ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สโมสรริมน้ำ => ข้อความที่เริ่มโดย: 100600 ที่ 29-05-2006, 12:14



หัวข้อ: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: 100600 ที่ 29-05-2006, 12:14
เรื่องที่ 1 ... ผมขอเล่าเอง เปิดประเดิม


ภรรยาผู้ประเสริฐ

น่าอ่านมาก ๆ เลย แหละ เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคู่แต่งงานใหม่หวานแหววที่เพิ่งผ่านพิธีมาได้สองอาทิตย์
ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน แต่ฝ่ายสามีก็อดรนทนไม่ได้ที่จะนัดเหล่าสหายหาญทั้งหลาย เพื่อไป สังสรรค์ด้วยกันในตัวเมือง

สามีจึงเอ่ยกับภรรยาใหม่ว่า"ที่รักจ๋า ผมไปข้างนอกสักครู่นะ เดี๋ยวกลับมาจ๊ะ"
ภรรยาถามสามีว่า "สุดที่รัก จะออกไปไหนเหรอคะ"
"คนสวยของผม ขอผมไปที่บาร์หน่อยนะ ไปดื่มเบียร์สักแก้วสองแก้ว เดี๋ยวเสร็จแล้วก็กลับจ๊ะ" สามีส่งเสียงอ้อนวอนภรรยา

"ที่รักอยากได้เบียร์ทำไมไม่บอกล่ะคะ" ว่าแล้วก็เปิดประตูตู้เย็นค้างไว้ให้สามีเห็นว่า
เธอได้เตรียมเบียร์ไว้ให้มากกว่า 25 ชนิด จาก 12 ประเทศ เยอรมัน ฮฮลแลนด์ ญี่ปุ่น อินเดีย และอื่นๆ
สามีได้ยินดังนั้น ก็อึ้งไปก่อนจะเอ่ยกับภรรยาว่า "เยอะจังเลย ที่รักน่ารักที่สุดในโลกเลย รู้มั๊ย....แต่ว่า...ที่บาร์เค้ามีแก้วแช่แข็งด้วยนะ.."

ก่อนที่สามีจะพูดจบประโยค ภรรยาก็ได้ขัดจังหวะสามี "โถ น่าเอ็นดูจริง อยากได้แก้วแช่แข็งก็ไม่บอก นี่คะ ชั้นเตรียมไว้แล้ว"
ภรรยาพูดพลางหยิบแก้วที่แช่แข็งออกมาจากตู้เย็น แก้วเย็นมากขนาดที่เธอ รู้สึกหนาวขึ้นมาทันที้
ฝ่ายสามีเริ่มหน้าซีด ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า "ที่รักจ๋า ที่บาร์มีออร์เดิร์ฟอร่อยๆ ให้เลือกเยอะเลย ผมคงไปไม่นานหรอก เสร็จแล้วจะรีบกลับทันทีเลย ดีมั๊ยจ๊ะ"

"แหม อยากได้ออร์เดิร์ฟก็ไม่บอกกันแต่แรก ชั้นเตรียมไว้ให้คุณแล้วค่ะ"
ภรรยาเดินไปเปิดเตาอบและนำ ออร์เดิร์ฟ 5อย่างออกมาวางตรงหน้าสามีอันได้แก่ ปีกไก่ หมูห่อผัก เห็ดยัดไส้ และหมูแดดเดียว

สามีพยายามอ้อนวอนภรรยาต่อไป
"แต่ว่า ที่บาร์มีอย่างอื่นนะ อย่างเวลาคุยกันกับเพื่อนๆ ที่นั่นเราใช้คำไม่สุภาพหรือคำหยาบบ้าง มันก็ได้บรรยากาศดีนะคนดี"

"อ๋อ อยากได้บรรยากาศก็ไม่บอกแต่แรก ฟังให้ดีนะ ไอ้ควาย ... มึงเอาเบียร์ไปใส่แก้วแช่แข็งห่าเหวไรเนี่ยกระแทกปากมึงซะ
แล้วก็แดกๆพร้อมกะไอ้ออร์เดิร์ฟเชี่ยๆเนี่ย แล้วมึงก็จำไว้ให้ดีนะว่า คืนนี้... มึงต้อง ไม่ ไป ไหน เป็น อัน ขาด ....เข้าใจมั๊ย ไอ้สาดดดดดด"



  :oops:ทั้งหมดนี้มาจาก ฟอร์เวิร์ดเมล์นะครับ ไม่ใช่เรื่องเล่าอัตตชีวประวัติของผม ชัวร์ๆๆๆๆๆๆๆๆ  :oops:  



หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: Prometheus, The Titan ที่ 29-05-2006, 12:19
อยากฟัง "เงินเยน" อีกรอบ มั้ยครับ ป้าเสลา

(รอ Permission)


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: เสลา ที่ 29-05-2006, 12:26
ขอเรื่องใหม่ๆดีกว่าจ้า Titan
เอาเรื่องใหม่ๆ ป้านั่งรออ่าน :D


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: ภูพาน ที่ 29-05-2006, 12:57
เข้ามาขำ....ฮาฮา... :mrgreen:


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 29-05-2006, 12:59
เมื่อดวงวิญญาณของของบิล เกตส์ ไปถึงสวรรค์ เขาจะเป็นอย่างไร
 
ดวงวิญญาณของเขาก็ล่องลอยไปยังจุดกึ่งกลางระหว่างสวรรค์และนรก ที่นั่นเขาได้พบกับพญามัจจุราช พญามัจจุราชกล่าวกับเขาว่า "ในฐานที่เจ้าได้สร้างคุณงามความดีไว้มากมาย ซอฟท์แวร์ของเจ้าเป็นที่นิยมใช้ไปทุกหัวระแหง แม้แต่สวรรค์และนรกยังใช้วินโดวส์ 2003 เป็นเซอร์ฟเวอร์เลย เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะให้เจ้าเลือกว่าจะไปอยู่ในสวรรค์หรือนรก และเพื่อให้เจ้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ข้าจะพาเจ้าไปทัวร์ทั้ง 2 ที่ก่อน ถ้าเจ้าชอบที่ไหน ค่อยเลือกก็แล้วกัน"
 
วิญญาณของนายเกตส์ดีใจมาก เขาขอไปดูที่นรกก่อนเป็นที่แรก
 
ที่นรก:
 
เขาพบตัวเองอยู่บนหาดทรายขาวสะอาด ท้องทะเลสีคราม และแสงแดดอันอบอุ่นสดใส ในทะเลมีเหล่านางงามระดับมิสยูนิเวอร์ส อวบขาวอึ๋ม นุ่งชุดบิกินี่ทูพีซ กำลังเล่นน้ำทะเลอยู่อย่างร่าเริง พร้อมกับเครื่องดื่มนานาชนิด เขาประทับใจมาก แต่ก็ขอไปดูที่สวรรค์ก่อน เพื่อประกอบการตัดสินใจ
 
ที่สวรรค์:

เขาพบว่าตัวเองอยู่บนปุยเมฆขาวและอ่อนนุ่ม มีมวลหมู่นางฟ้านางสวรรค์ บรรเลงพิณขับกล่อมอย่างไพเราะ บางนางก็คอยป้อนผลไม้ให้อย่างฉอเลาะ เขาประทับใจมาก แต่ไม่เท่ากับในนรก "ผมอยากไปอยู่ในนรกครับท่าน!" บิลบอกพญามัจจุราชอย่างลิงโลด เขาแทบจะรอคอยไม่ไหว พญามัจจุราชก็ไม่ขัดใจ "เจ้าจะได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ !"
 
1 สัปดาห์ผ่านไป พญามัจจุราชก็ไปเยี่ยมบิลถึงในนรก เพื่อถามถึงสารทุกข์สุขดิบ ที่นั่น มืดมิด มีเสียงร้องครางด้วยความทุกข์ทรมานของบิล เมื่อพบหน้าพญามัจจุราช บิลจึงคร่ำครวญว่า ท่านพญามัจจุราช ข้าเจ็บปวดทรมาณเหลือเกิน แล้วหาดทรายขาว ทะเลสีคราม และเหล่านางงามทั้งหลายหายไปไหนหมดเล่า ?"
 
"อ๋อ...นั่นมันสกรีนเซฟเวอร์"





หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: THE THIRD WAY ที่ 29-05-2006, 13:09
ฮาครับฮา
ผมลอกจากฟอร์เวอร์ดมามั่งดั่งนี้แล
ขออภัยอาจมีคำไม่สุภาพอยู่บ้าง
เพื่ออรรถรสแห่งเรื่องจึงปล่อยมาครับ
---------------------------------------------
นังเมียโง่"

ตอนจีบกันทีแรกก็จำได้ว่ามันฉลาดมาก นี่นา
เรียนก็สูง หน้าที่การงานก็ดี ทำไมอยู่กันไป
อยู่กันมากลับเป็นว่าโง่ลงได้ถึงขนาดนี้

นังเมียเรานี่ยังโชคดีที่มีผัวฉลาดๆ แบบเราอยู่ข้างๆ นะเนี่ยไม่ใช่คุย
ตอนเด็กๆสมัยประถมผมจะได้รับคำชมจากคุณครูประจำชั้นอยู่เสมอๆ
จะได้รับรางวัลเป็นประจำในวิชา คัดไทย เขียนไทย
ผมยังมีความภาคภูมิใจมาจนถึงทุกวันนี้

แม้เวลามันจะล่วงเลยมานานแล้วก็ตาม
ผมก็ยังคงเป็นคนเก่งอยู่ อันนี้ผมรู้จากนังเมียผม
เพราะผมสังเกตุเห็นนังเมียมันจะ ตบมือดังๆ แล้วก็เอ่ยปากชม ไม่ขาดปาก
ว่าเก่งยังโน้นเก่งยังนี้

เวลาผมซักผ้า ถูบ้าน หุงข้าว ล้างชาม
อย่างยอดเยี่ยมและเสร็จทันในเวลาที่นังเมียผมมันกำหนดไว้
แถมบางครั้งยังมีเวลาเหลือพอที่จะไปล้างส้วมได้เสร็จทันเวลาอีกด้วย

ทีแรกผมก็คิดได้เองอยู่แล้วว่าผมเก่งและฉลาดมาก
ความจริงนังเมียมันไม่บอก ผมก็รู้อยู่แล้ว
ผิดกับนังเมียผมที่นับวันจะโง่ลง ขนาดแอร์ ทีวี ที่สมัยนี้เปิดปิดง่ายๆ
มันยังทำไม่เป็น
รีโมท ตั้งอยู่ข้างหน้านังเมียมันยังใช้ไม่เป็น มือซ้ายถือมันฝรั่ง
มือขวาแก้วน้ำหวาน

ปากก็บอกว่า "นี่เปิดทีวีให้ดูหน่อยซิ แอร์ด้วยนะ ซัก 23 องศา"

อีห่า....รีโมทก็อยู่ข้างหน้าใช้ไม่เป็น มันนี่โง่จริงๆ
ผมเคยสอนให้ใช้หลายครั้ง ก็ยังทำไม่เป็นอีก

แต่นังเมียผมมันก็ยังพอมีความฉลาดอยู่บ้างนะ
หยั่งเช่นว่าวันเงินเดือนผมออก นังเมียมันรู้หมดแนะแถมยังจำแม่น
บางเดือนเลื่อนออกเงินเดือนไปวันไหนวันไหน มันรู้หมดแนะ
ผมยังแปลกใจโง่ๆ แบบนี้รู้ได้ไง
แต่ยังไงนังเมียก็ไม่ฉลาดกว่าผมหรอก มานั่งคอยจำ
คอยเตือนเงินเดือนทุกเดือนเสียเวลา

ผมเลยเอาเลขที่บัญชีของเมีย ให้บริษัทโอนเงินเข้าไปเลย
นังเมียยังชมผมไม่ขาดปากมาถึงทุกวันนี้ ฉลาดมาก ฉลาดมาก
โธ่เอ็งไม่ต้องบอกข้าก็รู้ "นังเมียหัวขี้เลื่อย"

วันก่อนผมก็มีวีรกรรมได้แกล้ง นังเมียโง่ของผม สะจายจิงๆ

เรื่องมันมีอยู่ว่า
อาทิตย์ที่แล้วพาเมียโง่ ไปซื้อกับข้าวมื้อค่ำ ได้ปลาดุกย่าง
สะเดาน้ำปลาหวาน(ของโปรดผมคือหนังปลาดุก)
เผลอแป๊บเดียว(ผมอาบน้ำอยู่)
นังเมียโง่ของผมแอบลอกหนังปลาดุกกินเสียเกลี้ยง ดูสิดูมันทำ
ด้วยความฉลาดของผม เก็บความแค้นอยู่ในใจ
วันต่อมาถึงวันล้างแค้นนังเมียโง่ของผม ไปจ่ายตลาด มันกำลังท้อง
อยากกินมันเทศต้ม ซื้อมา2กิโล
ถึงบ้านพอมันเผลอ ผมลงมือแก้แค้นทันทีโดยไม่ให้นังเมียโง่ของผมตั้งตัว
ผมจัดการลอกเปลือกมันต้มกินจนเกลี้ยง เหลือแต่เนื้อให้มัน

เพื่อนๆครับ มันมาเจอถึงกลับตะลึง ทำท่าน้ำตาคลอ
คงเจ็บใจผมจนพูดไม่ออกเลย

555ให้มันรู้ซะบ้าง "นังเมียโง่"


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: เสลา ที่ 29-05-2006, 13:22

(http://www.free-graphics.com/clipart/Health_And_Medical/General/Sick_in_Bed.jpg)

คนไข้พึ่งรู้สึกตัวจากอาการโคม่า ถามหมอด้วยอาการปลงตกว่า

"ผมจะมีโอกาสอยู่ได้อีกนานสักเท่าไหร่ครับ"

"10..." คุณหมอตอบไม่ทันขาดคำ

"โอว!! 10 เดือน 10 วัน หรือว่า 10 ชม. "  คนไข้ถามสวนหมอขึ้นมาด้วยความหวัง

 เสียงคุณหมอนับต่อ" 9....8....7....6.....5....4................




หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: In The Name Of Justice. ที่ 29-05-2006, 13:23
เด๋วไปหาเรื่องมาก่อนนะ  :(


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: cameronDZ ที่ 29-05-2006, 13:58
เรื่อง กับดักกันชู้

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว (ว้า...ขึ้นต้นก็เชยเลย)

มีพระราชาองค์หนึ่ง มีนางสนมคนโปรดที่สวยมาก และดูท่าจะ "ไวไฟ" มากซะด้วย
เมื่อพระราชามีภารกิจต้องออกรบ จึงมีบัญชาให้ engineer ประจำราชสำนัก (อืม ค่อยทันสมัยขึ้นมาหน่อย)
ทำกับดักพิเศษ ใส่ไว้ใน "ที่ตรงนั้น" ของนางสนม
ถ้าเกิดมีใคร "ใส่" อะไรเข้าไป กับดักนั้นก็จะ "งับ" ขาดด้วนทันที

เมื่อพระราชากลับจากศึกสงคราม
อย่างแรกที่ทรงทำคือ
เรียกข้าราชบริพาร อำมาตย์ราชปุโรหิต มหาดเล็กเด็กชา ทุกคนที่เป็นชาย
มาตรวจพิสูจน์
สั่งให้ถอดกางเกงออกทีละคน

คนที่ 1..2..3...จนถึง คนที่ 99 ถอดกางเกงออกดู ก็เห็น "ด้วน" กันทุกคน
โดน....เอามันไปประหาร ถ้วนหน้า

พอถึงมหาดเล็กคนสุดท้าย
เมื่อถอดกางเกงให้ดู ก็เห็นครบถ้วนสมบูรณ์ดี
พระราชาทรงกล่าวชมเชยที่มีความซื่อสัตย์ต่อพระองค์
แล้วก็แต่งตั้งให้มหาดเล็กคนนั้นเลื่อนชั้นเป็นมหาอำมาตย์เอก

มหาดเล็กก้มกราบด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ
พลางตอบ

"ออบ..อ๊ะ...อัย..อะ..อ๊ะ..อ่ะ" (ขอบพระทัยพะยะค่ะ)


เรื่องนี้ผมได้ฟังตอนไปสอนพิเศษที่ ม.แห่งหนึ่ง ระหว่างนั่งเล่นอยู่ใต้อาคารเรียน
นักศึกษากลุ่มหนึ่งพูดเรื่องนี้อยู่ใกล้ ๆ ผมฟังแล้วสะดุ้งโหยง กลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่ ต้องรีบเดินหนีไป
คือ นักศึกษากลุ่มนี้เป็นนักศึกษาหญิงน่ะครับ  :roll: :roll:


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: In The Name Of Justice. ที่ 29-05-2006, 14:16
+ ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่โง่
เเต่ถ้าฟังโปเตโต้  ถึงมีรักเเท้เเต่ก็ดูเเลไม่ได้
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ตาใส่เเจ่ม
เเต่ถ้าฟังบอดี้เเสลม  มักจะโทษว่าความรักทำให้คนตาบอด
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่เพ้อเจ้อ
เเต่ถ้าฟังพีชเมกเกอร์  จะละเมอถึงเเต่เรื่องบนเตียง
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ปากเราติดดิสเบรก
เเต่ถ้าฟังเบิร์ด-เสก  ถึงอมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ใจเราชอกช้ำ
เเต่ถ้าฟังไอน้ำ จะชอกช้ำเพราะรักคนมีเจ้าของ
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่เหงาหงอย
เเต่ถ้าฟังเสนาหอย จะเเอบเหงาคนเดียว
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่งมงายในความเชื่อเเละศรัทธา
เเต่ถ้าฟังทาทา มักจะพูดว่า ไอ บีลีฟๆ
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้รักกันอย่างไม่ต้องนอนละเมอ
เเต่ถ้าฟังไฮเปอร์  มักจะเจอรักแท้ในคืนหลอกลวง
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ใจไม่เน่าเสีย
เเต่ถ้าฟังนัท มีเรีย มักจะโทษว่า  รักไม่ช่วยอะไร
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้รักกันจนสิ้นชีวิน
เเต่ถ้าฟังเอนโดรฟิน เเล้วจะบอกว่า ถ้าเขามาฉันจะไป
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เราไม่คุยโม้
เเต่ถ้าฟังโปเตโต้  จะถูกต่อว่าปากดีนะเรา
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เรามีสุขเมื่ออยู่ด้วยกัน

เเต่ถ้าฟังน้องพั้นซ์  เพียงเเค่วางมือบนบ่า น้ำตาก็ไหล่
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เราเจอคนดีเสมอ
เเต่ถ้าฟังไฮเปอร์  มักจะเจอผู้ร้ายคนใหม่
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เราเข้าใจกัน
เเต่ถ้าฟังน้องพั้นซ์ บอกได้คำเดียวว่า ยิ่งกว่าเสียใจ
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เรารักกันยิ่งกว่าชีวิน
เเต่ถ้าฟังเอนโดรฟิน  จะเป็นได้เเค่เพื่อนสนิท
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้จิตใจใสเเจ่ม
เเต่ถ้าฟังว่าน วงเเพลม  จะตัดพ้อต่อว่า ไม่บอกให้รู้สักเรื่องได้ไหม
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่เเรด
เเต่ถ้าฟังบิ๊กเเอส มักจะเล่นของสูง
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่หยิ่งยะโส
เเต่ถ้าฟังติ๊ก ชีโร่ จะโอหังว่า  รักไม่ยอมเปลี่ยนเเปลง
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้จิตใจเปล่งปลั่ง
เเต่ถ้าฟังอาหรั่ง จะคุ้มคลั่งว่า  ทำบ้า....ทำบ้าอะไร
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ดีที่ใจมิใช่เพียงเเค่หน้าตา
เเต่ถ้าฟังปนัดดา  ก็จะรู้เพียงว่า ขอเป็นคนเลวที่รักเธอ
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ใจไม่สั่นคลอน
เเต่ถ้าฟังสุนทราภรณ์  เเล้วเธอจะรู้สึก!!
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่เปลืองเเรง
เเต่ถ้าฟังพรศักดิ์ ส่องเเสง  จะเปลืองเเรง เพราะ มีเมียเด็กต้องหมั่นตรวจเช็คใครโทรมา
 
 + ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้สอบผ่านทุกๆ ปี
เเต่ถ้าฟังเเอน สุชาวดี  มักจะติดร.วิชาลืม
 
 
 ***คติ***
 
ไม่มีใคร!! มีค่าพอที่คุณจะต้องเสียน้ำตาให้ เพราะ.....
คนที่มีค่าพอสำหรับคุณนั้น ย่อมไม่มีวันทำให้คุณร้องไห้อย่างเด็ดขาด....

พระมหาสมภัค กิตฺติปญฺโญ...กุฏิ 37



มีใครเคยโพสหรือยังอ่ะ???


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: 500 ที่ 29-05-2006, 14:21
ถึง:ผู้จัดการฝ่าย บุคคล

เรื่อง:รายงานการประเมินผลงานนายมอ7

ในช่วงระหว่างทดลองงาน นายมอ7เป็น พนักงานที่เอาแต่
ทำงาน เขาสามารถทำงานอย่างมีความรับผิดชอบ ไม่เคย
ใช้ เวลางานไปทำเรื่องส่วนตัวและพูดคุยโทรศัพท์ เขาไม่เคย
ลังเลที่จะช่วยเหลือ งานเพื่อนร่วมงาน ในขณะที่ยังสามารถ
ทำงานที่ตนเองได้รับมอบหมายได้ทันเวลา เขาจะใช้เวลาเกินเวลา
งานเพื่อทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จสิ้น โดยถึงกับ จะไม่ไป
พักทานข้าวกลางวันอยู่บ่อยครั้ง นายมอ7เป็นพนักงานที่ไม่มี
ความเย่อหยิ่งถือตัว ถึงแม้ว่าเขาจะมีมาตรฐานที่สูงมากใน
ความรู้ใน สาขาที่เขาได้ร่ำเรียนมา ผมเชื่อว่านายมอ7ไม่มี
จุดด้อยใดๆ บุคคลที่มี คุณสมบัติครบถ้วนเช่นนี้จะเป็น
ประโยชน์ต่อบริษัทของเรา ผมขอแนะนำว่าเราควร จะ
เลื่อนขั้นให้เขาเป็นผู้บริหาร ทั้งนี้การดำเนินการนั้น ควร
จัดการ ให้เร็วที่สุด ครับ
............................................................... .......................

ถึง:ผู้จัดการฝ่ายบุคคล
เรื่อง:รายงานการ ประเมินผลงานนายมอ7(เพิ่มเติม)ตอนผมเขียนรายงานการประเมิน

นายมอ7มายืนอยู่หลังผม ไล่ยังไงก็ไม่ไป รายงานการประเมินขอให้อ่านเฉพาะบรรทัด เว้นบรรทัดนะ ครับ




จากการวิจัยทางจิตวิทยาพบว่า คนที่เซ็กส์จัด มักกดปุ่มมือถือด้วยนิ้วโป้ง




fw mail


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ทำลาย ที่ 29-05-2006, 14:30
เรื่อง: จดหมายถึงศิราณี
ที่มา: ไม่ระบุ


ถึงพี่ศิราณี... ที่นับถือ

นู๋ได้ติดตามการตอบจดหมายของพี่ศิราณีมานานมากแล้วนะคะ....
แต่ก็ไม่เคยเขียนจดหมายมาถึงพี่เลย...จนวันนี้...
นู๋มีเรื่องรบกวนต้องให้พี่ศิฯ...ของนู๋ช่วยแล้วค่ะ


ตอนนี้นู๋อายุ 15 นะคะ เพิ่งทำบัตรไม่นานนี่เองค่ะ...
นู๋มีเพื่อนคนนึงนะคะเป็นผู้ชายค่ะสมมุติชื่อ ต. ละกันค่ะ
เราคบกันมาหลายเดือนแล้วค่ะ... รู้จักกันทางเน็ท..ผ่านเว็บแห่งหนึ่งแหละค่ะ
ก็โทรคุยกัน chat กัน...เมล์หากันเรื่อยมาค่ะ
แต่ไม่เคยเห็นหนัากันนะคะ จนมาเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา...
เค้าก็ขอนัดพบนู๋...เค้าว่าเค้าอยากเจอนู๋...
นู๋เล่นตัวเล็กน้อยพอเป็นพิธี..ทั้งที่ใจระริกอยากตอบตกลงใจจะขาด
นู๋บอกว่าไปไม่ได้มีธุระ...คุณแม่ไม่ชอบให้ไปกะผู้ชาย...
แหลสารพัดค่ะ...จนเค้าเริ่มเปลี่ยนใจ
จะไม่ชวนแล้วนู๋ใจแป้วเลยค่ะ...รีบบอกทันทีว่า
“ถ้าคุณ ต. ตื้ออีกนิดนู๋อาจเปลี่ยนใจ”....
แต่เค้างี่เง่าค่ะ....บอกเกรงใจ
นู๋เป็นอันว่านู๋เป็นฝ่ายชวนเค้าไปแทนค่ะ...
(แต่ไม่เป็นไรนะคะ นู๋เต็มใจ)

และแล้ววันนัดก็มาถึง
เรานัดกันที่หน้าร้านพันธุ์ทิพย์ตามแบบฉบับโลกไซเบอร์...แต่นู๋บอกชัดเจนนะคะ
ว่า...พันธุ์ทิพย์หน้าร้านซีเอ็ดบุ๊คค่ะ...แล้วค่อยไปต่อกันที่สยามหรือมาบุญครอง...
(แหลอีกแล้วค่ะออกนอกประเด็น)....แถวแถวนั้นจะมีโรงหนังแต่กะว่าถ้ามาเจอกัน

นู๋จะล่อลวงเค้าเข้าไปดูหนังกะนู๋เลยค่ะ....อ้อลืมบอกไปเค้าว่าเค้าจะมาในชุดเขียว
กางเกงดำค่ะ นู๋บอกเค้านู๋จะใส่เกาะอกสีดำไปค่ะ....
ถึงสัดส่วนนู๋ไม่เป็นใจแต่นู๋ก็จะพยายามรัดค่ะ
เอาให้อกเป็นอก พุงเป็นพุง....

พอถึงเวลานัดนู๋ก็เห็นเค้ามาแต่ไกลเลยน่ะค่ะ....หล่อมากกกกกกกกกก
ค่ะขอบอก ด้วย sense ของนู๋...
นู๋รู้ว่าใช่แน่นู๋ก็เดินรี่ไปหาเค้าเลยค่ะ...สอบถามก็ใช่จิงจิงค่ะ
^-^ ( ดีใจ ชะ--เอิง เอิง เอย )
แค่เจอะหน้าครั้งแรก...นู๋อยากเปลี่ยนความสัมพันธ์ของเรา
จากเพื่อนมาเป็นพ่อของลูกหนูทันทีเลยค่ะ...


หล่อจิงจิงค่ะ... หล่อระเบิดระเบ้อ...
หล่อสะบัด...หล่อสุดสุด

นู๋มองเค้าด้วยสายตาอยากกลืนกินเค้าไปทั้งตัว...นานกว่า 3 นาที กว่าจะเริ่มพูดคุยกัน
เค้าก็เหมือนกันค่ะ...มองนู๋ด้วยความตะลึงต่างกันนิดเดียวค่ะสายตาเค้าเหมือน....เหมือน...

สมเพทนู๋งัยไม่ทราบแต่ไม่เป็นไรค่ะ....ถึงนู๋ไม่สวยแต่นู๋ self ค่ะ...
นู๋รีบแสดงความเป็นเจ้าของในตัวเค้าทันที...
ด้วยการคล้องแขนเค้าประกาศให้โลกรู้ว่าผู้ชายคนนี้นู๋จอง..
นู๋ก็รีบจูงเค้าไปซื้อตั๋วหนังค่ะ
หนังเรื่องอะไรนู๋ไม่สนใจ...สนใจว่าจะลากเค้าไปดูหนังกัน
2 ต่อ 2 เท่านั้น...เค้าก็อึ้งอึ้งค่ะ

พอเข้าไปนะคะ...นู๋ก็ชวนเค้ากินป๊อปคอร์นค่ะ...กะว่าตอนหยิบจะให้มือมาจับกันแบบในหนัง
ที่นู๋เคยดูแต่....เค้าก็ไม่กินค่ะปล่อยให้นู๋กินคนเดียวจนเกือบหมด...
ถามเค้า...เค้าก็บอกว่าไม่หิวนู๋คิดในใจ.. (ป๊อปคอร์นแค่นี้มันทำให้อิ่มนักรึไงว่ะ)..
นั่งดูไปซักครึ่งเรื่องหนังก็สนุ๊กสนุกนะคะ....แต่เค้าสิคะนั่งนิ่ง ๆ
...สลับกับถอนหายใจเป็นบางเวลา นู๋คิดว่าเค้าคงไม่ชอบดูหนังเท่าไหร่...
ต้องใช่แน่ๆ เลย...นู๋เกรงว่าเค้าจะเบื่อค่ะ...ก็เลยเริ่มเอนตัวไปหาเค้า...
กะจะซบไหล่เค้าอ่ะค่ะ.. ^-^ อิอิ
พอซบแล้วเค้าก็นั่งตัวเกร็งค่ะ....นู๋ว่าเค้าคงชอบ...นู๋ก็เลยนอนอย่างนั้นจนหนังจบค่ะ...


พอออกมาเวลาก็เกือบๆ 6 โมงเย็น...นู๋กะจะชวนเค้าไปต่อค่ะ....
ไปเดินช็อปปิ้งซื้อของแล้วค่อยไปหาอะไรกินกัน... ตามประสาข้าวใหม่ปลามัน...
แต่เค้ายกนาฬิกาขึ้นมาดูทำท่ารีบรีบบอกว่าเค้ามีนัด...ต้องรีบไป


นู๋ก็เซ้าซี้เล็กน้อยบอกว่าอย่าเพิ่งไป...นู๋ยังอยากรู้จักเค้ามากกว่านี้...เค้าทำหน้าตาลำบากใจมากค่ะ
(แต่ก็ดูน่ารักนะคะ...นู๋ชอบค่ะ...หน้าตาลำบากใจของผู้ชายเนี้ย)
"เอาค่ะ..เอาค่ะ" นู๋พูดกับเค้า...
บอกให้เค้ากลับไปก็ได้...นู๋ยอมค่ะ...แต่คืนนี้ต้องโทรหานู๋นะคะ...
เค้าดีใจค่ะเหมือนนกบินออกจากรัง


นู๋ก็ดีใจค่ะ....ที่เค้ารักบ้านอยากไปทำธุระกับทางนู้น...อย่างนี้เกิดนู๋กับเค้าแต่งงานกันเค้า...

คงต้องรักครอบครัวแน่ ๆ เลยค่ะ...จริงไม๊ค่ะพี่ศิฯ ^-^

คืนนั้น...นู๋เฝ้ารอโทรศัพท์ค่ะ... รอ ..ร๊อ
...รอ...จนถึงตีสามเค้าก็ยังไม่โทรมา...
ปรกตินู๋จะโทรไปคุยบ่อยอยู่นะคะ...นู๋ทนต่อไม่ไหว โทรไปหาเค้าเองเลยค่ะ โทรไปสายก็ไม่ว่าง...

เอ๊ะหรือว่าเค้าอาจเล่นเน็ท... นู๋ก็เลยเข้าในเน็ท...
เปิด ICQ เผื่อเค้าจะอยู่...แต่เค้าก็ไม่เข้ามาค่ะ...
นู๋รอจนนู๋เริ่มท้อค่ะ ..ก็เลยเผลอหลับไป...

ตั้งแต่วันนั้น...จนถึงวันนี้ผ่านไปเป็นเดือน ๆ...
นู๋ก็ไม่ได้รับการติดต่อจากเค้าเลยค่ะ...
โทรไปสายก็ไม่ว่าง...เมล์ไปก็ไม่ตอบ..
นู๋เป็นห่วงเค้าค่ะ...กลัวว่าเค้าจะเกิดอุบัติเหตุอะไรรึเปล่า...
เป็นอะไรมั้ย... เฮ้อ...กุ้มใจค่ะ....นู๋ขอถามพี่ศิฯ
ดังต่อไปนี้นะคะ

1. ที่นู๋ซบไหล่เค้าในโรงหนัง...นู๋จะมีสิทธิท้องได้รึเปล่าคะ...แล้วถ้าท้อง...เค้าจะรับเป็นพ่อในท้องมั้ยคะ


2. เค้าเป็นอะไรรึเปล่าคะ...ทำไมไม่ติดต่อมา...นู๋เป็นห่วงเค้ากลัวจะเกิดอันตรายค่ะ...


3.พี่ศิฯ ว่าเค้ารักนู๋จริงมั้ยคะ....นู๋กลัวว่าเกิดเผลอตัวเผลอใจยอมเค้าแล้ว...เค้าจะทอดทิ้งนู๋ค่ะ


4. อืม...เกิดสมมุติว่าเราตกลงแต่งงานกัน...พี่ศิฯว่าเราจะตั้งชื่อลูกว่าอะไรดีคะ
..ฮิฮิ... เขิลค่ะ

5.ข้อสุดท้ายน่ะค่ะ พี่ศิฯ...คิดว่าเค้าเป็นคนยังไงคะ...(แต่นู๋ว่าเค้าไม่เลวเลยน่ะค่ะ)


ขอรบกวนพี่ศิฯ
แค่นี้นะคะ...หวังว่าพี่ศิฯคงกรุณาตอบคำถามของนู๋โดยเร็วนะคะ...นู๋จะรอค่ะ


ป.ล
อ้อ..นู๋ลืมบอกไปค่ะว่าก่อนที่เค้าจะกลับ...เค้าซื้อของที่ระลึกให้นู๋ด้วยค่ะ...
แหม..ไม่อยากบอกเลย..แต่ไม่เป็นไรมั้งค่ะบอกแค่พี่ศิฯ
คนเดียว...อืม...เค้าซื้อกระจกให้นู๋ค่ะ น่ารักจังเลย
^-^เค้าคงคิดว่านู๋ชอบแต่งตัวสวยๆ....เลยซื้อกระจกเอาไว้ให้นู๋ส่องอ่ะค่ะ...
อย่างงี้แปลว่าเค้าก็ต้องมีใจให้นู๋ด้วยใช่ไม๊ค่ะพี่ศิฯ....
^-^

และแล้วฝ่ายชายก็เขียนจดหมายไปหาพี่ศิราณีเป็นเนื้อความว่า..


ถึงพี่ศิราณีที่ผมนับถือ...

....ผมได้ติดตามการตอบจดหมายของพี่มาเป็นเวลานานแล้วครับ
แต่ก็เป็นเพียงการอ่านเท่านั้น
โดยไม่คาดคิดว่าจะได้มีโอกาสนำความเดือดร้อนของตัวเองมารบกวนพี่
....เรื่องโชคร้ายของผมเกิดขึ้นโดยมีโลกของอินเตอร์เน็ตเป็นสื่อครับ...ใช่แล้วครับ
ผมพบผู้หญิงคนหนึ่งในเน็ท ผ่านทางเว็บแห่งหนึ่งครับ
สมมติว่าเธอชื่อ อ. แล้วกันนะครับ (ย่อมาจากอุบาทว์)
ในครั้งแรกที่ทำให้ผมประทับใจในตัวเธอคือสมองครับ...
อย่าครับ อย่าเพิ่งหัวเราะเยาะผม
เพราะผมเป็นชายผู้ซึ่งมองการไกล ผู้หญิงทุกคนที่ผมคบ
สมองต้องสำคัญเป็นอันดับหนึ่งครับ
และผู้หญิงคนนี้เองก็สร้างความประทับใจให้แก่ผมอย่างมากมาย


ผมเพียรพยายามหลายครั้งหลายคราที่จะขอนัดเดทกับเธอ
แต่เธอก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด เห็นมั๊ยครับ
เธอช่างมีความเป็นกุลสตรีจริง...แต่ความพยายามของผมก็เกือบเป็นหมัน
เพราะความใจแข็งของเธอเนี่ยแหล่ะ
....จนกระทั่งวันหนึ่ง....เหมือนฟ้าผ่า เอ๊ย! ฟ้ามาโปรด
เธอโทรมาขอนัดพบผม แล้วเธอก็นัดพบที่หน้าห้างพันทิพย์
เห็นมั๊ยครับเธอช่างเปี่ยมไปด้วยมันสมองซะจริงๆ
แทนที่จะนัดที่เซ็นเตอร์พ้อยท์ หรือศูนย์การค้าธรรมดาๆ ทั่วไป
มันยิ่งเพิ่มความประทับใจให้ผมมากขึ้นไปอีก

ผมวาดฝันถึงภาพของเธอ ผู้หญิงสูงโปร่ง
ขายาวเรียวเหมือนซอนย่า จมูกโด่งเหมือนน้องฟ้า
และสมองประหนึ่งน้องป๊อบ

ผมนั่งนับรอวันนั้นครับ จนกระทั่ง....
วันนั้น...ที่หน้าร้านซีเอ็ดบุ๊ค ผมมองหานางในฝันของผม
แต่ฉับพลัน ยัยเตี้ยล่ำ ดำปี๋ ฟันเหยิน กรามเหลี่ยม
ก็เข้ามาทักผม....ไม่ !!!....

เสียงร้องในใจของผมปฏิเสธทันทีว่าต้องไม่ใช่เธอ
แต่เธอยืนยันครับว่าเป็นเธอเนี่ยแหล่ะ
โธ่...ชีวิตผมต้องมาพังพินาศลงก็คราวนี้เอง
สมองผมตอนนั้นมึนตึ๊บไปหมดแล้วครับ
มารู้ตัวอีกทีก็หน้าโรงหนังแล้ว
และแขนของยัยผีเสื้อสมุทรก็เกาะหนึ่บอยู่กับแขนผม....

สายตาทุกคู่มองจ้องมายังผม
นี่ผมจะทำอย่างไรดีถ้าพ่อแม่ผมรู้เข้า
ต้องตัดผมออกจากกองมรดกเป็นแน่นอน

แม่นั่นพยายามทุกวิถีทางที่จะให้ผมตกมาเป็นของเธอ
ทั้งเกาะแกะ เสนอของกินให้ผม
โถ่...อารมณ์นั้นใครจะรับประทานอะไรลงล่ะครับ
มีแต่อยากจะขย้อนของเก่าออกมาล่ะไม่ปาน..

แต่ที่หนักที่สุดคือ เธอเอาใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยหัวสิวมาพิงกับไหล่ของผม
แน่นอนครับ....ประสาททุกส่วนของผมมันตายด้านไปหมด...ชีวิตมันช่างบัดซบอะไรเช่นนี้

พระเจ้าให้ผมเกิดมาแล้วส่งสิ่งสยองขวัญที่สุดในโลกมาด้วยทำไม......


และแล้วเวลาที่ผมรอคอยก็มาถึง
ทันทีที่หนังจบผมแทบจะกระโดดออกมาจากที่นั่น
ซึ่งกว่าเธอจะยอมปล่อยผมออกมาได้
ผมก็ถูกเธฮข่มขืนทางสายตาไม่น้อยกว่าสิบครั้ง
แต่ก็ช่างเถอะครับ...รอดมาได้ก็บุญแล้ว..
ทันทีที่กลับถึงบ้านผมรีบแช่ตัวลงในอ่างน้ำซึ่งใส่เดทตอลไปเกือบค่อนถัง


หวังจะชะล้างคราบต่างๆ นาๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้
หลังจากวันนั้นเธอยังเพียรพยายามติดต่อผมทุกวิถีทางทั้งโทรศัพท์
และ icq แต่ผมไม่ยอมหลงกลอีกแล้วครับ
ผมดึงสายโทรศัพท์ออก พร้อมๆ
กับตั้งใจจะหันหลังให้เครื่องคอมพิวเตอร์ตลอดชีวิต
มาถึงตอนนี้ผมมีคำถามจะถามพี่ศิราณีดังนี้ครับ

1. ที่เค้าซบไหล่ผมในโรงหนัง พร้อมกับทิ้งคราบน้ำเหลืองจากหัวสิวไว้นั้น จะทำให้ผมติดโรคอะไรมั๊ยครับ


2.เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น มันจะเป็นตราบาปในชีวิตของผมมั๊ยครับ กับการที่ผมได้เข้าใกล้สิ่งที่น่าเกลียดน่ากลัวแบบนั้น

3.พี่ศิราณีคิดว่าเธอจะยังตามมาหลอกหลอนผมอีกมั๊ยครับ แล้วทำยังไงผมถึงจะหนีเธอพ้นครับ

4. สมมติว่าวันหนึ่งเธอบังเอิญตามหาตัวผมจนเจอ ผมควรทำอย่างไรดีครับ

5.และข้อสุดท้าย เรื่องที่เกิดขึ้นนี้จะทำให้ผมสามารถแต่งงานกับหญิงอื่นได้มั๊ยครับ
จะมีใครรังเกียจประวัติครั้งนี้ของผมมั๊ยครับ

หวังว่าสิ่งที่ผมพร่ำพรรณามาทั้งหมดนี้ คงจะไม่เป็นการรบกวนเวลาอันมีค่าของพี่นะครับ
เพราะผมร้อนใจมาก แล้วผมจะรอคำตอบจากพี่นะครับ


--- จบ ---


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: เชือกว่าว ที่ 29-05-2006, 17:01
ช่วยด้วยครับ...ช่วยด้วยครับ

ช่วยหาฟันปลอมผมหน่อย ก๊ากๆๆๆๆ

ซะจนฟันปลอมหลุดเลย...ช่วยด้วยครับ

     ขอขอบคุณทุกคนเลยครับ
     อายุผมยื่นไปอีกหลายปี
         :lol: :lol: :lol:


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: In The Name Of Justice. ที่ 29-05-2006, 17:24
บทความนี้มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์อุ่นๆ ณ สโมสรริมน้ำแต่อย่างใด

__________________________________________________

ร้านขายสามี   

มีร้านขายสามีแห่งหนึ่ง เพิ่งเปิดตัวที่นิวยอร์กซิตี้   

ที่ซึ่งผู้หญิงสามารถเข้าไปเลือกซื้อสามีได้   

ที่ทางเข้ามีคำอธิบายว่าห้างนี้ทำงานยังไง   

คุณจะมาที่ห้างแห่งนี้ได้เพียงครั้งเดียว!   

ห้างนี้มี 6 ชั้นและคุณค่าของสินค่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ตามชั้นที่คุณขึ้นไป
   
คุณสามารถจะเลือกซื้อสินค้าใดก็ได้ในแต่ละชั้น

หรือจะเลือกขึ้นไปยังชั้นถัดไป   

แต่คุณไม่สามารถลงมาได้อีก นอกจากจะออกจากห้างไปเลย!   

ผู้หญิงคนหนึ่ง จึงไปที่ห้างนี้เพื่อหาสามี   

ที่ชั้นแรก มีป้ายเขียนว่า ชั้น 1 : ชายเหล่านี้มีงานทำ   

ที่ชั้นสอง มีป้ายเขียนว่า ชั้น 2 : ชายเหล่านี้มีงานทำและรักเด็ก   

ที่ชั้นสาม มีป้ายเขียนว่า ชั้น 3 : ชายเหล่านี้มีงานทำ รักเด็ก

และหน้าตาดีสุดๆ   

หญิงคนนั้นคิด "ว้าว" แต่ก็ยังขึ้นไปยังชั้นต่อไป   

ที่ชั้นสี่ มีป้ายเขียนว่า ชั้น 4 : ชายเหล่านี้มีงานทำ รักเด็ก

หน้าตาดีสุดๆ และช่วยทำงานบ้าน   

"โอ้ พระเจ้าช่วย" หญิงคนนั้นอุทาน "ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว"

แต่เธอก็ยังไปยังชั้นห้า   

ที่ชั้นห้า มีป้ายเขียนว่า ชั้น 5 : ชายเหล่านี้มีงานทำ รักเด็ก

หน้าตาดีสุดๆ ช่วยทำงานบ้าน และโรแมนติกมาก   

เธอถูกจูงใจให้อยู่ต่อไปมาก แต่เธอก็ยังไปยังชั้นหก   

ป้ายเขียนว่า คุณเป็นแขกคนที่ 31,456,012 ที่มาถึงชั้นนี้   

ที่ชั้นนี้ไม่มีผู้ชายเลย ชั้นนี้ถูกสร้างแยกออกมา

เพื่อพิสูจน์ว่าผู้หญิงไม่มีวันพอใจอะไรง่ายๆ   

ขอบคุณที่มาใช้บริการ   

เพื่อไม่ให้เกิดความครหาว่าลำเอียง   

เจ้าของร้านจึงเปิดห้างใหม่ เป็นร้านขายภรรยา ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม   

ชั้นแรกมีภรรยาทีชอบมีเซกส์   

ชั้นสองมีภรรยาที่ชอบมีเซกส์ และมีเงิน   

ที่ชั้นสามจนถึงชั้นหก ไม่เคยมีใครขึ้นมาถึงเลย

______________________________________________

 :mozilla_tongue:


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: Prometheus, The Titan ที่ 29-05-2006, 19:16
ชั้นเรียนประถม 1 ครูกำลังสอนวิชาภาษาไทยอยู่ แต่เด็กชายจุก ไม่ได้ตั้งใจฟัง จึงถูกครูเขม่นเข้า

ครู: ไอ้จุก ไม่ฟังครูเลยนี่หว่า เอ็งตอบครูมาซิ บิดามารดา แปลว่าอะไร
จุก: (เกาหัว ส่ายหน้า)
ครู: เอ็งไม่รู้ เพราะเอ็งไม่ได้ฟัง ใช่มั้ย
จุก: (พยักหน้า พร้อมทำตาออดอ้อน)
ครู: (ควันออกจากหู)เอางี้นะ ไอ้จุกนะ เอ็งวิ่งกลับบ้านเอ็ง ไปนะ ไปถามพ่อเอ็งว่า บิดามารดา แปลว่าอะไร แล้วมาตอบครู ไป๊!!!

ทางจากโรงเรียนมาบ้านมันมันใกล้กันไม่กี่ก้าว สำหรับโรงเรียนแถบชนบท ว่าแล้วเด็กชายก็วิ่งมาถึงบ้าน

พ่อ: อะไรของเอ็งวะ ไอ้จุก ไม่มีเรียนเหรอไง?
จุก: พ่อ! บิดามารดาแปลว่าอะไร
พ่อ: เมิงวิ่งกลับบ้านมา เพื่อจะถามไอ้นี่กูเนี่ยนะ อ๋อ! กูรู้แล้ว ครูเค้าไล่เมิงมาถามกูเพราะเมิงไม่ได้ฟังครูใช่มั้ย !! ด้ายยย กูตอบให้ มารดาคือ แม่เมิง ส่วน บิดา ก็คือกู!!! เข้าใจมั้ยวะห๊ะ

ฉับพลัน เด็กชาย วิ่งกลับไปโรงเรียน

ครู: ว่าไง ได้คำตอบมารึยัง ?
จุก: (พยักหน้า)
ครู: แล้วจะรออะไรอยู่วะ
จุก: มารดาก็คือ "แม่เมิง" ส่วนบิดาก็คือ "กรู"

เรื่องราวตัดจบ ณ ตรงนี้ แต่สำหรับวิบากกรรมของเด็กชายจุกนั้น คงไม่จบลงง่ายๆแน่ เชิญท่านผู้อ่านตัดสินชะตากรรมของเด็กชายจุกในจินตนาการของท่านเอากันเองละกัน


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: bobo ที่ 29-05-2006, 19:44

นึกว่าจะใหญ่กว่านี้ ง่ะ.....  

อาจารย์จรณินท์ อาจารย์ชายผู้สอนชีววิทยาในวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ถามนักศึกษาสาวคนหนึ่งว่า
" ณิชมน เธอลองระบุชื่ออวัยวะของ มนุษย์ส่วนหนึ่ง
ซึ่งเมื่ออยู่ในสภาวะที่เหมาะสมจะขยายตัวเป็น 6 เท่า บอกมาด้วยว่าอยู่ในสภาวะไหน"
ณิชมน หน้าแดง อึ้งไปพักใหญ่ ลุกขึ้นยืน ตอบว่า
" อาจารย์ ! ทำไมอาจารย์ถึงถามหนูอย่างนี้ หนูจะไปฟ้องพ่อ"
"เอ๊ะ ...ทำไมคิดอะไรอย่างนั้นล่ะ" อาจารย์จรณินท์ว่า
"เอ้า ธมลวรรณ เธอตอบซิ"
.
.

.
"ม่านตาของคนค่ะ ในสภาวะที่มีแสงน้อย"  :lol:



หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 29-05-2006, 21:59
พ่อฮับ การเมืองคืออะไรฮับ > >> >>>>> > >> >>>>> > >>
> >>> >>>>>หนูน้อยคนหนึ่งถามพ่อว่า "พ่อฮับ การเมืองคืออะไรฮับ" > >> >>>>> > >>
> >>> >>>>> >คุณพ่อใจดีตอบว่า "พ่ออธิบายง่ายๆ อย่างนี้ดีกว่า คือ > >> >>>>> >
> >>> >> >>>>> >พ่อเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัว >หนูต้องเรียกพ่อว่า > >>ทุนนิยม > >>
> >>> >>>>> > >> >>>>> >ส่วนแม่เป็นคนจัดการเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ
> >>>
> >>
>>ก็ต้องเรียกแม่ว่ารัฐบาล
> >>> > >> >>>>> >เราสองคนมีหน้าที่ดูแลความต้องการของลูก > >>
> >>> >>>>>เพราะฉะนั้น..เราจะเรียกลูกว่า ประชาชน > >> >>>>>
> >>> >ส่วนพี่เลี้ยงของหนูเรามองว่าเธอเป็น ชนชั้นผู้ชั้นแรงงาน > >> >>>>> > >>
> >>> >>>>> >สำหรับน้องชายของลูก เราจะเรียกเขาว่า อนาคต > >> >>>>> > เอาละ
> >>>ลองเก็บไปคิดดูว่าหนูเขาใจหรือเปล่า > >> >>>>> > >> >>>>>
> >>> >คืนนั้นหนูน้อยเข้านอนพลางคิดถึงคำพูดของคนเป็นพ่อ > >> >>>>>
> >>> >กลางดึกพ่อหนูได้ยินเสียงน้องร้องจ้า > >>
> >>> >>>>>พอย่องเข้าไปดูเห็นอึกองโตเต็มผ้าอ้อม
>
> >>>
> >>> > >>>>> > >> >>>>> >พ่อหนูจึงเดินไปห้องพ่อแม่
> >>>แต่กลับเจอแม่นอนกรนคร่อกฟี้ > >> >>>>> > >> >>>>> >เดินไปห้องพี่เลี้ยง >
> >>> >>ปรากฏว่าประตูติดล็อก พอเขย่งมองในรูกุญแจ > >> >>>>>
> >>> >ก็เห็นภาพบิดากำลังเล่นจ้ำจี้กับพี่เลี้ยงเข้าเต็มตา > >> >>>>> > >>
> >>> >>>>> >หนูน้อยเลยล้มเลิกความพยายาม..แล้วกลับไปนอนคลุมโปงตามเดิม > >>
> >>> >>>>> > >> >>>>> >เช้าวันต่อมาหนูน้อยเดินไปหาพ่อบอกเสียงขรึมว่า > >>
> >>> >>>>> > >> >>>>> >"พ่อครับ
>
>ตอนนี้ผมเข้าใจคอนเซ็ปต์การเมืองแล้วละครับ"
> >>> > >> >>>>> > > >> >>>>> >" เหรอลูก ไหนบอกพ่อซิ ลูกคิดว่าการเมืองคืออะไร"
> >>> > >> >>>>>คุณพ่อตัวดีซักไซ้ > >> > >>>>> > >> >>>>> >คุณลูกตอบฉะฉาน > >>
> >>> >>>>> >"การเมืองก็เป็นเรื่องประมาณว่า.. > >> >>>>>
> >>> >ขณะที่ทุนนิยมกำลังกดขี่ผู้ชนชั้นใช้แรงงาน > >> >>>>> > >> >>>>> > >>
> >>> >>>>> > >> >รัฐบาลก็หลับคุดคู้ไม่รู้ไม่เห็น > >> >>>>> > >> >>>>>
> >>ด้านประชาชนก็ถูกละเลยไม่ได้รับความสนใจ
> >>> > >>
>>>>> > >> >>>>> >ส่วนอนาคตก็จมอยู่ในกองขี้ไงครับ"


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: (ลุง)ถึก สไลเดอร์ ที่ 29-05-2006, 22:26
มันเมาได้ระดับ แล้วมันก็นั่งกอดเสาไฟฟ้า
ตำรวจคนหนึ่งเดินมาพบเข้า
ตำรวจ....คุณๆ มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้
มัน........ผมจะเข้าบ้านครับ
แล้วมันก็ยกมือขึ้นเคาะเสาไฟฟ้า ก๊อก ก๊อก ก๊อก ให้ตำรวจดู
ตำรวจ....นี่มันเสาไฟฟ้านะ
มัน........เหอ..คุณตำรวจ..นี่บ้านผมนะ ผมเคาะประตูแล้ว เดี๋ยวเมียผมก็ลงมาเปิดให้
            ไม่เชื่อก็แหงนขึ้นดูชั้นบนซิ  ไฟยังสว่างโร่เลย เห็นป่าว

(http://www.pantip.com/cafe/gallery/topic/G3773134/G3773134-8.jpg)


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: buntoshi ที่ 30-05-2006, 12:06
ผมว่า ทุกคนคงมีประสพเรื่องต่างๆ มากับตัวเองแน่ๆ จึงเล่าได้ ขำขนาดนี้  :lol:

ขอส่งเข้าประกวด 1 เรื่องแต่ขอย้ำนะครับ ว่าไม่ใช่ผมเอง  :mrgreen:

------------------------------------
เรื่องคุณหมอ

วันหนึ่ง มีกระทาชายนาย หนึ่งรู้สึกเจ็บก้น คาดว่าจะเป็นริดสีดวงทวาร

เค้าจึงรีบไปหาหมอที่คลีนิก แถวบ้าน

เมื่อหมอได้วินิจฉัยแล้วจึงพูดว่า

คุณมีเชื้ออักเสบ ที่รูทวารนิดหน่อยนะครับ ไม่เป็นอะไรมาก เดี๊ยวหมอให้ยาสวนไปใช้วันละครั้งนะครับ

คนนั้นจึงบอกหมอครับผมใช้ไม่เป็น

งั้นเดี๊ยวหมอจะสาธิตให้ดูนะ

จากนั้น หมอก็ให้เค้าถอดกางเกงออก แล้วจัดการสวนจนเสร็จ

แล้วบอกว่า กลับไปไปให้แฟนหรือภรรยาของคุณช่วยสวนให้นะครับ

วันต่อมา กระทาชายก็ได้บอกให้ภรรยาสุดสวยของเค้า ช่วยสวนยาให้หน่อย

ภรรยา ก็บอกให้เค้า ถอดกางเกงออก แล้วจับไหล่สามี แล้วทำการสวนจึก

สามี ร้องออกมาด้วยความตกใจ

ไอ้เชี่ยะ หมอ มึงจับไหล่ กูสองมือ แล้วมึงเอาอะไรสวนกูว่ะ


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: ประกายดาว ที่ 30-05-2006, 13:34

ไม่รู้ขำไหม แต่เรื่องของเด็กๆ โรงเรียนอนุบาล ที่หนูรู้จัก


บีมๆ ....ทำไม มะเขือเทศ ที่โรงเรียน มีขน
นนท์ ...บีม ๆ นั่นไม่ใช่มะเขือเทศ นั่นคือ " เงาะ"

คราวนี้ ที่ คลีนิค ทันตแพทย์ เรื่องจริงในชีวิต

หมอฟัน.....      เสร็จแล้วครับ ผม อุดฟัน ขัดหินปูนเรียบร้อบแล้ว ดูกระจก ซิครับ
ประกายดาว......เอ่อ หมอขา จุดดำๆ นั่น ฟันผุ เหรอคะ ทำไมหมอยังไม่อุดให้เลย
หมอฟัน...........ไหน ครับ ไหนครับ
ประกายดาว......นั่นไงคะ ดำๆ
หมอฟัน...........เอ่อ ผมคิดว่านั่น " พริกป่น "ครับ
ประกายดาว...... :evil:    :mozilla_sealed: :mozilla_cry:


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: ภูพาน ที่ 30-05-2006, 15:17
เรื่องจริงนี้เกิดในโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งอยู่แถวหัวหมาก
ชั่วโมงนั้นเป็นชั่วโมงคัดไทย ครูให้นักเรียนทุกคนคัดคำว่า
"โรงเรียนอนุบาลหัวหมาก"  หลังจากให้เวลาเขียนพอสมควร
ครูก็มาตรวจดูในสมุดแต่ละคน ส่วนใหญ่ก็คัดสวย ถูกต้องดี
แต่มีเด็กคนหนึ่งคัดด้วยลายมือสวยงามมาก
เขียนตัวโตๆ อ่านง่ายว่า..."โรงเรียนอนุบาลหัวหมา"


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: duen_narak ที่ 31-05-2006, 08:54
555+

อ่านเพลินเลย   

เอามาแจมด้วยอีกสักเรื่องดีกว่า
จริง ๆ แล้ว   เรื่องนี้  มาจากเหตุการณ์จริงนะคะ
ไม่รู้จะตั้งชื่อเรื่องว่าอะไรดี
เอาเป็นว่า 
ขำ ๆ ดีค่ะ  แต่มีอุปสรรคนิดหน่อย
คือ  มันเป็น บทสนทนาภาษาจีนน่ะค่ะ
กรุณาศึกษาคำแปลก่อนอ่านนะคะ  เดี๋ยวจะงง

คำแปลของภาษาจีน   ไปแปลกันเองนะคะ

โหย่วเหมยโหย่ว  แปลว่า  มีมั้ย   
ซ่ง                   แปลว่า   ได้(ฟรี)   
ตงซี                 แปลว่า  สิ่งของ
เสิมเมอ             แปลว่า  อะไร
โหย่ว               แปลว่า  มี
เหมยโหย่ว         แปลว่า  ไม่มี
เย่า                  แปลว่า  เอา ( รับ )
มา  เป็นคำลงท้าย เพื่อแสดงว่า เป็นประโยคคำถาม  เช่น  โหย่ว มา - มีมั้ย , ห่าว มา - ดีมั้ย




เดือนทำงานในดิวตี้ฟรี สนามบินดอนเมืองนะคะ
ก็จะต้องเจอลูกค้า หลายชาติ หลายภาษา

วันนึง
มีพี่ที่ทำงานเดือนคนนึง
เค้าเป็นกระเทย   ชื่อ  พี่ใหญ่

พี่ใหญ่ ขายของให้ลูกค้าชาวจีน   เราเรียกลูกค้าชาวจีนว่า   เสียวเจี่ย
ซึ่งตามธรรมเนียมค่ะ   เสียวเจี่ย ซื้อของ แล้ว  ก็ขอของแถม

เสียวเจี่ย  :  โหย่วเหมยโหย่ว  ซ่ง ตงซี ? 

พี่ใหญ่  :  เหมยโหย่ว 

เสียวเจี่ย : ( ยังยืนยันประโยคเดิม )  โหย่วเหมยโหย่ว ซ่งตงซี 

พี่ใหญ่ :  เอ๊ะ   ก็บอกว่า  เหมยโหย่วไงเล่า  วู้

เสียวเจี่ย :  ( ยังไม่ละความพยายาม )  ซ่งอ่า  ซ่ง  โหย่วซ่งตงซีมา   

พี่ใหญ่  : ( ชักเริ่มรำคาญ )  เออ ๆ ก็ได้วะ  โหย่ว ๆ     

เสียวเจี่ย : ( ทำหน้าตาตื่นเต้นดีใจ ) โหย่ว เสิมเมอ 

พี่ใหญ่ :  โหย่ว  ซ่งติง    เย่ามา

เสียวเจี่ย : ( ทำหน้าฉงน )   เสิมเมอ ซ่ง ติง อา
 
พี่ใหญ่ :  ( ฮา )  เวง ซ่งติง ยังจะเอาอีกเรอะ  555+

 


หัวข้อ: เรื่องนี้ตลกจริงๆนะ ^^
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ทำลาย ที่ 05-06-2006, 11:58
นักการเมืองไทย 3 ท่าน คือ คุณทัก* คุณเน* และ คุณวัฒ* ได้ขึ้นเครื่องบินเพื่อไปตรวจสอบผลประโยชน์ของตนเองตามต่างจังหวัด  

ระหว่างที่อยู่บนเครื่อง เนื่องจากไม่มีอะไรทำ คุณ เน* จึงหยิบแบงค์พันออกมาแล้วพูดขึ้นว่า

"ถ้าผมทิ้งแบงค์พัน ลงไป 1 ใบ คนที่เก็บได้ 1 คนจะต้องมีความสุขแน่ๆ "

คุณวัฒ* ได้ฟังก็พูดขึ้นมาทันที

"ส่วนผม จะทิ้งแบงค์ 500 ลงไป 2 ใบ ต้องมีคน 2 คนที่ดีใจ"

ท่านทัก*  ได้ยินดังนั้นก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า ...

"พวกคุณสองคนยังมองอะไรแคบๆอยู่ ถ้าเป็นผมนะ จะทิ้งแบงค์ร้อยลงไป 10 ใบ ทำให้มีคนถึง 10 ที่ดีใจเลยทีเดียว"

ทั้งสอง 2 คนได้ฟังเช่นนั้นก็ชื่นชมในวิสัยทัศน์ของท่านผู้นำ แต่ภายในห้องนักบิน นักบินท่านหนึ่งได้ยินท่านทั้ง 3 สนทนากันมาตลอด ... ก็พูดกับตัวเองว่า

"แต่ถ้ากูทิ้งพวกเอ็งทั้ง 3 คนลงไป คน 60 ล้านคน ทั้งประเทศจะต้องดีใจแน่นอน"


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: เก็ดถวา ที่ 05-06-2006, 12:08


เสียวเจี่ย : ( ทำหน้าตาตื่นเต้นดีใจ ) โหย่ว เสิมเมอ 

พี่ใหญ่ :  โหย่ว  ซ่งติง    เย่ามา

เสียวเจี่ย : ( ทำหน้าฉงน )   เสิมเมอ ซ่ง ติง อา
 
พี่ใหญ่ :  ( ฮา )  เวง ซ่งติง ยังจะเอาอีกเรอะ  555+



โอ๊ยยยย น้องเดือนขา ขำมากๆ ค่ะ ดูเหมือนน้องเดือนจะมีเรื่องฮาๆ ของลูกค้าจากประเทศนี้เยอะมากเลยนะคะ   :lol:


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: ภูพาน ที่ 05-06-2006, 13:01
โอ๊ะ...โอ คุณ lynnicky....ถ้ามีคะแนนเล่าเรื่อง
ให้สิบเต็มเลยเรื่องนี้.....ฮาฮา.... :mrgreen: :lol: :D


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: duen_narak ที่ 09-06-2006, 16:08
อ่ะ ๆ  อันนี้ฮามาก ๆ เลยค่ะ
เอามาจาก fwd mail


ทำไม บักเดช
       
>>> >> >>ถึงพาเพื่อน..แห่กันไปเที่ยวผับ.. ทีละ 18คน...

>>> >> >>ก็เพราะหน้าผับ ..เขาประกาศไว้ว่า ..ต่ำกว่า18 ห้ามเข้าน่ะสิ (!!)





>>> >> >>* บักเดช..ไปร้านขายทีวี.. !

>>> >>ถามคนขายว่า

>>> >> >>"ไม่ทราบว่า..ที่นี่มีทีวีสีขายรึเปล่า?

>>> >> >>คนขายตอบว่า.."มี"

>>> >> >>บักเดชเลยบอกว่า .."งั้นเอาสีเขียวมาเครื่องนึง"





>>> >> >>บักเดช..เข้าไปเดินดูของในร้านจีฉ่อย

>>> >> >>เห็นกระติกน้ำทำจากโลหะอันหนึ่งวางอยู่

>>> >> >>บักเดชถามอาอึ้มว่า

>>> >> >>"อึ้ม.. **ที่วอบแวบสีเงินๆ นั่นอะไร"

>>> >> >>อึ้มตอบว่า "กระติกน้ำไง ..(**ฟาย)"

>>> >> >>"แล้วมันทำอะไรได้มั่ง"

>>> >> >>"ก็ใส่ของร้อน-ก็ร้อนนาน

>>> >>..ใส่ของเย็น-ก็เย็นนาน".

>>> >> >>บักเดช..เห็นว่าน่าสนใจ..เลยตกลงซื้อมาอันนึง

>>> >> >>เช้าของวันใหม่..อากาศแจ่มใส

>>> >> >>บักเดช..ก็เอากระติกน้ำที่เพิ่งซื้อมา..ไปที่ทำงาน..

>>> >> >>ตั้งอวดบนโต๊ะ..อย่างภาคภูมิ

>>> >> >>หัวหน้าบักเดชเห็นเข้า..เลยถามขึ้น

>>> >> >>"อะไรนั่นน่ะ..บักเดช"

>>> >> >>"กระติกน้ำครับ"

>>> >> >>"แล้วมันมีอะไรพิเศษรึ"

>>> >> >>"ก็ใส่ของร้อน..ก็เก็บความร้อนได้

>>> >> >>หรือใส่ของเย็น..ก็เก็บความเย็นได้"

>>> >> >>หัวหน้าเลยถามว่า..

>>> >> >>"แล้วใส่อะไรมาล่ะ"

>>> >> >>บักเดชยืด..ก่อนจะตอบว่า..

>>> >> >>"กาแฟร้อน 2 แก้ว..

>>> >>กับไอติม 1 ถ้วยครับ" (!!)





>>> >> >>ทุกครั้ง..หลังถ่ายเอกสารเสร็จ

>>> >> >>บักเดช..จะเอาฉบับก๊อปปี้-มาตรวจทาน..เทียบกับต้นฉบับ

>>> >> >>เพื่อเช็คดูว่า..มีคำไหนสะกดผิดรึเปล่า





>>> >> >>บักเดช..จะยิ้มทุกครั้ง..ที่ฟ้าผ่า

>>> >> >>เพราะนึกว่า..มีคนกำลังถ่ายรูปเขาอยู่





>>> >> >>รู้ป่าวว่า...ทำไมบักเดช..ถึงกดโทรศัพท์เบอร์ฉุกเฉิน911)..ไม่ได้

>>> >> >>ก็เพราะ.....เขาหาเบอร์ 11 (สิบเอ็ด)

>>> >>...บนแป้นไม่เจอน่ะสิ





>>> >> >>บักเดช..เพิ่งซื้อคอมพิวเตอร์มาใหม่เครื่องหนึ่ง

>>> >> >>เล่นไปซักพัก..ก็เจอปัญหา

>>> >> >>บักเดช..เลยลองกดที่ HELP บนแป้น F1

>>> >> >>ผ่านไปพักใหญ่... บักเดชหงุดหงิดมาก

>>> >> >>เลยโทรไปต่อว่า..ร้านที่เขาซื้อคอมมา

>>> >> >>"ผมกด F1 ตามที่เครื่องบอก.. เวลาที่มีปัญหา

>>> >> >>แล้วก็รออยู่เป็นชั่วโมง.. ยังไม่เห็นมีใครมาช่วยเลย"

>>> >> >>คนขาย : "(**...)" (!!)





>>> >> >>วันรุ่งขึ้น

>>> >> >>บักเดช : เครื่องคอมพิวเตอร์ คุณนี่ห่วยมากอีกแล้วน่ะ

>>> >> >>ผมเสียเงินซื้อไปตั้งเยอะมีแต่ปัญหาไม่รู้จบหน่ำซ้ำ

>>> >> >>พอโทรมาสอบถามพนักงานงานขายของคุณ

>>> >>ก็ดันตอบไม่รู้เรื่อง

>>> >> >>ผู้จัดการ : มีปัญหาอะไรให้ดิฉันรับใช้ได้ค่ะ

>>> >> >>( เสียงสั่นเครือมากด้วยอาการที่หวาดกลัวจะถูกลูกค้าด่ากลับ)

>>> >> >>บักเดช : ก็หน้าจอคอมพิวเตอร์ของคุณน่ะ

>>>>>>>>รายงานผลว่า “ซีตุ๊ป - ซีตุ๊ป“

>>> >> >>ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง

>>> >> >>ผู้จัดการ : บอกว่า เธอก็ไม่รู้ว่า

>>> >>ไอ้ซีตุ๊ป-ซีตุ๊ปเนี่ยมันคืออะไร

>>> >> >>ช่วงนั้นก็น้ำตาเกือบไหล เพราะกะว่าถ้าตอบปัญหาลูกค้าไม่ได้

>>> >> >>ต้องถูกไล่ออกแน่เลยตู

>>> >> >>จนกระทั่ง.....

>>> >> >>ผู้จัดการ : คุณลองสะกดคำว่า " ซีตุ๊ป

>>> >> >>- ซีตุ๊ป " หน่อยสิคะ

>>> >> >>ว่าสะกดอย่างไร

>>> >> >>บักเดช : S - E - T - U-P - S - E - T - U -P

>>> >> >>ผู้จัดการ : คุณนี่ สุดยอด จริง ๆ อ่านได้งัย

>>> >> >>ซีตุ๊ป –

>>> >> >>ซีตุ๊ป 555!





>>> >> >>* หลังจาก...ใช้ความพยายาม..ต่อจิ๊กซอว์อยู่น

>>> >> >>ในที่สุด..บักเดชก็ต่อเสร็จ

>>> >> >>เขาเอาไปอวดเพื่อน..ด้วยความภูมิใจ

>>> >>"เป็นไง ..เนี่ยฉันใช้เวลาต่อ..แค่ 5

>>> >> >>เดือนเองนะโว้ย"

>>> >> >>เพื่อนบักเดชงง..ที่เขากล้าอวด

>>> >> >>" 5 เดือนเหรอ ! แถวบ้านฉันเรียกว่า..!โคตรนานเลยนะนั่น"

>>> >> >>"แกนี่ไม่รู้อะไร"

>>> >> >>บักเดช..ไม่ยอมลดละ

>>> >> >>"ดูที่กล่องนี่ ..เห็นมั้ย ...มันบอกว่า...

>>> >> >>"สำหรับ 4-7 ปี" แต่..ฉันใช้เวลาแค่ 5

>>> >>เดือนเองนะเฟ้ย..(!!)

>>> >> >>อ่านจบแล้วก้ออย่าแอบอมยิ้มคนเดียวล่ะ

>>> >> >>แจกให้....คนอื่นยิ้มบ้างนะ
 
 


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ทำลาย ที่ 09-06-2006, 18:16
ขำบักเดชอ่ะ 5555    :lol:


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: Angleevil ที่ 10-06-2006, 17:19
เข้ามาขำ เหอๆๆๆ


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: ภูพาน ที่ 10-06-2006, 20:58
ทำไมต้องชื่อ บักเดช ?


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: GN-001 Exia ที่ 10-06-2006, 22:34
เคยดูทีวีแล้วเจอแบบนี้มะคับ....

เริ่ม สวัสดีครับท่านผู้ชมทุกท่าน ช่อง 3 เปิดสถานีวันนี้เรามาพบกับ
เปลี่ยนช่อง สินค้าสุขภัณฑ์ในครัวเรือนของคุณต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองจาก
เปลี่ยนช่อง กองกำลังผสม ซึ่งนำโดยสหรัฐอเมริกา และอังกฤษได้บุกเข้าสู่
เปลี่ยนช่อง สถาณีวิทยุโทรทัศน์ กองทัพบกช่อง 7 ร่วมกับ
เปลี่ยนช่อง นางอองซาน ซูจี และสมาชิกพรรคเอ็นแอลดี ถูกกักบริเวณให้อยู่แต่ใน
เปลี่ยนช่อง ทะเลทรายซาฮาร่า เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์มากมายมที่รอการ
เปลี่ยนช่อง ปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ มันถึงเวลาแล้วที่เราจะ
เปลี่ยนช่อง บิดๆเบี้ยวๆ แปลงร่างเป็น!
เปลี่ยนช่อง ประธานาธิปดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช และนายโทนี่แบล์ ได้พบปะหารือกันเพื่อ
เปลี่ยนช่อง สุขภาพลูกน้อยของคุณ ผ้าอ้อมแพมเพอร์ส ดีต่อ
เปลี่ยนช่อง ต่อหน้าฉัน เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร?
เปลี่ยนช่อง ทำได้โดยการยิงประตูขึ้นนำในนาทีที่ 25 โดย
เปลี่ยนช่อง อีหล้า! อีลูกไม่รักดี ตอนแกเกิดฉันน่าจะ
เปลี่ยนช่อง โอม มะลึกกึกกึ๊ยส์ มะลึกกึกกึ๊ยส์ มะลึกกึกกึ๊ยส์
เปลี่ยนช่อง เมื่อพระสงฆ์สวดพระคาถาจบแล้ว ลำดับต่อไป
เปลี่ยนช่อง เชิญพบกับข่าวต่างประเทศ เราจะเริ่มกันที่การประชุม APEC ซึ่งได้ข้อสรุปว่า
เปลี่ยนช่อง แมลงสาป น่าเกลี๊ยด น่าเกลียด ไต่กันยั๊ยเยี๊ย ทำลายข้าวของ วันนี้เรา
เปลี่ยนช่อง ไม่รอให้ฟ้า ให้ดิน ลิขิต ไม่ปล่อยให้ชีวิตผ่านไป ไม่ว่า
เปลี่ยนช่อง การอภิปรายไม่ไว้วางใจวันนี้ อาจมีข้อขัดแย้งอยู่บ้าง แต่ในที่สุด
เปลี่ยนช่อง สหรัฐอเมริกา ก็ประกาศอิสรภาพในวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งส่งผลให้
เปลี่ยนช่อง คำตอบนะครับ..... ถูกต้องนะคร้าบ!!!
เปลี่ยนช่อง ไชโย ไชโย ไชโย กินเหล้าขวดโตแล้วหาแฟนใหม่ แฟนเก่าเขา
เปลี่ยนช่อง คือนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ คือคนไทยผู้ยิ่งยง
เปลี่ยนช่อง แล้วพบกันใหม่ วันนี้เวลา 5 นาฬิกา สำหรับตอนนี้สวัสดีครับ....


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: In The Name Of Justice. ที่ 30-06-2006, 11:12
ขุดๆๆๆ

ไม่ต้องเจาะ<<<
ผู้หญิงคนหนึ่งชื่อสมศรี
เมื่อเธอเสียชีวิตเธอได้ขึ้นสวรรค์โดยนางฟ้า
ระหว่างทางที่เดินไปสวรรค์สมศรีได้ยินเสียงร้องครวญคราง
ของผู้หญิงอีกคนเธอจึงถามนางฟ้าว่านั่นเสียงอะไรครวญ
นางฟ้าตอบว่าเป็นเสียงของคนกำลังจะเป็นนางฟ้า

กำลังโดนเจาะรูที่หลังเพื่อใส่ปีกและเจาะรูที่หัวเพื่อใส่วงแหวน
สมศรีตกใจ
และถามนางฟ้าว่าขอไปนรกแทนได้ไหม
นางฟ้าตอบว่าได้แต่ที่นั่นมีการข่มขืนกันทุกวันเลยนะ
เธอจะทนไหวเหรอ
สมศรีตอบตกลงทันที
และบอกเหตุผลว่าอย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องเจาะรูใหม่
ใช้รูเดิมที่มีอยู่แล้ว
??????????????????????????????
____________________________________

ม้าเป็นเหตุ
ขณะหนุ่มใหญ่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์เพลินๆ
ในเช้าวันหนึ่ง
ภรรยาย่องมาข้างหลังแล้วเอากระทะฟาดหัวสามีเสียงดังผ่าง!
สามีร้อง
"มาตีหัวกันทำไมเล่า"ภรรยาตอบ
"ชั้นเจอกระดาษในกระเป๋ากางเกงคุณแผ่นนึง
เขียนชื่อไว้ว่าแมรี่ลูบอกมาเดี๋ยวนี้นะหล่อนเป็นใคร?"
"โถที่รัก"
สามีครวญ"จำได้รึเปล่าสองอาทิตย์ก่อน
พี่ไปเล่นม้าแมรี่ลูก็คือม้าตัวที่พี่แทงไง"
ภรรยาได้ฟังก็พอใจรีบขอโทษขอโพยแล้วผละไปทำงานบ้านต่อ
สามวันให้หลังขณะหนุ่มใหญ่กางหนังสือพิมพ์อ่านอยู่เงียบๆ
เจ้าหล่อนก็ฟาดหัวสามีด้วยกระทะเสียงดังผ่างอีก!
หมอโมโหสุดขีด
"อะไรอีกเล่า"
ภรรยาตอบ"ม้าของคุณโทรมา!"
?????????????????????????????????
_________________________________________

ตรวจภายใน
หญิงสาว:หมอคะตรวจภายในหน่อยค่ะ
หมอ:ขึ้นเตียงเอาขาวางบนขาหยั่งได้เลยแล้วหมอก็ก้มหน้า
แล้วพูดว่า
โอ้โห
ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หญิงสาวโกรธมาก)
ของชั้นจะเล็กจะใหญ่มันก็เรื่องของฉันหมอไม่ต้องร้องโอ้โหอย่างนั้นก้อได้
หมอ:ป่าวครับหมอร้องแค่ครั้งเดียวที่เหลือ
เสียงสะท้อนครับ
หญิงสาว:!!!!
????????????????????????????????????
____________________________________


เด็กชายจิมกับเด็กหญิงแจน
ยืนคุยกันในอ่างอาบน้ำ
"อุ๊ย!..จิมมี่นั่นอะไรน่ะ"แจนชี้ไปที่หว่างขาของเด็กชาย
"ไม่รู้เหมือนกัน"จิมตอบ
"ขอเราจับหน่อยได้มั้ย?"
"ไม่ได้หรอก"จิมปฏิเสธ
"อ้าว!ทำไมล่ะ?"เด็กหญิงสงสัย
"เธอมือหนัก"จิมตอบ
"เอ๊ะ!เธอรู้ได้ไง?"
"ก็ดูของเธอสิ...เธอยังเล่นซะหักไปแล้วเลย"
??????????????????????????????????
______________________________________________________

หมอฟัน
หนุ่มสาวคู่หนึ่งปิ๊งกันที่บาร์
หลังจากทำความสนิทสนมกันพักหนึ่งทั้งคู่ก็ตกลงไปดื่มต่อที่คอนโดของสาวน้อย
หลังจากการดื่มอีกนิดหน่อยฝ่ายชายก็ถอดเสื้อของตัวเองออก
แล้วไปล้างมือ
หลังจากนั้นเขาถอดถุงเท้าแล้วก็ไปล้างมืออีกรอบสาวมองหน้าเขาแล้วพูดว่า
"คุณต้องเป็นหมอฟันแน่ๆเลย"เขามองหน้าหล่อนงงๆ
"ใช่...แต่เอ๊ะคุณรู้ได้
ยังไง"สาวอมยิ้มแล้วตอบ"ง่ายมากคุณล้างมือตลอดเวลา"
หลังจากนั้นสิ่งๆต่างก็เกิดขึ้นเป็นลำดับ
เธอจูงเขาไปที่เตียงแล้วก็
เซ็นเซอร์
เวลาผ่านไปนานพอสมควรฝ่ายหญิงก็พูดขึ้นอีกว่า
"คุณจะต้องเป็นหมอฟันที่เก่งมากๆทีเดียว"
หมอฟันยิ่งสงสัยหนัก"ใช่!ใช่!
ผมเป็นหมอฟันที่เก่งมากแต่คุณทำให้ผมแปลกใจมาก
คุณรู้ได้ยังไง"
สาวเจ้าตอบกลับมา"ง่ายมากคุณทำได้เบามากฉันไม่รู้สึกอะไรเลย"



หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: O_envi ที่ 30-06-2006, 18:19
ชอบๆ เอาอีก


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ทำลาย ที่ 30-06-2006, 18:33
อ้างถึง
หมอฟัน
หนุ่มสาวคู่หนึ่งปิ๊งกันที่บาร์
หลังจากทำความสนิทสนมกันพักหนึ่งทั้งคู่ก็ตกลงไปดื่มต่อที่คอนโดของสาวน้อย
หลังจากการดื่มอีกนิดหน่อยฝ่ายชายก็ถอดเสื้อของตัวเองออก
แล้วไปล้างมือ
หลังจากนั้นเขาถอดถุงเท้าแล้วก็ไปล้างมืออีกรอบสาวมองหน้าเขาแล้วพูดว่า
"คุณต้องเป็นหมอฟันแน่ๆเลย"เขามองหน้าหล่อนงงๆ
"ใช่...แต่เอ๊ะคุณรู้ได้
ยังไง"สาวอมยิ้มแล้วตอบ"ง่ายมากคุณล้างมือตลอดเวลา"
หลังจากนั้นสิ่งๆต่างก็เกิดขึ้นเป็นลำดับ
เธอจูงเขาไปที่เตียงแล้วก็
เซ็นเซอร์
เวลาผ่านไปนานพอสมควรฝ่ายหญิงก็พูดขึ้นอีกว่า
"คุณจะต้องเป็นหมอฟันที่เก่งมากๆทีเดียว"
หมอฟันยิ่งสงสัยหนัก"ใช่!ใช่!
ผมเป็นหมอฟันที่เก่งมากแต่คุณทำให้ผมแปลกใจมาก
คุณรู้ได้ยังไง"
สาวเจ้าตอบกลับมา"ง่ายมากคุณทำได้เบามากฉันไม่รู้สึกอะไรเลย"


ไม่เก็ตมุกนี้อ่ะครับ งง   :?:


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: 100600 ที่ 30-06-2006, 18:55
ใครเขี่ย'ทู้นี้ขึ้นมาเดาะเล่นอีกละ ... งั้นเอามาเติมอีกเรื่อง ... ฮ่าฮ่า




นักธุรกิจใหญ่คนหนึ่งชื่อ คุณ Bonny

ช่วงหลายเดือนก่อนเนี่ย แกเครียดมาก เกิดอาการจนเฉียบพลัน
และพรุ่งนี้เช้า แกจะต้องเอาหนี้เงินกู้ไปใช้คืนธนาคาร 200 ล้านบาท
แต่แกไม่มีเงิน และก็กลัวจะติดคุกด้วย ไม่รู้จะทำยังไง นอนไม่หลับทั้งคืน เดินไปเดินมา งุ่นง่าน
 
เมียคุณ Boony ตังหาก ... เก่งม๊าก กกกกกก
ถามว่า “ตาบอน ทำไมไม่นอนเสียที่ล่ะ  นี่มันดึกป่านนี้แล้วนะ”
"จะนอนได้ยังไงล่ะคุณเอ๋ย พรุ่งนี้เช้าต้องเอาเงินไปให้ผู้จัดการธนาคารตั้ง 200 ล้านแน่ะ ... ฉันไม่มีเงินหรอก ไม่รู้จะทำยังไงดี”
"ไม่เห็นยากเย็นอะไรเลยนี่ตาบอน ผู้จัดการโทรศัพท์เบอร์อะไรละ บอกมาซิ”

พอบอกเสร็จ เมียก็หมุนโทรศัพท์ไปหาผู้จัดการ
"Hello นั่นผู้จัดการธนาคารใช่ไหมคะ  ... พรุ่งนี้เช้าที่คุณ Bonny จะเอาเงินไปให้ 200 ล้านน่ะ เขาไม่มีเงินให้หรอกนะ อิ๊อิ๊” ... แล้ววางหูเลย

คุณ Bonny อดีตคนราชดำเนิน นอนหลับได้ ก็เพราะเมียหัวใส ... แต่คนที่นอนไม่หลับกลับเป็น "ผู้จัดการธนาคาร" เอิ๊ก เอิ๊ก กกก
 
ผู้จัดการงุ่นง่านเลยครับ ...ไม่รู้จะทำยังไง ... หงุดหงิด  ... เดินไปเดินมาทั้งคืน
พอตีสอง ผู้จัดการนึกออก ปิ๊งๆๆๆๆๆๆ!!!!!  หมุนโทรศัพท์มาบ้านคุณ Bonny
 
"Hello นั่นบ้านคุณ Boony เหรอครับ ขอสายเมียคุณ Bonny หน่อย ... Hello นั่นเมียคุณ Bonny เหรอครับ ?? ... คุณทราบไหมว่าที่คุณ Bonny เขาไม่สามารถจะเอาเงิน 200 ล้านมาใช้หนี้ผมได้น่ะ ??... เขาเอาไปให้เมียน้อย อิ๊อิ๊” ... พูดแล้วก็วางหูเลย

คราวนี้ทั้งคู่เลย ไม่ต้องหลับต้องนอนแล้ว ... ทะเลาะกันบ้านแตกกกกกกกกกกกกก ไม่เป็นอันเข้าเว็บเสรีไทยไปตั้งนาน 3-4 เดือน ฮ่าฮ่า
 
นี่แหละ ... เวลามีความเครียดเขาบอกว่า "ต้องถ่ายเทออกไป"
 
บอกให้คนอื่นเขารับรู้เรื่องที่เราเครียดบ้าง แล้วใจเราก็จะสบายขึ้นนะ มีอะไรอย่าไปเก็บไว้คนเดียว แบ่งๆกันเครียดไปคนละขีดสองขีดนะ ... เอิ๊ก เอิ๊ก กกก
 


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: duen_narak ที่ 30-06-2006, 19:04
555+   :lol: :lol: :lol:



หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: so what? ที่ 30-06-2006, 19:20
เอาเรื่องของนกแก้วมาเล่าให้ฟังครับ ฟังมาจากวงเหล้า
ถ้าชอบเรื่องนี้เดี๋ยวมีให้อีกเรื่อง ทะลึ่งหน่อยแต่มันกว่านี้

A man is in a pet-shop looking at a big colorful parrot. He then asks the shop owner,
“How much is this parrot?”
“$300, Sir”, answers the shop owner.
“What can he do?”
“He can sing a few songs and speak some words.”
The man isn’t happy with the price. Then he points to another parrot and asks,
“What about this one?”
“$1000, Sir”, again answers the shop owner.
“Why? He looks a bit smaller and less colorful to me.”
“Well, this one can sing, dance and speak like human, Sir.”
The man feels he’s being ripped off and is about to leave the shop, but decides to make the final query,
“What about that shabby and sleepy-looking one?”
“That’s $3000, Sir.”
“Damn! What does he do?”
“He doesn’t do anything, Sir.”
“So, why is he too damn expensive?”
“Because other parrots call him “Boss”, Sir.”



หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 30-06-2006, 21:02
^
^
รอเรื่องใหม่ค่า

 :lol: :lol:


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: so what? ที่ 30-06-2006, 21:04
เดี๋ยวขอเวลาพิมพ์แป๊บครับ นายหญิง   :mrgreen:


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 30-06-2006, 21:42
ใครเขี่ย'ทู้นี้ขึ้นมาเดาะเล่นอีกละ ... งั้นเอามาเติมอีกเรื่อง ... ฮ่าฮ่า




นักธุรกิจใหญ่คนหนึ่งชื่อ คุณ Bonny

ช่วงหลายเดือนก่อนเนี่ย แกเครียดมาก เกิดอาการจนเฉียบพลัน
และพรุ่งนี้เช้า แกจะต้องเอาหนี้เงินกู้ไปใช้คืนธนาคาร 200 ล้านบาท
แต่แกไม่มีเงิน และก็กลัวจะติดคุกด้วย ไม่รู้จะทำยังไง นอนไม่หลับทั้งคืน เดินไปเดินมา งุ่นง่าน
 
เมียคุณ Boony ตังหาก ... เก่งม๊าก กกกกกก
ถามว่า “ตาบอน ทำไมไม่นอนเสียที่ล่ะ  นี่มันดึกป่านนี้แล้วนะ”
"จะนอนได้ยังไงล่ะคุณเอ๋ย พรุ่งนี้เช้าต้องเอาเงินไปให้ผู้จัดการธนาคารตั้ง 200 ล้านแน่ะ ... ฉันไม่มีเงินหรอก ไม่รู้จะทำยังไงดี”
"ไม่เห็นยากเย็นอะไรเลยนี่ตาบอน ผู้จัดการโทรศัพท์เบอร์อะไรละ บอกมาซิ”

พอบอกเสร็จ เมียก็หมุนโทรศัพท์ไปหาผู้จัดการ
"Hello นั่นผู้จัดการธนาคารใช่ไหมคะ  ... พรุ่งนี้เช้าที่คุณ Bonny จะเอาเงินไปให้ 200 ล้านน่ะ เขาไม่มีเงินให้หรอกนะ อิ๊อิ๊” ... แล้ววางหูเลย

คุณ Bonny อดีตคนราชดำเนิน นอนหลับได้ ก็เพราะเมียหัวใส ... แต่คนที่นอนไม่หลับกลับเป็น "ผู้จัดการธนาคาร" เอิ๊ก เอิ๊ก กกก
 
ผู้จัดการงุ่นง่านเลยครับ ...ไม่รู้จะทำยังไง ... หงุดหงิด  ... เดินไปเดินมาทั้งคืน
พอตีสอง ผู้จัดการนึกออก ปิ๊งๆๆๆๆๆๆ!!!!!  หมุนโทรศัพท์มาบ้านคุณ Bonny
 
"Hello นั่นบ้านคุณ Boony เหรอครับ ขอสายเมียคุณ Bonny หน่อย ... Hello นั่นเมียคุณ Bonny เหรอครับ ?? ... คุณทราบไหมว่าที่คุณ Bonny เขาไม่สามารถจะเอาเงิน 200 ล้านมาใช้หนี้ผมได้น่ะ ??... เขาเอาไปให้เมียน้อย อิ๊อิ๊” ... พูดแล้วก็วางหูเลย

คราวนี้ทั้งคู่เลย ไม่ต้องหลับต้องนอนแล้ว ... ทะเลาะกันบ้านแตกกกกกกกกกกกกก ไม่เป็นอันเข้าเว็บเสรีไทยไปตั้งนาน 3-4 เดือน ฮ่าฮ่า
 
นี่แหละ ... เวลามีความเครียดเขาบอกว่า "ต้องถ่ายเทออกไป"
 
บอกให้คนอื่นเขารับรู้เรื่องที่เราเครียดบ้าง แล้วใจเราก็จะสบายขึ้นนะ มีอะไรอย่าไปเก็บไว้คนเดียว แบ่งๆกันเครียดไปคนละขีดสองขีดนะ ... เอิ๊ก เอิ๊ก กกก
 


ดอกฟ้าฯว่านะคะ อีตาผู้จัดการธนาคารประหารไทย

คงแอบหลงรักเมียคุณบันนี่เน่ๆเร้ย เพราะชอบผู้หญิงฉลาด หัวใส

คิดจะแอบตีท้ายครัวคุณบันนี่ ก้อเลยยุให้เค้าแตกแยกกันอะเป่า อิ อิ


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: so what? ที่ 30-06-2006, 21:59
เรื่องของนกแก้วอีกตัวครับ


A man was in a pet-shop looking at a skinny parrot sitting on his perch. He then asked the shop owner,

“How much is this parrot?”
“It’s $2000, Sir.”
“Kind of expensive – can he talk?”
“Yes. Actually he can carry out intellectual conversations like a human.”
The man then started to talk to the parrot and found that this parrot was as smart as a college student, so he decided to buy the parrot. Before he paid, the shop owner then said,
“To be honest with you, this parrot has lost both of his legs some years ago.”
“But how could he stay on his perch?”
“Well, he holds the perch by wrapping his penis around it.”
“Poor bird, but I’ll take him home anyway.”

The man then took the parrot home. Since he had to go to work everyday, he told the parrot to look after his wife while he was at work and report to him after he got home. Since then the parrot had been doing a fabulous job and the man was so happy to have him as his watchdog. One day he told the parrot that the service man would come to clean up the air-conditioners, so the parrot had to keep an eye on him to make sure he does his job.

In the evening, when the man got home, he asked the parrot,
“Where is my wife, bird?”
“She‘s upstairs, boss, probably taking a nab.”
“Did the guy come to clean the air-cons?”
“Yes, he did.”
“When did he leave?”
“A while ago.”
“OK. I’ll go to see my wife upstairs.”
The parrot looked at him and reluctantly said,
“Boss, I’ve got something more to ell you.”
“What’s that?”
“Before the air-con man left, your wife and him were kissing each other.”
“Really.”, exclaimed the man.
“Yes, boss. Then they took off their clothes.”
“And then …?”
 “They continued kissing and moved toward the sofa.”
“Then …?”
“They took off their underwear and bra.”
“Then …?”
“The man lied on the sofa and your wife went on top of him.”
“And then …?” grinned the man angrily.
“I don’t know, boss.”
“Why don’t you?” shouted the man.
“I just got hard and fell off the perch.”



หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 30-06-2006, 22:20
this parrot has lost both of his legs some years ago.”
“But how could he stay on his perch?”
“Well, he holds the perch by wrapping his penis around it.”
“Poor bird, but I’ll take him home anyway.”

...........................................

“Why don’t you?” shouted the man.
“I just got hard and fell off the perch.”

 :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: so what? ที่ 30-06-2006, 22:28
เรื่องนี้ถ้าเล่าเป็นภาษาไทยแล้วมันจะออกลามกๆไปหน่อยครับ   :mrgreen:


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: Tony ที่ 01-07-2006, 01:03
ขอบคุณทุก ๆ คน ตลกมากๆ ครับ :lol: :lol: :lol: ขอเสนออีกเรื่องครับ

                               คุณพระช่วย !!!                       
หญิงสาวคนหนึ่งเดินผ่านหน้าร้านของอาแปะ เผอิญว่าหน้าร้านของอาแปะมีท่อทีไม่ได้ปิดฝาอยู่ หญิงสาวจึงตกลงไปพลางร้องอุทานด้วยความตกใจ
หญิงสาว: คุณพระช่วย!!!!
อาแปะ: พระช่วยลื้อไม่ล่ายหรอก เมื่อเช้ามาอั๊วเห็นพระมาบิณฑบาตรองค์นึง ก็ตกลงไปเหมือนลื๊อ


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: koo ที่ 01-07-2006, 02:28
กำลังง่วงๆ หายเลย ส่วนใหญ่ เอามาแต่มุกเด็ดๆทั้งนั้น

ขอมั้งอยากโพสหลายๆrepจังผม มุกจะก๊อบเขามีเป็นโหล  อ่านแล้วคิดตามที่ผมพิมพ์นะครับ

"สมมุติมีชายหนุ่มใบ้และหูหนวกคนหนึ่งเข้าไปในร้านขายอุปกรณ์ เพื่อจะซื้อตะปู เขาจึงจิ้มนิ้วชี้ลงบนเคาน์เตอร์ แล้วเอาอีกมือทำท่าตอก คนขายจึงหยิบค้อนมาให้ เขาส่ายหัว แล้วชีไปที่นิ้วชี้ คนขายหยิบตะปูมาให้เขาเลือกขนาด เขาเลือกขนาดจ่ายเงินแล้วออกจากร้านไป "

"แล้วทีนี้นะ มีชายคนใหม่ที่เข้ามา เขาตามาบอดคุณคิดว่าเขาควรทำอย่างไร"

^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^


"ทำไมจะต้องทำอย่างนั้นด้วย เขาก็บอกว่า ขอซื้อกรรไกร1อัน  :lol: "


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: Ires ที่ 01-07-2006, 02:31
สมคิด หนุ่มน้อยวัย 18 พำนักอยู่กับพี่ชายและพี่สะใภ้วัยไล่เลี่ยกัน
คืนนี้เป็นคืนที่สามแล้วที่พีชายของสมคิดออกจากบ้านไปทำธุระในต่างจังหวัด ทั้งบ้านจึงอยู่กันเพียงสองคน พี่สะใภ้กับสมคิด
เวลานี้ดึกแล้วแต่สมคิดยังไม่นอน กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆอยู่ในห้องเพียงลำพัง
แล้วพี่สะใภ้ก็มาเคาะประตู
ประตูไม่ได้ล็อกครับพี่ สมคิดร้องบอกพี่สะใภ้
พี่สะใภ้เปิดประตูเดินเข้ามาในห้อง ด้วยสีหน้าแววตา คล้ายเขินอาย เธออ้ำอึ้งอยู่พักใหญ่ก่อนจะเอ่ยปากพูด

พี่สะใภ้ - น้องสมคิดจ๊ะ น้องช่วยถอดเสื้อของพี่ออกหน่อยได้ใหมจ๊ะ
สมคิด - ลังเลเล็กๆ แต่ก็ค่อยๆถอดเสื้อของพี่สะใภ้ออกในที่สุด
พี่สะใภ้ - ยิ้มอายๆที่มุมปากก่อนพูดต่อ ทีนี้ก็ถอดยทรงของพี่ออกด้วยสิจ๊ะ
สมคิด - ครานี้รีบถอดยกทรงของพี่สะใภ้ออกอย่างไม่ลังเล
พี่สะใภ้ - อ้ำอึ้งเล็กน้อย และแล้วเธอก็พูด ถอดกระโปรงของพี่ออกด้วยซี้
สมคิด - ถอดกระโปรงของพี่สะใภ้ออกด้วยมือสั่นระริก
.
.
ต่างจ้องตากัน นิ่งอยู่นาน
.
.
ขณะนี้พี่สะใภ้หน้าแดงระเรื่อ แววตาลังเล คล้ายจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง
ในที่สุดเธอหอบเอาเสื้อผ้าของเธอที่ถูกถอดออกมากองอยู่นั้นขึ้นมา แล้วสะบัดหน้าหันหลังเดินออกจากห้อง
ก่อนจะพ้นประตูห้องไป เธอหันกลับมาขึ้นเสียงใส่สมคิด

"นี่แน่ะ ทีหลังเธออย่าแอบเอาเสื้อผ้าของพี่มาใส่อีกน๊ะ"


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: ประกายดาว ที่ 01-07-2006, 11:30
ใครเขี่ย'ทู้นี้ขึ้นมาเดาะเล่นอีกละ ... งั้นเอามาเติมอีกเรื่อง ... ฮ่าฮ่า




นักธุรกิจใหญ่คนหนึ่งชื่อ คุณ Bonny

ช่วงหลายเดือนก่อนเนี่ย แกเครียดมาก เกิดอาการจนเฉียบพลัน
และพรุ่งนี้เช้า แกจะต้องเอาหนี้เงินกู้ไปใช้คืนธนาคาร 200 ล้านบาท
แต่แกไม่มีเงิน และก็กลัวจะติดคุกด้วย ไม่รู้จะทำยังไง นอนไม่หลับทั้งคืน เดินไปเดินมา งุ่นง่าน
 
เมียคุณ Boony ตังหาก ... เก่งม๊าก กกกกกก
ถามว่า “ตาบอน ทำไมไม่นอนเสียที่ล่ะ  นี่มันดึกป่านนี้แล้วนะ”
"จะนอนได้ยังไงล่ะคุณเอ๋ย พรุ่งนี้เช้าต้องเอาเงินไปให้ผู้จัดการธนาคารตั้ง 200 ล้านแน่ะ ... ฉันไม่มีเงินหรอก ไม่รู้จะทำยังไงดี”
"ไม่เห็นยากเย็นอะไรเลยนี่ตาบอน ผู้จัดการโทรศัพท์เบอร์อะไรละ บอกมาซิ”

พอบอกเสร็จ เมียก็หมุนโทรศัพท์ไปหาผู้จัดการ
"Hello นั่นผู้จัดการธนาคารใช่ไหมคะ  ... พรุ่งนี้เช้าที่คุณ Bonny จะเอาเงินไปให้ 200 ล้านน่ะ เขาไม่มีเงินให้หรอกนะ อิ๊อิ๊” ... แล้ววางหูเลย

คุณ Bonny อดีตคนราชดำเนิน นอนหลับได้ ก็เพราะเมียหัวใส ... แต่คนที่นอนไม่หลับกลับเป็น "ผู้จัดการธนาคาร" เอิ๊ก เอิ๊ก กกก
 
ผู้จัดการงุ่นง่านเลยครับ ...ไม่รู้จะทำยังไง ... หงุดหงิด  ... เดินไปเดินมาทั้งคืน
พอตีสอง ผู้จัดการนึกออก ปิ๊งๆๆๆๆๆๆ!!!!!  หมุนโทรศัพท์มาบ้านคุณ Bonny
 
"Hello นั่นบ้านคุณ Boony เหรอครับ ขอสายเมียคุณ Bonny หน่อย ... Hello นั่นเมียคุณ Bonny เหรอครับ ?? ... คุณทราบไหมว่าที่คุณ Bonny เขาไม่สามารถจะเอาเงิน 200 ล้านมาใช้หนี้ผมได้น่ะ ??... เขาเอาไปให้เมียน้อย อิ๊อิ๊” ... พูดแล้วก็วางหูเลย

คราวนี้ทั้งคู่เลย ไม่ต้องหลับต้องนอนแล้ว ... ทะเลาะกันบ้านแตกกกกกกกกกกกกก ไม่เป็นอันเข้าเว็บเสรีไทยไปตั้งนาน 3-4 เดือน ฮ่าฮ่า
 
นี่แหละ ... เวลามีความเครียดเขาบอกว่า "ต้องถ่ายเทออกไป"
 
บอกให้คนอื่นเขารับรู้เรื่องที่เราเครียดบ้าง แล้วใจเราก็จะสบายขึ้นนะ มีอะไรอย่าไปเก็บไว้คนเดียว แบ่งๆกันเครียดไปคนละขีดสองขีดนะ ... เอิ๊ก เอิ๊ก กกก
 


ดอกฟ้าฯว่านะคะ อีตาผู้จัดการธนาคารประหารไทย

คงแอบหลงรักเมียคุณบันนี่เน่ๆเร้ย เพราะชอบผู้หญิงฉลาด หัวใส

คิดจะแอบตีท้ายครัวคุณบันนี่ ก้อเลยยุให้เค้าแตกแยกกันอะเป่า อิ อิ



หนู ขำ คุณ 106000 มากกว่า
ท่าทาง จะคิดถึง คุณ บอนนี่ มากๆ ...
แถม พาดพิงไปถึง ทั้ง ภรรยา และ ภรรยาเล็กๆ

ไม่ว่า น้าแสนหก จะเขียนอย่างไร
คุณ บอนนี่ คงไมแยแส อยู่ดี ค่ะ  


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: 100600 ที่ 01-07-2006, 15:28
ไม่ว่า น้าแสนหก จะเขียนอย่างไร
คุณ บอนนี่ คงไมแยแส อยู่ดี ค่ะ  



^
^
^
ไม่เก้ท 2 ประโยคนี้เลยอ่ะ

เอางี้ละกัน ในเมื่อต่างคนต่างไม่เก้ท
มด'ริมน้ำ แสดงอาการไม่เก้ทขำขันเรื่องเมีย Bonny ผจก. ก่อน
ผม เจ้าของเรื่อง ก็เลยรู้สึกไม่เก้ทว่าทำไม มด'ริมน้ำ ถึงไม่เก้ท อิ๊อิ๊



สงสัยเพิ่มเติม
- ทำไมและมีความจำเป็นอะไรต้องทำให้คุณ Bonny มาแยแส
- คุณ Bonny มาแยแสแล้วผมได้อะไร และแยแสคืออะไร ... ไม่เข้าใจ (โว้ย)


โยนเครียดกลับ ... อิ๊อิ๊


หัวข้อ: Re: เอาขำๆขันๆมาเล่า คนละเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: เล่าปี๋ ที่ 14-09-2007, 07:37



         เอิ๊กๆๆๆๆ  เรื่องขำๆขันๆ ทำไมมีหลายกระทู้จัง

         แต่ก็ดีนะครับ  คลายเครียดดีครับ   ขอบคุณครับ




            :slime_bigsmile:  :slime_bigsmile:  :slime_bigsmile:  :slime_bigsmile:  :slime_bigsmile:  :slime_bigsmile: