หัวข้อ: ข่าวแปะ : รายงาน - เมืองใหม่กาสิโนผุดรับมรดกโลก "พระวิหาร" เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 27-06-2008, 14:13 (http://www.komchadluek.net/2008/06/25/images/thumbFilename2_11090542low_copy.jpg) แฉเขมร วางผังสร้างเมืองใหม่ ดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้ง กาสิโน โรงแรมหรู กระเช้าไฟฟ้า สนามบิน หลังปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ขณะที่ไทย "มือเปล่า" แถมยังถูกดูดเงินจากกระเป๋านักพนันเข้าบ่อน การอภิปรายถามรัฐบาลกรณีเขาพระวิหาร โดยเปิดประเด็นถึงท่าทีของรัฐบาลเกี่ยวกับการเปิด "ช่องตาเฒ่า" ที่ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ในการชี้เป็นชี้ตายของการได้ประสาทพระวิหารอย่างสมบูรณ์ของกัมพูชา โดยไม่ต้องพึ่งทางขึ้นฝั่งไทย ของ พิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ ส.ว.พิษณุโลก ถือเป็นอีกประเด็นที่ฉายให้เห็น "ผลประโยชน์เบื้องต้น" และการเตรียมการของคณะบุคคลหลายสัญชาติ ในการผลักดันเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ช่องตาเฒ่า อ.กันทรลักษ์ เป็นช่องทางเข้า-ออก ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หากเดินทางเข้าเขาพระวิหารฝั่งไทย "ช่องตาเฒ่า" จะแยกไปทางด้านซ้าย และถือเป็นช่องตามแนวชายแดนที่เข้า-ออกสะดวก ที่ใกล้เขาพระวิหารมากที่สุด และประเด็นที่กัมพูชาเสนอเฉพาะตัวปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ก็ด้วยการเตรียมการล่วงหน้าที่จะพัฒนาบริเวณเขาธงชัย ฝั่งตรงข้ามช่องตาเฒ่า ให้เป็นเมืองใหม่ที่เพียบพร้อม และเป็นสถานีขึ้น-ลง ของรถกระเช้าลอยฟ้าจากฝั่งกัมพูชาขึ้นตัวปราสาท (http://www.komchadluek.net/2008/06/25/images/thumbFilename2_d44_copy7.jpg) เรื่อง นี้เป็นปัญหาใหญ่ที่ฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะกองทัพและ สมช.ได้พิจารณาการเตรียมการของฝ่ายกัมพูชาในการพัฒนาบริเวณเขาธงชัย ที่จะกระทบต่อความมั่นคงของไทยโดยตรง ฝ่ายกัมพูชาและนักการเมืองไทย นักธุรกิจ และนายทหารบางกลุ่มที่ต้องการเปิดช่องตาเฒ่า มาตั้งแต่ปี 2546 หลังจากแนวคิดของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลการท่องเที่ยว ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เสนอแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงไทย-ลาว-กัมพูชา และสรุปลงตรงการสร้างจุดขายโดยการสร้างสนามกอล์ฟบริเวณสามเหลี่ยมมรกต ในพื้นที่รอยต่อสามชาติที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี หลังจากนั้นแผนการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในแหล่งอารยธรรมขอมใน ย่านอีสานใต้ก็ตามมา แต่ฝ่ายทหารส่งสัญญาณไม่ตอบรับ และสุดท้ายก็มีการเปิดช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และยกฐานะเป็นด่านถาวร และมติ ครม.ของไทย วันที่ 10 มิถุนายน 2547 ได้อนุมัติงบประมาณแบบให้เปล่าแก่กัมพูชา เพื่อก่อสร้างถนนจากช่องสะงำ-อัลลองเวง-เสียมเรียบ ระยะทาง 167 กิโลเมตร (อยู่ในพื้นที่ประเทศไทย 16 กิโลเมตร ในกัมพูชา 151 กิโลเมตร) จำนวนเงินรวม 229 ล้านบาท ทั้งโครงการจะแล้วเสร็จต้นปี 2552 โดย บริษัท ช.การช่าง เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง เส้นทางนี้เป็นโครงการเชื่อมการท่องเที่ยวระหว่างไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ และเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดในการเข้าถึงปราสาทนครวัด-นครธม แหล่งข่าวด้านความมั่นคง ระบุว่า เรื่องการยกเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก สมช.ได้พิจารณาคู่กับผลที่จะตามมาที่เกี่ยวเนื่องกับความมั่นคงตามแนวชายแดน โดยเห็นว่าหากเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก และต่อไปไทยก็มีแนวโน้มที่จะเปิด "ช่องตาเฒ่า" เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ฝ่ายกัมพูชาเพราะมีนักการเมือง และนายทุนฝ่ายไทยหลายคนพยายามผลักดันมาตั้งแต่ปี 2546 แต่ฝ่ายความมั่นคงไม่เห็นด้วย เพราะพิจารณาตามโครงการที่เตรียมไว้ ในบริเวณตรงข้ามช่องตาเฒ่า จะมีทั้งโรงแรม กาสิโน สนามบิน และเป็นสถานีรถกระเช้าไฟฟ้า ที่มีรายงานว่ามีบริษัทต่างชาติเตรียมจะมาลงทุนสร้างขึ้นเขาพระวิหาร "เราพยายามไม่ให้เปิดช่องนี้ โดยปี 2546 เราให้เปิดช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ แทน และช่องนั้นสามารถผ่านไปถึงเสียมเรียบ ได้ใกล้ที่สุด และเขาอ้างการเปิดช่องตาเฒ่าเพื่อการขนถ่ายสินค้า ก็ไม่ใช่เหตุผลเพราะบริเวณนั้นไม่มีเมืองขนาดใหญ่ที่จะรับสินค้า หรือส่งสินค้าเข้าไทย แต่จะเป็นการสร้างเมืองเพื่อการท่องเที่ยวมากกว่า จึงไม่ควรเปิดช่องตาเฒ่าเพราะไทยไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย" แหล่งข่าวกล่าว แหล่งข่าวระบุอีกว่า หากมีการเปิดช่องตาเฒ่าเป็นด่านถาวร ปัญหาด้านความมั่นคงของไทยจะตามมาทันที เฉพาะเปิดช่องตาเฒ่าที่ผ่านมา ทำให้ปัญหาชายแดนด้านนี้เพิ่มความรุนแรงขึ้น ทั้งเรื่องยาเสพติด ปัญหาโจรผู้ร้าย รวมทั้งปัญหาการข้ามชายแดนเข้ามาตัดไม้ เพราะในพื้นที่กัมพูชาด้านนั้นไม่มีป่าไม้ให้ตัดอีกแล้ว และหากเปิดช่องตาเฒ่า ที่ฝั่งกัมพูชาจะมีทั้งกาสิโน โรงแรม สนามบิน และสถานีรถกระเช้าไฟฟ้า ปัญหาจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะปัญหาที่ต่อเนื่องจากการพนัน การสร้างอิทธิพล "ที่น่าเป็นห่วงคือบ่อนกาสิโน ที่แต่ละแห่งชาวไทยต้องนำเงินไปเล่นวันละไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ทำให้คนกลุ่มนี้มีอิทธิพลต่อการเมืองไทย ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ที่เป็นทั้งผู้สนับสนุนทางการเงิน การฟอกเงินที่นักการเมืองคอรัปชั่น หากยิ่งขยายธุรกิจนี้มากขึ้นเท่าใด ไทยจะมีปัญหาที่แก้ไม่ตก" แหล่งข่าวกล่าว นายศรีวรรณ เกียรติสุรนนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จากการเข้าสำรวจของทีมเฉพาะกิจ เพื่อการลงทุนของหอการค้า พบว่า บริเวณฝั่งตรงข้ามช่องตาเฒ่าในพื้นที่กัมพูชา ด้านล่างเขาพระวิหาร มีการวางผังเมืองไว้เรียบร้อยแล้ว โดยในรายละเอียดเป็นการรองรับการท่องเที่ยวเขาพระวิหารโดยตรง โดยตามผังเมืองใหม่จะมีทั้งกาสิโน โรงแรม สนามบิน สถานีรถกระเช้าไฟฟ้า และโดยขนาดของเมืองถือว่าเป็นเมืองขนาดใหญ่พอสมควร "ถ้าการพัฒนาเมืองตามผังแล้วเสร็จ ไทยก็ไม่ได้อะไร ที่เป็นการเชื่อมเส้นทางท่องเที่ยวก็ได้ประโยชน์เฉพาะคนบางกลุ่มเท่านั้น เพราะเป็นผังเมืองที่วางไว้เป็นเมืองท่องเที่ยว บ่อนการพนันจะสูบเงินจากคนไทยเข้าไปในกัมพูชาเหมือนที่เกิดขึ้นที่ช่องจอม" นายศรีวรรณ กล่าว โครงการเมืองใหม่เขาธงชัย ฝั่งกัมพูชาที่จะเป็นเมืองท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่มีจุดขายคือการขึ้นปราสาท เขาพระวิหารโดยรถกระเช้าไฟฟ้า สอดคล้องกับข้อมูลที่เปิดเผยโดยแหล่งข่าวในองค์การแห่งชาติพระวิหาร ระบุว่า โครงการก่อสร้างรถกระเช้าลอยฟ้าขึ้นปราสาทพระวิหารได้ผ่านการศึกษาโครงการ เรียบร้อยแล้ว และมีการกำหนดจุดก่อสร้างที่จะขึ้นสู่หน้าผาที่สูงจากพื้นขึ้นไปประมาณ 500 เมตร และบริษัทจะลงทุนสร้างสนามบินบนเนื้อที่ 25 ตารางกิโลเมตร ห่างจากชายแดน 32 กิโลเมตร โดยใช้งบลงทุน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยบริษัทที่จะเข้าดำเนินการในโครงการนี้เป็นบริษัทเอกชนจากอินเดีย ที่มีประสบการณ์ในการก่อสร้างรถกระเช้าไฟฟ้าที่ประเทศเวียดนามมาแล้ว จากการประเมินความคุ้มในการลงทุน จากฐานนักท่องเที่ยวที่ขึ้นชมปราสาทพระวิหาร จากฝั่งประเทศไทยวันละ 300-400 คน จะเพิ่มเป็น 6 เท่า ยิ่งหากปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกด้วยแล้ว จำนวนนักท่องเที่ยวที่จะไหลจากนครวัด นครธม จะมาที่ปราสาทพระวิหารหลายสิบเท่า และที่นี่มีทุกอย่างรองรับ นอกจากการวางผังเมืองรองรับการท่องเที่ยวปราสาทพระวิหาร ด้านเขาธงชัย อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร ฝั่งตรงข้ามช่องตาเฒ่าแล้ว พบว่ามีการขยับตัวของนายทุนในวงการบ่อนกาสิโน ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณฝั่งตรงข้ามช่องจอม 2 แห่ง ที่สูบเงินคนไทยเฉลี่ยวันละ 10 ล้านบาท ทั้งกลุ่มของ "พัด สุภาภา" คนสนิทของสมเด็จฮุน เซน และสนิทกับนักการเมืองสายพรรคพลังประชาชน เจ้าของกาสิโน "โอร์เสม็ด รีสอร์ท" และได้สัมปทานไฟฟ้าจากฝั่งไทยเข้าไปขายในกัมพูชาแต่เพียงผู้เดียว เริ่มขยับเข้าเตรียมลงทุนในเขตเมืองใหม่ ขณะที่กลุ่มของ "ลึม เฮง" นายทุนจากสิงคโปร์ เจ้าของ "รอยัล ฮิลล์" บ่อนกาสิโนอีกแห่ง ได้ขยับมาสร้างโรงแรมและบ่อนกาสิโนที่บริเวณช่องสะงำ และได้สัมปทานไฟฟ้าเข้าไปจำหน่ายในกัมพูชา และจะใช้สำหรับโครงการเมืองใหม่ใต้ปราสาทเขาพระวิหาร นี่เป็นผลประโยชน์เบื้องต้นอันมหาศาลที่เป็นเพียง "ของแถม" หากปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่กัมพูชายอมเสนอขึ้นทะเบียนมรดกโลกเพียงตัว ปราสาท โดยการเห็นชอบของกระทรวงการต่างประเทศของไทย หากปัญหาลุกลามจนปราสาทพระวิหารไม่ผ่านการรับรองเป็นมรดกโลก โครงการเมืองใหม่ของกัมพูชาอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ชอบธรรมในการสร้างรถกระเช้าลอยฟ้าขึ้นตัวปราสาทจากฝั่งกัมพูชาเอง แต่หากปราสาทพระวิหารได้รับการรับรองเป็นมรดกโลกตามแผนการแล้ว นั่นย่อมถือเป็น "โบนัส" ก้อนใหญ่ สำหรับนักธุรกิจบ่อนกาสิโนรายใหญ่ในกัมพูชา ที่มีอิทธิพลและมีบทบาทในการต่อน้ำเลี้ยงและฟอกเงินให้แก่นักการเมืองไทย .....คมชัดลึกรายวัน ที่มา http://www.parliament.go.th/news/news_detail.php?prid=145257 หัวข้อ: Re: ข่าวแปะ : รายงาน - เมืองใหม่กาสิโนผุดรับมรดกโลก "พระวิหาร" เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 27-06-2008, 14:15 ชัดหรือยังครับ พี่น้องงงงงงงง :slime_bigsmile:
หัวข้อ: Re: ข่าวแปะ : รายงาน - เมืองใหม่กาสิโนผุดรับมรดกโลก "พระวิหาร" เริ่มหัวข้อโดย: -3- ที่ 27-06-2008, 14:38 ทราบแล้วเปลี่ยน :slime_bigsmile:
หัวข้อ: Re: ข่าวแปะ : รายงาน - เมืองใหม่กาสิโนผุดรับมรดกโลก "พระวิหาร" เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 27-06-2008, 14:40 มันมีผลประโยชน์ทับซ้อนแบบนี้เอง
:slime_mad: หัวข้อ: Re: ข่าวแปะ : รายงาน - เมืองใหม่กาสิโนผุดรับมรดกโลก "พระวิหาร" เริ่มหัวข้อโดย: h_e_a_t ที่ 27-06-2008, 14:44 ผมมั่นใจอยู่เรื่องหนึ่งว่า คนกัมพูชาที่มีจิตสำนึกดีๆ ยังมีในประเทศเขา แต่อาจยังไม่กล้าออกมาประท้วงเหมือนบ้านเรา
และเชื่อว่าในอนาคต เครือข่ายของประชาชนชาวกัมพูชาที่ทนไม่ได้กับรัฐบาลของเขาและนักการเมืองเลวๆของเรา อาจจับมือกันต่อต้าน ก็เป็นได้ เชื่อว่าคนกัมพูชาที่มีสำนึกดีๆ มีไม่น้อยครับ หัวข้อ: Re: ข่าวแปะ : รายงาน - เมืองใหม่กาสิโนผุดรับมรดกโลก "พระวิหาร" เริ่มหัวข้อโดย: กระดานดำออนไลน์ ที่ 27-06-2008, 15:14 ถ้าเคยเข้าออกระหว่างไทย-กัมพูชา ทางด่านภูสิงห์-ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ พอถึงจังหวัดอัลลองเวงของกัมพูชา เลี้ยวซ้ายไปทางจังหวัดพระวิหาร ถนนหนทางทำเสร็จแล้ว หากมาจากเสียมเรียบ ใช้เวลาราว ๒-๓ ชั่วโมง ก็ถึง ปลายปีนี้ ได้ข่าวว่าถนนหนทางลาดยางเรียบร้อย ตอนนี้ก็เกิน ๕๐% แล้วครับ
ที่จริงเรื่องเมืองใหม่นี่มันมีข่าวมานานแล้วครับ ถ้าเราไปกัมพูชา ไกด์ก็จะเล่าให้ฟังอยู่เสมอ :slime_bigsmile: |