หัวข้อ: "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่... ไม่อยากให้... นองเลือด ผมยอมให้ ... " เริ่มหัวข้อโดย: snowflake ที่ 17-11-2007, 20:00 ชีวิตที่(ไม่)พลิกผัน พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ จาก
คณะรัฐประหารสู่ พปช. (http://www.matichon.co.th/news-photo/matichon/2007/11/p0104171150p1.jpg) พล.อ.เรืองโรจน์ย้อนอดีตเล่าความหลังก่อนเกิดเหตุการปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ว่า แม้จะเกิดข่าวลือล่วงหน้าหลายเดือน แต่ไม่คิดว่าจะมีการปฏิวัติ เพราะเป็นสิ่งที่ ล้าสมัย พ.ต.ท.ทักษิณเองก็ไม่ทราบเช่นกัน จึงเดินทางไปนอกประเทศ เพราะคิด ว่าทหารจะไม่ทำปฏิวัติ จึงประมาทไปหน่อย ถ้าอยู่ในประเทศไทยคงปฏิวัติลำบาก เพราะมีแบ๊คอัพ มีเพื่อนเยอะ พล.อ.เรืองโรจน์เชื่อว่าหากคืนวันนั้นหากเขาตัดสินใจสู้ ฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ คงจะ เอาชนะฝ่ายรัฐประหารได้ไม่ยาก "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่ทุกคนไม่มีบ้านอยู่ จะถูกเนรเทศกันหมด ผม ใช้เวลาตัดสินใจเรื่องนี้แป๊บเดียว ตอนนั้นต้องทำเพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ของบ้านเมือง เลยยอมให้ ไม่อยากให้มีการนองเลือดในไทย ผมยอมให้นะ อย่าใช้ คำว่า ยอมแพ้" มติชน วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10843 http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0104171150&day=2007-11-17§ionid=0101 หัวข้อ: Re: "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่... ไม่อยากให้... นองเลือด ผมยอมให้ ... " เริ่มหัวข้อโดย: soco ที่ 17-11-2007, 20:02 อือ เยี่ยมครับ หัดรักตัวกลัวตายซ่ะบ้าง
รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง (http://www.komchadluek.net/2007/11/17/images/p31711.jpg) หัวข้อ: Re: "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่... ไม่อยากให้... นองเลือด ผมยอมให้ ... " เริ่มหัวข้อโดย: Gamobank ที่ 17-11-2007, 20:16 พูดออกมาไม่อายปากที่ไม่กล้าเพราะประเมินแล้วว่าซวยแน่
หัวข้อ: Re: "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่... ไม่อยากให้... นองเลือด ผมยอมให้ ... " เริ่มหัวข้อโดย: นายเกตุ ที่ 17-11-2007, 20:26 เอาอารายมาสู้กับเขาละครับ
หัวข้อ: Re: "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่... ไม่อยากให้... นองเลือด ผมยอมให้ ... " เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 17-11-2007, 20:28 ลงการเมือง พูดเรื่องเก่า ไม่มีใครอยากขัดคอ แต่บอกตรงๆ ถ้าสู้กัน ทหารก็ฆ่ากันเองเพราะนักการเมืองหนีหมายจับ การตัดสินใจยอมจึงถูกต้องแล้ว ไม่ต้องเพิ่มเติมอะไร? แต่หากยังพูดแบบนี้จะกลายเป็นดึงทหารไปแบ็คอัพนักการเมืองไม่ใช่แบ็คอัพประเทศ ซึ่งไม่ถูก รู้สถานการณ์ดีแล้วแต่ไม่น่าพูดแบบนั้น หัวข้อ: Re: "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่... ไม่อยากให้... นองเลือด ผมยอมให้ ... " เริ่มหัวข้อโดย: ปุถุชน ที่ 17-11-2007, 20:33 ชีวิตที่(ไม่)พลิกผัน พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ จาก คณะรัฐประหารสู่ พปช. (http://www.matichon.co.th/news-photo/matichon/2007/11/p0104171150p1.jpg) พล.อ.เรืองโรจน์ย้อนอดีตเล่าความหลังก่อนเกิดเหตุการปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ว่า แม้จะเกิดข่าวลือล่วงหน้าหลายเดือน แต่ไม่คิดว่าจะมีการปฏิวัติ เพราะเป็นสิ่งที่ ล้าสมัย พ.ต.ท.ทักษิณเองก็ไม่ทราบเช่นกัน จึงเดินทางไปนอกประเทศ เพราะคิด ว่าทหารจะไม่ทำปฏิวัติ จึงประมาทไปหน่อย ถ้าอยู่ในประเทศไทยคงปฏิวัติลำบาก เพราะมีแบ๊คอัพ มีเพื่อนเยอะ พล.อ.เรืองโรจน์เชื่อว่าหากคืนวันนั้นหากเขาตัดสินใจสู้ ฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ คงจะ เอาชนะฝ่ายรัฐประหารได้ไม่ยาก " ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่ทุกคนไม่มีบ้านอยู่ จะถูกเนรเทศกันหมด ผม ใช้เวลาตัดสินใจเรื่องนี้แป๊บเดียว ตอนนั้นต้องทำเพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ของบ้านเมือง เลยยอมให้ ไม่อยากให้มีการนองเลือดในไทย ผมยอมให้นะ อย่าใช้ คำว่า ยอมแพ้" มติชน วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10843 http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0104171150&day=2007-11-17§ionid=0101 ผมไม่เชื่อถือคำพูดที่อ้างอิงอย่างนี้.... เรื่องใหญ่อย่างนี้ เป็นฝ่ายชนะ จะยอมกันง่าย ๆ.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า หัวข้อ: Re: "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่... ไม่อยากให้... นองเลือด ผมยอมให้ ... " เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 17-11-2007, 21:26 มาพูดตอนนี้ใครก็พูดได้ครับ เหมือนกับม็อบพันธมิตรก็พูดได้เหมือนกัน
ว่าถ้าทหารไม่ออกมาก่อน ป่านนี้ทักษิณเสร็จเรียบร้อยคามือไปแล้ว ลองคิดง่ายๆ ถ้าฝ่าย คมช. ไม่มั่นใจ จะกล้ายึดอำนาจทักษิณหรือ และในความเป็นจริงฝ่ายรัฐบาลโดนบล็อกในกรุงเทพไปหมดแล้ว ถ้า พล.อ.เรืองโรจน์ จะสู้ก็ต้องไปตั้งฐานสู้อยู่ที่ต่างจังหวัดเท่านั้น ..เหตุผลจริงๆ คงไม่อยากเปลืองตัว "สู้เพื่อแม้ว" มากกว่า.. ทั้งหมดที่ออกมาพูดตอนนี้น่าจะแค่แก้ตัวที่ไปเข้าร่วมกับ คมช. มา เำพื่อหาคะแนนเสียงให้กับตัวเองในการลงเลือกตั้งครั้งนี้เท่านั้น ถึงขั้นนี้ก็ "ยอมให้" พล.อ.เรืองโรจน์ด้วยแล้วกันว่า "ไม่ได้ยอมแพ้" :slime_smile: หัวข้อ: Re: "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่... ไม่อยากให้... นองเลือด ผมยอมให้ ... " เริ่มหัวข้อโดย: soco ที่ 17-11-2007, 21:30 จะให้ชัดก็ต้อง
ผู้ถูกชนะ :mrgreen: หัวข้อ: Re: "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่... ไม่อยากให้... นองเลือด ผมยอมให้ ... " เริ่มหัวข้อโดย: สมชายสายชม ที่ 17-11-2007, 21:50 อืม .. วันที่พวกลิ่วล้อยกพวกไปต้องการให้มีการนองเลือดที่บ้านพลเอกเปรม
ทำไมพลเอกเรืองโรจน์ไม่ไปห้าม :slime_doubt: ขอเชิญเจ้าของกระทู้ช่วยอธิบายด้วย ... หัวข้อ: Re: "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่... ไม่อยากให้... นองเลือด ผมยอมให้ ... " เริ่มหัวข้อโดย: RiDKuN ที่ 17-11-2007, 22:02 ...
(ไม่มีอะไรมาตัดแปะ แค่อยากบอกว่าอ่านแล้ว แต่ไม่อยากโพสต์อะไร เนื่องจากเจ้าของกระทู้ไม่ต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น) หัวข้อ: Re: "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่... ไม่อยากให้... นองเลือด ผมยอมให้ ... " เริ่มหัวข้อโดย: so what? ที่ 17-11-2007, 22:09 แล้วถ้าสู้กันจริง ป้าเฟคว่าใครจะชนะครับ
ลุงเรืองโรจน์หรือลุงสนธิ ??? :mrgreen: หัวข้อ: Re: "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่... ไม่อยากให้... นองเลือด ผมยอมให้ ... " เริ่มหัวข้อโดย: Suraphan07 ที่ 17-11-2007, 22:18 คล้ายๆกับชาวบ้าน "ติดหวย" ที่เที่ยวขูด "สิ่งศักดิ์สิทธิ์" ...
พอหวยออกแล้ว ก็พร่ำบอกว่า "ตรูเห็น จะ จะ" ... ทั้งๆที่ "ตรูเพิ่งถูก แดร็ก" ไป ... :slime_smile2: ขอเอาใหม่งวดนีแล้วกัน... ว่าแต่ว่ามั่นใจหรือเปล่าว่า หวยออกเลข "พปช"... :slime_smile2: หัวข้อ: Re: "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่... ไม่อยากให้... นองเลือด ผมยอมให้ ... " เริ่มหัวข้อโดย: jrr. ที่ 18-11-2007, 00:47 เอ้า....ยอมเชื่อ......... ยอมเชื่อน่ะ....อย่าคิดว่าเชื่อจริงๆ !!! :slime_fighto: :slime_fighto: :slime_fighto: หัวข้อ: Re: "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่... ไม่อยากให้... นองเลือด ผมยอมให้ ... " เริ่มหัวข้อโดย: ScaRECroW ที่ 18-11-2007, 00:59 His story แปลว่า เรื่องของเขา
หัวข้อ: Re: "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่... ไม่อยากให้... นองเลือด ผมยอมให้ ... " เริ่มหัวข้อโดย: ล้างโคตรทักษิณ ที่ 18-11-2007, 14:55 ซํกแต่ว่ามีปากพล่ามก็พล่ามไป เช่นเดียวกับ คุรตัวเช่าไอ้แม้ว ที่สักแต่มีมือ ก็กดแป้นตัดแปะข้อความไร้สาระลำเอียงเอนเป้นประโยชน์ต่อทูนหัวค้างคืนไปวันๆ แบบบไร้ความรับผิดชอบ :slime_whistle:
ไม่มีอะไรหรอก แกพึ่งได้รับโพยมาจากดคตรพ่อ ก็เลยเริ่มงานไม่มีอะไรมาก ปล.จะชนะเรอะ เออ อยากรู้ สารวัตรทหาร กับ กองทหารรักษาการณ์ที่ บก.สูงสุด มีแค่กี่คนวะ? ถึงกล้าพล่าม ว่าจะชนะ อีกฝั่ง เกือบๆ 2 หมื่นคนได้ ยังจำได้ป่าวหว่า? เสียงตอกกลับโทรศัพท์ว่า"ถ้าม-รึงจะสู้กับ gu guก็พร้อมจะถล่มกับม-รึง" แล้วอดีต ผบ.สส ก็หน้าซีดเมื่อลูกขู่ล้มเหลว หัวข้อ: Re: "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่... ไม่อยากให้... นองเลือด ผมยอมให้ ... " เริ่มหัวข้อโดย: 55555 ที่ 18-11-2007, 15:29 เขียนให้มันดูสวย ๆ ไปงั้นแหละครับ......
ไม่จริงหรอกครับ ไอ้ ที่มาอ้าง.....ถ้า รู้ว่าชนะ คงไม่มีทางยอมหรอกครับ ลองนึกดูสิ....ขนาดแพ้ไปแล้ว ยังก่อกวนไม่หยุด แล้ว ถ้ารู้ว่าชนะตอนนั้น จะยอมเหรอครับ หัวข้อ: Re: "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่... ไม่อยากให้... นองเลือด ผมยอมให้ ... " เริ่มหัวข้อโดย: (ลุง)ถึก สไลเดอร์ ที่ 18-11-2007, 15:42 ขำว่ะ....ออกมายึดอำนาจก่อนแล้วไม่หวังที่จะชนะ
ยังมาอ้างเอาความดีเข้าตัวเสียอีก.....เอิ้กกกก :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่... ไม่อยากให้... นองเลือด ผมยอมให้ ... " เริ่มหัวข้อโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 19-11-2007, 07:21 ในอดีตสมัย 2475 กองกำลังของคณะราษฎร์ก็มีไม่มากนัก แต่ใช้ทีเผลอและกลลวง
(ถ้าเป็นสมัยนี้คงเรียกพวกไม่มีจริยธรรม) ของพระประศาสน์พิทยายุทธ ควบคุมตัว เจ้าที่คุมกองกำลังในพระนคร ในขณะที่รัชกาลที่ 7 ทรงกอล์ฟอยู่ที่หัวหิน นักประวัติ ศาสตร์หลายฝ่ายประเมินดูแล้ว กำลังของฝ่ายเจ้ามีมากกว่า และสามารถจะสู้รบกับ พวกคณะราษฎร์ได้ ที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งคือประชาชนยังยึดถือในระบอบกษัตริย์ แม้ ว่าเศรษฐกิจจะตกต่ำจากสงครามโลก ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความเชื่อในระบอบนี้ แต่การที่รัชกาลที่ 7 ทรงเสด็จกลับพระนคร เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง อย่างไม่เสียเลือดเนื้อ ก็เป็นการพิสูจน์ว่า การเตรียมการยึดอำนาจโดยไม่ได้เตรียม การบริหารประเทศนั้น คือ การพาประเทศไปย่อยยับในอีกมิติ แม้ว่าจะโจมตีว่ากลุ่มเจ้า ปกครองไม่ดี แต่คณะราษฎร์เองก็ไม่สามารถทำได้ดีกว่า มีการยึดอำนาจกันเองมาตลอด และไม่สามารถกำจัดกลุ่มเจ้าให้หมดสิ้นไปได้ เนื่องจากประชาชนยังยึดติดกันความเชื่อ แบบดั้งเดิม ประชาธิปไตยจอมปลอมของคณะราษฎร์ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น แม้กระทั่งผู้ก่อการระดับนายปรีดี ที่เป็นฝ่ายพลเรือน ดูมีแนวคิดประชาธิปไตยมากกว่า กลุ่มทหารยึดอำนาจในสมัยนั้นก็เหอะ สุดท้ายก็หนีไม่พ้นนิสัยใช้กำลังมายึดอำนาจใน ปี 2492 แต่ไม่สำเร็จจนต้องกลายเป็นกบฏวังหลวง และไม่สามารถกลับประเทศได้ในที่ สุด ซึ่งอาจจะเป็นบริบทในสมัยนั้นที่ใช้อ้างประชาธิปไตยควบคู่กับการใช้กำลังยัดเยียด มาถึงสมัยปัจจุบันหลังการปฏิวัติโดยพวกนรกวันที่ 19 แล้ว สิ่งที่ประวัติศาสตร์เหมือนเดิม และไม่เหมือนเดิมก็คือ การไม่สู้รบให้เสียเลือดเนื้อ เพื่อต้องการพิสูจน์ว่าการยึดอำนาจ โดยใช้อคติและไม่ได้เตรียมการบริหารประเทศ จะไปได้แค่ไหน และจะไม่มีผู้ใดได้ชื่อ ว่าเป็นกบฏจากความพ่ายแพ้(ตัวมันชนะก็ไม่ยอมให้เรียกว่ากบฏ) ส่วนที่ไม่เหมือนเดิม คือ ฝ่ายที่ประกาศตัวว่าเป็นประชาธิปไตยก็ไม่ทำตามอดีตแบบนายปรีดีทำ คือ เข้าหา กองกำลังมาต่อสู้ยึดอำนาจ เป็นการต่อสู้ด้วยอุดมการณ์ทางการเมืองแท้ๆ แม้ว่าฝ่ายที่ มีอำนาจในปัจจุบัน จะใช้อำนาจได้หลายมาตรฐานเอื้อประโยชน์ที่กลุ่มตนเองปั้นไว้อย่าง ทุเรศ รวมทั้งพยายามมอมเมาชวนเชื่อประชาชนยิ่งกว่าสมัยใดๆ ในอดีต ประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบกษัตริย์มาสู่ระบอบคณะราษฎร์ โดยไม่เสียเลือดเนื้อ แม้จะได้ชื่อว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปข้างหน้าตามกระแสโลกหนึ่ง ระดับ แต่ประชาชนก็ไม่ได้รับการปกครองที่ดีขึ้นกว่าระบอบเดิมๆ ซ้ำก่อวงจรอุบาทว์ ยึด อำนาจกันไม่เลิกมาตลอดเจ็ดแปดสิบปีนี้ จนกระทั่งมีประชาธิปไตยที่เรียกว่าใกล้เคียง จริงที่สุด แม้มีการแทรกแซงในกติกาเล็กๆ น้อยในบางหน่วยงานบ้าง แต่ก็ไม่หลุดออก จากกติกา การเปลี่ยนแปลงโดยใช้กำลังครั้งนี้ ผ่านมา 1 ปี ก็แสดงให้เห็นถึงความไม่ต่าง ของผลงานบริหารประเทศ เหมือนในสมัย 75 ปีก่อน ห่วยพอกัน ทะเลาะกันเองเหมือนกัน จะมียึดอำนาจกันเองแถมเป็นระยะๆ ถ้าเวลาผ่านไปจนถึงเลือกตั้ง ไม่มีการใช้กองกำลังจากฝ่ายทักษิณหรืออำนาจเก่า ย่อม แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยอีกขั้นหนึ่ง ของฝ่ายถูกกระทำ ที่อดทนได้ เพราะคิดว่าอย่างไรเสีย ประชาชนพัฒนามาอีกระดับแล้วคงเข้าใจและตาสว่างได้ไม่ยาก อาจต้องใช้เวลาหน่อย ฝ่ายทักษิณเองฉลาดออกอย่างงี้ผลงานก็มาก คงไม่อยากเหมือน นายปรีดี ที่นิยมใช้กำลังตัดสินปัญหาในช่วงปลายการเมืองของท่าน เหตุการณ์บางอย่าง มันก็คล้ายเมื่อ 75 ปีก่อน เพียงแต่กลับข้างกันเท่านั้นเอง ที่เจ้าอยู่ได้เพราะประชาชนยัง ไม่เปลี่ยนความศรัทธา คณะราษฎร์ก็ต้องขอขมารัชกาลที่ 7 อยู่ดี เพื่อประนีประนอม ไม่ สามารถเปลี่ยนแปลงการปกครองแบบไม่มีกษัตริย์เลยได้ ที่ทักษิณอยู่ได้แม้จะพยายาม ตีให้ดูเลวด้วยสื่อสมัยใหม่ ก็เพราะประชาชนส่วนหนึ่งศรัทธาและบ้านเมืองพัฒนามาอีกขั้น แล้ว สุดท้ายถ้าไม่ประนีประนอมก็ร่วมด้วยช่วยกันเจ๊งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รู้ไว้ซะ หัวข้อ: Re: "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่... ไม่อยากให้... นองเลือด ผมยอมให้ ... " เริ่มหัวข้อโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 19-11-2007, 07:26 ... (ไม่มีอะไรมาตัดแปะ แค่อยากบอกว่าอ่านแล้ว แต่ไม่อยากโพสต์อะไร เนื่องจากเจ้าของกระทู้ไม่ต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น) มาช่วย จขกท ให้ความเห็นแล้ว อย่าให้พวกสติต่ำมาทะลึ่งลบแล้วกัน :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่... ไม่อยากให้... นองเลือด ผมยอมให้ ... " เริ่มหัวข้อโดย: meriwa ที่ 19-11-2007, 11:55 มาช่วย จขกท ให้ความเห็นแล้ว อย่าให้พวกสติต่ำมาทะลึ่งลบแล้วกัน :slime_bigsmile: ห้ามใช้กำลังทหาร แต่ใช้วัยรุ่นรุมกระทึบคนแก่ได้ใช่ป่ะ ต้องใช้วินรถตู้ไปข่มขู่จะข่มขืนผู้หญิงที่กำลังตั้งท้อง ก๊ากๆๆ ถุยประชาธิปควาย ยังมีหน้ามาบอกว่าฉลาด หัวข้อ: Re: "ถ้าสู้กันตายเละแน่ ฝ่ายผมจะชนะ แต่... ไม่อยากให้... นองเลือด ผมยอมให้ ... " เริ่มหัวข้อโดย: WATERMAN ที่ 19-11-2007, 12:12 จขกท.เอาข่าวนี้มาลง เพื่อที่จะโชว์ความโง่ของ พล.อ.เรืองโรจน์ ละซี ช่างไม่รู้ตัวเองเลยจริงๆ ว่า ผบ.สูงสุด กับ ผบ.ทบ.ใครมีอำนาจมากกว่ากัน คงหลงนึกว่าตัวเองมีอำนาจมากกว่ามั้ง ยศเหนือกว่าจริง แต่ไม่สามารถสั่งกองกำลังได้ มันจะมีความหมายอะไร ขืนไม่ร่วมด้วยซิ ป่านนี้คงตายไปแล้ว ดีนะที่ยังยอมร่วมกับ คมช. ถึงมีชีวิตรอดมาได้จนทุกวันนี้ แหมขี้โม้ไม่แพ้ทักษิณเลยจริงๆ มิน่าถึงเข้าร่วมกับ พรรคพลังประชาชน ก็ขี้โม้ขี้คุยอย่างนี้เอง มันถึงไปรวมกันได้อย่างสนิทใจ 555
|