ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

ทั่วไป => สภากาแฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: snowflake ที่ 20-10-2007, 07:48



หัวข้อ: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: snowflake ที่ 20-10-2007, 07:48
บังเพี้ยน ซื้อไม่ผิด / กกต. อ้างเรื่องสมยอม

ไทยโพสต์ 20 ตุลาคม 2550

"สนธิ" เตรียมเข็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ อวดต่างชาติ  

พิโธ่! ประธานวาระแห่งชาติฯ ตอบเสียงดังฟังชัดว่า ซื้อ ส.ส. หัวละ 40  ล้าน
"มันผิดตรงไหน"
กกต. ก็เฉย อ้างเป็นเรื่อง  "สมยอม" รอข้อมูลมาประเคน ถึงจะดำเนินการ  


พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการดำเนินการตาม
วาระแห่งชาติ ว่าด้วยการรณรงค์และแก้ปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ให้สัมภาษณ์
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2550 ภายหลังตรวจเยี่ยมกระทรวงการต่างประเทศ ว่า ต้อง
ทำความเข้าใจกับสังคมนานาชาติก่อนว่า ประชาธิปไตยจริงๆ แล้วมันประกอบด้วย
อะไรบ้าง ซึ่งแต่ละประเทศมีประชาธิปไตยของใครของมัน ของสหรัฐก็เป็นแบบหนึ่ง
อังกฤษก็แบบหนึ่ง ของไทยก็เป็นแบบหนึ่ง ฉะนั้นจะเอาของไทยให้เหมือนชาติใด
ชาติหนึ่งไม่ได้ ดังนั้น การอธิบายต้องอธิบายคำว่า "ประชาธิปไตย" ว่าประกอบด้วย
อะไรบ้าง

"ส่วนของเราก็เป็นประชาธิปไตยแบบของเรา ปัญหาที่ผ่านมาเมื่อปีที่แล้วต้องถามว่า
ตอนนั้นเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ ฉะนั้นนำมาสู่ประชาธิปไตยก็คือการเลือกตั้ง ซึ่งก็
ต้องดูว่า การเลือกตั้งเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงหรือไม่ ถ้าไม่
อย่างนั้น มันก็ไม่สมบูรณ์ เราต้องหาวิธีการทำให้ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ของเรา
สมบูรณ์ สอดคล้องกับประชาธิปไตยที่สากลเขายอมรับ" พล.อ.สนธิกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ออกมาระบุว่า
มีการซื้อตัวนักการเมืองในราคาสูงถึงหัวละ 40 ล้านบาท จะจัดการอย่างไร

ประธานกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติ ว่าด้วยการรณรงค์และแก้ปัญหาการ
ซื้อสิทธิ์ขายเสียง ตอบว่ามันผิดตรงไหนตนยังไม่รู้ ต้องไปดูทางกรรมการการเลือกตั้ง
(กกต.) ว่ามันผิดกฎหมายตรงไหน และการดูดเราจะรู้ยังไงว่าดูด และคณะกรรมการฯ
ที่ตนเป็นประธานก็กำลังจัดระเบียบอยู่ ต้องมาดูว่าการทำอย่างนี้มันผิดหรือไม่

"มันก็เป็นเรื่องหนักใจ ประเทศไทยเราก็บอกแล้วไงคือประเทศไทยของเรา คำว่า
ประชาธิปไตยแบบไทยเราต้องศึกษาข้อเท็จจริง" พล.อ.สนธิกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเข้าสังกัดพรรคการเมืองเพื่อทำงานการเมือง พล.อ. สนธิบอกว่า
ยังๆ ตอนนี้ ถามว่าเป็นนักการเมืองหรือเปล่า-คงไม่ใช่ ตนมาช่วยบริหารประเทศ
เพื่อให้กลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย

เมื่อซักว่า มีบางพรรคการเมืองทาบทามให้เข้าสังกัด แต่ให้ตกลงกันก่อนระหว่าง
พล.อ.สนธิ กับ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม  พล.อ.สนธิ
ตอบว่า ใครเป็นคนพูด มาหาหน่อยอยากเจอ

นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านการบริหารการเลือกตั้ง
กล่าวถึงกระแสข่าวที่มีการซื้อตัว ส.ส. หัวละ 40 ล้าน ว่า การจะดำเนินการใดๆ เรา
ต้องมีข้อมูล แต่ตอนนี้มีเพียงข่าว แต่หากใครมีข้อมูล ถ้าส่งมาให้เราก็จะพิจารณา
ดำเนินการ

"แต่หากเป็นเพียงข่าว เราต้องดูความชัดเจนอีกครั้ง ไม่ใช่ใครพูดอะไรมานิด ก็ต้อง
เข้าไปดำเนินการโดยไม่รู้ที่มาที่ไป บางทีพูดมาจะให้เราไปตรวจบัญชีธนาคารทันที
ก็จะกระทบสิทธิ์เขาเหมือนกัน และเรื่องนี้เป็นเรื่องการสมยอม แต่หากมีหลักฐานก็จะ
พิจารณา" นายประพันธ์กล่าว

http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=20/Oct/2550&news_id=149881&cat_id=501

ไม่ใช่มั้งคะทั่น
ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ที่ไหนกัน
ที่ทั่นว่ามานั้น มันประชาธิปไตย “แบบบังๆ” ต่างหาก


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: รวงข้าวล้อลม ที่ 20-10-2007, 08:06
ขอมองต่างมุมสักนิดนะคะ  ประชาธิปไตยที่แท้จริง   ไม่มีของใครหรอกค่ะ

การที่เราจะให้ใครเขามองประชาธิปไตยในทางที่ถูกต้อง  เป็นธรรมมาธิปไตย

เราต้องแสดงสปิริต  การมองแบบไม่มีเจ้าของก่อนค่ะ  เพราะว่าไปแล้วเจ้าของที่แท้จริงคือ  ประชาชนคนไทยทุกคน


ถ้าจุดยืนในการมองถูก  อะไรๆที่ตามมาก็ถูกไปเองล่ะค่ะ


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: irq5 ที่ 20-10-2007, 08:44
 :slime_bigsmile:

แอบด่ากระทบใครปะเนี่ย

เรื่อง ซื้อตัว สส.

เรื่องขายตัวแบบนี้ ต้องถาม ชูวิด


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 20-10-2007, 14:07
ประโยคพาดหัว กับ เนื้อข่าว ไม่สอดคล้องกันนะครับคุณ snowflake

"บังเพี้ยน ซื้อไม่ผิด / กกต. อ้างเรื่องสมยอม"

ผมอ่านดูแล้วไม่เห็นว่าบังจะเพี้ยนตรงไหน และบังไม่ได้พูดว่า "ซื้อไม่ผิด"
แค่บอกไม่รู้ว่าผิดตรงไหน ซึ่งต้องไปดูทาง กกต. จะว่าอย่างไรกับเรื่องนี้

ส่วนที่ว่า กกต. อ้างเรื่องสมยอม เขาก็ไม่ได้บอกเลยว่าสมยอมแล้วไม่ผิด
แต่บอกว่ายังไม่มีหลักฐาน ใครมีหลักฐานก็ส่งไปสิครับ ว่าใครซื้อใครขาย
จ่ายกันที่ไหนอย่างไร เขาจะได้จัดการ

ก็เหมือนเรื่องตอนจ้างพรรคเล็กลงสมัคร ถ้าไม่มีใครให้หลักฐานมีแต่ข่าวลือ
เขาจะไปดำเนินการอะไรได้ แต่พอมีข้อมูลว่าใครจ้างใครรับจ้าง จ่ายเงินกัน
ที่ไหนอย่างไรเรื่องก็ไปตามกระบวนการ จนมีพรรคถูกยุบจำได้ไหมครับ


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Şiłąncē Mőbiuş ที่ 20-10-2007, 16:19
ในสายตาของเฟค ทุกอย่างที่ไม่ตรงกับเรื่องที่ตัวเองคิดนั้น ผิดหมด :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 20-10-2007, 16:26


ในสายตาของเฟค ทุกอย่างที่ไม่ตรงกับเรื่องที่ตัวเองคิดนั้น ผิดหมด :slime_bigsmile:

เอ๊ะ ต้องใช้แว่นช่วยตลอดเวลาไม่ใช่เหรอ หากอยู่ในดวงตา อาจจะต้องผ่าตัด.. :slime_doubt: :slime_cool: :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 20-10-2007, 16:59
ตอนบังปฎิวัติใหม่ๆ มีข้อเสนอรูปแบบประชาธิปไตยมากมายหลาบแบบ
สุดท้ายก็ได้ ประชาธิปไตยแบบตัวแทนที่รัฐธรรมนูญกำหนด
และผ่านการลงประชามติมาแล้ว

แต่ก็นั่นแหละ ระบอบที่ครอบลงบนสังคมที่ความเห็นแก่ตัวเป็นใหญ่
ระบอบใหนก็ไม่เหมาะ

เพราะระบอบประชาธิปไตยที่ดี ต้องมาจากความไม่เห็นแก่ตัว ทั้งฝ่ายประชาชนและผู้รับอาสาเข้าไปเป็นตัวแทน


บทความประกอบ

เราจะเอาประชาธิปไตยแบบใหนดี
ประชาธิปไตยแต่ในนาม....เนื้อหากับรูปแบบ...หัวแหลมกับหัวเหลี่ยม
http://www.weopenmind.com/board/index.php?topic=3902.0


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: meriwa ที่ 20-10-2007, 17:06
ประชาธิปไตยแบบเห็นแก่ตัว 5555 :slime_bigsmile: ใช่เลยลุงแคน


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: snowflake ที่ 20-10-2007, 18:55
ตอนบังปฎิวัติใหม่ๆ มีข้อเสนอรูปแบบประชาธิปไตยมากมายหลาบแบบ
สุดท้ายก็ได้ ประชาธิปไตยแบบตัวแทนที่รัฐธรรมนูญกำหนด
และผ่านการลงประชามติมาแล้ว

เพ้อเจ้อ
คิดเหรอว่า "เขา" ยอมให้เราเลือก
"เขา" เลือกให้เราต่างหาก
ชาวบ้านอยากได้อะไร "เขา" ไม่สนใจหรอก
"เขา" ก็บังคับเอา แบบที่ "เขา" ต้องการ
เท่านั้นเอง


 :slime_sleeping:


หัวข้อ: หลังรัฐประหาร : ประชาธิปไตยจัดตั้ง
เริ่มหัวข้อโดย: snowflake ที่ 20-10-2007, 20:05
หลังรัฐประหาร : ประชาธิปไตยจัดตั้ง

รศ.ดร.ผาสุก พงษ์ไพจิตร
อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

       สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ล้วนแต่มีที่มาจากอดีตแทบทั้งสิ้น เหมือนกับ เหตุการณ์
"รัฐประหาร 19 กันยา 2549"
นั้น ถ้าย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์การเมืองไทย
ร่วมสมัยช่วง 6 ตุลาคม 2519 จะสามารถบ่งบอกแนวโน้มการเมืองไทยช่วง 19
กันยา 2549 ได้เป็นอย่างดี

       กล่าวคือ กลุ่มต่างๆ ที่สนับสนุนรัฐประหารเมื่อ 6 ตุลา 2519 นั้น มีความ
คล้ายคลึงกับกรณี 19 กันยา 2549 เป็นอย่างมาก ณ ขั้วหนึ่ง คือ ฝ่ายนิยมศักดินา
กองทัพ และชนชั้นกลางเมือง
และอีกขั้วหนึ่ง คือ กลุ่มอื่นๆ ซึ่งจำนวนมากที่สุด
มาจาก "มวลชนชนบท "

       ทั้งในกรณีของ 6 ตุลาและ 19 กันยา รัฐประหารเป็นปฏิกิริยากับการเมือง
มวลชนที่มีชนบทเป็นฐานสำคัญ  เมื่อปี พ.ศ. 2519 คนกรุงเทพฯ กลัวพรรคคอม-
มิวนิตส์ และโยงใยกับรัฐบาลสังคมนิยมที่ประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับขบวนการ
ชาวนาที่เรียกร้องการปฏิรูปที่ดินและ การแก้ปัญหาหนี้สิน และขบวนการนักศึกษา
ที่เข้าข้างมวลชนชนบท

       ในปี พ.ศ. 2549 คนกรุงเทพฯ ก็รู้สึกถูกคุกคามเป็นอย่างยิ่ง และในครั้งนี้นั้น
คนกรุงก็กลัวผู้นำและพรรคการเมือง (พรรคไทยรักไทย) ที่ได้สร้างฐานการเมือง
มวลชนที่อีสานและภาคเหนือ แถมยังประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวดจากชุด
นโยบายประชานิยมที่จับใจผู้คนเป็นที่สุด และ ยังสัญญาจะให้มากกว่านี้อีก


       พ.ศ. 2519 ที่กรุงเทพฯ ถูกวางระเบิด โดยผู้ประสงค์ร้ายตั้งใจให้คนธรรมดา
ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้เพื่อสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด   พ.ศ. 2549 ก็มีการวาง
ระเบิดในที่สาธารณะก่อนวันปีใหม่เพียงวันเดียว ทำให้เห็นความคล้ายคลึงกันอย่าง
ช่วยไม่ได้

       การเมืองหลังรัฐประหาร 2519 บ่งชี้แนวโน้มการเมืองไทยหลังปี 2549

       หลัง 2519 เกิดสูตร ‘ประชาธิปไตยจัดตั้ง’ มีองค์ประกอบ 3 ส่วน คือ

1. ร่างรัฐธรรมนูญ ที่ดูเหมือนเป็นประชาธิปไตยในรูปแบบ แต่ป้องกันไม่ให้พลัง
    มวลชนมีอำนาจเหนือข้าราชการ
2. กองทัพเข้ากำกับกิจกรรมการเมืองทุกระดับ และ
3. การรณรงค์เพื่อสร้างความสามัคคีในชาติ

และเราก็ได้เห็นทั้งสามองค์ประกอบนี้หลัง 19 กันยา 2549

       รัฐธรรมนูญที่ประกาศใช้ในปี 2522 สถาปนารัฐสภาประชาธิปไตยอีกครั้ง
แต่นายกฯไม่ต้องมาจากการเลือกตั้ง วุฒิสภามาจากการแต่งตั้งทั้งหมด และมีสิทธิ
ยับยั้งกฎหมายเกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจ งบประมาณ ความมั่นคง และการอภิปราย
ไม่ไว้วางใจรัฐบาล

       ดังนั้นกองทัพจึงเป็นผู้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเป็นเวลาถึง 9 ปี จาก 2523 จน
ถึง 2531 และนายทหารระดับสูงเข้าดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล (มหาดไทย
กลาโหม ต่างประเทศ) วุฒิสภาเต็มไปด้วยนายทหาร ข้าราชการระดับสูงและพรรค-
พวก ทำให้นายกฯที่มาจากกองทัพมีฐานะมั่นคงยิ่ง
   
       เราได้เห็นความพยายามของคณะมนตรีความมั่นคง (คมช.) และรัฐบาลหลัง
19 กันยา ที่จะส่งอิทธิพลต่อร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ให้มีลักษณะคล้ายคลึงกับฉบับ
2522 แต่ไม่สามารถดึงดันจนถึงที่สุด จึงต้องประนีประนอมโดยยอมให้นายกฯมา
จาก ส.ส. และสมาชิกวุฒิสภาแต่งตั้งครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งมาจากการเลือกตั้ง

       แต่คณะรัฐประหาร 19 กันยา ณ จุดนี้ประสบความสำเร็จในการลดบทบาทของ
รัฐสภา และพรรคการเมือง กล่าวคือ ในรัฐธรรมนูญ 2550 มีข้อกำหนดซึ่งลดอำนาจ
ของนายกฯ ทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ แต่ให้อำนาจศาลสูงขึ้น

       ทั้งนี้เป็นที่สังเกตว่า หลังจากการเกิดรัฐประหารแล้วเกือบทุกครั้งจะต้อง
เกิดประชาธิปไตยจัดตั้งขึ้น!?


http://www.innnews.co.th/exclusive/view.php?searchkey=2&Newspaper_ID=23&Column_ID=43&Column_Name=%B4%C3.%BC%D2%CA%D8%A1+%BE%A7%C9%EC%E4%BE%A8%D4%B5%C3&Is_Relative=N


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 20-10-2007, 20:13
แน่นอน..มันต้องจัดตั้ง ประวัติศาสตร์มันบอกเช่นนั้น
เพราะไม่มีทางที่จะปล่อยให้ใช้เงินซื้อเสียงเพื่อเข้ามาคอรัปชั่นอำนาจกันง่าย ๆ

การคิดจะไล่ทรราชออกไปแต่ละครั้ง ประเทศชาติสูญเสียโอกาสไปมากเท่าไหร่
หากปล่อยไว้ ยิ่งจะเสียหายหนักกว่าที่คิด

การถอยหลัง เพื่อกลับมาปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม สร้างสังคมให้สงบสันติ
หารอยยิ้มให้กับประชาชน ที่สับสนเพราะคนๆ เดียวมาก่อนหน่านั้น

ช้าหน่อย..แต่ประชาชนก็รอคอยได้
ขณะเดียวกัน ก็มีโอกาสป้องกันนักการเมืองชอบขายตัว ให้อยู่ในอาณัติ ก็ชอบแล้วนี่ครับ
จะเป็นพรรคใหน พวกใหน ที่สุดมันก็ยังได้ผู้แทนเน่า ๆ อยู่ดี

แต่เราก็มีวิธีกำจัดนักการเมืองน้ำเน่าได้ไม่ยาก
ด้วยระบบตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้น...ดูซิว่า พวกโกงกินมันจะอยู่ได้มั๊ย


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 20-10-2007, 20:30
ขอโพสต์บทความเรื่อง "ความไม่รู้เรื่องประชาธิปไตย" โดยคุณ ภุมตโจ ใน "ยังไงก็ไม่ชิน" ให้อ่านเป็นตัวอย่างสัก 2 หน้า

(http://i171.photobucket.com/albums/u311/aiwen_mei/democracy1.jpg)
(http://i171.photobucket.com/albums/u311/aiwen_mei/democracy2.jpg)

 :slime_agreed: :slime_v: :slime_agreed:







หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: snowflake ที่ 20-10-2007, 21:23
ใครจะพอใจระบอบเทวดา/ศักดินา ก็เชิญตามสบาย
เสรีภาพส่วนบุคคล บังคับกันไม่ได้

แต่ไม่ควรบิดเบือนว่าคือ ระบอบประชาธิปไตย
หรืออำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน
ให้เกิดความสับสน

ระบอบที่คนกลุ่มเล็กๆ ใช้อำนาจนอกระบบ เข้าแทรกแซง /กำกับ
โดยไม่เคารพกติกา และผู้แทนที่คนส่วนใหญ่เลือกมา
ไม่มีที่ไหนเรียกว่า ประชาธิปไตย
และไม่มีหัวเหลี่ยมหัวกลมอะไร
เลิกบิดเบือนได้แล้ว


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: RiDKuN ที่ 20-10-2007, 21:37
ว้า เค้าก็อุตส่าห์ให้ลงประชามติ จนประชาชนส่วนใหญ่เขารับรัฐธรรมนูญใหม่แล้ว ก็ยังบ่นไม่เลิกอีก
สงสัยเลือกตั้งเสร็จก็ยังคงบ่นต่อไปละมั้ง


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 20-10-2007, 21:44
สมกับเป็น "ป้าเฟ็ค" จริง ๆ ไม่ทราบใครเอ่ยตั้งฉายานี้ให้  อิอิ :mrgreen: :slime_smile2: :mrgreen:


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: cameronDZ ที่ 20-10-2007, 21:55
ถ้าป้าเฟค (เรียกตามเขา) มาเป็นลูกศิษย์เรียนในคลาสผม

ผมเห็นจะต้องเชิญออกจากห้อง บอก...
เธอไม่ต้องเรียนแล้ว ดื้อจนครูเอาไม่อยู่
เอาเกรด B ไปแล้วกัน ไม่ต้องเรียนก็ได้
ครูกลัวเธอ.....

 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

แบบ เถียงไปได้เรื่อย ๆ ไม่ฟังใคร
คงบอกสอนอะไรไม่ได้แน่


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ ที่ 20-10-2007, 22:00
ใครจะพอใจระบอบเทวดา/ศักดินา ก็เชิญตามสบาย
เสรีภาพส่วนบุคคล บังคับกันไม่ได้

แต่ไม่ควรบิดเบือนว่าคือ ระบอบประชาธิปไตย
หรืออำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน
ให้เกิดความสับสน

ระบอบที่คนกลุ่มเล็กๆ ใช้อำนาจนอกระบบ เข้าแทรกแซง /กำกับ
โดยไม่เคารพกติกา และผู้แทนที่คนส่วนใหญ่เลือกมา
ไม่มีที่ไหนเรียกว่า ประชาธิปไตย
และไม่มีหัวเหลี่ยมหัวกลมอะไร
เลิกบิดเบือนได้แล้ว


อะไรครับระบอบศักดินา เค้าเลิกใช้มากี่ปีแล้วครับ  บ้ารึปล่าว ปั่นกันเองในกลุ่มคนรักทักษิณทั้งนั้นว่าจะมีระบอบศักดินา
ขอโทษนะครับมันเป็นเรื่องจินตนาการน้ำแตก ทั้งนั้น  อกหักจาก รธน50 ยังเพ้อไม่เลิกอีก เพ้อเจ้อ 5555+ :slime_smile2: :slime_smile2:


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 20-10-2007, 22:05
คอมมูนิสต์ เค้าก็บอกเค้าเป็นประชาธิปไตย เพราะมีเลือกตั้ง มีสภาเหมือนกัน

สังคมนิยม เค้าก็บอกว่าเป็นประชาธิปไตย เพราะมีเลือกตั้งเหมือนกัน

อเมริกา มีประธานาธิบดี มีสภา มีเลือกตั้ง เค้าก็บอกว่าเป็นประชาธิปไตยเหมือนกัน

อิหร่าน เค้ามีหลักศาสนาเป็นใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ เค้าก็มีเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตยเหมือนกัน

ประชาธิปไตยของฉัน เผด็จการของเธอ วิธีคิดแบบนี้แหละมันตีกันตาย

ลองไปเสิร์ชคำว่าประชาธิปไตยสิ มันมีตั้ง สิบ ๆ แบบ แล้วแต่จะเลือกเอา

แต่คนไทยเลือกระบอบรัฐสภาซึ่งมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แค่นั้นเอง


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 20-10-2007, 22:07
ถ้าป้าเฟค (เรียกตามเขา) มาเป็นลูกศิษย์เรียนในคลาสผม

ผมเห็นจะต้องเชิญออกจากห้อง บอก...
เธอไม่ต้องเรียนแล้ว ดื้อจนครูเอาไม่อยู่
เอาเกรด B ไปแล้วกัน ไม่ต้องเรียนก็ได้
ครูกลัวเธอ.....

 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

แบบ เถียงไปได้เรื่อย ๆ ไม่ฟังใคร
คงบอกสอนอะไรไม่ได้แน่

"ป้าเฟ็ค" อาจจะร้อง "หนูไม่ยอม ๆ "   :slime_smile2:

"อาจารย์ทำอย่างนี้ไม่ได้นะคะ เพราะไม่เป็นประชาธิปไตยค่ะ"  :mrgreen: ฮา...  :slime_smile2:



หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ ที่ 20-10-2007, 22:35
ประชาธิปไตย กันจัง ไหนลองไปโวยวายกับเจ้าของบริษัทที่ตังเองทำงานอยู่หน่อยสิว่าจะได้ผลหรือเปล่า1เสียงของคุณ
ไปโวยวายกับตำรวจสักหน่อย 1 เสียงของคุณ  บ้าแท้ๆ คุณรู้จักประชาธิปไตยดีแล้วหรือ วันนี้คุณขับรถตามกฏจราจรหรือยัง
ถามตัวเองดู :slime_smile:


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: jerasak ที่ 20-10-2007, 22:53
ประโยคพาดหัว กับ เนื้อข่าว ไม่สอดคล้องกันนะครับคุณ snowflake

"บังเพี้ยน ซื้อไม่ผิด / กกต. อ้างเรื่องสมยอม"

ผมอ่านดูแล้วไม่เห็นว่าบังจะเพี้ยนตรงไหน และบังไม่ได้พูดว่า "ซื้อไม่ผิด"
แค่บอกไม่รู้ว่าผิดตรงไหน ซึ่งต้องไปดูทาง กกต. จะว่าอย่างไรกับเรื่องนี้

ส่วนที่ว่า กกต. อ้างเรื่องสมยอม เขาก็ไม่ได้บอกเลยว่าสมยอมแล้วไม่ผิด
แต่บอกว่ายังไม่มีหลักฐาน ใครมีหลักฐานก็ส่งไปสิครับ ว่าใครซื้อใครขาย
จ่ายกันที่ไหนอย่างไร เขาจะได้จัดการ

ก็เหมือนเรื่องตอนจ้างพรรคเล็กลงสมัคร ถ้าไม่มีใครให้หลักฐานมีแต่ข่าวลือ
เขาจะไปดำเนินการอะไรได้ แต่พอมีข้อมูลว่าใครจ้างใครรับจ้าง จ่ายเงินกัน
ที่ไหนอย่างไรเรื่องก็ไปตามกระบวนการ จนมีพรรคถูกยุบจำได้ไหมครับ

------------------------------------------------------------------------------------

ปล. ผมว่าผมตอบตรงเนื้อหากระทู้ของคุณ snowflake ที่สุดแล้วนะครับ
      ทำไมคราวนี้คุณ snowflakeถึงไม่ตอบ คคห. ผมล่ะครับ?


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: 55555 ที่ 21-10-2007, 09:25
ขอคำจำกัดความของ......ศักดินาหน่อยครับ


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 21-10-2007, 09:43
ประโยคพาดหัว กับ เนื้อข่าว ไม่สอดคล้องกันนะครับคุณ snowflake

"บังเพี้ยน ซื้อไม่ผิด / กกต. อ้างเรื่องสมยอม"

ผมอ่านดูแล้วไม่เห็นว่าบังจะเพี้ยนตรงไหน และบังไม่ได้พูดว่า "ซื้อไม่ผิด"
แค่บอกไม่รู้ว่าผิดตรงไหน ซึ่งต้องไปดูทาง กกต. จะว่าอย่างไรกับเรื่องนี้

ส่วนที่ว่า กกต. อ้างเรื่องสมยอม เขาก็ไม่ได้บอกเลยว่าสมยอมแล้วไม่ผิด
แต่บอกว่ายังไม่มีหลักฐาน ใครมีหลักฐานก็ส่งไปสิครับ ว่าใครซื้อใครขาย
จ่ายกันที่ไหนอย่างไร เขาจะได้จัดการ

ก็เหมือนเรื่องตอนจ้างพรรคเล็กลงสมัคร ถ้าไม่มีใครให้หลักฐานมีแต่ข่าวลือ
เขาจะไปดำเนินการอะไรได้ แต่พอมีข้อมูลว่าใครจ้างใครรับจ้าง จ่ายเงินกัน
ที่ไหนอย่างไรเรื่องก็ไปตามกระบวนการ จนมีพรรคถูกยุบจำได้ไหมครับ

------------------------------------------------------------------------------------

ปล. ผมว่าผมตอบตรงเนื้อหากระทู้ของคุณ snowflake ที่สุดแล้วนะครับ
      ทำไมคราวนี้คุณ snowflakeถึงไม่ตอบ คคห. ผมล่ะครับ?

พาดหัวแบบนี้ บก.โดนฟ้องแย่ :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 21-10-2007, 09:46
ขอคำจำกัดความของ......ศักดินาหน่อยครับ

(http://www.bb.go.th/information/library/lbb/om/omweb/border58.gif)

โฉมหน้าศักดินาไทย เป็นเรื่องที่ผู้เขียน ต้องการเขียนขึ้นเพื่อให้ เข้าใจลักษณะที่แท้จริงของศักดินาในฐานะที่เป็นระบบการผลิต โดยใช้แนวคิดของ มาร์กซเป็นกรอบการศึกษา เป็นงานทางประวัติศาสตร์ที่แหวกวงล้อมออกจากการ เขียนงานทางประวัติศาสตร์สกุลดำรงราชานุภาพ ที่เป็นวิธีการเขียนหลักของนัก ประวัติศาสตร์ไทย ผู้เขียนต้องการตีความประวัติศาสตร์ใหม่ แหวกวงล้อมของ การตีความประวัติศาสตร์ที่ผู้เขียนบอกว่า ตกอยู่ในมือของฝ่ายศักดินา แต่ผู้เขียน เห็นว่าเป็นการนำประวัติศาสตร์มาบิดเบือนทำให้ "ประวัติศาสตร์แทนที่จะเป็น ประวัติศาสตร์แห่งการเคลื่อนไหวก้าวหน้าของประชาชน ตรงข้ามกลับเป็นประวัติ การสืบสันตติวงศ์ของกษัตริย์..." (หน้า ๕๙)
                 มีเนื้อหาในหนังสือ โฉมหน้าศักดินาไทย แบ่งออกเป็น
                 ๑. ลักษณะของระบบผลิตศักดินา และกำเนิดระบบศักดินาโดย ทั่วไป กล่าวถึงความหมายของคำว่า ศักดินา ลักษณะทางเศรษฐกิจสังคม และการเมือง เป็นการวางกรอบทฤษฎีไว้ในเบื้องต้น
                 ๒. กล่าวถึงระบบศักดินาในไทยโดยเฉพาะ จิตรอธิบายให้เห็นว่า สังคมไทยมีพัฒนาการผ่านขั้นตอนการผลิตอย่างที่มาร์กซอธิบายไว้ กล่าวคือ ก่อนที่จะพัฒนาเป็นสังคมศักดินา ประเทศไทยได้ผ่านสังคมทาสในสมัยสุโขทัย มาก่อน ผู้เขียนได้พิสูจน์ด้วยการอ้างหลักฐานจากพงศาวดารล้านบ้าง เพื่อเป็น การล้มล้างความเชื่อถือในการศึกษาไทยว่า สังคมสุโขทัยไม่เคยมีทาส และไทย ไม่เคยผ่านระบบทาส ผู้เขียนยังได้ค้นคว้าย้อนไปไกลกว่าสังคมสุโขทัย เพื่อ แสดงให้เห็นว่า สังคมไทยเคยผ่านยุคชุมชนบุพกาลมาแล้วอีกด้วย
                  ระบบศักดินาตามที่ ผู้เขียนอธิบายเป็นระบบที่ขึ้นอยู่กับ การถือ ครองที่ดินเป็นพื้นฐาน สังคมของชนเชื้อชาติไทยก้าวสู่สังคมศักดินา ตั้งแต่ สมัยสุโขทัย คือ เริ่มตั้งแต่พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ที่สามารถรวบอำนาจในการ เป็นเจ้าของที่ดินทั้งหมด และยกตนขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดิน แต่ต่อมาถูกอาณา จักรอยุธยา ซึ่งก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.๑๘๙๓ (และได้ก่อรูประบบการผลิตแบบศักดินา ขึ้นแล้ว) ผนวกสุโขทัยเข้าเป็นส่วนหนึ่ง และทำให้ระบบศักดินาในอยุธยาเข้ม แข็งขึ้น
                ผู้เขียนได้ให้ข้อมูลอย่างกว้างขวาง ทั้งจากข้อมูลที่ได้จาก กฎหมาย ตรา ๓ ดวง ประวัติศาสตร์กฎหมายไทย ของ ร. แลงกาต์ เพื่ออธิบายถึงลักษณะ ของการถืออำนาจในการครอบครองที่ดินของกษัตริย์ เพื่อยืนยันว่าสังคมอยุธยา เป็นสังคมศักดินา
              ๓. ลักษณะทางเศรษฐกิจของระบบศักดินาไทย ผู้เขียนชี้ว่ากษัตริย์ เป็นผู้ถืออำนาจครอบครองที่ดินทั้งหมด กษัตริย์แจกจ่ายที่ดินให้ขุนนางข้าราช การ ไพร่ วัด ซึ่งกระทำกันครั้งใหญ่เมื่อ พ.ศ.๑๙๙๘ ในสมัยสมเด็จพระบรมไตร โลกนาถ ดังปรากฏอยู่ในกฎหมาย พระอัยการตำแหน่งนายทหารและพลเรือน ที่ กำหนดอัตราการถือครองที่ดินของพระบรมวงศานุวงศ์ ขุนนาง ไพร่ พระ อย่าง ตายตัวตามบรรดาศักดิ์ เช่น อุปราชมีศักดินา ๑๐๐,๐๐๐ ไร่ ไพร่ มีศักดินา ๒๕ -๑๐ ไร่ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อแลกเปลี่ยนกับความจงรักภักดี และไดัรับภาษีอากร เป็น การตอบแทน
              ผู้เขียนโต้แย้งสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่ทรงมีความเห็นว่า จำนวนศักดินานั้น ไม่ได้หมายถึงจำนวนไร่ที่ได้รับตามบรรดาศักดิ์ แต่ หมายความถึง จำนวนไร่ของที่นาที่อนุญาตให้ซื้อได้ (อ้างในหน้า ๑๕๑) แต่ผู้เขียนเชื่อว่า มีการแบ่ง ที่ดินกันตามนั้นจริงๆ และกฎหมายพระอัยการตำแหน่งนายทหารและพลเรือน ไม่ใช่ กฎหมายลม โดยให้เหตุผลว่า กษัตริย์ได้มีการแบ่งสรรปันส่วนที่ดิน ด้วยเหตุผลว่า เป็นเพราะความขัดแย้งทางเศรษฐกิจและการเมืองของชนชั้นศักดินาและกฎการ ภววิสัยของความพัฒนาแห่งระบบการผลิต ผู้เขียนอธิบายว่าที่ดินของอยุธยามี เหลือเฟือสำหรับการแบ่งปันจัดสรรที่ดิน (หน้า ๑๖๒ - ๑๖๓) การจัดสรรที่ดินของ ชนชั้นศักดินายังคงดำเนินเรื่อยมาจนสมัยรัชกาลที่ ๔ ก็ยังมีหลักฐานปรากฎให้เห็น และการขูดรีดเอารัดเอาเปรียบของชนชั้นศักดินาที่มีต่อไพร่ นั้นกระทำผ่านทางการ ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน "...พวกไพร่ทั้งปวงได้ถูกชนชั้นศักดินากีกันที่ดินสงวนไว้ แบ่งปัน แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว จนกระทั่ง ทุกคนต้องกลายเป็นไพร่เลว เป็น เลก เป็นทาสกันเต็มบ้านเต็มเมือง" (หน้า ๑๕๑) เพราะไพร่เองมีสิทธิครอบครองที่ ดินเพียงประมาณ ๕-๒๐ ไร่ ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการครองชีพ
             การผูกขาดภาษีที่ชนชั้นศักดินาได้สัมปทานแก่เจ้าภาษีนายอากรใน การเก็บภาษีแก่ราษฎรก็ทำความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน เพราะมักจะมีการ เก็บ นอกเหนือพิกัดอัตราที่กำหนดไว้ และชนชั้นศักดินาร่วมกับเจ้าภาษีนายอากรต่าง พยายามหาวิธีการเพิ่มภาษีจากการขายผักบุ้ง ซึ่งเป็นอาหารของคนทั่วไปที่ยากจน ผู้เขียนยังได้โยงให้เห็นว่าเจ้าภาษีอากรนี่แหละ ที่ต่อมาคือ พวกนายทุนนายหน้าผูก ขาดที่เป็น สมุนของนายทุนจักรพรรดินิยม อีกด้วย
           ผู้เขียนได้ใช้หลักฐานทางประวัติศาสตร์พิสูจน์ให้เห็นว่า ชนชั้นศักดินามี เพทุบายอย่างไรบ้าง ในการแสวงหาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ แม้ว่าการแสวงหาผล ประโยชน์นั้นบางครั้งเป็นสิ่งที่ให้โทษแก่ประชาชน เช่น การเปิดบ่อนการพนัน เพียง เพื่อรัฐได้รายได้จากการเก็บภาษีอากร ดังที่ผู้เขียนให้ตัวเลขไว้ว่า ในพ.ศ. ๒๔๓๑ มี บ่อนเบี้ยในกรุงเทพฯ ถึง ๔๐๓ บ่อน บ่อนใหญ่ ๑๒๖ บ่อนเล็ก ๒๗๗ กระจายอยู่ อย่างทั่วถึงทุกตำบล 


เล่มนี้โบราณไปหน่อยแต่ก็มีคำตอบเรื่องศักดินา
ไปหาอ่านซะ จะได้เลิกถามซ้ำซากซะที  :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: 55555 ที่ 21-10-2007, 09:50
แล้วมันไปเกี่ยวกับไอ้ระบอบศักดินา ที่ด่า ๆ กันตรงไหนล่ะ


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 21-10-2007, 10:45
(http://www.bb.go.th/information/library/lbb/om/omweb/border58.gif)

เล่มนี้โบราณไปหน่อยแต่ก็มีคำตอบเรื่องศักดินา
ไปหาอ่านซะ จะได้เลิกถามซ้ำซากซะที  :slime_bigsmile:



*   แล้วเล่มที่เอามาให้ดู  ....  ชอบแถ ... อ่านหรือยัง   ???

     "  โฉมหน้าศักดินาไทย "   ของ  จิตร  ภูมิศักดิ์  เป็นหนังสือต้องห้าม ...  หาอ่านยากมั๊ก ๆ

     ( อยากอ่านเหมือนกัน  !! แต่เค๊าสั่งห้าม + เผา ไปแล้วอ่ะ..รอบหลังที่เผานี่อยู่ในลิสต์รายชื่อที่  ไอ้หมัก เป็นคนเซ็นอนุมัติ  ใช่ป่าวว )

     เอามาแนะนำแบบนี้ ..........  แสดงว่า  แถ  ต้อง  เคยอ่าน   แน่เรยยยย

     งั้นก็ดีแล้ว ...   อธิบายมาสิจ๊ะ   ว่า  ....  แถ  ให้คำจำกัดความคำว่า  " ศักดินา "  เป็นยังไง   ??

     รวมถึง   ศักดินา  ที่กล่าวถึงในยุคนั้น  แตกต่างไปจาก  ศักดินา  ที่เอามาด่ากันตอนนี้ตรงไหน   ???

     ปล.    คนที่ชอบเอาคำว่า   ศักดินา /  เทวดา  มากระแนะกระแหน   เป็น  นกแก้วนกขุนทองบ่อย ๆ  อีกคน  นั่นนะ
             จะอธิบายด้วยก็ได้นะ  ....  ไม่ว่าอะไร   อ่อ  อธิบายตามความเข้าใจล้วน ๆ นะ   ตัดแปะ   ม่ายยยเอา    :slime_whistle:
    ปล. 2  ถาม   ชอบแถ  ว่า  หน้าปกหนังสือที่ยกตัวอย่างมาเป็น ... ฉบับของใครเขียน (นามปากกา )  อ่ะ  :slime_smile:


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: NA-KORN ที่ 21-10-2007, 11:09
เห็นด้วยกับคุณจีฯ 
หรือว่าต้องการประชาธิปไตยแบบเหลี่ยมๆ ที่เอาแต่ดูด สส.เข้าพรรค เซ้งพรรคให้หมดเหลือพรรคแม่วงพรรคเดียว
กับ สส. เอี้ยๆ ไว้ยกมือหนับหนุนเท่านั้นห้ามพูดห้ามวิจารณ์ท่านผู้นำ ใครหือถือว่าไม่เคารพท่านผู้นำลิ้วล้อลงมติ
ขับออกจากพรรค  ฝ่ายค้านก็ไม่มีน้ำยาทำอะไรไม่ได้  ชอบแบบนี้ใช่มะ


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 21-10-2007, 11:40
     ปล.    คนที่ชอบเอาคำว่า   ศักดินา /  เทวดา  มากระแนะกระแหน   เป็น  นกแก้วนกขุนทองบ่อย ๆ  อีกคน  นั่นนะ
             จะอธิบายด้วยก็ได้นะ  ....  ไม่ว่าอะไร   อ่อ  อธิบายตามความเข้าใจล้วน ๆ นะ   ตัดแปะ   ม่ายยยเอา    :slime_whistle:
    ปล. 2  ถาม   ชอบแถ  ว่า  หน้าปกหนังสือที่ยกตัวอย่างมาเป็น ... ฉบับของใครเขียน (นามปากกา )  อ่ะ  :slime_smile:

ศักดินา คือ ชนชั้นเทพไง เรื่องหมูๆ แบบนี้ไม่เห็นน่าเข้าใจยาก

(http://chronology.marnda.net/image/git.jpg)
นี่ไงนายสมสมัย หัวใจคอมมิวนิสต์ "เปิบข้าวทุกคราวคำ จงสูจำเป็นอาจิณ  เหงื่อกูที่สูกิน จึงก่อเกิดมาเป็นคน" แหล่มมะเจ๊ :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: see - u ที่ 21-10-2007, 12:12

ศักดินา คือ ชนชั้นเทพไง เรื่องหมูๆ แบบนี้ไม่เห็นน่าเข้าใจยาก

(http://chronology.marnda.net/image/git.jpg)
นี่ไงนายสมสมัย หัวใจคอมมิวนิสต์ "เปิบข้าวทุกคราวคำ จงสูจำเป็นอาจิณ  เหงื่อกูที่สูกิน จึงก่อเกิดมาเป็นคน" แหล่มมะเจ๊ :slime_bigsmile:

แถก  ...  อีกแล้ว   แถก   ตั้งแต่เช้าเลยวันนี้

   โถ ๆๆๆๆๆ  ไอ้ที่เอามา  ด่า  มากระแนะกระแหน เป็นวรรคเป็นเวร  เนี่ยยย ...  ตอบมามีความเข้าใจแค่นี้เอง  

   ไม่ต้องมา กะล่อน เลยนะจ๊ะ  !!!  ชอบแถ .... เราถามว่า   

               1. " โฉมหน้าศักดินาไทย "  เล่มที่เอามาให้ดู  ....  ชอบแถ ... อ่านหรือยัง   ???  <<   ยังไม่ได้ตอบ

               2.  แถ  ให้คำจำกัดความคำว่า  " ศักดินา "  เป็นยังไง  <<   ตอบส่งเดชว่า ... ชนชั้นเทพ  ซะงั้น

               3.  ศักดินา  ที่กล่าวถึงในยุคนั้น  แตกต่างไปจาก  ศักดินา  ที่เอามาด่ากันตอนนี้ตรงไหน  <<  ยังไม่ได้ตอบ

               4.  หน้าปกหนังสือที่ยกตัวอย่างมาเป็น ... ฉบับของใครเขียน ( ในนามปากกา ) ว่าอะไร  <<  เอารูป จิตร  มาให้ดู

                   งั้นเล่มนี้เป็นฉบับ  จิตร  เขียนใช่มั๊ย ??  ถามต่อว่า  ....  จิตร  เขียนเล่มนี้ ใช้ นามปากกา  ว่าอะไร  ???
               5. แยกให้เป็น  ข้อ ๆ  แล้วอ่ะ ... คงเข้าใจง่ายขึ้นเนาะว่า  ถามว่าอะไรมั่ง  :slime_whistle:
   ปล. จะเอาเพลง " เปิบข้าว "  มา เกทับ  กันเหรอ... มุข  นี้ ไม่แหล่ม  อ่ะ !!  เสร๊อ  เสร่อ  มากกว่า ....  ขอบอก  :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 21-10-2007, 12:35
1. เกิดมาไม่เคยเห็นไม่เคยอ่านไม่เคยรู้จัก หนังสือพรรค์นี้
2. อ้าวชนชั้นเทพยังไม่ชัดอีกเรอะ
3. สมัยนั้นมีที่นาไง สมัยนี้มันธุรกิจแสนล้านแล้ว
4. (http://i218.photobucket.com/albums/cc105/chobthae/Untitled10.jpg)


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: เล่าปี๋ ที่ 21-10-2007, 13:37
ประโยคพาดหัว กับ เนื้อข่าว ไม่สอดคล้องกันนะครับคุณ snowflake

"บังเพี้ยน ซื้อไม่ผิด / กกต. อ้างเรื่องสมยอม"

ผมอ่านดูแล้วไม่เห็นว่าบังจะเพี้ยนตรงไหน และบังไม่ได้พูดว่า "ซื้อไม่ผิด"
แค่บอกไม่รู้ว่าผิดตรงไหน ซึ่งต้องไปดูทาง กกต. จะว่าอย่างไรกับเรื่องนี้

ส่วนที่ว่า กกต. อ้างเรื่องสมยอม เขาก็ไม่ได้บอกเลยว่าสมยอมแล้วไม่ผิด
แต่บอกว่ายังไม่มีหลักฐาน ใครมีหลักฐานก็ส่งไปสิครับ ว่าใครซื้อใครขาย
จ่ายกันที่ไหนอย่างไร เขาจะได้จัดการ

ก็เหมือนเรื่องตอนจ้างพรรคเล็กลงสมัคร ถ้าไม่มีใครให้หลักฐานมีแต่ข่าวลือ
เขาจะไปดำเนินการอะไรได้ แต่พอมีข้อมูลว่าใครจ้างใครรับจ้าง จ่ายเงินกัน
ที่ไหนอย่างไรเรื่องก็ไปตามกระบวนการ จนมีพรรคถูกยุบจำได้ไหมครับ

------------------------------------------------------------------------------------

ปล. ผมว่าผมตอบตรงเนื้อหากระทู้ของคุณ snowflake ที่สุดแล้วนะครับ
      ทำไมคราวนี้คุณ snowflakeถึงไม่ตอบ คคห. ผมล่ะครับ?


   ประโยคพาดหัว กับ เนื้อข่าว ไม่สอดคล้องกันนะครับคุณ snowflake

   ผมเห็นด้วยกับคุณ jerasak  แจ้งต่อคุณ snowflake  ทราบแล้วตอบด้วยครับ
    :slime_bigsmile:




หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: 55555 ที่ 21-10-2007, 13:42

ที่ผมถาม เพราะผมเห็น .....ข้อความนี้ ตรงความเห็นที่ 12....ก็เลยอยากรู้ว่า ไอ้ศักดินา ที่พูด ๆ กัน เค้าหมายถึงอะไร...เพราะ ตั้งแต่ผมโตขึ้นมา ก็ไม่ค่อยได้เห็น ศักดินา มานานหลายปี จริง...เลยไม่ค่อยเข้าใจว่า คนพวกนี้ ไม่รู้เอาศักดินาที่ไหนมาพูด.....

"ใครจะพอใจระบอบเทวดา/ศักดินา ก็เชิญตามสบาย
เสรีภาพส่วนบุคคล บังคับกันไม่ได้"




อ้างถึง

 มีเนื้อหาในหนังสือ โฉมหน้าศักดินาไทย แบ่งออกเป็น
                 ๑. ลักษณะของระบบผลิตศักดินา และกำเนิดระบบศักดินาโดย ทั่วไป กล่าวถึงความหมายของคำว่า ศักดินา ลักษณะทางเศรษฐกิจสังคม และการเมือง เป็นการวางกรอบทฤษฎีไว้ในเบื้องต้น
                 ๒. กล่าวถึงระบบศักดินาในไทยโดยเฉพาะ จิตรอธิบายให้เห็นว่า สังคมไทยมีพัฒนาการผ่านขั้นตอนการผลิตอย่างที่มาร์กซอธิบายไว้ กล่าวคือ ก่อนที่จะพัฒนาเป็นสังคมศักดินา ประเทศไทยได้ผ่านสังคมทาสในสมัยสุโขทัย มาก่อน ผู้เขียนได้พิสูจน์ด้วยการอ้างหลักฐานจากพงศาวดารล้านบ้าง เพื่อเป็น การล้มล้างความเชื่อถือในการศึกษาไทยว่า สังคมสุโขทัยไม่เคยมีทาส และไทย ไม่เคยผ่านระบบทาส ผู้เขียนยังได้ค้นคว้าย้อนไปไกลกว่าสังคมสุโขทัย เพื่อ แสดงให้เห็นว่า สังคมไทยเคยผ่านยุคชุมชนบุพกาลมาแล้วอีกด้วย
                  ระบบศักดินาตามที่ ผู้เขียนอธิบายเป็นระบบที่ขึ้นอยู่กับ การถือ ครองที่ดินเป็นพื้นฐาน สังคมของชนเชื้อชาติไทยก้าวสู่สังคมศักดินา ตั้งแต่ สมัยสุโขทัย คือ เริ่มตั้งแต่พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ที่สามารถรวบอำนาจในการ เป็นเจ้าของที่ดินทั้งหมด และยกตนขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดิน แต่ต่อมาถูกอาณา จักรอยุธยา ซึ่งก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.๑๘๙๓ (และได้ก่อรูประบบการผลิตแบบศักดินา ขึ้นแล้ว) ผนวกสุโขทัยเข้าเป็นส่วนหนึ่ง และทำให้ระบบศักดินาในอยุธยาเข้ม แข็งขึ้น
                ผู้เขียนได้ให้ข้อมูลอย่างกว้างขวาง ทั้งจากข้อมูลที่ได้จาก กฎหมาย ตรา ๓ ดวง ประวัติศาสตร์กฎหมายไทย ของ ร. แลงกาต์ เพื่ออธิบายถึงลักษณะ ของการถืออำนาจในการครอบครองที่ดินของกษัตริย์ เพื่อยืนยันว่าสังคมอยุธยา เป็นสังคมศักดินา
              ๓. ลักษณะทางเศรษฐกิจของระบบศักดินาไทย ผู้เขียนชี้ว่ากษัตริย์ เป็นผู้ถืออำนาจครอบครองที่ดินทั้งหมด กษัตริย์แจกจ่ายที่ดินให้ขุนนางข้าราช การ ไพร่ วัด ซึ่งกระทำกันครั้งใหญ่เมื่อ พ.ศ.๑๙๙๘ ในสมัยสมเด็จพระบรมไตร โลกนาถ ดังปรากฏอยู่ในกฎหมาย พระอัยการตำแหน่งนายทหารและพลเรือน ที่ กำหนดอัตราการถือครองที่ดินของพระบรมวงศานุวงศ์ ขุนนาง ไพร่ พระ อย่าง ตายตัวตามบรรดาศักดิ์ เช่น อุปราชมีศักดินา ๑๐๐,๐๐๐ ไร่ ไพร่ มีศักดินา ๒๕ -๑๐ ไร่ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อแลกเปลี่ยนกับความจงรักภักดี และไดัรับภาษีอากร เป็น การตอบแทน

แล้วไพร่ อย่าง ทักษิณ เนวิน สุดารัตน์ สุริยะ ฯลฯ .....มันทำความดีความชอบอะไรมาเพื่อแลกเปลี่ยนความจงรักภักดี ถีง ได้มีที่ดิน กันเป็นร้อยไร่ พันไร่.......หรือ พวกนี้ ไม่ใช่ไพร่.....

แล้วอย่างสมัคร สุนทรเวช...ที่บอกไปทั่วว่า เป็นลูกหลาน เจ้าพระยา อะไรซักอย่าง เป็น ชนชั้นศักดินา หรือ ชนชั้นไพร่ ?......


 :slime_smile:


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: RiDKuN ที่ 21-10-2007, 14:06
ปฏิวัติฝรั่งเศส ก็ใช้เรื่องศักดินาไงครับ ไม่แปลกที่บางพรรคการเมืองที่วันเกิดตรงกับวันปฏิวัติฝรั่งเศสจะหยิบเอาวาทกรรมนี้มาใช้
จุดประสงค์ก็คงรู้ๆ กันอยู่แล้ว


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 21-10-2007, 14:36
 :slime_doubt: :slime_cool: :slime_fighto:

ประชาธิปไตบแบบบังๆจะ ไปเห็นเหลี่ยมเหรอ..กระล่อน

ประชาธิปไตย ไม่ใช่บินเลียดหรือสนุกเกอร์ เวลาเล่นก็ไม่ต้องแทงแบบพาดพิงตามร่องสำหรับแทงครับ..

มีบางรายแทงแบบหอกก็เคยเห็น แต่ก้มแทงไม่ได้ ต้องยืนแทง..  


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 21-10-2007, 16:12
ใครบอกว่า ไทยปกครองด้วยระบอบศักดินาล่ะ ยังเพ้อ ๆ อะไรอยู่หรือเปล่า
รัฐธรรมนูญปัจจุบัน ก็ปรับปรุงขึ้นจาก รัฐธรรมนูญ 2540 ที่ถือว่าเป็นประชาธิปไตยที่สุด ในแง่ "ที่มา"

แต่เมื่อการปกครองตามรัฐธรรมนูญมีปัญหา อันเนื่องจากสาเหตุหลายประการ
จึงมีการจัดทำรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ เพื่อไม่ให้ใครตีความเข้าข้างตัวเอง

ศักดินาไทยกับยุโรป แตกต่างกันในรายละเอียด ลอง ๆ ค้นที่วิกิพีเดีย

จิตร เขียนโฉมหน้าศักดินาไทย เพื่อชี้ให้เห็นว่า ศักดินาไทยในระบอบประชาธิปไตย
ที่ปฏิวัติยึดอำนาจมาตั้งแต่ 2475 ยังคงอยู่
ซึ่งก็เห็นเหมือนกับปัญญาชนทั่ว ๆ ไป จึงได้พยายามต่อสู้กับอำนาจทางทหารมาตลอด
จนเกิดเหตุ 14 ตุลาคม 16

วิธีการอธิบายแนวคิดทางการเมือง ต่างก็เพื่อให้มีการแกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อนำไปสู่เปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น

แต่ย้ำว่า ต้องทำความเข้าใจจริง ๆ อย่าศึกษาเพียงผิวเผินแล้วเชื่อหัวปักหัวปำ


หัวข้อ: รัฐประหาร 19 กันยา คือ 6 ตุลา 19 ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: snowflake ที่ 21-10-2007, 17:15
รัฐประหาร 19 กันยา ให้บทเรียนอะไรกับประชาชนและสังคมไทยบ้าง

จุดสำคัญ 2-3 ประการที่ต้องเน้นก็คือ มันคือ 6 ตุลา 19 ภาค 2 ห่างกัน 30 ปีพอดี
แต่จุดมุ่งหมาย, วิธีการเอามวลชนนำรัฐประหาร, และผลกระทบที่เกิดขึ้น ไม่มีอะไร
แตกต่างกันเลย แม้จะไม่มีคนตาย แต่นั่นเป็นเพราะไม่มีคนกล้าออกมาต่อต้านคัดค้าน

ประการต่อมา ก็คือ ปัญหาเรื่องบทบาทของชนชั้นกลางกับประชาธิปไตย ที่ผ่านมา
เราถูกโฆษณาชวนเชื่อว่า ประชาธิปไตยถูกสร้างและธำรงรักษาโดยชนชั้นกลาง แต่
ความจริงได้เปิดเผยให้เห็นแล้วว่า ประชาธิปไตยเป็นคุณกับคนยากคนจนมากกว่า
ชนชั้นกลาง
(เน้นเสียง) และกลายเป็นว่า ขณะที่ ชนชั้นกลางกำลังทำลายประชาธิป-
ไตย โดยการไปร่วมมือกับอำมาตยาธิปไตยและศักดินาก่อรัฐประหาร ชนชั้นล่างกลับ
ยังคงพิทักษ์ประชาธิปไตยต่อไปอย่างเข้มแข็ง ไม่ว่าจะโดยการดื้อแพ่งต่อระบบราช-
การ และการพร้อมใจกันไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเผด็จการ 2550

ประการสุดท้ายก็คือ อย่าตัดสินใครที่ชื่อ เพราะที่ผ่านมา เราได้เห็นคนแอบอ้าง
ชื่อ ‘ภาคประชาชน’ บ้าง, ‘เพื่อประชาธิปไตย’ บ้าง, ‘กรรมาชีพ’ บ้าง, ‘สื่อ’ บ้าง
ชื่อเหล่านี้ ใครๆ ก็ใช้ได้ แต่ต้องดูการกระทำถึงจะบอกได้ว่ามันเป็นจริงหรือเปล่า?

ยกตัวอย่างเช่น รัฐวิสาหกิจ โดยท่านผู้นำแรงงานรัฐวิสาหกิจมักจะป่าวประกาศต่อ
สาธารณชนเสมอว่าเป็น ‘กรรมกร’ หรือ ‘กรรมาชน’ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริง พวกเขา
คือ ‘ข้าราชการ’ รูปแบบหนึ่ง

หรือเอ็นจีโอที่รักทั้งหลาย ผมกล้าท้าได้ว่า ส่วนใหญ่ได้กลายเป็นหรือทำงานในแบบ
‘ระบบราชการ’ ไปแล้ว และนั่นหมายความว่า เอ็นจีโอได้กลายเป็นหนึ่งในบรรดา
‘เจ้านาย’ ของประชาชนด้วย

จริงๆ ‘เจ้านาย’ เหล่านี้ มีไม่น้อยที่หวังดีต่อประชาชน และพวกเขาพร้อมที่จะช่วย
เหลือหรือรับใช้ประชาชนในทุกๆ ด้าน ยกเว้นประการเดียว นั่นคือ พวกเขาไม่ยอม
ให้ประชาชนมีอำนาจกำหนดชะตากรรมของตัวเองเป็นอันขาด
(ขอให้ทำตัวเน้น)
ซึ่งสวนทางกันโดยสิ้นเชิงกับคำประกาศของพวกเขาต่อสาธารณะว่า ‘ประชาชน
ต้องกำหนดอนาคตตัวเอง’

จาก สัมภาษณ์ (พลาดไม่ได้) กิติภูมิ จุฑาสมิต : ความในใจของคนบนต้นไม้

http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=9963&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai


หัวข้อ: ประชาไท หากินกับคนชั้นกลาง..
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 21-10-2007, 17:21



ประชาไท หากินกับคนชั้นกลาง.. :slime_doubt: :slime_fighto: :slime_bigsmile: :slime_cool:


หัวข้อ: ‘ระบอบทักษิณ’ ถูกทำลายแล้วในวันที่ 19 สิงหาคม 50
เริ่มหัวข้อโดย: snowflake ที่ 21-10-2007, 17:27
หลายครั้งที่คุณเคยพูดว่า ‘ระบอบทักษิณ’ ถูกทำลายแล้วในวันที่
19 สิงหาคม 50 ช่วยขยายความหน่อย


ผมขอบอกอย่างนี้นะครับว่า ในบรรดาชนชั้นสูง เขาไม่ได้ใส่ใจตัวทักษิณในฐานะ
ตัวบุคคลสักเท่าไหร่หรอกครับ แต่แน่นอนในการโฆษณาชวนเชื่อ เขาต้องสร้าง
ตัวผู้ร้ายขึ้นมา...ก็เท่านั้น

สิ่งที่พวกเขาต้องการทำลายจริงๆ คือ ‘ระบอบทักษิณ’  

‘ระบอบทักษิณ’ คืออะไร

‘ระบอบทักษิณ’ แยกไม่ออกจากรัฐธรรมนูญ 2540 ครับ หากไม่เคร่งครัดรูปแบบ
ให้เปะมากเกินไป ยอมรับความจริงกันเถอะครับว่า รัฐธรรมนูญ 2540 นั้น คือ
Presidential System และนั่นเป็นอะไรที่ชนชั้นสูงของไทยรับไม่ได้

การเลือก Party List โดยแต่ละพรรคเสนอนโยบายให้ประชาชนเลือกนโยบาย,
การกำหนดผู้ที่จะเป็นนายกฯ และรัฐมนตรีไว้ในอันดับต้นๆ ของ Party List มันก็คือ
ระบอบประธานาธิบดีหรือกึ่งประธานาธิบดีกลายๆ นั่นเอง

การใช้ระบบเขตเดียวคนเดียว หรืออาจจะเรียกว่า One Man One Vote ทำให้สิทธิ
ของทุกผู้คนเท่าเทียมกัน และทำให้ผู้แทนเป็นของประชาชนเป็นครั้งแรก จากเดิมที่
ผู้แทนจะแว็บมาเฉพาะตอนเลือกตั้ง พอเป็นระบบ One Man One Vote ปรากฏว่า
ส.ส. ต้องหมั่นมาดูแลและรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนโดยตลอด

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเลือกตั้ง ส.ว.โดยประชาชนอีก....!

‘ระบอบทักษิณ’ จึงเท่ากับ ‘รัฐธรรมนูญ 2540’ และเท่ากับ การที่ประชาชนมีสิทธิ
ที่จะเลือกนโยบายในการบริหารประเทศ  - การที่ประชาชนเลือกนายกฯ โดยตรง –
การที่ประชาชนทุกชนชั้นมีสิทธิเท่าเทียมกัน – การที่อำนาจมาอยู่ในมือประชาชน -
การกระจายงบประมาณแผ่นดินมาเพื่อประโยชน์ของชนชั้นล่างอย่างเป็นธรรมมากขึ้น

ที่ผ่านมาเรามักจะคิดว่า คมช. เมื่อรัฐประหารแล้วก็ฉีกรัฐธรรมนูญเก่า แล้วร่าง
รัฐธรรมนูญใหม่ ตามธรรมเนียม แต่กรณี 19 กันยานี้ ไม่ใช่
 
การฉีกรัฐธรรมนูญ 2540 คือการทำลาย ‘ระบอบทักษิณ’ อย่างแท้จริง

เห็นชัดๆ ว่า รัฐธรรมนูญ 2550 จงใจทำลายอำนาจของประชาชนที่กำหนดในรัฐ-
ธรรมนูญ 2540 ทั้งหมดโดยไม่เหลือซาก  ดังนั้น ‘ระบอบทักษิณ’ จึงถูกทำลายลง
อย่างสิ้นเชิงเมื่อรัฐธรรมนูญ 2550 ผ่านการลงประชามติในวันที่ 19 สิงหาคม 2550

ผมอยากให้พวกเราจำเอาไว้ว่า ศัตรูของพวกเขา (คณะรัฐประหาร, ข้าราชการ, ชน
ชั้นกลาง, ทหาร, ราชนิกุล, รัฐวิสาหกิจ, เอ็นจีโอ ฯลฯ) ไม่ใช่ทักษิณ แต่ศัตรูของ
พวกเขาคือ ประชาชน

จาก สัมภาษณ์ (พลาดไม่ได้) กิติภูมิ จุฑาสมิต : ความในใจของคนบนต้นไม้

http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=9963&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai


หัวข้อ: ระบอบแม้วคือ ศักดินายุคใหม่ หลอกกดหัวคนจนด้วยหนี้ในระบอบทุนอบายมุขบนดินนิยม
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 21-10-2007, 17:48



ประชาไท หากินกับคนชั้นกลาง.. :slime_doubt: :slime_fighto: :slime_bigsmile: :slime_cool:


ระบอบแม้วคือ ศักดินายุคใหม่  หลอกกดหัวคนจนด้วยหนี้ในระบอบทุนอบายมุขบนดินนิยม

สร้างความขัดแย้งโดยไม่มีทางออกที่ดีกว่า หน้าเหลี่ยมๆ และพวกอกหักรักสลายจากระบอบแม้วๆ


หัวข้อ: Re: ‘ระบอบทักษิณ’ ถูกทำลายแล้วในวันที่ 19 สิงหาคม 50
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 21-10-2007, 21:31
‘ระบอบทักษิณ’ จึงเท่ากับ ‘รัฐธรรมนูญ 2540’ และเท่ากับ การที่ประชาชนมีสิทธิ
ที่จะเลือกนโยบายในการบริหารประเทศ  - การที่ประชาชนเลือกนายกฯ โดยตรง –
การที่ประชาชนทุกชนชั้นมีสิทธิเท่าเทียมกัน – การที่อำนาจมาอยู่ในมือประชาชน -
การกระจายงบประมาณแผ่นดินมาเพื่อประโยชน์ของชนชั้นล่างอย่างเป็นธรรมมากขึ้น

ตลกแล้ว ระบอบทักษิณมันประเสริฐขนาดนั้นเชียว :slime_bigsmile:
ไม่เขินมั่งรึไง


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: สี่หามสามแห่ ที่ 21-10-2007, 23:14
ระบอบประชาธิปไตยที่ดี เจ้าของเสียงต้องรักและสงวนเสียงของคน

อีกทั้ง ผู้ออกเสียงต้องมีความเข้าใจเรื่อง ปชต. ในระดับหนึ่ง

ถามหน่อยทุกวันนี้ ในประเทศไทยมีอยู่ถึง 30% หรือเปล่าเนี่ย

ไอ้ที่บอกเป็นคุณกับชนชั้นล่าง นั้นก็แน่นอนอยู่แล้วนโยบายประชานิยม ล้วนๆ

จะไม่เป็นคุณได้ยังไง

แต่ผลในระยะยาวหล่ะ เคยสนใจบ้างหรือเปล่า ???


มัวแต่ละเมอ อยู่ได้ว่างมากก็ไปไอ้ด่างเล่นเนย มันเลียเล่น เหอะ


หัวข้อ: Re: ‘ระบอบทักษิณ’ ถูกทำลายแล้วในวันที่ 19 สิงหาคม 50
เริ่มหัวข้อโดย: snowflake ที่ 21-10-2007, 23:37
ตลกแล้ว ระบอบทักษิณมันประเสริฐขนาดนั้นเชียว :slime_bigsmile:
ไม่เขินมั่งรึไง

ระบอบทักษิณ ไม่มีหรอก
แต่พวกที่ต้องการทำลาย เขาไม่อาจบอกได้ว่า
ที่จะทำลายนั้นคือ ระบอบประชาธิปไตย
ที่ให้อำนาจชาวบ้านมากไป
และคนที่ได้รับเลือกมามีสถานะมั่นคงมาก
จนไม่อาจกำจัดได้ ... อย่างง่ายดาย


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: สี่หามสามแห่ ที่ 21-10-2007, 23:41
ลองไปอ่านปกขา่ว ของ แก้วสรร ดูนะ

ระบอบทักษิณมันเป็นยังไง

เฮ้อ สงสัยเจอหมาเลียจนเพ้อ


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 21-10-2007, 23:57
ระบอบทักษิณคืออะไร : ทำไมต้องต่อต้าน
http://www.weopenmind.com/board/index.php?topic=8.0

หรือหาข้อมูลจากที่นี่ ห้องเล็ก ๆ แต่ข้อมูลเพียบ

หยุดทักษิณ : หยุดระบอบทักษิณ
http://www.weopenmind.com/board/index.php?board=4.0


หัวข้อ: Re: ‘ระบอบทักษิณ’ ถูกทำลายแล้วในวันที่ 19 สิงหาคม 50
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 22-10-2007, 00:03
ระบอบทักษิณ ไม่มีหรอก
แต่พวกที่ต้องการทำลาย เขาไม่อาจบอกได้ว่า
ที่จะทำลายนั้นคือ ระบอบประชาธิปไตย
ที่ให้อำนาจชาวบ้านมากไป
และคนที่ได้รับเลือกมามีสถานะมั่นคงมาก
จนไม่อาจกำจัดได้ ... อย่างง่ายดาย


ก็ได้ ไม่มีก็ไม่มี งั้นขอเรียกมันว่า ประชาธิปไตยแบบเหลี่ยมๆ ก็แล้วกัน
ส่วนประชาธิปไตยแบบบังๆ (หลังเลือกตั้งอาจจะเป็นประชาธิปไตยแบบหล่อๆ) จะมีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ตามสบาย :slime_v:

Reforming Thailand กับ สมบัติ จันทรวงศ์: “เรามีประธานาธิบดีในรูปนายกฯ ที่ยุบสภาได้”

“ระบบเลือกตั้ง 2550” จัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2549

ถ้าเปรียบเทียบระหว่างเลือกตั้งนายกฯ โดยตรง กับระบบปาร์ตี้ลิสต์ซึ่งหัวหน้าพรรคการเมืองทั้งหลายก็บอกว่า เลือกพรรคผม แล้วผมจะเป็นนายกฯ ผมถามว่าแตกต่างกันตรงไหน? ปาร์ตี้ลิสต์กลับยิ่งทำให้นายกฯ มีอำนาจแอบแฝงเป็นประธานาธิบดีไปด้วยโดยที่เราไม่รู้สึก

เพราะฉะนั้นคุณต้องตัดสินใจให้แน่ว่า คุณจะฟังเสียงประชาชน หรือคุณคิดว่าประชาชนยังไม่มีวุฒิภาวะพอ ซึ่งเปลี่ยนเป็นอีกข้างหนึ่งเลยนะ นายกฯ มาจากสภา จะเป็น ส.ส. หรือไม่เป็นก็ได้

เราต้องตั้งโจทย์ให้ถูก ในทางรัฐศาสตร์มันไม่มีคำตอบที่ถูกเสมอ มันมีแต่ว่าในสถานการณ์อย่างนี้คำตอบแบบไหนเหมาะสมที่สุด

ถ้าเราจะใช้ระบบปัจจุบันเหมือนเดิม ซึ่งเป็นการเลือกตั้งนายกฯโดยตรงทางอ้อม ก็ทำไป แต่ว่าจะต้องมีการจำกัดอำนาจนายกฯ มากเหมือนกัน ที่ชัดเจนคืออำนาจยุบสภา ต้องเขียนไว้ชัดเจนในรัฐธรรมนูญว่า นายกฯสามารถยุบสภาได้ในเงื่อนไขในบ้าง การประกาศยุบสภาทุกสมัยเหมือนกันหมด คือการเลี่ยงปัญหา เหมือนเป็นเอกสิทธิ์ของนายกฯที่จะใช้ กรณีสุดท้าย ที่คุณทักษิณยุบสภาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ผมรับไม่ได้เลย

การตรวจสอบนายกฯ ต้องทำได้ง่าย เพราะว่านายกฯ มีอำนาจมาก เป็นประธานาธิบดีแฝง ถ้านายกฯทุจริต ส.ส.แม้คนเดียวก็ควรจะมีสิทธิ์ยื่นสอบได้ แล้วกลไกที่ว่าต้องใช้การได้จริง
http://www.onopen.com/2006/editor-spaces/1352

http://forum.serithai.net/index.php?topic=10688.0


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 22-10-2007, 00:07
หากนายกฯ มาจากการเลือกตั้งโดยตรง ก็จะเป็นการแบ่งแยกอำนาจโดยเด็ดขาด ตอนนี้เราต้องการแบ่งแยกอำนาจโดยเด็ดขาดใช่ไหมครับ แต่ว่าในขณะเดียวกัน เราก็ยังไม่กล้าให้มีการเลือกตั้งนายกฯ โดยตรง ยิ่งถ้ามีระบอบรัฐสภาซึ่ง “โกง” ด้วยแล้ว ... โดยหลักการแล้ว ในระบอบรัฐสภา นายกรัฐมนตรีต้องบริหารแบบรับผิดชอบต่อรัฐสภา แต่นี่ไม่ใช่ คุณทักษิณตั้งรัฐมนตรีตามชอบใจ ปลดตามชอบใจ นั่นคือ ระบอบประธานาธิบดี แล้วยังเป็นประธานาธิบดีที่มีอำนาจยุบสภาอีกต่างหาก ร้ายหนักเข้าไปอีก เพราะประธานาธิบดีแบบอเมริกัน เขายุบสภาไม่ได้

ตัดมาเป็นบางตอนของประชาธิปไตยแบบเหลี่ยมๆ

ลิงค์โอเพ่นออนไลน์หาย เหลือที่ ม.มิดไนท์ http://www.midnightuniv.org/midnight2544/0009999791.html


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: snowflake ที่ 22-10-2007, 00:25
ไม่อยากให้ยุบสภาได้ ก็ไปแก้สิคะ ว่าห้ามยุบ
ทักษิณ ก็ไม่ใช่ นายกฯ คนแรก หรือคนเดียว ที่ยุบสภา

ไหนคุณ Cherub Rock ลองบอกให้ชื่นใจหน่อยสิว่า
รํฐธรรมนูญ ที่บางคนบอกว่า ดีที่สุดตั้งแต่เคยมีมา ฉบับปาหี่ประชามติ
ได้แก้ปัญหานี้ไว้อย่างไร


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 22-10-2007, 00:38
 :slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

ทะเลเรียกพี่ อิ อิ

ตกลงจะคุยเรื่องอะไรดีครับ

ยังเป็นประชาธิปไตยแบบบัง ๆ อยู่อีกหรือเปล่าครับ

บังไปยุ่งกับสภาร่างหรือไปลงมติ ไปแปรญัตติตรงไหนเหรอ

บังแกก็รู้แต่เรื่องทหารนั่นแหละ แค่มาทำให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กับให้มีการเลือกตั้ง

ก่อนที่จะมีการฆ่าหมู่ ก็แค่นั้นเอง


หัวข้อ: Re: ‘ระบอบทักษิณ’ ถูกทำลายแล้วในวันที่ 19 สิงหาคม 50
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 22-10-2007, 00:45
ตลกแล้ว ระบอบทักษิณมันประเสริฐขนาดนั้นเชียว :slime_bigsmile:
ไม่เขินมั่งรึไง


ไม่ได้บอกซักหน่อยว่าฉบับปาหี่หรือฉบับประชาธิปไตยจ๋าดีกว่ากัน

แค่คลื่นไส้นิดหน่อยเพราะคิดว่าระบอบทักษิณ เอ๊ย! ประชาธิปไตยแบบเหลี่ยมๆ มันไม่ได้เลิศหรูไฮโซเหมือนในบทความที่ก็อปมา
พูดแล้วขนลุก เสียดายข้าวเย็น :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: snowflake ที่ 22-10-2007, 00:53
:slime_bigsmile: :slime_bigsmile:

ทะเลเรียกพี่ อิ อิ

ตกลงจะคุยเรื่องอะไรดีครับ

ยังเป็นประชาธิปไตยแบบบัง ๆ อยู่อีกหรือเปล่าครับ

บังไปยุ่งกับสภาร่างหรือไปลงมติ ไปแปรญัตติตรงใหนเหรอ

บังแกก็รู้แต่เรื่องทหารนั่นแหละ แค่มาทำให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กับให้มีการเลือกตั้ง

ก่อนที่จะมีการฆ่าหมู่ ก็แค่นั้นเอง

ทุกสิ่งล้วนสัมพันธ์กัน
อยู่ที่ใครจะมองเห็นหรือไม่เห็น
เลือกที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ

แล้วเมื่อไหร่จะสะกดคำว่า ไหน ให้ถูกซะที
ไม่รู้ หรือไม่สนใจ "ความถูกต้อง" ที่บอกว่า
ชอบนักหนากันแน่


 :slime_doubt:


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 22-10-2007, 01:27
อา...สาว ๆ บอกให้แก้ ไอ้เรามันหัวอ่อนรีบแก้ให้ทันที

แล้วหนูล่ะ "แก้" หรือยัง...

เอ้อ..ลุงหมายถึง..แก้ไขความเข้าใจให้เหมือน ๆ ชาวบ้านเค้าน่ะ

ไอ้ไม้ม้วนกับไม้มลายเนี่ย แก่ตัวเข้าทำไมมันชอบใหม่ ไม้ม้วนอ่ะ

เมื่อก่อนมันก็เป็นไม้มลายนะ...ยังสงสัยตัวเองอยู่เลย

หรือว่ามัน "เคยมือ" อืมม..จะพยายามนะจ๊ะ...

 :slime_inlove: :slime_inlove:




หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 22-10-2007, 02:06

เห็นแล้วตั้งแต่แรกวันนี้  เอามาบอกตรงนี้ละกัน :slime_smile: :slime_cool:

ความจริงอะไรเหรอที่จะให้ยอมรับ

การเมืองเรื่องของผลประโยชน์ ไม่ใช่เรื่องของเทวดา
ที่ตอแหลเก่งกว่าก็เป็นคนดีกว่า
ซึ่งถ้าคุณมีความสามารถพิเศษหยั่งรู้ข้อเท็จจริงได้
ก็จะไม่มาเขียนแบบนี้แล้ว

คนที่ต่อต้านเผด็จการมันก็มีหลายฝ่าย
บางคนก็อาจจะอยากได้ทักษิณกลับมา
ซึ่งก็เป็นสิทธิอันชอบธรรมของเขา
ที่จะคิดและทำได้ ในประเทศเสรี
บางคนก็อาจจะอยากให้ได้สิทธิเสรีภาพ
ที่เท่าเทียมกันในการเลือก
โดยปราศจากการใช้กำลังบังคับ ฉ้อฉล
ตามแผนการณ์ แก้เป็น ตามแผนการหลายขั้น ของพวกนอกกติกา
ที่คิดว่ามีบารมียิ่งใหญ่
ถือสิทธิมาตัดสินแทนผู้อื่น
ใช้อำนาจตามอำเภอใจ

พูดไปก็เท่านั้น สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองรู้ดี
ไม่เผื่อที่ เผื่อใจ ว่าอาจคิดผิดไป ได้เหมือนกัน

แต่เชื่อว่าคุณและอีกหลายคนที่อ่าน
คงไม่เป็นเช่นนั้น


 :slime_v:


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Cherub Rock ที่ 22-10-2007, 02:50
1. เกิดมาไม่เคยเห็นไม่เคยอ่านไม่เคยรู้จัก หนังสือพรรค์นี้
2. อ้าวชนชั้นเทพยังไม่ชัดอีกเรอะ
3. สมัยนั้นมีที่นาไง สมัยนี้มันธุรกิจแสนล้านแล้ว
4. (http://i218.photobucket.com/albums/cc105/chobthae/Untitled10.jpg)

เวรกรรม อุตส่าห์งัดหนังสือมาโชว์
หมดกันพ่อนักปราชญ์ :slime_fighto:


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Body&Soul ที่ 22-10-2007, 04:24
พวกเพ้อเจ้องี่เง่า แบบเจ้าของกระทู้นี้จะเรียกว่าอะไรดี

อยากเรียกร้องความสนใจรึเปล่า



หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 22-10-2007, 04:32
"โฉมหน้าศักดินาไทย"

หนังสือที่แวดวงวิชาการยอมรับมากที่สุดเล่มหนึ่ง

เป็น 1 ในหนังสือดี 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน

แต่เป็นหนังสือในบัญชีหนังสือต้องห้ามของ นายสมัคร สุนทรเวช อดีต รมต.มหาดไทย ยุครัฐบาลหอย


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 22-10-2007, 08:02
ถ้าเจ้าของกระทู้ สนใจเรื่อง "ประชาธิปไตยแบบตัวแทน"
ผมขอแนะนำให้อ่านบทความของ แพทย์ พิจิตร ในมติชนสุดสัปดาห์

เค้าบอกว่า "ตัวแทน : ปัญหาทั้งคนทั้งระบบ" ลองไปหาอ่านนะครับ

สำหรับท่านที่สนใจเรื่องปฏิวัติรัฐประหาร ยิ่งควรอ่าน เพราะเค้ากล่าวถึง เรื่อง
"สัญญาประชาคม" ในทัศนะของ "รุสโซ"

โดยเฉพาะ ในบทที่ 15 รุสโซ บอกว่า...การที่ประชาชนเลือกผู้แทนแล้วทอดทิ้งสิทธิ์ของตนเอง อันตรายอย่างยิ่ง..

"รุสโซ" บอกว่า..."..ทันทีที่พลเมืองไม่เห็นว่าการทำงานสาธารณะนั้นเป็นเรื่องสำคัญ
และกลับเลือกที่จะรับใช้สาธารณะผ่านกระเป๋าเงินของเขาแทนตัวเขาเอง
เมื่อนั้นรัฐก็จะเข้าใกล้ความฉิบหาย ...เพราะถึงเวลาที่จะต้องประชุมหารือเรื่องผลประโยชน์ของส่วนรวม
พวกเขากลับจ้างผู้แทนไปทำแทน ส่วนตัวเองกลับนอนอยู่บ้าน ต้องขอบคุณความขี้เกียจและเงิน
พลเมืองเหล่านั้นก็จะลงเอยที่ทหารขึ้นปกครองประเทศ และเหล่าผู้แทนก็จะทำการขายประเทศ ..."

อย่าสงสัยว่า นี่เป็นเรื่องที่คิดค้นออกมาในเมืองไทยนะครับ "รุสโซ" เขียนเรื่องนี้เมื่อปี 1762 ครับ
แต่ทำไมมันเกิดขึ้นในเมืองไทยได้ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

นั่นก็คือเรารับเอาประชาธิปไตยแบบมีตัวแทนมาใช้ โดยที่ประชาชนไม่เข้าใจเรื่องสิทธิ์ของตนเอง
ไม่เข้าใจเรื่อง "รัฐ" ไม่เข้าใจเรื่อง "อำนาจอธิปไตย"

จุดอ่อนของประชาธิปไตยแบบมีตัวแทนก็คือ คนที่เป็นผู้แทนไม่ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของสาธารณะ
และประชาชน "นอนหลับทับสิทธิ์"

"การนอนหลับทับสิทธิ์" นั้น มิได้หมายถึงเฉพาะ ไม่ไปเลือกตั้ง ไม่สนใจเลือกตั้งเท่านั้น

แต่ต้องเหมารวมไปถึงไม่สนใจสิทธิ์ของตนเองที่จะติดตามตรวจสอบผู้แทนของตน

การนอนหลับทับสิทธิ์ตัวนี้ จึงเป็นข้อด้อยของ "คน" ฝ่ายผู้เลือกผู้แทนเอง

รัฐธรรมนูญ 2550 ได้เพิ่มพื้นที่ให้มีการใช้การเมืองภาคพลเมืองเพิ่มขึ้นแล้ว

จงอย่านอนหลับทับสิทธิ์ของตัวเองละครับ

หากการเมืองเรื่อง "สัญญาประชาคม" ยังเป็นเช่นทุกวันนี้ เมืองไทยก็จะหนีไม่พ้นวงจรอุบาทว์
นั่นคือ เลือกตั้ง โกงกิน ปฏิวัติ เลือกตั้ง โกงกิน ปฏิวัติ อยู่เช่นนี้ร่ำไป

เมื่อระบอบประชาธิปไตย ยังมิใช่ระบอบที่สมบูรณ์ที่สุด เราประชาชนรู้แล้วก็ต้องอุดช่องว่าง
อุดช่องโหว่หรือจุดอ่อนของระบอบประชาธิปไตยด้วยตนเอง เพื่อให้ระบอบนี้คงอยู่ได้
โดยให้ประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม ต่อสังคม หรือ ต่อ "รัฐ" นั่นเอง

( รัฐ ในที่นี้ มิใช่รัฐบาลนะครับ...)
หนังสือเรื่อง สัญญาประชาคม ของ รุสโซ แปลเป็นภาษาไทยตั้งแต่ปี 2521 โดยจินดา จินตนเสรี
ลอง ๆ หามาประดับห้องสมุดนะครับ


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: 55555 ที่ 22-10-2007, 08:05
อ้างถึง

แล้วไพร่ อย่าง ทักษิณ เนวิน สุดารัตน์ สุริยะ ฯลฯ .....มันทำความดีความชอบอะไรมาเพื่อแลกเปลี่ยนความจงรักภักดี ถีง ได้มีที่ดิน กันเป็นร้อยไร่ พันไร่.......หรือ พวกนี้ ไม่ใช่ไพร่.....

แล้วอย่างสมัคร สุนทรเวช...ที่บอกไปทั่วว่า เป็นลูกหลาน เจ้าพระยา อะไรซักอย่าง เป็น ชนชั้นศักดินา หรือ ชนชั้นไพร่ ?......


"ประการต่อมา ก็คือ ปัญหาเรื่องบทบาทของชนชั้นกลางกับประชาธิปไตย ที่ผ่านมา
เราถูกโฆษณาชวนเชื่อว่า ประชาธิปไตยถูกสร้างและธำรงรักษาโดยชนชั้นกลาง แต่
ความจริงได้เปิดเผยให้เห็นแล้วว่า ประชาธิปไตยเป็นคุณกับคนยากคนจนมากกว่า
ชนชั้นกลาง (เน้นเสียง) และกลายเป็นว่า ขณะที่ ชนชั้นกลางกำลังทำลายประชาธิป-
ไตย โดยการไปร่วมมือกับอำมาตยาธิปไตยและศักดินาก่อรัฐประหาร ชนชั้นล่างกลับ
ยังคงพิทักษ์ประชาธิปไตยต่อไปอย่างเข้มแข็ง ไม่ว่าจะโดยการดื้อแพ่งต่อระบบราช-
การ และการพร้อมใจกันไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเผด็จการ 2550".......คห.35

ตกลงไม่คุย เรื่องศักดินาแล้วใช่มั๊ยครับ .....แล้วระบอบอมาตยาธิปไตย คืออะไร?....หวังว่า คุณ หิมะ คง ไม่เอาอะไร มาตัดแปะ เพื่อขยายความน๊ะครับ......ถ้า ไม่เข้าใจ ไม่ต้องอธิบาย ก็ไม่เป็นไรน๊ะครับ...ผมจะติดธุระ อีก ซัก 3-4 วัน....แต่ ผมไม่เข้าใจ เลยมาถามทิ้งไว้.....


 :slime_smile:


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 22-10-2007, 08:22
เรื่อง "ศักดินา" ผมแนะนำไปแล้วครับ ให้ใช้คำค้น "ศักดินา"

จะพบในวิกิพีเดีย อธิบายเรื่อง ศักดินาไทย กับ ศักดินาของยุโรป

แม้อธิบายไม่ลึกซึ้งเหมือนหนังสือของ จิตร ภูมิศักดิ์ แต่ผมอ่านแล้วคิดว่าเข้าใจง่าย ๆ

ไม่ลึกลับซับซ้อน

คนที่ไปบ้าอเมริกา ซึงไม่เคยมีเรื่อง "ศักดินา" เลยไม่ค่อยชอบใจ "ศักดินาไทย" ผมเข้าใจเช่นนั้น


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 22-10-2007, 09:17
ศักดินาสมัยใหม่มันซับซ้อนกว่าเดิม นายจิตรโดนสอยไปก่อนเลยไม่มีใครเขียนต่อ
ภาคใหม่นี้ว่าด้วยภาคธุรกิจที่ใหญ่โตซับซ้อน มีที่ทางกลางเมืองเต็มไปหมด หลาย
เรื่องที่การดำเนินธุรกิจต้องอาศัยอำนาจลึกลับทั้งภาครัฐและเอกชนช่วยผลักดันให้
กลุ่มธุรกิจนั่นมั่นคงแข็งแรงเหนือคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน กลุ่มธุรกิจศักดินานี้
ส่วนมากจะทำในลักษณะคู่แข่งน้อย และจะลงทุนยิ่งใหญ่เหนือคู่แข่งในตลาด โดย
อาศัยกองทุนมหึมาหนุนอยู่ ถ้าพลาดก็มีการใช้อำนาจพิเศษให้รัฐบาลช่วยอุ้มชูธุรกิจ
ได้ ลองไปคิดกันเล่นๆ ก็ได้ว่าทำไมนายประชัยไม่สามารถรักษาไออาร์พีซีให้อยู่ใน
มือของตัวเองได้ แต่ธุรกิจศักดินาทำได้แม้ว่าจะหนี้บานกว่ามากก็เหอะ

ศักดินายุคนี้รู้(ตั้งนานแล้ว)ว่าเงินเท่านั้นที่จะผลักดันกระบวนการต่างๆ ที่ตนต้องการ
รวมทั้งอำนาจให้มั่นคง ไม่ตีลูกโฉ่งฉ่างเหมือนสมัยสฤษดิ์หรือถนอมที่เที่ยวไปสอย
พวกต่อต้านแบบดิบๆ มีแต่รัฐบาลที่แล้วดันเอื้อประโยชน์สองหน้า ส่วนหนึ่งในกลุ่ม
ศักดินาไม่ปลื้มเลยโดนสอยแบบกล้าๆ กลัวๆ เพราะประชาชนเริ่มรู้จากการที่มีการ
พัฒนาสมองอย่างรวดเร็วในห้าหกปีก่อน ต้องใช้วิธีล้างสมองแบบรุนแรงและด่วนด้วย
การเปิดอัดกันทั้งเช้าสายบ่ายเย็นห้างทุกห้างทีวีทุกช่อง

จะมองออกกันหรือไม่ก็เหอะ พวกฝรั่งมันรู้อยู่ว่าศักดินาไทยชนะเสมอ ทูตเมกายัง
เปรยๆ ว่าการเมืองไทยเหมือนละคร คิดดูก็รู้แล้วว่าหมายถึง มันมีคนจัดการอยู่ข้าง
หลัง ละครอะไรจะเล่นกันสดๆ โดยไม่เตี๊ยมกันมาก่อน ตาสว่างกันมั่งยังเนี่ย


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 22-10-2007, 09:30
แหมอ้อมซะใกลเลย...

ศักดินาดี กับ พ่อค้าชั่วล่ะ ตอบให้หน่อยดิ

พ่อค้าชั่วฮั๊วสัมปทานน่ะ พอเข้าใจมั๊ยครับ


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 22-10-2007, 20:44


อัยการอังกฤษรอหลักฐานจากไทยคดีขอตัว “ทักษิณ” [22 ต.ค. 50 - 20:21]
 http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=65508
 
วันนี้ (22 ต.ค.) นายนันทศักดิ์ พูลสุข รองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ในฐานะคณะทำงานอัยการเพื่อติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา จำเลยในคดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินรัชดาภิเษก ตามหมายจับของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กล่าวภายหลังกลับจากการเดินทางไปปรึกษาหารือข้อกฎหมายกับพนักงานอัยการประเทศอังกฤษ ว่า อัยการของอังกฤษให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

 

นายนันทศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้ปรึกษาเกี่ยวกับข้อกฎหมายและช่องทางในการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทยแล้ว อัยการอังกฤษแนะนำให้คณะทำงานอัยการของไทยรีบดำเนินการยื่นคำร้องพร้อมพยานหลักฐานต่าง ๆ ในคดี ให้กับอัยการอังกฤษ เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลอังกฤษ ขอให้ทำการไต่สวน และมีคำสั่งส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน เป็นผู้ร้ายข้ามแดน ตามประกาศสัญญาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกรุงสยามและอังกฤษ ร.ศ.130 ประกอบกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2503 ของประเทศอังกฤษ โดยเร็ว

 

“แม้พนักงานอัยการอังกฤษยังไม่ได้ชี้ชัดเจนว่า ฐานความผิดที่พนักงานอัยการไทยยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ต่อศาลฎีกา จะเป็นความผิดตามกฎหมายของอังกฤษ และศาลจะสามารถมีคำสั่งให้ส่งตัวจำเลยทั้ง 2 เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยได้หรือไม่ก็ตาม แต่พนักงานอัยการอังกฤษก็อยากให้คณะทำงานอัยการไทย รีบดำเนินการส่งพยานหลักฐานให้กับพนักงานอัยการอังกฤษดำเนินการยื่นคำร้อง เพื่อให้ศาลอังกฤษมีคำสั่ง” รองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าว

 

นายนันทศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับพยานหลักฐานที่จำเป็นต้องแปลภาษาเพื่อส่งให้อัยการอังกฤษ ประกอบด้วย สำนวนการสอบสวนและคำให้การพยาน โดยเป็นหน้าที่ของอัยการ ฝ่ายคดีต่างประเทศ ดำเนินการส่งให้กับผู้ประสานงานในโฮมออฟฟิศของอังกฤษ ซึ่งคล้ายกับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย เพื่อส่งต่อให้กับอัยการอังกฤษยื่นคำร้องต่อศาล อย่างไรก็ตาม นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ รองอัยการสูงสุด ประธานคณะทำงานอัยการเรื่องนี้ ได้นัดประชุมคณะทำงานทั้งหมด ในวันที่ 25 ตุลาคม
 
 


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 22-10-2007, 20:53
พวกมืดบอดด้วยปัญญาอย่างแก๊สกับเฟค พิมให้ตายพวกมันก็ไม่เข้าใจหรอกครับ ที่ไม่เข้าใจเพราะโง่จริงหรือเอาแต่ความคิดของตัวเอง ปัญญาอ่อน เลวชั่วช้าหรือไม่อ่านกันแน่ แต่ที่แน่ๆพลเมืองชั้นชั่วแบบนี้สมควรถูกกวาดล้างไปได้แล้ว


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 22-10-2007, 20:59


คตส.ตั้งคณะทำงานตรวจสอบบัญชี'ทักษิณ'ทั่วโลก      http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=68681
   
 
โดยทีมข่าว INN News 22 ตุลาคม 2550 19:26:31 น.     
 

   

คตส.ตั้งคณะทำงานตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน อดีตนายกฯทักษิณ ทั้งในและนอกประเทศ เพื่อเปรียบเทียบกับรายงานบัญชีทรัพย์สิน เพื่อดำเนินการเอาผิดตามกระบวนการต่อไป

นายบรรเจิด สิงคะเนติ คตส.เปิดเผยว่า คตส.ได้มีการตั้งคณะทำงานติดตามทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ในต่างประเทศว่า นำไปซื้อทรัพย์สินใดบ้างรวมถึงสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ด้วย ทั้งนี้จะนำมาเปรียบเทียบกับบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินที่ได้แจ้งไว้กับ ป.ป.ช.ว่าตรงกันหรือไม่ ส่วนกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเคยระบุ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีการโอนเงินออกนอกประเทศนั้น นายบรรเจิด กล่าวว่าในส่วนของข้อเท็จจริงจะต้องประสานงานไปยัง ธปท.เพื่อให้ตรวจสอบอีกครั้ง ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวว่า คตส.เตรียม ทำหนังสือไปยังกรมสรรพากร เพื่อให้ตรวจสอบการเสียภาษีของบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด ( มหาชน ) หรือ ชินคอร์ป ทั้งหมด รวมทั้งทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังสถานทูตอังกฤษ เพื่อให้ร่วมตรวจสอบด้วย

ด้าน นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของ กทม.กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. ทำหนังสือของคำแนะนำ จากอนุกรรมการว่าควรดำเนินการอย่างไรต่อไป เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง หรือจำเป็นต้องยกเลิกสัญญาการจัดซื้อหรือไม่ ทั้งนี้ นายนาม ระบุว่า ที่ประชุม คตส.มีมติไม่ให้ข้อคิดเห็น เนื่องจากคดียังอยู่ระหว่างการไต่สวน
 
 
 


หัวข้อ: Re: ‘ระบอบทักษิณ’ ถูกทำลายแล้วในวันที่ 19 สิงหาคม 50
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 22-10-2007, 21:53
หลายครั้งที่คุณเคยพูดว่า ‘ระบอบทักษิณ’ ถูกทำลายแล้วในวันที่
19 สิงหาคม 50 ช่วยขยายความหน่อย


ผมขอบอกอย่างนี้นะครับว่า ในบรรดาชนชั้นสูง เขาไม่ได้ใส่ใจตัวทักษิณในฐานะ
ตัวบุคคลสักเท่าไหร่หรอกครับ แต่แน่นอนในการโฆษณาชวนเชื่อ เขาต้องสร้าง
ตัวผู้ร้ายขึ้นมา...ก็เท่านั้น

สิ่งที่พวกเขาต้องการทำลายจริงๆ คือ ‘ระบอบทักษิณ’  

‘ระบอบทักษิณ’ คืออะไร

‘ระบอบทักษิณ’ แยกไม่ออกจากรัฐธรรมนูญ 2540 ครับ หากไม่เคร่งครัดรูปแบบ
ให้เปะมากเกินไป ยอมรับความจริงกันเถอะครับว่า รัฐธรรมนูญ 2540 นั้น คือ
Presidential System และนั่นเป็นอะไรที่ชนชั้นสูงของไทยรับไม่ได้

การเลือก Party List โดยแต่ละพรรคเสนอนโยบายให้ประชาชนเลือกนโยบาย,
การกำหนดผู้ที่จะเป็นนายกฯ และรัฐมนตรีไว้ในอันดับต้นๆ ของ Party List มันก็คือ
ระบอบประธานาธิบดีหรือกึ่งประธานาธิบดีกลายๆ นั่นเอง

การใช้ระบบเขตเดียวคนเดียว หรืออาจจะเรียกว่า One Man One Vote ทำให้สิทธิ
ของทุกผู้คนเท่าเทียมกัน และทำให้ผู้แทนเป็นของประชาชนเป็นครั้งแรก จากเดิมที่
ผู้แทนจะแว็บมาเฉพาะตอนเลือกตั้ง พอเป็นระบบ One Man One Vote ปรากฏว่า
ส.ส. ต้องหมั่นมาดูแลและรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนโดยตลอด

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเลือกตั้ง ส.ว.โดยประชาชนอีก....!

‘ระบอบทักษิณ’ จึงเท่ากับ ‘รัฐธรรมนูญ 2540’ และเท่ากับ การที่ประชาชนมีสิทธิ
ที่จะเลือกนโยบายในการบริหารประเทศ  - การที่ประชาชนเลือกนายกฯ โดยตรง –
การที่ประชาชนทุกชนชั้นมีสิทธิเท่าเทียมกัน – การที่อำนาจมาอยู่ในมือประชาชน -
การกระจายงบประมาณแผ่นดินมาเพื่อประโยชน์ของชนชั้นล่างอย่างเป็นธรรมมากขึ้น

ที่ผ่านมาเรามักจะคิดว่า คมช. เมื่อรัฐประหารแล้วก็ฉีกรัฐธรรมนูญเก่า แล้วร่าง
รัฐธรรมนูญใหม่ ตามธรรมเนียม แต่กรณี 19 กันยานี้ ไม่ใช่
 
การฉีกรัฐธรรมนูญ 2540 คือการทำลาย ‘ระบอบทักษิณ’ อย่างแท้จริง

เห็นชัดๆ ว่า รัฐธรรมนูญ 2550 จงใจทำลายอำนาจของประชาชนที่กำหนดในรัฐ-
ธรรมนูญ 2540 ทั้งหมดโดยไม่เหลือซาก  ดังนั้น ‘ระบอบทักษิณ’ จึงถูกทำลายลง
อย่างสิ้นเชิงเมื่อรัฐธรรมนูญ 2550 ผ่านการลงประชามติในวันที่ 19 สิงหาคม 2550

ผมอยากให้พวกเราจำเอาไว้ว่า ศัตรูของพวกเขา (คณะรัฐประหาร, ข้าราชการ, ชน
ชั้นกลาง, ทหาร, ราชนิกุล, รัฐวิสาหกิจ, เอ็นจีโอ ฯลฯ) ไม่ใช่ทักษิณ แต่ศัตรูของ
พวกเขาคือ ประชาชน

จาก สัมภาษณ์ (พลาดไม่ได้) กิติภูมิ จุฑาสมิต : ความในใจของคนบนต้นไม้

http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=9963&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai

เขตเดียวเบอร์เดียวไม่ใช่สิ่งนำไปสู่ความรับผิดชอบของสส.ต่อประชาชนในเขต เพราะ สส.คือ สส.ของประเทศ
การนำไปสู้ระบอบ ประธานาธิบดี หรือกึ่งประธานาธิบดี ก็ไม่ใช่ เพราะขัดรัฐธรรมนูญ

ความรับผิดชอบต่อประชาชน คือสำนึกสาธารณะ ไม่โลภ ไม่เห็นแก่ตัว และเห็นความสำคัญของส่วนรวมมากกว่าตัวเอง นี่ต่างหาก
คือการทำหน้าที่ของ สส. ตามระบอบประชาธิปไตย

แต่ระบอบทักษิณคือ การผูกขาดความถูกต้องไว้ที่พรรค สส. คัดค้านอะไรไม่ได้เลย ซึ่งขัดกับหลักระบบ สส.เขต ซึ่งให้ สส.ทำหน้าที่ในสภา

หัวใจในเรื่องสิทธิ์ของประชาชนที่มอบให้รัฐ จึงคลาดเคลื่อนไป เพราะมันกลายเป็นมอบให้พรรคทั้งหมด

แม้แต่ในอเมริกา หากพรรคทำผิด หรือ ประธานาธิบดี ทำผิด เค้าก็ถอดถอน หรือไม่สนับสนุนประธานาธิบดี ตลอดจนอภิปรายโจมตีประธานาธิบดี

ซึ่งก็คือ ระบอบของอเมริกา เค้าก็รู้จักเรื่องสิทธิ์ของประชาชน ที่ สส. ต้องเป็นตัวแทนของประชาชนที่ทำงานให้รัฐ
หากสส. เห็นดีเห็นงามกับความชั่ว ความไม่ดีของพรรรคหรือผู้นำ ก็จะถูกประชาชน ก่นด่า และสูญเสียความนิยม

หากมองรัฐธรรนูญ 2540 ที่ให้ความสำคัญกับพรรค 1 ใน 5 ก็เป็นเรื่องที่บอกว่า ความสำคัญของพรรค มีความสำคัญเพียง 20 % เท่านั้น
หากแต่ให้ความสำคัญแก่ความเป็นสส.ของประเทศ ของเขต ที่ควรทำหน้าที่จริงจัง รักษาผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ มากถึง 80 %

จะว่าไปในประเด็น สส. ปาร์ตี้ลิสต์ ความคิดแรกเริ่มแค่อยากให้ประชาชนได้เห็น "รัฐบาลเงา" เอาไว้ จะว่าไป ไม่ควรเกิน 50 ด้วยซ้ำไป
เพราจำนวนที่นั่งของ รัฐมนตรี ก็ไม่เกินนั้น และจูงใจให้ โดยหากสส.พรรคไปทำหน้าที่บริหาร ก็ให้ลาออกหรือพ้นจากความเป็น สส. ให้ ลำดับถัดไป
ขึ้นมาแทน โดยไม่ต้องเลือกตั้งใหม่ให้สูญเสียเวลาและงบประมาณ

ส่วน เรื่อง One Man - One Vote
ผมก็มองเห็นข้อบกพร่องตรงที่ แบ่งให้เขตละ 3 คน เป็นหลัก จังหวัดใดมีคนไม่ถึงก็จะมี สส. 2 คน
จะว่าไป ทำไมไม่กำหนดไปเลยให้แบ่งเขตละ 2 คน ให้ทั่วถึงทั้งประเทศ ก็จะได้ความเท่าเทียมกันทุกเขต

จะว่าไป มันเป็นเรื่องเทคนิค จังหวัดที่มี 1 เขต 2 คน ถือเป็นข้อยกเว้นเท่านั้น

ถึงที่สุด ระบอบทักษิณถูกทำลาย ไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นแบ่งเขต หรือ สส.ปาร์ตี้ลิสต์

แต่ระบอบทักษิณ ถูกทำลายลง ด้วยการป้องกันการโกงให้มากขึ้น
ให้ประชาชนมีสิทธิ์เข้าถึงสภา เข้าถึงศาล เข้าถึงการถอดถอนเร็วขึ้น
ให้ระบอบรัฐสภา ตรวจสอบ สส.-สว. ได้ง่ายขึ้น

นั่นคือเพิ่มอำนาจประชาชน ลดอำนาจรัฐ ตรงนี้ต่างหากที่จะทำให้ระบอบทักษิณ โดย การเลือกตั้งหายไป
ที่สำคัญ คือการตรวจสอบการเลือกตั้งที่เข้มข้น การลงโทษนักการเมือง พรรคการเมือง ที่ทุจริตได้เร็วขึ้น แรงขึ้น

นี่ต่างหาก ที่จะทำให้ระบอบทักษิณ หดหายไปได้

การเพิ่มโทษพฤติกรรมการซื้อตัวสส. ซื้อพรรค ซื้อเสียง ทั้งบุคคลและพรรค ตรงนี้ต่างหาก ที่จะทำให้ระบอบทักษิณหายไป

เพราะ ระบอบทักษิณ อีกมุมหนึ่ง คือระบอบที่ชั่วร้าย ที่จงใจตีความกฎหมายรัฐธรรมนูญเข้าข้างตัวเอง
การแก้ไขก็ต้องให้ สส. สามารถคัดค้านหรือออกเสียงโดยอิสระในสภา
และสามารถ ทำลายความเป็น "ข้าคือความถูกต้อง" แต่เพียงผู้เดียวของท่านผู้นำ

เพราะอีกนัยหนึ่ง ระบอบทักษิณ มิใช่การนำไปปสู่ระบอบประธานาธิบดี แต่ระบอบทักษิณ จะนำไปสู่ระบอบเผด็จการรัฐสภา
( โดยพรรค หรือ โดยผู้นำพรรค )


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 22-10-2007, 22:04
แหมอ้อมซะใกลเลย...

ศักดินาดี กับ พ่อค้าชั่วล่ะ ตอบให้หน่อยดิ

พ่อค้าชั่วฮั๊วสัมปทานน่ะ พอเข้าใจมั๊ยครับ

ดีชั่วเอาเกณฑ์ตัวเองวัดหรือไง ลองไปสำรวจดูว่ากลุ่มไหนได้สัมปทานเยอะๆ มาแต่โบราณมั่ง
แต่ว่าเกณฑ์ตัวเองเนี่ยมันระดับไหนหว่าสงสัยจะสอบตกป.2 แค่คำว่า ไกล ยังเขียนผิด อายแทนจัง :slime_bigsmile:


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 22-10-2007, 22:41
ท่าจะบ้าแล้ว ตระกูลหนึ่งครอบครองประเทศหนึ่งมา ร่วม ๆ 200 ปี การสั่งสมมรดก

เงินทองทรัพย์สินหรือสัมปทานก็มาโดยชอบ

เพราะมาจากสร้างสรรค์ประเทศโดยอำนาจที่สังคมยอมรับ คนเค้ามีเงินเค้าจะลงทุนอะไรไปเกี่ยวอะไรล่ะ

มันผิดตรงใหนละครับ แม้แต่ในราชวงศ์อังกฤษปัจจุบันก็มีการลงทุน คุณไปอยู่ที่ใหนมาละครับ

ดีหรือชั่ว ก็ไปดูที่การแสดงออกถึงความรักของประชาชนครับ ไม่ได้พิสูจน์อะไรยากเย็นตรงใหน

อิ อิ เรื่องสระไอ เอามาอำ พอ ๆ กับกระทู้ โพลสวนดุสิตในราชดำเนินวันนี้

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5943574/P5943574.html

เจ้าของกระทู้เขียนว่า ดร. อภิสิทธิ์ เลยกลายเป็นประเด็นให้เบี่ยงได้ง่าย ๆ ผมละขำ ๆ พวกเลี่ยงเบี่ยงประเด็นจริง ๆ

อยากด่าเจ้าว่างั้นเถอะ มันเท่ดีใช่มั๊ยครับ แต่ขอโทษนะครับ ไปด่าที่ประชาไท หรือในราชดำเนินสนุกกว่าครับ

เพราะสังคมที่นี่ แม้ไม่เคารพเราก็จะละเว้นฯ เพราะเป็นสถาบันที่คนไทยทั้งชาติ กำลังส่งกำลังใจไปสู่จุดเดียว

ความดีความชั่ว ก็คือเรารู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร

ถ้าจะพยายามลากมาเล่น อย่าหาว่าผมไม่เตือน

ด่าเจ้าที่เสรีไทยเว็บบอร์ด เป็นเรื่องถือสาครับ ขอให้งดพฤติกรรมแอบแฝงพวกนี้เถิดครับ

อยากด่าเจ้าฯ ไปด่าที่ประชาไท หรือราชดำเนินครับ ตามสบาย

พรุ่งนี้ 23 ตุลา วันที่ประชาชนให้ชื่อว่า "วันปิยะมหาราช"

พระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งที่ประชาชนรักที่สุดพระองค์หนึ่งและให้สมัญญานามว่า "พระปิยะมหาราช" ประกาศเลิกทาส

และมีคุณูปการต่อประเทศชาติมาเท่าไหร่

ผมว่าคนแบบพวกคุณน่าจะไป สำนึกบ้างนะครับ อย่าไปเป็นทาสนักการเมืองชั่วเป็นพวกทาสที่ปล่อยไม่ไป

เค้าเลิกทาศมาร่วม 100 ปีแล้ว ยังไม่สำนึกอีก...ไปสำนึกซะวันพรุ่งนี้ "วันเลิกทาส"

ทาสคนดียังพอฟัง แต่เป็นทาสคนโกงแผ่นดิน ใช้ไม่ได้ครับ...


หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: 55555 ที่ 23-10-2007, 14:15
อุตส่าห์มานั่งร้านเน็ต จะมาดูซะหน่อย ว่า ไอ้ ศักดินา กับ อำมาตยาธิปไตย ที่ เขียน ๆ กัน เค้า หมายถึงพวกไหนมั่ง แล้ว ทำไม ถึง ไปเรียกพวกนั้น ว่าเป็นอำมาตยาธิปไตย.....ไม่เห็นมีใครอธิบายให้ฟัง......พวกว่า พวกที่เขียนบทความที่เอามาตัดแปะ แล้ว อ้างศักดินา อมาตยาธิปไตยนั้น....ก็คงตอบผมไม่ได้หiอกครับ.....เขียนไปมั่ว ๆ ให้มันดูดี งั้นแหละ....คนตัดแปะ ก็เห็นมันดูดี คำมันเท่ห์ ก็เอามาตัดแปะ จินตนาการกันไปเรื่อย..

 :slime_smile:



หัวข้อ: Re: ประชาธิปไตยแบบบังๆ
เริ่มหัวข้อโดย: 55555 ที่ 25-10-2007, 14:04
ตกลงไม่ใคร มาคุยเรื่อง ศักดินา กับ อมาตยาธิปไตย แล้ว เหรอ

 :slime_bigsmile: