ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => ห้องสาธารณะ => ข้อความที่เริ่มโดย: เหลิม ดาวเทียม ที่ 22-11-2007, 11:38



หัวข้อ: ได้ 120 อภิสิทธิ์จะฆ่าตัวตาย! แต่เขาก็หน้าด้านเหลือเกิน.............
เริ่มหัวข้อโดย: เหลิม ดาวเทียม ที่ 22-11-2007, 11:38
"แน่นอน ประชาธิปัตย์ชนะพลังประชาชนได้ต้องหิมะตกเมืองไทย"

ต้องเกินครึ่งหรือเปล่า

"ไม่ใช่ ผมพูดว่าชนะคือได้มากกว่านี้แน่นอน แต่จะมากกว่าเท่าไหร่เท่านั้น"

สมมติชนะแล้วเขาบล็อกหมด พลังประชาชนก็ไม่ได้เป็นรัฐบาลอยู่ดี

"สถานการณ์วันนี้มันเปลี่ยนได้ พรรคการเมืองเหล่านั้นกล้าไหม ถ้าเลือกพรรคพลังประชาชนมา 200 ขึ้น แล้วพวกคุณจะมาตั้งรัฐบาลแข่ง แค่คิดก็ผิดแล้ว คุณชวนแพ้หวังใหม่แต้มเดียวนะ ยังไม่ตั้งรัฐบาลแข่งเลย ถ้าประชาธิปัตย์ 120 พลังประชาชนสัก 220 จะมาตั้งแข่งเหรอ ไม่อายเหรอ"

แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้พูดเหมือนคุณชวนนี่

"ประชาธิปไตยไม่ต้องพูด มันต้องมีสปิริตจิตวิญญาณ ต้องมีหิริโอตตัปปะ ตัวเอง 120 เขา 200 กว่า อภิสิทธิ์จะฆ่าตัวตายทางการเมืองไหมล่ะ อายุ 40 นิดๆ ได้ 120 ไปแย่งพรรค 200 กว่าเขาตั้งรัฐบาล แต่ตัวเขาและเลขาฯพรรค ก็หน้าด้านเหลือเกิน"

เขาอาจจะรอให้พลังประชาชนตั้งรัฐบาลก่อน แต่ตั้งไม่ได้เพราะไม่มีพรรคไหนร่วม

"โธ่ ให้มัน 200 อัพเถอะเรียบร้อย"

ตอนนั้นทหารอาจจะมาเกี่ยวข้อง

"หมดแล้ว รอเกษียณแล้วพวกนี้ เขาก็ไม่กล้าฝืนความรู้สึกของประชาชน เพราะเป็นฉันทานุมัติ"

เขาอาจแทรกแซงพรรคอื่นได้

"พรรคที่ได้น้อยกว่าจะมาแย่งตั้งรัฐบาลเหรอ ไม่ได้หรอก บรรยากาศมันไม่ใช่ ถ้าก้ำกึ่งนะ 140-150-160 อย่างนี้มีโอกาส แต่ถ้า 200 อัพกับ 100 ต้นไม่มีทาง ผมไม่ได้ดูถูกพรรคประชาธิปัตย์ แนวนโยบายไม่โดนใจพี่น้องประชาชน ท่านทักษิณเขาเก่ง เอ้าแต่ละพรรคที่ออกมาไม่มีใครมีนโยบายเลย ผมดูท่านบรรหารออกรายการตัวจริงชัดเจน ไปบอกจะประหยัดงบประมาณ งบประมาณปี 2551 ตั้งไว้ 1.7 ล้านล้านบาท จะเอาออกมา 1 แสนล้านมากระตุ้นเศรษฐกิจ นั่นเขาเรียกว่าเปลี่ยนแปลงงบประมาณ ไม่ใช่ไปประหยัด ก็เอามาใช้ แกยังพูดไม่ถูกเลย ผมนี่คุมงบประมาณมา 3 ปีนะผมเข้าใจ ก็ไม่ถึงขนาดไม่รู้เลย วันนี้หน่วยก้านพอได้อยู่เหมือนกัน"

นี่แสดงว่าเตรียมออกเดินสายปราศรัยแล้ว

"ผมเป็นคนอ่านหนังสือ ไม่ใช่สุกเอาเผากิน พูดส่งเดช เพราะสังคมวันนี้คนแก่คนเฒ่า ชาวไร่ชาวนาเขาตามการเมืองนะ และนักการเมืองวันนี้ถ้าไม่พัฒนาตัวเองไปไม่รอด"

วันนี้ต้องพูดเศรษฐกิจด้วย

"บางอันต้องยกให้เห็น จีดีพีสมัยท่านทักษิณโต 7 กว่า วันนี้ 3 นิดๆ ไปไม่ได้ income ไม่มี คนตกงานเยอะ ค่าเงินบาท ท่านทักษิณเป็นคนมีสติปัญญา ถ้าเขาสร้างความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น และทุกคนต้องให้โอกาสเขาชี้แจง"

และคงชี้แจงเรื่อง คตส.แทนทักษิณ

"ก็แล้วแต่พรรคเขาจะแบ่งหน้าที่ เพราะผมเขียนสำนวนมาเป็นสิบปี ถ้าพูดแล้วแทบลอยด์เข้าใจก็แสดงว่าประชาชนต้องเข้าใจ"

ยืนยันใช่ไหมว่าพร้อมจะประนีประนอมไม่ล้างแค้นไม่แตกหัก

"ไม่มี สังคมวันนี้จะแตกหักไม่ได้ ต้องปรองดอง หมดเวลา คนไทยด้วยกัน สุดท้ายก็เห็นกันอยู่อย่างนี้ แล้วบ้านเมืองไปไม่รอด เราก็มาสนุกด่ากันไปด่ากันมา ไม่คิดทำอะไร เอาชนะคะคาน นิดหน่อยก็หยิบมาเป็นประเด็น กระแหนะกระแหน เอาเป็นเอาตาย สุดท้ายก็คนไทยด้วยกัน"

"ผมถามจะไปล้างแค้นยังไง เพราะพวกปฏิวัตินิรโทษกรรมตัวเองไปหมดแล้ว ไม่มีหรอกเพราะท่านทักษิณไม่คิด ถือเป็นครั้งหนึ่งที่ฝันร้าย ที่คุยกันก็ไม่ได้พูดถึงนะ ท่านอารมณ์ดีหัวเราะ แ*****ู่ทางนี้ไม่มีอาหารไทย คิดถึงบ้าน ก็เท่านั้น"
.........................................
ขุนศึกฝั่งธน

กลั้นไม่อยู่จนหัวเราะก๊ากเมื่อเฉลิมพูดถึง คตส.ชอบให้ข่าววันอาทิตย์ โดยอ้างเป็นแหล่งข่าว

นี่คือเฉลิมคลุกคลีกับการเมืองกับหนังสือพิมพ์มานานจนรู้ทันเทคนิค ว่าจะเปิดประเด็นเล่นข่าวต้องเล่นวันเสาร์อาทิตย์ โดยเฉพาะวันอาทิตย์พาดหัวฉบับวันจันทร์ จะขยายความต่อเนื่องได้ง่าย

"นายนั่นนายนี่ให้สัมภาษณ์อย่างนี้ แล้วมีแหล่งข่าวกล่าวว่า แหล่งข่าวกล่าวว่าก็ไอ้คนนั้นแหละเป็นคนบอก รู้กัน"

"ผมเป็นนักการเมืองที่ผู้สื่อข่าวเขาด่าเยอะนะ แต่ผมไม่เคยฟ้อง ฟ้องก็ถอนหมด อ้วน อรชร เจอหน้า อ้าว พวกกันตั้งแต่กองปราบ ก็ถอน ไม่เอาเป็นเอาตาย"

แน่ะ มีจิตวิทยา เจอหน้าก็ถามถึงเถ้าแก่เปลว บอกว่าแทบลอยด์ฉบับที่แล้วพี่หนั่นพูดถึง "ผมอ่านตลอด"

อย่างน้อยเหลิมก็ไม่เคยด่านักข่าวซึ่งหน้าว่าเสพเมถุนมาหรือเปล่า

"ลุงหมักยกให้แกคน พิเศษ special politic ผมเข้าใจ เขา interfere อย่างนักข่าวถามผมว่าเอ๊ะมีสมาชิกให้สัมภาษณ์เหมือนไม่อยากให้คุณเฉลิมเข้าพรรค ผมบอกถูกแล้ว เห็นด้วยหมดได้ไง ต้องมีเห็นด้วยไม่เห็นด้วยบ้าง"

ได้ฉายาคู่กันมาตั้งแต่สมัยป๋าเปรม

"ท่านสมัครกับผมเล่นการเมืองเอื้ออารีกันมาตลอด เป็นฝ่ายค้านอยู่ด้วยกัน รับลูก ชง อภิปราย คือเหมือนเล่นบอล หนังสือพิมพ์ตั้งให้ขุนศึกฝั่งธนขุนพลกรุงเทพฯ"

ส่วนฉายาเหลิม ดาวเทียม นั่นมาจากสมัยเล่นการเมืองใหม่ๆ

"คนที่ตั้งชื่อนี้ให้ผมคืออาจารย์คึกฤทธิ์ สมัยก่อนไม่มีผู้สื่อข่าวต่างประเทศมาทำในเมืองไทย ข่าวเมืองไทยต้องไปออก UPI แล้ว UPI ก็ออกผ่านกลับมาเมืองไทย UPI เอาผมไปออกข่าวผมปราศรัยในนามประชาธิปัตย์ ปี 2526 มันก็บอกว่า A star is born ดาวดวงใหม่ที่เกิด ท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ไปเขียนคอลัมน์ซอยสวนพลู เหลิมดาวเทียม"

นับเวลาที่เฉลิมเว้นวรรคไปก็เกือบ 5 ปี

"ผมไปเรียนหนังสือซะ 5 ปี ครั้งสุดท้ายก็อภิปรายเรื่องสนามกอล์ฟอัลไพน์และพ.ร.บ.งบประมาณ เรื่องทั่วไป" นั่นคือยุคทักษิณ

"ผมรู้จักท่านทักษิณมาตั้ง 30 ปี ก็ชอบกันมาตลอด แต่ในทางการเมืองแต่แรกไม่ได้อยู่ด้วยกัน นั่นเป็นบรรยากาศการเมือง ก็สนิทกันเป็นพรรคพวกกัน ทั้งคุณหญิงภรรยา ผมเป็นสารวัตรกองปราบท่านทักษิณเป็นรองผู้กำกับอยู่กรม ทานข้าวกันเป็นพันมื้อ 20 กว่าปี ตั้งแต่รับราชการตำรวจ ไปกรมก็เจอท่าน กินขนมจีนแกงไก่หน้าสำนักงานเลขาฯ"

"เริ่มจากการเป็นนายตำรวจเหมือนกัน แล้วพ่อคุณหญิงผมเรียกอาเหมอ ก็รู้จัก ลูกหลานเขาเล็กๆ ลูกผมก็เล็กๆ ก็ไปมาหาสู่ ผมเคยไปบ้านท่าน ท่านมาบ้านผม ชอบกัน ทั้งชีวิตก็ทานข้าวกันพันกว่ามื้อ"

จนมื้อล่าสุดที่อังกฤษถึงชวนมาอยู่พลังประชาชน

"ชวนมาอยู่ด้วยก็ตอบตกลง"

คุยกันนานไหม

"นาน ผมไปลงที่สนามบินท่านก็ให้เด็กมารับ ก็ไปเจอคุณหญิงพจมาน นั่งรถไฟไปเมืองแมนเชสเตอร์ เย็นกินข้าว กลางวันกินข้าว เย็นกินข้าว กลับมากินข้าวที่ลอนดอนแล้วผมก็บินกลับ ไม่น่าเชื่อนะสถานีรถไฟกลางกรุงลอนดอนท่านแจกลายเซ็นยังกะดาราฮอลลีวู้ด พวกแฟนคลับบอลมาขอลายเซ็น เห็นตรงนั้นแล้วก็นึกในใจบ้านเราก็เป็นสถานหนึ่งแต่ที่อังกฤษคนนิยมชื่นชอบ"

เผลอแป๊บเดียวเฉลิมอายุ 60 แล้ว

"ผม 60 แล้วนะ ถ้าผมยังรับราชการก็เกษียณเมื่อต.ค.ที่แล้ว บังปีเดียวกับผม แต่บังเขาเกิดหลังต.ค. ย้อนไปดูประวัติผมตอน ร.ท. ร.อ. บังก็แถวๆ นี้"

เพียงแต่ไม่เคยรู้จักกัน ไม่เหมือนพล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน หรือพล.อ.วินัย ภัททิยกุล

"บรรณวิทย์นี่รู้จักตั้งแต่เป็น น.ต. น.ท. เขาอยู่ที่ บก.สส. เขาตามนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และบรรณวิทย์เขาเป็นคนไฮโซ พรรคพวกเยอะ เขาก็สนิทกับเผด็จ (ภูรีปฏิภาณ) พญาไม้ เพื่อนผม ก็เคยนั่งกินข้าวกินกาแฟกันบ่อย สนิท พล.อ.วินัยผมรู้จักตั้งแต่พันโท เป็น ทส.พล.อ.อาทิตย์ ผมยังงงเลยว่า พล.อ.วินัยมาปฏิวัติพ.ต.ท.ทักษิณ ผมรู้จักพล.อ.วินัยเพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ชอบกัน เขาเจอผม เขาเรียกผมมหามิตร ผมเจอเขาก็เรียกมหามิตร ชอบกันส่วนตัว"

บอกว่าทักษิณนี่แหละแนะนำให้รู้จัก

"ที่เป็นเลขาสภาความมั่นคง ผมว่าท่านทักษิณเป็นคนเลือกมานะ เจอจะถามว่าคิดอะไร ไปทำยังไงถึงปฏิวัติพวกซะแล้ว อย่ามาปฏิเสธนะว่าไม่รู้จัก ผมจะเอาไม้เรียวตีก้น ก็ไปกินข้าวด้วยที่ราชวัตร"






ไม่ยอม มาร์ค ไม่ยอม มาร์คจะเอา นายกฯ ต้องเป็นของมาร์ค เท่านั้น มาร์คจะไปฟ้อง ป้ากงกง ไม่เชื่อคอยดู  

 (http://www.imagehosting.com/out.php/i1394712_.gif) (http://www.imagehosting.com)


หัวข้อ: Re: ได้ 120 อภิสิทธิ์จะฆ่าตัวตาย! แต่เขาก็หน้าด้านเหลือเกิน.............
เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 22-11-2007, 13:51
เอ็งก็โวยวาย ว่าจะเอาไอ้ มวยหัวคั่ก ไม่ใช่เร้ออออออออออ  :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ได้ 120 อภิสิทธิ์จะฆ่าตัวตาย! แต่เขาก็หน้าด้านเหลือเกิน.............
เริ่มหัวข้อโดย: ไปซะแล้ว ที่ 22-11-2007, 16:01
ไปอีกรายแล้วครับ อากาศก็หนาว ไม่น่าเพี้ยนเลย


หัวข้อ: Re: ได้ 120 อภิสิทธิ์จะฆ่าตัวตาย! แต่เขาก็หน้าด้านเหลือเกิน.............
เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 22-11-2007, 18:34
ลิเกหลงโรงมาอีกราย


หัวข้อ: Re: ได้ 120 อภิสิทธิ์จะฆ่าตัวตาย! แต่เขาก็หน้าด้านเหลือเกิน.............
เริ่มหัวข้อโดย: KILLLER ที่ 24-11-2007, 20:38
มาร์ค จะแห้วหรือไม่แห้ว ขอให้รอดูวันที่ 23 ธันวาคมนี้เท่านั้น

จะเป็นครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ไทย ที่พลังอำนาจของประชาชน

จะกำหนดทิศทาง ทางการเมืองของประเทศอีกครั้ง

พลังอำนาจมืดใดๆ มิอาจทัดทาน พลังอำนาจของประชาชน (12)





หัวข้อ: Re: ได้ 120 อภิสิทธิ์จะฆ่าตัวตาย! แต่เขาก็หน้าด้านเหลือเกิน.............
เริ่มหัวข้อโดย: หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ ที่ 24-11-2007, 20:43
มาร์ค จะแห้วหรือไม่แห้วไม่รู้  แต่วันที่23 คงต้องเตรียมระดมเครื่องสูบน้ำ  เอามาสูบน้ำลายที่ฟูมปาก และน้ำตาที่ไหลพราก
ที่ผิดหวัง แพ้ย่อยยับกับการเลือกตั้งครั้งนี้ แน่นอน ว่าแต่เอ  วันนี้เราเสพเมถุนยังหว่า  :slime_smile2: :slime_smile2: