ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => ห้องสาธารณะ => ข้อความที่เริ่มโดย: ผัดเผ็ดปลาไหลใส่มะม่วง ที่ 14-11-2007, 17:42



หัวข้อ: ปรากฏการณ์ “ห่ากินเมือง” เหนาะหนั่นหารเทือก มาลอยหน้าลอยตาพูดชมพรรคตนเอง
เริ่มหัวข้อโดย: ผัดเผ็ดปลาไหลใส่มะม่วง ที่ 14-11-2007, 17:42
เสธ.หนั่น เจ้าของฟาร์มนกกระจอกเทศ ได้ทำการขยำขยี้พรรคที่อุตส่าห์ตั้งขึ้นมากับมือเป็นเวลานานโดยไม่เคยมี สส.สักคน แล้วจึงเดินทางไปขอซบอกอันแสนอบอุ่นของนายบรรหารหัวหน้าปลาไหล  วันนั้น…แผ่นดินสะเทือนถึงบาดาล

ภาพ “สองชาย”ที่โผผวาเข้าหากันอย่างสุดแสนรักและคิดถึงแบบผิดปกติ พร้อมเปิดฉากโรมรันพันตูกอดจูบลูบคลำกันพัลวัน เมามันส์และดุเดือด ปรากฏต่อสายตาของสาธารณชนนับพัน ชนิดไม่ต้องปิดบังอำพรางใดๆอีกแล้ว เป็นภาพที่สะกดให้ทุกคนถึงกับตะลึงงัน

เหตุการณ์ที่ “ชายคู่นั้น” กอดจูบลูบคลำกันอย่างถึงพริกถึงขิง เป็นภาพสุดแสนจะคลาสสิค  แม้แต่ ดร.เสรี วงมณโฑ ผู้ถือว่าเป็นกลาง..ตัวจริงชัดเจน ก็ยังไม่กล้าจะทำชนิดเปิดเผย “ตรงไปตรงมา”ถึงขนาดนี้…ปลาไหลใส่กับนกกระจอกเทศ…อึ๋ยส์ !


ถือเป็นการเผยธาตุแท้ ตัวตนและความในใจของ “ชายคู่นั้น”ออกมาอย่างหมดเปลือก..โดยไม่ต้องเสียเวลาอธิบาย.. มันเหมือนต้องการจะเย้ยเยาะถางถากใครบางคน ที่ต้องแอบๆซ่อนๆกระทำการดังกล่าวให้ได้รับความอับอาย …

โดยหมายใจว่าหาก “เธอผู้นั้น” เปิดทีวีดูและได้เห็นเข้า “เธอ”จะต้องอิจฉาในความรัก ความเสน่หาอันน่าขนพองสยองเกล้าครั้งนี้เป็นแน่..



เมื่อฝุ่นจาง…

ฉากโรมรันพันตูอันแสนจะทรมานและโหด***มในความรู้สึกของผู้พบเห็น ยุติลง !
 

“สิวหัวช้าง”ของเสธ.หนั่นที่สู้อุตส่าห์ทนุถนอมมาแรมปี แตกกระจายไปหลายเม็ดอย่างที่ไม่มีวันจะเรียกกลับคืนมาเหมือนเดิมได้อีก…ด้วยพิษรักของนายบรรหาร

 

ส่วนช่างภาพชาย นักข่าวชาย และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดที่เป็นชายล้วนๆ  ต่างยืนนิ่ง ขาสั่น หน้าซีด เหงื่อแตกพลั่ก เกร็งไปทั้งตัว ต่างมองหน้าระวังหลัง..ทุกคนเริ่มหวาดระแวงซึ่งกันและกัน
ช่างภาพหนุ่มหล่อ..ละสายตาจากภาพของชายคู่นั้น แล้วค่อยๆหันไปมองนักข่าวประเภท “หญิงเหล็ก”นายหนึ่งที่ดัดจริตทาปากซะแดงแป๊ดเหมือนกกต.หญิงบางคน ด้วยสายตาแสดงความรู้สึกยากจะบรรยาย เสียงสั่น ปากสั่น พร้อมกับกระซิบว่า “ เจ๊…เจ๊ครับ ผะ..ผม ๆ ทนไม่ไหวแล้ว ๆ ช่วยผมด้วย”

สัญชาตญาณที่รู้ว่าภัยกำลังจะมาถึงตัว “หญิงเหล็ก”ผู้นั้นถอยหลังกรูดไปพิงกำแพงรั้ว พร้อมรีบวางอุปกรณ์การสัมภาษณ์ไว้ข้างๆอย่างไม่แยแส ทำเสมือนตกใจสุดขีด ระล่ำระลักว่า “โอ๊ว ๆ โนว์ ๆ  ไม่นะ  โอ...ก๊อด อย่านะ..อย่า ไม่จริ๊ง ไม่จริง” เธอร้องเบาๆ เอามือปิดหน้า  ทำท่าดิ้นทุรนทุรายอย่างน่าสงสาร เพื่อให้สอดรับเหตุการณ์ที่คาดว่าจะต้องเกิดกับเธอในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า คล้ายกับที่เกิดขึ้นระหว่างเสธ.หนั่นกับบรรหาร

หลังจากดิ้นทุรนทุรายคนเดียวอยู่สักพัก รู้สึกว่ามันนานผิดปกติ และไม่มีวี่แววว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น จึงหรี่ตามอง ก็เห็นช่างภาพหนุ่มยืนมองมาด้วยความหมั่นไส้ พร้อมตะโกนถามว่า “นี่..เจ๊ เป็นอะไรน่ะ”

“อ้าว แล้วตะกี้น่ะ ตัวเองคิดจะทำอะไรเจ๊ล่ะฮ๊า” เธอย้อนถามอย่างงอนๆเหมือนจะผิดหวังอะไรบางอย่าง

“ผมไม่ได้คิดจะทำอะไรเจ๊ กำลังจะบอกให้เจ๊ช่วยหาที่ “อ๊วก”ให้หน่อย มันทนไม่ไหวจริงๆ…จะบ้าเร๊อะ”

ขออนุญาตเรียกปรากฏการณ์ชนิดนี้ว่า “การผสมพันธุ์สะท้านโลก” หรือ “สยองโลก” ซึ่งไม่คิดว่าจะมีอีกแล้วในประเทศไหนๆ

น่าเกลียดทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ  สำหรับนักการเมืองไทย ! เป็นยุคที่ถือว่าเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของประชาธิปไตยเมืองไทย

เราได้เห็นพวกที่เรียกกันว่านักการเมืองพากันผสมพันธุ์ข้ามพรรคกันไปมา อุตลุด ฝุ่นตลบอยู่อย่างนั้น จนสะอิดสะเอียน

ภายในหนึ่งเดือนเท่านั้น นักการเมืองไทยคนเดียว สังกัดพรรคมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 พรรค......    ระเหเร่ร่อน....ยิ่งกว่าพวกสัมภเวสี..

 
มันเป็นปรากฏการณ์ “ห่ากินเมือง” หรืออย่างไร
พวกเราได้เห็นนักการเมืองอย่างนายเสนาะ นายบรรหาร นายสุเทพ เสธ.หนั่น นายชวน มาลอยหน้า  ลอยตาพูดชมพรรคตนเองว่าดี วิเศษ..อย่างชนิดไม่อายปาก

เราเห็นคนอย่างนายชูวิทย์ ออกมาด่าหัวหน้าพรรคอย่างนายบรรหารว่าเป็นปลาไหลไปผสมพันธุ์กับ นกกระจอกเทศอย่างเสธ.หนั่น โดยที่นายชูวิทย์นั้นก็ลืมไปว่าตัวเองก็เป็น “แมงดา”ที่ไปร่วมผสมพันธุ์กับปลาไหลมาก่อนแล้วเช่นกัน

เราเห็นคนอย่างนายเสนาะ เที่ยวบอกคนโน้นคนนี้ว่าชั่วว่าเลว ไม่ดี..แต่ดันลืมไปว่า ตนเองน่ะ ปัญญาอ่อนกว่าทุกคน..ทุกวันนี้ก็อยู่อย่างสุนัขจนตรอก

หลายคนภาวนาหรือพูดกันตรงๆว่าพากันแช่งชักหักกระดูกว่า เมื่อไหร่หนอ อ้ายพวกนี้มันจะตายๆให้พ้นๆโลกนี้ไปเสียที ! แผ่นดินมันจะได้สูงขึ้นมาบ้าง

แต่… มันก็ไม่ยอมตายกันซักที…หัวแข็งชะมัด  ทำไปทำมา คนแช่งอย่างเรา จะตายก่อน !

จึงพากันสงสัยว่า ยมบาลคงจะไม่อยากรับตัวคนเหล่านี้ไปอยู่ด้วย เพราะกลัวว่าจะทำให้นรกเกิดความ   ปั่นป่วน ร้าวฉาน ไม่สมานสามัคคี เมื่อลงนรกแล้ว จะย้ายไปนรกขุมโน้น ขุมนี้เรื่อยไป เป็นที่น่าระอายิ่งนัก

เป็นเพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้แหละ ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ “ห่ากินเมือง”อย่างนี้ ที่สร้างความเบื่อหน่ายให้กับประชาชนทั่วไป…

รัฐธรรมนูญโฉด... นักการเมืองชั่ว..อามิตตาพุทธ !!!

 


 :slime_worship:


หัวข้อ: Re: ปรากฏการณ์ “ห่ากินเมือง” เหนาะหนั่นหารเทือก มาลอยหน้าลอยตาพูดชมพรรคตนเอง
เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 15-11-2007, 15:09
แต่งนิยายเหรอครับ  :slime_bigsmile: