ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

When We Make A Home

Sadao Watanabe
[From Album : Good Time For Love]
Lyrics by Richard Wittenmyer
Vocal by Will Lee

(A lovely home.....ooh....)
When we make a home
When our love has grown
When all our apprehensions fade
And we can say "forever"
When we share our dreams
Everything we own
We'll build a life together
When we make a home

* Safe and warm (Safe and warm)
We're sheltered from the strom
(So we'll happy together)
When we make a home together
Love will last forever
Now our love is young
Facing the unknown (Forever more...)
But we'll find joy together
When we make a home

(A lovely home.....ooh....)
When our hearts are one
Though our minds are two
When we can cherish everyday
And fill our lives with laughter
We will dance and sing
In the setting sun
We've made a home together
When our hearts are one (* twice)[/b]


บ้าน....
ความรู้สึก แรก ยามคิดถึงคำว่าบ้าน เราคิดถึงอะไรกันคะ
หนู เคยเป็นเด็กที่อยู่ห่างไกลบ้าน...จำได้ว่าในครั้งนั้น
ได้พัฒนา คำว่า "บ้าน " ในความคิดความรู้สึกของตัวเอง
เป็น สถานที่ ที่ อบอุ่น มีความสุขใจที่ได้คิดถึง ...สบายกายสบายใจ
ให้ความรู้สึก ปลอดภัย ..ไม่ใช่ แค่ สถานที่ตั้งของบ้าน
หากแต่เป็นสถานที่ตั้ง ในใจ...

ประกายดาวว่า คนไกลบ้าน หลายคน คงรู้สึกอย่างนี้

หนูเติบโต มาอย่างคน รักบ้าน  ชอบ เล่น บ้าน เล่นขายของ
เก็บ ใบไม้ ดอกไม้ มาทำกับข้าว
เล่นทำขนมครก สงสัยเด็กไทยๆคงเล่นกันทั้งประเทศ

เล่น พ่อ แม่ มีหมา แมว และก็น้องตุ๊กตา เป็น ลูก
โตขึ้นก็ ทำงาน ไม่ไกลไปจากนี้
มาวันนี้ ...จะสร้างความฝันใหม่ ค่ะ
ให้ บ้าน ในหัวใจ แข็งแรง....

ชอบเพลงนี้ จัง...
เหมือน ที่ชอบเพลง Home ของ ธีร์ ไชยเดช
นักร้องคนที่ เสียงเหมือน คนงัวเงียเพิ่งตื่น ...นักร้องคนโปรด ของ คุณเก็ดถวา
ไหง๋ มาโปรดคนเดียวกับ ประกายดาว ..

(http://www.bloggang.com/data/twinkling-stars/picture/1138155914.jpg)


วันนี้เป็น เช้า ที่ สบายใจจัง...

ผมค่อนข้างแปลกใจ จนต้องโพสต์ ครับ

ที่ว่าแปลกใจคือ หลายๆอย่าง คุณประกายดาว เหมือนเป็นพยาธิใน รสนิยมของผม ทั้งที่คุณเป็นสุภาพสตรีและก็เกิดหลังผมนานเป็นทศวรรษ

เช่นเพลงของ  นาย สะเดา วาสธนาเบศร์  (ผมตั้งชื่อให้ใหม่พร้อมสกุล ให้เป็นคนไทยไปเลยครับ)

ยังไม่นับรวมเพลงของ คุณ T ไชยเดช  (นามสกุลเดียวกะอาจารย์ใหญ่โรงเรียนเก่าผมเด๊ะเชียว)


บ้าน  ตั้งแต่ยุคหินแล้วครับ  มนุษย์ใช้ถ้ำเป็นที่ซุกหัวนอน หลบภัย

ความรู้สึกอันนี้แหละที่มันฝังอยู่ในรหัสพันธุกรรมของมนุษย์เรา

นั่นคือ  มนุษย์จะต้องมีสถานที่ที่ตนเองเข้าไปอาศัย แล้วทำให้รู้สึกปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ  รู้สึกอบอุ่นทั้งร่างกายและจิตใจ ปราศจากความวิตกกังวลหรือ ความกลัวในสิ่งต่างๆ

ครูสาวสวยเซ็กซี่ชาวเยอรมันที่สอนหนังสือผม  คนที่ต้องนุ่งมินิสเกิ๊ตสั้นจู๋มาสอนทุกวัน เพราะขาเธอสวยมาก เธอก็โชว์มันซะทุกวัน  เธอนี่แหละสอนเกี่ยวกะเรื่องบ้านๆ  เป็น ดอกเตอร์ที่สาวมากๆใน ยู ที่เรียน   

         สมัยที่เรียนเกี่ยวกับเรื่องบ้านๆ  นี่แหละ เธอบอกผมแบบที่กล่าวมาจริงๆ  ดังนั้น  คอนเซปต์ในการออกแบบบ้านไม่ว่าจะออกมาอย่างไร ก็ห้ามลืม หัวใจสำคัญที่จะกระตุ้นให้มนุษย์รู้สึกถึงเรื่องดังกล่าวเด็ดขาด


เธอบอกต่อไปว่า  ถ้ามองจากภายนอก ดูตัวบ้าน  แล้ว อยากเข้าไปอยู่ เพราะดูว่ามันอบอุ่น มันปลอดภัย  คนออกแบบบ้านนั้น อะชีฟ ทาร์เก๊ท แล้วไปกว่าครึ่ง

ยิ่งหากเดินเข้าไปในบ้าน เดินเล่นอยู่ภายใน แล้วคุณ รู้สึกอบอุ่น รู้สึกอยากนอน รู้สึกอยากนั่งลงพักนานๆ  ก็จะเติมให้อะชีฟ ทาร์เก็ท มากขึ้นไปจนถึง เก้าสิบเปอร์เซนต์ทีเดียว


เพราะความที่ผมอยากคุยกับเธอ เพราะเวลาเธอพูด เธอจะมีรอยยิ้มน้อยๆที่มุมปากเสมอ และแววตาสีเขียวๆของเธอนั้นมันเหมือนใครเอาดาวไปยัดไว้ มันระยิบๆตลอด

ผมก็เลยถามเธอว่า  แล้ว ไอ้ เท็น เปอร์เซนต์ เลฟท์ น่ะ  มันคืออะไร จ๊ะ  ครูจ๋า

เธอยิ้มจนผมแทบละลายลงไปนอนกอดขาคามินิสเกิ๊ตตัวสั้นจู๋นั้น ก่อนเปิดปากจิ้มลิ้มเอ่ยบอกว่า  อยู่ที่ยู แอนด์ยัวร์ เดสทินี่...................

โอ  แม่เจ้า  คำตอบที่ผมรอคอยอยู่ตรงนี้เอง

ใช่ครับ  บ้านจะเป็นบ้านและ "มีชีวิต" ที่สมบูรณ์ในตัวมันนั้น นอกจากสภาพที่น่าอยู่ที่เจาะลงไปในรหัสพันธุกรรมของมนุษย์แล้ว  มันยังมีรหัสอีกตัวที่เป็น คีย์เวิร์ด นั่นก็คือ

"ความรัก"

ความรักที่ว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใด สถานภาพใด ก็ตาม  มันเป็นหัวใจที่เต้นกระดุ๊กกระดิ๊ก ติ๊ก ติ๊ก จุ๊บ จุ๊บ ให้บ้านในความหมายที่สมบูรณ์ของมนุษย์ มัน มีชีวิตขึ้นมาทันที

บ้านใด ไร้ซึ่งความรัก  บ้านนั้นก็เสมือนซากวัสดุที่มีแต่ สิ่งมีชีวิตไปซุกหัวหลบฝน

แต่หากบ้านใดมีความรัก  ต่อให้เป็นซากปรักหักผัง หลังคาโหว่ๆ  มันก็เป็นบ้าน  ที่มมีชีวิต และสร้างความสุข ความอบอุ่นให้ได้เสมอ



.......................เอ  แล้ววันนี้  คุณๆ  มีบ้าน  บ้านที่มีชีวิต กันหรือยัง ครับ............?

แต่ทุกวันนี้หลายๆคนให้ความสำคัญกับรถมากกว่าบ้านนะครับ บางคนมีรถเยอรมันขับ แต่บ้านเล็กติ๊ดเดียว

 :shock:

(ส่วนผมมีรถญี่ปุ่นเก่าๆขับ และบ้านก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรเช่นกัน  :lol: )

แต่ก็รสนิยมใครรสนิยมมันนะครับ บางทีที่เลือกบ้านเล็กเพราะมันดูแลง่าย

บ้านผมมีสนาม มีต้นไม้ใหญ่ ก็ดูร่มรื่นดีครับ แต่เวลาทำความสะอาด กวาดใบไม้ ตัดหญ้า ใส่ปุ๋ย  :x โอ้วววววว

ยังไม่นับหญ้าแห้วหมู ที่สมัยก่อนตอนปลูกหญ้าญี่ปุ่นต้องมาขุดๆๆๆๆๆ หาหัวที่อยู่ใต้ดินมากำจัดทีละหัวๆๆ ขุดไปบ่นไป

ยังมีห้องที่ต้องทำความสะอาด ชั้นที่ต้องเช็ดถู ยิ่งตอนคนใช้คนไทยจะลากลับบ้านช่วงเทศกาลนี่ แทบจะภาวนานับวันคืนให้กลับมา

แต่ตอนนี้จ้างคนใช้ชาวต่างประเทศ(เนปาล) แล้ว นับว่าไม่ง้อแรงงานไทยอีกต่อไป เอ้อ นอกเรื่องไปนิดครับ

แต่ไหนๆก็นอกเรื่องแล้ว อัลบั้ม Goodtime for love นั่น เพราะจริงๆครับ

ผมนั้นเข้าใจว่า คุณลูกไทยฯ เป็น faamily man ตัวจริง มานาน ตั้งแต่สมัยราชดำเนินยังไม่โดนปฏิวัติ

มาวันนี้ ผมอาจต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ แล้วจริงๆ

เพราะท่านเล่นบอกว่า

"..........แต่ก็รสนิยมใครรสนิยมมันนะครับ บางทีที่เลือกบ้านเล็กเพราะมันดูแลง่าย"


น่าจะจริงครับ  บ้านเล็กก็ดูแลง่ายครับ เพราะอาจไม่ได้ส่งอะไรให้มากนัก  ที่ส่งหลักๆ คือ บ้านใหญ่   ใช่ไหมครับ

555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555





ผม ย้อ เย่น  นะครับ

"HOUSE" IS MADE OF BRICK AND STONES
BUT "HOME" IS MADE OF LOVE AND UNDERSTANDING
ขออวยพรให้คุณประกายดาวได้ home ดังใจหวังครับ......

ป้าเสลาประทับใจในความหมายของคำว่าบ้าน
เช่นเดียวกับชิ่อเพลงนี้ Home is where the heart is

ป้าเคยเขียนกลอนเกี่ยวกับบ้านไว้บทหนึ่ง เมื่อหลายปีแล้ว

บ้านคือสถานที่ซึ่งมีรัก
ที่พำนักพักกายให้คลายเศร้า
บ้านคือรัก รักคือบ้าน บ้านคือเรา
ทุกลำเนาเป็นบ้านพักเมื่อรักครอง..

ป้าหาเนื้อเพลง Home is where the heart is  ยังไม่เจอ
เป็นเพลงที่ Elvis Presley ร้อง 
ใครมีเอามาฝากป้าด้วย รวมทั้งลิงค์ฟังเพลงได้ด้วยก็เยี่ยมเลย

จำได้นิดหน่อยขึ้นต้นว่า...

Home is where the heart is
And my heart is anywhere you are
Anywhere you are is home.........


(http://www.hobbywonder.com/puzzles/clementoni/images/hutchinson_cottage_2000.jpg)

[/coบ้านเรา
สุเทพ วงศ์กำแหง

   บ้าน เรา แสน สุขใจ
แม้จะอยู่ ที่ไหน
ไม่สุขใจ เหมือนบ้านเรา
คำ ว่าไท ซึ้งใจ เพราะใช่ ทาสเขา
ด้วยพระบารมีล้นเกล้า
คุ้มเรา ร่มเย็น สุขสันต์
  รุ่ง ทิพย์ ฟ้า ขลิบทอง
พริ้วแดดส่อง สดใส
งามจับใจ มิใช่ฝัน
ปวง สตรี สมเป็นศรีชาติ เฉิดฉัน
ดอก ไม้ชาติไทยยึดมั่น
หอมทุกวัน ระบือ ไกล
บุญ นำพา กลับมาถึงถิ่น
  ทรุดกายลงจูบดิน ไม่ถวิลอายใคร
หัว ใจฉัน ใครรับฝาก เอาไว้
จาก กัน แสน ไกล ยังเก็บไว้ หรือเปล่า
เมฆ จ๋า ฉัน ว้า เหว่ ใจ
ขอวานหน่อยได้ไหม
ลอยล่องไป ยังบ้านเขา
จง หยุดพัก แล้วครวญรับฝาก กับสาว
ว่าฉันคืนมาบ้านเก่า
ขอยึดเอา ไว้เป็น เรือน ตาย...
(http://trekkingthai.com/webboard/trip/3922-4.jpg)

คุณประกายดาว ชอบอะไรเหมือนเก็ดถวาหลายอย่างมากเกินไปแล้วนะนี่ อิอิอิ

ที่ผ่านมา เก็ดถวามีบ้านหลายหลังค่ะ ตอนเด็กๆ บ้านเก็ดถวาอยู่ที่สุพรรณบุรีค่ะ

ต่อมาครอบครัวเราแยกย้ายกันไปคนละทาง เก็ดถวากับแม่ก็มาอยู่บ้านที่ลาดพร้าว 93 ค่ะ


เมื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เก็ดถวาก็ไปอยู่หอพักใกล้ๆ มหาวิทยาลัย (ตลกนะคะ เป็นหอพักที่ลุงถึก สไลเดอร์เป็นเจ้าของค่ะ)

ตอนนั้น เมื่อมีใครถามว่าบ้านอยู่ไหน เก็ดถวาก็จะบอกว่าอยู่ลาดพร้าว 93

เมื่อถึงวัยทำงาน เก็ดถวามาอยู่จังหวัดที่แสนไกลจากบ้านมากกว่า 800 กิโล เก็ดถวาก็ยังบอกทุกคนว่าบ้านอยู่ลาดพร้าว 93 เสมอ


วันหนึ่ง แม่ป่วย ต้องย้ายไปอยู่กับคุณน้า ที่ปากเกร็ด นนทบุรี เก็ดถวาก็บอกทุกคนว่าบ้านอยู่ปากเกร็ด

ทั้งที่สมบัติทุกชิ้นของเก็ดถวา ก็ยังอยู่ที่ลาดพร้าว 93 นะคะ แต่ว่าทุกครั้งที่พักจากงานและเดินทางกลับบ้าน บ้านที่กลับคือที่ปากเกร็ดค่ะ


เมื่อปีที่แล้วแม่เสียค่ะ.. หลังจากที่แม่เสีย เก็ดถวาคิดไม่ออกแล้วว่าเมื่อพักจากงาน จะกลับบ้านที่ไหน

คิดไม่ออกว่า เมื่อคนถามว่าบ้านอยู่ที่ไหน เก็ดถวาควรต้องตอบว่าบ้านอยู่ที่ใด

เพราะบ้านของเก็ดถวา คือแม่ แม่อยู่ที่ไหน ที่นั่นก็เป็นบ้านเสมอ


ทุกวันนี้ เวลาใครถามว่าบ้านอยู่ไหน เก็ดถวาตอบได้แล้วค่ะ

บ้านเก็ดถวา อยู่ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ที่นั่นเป็นบ้านเกิดของแม่ แม่รักที่นั่นมาก

เก็ดถวาจึงเชื่อว่า เมื่อแม่ตาย แม่จะกลับไปอยู่ที่นั่นตลอดไป

ตอนนี้ เก็ดถวาคิดถึงบ้านจังค่ะ คิดถึงแม่.............

กะลังรอคนมาจับมือไปกุม แล้วกระซิบเบาๆว่า
"มาสร้างบ้านของเราฉองคนกันเถอะ  แต่งงานกะผมนะคับ"
ครอกกกกก... แจ๊บๆ อืมม ฝันไปก่อน รอเงกแล้ว

คุณเชน คิดไปโน่นเลย  :lol:

แต่ผมสังเกตเรื่องหนึ่ง บ้านที่ไม่มีคนมักโทรมเร็ว ผมมองไปในหมู่บ้านที่ผมอยู่ มีอยู่หลังหนึ่งสร้างมาก็น่าจะวัสดุเดียวกัน แต่ตอนนี้ทรุดโทรมพังลงมาแล้วครับ เช่นเดียวกับหลายๆที่ที่ผมเคยเห็นมาบ้าง

(http://humanities.byu.edu/elc/student/idioms/proverbs/images/home.jpg)


ตกลง ประกายดาวก็เป็น พยาธิ ใน รสนิยม คุณพี่เชน....ไม่ใช่ในลำไส้ใหญ่ นะคะ :mozilla_tongue:
ไม่น่าแปลกหรอกค่ะ
หนูเป็นลูกสาว ที่รัก พ่อสุดชีวิต พ่อหนูเป็นผู้ชายเกเร ที่มี toys มากมาย  พ่อ ใส่ยีนส์ ลีวายส์ ได้เท่มากๆ
หนู เรียนรู้ โลก ผ่าน พ่อ ยี่สิบกว่าปี ...
แถม ผู้ชายคนพิเศษ ในชีวิตหนู ยังมีเรื่องเล่าให้ฟังมากมาย เกี่ยวกับ ครูฝึกสอน...
และ ความคึกคักเกเรของนักเรียนชายหลังห้อง

http://www.amnuaysilpa.com/webpage/html/modules.php?op=modload&name=News&file=article&sid=157

พยาธิ ...ตัวนี้ จึงเกิดขึ้นได้ดังนี้แล แถมเป็นพยาธิที่ มีจิตวิญญาณ แบบ old soul  

ประกายดาวกำลังคิดไปถึง  ตอนเป็นเด็กๆ หัดวาดรูปบ้าน..
คิดถึง  เพลงเกี่ยวกับ บ้าน หลายๆ เพลง ที่นำพาความรู้สึกดี ดี มาให้
คิดถึง บ้านในความฝัน คิดถึง บ้านในความจริง

มาโอ๋ เก็ดถวา ...ที่คิดถึงแม่ค่ะ

บ้านในความรู้สึก ของประกายดาวก็มีหลาย ที่ค่ะ

บ้านที่อยู่ ตอนนี้ ...บ้านเพื่อนสนิท หลายๆ คน ก็เป็นเหมือนบ้านตัวเอง
บ้าน แม่ที่เมืองไกล
บ้าน ยายจ๋า ที่ริมแม่น้ำป่าสัก สระบุรี ....
จริงๆ ด้วย
บ้านทุก  หลัง ที่หนูคิดถึง  มันมีชีวิต ไม่ได้มีแต่ความรัก ..หรือ มีแต่ใจที่อบอุ่นเท่านั้น


(http://www.ftd.com/pics/products/HD23_c.jpg)

ที่จริง บ้านสำหรับ ประกายดาว ไม่ใช่บ้านในอุดมคติ ที่ต้องมีแต่ความรัก ความอบอุ่นด้วยซ้ำไป
หนู ชอบบ้านแบบในชีวิตจริง ค่ะ มี สุขบ้าง มีทุกข์บ้าง มีทะเลาะกันบ้าง มี ปลอบโยนกันบ้าง
มี หนีไปเกเรบ้าง ...มีกลับมากอดกัน แน่นๆ บ้างเมื่อเรา ปรับความเข้าใจกัน
เพราะ หนูเชื่อ  ...ในตัวตนของมนุษย์มันเป็นแบบนั้น...เรายังยืดหยุ่นกับตัวเอง เสมอๆ ได้
ทำไมเรา จะไม่ยืดหยุ่นกับคนพิเศษ บ้างเพื่อให้บ้าน เป็น บ้าน ที่แข็งแรง


ชอบเพลงนี้ ข้างล่างค่ะ ....

ทอฝัน

ฟางเส้นบางๆ ถักทอประสานเป็นรัง
ใบไม้เป็นดังหลังคา
ฟางครั้งละเส้นสร้างรังให้สวยขึ้นมา
เพียงพอพึ่งพา พอพักพิง


เราก็มีความฝันเหมือนนกที่สร้างรัง
บ้านเพียงสักหลังสวยสดใส
หลังที่เธอกับฉัน  สร้างมันด้วยมันเข้าใจ
เราจะเติมแต่งไป
ด้วยใจที่รวม เป็นดวงเดียว

เรียงร้อยเป็นรังถักทอประสานเยื่อใย
ทอฝันในใจทุกวัน
มีรัก สร้างรัง ให้ฝันด้วยกัน
เราจะเติมแต่งใจ
ใจที่รวมเป็นดวงเดียว

ทอฝันในใจทุกวัน

 :mozilla_smile:

คุณ ป้าเสลา ขา

ไพเราะ งดงาม จริงๆ ทั้งภาษา และ ความหมาย

ป้าเสลาประทับใจในความหมายของคำว่าบ้าน
เช่นเดียวกับชิ่อเพลงนี้ Home is where the heart is

ชอบมากเลยค่ะคำนี้ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะอยากไปอยุ่ที่ไม่ใช่ไทยนะค่ะ แต่รุ้สึกว่า ถ้ารักใครสักคนความอบอุ่นที่เกิดขึ้น ไม่ว่าอยุ่ที่ใหนก็ได้

คุณแม่ RUBY เคยสอนเสมอ ว่าให้บอกหนุ่มต่างชาติอย่างจริงใจ (อย่ากะล่อนไปวันๆ) อย่าคิดว่าเขาจะไม่กล้ากลับเมืองไทยไปกับเรา  :mrgreen: :mrgreen: เพราะเขาคิดว่า Home is where the heart is

แต่สำหรับผมนั้นคิดต่างออกไปครับ

บ้านคือที่ที่ผมรักที่สุด รักทั้งบ้าน และคนในบ้าน

และก็เป็นที่ที่เบื่อที่สุดเช่นกัน ทั้งคน ทั้งบ้าน

ยิ่งตอนนี้มีโครงการจะซื้อบ้านใหม่ด้วยแล้ว

ผมกลับยิ่งรู้สึกว่าที่ใหม่นั้น ไม่ใช่บ้านที่ควรจะมีผม

ผมอยากอยู่คนเดียวมากกว่า คนเดียวที่ไม่เหงา...

ขอบคุณค่ะ หนูประกายดาว
สำหรับกลอนบทนี้ ที่ป้าเขียนครั้งนั้น
ก็ด้วยความที่ว่าคนที่ป้ารักที่ควรอยู่ด้วยกัน
จำเป็นต้องแยกกันอยู่ ด้วยความจำเป็น
ไม่ว่าจะด้วยเรื่องเรียนก็ดี เรื่องอาชีพการงานก็ดี
ทำให้ต้องมีบ้านที่แต่ละคนอยู่อาศัย ตามที่ต่างๆกัน

เพราะฉะนั้นความหมายของคำว่าบ้าน
ก็จึงไม่ได้หมายถึงตัวอาคารสถานที่
แต่หมายถึงที่ซึ่งคนที่เรารักอยู่
หรือที่ซึ่งหัวใจเราพอใจที่จะอยู่

คิดอย่างนี้แล้วหนูใบไม้ทะเล หนูจะสบายใจ

In The Name Of Justice. คุณแค่เบื่อการอยู่รวมกันหลายๆคนเท่านั้น
แต่คุณก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณรักพวกเขา
ไม่ว่าที่ใดที่เขาอยู่ ที่นั่นก็คือบ้าน

แม้คุณจะมีโอกาสแยกอยู่ตัวคนเดียว
เพราะคุณคุ้นเคยหรือติดกับห้องเก่าที่คุณอยู่มานาน
คุณผูกพันกับมันเพราะรุ้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของ

คุณก็จะต้องรู้สึกอยู่ดีว่า บ้านคือตรงไหน...

บ้าน วันนี้ ของดาว

ไม่ใช่ พื้นที่สี่เหลี่ยม มีหลังคาและ ผนัง หรือ กำแพง ...
ไม่ใช่ห้องนอนอุ่นๆ หรือ ห้องแต่ละห้องในบ้าน

 ...บ้านของดาว วันนี้

หมายถึง ความมั่นใจ ในความรู้สึกดีๆ ที่สร้างขึ้น
เกิดขึ้น ในหัวใจตัวเอง ...มั่นคงแข็งแรง มีทิศทาง ...
เหมือนมีเข็มทิศ ประจำตัว...อยู่ด้วยกันในใจ


HOME

บอย โกสิยพงษ์

Intro 2 Bars..1...2..

ดอกไม้ ประตู แจกัน
ดินทราย ต้นไม้ ใหญ่
แก้วน้ำ จานชาม บันได
โคมไฟที่สวย งาม

ขอบรั้ว และริม ทางเดิน
ต้นหญ้า อยู่ใน สนาม
บ้านนี้ จะมี
ความงาม ได้ที่ เธอ

เพราะเธอคือ ที่พักพิง
คือทุกสิ่ง ที่มีความหมาย
เมื่อเธออยู่ เคียงชิดใกล้
เรื่องร้าย ใดใด ไม่เกรง
แม้ข้างนอก จะต้องเจอะ
กับเรื่องราว ที่ใครข่มเหง
แต่ฉัน เอง ไม่คิด กลัว

จากพื้น ยันถึง เพดาน
นั้นมีความหวาน อยู่
เพราะรู้ ว่าฉัน มีเธอ
คอยเป็นที่พัก ใจอยู่

จะรอ คอยฉัน จริงจริง
เป็นหลัก พึ่งพิง สุดท้าย
จะล้ม ตัวลง เอนกาย
ที่บ้าน ของฉัน

ไม่ว่าวัน เวลา จะเปลี่ยนหมุน
เวียนไป เท่าไร
ฉันยังคง มีแต่เธอ
เต็มความหวัง และความ เข้าใจ
พร้อมจะเก็บ ทุกสิ่ง
ทิ้งความสุข ทุกอย่าง
แหละจะทำ ทุกทาง
เพื่อบ้าน หลังนี้

ดอกไม้ ประตู แจกัน
ดินทราย ต้นไม้ ใหญ่
แก้วน้ำ จานชาม บันได
โคมไฟที่สวย งาม

ขอบรั้ว และริม ทางเดิน
ก็ล้วน แต่มี คำถาม
บ้านนี้ จะงามอย่างไร
ถ้าไม่ มีเธอ

ก็เพราะ ว่าใจของเธอ
คือบ้าน ของ ฉัน ......

ว้าย โรแมนติกที่สุด    :mozilla_oops: :mozilla_tongue:

โน๊ตเปียโน เพลง Home ของคุณ บอยด์ ครับ

 :mrgreen:
(http://img112.imageshack.us/img112/8872/fatherpushingswinglgwht2ck.gif) (http://imageshack.us)      (http://img114.imageshack.us/img114/6662/fatherfamilykidpoolrelaxlgwht4.gif) (http://imageshack.us)

บ้าน  หากได้ประกอบด้วยทั้ง 3 ส่วน คือ
สิ่งของหรือตัวบ้านและอุปกรณ์ภายในที่จำเป็น
กายของผู้อยู่อาศัย และ ที่สำคัญ คือ ใจ ของทุกคน
ก็เหมือนสวรรค์นั้นแล... :mozilla_smile:

มี คาราโอเกะ มาให้ฝึกร้องครับผม เป็นเพลงโปรดของผมอีกหนึ่งเพลง :mrgreen:

http://karaoke.sansuk.com/view.asp?id=8316 (http://karaoke.sansuk.com/view.asp?id=8316)

เป็นกระทู้ที่เข้ามาอ่าน แล้วได้ความสบายใจ

กลับไปทำให้นอนหลับฝันดี :mozilla_smile:

ภาพน่ารักทุกภาพเลยค่ะ ^^

เก็ดถวาชอบเพลงเกี่ยวกับบ้านอีกเพลงหนึ่งค่ะ

"รุ้งใต้หลังคา" เมื่อก่อนเคยมี แต่ตอนนี้หาไม่เจอ เนื้อหาดีมากๆ เลยค่ะ..

ถ้าใครมีจะกรุณาเก็ดถวาบ้าง ก็จะเป็นพระคุณมากๆ เลยนะคะ   :mozilla_tongue:

ใช่เพลงนี้ไหมครับ.. เอามาฝากเผื่อป้าผ่านมาเห็น

Home is where the heart is : Elvis Presley
------------------------------------------------
Home is where the heart is
And my heart is anywhere you are
Anywhere you are is home
I don't need a mansion on a hill
That overlooks the sea
Anywhere you're with me is home

Maybe I'm a rolling stone
Who won't amount to much
But everything that I hold dear
Is close enough to touch

For home is where the heart is
And my heart is anywhere you are
Anywhere you are is home

Maybe I'm a rolling stone
Who won't amount to much
But everything that I hold dear
Is close enough to touch

For home is where the heart is
And my heart is anywhere you are
Anywhere you are is home

Home, home, home, home, home
------------------------------------------------

มีให้ฟังเพลงที่ Blog นี้ครับ เสียงชัดดีพอสมควร

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=auntymod&month=04-2005&date=23&group=4&blog=1

ขอบคุณคุณ jerasak ที่หาเพลงมาให้ฟัง
ผมพึ่งได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรก 
ผมว่า Elvis เขาร้องเพลงช้าได้กินใจซาบซึ้งมาก
น้ำเสียง การลากเสียง การอึม...อะไรทำนองนี้
มีเพลงประกอบเลยทำให้ความหมาย
คำว่า "บ้าน" ของป้าเสลาดูกินใจมากครับ
"Home is where the heart is"

ว้าว...

ขอบคุณ คุณ jerasak มากๆ เลยค่ะ น่ารักมากๆ
ตามคุณภูพาน มาฟังเพลงด้วยคน

ไม่ได้ฟังเสียงแบบนี้ มานาน
ฟังแล้วรู้สึก อ่อนโยนมากๆๆ....
โดยเฉพาะ ตอนที่บอก ว่า

"หัวใจของฉัน อยู่ในทุกๆ ที่ ที่มีคุณ "
ฟังแล้วอบอุ่น ไปทั้ง หัวใจ...
ฟังแล้วทำให้ สายๆ วันอาทิตย์ อย่างนี้ มีความสุขค่ะ

อย่างที่กระทู้ว่าแหละครับ บ้าน คือ ความหมายในใจ

ผมเปลี่ยนที่อยู่บ่อยตั้งแต่เด็กครับ เคยอยู่มาแล้วหลายแบบ ตั้งแต่ตึกแถว ห้องแถว เรือนแถว อพาร์ทเมนท์ ทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว คงมีคอนโดครับที่ยังไม่เคยอยู่ ถ้ามีโอกาสจะลองอยู่ดู  :D

บ้านสำหรับผมไม่ได้อยู่ที่โครงสร้าง หรือว่าทำเล หรือว่า ตัวตึก แต่มันคือที่พัก ที่ไหนก็ได้ที่อยู่แล้ว ใจผมได้พักด้วยจริงๆ อยู่อย่างสงบ เหมือนที่ ท่านนึงได้ตอบกระทู้ โดยยกเอาศัพท์ภาษาอังกฤษมาประกอบ House ก็แปลว่าบ้าน Home ก็แปลว่าบ้าน แต่ Home คือบ้านในความหมายของผมครับ ต่อให้มันเป็นแค่เรือนแถวห้องสี่เหลี่ยมแค่ 16 ตรม. มันก็คือบ้านที่ผมเคยอยู่แล้วสุขใจครับ ไม่ได้ใหญ่โต ไม่มีโซฟา ไม่มีชักโครก

ผมว่าถ้าเราคิดจะมีบ้านซักหลังนึง เลือกที่ ที่เราอยู่แล้วใจเราได้พักเถอะครับ  :lol:

ขออนุญาต ขุด กระทู้ขึ้นมาฟังเพลง ...Home's where the heart is.....
ความรู้สึก อบอุ่น ....บ้านในความหมายล้ำลึก ....

การมีกันและกัน .....ก็เหมือนได้ร่วมบ้านแม้นห่างไกล

อยู่ร่วมบ้าน แต่เหินห่าง ราวกับแสนไกล .....

นอกจากเพลงเรือนแพ ของชรินทร์ นันทนาคร ที่ให้ความรู้สึกของบ้าน อีกแบบแล้ว
ผมนึกถึง เพลงบ้านเรา....อยู่ที่ไหนไม่สุขใจเท่าบ้านเรา...อีกเพลง

และที่ขาดเสียมิได้ 1 ใน 3 สุดคะนึง ของคำว่าบ้านคือ

เพลงบ้านหลังน้อย..รอเธอ...ที่ปลายสวน
ดอกลำดวน .....ฯลฯ ....ของคุณแม่พี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์
ตอนที่เขา พาแม่มาออก คอนเสิร์ต แบบเบิร์ด เบิร์ด ( ไม่แน่ใจใช่หรือไม่ )

เคยมี MP3 เพลงนี้คับ แต่ ไม่รู้แผ่น หายไปไหน คงต้องไปค้น
อยากบอกว่า เสียงคุณแม่ ร้องได้ ดีจริงๆ
คุณแม่ร้องไป น้ำตาไหลไป (คงคิดถึงคุณพ่อพี่เบิร์ด)

นี่แหละคับ บ้านในความทรงจำ จริงๆ....