ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: อนัตตา (ไร้สี ไร้กลิ่น ไร้ฝ่าย) ที่ 30-06-2008, 21:21



หัวข้อ: เหลือเชื่อจริง จากเรื่องสอบนักการเมืองโกงชาติ กลายเป็นเรื่องเปลี่ยนแปลงการปกครอง
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา (ไร้สี ไร้กลิ่น ไร้ฝ่าย) ที่ 30-06-2008, 21:21
สุดยอดจริงๆ

นักตะแบงเบี่ยงเบนประเด็นของทีมงานไอ้ขายชาติมัน เก่งจริงๆ

จากที่ต่อสู้ระหว่าง ประชาชน กับ นักธุรกิจการเมืองขายชาติโดยไม่เสียภาษี

มันแต่งตั้ง พลิกตัวเองเป็นนักประชาธิปไตยผู้นำมาจากการเลือกตั้ง สู้กับ กลุ่มชนชั้นนำ เฉย

ผมว่าตอนนี้ ต่อให้พระเยซู ออกมาเทศน์ให้ประชาชนอย่านับถือคนโกง ก็ต้องถูกพวกขายชาติจับตรึงไม้กางเขนอีกรอบแน่

ถึงยกให้ว่าประเทศไทย ไปไม่ถึงไหนหรอก ทรัพยากรธรรมชาติหมดเมื่อไหร่ ก็ขายลูกสาวกินกันทั้งประเทศ  :slime_mad:


หัวข้อ: Re: เหลือเชื่อจริง จากเรื่องสอบนักการเมืองโกงชาติ กลายเป็นเรื่องเปลี่ยนแปลงการปกครอง
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 30-06-2008, 22:00
มันก็พูดปกป้องตัวเองไปงั้นแหละ คนเรามันจะพูดอะไรก็ได้

แต่อำนาจวินิจฉัยกฎหมายอยู่ที่ศาล ไม่ใช่คำพูดพวกมัน

เปลี่ยนแปลงการปกครองหรือตรวจสอบนักการเมืองโกง ให้พวกมันยื่นศาลตีความเอาเถอะ


หัวข้อ: สู้ครั้งสุดท้าย?’ เขาพระวิหาร ประวัติศาสตร์จักจารึกนามท่านว่า...
เริ่มหัวข้อโดย: อิรวันชาห์ IrWanSyah ที่ 30-06-2008, 23:33
การไล่รัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรอบใหม่กว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมา นับได้ว่ามาถึงจุดที่เลอะเทอะและสะท้อนการอับจนปัญญาของกลุ่มพันธมิตรฯอย่างถึงที่สุด โดยเฉพาะการเอาเรื่องเขาพระวิหารมาเล่น อันเป็นประเด็นเกี่ยวกับเขตแดนหรือ ‘ชาติ’ โดยตรง

เรื่องเขาพระวิหาร เด็กรุ่นใหม่ๆ ต่างรับรู้เป็นอย่างดีว่า “ปราสาทเป็นของกัมพูชา ทางขึ้นเป็นของไทย” และรู้กระทั่งว่า ไทยเสียเขาพระวิหารอันเนื่องมาจากการพิพาท และการยอมยุติข้อพิพาทด้วยเวทีศาลโลก ด้วยหลักฐาน การอ้างอิง และการชั่งตวงวัดน้ำหนักต่างๆ ซึ่งหมายความว่า โลกทั้งใบนี้รับรู้ข้อยุติตามนั้น

เอาเป็นว่า เขาพระวิหารเป็นของกัมพูชานั้นเป็น ‘ข้อเท็จจริงอันเป็นที่ยุติ’ ที่ยากจะเถียง ส่วนพื้นที่ทับซ้อน ก็คือพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งหมายความว่า จะต้องเจรจาตกลงกันต่อไประหว่างไทยกับกัมพูชา

จริงเรื่องเขตแดนนั้น ต้องถือว่า กองทัพไทยเป็นเจ้าของประเด็นนี้โดยตรง การขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกนั้น พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ก็ออกมานั่งแถลงเองว่า เป็นแต่เพื่ยงเฉพาะตัวปราสาท (ตัวปราสาทซึ่งเราเองก็รับแล้วว่าเป็นของเขา คนไทยส่วนใหญ่ก็รับรู้เรื่องนี้) ไม่เกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อน

แล้วกลุ่มพันธมิตรฯกำลังเล่นอะไรกันอยู่ ต่อให้ใช้ประเด็นนี้ไล่รัฐบาลได้สำเร็จ เราก็หนี ‘ข้อเท็จจริง’ ไปไม่ได้ ประเด็นนี้จึงเป็นประเด็นเพื่อปลุกกระแสและอารมณ์คลั่งชาติอย่างไร้เหตุผลที่สุด สะเทือนความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างที่สุด เพราะจินตนาการไปทางไหนก็ไม่มีทางได้เขาพระวิหารมาเป็นของไทยได้

เมื่อข้อเท็จจริงว่า ปราสาทเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา พื้นที่ทับซ้อนก็ยังเป็นพื้นที่ทับซ้อน อะไรที่มันเคยเป็นก็เป็นอยู่อย่างนั้น แล้วจะมีประเด็นเรื่องใครจะไปแลกประโยชน์ด้วยการอ้างจากเรื่องนี้ได้อย่างไร เพราะกัมพูชาก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา เพราะเขาขอปราสาทของเขาเองเป็นมรดกโลกไม่ใช่ปราสาทของเรา

อันที่จริง จินตนาการไปทางไหน กัมพูชาก็ต้องเป็นเพื่อนบ้านของเรา จินตนาการตรงไหน เขาพระวิหารก็ต้องอยู่ตรงนั้น ไม่มีใครยกไปไหนได้ การไม่ทะเลาะกับเพื่อนบ้านก็ทำให้ใช้ประโยชน์จากเขาพระวิหารได้ทั้งสองฝ่าย (โดยที่เราไม่ต้องดูแลรักษา) พูดง่ายๆ ไม่ใช่ของเรา แต่เราใช้ประโยชน์ได้ ตรงกันข้าม ยิ่งหยิบเรื่องนี้มาเล่น ต่อให้ไล่รัฐบาลได้ เราเองก็อาจจะไม่มีโอกาสได้ไปแม้กระทั่งเหยียบบันไดขั้นแรกของตัวปราสาทเขาพระวิหารด้วยซ้ำ แล้วจะเป็นของเราได้อย่างไร พูดอีกอย่างก็คือ ต่อให้คิดว่าเป็นของเรา เราก็อาจจะใช้ประโยชน์ไม่ได้

การหยิบประเด็นอันไร้เหตุผลนี้มา จึงสะท้อนว่ากลุ่มพันธมิตรฯ เองอับจนปัญญาอย่างที่สุดที่จะหาจุดอ่อนของรัฐบาลมาเป็นจุดขาย (ทั้งๆ ที่มีจุดอ่อนมากมายที่แม้จะ ‘ขาย’ ไม่ได้แต่ก็เป็นประโยชน์ต่อประชาชน) จึงเลือกที่จะเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกของประชาชน และการลงเอยของอารมณ์ความรู้สึก มันก็อาจจะจบลงเหมือนที่นักการเมืองในกัมพูชาเคยเอาประเด็นดาราไทยไปบิดเพื่อปลุกกระแสคลั่งชาติจนกระทั่งบุกเผาสถานทูตไทยในกัมพูชามาแล้ว

 น่าสงสัยว่า ธงของกลุ่มพันธมิตรฯ คืออะไร หลังจากที่ประเด็นเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ถูกกันและมีสัญญาณห้ามอย่างชัดเจนจากทุกฝ่ายมาแล้ว มาบัดนี้มาเปิดประเด็นว่าด้วยเรื่อง ‘ชาติ’ อย่างไร้เหตุผล และจงใจปั่นที่อารมณ์ความรู้สึก ใช่หรือไม่ ที่ยังคงเป้าหมายไว้ที่การจ]าจล และใช้ประชาชนที่นิยมตนเป็นเหยื่อ

หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ใช่หรือไม่ที่ความขลาดเขลาของคนไม่กี่คน เกิดขึ้นจากการไม่ชอบหน้านักการเมือง ไม่เชื่อมั่นนักการเมือง และไม่เชื่อมั่นในรัฐธรรมนูญ กฎกติกา กลไกและการตรวจสอบใดๆ อีกแล้ว ทั้งๆ ที่ตัวเองมีส่วนสร้างมากับมือ

ใช่หรือไม่ว่า ความขลาดเขลาของคนไม่กี่คน เกิดขึ้นจากความกลัวว่า ‘เขา’ จะเอาคืน  จนหลงลืมว่าตนเคยเป็นคนมีเหตุมีผลอย่างไร กระทั่งทำให้ต้องเห็นแก่ตัวอย่างที่สุดโดยเอาชีวิตประชาชนมาเดิมพัน

 มนุษย์ต้องมีจินตนาการ และผมยังฝัน ฝันว่า คนบางคนในกลุ่มพันธมิตรฯ จะเรียกร้องความกล้าครั้งสุดท้ายในชีวิตเพื่อให้คนได้จดจำความกล้าของเขา ด้วยการเดินลงจากหลังเสือ

ไม่เช่นนั้น หากเหตุการณ์ในวันข้างหน้าบานปลาย กลายเป็นการจลาจล เกิดความรุนแรง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากฝ่ายไหน ไม่ว่าใครจะกระทำ ไม่ว่าใครจะผิด นอกจากรัฐบาลที่ผิดและต้องรับผิดชอบแล้ว คนที่ ‘ปั่น’ เหล่านี้ก็หนีความรับผิดชอบและการถูกตราหน้าว่า ‘มือเปื้อนเลือด’ ไปไม่พ้นจนชั่วลูกชั่วหลาน


http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms01&ID=2804&Key=BK


หัวข้อ: Re: เหลือเชื่อจริง จากเรื่องสอบนักการเมืองโกงชาติ กลายเป็นเรื่องเปลี่ยนแปลงการปกครอง
เริ่มหัวข้อโดย: personal jesus ที่ 01-07-2008, 00:03


ไอ้มะแอ เวลามึงจะไปแถวนั้นน่ะ
มึงปีนขึ้นทางหน้าผาแล้วกัน ชวนไอ้นพดล ตาเหล่ไปด้วย
มึงจุดเทียน ส่องทาง ส่องปัญญา ให้ไอ้เหล่ด้วยก็แล้วกัน

บ้านเป็นของไอ้ เหล่นพดล แต่ทางขึ้น อยู่ที่บ้าน
มึง ฮ่าฮ่า ศาลส้นตีน ถุ๊ยย อัปยศ
มึงอีกตัว สู้ถวายหัวให้เขมร ไอ้ยำยำ


หัวข้อ: Re: เหลือเชื่อจริง จากเรื่องสอบนักการเมืองโกงชาติ กลายเป็นเรื่องเปลี่ยนแปลงการปกครอง
เริ่มหัวข้อโดย: Caocao ที่ 01-07-2008, 00:18
การไล่รัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรอบใหม่กว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมา นับได้ว่ามาถึงจุดที่เลอะเทอะและสะท้อนการอับจนปัญญาของกลุ่มพันธมิตรฯอย่างถึงที่สุด โดยเฉพาะการเอาเรื่องเขาพระวิหารมาเล่น อันเป็นประเด็นเกี่ยวกับเขตแดนหรือ ‘ชาติ’ โดยตรง

เรื่องเขาพระวิหาร เด็กรุ่นใหม่ๆ ต่างรับรู้เป็นอย่างดีว่า “ปราสาทเป็นของกัมพูชา ทางขึ้นเป็นของไทย” และรู้กระทั่งว่า ไทยเสียเขาพระวิหารอันเนื่องมาจากการพิพาท และการยอมยุติข้อพิพาทด้วยเวทีศาลโลก ด้วยหลักฐาน การอ้างอิง และการชั่งตวงวัดน้ำหนักต่างๆ ซึ่งหมายความว่า โลกทั้งใบนี้รับรู้ข้อยุติตามนั้น

เอาเป็นว่า เขาพระวิหารเป็นของกัมพูชานั้นเป็น ‘ข้อเท็จจริงอันเป็นที่ยุติ’ ที่ยากจะเถียง ส่วนพื้นที่ทับซ้อน ก็คือพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งหมายความว่า จะต้องเจรจาตกลงกันต่อไประหว่างไทยกับกัมพูชา

จริงเรื่องเขตแดนนั้น ต้องถือว่า กองทัพไทยเป็นเจ้าของประเด็นนี้โดยตรง การขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกนั้น พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ก็ออกมานั่งแถลงเองว่า เป็นแต่เพื่ยงเฉพาะตัวปราสาท (ตัวปราสาทซึ่งเราเองก็รับแล้วว่าเป็นของเขา คนไทยส่วนใหญ่ก็รับรู้เรื่องนี้) ไม่เกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อน

แล้วกลุ่มพันธมิตรฯกำลังเล่นอะไรกันอยู่ ต่อให้ใช้ประเด็นนี้ไล่รัฐบาลได้สำเร็จ เราก็หนี ‘ข้อเท็จจริง’ ไปไม่ได้ ประเด็นนี้จึงเป็นประเด็นเพื่อปลุกกระแสและอารมณ์คลั่งชาติอย่างไร้เหตุผลที่สุด สะเทือนความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างที่สุด เพราะจินตนาการไปทางไหนก็ไม่มีทางได้เขาพระวิหารมาเป็นของไทยได้

เมื่อข้อเท็จจริงว่า ปราสาทเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา พื้นที่ทับซ้อนก็ยังเป็นพื้นที่ทับซ้อน อะไรที่มันเคยเป็นก็เป็นอยู่อย่างนั้น แล้วจะมีประเด็นเรื่องใครจะไปแลกประโยชน์ด้วยการอ้างจากเรื่องนี้ได้อย่างไร เพราะกัมพูชาก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา เพราะเขาขอปราสาทของเขาเองเป็นมรดกโลกไม่ใช่ปราสาทของเรา

อันที่จริง จินตนาการไปทางไหน กัมพูชาก็ต้องเป็นเพื่อนบ้านของเรา จินตนาการตรงไหน เขาพระวิหารก็ต้องอยู่ตรงนั้น ไม่มีใครยกไปไหนได้ การไม่ทะเลาะกับเพื่อนบ้านก็ทำให้ใช้ประโยชน์จากเขาพระวิหารได้ทั้งสองฝ่าย (โดยที่เราไม่ต้องดูแลรักษา) พูดง่ายๆ ไม่ใช่ของเรา แต่เราใช้ประโยชน์ได้ ตรงกันข้าม ยิ่งหยิบเรื่องนี้มาเล่น ต่อให้ไล่รัฐบาลได้ เราเองก็อาจจะไม่มีโอกาสได้ไปแม้กระทั่งเหยียบบันไดขั้นแรกของตัวปราสาทเขาพระวิหารด้วยซ้ำ แล้วจะเป็นของเราได้อย่างไร พูดอีกอย่างก็คือ ต่อให้คิดว่าเป็นของเรา เราก็อาจจะใช้ประโยชน์ไม่ได้

การหยิบประเด็นอันไร้เหตุผลนี้มา จึงสะท้อนว่ากลุ่มพันธมิตรฯ เองอับจนปัญญาอย่างที่สุดที่จะหาจุดอ่อนของรัฐบาลมาเป็นจุดขาย (ทั้งๆ ที่มีจุดอ่อนมากมายที่แม้จะ ‘ขาย’ ไม่ได้แต่ก็เป็นประโยชน์ต่อประชาชน) จึงเลือกที่จะเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกของประชาชน และการลงเอยของอารมณ์ความรู้สึก มันก็อาจจะจบลงเหมือนที่นักการเมืองในกัมพูชาเคยเอาประเด็นดาราไทยไปบิดเพื่อปลุกกระแสคลั่งชาติจนกระทั่งบุกเผาสถานทูตไทยในกัมพูชามาแล้ว

 น่าสงสัยว่า ธงของกลุ่มพันธมิตรฯ คืออะไร หลังจากที่ประเด็นเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ถูกกันและมีสัญญาณห้ามอย่างชัดเจนจากทุกฝ่ายมาแล้ว มาบัดนี้มาเปิดประเด็นว่าด้วยเรื่อง ‘ชาติ’ อย่างไร้เหตุผล และจงใจปั่นที่อารมณ์ความรู้สึก ใช่หรือไม่ ที่ยังคงเป้าหมายไว้ที่การจ]าจล และใช้ประชาชนที่นิยมตนเป็นเหยื่อ

หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ใช่หรือไม่ที่ความขลาดเขลาของคนไม่กี่คน เกิดขึ้นจากการไม่ชอบหน้านักการเมือง ไม่เชื่อมั่นนักการเมือง และไม่เชื่อมั่นในรัฐธรรมนูญ กฎกติกา กลไกและการตรวจสอบใดๆ อีกแล้ว ทั้งๆ ที่ตัวเองมีส่วนสร้างมากับมือ

ใช่หรือไม่ว่า ความขลาดเขลาของคนไม่กี่คน เกิดขึ้นจากความกลัวว่า ‘เขา’ จะเอาคืน  จนหลงลืมว่าตนเคยเป็นคนมีเหตุมีผลอย่างไร กระทั่งทำให้ต้องเห็นแก่ตัวอย่างที่สุดโดยเอาชีวิตประชาชนมาเดิมพัน

 มนุษย์ต้องมีจินตนาการ และผมยังฝัน ฝันว่า คนบางคนในกลุ่มพันธมิตรฯ จะเรียกร้องความกล้าครั้งสุดท้ายในชีวิตเพื่อให้คนได้จดจำความกล้าของเขา ด้วยการเดินลงจากหลังเสือ

ไม่เช่นนั้น หากเหตุการณ์ในวันข้างหน้าบานปลาย กลายเป็นการจลาจล เกิดความรุนแรง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากฝ่ายไหน ไม่ว่าใครจะกระทำ ไม่ว่าใครจะผิด นอกจากรัฐบาลที่ผิดและต้องรับผิดชอบแล้ว คนที่ ‘ปั่น’ เหล่านี้ก็หนีความรับผิดชอบและการถูกตราหน้าว่า ‘มือเปื้อนเลือด’ ไปไม่พ้นจนชั่วลูกชั่วหลาน


http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms01&ID=2804&Key=BK

สงสัยมะแอ สมุนเหล่ คงตกข่าว เพราะล่าสุดเขมรก็ปิดทางขึ้นตั้งแต่ต้นบันได แถมมันออกมาอ้างแล้วว่าชุมชนที่ตั้งรกรากอยู่ในเขตุพื้นที่ของไทย เป็นสิทธิอันชอบธรรม และยังกล่าวด้วยว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นของเขมร เรื่องของเรื่องในสถาณการณ์ปัจจุบัน ผมเชื่อว่าประชาชนเขมรตรงนั้นไม่น่าจะมีความรู้และถูกรัฐบาลเขมรหลอกใช้ให้เป็นกันชน เพราะหากมีความรุนแรงมันก็คงพวงปัญหาสิทธิมนุษยชนเข้ามาอีก

มะแวงอ่ะ ตื่นได้แล้ว เพราะนี่เป็นปัญญากับกรณีขายชาติ รู้ไหมว่าความฝันกับความจริงมันต่างกันตรงไหน ก็ตรงที่ความจริงยังไงก็เป็นความจริง แต่ความฝันมันไม่มีวันเป็นความจริงได้ ก็เพราะเมื่อไหร่ความฝันมันเป็นจริง มันก็คงไม่ใช่ความฝัน ความฝันแบบนั้นมันมีในปาหี่แบบ ฝันที่เป็นจริงเท่านั้น :slime_inlove:


หัวข้อ: Re: เหลือเชื่อจริง จากเรื่องสอบนักการเมืองโกงชาติ กลายเป็นเรื่องเปลี่ยนแปลงการปก
เริ่มหัวข้อโดย: login not found ที่ 01-07-2008, 00:56

โง่อวดฉลาด
วันๆหากินง่ายๆจากเว็บถ่อ-ยขายชาติ
ที่พี่น้องเจ้าของเว็บมันยังไม่ยอมรับว่ามันเป็นคนไทยด้วยซ้ำ

ถุย...



หัวข้อ: Re: เหลือเชื่อจริง จากเรื่องสอบนักการเมืองโกงชาติ กลายเป็นเรื่องเปลี่ยนแปลงการปก
เริ่มหัวข้อโดย: demon767 ที่ 01-07-2008, 01:58
เว็บที่ไอ้มะแอมันเอามาข้อความมาลงมันเว็บหมิ่นเบื้องสูง เชื่อไม่ได้เลย  :slime_o:


หัวข้อ: Re: สู้ครั้งสุดท้าย?’ เขาพระวิหาร ประวัติศาสตร์จักจารึกนามท่านว่า...
เริ่มหัวข้อโดย: ปรมาจารย์เจได ที่ 01-07-2008, 09:03
การไล่รัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรอบใหม่กว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมา นับได้ว่ามาถึงจุดที่เลอะเทอะและสะท้อนการอับจนปัญญาของกลุ่มพันธมิตรฯอย่างถึงที่สุด โดยเฉพาะการเอาเรื่องเขาพระวิหารมาเล่น อันเป็นประเด็นเกี่ยวกับเขตแดนหรือ ‘ชาติ’ โดยตรง

เรื่องเขาพระวิหาร เด็กรุ่นใหม่ๆ ต่างรับรู้เป็นอย่างดีว่า “ปราสาทเป็นของกัมพูชา ทางขึ้นเป็นของไทย” และรู้กระทั่งว่า ไทยเสียเขาพระวิหารอันเนื่องมาจากการพิพาท และการยอมยุติข้อพิพาทด้วยเวทีศาลโลก ด้วยหลักฐาน การอ้างอิง และการชั่งตวงวัดน้ำหนักต่างๆ ซึ่งหมายความว่า โลกทั้งใบนี้รับรู้ข้อยุติตามนั้น

เอาเป็นว่า เขาพระวิหารเป็นของกัมพูชานั้นเป็น ‘ข้อเท็จจริงอันเป็นที่ยุติ’ ที่ยากจะเถียง ส่วนพื้นที่ทับซ้อน ก็คือพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งหมายความว่า จะต้องเจรจาตกลงกันต่อไประหว่างไทยกับกัมพูชา

จริงเรื่องเขตแดนนั้น ต้องถือว่า กองทัพไทยเป็นเจ้าของประเด็นนี้โดยตรง การขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกนั้น พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ก็ออกมานั่งแถลงเองว่า เป็นแต่เพื่ยงเฉพาะตัวปราสาท (ตัวปราสาทซึ่งเราเองก็รับแล้วว่าเป็นของเขา คนไทยส่วนใหญ่ก็รับรู้เรื่องนี้) ไม่เกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อน

แล้วกลุ่มพันธมิตรฯกำลังเล่นอะไรกันอยู่ ต่อให้ใช้ประเด็นนี้ไล่รัฐบาลได้สำเร็จ เราก็หนี ‘ข้อเท็จจริง’ ไปไม่ได้ ประเด็นนี้จึงเป็นประเด็นเพื่อปลุกกระแสและอารมณ์คลั่งชาติอย่างไร้เหตุผลที่สุด สะเทือนความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างที่สุด เพราะจินตนาการไปทางไหนก็ไม่มีทางได้เขาพระวิหารมาเป็นของไทยได้

เมื่อข้อเท็จจริงว่า ปราสาทเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา พื้นที่ทับซ้อนก็ยังเป็นพื้นที่ทับซ้อน อะไรที่มันเคยเป็นก็เป็นอยู่อย่างนั้น แล้วจะมีประเด็นเรื่องใครจะไปแลกประโยชน์ด้วยการอ้างจากเรื่องนี้ได้อย่างไร เพราะกัมพูชาก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา เพราะเขาขอปราสาทของเขาเองเป็นมรดกโลกไม่ใช่ปราสาทของเรา

อันที่จริง จินตนาการไปทางไหน กัมพูชาก็ต้องเป็นเพื่อนบ้านของเรา จินตนาการตรงไหน เขาพระวิหารก็ต้องอยู่ตรงนั้น ไม่มีใครยกไปไหนได้ การไม่ทะเลาะกับเพื่อนบ้านก็ทำให้ใช้ประโยชน์จากเขาพระวิหารได้ทั้งสองฝ่าย (โดยที่เราไม่ต้องดูแลรักษา) พูดง่ายๆ ไม่ใช่ของเรา แต่เราใช้ประโยชน์ได้ ตรงกันข้าม ยิ่งหยิบเรื่องนี้มาเล่น ต่อให้ไล่รัฐบาลได้ เราเองก็อาจจะไม่มีโอกาสได้ไปแม้กระทั่งเหยียบบันไดขั้นแรกของตัวปราสาทเขาพระวิหารด้วยซ้ำ แล้วจะเป็นของเราได้อย่างไร พูดอีกอย่างก็คือ ต่อให้คิดว่าเป็นของเรา เราก็อาจจะใช้ประโยชน์ไม่ได้

การหยิบประเด็นอันไร้เหตุผลนี้มา จึงสะท้อนว่ากลุ่มพันธมิตรฯ เองอับจนปัญญาอย่างที่สุดที่จะหาจุดอ่อนของรัฐบาลมาเป็นจุดขาย (ทั้งๆ ที่มีจุดอ่อนมากมายที่แม้จะ ‘ขาย’ ไม่ได้แต่ก็เป็นประโยชน์ต่อประชาชน) จึงเลือกที่จะเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกของประชาชน และการลงเอยของอารมณ์ความรู้สึก มันก็อาจจะจบลงเหมือนที่นักการเมืองในกัมพูชาเคยเอาประเด็นดาราไทยไปบิดเพื่อปลุกกระแสคลั่งชาติจนกระทั่งบุกเผาสถานทูตไทยในกัมพูชามาแล้ว

 น่าสงสัยว่า ธงของกลุ่มพันธมิตรฯ คืออะไร หลังจากที่ประเด็นเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ถูกกันและมีสัญญาณห้ามอย่างชัดเจนจากทุกฝ่ายมาแล้ว มาบัดนี้มาเปิดประเด็นว่าด้วยเรื่อง ‘ชาติ’ อย่างไร้เหตุผล และจงใจปั่นที่อารมณ์ความรู้สึก ใช่หรือไม่ ที่ยังคงเป้าหมายไว้ที่การจ]าจล และใช้ประชาชนที่นิยมตนเป็นเหยื่อ

หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ใช่หรือไม่ที่ความขลาดเขลาของคนไม่กี่คน เกิดขึ้นจากการไม่ชอบหน้านักการเมือง ไม่เชื่อมั่นนักการเมือง และไม่เชื่อมั่นในรัฐธรรมนูญ กฎกติกา กลไกและการตรวจสอบใดๆ อีกแล้ว ทั้งๆ ที่ตัวเองมีส่วนสร้างมากับมือ

ใช่หรือไม่ว่า ความขลาดเขลาของคนไม่กี่คน เกิดขึ้นจากความกลัวว่า ‘เขา’ จะเอาคืน  จนหลงลืมว่าตนเคยเป็นคนมีเหตุมีผลอย่างไร กระทั่งทำให้ต้องเห็นแก่ตัวอย่างที่สุดโดยเอาชีวิตประชาชนมาเดิมพัน

 มนุษย์ต้องมีจินตนาการ และผมยังฝัน ฝันว่า คนบางคนในกลุ่มพันธมิตรฯ จะเรียกร้องความกล้าครั้งสุดท้ายในชีวิตเพื่อให้คนได้จดจำความกล้าของเขา ด้วยการเดินลงจากหลังเสือ

ไม่เช่นนั้น หากเหตุการณ์ในวันข้างหน้าบานปลาย กลายเป็นการจลาจล เกิดความรุนแรง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากฝ่ายไหน ไม่ว่าใครจะกระทำ ไม่ว่าใครจะผิด นอกจากรัฐบาลที่ผิดและต้องรับผิดชอบแล้ว คนที่ ‘ปั่น’ เหล่านี้ก็หนีความรับผิดชอบและการถูกตราหน้าว่า ‘มือเปื้อนเลือด’ ไปไม่พ้นจนชั่วลูกชั่วหลาน


http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms01&ID=2804&Key=BK

มือเปื้อนเลือด ???

อาจจริงฮะ หากวันไหนที่รัฐบาลจัด นปก ออกมาปะทะ
พวกพันธมิตรคงจะระดมออกหมัดใส่ นปก อย่างเมามันส์ เพราะ นปก แก๊งค์กุ๊ย มันกวนโอ๊ยซะจริง
ใครมือยาว สาวได้สาวเอาก็แล้วกัน นปก กุ๊ยมันมากันน้อย ของมีจำกัด ... บำเรอความสุขของพันธมิตรไม่ครบหรอก

 :slime_smile:


หัวข้อ: Re: เหลือเชื่อจริง จากเรื่องสอบนักการเมืองโกงชาติ กลายเป็นเรื่องเปลี่ยนแปลงการปกครอง
เริ่มหัวข้อโดย: Cheel2 ที่ 04-07-2008, 00:25
[อันที่จริง จินตนาการไปทางไหน กัมพูชาก็ต้องเป็นเพื่อนบ้านของเรา จินตนาการตรงไหน เขาพระวิหารก็ต้องอยู่ตรงนั้น ไม่มีใครยกไปไหนได้ การไม่ทะเลาะกับเพื่อนบ้านก็ทำให้ใช้ประโยชน์จากเขาพระวิหารได้ทั้งสองฝ่าย (โดยที่เราไม่ต้องดูแลรักษา) พูดง่ายๆ ไม่ใช่ของเรา แต่เราใช้ประโยชน์ได้ ตรงกันข้าม ยิ่งหยิบเรื่องนี้มาเล่น ต่อให้ไล่รัฐบาลได้ เราเองก็อาจจะไม่มีโอกาสได้ไปแม้กระทั่งเหยียบบันไดขั้นแรกของตัวปราสาทเขาพระวิหารด้วยซ้ำ แล้วจะเป็นของเราได้อย่างไร พูดอีกอย่างก็คือ ต่อให้คิดว่าเป็นของเรา เราก็อาจจะใช้ประโยชน์ไม่ได้

การหยิบประเด็นอันไร้เหตุผลนี้มา จึงสะท้อนว่ากลุ่มพันธมิตรฯ เองอับจนปัญญาอย่างที่สุดที่จะหาจุดอ่อนของรัฐบาลมาเป็นจุดขาย (ทั้งๆ ที่มีจุดอ่อนมากมายที่แม้จะ ‘ขาย’ ไม่ได้แต่ก็เป็นประโยชน์ต่อประชาชน) จึงเลือกที่จะเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกของประชาชน และการลงเอยของอารมณ์ความรู้สึก มันก็อาจจะจบลงเหมือนที่นักการเมืองในกัมพูชาเคยเอาประเด็นดาราไทยไปบิดเพื่อปลุกกระแสคลั่งชาติจนกระทั่งบุกเผาสถานทูตไทยในกัมพูชามาแล้ว]



30-20 ปี ที่แร้ว คนไทยร้องไห้กับการจะเสียเขาพระวิหาร (ตาเล่าให้ฟัง) เนื่องจากเสียรู้ให้กับปะเทศอำนาจ  ตอนนี้เป็นประเด็นไร้เหตุผล
เราเองก็อาจจะไม่มีโอกาสได้ไปแม้กระทั่งเหยียบบันไดขั้นแรก <<< งั้นมันเองก็เดินขึ้น หน้าผา มาละกัน
ที่ ผิดคืน ไมรัฐบาลไป ยอมรับ
...เขมร เป็นเจ้าของ ปราสาท แล้วที่ รอบๆจะเหลือ เหรอ


หัวข้อ: Re: เหลือเชื่อจริง จากเรื่องสอบนักการเมืองโกงชาติ กลายเป็นเรื่องเปลี่ยนแปลงการปกครอง
เริ่มหัวข้อโดย: mebeam ที่ 04-07-2008, 11:31
เห็น ชื่อกระทู้ นึกว่าพูดถึง พธม.

เริ่มจาก ไล่ทักษิณ นักการเมืองโกงชาติ
ตอนนี้ กลายเป็นเรื่องเปลี่ยนแปลงการปกครอง 70: 30
ประท้วงไปเรื่อย  ไม่รู้จะไปจบที่ไหน   :slime_smile:


หัวข้อ: Re: เหลือเชื่อจริง จากเรื่องสอบนักการเมืองโกงชาติ กลายเป็นเรื่องเปลี่ยนแปลงการปกครอง
เริ่มหัวข้อโดย: The Last Emperor ที่ 04-07-2008, 11:36
การเมืองระบบใหม่ 70:30 แป๊กเน่าสนิดปิดหลุมลัทธิพันธมารแบบไม่มีลุ้นเลยอ่ะ คริ คริ :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: เหลือเชื่อจริง จากเรื่องสอบนักการเมืองโกงชาติ กลายเป็นเรื่องเปลี่ยนแปลงการปกครอง
เริ่มหัวข้อโดย: Pig.Army ที่ 04-07-2008, 14:41
การเมืองระบบใหม่ 70:30 แป๊กเน่าสนิดปิดหลุมลัทธิพันธมารแบบไม่มีลุ้นเลยอ่ะ คริ คริ :slime_smile2:
.
.
.
จุ๊ๆ อย่า เอ็ด ไป เท่านี้ก็อายจนจะไม่มีที่ซุกหัวอยู่แล้ว                  พาลทะมิต ประชาชน เพื่อ?   
.
.
.ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก :slime_hmm: