ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

พวกคุณคิดว่า ทุกๆคนมีพลังจิต จริงเหรอครับ พลังจิตมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความสงบนิ่งของจิต หรือจำนวนแสงออร่าในกายของเรา (จริงหรือ??) ผมเคยได้ยินเรื่องพลังจิต ว่า ทุกๆคนมีพลังจิตที่หลับอยู่ในกายมากกว่า 90% ที่สามารถนำมาใช้ได้จริงน้อยกว่า 10% และพลังจิตจำนวนนี้จะถูกนำเสนอในแง่ของลางสังหรณ์ ความรู้สึกแปร๊บปร๊าบชั่วครู่ ในฝัน (เช่น คุณกำลังลังหลับอยู่ที่โซฟา และฝันว่าคุณกำลังปั่นจักรยาน และเสียหลัก จักรยานล้ม และคุณก็สะดุ้งสุดตัว พอรู้สึกตัวอีกที คุณก็ตงจากโฟซามากองที่พื้นแล้ว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ประจวบเหมาะกับในฝัน) ผมเคยดูรายการ มีนักทดลองเรื่องพลังจิตคนหนึ่ง เธอบอกว่า มนุษย์เรา นำพลังที่มีอยู่ในใช้ไม่ถึง 10% แต่กลับฝช้พลังกายมากกว่าที่ตัวเองมีเกือบทุกครั้งในการทำอะไรต่างๆ เธอได้ใช้กระดาษ พับครึ่งเป็นรูปสี่เหลี่ยม และใช้ฟันตะเกียบขาดสองท่อน รอยขาดของตะเกียบ ราบเรียบเหมือนใช้มีดคมๆฟัน เธอบอกว่า เธอถ่ายทอดพลังจิตของเธอผ่านตะเกียบให้ทรงพลังยิ่งกว่ามีดซะอีก ผมลืมชื่อเธอไปแล้วครับ เพราะผมดูรายการเธอตั้งแต่ผมยังเด็กๆ มากๆด้วย มันคงฝังใจมากกว่า ทำให้ยังไม่ลืมเรื่องเหนือธรรมชาติ

ส่วนเรืองการฝึกสมาธิเพื่อให้มีพลังจิตเข้มแข็งขึ้น อาของผมเองล่ะครับ เป็นคนเชียงรายชื่อน้อยหน่า ผมเรียกเธอว่า อาหน่า  เมื่อสองปีที่แล้วอาของผมไปเยี่ยมผมตอนเรียนไฮสกูล  ตอนนั้นเธอยังเป็นพุทธอยู่ครับ ตอนนี้เป็นคริสเตียนไปแล้ว เนื่องจากเธอบอกว่า คริสเตียนทำให้เธอเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น อันไหนที่ดีกับเธอผมก็ยินดีกับเธอแหล่ะครับ แต่ตอนที่อาหน่าเป็นพุทธนั้น เธอเคร่งครัดมากๆ เรื่องการทำสมาธิ การฝึกจิต เธอสามารถตัดไฟได้ด้วยนะครับ คือประมาณว่า นั่งสมาธิ แล้วจ้องไปที่เทียน แค่อาหน่าเขม็งตา เทียนก็ดับเลย เธอบอกว่า มันเป็นผลจากการฝึกจิตอย่างหนึ่ง แล้วผมก็เคยได้ยินมาว่า มีพระภิกษุหลายคน สามารถระลึกชาติได้ หรือสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่มนุษย์ธรรมดาอย่างเราๆทำได้ มันจริงรึเปล่าว่า หากยิ่งเราละกิเลสมากเท่าไหร่ พื้นที่จิตใจของเรามันก็จะว่างพอให้พลังจิตของเราแสดงออกได้มากขึ้นเท่านั้น ผมไม่ฟันธงนะครับ เพราะผม ไม่เคยทำอะไรทำนองนี้ได้  :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:

เรื่อง UFO ผมมีหนังสือเล่มหนึ่ง บอกหมดเลยเกี่ยวกับการที่ OUF มาเยือนโลก วิธีการเรียก เอเลี่ยน อะไรทำนองนี้ เสียดายที่ผมจำเนื้องเรื่องไม่ค่อยได้ และหนังสือเล่มนั้น ตอนนี้หายไปแล้ว เอาเฉพาะที่ผมจำได้ อาจคลาดเลื่อนไปหน่อย แต่ไม่ใข่แน่นอน  :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: เรื่องมันประมาณนี้ มีนายคนหนึ่ง เป็นอเมริกัน อยากเจอ UFO มากๆ และเชือ่มั่นอย่างแรงกล้าว่า ในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่จะมีโลกเท่านั้นที่มีสิ่งมีชีวิต ทุกๆ เขาจะทำสมาธิ และอ้อนวอน หรือเรียกว่าสวดก็ไม่รู้นะครับ ทำนองว่า เรียก มนุษย์ต่างดาวให้ปรากฏตัว ผมจำเวิร์ดดิ้งไม่ได้ว่าเค้าท่องอะไรมั่ง แต่เค้าพูดทำนอง เอเลี่ยนหรือผู้ที่มาจากอนาคต หรืออะไรก็ดี ข้าพเจ้าอยู่ตรงนี้ หากได้ยิน หรือรับรู้คลื่นของข้าพเจ้า ได้โปรดปรากฏตัวด้วย  ประมาณเนี้ย และแล้ววันหนึ่ง ก็มีมนุษย์ต่างดาวปรากฏตัวขึ้นจริงๆ ผมจำไม่ได้ว่าชายคนนั้นชื่อริชาร์ดหรืออะไร แต่ก็ช่างเถอะ เขาให้สัมภาษณ์ในหนังสือว่า มนุษย์ต่างดาว แท้จริงแล้ว ไม่ได้มาจากดาวดวงอื่นที่ไหนเลย แต่เป็นลูกหลานเราที่มาจากอนาคต ที่ต่อไปข้างหน้า โลกเราจะเต็มไปด้วยมลพิษ ทุกคนต้องอาศัยอยู่ใต้พิภพ หรือใต้บาดาล และด้วยวิวัฒนาการ ลูกหลานเราในอนาคตสามารถสร้าง ไทม์แมชชีนได้ และสิ่งแปลกๆที่เกิดขึ้นที่ ไทรแองเจิล แถบไมอามี่ ทะเลสาปแอตแลนติค ก็คือฝีมือของพวกนี้ ผมไม่รู้ว่าเค้าเพ้อเจ้อหรืออะไรก็ตาม แต่เขาบอกว่าเขาไปเยือนโลกอนาคตมาแล้ว และสภาพร่างกายของเราจะเปลี่ยนแปลงไป จนเราคิดว่า นี่ไม่ใช่มนุษย์โลกแน่ๆ

ผมไม่รู้ว่าการฝึกพลังจิตคืออะไร และต้องทำอย่างไร ก็อยากรู้เหมือนกัน ใครรู้ช่วยบอกผมด้วยนะครับ การที่เราทำสิ่งๆหนึ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ หรือเป็นไปได้ยากซ้ำๆ ซากๆ หลายๆรอบ เรื่อยๆ นั้น จะทำให้เราสามารถกล้าแกร่งในจุดที่ควรจะได้รึเปล่า

ตอนนี้ผมสนใจเรื่องพวกนี้มากๆเลย ใครมีประสบการณ์ เอามาเล่าสู่กันฟังหน่อยนะครับ

เราไม่เคยรุเรื่องนะ แต่เคยได้ยิยมาว่า ให้ฝึกสมาธิก่อนนะค่ะ ไม่งั้นคุณจะไม่รุ้เลยว่าคุณมีพลังจิตหรือไม่ แล้วถ้าเล่นสมาธิได้ คุณจะควาบคุมพลังจิตได้ ปรมาณนี้แระแต่เราไม่แน่ใจ

ลองเอามือไปวน ๆ หน้าหญิงสาวที่ตัวเองชอบ แล้วสั่ง

"จงรักข้าเดี๋ยวนี้"

ถ้ายังไม่ได้ผล แสดงว่าคุณยังไม่มีพลังจิต

ต้องหมั่นฝึกฝน ทดลองไปเรื่อย ๆ

จะลองกับสาวเสรีไทยก่อนก็ได้

หงึกๆ TT^TT

ถ้าผมทำแล้ว ผลมานอาจจะออกตรงกันข้ามกับคาถาที่ท่องก็ด้ายยยยยยยนะ

สนใจคะ และสนใจมาก แต่เก็บไว้ในใจ หรือพูดคุยกับคนที่ชอบคุยเรื่องนี้ แต่ไม่ค่อยมี เลยต้องเก็บไว้คะ เพราะเดี๋ยวคนอื่นจะบอกว่าบ้าไปแล้ว5555
ที่ว่าสนใจเพราะดิฉันได้เจอกับตัวเองหลายอย่างที่ผ่านมา  แต่ก็แค่จำๆไว้คะ เพราะดิฉันคิดว่าตัวเองมีเซ้น และมาบางคราวสัมผัสอะไรที่สื่อไม่ได้ในบางครั้ง แต่ดิฉันก็อยู่กับโลกความจริงคะ  ปัจจุบันคือทำบุญทำทานยิ้มแย้มแจ่มใสคะ
ปล. หลายท่านอาจจะคิดว่าดิฉันปากร้ายแต่ความจริงไม่เลยคะปากนั้นคือเอาไว้ป้องกันตัวมานานแล้ว เพราะดิฉันต้องใช้ชีวิตลำพังในกรุงเทพตั้งแต่ 17 ถึง 30 กว่าๆๆ ปีโดยผู้เดียวในหอพัก หญิง ดังนั้นดิฉันต้องป้องกันตัวเองด้วยคำพูด และต่อมาทงานผู้หญิงคนเดียวในเมืองกรุงลองคิดดุซิคะ จะมานั่ง คะขา หน่อมแห้นม เสียเปรียบเค้าอยู่ไม่ได้หรอกคะ
โอ้ยขอโทษนะคะส่วนตัวไปหน่อย ถ้าสนใจจริงๆดิฉันเชิญหลังไมค์นะคะคุณตลก เพราะเล่าในนี้มันไม่เหมาะคะ เพราะที่นี้ทุกคนอยู่กับปัจจุบันกันคะ

ต้องทำให้สมองปลอดโปร่ง โดยการนั่งเก้าอี้ไฟฟ้าก่อนครับ

เพื่อที่ไฟฟ้า จะได้เป็นตัวกระตุ้นจิต(หรือพลัง)ที่หลับไหลอยู่ข้างในออกมาครับ

ใครไม่มีเก้าอี้ไฟฟ้า ลองหาไฟฟ้าจากไหนก็ได้ มาช๊อตหัวดูครับ ถึงจะยังดึงพลังออกมาไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นได้ครับ

(แรงแค่ไม้ตียุงไม่พอครับ ยิ่งแรงยิ่งดี)

oHHHHHHh อย่างนี่ก็ผมร่วงหมดสิครับ ไม่แน่ อาจเป็นแนวก็ได้ ประมาณว่า ยิ่งปลงได้ ยิ่งมีสมาธิ  :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:

ผมเคยอ่านนิยายเกี่ยวกับพลังจิต ของ ไอแซค อาซิมอฟ ชอบมากครับ
ใครสนใจนิยาย วิทยาศาศตร์+พลังจิต น่าลองหามาอ่าน

เคยอ่านบทความประมาณว่า มนุษย์ นับวัน ยิ่งพลังจิตอ่อนครับ เพราะไม่ได้ใช้
เค้าบอกว่า สัตว์ หลายชนิด รู้เหตุการณ์ล่วง หน้า เช่น หนู แมลง
มันจะย้ายถิ่น ถ้าจะมี น้ำท่วม หรือ แผ่นดินไหว
หรืออย่าง สัตว์บางขนิดก็จะส่งเสียงร้องโหยหวน ผิดปรกติ

เคยมีการทดลองของนักวิทยาศาตร์ไทย
ให้กลุ่มหนึ่ง รดน้ำต้นไม้ธรรมดา
กับอีกกลุ่ม หนึ่ง รดน้ำต้นไม้ แต่ให้ทำสมาธิให้ความรัก เมตตาต้นไม้ไปด้วย
ผลคือ กลุ่มทำสมาธิ ปลูกต้นไม้ได้เจริญงอกงามกว่าครับ

เรื่องเร้นลับเหล่านี้ วิทยาศาตร์ ยังไม่สามารถดึงมันออกมาให้ใช้ประโยชน์ได้ ช่างน่าเสียดาย

ผมจะไปหามาอ่านมั่ง !!!! (ฮึดฮัด ประมาณว่า อยากอ่านมากๆๆๆๆๆ ถึงมากที่สุด) :shocked:

เคยเห็นกับตาเลยค่ะ เพื่อนที่ใช้กระดาษตัดตะเกียบไม้ขาดสองท่อนได้
(มากกว่า 1 ครั้ง - ครั้งเดียวอาจฟลุค เลยต้องพิสูจน์)
แต่ตอนนี้ไม่ได้ติดต่อกันแล้ว
แหม ก็เขาบอกว่ามองเห็น Aura เราด้วย
เลยต้องอยู่ห่างๆ ไว้ กลัวเขาเห็นอย่างอื่นด้วยน่ะสิ

แต่ถ้าคุณ ตลก สนใจ ไว้หาที่อยู่ติดต่อได้แล้ว จะแจ้งให้ทราบดีไหมคะ
ป่านนี้ไม่รู้ฝีมือเธอพัฒนาไปขั้นไหนแล้ว   :shock:

^
^
ไม่สำเร็จหรอกค่า

ใช้ได้ผลซะที่ไหน

ไม่งั้นคนผ่านฟ้าคงได้สมาชิกครบ 2000 ตามเป้าที่กะมาหลอก เอ๊ย มาบอก ครั้งกะนู้น  :lol:

พูดถึงเรื่องหนังสือแนวพลังจิต ผมมีความรู้สึกว่าหนังสือแนวนี้ที่อ่านตอนเป็นเด็กอ่านได้สนุกกว่าหนังสือที่ออกมาใหม่ๆ ดูเป็นเหตุเป็นผลกว่านะครับ ที่ออกมาใหม่ๆดูจับแพะชนแกะไปหน่อย

อาจจะโดนเธอสวนเรามาด้วยหมัดนะ เสี่ยงเกินไป ขอเปลี่ยนวิธี   :mrgreen:

พลังจิตระดับสูงๆ คงฝีกยาก

แต่การฝึกบุคลิกภาพให้ดึงดูดใจคนนี่ ก็น่าจะถือว่าเป็นพลังจิตขั้นพื้นฐานในระดับหนึ่ง เป็นการสะกดจิตขั้นพื้นฐานรึเปล่า

แต่ก่อนรู้สึกจะเคยเห็นว่ามีการฝึกอบรมนี่

และไม่น่าจะยาก หนังสือประเภทนี้ก็น่าจะยังมีขายอยู่

วันนี้ผมไปดูหนังสือที่ร้าน เจอเรื่อง triangle of bermuda ด้วย อ่านไปอ่านมา เอ๊ะ เล่มนี้เรามีแล้วนี่นา - -"

คงเอามาตีพิมพ์ใหม่ล่ะครับ เพราะว่า เนื้อหาข้างในในแบบเดียวกันเป๊ะ


ตอนนี้ก็สนใจเรื่อง อาถรรพ์อียิปต์ด้วยแหล่ะครับ เพราะว่ากันว่ามีข้อมูลหนึ่งที่น่าสนใจและอาจเป็นจริงคือ

ชาวแอตแลนติสได้เดินทางมาสอนวิทยาการ และอารยาธรรมให้ชาวอียิปต์

และได้สอนวิธีสร้างพิรามิด

เราจะเคยอ่านในหนังสือ ส่วนมากเขาบอกว่า อียิปเชี่ยนั้น ขนก้อนหินมาจากแดนไกลลิเบียโดยทางแพ (ทำไมไม่จมก็ไม่รู้เหมือนกัน) และขนทางบกโดยการลากเลื่อน (ผมอธิบายไม่เก่ง หวังว่าคงนึกภาพออกนะครับ - -" ) ส่วนมากเราจะได้รู้ในแนวนี้

แต่อีกแนวหนึ่ง ชาวแอตแลนติสได้สอนวิธี ขนหินแบบง่าย โดยใช้พลังจิต

โดยใช้คน 11 คน ยืนล้อมก้อนหิน แล้วให้แต่ละคยใช้นิ้วชี้ (จำไม่ได้แล้วว่า นิ้วชี้ซ้ายหรือขวา) ชี้ไปที่ก้อนหิน แล้วท่องคาถาอะไรสักอย่างพร้อมๆกัน ตอนนั้นผมบ้ามากเลยครับ จำคาถานั่นได้ด้วย แต่ตอนนี้ลืมแล้วครับ เพราะมันเป็นภาษาโบราณ หากท่องแล้ว หินก้อนหนัง สองตันครึ่งจะลอยขึ้นมาอย่าน่าอัศจรรย์

เค้าว่ามางี้ล่ะครับ

ผมก็อยากรู้จริงๆด้วยแล่ะ ว่าพลังเหนือธรรมชาติ

เราสร้างขึ้นเองได้มั้ย

หรือว่า

แล้วแต่ชะตากำหนด อิ_อิ

เอาเป็นว่า วันนี้ผมเล่นที่บอร์ดนั้วันสุดท้ายแล้ว

เดี๋ยวพรุ่งนี้กลับบ้าน

จะมาให้เห็นหน้าอีกที คงกลางเดือนนู่นละครับ

โชคดีครับทุกท่าน

มาเท้าคางฟัง..

เพราะ.. สนใจเรื่อง พลังจิต..เหมือนกัน

สนใจพอๆ กะ อยากรู้เรื่องการสร้างปิรามิด มัมมี่ ของชาวอียิปต์โบราณ..

ว่าย้อนกลับไปยุคนั้น .. 2 มือของมนุษย์ ที่ไม่มีเทคโนโลยีทันสมัยอย่างทุกวันนี้ .. ทำได้อย่างไร ??

ดิฉัน..เชื่อว่าเรื่องของ พลังจิต มีจริง

เหมือนกะเชื่อว่า..ใน กาแลกซี..ไม่ได้มีสิ่งมีชีวิตแค่ในโลกมนุษย์ เท่านั้น !!

(ใครไม่เชื่อไม่เป็นไร แต่ ดิฉัน เชื่อแบบนี้อ่ะ)

เรื่องของ พลังจิต..ในแง่วิทยาศาสตร์..มีการค้นคว้ามานานแล้ว

ดูเหมือนจะเป็นการสัมพันธ์ที่เกี่ยวโยงของ สมอง กาย สมาธิ ..และ จิตใจ

ดิฉัน..ไม่แน่ใจว่า เราจะสามารถฝึกฝน หรือ ควบคุมพลังงาน เหล่านั้นได้ไหมนะ (น่าจะได้)

( คือ..มีหนังสือที่เขียนเกี่ยวกะการค้นคว้า ในเรื่องของ พลังจิต..อยู่ แต่ยังไม่ได้อ่านเลยไม่กล้าฟันธง)

เอ่อ.. ใครเป็นคอเดียวกัน  มาเล่าสู่กันฟังบ้างเน้อ !!

เอาชื่อหนังสือที่มีมาฝาก...แต่ ไม่ การันตี..นะว่ามีเนื้อหาสมบูรณ์แค่ไหน !!

เล่มที่ ดิฉัน .. มีอยู่ชื่อ พลังจิตและพลังลึกลับ .. คุณ บรรยง บุญฤทธิ์  เป็นผู้แปลและเรียบเรียง

เท่าที่เปิดดูคร่าวๆ..ในหนังสือจะพูดถึงที่มาที่ไปของการค้นคว้า พลังจิต..ในเชิงวิทยาศาสตร์

ซึ่งมีหลายประเทศที่ให้ความสำคัญกะเรื่องนี้มานานแล้ว .. ไม่เว้นแม้แต่.. อเมริกา จีน และ รัสเซีย

พลังจิต.. มีหลากหลายรูปแบบ...อย่างเช่น

ปรจิตวิทยา ซึ่งจะเกี่ยวข้องกะเรื่องของ..การส่งกระแสจิต การสะกดจิต..การใช้พลังของจิตและการควบคุมสมอง

ไม่รู้ดิ..โดยส่วนตัว ดิฉัน กำลังสนใจว่าเรื่องของ สมาธิ..จิตใจ  สมอง

ในแง่ของ..วิทยาศาสตร์..ในแง่จิตวิทยามวลชน..และ ในแง่ของศาสนา ( ศีล สมาธิ ปัญญา )

น่าจะสัมพันธ์กัน.. ( คนละเรื่อง กะ ไสยศาสาตร์..นะค๊า )

แหะ แหะ .. เนื่องจากอ่านแค่คร่าวๆ  และ ไม่มีความรู้หลากหลาย..มากนัก

มาขอความรู้..จากท่านอื่นๆ ดีฝ่า  :D

ระวังเรื่องความสำพัรธ์ระหว่างประเทศนะครับ  :mrgreen: :mrgreen:


จำได้ว่าตอนเด็กๆนอกจากเรื่องอียิปต์และปีรามิด ผมเคยชอบอ่านหนังสือของซีเอ็ดประเภทรวมเรื่องลี้ลับ และก็มีเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับไฟมนุษย์ แบบว่ามีหลายคดีที่ไปพบศพคนที่เชื่อว่าถูกไฟเผาตายแต่ว่าไม่สามารถหาสาเหตและต้นเพลิงได้ ศพที่ถูกค้นพบจะเหลือแต่แค่เถ้าถ่านไม่เหลือแม้แต่กระดูก แต่สิ่งของรอบๆตัวศพเช่น เก้าอี้ที่ผู้ตายนั่ง เสื้อผ้าของผู้ตาย ยังเหลือสภาพเดิม ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ความร้อนขนาดเผากระดูกให้เป็นเถ้าได้จะยังคงสภาพสิ่งของใกล้ตัวผู้ตายได้ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้ฟันธงว่าเป็นไฟที่ไหม้เองจากภายในร่างกายผู้ตาย แต่ก็ยังไม่อาจหาสาเหตได้ว่าอะไรในร่างกายมนุษย์ที่จะเผาไหม้จนได้อุณหภูมิที่สูงขนาดนั้น

จำได้และยังหลอนมาถึงตอนนี้เลยครับ  :wink:

เดี๋ยวค่อยๆอ่าน (จะได้ไม่ต้องซื้อหนังสือ  :))

ฮันแน่ แปลว่า เจ้าของกระทู้ต้องมีจุดประสงค์บางอย่างแน่เลยใช่ปะครับ

ผมก็เชื่อนะเรื่องพลังจิต

แต่เรื่องผีนี่ ผมว่าน่ากลัวน้อยกว่าศพ น่ะ

บางทีมันก็ถูกกำหนดมาตั้งแต่ก่อนเกิด อาจจะสอนให้คนอื่นเข้าใจได้ยาก เป็นความลับของฟ้าดินมั๊ง อิ อิ :mrgreen:
บางครั้งถ้ามีแล้วคุณอาจจะไม่อยากมีมันเลยก็ได้ใครจะไปรู้ :mozilla_cool:

....ผมเองสนใจเรื่องเกี่ยวกับเรื่องแปลก พลังจิต ไสยศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก
เมื่อก่อนก็หาอ่านหนังสือเช่น  แปลก /  ต่วยตูน / เรื่องเหลือเชื่อ
หนังสือกองอยู่ในบ้านเป็นตั้ง แบบว่า "ยอมอดข้าว" เก็บเงินซื้อหนังสือ... :P
ชอบมันทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็น   วิญญาน  ผี  สะกดจิต  สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า
จานบิน มนุษย์ต่างดาว  กำลังภายใน  มนุษย์ตีนโต  มายากล  และอื่นๆ...

...หลายปีก่อนผมเคยทำงานกับเขมร(แดง)อพยพ จ.ศรีสะเกษ
โดยทำงานเป็นนักสุขาภิบาลในค่าย  พูดถึงเขมรคนไทยว่ากันว่า
เป็นชาติที่มี  "คาถา-อาคม ไสยศาสตร์"  ขลังนัก
ผมเองก็เคยเจอกลับตัวเองมาเรื่องหนึ่ง  ขณะพาลูกน้อง( เขมร) 
ไปสร้างส้วมให้ผู้อพยพโดยมีอาสาชาวไทยร่วมทางไปด้วย
ระหว่างทำงานนั้น  ได้ยินเสียง "อุ๊ย"   มองไปเห็นอาสาไทย
ยื่นมือออกมา สีหน้าแสดงอาการเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด
รู้ต่อมาว่าถูกแมงป่องตัวใหญ่กัด  ลูกน้องชาวเขมรคนหนึ่งรีบเข้าไปดู
จับมืออาสาฯ แล้ว "ท่องคาถา"  งึมงำ  สักพักก็เป่าเพี้ยง  สักครู่เดียว
สีหน้าของอาสาฯ ก็คลายขึ้นบอกว่าค่อยยังชั่วแล้ว
และอีกไม่นานกลับทำงานได้เหมือนเดิม   ผมก็ทึ่งเหมือนกัน
เห็นกับตาตัวเอง  ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ (ไม่เชื่ออย่าลบหลู่.....ฮาฮา...)

พูดถึงเรื่องคาถาเวทมนต์   ลูกน้องเขมรบอกว่าถ้าคิดจะมี
ต้องคิดให้ดีว่าคุ้มหรือไม่  เพราะว่ามันจะทั้งส่วนดีและส่วนเสีย 
พร้อมทั้งยกตัวอย่างมาให้  ตัวเขาเองมีคาถาอยู่บทหนึ่ง
ถ้าท่องแล้วหมาจะกัดไม่เข้า  แต่ข้อเสียคือ  ถ้าไปไหนที่มีหมา
มันจะวิ่งมา "กัด" ทันที  ผมไม่ได้ถามเหตุผลกับเขา แต่คิดว่า
หรือหมามันอยากจะ "ลองเขี้ยว" หรือเปล่า  ใครอยากได้คาถาแบบนี้ก็เอา
....ผมคนหนึ่งล่ะที่ไม่เอา...

ีอีกเรื่องคือเรื่อง "เสน่ห์เมตตามหานิยมสาวหลง" ว่ากันว่าถ้าได้
ท่องคาถาใส่สาวใดแล้ว  ไม่เกินสามวันเจ็ดวัน
สาวเจ้าจะมา "ยืนรอ"  อยู่หน้าบ้านเลย แบบลุ่มหลงอะไรอย่างนั้นเชียว !!
แต่มีข้อแม้  ถ้าใช้คาถานี้กับใครถ้าไม่เลี้ยงเขาให้ดี มีความสุข
คาถามันจะเข้าตัว  มีอันเป็นไปเหมือนกัน  ผมลองนึกเอาเองว่า
คุณอยากได้ไหม สาวมาหาที่บ้าน  ยืนตัวแข็ง  สติสตางค์ครบหรือเปล่าไม่รู้
ตามเราไปไหนมาไหนตลอด....   น่ากลัวแฮะ ... :mozilla_laughing:

สรุปจากข้อมูลและประสบการณ์ที่เจอมา  ผมคิดเองว่า
เรื่องลึกลับ มหัศจรรย์  ไสยศาสตร์  จิตวิญญาน ต่างๆ ....
บางเรื่องอาจมีอยู่จริง  ขึ้นอยู่กับเวลา  สถานที่  และที่สำคัญคือ
"สภาพจิตใจ"  ของผู้นั้นเป็นหลัก
ผู้ที่มีพลังพิเศษบางคนใช้พลังพิเศษเหล่านั้นอย่างไม่เกิดประโยชน์
หลายคนใช้เพื่อหาประโยชน์ให้แก่ตนเอง  เช่น   ใบ้หวย  เดินบนไฟ  หายตัว
งอซ่อมช้อน     ปีนบรรไดมีด   ลอยตัวได้  นั่งทางใน   เสกน้ำมนต์รักษาโรค
มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่นำมาใช้ประโยชน์ได้บ้างเช่น
การสะกดจิตเพื่อรักษาคนไข้ 
 
วิชาความรู้อื่นใดมันจะมีค่าอะไรเล่า  ถ้ามันไม่ได้มีมาเพื่อ
สร้างประโยชน์ต่อส่วนรวมเพื่อมนุษย์ชาติ
"พระพุทธเจ้า"  ท่านเองไม่เคยที่จะกล่าวถึงวิชาเหล่านี้เลย
เพราะว่ามันไม่ใช้หนทางที่จะช่วยคนให้ "พ้นทุกข์" ได้
กลับไปเพิ่ม "กิเลสตัณหา" ในตัวมนุษย์ให้เพิ่มมากขึ้น
** ขอเพิ่มเติมนิด ผมว่าก็ดีนะถ้าเราสนใจและศึกษาศาสตร์ใดๆ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์
    แต่ต้องไม่งมงายเกินไป ยึดเหตุและผล ทุกวันนี้ผมก็ยังสนใจเรื่องแบบนี้นะ
    อาจเพราะยังไม่หมดกิเลส.... :P

ถ้าชอบเรื่องแบบนี้ แนะนำให้อ่าน "ต่วยตูน" ครับ