ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => ชายคาพักใจ => ข้อความที่เริ่มโดย: see - u ที่ 02-04-2008, 16:26



หัวข้อ: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 02-04-2008, 16:26
*  เป็นคนชอบทานกาแฟค่ะ ..... !!!

    ไม่รู้จะมีใครเป็นแบบนี้มั๊ย ... คือ  ต้องทานกาแฟทุกวันในของทุก ๆ เช้า

    เมื่อชงกาแฟแล้วสูดเอากลิ่นหอม ๆ  แล้วรู้สึกดีจังเลย .........

    เมื่อก่อนจะชอบบอกใคร ๆ ว่า ... ให้  เหยาะ  ไวน์  ลงไปสักหยด สองหยด

    โห ...  สุดยอดของความหอมแบบนุ่ม ๆ เลยนะนั่น  ( แต่ ตัวเองนาน ๆ ทำสักที  555  )

    ปกติเวลาชงกาแฟทานเอง ... ก็เป็นกาแฟยี่ห้อที่เขานิยมกันนะแหละ 

    ( มีคนบอกว่ากาแฟยี่ห้อนี้ผสมเม็ดมะขามลงไปด้วย... คุณน้อง กึ้ง ณ. เนสกาแฟ  จิงป่าวที่เขาว่ากัน !! )

    แต่ถ้าเป็นไปนั่งทานที่ร้าน ... เมื่อก่อนจะชอบ  เอสเปรสโซ  มาช่วงหลังเกือบปีแล้วที่หันมาทาน ลาเต้เย็น  ( เหตุผล ... ม่ายบอก )

    ด้วยสาเหตุที่เป็นคนชอบกาแฟ ... เลยไปหาอ่านเรื่องราวของต้นกาแฟว่า  ขั้นตอนการปลูก  จนมาถึง  เป็นแก้ว  ให้เราทาน

    เริ่มต้นมาจากไหนมั่ง  ...... !!!

    (http://img99.imageshack.us/img99/8349/18913763pw8.jpg) (http://imageshack.us)
    เด๋วมาต่อ ..........  ค่ะ     :slime_smile:


หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 02-04-2008, 17:05
*  ต้นกาแฟ  ............................

    (http://img86.imageshack.us/img86/6347/74565092ba0.jpg) (http://imageshack.us)

    ใบเค๊าสวยดีเนาะ ... แต่ไม่รู้ในรูปคือพันธ์อะไร  เค๊าบอกว่ามี  2  แบบที่นิยมปลูก คือ  

           1. โรบัสต้า   ( Robusta ) 
           2. อราบิก้า   ( Arabica )

    ความแตกต่างนอกจากสายพันธุ์แล้ว ก็อยู่ที่พื้นที่ปลูกในระดับความสูงจากน้ำทะเลภูมิอากาศแถบที่ปลูกรวมทั้งดิน
    ที่มีแร่ธาตุต่างกัน ความเด่นกลิ่น-รสชาติก็ย่อมไม่เหมือนกัน  

    พันธุ์โรบัสต้า
           
             -  เป็นกาแฟที่ต้านทานโรคสูง เติบโตเร็ว
             -  ผลผลิตสูง กลิ่น-รสชาติ และราคาต่ำกว่าพันธุ์อราบิก้า
             -  ผลผลิตจะถูกนำไปทำกาแฟผงสำเร็จรูปเป็นส่วนใหญ่

     พันธุ์อราบิก้า
                                                                                                                   
             -  จะเป็นกาแฟที่สมบูรณ์ด้วยรสชาติ-กลิ่นหอม
             -  และราคาสูงกว่าเป็นเท่าตัว และปลูกในพื้นที่สูง
             -  ยิ่งสูงคุณภาพยิ่งดี และต้องพื้นที่ดินดี มีฝนตกชุกพอควร

     การปลูกกาแฟ  .......
     
     การเพาะพันธุ์กาแฟ  จะต้องทำจากเมล็ดกาแฟเท่านั้น ไม่สามารถต่อตาหรือตัดกิ่งชำและไม่สามารถผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์
     นั่นคือ    อาราบิก้า  จะไม่สามารถนำมาผสมพันธุ์กับโรบัสต้า เพราะ  ทั้งสองพันธุ์มีโครโมโซมแตกต่างกัน
     โรบัสต้ามีโครโมโซม 22 โครโมโซม ส่วนอาราบิก้า มีถึง  44  โครโมโซม   เมล็ดกาแฟจะถูกนำมาเพาะในแปลงอนุบาล
     เมื่ออายุได้ประมาณ 1 ปี จึงย้ายมาปลูกในแปลงที่เตรียมไว้และอีกประมาณ 3-4 ปี กาแฟจึงจะเริ่มออกดอกออกผลระหว่างนี้
     ชาวไร่จะต้องคอยหมั่นดูแลตกแต่งลำต้นให้ตรงและแต่งกิ่งให้แผ่ออกไปรอบ ๆ ลำต้นคล้ายกับร่มที่กางออก

     ถึงแม้ว่ากาแฟจะสามารถซื้อได้ในเกือบทุกสภาพดินฟ้าอากาศ แต่สภาพของดินที่น้ำไม่ขังจะเหมาะที่สุดสำหรับการปลูกกาแฟ
     อณุหภูมิประมาณ 15 - 25 องศาเซลเซียสต่อปี และปริมาณน้ำฝนประมาณ 2,000-3,000 ต่อปี  ต้นกาแฟชอบน้ำกับแสงแดด
     เมื่อต้นกาแฟโตเต็มที่ ความต้องการของต้นกาแฟจะเปลี่ยนไป ดังนั้นชาวไร่จึงปลูกต้นไม้สูงที่แสงแดดสามารถส่องลอดได้ในไร่กาแฟ
     เช่น ต้นซิลเวอร์ โอ๊ก (Wilver Oak) เพื่อให้ร่มเงาแก่ต้นกาแฟ  ปกติกาแฟต้นหนึ่งจะสามารถให้ผลผลิตได้ในปีที่ 4 ถึงปีที่ 5
     และหลังจากนั้นผลผลิตกาแฟต่อต้นก็จะค่อยๆ  ลดลง  ชาวไร่ก็จะต้องโค่นทิ้งและปลูกต้นใหม่แทน  เมื่อเก็บผลกาแฟแล้วจะต้องคอย
     ตกแต่งต้นกาแฟให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ใส่ปุ๋ย แต่กิ่งและควบคุมลำต้นไม่ให้สูงเกินไป ปกติต้นกาแฟที่ได้รับการดูแล จะมีความสูง
     ประมาณ 1.20-1.60 เมตร เพื่อสะดวกในการเก็บผล แต่ถ้าไม่เอาใจใส่ดูแลปล่อยให้ต้นกาแฟสูงขึ้นตามธรรมชาติ ต้นกาแฟอาจจะมี
     ความสูงถึง 5-10 เมตร ได้ในเวลาเพียงไม่กี่ปี
     
     (http://img221.imageshack.us/img221/4294/47002964wk5.jpg) (http://imageshack.us)
     
       ดอกกาแฟมีสีขาว ... หอมและออกตามกิ่ง แต่ไม่พร้อมกัน ดอกจะเริ่มร่วงภายใน 2-3 วัน ผลกาแฟมีสีเขียวขนาดเท่าหัวไม้ขีดไฟ
     จะเริ่มปรากฏให้เห็นเมื่อดอกร่วง และผลจะค่อยๆ ใหญ่ขึ้น จนมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณไม่เกิน 1 ซม. เมื่อใกล้สุก
     ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง, แดง ไปจนถึงแดงเข้มคล้ายผลเชอรี่สุก นั้นหมายความว่าถึงเวลากเก็บเกี่ยวแล้ว

     **  มีต่อค่ะ  .........


หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 02-04-2008, 17:30
มีความสงสัยครับ

กินสตาร์บัค แล้วเป็นศักดินาเหรอ???

แสดงว่าผมโคตรศักดินาเลย

กินเป็นร้อยถ้วยแล้วมั้ง


หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 02-04-2008, 18:14
*  เกี่ยวไรกันเนี่ยยย  ....  กะ  ศักดินา

    อารายยว่ะเนี่ยยย  ...........  ทู้  เดี๊ยนพูดเรื่องที่มา ~  ที่ไป  ของกาแฟ

    จะกินที่ไหน  แบบไหน  ก็เหมือนกันแหละ  ....

    แต่ ราคาอาจไม่เท่ากัน  ขึ้นอยู่กะบรรยากาศร้าน ... และ  น้ำหนักมือของคนชง

    โห ... จะกินกาแฟสักแก้วยังมีเรื่องชั้นวรรณะเลย  ... ไรกัน  ไม่มีอารมณ์สุนทรีย์กันเลยพวกนี้  เฮอะ  !!!


หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: grave accent ที่ 02-04-2008, 21:57
ขอ ลาเต้เย็นแก้วนึงครับ  :slime_agreed:


หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 03-04-2008, 11:31
*  เอา  ลาเต้เย็น  มาฝากคุณ ... grave accent  ค่ะ    :slime_smile:

                                       (http://img215.imageshack.us/img215/281/12fi4.jpg) (http://imageshack.us)

    อ่อ ... การทำ ลาเต้เย็น  เค๊าก็ใช้กาแฟเอสเปรสโซนี่แหละค่ะ  เอาสูตรการทำมาฝากด้วย  !!!

     >:  ลาเต้เย็น  :<

        1.  กาแฟเอสเปรสโซ 1 shot .ใช้กาแฟ 15 กรัม กลั่นกาแฟออกมาได้ 100 ml.ใส่ในแก้ว 16 ออนซ์
        2.  ใส่น้ำตาลทรายขาวหรือน้ำเชื่อม 30 กรัม
        3.  ใส่น้ำแข็งเต็มแก้ว
        4.  เทนมสด 50 ml. ลงไปในแก้วไม่ต้องคน


หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: (ลุง)ถึก สไลเดอร์ ที่ 03-04-2008, 11:55
ผมชอบดื่ม คาเฟโอเล ใส่น้ำแข็งปุ๊บ
กลายเป็นโอเลี้ยงขึ้นมาทันใด.........เอิ้กกกกก

 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: Scorpio6 ที่ 03-04-2008, 12:04
ขอลาเต้ ฮ้อนๆ คับผม :slime_inlove:


หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: Scorpio6 ที่ 03-04-2008, 12:07
มีความสงสัยครับ

กินสตาร์บัค แล้วเป็นศักดินาเหรอ???

แสดงว่าผมโคตรศักดินาเลย

กินเป็นร้อยถ้วยแล้วมั้ง

ผมนานๆ..แวะครั้งนึงดอกเด้อสหายฯ :slime_shy:


หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 03-04-2008, 12:32
*  มาต่อกันค่ะ ...........

    เราเห็นดอกสวย ๆ ของต้นกาแฟไปแล้ว ... ซึ่งหลังจากผลิดอกก็จะกลายเป็นผลกาแฟต่อไป

    งั้นมาดูผลกาแฟกันดีกว่า ..... ( ต้นนี้ใบแหว่งด้วย )

            (http://img396.imageshack.us/img396/3401/13ew3.jpg) (http://imageshack.us)

     ไม่แน่ใจว่าระยะเวลาระหว่างผลกาแฟสีเขียว ๆ จะกลายเป็นสีส้มใช้ระยะเวลากี่วัน

     แต่เท่าที่อ่านมา ... เค๊าบอกถึงการเก็บ  คือ  ต้องทะยอยการเก็บผลกาแฟสุก ประมาณ 3 - 4 ครั้ง

     เพราะ  ผลกาแฟนั้นสุกไม่พร้อมกัน ... โดยใช้ระยะในการเก็บผลกาแฟเว้นระยะประมาณ 7 - 15 วัน

     รูปนี้จะเห็นผลกาแฟที่เริ่มสุกแล้วจะมีสีส้มอมแดง  ... สวยดี        

            (http://img230.imageshack.us/img230/9377/13320372ef3.jpg) (http://imageshack.us)

      >:  วิธีการเก็บกาแฟสามารถเก็บได้  2  วิธี  คือ  :<

            1.  แบบเด็ดทั้งกิ่งที่มีลูกกาแฟอยู่
            2.  แบบเลือกเก็บ
     
     แต่เป็นเพราะลูกกาแฟจะสุกไม่พร้อมกัน การเก็บเกี่ยวกาแฟจึงนิยมใช้วิธีหลังมากกว่า แล้วเราจะได้เมล็ดกาแฟ แบบนี้

     >:  การแยก  :<
       
     หลังจากเก็บเกี่ยวผลกาแฟแล้ว ต้องนำไปผ่านกระบวนการต่างๆ ให้พร้อมเป็นกาแฟที่เราดื่มกัน   

     โดยต้องแยกเมล็ดกาแฟออกจากเปลือกและเนื้อของผลก่อน ซึ่งมี 2 วิธี คือ ........

         1.  แบบแห้ง  ( dry method )
              เป็นวิธีธรรมชาติและทำกันมานาน โดยตากผลกาแฟจนแห้งเหี่ยว หรือเอา
              เข้าเครื่องทำให้แห้งแล้วค่อยแกะเอาเมล็ดออก เมล็ดที่ได้จะมีเยื่อบางๆ เรียกว่า  silver skin หุ้มอยู่
 
        2.  แบบเปียก ( wet method )
              ที่ใช้น้ำล้างจนเนื้อกับเปลือกหลุดออกจากกัน กาแฟที่ได้จากวิธีนี้เรียกว่า  washed coffees

       ปล.  ผลกาแฟที่จมน้ำ ซึ่งเป็นผลกาแฟที่มีความสมบูรณ์  ค่ะ


หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: นายเกตุ ที่ 03-04-2008, 12:46
*  เกี่ยวไรกันเนี่ยยย  ....  กะ  ศักดินา

    อารายยว่ะเนี่ยยย  ...........  ทู้  เดี๊ยนพูดเรื่องที่มา ~  ที่ไป  ของกาแฟ

    จะกินที่ไหน  แบบไหน  ก็เหมือนกันแหละ  ....

    แต่ ราคาอาจไม่เท่ากัน  ขึ้นอยู่กะบรรยากาศร้าน ... และ  น้ำหนักมือของคนชง

    โห ... จะกินกาแฟสักแก้วยังมีเรื่องชั้นวรรณะเลย  ... ไรกัน  ไม่มีอารมณ์สุนทรีย์กันเลยพวกนี้  เฮอะ  !!!




 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


ม่ายมีฟามเห็นเลยครับ

ขอกาแฟเย็น(โบราณ)รถเข็นสักแก้วเถอะครับ


หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 03-04-2008, 12:49
*  ลาเต้ร้อน .... สำหรับคุณ   Scorpio6  ค่ะ
    แถมประวัติ ( เรื่องเล่า )  ที่มาของกาแฟให้ด้วย  ....  :slime_smile:
   
    (http://img397.imageshack.us/img397/6599/14yr3.jpg) (http://imageshack.us)

    มีตำนานเล่ากันมาไม่แพ้นิทานพื้นบ้านว่า ในต้นศตวรรษที่ 6 มีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อ คาลดี เป็นชาวอาบิสซีเนีย
    หรือเอธิโอเปียในปัจจุบัน  หนุ่มน้อยผู้นี้มีอาชีพเป็นคนเลี้ยงแพะ  ทุกวันเขาจะนำฝูงแพะออกไปหาอาหารกินตามทุ่งนา
    และตามเนินเขาต่าง ๆ เมื่อเจอแหล่งหญ้าและพุ่มไม้ที่อุดมสมบูรณ์ เขาก็จะปล่อยให้ฝูงแพะหากินตามสบาย
    ส่วนตัวเขาตามประสาหนุ่มขี้เกียจก็จะหาที่ร่มเพื่อนอนพัก ตกเย็นก็ต้อนฝูงแพะกลับบ้าน นี่คือกิจวัตรประจำวันของเขา

    แม้เขาจะเป็นคนขี้เกียจ แต่เขาก็ยังมีความดีอยู่อย่างหนึ่ง  คือ  เป็นคนช่างสังเกต วันหนึ่งเขาสังเกตเห็นความผิดปกติ
    ของฝูงแพะหลังจากที่มันไปหากินตามบริเวณเนินเขา ดูเหมือนว่ามันจะกระปรี้กระเปร่าขึ้น เจ้าหนุ่มคาลดีก็เริ่มจับตาดูว่า
    ฝูงแพะมันไปกินอะไรเข้าจึงเกิดอาการเช่นนี้   และ สังเกตเห็นว่ามีผลไม้ลูกเล็ก ๆ  สีแดงชนิดหนึ่งซึ่งเขาไม่เคยเห็นมาก่อน
    เป็นอาหารที่ฝูงแพะของเขากิน จากการเฝ้าสังเกตติดต่อกันหลายวัน เขาจึงสันนิษฐานว่าจะต้องเป็นผลไม้สีแดงนี้แน่
    ที่เป็นสาเหตุให้ฝูงแพะกระปรี้กระเปร่าขึ้น   เพื่อความแน่ใจเขาจึงเด็ดผลไม้นี้ติดตัวกลับบ้านและทดลองกินดู  เขาก็เลยกลาย
    เป็นหนุ่มคนแรกที่ได้ลิ้มรสชาติของผลไม้วิเศษที่มีชื่อเรียกกันภายหลังว่า  "กาแฟ "

    นับว่าเป็นโชคดีของชาวโลกที่เจ้าหนุ่มคาลดีไม่ได้เก็บการค้นพบโดยบังเอิญนี้ไว้คนเดียว  เขานำสิ่งที่พบไปเล่าให้นักบวช
    ที่อยู่ในหมู่บ้านฟัง ความที่เป็นพระและมีความรู้ทางสมุนไพร พระรูปนี้จึงได้นำผลไม้ลูกเล็ก ๆ สีแดงนี้ไปลอกเปลือกออก
    และนำไปตากแห้ง จากนั้นนำไปต้มน้ำ ดื่มเป็นสมุนไพรและสังเกตความเปลี่ยนแปลงของตนเองดู ก็พบว่าความง่วงหง่าว
    ในระหว่างการสวดมนต์ตอนเย็น ได้หายไป และ มีความกระปรี้กระเปร่าเข้ามาแทนที่  ทำให้การสวดมนต์สรรเสริญพระเจ้า
    ในตอนเย็นมีชีวิตชีวาขึ้น และจากที่วันที่เองการต้ม ผลไม้ลูกเล็ก ๆ สีแดงที่เรียกว่า กาแฟ ก็ได้แพร่หลายออกไป

    จากการค้นพบครั้งแรกในศตวรรษที่ 6 เรื่อยมาจนถึงศตวรรษที่ 16 การดื่มกาแฟและการขยายพันธ์ยังคงจำกัดอยู่ในวงแคบ
    และอยู่ในเมืองของชาวอาหรับเท่านั้น ชาวอาหรับหวงแหนเมล็ดกาแฟมาก และเก็บเป็นความลับสุดยอด เมล็ดกาแฟที่จะส่งออก
    ไปจำหน่ายให้พ่อค้า จะต้องผ่านการต้มสุกเสียก่อนเพื่อป้องกันการนำไปขยายพันธุ์ แต่ในที่สุดเมล็ดพันธุ์กาแฟที่เป็นของหวงแหน
    ของอาหรับ ก็ถูกมือดีชาวอินเดียลักลอบนำออกไปสู่โลกภายนอกจนได้ ในระหว่างเดินทางกลับจากการไปแสวงบุญที่กรุงเมกกะ
    นายบาบา บูดาน ผู้มีถิ่นพำนักอยู่ที่ไมซูทางภาคกลางของประเทศอินเดีย

    *  จบแร่ววว   ....  เรื่องเล่าประวัติความเป็นมา  แต่ เรื่องของ  กาแฟ  ยังไม่จบค่ะ 


หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 03-04-2008, 13:05
ขอสูตรกาแฟหลายๆแบบหน่อยได้ไม๊ครับ  :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 03-04-2008, 17:23
แล้วกาแฟ ที่เขาพึ่งจับไปอะครับ

ที่เขาบอกกินแล้วคึก 5555555555 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 04-04-2008, 11:45
*  ขอมาก็จัดให้ ...  Mőbiuş
   
               (http://img389.imageshack.us/img389/5233/61182139sg6.jpg) (http://imageshack.us)

    ~:  คาปูชิโน่เย็น  :~   ( ในรูปเป็นคาปูชิโนร้อน )

        1.  ตีฟองนมประมาณ 150 ml.
        2.  ชงกาแฟให้เหมือนกับทำลาเต้
        3.  ใส่น้ำเชื่อมหรือนมข้นหวาน 50 ml.คนให้เข้ากัน
        4.  เติมน้ำแข็งเต็มแก้ว
        5.  ตักฟองนมที่เตรียมไว้ลงด้านบนจนเต็มปากแก้ว
        6.  โรยผงชินนาม่อนหรือผงโกโก้ลงบนฟองนมนิดหน่อย

     ~:  สูตรกาแฟแบบอื่น ๆ  ( เป็นแบบร้อนนะ )  ส่วนผสมคร่าว ๆ คือ .....  

        1.  กาแฟดำ   ( Black Coffee )   กาแฟคั่วชงผ่านความร้อนไม่ใส่นม ไม่ใส่น้ำตาล เสิร์ฟปกติ

        2.  เอสเพรสโซ  ( Espresso )  กาแฟคั่วเข้ม  ไม่ใส่นม ไม่ใส่น้ำตาล ชงด้วยเครื่องชง Espresso Machine
             ปริมาณเสิร์ฟ 1 ออนซ์ เรียกว่า 1 ช็อต (shot)  หากใช้ 2 ช็อต จะเรียกว่า double

        3.  คาปูชิโน ( Cappuccino )  ใช้เอสเพรสโซ 2 ช็อต เติมน้ำร้อนประมาณ 150-170 องศาเซลเซียส 2 ออนซ์
             และปิดด้วยฟองนมอีก 2 ออนซ์ กรณีที่เป็นคาปูชิโนเย็น มักใช้วิปครีมแทนฟองนม เพราะความเย็นทำให้ฟองนมยุบตัว

        4.  แคฟเฟ แลตเต้ / แคฟเฟ โอ เลต์  ( Caffe Latte/Caffe Au Lait )   เหมือนกาแฟใส่นมทั่วไป ใช้กาแฟเอสเพรสโซ
             1 ช็อต แล้วเติมนมร้อนจนเต็มถ้วย ปิดด้วยฟองนมประมาณ 1/4 นิ้ว  อาจโรยหน้าด้วยเครื่องเทศ  เช่น  อบเชย
             หรือเกล็ดช็อคโกแลต ที่อเมริกานิยมดื่มกันมาก
 
        5.  แคฟเฟ มอคคา ( Coffe Mocha )  เริ่มจากเทน้ำเชื่อมมอคคาหรือน้ำเชื่อมช็อคโกแลตที่ใช้ราดไอศครีมจนท่วมก้นแก้ว
             ตามด้วยเอสเพรสโซ 1 ช็อตหรือ 1 ออนซ์ แล้ว แล้วเติมนมร้อนจนเต็มแก้ว ปิดท้ายด้วยวิปครีม 1 ช้อน และเกล็ดโกโก้หวาน
             หรืออาจจะทำเป็นมอคคาเย็นก็อร่อย
 
        6.  แคฟเฟ อเมริกาโน  ( Caffe Americano)  เป็นกาแฟดำ ใช้เอสเพรสโซ 1 ช็อตแล้วเติมน้ำร้อนจนเต็มถ้วย เวลาชง
             มีเคล็ดลับนิดหนึ่งครับ  คือ  ต้องใส่น้ำกาแฟก่อนแล้วค่อย ๆ  เติมน้ำร้อน  ถ้าใส่น้ำร้อนก่อนแล้วเติมน้ำกาแฟทีหลัง
             จะได้กาแฟที่มีฟองขนาดใหญ่เหมือนหวอดปลากระดี่ ขาดความละเมียดละไม

        7.  เอสเพรสโซ ลังโก  ( Espresso Lungo)  กาแฟเอสเพรสโซที่ใช้เวลาชงนานกว่าปกติ เป็นวิธีที่ทำให้ได้คาเฟอีนมากที่สุด
             ได้รสชาติกาแฟเอสเพรสโซที่เข้ม ข้น ขม...

        8.  ฟรัพเพ ( Frappe ) กาแฟเย็นเตรียมจากเอสเพรสโซ เอาใส่  shaker แล้วเขย่า เติมนม เสิร์ฟในแก้วทรงสูง ที่สำคัญต้องมี
             ฟองนมลอยแจ่มอยู่ด้านบน       
       ส่วนที่ยังไม่ได้หาให้ ........  รอสักครู่   :slime_v:

       ปล.  ของลุงถึก  กะ  คุณ นายเกตุ  เด๋วจัดให้ค่ะ  พร้อมด้วยวิธีการคัดกาแฟ รวมถึงการบดด้วย  !!!



หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: (ลุง)ถึก สไลเดอร์ ที่ 04-04-2008, 12:02
ขอกาแฟหมา เอาแบบไม่ใส่น้ำตาลนะเอ้
จะเอาไปให้การุณกิน เผื่อมันจะได้ซื่อสัตย์อย่างหมาขึ้นมาบ้าง
  ที่ไม่ให้ใส่น้ำตาล เพราะหมากินหวานมากๆแล้วมันจะดุ.......เอิ้กกกก

 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 04-04-2008, 13:44
*  ง่า .....   ลุงถึก   มาขอกาแฟอะไร  เอ้   เนี่ยยยย 

    ไม่มี๊  ไม่มี ..... เอ้ ไม่เคยได้ยินกาแฟหมา  เอ๊อออ  !!
   
    ขอเป็นใช้    น้ำร้อน  แทนได้ป่าวค่ะ  ...........................
    ถ้าแบบนั้น  เอ้  มี  .....  เผื่อลุงจะเอาไว้สาดการุณช่วงสงกานต์   :slime_bigsmile:



หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 04-04-2008, 15:44
อย.เต้นตรวจสอบกาแฟปลุกเซ็กส์


                  อย.ตีปี๊บ เตรียมอัดกาแฟปลุกเซ็กส์ หลังพบมีการวางตลาดขายอ้างสรรพคุณเพิ่มพลังเพศชาย 11 ก.พ.สั่งการสารวัตรอย.เก็บตัวอย่างพิสูจน์ เตือนระวังโทษจำคุกจากกรณีกาแฟนำเข้ายี่ห้อเมจิค ที่วางจำหน่ายอยู่ในร้านขายเครื่องสำอางในห้างแห่งหนึ่ง และมีการติดประกาศอวดอ้างสรรพคุณว่าเป็นกาแฟสมุนไพรสกัดจากเม็ดเก๋ากี้ ช่วยเพิ่มพลังให้แก่เพศชายอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่เกิดการหงุดหงิด เหมาะสมสำหรับสุภาพบุรุษที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่ต้องการเพิ่มพลังทางเพศ ฟื้นฟูความภาคภูมิใจของชาย เพิ่มความสุขแห่ง ชีวิต ดื่มแล้วเห็นผล 100 เปอร์เซ็นต์ ฯลฯ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น 
         
                 นพ. ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่จากกองควบคุมอาหาร ไปตรวจสอบการจำหน่ายและการโฆษณาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตาม โดยปกติกาแฟนำเข้าหรือผลิตในประเทศ อย.จะดูแลในเรื่องของฉลาก ที่ต้องแจ้งส่วนผสมว่ามีส่วนผสมอะไรที่ไม่ปลอดภัยหรือไม่ รวมทั้งกำหนดให้มีฉลากภาษาไทยกำกับให้ชัดเจน ส่วนใหญ่ผู้ผลิตก็มักจะใส่ส่วนผสมที่เป็นสมุนไพร เช่น เก๋ากี้ โสม เห็ดหลินจือ หรือแม้แต่คอลลาเจน ถือเป็นสูตรเฉพาะที่ อย.ไม่ได้ห้าม แต่ประเด็นสำคัญก็คือการโฆษณาสรรพคุณของสินค้า ที่ผ่านมา อย.เคยดำเนิน คดีกับผู้ผลิตและนำเข้ากาแฟผสมคอลลาเจน ที่โฆษณาสรรพคุณว่าชะลอความแก่ ช่วยให้เต่งตึงไม่เหี่ยวย่น ที่ถือว่าโฆษณาเป็นเท็จและเกินจริง ในกรณีของกาแฟชนิดนี้ก็เข้าข่ายเช่นเดียวกัน อย.จะเร่งดำเนินการสรุปสำนวน หลักฐาน เพื่อดำเนินคดีและดูความเชื่อมโยงของการโฆษณาสินค้าว่ามีการโฆษณาที่เป็นเท็จหรือไม่ หากโฆษณาเป็นเท็จ จะมีโทษถึงจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท
       
                  “ที่ผ่านมาผู้ผลิตมักเลี่ยงกฎหมายโดยการไม่ โฆษณาที่ข้างกล่องหรือบนตัวผลิตภัณฑ์ แต่แยกโฆษณาต่างหาก กรณีเช่นนี้ก็สามารถที่จะตรวจสอบและเอาผิดได้ หากมีการโฆษณาเชื่อมโยง เช่น เขียนป้ายโฆษณา และนำสินค้าไปตั้งไว้ใกล้ๆ กัน ก็ถือว่ามีเจตนาโฆษณาเป็นเท็จ” นพ.ศิริวัฒน์กล่าว และว่าในวันที่ 11 ก.พ.นี้ จะสั่งการให้สารวัตรอาหารและยาเร่งเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์มาตรวจ พิสูจน์ ว่ามีการผสมตัวยาที่มีผลต่อการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศลงในกาแฟชนิดนี้หรือไม่ ถ้ามีก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาด้วย ฐานโฆษณาสรรพคุณเป็นยา และใส่ส่วนผสมที่เป็นยาลงไปในผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นทะเบียนเป็นอาหาร รวมทั้งจะให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเว็บไซต์ที่มีการจำหน่ายสินค้าเหล่านี้อย่างใกล้ชิดด้วย
       
                   เลขาธิการ อย.ยังกล่าวอีกว่า โดยปกติเก๋ากี้ หรือสมุนไพรพวกโสม จะมีสรรพคุณเพียงแค่ส่งเสริมสุขภาพไม่ถึงขั้นเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ถ้าคนที่ซื้อไปรับประทานแล้วได้ผลตามที่โฆษณา อาจมีสาเหตุอยู่ 2 อย่างคือ อุปาทาน กับผสมยาปลุกเซ็กซ์ใส่ลงไป ในกรณีหลัง นอกจากจะมีความผิดตามกฎหมายตามที่ได้ให้รายละเอียดแล้ว ผู้ที่มีโรคประจำตัวกินเข้าไปยังอาจเกิดอันตรายได้ อีกด้วย ที่ผ่านมา อย.เคยดำเนินคดีกับผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ เสริมอาหารบางตัวที่แอบใส่ยาลดความอ้วน ซึ่งเป็นยาที่ ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทลงไป นอกจากจะเป็นอันตรายแล้ว ยังต้องถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทอีกด้วย
       
                  นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บริษัทบีที จำกัด ย่านถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง และได้รับการเปิดเผยจากนายรุ่งเดช หลิว อายุ 41 ปี เจ้าของบริษัท ว่า รู้สึกตกใจหลังจากที่ได้เห็นข่าวทางหนังสือพิมพ์ ตนอยากจะบอกว่า กาแฟยี่ห้อดังกล่าวที่นำเข้าจากประเทศจีนอย่างถูกต้องตามกฎหมายนั้น มีการขออนุญาต อย. เรียบร้อยแล้วทุกประการ และทุกครั้งที่นำสินค้าเข้าก็ได้มีการขออนุญาตอย่างถูกต้องทุกครั้งไป ซึ่งลูกค้าของตนก็ค่อนข้างที่จะมีระดับและมีชื่อเสียงในวงสังคม ถ้าเอาสินค้าไม่ดีมาแหกตาคงอยู่ไม่ได้นานมาจนปีกว่า อย่างไรก็ตาม คงจะต้องปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ ก่อนว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่ที่แน่ๆคงต้องคุยกับ อย.ว่าเกิดอะไรขึ้นในสารบบของการตรวจสอบที่ผิดพลาดจนทำให้ตนเสียหายจากนั้นนายรุ่งเดชก็ได้นำใบจดทะเบียนของ อย. ทั้งแบบภาษาไทยและภาษาอังกฤษมาให้ดู เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองด้วย
       
                  อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ตรวจสอบเลขสารบบอาหารของกาแฟปลุกเซ็กซ์ยี่ห้อดังกล่าว อีกครั้ง พบว่ามีการจดทะเบียนไว้จริง โดยประเภทที่จดแจ้งเป็นการจดทะเบียนอาหารนำเข้า ประเภทอาหาร : กาแฟ ชื่อผลิตภัณฑ์ (ไทย) : กาแฟสำเร็จรูป (ตรา เพาเวอร์ บี ที) ชื่อผลิตภัณฑ์ (อังกฤษ) : INSTANT COFFEE (POWER B T BRAND) ประเภทใบอนุญาต : ใบอนุญาตนำหรือสั่งอาหารเข้า เลขสถานที่/เลขใบอนุญาต : 10-3-15449 ผู้รับอนุญาต/ผู้นำเข้า : บริษัท บี ที จำกัด ผู้ผลิตต่างประเทศ : JIANGXI JIANYUAN BIOLOGICAL TECHNOLOGY CO;LTD.P.R.CHINA
       
                 นอกจากนี้ จากการตรวจสอบเว็บไซต์ที่ประกาศขายสินค้าเสริมสุขภาพ ซึ่งส่วนใหญ่ขายกันในลักษณะให้สั่งซื้อผ่านระบบอินเตอร์เน็ต หรือโทร.สั่งซื้อนั้น พบว่ายังมีผลิตภัณฑ์ในลักษณะเดียวกันหรือคล้ายคลึงกับกาแฟดังกล่าว คือมีส่วนผสมของสมุนไพรเก๋ากี้ ประกาศขายในอินเตอร์เน็ตอยู่เป็นจำนวนมาก และมักมีการอวดอ้างสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ว่าช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เพิ่มพลังชาย แก้ปัญหาล่มปากอ่าว ฯลฯ รวมทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่า บางยี่ห้อยังอวดอ้างความน่าเชื่อถือของสินค้าด้วยการระบุว่าได้รับการรับรองจากสถาบันต่างๆเป็นจำนวนมาก ขณะที่สนนราคาหลักร้อยบาทขึ้นไปต่อซอง

**********************************

อันนี้ทำไงครับ 55555555


หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: (ลุง)ถึก สไลเดอร์ ที่ 05-04-2008, 03:38
กาแฟหมา ก็คือ "น้ำข้าว"ไงละเอ้
สมัยนี้หุงข้าวด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้า หมาเลยอดกินน้ำข้าว

เฒ่าคนหนึ่ง มีความเป็นอยู่พอเพียง
แกเรียกร้องให้ชาวบ้านหันมากินน้ำข้าวแทนไปดื่มกาแฟ
"สูจะไปดื่มกาแฟให้เสียตังค์ทำไม น้ำข้าวร้อนๆเติมน้ำตาล อุดม
ไปด้วยวิตามิน กินไม่หมดยังเผื่อหมาได้อีก"
  นี่คือความเป็นหมาของ"กาแฟหมา"ครับ... เอิ้กกกกกก

(http://www.weekendhobby.com/offroad/pajero/picture/253255021100.JPG)
โด่..ริน"กาแฟหมา"ทิ้งทำไมเพ่
(http://www.ricethailand.go.th/rkb/data_008/image/rice_xx2-08_produce042.jpg)
กาแฟหมาบรรจุขวด เอิ้กกกกก...ครั้งหนึ๋งป๋าเทพ จะให้ผม
เป็นตัวแทนจำหน่ายในสวีเดน แต่ดันเกิดเจ๊งเสียก่อน......กร๊ากกกกก



หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 06-04-2008, 22:30
*  ขอมาก็จัดให้ ...  Mőbiuş
   
               (http://img389.imageshack.us/img389/5233/61182139sg6.jpg) (http://imageshack.us)

    ~:  คาปูชิโน่เย็น  :~   ( ในรูปเป็นคาปูชิโนร้อน )

        1.  ตีฟองนมประมาณ 150 ml.
        2.  ชงกาแฟให้เหมือนกับทำลาเต้
        3.  ใส่น้ำเชื่อมหรือนมข้นหวาน 50 ml.คนให้เข้ากัน
        4.  เติมน้ำแข็งเต็มแก้ว
        5.  ตักฟองนมที่เตรียมไว้ลงด้านบนจนเต็มปากแก้ว
        6.  โรยผงชินนาม่อนหรือผงโกโก้ลงบนฟองนมนิดหน่อย

     ~:  สูตรกาแฟแบบอื่น ๆ  ( เป็นแบบร้อนนะ )  ส่วนผสมคร่าว ๆ คือ .....  

        1.  กาแฟดำ   ( Black Coffee )   กาแฟคั่วชงผ่านความร้อนไม่ใส่นม ไม่ใส่น้ำตาล เสิร์ฟปกติ

        2.  เอสเพรสโซ  ( Espresso )  กาแฟคั่วเข้ม  ไม่ใส่นม ไม่ใส่น้ำตาล ชงด้วยเครื่องชง Espresso Machine
             ปริมาณเสิร์ฟ 1 ออนซ์ เรียกว่า 1 ช็อต (shot)  หากใช้ 2 ช็อต จะเรียกว่า double

        3.  คาปูชิโน ( Cappuccino )  ใช้เอสเพรสโซ 2 ช็อต เติมน้ำร้อนประมาณ 150-170 องศาเซลเซียส 2 ออนซ์
             และปิดด้วยฟองนมอีก 2 ออนซ์ กรณีที่เป็นคาปูชิโนเย็น มักใช้วิปครีมแทนฟองนม เพราะความเย็นทำให้ฟองนมยุบตัว

        4.  แคฟเฟ แลตเต้ / แคฟเฟ โอ เลต์  ( Caffe Latte/Caffe Au Lait )   เหมือนกาแฟใส่นมทั่วไป ใช้กาแฟเอสเพรสโซ
             1 ช็อต แล้วเติมนมร้อนจนเต็มถ้วย ปิดด้วยฟองนมประมาณ 1/4 นิ้ว  อาจโรยหน้าด้วยเครื่องเทศ  เช่น  อบเชย
             หรือเกล็ดช็อคโกแลต ที่อเมริกานิยมดื่มกันมาก
 
        5.  แคฟเฟ มอคคา ( Coffe Mocha )  เริ่มจากเทน้ำเชื่อมมอคคาหรือน้ำเชื่อมช็อคโกแลตที่ใช้ราดไอศครีมจนท่วมก้นแก้ว
             ตามด้วยเอสเพรสโซ 1 ช็อตหรือ 1 ออนซ์ แล้ว แล้วเติมนมร้อนจนเต็มแก้ว ปิดท้ายด้วยวิปครีม 1 ช้อน และเกล็ดโกโก้หวาน
             หรืออาจจะทำเป็นมอคคาเย็นก็อร่อย
 
        6.  แคฟเฟ อเมริกาโน  ( Caffe Americano)  เป็นกาแฟดำ ใช้เอสเพรสโซ 1 ช็อตแล้วเติมน้ำร้อนจนเต็มถ้วย เวลาชง
             มีเคล็ดลับนิดหนึ่งครับ  คือ  ต้องใส่น้ำกาแฟก่อนแล้วค่อย ๆ  เติมน้ำร้อน  ถ้าใส่น้ำร้อนก่อนแล้วเติมน้ำกาแฟทีหลัง
             จะได้กาแฟที่มีฟองขนาดใหญ่เหมือนหวอดปลากระดี่ ขาดความละเมียดละไม

        7.  เอสเพรสโซ ลังโก  ( Espresso Lungo)  กาแฟเอสเพรสโซที่ใช้เวลาชงนานกว่าปกติ เป็นวิธีที่ทำให้ได้คาเฟอีนมากที่สุด
             ได้รสชาติกาแฟเอสเพรสโซที่เข้ม ข้น ขม...

        8.  ฟรัพเพ ( Frappe ) กาแฟเย็นเตรียมจากเอสเพรสโซ เอาใส่  shaker แล้วเขย่า เติมนม เสิร์ฟในแก้วทรงสูง ที่สำคัญต้องมี
             ฟองนมลอยแจ่มอยู่ด้านบน       
       ส่วนที่ยังไม่ได้หาให้ ........  รอสักครู่   :slime_v:

       ปล.  ของลุงถึก  กะ  คุณ นายเกตุ  เด๋วจัดให้ค่ะ  พร้อมด้วยวิธีการคัดกาแฟ รวมถึงการบดด้วย  !!!






ผมสนใจสูตรกาแฟที่เป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้
จะได้ไปปรับปรุงร้านกาแฟและเคาน์เตอร์กาแฟของผม.......

ถ้ามีสูตรใหม่อีก กรุณานำมาลงต่อนะครับ.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า



หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: เล่าปี๋ ที่ 24-04-2008, 20:23


โห..อ่านเรื่องกาแฟของคุณ เอ้ แล้วเพิ่งจะได้ความรู้ครับ.. :slime_v:



ดื่มมาทุกๆเช้าแหละครับ..แต่ไม่มีโอกาสลิ้มลองรสกาแฟหลากหลาย..ขอบคุณครับ... :slime_whistle:




หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 17-05-2008, 18:51
*  แวะมา อัฟ  กระทู้ซักหน่อย ........

    ขอบคุณค่ะลุงถึกที่ช่วยให้ความรู้เพิ่มเติมเรื่อง ......  น้ำข้าว ( กาแฟหมา  ของลุง )

    เอ้  ว่า .... มันก็มีประโยชน์นะแหละ  แต่ว่า  รสชาด  กะ  ความหอมมมมม   มันต่างกันอ่ะ  

    .......................................................................................

    *  เอ้  เอาสูตรกาแฟมาฝากคุณ ปุ เพิ่มค่ะ  ........

       ~:  คอฟฟีโซดา   (Coffee Soda)  เติมแข็งลงในแก้ว เติมกาแฟครึ่งถ้วยลงไป ใส่โซดาหรือโคล่าลงอีก 1/4 ถ้วย
            ประดับด้วยมะนาวหรือส้มฝาน

       ~:  แคฟเฟ รอแยล  (Caffe Royale)  ใช้กาแฟดำหนึ่งถ้วย เอาน้ำตาลก้อนวางลงบนช้อนกาแฟ ถือไว้เหนือแก้ว
            เทเหล้าเบอร์เบิ้นลง 1 ออนซ์บนน้ำตาล แล้วปล่อยให้เหล้าลงไปผสมในกาแฟ จากนั้นจุดไฟบนน้ำตาลจนไหม้หมด
            คนกาแฟให้เข้ากันแล้วเสิร์ฟ..

       ~:  กาแฟไอริช  (Irish Coffee)   ไอริชวิสกี้ 1-2 ออนซ์ ,  น้ำตาล 1-2 ช้อนชา ,  เอสเปรสโซ 1.5-2 ออนซ์
            วิปครีม 0.5 ช้อนโต๊ะ  อุ่นถ้วยให้ร้อนด้วยน้ำร้อน เอาไอริชวิสกี้และน้ำตาลเทลงไปในถ้วย เทกาแฟเอสเปรสโซลงไป
            และคนให้น้ำตาลละลายเข้ากัน

       ~:  กาแฟโบราณ  ( คุณ นายเกตุ ขอไว้ )  กาแฟชนิดกากพอประมาณ  นมข้น 2 ช้อนโต๊ะ , นมสดจืด 2 ช้อนโต๊ะ
            นำกาแฟชนิดกาก ใส่น้ำร้อนกรองเอาแต่น้ำ เทนมข้นและนมสดใส่น้ำครึ่งแก้ว

       ~:  Ice Fresh coffee  กาแฟเอสเปรสโซ่ 2ชอท (ใช้แบบคั่วเข้ม) , น้าเชื่อม 1.5ออนซ์ , นมข้นจืด 1ช้อนโต๊ะ
            นมข้นหวาน 1ช้อนโต๊ะ  ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันในแก้ว16ออนซ์  ใส่น้ำแข็งบด เติมกาแฟที่ผสมไว้แล้วลงไป
            ราดด้วย นมสด 1 ออนซ์ แต่งด้วยวิปปิ้งครีม

     ...............................................................................................

     *  คุณเล่าปี๋  ..... ขอบคุณมากค่ะ 

         จริง ๆ แล้วเรื่องของกาแฟยังไม่จบ  เพราะยังมีเรื่องของการบด  การชง  รวมถึงศิลปะของการดื่มกาแฟ
         ................   แล้วจะมาอัฟข้อมูลให้เพิ่มค่ะ   :slime_smile:


หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: เพื่อนฝัน ที่ 05-07-2008, 13:43
อ่านจบแล้วเมากาแฟ---เอ๊ก(http://i269.photobucket.com/albums/jj72/myem0/01/doggy-emoticon-004.gif) (http://www.myem0.com/emoticon/doggy-emoticon/)  (http://www.myem0.com/emoticon/doggy-emoticon/)


หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 05-07-2008, 20:02

มีอาจารย์คนนึงทำงานอยู่ที่สถาบันพระปกเกล้า เขาไม่ยอมดื่มหรือซื้อกาแฟเนสกาแฟเด็ดขาด สาเหตุเพราะทักษิณมีหุ้นส่วนอยู่ด้วย ใครจะมีข้อมูลเรื่องนี้หรือเปล่าคะ


หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: cameronDZ ที่ 05-07-2008, 20:42
มีอาจารย์คนนึงทำงานอยู่ที่สถาบันพระปกเกล้า เขาไม่ยอมดื่มหรือซื้อกาแฟเนสกาแฟเด็ดขาด สาเหตุเพราะทักษิณมีหุ้นส่วนอยู่ด้วย ใครจะมีข้อมูลเรื่องนี้หรือเปล่าคะ

เนสกาแฟ เป็นของ ประยุทธ มหากิจศิริ ที่สนิทสนมกับทักษิณ ถึงขั้นเคยให้เป็นรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย มาแล้ว
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98_%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4
ส่วนทักษิณจะมีหุ้นอยู่ด้วยหรือเปล่า ไม่รู้เหมือนกัน

ส่วนตัว ก็ดื่มเนสกาแฟเย็น กระป๋องเขียว วันละอย่างน้อย 2 - 3 กระป๋อง (ติดกาแฟ แต่ขี้เกียจชง)
เมื่อก่อน เคยคิดเหมือนกันว่า สินค้าอะไรที่เป็นของทักษิณ หรือเป็นพันธมิตรกับทักษิณ จะแอนตี้ ไม่ซื้อ ไม่ใช้

แต่หลัง ๆ ชักจะรู้สึกว่า คิด-ทำแบบนั้น มันดูจะ ปญอ. ไปหน่อย
เพราะทักษิณเป็นนักธุรกิจใหญ่ มันคงหว่านเงินไปลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ ครอบจักรวาล ไปหมดเกือบทุกสินค้า
ตราบใดที่เรายังดิ้นไม่หลุดไปจากความคิดบริโภคนิยม ยังไงก็ไม่พ้นต้องบริโภคสินค้าในท้องตลาด

เนสกาแฟอร่อยกว่าเบอร์ดี้
ถ้าบอกว่า แอนตี้ทักษิณ ยอมไม่กิน ไปกินเบอร์ดี้ดีกว่า เบอร์ดี้มันก็เป็นสินค้าสนับสนุนแกรมมี่ เครือข่ายของทักษิณอีก

เลยไม่ต้องกินอะไร
บ้าตาย ประสาทเสีย กันเปล่า ๆ
 :slime_dizzy: :slime_dizzy:


หัวข้อ: Re: ** กว่าจะเป็น .... กาแฟ **
เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 11-07-2008, 12:56
*   เห็นด้วยกะที่ พี่คาเมะ  พูดไว้ คือ ..... ถ้าแอนตี้ใครแล้วต้องเลิกในสิ่งที่เราคุ้นเคย  ประสาทเสียกันพอดี

     ตัว เอ้ ....  เมื่อก่อนไม่เคยไปกินกาแฟตามปั๊มเลย

     เพราะเป็นคนไม่ชอบออกจากบ้านไปไหน ... นาน ๆ ที ก็เรื่องหนึ่ง

     มีมาช่วงระยะหลังที่เริ่มไปนั่งทาน  กาแฟในปั๊ม .... เพราะพี่คนหนึ่งพาไป

     มันก็ได้บรรยากาศดี ๆ น่ะ... ร้านกาแฟในปั๊มสวยและบรรยากาศดีกว่าที่คิดเยอะเชียว ( เสียดายที่ไม่มีรูปร้านที่นั่งประจำมาให้ดู )
     ว่าแล้ว.....ก็ขอเอาวิธีการเลือกซื้อเมล็ดกาแฟมาเล่าสู่กันฟัง  นะจ๊ะ   :slime_smile:

         ~:  การเลือกซื้อ   :~

               กาแฟส่วนใหญ่มีรสชาติดีที่สุดเมื่อคั่วไปแล้ว 1-2 วัน เพราะฉะนั้นหากเป็นไปได้ควรสอบถามผู้ขายถึงวันที่กาแฟถูกคั่ว
               ก่อนซื้อทุกครั้ง ซึ่งหลังจากนั้นกาแฟยังคงสภาพที่ดีมากต่อไปได้อีก 7-10 วัน ถ้าเก็บรักษากาแฟไว้อย่างถูกวิธี คือเก็บ
               ในภาชนะปิดสนิทและเก็บรักษาในที่เย็น
           
         ~:  ข้อสังเกตในการซื้อ  :~

                เมล็ดกาแฟที่คั่วไว้นานแล้ว มักปรากฎคราบมันที่ผิวอย่างมากมักสูญเสียกลิ่นหอมไปหรือเหลือกลิ่นไว้น้อยมาก หรืออาจ
                กลายเป็นกลิ่นหืน นอกจากนี้ก็ต้องสังเกตการจัดเก็บเมล็ด กาแฟของผู้ขายว่าถูกต้องตามวิธีการคือเก็บในภาชนะปิดสนิทหรือไม่