หัวข้อ: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 06-01-2008, 10:06 ไปเจอข่าวนี้เข้าครับ ว่ามีการตัดสินใจลงทุนผลิตอีโคคาร์โดยใช้ฐานผลิตในประเทศไทย
และทั้งหมดตัดสินใจลงทุนในสมัยรัฐบาลสุรยุทธ์นี้เอง แต่ผมเดาว่ารัฐบาลสมัยที่จะถึงนี้ โดยเฉพาะถ้าเป็นพรรคพลังประชาชน คงแอบอ้างเอาไปเป็นผลงานตัวเองตามเคย.. *ทั้งที่เรื่องนี้ต้องให้เครดิตรัฐบาลสุรยุทธ์ว่าเป็นคนทำนโยบายจนสำเร็จ* ดังนั้นเรื่องนี้อย่าให้พรรคไหนมาฉวยโอกาสแอบอ้างเป็นผลงานตัวเองแบบเดิมๆ นะครับ :slime_smile: ------------------------------------------------------------------------------------------ โฟล์กทุ่ม2.7หมื่นล้าน"อีโคคาร์" ย้ายฐานผลิตเยอรมนีมาไทย ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 03 มกราคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 3963 (3163) รถประหยัดพลังงาน อีโคคาร์ มาแรงไม่หยุด "โฟล์กสวาเกน" เมืองเบียร์หอบเงินลงทุน 27,000 ล้านบาท พร้อมตั้งโรงงาน ในประเทศไทย รอบอร์ดใหญ่ BOI ให้การส่งเสริม พร้อม 3 ค่าย รถใหญ่ "โตโยต้า-มิตซู-ทาทา" ไม่ยอมตกขบวน วิ่งล็อบบี้ เข้าที่ประชุม คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ก่อนตั้งรัฐบาลชุดใหม่ในเดือนมกราคม (http://www.matichon.co.th/news-photo/prachachat/2008/01/p0101030151p1.jpg) ย้ายฐาน - โฟล์กสวาเกน เตรียมที่จะย้ายฐานการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กมายังประเทศไทย ด้วยวงเงินลงทุน 27,000 ล้านบาท ที่จะผลิตรถยนต์ Eco-Car สอดคล้องกับแผนการลงทุนของบริษัทแม่อีก 9.5 พันล้านยูโร ระยะเวลา 3 ปีที่จะใช้ในการพัฒนา รถโฟล์กรุ่นใหม่ 20 โมเดล 4 แพลตฟอร์ม นโยบายส่งเสริมการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรือ Eco-Car ที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 13 เดือนของรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ถือเป็นความสำเร็จของคณะกรรมการ ส่งเสริมการลงทุน (BOI) ที่พยายามจะให้ประเทศไทย เกิดการ สร้างฐานการผลิตรถยนต์ประเภทใหม่เหมือนกับที่เคยประสบความสำเร็จในการเป็นฐานการผลิต รถปิกอัพมาแล้ว ความสำเร็จดังกล่าว จะเห็นได้จากเมื่อ BOI เปิดให้มีการส่งเสริมการลงทุนปรากฏว่า ได้รับการตอบรับอย่างดีจากค่ายรถยนต์ ทั้งที่เปิดสายการผลิตภายในประเทศอยู่แล้วกับค่ายรถยนต์ใหม่ที่พร้อมจะตั้งโรงงานผลิตรถในไทย โดยภายในปี 2550 BOI ได้ "อนุมัติ" คำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในการผลิตรถยนต์ Eco-Car ถึง 3 คำขอได้แก่ 1)บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จัดเป็นค่ายรถยนต์แรกที่ตัดสินใจผลิตรถยนต์ Eco-Car ด้วยเงินลงทุน 7,588 ล้านบาท กำลังการผลิตปีละ 210,000 คัน ใช้ชิ้นส่วน 2,160,000 ชิ้น ตั้งโรงงานอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนคร ศรีอยุธยา ส่งออก 50% ขายในประเทศ 50 % 2)บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เงินลงทุน 9,500 ล้านบาท กำลังผลิตปีละ 138,000 คัน ตั้งโรงงานอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรม เหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง เขต 3 จะผลิตรถยนต์ Eco-Car จำนวน 2 รุ่น เครื่องยนต์เบนซินขนาด 996 ซีซี กับ 1242 ซีซี จำหน่ายในประเทศร้อยละ 19 และส่งออกร้อยละ 81 ตลาดส่งออกหลักอยู่ที่ แอฟริกา, ออสเตรเลีย, เอเชีย และ 3)บริษัทสยามนิสสัน ออโตโมบิล เงินลงทุน 5,550 ล้านบาท กำลังผลิตปีละ 120,000 คัน ตั้งโรงงานอยู่ที่ จังหวัด สมุทรปราการ เขต 1 จะผลิตรถยนต์ Eco-Car จำนวน 2 รุ่น เครื่องยนต์เบนซินขนาดต่ำ 1300 ซีซี จำหน่ายในประเทศ ร้อยละ 25 และส่งออกร้อยละ 75 ตลาดส่งออกหลักจะอยู่ที่ ออสเตรเลีย, เอเชีย/โอเชียเนีย แหล่งข่าวในกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า กระทรวงกำลังดำเนินความพยายามที่จะเรียกประชุม คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่รัฐบาลชุดใหม่จะเข้ามาบริหารประเทศ เนื่องจากมีคำขอรับ การส่งเสริมการลงทุนผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงาน (Eco-Car) รอการพิจารณาอยู่ถึง 4 โครงการ โดย 1 ใน 4 โครงการนี้ จะมีการลงทุนในวงเงินสูงที่สุดเท่าที่มีการขอรับการส่งเสริมผลิตรถยนต์ประเภทนี้ถึง 27,000 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการผลิตรถยนต์ Eco-Car ที่พร้อมจะเข้ารับการพิจารณาในการประชุม คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ครั้งต่อไป ได้แก่ 1)บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เงินลงทุน 4,640 ล้านบาท กำลังผลิต 100,000 คันในปีที่ 5 ตั้งโรงงานอยู่ที่ นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ จำหน่ายในประเทศร้อยละ 50 ส่งออกร้อยละ 50 2)บริษัทมิตซูบิชิ มอเตอร์ ประเทศไทย เงินลงทุน 4,700 ล้านบาท กำลังผลิต 100,000 คันในปีที่ 5 ตั้งโรงงานอยู่ที่ นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จำหน่ายภายในประเทศร้อยละ 10 ส่งออกร้อยละ 90 3)บริษัททาทา มอเตอร์ เงินลงทุน 7,300 ล้านบาท กำลังผลิต 100,000 คันในปีที่ 5 ที่ตั้งโรงงานและแผนการตลาด ยังไม่เป็นที่เปิดเผย และ4)บริษัท โฟล์กสวาเกน เงินลงทุน 27,000 ล้านบาท จำหน่ายภายในประเทศร้อยละ 35 ส่งออกร้อยละ 65 กำลังผลิต และสถานที่ตั้งโรงงานยังไม่เป็นที่เปิดเผย "เราค่อนข้างตั้งความหวังไว้กับโครงการรถยนต์ Eco-Car ของทางโฟล์กสวาเกนมาก เพราะหากเขาเข้ามาลงทุน ในประเทศไทยจริง ด้วยวงเงินลงทุนที่สูงขนาดนี้เท่ากับเป็นการย้ายฐานการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานขนาดเล็ก เข้ามาไว้ยังประเทศไทยทีเดียว ทั้งหมดนี้จะช่วยให้ภาพรวมของโครงการรถประหยัดพลังงาน ของประเทศไทย ก้าวเข้ามาอยู่ในระดับแนวหน้าของโลก และเชื่อว่าเราจะประสบความสำเร็จเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับรถปิกอัพ ในปัจจุบัน" แหล่งข่าวกล่าว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมูลค่าในการลงทุนโครงการผลิตรถยนต์ Eco-Car ทั้ง 4 โครงการสูงถึง 43,640 ล้านบาท ทางกระทรวงอุตสาหกรรม ต้องการให้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พิจารณา "อนุมัติ" โครงการให้เสร็จสิ้น ภายในรัฐบาลชุดนี้ที่ยังพอมีเวลาเหลืออยู่ประมาณ 1 เดือนก่อนที่รัฐบาลชุดใหม่จะเข้ามา บริหารประเทศ เพื่อป้องกันการผิดพลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาการเมืองเข้าแทรก เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับ หลายโครงการในอดีต แต่จะสำเร็จหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมในเรื่องของแผนงานรวม (package) ของ แต่ละบริษัทด้วย --- อ่านต่อฉบับเต็มได้ที่ลิงค์นี้นะครับ.. มีบทให้สัมภาษณ์ต่อไปอีกพอสมควรครับ http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02p0101030151&day=2008-01-03§ionid=0201 หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 06-01-2008, 10:33 ไม่อยากจะคิดเลยว่า เมื่อพวกปล้นชาติเข้ามาบริหารประเทศ มันจะเตะตัดขาโครงการนี้อย่างไร เพื่อขอเข้ามีส่วนร่วมสวาปามด้วย
อย่างเช่นหลายโครงการของสายการผลิตรถยนต์ ที่ต้องซื้อชิ้นส่วนจากบริษัทไอ้ตี๋ซี้ชอบเอ็กซ์ เพื่อแลกกับความสะดวกเมื่อครั้งมันเรืองอำนาจ คราวนี้หากเงื่อนไขการลงทุนไม่รัดกุม อาจจะได้ยินการย้านฐานการผลิตไปเสียเฉยๆ แต่อย่างไรก็ตาม การเสนอเงื่อนไขเพื่อแลกกับการเข้ามาลงทุนในประเทศนั้น เพื่อคนส่วนน้อยเท่านั้น ไม่มาก็ดีเหมือนกันค่ะ ตัวเลขการลงทุนรวมฟังแล้วน่าคิดนะคะ 4 โครงการลงทุน 43,640 ล้านบาท ฮือฮากันว่ามาก ไอ้หัวหน้าพวกปลันชาติ มันปล้นชาติไปผมากกว่านี้หลายเท่า นี่ไม่ได้ถึงหนึ่งในสิบที่มันปล้นไปเลยมั้งตะเนี่ย :slime_smile2: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 06-01-2008, 11:02 ไม่อยากจะคิดเลยว่า เมื่อพวกปล้นชาติเข้ามาบริหารประเทศ มันจะเตะตัดขาโครงการนี้อย่างไร เพื่อขอเข้ามีส่วนร่วมสวาปามด้วย อย่างเช่นหลายโครงการของสายการผลิตรถยนต์ ที่ต้องซื้อชิ้นส่วนจากบริษัทไอ้ตี๋ซี้ชอบเอ็กซ์ เพื่อแลกกับความสะดวกเมื่อครั้งมันเรืองอำนาจ คราวนี้หากเงื่อนไขการลงทุนไม่รัดกุม อาจจะได้ยินการย้านฐานการผลิตไปเสียเฉยๆ แต่อย่างไรก็ตาม การเสนอเงื่อนไขเพื่อแลกกับการเข้ามาลงทุนในประเทศนั้น เพื่อคนส่วนน้อยเท่านั้น ไม่มาก็ดีเหมือนกันค่ะ ตัวเลขการลงทุนรวมฟังแล้วน่าคิดนะคะ 4 โครงการลงทุน 43,640 ล้านบาท ฮือฮากันว่ามาก ไอ้หัวหน้าพวกปลันชาติ มันปล้นชาติไปผมากกว่านี้หลายเท่า นี่ไม่ได้ถึงหนึ่งในสิบที่มันปล้นไปเลยมั้งตะเนี่ย :slime_smile2: ชั่วโมงนี้.. ขนาดการลงทุนในไทยแค่นี้ก็เยอะแล้วล่ะครับ ตอนนี้ตัวเลขการลงทุนขนาดที่น่าสนใจจริงๆ อยู่ที่ประเทศลาวติดชายแดนไทยครับ เช่นที่เชียงรายฝั่งลาว ขนาดการลงทุนรับเส้นทาง R3A ที่เปิดใหม่เป็นแสนล้าน ตอนนี้อยู่ที่ประเทศไทยจะฉวยโอกาสจากตำแหน่งที่ตั้งของประเทศเราได้แค่ไหน อย่างที่เชียงรายผมเห็นมีแต่นอมินีจีนเข้าไปรุมกันใหญ่แล้ว :slime_hmm: --- อีกโครงการคือตอนใต้ของลาวติดกับไทย ที่มีการลงทุนผลิตอลูมิเนียมจากแร่บ็อกไซต์ ก็ใหญ่มหึมาเหมือนกัน เพราะเป็นแหล่งใหญ่ติดอันดับโลก จุดนี้ดีที่ไทยเป็นผู้ร่วมลงทุน แต่ผมยังไม่เห็นแผนต่อยอดอลูมิเนียมลาวที่ผลิตได้ปีละเป็นแสนตัน ถ้าไม่มีแผนรองรับ อาจไหลไปลงเวียดนามหมด ผู้ลงทุนชาวไทยขายอลูมิเนียมได้กำไรอยู่แล้ว แต่ไทยเราน่าจะได้อะไรมากกว่านั้นครับ :slime_smile: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: ท้าวอภิมหาอัครเทพอลังการ ที่ 06-01-2008, 11:07 ถ้าโฟล์คสวาเกนมาลงทุนจริงๆท่านท้าวก็ยินดีมาก
แต่ก่อนท่านท้าวมีโฟล์ค เวนโต้อยู่คันนึง ขับดีมากๆเลย แต่ซดน้ำมันชิหาย เลยเอาไปติดแกส ก็ไม่รู้ว่าช่างมันไม่เก่งหรือไง เครื่องพังไปซะงั้น เสียค่าซ่อมไปหลายตัง สุดท้ายเลยเอาระบบแกสออก มันก็กลับมาดีเหมือนเดิม แต่ก็ต้องขายไป เพราะมันซดน้ำมันจริงๆนะ แต่ก็ยังชอบมันอยู่ดี.....ทุกวันนี้ก็ยังอยากขับรถโฟล์คอีกสักครั้ง พูดถึงอีโค คาร์ ท่านท้าวนึกถึงรถยนต์ยี่ห้อหนึ่งที่หายหน้าหายตาไป อย่าง ไดฮัทสุ ที่เคยขายเจ้าตัวเล็กอย่าง ไดฮัทสุ มิร่า น่าเสียดายที่เจ้าของคอนเซปรถอีโคคา์ร์ืตัวจริงอย่างไดฮัทสุจะไม่กลับมาเมืองไทยอีก หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 06-01-2008, 11:46 อีกกลุ่มที่น่าสนใจคือบริษัท ทาทา ครับ
ผมไม่เคยรู้จักรถยนต์ยี่ห้อนี้มาก่อน พอตรวจสอบดูปรากฏว่าเป็นบริษัท ผลิตรถรายใหญ่ของประเทศอินเดีย มีแผนเข้ามาผลิตรถปิคอัพในไทย และมีบริษัทแม่ทำอุตสาหกรรมเหล็ก :slime_smile: ---------------------------------------------------------- ทาทา มอเตอร์ส บริษัทลูกกลุ่มทาทา สตีล เตรียมรุกตลาดรถปิกอัพไทย มีนาคมปีหน้า Posted on Thursday, December 06, 2007 http://www.moneychannel.co.th/Menu6/BreakingNews/tabid/98/newsid533/41152/Default.aspx นายอาจิต เวนคาทารามัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัท ในกลุ่มผู้ผลิตเหล็กยักษ์ใหญ่ของโลก และเพิ่งเข้ามาซื้อกิจการเหล็กในไทยจาก บมจ.มิลเลนเนียม สตีล (MS) ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น บมจ.ทาทา สตีล (TSTH) เปิดเผยว่า บริษัทจะลงทุน 1.3 พันล้านบาท ผลิตรถปิกอัพ ในไทย ด้วยกำลังการผลิตปีละ 3.5 หมื่นคัน โดยตั้งเป้ายอดขายในปีแรกราว 5 พันคัน สำหรับ ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง ทาทา มอเตอร์ส ของอินเดีย 70% และบริษัท ธนบุรี ประกอบรถยนต์ จำกัด 30% ซึ่งได้ประกาศแผนผลิตปิกอัพขนาด 1 ตันในไทย โดยกำหนดวางตลาดรถรุ่นแรกในเดือนมีนาคม 2551 นี้ นายอาจิต คาดว่า ในช่วงต้น บริษัทจะไม่มีการส่งออกรถปิกอัพไปยังต่างประเทศ โดยจะเน้นการขาย ในประเทศไทยก่อน ส่วนจะขยายการลงทุนเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ยังต้องรอดูการตอบรับจากตลาดก่อนด้วย ปัจจุบันไทยถือเป็นฐานการผลิตรถกระบะขนาด 1 ตันรายใหญ่สุดของโลก โดยมีผู้นำตลาดที่สำคัญในประเทศ ได้แก่ อีซูซุ และโตโยต้า ขณะที่ปีที่แล้วตลาดรถกระบะขนาด 1 ตันในไทย อยู่ที่ 4.5 แสนคัน มันนี่ ชาเนล - วรนนท์ อัศวพิริยานนท์ โทรศัพท์ - 02- 229 - 2000 ต่อ 2616 อีเมล - voranondha@set.or.th --- (http://www.matichon.co.th/prachachat//htmleditcode/upload/pages/images/tata-xenon-320.jpg) ไปเจอรูปรถปิคอัพยี่้ห้อนี้เลยเอามาให้ดูกันครับ อีกไม่กี่เดือนคงมีมาวิ่งในถนนเมืองไทย ส่วนอีโคคาร์ตามหัวกระทู้ยังไม่เจอรูปครับ :slime_smile: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 06-01-2008, 12:09 ไปเจอบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับอีโคคาร์มีเนื้อหามากพอสมควร
ท่านใดไม่กลัวเมื่อยสายตาก็ติดตามอ่านได้นะครับ มีกล่าวถึงด้วยว่าค่ายทาทา เป็นผู้เริ่มต้นแนวคิดอีโคคาร์แบบนี้ และบอกด้วยว่าบริษัทรถยนต์ต่างๆ สนใจผลิตอีโคคาร์โดยมองว่า ตั้งฐานผลิตที่อินเดียประหยัดกว่า เช่นจ้างวิศวกรเพียงแค่เดือนละ 700 USD (เทียบแล้วไม่ต่างจาก rate ประเทศไทยนะครับ) ตอนนี้ค่ายทาทาของอินเดียมีแผนตั้งฐานการผลิตในไทยแล้ว :slime_smile: ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- โลกวันนี้...ธุรกิจวันนี้ :: ตลาดรถราคาถูก http://watta.co.th/lastnews/april50/300450/bussiness.html เมื่อต้นเดือนเมษายน นายคาร์ลอส โกสท์ ซีอีโอของเรโนลต์-นิสสัน ผู้ผลิตรถยนต์ของฝรั่งเศสและญี่ปุ่น กล่าวในพิธีเปิดโรงงานผลิตรถของบริษัทในอินเดีย โดยเปิดเผยถึงเป้าหมายการผลิตรถของเรโนลต์-นิสสันว่า จะเน้นผลิตรถราคาถูกหรือ cheap car ขายในอินเดียและจีน โดยตั้งเป้าหมายราคาไว้ที่ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ และหากประสบความสำเร็จ ในสองประเทศคาดว่าจะผลิตรถสปอร์ตคาร์ขนาดเล็ก ที่มีราคาต่ำระดับ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลงกว่า 40% เมื่อเทียบกับราคารถขนาดเล็กหรือ subcompact โดยทั่วไป การเปิดโรงงานผลิตรถเล็กราคาถูกในอินเดียของเรโนลต์-นิสสันเท่ากับเป็นการเปิดศึกระหว่างบริษัท รถต่างชาติ กับบริษัทผลิตรถที่มีอิทธิพลในธุรกิจอินเดีย คือทาทา มอเตอร์ ที่เคยตั้งเป้าว่าในปีหน้าจะผลิตรถเล็กราคาถูก ขายในอินเดีย การแข่งขันของเรโนลต์- นิสสันกับทาทา มอเตอร์ เท่ากับเป็นการเปิดแนวทางการผลิตรถรุ่นใหม่ เหมือนอย่างที่เมื่อ 100 ปีก่อนบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ ได้ประกาศผลิตรถรูปแบบที่เรียกว่าที-โมเดลที่บริษัทรถ หลายแห่งได้นำไปเป็นต้นแบบในการ ผลิตรถจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ต้นกำเนิดของการผลิตรถราคาถูกในตลาดโลก เกิดขึ้นเนื่องจากบริษัทอุตสาหกรรมรถหลายแห่งได้พยายามดิ้นรน หาช่องทางการตลาดใหม่ๆ หลังจากที่ตลาดรถราคาแพงเริ่มอิ่มตัวในประเทศที่มีขนาดเศรษฐ-กิจใหญ่อย่างสหรัฐ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ดังนั้น บริษัทรถจึงหาช่องทางเจาะตลาดรถในประเทศกำลังพัฒนาอย่างจีนและอินเดีย รวมทั้งอีกหลายประเทศในกลุ่มลาตินอเมริกาที่ไม่ต้องการรถกินน้ำมันและราคาสูง ซึ่งผู้บริโภคในประเทศกำลัง พัฒนาเหล่านี้ต้องการรถราคาถูกและมีคุณภาพดีพอสมควร นักวิเคราะห์ธุรกิจกล่าวว่า การผลิตรถราคา ถูกต้องเป็นรถที่มีต้นทุนการผลิตต่ำหรือ Low-cost cars เป็นแนวทาง เดียวกับการดำเนินธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำ ซึ่งมอนิเตอร์ กรุ๊ป บริษัทที่ปรึกษาด้านรถยนต์ เปิดเผยว่า แนวทาง การผลิตรถยอดนิยมในศต-วรรษนี้จะเป็นรถ Low-cost cars เนื่องจากเป็นรถที่ประหยัดพลังงานและใช้ได้ทั้งใน เขตเมืองและชนบท บริษัทผลิตรถของยุโรปที่เป็นต้นแบบในการริเริ่มผลิตรถต้นทุนต่ำคือเรโนลต์-นิสสัน ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2004 เมื่อบริษัท ได้เริ่มต้นผลิตรถซีดานชื่อ Logan ขายในยุโรปตะวันออก มีราคา 7,200 ดอลลาร์สหรัฐ หรือมีราคาถูกกว่า 40% เมื่อเทียบกับรถซีดานของบริษัทคู่แข่งในยุโรป และหลังจากที่เรโนลต์-นิสสัน ทดลองผลิตรถรุ่นนี้แล้วพบว่าได้ เปิดขายใน 51 ประเทศ และมียอดขาย 450,000 คัน ซีอีโอของเรโนลต์-นิสสันเปิดเผยว่า การผลิตรถต้นทุนต่ำเกิดขึ้นจากการตัดสินใจตั้งโรงงานผลิตรถในประเทศ ที่มีค่าแรงงานถูกอย่างที่โรมาเนียและรัสเซีย ทั้งสองแห่งเป็นโรงงานที่ผลิตรถขนาดเล็กได้ดีและมีต้น ทุนแรงงานต่ำ ทำให้บริษัทกำหนดราคาขายของรถ ซีดานไม่ถึง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐตามราคารถซีดานที่ขายทั่วโลก สำหรับรถราคาถูกที่มีต้นทุนการผลิตต่ำนั้นนักวิเคราะห์ยกย่องให้ บริษัททาทา มอเตอร์ เป็นต้นแบบใน การคิดรถ รุ่นนี้ขึ้นมาในปี 2003 เมื่อทาทา มอเตอร์ ประกาศผลิตรถราคาต่ำที่ระดับ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นรถ 4 ประตู มีเครื่องยนต์ 33 แรงม้า และสามารถเร่งความเร็วขณะขับขี่ได้เต็มที่ 80 ไมล์ต่อชั่วโมง ทั้งนี้ ทาทา มอเตอร์ ได้ผลิต รถประเภทนี้ออกมาแล้วนำมาทดสอบ และผ่านการยอมรับจากวงการรถยนต์ทั่วโลก พร้อมที่จะเปิดตัวในอินเดียปีหน้า ผู้บริหารของทาทา มอเตอร์ กล่าวว่า แนว ทางการผลิตรถราคาถูกของบริษัทจะต้องยึดหลักการลดต้นทุนการผลิต อย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ ประกอบรถยนต์ทั้งเบาะหนังและอุปกรณ์อื่นๆ แต่สิ่งที่ลดต้นทุนการผลิตไม่ได้คือ เครื่องยนต์และระบบรักษาความปลอดภัย สำหรับตลาดรถราคาถูกในแนวทางที่ทาทา มอ-เตอร์ วางไว้นอกจากจะสามารถขายในตลาดอินเดีย และจีนแล้ว ยังขยายไปที่ลาตินอเมริกาคือ บราซิล และรัสเซีย ซึ่งทั้ง 4 ประเทศดังกล่าวเป็นตลาดกำลังพัฒนา ที่ประชากร เริ่มมีรายได้ในระดับชนชั้นกลาง จึงเป็น กลุ่มคนที่มีรายได้พอจะซื้อรถในราคาถูกได้ ทั้งนี้ โรแลนด์ เบอร์เกอร์ สทราจี้ คอนซัลแทนส์ บริษัทวิจัยด้านการตลาดรถ เปิดเผยว่า ในปี 2012 ตลาดรถทั่วโลกส่วนใหญ่จะมีราคา ต่ำกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ และจะอยู่ในตลาดไม่ต่ำกว่า 18 ล้านคัน หรือเท่ากับ 1 ใน 5 ของรถที่ผลิตได้ เทียบกับปีนี้พบว่ารถราคาต่ำกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ มียอดขายในตลาดโลกเพียง 12 ล้านคันเท่านั้น เมื่อแนวโน้มรถราคาถูกเริ่มนิยมในตลาดประ-เทศกำลังพัฒนา ทำให้บริษัทขนาดใหญ่อย่างโตโยต้า โฟล์คสวาเกน เฟียต และเปอโยต์ ต่างหันมาสนใจผลิตรถราคาถูกที่มีลักษณะและขนาดเท่ากับ Logan ที่เรโนลต์-นิสสันผลิตได้ ส่วนเจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือจีเอ็ม แม้จะเป็นบริษัทรถอันดับ 1 ที่ผลิตรถหรูหราราคาแพง แต่เมื่อตลาดมีความ ต้องการรถราคาถูก จีเอ็มจึงได้ให้บริษัทรถในเครือที่เกาหลีใต้คือจีเอ็ม แดวู ผลิตรถราคาถูกสำหรับตลาดประเทศ กำลังพัฒนา แต่ราคายังสูงที่ระดับ 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อไม่ให้เสีย ภาพลักษณ์ของจีเอ็ม ไครสเลอร์ มอเตอร์ มีบริษัทรถในจีนที่เตรียม ผลิตรถราคาถูกหรือที่ไครสเลอร์เรียกว่า low-cost cars ภายใต้ ชื่อบริษัท Chery ซึ่งมีสาขาในจีนหลายเมือง นอกจากนี้อีกบริษัทที่เตรียมกระโดดมาแย่งตลาดรถราคาถูกคือ ฮุนได มอเตอร์ มีแผนที่จะให้โรงงานในอิน-เดียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถขนาดเล็กและราคาถูก โดยตั้งเป้า จะเพิ่มการผลิตรถประเภทนี้ให้ได้มากกว่า 600,000 คัน นายเดวิด นิโคลาส ประธาน บริษัทจีเอ็ม ภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก กล่าวว่า นอกจากบริษัทรถทั่วโลกจะนิยมผลิต รถราคาถูกแล้ว ในอนาคตรถซีดานรุ่นต่างๆและรถมินิในตลาดโลกจะมีการลดราคาลงเพื่อเปลี่ยน ให้เป็นรถต้นทุนต่ำ ตัวอย่างเช่น รถซีดานอาจจะลดราคาลงมาเหลือ 9,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนรถมินิอาจ จะลดราคาลงเหลือ 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลง 15% เมื่อเทียบกับราคาขายในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่บริษัทรถต้องวางแผนในการผลิตรถราคาถูกคือ หาแหล่งผลิตที่มีต้นทุนการดำ-เนินงานต่ำ อย่างเช่น ที่ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นแหล่งผลิตรถราคาถูกที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากอินเดียมีแรงงานราคาถูก ไม่ว่าจะเป็นวิศวกร ช่างเทคนิค และบริษัทซัพพลายเออร์ที่ผลิตอุปกรณ์ประกอบรถราคาถูก ยกตัวอย่างเช่น การผลิตรถราคาถูกของทาทา มอเตอร์ พบว่าในส่วนของค่าแรงงานระดับวิศวกร บริษัทสามารถประหยัด ค่าแรงงานได้เมื่อว่าจ้างวิศวกรอินเดียในอัตรา 700 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน หรือมีค่าแรงงานถูกกว่าวิศวกร ในประเทศ อุตสาหกรรมถึง 70% นอกจากนี้ทาทา มอเตอร์ ยังเป็นพันธมิตรกับบริษัทมหินทรา แอนด์ มหินทรา ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ผลิตอุปกรณ์ รถยนต์ป้อนให้เรโนลต์-นิสสันด้วยเช่นกัน โดยสามารถผลิตอุปกรณ์รถยนต์ให้ทาทา มอเตอร์ ได้ในราคาถูกกว่า การนำเข้าจากต่างประเทศ จากข้อมูลด้านการวิจัยตลาดรถราคาถูกของ บริษัทโรแลนด์ เบอร์เกอร์ฯ พบว่าในปี 2005 ที่ผ่านมารถราคาถูก มียอดขายเพียง 1% ในตลาดสหรัฐ จึงทำให้บริษัทรถรายใหญ่ในสหรัฐอย่างจีเอ็ม ฟอร์ด และไครสเลอร์ ไม่ให้ ความสนใจกับรถประเภทนี้ แต่ที่อินเดีย โรแลนด์ เบอร์เกอร์ฯ เชื่อว่าในอีก 7 ปีข้างหน้าหรือปี 2014 ตลาดรถราคาถูก จะมียอดขายโตเป็นสองเท่าหรือ 3.3 ล้านคัน เทียบกับปัจจุบัน 1.6 ล้านคันที่ขายในอินเดีย ซึ่งปริมาณยอดขายรถ ในอินเดียในระดับนี้ทำ ให้บริษัทรถทั่วโลกเริ่มให้ความสนใจที่จะเจาะตลาดรถ ในแดนโรตีมากขึ้น เนื่องจากตลาดรถ ในประเทศใหญ่ๆ เริ่มอิ่มตัวและมีการแข่งขันสูงมาก ส่วนในจีนบริษัทวิจัยเจดี พาวเวอร์ เปิดเผยว่า อีก 7 ปีข้างหน้าตลาดรถราคาถูกของจีนจะเติบโต 140% หรือมี ยอดขายไม่ต่ำกว่า 16.5 ล้านคัน ทั้งนี้ นักวิจัยของเจดี พาวเวอร์ คาดว่าการขายรถราคาถูกให้ประสบ ความสำเร็จ ต้องเจาะตลาดใหญ่อย่างอินเดียและจีน และต้องเน้นการผลิตรถที่เพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆเพื่อให้ทันขายในตลาด ที่มีความต้องการสูง ทางด้านโตโยต้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถอันดับ 1 ของญี่ปุ่น ที่นิยมผลิตรถขนาดเล็กเจาะตลาดในสหรัฐและ แคนาดา แต่สำหรับรถราคาถูกที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ โตโยต้าก็ให้ความสนใจเช่นกัน และมีเป้าหมายผลิตรถ ราคา 7,000 ดอลลาร์สหรัฐขายในอินเดียและบราซิล ซึ่งเป็นประเทศที่โตโยต้ามีโรงงานผลิตรถพร้อมอยู่แล้ว คาดว่ารถราคาถูก ของโตโยต้าจะเปิดตัวได้ในปี 2009 นายคัตซูอากิ วาตานาเบะ ประธาน บริษัทโตโยต้า กล่าวว่า หากวิศวกรของโตโยต้าคิดค้นวิธีการผลิต รถราคาถูก ที่มีต้นทุนการผลิตต่ำได้อย่างสมบูรณ์แล้ว โตโยต้าจะนำรูปแบบการผลิตรถแบบนี้ไปใช้กับรถรุ่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น รถซีดานอย่างโคโรลล่า หรือรถสปอร์ต อเนกประสงค์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับโตโยต้าในการเจาะตลาดรถใน ประเทศกำลังพัฒนาระยะยาว สิ่งที่ต้องจับตามองสำหรับตลาดรถราคาถูกคือ ในอนาคตข้างหน้ารถประเภทนี้จะไม่วางขายในประเทศกำลังพัฒนา อย่างอินเดีย จีน บราซิล หรือในยุโรปตะวันออก แต่หากผู้บริโภคในประเทศพัฒนาแล้วอย่าง ยุโรปตะวันตกมีความ ต้องการรถประเภทนี้ คาดว่าบริษัทใหญ่อย่างเรโนลต์-นิสสันจะไม่ปล่อยโอกาสการ เจาะตลาดรถนี้ให้หลุดลอยไป โดยมีรายงานว่าเรโนลต์-นิสสันเริ่มนำรถราคาถูกไปวางขายในโชว์รูมของยุโรป หลายประเทศ และกำลังได้รับความ สนใจจากผู้บริโภค วัยหนุ่มสาวที่ต้องการรถราคาไม่แพง จากการวิจัยของบริษัทออโตโมทีฟ รีเสิร์ช ในเยอรมนี พบว่าการขายรถราคาถูกของบริษัทเรโนลต์-นิสสันนั้น รถแต่ละคันจะมีมาร์จินหรือผลต่างระหว่างราคาขายกับต้นทุนการผลิตในราคาไม่สูงมาก โดยเรโนลต์-นิสสัน จะได้ค่ามาร์จินในการขายรถรุ่น Logan ประมาณ 400 ดอลลาร์สหรัฐต่อคัน เทียบกับ BMW ที่ได้ค่ามาร์จิน ในการขายรถหรูไม่ต่ำกว่า 3,300 ดอล-ลาร์สหรัฐต่อคัน จะเห็นได้ว่าการผลิตรถราคาถูกจะมีมาร์จินอยู่ในระดับไม่สูงมาก แต่หากขายรถในปริมาณมากจะทำให้บริษัท ผู้ผลิตสามารถสร้างกำไรได้เพิ่มขึ้น และคาดว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้ารถราคาถูกจากจีนและอินเดียจะเริ่มเจาะตลาด ในสหรัฐอย่างเป็นทางการ โดยบริษัท Geely ของจีน ประกาศจะส่งรถราคาถูกขายในสหรัฐที่ระดับราคา 3,900 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2010 ส่วนบริษัทซูซูกิ มอเตอร์ ของญี่ปุ่น ผลิตรถราคาถูกในอินเดียขายในราคา 4,400 ดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าปีหน้า จะมีการส่งออกไปยังยุโรป และทาทา มอ-เตอร์ เจ้าของแนวความคิดการผลิต cheap cars ประกาศว่าจะขาย รถรุ่น Indica ในยุโรปในราคาสูงสุดที่ 8,500 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นรถซีดานรุ่นแรกของทาทา มอเตอร์ ที่เปิดตัว ในตลาดยุโรป สำหรับตลาดรถราคาถูกนักวิเคราะห์คาดการณ์ ว่า หากขายในจีนและอินเดียราคาจะอยู่ที่ 3,000-5,000 ดอลลาร์ สหรัฐ แต่หากเพิ่มอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย และระบบอื่นๆราคาจะอยู่ที่ 6,000-7,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งยัง ถือว่าเป็นราคาถูก ในขณะเดียวกันหาก cheap cars จะขายในตลาดยุโรปต้องมีการตั้งราคาให้สูงขึ้นมาอีกนิดที่ระดับ 5,000 ดอลลาร์ สหรัฐเป็นอย่างต่ำ และหากเพิ่มอุปกรณ์เสริมเข้าไปอีกจะทำให้ราคารถอยู่ที่ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งยังถือว่า เป็นรถราคาถูกสำหรับผู้บริโภครายได้สูงในยุโรปและสหรัฐ หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ปรมาจารย์เจได ที่ 06-01-2008, 13:54 โอ้..
รถโฟล์คเนี่ย เคยอ่านเจอสมัยก่อน เป็นรถที่ฮิตเลอร์ทำประชานิยมแจกชาวเยอรมันเค้าน่ะ ฮิตเลอร์บอกว่า คนเยอรมันต้องมีรถครอบครัวละคัน !!! เลยทำรถเต่า (รถโฟล์ค) แจกซะ... ที่บ้านเราก็ยังเหลือหลายคันเลยครับ ไอ้รุ่นที่ฮิตเลอร์ทำแจกอ่ะ หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: AsianNeocon ที่ 06-01-2008, 14:09 May I beg to differ? Please do not politicize the 'eco-car' too much.
You must realize that the so-called 'eco-car' technology belongs to the foreigners. Thailand is just the base for them to set up factories for export and provide cheap labours. Technological transfers are always low. What these Japanese and Europeans get are the bottom line waiting to repatriate to their headquarters elsewhere while the Thais get only meager wages. It appears that no one factors in natural resources that have been exhausted. Only small number of Thai elites stand to benefit heftily from this. Do you really feel proud when they hail Thailand as 'Detroit of Asia'? What Thailand needs to emphasize now is not carmaking but rail transportation in both cities and upcountry that is more cost-efficient, energy-efficient, environmentally friendly than roads and highways. We have needed them for 20 years but chronic corruption always caused disruption while the construction costs were rising. Let alone China and Korea. Vietnam has been pondering over countrywide railways that support high-speed trains. This could answer why Thailand's competitiveness falls constantly. Thailand is becoming less self-sufficient day-by-day. Excuse me, I won't call this an economic growth but another example of sacrificing long-term benefits for short-term gains. หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 06-01-2008, 14:31 * ขอนอกเรื่อง ... นิดนึง นะค่ะ
คุณ 温哥华老大 หรือ คุณ ไทยทรูธ หรือ คุณ ผ่าทางตัน ตั้งกะ ปีใหม่ มาไม่ยอมโพส " ภาษาไทย " เลยน๊า ....... !!! จะ งอน ระบอบบ้านเมืองเรา อะไรกันนักหนา ค่ะ ปล. ไม่มีอารายยย ..... ที่ถาม คือ เป็นคน โง่ ภาษาอังกฤษ อะค่ะ :slime_smile: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 06-01-2008, 15:23 มาร์คสีแดงของพี่ไททรูทอนาเห็นด้วยนะค่ะ
แต่ว่าถึงจะเป็นการมองแบบง่ายๆ แต่เพื่อประชาชนได้ซื้อรถถูกลงอนาก็เห็นด้วยนะ ถ้าจะมองไปที่ เราน่าจะมีการพัฒนาการขนส่งอย่างอื่น อันนี้ก็เห็นด้วยอ่ะ งง เหมือนกันว่าทำไมเขาไม่พัฒนาระบบการขนส่งรถไฟเลย ทำไมมันเน้นไปที่รถยนต์อย่างเดียว หรือเพราะกลัวน้ำมันจะขายไม่ออก :slime_bigsmile: แล้วตอนนี้ถ้ารถถูกลง แล้วถนนเราไม่เพิ่มขึ้น ภายภาคหน้าปัญหาจราจรเราจะแก้ไขอย่างไรค่ะ ถ้าสัดส่วนของรถกับถนนมันลงตัวก็โอเคอ่ะค่ะ หรือว่าถึงเวลานั้น คนจะหันมาใช้รถไฟฟ้ารถใต้ดินกันมากขึ้น แล้วรถยนต์ไม่เป็นที่นิยมหว่า.. โอ้ยย งง :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน เริ่มหัวข้อโดย: goolnw ที่ 06-01-2008, 16:17 คูณจะต้องเขาใจว่าเทคโนโลยีที่เรียกว่า อีโคคาร์ เป็นของต่างชาติ ไทย
เป็นแค่ฐานผลิตของพวกเขาที่จะต้องส่งออกและหาแรงงานถูกๆเทคนิค ในการเคลื่อนย้ายต่ำมาก นั้นคือ ญี่ปุ่นและฝรั่งรอที่จะกลับ สำนักงานใหญ่ ของเขา ในขณะที่ไทยได้ค่าแรงที่ต่ำ มึคนไทยหน่อยเดียวที่ได้ผลประโยชน์ คุณภูมิใจหรือป่าวที่พวกมันเรียกได้ไทย ว่า ดีทรอย แห่งเอเชียสิ่งที่ไทย ต้องเน้นตอนนี้คือ สร้างรถไฟภายในประเทศ เชื่อมเมืองต่อเมืองแต่นั้นคง จะใช้พลังงานประสิทธิภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากว่าถนน เรา ควรมีตั้งแต่ 20ปีที่แล้ว แต่เพราะมี คอรัปชั่น ตลอดทำให้การก่อก่อสร้าง มีความยุ่งเยิง และค่าก่อสร้างก็สูงขึ้น ถ้าไม่พูดถึงจีน และ เกาหลี เวียดนามได้ไตร่ตรองเส้นทางรถไฟทั่วประเทศที่ใช้ความเร็วสูง สามารถตอบได้ว่า การเเข่งขันของประเทศไทย ได้ร่วงลงอย่างสม่ำเสมอ ไทยกลายเป็นน้อย กว่าความเพียงพอ ฉันไม่เรียกอันนี้ว่าเศรษฐกิจโตขึ้น เป็นแค่ตัวอย่างการ เสียสละผลประโยชน์ระยะยาว เพื่อได้รับประโยชน์ระยะสั้น แปล ของคุณ 温哥华老大 นะครับ คุณ 温哥华老大 จะต้องเข้าใจว่า คนที่เล่นที่นี้ส่วนมากเป็นคนไทย ผมก็ไม่ทราบว่าผมแปลถูกไหม ผมก็ไม่เก่งอังกฤษ แล่วคุณจีอย่าลืมเล่นเรื่อง ความจริงครึ่งเดียวด้วยละ ว่าใครได้ประโยชน์ ในการทำสัญญานี้ อิอิ หรือว่า ที่ๆคุณอยู่มานไม่มีภาษาไทย อยู่แถวไหนละ หรือว่าแป้นพิมพ์ มานไม่มีไทย สั่งซื้อที่ ทางเน็ตครับ มะว่านก็ส่งมาให้ผมเป็นสติ้กเก้อ อิอิ หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 06-01-2008, 16:52 May I beg to differ? Please do not politicize the 'eco-car' too much. You must realize that the so-called 'eco-car' technology belongs to the foreigners. Thailand is just the base for them to set up factories for export and provide cheap labours. Technological transfers are always low. What these Japanese and Europeans get are the bottom line waiting to repatriate to their headquarters elsewhere while the Thais get only meager wages. It appears that no one factors in natural resources that have been exhausted. Only small number of Thai elites stand to benefit heftily from this. Do you really feel proud when they hail Thailand as 'Detroit of Asia'? What Thailand needs to emphasize now is not carmaking but rail transportation in both cities and upcountry that is more cost-efficient, energy-efficient, environmentally friendly than roads and highways. We have needed them for 20 years but chronic corruption always caused disruption while the construction costs were rising. Let alone China and Korea. Vietnam has been pondering over countrywide railways that support high-speed trains. This could answer why Thailand's competitiveness falls constantly. Thailand is becoming less self-sufficient day-by-day. Excuse me, I won't call this an economic growth but another example of sacrificing long-term benefits for short-term gains. :slime_smile: ขอ..ตอบมั่งๆ กะปัญหาอินเตอร์..ช๊อบชอบ 我相信我们有足够的技术,以推动生产,在泰国。 然而,我们不能工厂,使原料如铁。因为我们从未有战争。 (http://www.stonekid.com/uploads/armedforces.jpg) 例如:如果我们可以得到车辆如坦克,飞机,我们可以知道如何适用于任何铁制品 :slime_fighto: 如此。同时,我们必须有什么顾客购买,从一个伟大的国家。 หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: จูล่ง_j ที่ 06-01-2008, 16:53 เห็นกระทู้นี้แล้วอย่างน้อยก็ยังดีใจ ที่ค่ายรถต่างๆสนใจที่จะลงทุนกับเมืองไทย
ซึ่งดูค่อนข้างจะแตกต่างกับที่ พปช ด่า รัฐบาลสุรยุทธปาวๆ ว่าต่างชาติหนีการลงทุนกันหมด แต่ก็เซ็งๆกับ รัฐบาลสุรยุทธ ที่มันรีบร้อนจัดเลือกตั้งเกินไป น่าจะให้เวลา คตส เคลียร์คดีให้หมดก่อน เห็นยังมีโพลว่า คนในกรุงเทพส่วนใหญ่อยากให้คตส เคลียร์คดีทักษินให้หมด แล้วค่อยเลือกตั้ง ส่วนที่คุณ ไทยทรูธ บอกเกี่ยวกับการขนส่งระบบรางก็เห็นด้วย ความจริงเมืองไทยมันน่าจะโหมสร้าง การขนส่งระบบรางให้มากๆ ตั้งแต่สิบกว่าปีที่แล้วด้วยซ้ำ กรุงเทพ มันรถคิดแบบทุเรศทุรังมาเป็นเวลานานมาก ทำไมนักการเมืองมันความรู้สึกช้าเหลือเกิน ไม่คิดอะไรยาวๆเลย หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 06-01-2008, 17:34 :slime_smile: ขอ..ตอบมั่งๆ กะปัญหาอินเตอร์..ช๊อบชอบ 我相信我们有足够的技术,以推动生产,在泰国。 然而,我们不能工厂,使原料如铁。因为我们从未有战争。 例如:如果我们可以得到车辆如坦克,飞机,我们可以知道如何适用于任何铁制品 :slime_fighto: 如此。同时,我们必须有什么顾客购买,从一个伟大的国家。 I believe that we have enough technology to promote production, in Thailand. However, we can not plant, the raw materials such as iron. Because we never have war. For example: If we can get vehicles such as tanks, aircraft, we can know how to apply to any iron products :slime_fighto: So. At the same time, we must have what customers buy, from a great country. :slime_hmm:ขอตอบ (ต่อ) เป้น ภาษาไทย เดี๋ยวเพื่อนๆ จะ หมั่นใส้..งอนเอา ... (ขอ..ม่ายตัดแปะ พิมพ์ เอง จาก ประสพการณ์ ... เพราะม่ายรู้จะไปหาเนื้อเรื่องจากที่ไหน มา แปะ) ประเทศไทย ทำได้นานแล้ว มี Knowledge ครบ..แต่.. ตัวอย่าง เมื่อ 15 ปี ก่อน ธนินท์ เจียรวนนท์ (ไม่ได้ เชียร์ อาแป๊ะนะฮะ) สามารถ ทำให้ อุตสาหกรรม ในจีน.. ดึงเงินตราต่างประเทศมาด๊าย ด๊วย.. กลยุทธิ์ มอร์เตอร์ไซด์ " ซู่เฟิ่ง " :slime_fighto: เพราะ จีน ..เป้นประเทศ ที่ เคย ก่อสงคราม และ สามารถ มี โรงงาน ถลุงเหล็ก ดังนั้น อาแป๊ะ จึง ดึง Technology - ของ Honda มาก๊อปปี๊ จากรถ 4 จังหวะ บวกกับ งานด้าน Raw Material สิ่งสามารถ นำมา ประกอบได้เองในประเทศจีน ราคา แพง ค่ะโรด เกินกว่า คนจีน จะมีตังค์ซื้อ! ใครอยากซื้อ.. ก้อให้ ญาติ คนจีน ใน อเมริกา หรือทั่วโลก ส่งเงิน มาซื้อ ให้ คนจีน ที่อยู่เมืองจีนขับ (วิชาการตลาด.. International Business ...งงมั๊ย) ดังนั้น กลยุทธิ์ นี้ สามารถ นำเงิน US ดอลล่าห์ เข้า ประเทศ จีน ได้อย่าง.. มหาศาล ในช่วง 1990 แต่..ก้อีกน่านแหละฮะ ที่ลูกหิน กล่าวตอนต้น.. 因为我们从未有战争。 แปลให้ เพราะ ประเทศ ไทย ม่ายเคย ก่อสงคราม! เมื่อ 50 ปีก่อน นั้น ... เกาหลี ที่เคย ล้าหลัง จาก ประเทศ ไทย ถึง 20 ปี พอหลัง เกิด สงคราม เกาหลี .. ประเทศ เกาหลี มี โรงงาน ถลุง เหล็ก จึง สามารถ ผลิต ผลิตภัณฑ์ ประเภท Vehicle Industrial ได้ ประเทศไทย มี มหาลัยมากมาย สอนให้ คนไทยเป็น แต่... ไม่มี การ Support Raw Material ได้จริง จากภายในประเทศ นั่นเอง ประเทศ ไทย ยังจำเป้น ตั้อง ซื้อ Raw Material .. จากต่างประเทศพัฒนาแล้ว มา ผลิต ชิ้นส่วน รถ อยู่ดี :slime_surrender: :slime_fighto:จบข่าว... อธิบาย โดยลูกหินเอง หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 06-01-2008, 17:43 เห็นพี่ลูกหินเล่าถึงเรื่อง เกาหลีที่เคยด้อยกว่าไทยเกือบ 20 ปี แต่หลังจากสงครามก็ทำให้พวกเขาลืมตาอ้าปาก กลายเป็นประเทศที่เจริญก้าวหน้าขึ้นมาก เคยได้ยินเรื่องนี้มานานมากแล้วค่ะ พี่ลูกหินพูดถึงพอดีเลยขอถามซะเลย....
อยากถามแค่ว่า เพราะอะไรไทยเราถึงไม่ไปไหนเลยค่ะ !!!! คือสงสัยมานานแล้วค่ะ อยากรู้จริงๆๆ แล้วถ้าไทยทำสงคราม เราจะเจริญเหมือนๆเกาหลีไหม ถ้าใช่ฟิลิปปินก็อยู่ในสงครามตอนนั้น แต่ก็ไม่ไปไหน งง อ่ะ :slime_doubt: (ห้ามตอบเพราะว่ามีคนไทยอยู่นะ) หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 06-01-2008, 17:45 ว้ายๆ ตื่นเต้น ตื่นเต้น อยากนั่งจังเลย ไม่รู้ไฟหน้าจะเป็นแอลอีดีลดโลกร้อน
หรือเปล่า มีแบบติดแก๊สธรรมชาติหรือว่ามีแบบอียี่สิบสามสิบด้วยมั้ย หวัง ว่ามันคงออกมาหน้าตาต่างจากโตโยต้ายาริสนะจ๊ะ ไอ้อีโง่คาร์เนี่ย :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: ท้าวอภิมหาอัครเทพอลังการ ที่ 06-01-2008, 17:47 ท่านท้าวว่านะ
เรื่องโรงถลุงเหล็กเนี่ย บ้านเราพูดกันมาสามสิบกว่าปี ไม่เกิดซะที มัวแต่รับซื้อ เศษเหล็กมาเข้าโรงหลอมโรงรีด อยู่นั่นแหล่ะ แล้วจะได้เหล็กมีคุณภาพได้ไง ดังนั้นท่านท้าวจึงเห็นว่า เราควรก่อสงคราม เพื่อให้เรามีโรงถลุงเหล็ก เย้ๆๆๆๆๆๆๆ :slime_agreed: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 06-01-2008, 17:48 ว้ายๆ ตื่นเต้น ตื่นเต้น อยากนั่งจังเลย ไม่รู้ไฟหน้าจะเป็นแอลอีดีลดโลกร้อน หรือเปล่า มีแบบติดแก๊สธรรมชาติหรือว่ามีแบบอียี่สิบสามสิบด้วยมั้ย หวัง ว่ามันคงออกมาหน้าตาต่างจากโตโยต้ายาริสนะจ๊ะ ไอ้อีโง่คาร์เนี่ย :slime_bigsmile: หวังว่ามันคงไม่ออกมาหน้าเหลี่ยมๆๆ ทรงเหลี่ยมๆ อ่ะจ้ะ หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: goolnw ที่ 06-01-2008, 17:51 สรุปแล้วคนที่ไล่ทักษิณ นี้เป็นคนไทยแค่ครึ่งเดียวกันหมดแล้่ว
(นอกประเด็นนิดนะครับ แต่ทำไหมไม่รักษา ภาษาไทยไว้ยิ่งชีพ) ขำๆ แต่ซีเรียส ว่าแล้วก็ฝากท่านจีว่า เรื่องความจริงครึ่งเดียว ของคนที่ไล่ทักษิณ เป็นคนไทยอะป่าว อิอิ :slime_fighto: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 06-01-2008, 17:54 เห็นพี่ลูกหินเล่าถึงเรื่อง เกาหลีที่เคยด้อยกว่าไทยเกือบ 20 ปี แต่หลังจากสงครามก็ทำให้พวกเขาลืมตาอ้าปาก กลายเป็นประเทศที่เจริญก้าวหน้าขึ้นมาก เคยได้ยินเรื่องนี้มานานมากแล้วค่ะ พี่ลูกหินพูดถึงพอดีเลยขอถามซะเลย.... อยากถามแค่ว่า เพราะอะไรไทยเราถึงไม่ไปไหนเลยค่ะ !!!! คือสงสัยมานานแล้วค่ะ อยากรู้จริงๆๆ แล้วถ้าไทยทำสงคราม เราจะเจริญเหมือนๆเกาหลีไหม ถ้าใช่ฟิลิปปินก็อยู่ในสงครามตอนนั้น แต่ก็ไม่ไปไหน งง อ่ะ :slime_doubt: (ห้ามตอบเพราะว่ามีคนไทยอยู่นะ) ลูกหินขอ.. ให้ความหมาย ผู้ ก่อสงคราม และ สู้สงคราม จะดีกว่าฮะ เช่น ญี่ปุ่น เยอรมัน อิตาลี จีน อังกฤษ ฝรั่งเศษ เมกา รัฐเซีย ฯลฯ เปนต้น ประเทศ เหล่า นี่ เป็นทั้ง ผู้ ก่อสงคราม(รุก) และ สู้สงคราม(รับ) :slime_fighto: ตอบ..ดร.อน๊า.. เพราะ เกาหลี เขา เกาเหลากัน ฮะ ส่วน ฟิลลิปินส์.. ไอ้ผิน ..เป็น... เบี๊ยล่าง เมืองขี้น เมกา เฉยๆ :slime_surrender: มันต่างกัน ตรง เกาเกลา กันเอง หมาย โดยแบ่ง แยก ประเทศ มี มหาอำนาจ มา ร่วม ถือหาง ทั้ง สอง ขั้ว จึง เกิด อุตสาหกรรม ทหาร ขึ้นมา หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 06-01-2008, 18:04 แล้วเกาหลีเหนือก็ล้าหลังไปโดยปริยายอย่างนั้นเหรอค่ะ :slime_surrender: :slime_surrender:
ขอบคุณพี่ลูกหินมากค่ะ แต่ก็ยัง งง อ่ะค่ะ ฟิลิปปินเป็นเบี้ยสหรัฐ แต่ตอนนั้นประเทศเขาก็ค่อนข้างจะป่นปี้มากๆๆ คนรุ่นเก่าของฟิลิปปินเกลียดญี่ปุ่นเข้าใส้เลย แล้วเกาหลีใต้เป็นเบี้ยของใครค่ะในตอนนั้น อนานึกว่าสหรัฐซะอีก เพราะดูเหมือนเกาหลีก็โดนญี่ปุ่นทำร้ายจนยากจะแก้ประวัติศาสตร์ให้เป็นดีได้ ขอโทษคุณจี ขอออกทะเลจิ๊ดหนึ่ง :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 06-01-2008, 18:09 จาก "อุตสาหกรรม ทหาร" .. >> มาเปน "โรงงานถลุงเหล็ก " :slime_sentimental:เป้นส่วน หนึ่ง ที่ เกิดจาก วาระ สงคราม ..ก็จริง.. :slime_doubt: :slime_agreed:แต่ นั่น ไม่ใช่ .. หนทางเดียว ที่เราจะ ไม่สามารถ มีเหมือนเขาได้ :slime_fighto: ยังมีวิธีอื่นอีก..ในวิธี.. เศรษฐศาสตร์ และ การเมืองระหว่งประเทศ อีก.. เพราะยังมี ปัจจัย จาก สงครามโลกมาเป็น .. สงครามเย็น .. และ สงคราม เศรษฐกิจ.. ขี้ เกี่ยจ บรรยายฮะ..เดี๋ยวยาวมือหงิก... เอาไว้มาโม้ต่อ..งวดหน้าดีกว่าฮะ :slime_surrender: ขออภัย ที่ ม่ายมี เรื่องตัด แปะ ที่ดูเหมือน ควรน่าเชื่อถือ ..กว่า คำบรรยายเอง ของ เด็กลูกหิน..อาจดูแล้ว ม่ายค่อยมีสาระ..ฮือๆๆๆ ก้เพราะมันม่ายมี เนื้อหา จากที่อื่น เอามาแปะ..หน่ะฮะ หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 06-01-2008, 18:16 แล้วเกาหลีเหนือก็ล้าหลังไปโดยปริยายอย่างนั้นเหรอค่ะ :slime_surrender: :slime_surrender: ขอบคุณพี่ลูกหินมากค่ะ แต่ก็ยัง งง อ่ะค่ะ ฟิลิปปินเป็นเบี้ยสหรัฐ แต่ตอนนั้นประเทศเขาก็ค่อนข้างจะป่นปี้มากๆๆ คนรุ่นเก่าของฟิลิปปินเกลียดญี่ปุ่นเข้าใส้เลย แล้วเกาหลีใต้เป็นเบี้ยของใครค่ะในตอนนั้น อนานึกว่าสหรัฐซะอีก เพราะดูเหมือนเกาหลีก็โดนญี่ปุ่นทำร้ายจนยากจะแก้ประวัติศาสตร์ให้เป็นดีได้ ขอโทษคุณจี ขอออกทะเลจิ๊ดหนึ่ง :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: ตอบ .ดร.อน๊า.. ฟิลลิปปินส์ เป้น ผู้ แพ้ สงคราม จา ญี่ปุ่นไงฮะ .. ( ยังม่ายทัน สู้จริงจัง ก็แพ้ เหมือนๆ กับไทย ) ส่วน เมกา มาได้ พิลลิปินส์ ในหลังช่วง ท้ายๆ สงคราม ก่อน ทิ้ง ระเบิดฮิโรชิมา แป๊บเดียว .. และ US. เอาฟิลลิปปิน เป้นเพียงแค่ ยุทธิ์ศาสตร์ พักกองทหารเฉยๆฮะ ส่วน ประเทศ ไทย ม่ายด๊ายอะไรเลย . จาก อุตสาหรรม ในสงครามโลก 2 :slime_smile2:จะมี ญี่ปุ่น เท่านั้น ที่ทิ้ง ..อุปกรณ์ olo ไว้ ให้ อังศุมาลิน ดุเล่น.. อิอิ ---------------------------------------------------- หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 06-01-2008, 18:19 ดีแล้วค่ะ ถ้าพี่ลูกหินตัดแปะ อนาไม่อ่านหรอกขี้เกียจ :slime_p:
อนาเข้าใจว่า อุตสาหกรรมทหาร คือการแบ่งแยกประเทศของเขานั่นเอง :slime_dizzy: ปล่อยไก่ตัวเบ่อเริ้ม :slime_v: ไม่รู้นะ คิดแบบเด็กๆนะว่าทำไมไทยเรา ถึงผลิตอะไรๆๆที่แพงๆๆไม่ได้เลย เชื่อไหมว่าห้องแลป ห้องทดลองในประเทศไทย อุปกรณ์วิทย์ฯ หายากมากที่จะเห็น made in Thailand นอกจากพวกเครื่องแก้ว ที่ไปซื้อเอาแถวๆศึกษาภัณฑ์ลาดพร้าวนะ นอกนั้นตั้งแต่ ผงวุ้นที่ใช้เลี้ยงจุลลินทรีย์ ยังผลิตจากญี่ปุ่น เกรดต่ำๆหน่อยก็จากจีน จนไปถึงอุปกรณ์เป็นล้านๆๆพวกกล้องจุลทรรศ์ PCR HPLC ฯลฯ ที่ส่วนมากเป็นเยอรมันและผลิตจากญีปุ่น ฉะนั้น อีโคคาร์ ถ้ามันเป็นรากฐานที่จะทำให้ไทยมีประสิทธิภาพก้าวหน้าผลิตรถยนต์เองก็น่าสนับสนุนไม่ใช่เหรอค่ะ อันนี้ไม่มองในแง่สิ่งแวดล้อมหรือพัฒนาการขนส่งนะค่ะ :slime_smile: (วกกลับเข้ามาประเด็น) :slime_fighto: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 06-01-2008, 18:23 ดีแล้วค่ะ ถ้าพี่ลูกหินตัดแปะ อนาไม่อ่านหรอกขี้เกียจ :slime_p: อนาเข้าใจว่า อุตสาหกรรมทหาร คือการแบ่งแยกประเทศของเขานั่นเอง :slime_dizzy: ปล่อยไก่ตัวเบ่อเริ้ม :slime_v: ไม่รู้นะ คิดแบบเด็กๆนะว่าทำไมไทยเรา ถึงผลิตอะไรๆๆที่แพงๆๆไม่ได้เลย เชื่อไหมว่าห้องแลป ห้องทดลองในประเทศไทย อุปกรณ์วิทย์ฯ หายากมากที่จะเห็น made in Thailand นอกจากพวกเครื่องแก้ว ที่ไปซื้อเอาแถวๆศึกษาภัณฑ์ลาดพร้าวนะ นอกนั้นตั้งแต่ ผงวุ้นที่ใช้เลี้ยงจุลลินทรีย์ ยังผลิตจากญี่ปุ่น เกรดต่ำๆหน่อยก็จากจีน จนไปถึงอุปกรณ์เป็นล้านๆๆพวกกล้องจุลทรรศ์ PCR HPLC ฯลฯ ที่ส่วนมากเป็นเยอรมันและผลิตจากญีปุ่น ฉะนั้น อีโคคาร์ ถ้ามันเป็นรากฐานที่จะทำให้ไทยมีประสิทธิภาพก้าวหน้าผลิตรถยนต์เองก็น่าสนับสนุนไม่ใช่เหรอค่ะ อันนี้ไม่มองในแง่สิ่งแวดล้อมหรือพัฒนาการขนส่งนะค่ะ :slime_smile: ถ้า ไทยทำได้จริง เมื่อ 15 ปี ก่อน ..มี Raw Material เอง เด็กชายลูกหิน คงม่ายต้อง..เปลี่ยน อาชีพ ไปเป็น ..เด็กเสริฟ จาน ที่ CALแล้วหล่ะฮะ.. (http://www.stonekid.com/images/logo.gif) หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 06-01-2008, 18:30 พูดเหมือนว่า ไทยจะต้องก่อสงครามถึงจะผลิตอะไรๆๆเองได้อย่างงั้นอ่ะค่ะ :slime_sentimental: :slime_sentimental:
ไม่เป็นไรหรอก พอน้าหมักได้นายก เราก็ได้สงครามแย้ว :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 06-01-2008, 18:32 * ง่า .... แย่เลย เค๊าพูดกันแต่เรื่อง ไฮเทค ........ ทางเทคโนโลยี่ !!
ทำไงดีหว่า ..... เนี่ยย ไม่กล้าเสนอความคิดเห็นเลย :slime_shy: คือว่า ... เวลาไปไหนมาไหนทุกวันนี้ ... มีแต่คนขับรถมารับ ~ ไปส่ง อ่ะ ก็เลยขับรถ โชว์พาวน์ ได้แค่ ในหมู่บ้านตัวเอง ..... แหะ แหะ ตายแล้ววว ..... เขิลล จัง ไม่อินเตอร์ เรื่อง เทคโนโลยี แบบชาวบ้านเค๊า :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 06-01-2008, 18:35 พูดเหมือนว่า ไทยจะต้องก่อสงครามถึงจะผลิตอะไรๆๆเองได้อย่างงั้นอ่ะค่ะ :slime_sentimental: :slime_sentimental: ไม่เป็นไรหรอก พอน้าหมักได้นายก เราก็ได้สงครามแย้ว :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_o: แหมๆๆๆๆ ...ลูกหิน..ตอบปายแล้ว...นี่น๊า จาก "อุตสาหกรรม ทหาร" .. >> มาเปน "โรงงานถลุงเหล็ก " :slime_sentimental:เป้นส่วน หนึ่ง ที่ เกิดจาก วาระ สงคราม ..ก็จริง.. :slime_doubt: :slime_agreed:แต่ นั่น ไม่ใช่ .. หนทางเดียว ที่เราจะ ไม่สามารถ มีเหมือนเขาได้ :slime_fighto: ยังมีวิธีอื่นอีก..ในวิธี.. เศรษฐศาสตร์ และ การเมืองระหว่งประเทศ อีก.. เพราะยังมี ปัจจัย จาก สงครามโลกมาเป็น .. สงครามเย็น .. และ สงคราม เศรษฐกิจ.. ขี้ เกี่ยจ บรรยายฮะ..เดี๋ยวยาวมือหงิก... เอาไว้มาโม้ต่อ..งวดหน้าดีกว่าฮะ :slime_surrender: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 06-01-2008, 18:39 ขอบคุณพี่ลูกหินมากๆๆค่ะ สงสัยอนาต้องขอตัวก่อนล่ะค่ะ
เดียวกระทู้จะนอกเรื่องไปเยอะ :slime_smile: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 06-01-2008, 18:52 ขอบคุณพี่ลูกหินมากๆๆค่ะ สงสัยอนาต้องขอตัวก่อนล่ะค่ะ เดียวกระทู้จะนอกเรื่องไปเยอะ :slime_smile: ดร.อน๊า ม่ายได้นอกเรื่อง..ดอกฮะ ลูกหิน เข้าใจว่า กระทู๊ นี้ เป้นกระทู๊ การเมือง แต่ เพระคำถาม ดร.อน๊า .. มัน เป้น ประโยชน์ กับ คนที่อยากรู้ ..มากกว่า เลย สนุกอยากโม้และเล่าต่อ.. ก่อนจะรู้ จะ ทำ Industrial Production เราต้อง ศึกษา อดีต มาก่อน ตาม กุนซือ..สอนมา 东方朔: 前事不忘,后事之师。 The past not forgotten is a guide for the future. :slime_fighto: ประวัติ และที่มา .. และ การสัมผัสจริง มันสามารถ ตอบ ..ในเหตุผล ที่ทำไม? ถึง เราทำไม่ได้.. ? หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: ท้าวอภิมหาอัครเทพอลังการ ที่ 06-01-2008, 19:06 เห็นคุณใบ้ไมสนใจเรื่องอุตสาหกรรมทางทหารของเกาหลีว่าจะไฮเทคถึงขนาดไหน ท่านท้าวก็จะเล่าให้ฟัง
เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมทางทหารค่อนข้างครบวงจร ผลิตอาวุธเองได้เกือบหมด ไม่ว่าจะเป็น เครื่องบินรบ อย่างเช่น T/A-50 Golden Eagle ซึ่งแม้ว่าจะเน้นภารกิจฝึกบินมากกว่าขับไล่โจมตี แต่ก็ถือว่าเป็นพัฒนาการทางด้านการบินขั้นก้าวหน้าของเกาหลี (http://img80.imageshack.us/img80/993/t50goldeneaglewy9.jpg) นั่นก็เพราะว่าเกาหลีมีอุตสาหกรรมอิลคทรอนิกส์ขั้นก้าวหน้า เป็นพื้นฐาน เพราะเครื่องบินรบในยุคปัจจุบันนั้นต้องอาศัยเทคโนโลยีอิเลคทรอนิกสในการควบคุมการบินเป็นอย่างมาก ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว ประเทศเจ้าของเทคโนโลยีจะไม่เปิดเผยระบบอิเลคทรอนิกส์การบินให้ชาติลูกค้าที่ซื้อเครื่องบินไป ยกเว้นได้รับสิทธิบัตรการผลิตไปผลิตเอาเอง แต่นั่นก็หมายถึงว่าต้องได้รับสิทธิพิเศษจริงๆเท่านั้น ส่วนรถถังหลักซึ่งเป็นหัวหอกของกองกำลังภาคพื้นดิน เกาหลีก็สามารถผลิตรถถังแบบ Hyundai K1 ที่แม้ว่าหน้าตาจะดูละม้ายคล้าย M1-Abrams ของสหรัฐไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นของที่ผลิตได้เอง (http://img155.imageshack.us/img155/6466/koreanarmyk1tankkk2.jpg) ที่เกาหลีทำได้ เพราะเกาหลีมีอุตสาหกรรมรถยนต์เป็นพื้นฐานสำคัญ โดยเกาหลีนั้นงมผิดงมถูกกับรถยนต์ประจำชาติของตัวเองมานาน ไม่ว่าจะเป็น แดวู ฮุนได เกีย และ ซังยอง จนในปัจจุบัน รถยนต์เกาหลี แม้ว่าจะยังขายแข่งกับรถญี่ปุ่นในต่างประเทศไม่ได้ แต่ในเกาหลีเอง รถยี่ห้ออื่นก็เหงื่อตกเช่นกันถ้าต้องแข่งกับรถเกาหลี นอกจากนี้เกาหลียังมีความสามารถในการออกแบบและต่อเรือระดับเรือพิฆาต ที่มีระวางขับน้ำมากกว่าสี่พันตันได้ โดยมีไม่กี่ประเทศในเอเชียที่ทำได้ โดยเกาหลีออกแบบและต่อเรือพิฆาตชั้น Chungmugong Yi Sunshin (ตั้งชื่อตามแม่ทัพ อี่ ซาน ชินแม่ทัพเรือเกาหลีซึ่งนำกองเรือเข้าต่อสู้กับทัพเรือของ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 16) (http://img142.imageshack.us/img142/4166/kdxap8.jpg) เกาหลีมีอู่ต่อเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกนั่นคืออู่ต่อเรือของกลุ่มบริษัทแดวู ซึ่งหมายความว่าเกาหลีมีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการออกแบบและต่อเรือ เพราะเรือรบ ไม่ใช่เรือเอี้ยมจุ๊น ที่จะต่ออย่างลวกๆได้ ประเทศที่มีเทคโนโลยีในการต่อเรือขั้นก้าวหน้าเท่านั้นจึงจะต่อเรือรบขนาดใหญ่ได้ แม้กระทั่งจีนเองที่มีอู่ต่อเรือขนาดใหญ่ และต่อเรือรบมากมายหลายลำ และส่งขายให้หลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยด้วยนั้น ก็ยังมีคุณภาพของการต่อเรือรบได้ไม่เท่าเกาหลี แต่อาศัยว่าถูกและของแถมเยอะ หลายๆประเทศจึงยอมซื้อ อุตสาหกรรมทางทหารเป็นอุตสาหกรรมที่รวมเอาความก้าวหน้าของทุกเทคโนโลยีมาไว้รวมกัน ประเทศที่มีอุตสาหกรรมพื้นฐานไม่ดีพอ รวมทั้งไม่มีการสั่งสมองค์ความรู้เป็นของตนเอง จึงไม่อาจจะมีอุตสาหกรรมทางทหารที่ก้าวหน้าได้ สำหรับประเทศที่อยู่สงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด แบบประเทศไทย ไม่อาจจะมีอุตสาหกรรมทางทหารขั้นก้าวหน้าได้นั่นก็เพราะ 1. เราไม่อยู่ในวิกฤตการณ์หรือสถานการณ์ที่เผชิญหน้าตลอดเวลาแบบ เกาหลใต้ี หรือ ไต้หวัน ที่ต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือกับสงครามอยู่ตลอดเวลา 2. แม้ว่าเราเคยเผชิญหน้ากับวิกฤตการณใกล้เคียง์สงครามเต็มรูปแบบกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่ด้วยศักยภาพของข้าศึกที่เผชิญหน้ากับเรานั้น ไม่ได้มีศักยภาพขนาดใหญ่เทียบเท่ากับที่ ไต้หวัน หรือเกาหลีใต้เผชิญอยู่ โดยเป็นการรบในแบบกองโจร สงครามตัวแทน ตอดนิดตอดหน่อยตามชายแดน จึงไม่มีความจำเป็นในการสะสมอาวุธ หรือเปิดอุตสาหกรรมทางทหารเพื่อรองรับสถานกาณ์สงคราม 3. การซื้ออาวุธมาใช้อาจจะทำให้เราโง่ และพัฒนาอาวุธเองไม่ได้ แต่ในสงครามที่แท้จริงแล้ว สร้างอาวุธได้แต่ใช้ไม่เชี่ยวชาญ ไม่มีประโยชน์ ใช้ให้อาวุธเป็นและใช้อาวุธให้คุ้มคือหลักเบื้องต้นของสงคราม 4. บ่อยครั้งที่มีคำถามว่า ถ้าเรามีปัญหากับประเทศผู้ค้าอาวุธแล้วจะทำไง เค้าก็ไม่ขายอาวุธให้เราสิ เราต้องพัฒนาเอง...... คำตอบคือ ตลาดค้าอาวุธมีผู้ค้าหลายราย ไม่มีการผูกขาดตลาด และผู้ค้าอยากขาย อเมริการไม่ขายอาวุธให้ไทย ก็ไปซื้อจากยุโรปได้ รัสเซีย็้มี จีนก็ขาย ถ้าญี่ปุ่นมันส่งออกอาวุธได้ มันก็คงขายเหมือนกัน 5. อาวุธทุกประเภทที่ถูกวิจัยและพัฒนา ถ้าขายได้ต้องขายออกนอกประเทศ ไม่งั้นขาดทุน ทำเองใช้เอง เปลืองทรัพยากร เปลืองเงินทุน ดังนั้นจะเห็นว่า การวิจัยและพัฒนาอาวุธขึ้นใช้เอง ต้องดูหลายๆปัจจัยเข้ามามีส่วนร่วม อยู่ๆพัมนาขึ้นมาแล้วไม่มีปัญญาผลิตในระดับอุตสาหกรรม มันก็จบเห่ หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 06-01-2008, 19:12 ." อุตสาหกรรมทางทหาร เป็นอุตสาหกรรมที่รวมเอาความก้าวหน้า ของทุกเทคโนโลยีมาไว้รวมกัน" นี่แหละ คำตอบ .. ของการ.. ปฎิวัติ อุตสาหกรรม ฮะ ขอบคุณ พี่ ท่านท้าวฯ เจ๋ง.. เป๊ง :slime_agreed: ท่านเขียนน่าอ่านเป้นวิชาการขึ้น .. ฮะ หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 06-01-2008, 19:23 หนูเข้าใจแล้วค่ะ ที่พี่ลูกหินกล่าวว่า
เพราะคนไทยไม่เคยมีสงคราม !!!!!!!! ปล่อยอนา โง่อยู่ตั้งนาน :slime_hmm: :slime_hmm: ท่านเท้าฯ อนาออกไปแค่ Japan Sea นี่ท่านท้าวเลยไป Pacific Ocean แล้วเจ้าค่ะ กลับมาๆๆๆ :slime_smile2: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 06-01-2008, 20:09 งุบงิบอนุมัติได้เก่งแบบนี้เอง มิน่าเล่าอันดับโปร่งใสไทยถึงพุ่ง(ลงเหว)กระฉูด :slime_v:
(http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P6204927/P6204927-0.jpg) หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 06-01-2008, 20:54 งุบงิบอนุมัติได้เก่งแบบนี้เอง มิน่าเล่าอันดับโปร่งใสไทยถึงพุ่ง(ลงเหว)กระฉูด :slime_v: (http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P6204927/P6204927-0.jpg) ตั้งแต่ปี42มา นี่ไม่กระฉูด? หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: สี่หามสามแห่ ที่ 06-01-2008, 21:11 งุบงิบอนุมัติได้เก่งแบบนี้เอง มิน่าเล่าอันดับโปร่งใสไทยถึงพุ่ง(ลงเหว)กระฉูด :slime_v: (http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P6204927/P6204927-0.jpg) ถ้าเป็นควายก็คงดูแค่อันดับประเทศ แต่ถ้าเป็นคนก็ต้องดูัทั้งอันดับประเทศ และจำนวนประเทศ... สงสัยไอ้เชี่ยอย่างมรึงเป็นควายแน่ๆ หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: RiDKuN ที่ 06-01-2008, 21:51 เพราะคนไทยไม่มั่นใจในความเป็นไทย ขาดจิตสำนักชาตินิยมที่ถูกต้อง
ความเป็นไทยมักจะเป็นจุดด้อยมากกว่าจุดดีเมื่อเทียบกับของฝรั่งมังค่า ถ้าอยากเห็นประเทศชาติก้าวหน้า เราต้องสนับสนุนกัน ช่วยเหลือกัน ไม่ปฏิเสธความจริงว่าสินค้าไทยหลายอย่างยังไม่มีคุณภาพเทียบเท่าต่างชาติ แต่ส่วนใหญ่ก็ใช้ได้ดีและมีราคาถูกกว่า ถ้าเราไม่ซื้อ เขาก็ไม่มีทุนจะไปค้นคว้าพัฒนาต่อ ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือขาดความก้าวหน้าในด้านอุตสาหกรรม ผลเสียก็ตกแก่ประเทศชาติโดยรวม ทำให้ประเทศเราไม่สามารถก้าวหน้าไปไหนได้ แล้วเราก็กลับมาบ่นใหม่ ว่าทำไมประเทศเราไม่ไปถึงไหน มันก็เพราะเราดูแคลนและไม่สนับสนุนกันเองนี่แหละ หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 06-01-2008, 22:07 ^
^ อย่าบอกนะจ๊ะ ว่าไม่เคยซื้อแผ่นแวมไพร์เร็คคอร์ด ประเภทรวมฮิตทุกค่าย อุดหนุนของไทยนะเนี่ย :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 06-01-2008, 22:32 เพราะคนไทยไม่มั่นใจในความเป็นไทย ขาดจิตสำนักชาตินิยมที่ถูกต้อง ความเป็นไทยมักจะเป็นจุดด้อยมากกว่าจุดดีเมื่อเทียบกับของฝรั่งมังค่า ถ้าอยากเห็นประเทศชาติก้าวหน้า เราต้องสนับสนุนกัน ช่วยเหลือกัน ไม่ปฏิเสธความจริงว่าสินค้าไทยหลายอย่างยังไม่มีคุณภาพเทียบเท่าต่างชาติ แต่ส่วนใหญ่ก็ใช้ได้ดีและมีราคาถูกกว่า ถ้าเราไม่ซื้อ เขาก็ไม่มีทุนจะไปค้นคว้าพัฒนาต่อ ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือขาดความก้าวหน้าในด้านอุตสาหกรรม ผลเสียก็ตกแก่ประเทศชาติโดยรวม ทำให้ประเทศเราไม่สามารถก้าวหน้าไปไหนได้ แล้วเราก็กลับมาบ่นใหม่ ว่าทำไมประเทศเราไม่ไปถึงไหน มันก็เพราะเราดูแคลนและไม่สนับสนุนกันเองนี่แหละ เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ปรมาจารย์เจได ที่ 06-01-2008, 22:46 ^ ^ อย่าบอกนะจ๊ะ ว่าไม่เคยซื้อแผ่นแวมไพร์เร็คคอร์ด ประเภทรวมฮิตทุกค่าย อุดหนุนของไทยนะเนี่ย :slime_bigsmile: เฮ้ย พี่แถ ถ้าจะมองแค่แผ่นซีดีแวมไพร์เร็คคอร์ดอย่างที่พี่แถชอบซื้อล่ะก้อ ซีดีเปล่า ผลิตในไทยนะเพ่ สารปรอท พลาสติค ฯลฯ ก็ของไทยนะเฮียครับ !! หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: แอ่นแอ๊น ที่ 07-01-2008, 01:39 ทาทาของอินเดีย เป็นบริษัทที่ทำตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบค่ะ คล้ายๆ มิซซูบิชิของญี่ปุ่น หรือฮุนไดของเกาหลี
เคยเห็นเจ้าของเค้าสัมภาษณ์เรื่องธุรกิจโทรคมนาคมใน CNBC ครั้งนึง แบบว่า โคตรเก่ง โคตรฉลาด และโคตรรวย :slime_bigsmile: ส่วนบริษัทในไทยที่ว่า เป็นการเข้ามาซื้อกิจการเดิม ของ MS ค่ะ คงปรับปรุงโครงสร้างใหม่ได้ระดับนึง ปีที่แล้วพลิกฟื้นกลับมามีกำไรแบบปุ๊บปั๊บ (จะว่าก้าวกระโดดก็ไม่กล้าเพราะตังติ๊ดเดียว) เรียกว่า เริ่มฟื้นตัวน่าจะถูกต้องกว่า ส่วนอนาคตจะเป็นยังไงต่อนั้น ต้องคอยดูกันต่อไปค่ะ :slime_bigsmile: ซีเกทก็โดน WTD เทคไป ปีที่แล้วมีการเปลี่ยนแปลงยุบรวมหลายๆ แห่งเหมือนกัน ส่วนบางบริษัทซึ่งเป็นผีกลวงๆ มาหลอกแต่งบัญชีเอาตังชาวบ้าน แต่บริษัทโบ๋เบ๋ก็เยอะค่ะ หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 07-01-2008, 10:45 May I beg to differ? Please do not politicize the 'eco-car' too much. You must realize that the so-called 'eco-car' technology belongs to the foreigners. Thailand is just the base for them to set up factories for export and provide cheap labours. Technological transfers are always low. What these Japanese and Europeans get are the bottom line waiting to repatriate to their headquarters elsewhere while the Thais get only meager wages. It appears that no one factors in natural resources that have been exhausted. Only small number of Thai elites stand to benefit heftily from this. Do you really feel proud when they hail Thailand as 'Detroit of Asia'? What Thailand needs to emphasize now is not carmaking but rail transportation in both cities and upcountry that is more cost-efficient, energy-efficient, environmentally friendly than roads and highways. We have needed them for 20 years but chronic corruption always caused disruption while the construction costs were rising. Let alone China and Korea. Vietnam has been pondering over countrywide railways that support high-speed trains. This could answer why Thailand's competitiveness falls constantly. Thailand is becoming less self-sufficient day-by-day. Excuse me, I won't call this an economic growth but another example of sacrificing long-term benefits for short-term gains. ผมนำมาตั้งกระทู้ในประเด็นให้ช่วยกันจำไว้ ว่าเรื่องการตัดสินใจมาลงทุนผลิตรถอีโคคาร์ ของบรรดาค่ายรถตามข่าว ทางค่ายรถต่างๆ ตัดสินใจเรียบร้อยตั้งแต่ในรัฐบาลสุรยุทธ์ เพราะเป็นไปได้ว่าเดี๋ยวพอรัฐบาลใหม่มาก็จะอ้างเป็นผลงานกอบกู้เศรษฐกิจของตัวเอง ซึ่งจะกลายเป็นว่ารัฐบาลสุรยุทธ์ไม่ได้ทำอะไร (หรือหนักกว่านั้นก็ทำให้เศรษฐกิจพัง) ส่วนรัฐบาลที่มาใหม่ชุบมือเปิบอ้างเป็นผลงานตัวเองว่าทำให้นักลงทุนเชื่อมั่น --- ส่วนเรื่องไม่มีการถ่ายทอดเทคโนโลยี เราได้แต่ค่าแรงราคาถูกๆ อะไรต่างๆ นั้น มันเป็นเรื่องนอกประเด็นครับ ถ้าจะมองในแง่ร้ายขนาดปลูกข้าวขายเราก็ได้แค่ ค่าแรงปลูกข้าวถูกๆ เหมือนกัน .. จะคุยไปถึงขนาดนั้นไหมครับ ส่วนเรื่องระบบขนส่งทางราง มันเป็นคนละเรื่อง ที่ผมเอามาลงเป็นเรื่องการลงทุน เป็นเรื่องการจ้างงาน เป็นเรื่องการส่งออก เป็นเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ หรือจะมองไปถึงเรื่องประหยัดเชื้อเพลิงด้วยก็ได้ ต่อให้มีระบบขนส่งทางรางแล้ว มันก็ยังต้องมีรถยนต์ใช้อยู่ดีนะครับ และอีโคคาร์ก็เป็นรถที่ประหยัดดี ในอีกทางหนึ่งระบบขนส่งทางรางต้องได้ขยายอยู่แล้ว เพราะทุกพรรคการเมือง ต่างขานรับกันถ้วนหน้าไม่มีใครค้านสักราย ดังนั้นรัฐได้ลงทุนเรื่องนี้แน่ๆ ผมไม่เข้าใจว่าเอาไปโยงกับเรื่องนักลงทุนมาตั้งฐานการผลิตในไทยได้อย่างไร เขาก็ไปลงทุนกันทั่วโลกนะครับไม่ใช่มาแต่ประเทศไทย อย่างล่าสุดค่ายฮุนได ยังไปตั้งฐานที่อินเดีย และที่อเมริกา ไม่เห็นมีปัญหาไม่ถ่ายทอดเทคโนโลยี หรือได้แต่ค่าจ้างแรงงาน หรือประเทศต้องการระบบขนส่งทางราง หรือว่าพอเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประเทศไทย ก็มองแต่แง่ไม่ดีครับ? :slime_smile: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 07-01-2008, 10:55 คูณจะต้องเขาใจว่าเทคโนโลยีที่เรียกว่า อีโคคาร์ เป็นของต่างชาติ ไทย เป็นแค่ฐานผลิตของพวกเขาที่จะต้องส่งออกและหาแรงงานถูกๆเทคนิค ในการเคลื่อนย้ายต่ำมาก นั้นคือ ญี่ปุ่นและฝรั่งรอที่จะกลับ สำนักงานใหญ่ ของเขา ในขณะที่ไทยได้ค่าแรงที่ต่ำ มึคนไทยหน่อยเดียวที่ได้ผลประโยชน์ คุณภูมิใจหรือป่าวที่พวกมันเรียกได้ไทย ว่า ดีทรอย แห่งเอเชียสิ่งที่ไทย ต้องเน้นตอนนี้คือ สร้างรถไฟภายในประเทศ เชื่อมเมืองต่อเมืองแต่นั้นคง จะใช้พลังงานประสิทธิภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากว่าถนน เรา ควรมีตั้งแต่ 20ปีที่แล้ว แต่เพราะมี คอรัปชั่น ตลอดทำให้การก่อก่อสร้าง มีความยุ่งเยิง และค่าก่อสร้างก็สูงขึ้น ถ้าไม่พูดถึงจีน และ เกาหลี เวียดนามได้ไตร่ตรองเส้นทางรถไฟทั่วประเทศที่ใช้ความเร็วสูง สามารถตอบได้ว่า การเเข่งขันของประเทศไทย ได้ร่วงลงอย่างสม่ำเสมอ ไทยกลายเป็นน้อย กว่าความเพียงพอ ฉันไม่เรียกอันนี้ว่าเศรษฐกิจโตขึ้น เป็นแค่ตัวอย่างการ เสียสละผลประโยชน์ระยะยาว เพื่อได้รับประโยชน์ระยะสั้น แปล ของคุณ 温哥华老大 นะครับ คุณ 温哥华老大 จะต้องเข้าใจว่า คนที่เล่นที่นี้ส่วนมากเป็นคนไทย ผมก็ไม่ทราบว่าผมแปลถูกไหม ผมก็ไม่เก่งอังกฤษ แล่วคุณจีอย่าลืมเล่นเรื่อง ความจริงครึ่งเดียวด้วยละ ว่าใครได้ประโยชน์ ในการทำสัญญานี้ อิอิ หรือว่า ที่ๆคุณอยู่มานไม่มีภาษาไทย อยู่แถวไหนละ หรือว่าแป้นพิมพ์ มานไม่มีไทย สั่งซื้อที่ ทางเน็ตครับ มะว่านก็ส่งมาให้ผมเป็นสติ้กเก้อ อิอิ ตอบเฉพาะที่คุณ goolnw คุยกับผมนะครับ คงไม่ต้องเล่นเรื่องความจริงครึ่งเดียวอะไรหรอกครับ เพราะค่ายรถก็พากันมาลงทุนสารพัดยี่ห้อ ไม่ใช่กรณี ล็อกสเป็ค ส่งเสริมสนับสนุน บริษัทตัวเองแห่งเดียว ดูแล้วก็เป็นการพร้อมใจเลือกมาลงทุนผลิตรถยนต์ ในประเทศไทย ซึ่งด้วยศักยภาพของประเทศเรา ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะมาตั้งฐานการผลิต แต่ถ้าต่อไปมีข่าวไม่ชอบมาพากลก็ว่ากันอีกทีครับ :slime_smile: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 07-01-2008, 12:10 :slime_smile: ในหัวข้อเดียวกัน ลูกหิน ต้อง ขออภัย พี่จีฯ ..เจ้าของกระทู๊เขาก่อน เพราะลูกหิน. ค่อนข้างออกนอกไปทะเล ไปแยะ ฮะ.. แตก็ สนุกดี ในหัวข้อนี้ ส่วนเรื่องการเมือง และ ภาวะการบริหารประเทศ .. คงต้อง ขอบาย ให้เพื่อนๆท่านอื่นๆ เสวนากันต่อไป( เพราะลูกหินม่ายรู้เร่อง การเมืองเลย) :slime_surrender: :slime_fighto: ขอโม้สนุกต่อ..จาก พี่ท่านท้าวฯ ..ฮะ ว่าไปแล้ว คนไทย มีความสามารถเฉพาะตัว ที่ คนญี่ปุ่น และ คนอเมริกันกล่าวถึงคือ ข้อดี คนไทย เรามี ทักษะ และ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ คือฉลาด ใน LOGIC ทำความเข้าใจง่าย สอนง่าย หัวไว มีหัว นักประดิษฐ์ ข้อเสีย .. คนไทย ขาดพื้นฐานด้านการวัด (Measurement) สถิติ พฤติกรรมขาดวินัยในการดำเนินการ คือ.. ไม่มี Spirit ในเร่อง เป้าหมายของกลุ่ม ( ทะเลาะกันเองก็เก่ง) (http://www.thonburidepot.com/loco/images/img_traindepot_02.jpg) ผลที่ตามมา คือ เรา จึงเป็นได้ แค่ อู่ ซ่อม ที่เก่งกาจ (อิอิฟังดูเหมือนดี) Research & Development ดูเหมือนจะดี... แต่ :slime_agreed: Copy & Development ดันทำไม่ได้ :slime_doubt: เราจึงเป็น Inventer ไม่ได้ สักที..หน่ะฮะ (http://www.thonburidepot.com/loco/images/img_traindepot_01.jpg) Copy & Development เช่น เคร่องบิน F5-E เราใช้มันมาร่วม 30 ปี ตั้งแต่เริ่มมี สงครามเวียดนาม เราเก่ง เราซ่อมเองได้ เราทำอะไหล่เองได้ .. แต่... ไหง เรากลับ Copy มันไม่ได้?? แปลกไหมฮะ (http://www.wing21.rtaf.mi.th/wboard/112254811282.jpg) :slime_o: ในขณะที่ ญี่ปุ่น มี F-15 JAPAN ผลิตเอง เขา ได้มาจากที่ เครื่อง บิน F-15 US ตกที่ ญี่ปุ่น ในปี ประมาณ 20 ปี ญี่ปุ่น แอบดอง F-15 ไว้ในห้อง R &D ถึง 3 เดือน ก่อนส่งคืน U.S. (http://www.atfx.org/photos/f15a.jpg) หลังจากนั้นให้หลัง ญี่ปุ่น ผลิต F-15 Japan ออกมา แบบ งามหน้ากว่า ใคร :slime_fighto: (http://www.stonekid.com/uploads/f-15-japan.jpg) กลับมาที่บ้านเรา ประเทศไทย... งานประกอบชิ้นส่วน Vehicle เรายัง ต้องพึ่ง Jig จาก วิศวะกร ต่างประเทศทุกครั้งที่ทำ Line การผลิต เพราะเรา คนไทย ขาดพื้นฐานด้านการวัด (Measurement ) และ (Stat)สถิติ นั่นเอง! (http://www.scitechantiques.com/Galileo_telescope/die_xfer_jig-sml.jpg) ถ้าให้ พูดเป็น ."ปรัชญา" เราต้องสอน เรื่องนี้กันก่อนจะทำการใดๆฮะ เช่น " การวัด ความเที่ยงตรง เป็นหัวใจสำคัญของการ ผลิต" (นี่ยังแค่ผลิตนะ ยังม่ายช่ายเรื่อง คิดค้นเอง) หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 07-01-2008, 12:19 ท่านท้าวว่านะ เรื่องโรงถลุงเหล็กเนี่ย บ้านเราพูดกันมาสามสิบกว่าปี ไม่เกิดซะที มัวแต่รับซื้อ เศษเหล็กมาเข้าโรงหลอมโรงรีด อยู่นั่นแหล่ะ แล้วจะได้เหล็กมีคุณภาพได้ไง ดังนั้นท่านท้าวจึงเห็นว่า เราควรก่อสงคราม เพื่อให้เรามีโรงถลุงเหล็ก เย้ๆๆๆๆๆๆๆ :slime_agreed: ไหนๆ ก็มีการพูดไปถึงเรื่องโรงถลุงเหล็กในกระทู้ งั้นก็ขอตอบด้วยแล้วกันนะครับ :slime_smile: ความจริงก่อนนี้ไทยเราเคยมีการลงทุนทำโรงงาน ถลุงเหล็กครับ อย่างน้อยมีอยู่ 2 โรง คิดว่าแห่งหนึ่ง อยู่ในเครือซีเมนต์ไทย ส่วนอีกแห่งผมจำชื่อไม่ได้ *แต่เขาเลิกกิจการกันไปเมื่อเกือบ 30 ปีมาแล้วครับ* เหตุผลหลักจริงๆ ก็คือไทยเราไม่มีแหล่งแร่เหล็ก ที่สมบูรณ์เพียงพอ กลายเป็นต้องนำเข้าสินแร่เหล็ก และด้วยต้นทุนการผลิตที่สูง ทำให้เหล็กที่ถลุงได้ ้้้มีราคาแพงกว่านำเข้าจากต่างประเทศ ต่อมามีแผนลงทุนโรงงานถลุงเหล็กอีกก่อนปี 2540 คราวนี้มีถึง 6 รายด้วยกัน แต่พอเจอวิกฤติเศรษฐกิจ ก็พับแผนกันไปอีกรอบครับ สำหรับแหล่งแร่เหล็กของไทยก็มีน้อยมากนะครับ ประเทศอื่นผลิตปีนึงเป็นร้อยล้านตัน แต่ไทยเรา ปริมาณสำรองรวมทั้งประเทศยังไม่ถึงร้อยล้านตัน เพิ่งจะมีการเปิดเหมืองเหล็กสมัยใหม่ที่ จ.เลย แต่ปริมาณสำรองก็น้อยนิดเดียวครับ --- ส่วนเรื่องที่เราเอาเศษเหล็กมาหลอมใช้ใหม่นั้น กว่าครึ่งเป็นเศษเหล็กในประเทศของเรานี่เอง มีซื้อจากต่างประเทศมาเสริมจำนวนหนึ่งครับ ถ้าจะลงทุนทำโรงงานถลุงเอง ก็อย่างที่เล่า คือต้องนำเข้าสินแร่เหล็กด้วย ในเมื่อเราไม่มีความพร้อมถลุงเหล็กส่งออกอยู่แล้ว มีแค่โรงหลอมเหล็กเก่ามาใช้ก็ไม่มีปัญหานะครับ อีกอย่างคือถึงเราจะไม่มีโรงงานถลุงเหล็กใช้เอง แต่อุตสาหกรรมเหล็กของเราก็เก่งใช้ได้นะครับ :slime_smile: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 07-01-2008, 12:36 ไหนๆ ก็มีการพูดไปถึงเรื่องโรงถลุงเหล็กในกระทู้ งั้นก็ขอตอบด้วยแล้วกันนะครับ :slime_smile: ความจริงก่อนนี้ไทยเราเคยมีการลงทุนทำโรงงาน ถลุงเหล็กครับ อย่างน้อยมีอยู่ 2 โรง คิดว่าแห่งหนึ่ง อยู่ในเครือซีเมนต์ไทย ส่วนอีกแห่งผมจำชื่อไม่ได้ *แต่เขาเลิกกิจการกันไปเมื่อเกือบ 30 ปีมาแล้วครับ* เหตุผลหลักจริงๆ ก็คือไทยเราไม่มีแหล่งแร่เหล็กที่สมบูรณ์เพียงพอ กลายเป็นต้องนำเข้าสินแร่เหล็ก และด้วยต้นทุนการผลิตที่สูง ทำให้เหล็กที่ถลุงได้ ้้้มีราคาแพงกว่านำเข้าจากต่างประเทศ ในเมื่อเราไม่มีความพร้อมถลุงเหล็กส่งออกอยู่แล้ว มีแค่โรงหลอมเหล็กเก่ามาใช้ก็ไม่มีปัญหานะครับ อีกอย่างคือถึงเราจะไม่มีโรงงานถลุงเหล็กใช้เอง แต่อุตสาหกรรมเหล็กของเราก็เก่งใช้ได้นะครับ :slime_smile: คำตอบ .. อันนี้ จากพี่จี.. จะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด ทางหนึ่งต่อไปฮะ :slime_fighto: :slime_smile: บวกกับ จากที่ลูกหิน กล่าวข้างต้น ในเร่อง เราหมด วาระ สงคราม ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะทำไม่ได้ จาก "อุตสาหกรรม ทหาร" .. >> มาเปน "โรงงานถลุงเหล็ก " :slime_sentimental:เป้นส่วน หนึ่ง ที่ เกิดจาก วาระ สงคราม ..ก็จริง.. :slime_doubt: :slime_agreed:แต่ นั่น ไม่ใช่ .. หนทางเดียว ที่เราจะ ไม่สามารถ มีเหมือนเขาได้ :slime_fighto: ยังมีวิธีอื่นอีก..ในวิธี.. เศรษฐศาสตร์ และ การเมืองระหว่งประเทศ อีก.. เพราะยังมี ปัจจัย จาก สงครามโลกมาเป็น .. สงครามเย็น .. และ สงคราม เศรษฐกิจ.. หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 07-01-2008, 13:02 CASE และการพัฒนา การออกแบบ ผลิตรถยนต์ ในประเทศไทย ตัวอย่างที่ดี ที่ลูกหินมอง จะเริ่มต้นมาจาก ... บริษัทที่ ลุกหิน เสียดายที่สุดคือ เพราะ รัฐบาล ไม่เคยเหลี่ยวแลเท่าที่ควร บริษัท พลสิทธิ์ ( ตุ๊กๆ ไงฮะ ) (http://www.pcd.go.th/about/images/p_oper05.jpg) ลูกหิน ไปดูเดินเล่น มาบ่อยๆ เพราะฝัน อยากเป้นแบบเขา สมัยนั้น เขาส่ง รถตุ๊กๆ Original จากไทย ไปขาย ถึง อินเดีย อิตาลี เลยทีเดียว ฮะ ส่วน รถใหญ่ เราก็ มีฝีมือใช่ย่อย คือ อู่เชิดชัย ของป้าสุจินดา อู่เชิดชัย เนี่ย ตำนาน สุดยอดที่สุด ไว้ มีโอกาส จะเล่าให้ฟัง แม้แต่.. รถถัง ที่จริง เขาก็ ซ่อมได้เอง และ ประกอบได้เอง จากศักยภาพ ที่ลูกหินไปเดินเล่นดู (http://www.212cafe.com/boardvip/user_board/scania/picture/00468_2.jpg) และ บริษัท ไทย รุ่ง ยูเนี่ยนคาร์ - ISUZU ที่ฝีมือคนไทย ทำได้ไม่เลวฮะ (http://www.bangkokbiznews.com/2007/09/05/thumb/92668__thumb3.jpg) (http://www.grandprixgroup.com/new/magazine/offroad/111/speacial_test/1.jpg) งาน ด้าน Development ยังมี บริษัท Carry Boy ถ้าเพื่อนๆ รู้จัก (http://www.pickupway.co.th/images/carryboy_s560.jpg) หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 07-01-2008, 16:36 ตัวอย่างพฤติกรรม ของพลเมืองท้องถิ่น ในการ เป้น ฐานการผลิตรถยนต์ ประเทศ สหรัฐอเมริกา เป้นประเทศที่มี รถยนต์ใช้ มากที่สุด ประเทศหนึ่ง ใช้แล้วทิ้ง ..ทิ้งแล้วซื้อใหม่ (คนเมือง) (http://www.autoblog.nl/images/flintstone_mobile_ebay.jpg) จะมีซ่อมเองเหมือนบ้านก็มี เช่นกัน ..แต่ตามบ้านนอกในเมกาหน่ะฮะ... นอกจาก พลเมือง สหรัฐอเมริกาจะ บริโภคอย่างเดียวแร๊วว ..เขาเคยประสพปัญหาวิกฤติ คนตกงาน แยะ เหมือนกัน ปี 1980 ญี่ปุ่นเศรษฐกิจเฟื่องฟู และ เป็น คู่ค้า แข่งขัน จึงมา ลอง ตั้งฐานผลิตใน ประเทศ สหรัฐอเมริกา ดุ เพื่อหาช่องทางการผลิตลดต้นทุน คนอเมริกา มองว่า ก็ดี๊.. ได้รถราคาถูก คุณภาพ ต่ำ ก้ ม่ายเป้นไร ..คนก็จะม่ายตกงานอีกด๊วย แต่ หลังจาก วาง Line การผลิต ในอเมริกา ก็เกิดปัญหามากมายตามมา (http://blog.hemmings.com/wp-content/uploads/2007/03/Coveralls1.jpg) พี่ๆเพื่อนๆ ทราบไหมฮะ เพราะอะไร ? ทำไม US. ไม่ประสพความสำเร้จในการเป้น Production Line ด้านรถยนต์ แบบ ญี่ปุ่น? :slime_smile2:คนอเมริกัน ก็ คล๊ายๆกับคนไทย ...น่านแหละ ฮะ (กิน.คี่.ป้อ.นอน เหมือนๆกัน.. ม่ายช่ายเทวดามาจากไหน) คนอเมริกัน ชนชั้นแรงงาน ( บ้านจะเรียกว่า Red Neck พวก "หลังคอแดง" คือทำงานหลังสู้ฟ้า แดดเปรี๊ยงๆ..น่านแหละ) ส่วนใหญ่ % ประชาการ ก็ การศึกษาน้อย เหมือนคนไทย ภาคบังคับ K.12 ถ้าเทียบโดยเฉลี่ย ต่อหัว ไม่นับ คนเมือง มันก็ เหมือนๆ กับ กรุงเทพมหานคร (http://www.dba-oracle.com/images/red_neck_car.jpg) อิอิ พวก..Red Neck American เขาจะไม่ค่อยให้ความสำคัญใน Apply งานตัวเองให้ดี กับงานในองค์กรณ์ คน อเมริกัน ก็ ขาดพื้นฐาน Spirit และ ด้านการวัด (Measurement ) และ (Stat)สถิติ เช่นกัน.. นั่นเอง! ความล้มเหลว ในการตั้งโรงงาน ผลิต รถ ญี่ปุ่น.......ใน ประเทศ สหรัฐอเมริกา จึงเกิดขึ้น! คนอเมริกัน .. มาทำงาน สาย .. ไม่มีวินัย การทำงาน ของคนอเมริกัน เป็น การทำงาน แบบ เช้าชามเย็นชาม ** ปัญหา โรงงาน ในUS ที่พบบ่อย คือ "สหภาพ แรงงาน " เรียกร้องกัน ทุกเดือนหน้า ตึก ต่างกับ การทำงาน ของคนญี่ปุ่น ซึ่ง มี Spirit ความมุ่งมั่นใน ปรัชญา ขององกรณ์ ( ถ้า ใครเรียน ทฤษฎี X Y Z ของ วิชา Organization Behavior ) จะทราบดีฮะ พี่ๆเพื่อนๆ คิดว่า พนักงานคนไทยหล่ะ ควรจะเป้น แบบ อเมริกัน หรือ ยุ่น ดี? (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/0/02/Gunghoposter.jpg) หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 07-01-2008, 17:06 เห็นพี่ลูกหินพูดถึงคนญี่ปุ่น อนาขอจิ๊ดหนึ่ง เอิ๊กกก
ญี่ปุ่นเป็นนัก Copy ที่เก่งที่สุด สุดยอดที่สุด เขาส่งเด็กเขาไปเรียนต่างประเทศ แต่เด็กเขาไม่ยอมจบไม่ใช่ว่าไม่เก่งนะค่ะ แต่เธอยัง copy ได้ไม่หมดเลยไม่ยอมจบสักที :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: พูดถึงนิสัยให้คนไทยเหมือนคนญี่ปุ่น เป็นไปได้ยากมากค่าพี่ลูกหิน คนไทยต้องมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงขี้น :slime_bigsmile:ถ้าตราบใดพื้นฐานจิตใจคนไทยยังรักสบาย ยากที่จะเหมือนเขาได้ คนญี่ปุ่นถนัดนักเรื่องทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ คนไทยจะทำงานแบบ ไม่เป็นไร ยังไงก็ได้ ง่ายๆ สบายๆ สักแต่ทำๆ(อันนี้เอาตัวเองเป็นมาตราฐานะ :slime_smile2:) คนญี่ปุ่นติดนิดเดียวเรื่องใหญ่เลย ผ่านไม่ได้ทุกอย่างต้องเฟอเฟค ต้องเรียบร้อย ถ้าทำงานให้องค์กรใหนต้องทุ่มเทสุดๆๆ ชีวิตคือการทำงาน งานคือชีวิตของคุณ ทำให้คนญี่ปุ่นเหมือนหุ่นยนต์มาก (ในความรุ้สึกของอนานะ) สุดท้ายด้วยความที่ทำแต่งานๆ พอถึงตอนเกษียร เกิดปัญหาขึ้นมาจนได้ เพราะภรรยาไม่ชินกับการมีสามีรอบกาย แล้วหนุ่มๆญี่ปุ่นขาดความโรแมนติกมาก ชายไทยกินขาดค่า แต่เรื่องเจ้าชู้ชายไทยได้แชมป์อีกล่ะ (อันนี้นอกเรื่อง) :slime_bigsmile: อนาไม่แปลกใจหรอกถ้าประเทศเขาจะเก่งกาจเรื่องความก้าวหน้าของเทคโนโลยี คนญี่ปุ่นไม่ได้เก่งกาจอะไรเลยบางทีคนไทยอาจจะเก่งกว่าด้วยซ้ำ แต่พวกเขาขยัน ดูอย่างฟุตบอลซิ วิ่งตั้งแต่เริ่มเกมยันจบเกมเลย ขยันจริงๆๆค่ะ ทำอะไรแล้วทำจริงจัง แต่นั่นแระ มองไปทางสิ่งแวดล้อม เจแปนเป็นประเทศที่มีเนื้อที่การเพราะปลุกน้อย เพราะส่วนมากประกอบไปด้วยภูเขาที่เป็นส่วนประกอบของหิน พื้นที่ที่จะเพราะปลูกแทบจะไม่มีเลย เพื่อการลืมตาอ้าปากของประเทศ ฉะนั้นหากเขาจะพัฒนาประเทศสิ่งที่พวกเขาทำได้ก็คือการมองไปที่เทคโลโลยี หนูคิดแบบนี้นะ หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: จุกบี้ ที่ 07-01-2008, 17:31 เข้ามาลงนามเป็น "ผู้ช่วยจำ"ค่ะ :slime_bigsmile:
แต่ปกติก็ไม่ใช่คนลืมอะไรง่ายอยู่แล้ว ช่างต่างจากคนส่วนใหญ่ในประเทศที่ตัวเองเกิดจังเลย คิๆ หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 07-01-2008, 18:44 เห็นพี่ลูกหินพูดถึงคนญี่ปุ่น อนาขอจิ๊ดหนึ่ง เอิ๊กกก คนญี่ปุ่นติดนิดเดียวเรื่องใหญ่เลย ผ่านไม่ได้ทุกอย่างต้องเฟอเฟค ต้องเรียบร้อย ถ้าทำงานให้องค์กรใหนต้องทุ่มเทสุดๆๆ ชีวิตคือการทำงาน งานคือชีวิตของคุณ ทำให้คนญี่ปุ่นเหมือนหุ่นยนต์มาก (ในความรุ้สึกของอนานะ) สุดท้ายด้วยความที่ทำแต่งานๆ พอถึงตอนเกษียร เกิดปัญหาขึ้นมาจนได้ เพราะภรรยาไม่ชินกับการมีสามีรอบกาย แล้วหนุ่มๆญี่ปุ่นขาดความโรแมนติกมาก ชายไทยกินขาดค่า แต่เรื่องเจ้าชู้ชายไทยได้แชมป์อีกล่ะ (อันนี้นอกเรื่อง) :slime_bigsmile: อนาไม่แปลกใจหรอกถ้าประเทศเขาจะเก่งกาจเรื่องความก้าวหน้าของเทคโนโลยี คนญี่ปุ่นไม่ได้เก่งกาจอะไรเลยบางทีคนไทยอาจจะเก่งกว่าด้วยซ้ำ แต่พวกเขาขยัน ดูอย่างฟุตบอลซิ วิ่งตั้งแต่เริ่มเกมยันจบเกมเลย ขยันจริงๆๆค่ะ ทำอะไรแล้วทำจริงจัง :slime_smile2: ลูกหิน ขอบังอาจ ...เถียง คนที่อยู่ญี่ปุ่นหน่อย ยย ยย :slime_bigsmile: อิอิ .......เถียงเรื่องเดียว ..... คนญี่ปุ่น.. ที่บ้านลูกหิน... ม่ายเหมือน หุ่นยนต์ สักกะหน่อย เธอ ..เหมือน .. ตุ๊กตา มากกว่า..... (http://www.risingsunofnihon.com/uploads/love.doll-thumb.jpg) ม่ายพูด ม่ายบ่น ส๊ากกะคำ (http://blog.joins.com/usr/e/d/edwdkim/159/real%20doll.jpg) หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 07-01-2008, 21:59 เห็นหัวข้อกระทู้แล้ว นึกถึงนโยบาย "30 บาท รักษาทุกโรค " ทันทีค่ะ ทั่นเหลี่ยมขโมยมาผสมกับการตลาดที่แสนเก่งกาจ "ซื้อใจ" คนไปได้เกือบค่อนประเทศ :mrgreen: :mozilla_yell: :mrgreen:
หนูอนาพากระทู้ไปเที่ยวทะเลครั้งนี้ได้ดีมาก - ฟังอาจารย์ท่านหนึ่งตั้งแต่ประมาณสิบปีก่อนว่า ระบบประกันคุณภาพเริ่มต้นที่อเมริกา มาเจริญก้าวหน้าที่ญี่ปุ่น สุดท้ายมาแป้กที่เมืองไทยบ้านเรา :mozilla_frown: หลายปีที่ผ่านมา บริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ประเทศหนึ่งที่ดำเนินกิจการในบ้านเรามาหลายสิบปี ได้เชิญทีมที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของญี่ปุ่น มาวางระบบเรื่องการปรับปรุงกระบวนการผลิตในโรงงาน โดยอาศัยเครื่องมือที่เรียกว่า ไคเซ็น และอื่น ๆ ของญี่ปุ่นมาใช้ นอกจากจะทำให้มีการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตที่ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยให้พนักงาน(คนไทย) ได้พัฒนาตนเอง และฝึกฝนเพิ่มพูนทักษะใหม่ ๆ ด้วย :slime_smile: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 07-01-2008, 23:28 เห็นหัวข้อกระทู้แล้ว นึกถึงนโยบาย "30 บาท รักษาทุกโรค " ทันทีค่ะ ทั่นเหลี่ยมขโมยมาผสมกับการตลาดที่แสนเก่งกาจ "ซื้อใจ" คนไปได้เกือบค่อนประเทศ :mrgreen: :mozilla_yell: :mrgreen: หนูอนาพากระทู้ไปเที่ยวทะเลครั้งนี้ได้ดีมาก - ฟังอาจารย์ท่านหนึ่งตั้งแต่ประมาณสิบปีก่อนว่า ระบบประกันคุณภาพเริ่มต้นที่อเมริกา มาเจริญก้าวหน้าที่ญี่ปุ่น สุดท้ายมาแป้กที่เมืองไทยบ้านเรา :mozilla_frown: หลายปีที่ผ่านมา บริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ประเทศหนึ่งที่ดำเนินกิจการในบ้านเรามาหลายสิบปี ได้เชิญทีมที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของญี่ปุ่น มาวางระบบเรื่องการปรับปรุงกระบวนการผลิตในโรงงาน โดยอาศัยเครื่องมือที่เรียกว่า ไคเซ็น และอื่น ๆ ของญี่ปุ่นมาใช้ นอกจากจะทำให้มีการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตที่ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยให้พนักงาน(คนไทย) ได้พัฒนาตนเอง และฝึกฝนเพิ่มพูนทักษะใหม่ ๆ ด้วย :slime_smile: :slime_smile:ฮั่นแน่! สวัสดีฮะ ..ท่านศิษย์พี่ฯ เม่ย :slime_v: ขอร่วมแจมดีวยต่อ ฮะ.. เรื่องของ ไคเซ็ง เป้น ทฤษฎีส่วนหนึ่ง ที่ ลูกหิน เรียนโดยตรง กับอาจารย์ญี่ปุ่น ..อืมม..นานมากแล้วตอนนั้น.. 1990 แต่ ไคเซ็ง ที่เรียน กับ อาจารย์ ฝรั่ง ก็จะต่างกัน อยู่เพราะเป้นชื่อเรื่อง Continuous Improvement ตอนนั้นก็ ราวปี 1996 คนไทย จะรู้จัก... มักจี่ กับ ไคเซ็ง มาก.. ตาม มหาลัยในไทยที่สอบ การจัดการ.. ก้อ จะ เอามาสอนกัน ..แต่ กระนั้นก็ตาม ฮะ :slime_smile: ไคเซ็ง เป็นเพียง หลักการ โดยอาศัยเครื่องมือ ในการพัฒนาคนหน่ะฮะ ( ก็ แปลว่าทำให้ มันดีขึ้น น่านแหละ ตรงตัว) เป็น เนื้อหา ส่วนหนึ่งเล็กๆ ใน ทฤษฎี Z หลักการบริหาร ของ ญี่ปุ่นเท่านั้น ที่ เมกา จะเรียน หลายเล่ม รวม ใน ที่นี้ จะอยู่ใน 2 วิชา คือ (Operation กะ Behavior)-Management นอกจาก ไคเซ็ง แล้ว ที่จริง ยังมี TPM, TQC, TQM, J-I-T, อะไรอีกตัวจำม่ายด๊าย แต่ทั้งหมดอยู่บนรากฐานร่วมกัน ไคเซ็ง TOYOTA เป็นเจ้าตำหรับ ที่เอามาใช้ในไทย แต่ Honda ไม่ใด้ใช้ ไคเซ็ง ทั้งหมด.. Honda เขาจะ เอา หัวใจหลัก คือ 5 ส. และ P-D-C-A เป็นวงจรในการปรับปรุงการทำงานอีกที TPM ก็เป้น้รื่องสำคัญ ฮะ เป้น ระบบที่นำมาใช้ควบคู่กัน (Total productive maintenance) หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 07-01-2008, 23:46 :slime_smile:ฮั่นแน่! สวัสดีฮะ ..ท่านศิษย์พี่ฯ เม่ย :slime_v: ขอร่วมแจมดีวยต่อ ฮะ.. เรื่องของ ไคเซ็ง เป้น ทฤษฎีส่วนหนึ่ง ที่ ลูกหิน เรียนโดยตรง กับอาจารย์ญี่ปุ่น ..อืมม..นานมากแล้วตอนนั้น.. 1990 แต่ ไคเซ็ง ที่เรียน กับ อาจารย์ ฝรั่ง ก็จะต่างกัน อยู่เพราะเป้นชื่อเรื่อง Continuous Improvement ตอนนั้นก็ ราวปี 1996 คนไทย จะรู้จัก... มักจี่ กับ ไคเซ็ง มาก.. ตาม มหาลัยในไทยที่สอบ การจัดการ.. ก้อ จะ เอามาสอนกัน ..แต่ กระนั้นก็ตาม ฮะ :slime_smile: ไคเซ็ง เป็นเพียง หลักการ โดยอาศัยเครื่องมือ ในการพัฒนาคนหน่ะฮะ ( ก็ แปลว่าทำให้ มันดีขึ้น น่านแหละ ตรงตัว) เป็น เนื้อหา ส่วนหนึ่งเล็กๆ ใน ทฤษฎี Z หลักการบริหาร ของ ญี่ปุ่นเท่านั้น ที่ เมกา จะเรียน หลายเล่ม รวม ใน ที่นี้ จะอยู่ใน 2 วิชา คือ (Operation กะ Behavior)-Management นอกจาก ไคเซ็ง แล้ว ที่จริง ยังมี TPM, TQC, TQM, J-I-T, อะไรอีกตัวจำม่ายด๊าย แต่ทั้งหมดอยู่บนรากฐานร่วมกัน ไคเซ็ง TOYOTA เป็นเจ้าตำหรับ ที่เอามาใช้ในไทย แต่ Honda ไม่ใด้ใช้ ไคเซ็ง ทั้งหมด.. Honda เขาจะ เอา หัวใจหลัก คือ 5 ส. และ P-D-C-A เป็นวงจรในการปรับปรุงการทำงานอีกที TPM ก็เป้น้รื่องสำคัญ ฮะ เป้น ระบบที่นำมาใช้ควบคู่กัน (Total productive maintenance) ขอคารวะ ศิษย์น้องค่ะ :slime_smile: จุดไต้ตำตอเลยค่ะ ใช่แล้ว ๆ TPM คือหัวใจที่บริษัทฯ ข้ามชาติที่ว่า นำมาใช้เป็นแกนหลักเลยค่ะ ตอนแรกก็เริ่มจากการทำ 5 ส ก่อน ต่อด้วย P-D-C-A ซึ่งแทรกด้วยสารพัดเครื่องมือ จากนั้นก็เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนของ TPM อย่างเป็นระบบ ไหมล่ะ น้องลูกหิน "รู้ไปโหม้ด" เหมือนใครน้าใน "มติชน" เลย :slime_v: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 07-01-2008, 23:50 :slime_smile: ในหัวข้อเดียวกัน ลูกหิน ต้อง ขออภัย พี่จีฯ ..เจ้าของกระทู๊เขาก่อน เพราะลูกหิน. ค่อนข้างออกนอกไปทะเล ไปแยะ ฮะ.. แตก็ สนุกดี ในหัวข้อนี้ ส่วนเรื่องการเมือง และ ภาวะการบริหารประเทศ .. คงต้อง ขอบาย ให้เพื่อนๆท่านอื่นๆ เสวนากันต่อไป( เพราะลูกหินม่ายรู้เร่อง การเมืองเลย) :slime_surrender: ตอนแรก.. แค่ค่อนข้างออกนอกทะเล จากรถยนต์ ไปอาวุธสงคราม ไปเรื่องอุตสาหกรรมเหล็ก ฯลฯ ทำไปทำมา.. ทำไมไปถึงเรื่องตุ๊กตาได้ล่ะครับ แบบนี้ผมจะไปต่อยังไงดีล่ะครับนี่ :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: CEOมืออาชีพ ที่ 08-01-2008, 00:13 :slime_cool: หึหึ คำว่าไคเซ็น สะกดก็ผิดแล้วครับ ยังจะมาทำเป็นคุยโวว่าเรียนกับคนญี่ปุ่น ผมเป็นถึงผู้บริหารบริษัทชั้นนำดูแลวิศวกรมาหลายโครงการ ยังไม่เคยเห็นใครเรียกไคเซ็งแบบคุณลูกหินสักหน
มอ คุณรู้จักไหมครับ ลูกหิน มอรอล :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 08-01-2008, 00:45 :slime_cool: หึหึ คำว่าไคเซ็น สะกดก็ผิดแล้วครับ ยังจะมาทำเป็นคุยโวว่าเรียนกับคนญี่ปุ่น ผมเป็นถึงผู้บริหารบริษัทชั้นนำดูแลวิศวกรมาหลายโครงการ ยังไม่เคยเห็นใครเรียกไคเซ็งแบบคุณลูกหินสักหน มอ คุณรู้จักไหมครับ ลูกหิน มอรอล :slime_bigsmile: :slime_p:ขอบพระคุณ พี่ที่ชมลูกหิน ว่า ..มอรอล ฮะ :slime_v: อิอิ :slime_shy: อย่า..แปลกใจ..เลยฮะ พี่ เอาไม้มาฯ..(ชื่อยาวค่ะโรค) KAIZEN คนไทยเรียกว่า "ไค-เซ็น" อเมริกัน จะอ่านว่า "ไค-เซ็ง" (เซ็ง มาก ทำนองนั้น) St.Louis อย่าง "เซ็นต์หลุย" คนไทยเรียกว่า "เซ็น-หลุย" อเมริกัน จะอ่านว่า "เซ้ง-หยูอีส" (เซ้ง บ้าน ทำนองนั้นฮะ) Mercedes รถเบนซ์ คนไทยเรียกว่า "เมอร์-ซิ-เดส" อเมริกัน จะอ่านว่า "เหม่อ-เซ้ด-ดี๊ซ " Multimedia คนไทยเรียกว่า "มัลติมีเดีย" อเมริกัน จะอ่านว่า "มัล-ไทม-มี-เดีย" :slime_whistle: VVVV :slime_whistle: อ้อ..ลูกหินมี ข้อ..แนะนำ..พี่ เอาไม้มาฯ หน่ะฮะ คำต่อไปนี๊.. คนไทยมัก..ใช้คำนี้ผิด มั่กๆฮะ ..อิอิ "มอ-ร็อล หรือ "มอ-แร็ล " " กะ "โม-ร็อน " Moral "มอ-ร็อล" หรือ "มอ-แร็ล " ...แปลว่า มีศีลธรรม.. ก๊าบบบ :slime_v: Moron "โม-ร็อน" ..ต่างหากฮะ! ที่แปลว่า >อั๊ย.โง่! หน่ะฮะ :slime_hitted: (http://www.stonekid.com/images/Stone_Oop_Icreame.jpg) หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ล่างฟานหวิน ที่ 08-01-2008, 01:10 เพิ่งเห็นผลงาน รัฐบาลสุรยุทธิ์ ครั้งแรก จริงๆ ครับ
ผมไม่เคยรู้ว่า ก่อนว่ารัฐบาลท่าน สุรยุทธิ์ มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นบ้าง โอเคครับ สรุปว่า มีผลงาน อันนี้หนึ่ง ตามที่นำมาบอกกล่าวกัน ถือว่าเป็นผลงาน โบว์แดง ก็ได้นะครับ เนี่ย หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: CEOมืออาชีพ ที่ 08-01-2008, 06:01 :slime_p:ขอบพระคุณ พี่ที่ชมลูกหิน ว่า ..มอรอล ฮะ :slime_v: อิอิ :slime_shy: อย่า..แปลกใจ..เลยฮะ พี่ เอาไม้มาฯ..(ชื่อยาวค่ะโรค) KAIZEN คนไทยเรียกว่า "ไค-เซ็น" อเมริกัน จะอ่านว่า "ไค-เซ็ง" (เซ็ง มาก ทำนองนั้น) St.Louis อย่าง "เซ็นต์หลุย" คนไทยเรียกว่า "เซ็น-หลุย" อเมริกัน จะอ่านว่า "เซ้ง-หยูอีส" (เซ้ง บ้าน ทำนองนั้นฮะ) Mercedes รถเบนซ์ คนไทยเรียกว่า "เมอร์-ซิ-เดส" อเมริกัน จะอ่านว่า "เหม่อ-เซ้ด-ดี๊ซ " Multimedia คนไทยเรียกว่า "มัลติมีเดีย" อเมริกัน จะอ่านว่า "มัล-ไทม-มี-เดีย" สะกดผิดหมดภาษาอังกฤษจะวิบัติก็เพราะเอ็ง :slime_whistle: VVVV :slime_whistle: อ้อ..ลูกหินมี ข้อ..แนะนำ..พี่ เอาไม้มาฯ หน่ะฮะ คำต่อไปนี๊.. คนไทยมัก..ใช้คำนี้ผิด มั่กๆฮะ ..อิอิ "มอ-ร็อล หรือ "มอ-แร็ล " " กะ "โม-ร็อน " Moral "มอ-ร็อล" หรือ "มอ-แร็ล " ...แปลว่า มีศีลธรรม.. ก๊าบบบ :slime_v: Moron "โม-ร็อน" ..ต่างหากฮะ! ที่แปลว่า >อั๊ย.โง่! หน่ะฮะ :slime_hitted: (http://www.stonekid.com/images/Stone_Oop_Icreame.jpg) :slime_cool: ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ทำเป็นสู่รู้ไปขุดภาษาอังกฤษวิบัติมาแถ เอ็งมันช่างเหมือนหมาหางด้วนที่เที่ยวแถไปทั่วว่า หางด้วนแล้วมีสกุล ถ้าใครไปหลงเชื่อ สะกดแบบเอ็งก็เป็นควายแล้วครับ หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 08-01-2008, 07:00 เราจะออกเสียงยังไงก็ได้ให้มันเข้ากับภาษาเรา แต่ให้เจ้าของภาษารู้เรื่องได้ก็โอเชแย้ว :slime_bigsmile:
ภาษาญี่ปุ่นออกเสียงอยากอยู่แล้ว อย่างคำว่า Nakai 長い [ながい] เสียงออกจริงๆๆจะเป็นนาไก (กดเสียงอิในคำคอ) ซึ่งจริงๆการออกเสียงตามตัวอักษรจะเป็น นากาอิ แต่อิจะไม่ออกเสียงกดไว้ในคำคอเท่านั้น เวลาเราชมเพื่อนว่า せがたかい เซกะทาไก(เดสซุเนะ) ตัวสูงนะเนี๊ยะ มันก็จะเป็นแบบนี้ ถ้าไปเขียนเป็น เซกะทากาอิ คนไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นแล้วเอาไปพูดมันคงตลกอ่ะค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าเชื่อข้าพเจ้าเน้อ โม้ไปงั้นแระ มั่วๆๆๆๆๆ :slime_smile2: :slime_smile2: :slime_smile2: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: CEOมืออาชีพ ที่ 08-01-2008, 08:08 :slime_cool: (http://ipc9.dip.go.th/html/book/T-0013.jpg) (http://ipc9.dip.go.th/html/book/T-0015.jpg)
แหกตาดูซะไอ้หินหน้าโง่ เขาอ่านว่า ไคเซ็น หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: goolnw ที่ 08-01-2008, 10:07 ขอแย้งท่านลูกหินนิดนึ่งนะครับ คนอเมริกาเขาไม่ใช่คน ไม่ตรง
ต่อเวลาอะไรอย่างที่ท่านลูกหินว่า แล้ว Spirit ในการทำงานก็ถือ ว่าใช่ได้ หัวหน้าเขาไม่จำจี้จำไชแบบเมืองไทย นะเขาเน้นคุณภาพ คนต้องมาก่อน แต่ถ้าเราไปอยู่แล้วเราจะดูเหมือนไม่ฉลาดแต่จริง แล้วเขาไม่ค่อยขี้คุยเหมือนคนไทยตะหาก ส่วนรถยนต์ ก็ถูกนะครับ คันละ 2-3พันดอลล์ ไม่เข้าใจว่าไม่ถูกยังไง หรูๆหน่อยก็ 3-4หมื่น ยิ่งโทรศัพย์ 70-200 แต่ราคาเมืองไทย 10000 บาทขึ้นแน่ๆ พี่ยุ่นผมว่าเกินตัวไปหน่อย เจริญจริงแต่ไม่ค่อยเข้ามีแค่ไม่กี่คน เจริญตามประเทศ พูดก็พูดเหอะ ผมยังไม่เคยเห็นขอทานเป็น คนอเมริกาซักที หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 08-01-2008, 11:05 ขอแย้งท่านลูกหินนิดนึ่งนะครับ คนอเมริกาเขาไม่ใช่คน ไม่ตรง ต่อเวลาอะไรอย่างที่ท่านลูกหินว่า แล้ว Spirit ในการทำงานก็ถือ ว่าใช่ได้ หัวหน้าเขาไม่จำจี้จำไชแบบเมืองไทย นะเขาเน้นคุณภาพ คนต้องมาก่อน แต่ถ้าเราไปอยู่แล้วเราจะดูเหมือนไม่ฉลาดแต่จริง แล้วเขาไม่ค่อยขี้คุยเหมือนคนไทยตะหาก ส่วนรถยนต์ ก็ถูกนะครับ คันละ 2-3พันดอลล์ ไม่เข้าใจว่าไม่ถูกยังไง หรูๆหน่อยก็ 3-4หมื่น ยิ่งโทรศัพย์ 70-200 แต่ราคาเมืองไทย 10000 บาทขึ้นแน่ๆ พี่ยุ่นผมว่าเกินตัวไปหน่อย เจริญจริงแต่ไม่ค่อยเข้ามีแค่ไม่กี่คน เจริญตามประเทศ พูดก็พูดเหอะ ผมยังไม่เคยเห็นขอทานเป็น คนอเมริกาซักที :slime_smile: สวัสดีฮะ พี่ gooInw ลุกหินเข้าใจ คำถาม พี่ กรูเทพ ฮะ ขอแย้งท่านลูกหินนิดนึ่งนะครับ 1. คนอเมริกาเขาไม่ใช่คน ไม่ตรง ต่อเวลาอะไรอย่างที่ท่านลูกหินว่า แล้ว Spirit ในการทำงานก็ถือ ว่าใช่ได้ หัวหน้าเขาไม่จำจี้จำไชแบบเมืองไทย นะเขาเน้นคุณภาพ คนต้องมาก่อน แต่ถ้าเราไปอยู่แล้วเราจะดูเหมือนไม่ฉลาด แต่จริงแล้วเขาไม่ค่อยขี้คุยเหมือนคนไทยตะหาก :slime_whistle: ขออธิบาย ในเนื้อหาที่ลูกหินกล่าวข้างต้น ลูกหินหมายถึง ชนชัน แรงงานและ red neck ที่จะมาทำงานในเร่อง โรงงาน ฮะ จะมีปัญหาเรื่องนี้ ในโรงงาน เสมอ / ไม่เหมือนกับ คนทำงานที่ บริษัท ใน Downtown แน่นอนฮะ.. *** ส่วน" Spirit" ในที่นี้ ที่พี่ถาม เป็นคนละอัน กะที่ลูกหินกล่าวฮะ *** ( สปิริต ที่พี่หมายถึงในคำถาม = การร่วมแรงร่วมใจ..แบบนั้น ทุกชาติมีอยู่แล้วฮะ) " Spirit "ที่ลูกหินกล่าวในหัวข้อนี้ คือ .'ปรัชญา" ฮะ ในเรื่อง ..การเข้าถึงหรือ สนใจ ในเชิง คุณภาพ ของงานโรงงานสร้าง นั้นๆ ฮะ.. ซึ่งหมายถึง กลุ่มที่มีการศึกษาแล้ว เขาจะมีเวลาเอาใจใส่ ใน คุณภาพ นั้นมากขึ้นฮะ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 2. ส่วนรถยนต์ ก็ถูกนะครับคันละ 2-3พันดอลล์ ไม่เข้าใจว่าไม่ถูกยังไง หรูๆหน่อยก็ 3-4หมื่น ยิ่งโทรศัพย์ 70-200 แต่ราคาเมืองไทย 10000 บาทขึ้นแน่ๆ :slime_hmm: ขอตอบ เอ่อ!.. เรากำลังพูดถึง การบริโภค รถยนต์ใหม่ฮะ .. 2-3 พันดอลล์ นั้น เป้น เร่องของรถเต้นท์ มือสอง :slime_fighto: ในหัวข้อนี้ ....เรากำลังพูดถึง อุตสาหกรรมรถ ใหม่... และ การดำเนินการดรงงาน ของญีปุ่น ในยุค 1980 อยู่ฮะ ตัวอย่างฮะ .. สมมุติ 1992 เป้นเกณฑ์นะ (25 บาท = 1 $ ) :slime_smile: .. เช่น พี่กรูเทพ เป็นนักศึกษา มาเรียน.. หาซื้อ รถ นิสัน หรือที่นัน้สมัยนั้นยังเป็น .. ดัสสัน ราคา 1,000 $กว่า - 2,000 $ ฮะ( มือสองนะ) :slime_smile: .. ถ้าเป้นลูกหิน บ้านอยู่ Pasadena ซื้อรถ Toyota Camry เวอรืชั่นแรกๆเลย .. ตอนนั้น กำลังออกใหม่ เอี่ยม ยอดฮิต .. ราคาแกะกล่อง ครบOption ... 20,000 $ นี่คือราคาปกติ ในตอนนั้นฮะ :slime_smile2: แฟนกิ๊กๆของลูกหิน อยู่ .. Beverly Hills ใช้ Ford Mustang 1994 ...ราคา 25,000 $ หรูกว่าหน่อย --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 3. พี่ยุ่นผมว่าเกินตัวไปหน่อย เจริญจริงแต่ไม่ค่อยเข้ามีแค่ไม่กี่คนเจริญตามประเทศ :slime_fighto: ฮะ . เห้นด๊วย ฮะแฟนกิ๊กญี่ปุ่นของลุกหิน ก็แสน.. เช๊ยเชย ส่วน.. ถ้าเรื่องสาวๆที่ ญี่ปุ่นต้องถาม..พี่ใบไม้ทะเลฮะ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 4. พูดก็พูดเหอะ ผมยังไม่เคยเห็นขอทานเป็นคนอเมริกาซักที :slime_o: ตอบฮะ อืมม? ในหัวข้อนี้ ลูกหินรู้สึกยังไม่ด๊ายพูดเรื่อง ขอทานเลย นี่นา??? อเมริกา ที่ว่า เนี่ย มันกว้างนะฮะ พี่กรูเทพ ?!?! สังคม เมือง เช่น LA Sanfran Newyork Chicago ล้วนมี ขอทาน ตามตรอกซอย เพียบฮะ ทั้งพี่มืด พี่ขาว พี่แม๊กซ์ สังคมบ้านนอก ไม่มีฮะ เพราะ เป้นสังคม ที่ดำรงชีวิตได้ แบบไม่ใช่วัตถุนิยม เช่น เมืองศาสนา เมือง เกษตรกร --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ลูกหิน แนะนำ พี่ กรูเทพ และเพื่อนๆท่านอื่น ชมหนังเรื่องนี๊ ฮะ สนุกมั่กๆ เป็นหนัง ตลก ก็จริง แต่แฝง ในเนื้อหา เดียวกัน.. ในยุค 1980 เรื่อง GUNG-HO ฮะ หนังอาจจะเก่าแล้ว ประมาณ 15ปีก่อน [/size] (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/0/02/Gunghoposter.jpg) หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 08-01-2008, 11:10 :slime_cool: (http://ipc9.dip.go.th/html/book/T-0013.jpg) (http://ipc9.dip.go.th/html/book/T-0015.jpg) แหกตาดูซะไอ้หินหน้าโง่ เขาอ่านว่า ไคเซ็น :slime_surrender: ขอบพระคุณฮะ .. ลุกหินยอมแพ้ ม่ายคิด เถียง..แถ อะไร พี่ฮะ :slime_worship: พี่เอาไม้มา ฯ... เก่ง ที่ 1 เร๊ยยยยยย :slime_v: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 08-01-2008, 11:12 (http://2bangkok.com/07/6000-baht-short.jpg)
I am 6,000 Bht short to go back home... Can you help me? ขอออกนอกเรื่อง แซวเล่นๆ อิอิ หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 08-01-2008, 11:53 (http://2bangkok.com/07/6000-baht-short.jpg) I am 6,000 Bht short to go back home... Can you help me? ขอออกนอกเรื่อง แซวเล่นๆ อิอิ ใน 2bangkok เค้าว่าเป็นพวกหากินเป็นอาชีพ จริงๆ ต้องแนะให้ฝรั่งไปติดต่อสถานทูตโดยตรงเลย หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: AsianNeocon ที่ 08-01-2008, 18:41 กลับมาแล้วครับ
ผมนำมาตั้งกระทู้ในประเด็นให้ช่วยกันจำไว้ ว่าเรื่องการตัดสินใจมาลงทุนผลิตรถอีโคคาร์ ของบรรดาค่ายรถตามข่าว ทางค่ายรถต่างๆ ตัดสินใจเรียบร้อยตั้งแต่ในรัฐบาลสุรยุทธ์ เพราะเป็นไปได้ว่าเดี๋ยวพอรัฐบาลใหม่มาก็จะอ้างเป็นผลงานกอบกู้เศรษฐกิจของตัวเอง ซึ่งจะกลายเป็นว่ารัฐบาลสุรยุทธ์ไม่ได้ทำอะไร (หรือหนักกว่านั้นก็ทำให้เศรษฐกิจพัง) ส่วนรัฐบาลที่มาใหม่ชุบมือเปิบอ้างเป็นผลงานตัวเองว่าทำให้นักลงทุนเชื่อมั่น ผมไม่เชื่อว่า โครงการนี้ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจหรอกครับ ไม่ต้องอะไรมาก ถึงบางอ้อเลยว่าทำไมจึงทำงุบงิบออกไปเซ็นต์ JTEPA โดยไม่ได้มีการผ่านสภา หรือบอกกล่าวแก่ประชาชนใดๆทั้งสิ้นว่ามีผลดีผลเสียอย่างไร โปรดจำไว้ว่า นี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานของรัฐบาลสุรยุทธ์เช่นกัน เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ เพราะผลกระทบมันไม่ได้เกิดทันตา ประชาชนจะไปรับกรรมในอนาคต --- ส่วนเรื่องไม่มีการถ่ายทอดเทคโนโลยี เราได้แต่ค่าแรงราคาถูกๆ อะไรต่างๆ นั้น มันเป็นเรื่องนอกประเด็นครับ ถ้าจะมองในแง่ร้ายขนาดปลูกข้าวขายเราก็ได้แค่ ค่าแรงปลูกข้าวถูกๆ เหมือนกัน .. จะคุยไปถึงขนาดนั้นไหมครับ ไม่นอกประเด็นหรอกครับ และก็ไม่เป็นการมองในแง่ร้าย เพราะว่า การที่คุณจะมีโครงการอะไร หรือจะส่งเสริมอะไร คุณต้องมีเป้าหมายก่อน ต้นทุนมีอะไรบ้าง ต้องเสียอะไรบ้าง และได้อะไรกลับมาบ้าง หักกลบกันแล้วคุ้มไหม มิฉะนั้นก็ไม่ต่างจากที่ทักษิณทำเท่าไรหรอกครับ ส่วนเรื่องระบบขนส่งทางราง มันเป็นคนละเรื่อง ที่ผมเอามาลงเป็นเรื่องการลงทุน เป็นเรื่องการจ้างงาน เป็นเรื่องการส่งออก เป็นเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ หรือจะมองไปถึงเรื่องประหยัดเชื้อเพลิงด้วยก็ได้ ต่อให้มีระบบขนส่งทางรางแล้ว มันก็ยังต้องมีรถยนต์ใช้อยู่ดีนะครับ และอีโคคาร์ก็เป็นรถที่ประหยัดดี ในอีกทางหนึ่งระบบขนส่งทางรางต้องได้ขยายอยู่แล้ว เพราะทุกพรรคการเมือง ต่างขานรับกันถ้วนหน้าไม่มีใครค้านสักราย ดังนั้นรัฐได้ลงทุนเรื่องนี้แน่ๆ ระบบขนส่งทางรางที่ผมหมายถึง ไม่ใช่เฉพาะรถไฟฟ้าในเมือง แต่หมายถึงในเมืองอื่นๆ และรถไฟทั่วประเทศด้วย นอกจากนี้ การที่ทุกพรรคขานรับถ้วนหน้า ใช่ว่าของแบบนี้จะเกิดได้ง่ายๆ นั่นเพราะความไร้เสถียรภาพทางการเมือง เดี๋ยวพอไอ้นี่ไป ไอ้นั่นมาก็มาล้มโครงการทิ้ง เพราะตัวไม่ได้ประโยชน์ ฯลฯ ผมไม่เข้าใจว่าเอาไปโยงกับเรื่องนักลงทุนมาตั้งฐานการผลิตในไทยได้อย่างไร เขาก็ไปลงทุนกันทั่วโลกนะครับไม่ใช่มาแต่ประเทศไทย อย่างล่าสุดค่ายฮุนได ยังไปตั้งฐานที่อินเดีย และที่อเมริกา ไม่เห็นมีปัญหาไม่ถ่ายทอดเทคโนโลยี หรือได้แต่ค่าจ้างแรงงาน หรือประเทศต้องการระบบขนส่งทางราง หรือว่าพอเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประเทศไทย ก็มองแต่แง่ไม่ดีครับ? :slime_smile: แต่ประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างฐานเทคโนโลยีครับ นอกจากนี้อินเดียเขาเห็นความสำคัญของรถไฟมานานแล้วไม่ใช่หรือ? และส่วนอเมริกาเทคโนโลยีเขาไปอีกขั้นก้าวหน้าแล้วไม่ใช่หรือครับ ลองดูนี่ครับ รายละเอียดไปอ่านต่อ http://www.thairath.co.th/news.php?section=society03&content=74223 (http://www.thairath.co.th/images/header/society03.gif) สองปีกว่าที่ผ่านมา จากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองเพียงเรื่องเดียว ส่งผลให้ผู้คน ในบ้านเมืองแตกแยกอย่างไม่เคยมีมาก่อน เศรษฐกิจทรุดฮวบ การขยายตัวทางเศรษฐกิจ หยุดชะงักประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ ทำให้ความสามารถในการแข่งขันไทยลดลงอย่างมาก แม้ตัวเลขการส่งออกในรอบปีที่ผ่านมาจะเพิ่มขึ้น แต่ก็เป็นการเพิ่มขึ้น ของสินค้าส่งออกที่ไม่ใช่ของคนไทย รายได้ที่ได้ก็ไม่ใช่ของคนไทย แต่เป็นของ บริษัทต่างชาติที่มาใช้แรงงานคนไทย และส่งออกในนามประเทศไทยเท่านั้น อย่างเช่น รถยนต์ยี่ห้อต่างๆ เป็นต้น คนไทยส่วนใหญ่ก็ยังยากจนเหมือนเดิม เพราะรายได้จากภาคอุตสาหกรรมที่ส่งออก ไม่ได้กระจายไปถึงประชาชนระดับรากหญ้า ยิ่งกำลังซื้อในประเทศที่หดลงอย่างมาก เพราะผลกระทบจากราคาน้ำมันแพง ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น ก็ยิ่งส่งผลกระทบต่อคนไทยและสินค้าไทยในประเทศมากขึ้น ตรงนี้ผมต้องขอโทษ รัฐบาลขิงแก่ ของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่ไม่ได้ดูแลคนไทยด้วยกันเอง เท่าที่ควร แต่ไปปลื้มกับยอดตัวเลขส่งออกที่เป็นของคนต่างชาติ เรื่องที่น่าเป็นห่วงก็คือ ในวันนี้เรายังไม่มี “รัฐบาลใหม่” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพราะรัฐบาลขิงแก่ที่รักษาการก็ไม่ทำอะไรแล้ว แต่การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของไทย ก็ไม่ง่ายเหมือนประเทศอื่นเขา เพราะกฎกติกาและเงื่อนไขใต้ดินของเรามันเยอะ หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 08-01-2008, 19:13 งุบงิบอนุมัติได้เก่งแบบนี้เอง มิน่าเล่าอันดับโปร่งใสไทยถึงพุ่ง(ลงเหว)กระฉูด :slime_v: (http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P6204927/P6204927-0.jpg) เจ้าเรื่องอันดับความโปร่งใสอะไรนี่รู้สึกมีคนหมกมุ่นอยู่ตลอด โดยเฉพาะระยะหลังที่รัฐบาลทักษิณไ่ม่อยู่แล้ว ทั้งหมดก็เพื่อจะโทษว่ารัฐบาลทหารไม่โปร่งใสเป็นหลัก ความจริงเรื่องนี้ถ้าดูกันที่ตัวคะแนนเต็มสิบ ก็จะเห็นว่าค่อนข้าง ได้อยู่ในช่วงเท่าเดิมมาโดยตลอด ดูในส่วนนี้พอจะสรุปได้ว่า ไม่มีอะไรดีขึ้นมากนัก ปลายรัฐบาลทักษิณ 1 จนถึงทักษิณ 2 มีคะแนนเพิ่มขึ้นนิดหน่อย 0.3 - 0.5 คะแนนเท่านั้น แต่ถ้าดูที่อันดับเหมือนกับตกต่ำไปเรื่อยๆ ปี 2542 ได้ 3.2 คะแนน ได้อันดับ 68 ปี 2543 ได้ 3.2 คะแนน เท่าเดิม ได้อันดับ 60 สูงขึ้น 8 อันดับ ปี 2544 ได้ 3.2 คะแนน เท่าเดิม ได้อันดับ 61 ต่ำลง 1 อันดับ ปี 2545 ได้ 3.2 คะแนน เท่าเดิม ได้อันดับ 64 ต่ำลง 3 อันดับ ปี 2546 ได้ 3.3 คะแนน เพิ่มขึ้น 0.1 แต่ได้อันดับ 70 ต่ำลง 6 อันดับ ปี 2547 ได้ 3.6 คะแนน เพิ่มขึ้น 0.3 และได้อันดับ 64 สูงขึ้น 6 อันดับ ปี 2548 ได้ 3.8 คะแนน เพิ่มขึ้น 0.2 และได้อันดับ 59 สูงขึ้น 5 อันดับ ปี 2549 ได้ 3.6 คะแนน ลดลง 0.2 และได้อันดับ 63 ต่ำลง 4 อันดับ ปี 2550 ได้ 3.3 คะแนน ลดลง 0.3 และได้อันดับ 84 ต่ำลง 21 อันดับ ทีนี้เนื่องจากมีการนำสถิติประเทศใหม่ๆ มาเพิ่มในการจัดอับดับทุกปี ปี 2542 ข้อมูลรวม 99 ประเทศ ปี 2543 ข้อมูลรวม 90 ประเทศ ปี 2544 ข้อมูลรวม 91 ประเทศ ปี 2545 ข้อมูลรวม 102 ประเทศ ปี 2546 ข้อมูลรวม 133 ประเทศ ปี 2547 ข้อมูลรวม 146 ประเทศ ปี 2548 ข้อมูลรวม 159 ประเทศ ปี 2549 ข้อมูลรวม 163 ประเทศ ปี 2550 ข้อมูลรวม 179 ประเทศ ถ้าลองมองข้อมูลในมุมกลับนะครับ ว่าในแต่ละปีมีประเทศที่ถูกจัดอันดับ ห่วยกว่าประเทศไทยกี่ประเทศ ปี 2542 ได้อันดับ 68 มีประเทศห่วยกว่าไทย 99-68 = 31 ประเทศ ปี 2543 ได้อันดับ 60 มีประเทศห่วยกว่าไทย 90-60 = 30 ประเทศ ปี 2544 ได้อันดับ 61 มีประเทศห่วยกว่าไทย 91-61 = 30 ประเทศ ปี 2545 ได้อันดับ 64 มีประเทศห่วยกว่าไทย 102-64 = 38 ประเทศ ปี 2546 ได้อันดับ 70 มีประเทศห่วยกว่าไทย 133-70 = 63 ประเทศ ปี 2547 ได้อันดับ 64 มีประเทศห่วยกว่าไทย 146-64 = 82 ประเทศ ปี 2548 ได้อันดับ 59 มีประเทศห่วยกว่าไทย 159-59 = 100 ประเทศ ปี 2549 ได้อันดับ 63 มีประเทศห่วยกว่าไทย 163-63 = 100 ประเทศ ปี 2550 ได้อันดับ 84 มีประเทศห่วยกว่าไทย 179-84 = 95 ประเทศ เพราะทุกปีมีการทำสถิติประเทศใหม่ๆ เพิ่มมาตลอด ถ้าดูแบบนี้ความจริงประเทศไทยเราก็ไม่ได้ห่วยลงนัก เราค่อนข้างอยู่ที่เดิม แต่มีสถิติประเทศใหม่ๆ เข้ามา แทรกอันดับข้างบน และมีแนวโน้มว่าประเทศที่มาใหม่ส่วนใหญ่ห่วยกว่าไทย จนตอนนี้ห่วยกว่าเราร่วมร้อยประเทศเข้าไปแล้วครับ :slime_smile: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 08-01-2008, 19:53 กลับมาแล้วครับ ผมไม่เชื่อว่า โครงการนี้ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจหรอกครับ ไม่ต้องอะไรมาก ถึงบางอ้อเลยว่าทำไมจึงทำงุบงิบออกไปเซ็นต์ JTEPA โดยไม่ได้มีการผ่านสภา หรือบอกกล่าวแก่ประชาชนใดๆทั้งสิ้นว่ามีผลดีผลเสียอย่างไร โปรดจำไว้ว่า นี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานของ รัฐบาลสุรยุทธ์เช่นกัน เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ เพราะผลกระทบมันไม่ได้เกิดทันตา ประชาชนจะไปรับกรรมในอนาคต --- ระบบขนส่งทางรางที่ผมหมายถึง ไม่ใช่เฉพาะรถไฟฟ้าในเมือง แต่หมายถึงในเมืองอื่นๆ และรถไฟทั่วประเทศด้วย นอกจากนี้ การที่ทุกพรรคขานรับถ้วนหน้า ใช่ว่าของแบบนี้จะเกิดได้ง่ายๆ นั่นเพราะความไร้เสถียรภาพทางการเมือง เดี๋ยวพอไอ้นี่ไป ไอ้นั่นมาก็มาล้มโครงการทิ้ง เพราะตัวไม่ได้ประโยชน์ ฯลฯ แต่ประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างฐานเทคโนโลยีครับ นอกจากนี้อินเดียเขาเห็นความสำคัญของรถไฟมานานแล้วไม่ใช่หรือ? และส่วนอเมริกาเทคโนโลยีเขาไปอีกขั้นก้าวหน้าแล้วไม่ใช่หรือครับ ผมไม่เชื่อว่า โครงการนี้ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจหรอกครับ ไม่ต้องอะไรมาก ถึงบางอ้อเลยว่าทำไมจึงทำงุบงิบออกไปเซ็นต์ JTEPA โดยไม่ได้มีการผ่านสภา หรือบอกกล่าวแก่ประชาชนใดๆทั้งสิ้นว่ามีผลดีผลเสียอย่างไร โปรดจำไว้ว่า นี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานของ รัฐบาลสุรยุทธ์เช่นกัน เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ เพราะผลกระทบมันไม่ได้เกิดทันตา ประชาชนจะไปรับกรรมในอนาคต นั่นก็ต้องรอดูกันต่อไปแล้วครับ แต่ที่แน่ๆ คือค่ายรถต่างๆ (รวมทั้งที่ไม่ใช่ค่ายญี่ปุ่น ที่จะลากไปเกี่ยวกับ JTEPA) ก็พากันมาลงทุนตั้งฐานการผลิตรถยนต์คอนเซปต์ใหม่ อย่าง อีโคคาร์ ในประเทศไทยเรา เรื่องไปเซ็นต์ JTEPA ไม่มีปัญหาการจดจำอยู่แล้วครับทุกคนจำได้แน่และมั่วเป็นของรัฐบาลอื่นไม่ได้อย่างแน่นอน และถ้ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นคนที่ต้องรับผิดก็คือรัฐบาลสุรยุทธ์เต็มๆ แต่เรื่องมีค่ายรถตัดสินใจมาลงทุนมันมีโอกาสมั่วได้ เพราะกว่าจะมาเริ่มต้นการผลิตได้ มันก็ไปอยู่ในรัฐบาลใหม่แล้ว กว่าจะมีการจ้างงาน มีการส่งออก มีรายได้เข้าประเทศ ถึงตอนนั้นช่วยจำกันไว้อย่าให้มามั่วง่ายๆ ครับ --- ระบบขนส่งทางรางที่ผมหมายถึง ไม่ใช่เฉพาะรถไฟฟ้าในเมือง แต่หมายถึงในเมืองอื่นๆ และรถไฟทั่วประเทศด้วย นอกจากนี้ การที่ทุกพรรคขานรับถ้วนหน้า ใช่ว่าของแบบนี้จะเกิดได้ง่ายๆ นั่นเพราะความไร้เสถียรภาพทางการเมือง เดี๋ยวพอไอ้นี่ไป ไอ้นั่นมาก็มาล้มโครงการทิ้ง เพราะตัวไม่ได้ประโยชน์ ฯลฯ ผมก็หมายถึงระบบขนส่งทางรางทั่วประเทศครับ ถ้าจะดูแต่รถไฟฟ้าในเมือง ครม.สุรยุทธ์ก็อนุมัติทิ้งทวนไว้แล้วเหมือนกัน เรื่องนี้ทุกพรรคการเมืองประกาศเป็นนโยบายทุกพรรค แม้แต่ที่จะเป็นพรรคฝ่ายค้าน และความจริงการรถไฟแห่งประเทศไทย มีแผนจะทำอยู่แล้วในหลายเส้นทางนะครับ อย่างเช่นสายโคราช-ขอนแก่น แต่ประเด็นที่ควรมองก็คือรัฐควรเป็นผู้ลงทุนในระบบรางได้แล้ว และให้รางเป็นสมบัติของรัฐ ไม่ใช่ปล่อยให้การรถไฟเป็นผู้ลงทุน แบบนั้นก็ขาดทุนตาย ไม่มีทางแข่งขันกับระบบขนส่งล้อยาง ที่ไม่ต้องลงทุนทำถนน และซ่อมบำรุงถนน ซื้อแต่ตัวรถกับเติมน้ำมัน แต่การรถไฟฯ ต้องรับผิดชอบก่อสร้างรางซ่อมราง เป็นเงินมหาศาล แบกดอกเบี้ยหัวโต เป็นสาเหตุหนึ่งที่ขาดทุนสะสมมาตลอด การไร้เสถียรภาพทางการเมือง มันไปควบคู่กับการคอร์รัปชั่นในโครงการรัฐด้วย ทำให้ต้องล้มโครงการกันทุกครั้งที่เปลี่ยนคนดูแล ึเพราะคนใหม่ก็จะเอาผลประโยชน์บ้าง ซึ่งมันก็ออกนอกเรื่องที่คุยไปแล้วนะครับ ถ้าจะต้องคุยเรื่องการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น เพราะตามเนื้อหากระทู้ก็คือแค่ว่า มีการตัดสินใจมาลงทุนตั้งฐานผลิตรถยนต์โดยพร้อมเพรียงกันของค่ายรถต่างๆ ทั่วโลกครับ --- แต่ประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างฐานเทคโนโลยีครับ นอกจากนี้อินเดียเขาเห็นความสำคัญของรถไฟมานานแล้วไม่ใช่หรือ? และส่วนอเมริกาเทคโนโลยีเขาไปอีกขั้นก้าวหน้าแล้วไม่ใช่หรือครับ สร้างฐานจากอะไรล่ะครับ หมายถึงเทคโนโลยีรถยนต์หรือเปล่า ถ้าไม่มีฐานการผลิตรถยนต์ แล้วจะพัฒนาบุคลาการอย่างไร อินเดียเขาเห็นความสำคัญของรถไฟมันมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ครับ ตัวเขาเองก็ผลิตรถยนต์ส่งออก แล้วก็มาตั้งฐานผลิตรถยนต์ในไทย เรื่องอเมริกาก็ค่ายฮุนไดของเกาหลีใต้ ไปตั้งฐานผลิตรถยนต์ที่นั่น ไม่เห็นอเมริกาจะมีปัญหาอะไรนี่ครับ มันคนละเรื่องกับที่อเมริกา จะมีเทคโนโลยีผลิตรถยนต์ขั้นก้าวหน้าหรือเปล่า บริษัทอเมริกา ก็ผลิตรถยี่ห้อตัวเองไป คนอเมริกาอีกส่วนก็เข้าทำงานผลิตรถยนต์ ให้กับค่ายฮุนได ผมไม่เห็นเขามีปัญหาไม่ถ่ายทอดเทคโนโลยี แต่ถ้าจะให้ขนาดไทยมีรถยนต์ยี่ห้อตัวเอง ด้วยเทคโนโลยีตัวเอง จะทำยังไงครับตั้งเป็นรัฐวิสาหกิจหรือ คงไม่ดีกระมังครับ :slime_smile: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: แอ่นแอ๊น ที่ 08-01-2008, 21:22 ถ้า JTEPA มีผลดีมากกว่าผลเสีย รับรองว่า จะไม่มีใครออกมายกย่องแหงๆ :slime_v:
จนป่านนี้ยังมีบางคนคิดว่า JTEPA คือ FTA อยู่เลย ฝังใจกะของเก่าๆ :slime_smile: ถ้าตรรกะ อย่าง ???? งั้นเราต้องไล่บอสัดต่างชาติิออกไปให้หมด ปิดบ้านไถนาอย่างเดียวดีป่าว (ไม่ดีจิ ตกงาน เ้ข้าข่าย :slime_hitted: ) อ้อ ฝรั่งรูปข้างบน แอนเห็นบ่อยๆ อ่ะ แจ้งตำรวจจับมันเลย :slime_hitted: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: AsianNeocon ที่ 08-01-2008, 21:34 ถ้า JTEPA มีผลดีมากกว่าผลเสีย รับรองว่า จะไม่มีใครออกมายกย่องแหงๆ :slime_v: จนป่านนี้ยังมีบางคนคิดว่า JTEPA คือ FTA อยู่เลย ฝังใจกะของเก่าๆ :slime_smile: น่าเบื่อพวกศรีธนญชัยจริงๆครับ ชื่อเดิมของ JTEPA น่ะคือ FTA ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ไปค้นอ่านในนสพ.ราวๆเดือนมี.ค.-เม.ย. ปีที่แล้วดูก็ได้ และน่าจะเป็นผลงานของทักษิณ ชินวัตร มากกว่าที่แอบอ้างเป็นของรัฐบาลสุรยุทธ์ด้วยซ้ำ ถ้าคุณจะมองว่าเป็นประโยชน์มากกว่าเสียอะนะ นอกจากนี้ eco-car ที่ว่านี่ แนวคิดก็ถือกำเนิดในสมัยรัฐบาลทักษิณอีกเช่นกัน เพียงแต่พับแผนไป เพราะเกรงว่า ต่างชาติจะไม่พอใจที่ไปกินส่วนแบ่งตลาดในสินค้าที่ตัวเองครองครองตลาดในไทยอยู่ ต่อมารัฐบาลสุรยุทธ์เข้ามาก็เลยเอาใจด้วยการลดภาษีสรรพสามิตใช่ไหมล่ะ?? ประเทศไทยน่ะเป็นแค่ "ร่างทรง" แห่งหนึ่งในตลาดเสรีอาเซียน เช่นเดียวกับ อินโดนีเซีย ผมว่า คุณ goolnw ก็มีส่วนถูก ควรจะพูดความจริงให้หมดทุกด้านดีกว่า "เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" ถ้ายังมีนิสัยแบบทักษิณอยู่ ก็อย่าไปด่าทักษิณเลยครับ หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 10-01-2008, 18:00 น่าเบื่อพวกศรีธนญชัยจริงๆครับ ชื่อเดิมของ JTEPA น่ะคือ FTA ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ไปค้นอ่านในนสพ.ราวๆเดือนมี.ค.-เม.ย. ปีที่แล้วดูก็ได้ และน่าจะเป็นผลงานของทักษิณ ชินวัตร มากกว่าที่แอบอ้างเป็นของรัฐบาลสุรยุทธ์ด้วยซ้ำ ถ้าคุณจะมองว่าเป็นประโยชน์มากกว่าเสียอะนะ นอกจากนี้ eco-car ที่ว่านี่ แนวคิดก็ถือกำเนิดในสมัยรัฐบาลทักษิณอีกเช่นกัน เพียงแต่พับแผนไป เพราะเกรงว่า ต่างชาติจะไม่พอใจที่ไปกินส่วนแบ่งตลาดในสินค้าที่ตัวเองครองครองตลาดในไทยอยู่ ต่อมารัฐบาลสุรยุทธ์เข้ามาก็เลยเอาใจด้วยการลดภาษีสรรพสามิตใช่ไหมล่ะ?? ประเทศไทยน่ะเป็นแค่ "ร่างทรง" แห่งหนึ่งในตลาดเสรีอาเซียน เช่นเดียวกับ อินโดนีเซีย ผมว่า คุณ goolnw ก็มีส่วนถูก ควรจะพูดความจริงให้หมดทุกด้านดีกว่า "เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" ถ้ายังมีนิสัยแบบทักษิณอยู่ ก็อย่าไปด่าทักษิณเลยครับ ผมว่าคุณแอนก็พูดถูกแล้วที่ JTEPA ไ่มใช่ FTA เพราะขอบเขตเนื้อหาไม่เหมือนกันนะครับ JTEPA เป็นเรื่องของกลุ่มข้อตกลงที่เรียกว่า EPA (Economic Partnership Agreement) FTA เป็นเรื่องเขตการค้าเสรี เน้นในเรื่องข้อตกลงทางภาษี EPA เป็นเรื่องความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจ เน้อเรืองความร่วมมือทุกอย่างไม่ใช่แค่เรื่องภาษี ส่วนที่ว่า eco-car แนวคิดก็ถือกำเนิดในสมัยรัฐบาลทักษิณแต่พับแผนไป เท่ากับรัฐบาลไทยรักไทย จะมาอ้างเครดิตในการตกลงครั้งนี้ไม่ได้ เพราะตัวเองพับแผนไปแล้ว การที่รัฐบาลสุรยุทธ์เข้ามาแล้วเพิ่มข้อเสนอจูงใจ ก็ต้องถือว่าเป็นผลงานสมัยรัฐบาลสุรยุทธ์ครับ ผมว่าตัวเองตั้งประเด็นไม่ผิดนะครับในเรื่องนี้ ... จะบอกว่าประเทศไทยเป็นแค่ "ร่างทรง" อันนั้นก็แล้วแต่มุมมอง เพราะผมมองว่าการสนใจมาลงทุน มันก็มีด้านที่ดี เราไม่ใช่เจ้าของเทคโนโลยีแต่ก็ได้เป็นผู้ร่วมลงทุน อย่างกรณี ทาทา เราก็มีกลุ่ม ธนบุรีประกอบรถยนต์ไปร่วมถือหุ้นด้วย การมีการจ้างแรงงานจำนวนมาก ก็เป็นเรื่องที่ดีกว่าคนไม่มีงานทำนะครับ เรื่องที่ว่าไทยต้องสร้าง ฐานเทคโนโลยีผมก็เห็นด้วย แต่ตอนนี้เรายังไม่มีฐานเทคโนโลยีจะปล่อยให้คนตกงานไปก่อน จะกว่าจะมีฐานเทคโนโลยีหรืออย่างไร ... การพูดความจริงให้หมดทุกด้านเอาเข้าจริงพูดได้หรือครับ จะรู้ได้อย่างไรว่ามีด้านไหนบ้างถึงจะครบ ที่ทำได้ก็คืออยากพูดด้านไหนก็พูดให้ชัดเจน ใครอยากพูดด้านอื่นก็พูดขึ้นมา ต่อให้พูดกันทุกคนแล้ว ยังแน่ใจไม่ได้เลยว่าพูดหมดทุกด้าน *ตัวคุณ 温哥华老大 ยังพูดแต่แง่ร้ายของไทยตลอดเวลา มีใครบ้างพูดได้หมดทุกด้าน* ผมเองนำเสนอประเด็นชัดเจนเน้นๆ แล้วว่าให้จำเรื่อง eco-car ว่าเป็นผลงานสุรยุทธ์ ก็เท่านั้นครับ :slime_smile: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 10-01-2008, 18:17 ลองเข้าไปเก็บข้อมูล ในเรื่อง มติครม. เอาไว้ก็ดีครับ
จะได้ไม่ถูกขโมยผลงานจากนักการเมืองหน้าด้าน หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: AsianNeocon ที่ 10-01-2008, 18:24 เอ่อ คุณจีฯครับ คุณอาจจะมองว่าผมพูดให้ร้ายประเทศไทยก็ช่าง แต่มันคือ "เรื่องจริง" ครับ
ดูชื่อเป็นภาษาไทย โดยกระทรวงต่างประเทศแต่ก่อน สิครับ คุณจะเปลี่ยนชื่อเรียกให้น่าฟังแค่ไหน แต่โดยสาระมันก็คือ FTA นั่นแหละครับ และมันก็คือ ***ผลงานของรัฐบาลทักษิณ*** เพียงแต่มาเกิดในรัฐบาลนี้เท่านั้นครับ เท่ากับว่ารัฐบาลสุรยุทธ์ไม่ได้ทำอะไรเลยทั้งสิ้น นับแต่เข้ามาหลังปฏิวัติ 2 สัปดาห์ มีแต่มาทำหน้าที่ "รับฝากของ" ให้ทักษิณทั้งนั้น ตั้ง หวย ทีวีของไอ สนามบินชำรุด เอฟทีเอ โอท็อป ฯลฯ ทั้งหมดยังคงอยู่เหมือนเดิมทุกประการ เพียงแต่มีการเล่นละครให้ดูวุ่นวาย จะยุบ ยกเลิกนี่ หรือให้ดูเหมือนยกเลิกไปแล้ว แล้วก็กลับมาใหม่ แล้วก็เปลี่ยนชื่อให้ดูเหมือนว่าได้ทำอะไรบ้าง ตอนนี้พรรคพลังประชาชนก็กำลังตั้งรัฐบาลอยู่ไงครับ มันคือ "เรื่องจริง" ครับ คุณจีฯครับ (http://www.mfa.go.th/jtepa/images/head_left.gif) วัฒนาเปิดโมเดลรถ"อีโคคาร์" ฮอนด้า-นิสสัน-ซูซุกิจ่อเสียบ (ฐานเศรษฐกิจ) ฉบับที่ 2022 29 มิ.ย. - 02 ก.ค. 2548 " วัฒนา"ได้ข้อสรุปโมเดลรถ"อีโคคาร์" ประหยัดน้ำมัน5 ลิตร/100 กิโลเมตร ทุบโต๊ะคลังต้องหนุนภาษีสรรพสามิต10% หรือต้องไม่เกิน20% บีโอไอโปะสิทธิและประโยชน์เต็มที่ มั่นใจกระฮึ่มตลาดรถยนต์ยุคน้ำมันแพง ล่าสุดค่ายฮอนด้า- นิสสัน -ซูซูกิ ขานรับเตรียมหอบทุน 3 หมื่นล้านบาทปักหลักผลิตในไทยทั้งแพคเก็จ ด้านเลขาสศช.เผย 6 ก.ค.คงส่งเรื่องกลับ"ทักษิณ"ไม่ทันเพราะต้องใช้เวลาดูผลกระทบรถมือ2 ด้วย นายวัฒนา เมืองสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสรุปโมเดลของรถประหยัดพลังงานหรือรถอีโคคาร์หรือรถ ‘S’CARS ว่าล่าสุดได้ส่งรายละเอียดทั้งหมดในการผลักดันโครงการผลิตรถอีโคคาร์ไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)แล้ว สำหรับรถอีโคคาร์ ต้นแบบที่พิจารณาโดยกระทรวงอุตสาหกรรมและสถาบันยานยนต์นั้น ใช้ข้อมูลรถยนต์ขนาดเล็กจากผู้ผลิตรถยนต์ค่ายต่างๆเสนอเข้ามาเป็นส่วนประกอบของรถต้นแบบที่จะผลักดันให้เกิดเป็นนโยบายการลงทุนต่อไป โดยสเปกที่กำหนด เช่นต้องมีขนาดรถ 3.6 คูณ 1.63 เมตร ที่สำคัญคุณสมบัติต้องเป็นรถที่สามารถใช้เอทานอลได้ 20% อัตราการสิ้นเปลือง 5 ลิตร/100 กิโลเมตร มีมาตรฐานความสะอาดยูโรโฟ ซึ่งวันนี้รถในประเทศไทยมีแค่ยูโร3 คือจะต้องไม่มีมลภาวะจะต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีมาตรฐานความปลอดภัย เท่ากับมาตรฐานของยุโรป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยังกล่าวอีกว่า อีกปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้โครงการนี้เดินหน้าต่อไปได้นั้น ทางกระทรวงการคลังจะต้องพิจารณาให้รถอีโคคาร์มีเพดานภาษีสรรพสามิตที่ 10% เพื่อให้ราคารถดังกล่าวยืนอยู่ที่ 350,000 บาท/คัน ให้มีความแตกต่างจากราคารถยนต์นั่งทั่วไป " ภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์อีโคคาร์ จะเก็บในเพดานเดียวกันกับรถยนต์นั่งที่กินน้ำมันไม่ได้ ขณะที่รถอีโคคาร์ใช้เอทานอล 20% ประหยัดพลังงานก็ควรที่จะได้รับภาษีสรรพสามิตที่ดีกว่านี้ ซึ่งการกำหนดอัตราภาษีสรรพสามิตที่10% หรือจะเท่าไหร่ก็ได้ แต่ต้องไม่เกิน 20% และถ้าลดภาษีสรรพสามิตได้ตามอัตราดังกล่าว รถอีโคคาร์จะขายดีแบบเทน้ำเทท่าเหมือนขายรถมอเตอร์ไซด์ก็ได้ เพราะคนผ่อนรถอีโคคาร์ไม่ถึง5,000 บาท/เดือน ตลาดรถอีโคคาร์จะบูมมาก" นายวัฒนากล่าว หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 10-01-2008, 18:37 พูดแง่ร้าย ไม่ใช่ พูดให้ร้าย ครับ :idea: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: AsianNeocon ที่ 10-01-2008, 18:42 แก้เป็นแง่ร้าย สรุปว่า ในสาระหลัก ก็คือ "เรื่องจริง" ก็แล้วกัน อาเมน
หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 10-01-2008, 19:11 :slime_shy: จะมีใครเชื่อลูกหิน มั่งหนอ... ว่า อีโคคาร์ ..หน่ะ .... เกิดในสมัย น้าชาติ ( พลเอกชาติชาย ) เป้นผู้ริเริ่มก่อนใคร.. ตอนนั้น .. กลุ่มอุตสาหรรมรถยนต์ กำลัง เฟื่องฟู !! :slime_fighto: คุณหญิง พรทิพย์ ณรงค์เดช แห่ง ค่าย สยามกลการในขณะนั้น SiamGroup เป็น คน.. ยิ่นเรื่อง ผลักดันโครงการ ผลิตรถ อีโคคาร์ ให้แก่ รัฐ บาล น้าชาติ... :slime_hmm: สุดท๊าย ก็ถูกพับ และลืมไป หลังจากเกิดเหตุการณ์ ปฎิวัติ.... จนกระทั้ง รัฐบาล อาแม๊ว ขุดโครงการเก่าๆ น้าชาติ .. ขึ้นขาย... โดย กลุ่ม ส.ส. ศิษย์ เก่า พรรคชาติไทย :slime_surrender: อย่าโกรธลูกหินนะ หากลูกหิน พูดจาก สถานการณ์ จริงในคราวนั้น! พูดไป ..อาจม่ายถูกใจ เพื่อนๆ สมาชิก.. ลูกหินก้ขอโทษด๊วยนะฮะ..:slime_shy: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: AsianNeocon ที่ 10-01-2008, 19:19 :slime_shy: จะมีใครเชื่อลูกหิน มั่งหนอ... ว่า อีโคคาร์ ..หน่ะ .... เกิดในสมัย น้าชาติ ( พลเอกชาติชาย ) เป้นผู้ริเริ่มก่อนใคร.. ตอนนั้น .. กลุ่มอุตสาหรรมรถยนต์ กำลัง เฟื่องฟู !! :slime_fighto: คุณหญิง พรทิพย์ ณรงค์เดช แห่ง ค่าย สยามกลการในขณะนั้น SiamGroup เป็น คน.. ยิ่นเรื่อง ผลักดันโครงการ ผลิตรถ อีโคคาร์ ให้แก่ รัฐ บาล น้าชาติ... :slime_hmm: สุดท๊าย ก็ถูกพับ และลืมไป หลังจากเกิดเหตุการณ์ ปฎิวัติ.... จนกระทั้ง รัฐบาล อาแม๊ว ขุดโครงการเก่าๆ น้าชาติ .. ขึ้นขาย... โดย กลุ่ม ส.ส. ศิษย์ เก่า พรรคชาติไทย :slime_surrender: อย่าโกรธลูกหินนะ หากลูกหิน พูดจาก สถานการณ์ จริงในคราวนั้น! พูดไป ..อาจม่ายถูกใจ เพื่อนๆ สมาชิก.. ลูกหินก้ขอโทษด๊วยนะฮะ..:slime_shy: ไม่โกรธครับ ก็ในเมื่อมันเป็นความจริง ถ้าเอาความจริงอีกอันมาหักล้าง หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 10-01-2008, 19:22 เมื่อสักครู่เห็นข่าวเศรษฐกิจชิ้นหนึ่งของบริษัทรถของอินเดียชื่อดัง "ทาทา" ที่มีข่าวจะมาลงทุนในบ้านเรามาได้ระยะหนึ่งแล้ว ออกรถรุ่นใหม่ขนาดเล็กที่มีราคาถูกที่สุดในโลก เป้าหมายคือ ขายให้กับบรรดาสิงห์มอไซค์ในประเทศที่ใช้กันอยู่ประมาณ 45 ล้านคัน -- เท่านี้ก็รุ่งแล้วหรือป่าว :mozilla_wink:
ขออนุญาตถามค่ะว่า รถโปตอนของมาเลเซียไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรแล้วนะคะ หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 10-01-2008, 19:24 :slime_sentimental: เรื่อง การผลิต รถยนต์ โดยใช้ ประเทศไทย เป็นฐานเนี่ย!สมัยพลเอกชาติชาย.. TOYOTA กะ HONDA ยัง สู้ กลุ่ม SIAMGROUP ไม่ได้เลยฮะ ...เองๆนะ :slime_shy: ตอนนั้น SIAM GROUP เริ่ม โครงการ NV Project ก่อนใครแล้ว.. น้าชาติ เห็นศักยภาพคนไทย จึง ออกมา ...คุยว่า เราจะ เป็น NIC ไงฮะ เพื่อ เปิด ประตู ...ให้ ผู้ลงทุน จากต่างประเทศ เข้ามา.. หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 10-01-2008, 21:38 เอ่อ คุณจีฯครับ คุณอาจจะมองว่าผมพูดให้ร้ายประเทศไทยก็ช่าง แต่มันคือ "เรื่องจริง" ครับ ดูชื่อเป็นภาษาไทย โดยกระทรวงต่างประเทศแต่ก่อน สิครับ คุณจะเปลี่ยนชื่อเรียกให้น่าฟังแค่ไหน แต่โดยสาระมันก็คือ FTA นั่นแหละครับ และมันก็คือ ***ผลงานของรัฐบาลทักษิณ*** เพียงแต่มาเกิดในรัฐบาลนี้เท่านั้นครับ เท่ากับว่ารัฐบาลสุรยุทธ์ไม่ได้ทำอะไรเลยทั้งสิ้น นับแต่เข้ามาหลังปฏิวัติ 2 สัปดาห์ มีแต่มาทำหน้าที่ "รับฝากของ" ให้ทักษิณทั้งนั้น ตั้ง หวย ทีวีของไอ สนามบินชำรุด เอฟทีเอ โอท็อป ฯลฯ ทั้งหมดยังคงอยู่เหมือนเดิมทุกประการ เพียงแต่มีการเล่นละครให้ดูวุ่นวาย จะยุบ ยกเลิกนี่ หรือให้ดูเหมือนยกเลิกไปแล้ว แล้วก็กลับมาใหม่ แล้วก็เปลี่ยนชื่อให้ดูเหมือนว่าได้ทำอะไรบ้าง ตอนนี้พรรคพลังประชาชนก็กำลังตั้งรัฐบาลอยู่ไงครับ มันคือ "เรื่องจริง" ครับ คุณจีฯครับ โครงการอีโคคาร์ในสมัยวัฒนา เมืองสุข เืมื่อปี 2548 มันลงหลุมถูกดองไปตั้งแต่สมัยทักษิณแล้วครับ เพิ่งจะนำกลับมาส่งเสริมใหม่ในช่วงรัฐบาลสุรยุทธ์ โดยนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รมต.อุตสาหกรรม ถ้าจะว่าเป็นต้นคิดแล้วมาเอาเครดิตเป็นของตัวทั้งที่ทำไม่สำเร็จ สมมุติรัฐบาลหน้าเกิดขุดคอคอดกระ ก็จะต้องเป็นผลงานคนสมัยพระนารายณ์สิครับ เพราะมีไอเดียจะขุดกันมาตั้งแต่สมัยโน้น :slime_smile: หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 10-01-2008, 21:50 เอาข่าวนี้มาลงแล้วกัน รูปประกอบเยอะดีครับ จะได้เห็นหน้าตารถอีโคคาร์หลายๆ แบบด้วย :slime_smile:
"อีโคคาร์"ดึงเงินลงทุนทะลุสี่หมื่นล้าน โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 ธันวาคม 2550 09:34 น. http://www.khum.net/news-read/654445 สรุปว่าโครงการอีโคคาร์นำกลับมาทำใหม่ในรัฐบาลสุรยุทธ์นะครับ เขาก็ดำเนินการหลายอย่าง ไม่ใช่ไม่ทำอะไรเลยแล้วต่างชาติเข้ามาลงทุนเอง กลับกันคือถ้าไม่ทำก็ยังไม่มีมาลงทุนครับ โดยโครงการอีโคคาร์ถูกปัดฝุ่นขึ้นมาเมื่อต้นปี 2550 และได้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี สำเร็จเรียบร้อยเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2550 นี้เอง จากนโยบายของ นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ที่เป็น รมต.อุตสาหกรรม รัฐบาลขิงแก่ นอกจากนายโฆษิตที่เป็นคนริเริ่มปลุกโครงการขึ้นมา ยังมีนายฉลองภาพ สุสังกร์กาญจน์ รมต.คลัง ที่ให้การสนับสนุนโครงการอีโคคาร์ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกำหนดอัตราภาษีสรรพสามิตอีโคคาร์ ที่ระดับ 17% นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 เป็นต้นไป และมีการพิจารณาข้อกำหนดต่างๆ เช่น ความจุของกระบอกสูบ อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง มาตรฐานมลพิษ และปริมาณ CO2 ที่ปล่อยจากท่อไอเสียของรถ รวมทั้งกำหนดกำลังการผลิตขั้นต่ำ ให้ผู้ลงทุนที่จะเข้าร่วมโครงการตัดสินใจลงทุน *โครงการนี้ใช้เวลารวมทั้งสิ้นเพียงไม่ถึง 1 ปีก็สำเร็จถึงระดับมีการตัดสินใจลงทุนจริงนะครับ* จะบอกว่าไม่ใช่ผลงานรัฐบาลสุรยุทธ์ ผมก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว :slime_smile: ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ "อีโคคาร์"ดึงเงินลงทุนทะลุสี่หมื่นล้าน โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 ธันวาคม 2550 09:34 น. http://www.khum.net/news-read/654445 โครงการอีโคคาร์ได้ถูกปลุกจากหลุมอีกครั้ง เมื่อต้นปี 2550 โดยรัฐมนตรีว่ากระทรวงอุตสาหกรรมคนใหม่ “โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์” ในรัฐบาลชุด “ขิงแก่” ภายใต้การนำของ “พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์” นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้เข้ามาบริหารงาน จากการเข้ายึดอำนาจ รัฐบาลทักษิณ ที่นำโดย “พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน” อดีตผู้บัญชาการทหารบกขณะนั้น (http://pics.manager.co.th/Images/550000017165701.JPEG) ฮอนด้า ไลฟ์ สำหรับเหตุผลที่อีโคคาร์ถูกนำมาปัดฝุ่นอีกครั้ง เพราะในสถานการณ์ปัจจุบันไทยจะหวังพึ่งปิกอัพอย่างเดียว ในการเป็น โปรดักซ์แชมเปี้ยน เพื่อทำให้ตัวเลขการผลิตของไทยไต่ทะลุ 1.8 –2.0 ล้านคันต่อปี ตามเป้าหมายผลักดันไทยสู่การเป็น ดีทรอยต์แห่งเอเชียคงลำบาก เหตุนี้จึงจำเป็นต้องมีรถยนต์ตัวใหม่ “อีโคคาร์” เพื่อเป็นโปรดักซ์แชมเปี้ยนคู่กับปิกอัพ ผลักดันให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ จากนั้นมาคณะทำงานโครงการอีโคคาร์ ภายใต้การนำของนายโฆสิต ได้เดินหน้าผลักดันอย่างจริงจัง มีการกำหนดวาระทำงาน อย่างชัดเจน ด้วยการเปิดรับบริษัทรถที่สนใจร่วมโครงการ ให้ยื่นข้อเสนอที่ต้องการ เพื่อหาข้อสรุปที่ดีที่สุด สำหรับประกาศเกณฑ์ ส่งเสริมการลงทุนอีโคคาร์ และต้องให้ทุกอย่างจบภายในเดือนมีนาคม 2550 ที่ผ่านมา แม้จะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่จะต้องจบในเดือนมีนาคม เพราะติดปัญหาหลายอย่าง รวมถึงอัตราภาษีสรรพสามิต แต่ที่สุดเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2550 ที่ผ่านมา โครงการอีโคคาร์ได้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีสำเร็จ ทั้งนี้ไม่เพียงการผลักดันของนายโฆสิตเท่านั้น “นายฉลองภาพ สุสังกร์กาญจน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ ที่มาแทน “ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล” ซึ่งลาออกไป ได้เปิดไฟเขียวสนับสนุนเต็มที่เช่นกัน (http://pics.manager.co.th/Images/550000017165702.JPEG) ซูซูกิ เชอร์โว ที่สุดคณะรัฐมนตรีได้มติเห็นชอบอัตราภาษีสรรพสามิต รถยนต์นั่งขนาดเล็กประหยัดพลังงาน หรืออีโคคาร์ อยู่ที่ระดับ 17% นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 เป็นต้นไป โดยมีเงื่อนไขจะต้องมีความจุของกระบอกสูบไม่เกิน 1300 ลูกบาศก์เซนติเมตร (ซีซี) สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน และความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1400 ซีซี สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล โดยไม่จำกัดกำลังเครื่องยนต์ ส่วนอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงต้องไม่เกิน 5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 20 กิโลเมตรต่อลิตร มาตรฐานมลพิษอยู่ในระดับ EURO 4 ตามที่สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) กระทรวงอุตสาหกรรม ประกาศกำหนด และปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่ปล่อยจากท่อไอเสียไม่เกิน 120 กรัมต่อกิโลเมตร และกำลังการผลิตปีละ 1 แสนคันในปีที่ 5 ทั้งนี้สาเหตุที่ต้องกำหนดขนาดเครื่องยนต์ เพราะอีโคคาร์จะต้องไม่ทับซ้อนกับรถยนต์นั่งที่มีอยู่แล้ว และอัตราภาษีสรรพสามิต 17% อยู่ในระดับไม่ต่ำจนเกินไป พอที่จะส่งผลต่อรถที่มีขนาดใกล้เคียงกัน (http://pics.manager.co.th/Images/550000017165703.JPEG) นิสสัน โมโก หลังจากนั้นสัปดาห์ต่อมา คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ได้ประกาศข้อกำหนดเกณฑ์ที่จะให้การส่งเสริม การลงทุนอีโคคาร์ ประกอบด้วย 1.ผู้ขอรับส่งเสริมจะต้องเสนอการลงทุนเป็นโครงการรวม (package) ทั้งโครงการประกอบรถยนต์ การผลิตเครื่องยนต์ และการผลิตหรือจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ 2.ขนาดการลงทุนของโครงการรวม ทั้งการประกอบรถยนต์และการผลิตชิ้นส่วน จะต้องไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท 3.จะต้องมีปริมาณการผลิตจริงไม่น้อยกว่า 100,000 คันต่อปี ตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไป 4.ด้านประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง จะต้องเป็นรถยนต์ที่มีคุณสมบัติของอัตราการใช้เชื้อเพลิงไม่เกิน 5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และข้อสุดท้าย 5.ด้านสิ่งแวดล้อม จะต้องมีมาตรฐานมลพิษ Euro 4 หรือสูงกว่า และมีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยจาก ท่อไอเสียไม่เกิน 120 กรัมต่อ 1 กิโลเมตร พร้อมกันนี้กำหนดให้บริษัทรถยนต์ ที่จะขอรับส่งเสริมการลงทุน ต้องยื่นรายละเอียดโครงการเป็นแพ็คเกจการผลิต ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2550 เมื่อหมดเวลากำหนดขีดเส้นตาย ปรากฏว่ามีจำนวนบริษัทรถยนต์ 7 ยี่ห้อ ที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนผลิตอีโคคาร์ ได้แก่ ฮอนด้า, ซูซูกิ, นิสสัน, โตโยต้า, มิตซูบิชิ, ทาทา และโฟล์คสวาเกน โดยใน 4 ค่ายรถหลัง ได้ยื่นวันสุดท้ายของการปิดรับการส่งเสริมพอดี (http://pics.manager.co.th/Images/550000017165704.JPEG) คอนเซปต์ โฟล์คสวาเกน อัพ “ที่ประชุมได้มีการอนุมัติส่งเสริมการลงทุน ในกิจการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรือ Eco-Car เพิ่มอีก 2 โครงการ คือ โครงการของบริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น รวมมูลค่าเงินลงทุน 9,500 ล้านบาท และบริษัท สยามนิสสัน ออโตโมบิล จำกัด มูลค่าเงินลงทุน 5,550 ล้านบาท เมื่อรวมกับโครงการของบริษัทฮอนด้า ที่ได้รับ อนุมัติส่งเสริมการลงทุนไปก่อนหน้านี้ ปัจจุบันมีโครงการอีโคคาร์ที่รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 3 โครงการ เงินลงทุนรวม มากกว่า 19,000 ล้านบาท” นายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริม การลงทุน (BOI) กล่าวและว่า ในส่วนของ 4 บริษัทรถยนต์ที่เหลือ คาดว่าจะผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการส่งเสริม การลงทุนเพื่อเข้าสู่การพิจารณาอนุมัติของบอร์ด BOI ได้ภายในเดือนมกราคม 2551“โครงการที่เสนอมามูลค่าการลงทุน ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ตามกำหนดแน่นอน โดยเฉพาะค่ายรถของโฟล์กสวาเกน ที่ปัจจุบันยังไม่มีฐานการผลิตอยู่ใน ประเทศไทย ดังนั้นโครงการผลิตอีโคคาร์จึงถือเป็นโครงการแรกที่ใช้ฐานการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย ซึ่งอาจจะใช้เงินลงทุนสูงกว่า รถยนต์ค่ายอื่น ที่มีฐานการผลิตเดิม และสามารถต่อยอดการผลิตได้” นายสาธิต ชาญเชาวน์กุล เลขาธิการคณะกรรมการ ส่งเสริมการลงทุนกล่าว จากคำกล่าวของเลขาฯ บีโอไอ และหากทุกค่ายได้รับการอนุมัติหมด นั่นแสดงว่าจะมีเม็ดเงิน ลงทุนในไทย จากโครงการอีโคคาร์ไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาทแน่นอน!! ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เงินลงทุนโครงการอีโคคาร์ ยี่ห้อ เงินลงทุน(ล้านบาท) กำลังการผลิต(คัน/ปี) ฮอนด้า 6,700 120,000 ซูซูกิ 9,500 138,000 นิสสัน 5,550 120,000 โฟล์คสวาเกน 10,000** 100,000 โตโยต้า 5,000* 100,000 ตาต้า 5,000* 100,000 มิตซูบิชิ 5,000* 100,000 รวม 46,750 778,000 หมายเหตุ - ผู้จัดการรวบรวมข้อมูล * ประมาณจากกำหนดลงทุนโครงการอีโคคาร์ ** จากการประเมินของบีโอไอ หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 10-01-2008, 22:44 ถ้าจะบอกว่าแต่ละค่ายตัดสินใจลงทุนมานานแล้ว
ผมก็ไปเจอข่าวว่าเมื่อกลางปี 2550 ค่ายโตโยต้า ยังอยู่ในระหว่างพิจารณาเงื่อนไขรัฐบาลอยู่เลย โตโยต้าส่อเมินอีโคคาร์-โอดเงื่อนไขหิน http://news.sanook.com/economic/economic_148796.php ดังนั้นเรื่องส่งเสริมการลงทุนอีโคคาร์ได้ดำเนินการ ในสมัยรัฐบาลสุรยุทธ์ จนสำเร็จจริงๆ ครับ ------------------------------------------------------------------------------------------ โตโยต้าส่อเมินอีโคคาร์-โอดเงื่อนไขหิน โดย ข่าวสด วัน พฤหัสบดี ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2550 08:33 น. http://news.sanook.com/economic/economic_148796.php หวั่นกระทบตลาดรถวีออส-โฆสิตโบ้ยคุยบีโอไอ นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงโครงการส่งเสริมรถยนต์ประหยัดพลังงานขนาดมาตรฐานสากล (อีโคคาร์) ว่า ทางโตโยต้ากำลังพิจารณา ว่าจะเสนอผลิตอีโคคาร์หรือไม่ เพราะขณะนี้รายละเอียดต่างๆ ยังไม่ชัดเจนมากนัก โดยจะต้องขอพิจารณา หลังจากที่ไปร่วมหารือกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ ซึ่งบีโอไอเรียกค่ายรถยนต์ ที่สนใจเข้าโครงการไปหารือร่วมกันในรายละเอียดอีโคคาร์ ทั้งนี้ โตโยต้ายังมีข้อสงสัยหลายประการเกี่ยวกับการส่งเสริมอีโคคาร์ อาทิ ในเรื่องของการผลิตรถยนต์ 1 แสนคัน ในปีที่ 5 นั้น หากจะนับตั้งแต่ปีที่ 1-5 รวมเป็น 1 แสนคันจะได้หรือไม่ หรือหากโตโยต้านำเครื่องยนต์ 1300 ซีซี ตามเงื่อนไขของอีโคคาร์ไปใส่ในรถยนต์วีออสที่มีเครื่อง 1500 ซีซี แล้วจะนับรวมเครื่อง 1300 ซีซี กับ 1500 ซีซี ได้หรือไม่ และในเรื่องของภาษีสรรพสามิตที่ลดให้ 17% นั้นผูกติดกับเงื่อนไข 1 แสนคันอย่างไร หากจะนำเข้ามา ตามสิทธิ์ของการค้าเสรีอาเซียน (อาฟต้า) ที่มีกำแพงภาษี 5% ถ้าเป็นรถที่เข้าเงื่อนไขอีโคคาร์จะมารับสิทธิ์ในเรื่อง ภาษีสรรพสามิต 17% ได้หรือไม่ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นนำเข้าจะคุ้มกว่าหรือไม่ ขณะนี้โตโยต้าจะมีปัญหาในเรื่องของตลาดมากสุด เพราะถ้าต้องผลิตรถยนต์ในระดับ 1 แสนคัน/ปี จะหาตลาดที่ไหน รองรับ เพราะแม้แต่วีออส ซึ่งเป็นรถที่ขายดีที่สุดของโตโยต้ามียอดผลิตเพียง 9 หมื่นคันต่อปี และยังต้องส่งออกไป ตลาดอาเซียนถึง 50% หากจะผลิตรถเก๋งขึ้นมาขายในตลาดอาเซียนคงต้องลำบาก ส่วนจะส่งออกไปยังยุโรป โตโยต้ามีฐานผลิตรถในระดับอีโคคาร์อยู่หลายแห่ง นายศุภรัตน์กล่าว ทั้งนี้ จากการวิจัยพบว่ารถยนต์ขนาด 1300 ซีซี ไม่เป็นที่นิยมเพราะเครื่องเล็กสำหรับตลาดเมืองไทย และที่ผ่านมา โตโยต้าเคยทำตลาดรถเครื่องยนต์ 1300 ซีซี อาทิ ในอเวนซ่า ซาลูน่า แต่ไม่เป็นที่นิยมจนต้องนำเครื่อง 1500 ซีซี มาใส่จึงจะขายออก นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า เงื่อนไขการส่งเสริมอีโคคาร์ที่กำหนดออกมา ทั้งในเรื่อง 1 แสนคันในปีที่ 5 และต้องผลิตสิ้นส่วนเครื่องยนต์ในประเทศ 4 ใน 5 ชิ้นนั้นเป็นเงื่อนไขที่คิดไว้อย่างรอบคอบ แล้วว่าทำให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์มากสุด และการผลิตในระดับ 1 แสนคันจะทำให้ต้นทุนการผลิตคุ้มค่าที่จะลงทุน ซึ่งเรื่องนี้คงไม่มีการเปลี่ยนแปลง และขณะนี้นโยบายในเรื่องอีโคคาร์สรุปออกมาชัดเจนแล้ว ส่วนค่ายรถยนต์ใดจะไม่เห็นด้วย ในรายละเอียดตัวใด หรือมีข้อสงสัยอะไรให้ไปหารือกับบีโอไอ หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 10-01-2008, 23:25 :slime_dizzy: ลูกหิน ไม่รู้เรื่องการเมือง หง่ะ? มึนติ๊บ :slime_dizzy: :slime_fighto: ถ้าพูดเรื่องการตลาด พอ คุยกันด๊ายฮะ :slime_whistle: เองงี๊ ลองเขียนลำดับ ซาหนุกๆ ดู พอเข้าใจฮะ...(อย่าไปซีเรียสนะฮะ) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- :slime_smile: สมมุติ เหตุการณ์ จำลอง ผู้นำเสนอ = ผู้ผลิต > Production Lines > ภาคเอกชนเสนอให้ทำโครงการ = เสนอขาย ผู้ขาย = ผู้ได้เซ็นอนุมัติโครงการ ร่วมมือกับ กุล่มประเทศ XXX เพื่อ e-go car ผลงานการตลาด = ประสพผลสำเร็จในการขาย = มีการอนุมัติเกิดขึ้น ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- จากโครงการ ที่ภาคเอกชน..นำเสนอ .ในยุค ชาติชาย :idea: นายก ชาติชาย.. ไม่ประสพความสำเร็จในการ ขาย โปรเจค e-go car(เพราะยังไม่ได้ขาย) :!: นายก อานันต์ ปัญญารชุน ...พับโครงการ...เปลี่ยนเป็น ลดภาษี นำเข้าแทน ผลิต :oops: นายก บรรหาร จิ่ว ชวน .. ไม่สนโครงการนี้ :!: นายกทักษิณ สนใจโครงการ..จึงได้เริ่ม รื้นฟิ้นโครงการ ให้ เอกชน กลับไปจัดรูปแบบใหม่ ..มานำเสนอ เพื่อ ให้เข้ากับภสวะเศรษฐกิจ ในปัจจุบัน (ช่วงนั้น) นายกทักษิณ ไม่ประสพความสำเร็จในการ ขาย โปรเจค e-go car (เพราะยังไม่ได้ขาย..หรือ คงขายไม่ได้..หรือ ขายไม่เป้น ทักษิณคงโง่ๆๆๆๆๆๆ(มั๊ง) ) :mrgreen: นายก สุรยุทธิ์ ประสพความสำเร็จในการ ขาย โปรเจค e-go car.. (Wow + Great Market Man ) ดังนั้น.. นายก สุรยุทธิ์( มีผลงานการตลาด = ประสพผลสำเร็จในการขาย = มีการอนุมัติเกิดขึ้น ) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ดังนั้น .. :lol: โอ๊ว เย...โอ๊ว.เย. :mrgreen: นายก สุรยุทธิ์ ประสพความสำเร็จในการ ขาย โปรเจค e-go car..... MOU Already..signed...!!! ..:slime_hmm: **** อนึ่ง .. โปรเจค รถยนต์ 1 Version ต้องใช้ เวลา 1-3ปี ในการ ทำวิจัย ฮะ ก่อน จะ เซ็น MOU กะใคร :slime_shy: ( ขอโทษที่ลูกหิน..ม่ายด๊ายมีข้อมูล ตัดแปะ ที่พอทำให้ดูน่าเชื่อถือ..ฮะ) หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุท เริ่มหัวข้อโดย: แอ่นแอ๊น ที่ 10-01-2008, 23:57 การเป็น free trade หรือไม่ได้อยู่ที่ป้ายสำนักงาน :slime_bigsmile:
หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหินฮะ๛ ที่ 11-01-2008, 00:24 สนุกมั๊ยฮะ.. งั๊น เรามาเริ่ม ตัวอย่างที่ 2 กัน... เอาอาไร..ดีหนอ... อ๊ะ :idea: ไทยคม 1 เป็นไง? ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- (http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=362062) :slime_smile: สมมุติ เหตุการณ์ จำลอง 2 ขอโม้...ที่มา ฯ นิดนึง ฮะ ราวปี 2528 ยุค พลเอกเปรม ติลสุลานนทื เป็น นายกฯ ตอนนั้น การพัฒนาแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ปั่นกัน เป็นว่าเล่น แต่มาติดปัญหา ในการพัฒนา ชนบท ...เพราะเรายังต้องพึ่ง ดาวเทียมจาก สหรัฐ และ ฝรั่งเศษ จึงมี นักวิชาการกลุ่มหนึ่ง ..นำเสนอ ในหลวงที่กำลัง เป็นห่วงเรื่อง ประชาชน จะไม่สามารถ ปลูกข้าว และ ทำมาหากินได้.. 2530 จึงได้ ..เริ่ม ประกาศ หากลุ่มบิษัท เพื่อว่า จ้าง ...บริษัท จ้ดซื้อจัดจ้าง ติดตั้ง เข้ามาประมูล ทำ ดาวเทียมแห่งชาติ .. :slime_fighto: เงื่อนไข การตลาด เดิมๆ.. ผู้นำเสนอ = ผู้ผลิต > Production Lines > นักวิชาการ ..เสนอให้ทำโครงการ = เสนอขาย ผู้ขาย = ผู้ได้เซ็นอนุมัติโครงการ ร่วมมือกับ กุล่มประเทศ XXX เพื่อ ไทยคม 1 ผลงานการตลาด = ประสพผลสำเร็จในการขาย = มีการอนุมัติเกิดขึ้น ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- จากโครงการ ที่ภาคเอกชน..นำเสนอ .ในยุค เปรมO :idea: นายก เปรม .. ไม่ ประสพความสำเร็จในการ ขาย โปรเจค ไทยคม (เพราะยังไม่ได้ขาย..คนนี้ ม่ายรู้เรื่อง หร๊อก..ใบ้) :!: นายก ชาติชาย 2532 ...ได้รับ ..โครงการ ต่างๆเข้ามาจาก บริษัทต่างประเทศ เพื่อศึกษา..ผลประโยชน์อยู่.. ไม่ประสพความสำเร็จในการ ขาย โปรเจค ไทยคม 1 (เพราะยังไม่ได้ขาย..ยังม่ายรู้ว่าจะเซ้นกับใครดี ) :oops: รสช 1 สุจินดา ..2535 .. อาแม๊ว เข้ามา ...กอกระดุม ขอร้อง บิ๊กจ๊อดดด... ประสพความสำเร็จในการ ขาย โปรเจค ไทยคม** เพราะ อาแม๊ว ประมูลด๊ายย ..เย๊ๆๆๆๆๆๆ :!: ปี รัฐบาล รสช . 2536 ดาวเทียมไทยคม 1 ถูกยิงขึ้นจากฐานยิงจรวดแอเรียนสเปซ เมืองคูรู ประเทศเฟรนช์กิอานา เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2536 ณ ตำแหน่ง 78.5 องศาตะวันออก (ช่วงนั้น) .. .. ..แต่...ตะ ตะ แต่ว่า??? :slime_doubt: .. ... :slime_hmm: ชาวบ้าน .." เย๊ ไทยคมเป้นของ ท่านดร.ทักษิณ ชินวัตร ท่านซื้อมาให้พวกเราใช้ ได้ดูบอล เล่นเกมส์ กด พูดมือถือ ส่ง SMS ..ดู UBC " .. :slime_hmm: อ๊าวเฮ๊ยย .. แล้ว รัฐบาล ร.ส.ช. ที่เป็น คนเซ็น หล่ะ.. ฮือๆๆๆๆๆ :slime_doubt: ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ดังนั้น .. :lol: โอ๊ว เย...โอ๊ว.เย. :mrgreen: นายกทักษิณ ชินวัตร ประสพความสำเร็จในการ ขาย โปรเจค ไทยคม 1-2 ..... MOU Already..signed...!!! เจี๊ยก! :slime_dizzy: ..:slime_hmm: **** อนึ่ง .. โปรเจค ไทยคม 1 Version ต้องใช้ เวลา 1-3ปี ในการ ทำวิจัย ฮะ ก่อน จะ เซ็น MOU กะใคร เช่นกัน :slime_shy: ( ขอโทษที่ลูกหิน..ม่ายด๊ายมีข้อมูล ตัดแปะ ที่พอทำให้ดูน่าเชื่อถือ..ฮะ) หัวข้อ: Re: ==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์== เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 11-01-2008, 04:56 ข้อมูลน้องลูกหิน เล่าเหมือน โครงการ "ครูตู้" เลย ฮ่า ฮ่า
ชัดแจ้งแดงแจ๋ สั้น ๆ ได้ใจความ แหล่ม.. :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: |