ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทัศนะวิจารณ์ บทบรรณาธิการ

14 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 00:00:00

 ผู้นำที่ไม่ใส่ใจปราบ"ทุจริต"

คำให้การของบริษัทเอกชนต่างประเทศกล่าวหานักการเมืองและข้าราชการไทย ว่า เรียกรับสินบนจากบริษัทเหล่านั้นได้เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว แต่ดูเหมือนว่า รัฐบาลไทยไม่ค่อยใส่ใจจะขอข้อมูลเพิ่มเติม หรือสอบสวนเพื่อให้ได้ความจริงมากขึ้น

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : ดังจะเห็นจากสองกรณีแรก คือ คำให้การของบริษัทซีทีเอ็กซ์ ผลิตอุปกรณ์เครื่องตรวจหาวัตถุระเบิดสนามบินสุวรรณภูมิ กรณีที่สอง คือ การกล่าวหาอดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เรียกรับสินบนจากการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์กรุงเทพฯ ที่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลมานานเกินกว่า 1 ปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่า ทั้งสองกรณียังไม่มีความคืบหน้าในการสอบสวนเพิ่มเติม หรือการขอหลักฐานจากต่างประเทศ เพื่อเอาคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย

กรณีล่าสุด คือ คำให้การของบริษัท นิชิมัตสึ คอนสตรัคชั่น ประเทศญี่ปุ่นต่ออัยการกรุงโตเกียว เปิดเผยว่า ได้จ่ายสินบน 400 ล้านเยน หรือประมาณ 120 ล้านบาท ให้กับเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทย 3 คน เพื่อให้ได้งานก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำในกรุงเทพมหานคร และยังให้ข้อมูลอันน่าตกใจ ว่า การประมูลงานในประเทศไทยทุกโครงการจะต้องจ่ายเงินสินบนหรือใต้โต๊ะจึงจะได้งาน

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2546 ที่นายกรัฐมนตรีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รองนายกรัฐมนตรีนายสหัส บัณฑิตกุล เป็นรองผู้ว่าฯ กทม.และเลขาธิการนายธีรพล นพรัมภา เป็นเลขานุการผู้ว่าฯ กทม.ในสมัยนั้น จนมีเสียงร่ำลือถึงพฤติกรรมในอดีตที่ยังไม่ได้จางหายไปไหน แต่กลับเฟื่องฟูมากยิ่งขึ้น เมื่อบุคคลเหล่านี้มีอำนาจมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการกระ***นกระหือรือของนายกรัฐมนตรีสมัคร ในการผลักดันโครงการเช่ารถเมล์ปรับอากาศเอ็นจีวี 6,000 คัน จากประเทศจีน ที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีสมัครไปแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงครหาถึงผลประโยชน์ต่างตอบแทนที่นายกรัฐมนตรีสมัคร ยังไม่เคยตอบคำถามได้ชัดเจนว่า ไม่มีอย่างแน่นอน

นายกรัฐมนตรีสมัคร นายสหัส และนายธีรพล  กลับไม่ได้ให้ความสนใจกับข้อมูลคำให้การจากสำนักข่าวเกียวโด และยังบ่ายเบี่ยงไม่พร้อมในการชี้แจงข้อมูล ที่ทำให้สังคมเกิดข้อสงสัยว่าผู้บริหารกทม.ในยุคนั้น ที่มีนายสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. เคยรับรู้ข้อมูลเหล่านี้หรือไม่ หรือมีการร้องเรียนความไม่ชอบมาพากลในการประมูลก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำ ที่เป็นโครงการต่อเนื่องไปอีกหลายโครงการ ซึ่งมีความผิดปกติหลายอย่างในการดำเนินการว่าจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างจากประเทศญี่ปุ่น ที่ร่วมกับบริษัทผู้รับเหมาไทยรายใหญ่อีกหลายบริษัท
นายกรัฐมนตรีสมัครไม่เคยแสดงท่าทีเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบในวงราชการที่เกิดขึ้นจากฝ่ายการเมืองกับฝ่ายข้าราชการที่ร่วมมือกัน มิหนำซ้ำนายกรัฐมนตรีสมัครยังเคยวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในทางที่ไม่ค่อยดีนัก ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นมาจากนายกรัฐมนตรีสมัคร ได้ถูกคณะกรรมการคตส.สรุปความผิดโครงการจัดซื้อรถดับเพลิงกทม. ที่นายกรัฐมนตรีสมัครยืนยันว่าไม่มีการทุจริต ท่าทีเช่นนี้ของนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้นำประเทศเป็นเรื่องน่าห่วงอย่างยิ่ง แสดงให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีของประเทศไม่สนับสนุนหน่วยงานอิสระที่ทำหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของนักการเมืองและข้าราชการ

นายกรัฐมนตรีสมัครยังแสดงความไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมที่ตัวเองมีคดีความอยู่ถึง 5 คดี ทั้งศาลแพ่ง ศาลอาญา ศาลฎีกาแผนกคดีการเมือง ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครอง ถึงขั้นพูดผ่านรายการสนทนาประสาสมัครกล่าวในทำนอง ว่า อำนาจตุลาการก้าวก่ายอำนาจฝ่ายบริหารจนทำให้รัฐบาลทำงานไม่ได้ในกรณีการออกแถลงการณ์ร่วมการขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารให้เป็นมรดกโลก ที่จะต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีสมัครไม่มีความเชื่อมั่นหรือศรัทธาในกลไกระบบตรวจสอบ และถ่วงดุลอำนาจระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหารและฝ่ายตุลาการ ที่เป็นหลักพื้นฐานที่สำคัญในสังคมที่เจริญแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้บทบัญญัติรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ได้สร้างกลไกการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจไว้อย่างดี ยากต่อการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง

ความไม่รู้สึกผิดชอบชั่วดีในการทุจริตประพฤติมิชอบในวงราชการที่มีอยู่ดาษดื่นในแวดวงราชการไทยได้แทรกระบาดซึมลึกไปทั่วสังคมไทย ยิ่งได้ผู้นำประเทศอย่างนายกรัฐมนตรีสมัคร ที่ไม่เคยให้การสนับสนุนการทำงานขององค์กรอิสระ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ย่อมน่าเป็นห่วง ว่า สภาพหัวส่ายหางย่อมกระดิกได้กลายเป็นสิ่งปกติในประเทศไทย แต่ต่างประเทศไม่ยอมรับ  แล้วประเทศไทยจะอยู่ในประชาคมโลกอย่างสง่างามได้อย่างไร นายกรัฐมนตรีสมัครและคณะรัฐมนตรีชุดนี้ จึงไม่สมควรอยู่ในตำแหน่งอีกต่อไป


http://www.bangkokbiznews.com/2008/07/14/news_275667.php



กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : ดังจะเห็นจากสองกรณี....

กรณีแรก คือคำให้การของบริษัทซีทีเอ็กซ์ ผลิตอุปกรณ์เครื่องตรวจหาวัตถุระเบิดสนามบินสุวรรณภูมิ

กรณีที่สอง คือ การกล่าวหาอดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เรียกรับสินบนจากการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์กรุงเทพฯ ที่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลมานานเกินกว่า 1 ปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่า ทั้งสองกรณียังไม่มีความคืบหน้าในการสอบสวนเพิ่มเติม หรือการขอหลักฐานจากต่างประเทศ เพื่อเอาคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย

กรณีล่าสุด คือ คำให้การของบริษัท นิชิมัตสึ คอนสตรัคชั่น ประเทศญี่ปุ่นต่ออัยการกรุงโตเกียว เปิดเผยว่า ได้จ่ายสินบน 400 ล้านเยน หรือประมาณ 120 ล้านบาท ให้กับเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทย 3 คน เพื่อให้ได้งานก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำในกรุงเทพมหานคร และยังให้ข้อมูลอันน่าตกใจ ว่า การประมูลงานในประเทศไทยทุกโครงการจะต้องจ่ายเงินสินบนหรือใต้โต๊ะจึงจะได้งาน  

ผู้นำทางการเมืองของเราไม่ให้ความสนใจกรณีทุจริตที่รัฐบาลต่างชาติได้ตรวจพบ และระบุว่าเกี่ยวพันกับข้าราชการไทย เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไทย ไม่ว่าจะเป็นอดีตนายกฯทักษิณ หรือ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน......

ผู้นำทางการเมือง ยินยอมให้ตนเองเป็นขี้ปากของสังคมไทย ให้ประชาชนที่ชิงชัง ขุดคุ้ยการฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างไร้ยางอาย ประจานการบริหารไร้ความโปร่งใส ไร้คุณธรรมและจริยธรรมอย่างต่อเนื่อง......

ผู้นำทางการเมืองได้พยายามทำลายระบบตรวจสอบ องค์กรอิสระ และศาลยุติธรรมไทย เพื่อกลบเกลือนความชั่วช้าของตน เพื่อไม่ต้องถูกตรวจสอบ เพื่อไม่ต้องถูกดำเนินคดีทางศาลยุติธรรม...

แมลงวันย่อมไม่ตอมแมลงวันด้วยกัน เสือไม่กินเนื้อเสีอ และเอี๊ยไม่กินกันเอง  :slime_smile2:

สันดานลูกพระยาขี้ข้าเลี้ยง ก็เห็นกันชัดแล้วค่ะ  :slime_smile2:

ถ้าผู้นำ(ที่ทุจริตเสียเอง)ใส่ใจปราบทุจริต ก็เท่ากับปราบตัวเอง

...

ได้ดูการถ่ายทอดสด(ปี ๔๗)รายการที่ทักษิณขึ้นเวทีเปิดโครงการ "วาระแห่งชาติปราบคอรัปชั่น"

ทักษิณกล่าวว่า .. "การปราบคอร์รัปชั่นไม่คืบหน้า เพราะผมต้องเสียเวลาไปขึ้นศาล(รัฐธรรมนูญ)"

...............................................................................................

วันนั้นคนที่ขึ้นไปยืนเรียงแถวบนเวทีเพื่อเป็นสักขีพยาน วันนี้ส่วนใหญ่กำลังโดนคดีต่างๆที่เกี่ยวกับเรื่องทุจริต

มีคนหนึ่งที่ผมจำได้แม่น คือ พลตำรวจเอก วาสนา เพิ่มลาภ .. ขึ้นไปบนเวที ยืนยิ้มเจื่อนๆ  :slime_bigsmile:

...

*  การปราบคอรัปชั่นเป็นของแสลงสำหรับรัฐบาลค่ะ .......

    แหม ! เรื่องกินเล็กกินน้อย มันอยู่ใน สันดาน + สายเลือด  อยู่แล้ว

    อยู่ ๆ จะให้มาตรวจสอบเส้นทางการทำมาหากิน .... ทำแบบนั้นแล้วก็เท่ากับ  หักคอ  ตัวเองสิคะ

    ไม่มี๊  ไม่มี  .... ไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนก็ทำหรอกจ้า  !!!

เห็นด้วยครับ ต้องไล่พวกมันออกไปแล้วดำเนินคดีเท่านั้น

ต้องช่วยกันสร้างการเมืองใหม่ที่มีจิตสำนึกยิ่งกว่านี้ :slime_mad:

แน่ใจนะว่ากินเล็กกินน้อย

เห็นกินกันทีก็ 30% กันเป็นอย่างต่ำ

เงินภาษีกรูทั้งน๊านนนน  :slime_hmm:

ท่านผู้นำไม่ว่าง ที่จะปราบ ทุจริต เพราะกำลังหาทางแก้ปัญหา ทางดับทุกข์ คือการแก้ รัฐธรรมนูญ อยู่(http://i269.photobucket.com/albums/jj72/myem0/yoyocici/piggy-emoticon-014.gif) (http://www.myem0.com/yoyocici/yoyocici-friends-icon/)  (http://www.myem0.com/yoyocici/yoyocici-friends-icon/[/url)

ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นเกิดขึ้นมากมายในหลายประเทศแถบเอเชีย

หลายประเทศมีวิธีจัดการปัญหาดังกล่าวได้ดี ขณะที่อีกหลายประเทศเหมือนคนป่วยอมโรค

บางประเทศอย่างประเทศเวียดนามก็มีคอรัปชั่นไม่น้อย แต่ระดับผู้นำพรรคระดับสูงเขาไม่เป็นกันและรณรงค์จัดการขั้นเด็ดขาด

เกาหลีเขาก็ไปไกลถึงขั้นเอาผู้นำมาลงโทษได้ไม่ว่าจะเป็นคนจากภาคการเมืองภาครัฐหรือภาคเอกชน

มันสำคัญตรงผู้นำ ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นระบบระบอบไหน ภาวะผู้นำ การมีเจตจำนงค์ทางการเมือง(political will) เราไม่มีเลย

ของเราตอนนี้ต้องบอกว่า ป่วยการจะไปเรียกร้อง เพราะทุกวันนี้แก้ปัญหาตัวเองเป็นวัวพันหลักยังจะไม่รอดอยู่แล้ว

ผู้นำที่ไม่ใส่ใจปราบ"ทุจริต"  

ถ้าเป็นคำถาม ก็จะตอบว่า ผู้นำในยุคนี้แหละ

ถ้าเป็นคำบอกเล่า ก็คงจะหมายถึง ผู้นำในยุคนี้อีกเหมือนกัน

ถ้าจะให้ตอบหลังจากอ่านบทความข้างต้นแล้ว ก็คงจะหมายถึง ผู้นำในยุคนี้อีกเหมือนเดิม

แล้วถ้าจะถามว่าเห็นด้วยกับบทความนั่นหรือไม่ ก็จะตอบว่า เห็นด้วย

ถ้าจะถามว่าทำไมถึงเห็นด้วย ก็จะบอกว่า กรุณากลับไปอ่านบทความนั่นอีกครั้งหนึ่งว่าจริงหรือไม่

การปราบคอร์รัปชั่นจะคืบหน้ามาก ถ้านักการเมืองขี้โกงเสียเวลาไปติดคุกเสียบ้าง!!!  :slime_smile: