ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: jerasak ที่ 06-07-2008, 14:51



หัวข้อ: == จุดจบ'ชัย ชิดชอบ' ?...โดยประสงค์ วิสุทธิ์ ==
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 06-07-2008, 14:51
ที่ผ่านมาการปฏิบัติหน้าที่ของคุณชัย ชิดชอบ ในฐานะประธานสภาฯ สำหรับผมถือว่าทำหน้าที่ได้ดี
แต่เหมือนเก้าอี้นี้มีอาถรรพ์ ประธานคนแรกก็พ้นตำแหน่งไปเพราะคดีความ และตอนนี้ก็มาถึงคุณชัย
ที่อาจถึงขนาดต้องพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.
บทความนี้สั้นดี และมีข้ออ้างอิงชัดเจนในสาระสำคัญ ก็เลยนำมาลงให้อ่านกันนะครับ  :slime_smile:

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จุดจบ'ชัย ชิดชอบ' ?...โดยประสงค์ วิสุทธิ์
วันที่ 04 กรกฎาคม 2551
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=39358&catid=16

ถ้า ส.ส.ในสังกัดนายเนวิน เห็นในทางตรงกันข้ามและเพื่อความสง่างามของนายชัยบนเก้าอี้ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ
ควรเข้าชื่อ1 ใน 10 ของจำนวน ส.ส.หรือเพียง 48 คนเพื่อส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพของนายชัย

เก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรกำลังถูกมองว่า  มีอาถรรพณ์ เพราะ นอกจากนายยงยุทธ ติยะไพรัช ต้องตกเก้าอี้
เนื่องจากต้องคดีทุจริตเลือกตั้งแล้ว(คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ส่งคำร้องให้ศาลฎีกาวินิจฉัยชี้ขาด ทำให้
นายยงยุทธต้องพักการทำหน้าที่และลาออกจากตำแหน่งในที่สุด)

นายชัย ชิดชอบซึ่งรับตำแหน่งต่อมาถูกกล่าว หาว่า มีการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ  ทำให้สมาชิกภาพ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร( ส.ส.)สิ้นสุดลงและต้องพ้นจากเก้าอี้ประธานสภาฯด้วย

ผู้ที่กล่าวหานายชัยคือ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ  สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ระบบสรรหาได้ส่งเรื่องให้ กกต.วินิจฉัย
สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายชัยว่า สิ้นสุดลงตามรัฐธรรรมนูญ มาตรา 106(6)  หรือไม่ เนื่องจากมีหลักฐาน(บัญชีทรัพย์สิน
และหนี้สินที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ)ว่า นายชัยและนางละออง ชิดชอบ ภรรยา
มีการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มตรา 265(2)เนื่องจากเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และนางละอองเป็นกรรมการในบริษัท
ศิลาชัยบุรีรัมย์(1991) จำกัดที่รับสัญญาสัมปทานจากรัฐ

กล่าวคือได้รับประทานบัตรทำเหมืองหิน(เลขที่ 27261/15163)ที่สวายจิก อ.เมือง บุรีรัมย์เนื้อที่ 210 ไร่ 3 งาน 12 ตร.วา 
ตั้งแต่ 4 กันยายน 2539 อายุประทานบัตรครั้งแรกอายุ 10 ปี หมดอายุเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2549 และมีการต่ออายุสัมปทาน
ออกไปอีก 15 ปี ตั้งแต่วันที่  4 กันยายน 2549- 3 กันยายน 2564

การที่นายเรืองไกรระบุว่า นายชัยมีการกระทำต้อง ห้ามตามรัฐธรรมนุญเพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 265(2)บัญญัติไว้ส่วนหนึ่งว่า
'สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร....ต้องไม่เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญา
ในลักษณะเป็นการผูกขาดตันตอน จากรัฐ หน่วยราชการ  หน่วยงานของรัฐ  หรือรัฐวิสาหกิจ  ทั้งนี้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม'

 นอกจากนั้น มาตรา 265 วรรคสาม  ยังบัญญัติไว้ว่า 'ให้นำความใน (2) (3) และ (4) มาใช้บังคับกับคู่สมรสและบุตรของ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา และบุคคลอื่นซึ่งมิใช่คู่สมรสและบุตรของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิก
วุฒิสภานั้นที่ดำเนินการในลักษณะผู้ถูกใช้  ผู้ร่วมดำเนินการ  หรือผู้ได้รับมอบหมายจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิก
วุฒิสภาให้กระทำการ ตามมาตรานี้ด้วย'

ดังนั้นการที่ทั้งนายชัยและภรรยาถือหุ้นใหญ่และเป็นกรรมการในบริษัทศิลา ชัยฯจึงเข้าข่ายการกระทำต้องห้าม
ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ส.ส.ในสังกัดนายเนวิน ชิดชอบ บุตรชายของนายชัยออกมาปกป้องว่า นายชัยและครอบครัวประกอบอาชีพ
โรงโม่หินมานาน และไม่ได้รับสัมปทานจากรัฐ แต่ประกอบกิจการในที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง เรียกว่า ประทานบัตร
ฉะนั้น ในข้อกฎหมายมีความหมายไม่เหมือนกัน นายชัยจึงไม่มีอะไรที่น่าจะต้องวิตกเรื่องนี้

ดังนั้นมีประเด็นต้องพิจารณาว่า'ประทานบัตร' มีความหมายว่า อย่างไร เป็นการทำสัญญากับรัฐในลักษระผูกขาดตัดตอนหรือไม่

ในพ.ร.บ.แร่ พ.ศ.2510  ให้นิยาม'ประทานบัตร'ว่า หนังสือสำคัญที่(รัฐ)ออกให้เพื่อทำเหมืองภายในเขตที่กำหนด
ในหนังสือสำคัญนั้น(มาตรา 4)

มาตรา 43 บัญญัติว่า 'ห้ามมิให้ผู้ใดทำเหมืองในที่ใดไม่ว่าที่ซึ่งทำเหมืองนั้นจะเป็นสิทธิของ บุคคลใดหรือไม่
เว้นแต่ได้รับประทานบัตรชั่วคราวหรือประทานบัตร'

ตามปกติแล้ว เมื่อผู้ใดมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงใดแล้ว สามารถแสวงหาประโยชน์จากที่ดินแปลงดังกล่าวได้ เช่น ปลูกพืช
โดยไม่ต้องขออนุญาตจากรัฐ แต่การทำเหมืองแร่ต้องได้รับอนุญาตในการขุดแร่และต้องจ่าย'ผลประโยชน์พิเศษ เพื่อประโยชน์
แก่รัฐหรือที่เรียกว่าค่าภาคหลวง(มาตรา 44)เนื่องจากแร่เป็นทรัพยากรธรรมชาติ หรือพูดง่ายๆว่า เป็นทรัพย์ของแผ่นดิน

นอกจากนั้น ยังจำกัดพื้นที่การทำเหมืองในแต่ละเขตด้วยไม่เกิน 300ไร่ด้วย

การให้ประทานบัตรจึงเป็นการทำสัญญาซื้อขายแร่จากรัฐ(กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่)

การให้'ประทานบัตร'ยังแตกต่างจากการให้ใบอนุญาต โดยทั่วไป(เช่น ใบอนุญาตขับขี่ ที่(เคย)มีการให้แบบตลอดชีพ)
เพราะมีลักษณะผูกขาดตัดตอนคือ มีจำกัดระยะเวลาที่แน่นอน(10-15ปี) และเมื่อให้ประทานบัตรแก่ผู้ใดแล้ว ไม่สามารถ
ให้ผู้อื่นทำเหมืองแร่ในพื้นที่แปลงเดียวกันได้ไม่ว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวจะเป็นที่ดินของรัฐหรือเอกชนก็ตาม

เมื่อดูองค์ประกอบแล้ว 'ประทานบัตร' จึงเป็นการทำสัญญากับรัฐและมีลักษณะผูกขาดตัดตอน

นายชัยน่าจะมีการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญซึ่งผลคือ ต้องสิ้นสมาชิกภาพ ส.ส.

ถ้า  ส.ส.ในสังกัดนายเนวิน เห็นในทางตรงกันข้ามและเพื่อความสง่างามของนายชัยบนเก้าอี้ประมุขฝ่าย นิติบัญญัติ 
ส.ส.ในสังกัดนายเนวินควรเข้าชื่อ1 ใน 10 ของจำนวน ส.ส.หรือเพียง 48 คนเพื่อส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
สมาชิกภาพของนายชัย

จะได้ไม่ต้องไปท้าสาบานหรือสาปแช่งใครเหมือนพวกพันธุ์ปากพล่อยทั้งหลายชอบประพฤติเป็นประจำ


หัวข้อ: Re: == จุดจบ'ชัย ชิดชอบ' ?...โดยประสงค์ วิสุทธิ์ ==
เริ่มหัวข้อโดย: login not found ที่ 06-07-2008, 15:09
เก้าอี้คงไม่ได้มีอาถรรพ์หรอกครับ
แต่ไหนแต่ไรมา เก้าอี้นี้จะไม่โดนเพ่งเล็ง อยู่กันได้ยาวๆจนครบวาระ
เว้นแต่หลังๆมานี่เท่านั้น ที่มีคำสั่งใช้เก้าอี้ตอบแทนผลประโยชน์
สลับผลัดเปลี่ยนกันนั่งเพื่อแทนบุญคุณ
และยิ่งงวดนี้คณะโจร เลือกลูกพี่โจรมานั่ง
ในตำแหน่งหน้าที่อันเป็นเป้าให้เขาเล่นงาน
หากฝ่ายตรงข้ามมีกำลังพอ ก็จะนำมาเป็นประเด็นสอยได้โดยง่าย

รอให้ลากลงนรกตามๆกันไป เอวัง.......
 :slime_worship:


หัวข้อ: Re: == จุดจบ'ชัย ชิดชอบ' ?...โดยประสงค์ วิสุทธิ์ ==
เริ่มหัวข้อโดย: justy ที่ 06-07-2008, 16:45

ช่วงที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมตรีและ 7 รัฐมนตรี
เห็นบทบาทของแกแล้วยอมรับว่าแกทำหน้าที่ได้ดี ตรงไปตรงมา อย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้เราๆท่านๆมึนงงไปตามๆกัน

ต่อมาหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายแล้ว ได้ยินว่าแกเอาเงินไปแจก สส.พลังแม้ว คนละ 1แสน  ..ทำไปได้



หัวข้อ: Re: == จุดจบ'ชัย ชิดชอบ' ?...โดยประสงค์ วิสุทธิ์ ==
เริ่มหัวข้อโดย: Scorpio6 ที่ 06-07-2008, 17:05
ขอให้เป็นตำแหน่งสุดท้ายทางการเมืองของปู่นะครับ :slime_agreed:


หัวข้อ: Re: == จุดจบ'ชัย ชิดชอบ' ?...โดยประสงค์ วิสุทธิ์ ==
เริ่มหัวข้อโดย: mebeam ที่ 06-07-2008, 20:49
ช่วงที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมตรีและ 7 รัฐมนตรี
เห็นบทบาทของแกแล้วยอมรับว่าแกทำหน้าที่ได้ดี ตรงไปตรงมา อย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้เราๆท่านๆมึนงงไปตามๆกัน

ต่อมาหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายแล้ว ได้ยินว่าแกเอาเงินไปแจก สส.พลังแม้ว คนละ 1แสน  ..ทำไปได้



จริงเหรอครับ คนละแสน 10 คนล้าน   ทำไปได้ หรือพูดไปได้ ครับ  :slime_smile:


หัวข้อ: Re: == จุดจบ'ชัย ชิดชอบ' ?...โดยประสงค์ วิสุทธิ์ ==
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 06-07-2008, 20:56
จริงเหรอครับ คนละแสน 10 คนล้าน   ทำไปได้ หรือพูดไปได้ ครับ  :slime_smile:

ขนาดช็อคโกแลตที่ศาลแห่งเดียวยังราคา 2 ล้านเลยค่ะ  คนละแสนจิ๊บ ๆ  แต่เป็นงบประมาณที่เหลือหรือเปล่า


หัวข้อ: Re: == จุดจบ'ชัย ชิดชอบ' ?...โดยประสงค์ วิสุทธิ์ ==
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 06-07-2008, 21:00
จริงเหรอครับ คนละแสน 10 คนล้าน   ทำไปได้ หรือพูดไปได้ ครับ  :slime_smile:

เป็นที่ทราบกันดีว่ามี ส.ส.พลังประชาชน อยู่ในสังกัดคุณเนวินจำนวนมาก
แล้วจะแปลกใจทำไมกับเงินอุดหนุนล่ะครับ ที่มาของเงินก็รู้ๆ กันอยู่  :slime_smile:


หัวข้อ: Re: == จุดจบ'ชัย ชิดชอบ' ?...โดยประสงค์ วิสุทธิ์ ==
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 07-07-2008, 00:01
รัฐบาลนี้หาคนทีความชอบธรรมจริงๆยากเหลือเกิน

เปิดไปตรงไหนก็มีแต่แผลทั้งนั้น

เดี๋ยวศาลก็จะตัดสินแล้วว่าจะยุบพรรคหรือไม่ ถ้ายุบพรรคความเป็นรัฐมนตรีของบรรดาสส.ที่เป็นกรรมการบริหารจะต้องสิ้นสุดลงไปด้วย

ทั้งคดีหมิ่นประมาทอดีตรองผู้ว่า ฯ ของนายสมัคร

คดีชิมไปเห่าไป เป็นสัญญาจ้างของนายสมัครทำให้ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ

และอีกมากมาย

รัฐบาลต้องไปเพราะกระบวนการยุติธรรมแน่นอน

 :slime_smile:



หัวข้อ: Re: == จุดจบ'ชัย ชิดชอบ' ?...โดยประสงค์ วิสุทธิ์ ==
เริ่มหัวข้อโดย: น้องแบ๊งค์เองครับ ที่ 07-07-2008, 05:49
ถ้าปู่ชัยต้องพ้นสภาพไปอีกคน ผมว่าทางรัฐบาล พลังประชาชนควรจะต้องพิจารณาตัวเองแล้วนะครับว่าส่งใครขึ้นไปให้ในหลวงลงพระปรมาภิไธยแต่ละคน ช่วยหาคนที่ไม่มีมลธินได้ไหม คนรับสนองพระบรมราชโองการเองก็ควรจะรับผิดชอบด้วยนะครับ


หัวข้อ: Re: == จุดจบ'ชัย ชิดชอบ' ?...โดยประสงค์ วิสุทธิ์ ==
เริ่มหัวข้อโดย: irq5 ที่ 07-07-2008, 08:34
ไม่ต้องยุบพรรค ก็หายเกือบหมดพรรค


หัวข้อ: Re: == จุดจบ'ชัย ชิดชอบ' ?...โดยประสงค์ วิสุทธิ์ ==
เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 07-07-2008, 09:04
*  เห็น  บทบาท .... ของ ชัย ชิดชอบ  ในตอนอภิปรายที่ผ่านมาแล้วรู้สึกได้ว่า

    ไม่มีภาวะในการเป็นผู้นำเลย ..... คุมเกมส์ไม่อยู่   ตัดสินใจไม่ได้   ไม่เด็ดขาด

    ถือว่า ... สอบตก ในการเป็นประธานสภา  ( ถึงปู่แกจะออกมาพูดว่า แก แก่แล้วก็เหอะ )

    ส่วนเรื่องไปมีหุ้นแล้วผิดกฎข้อบังคับ ..... ก็ว่ากันไปตามกฎสิค่ะ  ผิดก็คือผิด

    เอาน่า .... ได้นั่งเก้าอี้ในตำแหน่งประธานสภาแล้ว  ถึงจะสั้นไปนิดก็ถือว่าเคยเป็นนี่นา
    อย่าโลภค่ะปู่ ..........    :slime_smile: