ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => ห้องสาธารณะ => ข้อความที่เริ่มโดย: ตะนิ่นตาญี ที่ 11-05-2006, 06:35



หัวข้อ: อีกครั้งกับ กกต.
เริ่มหัวข้อโดย: ตะนิ่นตาญี ที่ 11-05-2006, 06:35
สวัสดีครับเพื่อนๆทุกคน จากคำวินิจฉัยกลางของ ศาลรัฐธรรมนูญ
เมื่อวันจันทร์ที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ที่ผ่านมา
ศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีคำวินิจฉัยใน ๒ คำร้อง จาก ๔ คำร้อง
อันมีเนื้อหาสรุปได้พอสังเขปว่า

จากคำร้องที่ ๑ เรื่องระยะเวลาตาม พระราชกฤษฎีกาให้มีการจัดการเลือกตั้ง เป็นการดำเนินการ
ที่ไม่เที่ยงธรรมเอื้อประโยชน์แก่พรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลหรือไม่?

ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยกลางว่า “...ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว
ทำให้เกิดผลของการเลือกตั้งที่ไม่เที่ยงธรรม *ไม่ได้* ผู้แทนปวงชนอย่างแท้จริงตามระบอบประชาธิปไตย
 *อันนำไปสู่การเลือกตั้งที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ* ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒ มาตรา ๓
 และมาตรา ๑๔๔ วรรคหนึ่ง”

จากคำร้องที่ ๒ เรื่องการจัดคูหาเลือกตั้งที่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหันหน้าเข้าหาคูหาเลือกตั้งและหันหลัง
ให้คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งและประชาชนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งกับบุคคลภายนอกที่มา
สังเกตุการณ์เลือกตั้งหน้าหน่วย เป็นการละเมิดหลักการเรื่องการลงคะแนนซึ่งจะต้องดำเนินการโดยใช้
วิธีการออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ ตามมาตรา ๑๐๔ วรรคสามนั้น กกต. กระทำการขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ในมาตรา ๑๐๔ วรรคสาม หรือไม่?

ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยกลางว่า “รูปแบบการจัดคูหาเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
เมื่อวันที่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๙ นั้น ทำให้การลงคะแนนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งอยู่ในระยะห่างที่กรรมการ
เลือกตั้งประจำเขต อันมี *ผู้แทนพรรคการเมือง* ที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น หรือที่ส่งสมัคร
แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งถือว่า *เป็นผู้มีส่วนได้เสีย* ในการเลือกตั้งร่วมเป็นกรรมการอยู่ด้วยอยู่ในวิสัยที่สามารถมองเห็นการลงคะแนนของ
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ การจัดคูหารูปแบบใหม่นี้จึงมีผลทำให้การลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรดังกล่าว
*ไม่เป็นการลงคะแนนโดยลับ* ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๐๔ วรรคสาม บัญญัติไว้”


เพื่อนๆครับ จากคำวินิจฉัยกลางของ ศาลรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้กระบวนการเลือกตั้งตั้งแต่ต้นจนถึง
การประกาศผลการเลือกตั้งของคณะกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
และแบบบัญชีรายชื่อต้อง *เสียไป* ด้วย

คำถามต่อมาก็คือ “ใครต้องรับผิดชอบ?” ต่อผลแห่งการ “เสียไป” ของการเลือกตั้ง?
และกกต. ควรหรือไม่ที่จะอยู่ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งต่อไป?
ตรงนี้ *สำหรับผมแล้ว* ตอบได้ไม่ต้องคิด คณะกรรมการตุลาการทั้งสี่คนต้องรับผิดชอบและลาออกไปครับ


หัวข้อ: Re: อีกครั้งกับ กกต.
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 11-05-2006, 06:50
นักวิชาการของศาลฎีกา ท่านออกมาเสนอความคิดเห็นแล้ว ขอให้ กกต. พิจารณาตนเอง

เพราะหาก กกต. จะใช้วิธี "ฟอกตัว" แบบอื่น เช่น เชิญศาลมาเป็นผู้ช่วย ตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่

เพื่อให้ดูเป็นกลางมากขึ้น สะอาดมาขึ้น...

แต่ทาง กต. อาจจะไม่อนุญาตให้ผู้พิพากษามาช่วยก็ได้เพราะไม่อาจรับกับความเสียหายหากเกิดขึ้นภายหลัง

นับว่าเป็นการแสดงเจตนาอย่างแจ้งชัดว่า ไม่สนับสนุนให้ กกต. อยู่ต่อไป

การเสนอแนะก็บอกไบ้แบบผู้ดีสุด ๆ แล้ว

เพราะศาลท่านทราบดีว่า หากมีการดำเนินการ"ถอดถอน" ตามรัฐธรรมนูญนั้น

มันต้องอาศัยเวลาและต้องมีผู้ร้องไปตามกระบวนการ

การเสนอแนวทางให้ลาออกนั้น นับเป็นการชี้เหตุอันควรบรรเทาโทษไว้ก่อน

เพราะยังมีอีก 2 ศาล ที่ยังรอผลการวินิจฉัย คือศาลปกครองและศาลฎีกา

หากปล่อยเนิ่นช้าไป ผมเกรงว่าประเทศชาติจะเสียหายไปมากกว่านี้

การที่ศาลท่านให้เลือกตั้งภายใน 60 วัน คิดว่าประเด็น"เงื่อนเวลา" นี้ ท่านเกรงจะมีปัญหา หากมีการลาออกในภายหลัง

ในช่วงนี้ผมคิดว่า กกต. กับรัฐบาล อาจช่วงชิงการนำ ด้วยการเลือกวันเวลาเลือกตั้ง ในระดับที่ทำให้การสรรหาใหม่ไม่ทันการก็เป็นได้

ผมมองแง่ร้ายไว้ยังงี้ก่อนครับ


หัวข้อ: Re: อีกครั้งกับ กกต.
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 11-05-2006, 06:57
ผมฝากประเด็นคุณหมอประเวศ วสี ไว้ตรงนี้เป็นข้อมูลเสริมละกัน
..........................................................................

“หมอประเวศ” แนะตั้ง กก.กลางดูการเลือกตั้ง ชี้หากเป็น กกต.ลาออกไปนานแล้ว  
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 พฤษภาคม 2549 22:33 น.

(http://pics.manager.co.th/Images/549000007159701.JPEG)
 
  “หมอประเวศ” แนะตั้งคณะกรรมการกลางดูแลการเลือกตั้ง เพื่อให้ประชาชนเชื่อถือการเลือกตั้ง ชี้ถ้าเป็น กกต.คงลาออกไปนานแล้ว เพราะอยู่ไปคนก็ดูถูก ลาออกอย่างมีเกียรติดีกว่าให้เขาดูถูก ชี้ระบอบทักษิณสร้างปัญหามาก ยังไม่เคยมีการพิสูจน์ น่าจะตั้ง คกก.มาพิสูจน์ความจริงเพื่อประโยชน์ของสังคม

 
นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวถึงการการที่ศาลมีคำตัดสินให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมาเป็นโมฆะและให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ใหม่ว่า การเลือกตั้งครั้งใหม่จะต้องเป็นการเลือกตั้งที่ถูกต้องและยุติธรรม เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมาหลายฝ่ายรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งที่จัดขึ้นเร็วเกินไป พรรคฝ่ายค้านก็ตั้งตัวไม่ทัน ดังนั้น เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าร่วม การเลือกตั้งครั้งใหม่ต้องทำให้ถูกต้อง ยุติธรรม อย่าเอาเปรียบ และคิดถึงคนอื่นด้วย ปัญหาก็จะหายไป

       “ถ้าผมเป็นพรรครัฐบาลจะไปคุยกับพรรคฝ่ายค้านว่าพร้อมหรือไม่ ลำพังเฉพาะเงินทุนก็ต่างกันมากอยู่แล้ว อีกฝ่ายมีเป็นหมื่นล้านแสนล้าน แต่อีกฝ่ายมีเท่าไหร่ไม่รู้ ซึ่งการแข่งขันจะต้องแข่งแบบเท่าๆกัน ขณะที่การเลือกตั้งก็ต้องมีความยุติธรรม ที่สำคัญ กกต.ขณะนี้ถูกกล่าวหาว่าไม่เป็นกลาง รัฐบาลถูกโจมตีว่าใช้กลไกของรัฐเอาเปรียบผู้ต่อสู้ รวมไปถึงสื่อของรัฐเอียงข้างหรือเป็นกลาง เพราะทุกเรื่องย่อมมีผลกับการเลือกตั้ง”
 
 


หัวข้อ: Re: อีกครั้งกับ กกต.
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 11-05-2006, 06:59
นพ.ประเวศ กล่าวต่อว่า สำหรับ กกต.นั้น หากมีการลาออก การตั้งใหม่ก็ต้องให้ดีกว่าเดิม แต่หากไม่ลาออกต้องมีกลไกอื่นเข้ามาผสม เช่น ศาล องค์กรกลาง เพื่อเป็นการรับประกันความน่าเชื่อถือ แต่ถ้าหากทำวิธีอะไรแล้วสังคมยังไม่เชื่อถือ ขอเสนอให้นายกรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบการเลือกตั้ง โดยเชิญผู้ที่เป็นกลาง มีอิสระ และสังคมให้ความเชื่อถือ มาเป็นประธาน เพื่อเลือกคณะกรรมการมาทำงาน โดยรัฐบาลให้ทั้งงบประมาณและอำนาจในการตรวจสอบ คล้ายกับการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ แต่ต้องให้อำนาจ จะทำให้ประชาชนเชื่อใจในกระบวนการเลือกตั้งมากขึ้น
       
       ต่อกรณีที่มีการเสนอให้ กกต.ลาออกเพื่อรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น นพ.ประเวศ กล่าวว่า ไม่ชอบวิธีกดดันใคร เชื่อในเรื่องจิตสำนึกมากกว่า หากทำแล้วคนไม่เชื่อถือ เขาดูถูก ถ้าตนเป็น กกต.ตนลาออกดีกว่า การลาออกมีเกียรติกว่าการอยู่ไปให้เขาดูถูก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตนเรียกร้องให้ กกต.ลาออก ซึ่งหากสภาพการณ์ยังเป็นอยู่อย่างนี้และยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการเลือกตั้ง ก็อาจจะมีปัญหาเหมือนการเลือกตั้งที่ผ่านมา
       
       “ระบอบทักษิณเป็นระบอบที่มีปัญหามาก ที่ผ่านมายังไม่เคยมีการพิสูจน์ข้อกล่าวหาทั้งหมด แต่นายกรัฐมนตรีกลับให้วิธีหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด ดังนั้น เพื่อพิสูจน์ให้ความจริงปรากฏ ควรมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อแสวงหาความจริง เพื่อพิสูจน์ข้อกล่าวหา ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะได้ประโยชน์ เพราะหากเรื่องที่กล่าวหาไม่จริงก็ถือเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่หากไม่มีการพิสูจน์ข้อกล่าวก็อาจจะทำให้คนไม่เชื่อถือและจะมีการโนโหวตอีก” นพ.ประเวศ กล่าวในที่สุด


หัวข้อ: Re: อีกครั้งกับ กกต.
เริ่มหัวข้อโดย: ตะนิ่นตาญี ที่ 11-05-2006, 07:01
สวัสดีครับ คุณแคน ขออนุญาตคิดต่อครับ

คุณแคน ครับ หากเราตั้งสมมุติฐานกันว่า

ถ้า กกต. ลาออก กระบวนการในการสรรหา กกต.

คงใช้เวลาประมาณ ๔๕ วัน บวกลบ ๑๕ วัน

และเมื่อได้ กกต. ชุดใหม่ก็จะใช้เวลาในการประกาศ

พระราชกฤษฎีกาขยายเวลาในการเลือกตั้งอีก ๖๐ วัน

ซึ่งนั่นก็คือ *การปลดล็อค* ๙๐ วัน

ผมคิดว่า ทรท. แพแตกแน่ครับ

ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายใน ทรท. คงไม่มีใครยอมแน่ครับ

นั่น *อาจจะ* เป็นเหตุผลหนึ่งของการไม่ยอมลาออก

ของ กกต. ก็เป็นได้ครับ คุณแคน ครับ


หัวข้อ: Re: อีกครั้งกับ กกต.
เริ่มหัวข้อโดย: snowflake ที่ 11-05-2006, 07:50
คิดเหมือนคุณ ตะนิ่นตาญี ค่ะ

ว่าที่ยังออกไม่ได้ตอนนี้ เพราะมีคนอยาก "รีบ" ทำให้เสร็จอีกแล้ว

ถึงพรรคไม่แตก แต่ก็อาจเล็กลงอย่างมีนัยสำคัญ

แบบนั้นยอมไม่ได้อยู่แล้ว  :lol:


หัวข้อ: Re: อีกครั้งกับ กกต.
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 11-05-2006, 08:34
มันจะไม่ใช่ 45 วันนะซีครับ เราก็รู้ฤทธิ์ สว.ชุดนี้อยู่แล้ว ( อาจมีคณะอนุกรรมกาตรวจสอบคุณสมบัติ )

ที่จริงก็อยากเห็นฝีมือการคัดสรรของศาลฎีกาเหมือนกัน

ครั้งที่แล้วคนมองว่า ท่านผู้พิพากษา ที่เป็น กกต. ( ที่เสียชีวิตไป ) มาจากสาย ศาลฎีกา

ไม่ใช่ครับ ท่านมาจากสายคัดสรรของคณะกรรมการสรรหา

ส่วนท่านปริญญา กลับมาจากสายการสรรหาของฝ่ายศาล ( สลับขั้วพิลึกกึกกือ )

อย่างที่บอกนั่นแหละครับ เมื่อทางไม่ตันก็ต้องเดินไป ช้า ๆ แต่ชัวร์

กลัวแต่ว่า คนเว้นวรรคจะทนรอไม่ไหวนั่นแหละครับ

เพราะอำนาจเป็นสิ่งเสพติด


หัวข้อ: Re: อีกครั้งกับ กกต.
เริ่มหัวข้อโดย: Killer ที่ 11-05-2006, 09:12
กกต. คือเหยื่อของสถานการณ์ มองและคิดได้แค่นี้