ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

 กรมศุลฯสั่งทุบรถเฟอรารี่ ตัดช่องขบวนการลักลอบหนีภาษี
 
26 กันยายน พ.ศ. 2550 11:01:00
 
 
กรมศุลกากรสั่งทุบรถยนต์เฟอรารี่ เวลา 11.00 น.นี้ ปิดช่องขบวนการลักลอบนำเข้ารถยนต์เลี่ยงภาษี แยกอะไหล่ หวังกลับมาประมูลซื้อในราคาต่ำ

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายสังกรณ์ พึ่งประดิษฐ์ รองอธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามที่กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ตรวจยึดและจับกุมรถยนต์ของกลางยี่ห้อ FERRARI รุ่น 456 GT สีเทา ได้ที่อู่เบนซ์แอลเค จังหวัดสมุทรปราการ โดยไม่มีผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าของเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2550 จึงได้นำส่งกรมศุลกากรในคดีลักลอบหนีศุลกากร กรมศุลกากรจึงได้พิจารณาเห็นว่ากรณีนี้เป็นความผิดตามมาตร 27 พ.ร.บ.ศุลกากร 2469 รถยนต์ของกลางจึงตกเป็นของแผ่นดิน

ต่อมาได้ตรวจพบรถยนต์คันดังกล่าวไม่มีอุปกรณ์สำคัญเช่น สมองกลเครื่อง สมองเอบีเอส สมองกลเกียร์ ระบบสายไฟทั้งหมด ท่อไอเสีย ปั๊มเอบีเอส คณะกรรมการจำหน่ายรถยนต์ของกลางกรมศุลกากรจึงเห็นว่า เพื่อตัดช่องทางของขบวนการแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองอย่างไม่ถูกต้อง ที่นำรถยนต์มาโดยวิธีถอดแยกชิ้นส่วน ทำให้สภาพรถยนต์คันนี้มีมูลค่าต่ำ และนำมาให้จับกุม  

ทั้งนี้ ณ เวลา 11.00 น.เตรียมให้รถตีนตะขาบเพื่อทำลายรถยนต์เฟอรารี่


(http://www.pic2us.net/full/331e41b1.jpg) (http://www.pic2us.net/)
 http://www.bangkokbiznews.com/2007/09/26/WW10_WW10_news.php?newsid=186143    
  
 

เป็นิมิตรดีที่กรมศุลกากร "รู้ทัน" คนร้ายและเจ้าหน้าที่ของกรมฯด้วย......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

น่าจาเอาเครื่องยนส่วนอื่นที่ยังใช้ประโยชนได้แยกชิ้นส่วนกระจายไปให้โรงเรียนอาชีวะได้ศึกษาน้าทำไมคิดได้แค่นี้กันวะสมองกลวงจริงๆ
เอะอะก็ทำลาย กระจายไปให้เค้าศึกษาก็ได้ มันคงไม่สามารถไปตามเอาอะไหล่ได้หรอกน้า  :slime_cool: :slime_shy:

                                   (http://www.pic2us.net/full/331e41b1.jpg)



                                            โอ้โฮ้ ! แหมเสียดายจังงงงง :slime_mad:

http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=62637

ศุลกากรปล่อยผี ขาย4หมื่น ซากรถเฟอร์รารี่ [28 ก.ย. 50 - 03:33]


หลังจากที่กรมศุลกากรทำการทุบทำลายรถเก๋งสุดหรู ยี่ห้อเฟอร์รารี่ รุ่น 456 จีที สีเทา ที่มีการลักลอบนำเข้าประเทศ โดยใช้รถแบ็กโฮบดทำลายจนกลายเป็นเศษเหล็ก เมื่อตอนสายวันที่ 26 ก.ย. จนไม่เหลือเค้าว่าเป็นรถเก๋งหรูราคาแพงระยับหลายสิบล้านบาท และก่อนการบดทำลายตามกำหนดเดิมคือเมื่อวันที่ 25 ก.ย. ได้มีเจ้าหน้าที่ สตง.บุกเข้าขัดขวาง ทำให้มีการสืบสาวราวเรื่องจนพบว่าผู้ที่ขัดขวางไม่ให้มีการทำลายรถเป็นถึงลูกชายของผู้บริหารระดับสูงของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น

ต่อมาเมื่อเย็นวันที่ 27 ก.ย. นายศักดิ์เกษม นิยมวานิชย์ หรือใหญ่ อายุ 29 ปี เจ้าของเต็นท์รถมือสองและอู่ซ่อมรถล้างรถย่านเพชรบุรีตัดใหม่ เดินทางมายังสำนักงาน นสพ.ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต ชี้แจงเกี่ยวกับข่าวที่เกิดขึ้น โดยนายศักดิ์เกษมกล่าวว่า หลังจากที่ได้เห็นข้อความในหนังสือพิมพ์ จึงคิดว่าน่าจะเป็นมารดาของตนคือนางสร้อยสุคนธ์ นิยมวานิช และตน ซึ่งได้พยายามประมูลรถคันนี้ ความจริงแล้วรถคันนี้เคยถูกเข้าร่วมประมูลมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ไม่มีใครประมูลเพราะเป็นรถพวงมาลัยซ้าย และราคาประมูลเริ่มต้นที่ 4.6 ล้านบาท ซึ่งราคาดังกล่าวเป็นราคาที่สูงเกินไป จึงไม่มีใครประมูล

นายศักดิ์เกษมกล่าวอีกว่า ต่อมากรมศุลกากรได้ เปิดประมูลอีกครั้ง ตนสนใจที่จะเข้าร่วมประมูล เพราะคาดว่าจะมีราคาเริ่มต้นที่ 3 ล้านบาท จึงได้เข้าไปสอบถามที่กรมศุลกากร เมื่อเห็นว่ารถคันนี้มีคำสั่งทำลาย ตนจึงไปสอบถามเรื่องที่ สตง.ด้วยตัวเอง ไม่ใช่มารดาตนเป็นคนไปติดต่อ หลังจากสอบถามเรียบร้อยแล้ว ในตอนเช้าวันที่ 25 ก.ย. เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรได้ยกรถเฟอร์รารี่คันดังกล่าวจะไปทุบทิ้ง ตนซึ่งไปที่กรมศุลกากรเพื่อเดินเรื่องประมูลเห็นเข้าจึงได้เอารถตู้เข้าขวางและบอกกับเจ้าหน้าที่ที่ขับรถแบ็กโฮว่า  ขอให้ เจ้าหน้าที่ สตง.ตกลงกับเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรก่อน โดยตนได้นำรถตู้ไปจอดขวางไม่ถึงนาทีก็เอารถออกและวันนั้นก็ไม่ได้มีการทุบทำลายรถเฟอร์รารี่แต่อย่างใด

จนเมื่อวันที่ 26 ก.ย. ขณะที่กำลังตีกอล์ฟอยู่ มีเพื่อนโทรศัพท์มาบอกว่ารถถูกทุบไปแล้ว ตนจึงบอกไปว่าช่างมันเถอะ แต่กลับมีข่าวออกมาเหมือนกับว่าตนเป็นเจ้าของรถคันนั้นและต้องการประมูลรถให้ได้ ทำให้ เสียหายต่อชื่อเสียงของตนและมารดา ซึ่งมารดาตนทำงานอยู่ที่แบงก์ชาติมานานถึง 39 ปี ต้องพลอยมัวหมองไปด้วย ตนทนไม่ได้ ขอยืนยันว่าตนไม่ใช่เจ้าของรถและไม่คิดที่จะฟอกรถคันดังกล่าวด้วย ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าตนเป็นคนเกเรและมีเรื่องทะเลาะวิวาทเป็นประจำนั้น ไม่เป็นความจริง ตนจะทำไปทำไม ธุรกิจตนมีมากมาย ลูกเมียก็มีจะทำให้หมดอนาคตทำไม นายศักดิ์เกษมกล่าวชี้แจง

ในส่วนซากรถเฟอร์รารี่นั้น วันเดียวกัน นางศิริพรรณ วิสุทธิพรผล ผอ.ส่วนของกลาง กรมศุลกากร กล่าวว่า เศษเหล็กชิ้นส่วนรถเฟอร์รารี่ หลังจากที่ถูกทำลายไปแล้ว ทางคณะกรรมการประมูลขายทอดตลาดได้ประชุมกันหลังมีการทำลายรถคันดังกล่าวเสร็จสิ้น และได้ประกาศให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาประมูลเศษเหล็กในวันเดียวกันนั้น โดยตั้งราคาขั้นต่ำไว้ 1 พันบาท มีผู้สนใจเข้าประมูลกันมาก ผลปรากฏว่านายธรรมนัส ธูปพนม เป็นผู้ประมูลได้ในราคา 4 หมื่นบาท ตนไม่ทราบว่าผู้ประมูลจะนำเศษซากรถไปทำอะไร เพราะชิ้นส่วนทั้งหมดรวมทั้งล้อรถ ถูกทำลายจนไม่สามารถนำไปใช้การได้อีกแล้ว เท่าที่สอบถามทราบว่า เดิมทีผู้ที่ประมูลซากรถได้นั้น ต้องการเข้ามาประมูลรถ แต่พอทราบว่ารถถูกทำลายไปแล้วและมีการประมูลเศษเหล็ก จึงต้องการประมูลเพียงแค่สนุกๆเท่านั้น หลังประมูลได้ผู้ประมูลได้นำเช็คเงินสดจำนวน 5 หมื่นบาท มาค้ำประกันไว้และภายใน 7 วัน หากไม่นำเงินมาชำระ จะถูกยึดเช็คทันที หลังจากนั้นได้นำรถบรรทุกเข้ามานำเศษเหล็กดังกล่าวไปในตอนเย็นวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ที่ประมูลได้เป็นกลุ่มพวกรับซื้อของเก่าหรือซาเล้งหรือไม่ นางศิริพรรณกล่าวว่า น่าจะไม่ใช่ เพราะที่สอบถามเขา

ตั้งใจมาประมูลรถ และมาเป็นกลุ่มเพื่อน หากเป็นกลุ่มซาเล้งคงจะไม่มีเช็คเงินสดมาค้ำประกันอย่างแน่นอน

วันเดียวกัน นายสมหมาย ภาษี รมช.คลัง เปิดเผย ถึงกรณีกรมศุลกากรสั่งทำลายรถยนต์เฟอร์รารี่ ว่า ถือว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้อง เพราะเป็นการตัดช่องทางของขบวนการแสวงหาผลประโยชน์ และหลีกเลี่ยงการหลบภาษี ขณะนี้ได้สั่งการให้กรมศุลกากรหามาตรการที่รัดกุมเพื่อป้องกันการกระทำดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้นได้อีก และที่สำคัญได้กำชับต่อข้าราชการทุกคนว่า หากพบว่ามีส่วนรู้เห็นกับการกระทำดังกล่าวจะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด โดยไม่สนว่ารถคันดังกล่าวจะเป็นของใคร สำหรับกรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไม่เห็นด้วยต่อการทำลายรถยนต์ และควรนำรถที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ว่า สตง.คงไม่ทราบถึงขบวนการฟอกรถ จึงเกิดความเสียดาย แต่อนาคตอาจมีการแยกชิ้นส่วนรถที่จับกุมเพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนได้

เสียดายก็เสียดาย แต่ก็สะใจไปพร้อม ๆ กัน  :slime_bigsmile:

คุณเหงาครับ

ใครจะเป็นคนรื้อชิ้นส่วนล่ะครับ? แล้วจะส่งไปให้ที่ไหนดีล่ะครับ?

ตอนแรกผมก็คิดเหมือนคุณนะ ทำไมไม่ผ่าเครื่องแล้วเก็บไว้ให้นักศึกษามาดูว่าโคตรรถนี่เครื่องมันเป็นยังไง

แต่ใจหนึ่ง ผมก็เชื่อว่าถ้าไม่มีการตรวจสอบจริง ๆ สุดท้ายไอ้ที่บอกว่าจะกระจายชิ้นส่วน ก็งุบงิบรวม ๆ กัน

แล้วก็วนกลับมาขายอีกทีจนได้

จนถึงตอนนี้ ผมยังเสียดายอยู่เลยนะเนี่ย...น่าจะส่งไปขายต่อเขมร หาเงินเข้ารัฐ ฯ .... แต่เดี๋ยวมันก็วนเข้ามาอีกทีนี่หว่า....ลืมไป

สวัสดีครับคุณมหาฯ สบายดีนะครับ

 :slime_worship:

พวกนี้ก่อนโดนยึดเค้าก็ถอดบางส่วนออกไปเก็บไว้ก่อนครับ

คนจะประมูลใครจะเอาหละครับ ยกเว้นว่าต้องยกเครื่องใหม่ทั้งหมดระบบ

 สุดท้ายก็รอราคาต่ำประมูลฟอกกลับไปใช้เอง  :slime_shy:

ถ้าเค้าใช้ในทางการศึกษาจริงๆน่าจะทำได้นะครับ การแยกชิ้นส่วนไม่ยากหรอกคับ  อย่างชิ้นส่วนอะไหล่เครื่อง ถ้าแยกส่ง ไปไม่ใช่ส่งไปให้โรงเรียนนึง ส่งไปทั้งคันอะคับ
ตัวอย่างเช่นว่า มีรถเบ๊น1คัน แยกเครื่องไปโรงเรียนนึง แยก อุปกรต่างๆ ไปตามโรงเรียนต่างๆ ไปหลายๆภาคไม่จมอยู่ภาคเดียว แล้วทุบ โครงรถทิ้งซะ
อย่างนี้ได้แน่นอน เพราะถ้ามัน ตามไปเอากันได้อีกก็ ตัวใครตัวมันแล้วหละครับ  ส่วนเรื่องความโปร่งใส น่าจะให้มีการตรวจสอบเป็นระยะว่าอุปกรที่ส่งไปนั้นอยู่ครบหรือไม่
มันคงไม่บ้ายัดเงินหลายต่อแน่นอนคับ  :slime_smile:

เอาไปศึกษาโดยไม่มีข้อมูล และคู่มือศึกษา เอาแต่ซากไปไม่ไหวหรอกครับ

อย่างน้อยตัวรถต้องทำงานได้ปกติครับ

มีหลายสถาบันซากรถเต็มไปหมดครับ ศึกษาไม่ได้

ศึกษาได้แต่ช่าง โลหะครับ มาดูตะเข็บเย็บ การกลึง แค่นั้นเองครับ ช่างยนต์ได้แต่มอง

ต่อมาได้ตรวจพบรถยนต์คันดังกล่าวไม่มีอุปกรณ์สำคัญเช่น สมองกลเครื่อง สมองเอบีเอส สมองกลเกียร์ ระบบสายไฟทั้งหมด ท่อไอเสีย ปั๊มเอบีเอส

ของสำคัญเขาถอดไปหมดแล้วครับ
ที่เหลือก็ไม่ต่างจากซาก เอาไปก็วิ่งไม่ได้ ศึกษาไม่ได้
และการศึกษาต้องศึกษาแบบเป็นระบบ
การดูอะไหล่เป็นชิ้นๆจะไม่เข้าใจการทำงาน
ไม่ทราบว่าถ้ามีปัญหาจะแก้ไขได้อย่างไร
จะศึกษาแบบนี้ไปดูเอาตามเซียงกงจะง่ายกว่า
มีครบ ราคาถูก ให้เลือกใช้ได้ทุกชิ้น

ปล.งานทำโครงรถบ้านเราเจ๋งมากนะครับ
บุบมาแบบไหนก็ซ๋อมให้ออกมาดูดีได้(แต่จริงๆไม่ดีเหมือนเดิมนะ)

http://img398.imageshack.us/slideshow/player.php?id=img398/1096/1191290879zgx.smil