง

(วสันตดิลกฉันท์๑๔)

เมื่อวานเข้าwebได้แป๊บเดียว  รู้สึกwebจะลุ่มๆดอนๆ



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อังศนา ที่ 11-12-2006, 09:04
จันทร์สวัสดิ์ค่ะ คุณคมเย็น และ ทุกท่าน (http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/mom6.gif)

(http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/8-20050902230551.gif) เว็บเราลุ่มลุ่มแล้ว..........ดอนดอน
ขณะล่มต้องตะลอน............ตุหรัดเร้น
ยังเป็นห่วงอาทร.................เทียวแวะ
พอเปิดได้ใจเต้น.................รีบแต้มตะลุยเขียน

(http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/8-20050902230551.gif) เพียรผลุบโผล่เป่าเพี้ยง.......พึมพำ
บางช่วงบ้านช่างงำ..................เงียบแท้
แต่ยอมอดทนระกำ...................จนกว่า
เว็บมาสเตอร์จักแก้...................กลับให้บอร์ดเสถียร

พักนี้.. เสรีไทยเหมือนเรือฝ่าพายุค่ะ โคลงเคลงไปมา  :slime_hmm:
ผลุบๆ โผล่ๆ ตามยถาคลื่น โชคยังดีที่ไม่อับปาง
..ข้าพเจ้ารอเวลาให้พายุไซเบอร์สงบด้วยใจอาทร  :slime_sentimental:

(http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/pink_flowers.gif)


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 19-12-2006, 15:20
ใบไม้เหลืองร่วงพลิ้ว..........ปลิวลอย
ในแผ่นดินดงดอย..............ดาษพื้น
จากยอดสุดจักสอย............ลงสู่   ดินนอ
ผืนป่าชัฏร่มชื้น.................ชอุ่มไม้ใบบัง

ใบไม้ร่วงหล่นแล้ว........ลงดิน
เสียงเงียบสงัดบ่ยิน..........สงบแท้
ถมซากเปื่อยเป็นอิน-...........ทรียวัต   ถุนา
กลายกลับบำรุงแล้.................แหล่งต้นวนเวียน

วัฏจักรธรรมชาติแท้........สมดุลย์
พืชสัตว์ผลัดม้วยหมุน..........หมดสิ้น
สลายเวียนเปลี่ยนเนื่องหนุน.......ชีพใหม่
แม้ร่างลับดับดิ้น.........................เสื่อมสิ้นสังขาร

ทุกชีพใช่อยู่ยั้ง.........ยืนยง
คนบ่มีใครคง...............คู่ฟ้า
สักวันย่อมปลิดปลง...........ปราศค่า
ลับร่างจากโลกหล้า..............แหล่งพื้นอาศัย

พืชสัตว์สลายหมดสิ้น.........อินทรีย์
ประโยชน์ยังคงมี............ไม่สิ้น
คนเมื่อดับชีวี...............ชีพหมด   สิ้นนา
ล่วงลับเหลือส่วนชิ้น.....สู่ชั้นเชิงตะกอน

ไฟฟอนรอนร่างไหม้.........หมดไป
ดีชั่วปรากฏใน.............ภพนี้
ยังประโยชน์อันใด.......แก่โลก   เล่านา
ชนรุ่นหลังอาจชี้........เช่นได้ดูเห็น

สวัสดีครับคุณอัง  ช่วงนี้อยู่ในภาวะคิดอะไรไม่ค่อยออก
บทแรกคล้ายของคนอื่น  บท๔คล้ายสยามมานุสติ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อังศนา ที่ 19-12-2006, 18:06
มะแอ๋.. ขนาดคิดไม่ค่อยออกนะคะเนี่ย  :slime_smile:
ไหลมาเทมาตั้ง ๖ บท.. อิอิ

(http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/8-20050902230551.gif) แมงเม่าเห็นหุ้นวูบ........คงหวิว
อาจสั่นเป็นปลาซิว...........สะเด็ดน้ำ
ดัชนีแตะพื้นปลิว..............อ่อนเปียก
หนักแน่นคงไม่ช้ำ............ช่วยลุ้นให้ฉลุย

ข่าวตลาดหุ้นร้อนฉ่า.. ข้าพเจ้าพลอยตื่นเต้น  :slime_o:
ทั้งๆ ที่ไม่กระดิกหูเรื่องหุ้นซักกะติ๊ด
..งานนี้รัฐบาลเจอทั้งด่า ทั้งสมน้ำหน้า  :slime_hmm:

(http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/pink_flowers.gif)


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 21-12-2006, 13:13
หวยเงินหายงกหุ้น..........งาบหิว
เปิดตูดเปิดตัวปลิว...........ต่างป้อง
ยลสยองสุดแสยงสยิว.......แสนยั่น
เราห่วยลุ้นหุ้นร้อง............หดแล้วหายเลย

โดนหุ้นทุบ  สลับไม่ค่อยถูก 
สวัสดีครับคุณอัง


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 27-12-2006, 16:00
เรื่อยริ้วระลอกชลระริน...........ขณะยินเซาะหินแผ่ว
พงพฤกษ์พนัสระดะแนว..........สุตะแว่วนทีไหล

กรวดดุจรัตนะประดับ...........สีระยับระยิบใส
ทรายสีสะท้อนรัศมิไกล.........ดุจเพชรัตน์ราย

ริมฝั่งสะพรั่งบุปผบาน...........พิศปานวิมานพราย
ในธารปทุมบุษปหมาย.........กรกรายกระหวัดดึง

กลางไพรพนาติณขจี...........จรลีแมลงผึ้ง
ปีกร่อนกระพือภมรอึง...........ประลุถึงผกาปอง

ฟังเสียงคณาสกุณะแจ้ว...........ไพเราะแว่ววิหคร้อง
ดั่งเพลงประสานดุริยะพร้อง........เพราะสนองประลองเสียง

แสงรัศมีสุริยะฉาย...............วนพรายประภัสสร์เพียง
แสงทองอร่ามรุจิระเรียง.........ระอุอุ่นละมุนตา

ชมธรรมชาติชลประกาย.........บมิคลายคนึงหา
เคยคลอพนอวรยุพา...............ณ.ทิวาและราตรี

ร่วมชมภิรมยะหทัย.............พิสมัยสมานศรี
ไกลห่างมิร้างอภิรดี............จะทวีตลอดกาล

(วสันตดิลกฉันท์๑๔)


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: เก็ดถวา ที่ 27-12-2006, 16:03

เย้... ได้อ่านฉันท์แล้วววว... งึมงึม

ชอบมากๆ ค่ะคุณลุงคมเย็น.. ขอบพระคุณที่แปะไว้ให้อ่านค่ะ


สวัสดีค่ะคุณลุงคมเย็น คุณลุงเที่ยวสนุกมั้ยคะ?


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 29-12-2006, 15:56
ปีใหม่ให้สุขท้น............ทุกข์คลาย
แสนสนุกนั่งลุกสบาย.........บ่ไข้
หวังใดดั่งใจหมาย.................ทุกสิ่ง
ประสพสุขสำเร็จได้...................ดั่งคล้ายเสกสรร

วันใหม่ให้ผ่องแผ้ว...........พันทวี
แสนสุขเกษมเปรมปรีด์...........ท่วมท้น
ทรัพย์สมบัติมากมี.....................มิขาด   มือนา
มีเยอะอย่าโดนปล้น.........................ปลอดพ้นโจรภัย

สวัสดีปีใหม่ทุกท่าน   หนูเก็ดชอบแล้วทำไมงึมงึม


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 09-01-2007, 15:02
คนเกิดดับลับแล้ว............ชีพสลาย
สุขทุกข์โศกเปลี่ยนกลาย.........ดั่งบ้า
คืนวันผ่านฤาวาย........................เวียนว่าย  วนนอ
ห้วงวัฏผ่านนานช้า...........................ชีพใต้เวทนา

ตัณหาปรุงแต่งให้..........ใหลหลง
ชังรักยากจักปลง...........ปลิดได้
เหมือนมืดบอดมึนงง........งกเงิ่น
ยากอิ่มยิ่งป้อนให้............อยากได้อยากมี

ผีสุขผีโศกเศร้า.........เข้าสิง
ยากรับรู้ความจริง.........แจ่มแจ้ง
ตัดชังรักอย่าประวิง...........จิตว่าง
ทุกข์โศกหายเหือดแห้ง...........ห่างพ้นสงสาร

เนื้อความของท่านพุทธทาส


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 12-01-2007, 12:47
ลำตะเพินเนินตะพักธารหักเลี้ยว
ในดงเปลี่ยวไพรป่าพฤกษาสูง
พุ่มกอไผ่ไกรกร่างยอดยางยูง
เคยเห็นฝูงไก่ป่าผวาบิน

ทางคดเคี้ยวสะพานแคบสายน้ำคลั่ง
ไหลประดังถั่งโถมโหมไม่สิ้น
เมื่อหน้าน้ำฉ่ำชลวนไหลริน
เมื่อแล้งสิ้นชลสายเห็นทรายชัน

นทีธารผ่านถิ่นแผ่นดินเปลี่ยว
ชลไหลเลี้ยวเลาะฝั่งเคยนั่งฝัน
อยากลอยล่องท่องนทีทุกวี่วัน
เคยสุขสันต์สมัยก่อนตอนวัยเยาว์

คนผ่านทางกลางถิ่นแผ่นดินเปลี่ยว
เดินลัดเลี้ยวเลาะเวียนทางเกวียนเก่า
พักดื่มน้ำลำตะเพินเพลินร่มเงา
เคยหลบเฝ้าฝูงปลาคราแดดแรง

ยอดเรียวไผ่ไหวลมที่พรมผ่าน
น้ำลำธารสะท้อนสูรย์ที่ส่องแสง
เดินทางต่อห่อของเข้าเฝ้าจัดแจง
หลบแดดแล้งร่มไม้ตามรายทาง

แมลงปอล้อลมที่พรมมผ่าน
ดอกไม้บานตระการตาฟ้าสว่าง
หอมระรินกลิ่นผกามาจางจาง
ก้าวเดินห่างใจวางไว้ไม่ลืมเลือน

ลำตะเพินอยู่เลยลาดหญ้า กาญจนบุรี
สมัยเด็กเวลาจะไปไร่กับพ่อต้องผ่านทางนี้



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: morning star ที่ 13-01-2007, 21:58
ร้อยใจร่ายเรียงเพียงเพราะหวัง
เติมพลังพรรณาภาษาศิลป์
รักษาไว้กวีอยู่คู่แผ่นดิน
วรรณกรรมไม่เคยสิ้นจากถิ่นไทย
ฟังแร็ปร่ำพร่ำสำเนียงเสียงฝรั่ง
ให้มานั่งทบทวนว่าควรไหม
เออกลอนเราก็มากล้น ไม่สนใจ
เพราะผู้ใหญ่ ไม่ร่วมด้วย ช่วยเยาวชน
ไม่คิดค้น สรรค์สร้าง แนวทางให้
ปล่อยเด็กไป แล้วค่อยด่า ก็น่าสม
เด็กไปหลง ของฝรั่ง มานั่งตรม
วัฒนธรรม นอกถาโถม ไทยล้มครืน
เรายังมี ของดี ๆ ให้ภูมิใจ
เป็นหน้าที่ของุผู้ใหญ่ให้ช่วยฟื้น
ร่วมสร้างรากของไทยให้ยั่งยืน
ปลุกศิลป์ไทยให้ตื่นคู่ผืนดิน


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 15-01-2007, 15:41
ร่วมสืบสานสร้างสรรค์วรรณศิลป์
รักษ์กวินทร์ไว้อยู่คู่สยาม
จรรโลงใจให้สุขทุกโมงยาม
ชัง-ชอบตามต่างคิดต่างจิตใจ

ยากหาครูรู้กลอนให้สอนสั่ง
คอยปลุกฝังสั่งสมบ่มนิสัย
ให้รู้รักษ์อักษรกลอนโคลงไทย
ศิลปะเป็นไปเฉพาะตัว

สวัสดีครับคุณแชมเปญ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: ภูดิน ที่ 19-01-2007, 22:17
คารวะคุณคมเย็นเห็นวาที...............ร้อยวจีสีสันกลั่นภาษา
สำนวนกลอนสอนสั่งฟังรู้ว่า..............อันคุณค่าบทกวีศรีวงวรรณ

คือชั้นเชิงรจนาภาษาศิลป์..............ดั่งมาลินกลิ่นหวานมาสานฝัน
ใครได้ชมสมใจในเชิงชั้น.................อภิวันท์น้อมรับนับถือเอย

สวัสดีค่ะคุณคมเย็น.....ขอบพระคุณที่แวะมาทักทายด้วยบทกลอนเป็นคนที่สอง
ขอเป็นแฟนคลับห้องร้อยรักษ์กวีวรรณ ค่ะ  โปรดช่วยชี้แนะด้วยค่ะ




หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: morning star ที่ 19-01-2007, 22:59
ร่วมสืบสานสร้างสรรค์วรรณศิลป์
รักษ์กวินทร์ไว้อยู่คู่สยาม
จรรโลงใจให้สุขทุกโมงยาม
ชัง-ชอบตามต่างคิดต่างจิตใจ

ยากหาครูรู้กลอนให้สอนสั่ง
คอยปลุกฝังสั่งสมบ่มนิสัย
ให้รู้รักษ์อักษรกลอนโคลงไทย
ศิลปะเป็นไปเฉพาะตัว

สวัสดีครับคุณแชมเปญ

 :slime_agreed:
คารวะท่านอาจารย์ :slime_worship:


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 22-01-2007, 11:05
แหะ แหะ อย่าเรียกอาจารย์เลยครับ สวัสดีทั้ง๒ท่านครับ........

สวัสดีคุณแชมเปญคุณดินหอม
ต่างนอบน้อมถ่อมตนจนผมเขิน
เขียนกลอนกันทุกวันไปได้เพลิดเพลิน
อย่าสรรเสริญเกินไปทำให้กลัว

เพิ่งเขียนได้ไม่กี่เดือนเหมือนกันแหละ
ไม่ชี้แนะเพียงแปะกลอนร่อนไปทั่ว
คนเก่าเก่าเขาเซียนเขียนพันพัว
ส่วนผมมั่วนัวเนียจนเพลียใจ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 25-01-2007, 11:59
"ร้อย"เรียงคำจำนรรจ์สรรอักษร
หวัง"รักษ์"กลอนกาพย์ฉันท์สรรเสกสร้าง
ลิขิต "กวี"พลีใจรักไม่จาง
มิเคยร้าง"วรรณ"รสบทโคลงกลอน

หมายผดุงมุ่ง"รัง"สฤษดิ์สาร
ให้ตระการงานฝัน"สรรค์"อักษร
หมายเรียงร้อยถ้อยวจี"กวี"วร
ให้สถิตสถาพรบทกลอน"กานท์"

กระทู้ทแยงมุม"ร้อยรักษ์กวีวรรณ  รังสรรค์กวีกานท์"


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ (๒๗ ม.ค.๕๐)
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 27-01-2007, 11:39

(http://ripples.typepad.com/photos/uncategorized/holiday_2004.jpg)

ร้อยอักษรกล่าวถ้อย.............สวัสดี
เหินห่างโคลงคำวลี.............ใช่ร้าง
หวังผองเพื่อนคงมี............ความสุข
เพียงพจน์เราเสกสร้าง...สิ่งนั้นดีเสมอ

รักษ์ภาษาร่วมด้วย..........ช่วยเขียน
กวีใหม่ยังคงเรียน................ยากรู้
เพราะอยากเก่งจำเพียร......หมายมุ่ง
อรุณบ่ายหมายกอบกู้..แต่งไว้วาดฝัน

สวัสดีค่ะคุณคมเย็น และทุกท่าน คิดว่าเว็บปิดไปแล้วเสียอีก


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 29-01-2007, 14:43
ร้อยอักษรกลอนกวนชวนใจกลุ้ม
เห็นตะคุ่มลุงคมมาชมหลาน
หนูอาทิดยังติดใจหายไปนาน
เขียนกลอนกานท์หวานคำลำนำวอน

เก่งอยู่แล้วแจ๋วจริงยิ่งเก่งขึ้น
ลุงคมมึนฝืนเขียนขยักขย่อน
กลางวันฝืนกลางคืนเมารีบเข้านอน
ตื่นเขียนกลอนต้อนรับหลานกลับมา

สวัสดีหนูอาทิด


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 10-02-2007, 14:44
รุ่งอรุณอุทัยอร่ามนภา
ระเรืองระเรื่อณ.ศีขรา............นิศาจร

แสงสว่างกระจ่างวนาสะท้อน
นทีระเรื่อสุรียะอ่อน...............ลออตา

เขียวตฤณชาติชอุ่มอุรา
กระไออุสุมณ.ยามอุษา..........ทิวาวาร

มวลภมรวะว่อนแวะเวียนพนานต์
เลาะเล็มตฤปสุคนธมาลย์.........ละลานตา

หมู่วิหคระเริงภิรมย์นภา
วะแว่วจะแจ้ววะว่อนถลา..........คคนานต์

คีตกานท์สกุณประเลงประสาน
ดุรียศัพททิพวิมาน.................เสมือนกัน

แต่ละชีพประสมประสานตะวัน
อุษาสว่างกระจ่างสิพลัน...........มุผันผาย

เพียรเสาะภักษหารประทังกระหาย
มิเช่นมนุษย์สะสมฤหมาย..........สนุกล่า

วัฏจักรพิภพมิคลาดมิคลา
เผชิญภยันตรายทิวา...............และราตรี

สรรพสัตว์อุบัติและกลายธุลี
อสุภสลายจะเป็นฉนี้................นิรันดร์ไป

ธรรมชาติสะอาดพิลาสพิไล
อนิจจะแฝงรหัสและนัย..............นิรันดร

(อีทิสังฉันท์๒๐)


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 17-02-2007, 15:49
ดูดวงเดือนเด่นฟ้า............ดาดาษ    ดาวแล
เกินกล่าวพราวพิลาส........จรัสจ้า
เพ็ญโสมผ่องส่องสาด.......สวยทั่ว
นภาแจ่มนวลตา หล้า.......-สว่างเพี้ยงกลางวัน

เรไรหรีดกรีดร้อง............ทำนอง    เพลงแล
ต่างเปล่งประเลงลอง.......กระชั้น
บางคราแผ่วเสียงผอง......สงัด
พลันสงบงันนั้น...............สลับฟื้นกลับดัง

โคลง๒บทเรียงเป็นกลอน.....

ดูดวงเดือนเด่นฟ้าดาดาษดาว
แลเกินกล่าวพราวพิลาสจรัสจ้า
เพ็ญโสมผ่องส่องสาดสวยทั่วนภา
แจ่มนวลตาหล้าสว่างเพี้ยงกลางวัน

เรไรหรีดกรีดร้องทำนองเพลง
แลต่างเปล่งประเลงลองกระชั้น
บางคราแผ่วเสียงผองสงัดพลัน
สงบงันนั้นสลับฟื้นกลับดัง


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 17-02-2007, 22:03


แสงตะวันรวีจะลับนภา
พระพายสะพัดระดะลดา...........ก็แกว่งไกว

นกขมิ้นจะบินละถิ่น ณ.ไพร
กมลเสมือนระอุกระไร.............มิเว้นวัน

แค่นี้ก่อนค่ะลุงคมเย็น กำลังมึนอยู่






หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 18-02-2007, 18:24
หนูอทิดตะถานอุส่าห์แวะมา
สวัสดิ์และดีจะมีสุขา............ตลอดไป

แสงรวีจะลับนภาพิไล
สุราฤเบียร์อร่อยจุใจ............จะรีบกิน

ลุงคมมั่วแหลก


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 26-02-2007, 15:34
โลกในสภาพแวดล้อม..........มัวมน
โลกครอบคลุมผู้คน.............ยากพ้น
ตัณหากิเลสราคะปน............เป็นพิษ
ควรหยุดคิดเสาะค้น.............ใคร่รู้แก่นสาร

ผ่านชีวิตคิดค้น.........หนทาง
ละซึ่งตัวตนวาง...........ว่างเว้น
มองโลกอย่างเป็นกลาง......กอปรกิจ
เรียนโลกรู้เลือกเฟ้น..............ฝึกไว้ไฝ่ดู

รู้ทางรอดอยู่ด้วย.......ปัญญา
รู้แบ่งปันเมตตา.........ต่างเอื้อ
รู้ดับทุกข์ตัณหา.........ห่างกิเลส
รู้จักพอก่อเกื้อ...........กิจไซร้สุขเกษม

ยึดมั่นเต็มอยู่ด้วย..........ตัวกู
ถือมั่นมืดบอดดู............ดั่งบ้า
กินกามเกียรติอดสู.........พาเสื่อม
เพียรหลุดพ้นแจ่มจ้า.......สว่างแจ้งจินตนา

หาเหตูแห่งทุกข์นั้น........ตัณหา
ดับที่เหตุเจตนา..........นั่นไซร้
ทำให้จิตอิสระพา.......พบสุข
ดับเหตุดับทุกข์ได้....ดับสิ้นตัวตน


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 02-03-2007, 14:55
เรียนรู้ดูอย่าง     สุรางคนางค์     วางแบบแยบยล
เจ็ดวรรคจักจำ     เรียงคำค่อยค้น      เพียรนึกฝึกด้น      ครบวรรคสี่คำ

เขียนต่อพอได้      สัมผัสจัดไว้     จงใช้ใจจำ
ขอบุญคุณครู       รอบรู้เรียนร่ำ     หมื่นแสนแม่นยำ     เลิศล้ำคำกลอน

ภุมรินบินมา     เสพรสมาลา    สุคนธาเกสร
สกุณาหากิน     โผผินบินร่อน     ปีกกรายว่ายฟ้อน     ร่อนฟ้าถลาลม

รุ่งสางสว่างแจ้ง     อุทัยไขแสง     สีแดงดวงกลม
น้ำค้างคืนหนาว     พร่างพราวประพรม     อุสุมผสม     ลมพัดลอยไอ

รุ่งอุษาสาง     หมอกขาวค่อยจาง     หว่างดงพงไม้
ส่ำสัตว์ฟื้นตื่น     หยัดยืนย่างไป     ทั่วแคว้นแดนไพร     สดใสชื่นบาน

งามล้ำธรรมชาติ     สดสวยสะอาด    ดังวาดสะคราญ
ชมชื่นรื่นรมย์     สุขสมสำราญ     สร้างจินตนาการ     เบิกบานวิญญา


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 03-03-2007, 12:57

(http://www.botanic-art.com/images/N.%20ampla%20w.jpg)


กาพย์สุรางคนางค์
ดูตัวอย่างก็ยิ่งงง
เขียนแล้วฤทัยปลง
ต้องถอนใจกระไรครู

วันเพ็ญมาฆะมาศ
แสนประหลาดมีราหู
อมจันทร์ให้ใครดู
เขานอนหลับมิรับความ

ทำบุญแบ่งกุศล
นิรดลโรคโลภลาม
สมสุขทุกโมงยาม
ชนะชัยจากไพรี

คิดทองให้ได้ทอง
ทรัพย์สินกองท่วมทวี
ยศศักดิ์จักเปรมปรีด์
ทุกเสรีไทยทั่วกัน

ดูแล้วงงค่ะลุงคม


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 03-03-2007, 13:45
สวัสดีหนูอาทิด  กาพย์สุรางคนางค์ก้มี๗วรรค   วรรคละ๔คำ  ดูบท๒รับสัมผัส
จากคำว่าคำในบท๑ด้วยคำว่าจำ  สัมผัสระหว่างวรรคคือ ร่ำ  ยำ และคำว่าได้กับไว้
ในวรรค๑กับ๒  นอกนั้นก็พยายามให้คล้องจองกันไว้  อธิบายแบบมั่วๆได้แค่นี้

ลองวสันตดิลกฉันอาหารดูบ้าง

เข้าครัวจะหยิบกระทะตะหลิว........กระเพาะหิวจะเสาะหา
ของกินมิมีมิปะอุหวา..................เถอะจะมาประสมปรุง

หยิบครกกะสากกะปิกระเทียม.......กะจะเตรียมตำบักหุ่ง
เจอพริกมะนาวมะระคละยุ่ง...........มะละกอสิยากหา

ครกโขลกกระเทียมกะปิผสม.........กะทิต้มตะไคร้ข่า
พริกแห้งมะกรูดมะระกะปลา...........และน้ำปลาปะปนไป

เคี่ยวเดือดและสุกขมิขมัน.............กะทิมันอร่อยใหญ่
แกงอ่อมน่ะปลากะมะระใส่............มะหม่ำไวมิต้องรอ

ผักสดมะเขือกระเปาะเหลาะจิ้ม.......กะปิชิมน้ำพริกต่อ
ไข่ทอดชะอมกระแบะก็พอ.............กระเดาะปากเพราะอยากชิม

ปลาทูสิแบ่งกระบิมิช้า.................เถอะจะมากะผักจิ้ม
กินคนละหน่อยนะเยอะจะอิ่ม...........และจะลิ้มกะของหวาน

อิ่มแล้วมิช้ากระวิกระวาด...............ทำสะอาดมะล้างจาน
ล้างช้อนกะส้อมกระทะมินาน..........ประลุงานเพราะช่วยกัน

แกงอ่อมมะระ  เปิดตำรากับข้าวเขียนเชียวนะนี่  ลองไปทำดูได้
ส่วนคนเขียนขอไปต้มมาม่ากินดีก่า




หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อังศนา ที่ 03-03-2007, 14:29
อิอิ.. ของในครัวนี่ลหุเยอะดีนะคะ  :slime_p:

(http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/pink_flowers.gif)


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 03-03-2007, 20:40

ฉันอาหารต่อจากของลุงคมค่ะ


แกงส้มกะปลาและมะละกอ..................กระทะรอระอุปลง
พริกแดงขมิ้นผสมลง.......................รสเปรี้ยวมะนาวเจือ

แกงอ่อมอร่อยมะระใส่.......................กะทิใช้และมีเกลือ
ไข่เจียวก็ฟูกินมิเหลือ............................อึดอัดอุทรกาง


ลุงคมกินมาม่า ยังได้ถึงขนาดนี้


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 03-03-2007, 21:55
อาหารคาวอิ่มแล้ว..........ล้างปาก
ลอดช่องแตงไทยหาก..........กะทิพร้อม
ข้าวเหนียวทุเรียนอยาก.............ลองหน่อย
รีบจัดเตรียมช้อนส้อม...................ใส่ถ้วยรับประทาน

สวัสดีครับคุณอัง คุณอาทิด  วันหลังต้องให้คุณอังเขียนตำราอาหารในร้านเป็นโคลง
มาอ่านกันบ้าง


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 16-03-2007, 16:13
เหินหาวเวหาศน์ห้อง..........วิหคไพร
ลอยล่องลมบนไหว............ว่อนร้อง
สู่ฟากฝั่งฟ้าไกล.................เกินไฝ่   ฝันนอ
โบยโบกบินเหนือท้อง..........ถิ่นห้วงชลธาร

ม่านเมฆขาวทั่วฟ้า..........ฟากสวรรค์
กางปีกอาบแสงตะวัน.......ว่ายฟ้อน
ผ่านรุ้งหลากสีสัน.............สวยสด
มหรรณพหนาวฤาร้อน........มุ่งข้ามสู่ฝัน
 
อันมนุษย์ขาดปีกไร้...........แรงบิน
มิเช่นนกผกผิน.................แผ่นฟ้า
เพียงความคิดจิตจิน..........-ตนาวาด    หวังนา
อาจร่อนพ้นแหล่งหล้า.........ลุห้วงเวหน

บนเส้นทางย่างเท้า...........ก้าวไป
อาจสุขทุกข์เข็ญใจ............ยากแค้น
พลังจินต์แกร่งหวังไกล........เกินขอบ   ฟ้านา
บินเพื่อฝันมั่นแม้น..............มุ่งข้ามนภาลัย

สุดแรงใจไฝ่ฟ้า..........ฝั่งไกล
ติดปีกฝันมั่นไป..........ไป่ท้อ
ข้ามอรรณพเนินไศล.....สู่ฝั่ง
มิหวั่นลมแรงล้อ..........คลื่นร้ายกระหน่ำโหม


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 04-04-2007, 16:06
ราตรีรุจีศศิวิไล.....................กระจะนัยน์กระจ่างเห็น
จันทร์ส่องระเรื่อชยุติเพ็ญ.........ดุจเป็นชวาลสรวง

คืนรักประจักษ์รติภิรม-............-ยจะชมจะห่มทรวง
ดาราระยิบสิระกะดวง..............จรห้วงพโยมหน

คืนฝันอุบัติปฏิพัท-.................-ธมนัสเวียนวน
คิดแต่พนิตนฤมล...................อุระล้นฤดีดาล

เธอเป็นประดุจหฤทัย..............ดนุไฝ่สวาทนาน
คงครองรตีบุรพกาล................มนจารประจักษ์จริง

แว่วเสียงละเมอวิหคไพร...........เสนาะใสสดับพริ้ง
เคลียคลอพะนอพนิตอิง.............อุระยิ่งรตีลาม

แผ่วเสียงกระซิบสุตระทึก..........มนนึกวะวาบหวาม
ไฟปรารถนาคุระอุตาม..............ผิวะห้ามจะไหม้ทรวง

แรกรักระรื่นมธุระรส.............จะมิหมดรตีปวง
หวังคู่พธูมิละมิลวง..............และจะห่วงเสมอไป

ตรามสิ้นสมุทรมหรณพ...........สุริย์ลบละแสงไข
รักมั่นเสมอมิละหทัย..............สละให้นิรันดร

(วสันตดิลกฉันท์๑๔)


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: เก็ดถวา ที่ 05-04-2007, 10:54

โอวว วสันตดิลกฉันท์๑๔ ร้อยกรองสุดโปรดของหนู

(หมายถึงโปรดที่จะอ่านนะคะ แต่ยังมิอาจรังสรรค์ด้วยตัวเอง)

ขอบพะระคุณค่ะ


(http://tbn0.google.com/images?q=tbn:VxUefLpLqjFaEM:http://www.astralalchemy.com/full%2520moon%2520rise.jpg)


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 20-04-2007, 16:11
(วสันตดิลกฉันท์๑๔)

พงพฤกษ์ไสววนขจี............จรลีวนาลัย
ข้ามฝั่งนทีอุทกไหล...........ชลใสกระแสแรง

น้ำเชี่ยวระลอกชลระริน...................ระกะหินสิแซมแซง
เรือฝ่ากระสินธุ์และเลาะเกาะแก่ง........ประลุแหล่งตลิ่งหมาย

กราบเรือระไม้ระดะระนาว.........ชลวาวชะพื้นทราย
ปีนขึ้นตลิ่งตะเกียกตะกาย.........ทิศผายผันไป

สู่เบื้องอุดรสิขรเขา............ขณะเข้าตระเวณไพร
ชมพฤกษ์ระหว่างวนไสว......พิศใบและดอกบาน

ผีเสื้อและเหล่าภมรบิน.................เลาะเกาะหินณ.ริมธาร
หลายหลากลำห้วยอุทกซ่าน.........จรผ่านมุสู่หมาย

ซ่านซ่าชลาลยซะซัด.............ปะทะพัดศิลาราย
ริมทางระหว่างวนประปราย......ชลสายเลาะไหลวน

เสียงอึกทึกอุทกซ่า..................ชลบ่าชะแก่งบน
โขดหินตะไคร่เขรอะขระปะปน......ชลล้นชะวนเกลียว

ผาสูงกระแสมหอุทก...........ปะทะตกกระหน่ำเกรี้ยว
ต้องแผ่นศิลาอุทกเชียว........ชะกระเซ็นกระจายชล

ครืนครั่นคระโครมเซาะชลธาร........ทะลุผ่านเกาะแก่งวน
ไหลเอื่อยลุแอ่งอุทกล้น..............ปะทะชนกระเซ็นธาร

(กาพย์ฉบัง๑๖)

ผาสูงสุดชั้นน้ำตก.........ไหลหลั่งอุทก
ตกต้องแอ่งต่ำน้ำริน

ลดหลั่นชั้นแอ่งแก่งหิน.......หลั่งชลล้นสินธุ์
มิสิ้นกระแสแลใส

มากหลายสายธารผ่านไพร.........สู่กระแสแควใหญ่
ชลาลัยไหลเชี่ยวเกลียวธาร

ป่างามน้ำตกอุทกซ่าน...........ภูผาตระหง่าน
อลังการเกาะแก่งแอ่งชล

ธรรมชาติงามล้ำเลิศล้น.........บุญพามายล
สุดค้นถ้อยคำจำนรรจ์




หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 30-05-2007, 15:17
ศรัทธานำมนัสน้อม..........บูชา
รำลึกวันพระศาสดา..........ตรัสรู้
พระอนุตรสัมมา...............สัมโพธิ   ณานนอ
พระมุ่งเพียรเพื่อกู้.............แก่นแท้วิญญู

ดูดวงเดือนเด่นห้วง..........เวหน
เพ็ญผ่องส่องสาดสกล..........ภพหล้า
แสงธรรมสว่างกระจ่างใจชน.......ผู้ตื่น
รับรหัสแห่งดินฟ้า.......................เพื่อฟื้นฝึกตน

บนเส้นทางย่างเท้า........ก้าวเดิน
ลาภยศสุขสรรเสริญ........เสื่อมได้
ยึดถือมั่นมากเกิน...........เกิดทุกข์
ธรรมท่านเผยแผ่ไว้.........เผื่อเว้นวงกรรม

พระธรรมเพียงส่วนเสี้ยว...........สังวรณ์
ปฏิบัติตามท่านสอน............สั่งแล้ว
สงบสุขสโมสร................ใสสะอาด
จิตสว่างดังดวงแก้ว........ก่อเกื้อกิจกุศล

บนรอยบาทยาตรเท้า..........ก้าวไป
มุ่งสู่ทางสว่างไสว............หลุดพ้น
พระเพียรเพื่อเวไนย..........สัตว์ส่ำ
ควรนบคุณยิ่งล้น............เร่งสร้างความดี


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 08-06-2007, 15:02
พุทธพาณิชย์สถิตแคว้น...........แดนไทย
ปรากฏการณ์ยุคสมัย............เสื่อมสิ้น
ศรัทธาตกต่ำไป...............ทุกขณะ
เทิดวัตถุหลากชิ้น..........ละทิ้งพุทธรรม

อำนาจเงินเสกได้..........สารพัน
เหรียญเทพมุ่งอาตมัน.........มักได้
เสริมกิเลสรวยมหันต์..............โลภสุด
หินธิเบตปลัดขิกใบ้....................บอดบ้าโมหันต์

พุทธนั้นหลักท่านเน้น.........ละวาง
เลิกมุ่งโลภโชคลาง...........หลีกเว้น
ฝึกตนพึ่งตนทาง...............ที่ถูก
ใช่พึ่งเหรียญแขวนเส้น........โซ่คล้องลำคอ

พอเถิดความคลั่งไคล้..........ไหลหลง
มีสติปัญญาปลง..............ปล่อยบ้าง
ยึดหลักธรรมดำรง...........พุทธศาสน์
คอยหมั่นศึกษาสร้าง......สว่างรู้ร่ำเรียน

แขวนเหรียญแขวนพระแล้ว..........ระลึกใด
น้อมพระธรรมชำระใจ..............แจ่มแจ้ง
ฤาพึ่งเทพผีไสย.................ศาสตร์ต่ำ
ทิ้งหลักธรรมให้แล้ง.........เหือดแห้งจากใจ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 09-06-2007, 09:33
สวัสดีค่า คุณคมเย็น

แวะมาอ่านกลอนเพราะๆค่า  :slime_inlove:


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 12-06-2007, 16:14
สวัสดีครับคุณใบไม้ มาตอบช้าไปหน่อย

ร่วมระลึกณ.เพ็ญวิสาขมาส
คุณูปการพระพุทธศาสน์...........สมาจาร

ตามพระธรรมพระพุทธเจ้าประทาน
ละชั่วประพฤติกุศลประสาน........สว่างใจ

ธรรมะพุทธองค์วิสุทธิใส
ลุวุฒิแห่งวิมุตประไพ..........อภิญญา

เพ็ญพระจันทร์สว่างกระจ่างนภา
พระธรรมสว่างณ.กลางอุรา.........อร่ามเรือง

เพียงสะเก็ดฤเสี้ยวพระธรรมประเทือง
สิดับกิเลสสลายมิเฟื่อง..........มิฟูเกิน

รอยพระบาทมหาบุรุษดำเนิน
กิเลสมารพระทรงเผชิญ..........พิชิตมวล

ตามพระบาทพระยาตรมนุษย์สิควร
ละลดกิเลสและมุ่งจะทวน..........วิถีธรรม

แต่งตั้งแต่ก่อนวิสาขะ เพิ่งจบ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 26-06-2007, 14:19
(วสันตดิลกฉันท์๑๔)

ฟองคลื่นทะเลชลละออง..........ปะทะต้องกะโขดหิน
เสียงซ่าซะซัดอุทกยิน.............ปฐพีนทีนอง

สายน้ำจรดนภกระจ่าง..........ชลพร่างประกายทอง
งดงามประทับหัทยมอง........ขณะสนธยาเยือน

หมู่เมฆระเรื่อรุธิรแสง............สุริย์แรงสิคล้อยเคลื่อน
รอนรอนระเรืองรัศมิเลือน........ปรัลุเหลี่ยมไศลบัง

มองดูคณาสกุณร่อน...........จรย้อนจะคืนรัง
คาบภักษเพื่อชิวะประทัง......ผละละรุกขะร่อนไป

เย็นแผ่วพระพายรมยะรื่น.......ชลคลื่นระลอกไหว
เรือลอยละล่องอุทกไกล.......ชลใสระริ้วงาม

สายัณห์สมัยสุริยะลา...........สินภาระเรื่อยาม
แสงส่องสะท้อนอุทกวาม......วะวะวับวะวิบวาว

ลมพลิ้วรำเพยรุกขไหว..........ชลศัยระรินพราว
หาดทรายละมุนพิศสกาว.......ระยะไกลละไมตา

เพลินทัศนามหรณพ............ชลจบกะขอบฟ้า
ชมชื่นระรื่นภิรมยา..............ประลุภาวะอิ่มเอม

เพลินภาพประทับณ.หฤทัย........พิสมัยมโนเปรม
เพลินธรรมชาติสุขเกษม............นิรทุกข์นิรันดร


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 26-06-2007, 22:38

แลเห็นทะเลและนภะลัย
ดุจใกล้ประสานกาย

เสียงคลื่นระรอกปะทะกะทราย
สุริย์เยือนทิวาวัน



ได้แค่นี้ค่ะลุงคม


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 27-06-2007, 11:23
สวัสดีครับหนูอาทิด  วันนี้ได้แค่นี้วันต่อไปก็แต่งต่อ
ไปได้เรื่อยๆ  พอติดก็ไปแต่งอย่างอื่น แต่งไปแต่งมา
เดี๋ยวก็ยาวเป็นหลายๆบทได้นะ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 17-07-2007, 12:00
 ชิงช้าเถาวัลย์

เถาวัลย์ใหญ่ยื่นกระหวัดพันรัดเกี่ยว
เป็นหลายเกลียวเลี้ยวคล้องสองคาคบ
ห้อยสองกิ่งเป็นชิงช้ามาบรรจบ
พันหลายทบหลบใต้ร่มไม้บัง

ชิงช้าเถาวัลย์ย้อยห้อยริมธาร
สนุกสนานเด็กไกวไปหน้าหลัง
ส่งเสียงหวีดกรีดร้องเสียงก้องดัง
บ้างโดดน้ำตึงตังดังตูมตาม

ริมฝั่งธารม่านไพรในหมู่พฤกษ์
บึงน้ำลึกในดงแซมพงหนาม
ชื่นสายชลเย็นฉ่ำน้ำสีคราม
สุขทุกยามเย็นย่ำเล่นน้ำกัน

บ้างว่ายน้ำดำไปเล่นไล่จับ
ร้องเพลงขับรับล้อคลอสุขสันต์
นั่งชิงช้าแกว่งไหวไกวเถาวัลย์
ร่วมแบ่งปันฝันปลื้มไม่ลืมเลือน


ริมวารีผีเสื้อเหนือพุ่มไม้
โบกปีกไหววกเกาะบินเลาะเลื่อน
บินหายลับกับตะวันก่อนจันทร์เยือน
คงหลบเพื่อนไปหลับนอนนับดาว

เช้าพรุ่งนี้ผีเสื้อคงเหลือฝัน
เล่าสู่กันวันใหม่หลังไอหนาว
ผ่านพ้นคืนวันวานอันนานยาว
บอกเรื่องราวแรมทางหว่างพงไพร

กบกระโดดโลดโจนโผนลงแอ่ง
เข้าหลบแฝงแก่งบังหลังหินใหญ่
ปล่อยอึ่งอ่างกร่างโตคุยโวไป
เล่าเรื่องใหม่ไม่ได้โม้ตัวโตพอง

แมลงปอปีกใสบินไหวว่อน
ตั๊กแตนร่อนก่อนตำข้าวค่อยก้าวย่อง
เจ้าคางคกตาเขเหล่ตามอง
คอยแลจ้องรอจับงับแมลง


เพลินสายชลวนเล่นจนเย็นย่ำ
ตะวันต่ำรอนรอนค่อยอ่อนแสง
เมฆวาววามงามตาฟ้าเรื่อแดง
สูรย์ลับแฝงเหลี่ยมเขา เงาไม้ยาว

เพลินชลสายว่ายเล่นน้ำเย็นเฉียบ
ค่อยเลาะเลียบริมน้ำเย็นฉ่ำหนาว
ป่าบรรเลงเพลงเก่าเล่าเรื่องราว
เสียงเกรียวกราวกรีดกริ่งหริ่งเรไร

นัดพบกันวันพรุ่งคุ้งน้ำเก่า
ลานร่มเงาเถาชิงช้าจะมาใหม่
สนุกสนานธารน้ำเย็นฉ่ำใจ
เถาวัลย์ไหวไกวโยนโหนเล่นกัน


วันเวลาดั่งวารีที่เลื่อนไหล
โลกหมุนไปวัยเปลี่ยนชีพเวียนผัน
เดินเส้นทางห่างไกลไปนานวัน
ต้องบากบั่นฟันฝ่าหาเลี้ยงตน

เรื่องวันเก่าเยาว์วัยดูไกลห่าง
ในโลกว่างร้างฝันอันสับสน
เหมือนเดียวดายในหมู่ผองผู้คน
สู้ดิ้นรนด้นไปไม่หยุดเดิน

วันเศร้าสร้อยบ่อยครั้งยังถวิล
ถึงแดนดินถิ่นดงพฤกษ์พงเถิน
บึงน้ำใสว่ายดำเย็นฉ่ำเพลิน
ไกลเหลือเกินเหินห่างจากร้างมา


กลับมาใหม่ในวันอันเงียบเหงา
เยือนถิ่นเก่าเพื่อนเก่าเข้าพบหน้า
เรื่องเก่าเก่าเล่าใหม่วัยชรา
ยังสุขสันต์หรรษาพารื่นรมย์

เดินคนเดียวเที่ยวไปในป่าเก่า
ดูเงียบเหงา  เงาไม้ยังให้ร่ม
น้ำเคยใส  ขุ่นเห็นพื้นเป็นตม
ใบไม้ถมริมธารลานร่มไม้

ริมบึงเก่าเถาชิงช้าในป่าชัฏ
ยื่นกระหวัดรัดบรรจบคบไม้ใหญ่
ปราศสำเนียงเสียงหริ่งหรีดเรไร
ปราศคนไกวแกว่งโอนโหนเถาวัลย์

รำลึกครั้งฟังบรรเลงเพลงจากป่า
นั่งชิงช้าราน้ำชื่นฉ่ำฝัน
น้ำบึงใหญ่ใสเย็นว่ายเล่นกัน
ผ่านวัยนั้น  วันนี้  ไม่มีแล้ว


ในความเหงาเศร้าสร้อยค่อยหันกลับ
หูสดับรับสำเนียงเสียงเจื้อยแจ้ว
กลุ่มเด็กน้อยโลดเต้นไม่เป็นแนว
มาใกล้แถวฝั่งธารวิ่งผ่านไป

บ้างโดดน้ำดำมุดบ้างผุดว่าย
ในชลสายเสียงดังฟังสดใส
โล้ชิงช้าโยกแรงคอยแกว่งไกว
สุขเพียงไหนใจฉันนั้นรู้ซึ้ง

ฉันอำลาชิงช้าเก่าเถาวัลย์เกี่ยว
ถิ่นแดนเดียวเหนี่ยวใจให้คิดถึง
เถาวัลย์เกลียวเหนี่ยวรั้งความหลังตรึง
ห้วงน้ำหนึ่งคนึงหามาช้านาน

ภาพเด็กน้อยโดดน้ำทำฉันยิ้ม
นัยน์ตาปริ่มน้ำตาเปื้อนหน้ากร้าน
เด็กกับฉันต่างพบประสบการณ์
ร่วมสายธาร  ร่วมวัลย์  ร่วมฝันเดียว



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 27-07-2007, 12:03
หนังสือพิมพ์ข่าวเช้า...........พาดหัว
แต่ละวันน่ากลัว....................เรื่องร้าย
ตายหมดโคตรยกครัว.................ถูกฆ่า
สั่นประสาทสยองขวัญคล้าย.............คลั่งบ้าสารพัน

ฟันแทงยิงถล่มขว้าง..........ระเบิดตาย
ต่างมุ่งทางทำลาย............ล่มล้าง
ขัดผลประโยชน์ที่หมาย.......ต้องฆ่า
เด็กนักเรียนแบ่งข้าง...........คลั่งแค้นตลุมบอน

เสพยาหลอนบ้าคลั่ง...........เชือดคอ
ทะเลาะวิวาทด่าทอ............ฆ่าทิ้ง
น่าสังเวชอนาถหนอ............สยามประเทศ
ฆ่าข่มขืนตายกลิ้ง...............ต่ำช้าเดรฉาน

งานอาชีพปล้นฆ่า............มากมี
เหมือนรับจ้างงานกุลี.........เล็กน้อย
ติดคุกไม่กี่ปี....................ทำใหม่
ชีวิตเหยื่อต่ำต้อย..............ดั่งเพี้ยงผักปลา

ธานีไทยถิ่นนี้................เมืองพุทธ
ปลุกเสกเหรียญตะกรุด..........มุ่งค้า
โลภลาภมิเคยหยุด....................ความอยาก
นำจิตวิญญาณบ้า.........................บอดใบ้ไหลหลง

สังคมคงเสื่อมสิ้น..........เส็งเคร็ง
พระเก่งทางกะเก็ง.........บอกใบ้
วันวันนั่งคอยเล็ง...........หวยเลข
ชนเทิดเกจิไว้..............วิ่งเข้าขอหวย

หวังรวยหวังลาภล้น...........เล่นพนัน
ยาเสพติดขายกัน..............เกลื่อนกลุ้ม
หลายระดับร่วมพัวพัน..........ทุจริต
ต้องปราบอย่าไปอุ้ม...........โอบเอื้อทรชน

สื่อมวลชนขาดแล้ง...........ข่าวดี
ฤาถิ่นไทยล้วนมี...............ข่าวร้าย
พวกโกงชาติอับปรีย์..........หนีเผ่น
สมุนป่วนเมืองมองละม้าย.....มุ่งล้มล้างไทย

ได้ข่าวดีเล็กน้อย..........เมื่อวาน
ตำรวจจับอันธพาล...........ชั่วช้า
คอยหอนเห่าเข้าระราน..........ผู้ใหญ่
คนสะใจทั่วหล้า.....................ต่างร้องสรรเสริญ

จบไม่ลง เอาแค่นี้พอ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 27-07-2007, 15:15
ถืออาจมขว้างใส่...............คนดี
จนกลิ่นตัวเองมี................อย่างนั้น
ดึงฟ้าต่ำกาลี...................คนถ่*อย
สำรอกคำเท็จปั้น............แอบอ้างอุดมการณ์


เมื่อไหร่พวกก่อความวุ่นวายจะสำนึกตัวได้เสียที


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 27-07-2007, 21:05
คนชั่วตัวอยู่ไกล...........ยังโหมไฟเข้าใส่เมือง
ทำลายระคายเคือง........คิดฟุ้งเฟื่องเรื่องเฮ็งซวย

สมุนที่ขุนไว้................จวนบรรลัยใกล้จักม้วย
เจ้านายควรตายด้วย.......ล้วนพวกท้วยควรถ่มถุย

สวัสดีครับหนูอาทิด  ไม่ได้ทักทายกันนาน


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 07-08-2007, 15:09
วสันตดิลกฉันท์๑๔)

ภาคใต้เผชิญอริผยอง
ริประลองพลังไทย
อ้างสิทธิเขตอธิปไตย
ระบุในอุดมการณ์

ดินร้อนระอุคุไหม้
ปะทุไฟประลัยผลาญ
เหล่าร้ายทมิฬนรกมาร
มุประหารประหัตชน

รวมพลประพฤติอำมหิต
มุหะผิดกะผู้คน
บ้าคลั่งเสมือนสติวิกล
ทรชนอหังการ์

ทำลายมนุษย์ประดุจสัตว์
ปฏิบัติวิหิงสา
ทำร้ายมิเลือกยุวชรา
ทุรชาติอุบาทว์ทราม

ชำแรกยุแยกนิกรชน
ประลุผลวินาศลาม
เป็นเสี้ยนสยามสกลคาม
ดุจหนามสะกิดหนอง

นับวันประชานยน์ประจักษณ์
ทิศทักษิณาหมอง
ต้องหยุดกลียุคคระลอง
ภยะผองประชาปวง

เปล่งปืนประเปรี้ยงปะทุระเบิด
ชิวะเพริดจะลับดวง
เพื่อองค์ธณินทระจะหวง
ปฐพีมิหนีพาล

เพื่อชาติชิวาสละพลี
สดุดีทหารหาญ
ข้ารัฐกิจอุทิศงาน
ปฏิบัติขจัดภัย

ขอคุณพระบันดละประชา
นคราประเทศไทย
ปลอดพ้นภยาพิบัติใด
สุขเปรมเกษมปรีดิ์

ขอรัฐะทักษิณนิกร
ภวะร้อนสิกลายดี
เหล่าร้ายปลาตะอริหนี
สุขมีทวีเติม

กลับเหมือนสมัยปกติสุข
นิรทุกขะดังเดิม
โจรที่กำแหงประทุษเหิม
ปะทะพ่ายกระจายไป

อวลไออุสุมอรุณรุ่ง
สุริย์รุ้งละมุนนัยน์
ด้ามขวานจะคงยุคสมัย
ถิรรัฐสวัสดี



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 16-08-2007, 11:33
แผ่นดินร้าวผ่าวระอุทุรยุค
ผีห่ารุกปลุกเร้าเผาดินร้อน
โหมแรงไฟไหม้ฟ้าผ่าดินดอน
พังโลกกร่อนรอนรานผลาญผู้คน

แผ่นดินแยกแตกกระจายเป็นหลายเสี่ยง
กระหึ่มเสียงหอนโห่โกลาหล
ภูตผีร้องก้องหล้าจลาจล
ฟ้าคำรณฝนกระหน่ำเมฆดำคลุม

ในเสียงฟ้าสายฝนบนซากเน่า
ทรราชรายเก่าเอาศพสุม
วิญญาณร้ายเข้ารุกอยู่ชุกชุม
หนอนกลุ้มรุมกินร่างกลางถิ่นไพร

อนธการม่านควันวันคืนหม่น
ผีร่ายมนต์ดลบาปคำสาปไสย
ทั่วภูผาป่าเหวอาบเปลวไฟ
เผารมใจผู้คนบนโลกร้าง

ผู้ต้องสาปบาปโลภละโมบหลง
รอปลิดปลงเป็นผีมีเพียงร่าง
เหลือชีวิตขาดจิตใจใต้มนต์พราง
เป็นทาสทางความคิดจิตแค้นชัง

ปีศาจร้ายรุกเร้าเข้าพิชิต
ครอบความคิดบิดเบือนเลือนความหวัง
มนุษย์เคยสามัคคีมีพลัง
ผีปลูกฝังความคลั่งแค้นแยกแผ่นดิน

ถือเงินตราเป็นพระเจ้าเหล่ามนุษย์
อยากไม่สุดหยุดไม่ได้ไฝ่ทรัพย์สิน
เบียดเบียนกันยิ่งสัตว์ป่าที่หากิน
โกงจนชินสิ้นอายทำร้ายกัน

คงสักวันพันธุ์มนุษย์จักสุดสิ้น
หมดแผ่นดินเพราะบาปสาปอาถรรพณ์
หมดแผ่นน้ำแผ่นฟ้าเพราะอาธรรม์
มุ่งห้ำหั่นมั่นล้างต่างทำลาย

ทางหลุดพ้นมนต์ผีที่หว่านพิษ
คือสุจริตคิดดีเป็นที่หมาย
มั่นยึดถือซื่อสัตย์ปัดอบาย
เลิกมุ่งร้ายหมายล้างระหว่างคน

ไม่ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมเพิ่มกิเลส
ทำทุเรศทิ้งร้างทางกุศล
รู้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผองชน
หนีวังวนมนต์ผีที่ครอบงำ

หวังวันพรุ่งรุ่งอรุณอุ่นอุษา
เริ่มทิวาฟ้าใหม่ไร้เมฆคล้ำ
ก้าวเดินไปในเส้นทางห่างอธรรม
ร่วมกันนำค้ำจุนโลกหมุนไป

เพื่อลูกหลานรุ่นหลังยังมีโลก
ร่วมเคราะห์โชคเผชิญกันมั่นแก้ไข
โดยวิถีแห่งประชาธิปไตย
ก้าวเดินไปร่วมกันอย่างมั่นคง



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: morning star ที่ 17-08-2007, 05:28

เขาร่ายกลอนวรรคตอนช่างอ่อนช้อย
เรียบเรียงร้อยเป็นลำนำคำประสาน
เพราะเชี่ยวกรำคำคมมานมนาน
กวีวรรณรักษ์ไว้ร้อยใจจำ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 17-08-2007, 10:34
ร่ายเรียงคำจำนรรจ์สรรอักษร
เป็นคำกลอนวอนคนบนพื้นถิ่น
ไปใช้สิทธิ์เพื่อชาติปราศมลทิน
สกัดพวกโกงกินหมดสิ้นไทย

สวัสดีครับ คุณphosphoros


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 27-08-2007, 11:35
คลื่นทะเลระริ้วระลอกกระเซ็น
ถะถั่งพะพลั่งนทีก็เห็น...............กระจายสาย

พลิ้วกระเพื่อมชลัมพุพลุ่งพะพราย
พะพราววะวาววะวับประกาย.........กระฉอกชล

คลื่นคะนองกระหน่ำสนั่นสกล
ชะหาดชะทรายละเกลียวละวน..........ระลอกธาร

คลื่นกระชั้นชลากระเพื่อมประสาร
พระพายกระโชกชเลละลาน..............ละลิ่วลม

ฟ้าคะนองละอองพิรุณประพรม
ยะเยือกณ.พายุฝนผสม................สะท้านหนาว

อัสนีปละแปลบวะแวบวะวาว
ณ.รัตติกาลสิมืดจะยาว................ยะเยียบเย็น

เรือประมงเลาะหลงละหานฤเห็น
ละอองรุจีประกายฤเป็น...............ประภาคาร

ห้วงมหรรณพ์สิห่างและกว้างประมาณ
จะว่ายจะวนอนันตกาล.................มิผ่านพ้น

พายุคงสงบจะพบสถล
ปะฝั่งประทังชิวาสกนธ์.................สบายใจ

รุ่งอรุณรวีรุจีละไม
สว่างกระจ่างนภาไสว..................วิไลตา

เรือประมงจะคงเลาะคลื่นชลา
เสาะค้นแสวงวิถีประสา.................ชิวาชน

ห้วงมหรรณพ์จะแปรกระแสจะวน
เสาะหาพิภพสงบจะทน...................จะค้นธาร

(อีทิสังฉันท์๒๐)



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 28-08-2007, 20:07


ยามอรุณทิวากระจ่างนภา
วิหคก็ขันสนั่นวนา......................จะลาคอน

แสงสุรีย์ประหนึ่งปะทะภมร
ลดาก็บานประหม่านิวรณ์..............นิโลบล

สวัสดีค่ะลุงคม


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 11-09-2007, 14:03
ฟากสรวงประดับศศิศุกล

สุวิมลกระจ่างไกล

ดาวดารดาษนภประไพ

กระจะนัยน์ณ.ยามชม

 
หรีดหริ่งระรัวประดุจคี-

-ตกวีประเลงรมย์

เรไรประสานศัพทประสม

ก็ระงมวนาสัณฑ์

 
แผ่วหวานวะแว่ววิหคครวญ

เสนาะชวนนิทราพลัน

ดั่งคีตทิพยสวรร-

-คประพันธ์ประชันเคียง

 
ใต้รุกขริมอุทกไหล

ระอุไฟและฟืนเรียง

ผิงไฟปริฟืนสิปะทุเสียง

ดุจเพียงพะเนียงพราว

 
พักแรมวิกาลขณะสะท้าน

ณ.พนานต์ยะเยือกหนาว

ชื่นธรรมชาติศศิสกาว

ระดะดาวระยิบดวง

 
น้ำค้างเผาะผลอยชลละออง

ปะทะต้องยะเยียบทรวง

ทุ่งกว้างตฤณรุกขปวง

ชรอุ่มชะชุ่มใบ

 
โลกรัตติกาละจะนิทรา

สกุณาและเรไร

กล่อมสรรพชีพสถิตไพร

ระยะไกลละเมอฝัน

 
ตื่นตามิอาจละหฤทัย

พิสมัยพนาวัน

เรียงรจเรขจิตกระสัน

ประลุจินตนาการ

 
รอแสงรวีอรุณรุ่ง

จิตมุ่งประพันธ์งาน

รังสรรค์กวีวัจนศาน-

-ตสราญฤดีสม

 
หวังสืบกวินศิลปศาส-

-ตรชาติสยามชม

ร้อยฉันทพากยภิรม-

-ยผสมผสานคำ

 
เรียนฉันทลักษณกะกรอง

ตริสนองประคองนำ

เรียงศัพทสารสุขุมคัม-

-ภิรภาพจะพากเพียร

 
(วสันตดิลกฉันท์๑๔)

 

 
 


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 19-09-2007, 14:35
เหล่าพยาธิชาติหนอนบ่อนเบียนเบียด
ชนหยามเหยียดเกลียดกลัวกันทั่วหน้า
มันดูดเลือดเหือดแล้งแห้งพารา
พร้อมกลับมาดูดกินแผ่นดินเรา

หลายตัวพวกกังฉินเคยกินจุ
ต้องคอยดุด่าเฉดเขตห้ามเข้า
สะเออะหน้ามาผยองจ้องจะเอา
รวมพวกเก่าเล่าแถลงจะแบ่งปัน

พยาธิแก่ใจกล้าตัวหน้าด้าน
จมูกบานปานชมพู่ดูน่าขัน
เห่ากรรโชกโฮกฮ่าท้าประชัน
รับประกันกัดหมู่สู้เพื่อนาย

พยาธิขุม..กลุ่มพลัง..มันขลังนัก
ใจจงรักภักดีมิมีหน่าย
เสพอาจมสมสู่อยู่ดินทราย
มิมีอายหมายมุ่งเกาะถุงเงิน

หวังดูดต่อท่อน้ำเลี้ยงให้เกลี้ยงโบ๋
พยาธิโซปากสั่นเฝ้าสรรเสริญ
นายใหญ่ตูชูเชิดให้เพลิดเพลิน
เก่งเหลือเกินเคยกินหมดสิ้นเมือง

พยาธิเก่าเหลาเหย่เที่ยวเร่ร่อน
ร่วมสมจรจับคู่หวังฟูเฟื่อง
ร่วมลงทุนสมุนกินยอมสิ้นเปลือง
หวังรุ่งเรืองเขื่องใหม่ได้ถอนทุน

ฤดูกาลงานใหม่มาใกล้แล้ว
เร่งจัดแถวจัดทัพสนับสนุน
หลอกชาวบ้านงานเก่าเอาบุญคุณ
ต่างหมกมุ่นลุ้นตำแหน่งแย่งมวลชน

ตั้งชมรมผสมพันธุ์ให้มั่นเหมาะ
ต่างตีเกราะเคาะกะลาพาสับสน
จับขั้วเวียนเปลี่ยนสีลุกลี้ลุกลน
เพื่อหวังผลวนกินจนสิ้นไทย



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 25-09-2007, 15:50
ฟ้าฉ่ำชะโลมพิรุณโปรย

วตะโชยยะเยือกเย็น

ชุ่มชื่นละอองอุทกเห็น

ชะกระเซ็นกระจายฝน

 
สองเราณ ร่มรุกขคลุม

มรสุมกระหน่ำชล

เปียกปอนนทีปะทะสกน-

-ธกมลสิอิ่มเอม

 
หลบบังณ ร่มรุกขไกว

อุระไหวฤทัยเปรม

อาบสายพิรุณสุขเกษม

รติชื่นระรื่นทรวง

 
หยาดน้ำเกาะนวลรุจฉวี

ผิว์มณีระเมียรดวง

เพียงเพชรพิลาสรัตนะสรวง

ขณะร่วงนภาราย

 
อิจฉาละอองชลประชิด

ชะพนิตชะโลมกาย

อยากเป็นประหนึ่งพิรุณสาย

จะประพรมประโลมนาง

 
อิงแนบอุรานุชอนง-

-คประจงประคองพลาง

โอบกอดประทับมิละมิวาง

ระอุกลางระหว่างใจ

 
หญิงสาวสะเทิ้นอุธัจเหลือ

ผัสสะเนื้อระเนื้อใน

แรกเริ่มริรักดรุณวัย

สุขใดจะสุขปาน

 
กึกก้องกระหน่ำอสนิบาต

พิศวาทฤดีดาล

แรกเริ่มริลองผณิตหวาน

รสซ่านสะท้านทรวง

 
ชื่นหยาดละอองพิรุณชุ่ม

อรสุมประสารดวง

ชื่นฉ่ำตฤณบุปผปวง

ชลอิ่มประปริ่มนอง

 
สิ้นหยาดละอองพิรุณพรม

อุระสมฤทัยปอง

กลมเกลียวเกษมรติสนอง

ดุจผ่านพิมานสรวง

 
สมรักภิรมยะหทัย

ดนุได้ประจักษ์ทรวง

มั่นรักถนอมนุชจะหวง

รตินั้นนิรันดร์กาล

 
อาลัยอำลารุกขร่ม

ประลุสมสวรรค์ปาน

อาลัยมิอยากจะละสถาน

ละสะคราญวิมานใจ

 
(วสันตดิลกฉันท์๑๔)

 

 

 

 





หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 03-10-2007, 15:37
ประวัติศาสตร์ขาดวิ่นแผ่นดินเดือด
เพื่อนหลั่งเลือดโลมดินลืมสิ้นหมด
ไร้ศักดิ์ศรีขี้ฉ้อทรยศ
เชิดคนคดโกงปล้นจนชาติพัง

ประวัติศาสตร์ขาดวิ่นคลุ้งกลิ่นเลือด
ตุลาเดือดเชือดฆ่าเหมือนบ้าคลั่ง
ด้วยวาทีผีสิงให้ชิงชัง
คนเช่นดังสัตว์ป่าเข่นฆ่าคน

สมัครร้ายกระหายเลือดดุเดือดบ้า
บิดเบือนด่าป้ายสีจนปี้ป่น
ปั้นวาจาชักจูงฝูงทรชน
โกหกพ่นบ่นพร่ำคำบิดเบือน

สมัครร้ายกระหายเลือดดุเดือดพล่าน
ยุประหารผลาญคลั่งดังแดนเถื่อน
ลูกหลานไทยถูกตอกอกติดตาเตือน
อย่าลืมเลือนเพื่อนเอ๋ยมันเคยทำ

สนามหลวงลานเลือดเชือดประหาร
คนสามานย์ผลาญฆ่าอยู่คลาคล่ำ
จับแขวนคอลากศพไปเผาซ้ำ
สัตว์ละยำอำมหิตผิดผู้คน

เสพเลือดเนื้อเพื่ออำนาจอุบาทว์หนัก
ปากสมัครด่าแช่งทุกแห่งหน
มุ่งพิฆาตฟาดฟันฉันท์ทรชน
ตายปี้ป่นหนีเข้าป่าอย่าลืมเลือน

จำได้ไหมใครทำจำได้ไหม
ลูกหลานไทยถูกฆ่าอย่างป่าเถื่อน
จมูกหมูชมพู่พิษมันบิดเบือน
ติดตาเตือนเพื่อนตุลาอย่าลืมไป

คนนี้หรือคือผู้นำผู้ล้ำเลิศ
แท้หุ่นเชิดชั่วช้าข้ารับใช้
ทรราช,ทรชน,คนจันรัย
ขี้หมูไหลมารวมปลัก...พรรคการเมือง


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 19-11-2007, 11:53
                                 ๑

                    ๑ ตึกสูงเสียดยอดเงาทอดยาว
                     ลดหลั่นราวภูผาในป่าใหญ่
                     บังเส้นขอบฟ้าสุดตาไกล
                     รายเสาไฟริมทางร้างร่มบัง

                     ๒อวลหมอกควันสีเทาเป็นเงาทึบ
                     คราบเเหนียวหนึบติดหนับจับผนัง
                     ทางเท้าลื่นเลอะเทอะคราบเกรอะกรัง
                     ด้วยรอยฝังสั่งสมบ่มคราบไคล

                     ๓ตั้งแต่เช้ายันค่ำจนย่ำดึก
                     ในซอกเล็กซอยลึกข้างตึกใหญ่
                     รถวิ่งวนคนเดินวุ่นหมุนเวียนไป
                     ผลัดเปลี่ยนใช้พื้นที่ทุกวี่วัน

                     ๔แดดสายฉายส่องดูหมองเศร้า
                     ตึกทึมเทาทึบแห้งแล้งสีสัน
                     ในซอกเล็กซอยลึกข้างตึกนั้น
                     อวลหมอกควันกลิ่นคลุ้งฝุ่นฟุ้งลอย

                     ๕เหล่าหาบเร่รถเข็นเห็นแออัด
                     สารพัดสิ่งของจองแขวนห้อย
                     ทั้งข้าวปลาอาหารร้านแผงลอย
                     ตั้งไว้คอยลูกค้ามาหาซื้อ

                     ๖แบกะดินกินกันกลางวันหิว
                     เดินเข้าคิวซื้อข้าวแกงแบ่งกันถือ
                     กลิ่นน้ำเน่าอวลกรุ่นฝุ่นกระพือ
                     ผ่านอีกมื้อกันตายบ่ายทำงาน
                        
                                     ๒

๗โลกเวียนหมุนคุ้นชินไม่สิ้นสุด                 ๗โลกหมุนเวียนเปลี่ยนไปไม่สุดสิ้น
เป็นมนุษย์เงินเดือนวันเลื่อนผ่าน                คนทำกินขายของต้องหน้าด้าน
เหมือนเครื่องจักรผลักระบบอยู่ทบทาน        เรียกคนซื้อจนคอโป่งโก่งคอนาน
เนิ่นนานกาลเวียนไม่เปลี่ยนแปร                 หน้าดำกร้านอาบเหงื่อเพื่อเงินตรา

๘กดลิฟท์ชั้นเก่าทุกเช้าตรู่                       ๘มาตั้งวางกางแผงตำแหน่งเก่า
โต๊ะกูตัวเก่าเก้าอี้แก่                                จ่ายค่าเช่าหลายบาทคาดไว้ว่า-
งานประจำไม่ลำบากซ้ำซากแท้                  จะขายดีมีกำไรได้ราคา
ที่มันแย่ไม่พอกินชนสิ้นเดือน                      งานหนักหนาสาหัสอัตคัดทน

๙อิจฉาคนค้าขายมีรายได้                         ๙อยากทำงานออฟฟิศติดเนคไทด์
รับกำไรใช้หมุนแม้ฝุ่นเปื้อน                        เดินยืดอกยกไหล่ไม่หมองหม่น
หากขยันทำไปไม่แชเชือน                         อยู่ห้องแอร์เย็นใจไม่ร้อนรน
ดีกว่าเลื่อนเดือนละร้อยคอยสิ้นปี                   เที่ยวเดินวนซื้อของเงินต้องดี

                                            ๓

                       ๑๐คนในตึกและในซอยต่างคอยหวัง
                           ทุกวันนั่งที่เก่าเฝ้ากับที่
                           ต่างซมซานทำงานเก่าไม่เข้าที
                           รอวันมีสิ่งใหม่ในชีวา
                          
                        ๑๑อวลหมอกควันสีเทาเป็นเงาหม่น
                            โลกหมุนวนทางเก่าไม่เข้าท่า
                            วันคืนคล้อยเคลื่อนผ่านกาลเวลา
                            โชคชะตาหรือคนคิดลิขิตทาง

                         ๑๒ตึกสูงเสียดยอดทอดเงาเงื้อม
                             ลดหลั่นเหลื่อมเชื่อมไว้ในระหว่าง-
                             ซอยแยกน้อยใหญ่ซ้ายขวากลาง
                             อวลหมอกควันอ้างว้างต่างมืดมน



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 24-11-2007, 19:16

มาเป็นชุดเลยค่ะ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 26-11-2007, 16:11
สวัสดีหนูอาทิด เดี๋ยวคิดอะไรใหม่ๆได้แล้วมาลงใหม่



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 14-12-2007, 20:53
ถวายพระพร

(สัททุลวิกกีฬิตฉันท์๑๙)

ข้อน้อมเกล้าอภิวาทพระบาทนฤบดินทร์
เอกองค์พระภูมินทร์....................พิสิฐ

ผู้เกริกเกียรติวิรัชระบือทิศนุทิศ
ขวัญหล้าสยามิศ.........................สมัย

เป็นฉัตรปกศิรปวงพสกนิกรไทย
พึ่งบุญพระทรงชัย........................พิเชฐ

ผ่านล่วงรัชสมัยสงบเพราะพระธเรศ
ปกเกล้าและคุ้มเกศ........................นิกร

เป็นสุขด้วยปรมีพระขัตติยะบวร
ราษฎร์สุขสโมสร............................สราญ

เนื่องในวาระดิถีเฉลิมชนมวาร
แห่งองค์พระภูบาล...........................บดี

ขอโอนอาตมน้อมและนำคุณพระศรี
ไตรรัตน์วิราคี..................................ประสาท-

พรเพื่อองค์พระมหากษัตริยะธิราช
ขวัญชนหทัยชาติ...............................ธไท้

ขอจงทรงพระเกษมสราญพระหฤทัย
มุ่งปลงประสงค์ใด..............................สฤษดิ์

ขอจงทรงพระเจริญบวรจตุรพิธ
พรชัยลุสัมฤทธิ์..................................วิโรฒ

จุ่งทีฆายุลุราชกิจคุณประโยชน์
ช่วยไทยเจริญโชติ..............................ชวาล

โลกแซ่ซ้องสดุดีพระคุณพระกีรติพิศาล
ยั่งยืนตลอดกาล..................................นิรันดร์

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ



ลงช้าไปหน่อย
 



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 19-12-2007, 11:30
กาฬปักษ์มืดมิดแม้น.........ม่านดำ
คลุมครอบบ้านเมืองทำ......ทุกข์แท้
ภูตผีร่ายมนต์งำ...............คำสาป
ชาติหม่นเกินจักแก้...........กอบกู้เยียวยา

สยามเทวาธิราชเจ้า..........จรลี
เบือนหลบเร้นหลีกหนี........หน่ายแล้ว
พวกชั่วชาติทรพี...............ผยองหนัก
แผ่พิษทั่วเมืองแก้ว............จักแก้ฉันใด

ใจเมืองแยกแตกร้าว...........ทรมาน
คนถ่.อยคอยรุกราน..............เดือดร้อน
รอยตอกลิ่มยากสมาน..........คืนสนิท
รอยเลือดยังไหลย้อน...........หยาดพื้นพสุธา

ภูตกาลีร้อยเหลี่ยม...............เล่ห์กล
ปลุกปั่นประชาชน................ชั่วช้า
หว่านพิษบิดเบือนปน.............ปลุกกิเลส
สาวกหลงคลั่งบ้า..................บอดใบ้ไร้สมอง

ผองอสุภซากอดีตย้อน.............หวนคืน
หวังสูบเลือดเนื้อกลืน...............อร่อยลิ้น
ใครไหนจักหยัดยืน..................ฝืนต่อ  กรนอ
ผลประโยชน์กลบกลืนสิ้น...........ยากสู้กระแสมาร

เคยผลาญเคยพล่าล้าง...........กลางสนาม
ชั่วจัดชาติสัตว์ทราม.............สมัครย้อน
สืบเชื้อชั่วเหยียบหยาม..........หยันราษฎร์
โยงเหลี่ยมเล่ห์ซับซ้อน..........ยากรู้เท่าทัน

หวังวันนี้แจ่มแจ้ง..........ใจประชา
ทันเล่ห์พวกบาปหนา.........บิดเบี้ยว
สืบประวัติศาสตร์ผ่านมา.........มากยุค  สมัยเฮย
คือฆาตกรโหดเขี้ยว................ฆ่าล้างประชาชน

วนมาป็นข้าทาส.........นายเงิน
ใจหยาบสันดานเกิน........ขุดได้
สมุนถ่.อยกลับสรรเสริญ.......ชูเชิด
รวมปลักสัตว์ประหลาดไว้..........ใส่ไคล้ระบายสี

คนดีฤาขาดแล้ง...........แหล่งสยาม
ปล่อยพวกชั่วโฉดทราม......เขมือบสิ้น
ควรรู้คิดติดตาม...................ทันเล่ห์   เหลี่ยมนา
ให้บทเรียนเหลือบริ้น...............รับรู้กรรมสนอง





หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 19-12-2007, 12:23

เดี่ยวค่อยมาตอบค่ะคุณพี่ลุงคม


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 21-12-2007, 12:03
คอยหนูอาทิดมาตอบตั้ง๒วัน ตอบเองดีกว่า

ขอเชิญชวนคนไทยไปเลือกตั้ง
อย่ารับตังค์ชั่งใจกันไว้หน่อย
พวกซีดีน้ำเน่าเขาสำออย
อย่าใจลอยคล้อยตามจะช้ำใจ

เลือกตัวแทนคนไทยจำไว้เถิด
อย่าให้เกิดเรื่องแย่ต้องแก้ไข
พวกตัวแทนคนอื่นขืนเลือกไป
กลับมาใหม่โกงใหม่ใหญ่คับซอย

ได้นายกนอมินี่ไม่ดีแน่
ชาติคงแย่แม่-งชอบท้าตีต่อย
เจ้านายชอบเบือนบิดติดสำออย
ขี้ข้าถ่.อยคอยท้าด่าทุกที

นโยบายไม่มีดีแต่ด่า
เที่ยวกล่าวหาว่าใครคอยใส่สี
เคยยุยงเข่นฆ่าประชาชี
คนอย่างนี้ได้มาดูท่าซวย

รับเศษเงินเพลินใจไปเลือกเขา
ได้คนเก่าโกงเก่งนักเลงด้วย
ได้ท่านหมักเป็นนายกรัฐมนตวย
พรรคพลังประชาชวยเป็นรัฐบาล



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 21-12-2007, 18:54

เลือกคนดีจงละอายการขายเสียง
คนซื้อเพียงพ่อค้ามาเพียงหน
หวังกอบโกยศรัทธาประชาชน
เพื่อถีบตนเข้าสภาตบตากัน

เงินที่ให้ใช่เมตตาประชาราษฎร์
หวังเก็บกวาดเศษเนื้อเพื่อห้ำหั่น
สุดท้ายแล้วขายชาติบังอาจครัน
จงตื่นตารู้ทันไล่มันไป


สวัสดีค่ะลุงคม


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 21-12-2007, 20:13
เลือกตั้งหวังไว้ได้นายก
ไม่สกปรกโสมมหมักหมมชั่ว
เป็นคนดีมีธรรมประจำตัว
ไม่ทำตัวยั่วยุดุด่าคน

เลือกตั้งหวังไว้ได้ส.ส.
ไม่สอพลอเอาดีมีแต่พ่น
เป็นตัวแทนประชามหาชน
พาชาติพ้นวิกฤตคิดเพื่อไทย

วันนี้เขียนหลายรอบและหลายเว็บ
เพื่อส่งเสริมประชาธิปตวย เอ๊ย..ประชาธิปไตย
ฝากช่วยกันเอาไปpostในwebอื่นบ้างก็น่าจะดี



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 21-12-2007, 20:16
มีอีกหน่อย


เสียงชมระงมเชียร์

ฟังเพลียระอาพอ

เลือกตั้งระวังตอ

เจอช้ำยำยำชน

 

หอมกลิ่นระรินไกล

ดอกไม้ระเมียรมนต์

แตกข้างระหว่างคน

อาจแว้งระแวงไว้

(อัษฎางค์ดุริยา)



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 21-12-2007, 20:34

เดี๋ยวไปใส่ในห้องกวีราชดำเนินดีหรือเปล่าคะลุงคม


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 21-12-2007, 21:00
เดี๋ยวไปใส่ในห้องกวีราชดำเนินดีหรือเปล่าคะลุงคม

ไปใส่ให้แล้วค่ะลุงคม

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P6155122/P6155122.html#7


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 21-12-2007, 21:32
ลงในราชดำเนินไม่มีประโยชน์หรอก
คนอ่านมีแต่พวกขุดยาก
ตอนกลางวันลงในห้องสมุดบางบทยังโดนลบเลย


พวกขี้โกงโม้เก่งนักเลงเก่า

ดีแต่เห่าเฝ้าแต่หอน..วอน...ถีบให้

ชอบถ่มถุยคุยทั่ว..มั่ว-เพื่อไทย

ทนไม่ไหววิงเวียนเอียนจังโว้ย

(ตกกระทบ)

เขียนไปเรื่อย เพลินๆ




หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 21-12-2007, 22:48
ลงในราชดำเนินไม่มีประโยชน์หรอก
คนอ่านมีแต่พวกขุดยาก
ตอนกลางวันลงในห้องสมุดบางบทยังโดนลบเลย


พวกขี้โกงโม้เก่งนักเลงเก่า

ดีแต่เห่าเฝ้าแต่หอน..วอน...ถีบให้

ชอบถ่มถุยคุยทั่ว..มั่ว-เพื่อไทย

ทนไม่ไหววิงเวียนเอียนจังโว้ย

(ตกกระทบ)

เขียนไปเรื่อย เพลินๆ




โดนหมาหมู่รุมแล้วค่ะลุงคม เด๋ยวคงโดนลบตามมา

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P6155122/P6155122.html#18


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 22-12-2007, 12:07
ทางที่ดีอย่าไปเขียนและอย่าไปอ่าน ราชดำเนิน
พวกนี้มันเหมือนพวกคลั่งลัทธิอะไรสักอย่าง
ทำให้เราเสียเวลา เสียอารมณ์
การไปโต้ตอบก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา

คนอย่างหมักหรือจะมาเป็นนายก
เคยโกหกโกห้ามาเก่าก่อน
ใครเชื่อคงออกลูกป็นวานร
ต้องเดือดร้อนนอนไม่หลับนับวันพัง

ทุกทุกวันหาเรื่องคุยเฟื่องฟุ้ง
หากกรูรุ่งจักล้างลบอีกฝั่ง
เที่ยวยั่วยุกุกระแสมันแย่จัง
เตือนไม่ฟังยังเที่ยวด่าท้าต่อยตี



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 22-12-2007, 15:42
คนปากห-,มากจมูกหมูรูเหม็นเน่า
เขาเลี้ยงไว้หอนเห่าแลกข้าวสวย
เป็นทาสาเปรอปรนของคนรวย
แต่มีคนเฮงซวยแอบช่วยมัน



สวัสดีค่ะคุณลุงคม เหมือนลุงคมว่าอย่าไปเสียอารมณ์กับพวกมันดีกว่า


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 25-12-2007, 11:58
ท่านสมัครนักสมาน

คอยประสานร่วมประสม

มีสมุนมาสดมภ์

คอยประดับคับประดัง

 
เป็นประธานปกประเทศ

อย่าทุเรศดันทุรัง

ชาญฉลาดเชี่ยวฉมัง

จะนิยมชมนิยาม

 
เขาเชิดเขาชูชมพู่สมัคร

ตัวแทนท่านทักษณ์น่ารักจะถาม

หากเป็นนายกจมูกจะดาม

ให้งดให้งามขึ้นบ้างอย่างไร

 
อีกถ้อยวาจาภาษาที่พูด

อย่าปากเหมือนตูดเหม็นบูดเข้าไส้

ควรเปล่งวาจาภาษาดอกไม้

ให้ฟังชื่นใจทั่วไทยจะชม

 
ท่านสมัครใช้สมองตรองสมาน

หวังประสานพรรคประสบมาประสม

เล่านิยายให้นิยามน่านิยม

มุ่งระดมพรรคระดับนับระดา

 
อภิสิทธิ์คิดเซ็งฟังเพลงเศร้า

น่าอับเฉาเน่าอับโชคนั่งอิจฉา

คนอิสาณคลั่งทักษิณไม่สร่างซา

คนกรุงเทพบ้อท่าระอาท้อ

 
นายสมัครนักสมานผ่านสมัย

ปากตะไกรได้ตระหนักควักตะขอ

ได้สติมีสตางค์ช่างสะตอ

ทอดสมอปล่อยสมองตรองสบาย

 
พรรคเล็กเล็กลุกลนคนหลุกหลิก

กลัวจะพลิกนอนแผ่ต้องแพ้พ่าย

อยากเข้าร่วมวิ่งรอกต่างออกลาย

ไม่มีอายกลัวอดหมดสิทธิ์อิง


ในที่สุดมันก็ผ่านไป รอวันกลียุคแล้วกัน

 

 

 



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 25-12-2007, 19:03

งามวงหน้าคลับคล้าย..........เคียงสุกร
ชมพู่ผ่าซีกตอน..................แปะไว้
ดวงตาเลื่อนลอยมรณ์............มรณะ
ทรลักษณ์กายาไร้............สง่าสิ้นสำอางศรี

งามวาจาถ่oยทั้ง................คารม
คงเสพเมถุนอม..................ปากยี้
ยามสำรากอาจม..........เหม็นหึ่ง...ตลบเอย
สำนึกบางเบานี้.............อาจเอื้อมนำสยาม

งามความคิดหลากล้วน........พรรณนา
หวังทรัพย์เขาจ้างมา..........โจ่งแจ้ง
วิมานเทพเทวา..............ร้อนผ่าว...พ่อเอย
ขอเถิดจงกลั่นแกล้ง.........นรกร้ายคืนหลุม



สวัสดีค่ะคุณพี่ลุงคม


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 25-12-2007, 20:09
เมอรี่คริสมาสตร์เสรี
ไทยเวบสุขีขจรไกล
ทั่วหล้าถิ่นฐานแดนไทย
สวัสดีปีใหม่ทุกท่านเอ่ย

(http://www.pimpinup.com/assets/galleries/c-09030.jpg)


มาแต่งกลอน Merry Christmas and Happy 2008

หวัดดีค่าคุณคมเย็น คุณอธิฏฐาน  


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 26-12-2007, 11:36
ปีใหม่ให้สุขพร้อม..........พูนทวี
สินทรัพย์เพิ่มเพียบมี..........มากล้น
โรคภัยอย่าได้บี...................ฑาเบียด  เบียนนา
อยู่รอดปลอดภัยพ้น...................ผ่านได้อีกปี

สวัสดีครับคุณใบไม้  หนูอาทิดหมู่นี้เขียนดุเดือดดีจัง




หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 28-12-2007, 21:17
สวัสดีปีใหม่
ขออวยชัยพร้อมพรมา
สมสุขทุกเวลา
ศัตรูร้ายก็พ่ายกรรม

สินทรัพย์นับไม่ถ้วน
เงินทองล้วนบุญหนุนนำ
ตะวันส่องทางธรรม
สุขเกษมและเปรมปรีด์



เอาแบบไม่เดือดก็ได้ค่ะคุณพี่ลุงคม


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 02-01-2008, 15:13
สวัสดีปีใหม่ครับหนูอาทิด


ปีใหม่ได้พรรคใหม่

สมองใสใช้ทรัพย์สิน

เขาแจกเป็นอาจินต์

เคยได้ยิน"ชิน"ไยโยง

 
ปีใหม่อย่าได้มั่ว

รีบกลับตัวอย่ามัวโกง

ถึงหากรวยตายโหง

เมื่อเข้าโลงได้แต่ลม

 
เป็นรัฐบาลรวย

อย่าเฮ็งซวยทำให้สม

ที่คนเขานิยม

จักชื่นชมทนข่มใจ

 
โหรชี้ว่าปีชวด

พวกตะกวดวิ่งไม่ไกล

หากรวมกับปลาไหล

คงพอไหวไปหลายวัน

 



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 30-01-2008, 12:30
ช้ำรัก

ดึกคืนนั้นดารดาษดาว
รัชนิกรสกาว
รัศมีพราว
ณ หาวหน

แสงนวลตาหล้าสว่างยล
ศศิจรนภดล
ราวจะร่ายมนต์
สกลฝัน

หรีดหริ่งร้องทั่วพนาวัน
ดุจดุริยะสวรรค์
ก้องเสนาะกรรณ
กระหึ่มไกล

เราเคียงคู่คลอพนอไป
อภิรมยะหทัย
หวามสวาทไหว
สวรรค์ปาน

แอบร่มพฤกษ์ริมนทีธาร
ระอุรติรสหวาน
ซึ้งฤดีดาล
สะท้านทรวง

ดังภู่ผึ้งตอมตฤปปวง
มธุรสนุชหวง
รักมิหลอกลวง
มิล่วงเกิน

ครั้นกาลเวียนเปลี่ยนฤทัยเพลิน
นิรรสรติเผิน
หมางสวาทเมิน
มลายหาย

เธอคือน้ำค้างละอองราย
อรุณสุริยะฉาย
แปรสภาพกลาย
สลายพลัน

ใจเยี่ยงน้ำค้างจะห่างหัน
ละภวะอุทกอัน
เช่นฤทัยนั้น
มิแน่นอน

ดึกคืนนี้ดาริกาจร
นภนิรศศิธร
มองทิฆัมพร
สิหม่นหมอง

คิดครั้งเคยมีรตีครอง
อสุชลดนุนอง
เปลี่ยวฤทัยปอง
ประหวัดหวน

ครองช้ำร่ำไปฤทัยครวญ
พิศศศิธรนวล
ในอุรารวน
ฤทัยลาญ

(สัทธราฉันท์๒๑)



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 16-03-2008, 21:18
แผ่นดินณ ยามภววิกฤต
ปะทุพิษพญามาร
เหล่าพวกสถุลบริวาร
มุจะผลาญไผทไทย

วันวันสิแหย่ยุกุกระแส
พิษแพร่ขยายไป
เมืองล่มเพราะด้วยธนประลัย
ระอุไฟจะไหม้ลาม

แตกแยกระหว่างนิกรชน
ทะเลาะบ่นวิกลตาม
พรรคเลวจะนำคณะสยาม
ประลุทรามและเสื่อมโทรม

หากโคตรตระกูลบุรพกาล
พิศหลานฤญาติโยม
กัดกินประเทศตะกละตะโบม
สิจะคิดอนิจจา

น่าอายอุบาทว์ประดุจมูล
ปฏิกูลสะสมคา
ริมฝั่งประดังระดะประสา
สวะเน่าคละเคล้าเหม็น

จวนเริ่มกลียุคปฐมบท
ผิวะกดประชาเป็น
สองขั้วผิว์ชนบทเข็ญ
ก็กระตุ้นกิเลสเหิม

คนเมืองประสมคณะระคน
คละปะปนก็แตกเติม
แยกขั้วเพราะคำประทุษเสริม
ระยะห่างระหว่างกัน

บ้านเมืองเสมือนนรกมัว
คณะชั่วจมูกชัน
เหล่าพลเมืองจะเยาะจะหยัน
ฤจะอาจประศาสน์ชน

เหล่าปวงวธูวิพุธมวล
ตละล้วนมิอาจทน
ขี้ฉ้อตะกลามตะกละจะฉล
ฤจะปกประเทศครอง

เสนาบดีตละพระหน่อ
พิศท้ออนาถมอง
ล้วนพวกระยำคณะผยอง
คละกะเหล่ากะล่อนไหล

ผู้นำอุบาทว์มนพิการ
บริหารประเทศไทย
โอ้ว่าประชาอธิปไตย
ทุรชนจะปล้นชิง

ผู้แทนถนัดผรุสวาท
ทุรชาติอุบาทว์จริง
วาจาเสมือนนรกสิง
ทะเลาะท้าประสาทราม

อ้าองค์สยามเทวธิราช
ฤปลาตสุธายาม
สัตว์ต่ำจะนำภพสยาม
ทะลุขุมอเวจี




หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 17-03-2008, 22:14
รุ่งสางอรุณสุริยะฉาย
นภะพราย ณ ปลายตา
ผีเสื้อเกาะกิ่งมะลิลดา
ภุมรา ฤ ร่อนตาม

ผึ้งภู่แมลงและภุมริน
สิถวิลผกางาม
รื่นรวยสุคนธ์ ณ พนะนาม
ทิวะยามขจรไกล

รื่นรมย์ทะเลอุทกธาร
จิตะปานตระกองใคร
สุขสมฤดีและหฤทัย
พิศะอยู่มิรู้เลือน

แสงสูรย์สว่างประลุวนา
สุริยาประหนึ่งเยือน
อบอุ่นพิสุทธิ์มิละ ฤ เลือน
ระอุเหมือนอุดมการณ์

เพื่อไทยสยามจะมุมิท้อ
อริรอจะรอนราญ
ใจจิตสงบสยบะพาล
พละมั่นมิหวั่นเลย



ไม่เกี่ยวกับการเมืองค่ะคุณลุงคม


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 18-03-2008, 11:16
เรียงฉันทพากยประพน-

-ธกมลสงบตรอง

มองโลกและสรรพชิวะผอง

พลวัตวินิจปวง

 
ชมธรรมชาติอรุณสาง

สุริย์พร่างกระจ่างดวง

กลุ่มเมฆสกาวสถิตสรวง

วตะชื่นระรื่นใจ

 
เรื่อยเรื่อยระรินอุทกธาร

ณ ละหานกระแสไหล

ริมฝั่งสะพรั่งรุกขไกว

เสนาะเพลงสุโนกเพลิน

 
ฟังเสียงสิเพียงดุริยะพ้อง

พิเราะร้องพิหคเหิน

พฤกษาพนาสิขรเนิน

สมดุลย์พิภพดล

 
ชื่นธรรมชาติประดุจสรร-

-คสวรรยอำพน

สุนทรียภาพวิบุลผล

ดลจินตนาการ

 
วาดวรรณวากยวิสิฐ

นิรมิตสฤษฎ์งาน

มุ่งรจนาวจนศาน-

-ติพิจารณ์พิจิตรศิลป์

 
อากาศกระแสอุทกธาร

คคนานต์มิราคิน

ฟูฟ่องวลาหกประทิน

จิตชื่นระรื่นชม

 
หลากสีระเมียรกุสุมชา-

-ติพิลาสชวนรมย์

โลกสวยวิเศษวิสุทธ์สม

ภพะสรรค์สวรรยา

 
ดวงดาริการะดะระยิบ

วะวะวิบกระพริบมา

ดวงรัชนีกรประภา

จรห้วงโพยมหน

 
เวิ้งจักรวาลวิจิตรสรร-

-คกำนัลมนุษย์ชน

มวลธรรมชาติทิพวิมล

ดุจดลฤดีดาล

 
โลกรังสฤษฎ์ศิลปกรรม

คติธรรมอนันต์กาล

เอื้อให้แสวงอภิญญาณ

วรกานท์กวีวรรณ

 
หวังสร้างกวีวรวิจิต-

-ระอุทิศสนองฉันท์

หวังให้สถิตนิจนิรันดร์

อภินันทนาการ

 
เพื่อโลกประจักษ์กวินิมิต

มุลิขิตวรรณศานต์

เพื่อศิลป์เสถียรสถิตนาน

นิจกาลนิรันดร

 
(วสันตดิลกฉันท์๑๔)

 
ให้หนูอาทิดลองอ่านอีกบท
 





หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 18-03-2008, 23:20

ราตรีกระจ่างศศิประภา
ดะริการะยิบยวง
พร่างพรายกระพริบสถิตสรวง
มิละพราก ณ คืนแรม

หมื่นแสนประดุจพชรดาว
รุจิวาวประดับแซม
แสงนวลพระจันทรลุแย้ม
ระดะเมฆสิขาวนวล


ง่วงแล้วค่ะลุงคม


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 08-05-2008, 15:32
เพื่อนร่วมชาติ....

ภาพที่วาดอนาคตดูหมดหวัง

ในท่ามกลางความเกลียดเคียดแค้นชัง

ในกรงขังอวิชชายากฝ่าพ้น

 
ท่ามกลางความแปลกแยกคนแตกต่าง

ทุกทุกอย่างทึบอับดูสับสน

พวกปลิ้นปลอกหลอกล่อทรชน

พาผู้คนหลงลมเชื่องมงาย

 
ทุนสามานย์หว่านอามิสส่งพิษแพร่

โยงใยแผ่ไปทั่วเชื้อชั่วร้าย

แผ่ใยโยงโกงกินกันสิ้นอาย

พังทลายแผ่นดินแทบสิ้นแดน

 
ธนกิจการเมืองเรืองอำนาจ

กัดกินชาติลึกซึ้งจนถึงแก่น

ในกลียุคทุกข์วินาศความขาดแคลน

คนยากแค้นยังคงหลงเล่ห์ลวง

 
เขาสูบเลือดเชือดเนื้อเถือกระดูก

ส่งเมียลูกโกงชาติไม่ขาดช่วง

วางเครือข่ายเจาะกินแผ่นดินกลวง

ทั้งควักล้วงดูดกินถึงวิญญาณ

 
เพื่อนร่วมชาติ...

หากผิดพลาดขาดสมองตรองสมาน

หลงเชิดชูบูชาพวกสามานย์

อันธพาล"ชั่วครองเมือง"จะเฟื่องฟู

 
เราร่วมทุกข์จำทนพวกคนถ่oย

ที่พูดพล่อยสกปรกให้รกหู

วันวันคอยอวดอ้างยกหางชู

โอ่อัตตาตัวกูผู้เลิศลอย

 
ท่ามกลางความเกลียดชังที่สั่งสม

พวกโง่งม,อันธพาลสันดานถ่oย

พังบ้านเมืองเหมือนไก่ที่ได้พลอย

ทุกอย่างถอยเพราะอธรรมเข้าย่ำยี

 
ไม่มีส่วนในบ้านเมืองเรื่องต่างต่าง

ทุกทุกอย่างเขากำหนดเพื่อกดขี่

มองชาวบ้านปานศัตรูหมู่ไพรี

หากใครมีความคิดผิดแผกมัน

 
ฤาจะปล่อยคอยไปให้ชาติป่น

ทรชนแบ่งชาติขาดสะบั้น

แก้กฎเกณฑ์เป็นกฎกูสู้ดึงดัน

มุ่งห้ำหั่นปั่นกระแสยุแหย่คน

 
เพื่อนร่วมชาติ...

ประวัติศาสตร์ความฉิบหายหลายหลายหน

ประทุษชั่วจากขี้ฉ้อทรชน

ประชาชนเป็นเหยื่อทุกเมื่อไป

 
เพื่อนร่วมชาติ...

ประวัติศาสตร์รอท่านจารบทใหม่

อย่าปล่อยชั่วหลอกเชื่อเติมเชื้อไฟ

จนลุกไหม้แผ่นดินสิ้นความดี

 
ยืนหยัดสู้ทรชนที่ปล้นชาติ

ยืนยันไล่ทรราชปลาตหนี

เพื่อผ่านพ้นทรยุคปลุกเสรี

เพื่อล้างสิ้นทรพีของแผ่นดิน

 

 



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: DAWN ที่ 08-05-2008, 21:26
เราจะหยัดยืนสู้หมู่คนชั่ว
สู้สุดตัว เรื่องกลัวไม่ถวิล
ขอส่งเสียง บอกไปให้ได้ยิน
ว่าในถิ่นไทยนี้ยังมีเรา

  จะช่วยไล่ช่วยขับ ทรชน
   ไอ้พวกปล้น พวกเหลือบ พวกเห็บเหา
   ด้วยแรงร้อน เร่งหนักไม่ผ่อนเบา
   ผลักแม้เงา ให้มัน พ้นปฐพี

ขอเพียงเพื่อน เมื่อพร้อมให้ส่งข่าว
เร่งบอกกล่าว บอกความแห่งวิถี
ว่าจะล้าง ผลาญเมื่อใด ไอ้ทรพี
ข้าฯจะพาชีวี แลกกับมัน
   
   ให้โลกรู้ว่าชั่วจะชนะ
   พวกกักขฬะ มันได้อยู่สรวงสวรรค์
   หรือพวกเรามีชัยได้รู้กัน
   ขออีกวัน บันทึกไว้ ในความจำ

เพราะสุดทนในความเห็นแต่ได้
ไม่ใส่ใจ เสียงประชา กลับด่าซ้ำ
ตั้งม๊อบกวน ม๊อบป่วน ม๊อบอธรรม
รัฐกลับทำ ก่อเรื่อง ยุ่งเมืองเอง


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 10-05-2008, 14:52
ในรัตติกาลมืดแม้น..............หมึกดำ
ใต้ปกครองคนระ.ยำ............คลั่งบ้า
อย่าพลั้งพลาดถลำ..............หลงเล่ห์  "เหลี่ยม"นา
สู้หมู่พาลชั่วช้า..................ลูกกรอกโนมินี

สวัสดีครับคุณdawn


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 15-05-2008, 15:10
วันเพ็ญวิสาข์มาศ
อภิวาทชุลีองค์-
สัมพุทธเจ้าทรง
คุณะเลิศประเสิรฐสรรค์

ทรงตรัสรู้ชัด
ปรมัตถธรรมอัน
ล้ำค่าคุณานันต์
บริสุทธิ์วิมุตมวล

เอื้อผองนิกรพ้น
วัฏวนมิเรรวน
โดยธรรมพระย้ำทวน
ผิว์ประโพธประโยชน์พูน

ชี้"ทุกข์"แนะทางให้
"สมุทัย"มลายสูญ
ด้วย"มรรค"มิอาดูร
ลุ"นิโรธ"พระโปรดชน

เกิดศาสนาพุท-
-ธวิศุทธิมงคล
การุณวิบุลผล
ดลภพสงบเย็น

เริ่มพุทธศาสนา
ณ วิสาขมาศเพ็ญ
ไตรรัตน์ขจัดเข็ญ
นรชนสกลผอง

โดยธรรมะกำหนด
พระสุคตธ ทรงกรอง
ธรรมอันนำครรลอง
บริษัทประภัสสร

กรรพุ่มกุสุมพร้อม
มนะน้อมพระชินวร
เทิดศาสน์สถาพร
ปณิธานประสารธรรม

(อินทรวิเชียรฉันท์๑๑)


   


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 23-05-2008, 12:41
พื้นเปียกพิรุณโปรย

วตะโชยยะเยือกเย็น

เมฆห้อมนภาเห็น

ชรอุ่มคละคลุ้มมัว

 
ฉ่ำนองละอองน้ำ

เผาะเผาะพรำกระทบตัว

เสียงหยาดพิรุณรัว

เปาะแปะทั่วพนาลัย

 
ฝนชุ่มตฤณชาติ

ระดะดาษระบัดใบ

หยดน้ำวะวับใส

กลเพชรสะเก็ดวาม

 
สาวเริงพิรุณรื่น

พิศชื่นสกนธ์งาม

ฝนเปียกพงาลาม

เกาะฉวีรุจียล

 
ผ้าแนบกะผิวเนื้อ

พิศเหลือจะทานทน

เพียงมองก็ต้องมน-

-ตระรวยระทวยกาย

 
พี่มองสิน้องเมิน

ฤจะเขินสะเทิ้นอาย

ชื่นนัยนาชาย

ขณะอึ้งตลึงแล

 
เธอชายชะม้ายเนตร

ดุจเด็ดฤดีแด

เพียงศรสะกิดแผล

อุระไหวฤทัยหวาม

 
สองดอกปทุมตูม

อุระอูมระอวบงาม

เต่งตั้งสะพรั่งยาม

ยุรยาตรดนูยล

 
พี่ชมภิรมย์ชื่น

รติรื่นระรวยมนต์

อยากเป็นละอองฝน

ชะพนิตชโลมนาง

 
เอวองค์อนงค์นาฏ

พิศวาทมิเลือนจาง

พิมพ์ภาพประทับกลาง

หฤทัยมิอาจถอน

 
อยากร่วมระเริงฝน

นฤมลก็ตัดรอน

นงนาฏปลาตจร

ละดนูตริอยู่เดียว

 
มองสรรพางค์ทรง

น่ะอนงค์ระหงเรียว

เธอลี้มิแลเหลียว

ดนุเปลี่ยวหทัยปลง

 
วนคอยถวิลหวัง

ตละครั้งพิรุณคง

พานางสวรรค์ลง

ภพเล่นระเริงชล

 
คอยหาก็แลหาย

ฤจะอายฤหน่ายฝน

คนรอก็ทุกข์ทน

ทรมานตลอดมา

(อินทรวิเชียรฉันท์๑๑)





หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 23-05-2008, 14:54

กลอนกานท์ประพันธ์มธุรพจน์
กวิบทสะกดใจ
เพียงอ่านก็ชื่นอุระหทัย
ระอุร้อนก็คลอนคลาย

อักษรสะพรั่งสิริลดา
ปทุมาผลิบานพราย
บัวผันละออภุมระหมาย
พิศะคล้ายอนาทร

พร่างพรูวสันต์พฤษภะกาล
ทิวะวารจะจำจร
ยามเย็นนภาละทินกร
รวิรอนมิต่างกัน

ราตรีกระจ่างดะริกะราย
ศศิฉายเสมือนวัน
ดาราระยิบอรอนันต์
สว่างพลัน ณ คืนเพ็ญ

เดือนหกพระพายจะละฤดู
ดนุผู้พิสุทธิ์เย็น
เวียนเทียนอุทิศกุศละเป็น
พยุเข็ญสลายลง

สองกรประนมอธิษฐาน
ชนะพาลศตรูปลง
สมสุขหทัยอริยะพงศ์
นิระทุกข์นิราศภัย


วสันตดิลก๑๔
สวัสดีค่ะคุณลุงคมฯ มาพร้อมสายฝนเลยค่ะ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 25-05-2008, 12:46
สวัสดีครับหนูอาทิด
ฉันท์๑๔ บทนี้เข้าท่านะ
มีบางจุดอย่าตรงที่เขียน ภุมระ กุศละ เราไม่ต้องใส่สระ อะ
ตำแหน่งที่ตก ลหุ ถ้าเป็นบาลี สันสกฤต เขมร
จะอ่านแยกคำ เช่น กุศล อ่าน กุ สะ ละ
ดะริกะ ไม่แน่ใจว่าใช้ได้หรือเปล่า


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 30-05-2008, 13:34
บ้านเมืองแห่งนี้
ความหวังริบหรี่
มองไปมีแต่ความมืดมน
ชาวประชาทุกทิศทุกข์ทน
ทุกหย่อมย่านอดอยากยากจน
ต่างหมองหม่นบนความสิ้นหวัง

บ้านเมืองเคืองเข็ญ
ยากแค้นลำเค็ญ
มองไปเห็นแต่ความชิงชัง
เสียงชาวบ้านบ่นว่าประดัง
ไม่เห็นมีใครไหนจะฟัง
ทุกข์เหมือนดั่งเลือดตากระเด็น

มารผยองครองประเทศล้วนเปรตผี
มิคคสัญญิเริ่มยุคแห่งทุกข์เข็ญ
ชาวประชาลำบากแสนยากเย็น
ไม่เคยเห็นผู้ใหญ๋มาไยดี

ล้วนแต่พวกทรชนเที่ยวบ่นบ้า
โง่ไม่รู้ประสาน่าบัดสี
เผยอหน้ามาปกครองประชาชี
โหมอัคคีใส่เมืองเรื่องบ้าบอ

ยุคข้าวยากหมากแพงค่าแรงต่ำ
แสนระกำช้ำชอกหากรอกหม้อ
เหนื่อยสายตัวแทบขาดไม่อาจพอ
พวกขี้ฉ้อน่าชังยังซ้ำเติม

วันวันเที่ยวยั่วยุกุกระแส
เรื่องแย่แย่ยุยงคอยส่งเสริม
กระพือชั่วลามแผ่เหมือนแผลเริม
บ้างเหิมเกริม"เฉลิม"ฉลอง"ชั่วครองเมือง"

คงสักวัน"จักพบ"เป็นศพซาก
ตายเพราะปากแกว่งเกี่ยวเที่ยวหาเรื่อง
มุ่งทำร้ายทำลายระคายเคือง
เลี้ยงไม่เชื่องชั่วช้าพวกกาลี




หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 11-06-2008, 18:50
กาลครั้งหนึ่ง




ฟังนิทาน"กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว..."

แม่เล่าแว่วริมหูมิรู้เบื่อ

ฟังนิทานก่อนนอนหนุนหมอนเนื้อ

ที่แม่เอื้อตักอุ่นให้หนุนนอน


เรื่องเก่าเก่าเล่าซ้ำฟังจำได้

เรื่องใหม่ใหม่ให้ค่าอุทาหรณ์

แม่ย้ำเตือนลูกฟังพึงสังวรณ์

แม่สั่งสอนลูกสดับคอยรับฟัง


"เจ้าหญิงน้อยกำสรดแม่มดสาป

เจ้าชายหนุ่มกำราบมนต์บาปขลัง

ได้ครองคู่อยู่ปราสาทราชวัง"

เรื่องเก่าครั้งเมื่อกาลนานมาแล้ว


"เงือกน้อยในธาราน่าสงสาร"

"โฉมสะคราญในป่า,ปราสาทแก้ว"

"เขาวงกตลดหลั่นหลายชั้นแนว"

เพริศแพร้วจินตภาพอาบอิ่มทรวง





อบอุ่นในอ้อมอกแม่กกกอด

รับสืบทอดจิตวิญญาณแม้กาลล่วง

ความดีงาม,ศรัทธา,คุณค่าปวง

ให้ฉายโชนโชติช่วงแม้ล่วงกาล


แม่รักลูกปลูกฝังแต่ยังเด็ก

ตัวยังเล็กเริ่มเรียนหัดเขียนอ่าน

ให้รู้ผิดรู้ชอบกอปรการงาน

ไม่เกียจคร้านพาลทั่วรู้ชั่วดี


เรียนชีวิตง่ายงามตามประสา

รู้คุณค่าความซื่อคือศักดิ์ศรี

ไม่บิดเบือนสับปลับทำอัป.ปรีย์

ไม่เบียดเบียนกดขี่บีฑาใคร





กาลเวลาเลื่อนไหลผ่านไปเรื่อย

แม้ล้าเหนื่อยเด็กน้อยค่อยเติบใหญ่

สิ่งต่างต่างที่เห็นความเป็นไป

ไม่เหมือนแม่สอนไว้ตอนวัยเยาว์


ในเส้นทางสับสนที่วนว่าย

หาความหมายว่ายวนเหมือนคนเขลา

ชีวิตช่างทุกข์ทนหนอคนเรา

ไขว่คว้าเอาเท่าไรไม่รู้พอ


ความดีงาม,ศรัทธา,คุณค่าเก่า

ที่แม่เฝ้าปลูกฝังยังเติบต่อ

แม้บางครั้งสั่นคลอนโลกหลอนล้อ

บางครั้งท้อทุกข์โศกกับโลกร้าย


เส้นทางเวียนโลกวุ่นหมุนสับสน

อนาถหนอผู้คนผู้คนที่วนว่าย

เริงกิเลสกาลีไม่มีอาย

บ้างกระหายบ้าระห่ำท้ากรรมเวร


ฤาเขาขาดพ่อแม่คอยแผ่รัก

ไร้เสาหลักสิ่งดีที่โดดเด่น

จึงหลงทิศผิดทางบ้างเบี่ยงเบน

เหมือนไม้เอนรากอ่อนจึงคลอนแคลน





เมื่อคิดย้อนตอนเยาว์แม่เล่าขาน

เรื่องนิทานฟังสนุกเป็นสุขแสน

"ดาบวิเศษปราบอธรรมที่ล้ำแดน"

"พรมวิเศษโลดแล่นเหนือแผ่นฟ้า"


"มังกรไฟพ่นไฟโลกไหวหวั่น

เหล่าผู้กล้าเข้าประจัญใจหาญกล้า

เทพธิดาใจดีมีมนตรา

เสกคาถาช่วยคนดีให้มีชัย"


ผ่านมาแล้วเนิ่นนาน"กาลครั้งหนึ่ง..."

รักลึกซึ้งตรึงฝันอันสดใส

ปลุกปลอบฝันปันหวังกำลังใจ

สู้ต่อไป..ไปต่อ...ไม่ท้อแท้



 



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 17-06-2008, 20:52
เช้าชื่นผกาและปทุมา
วสุธาลดาพราย
น้ำค้างพิสุทธิ์สุริยะฉาย
จรลาทิวาวัน

เหลื่อมรุ้งรวีอรุณกาล
ศุภวารไสวพลัน
กลิ่นกลุ่นพิกุลและกระแจะจันทน์
มะลิซ้อนขจรไกล

ร่ายฟ้อนภมรและภุมริน
สิถวิลลดาไพร
ชมชื่นกมลสุขหทัย
ทิวะค่ำก็ร่ำลา

ยามเย็นพระพายผิวจะโชย
ดุจโบยลุกายา
สายฝนวสันต์ ณ มิถุนา
ขณะหนึ่งก็ซึ้งใจ

ฉ่ำชื่นพฤก์ษาสกุณผิน
บ่ถวิลวนาลัย
ยามเย็นสงบตฤณไพร
ชลใสก็ไหลริน

คืนค่ำวิหคประลุ ณ คอน
และภมรบ่ยลยิน
น้ำตาสิไหลอุระ ฤ ชิน
ตละขวัญสิหวั่นตาม

วสันตดิลก ๑๔


ลุงคมช่วยตรวจด้วยค่ะ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 19-06-2008, 14:50
สวัสดีหนูอาทิด
ฉันท์ที่เขียนมา บางบทอ่านแล้วแปลกๆ
ลองดูนิดหน่อยนะ
บท๒ กระแจะจันทน์ รู้สึกว่ามันจะเป็นเครื่องหอมอะไรสักอย่าง
บท๓ ภมรกะภุมริน คำเดียวกัน กมลกะหทัย คำเดียวกัน
บท๕ พฤก์ ไม่มี มีแต่ พฤกษ์ เราอาจใช้ รุกข อ่าน รุกขะ หรือ รุกะขะ ก็ได้
        แล้วแต่ตำแหน่ง
อ่านแล้วอย่าเชื่อทั้งหมดนะ ลุงคมก็ยังมั่วๆเหมือนกัน
ให้อ่านบทนึง เป็นฉันท์๑๑

ราตรีประดับดาว
ระดะหาวกระจ่างเห็น
น้ำค้างละอองเย็น
เผาะเผาะพรมสุธาพราว

ดินชุ่มชอุ่มชื้น
วนผืนประหนึ่งราว
หลับไหลณคืนหนาว
ภพเงียบสงบงัน

เรไรระหริ่งเสียง
เสนาะเพียงจะกล่อมฝัน
ดาวตกวะวาบพลัน
กระจะพร่างกระจ่างพราย

ใบรุกขหล่นโปรย
วตะโชยสะบัดชาย
อ่อนล้าจะเอนกาย
ขณะดาวสกาวดวง

(อินทรวิเชียรฉันท์๑๑)




หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: วาโย ที่ 19-06-2008, 15:11
สมาชิกใหม่ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ
กงล้อล้อกงกรรม                 หมุนวน                                             
หมุนไปไป่เคยย่น                ละย่อ
กรรมใดใครก่อกง                กรรมกอบ โกยเก็บ
จักเกื้อจักเกิดก้อน               กำสรวล หวนระกำ

สงสารบรรพชนไทย             ใจกล้า
แลกเลือดและน้ำตา              เพื่อชาติ
รุ่นหลังไม่เห็นค่า                 ขายสิทธิ์
แลกจิตไทกับใจทาส            ขี้ข้า น้ำเงิน         

 :slime_sentimental:


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 20-06-2008, 10:36
สวัสดีครับคุณวาโย
สมาชิกใหม่เขียนบ่อยๆเดี๋ยวก็เก่าเองครับ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 08-07-2008, 15:13
สั่งสกุณา

แสงสุดท้ายสนธยาจาง
สุริยะจะละนภางค์
เมฆระเรื่อราง
สลับสี

มองท้องฟ้าเหนือวนาลี
สกุณก็จรลี
มากคณามี
จะคืนรัง

ส่งเสียงเซ็งแซ่สนั่นดัง
เสนาะสุตะขณะฟัง
คล้อยไศลยัง
วะแว่วยิน

ฝากหมู่นกกาถลาบิน
หัทยะดนุถวิล
ถึงยุพาพิน
พะงางาม

เห็นนกบินไปจะใคร่ถาม
สกุณนำรติตาม
มอบกะนงราม
ณ หนใด

ฝากบอกรักเธอเสมอไป
มิละจิตพิสมัย
ยามนิราศไกล
กมลหมอง

หวังเป็นคู่นุชนาถครอง
รมยรติสนอง
พิศวาทปอง
ประพัทธ์นาง

รำพันรักในรวีราง
สกุณจะละนภางค์
รักมิมีจาง
มิร้างเลย

รอเธอกลับคืนสถานเคย
ภิรมยรติเผย
ชื่นสวาทเชย
จะชิดชม

รอรักกลับร่วมวิมานรม-
-ยสถิตสุขสม
ชื่นมิช้ำตรม
ตลอดกาล

(สัทธราฉันท์๒๑)





หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 08-07-2008, 15:15
สวัสดีค่ะคุณลุงคมฯ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 09-07-2008, 16:20
สวัสดีครับ หนูอาทิด


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 16-07-2008, 12:01
๏ ลมแรงกรรโชกร้อน                    วิปริต
ลมปากคอยพ่นพิษ                      คิดร้าย
มากโทสะโมหะจิต                      มืดบอด
เมืองเสื่อมผู้นำคล้าย                   คลั่งบ้ายากสมาน


๏ รูทวารฤาปากโอ้                        เหม็นอวล
ทนกลิ่นเน่าคลุ้งควร                    คลื่นไส้
ท้าตีต่อยคอยชวน                       ทะเลาะบ่อย
สำรากคำใส่ไคล้                         สบถถ้อยถ่***สถุล


๏ บุญทำกรรมแต่งให้                   รูปโหด
ชาติก่อนคงชั่วโฉด                      ต่ำช้า
ดลชาติใหม่ไฟพิโรธ                     เผาจิต
ขมึงเนตรโอษฐ์แสยะอ้า               เสลดย้อยสยดสยอง


๏ ผองราษฎร์ทั่วรัฐล้วน                ระทมทวี
ถูกหลอกถูกย่ำยี                          ยอกย้อน
คนโกหกกาลี                              โกงชาติ
ยังพ่นลมปากร้อน                       ป่าวร้องบิดเบือน


๏ เหมือนมีผีภูติร้าย                     ชักใย
เมืองหม่นทนเทวษใจ                   ทุกข์แท้
รอความชั่วกำชัย                         กินชาติ สิ้นฤา
ใครเล่าจักช่วยแก้                        กอบกู้ชาติเรา

 

๏ ลมปากเขาป่าวร้อง                   คำลวง
หลงเชื่อจึงเจ็บทรวง                     สุดช้ำ
ประชาธิปไตยกลวง                     กัดกร่อน ชาติเวย
เสียงสิทธิ์ถูกซื้อซ้ำ                       หมดสิ้นวิญญาณฯ

...............................................



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: อังศนา ที่ 16-07-2008, 12:47
พุธสวัสดิ์ค่ะ คุณคมเย็น :slime_smile:

๏ เรือนกายอัปลักษณ์
ตีหน้ายักษ์ยามโมโห
วาจาหยาบยโส
สำรากพ่นผ่านทีวี๚ะ

๏ ใจดับจนดิ่งลึก
ขาดสำนึกในด้านดี
นายกหอกหักนี้
มีครบเครื่องเรื่องความเลว๚ะ๛

อิอิ.. อยากให้ ตาหมัก เมถุน มีโอกาสได้อ่าน   :slime_smile2:
โคลงยอยศ นายกหอกหัก ของคุณคมเย็นกระบวนนี้จริงๆ

(http://i30.photobucket.com/albums/c329/Seaspica/pink_flowers.gif)


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 16-07-2008, 15:26
ออกโทรทัศน์ผรุสวาท
บริภาษประชาชี
ตามแบบสมัครกลี
บมิมีจะเหมือนคน

ท่านช่างถนัดประทุษวา-
-ทะประสาอัป.รีย์ชน
สำรากวจีน่ะตละหน
ระอุเดือดระดมชัง

(วสันตดิลกฉันท์๑๔)

สวัสดีครับคุณอัง
เดี๋ยวต้องค่อยๆต่อบทสดุดีท่านผู้นำ
ให้วิจิตรบรรจงหน่อย


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: วาโย ที่ 16-07-2008, 15:35
 :slime_agreed: :slime_agreed: :slime_agreed: :slime_agreed: :slime_agreed:
ยอดเยี่ยมเกินคำบรรยาย


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 18-07-2008, 12:12
สวัสดีครับคุณวาโย


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: kara - kasung ที่ 18-07-2008, 18:52
 รายการข่าว ดี ๆ ต้อง ดูช่องเจ็ด
รายการเด็ด " จมูกมด " ช่างสดใส
กนก, หว่อง พิษณุ พูดจุใจ
เช้าวันใหม่ ให้เฮฮา มันส์น่าดู
 ถ้าจะเรียน รู้ภาษา วันอาทิตย์
เปิดสวิทช์ เอ็นบีที มีหดหู่
ภาษาอุบาทว์ คำละวัน ดูมันdo
ชื่อรายการ " จมูกหมู " ครับผู้ชม


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: วาโย ที่ 19-07-2008, 09:49
 :slime_smile:สวัสดีครับคุณคมเย็น แต่งฉันท์เพราะมากนับถือจริงๆครับ


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 22-07-2008, 14:59
ในยามสยามรัฐวิกฤต
วิปริตทุราจาร
นายกระ.ยำมนพิการ
ทุษจิตมิคิดจำ

ผู้นำไผททุรทุเรศ
ระบุเหตุประสพกรรม
ด่าศาลสถิตยุติธรรม
รัฐธรรมนูญไทย

คนเลวละเมิดนิติวิถี
ทิฐิผีจะแก้ไข
กฏเกณฑล่วงนิติวินัย
วิปลาสะอัป.รีย์

ออกโทรทัศน์ผรุสวาท
บริภาษประชาชี
เลวนักสมัครกลี
บมิมีจะเหมือนคน

ท่านช่างถนัดประทุษวา-
-ทะประสาสุภาพชน
สำรากวจีน่ะตละหน
ระอุเดือดระดมชัง

เสนาบดีอสรกุ๊ย
ถะถะถุยเฉลิมซัง
เก่งด่าประสาสุนัขดัง
หะหะโฮ่งหะเห่าหอน

พรรครัฐบาลคณะอุบาท-
-วประศาสน์ประชากร
สงสารพสกทุขะสลอน
สติกร่อนสตางค์กลวง

ผู้นำมุสาทมิฬจิต
วิปริตวจีลวง
พวกถ่อ.ยสมุนสถุลปวง
จะถล่มทลายไทย

เบื่อพวกอุบาทว์นรกเบือน
มุหะเถื่อนและสาไถย
รักษ์ชาติประเทศอธิปไตย
จะมุไล่สมุนโจร

(วสันตดิลกฉันท์๑๔)

มาเขียนต่อที่ตอบกับคุณอังไว้
สวัสดีครับคุณวาโย ผมก็ยอขึ้นเหมือนกัน
กลอนคุณคาราคาซังผมก็ชอบนะ
แบบที่เราเขียนๆกันก็คงลงได้ที่นี่ที่เดียว
ไปเขียนที่อื่นโดนมันลบหมด




หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 22-07-2008, 15:12
ในยามสยามรัฐวิกฤต
วิปริตทุราจาร
นายกระ.ยำมนพิการ
ทุษจิตมิคิดจำ

ผู้นำไผททุรทุเรศ
ระบุเหตุประสพกรรม
ด่าศาลสถิตยุติธรรม
รัฐธรรมนูญไทย

คนเลวละเมิดนิติวิถี
ทิฐิผีจะแก้ไข
กฏเกณฑล่วงนิติวินัย
วิปลาสะอัป.รีย์

ออกโทรทัศน์ผรุสวาท
บริภาษประชาชี
เลวนักสมัครกลี
บมิมีจะเหมือนคน

ท่านช่างถนัดประทุษวา-
-ทะประสาสุภาพชน
สำรากวจีน่ะตละหน
ระอุเดือดระดมชัง

เสนาบดีอสรกุ๊ย
ถะถะถุยเฉลิมซัง
เก่งด่าประสาสุนัขดัง
หะหะโฮ่งหะเห่าหอน

พรรครัฐบาลคณะอุบาท-
-วประศาสน์ประชากร
สงสารพสกทุขะสลอน
สติกร่อนสตางค์กลวง

ผู้นำมุสาทมิฬจิต
วิปริตวจีลวง
พวกถ่***สมุนสถุลปวง
จะถล่มทลายไทย

เบื่อพวกอุบาทว์นรกเบือน
มุหะเถื่อนและสาไถย
รักษ์ชาติประเทศอธิปไตย
จะมุไล่สมุนโจร

(วสันตดิลกฉันท์๑๔)

มาเขียนต่อที่ตอบกับคุณอังไว้
สวัสดีครับคุณวาโย ผมก็ยอขึ้นเหมือนกัน
กลอนคุณคาราคาซังผมก็ชอบนะ
แบบที่เราเขียนๆกันก็คงลงได้ที่นี่ที่เดียว
ไปเขียนที่อื่นโดนมันลบหมด




หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: kara - kasung ที่ 22-07-2008, 19:10
สวัสดีครับคุณคมเย็น สำหรับผมเขียนได้แต่กลอนแปด แต่ก็ยังไม่ดีนัก
สำหรับประเภท โคลง ฉันท์ กาพย์ เขียนไม่เป็นจริง ๆ
อยากจะเก่ง เหมือนคุณคมเย็น และเพื่อน ๆ ..บ้าง


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 24-07-2008, 16:03
ร้อยกรองสนองรตินิมิต
มุลิขิตประดิษฐ์คำ
จ่อจินต์ถวิลวจนะนำ
รจนาพยายาม

กรองฉันทพากยประดิษฐ์
นิรมิตกวีงาม
เรียงศัพทสารสุขุมตาม
สติตรองสนองใจ

มั่นคงประจงประสิทธิ์ศิลป์
มนจินตนาไป
ตามฉันทลักษณะประไพ
ระบุไว้ระเบียบบรรณ

ชื่นคำกวีวรวิสุทธิ์
วิศรุตระบือบรรพ์
รักแบบระบบศิลปวรรณ-
-คติอันอนันต์คุณ

รักวรรณศิลปวิศิษ-
-ฏสฤษฎิสมดุลย์
แบบบรรพสรรค์พจนสุน-
-ทริยสมอุดมศานต์

เพียรเรขเลบงบวรฉันท์
มนะกลั่นมโนชญ์กานท์
หวังให้เสถียรสถิตนาน
นิจกาลนิรันดร

สวัสดีครับคุณคาราคาซัง
ที่จริงกาพย์ยานีน่าจะง่ายกว่ากลอนนะ



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 29-08-2008, 15:27
มาตรากตรำกรำแดดที่แผดเผา

ผิวผ่องเจ้าเผือดหมองแล้วน้องพี่

มาขับไล่ทรชนคนกาลี

ทุกนาทีอดทนเพื่อคนไทย

 
อ้ายศัตรูมีกำลังทั้งโล่ห์เขน

มันจัดเจนมนต์บาปคำสาปไสย

อ้ายหอกหักหฤโหดโฉดจั***

มากมายาสาไถยใจชั่วช้า

 
เจ้าอดทนต่อสู้เพื่อกู้ชาติ

ประท้วงถ่***ทรราชเหล่าสัตว์ป่า

รักชาติไทยใจเอื้อเพื่อประชา

จิตอาสาสูงส่งมั่นคงนัก

 
พันธมิตรประชาชนเหล่าคนกล้า

มีคุณค่าคนไทยได้ประจักษ์

สู้เพื่อสิทธิ์เสรีที่เรารัก

ร่วมถีบผลักสมัครถ่***ให้ถอยไกล

 
ขอเชิดชูวีรชนเหล่าคนกล้า

สู้ฟันฝ่าเพื่อฝันสู่วันใหม่

ขับพวกชั่วทรชนคนจั***

เพื่อเมืองไทยใสสะอาดปราศพวกพาล

 



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 03-09-2008, 16:29
ตามใจฉันท์

ช่วยปิดประตูชมพู่ประสาท

พวกสัตว์ประหลาดพิฆาตประหาร

ต่างสู้ประจญผู้คนประจาน

ร่วมมือประสานร่วมมานประชา


หวังมันปลาตร่วมวาดประวรรต

เพื่อไทยประภัสร์ยืนหยัดประสา

มวลชนประดังพลังประดา

มิมีประหม่าผู้กล้าประมวล


เหล่าสมุนหนุนสมัครนักสมาน

หน้ากระดานมุดกระดองตรองกระสวน

พวกกระบือทำกระบิดผิดกระบวน

คอยจะป่วนควรจะป้าบบาปจะปน


พวกทมิฬเหล่าทะโมนโดนพันธมิตร

ตีนสะกิดเตะสกัดตัดสถล

เคาะสะบ้าผ่าสะบักหักสกนธ์

ตาถลนหนีเถลือกเลือดทะลัก


ขนประชามาประชันมั่นประชิด

หวังสมิทธ์พาสมุนหนุนสมัคร

พรรคพลังสั่งทยอยพลอยพยัก

เห็นประจักษ์พวกประจบควรประจาน


ทุกสถานพาลสถุลทุนสถิต

สู้ประสิทธิ์ร่วมประสมใจประสาน

ไล่สมัครลูกสมุนทุนสามานย์

ไทยวิจลทนวิจารณ์ทานวิจัย



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 07-09-2008, 14:06
ฝนตกหนักกระหน่ำน้ำ..............ท่วมถนน
พาขยะลอยปะปน....................เปรอะเปื้อน
ปฏิกูลใหญ่ติดทน....................เหนียวแน่น
ฝนชะไม่ขยับเขยื้อน.................ขากทุ้ยส์ถุยเหม็น

มือเข็นตีนถีบด้วย...............ทึ้งดึง
เหม็นเน่าพอกเหนียวตรึง.........แน่นแฟ้น
กระจายกลิ่นพาสพรึง..................สกปรก
กากซากก่อความแค้น.....................เน่าเคล้าเส็งเคร็ง

อยากเล็งยิงถล่มพร้อม..........ไฟเผา
ซากหมักหมมมอมเมา..........เน่าคลุ้ง
ชะล้างไม่บรรเทา...............เน่าบูด
ยังส่งเหม็นกระจายฟุ้ง..........กลิ่นเฟ้อฝากหลอน

อ่อนใจอ่อนอกแท้..........เกินทน
ชมพู่เน่าสัปดน................สุดด้าน
ตีนเขี่ยเจอะหนอนปน...........กลัวเปรอะ
เปรียบหอกหักไม่สะท้าน.........ท่วมล้นกิเลสหนา

หญ้าสนามไทยคู่ฟ้า...........เคยขจี
เจอพิษชมพู่ผี..................เหี่ยวแห้ง
คนสวนเปรตกาลี...............พลังกระจอก
ควรจับมาเจอแข้ง.............เสพขี้โสมม

หมักหมมจมเน่าท้น...........ธานินทร์
พลังพรรคอุบาทว์กังฉิน.........ชั่วช้า
ทำชาติล่มจมดิน..................ตกต่ำ
รีบไล่ชมพู่บ้า........................พี่น้องประชาชน


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 10-09-2008, 16:23
ค.ร.ม.จรจัดพลัดทำเนียบ
คอยเลียบเลียบเคียงเคียงทุ่มเถียงด่า
ไปปลุกม็อบต่างจังหวัดตัดราคา
อนิจจาน่าสงสารพวกท่านนัก

ท่านมีคุณความดีเป็นที่ยิ่ง
เคยแทงยิงนักศึกษาท่านซ่าส์หมัก
สมัยหกตุลาท่านซ่านัก
ท่านหอกหักรักประชาธิปไตย

ค.ร.ม.นอมินีมีคุณค่า
ท่านรอบรู้วิชาการสาไถย
พวกท่านล้วนเป็นคนดีมีน้ำใจ
แจกเงินไปได้เสียงมาน่าชื่นชม

แจกกันไปเพลิดเพลินเงินคนอื่น
ถอนทุนคืนเรื่อยไปกำไรถม
การอัปรีย์มีค่าน่านิยม
แดกงบจมดีใจท่านไม่อาย

ค.ร.ม.จรจัดตุหรัดตุเหร่
เที่ยวร่อนเร่จันไรน่าใจหาย
สงสารท่านสันดานถ่.อยคอยวุ่นวาย
เที่ยวกระจายเชื้อชั่วทั่วแผ่นดิน

อยากเชิญท่านไปประจำทำเนียบใหม่
ตกแต่งไว้อย่างดีทั้งมีศิลป์
มีรั้วแกร่งกรงขังทั้งของกิน
ชื่อว่าถิ่น"ฟาร์มสุนัข"จักเลี้ยงดู

 



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 11-09-2008, 02:36
จัดน้ำท่า ให้ลองลิ้ม ชิมอร่อย
ทั้งสายสร้อย ตรวนกระหวัด คอยรัดขา
เดินกรุ๊งกริ๊ง เพราะพริ้ง เดินไปมา
สุขอุรา แสนเพลิน ในกรงทอง

ทางที่เดิน เลือกให้ดี คงไม่สิ้น
แต่เลือกกิน เลือกแล้ว อย่าหม่นหมอง
เลือกจะเกิด เลือกไม่ได้ จงไตร่ตรอง
เลือกที่ตาย หมาไม่มอง เพราะเลือกเอง


สวัสดีค่ะ
:slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 11-09-2008, 17:08
กลียุคจะเริ่มต้น

กลีชนมิปล่อยวาง

ทมิฬถ่***ก็ถากถาง

วิถีโหดมิเหือดหาย


ทุเรศนักสมัครหมา

จะกลับมามิมีอาย

อุบัติชั่วอุบาทว์ชาย

มิสำนึกอนาถหนอ


สวัสดีครับคุณดอกฟ้า


หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 02-10-2008, 15:28
การเมืองเก่าเน่าเหม็นเราเห็นอยู่
เคยรับรู้บทเรียนชาติเจียนสิ้น
เคยหลั่งเลือดรินเหงื่อเพื่อแผ่นดิน
สู้กังฉินกินชาติแทบขาดใจ

นักการเมืองหน้าเก่าเราเห็นอยู่
เคยรับรู้ความแย่ยากแก้ไข
แผ่นดินเกิดกลียุคลุกเป็นไฟ
แย่งอำนาจอยู่ได้ไม่ใยดี

แผ่ใยโยงโครงข่ายซื้อขายสิทธิ์
ครอบความคิดคนไทยไปทุกที่
แผ่ใยโยงโกงกินสิ้นปฐพี
ยิ่งทวีเชื้อชั่วจนทั่วแดน

ธนกิจการเมืองเรืองอำนาจ
กัดกินชาติลึกซึ้งจนถึงแก่น
เข้าโกงชาติวนเวียนไม่เปลี่ยนแกน
ส่งตัวแทนเวียนวนเข้าปล้นชิง

ประชาชนจน,โง่ไม่โงหัว
ดั่งควายวัวขุนไว้อดใจนิ่ง
เทิดบูชาบารมีท่านดีจริง
เอื้อหลายสิ่งแลกเสียงเพียงอย่างเดียว

ประชาธิปไตยกลวงเขาลวงหลอก
พวกกลับกลอกสับปลับต่างลับเขี้ยว
คอร์รัปชั่นขมักเขม้นตัวเป็นเกลียว
มันลดเลี้ยวหลอกคนวนคดโกง

ชาติคงไปไม่รอดต้องวอดวาย
มันเขมือบฉิบหายพวกตายโหง
ด้วยเครือข่ายจันไรที่ใยโยง
จนเข้าโลงสืบโคตรโภชนา

หวังการเมืองแบบใหม่ช่วยไทยรอด
ขอให้ปลอดซื้อเสียงทุ่มเถียงด่า
จัดการพวกโกงกินสิ้นพารา
เพื่อเมืองไทยพัฒนาสถาพร

เหล่าเห็บหมัดสัตว์หมาพวกหน้าขน
ที่ปลอมปนหากินเที่ยวปลิ้นปล้อน
อ้างเป็นผู้ทรงเกียรติเหยียดราษฎร
ทำชาติคลอนต้องสกัดดัดสันดาน

เพื่อเมืองไทยใสสะอาดปราศคนคด
พึงกำหนดกฏกรอบให้รอบด้าน
ถึงลำบากยากแค้นนานแสนนาน
ขจัดมารโกงกินให้สิ้นไป

เพื่อลูกหลานรุ่นหลังยังมีชาติ
ไม่ผูกขาดโดยคณาพวกสาไถย
ประชาชนมีอำนาจอธิปไตย
การเมืองใหม่เพื่อทุกคนบนแผ่นดิน



หัวข้อ: Re: ร้อย รักษ์ กวี วรรณ
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 08-10-2008, 15:37
นายกหน้าตัวเมียเสียใจด้วย
คงต้องม้วยหมดโคตรพวกโฉดชั่ว
น่าสมเพช"สมชาย"ป่ายปีนรั้ว
รีบมุดหัวเอาตัวรอดเพื่อปลอดภัย

กลับไปซุกกระโปรงเมียเสียนายก
สกปรกสับปลับรับไม่ไหว
สั่งทำร้ายประชาชนคนจันไร
ยังสาไถยไขสือหน้าซื่อครวญ

ทำกับประชาชนเช่นหมูหมา
ใช้ศาสตราเข้ารบจนครบถ้วน
หน้าซื่อใสใจพิษกระบิดกระบวน
ทำจนป่วนเข้าปราบบาปหนานัก

ผู้แทนของปวงชน
ไร้สิ้นความเป็นคนเห็นประจักษ์
ทำเพื่อตนเพื่อพวกและเพื่อพรรค
ใจเหมือนยักษ์มุ่งฆ่าประชาชน

ผู้พิทักษ์ทรราช
พวกอุบาทว์ชาติหมาสัตว์หน้าขน
เพียงเพื่อดาวบนบ่าพาลืมตน
ถึงฆ่าคนบริสุทธิ์ประทุษพาล

สักวันจะถึงวันพิพากษา
จับพวกเลวชั่วช้ามาขึ้นศาล
ทั้งนายก,ผู้แทนแสนสามานย์
พวกสันดานสัตว์ร้ายทำลายเมือง