ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => ร้อยรักษ์กวีวรรณ => ข้อความที่เริ่มโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 03-05-2008, 20:25



หัวข้อ: ...... บันทึกปากคำ จากบางห้วงขณะ .......... !!
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 03-05-2008, 20:25






(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/409/3409/blog_entry1/blog/2008-01-25/comment/201804_images/26.jpg)


ร่ายคำ งำเมือง
( ๑ )

... ร่ายคำ งำเมือง ...


กระแสสร้างทางลวงห้วงกระแส

โลกรึแปรไปตามความประสงค์

ชั่วอัปรีย์ใดค้ำการดำรง

ผิดเผ่าพงษ์วงศาอนาจาร


วจีเภทเศษซากในฟากฝัน

ไหวชีวันจำเรียงแค่เพียงผ่าน

ใครสิหวนซาบซึ้งคำนึงกาล

เขาสราญสาธกดั่งพกลม


ผิดแต่ผู้กรำกร้านในการก่อ

ผิดแต่หน่อแต่เชื้ออันเรื้อข่ม

เขามากอบโกยไปใครสิจม

ทุรคมดักดานมิบานเบา


ผู้บำเทิงเริงจิตกลับผิดผู้

ประหนึ่งกูต้องทนในหนเก่า

อยู่แต่เถื่อนระทมพนมเนาว์

ประดุจเงาไร้ค่าคนวาโมร


แถนผีเมืองเรืองงามอร่ามแสง

บัดถึงช่วงแสดงมาแต่งโขน

เข้ามากรานกราบซึ้งถึงทะโมน

บดคราบโจรในซากด้วยปากดี


เอยกู

บัดสิกู่ร่ายคำโยงย้ำที่

ปรารถนาแห่งหนอันคนมี

มาแต่เมืองชีวีอันโสมม


สรดื่นดาษยลคนขยะ

สรณะแห่งเงินตราสิมาถม

พักตร์ผันแปรแลไปกระไรชม

ยลมิต่างอาจมแล้วชีวิต


นับประสาอะไรใจมนุษย์

น้ำเงินยุดศรีศักดิ์ให้รักผิด

สำนึกใดไหนย้อนสะท้อนคิด

วิปริตในหนพ้นษมา


เมืองจึ่งรุ่มในร้อนสะท้อนเรื่อง

มรรคาเนื่องล้นหลากมากปัญหา

ใครสิปลดไหลหลงในศงกา

เปลี่ยนหางมาเปลี่ยนหัวไปรึใช่ที


ศฐเย่อกำแหงมาแต่งฤกษ์

โจราเบิกม่านฟ้าสร้างราศี

คนพึลึกฤาตรึกย้ำพระคำภีร์

คนอัปรีย์จึงรวมมาอาสานำ


จนอาเพศประเทศชาติอนาถจิต

ชั่วสถิตแต่หนคนใจต่ำ

ต่างสิกอบโกงโกยอยู่โดยกรรม

ผิดในธรรมอันแจ้งแสดงนัย


จึงกำพรืดมืดบอดตลอดย่าน

ชั่วสันดานต่างชิงความยิ่งใหญ่

บโทนแห่งทุรชนลี้พลไป

หวังแต่ชัยชำนะอันระราน


กูสิบนข้าวผีตีข้าวพระ

วิสาสะแห่งมนต์ไหววนผ่าน

เสียงสาปแช่งแรงร้อนสะท้อนกาล

จารึกวาร จั ญ ไ ร ใครอัปรีย์


วิสารส่งแต่คำอันล้ำเลิศ

จริงมิเกิดอันใดในวิถี

ยังแต่ลวงเล่ห์ร้อยถ้อยวลี

อันอ้างมีนโยบายมาขายคำ


กี่สมัยในหนพะพ้นผ่าน

แลกี่กาลใจปลื้มไปดื่มด่ำ

เห็นแต่หนทนทุกข์คลุกระกำ

เขายังนำเภทภัยมาให้ทน


นายเอย

ข้าไม่เคยได้ยิ้มอิ่มสักหน

กับคำถ้อยร้อยร่ายดั่งสายมนต์

ประชาชนที่เห็นนั้นเช่นกัน




( ๒ )

...วิบัติยุค ...


เฝ้ายลแลเบื้องสมัย จั ญ ไ ร ยุค

พะวงปลุกใจอิงเพียงสิ่งสรรค์

เจ้านายเงินผู้เปี่ยมค่าเหนือสามัญ

ขนประชันทุนสร้างบนทางทุน


ผิดแต่ผู้ดักดานบนลานทุกข์

หวังถึงสุขเอื้ออิงพอพิงอุ่น

หวังดื่มด่ำกำซาบกราบการุณย์

หวังสิพึ่งใบบุญพาชีวิต


กลับถูกเมินเผินมองครรลองนั้น

กลับถูกหยันในหนดังคนผิด

เพียงปลายตาชม้อยแม้นน้อยนิด

รึหวังคิดเหลียวมาว่ากระไร


ล่วงผ่านยุคสมัยกาลอันนานเนิ่น

บางส่วนเกินบ่งนามทรามสมัย

บางส่วนขาดข่มแคลนข้นแค้นใจ

หวังแค่เอื้อมรึไกลมิต่างกัน


พาชีพย้ำดำรงคล้ายหลงยุค

คำปลอบปลุกในทางมิต่างฝัน

ให้ต่างพบสบทั่วชั่วนิรันดร์

ดังยืนยันโลกเห็นเป็นอยู่คือ


กระแสสร้างทางใจไหวกระแส

กระสันแปรกำหนดเป็นบทสื่อ

เปลี่ยวตัณหาล้ำลึกที่ฝึกปรือ

ก็ฝากชื่อเอาไว้ให้คนทัก


เปลี่ยนจากยุคสู่ยุคผู้ปลุกปั้น

กระแสฝันผูกประเด็นไว้เป็นหลัก

กี่หนกาลผ่านพะวงดังหลงรัก

ผู้จมปลักแร้นแค้นในแผ่นดิน


จากหนึ่งผู้นิยามความมืดบอด

เข้าสืบทอดถ้วนย่านแลฐานถิ่น

ประโคมหวังประทังหนพรางมลทิน

ก็มอบภักดิ์ชีวินให้เขาแล้ว


ปรากฏแห่งความชอบผู้กอบกู้

ชื่นเชิดชูเชื้อผ่องดังก่องแก้ว

กรรมใดตกปกปิดสนิทแนว

แต่งฝันแพรวพรางฟ้าในคราคราว


ต่างแค่มามองเห็นความเป็นอยู่

สิหวังผู้ใดเอื้อเป็นเชื้อกล่าว

สิหวังใครปลดเปลื้องในเรื่องราว

อันรานร้าวชีวิตสถิตทน


เถอะไอ้นายผู้รวยร่ำ

นายหว่านคำประทังเพียงหวังผล

กี่สมัยที่สดับยังอับจน

เพราะนายย่ำหัวคนอยู่เนิ่นมา


บัดนั้นฤาบัดนี้

กระฎมพีชนชั้นอันไร้ค่า

สิหวังใดแท้มั่นในมรรคา

คอยแต่กลืนน้ำตาอุราร้าว


ความหมายแห่งคุณค่ากะลาครอบ

จึงลวงย้ำคำตอบมาเกริ่นกล่าว

คำนึงใดไหวเปลื้องในเรื่องราว

แลร้อนหนาวแผ่นดินอย่างชินชา


จากนาแต่นายังปลาอยู่

สิจากอู่แรมรอนหาบคอนหา

ข่าวแต่เบื้องแต่บทอันจดพา

บ่เห็นข่าวชีวาผู้แร้นแค้น


สบแต่ทรามแผ่นดินมิสิ้นสุด

ดังเสื่อมทรุดธานีมนต์ผีแถน

อัจนาเซ่นสรวงทุกห้วงแดน

หวังคลายแคลนคับข้องหม่นหมองใจ


สิเชิญเทพใดทรงเป็นองค์เอก

ยลตามเลขตามลักษณ์แทบตักษัย

แลสับสนเทพมารบนบานใคร

แล จั ญ ไ ร มิต่างในร่างทรง


หวังสิลืมตาอ้าปาก

ความลำบากอันใดสิไสส่ง

หวังอยู่ดีกินดีที่ดำรง

กลับต้องปลงใจวางอยู่ปางตาย




( ๓ )

กาลีกินเมือง



ดังไม่เห็นถูกผิดผู้คิดคด

อาดูรในปรากฏแห่งความหมาย

อติสารแผ่นดินถวิลวาย

กับวิโยคสุดท้ายกระไรพอ


อัปการแห่งยุคสมัยย้ำ

อัปยศในกรรมอันเกิดก่อ

อัปลักษณ์กินเมืองขุ่นเคืองรอ

อัปรีย์กาลผ่านส่อสร้างอัปรีย์


สวะชนวนเวียนชวนเหียนราก

รวมชั่วสมใจอยากนอมินี่

ครกกะเบือเสื่อสาดเป็นชาติพลี

สว้านลมชีวีประเทศไทย


กาลีชนดลทรามลามกระแส

ชั่วดีแปรโดยวาจาอันสาไถย

พานิยมสรรเสริญกันเพลินใจ

อุบาทว์ใดอุบัติย้ำธรรมดา


ไอราพตปลดระวางอยู่กลางห้วง

ลมปาดหาวกร้าวช่วงแสวงหา

แลตรีโลกโศกช้ำไร้ธรรมา

อวิชชาโลดแล่นทั่วแผ่นดิน


วิปลาปลวงซึ้งไปถึงค่า

เชื้อโจราก็น้อมรับซึ่งทรัพย์สิน

เพรียกเปรตปอบนอบทรามตระกรามกิน

ใครจักสิ้นศรัทธาช่างหน้ามัน


ปฏิฆะแห่งชนมิยลรู้

พรรคพ้องกูจักใหญ่ใครฤากั้น

เร่งหมายลุอำนาจเข้าฟาดฟัน

ฉิบหายกันอีกคราประชาไทย




( ๔ )


... ทรามสมัย ...


สรรพสิ่งเคลื่อนคล้อยในรอยเก่า

ตัณหาเฝ้าแต่งค่าความสาไถย

กิเลสแฝงเงาทั่วห้องหัวใจ

ความเป็นไปจึงเสกสรรค์ชั่วบรรลือ


วิญญูชนจอมปลอมพร้อมกลับกลอก

ภาพผู้ดีลวงหลอกให้นับถือ

สามัญชนเติบสร้างมิต่างกระบือ

เป็นอยู่คือดักดานกับกาลกรรม


ทุรยุคทุรชนล้นอำนาจ

สร้างอุบาทว์เริงสมัยดึงใจต่ำ

กลับทุกสิ่งเรื่องราวขาวเป็นดำ

คน ร ะ ยำคุมครรลองครองธานี


ความดีงามเคยแจ่มชัดก็บัดบง

เปลื้องใจลงเสพกากเดนซากผี

รากแผ่นดินดูดซับความอัปรีย์

คุณความดีสูญสลายพ่ายเงินทอง


ไม่มีแล้วคุณความดีแห่งชีวิต

สิ้นแล้วซึ่งความคิดอันผุดผ่อง

เขามาซื้อถือทรัพย์เข้าจับจอง

หนครรลองอันควรก็ปรวนแปร


อัปภาคย์แห่งหนมิพ้นพ่าย

กระแสทรามลามร่ายสายกระแส

สิ้นสูญพันธุ์คนดีที่เหลียวแล

หมองหม่นแดดวงร้าวหนาวแผ่นดิน




( ๕ )

... ทรยุค ข้าวยากหมากแพง ...



ลำพองแห่งทุรชนเข้าปล้นปั้น

ข้ามขื่อแปเปลี่ยนปันไปถ้วนถิ่น

เหิมผูกขาดชนยำยำเข้าทำกิน

อำนวยทรัพย์รับสินแต่พวกพ้อง


เอยกู

บัดเหลียวดูแผ่นดินช้ำระกำหมอง

จากงามแสนแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง

บัดสิ้นหนครรลองอันตระการ


ข้าวยากหมากแพง

แลไอ้นายสิ้นแรงจักคิดอ่าน

ที่จนย่ำไร้หลักยิ่งดักดาน

ที่เบิกบานอยู่สบายคือนายทุน


ไอ้นายทุนผู้สมคบ

นักการเมืองขี้ประจบหวังเงินหนุน

ปวงประชาพึ่งใดหนอใบบุญ

หวังเทวาการุณย์ก็อ่อนล้า


จะบัดนี้บัดนั้นฤาบัดไหน

ความเป็นไปแห่งชนยลไร้ค่า

มีสิทธิ์เสียงเพียงเปลือกเลือกตั้งพา

ระบบประชาธิปไตยเพื่อใครกัน


เพื่อนายเงินนายทุนหนุนระบบ

หรือเพื่อเดนกากซากศพแห่งความฝัน

เพื่อสัตว์สภาโสมมผสมพันธุ์

หรือเพื่อผองชีวันผู้ทุกข์ทน


กี่คำถามสิ้นไร้ในคำตอบ

กี่ความชอบไม่แจ้งแสดงผล

ทรยุคมารผยองลำพองตน

เหยียบย่ำหัวประชาชนสุขสบาย


กระดูกหมูซี่โครงไก่

เขาโยนให้คาบเชื้อบุญเหลือหลาย

ยังชี้ชอบดีงามตามจ้าวนาย

เขากินเนื้อเหลือเศษคายก็คว้ากิน


เป็นบุญแล้วไอ้นายเอย

เอ็งเสวยเนื้อหนั่นควันกรุ่นกลิ่น

บอกประชาเอาบุญให้คุ้นชิน

ซี่โครงไก่ผูกลิ้นประทังไว้


------------------

โดยคำ ลานเทวา


(http://www.beyondtv.org/nato/crap/capitalism.jpg)



หัวข้อ: แล้วก็เป็นไปตาม ......... ความชั่วร้าย ....... !!!
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 04-05-2008, 14:49



(http://bp1.blogger.com/_yyEg-MlpKVo/Rz5hhMrJ78I/AAAAAAAABsg/Dp8adZLxgOk/s400/Picture1.jpg)





แล้วก็เป็นไปตามความชั่วร้าย

แล้วก็กลายเป็นทรามตามนิสัย

เหมือนดังที่แล้วมาก็แล้วไป

สังคมไทยก็ยังเป็นอยู่เช่นนั้น


กี่สมัยล่วงผ่านการปลอบปลุก

แลกี่ยุคหนทางใดสร้างสรรค์

กี่คนมากี่คนไปถึงไหนกัน

ปัจจุบันกลับชั่วช้ายิ่งกว่าเดิม


สำนึกเห็นเป็นอยู่ผู้สำนึก

แต่ชั่วมันเร้นลึกมาแต่เริ่ม

จะหาใดดีงามมาตามเติม

ยังแต่ความเหิมเกริมเห็นหัวใคร

 
ต่างเริงหลงอำนาจอย่างกราดเกรี้ยว

แลกี่เที่ยวกี่หน้าผู้มาใหม่

กี่พลพรรคประจักษ์แจ้งทุกแห่งใจ

กี่หัวมากี่หางไปทิ้งร่องรอย


แล้วก็เป็นไปตามความชั่วร้าย

แล้วก็กลายเป็นทางอันด่างพร้อย

หาดีใดมาคิดประดิดประดอย

ทุกสิ่งพลอยเสื่อมทรามแล้วยามนี้

..........................

โดยคำ  ลานเทวา





 


 

 


หัวข้อ: Re: ...... บันทึกปากคำ จากบางห้วงขณะ .......... !!
เริ่มหัวข้อโดย: qazwsx ที่ 04-05-2008, 14:54
 :slime_worship: :slime_agreed:


หัวข้อ: ทุนสามานย์อัปรีย์ ทฤษฎี ร ะ ยำ ...... !
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 04-05-2008, 21:09

(http://static.howstuffworks.com/gif/ozone-pollution-smog.jpg)




ปรัชญาอภิชนผู้ครอบงำ

โดยทฤษฎี ร ะ ยำ แห่งตัณหา

สร้างภาพบัญญัติบัญชา

อนุมานเงินตราเหนืออื่นใด

 
ผันเปลี่ยนทุกกระแสแปรวิถี

โดยสามานย์ทุนอัปรีย์ประดังใส่

ยะถานี้ตีค่าราคาเท่าไร

ทุนทรัพย์ซื้อได้แม้ชีวิตคน

 
จับจองซื้อในทุกสิ่งทุกอย่าง

ลงทุนสร้างกลืนมันไปทุกหน

ซื้อมันสิ้นชีวีวิถีชน

ซื้อความสุขทุกข์ทนซื้อชีวา

 
ลุถึงกาลเวลาของคนเขลา

ผู้ปล่อยตัวมัวเมาอย่างสูญค่า

แปรทุกสิ่งตามอำนาจเงินตรา

ซื้อขายสิ้นมรรคาแห่งชีวิต


-----------------

โดยคำ  ลานเทวา

 



หัวข้อ: ปรัชญา จากป่าขี้ ............ !!
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 04-05-2008, 21:21

(http://www.thailabour.org/thai/docs/images/060707a3.jpg)


ค้นเถอะกระฎมพี


อุดมการณ์อันมีราคาขาย


มีทรัพย์นับเห็นว่าเป็นนาย


จนอับก็เปล่าดายเถอะชีวิต




โน่นแน่ะ ! คนจน ...


สัญชาติอันทุกข์ทนหม่นจิต


กรำไส้แห้งแต่งสร้างทางทิศ


อยู่ท่ามความวิปริตของสังคม




ในความผลัดเปลี่ยนแห่งกาล


หรือพาพ้นผ่านทลิทข่ม


นับหมื่นแสนล้านยังซานซม


อยู่กับความทุกข์ตรมชีวี




หยุดเถอะผู้มีอำนาจ


หยุดปรัชญาอุบาทว์จากป่าขี้


หยุดเถอะนายทุนนิยมอัปรีย์


ชีวิตมิได้มี เอาไว้ขาย ...



------------------------
ลานเทวา



หัวข้อ: ............................ สนทนาประสา .........?
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 05-05-2008, 01:15
(http://tnews.teenee.com/politic/imr9/447522.jpg)






ก็มิอยากจะสาธก

ให้มันตกมันต่ำ ร ะ ยำ หมา

ให้มันเสียสติกริยา

ให้สิ้นค่าในคำอันย้ำคิด



แต่บ้านนี้เมืองนี้

มันมากมีสารพัดดัดจริต

คำโกหกหน้าตายสหายมิตร

อาบยาพิษลงมีดไว้กรีดใจ



พูดจาหมาไม่แดก

ก็ยังแถกมาเป็นนายกได้

ทั้งกุ๊ยทั้งเจ้าพ่อต่อมิอะไร

ก็เสือกใส่เสือกยัดเป็นรัฐมนตรี



รวมนักเลงอันธพาล

ตลอดย่านร้านช่องซ่องกระหรี่

มาลอยหน้ากลับกลอกออกทีวี

ประจานความอัปรีย์การเมืองไทย


------------------

โดยคำ ลานเทวา







หัวข้อ: Re: ...... บันทึกปากคำ จากบางห้วงขณะ .......... !!
เริ่มหัวข้อโดย: kara - kasung ที่ 05-05-2008, 08:54
  ขอร้อง...ใช่มองโลก ในแง่ลบ
ชีวิต ช่างบัดซบ ไม่จบสิ้น
เช้าสาย บ่ายเย็น เป็นอาจิณ
ก็ได้ยิน เสียงหอนเห่า เจ้าสุนัข
  ก็ช่อง NBT   Eเพ็ญภาค
สวิทช์เปิด ประเสริฐมาก ปากสมัคร
สนทนา  ศรีทะนน- ชัย(ยะ)ชัก
ทั้งหอกหัก หอกลิ่ม เข้าทิ่มจอ
  ชอบพ่น  พูดพล่าม ช่างห่ามสุด
เฮงซวยทรุด กระเซ็นสาย น้ำลายสอ
เอากระจก ส่องกระจ่าง สว่างพอ
สมัครหงอ ก็ทุบชก กระจกพัง
  ธีรยุทธ นั้นบอกถูก ว่าลูกกรอก
คะนองปาก ล้วนปลิ้นปลอก บอกความขลัง
เจ้าของ กำหนดได้ ให้ตายรัง
แล้วแต่สั่ง จะเสกไสย์ อย่างไรดี
  ขอร้อง..พูดซ่กม๊ก นายกหยุด
ปากเหมือนตรุ๊ด พูดเหมือนมหา หน้าเหมือนหมี
เด็ก ๆเฝ้า  เสาร์-อาทิตย์  ติดทีวี
ให้เด็กมัน ได้สิ่งดี ...กับเขาบ้าง...(เถอะ)


หัวข้อ: คนปลูกข้าว คนขายข้าว .... ! ( ข้าวได้ราคา แต่ชาวนาไม่ได้กำไร )
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 05-05-2008, 21:53
 

(http://www.thaitrip.com/culture/dec.jpg)


เนิ่นมาแต่หน

ทนมาแต่เก่า

ใดสรรค์มาบรรเทา

ความเหนื่อยล้าอันโรยแรง




(http://kromchol.rid.go.th/ffd/inwepf/rice/13%20small.jpg)



แตกต่างจนชัดแจ้ง

ฤาโลกแกล้งชาวนาชะตาต่ำ

เขาลงทุนลงแรงเข้าแต่งทำ

กว่าสิเก็บกอบกำก็อ่อนล้า

 

นายมาชุบมือเปิบ

ปั่นราคาเสียเติบเพื่อใครหว่า

เศษสลึงใดถึงชาวนา

นายปลุกปั่นราคาเก็บผลกำไร

 

ตันละหมื่นตันละแสน

แต่เศษเสี้ยวแร้นแค้นมิไปไหน

ความดักดานยังอยู่คู่ผืนนาไทย

คนปลูกปลูกไปคนขายเจริญ

 

แตกต่างจนชัดแจ้ง

ใช่ฟ้าดินกลั่นแกล้งแต่นานเนิ่น

ใครทำนาบนหลังคนดลเดิน

ใครสนุกเพลิดเพลินอยู่บนหัวชาวนา


................................

โดยคำ  ลานเทวา

 




(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/24/24/images/other/rice2.jpg)




หัวข้อ: แถลงการณ์จากคนโซ ผู้ทายท้าสภาแถน ...ตื่นเถิด ผู้รักความเป็นธรรมทั้งหลาย !
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 05-05-2008, 22:01

(http://www.opendoorsuk.org/galleries/n_korea/HTML/nk_hammer+brush+sickle_std.jpg)





( ๑ )

 

แดดสุดท้าย ณ ปลายฟาก

กาลผีตากผ้าอ้อมฟ้าออมแสง

วัฏฏกรรมปรากฏบทแสดง

ชีวิตแจงรอยทางอันกว้างไกล

 

อัสดงปลงกาลลับม่านฟ้า

เจ้าพระยาโลมถิ่นระรินไหล

เรื่อยเรื่อยผ่านราวเรื่องเมืองวิไล

บอกเล่ากาลล่วงไปแล้วอีกวัน



คล้อยคล้อยผ่านม่านค่ำเข้าคลุมคลี่

ประดับงามราตรีแห่งเมืองฝัน

ทุกซอกหลืบรุ่งเรื่องเมืองเทวัญ

ดอกดาวรำพันกล่อมเจ้าพระยาวารี

 

(http://tonprik.org/upload/pics/5490000023001221.jpg)




( ๒ )

 

กล่อมเอย กล่อมเมืองฟ้า

กล่อมทวยเทพเทวาสุธาสี

ขับทิพย์คีตะเห่ท้าวเทวี

เสวยสุขเหนือบุรีมหานคร

 

รัตติกาลมาเยือนแล้ว

เชิญประทับวิมานแก้วประภัสสร

ชมคนธรรพ์บรรเลงเพลงละคร

ท่ามกลางสวนอัมพรสาดแสงเดือน

 

ท้าวเสวยสุขแล้วจงฟังข้า !

ก่อนรติกาลมายาจะคล้อยเคลื่อน

ข้าคนโซซมซานผ่านมาเตือน

บอกข่าวจากชานเรือนจากแดนดิน

 

คนทุกข์คนยากเค้าฝากมา

ข่าวน้ำข่าวปลาข่าวท้องถิ่น

แลข้าวยากหมากแพงแสลงกิน

ท่านไม่เคยยลยินมาใยดี

 

(http://www.onopen.com/upload/IMG_7904.jpg)


( ๓ )

 

เถอะสิ้นอดสิ้นกลั้นกันเมื่อไหร่

สวรรค์จะมิเหลือใดไว้เป็นที่

เหล่าคนจนทุกข์ยากจากปฐพี

จะโหมไฟราวีสุราลัย

 

สรวงเอย สรวงเทวากระยาหงัน

มินานวันแล้วสุขจะรุกไหม้

หากห้วงทุกข์ชาวชนมิสนใจ

ชนชาวเราจะสุมไฟเผาเมฆิน

 

ให้ฉิบหายทั้งแดนสรวง

เผาทวยเทพหลอกลวงนั้นให้สิ้น

เพื่อสุขของแว่นแคว้นของแผ่นดิน

ล้างเทพแถนมลทินกันอีกครา

............................

โดยคำ ลานเทวา

 



(http://www.vcharkarn.com/uploads/5/5054.jpg)


หัวข้อ: ................................ รีบ เร่ง แตกหัก ..... !!
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 05-05-2008, 22:08


(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/8/8/images/cha.jpg)


(http://rss.udclick.com/www2/images/stories/manager_11_2007/politic/550000015763201.jpg)



 

 

ฉิบหายกันยังไม่พอ

ต้องเร่งก่อเร่งสร้างทางฉิบหาย

ประเดี๋ยวประชาจะสุขสบาย

นักการเมืองจะอดตายทั้งแผ่นดิน

 

เร่งสุมฟืนสุมไฟใส่ต่างขั้ว

เร่งความชั่วเข้าครองทุกท้องถิ่น

เร่งฉกฉวยโอกาสอุจาดกิน

เร่งสุ่มไฟธานินให้โชนแรง

 

ฉิบหายกันยังไม่พอ

ต้องเร่งก่อเร่งสานงานปรุงแต่ง

ให้ชั่วเลวยำยำได้สำแดง

ทรามตะแบงอยู่ตาปีตะบี้ตะบัน

 

จึงต่างเร่งถ่อแถกเข้าแตกหัก

ล่มจมหนักอย่างไรใช่ของฉัน

ประเทศนี้ประเทศไทยของใครกัน

แลช่างเถอะช่างมัน นักการเมือง

........................

โดยคำ ลานเทวา



(http://picdb.thaimisc.com/tuthaprajan/2571-4.jpg)



คลิ๊กฟังเพลง ตามไปด้วยช่วยได้เยอะ (http://www.oknation.net/blog/phutanow/2008/04/24/entry-5)


หัวข้อ: Re: ...... บันทึกปากคำ "คือฝูงเหลือบที่กลืนกาย".......... !!
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ 05-05-2008, 22:09
หยาดเหงื่อจากแรงงาน
ยังรินผ่านไม่มีหมด
กระดูกใครที่งอคด
คือฝูงเหลือบที่กลืนกาย

รอเจ้าเฝ้ารอฝน
ที่หลั่งล้นจนเป็นสาย
น้ำตาที่พร่าพราย
กับหัวใจที่อ้อนวอน

กี่วันที่เคยนับ
อีกกี่กัลป์เคยขอพร
กสิกรที่ทอดถอน
เถ้ากระดูกที่เลือนหาย

หนอนไหน่ยังไต่ตอม
ยังหวนหอมอยู่มิวาย
เศษซากหอมไม่คลาย
ยังไต่ตามยากเติมเต็ม



ด้วยหัวใจ...
:slime_worship:




หัวข้อ: ....... เขาสิซื้อคนจน ทั้งประเทศ .... !!!
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 05-05-2008, 22:15
(http://www.techible.com/wp-content/uploads/2007/07/money_sculptures2.jpg)




(http://www.techible.com/wp-content/uploads/2007/07/money_sculptures3.jpg)



 



แรงใดจะไหวยื้อ 

แรงเงินซื้อก็พร้อมจะยอมขาย

แรงความดีอันประดับก็กลับกลาย

ด้วยอำนาจอันแรงร้ายแห่งเงินตรา

 

นายเงินผู้เป็นเจ้า

ปองใดเขาในแรงแสวงหา

ซื้อทุกสิ่งทุกอย่างบนทางมา

ซื้อชีวิตชีวาเข้าบงการ

 

ตีค่าคนมิต่างสัตว์

ปรากฏชัดราคาจิตวิตถาร

ขายตัวตนขายจิตใจขายวิญญาณ

ขายจนสิ้นอุดมการณ์แห่งมนุษย์

 

แรงใดจะไหวยื้อ

แรงเงินซื้อโดยถวิลไม่สิ้นสุด

แรงคุณงามความดีไร้ที่ยุด

แรงเงินจึงประทุษอย่างง่ายดาย

 

บนความทุกข์ท้อแสนเข็ญ

ข้ามีความลำเค็ญเอามาขาย

ใครมาซื้อข้าจะถือมันเป็นนาย

ยอมอยู่ใต้ตีนจนตายเทียวหัวใจ

................

โดยคำ  ลานเทวา

 



(http://www.beatb.org/podomia/img/money.png)



หัวข้อ: พ่อจ๋า....พ่อเห็นดาวนั่นไหม ...... ?
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 05-05-2008, 22:20


(http://www.bloggang.com/data/saowbannok/picture/1191209140.jpg)





( ๑ )

พ่อจ๋า....พ่อเห็นดาวนั้นไหม

ดาวสดใสระยับประดับฟ้า

หนูอยากปีนไปเก็บเอาลงมา

ประดับท้องทุ่งนา.....ยามค่ำคืน

 

เจ้าดอกดวงรวงดาวคงพราวสวย

ท่ามสายลมระชวยโชยชื่น

สุมไฟสุมฟอนท่อนฟืน

หลับสักตื่นพักผ่อนเอาแรง

 

( ๒ )


ลูกเอ๋ย.....เจ้าลูกรัก

โยงสายฝันทอถักผูกใจแกว่ง

เปลเดือนเคลื่อนหาวดาวแปลง

โรงละครแสดงตรงเพิงร้ายชายนา

 

หลับเถอะนะ...ขวัญอ่อน

ดาวใดจะจรสู่ปรารถนา

ดาวห้วงดวงไหนหรือสดใสกว่า

ดาวนัยน์ดวงตาของเจ้า...ลูกรัก....

 

หลับเถอะคนดี

ชาวนาวิถีนี้มันเหนื่อยหนัก

ซากซังแอบอิงให้พิงให้พัก

กองฟางจะถักแทนเปลเห่นอน

 

ค่ำนี้....นิทานรวงข้าว

คงไม่ยาวเหมือนเช่นคืนก่อน

งามดอกดาวพราวพร่างทางจร

เจริญแห่งนาครเข้ากลืนผืนนา

 

รวงเอ๋ยรวงทองผ่องรวงเรียว

งามทุ่งข้าวเขียวเขียวไปจดฟ้า

ข้าวเอ๋ยข้าวไทยได้ราคา

แต่เงินถึงเราชาวนาสักเท่าใด



 

หลับเถอะลูก หลับตา

หลับจากวิถีชาวนา.....อันสิ้นไร้

เหนื่อยพ่อท้อมาแต่ไร

รอเจ้าเติบใหญ่......อย่าได้เป็นชาวนา

 

( ๓ )

พ่อจ๋า....พ่อเห็นดาวนั่นไหม

ดาวสดใสระยับประดับฟ้า

หนูอยากปีนไปเก็บเอาลงมา

ประดับท้องทุ่งนา.....ยามค่ำคืน

........................

โดยคำ  ลานเทวา

 



(http://www.thaimtb.com/webboard/153/76617-314.jpg)


อยากให้ฟังเพลงนี้ไปด้วย รับรองไม่ผิดหวัง (http://mblog.manager.co.th/SICHAI/th-11754/)


หัวข้อ: ... เรากำลังจะพ่ายแพ้ สังคมวัวลืมตีน ........... !!
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 07-05-2008, 13:40



(http://www.tkc.go.th/eng/Sitedirectory/130/1013/400_55207.JPG)





 

ดิ้นรนเราดิ้นรน

อยู่ในหนอันห่างเหินแลเกินใฝ่

ตรากตรำเราเขาเห็นอยู่เช่นไร

หาสนใจใยดีหรือมีมา

 


เราคิดเราทำเราสร้าง

ตามหนทางโดยแรงแสวงหา

รินหยาดเหงื่อลำเค็ญเป็นราคา

เลี้ยงชีวาสืบชีวิตบนทิศทาง

 


โดยสำนึกรับผิดชอบ

ในเขตขอบปุถุชนผู้ค้นสร้าง

มองทุกสิ่งที่เห็นอย่างเป็นกลาง

รู้ปล่อยวางบางขณะชนะแพ้

 


ท่ามกลางยุคสมัย

ความเป็นจริงเป็นไปใครแยแส

สิ่งชั่วช้าเลวทรามความผันแปร

ผู้คนแลขำขำธรรมดา

 


สังคมเรากำลังเปลี่ยนไปทางไหน

กำหนดใดจักแจ้งแสดงค่า

หรือปล่อยไปตามโลกโชคชะตา

ทิ้งชีวิตชีวาไปวันวัน

 


เรากำลังจะพ่ายแพ้

ให้แก่สิ่งใดเห็นไหมนั่น

ถามหน่อยเถอะท่านผู้รู้เท่าทัน

ท่านเห็นมันแล้วปล่อยวางได้อย่างไร

 


สำนึกข้าถามย้ำในสำนึก

ความพึลึกแห่งสังคมอารมณ์ใคร่

หรือจะปล่อยลูกหลานเรารับไป

เป็นมรดก จั ญ ไ ร เพื่อชีวิต

...........................

โดยคำ ลานเทวา

 

 



 คลิ๊กฟังเพลง วัวลืมตีน  (http://www.oknation.net/blog/phutanow/2008/05/06/entry-3)


หัวข้อ: Re: ...... บันทึกปากคำ จากบางห้วงขณะ .......... !!
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 29-05-2008, 09:50


(http://www.oknation.net/blog/home/album_data/530/11530/album/21645/images/188402.jpg)

(http://www.oknation.net/blog/home/album_data/530/11530/album/21645/images/188231.jpg)



อวจรแห่งดาวดวง ณ ห้วงฟ้า

ลัคนาสถิตอยู่ผิดหน

โดยกาลีกุมลัคน์ประจักษ์ดล

เหล่าอุบาทว์วาดวนทรามจั***

 

อวเคราะห์เกาะกุมทุกขุมย่าน

โดยความชอบอัธพาลผู้เป็นใหญ่

โสมมแห่งตัณหาบัญชาใจ

ระเริงฤทธิ์ทุกทิศไทยประทุษทราม

 

อาศัยเหล่าพรรคพลคนขยะ

เอาชำนะเข้าเบียดและเหยียดหยาม

สร้างอัปรีย์กลียุคการคุกคาม

ใครก้มหัวเดินตามสิยกยอ

 

แลบ้านนี้เมืองนี้ใครเจ้าของ

แผ่นดินธรรมแผ่นดินทองอันเกิดก่อ

สำนึกใดงดงามความเพียงพอ

ล้วนประจบสอพลอเกียรติกามกิน

 

ถวายหัวป้องทรามหยามชนชาติ

เริงอุบาทว์ลามชั่วไปทั่วถิ่น

เปลี่ยนกลับดำเป็นขาวคาวมลทิน

ประชาชนบนแผ่นดินหรือจะทน

 

จึงระอุคุร้อนสะท้อนเรื่อง

สุมฟอนไฟเผาเมืองกันอีกหน

เพราะอำนาจอันไม่เอื้อเพื่อชาวชน

มุ่งแต่สาละวนป้องอัปรีย์

........................

โดยคำ  ลานเทวา




หัวข้อ: ของฝาก จาก ลานเทวา .... !!
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 29-05-2008, 09:55


(http://www.oknation.net/blog/home/album_data/530/11530/album/21759/images/189915.jpg)

(http://www.oknation.net/blog/home/album_data/530/11530/album/21759/images/189884.jpg)




มีหนังสือเล่มใหม่ มาฝากกัน
 
รวมบทกวีนิพนธ์ เพื่อชีวิต
 
ผลงานคัดสรร เล่มที่สอง ของ โดยคำ  ลานเทวา
 
หนังสือหนา 128 หน้า
 
รวม 59 เรื่องราวแห่งยุคสมัย
 
ที่ถ่ายทอดผ่านบทกวีอย่างงดงาม
 
 
 
ราคา 125 บาท รวมค่าส่ง
 
สนใจสั่งซื้อได้ที่
 
 
charu@windowslive.com


หัวข้อ: Re: ...... บันทึกปากคำ จากบางห้วงขณะ .......... !!
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 29-05-2008, 15:02
อวชนชั่วชาติอุบาทว์หนัก
อัปลักษณ์กาลีวจีถ่.อย
เทิดคนโกงกระดกก้นจนเลิศลอย
ไทยเสื่อมถอยสุดทนพวกคนทราม

อหังการมารผยองคะนองฤทธิ์
วิปริตบิดเบือนพวกเถื่อนหยาม
มันจาบจ้วงล่วงเกินเพลินลามปาม
ทั้งคุกคามคนค้านสันดานเลว

สวัสดีครับคุณลานเทวา หนังสือวางขายร้านไหนบ้างครับ



หัวข้อ: Re: ...... บันทึกปากคำ จากบางห้วงขณะ .......... !!
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 21-06-2008, 20:58



รัฐบาลชั่วเชื้อ       เลวทราม

ชนย่อมโจษประณาม        มั่นแท้

ผูกปมเงื่อนเลวความ        ใดก่อ  ยำยำ

ตกต่ำใจพ่ายแพ้        เสื่อมสร้าง  สังคม ฯ

 


ปั่นป่วนประหนึ่งร้าว      แดนดิน

เพียงเพื่อตระกูลชิน        ชั่วช้า

รวมหมู่เหล่าโกงกิน      เสพสั่ง  นานา

ชนจึ่งออกทายท้า     ไป่สิ้น  เกรงกลัว ฯ

 


 

ประทับหาวดาวเดือน

ประทับเรือนเวหาส

รัตติกรจรยาตร

ราหูอุบาทว์อมเมือง

 


ประทับเทพแดนไท้

ประทุษไทยทำเขื่อง

ตะวันรอนจรเยื้อง

ธราเบื้องเกินยก

 


ประหนึ่งความโสโครก

จะย้ายโยกสกปรก

สดุดีผีนรก

เอามาปกอำนาจทราม

 


ประหนึ่งอัปรีย์ลักษณ์

สิเป็นหลักย้ำหยันหยาม

จั***ไปทุกนาม

ประทุษทรามทำลายไทย

 


 

เอยกู

บัดสิกู้ชาติชนแต่หนไหน

สามานย์ทุนนิยมสั่งสมไป

ถ้วนแล้วไทยสิ้นชาติเป็นทาสทุน

 


เอยมึง

บัดสิดึงเทพไท้ใดมาหนุน

สิหาธรรมใดย้ำมาค้ำจุน

สิหาบุญไหนเอื้อเหล่าเชื้อไทย

 


เอยกู

อนาคตสิอยู่หนแห่งไหน

แลรากหญ้ารากฐานการใดใด

ก็ง่อยเปลี้ยเสียไปแล้วกำลัง

 


เอยมึง

กว่าสิซึ้งคุณแผ่นดินก็สิ้นหวัง

เป็นขี้ข้านายทุนบุญหัวจัง

วิถีไทยพ่ายพัง ช่างหัวมัน ?

..........................

โดยคำ   ลานเทวา

หนังสือ มีวางขายที่ซีเอ็ด นะ



หัวข้อ: ถึง ผบ.ทบ. เขมรรึป่าว ก็ไม่รู้ ?
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 10-07-2008, 02:51



(http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/newimg/politic/81533.jpg)





กี่เรื่องราวพานพบ

ท่านกลับแลสงบเหมือนขี้ขลาด

แลสิ้นศักดิ์จนน่าอายหนอชายชาติ

ยอมก้มหัวให้อำนาจ ระ ยำทราม

 


เขมรชนะโดยไม่ต้องใช้อาวุธ

ทหารไทยล้มสดุดให้เขาข้าม

เสียงหัวเราะเยาะเย้ยเปรยประนาม

ดังก้องอยู่ทุกยามที่พระวิหาร

 


จาบจ้วง

กี่คำพ่นล้นล่วงลับเลยผ่าน

ยังปล่อยให้ลอยหน้ามาระราน

เปิดทีวีอันธพาลไว้หลอกลวง

 


จนปานนี้

ความอัปรีย์ในกาลอันผ่านล่วง

แลเหมือนยังไม่ซึ้งไปถึงทรวง

ประหนึ่งสิ่งทั้งปวงแลไร้ค่า

 


อนุพงษ์

หรือจะปลงทิ้งร่างอยู่หว่างขา

เป็นลูกทาสคอยเช็ดขัดสัตว์สภา

หันซ้ายขวาตามสั่งได้ดังใจ

 


เครื่องแบบทหาร

แลไม่สมสันดานอันสาไถย

ผ้าถุงเถอะ ผบ ทบ ไทย

เอาคลุมหัวรึสวมใส่สมราคา

 


แลสิ้นศรี แลสิ้นศักดิ์

ทหารเป็นทาสสมัครเมื่อไหร่หว่า

หรือประเทศนี้ไม่มีทหารพระราชา

อนุพงษ์ เผ่าจินดาช่วยตอบที

 


ไหนเล่าชาติ นักรบ

อันพร้อมจะเป็นศพไม่ถอยหนี

ไหนเล่าเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี

หรือทุนสามานย์อัปรีย์ซื้อไปแล้ว

 

.............................


คนตะนาวศรี

 


(http://widget.sanook.com/static_content/full/graphic/80795b860ba7cefbf90e0131efd13f1d_1207738108.gif)
 










หัวข้อ: Re: ...... บันทึกปากคำ จากบางห้วงขณะ .......... !!
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 10-07-2008, 02:53

(http://img169.imageshack.us/img169/6436/meawpuppetih0.jpg)




จะเดินต่อทางไหนล่ะทีนี้

ทางหนแห่งความดีนั้นหาไม่

ทางเบื้องหน้าบ่งเห็นอยู่เช่นไร

รึทำใจย่างย่ำทนดำเนิน

 

คงเป็นเช่นนั้นแล้ว

กำลังใจระโหยแผ่วระหกเหิน

ชีวิตวาดใดหวังดังส่วนเกิน

อำนาจรัฐเพลิดเพลินในสามานย์

 

พรรคพลคนดีสิเป็นง่อย

ทรชนคนถ่ อ ยระเริงร่าน

โจรกลับได้ความชอบประกอบการณ์

ธรรมแม่ออกยังดักดานอยู่ศาลา

 

พรรคผีเมืองสิเสพสร้าง

ปฏิรูปธรรมอำพรางให้เป็นท่า

เหล่าบัณฑิตเดินตรอกบอกชะตา

โจรสภาลำพองเข้าครองเมือง

 

ผู้แทน ผู้ไทย

ยังแต่ความจั ญ ไรในราวเรื่อง

สามัญชนถ้วนแคว้นทนแค้นเคือง

อยู่กับความเปล่าเปลืองอำนาจรัฐ

 

อนาถใจ ไทยแลนด์

มันสุดแสนเคืองในใจอึดอัด

แลเลวชั่วแห่งมรรคาปรากฏชัด

เขาคอยยัดเยียดทรามให้ลามไป

 

จะเดินต่อทางไหนล่ะทีนี้

ทางหนแห่งความดีนั้นหาไม่

ทางเบื้องหน้าบ่งเห็นอยู่เช่นไร

รึทำใจย่างย่ำทนดำเนิน


..............................

โดยคำ ลานเทวา




 



หัวข้อ: การเมืองใหม่ สูสิเอาหมาไหน เป็นนายก ฯ
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 10-07-2008, 02:56

(http://www.mazdaclub.net/user/board_images/webbaord/15000/15103-201200.jpg)

 


รอยชำรุดประวัติศาสตร์

โลกประกาศลบเลือนเหมือนไร้ค่า

เราเปลี่ยนแปลงฤาสร้างสรรค์อันใดมา

จากสมบูรณาญาฯ สู่ประชาธิปไตย

 

แล้ววันนี้

มาเพ้อฝันกันที่การเมืองใหม่

เขียนวาดผังดำริงามวิไล

ท่ามกลางความเป็นไปที่ขัดแย้ง

 

ในระบอบระบบ

สภาพการณ์บัดซบจนเกินแต่ง

ทุนนิยมสามานย์สิกร้านแรง

สันโดษกู่ตะแบงอยู่พอเพียง

 

สังคมยังแตกต่างสร้างชนชั้น

ความผกผันวิปริตในสิทธิ์เสียง

ความจริงย้ำกำซาบภาพรายเรียง

จักเผดียงใดแจ้งแปลงมรรคา

 

กี่สิบปีล่วงพานพบ

นับแต่ศพพ่ออินถา

ปีหนึ่งหกหนึ่งเก้ารวมพฤษภา ฯ

อีกหลายศพสหายป่าแลเดียวดาย



สิถุยถ่มโสมมนั้นว่าสรรค์สร้าง

ขอถุยถ่มการแอบอ้างในความหมาย

กี่หนครั้งหวังดีที่กลับกลาย

ศพคนตายสังเวยไปเท่าไรแล้ว

 

กี่บทเพลงปลุกเร้าการต่อสู้

กี่บทงามความหวังดูระโหยแผ่ว

กี่จัดตั้งประทังชาติอนาถแนว

ล้วนโจรแจวนำพานาวาไทย

 

เฮ้ยยย !  ข้าเฝ้ารอผู้ปลดปล่อย

จากการเมืองถ่ อ ยถ่ อ ยสู่การเมืองใหม่

อยากสิถามนายกสูเอาใคร

แลหมาใดเข้าทีหรือมีมา ?



......................................

โดยคำ ลานเทวา


(http://i28.photobucket.com/albums/c214/lerchan/emeral%20buddha%20temple/21aa.jpg)

 




หัวข้อ: Re: ...... บันทึกปากคำ จากบางห้วงขณะ .......... !!
เริ่มหัวข้อโดย: irq5 ที่ 10-07-2008, 03:02
 :slime_smile:

เป็นกำลังใจให้กวีครับ


หัวข้อ: Re: ...... บันทึกปากคำ จากบางห้วงขณะ .......... !!
เริ่มหัวข้อโดย: qazwsx ที่ 10-07-2008, 03:58
 :slime_worship:

ด้วยคารวะประชื่นชม


หัวข้อ: Re: ...... บันทึกปากคำ จากบางห้วงขณะ .......... !!
เริ่มหัวข้อโดย: (ลุง)ถึก สไลเดอร์ ที่ 10-07-2008, 05:01
ยอดเยี่ยมๆๆ คาระวะ1จอก......เอิ้กกกกกก
 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: ......ใครๆ ต่างยก ดา ตอร์ปิโด เป็นวีรสตรี ของ ........ !
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 22-07-2008, 19:35





(http://pics.manager.co.th/Images/551000009320802.JPEG)


......ใครๆ ต่างยก ดา ตอร์ปิโด เป็นวีรสตรีของอัปรีย์ชน .... !






สำนึกความเป็นคนมันหล่นหาย

หญิงรึชายยังไม่รู้ดูสับสน

วิปริตเบี่ยงเบนปานเดนคน

สัปดนแล้วดา ตอร์ปิโด

 


แล้วไงเล่าวันนี้

แลนังดาหน้าขี้ผู้ยะโส

ปราศรัยถ้อย ระ ยำ มาคำโต

เทียวอวดโง่อวดบ้าว่ากันไป

 


หลงลืมตัวลืมตนคนสิ้นคิด

ความสำนึกสักเพียงนิดนั้นหาไม่

เนรคุณพ่อแม่จึงแพ้ภัย

ความ จัญ ไร สุดแสนหนักแผ่นดิน

 


กู่คำถ้อยสามหาวป่าวประกาศ

เพราะอำนาจเงินหนักของทักษิณ

นังวิปริตผิดคนทรามมลทิน

ก็ร่ายลิ้นเริงใจไม่เกรงกลัว

 


แล้วกรรมก็ส่งผล

หนีไม่พ้นการกระทำ ระ ยำ ชั่ว

ที่สำรากปาก จัญ ไร ไม่พาตัว

สิ้นเงาหัวพ่ายพังแล้วนังดา

................

คน ภูตะนาวศรี

 

ตำหนวดพึ่งจะจับวันนี้เอง เฮ้อออ

ไม่รอให้มันไปไหนต่อไหนก่อนสักสี่ห้าเดือนก่อนเล่า คุณตำหนวด !





 

 [/b]


หัวข้อ: Re: ...... บันทึกปากคำ จากบางห้วงขณะ .......... !!
เริ่มหัวข้อโดย: kara - kasung ที่ 22-07-2008, 21:50
ตัวเป็นไทย ใจเป็นทาส อนาถนัก
เขาแช่งชัก ชั่วช้า บ้าชิบหาย
ตัวเป็นหญิง มาสิงเร้น ใจเป็นชาย
ชื่อนังร้าย ดาหัวหมอ...ตอปิโด

 มาวันนี้ พวกหนีเผ่น เหมือนเห็นขี้
แต่ก่อนนั้่น ว่ามันส์ดี พี่ขาโจ๋
พอดาไข้ ไอคุกคุก คุกหัวโต
ไม่เยี่ยมหา น่าโมโห ..อยากโอเลี้ยง



หัวข้อ: ............ ข่าวร้าย จาก อุดร ฯ .... !
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 25-07-2008, 08:15




(http://www.oknation.net/blog/home/album_data/409/3409/album/20257/images/210503.jpg)


(http://www.oknation.net/blog/home/album_data/409/3409/album/20257/images/210502.jpg)





 
กี่ครั้งหนวนว่ายตายแล้วเกิด
 
กี่กำเนิดในหนวนยะถา
 
กี่ศพซากชีวีกี่น้ำตา
 
แลอีกกี่เพลาจึงรู้รัก
 
 
 
กี่อำนาจบาตรใหญ่ใช้อำนาจ
 
กี่คนโง่คนฉลาดได้รู้จัก
 
กี่ความเป็นความตายมาทายทัก
 
อีกกี่ศพจึงจะพักสงบใจ
 
 
 
กี่บทเรียนไม่เคยย้ำความสำนึก
 
กี่หนศึกความเขลาอันเผาไหม้
 
กี่ครั้งแล้วที่พี่น้องเหล่าผองไทย
 
ต้องฆ่ากันเพื่อใครก็ไม่รู้.... ?
 
 
 
กี่รอยเลือดความจริงทิ้งเป็นคราบ
 
กี่รอยบาปจารึกเห็นความเป็นอยู่
 
กี่อำนาจทรามเทิดการเชิดชู
 
กี่ชั่วครูผิดเห็นไม่เป็นธรรม
 
 
 
กี่น้ำตาโศกเศร้ากี่เถ้าถ่าน
 
แลอีกกี่ตำนานจะตอกย้ำ
 
กี่ศพไทยฆ่าไทยใคร่ก่อกรรม
 
จึงจะล่วงพ้น ระ ยำ การเมืองไทย
 
 
 
ยังแต่เสียงสดุดีแห่งปีศาจ
 
ผู้เริงทรามอำนาจความยิ่งใหญ่
 
ยังแต่ความผยองลำพองใจ
 
อยู่กับความบรรลัยของบ้านเมือง
 
..................
 
โดยคำ  ลานเทวา
 
 
 


(http://www.oknation.net/blog/home/album_data/409/3409/album/20257/images/210501.jpg)







หัวข้อ: Re: ...... บันทึกปากคำ จากบางห้วงขณะ .......... !!
เริ่มหัวข้อโดย: komyen ที่ 25-07-2008, 13:28
กี่โหดพวกฉิบหาย
มุ่งทำลายทำร้ายไทย
สามานย์แห่งสมัย
ข้ารับใช้อัป.รีย์ชน

กี่ถ่านไหม้เป็นเถ้า
ไหม้ความเขลาสัตว์หน้าขน
เผาไหม้ใจมืดมน
ให้สัตว์พ้นจากความพาล

มาทักกันที่นี่บ้าง


หัวข้อ: .......... ปฏิวัติ .... !
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 11-08-2008, 22:12
 

(http://ads.dailynews.co.th/column/images/2007/variety/10/16/47317_45397.jpg)
 

 



 


ปฏิวัติความต่ำช้าหน้าห้องน้ำ

ปฏิวัติความ ร ะ ยำ สำรากสื่อ

ปฏิวัติความกระ***นกระหือรือ

ปฏิวัติความด้านดื้อนายกไทย

 

ปฏิวัติเถอะ ปฏิวัติ

ล้างพวก สั ต ว์ สภา ห่ า ฝูงใหญ่

ล้างมลทินการเมืองอันเคืองใจ

ล้างพรรคพล จั ญ ไ ร สิ้นสูญพันธุ์

 

ปฏิวัติความคิดติดอาวุธ

สื่อปัญญาอันพิสุทธิ์มาเสกสรรค์

สร้างสังคมระบอบการมอบปัน

ร่วมใจกันค้นคิดลิขิตทาง

 

ปฏิวัติความ ร ะ ยำ แห่งอำนาจ

ปฏิวัติชนชาติในหนสร้าง

ปฏิวัติความโง่เขลาให้เบาบาง

ปฏิวัติสิ่งอำพรางการเมืองไทย

....................

โดยคำ  ลานเทวา

 

 

 


หัวข้อ: Re: ...... บันทึกปากคำ จากบางห้วงขณะ .......... !!
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งเขาพระแทว .. ที่ 18-08-2008, 12:18

(http://www.thaitownusa.com/resource/images/news/347/Img0803001078.jpg)

 

 


พระพุทธองค์มิทรงสอนไว้เลยว่า

ความชั่วช้าคือความจริงอันยิ่งใหญ่

หากทำดีอัปรีย์กินหัวใคร

ผิดแต่ทำ จัญ ไร คนสาปแช่ง

 

คนจะดีดีด้วยธรรมมานำคิด

รู้ถูกผิดเลิศทรามใดตามแต่ง

ใช่แต่รู้โป้ปดบทแสดง

มิอาจแจงบริสุทธิ์ยุติธรรม

 

ใครทำดีดีย่อมคุ้มกะลาหัว

ใครทำชั่วสกปรกย่อมตกต่ำ

ตามวิถีแห่งคนไหนพ้นกรรม

อันขาวดำสองอย่างย่อมต่างมอง

 

หรือใคร่กล้าเกินกรรมจึงทำหาญ

ล่วงกำหนดกฏกาลย่ำผยอง

ถืออำนาจเงินตรามาก่ายกอง

ซื้อเศษซากลำพองอวิชชา

 

สืบมาแต่วิถีกี่วัฏฏะ

แลคำพระมิเคยสอนสะท้อนว่า

ใครทำดีอัปรีย์กินสิ้นพารา

ยังแต่ความชั่วช้านั้นกินเมือง

 

กินกันอยู่ทุกเมื่อ

แต่ละเทื่อแต่ละคราวในราวเรื่อง

มิเคยสิ้นคืนวันอันเปล่าเปลือง

เพราะต่างแย่งกินเมืองกันทุกพรรค

......................

โดยคำ  ลานเทวา

 

   

(http://www.bloggang.com/data/mixzywow/picture/1205641323.jpg)