หัวข้อ: วิจารณ์แซด! “นิธิ” หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: room5 ที่ 13-09-2007, 03:20 “นิธิ” ตัดสินใจหย่าภรรยาที่อยู่กินกันมานานแล้ว แยกเรือนมาร่วมเรียงเคียงหมอนกับผู้หญิงคนใหม่ที่เป็นนักวิชาการอิสระในมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนด้วยกัน โดยฝ่ายหญิงก็ได้แยกทางกับสามีเก่ามาเช่นเดียวกัน ขณะที่ในแวดวงวิชาการ คนรู้จักรู้ข่าวต่างช็อก-วิจารณ์กันแซด หวั่นกระทบภาพลักษณ์
วันนี้ (12 ก.ย.) หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ได้รายงานข่าวว่า นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการอิสระ และผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ได้ตัดสินใจหย่าขาดกับภรรยาที่อยู่กินกันมานาน โดยแยกมาเช่าบ้านและใช้ชีวิตคู่ร่วมกับนางสุชาดา จักรพิสุทธิ์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนด้วยกัน หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ได้อ้างแหล่งข่าวจากวงวิชาการระบุว่า อาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจะนัดประชุมกันในวันที่ 19 ก.ย.นี้ เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับทิศทางของมหาวิทยาลัยหลังจากนายนิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการอิสระและผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนได้ตัดสินใจเปลี่ยนคู่ชีวิต แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทราบข่าวเมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า นายนิธิ นักวิชาการชื่อดัง และแกนนำในการโหวตโนรัฐธรรมนูญปี 2550 ได้แยกทางกับภรรยาและตัดสินใจใช้ชีวิตคู่กับนางสุชาดา จักรพิสุทธิ์ นักวิชาการอิสระ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน แหล่งข่าวเปิดเผยอีกว่า ช่วงแรกทราบแต่เพียงว่านายนิธิได้แยกบ้านอยู่กับภรรยาและไปเช่าบ้านฉันสามีภรรยากับนางสุชาดา แต่ไม่มีพิธีแต่งงานอย่างเป็นทางการ “พวกเรารับทราบกันเมื่อวันที่ 5 ก.ย.นี้ในแวดวงเพื่อนฝูง โดยคุณสุชาดาได้เป็นผู้แจ้งให้ทราบว่าได้จดทะเบียนหย่ากับสามีแล้วเช่นกัน และอาจารย์นิธิได้แยกทางกับภรรยาแล้ว” แหล่งข่าวเปิดเผย อย่างไรก็ตาม ทันทีที่นางสุชาดาได้แจ้งเรื่องนี้ ทีมอาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนรู้สึกช็อกและหวั่นเกรงว่าจะกระทบต่อภาพลักษณ์หรือการดำเนินการงานมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนหรือไม่ “ทุกคนอยากให้มหาวิทยาลัยนี้อยู่ต่อ หลายคนบอกเรื่องนี้กระทบแน่ ถึงแม้นักวิชาการเข้าใจการตัดสินใจในครั้งนี้ เพราะอาจารย์เป็นผู้ดึงดูดคนมาเข้าเว็บมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน” แหล่งข่าวเปิดเผย ด้าน นางสุชาดา ยอมรับว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง แต่ถือเป็นเรื่องส่วนตัวเพราะได้ทำความเข้าใจกับสามีเก่าและหย่าร้างเป็นทางการเพื่อเลือกที่จะมีชีวิตส่วนตัวใหม่ ซึ่งก็เหมือนกับชีวิตคนอื่นๆ ในประเทศนี้ “ดิฉันเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการทำงานในมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน เพราะถึงแม้จะเลือกชีวิตคู่ใหม่ก็ไม่ได้ทำให้เสียงาน ไม่ทำให้เสียความน่าเชื่อถือต่อสังคม เพราะยังทำหน้าที่ที่ดีต่อตัวเอง ต่อสังคม ต่อเพื่อนฝูงได้เหมือนเดิม ที่ผ่านมาอาจารย์นิธิและพี่ก็ไม่ได้ตั้งตัวเป็นเจ้าแห่งกฎศีลธรรม หรือเป็นเรื่องความรู้คู่คุณธรรม เพราะว่าในชีวิตจริงทุกคนก็ควรมีสิทธิ์เลือกชีวิตคู่ของตัวเอง” นางสุชาดา กล่าว มีรายงานเพิ่มเติมว่า ในระหว่างการสัมมนาเรื่องมหกรรมชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย ที่หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวานนี้(11 ก.ย.)ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้กันมาก โดยเฉพาะในเรื่องของภาพลักษณ์ ทั้งนี้ นายนิธิถือว่าเป็นนักวิชาการที่ถือว่าเป็นที่รู้จักในแวดวงวิชาการค่อนข้างสูง และที่ผ่านมาได้มีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 2550 สอดรับกับเครือข่ายคนรักทักษิณอย่างแข็งขัน โสนว์เฟกออกหัก หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: พรรณชมพู ที่ 13-09-2007, 09:32 อ.นิธิ ทำให้ดูแล้วนะคะ
(http://images.hunsa.com/Movie/starfashion_032007/lydia_sexy/002.jpg) จุ๊ๆอย่าเอ็ดไป เดี๋ยวคนข้างล่างได้ยิน (http://www.bangkokbiznews.com/2006/05/06/images/picweb_copy68.jpg) ฮึ่ม คิดจะเอาอย่างเค้าเรอะ (http://www.komchadluek.net/2006/11/06/images/_copy182.jpg) :slime_smile2: หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: meriwa ที่ 13-09-2007, 11:48 เสรีประชาธิปไตย :slime_bigsmile: จุ๊กกรู๊ๆๆๆๆๆๆ :slime_v: :slime_v:
หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: so what? ที่ 13-09-2007, 11:58 อ้าว มาแย่งเรตติ้งผมซะแระ คุณ room5 :slime_smile2:
คุณชมพู ... รูปบนสุดนี่ อึ๋ยยยย :slime_dizzy: หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 13-09-2007, 12:00 เรื่องปกตินะผมว่า ถ้าเคลียร์ครอบครัวตัวเองได้
ผู้หญิงก็ระดับ ดร. ด้วยกัน ไม่เห็นจะอะไรนักหนา เปิดเผยดีกว่าทำลับ ๆ ล่อ ๆ พวกปิด ๆ บัง ๆ สร้างภาพเยอะนะจะบอกให้ หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! “นิธิ” หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: An.mkII ที่ 13-09-2007, 13:45 มันก็เค่เรื่องส่วนตัว..
แต่ผมก็สงสัยว่าเหตุไรทางผู้จัดการถึงหยิบเรื่องนี้มาเล่น..(ขนาดเป็นข่าวเเนะนำ..) เพราะเมื่อวานผมก็เเวบเข้าไปที่ผู้จัดการมาซึ่งตอนเเรกผมก็นึกว่าเป็นดาราที่ชื่อว่านิธิซะอีก.. และที่พูดแบบนี้ก็มิใช้ว่าอยากจะทำให้ตนเองเป็นคนดีอะไร.. แต่ผมก็คิดว่าคนเราคิดจะเล่นเรื่องอะไรมันต้องรู้จักลิมิตเเละขอบเขตกันมั่ง.. ก็แค่นั้นเอง.. หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 13-09-2007, 14:05 เรื่องส่วนตัวอาจารย์เขานะ
หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: Kittinunn ที่ 13-09-2007, 14:38 มันก็เค่เรื่องส่วนตัว.. แต่ผมก็สงสัยว่าเหตุไรทางผู้จัดการถึงหยิบเรื่องนี้มาเล่น..(ขนาดเป็นข่าวเเนะนำ..) เพราะเมื่อวานผมก็เเวบเข้าไปที่ผู้จัดการมาซึ่งตอนเเรกผมก็นึกว่าเป็นดาราที่ชื่อว่านิธิซะอีก.. และที่พูดแบบนี้ก็มิใช้ว่าอยากจะทำให้ตนเองเป็นคนดีอะไร.. แต่ผมก็คิดว่าคนเราคิดจะเล่นเรื่องอะไรมันต้องรู้จักลิมิตเเละขอบเขตกันมั่ง.. ก็แค่นั้นเอง.. ตำหนิโพสต์ทูเดย์เถอะ คนต้นเรื่อง ผู้จัดการแค่นำมาเผยแพร่ต่อ หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: ริวเซย์ ที่ 13-09-2007, 14:46 ผมไม่ชอบเล่นเรื่องส่วนตัวใครนะ เดี๋ยวจะกลายเป็นเหมือนพวกสาวกไอ้เหลี่ยมที่เล่นเรื่องจดทะเบียนสมรสซ้อน
เคยด่าพวกมันเอาไว้ เดี๋ยวเข้าตัว อิอิ :slime_bigsmile: ขอเล็กๆ ใหญ่ๆลุยดีกว่าครับ แหะๆ หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! “นิธิ” หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: An.mkII ที่ 13-09-2007, 19:14 ตำหนิโพสต์ทูเดย์เถอะ คนต้นเรื่อง ผู้จัดการแค่นำมาเผยแพร่ต่อ ก่อนอื่น..ผมก็ต้องขอโทษที่เข้าใจผิดว่าต้นต่อข่าวนี้มาจากผู้จัดการ..เพราะเเค่เห็นชื่อของคนเป็นข่าวเเละลักษณะืข่าวผมก็ไม่อยากจะอ่านแล้้ว.. เพราะผมก็คิดว่าถ้าประเด็นส่วนตัวที่มันทำให้ประเทศชาติเสียหายผมก็ว่าสมควรจะเอามาเเฉ..ผมสนับสนุน.. แต่ประเด็นส่วนตัวแบบนี้มันเกินไป..และคนอย่างอ.นิธิแกก็มิใช้คนที่เลวอะไรมากมาย..เพราะถึงหลายๆกรณีผมจะเห็นไม่ตรงกะแก..แต่ก็อย่างว่่าแกก็ไม่ได้เลวอะไรมากมาย..จนขนาดต้องเล่นกันขนาดนี้.. และต่อให้แกจะเลว..ตามความคิดใครก็ตาม..ผมก็ยังคิดว่าถึงกระนั้นมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวอยู่..ที่ต่อให้แกจะหย่าซักพันครั้งประเทศชาติก็คงจะไม่เสียหายอะไรใช้รึไม่ครับ.. และถ้าถามว่า โพสต์ทูเดย์ สมควรไหมผมก็ว่าไ่ม่ควร.. แต่การที่ผู้จัดการเอามาเล่นต่อผมก็คิดว่าไม่สมควรอีกเช่นกัน.. หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! “นิธิ” หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: วิหค อัสนี ที่ 13-09-2007, 19:53 ถ้าหย่ากันแล้ว ก็ไม่เห็นจะมีอะไรนี่ครับ
แต่ถ้าทางฝั่ง อ.นิธิ ยังแค่แยกกันอยู่ไม่ได้จดทะเบียนหย่าเป็นเรื่องเป็นราว ...อันนี้ก็อาจทำให้เกิดข้อครหาจากสังคมได้เป็นธรรมดา หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: soco ที่ 13-09-2007, 20:06 ผมไม่ทราบว่า นิธิ มันเป็นใคร
ผมพอจะทราบ ตอนเรื่องดีเบต เรื่องประชามติ รัฐธรรมนูญ 2550 ผมว่าความเห็นเค้าไม่เอาอ่าว ไม่เอาความ ไม่ได้เรื่อง และไม่เชื่อมัน ผมก็เลยมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด ที่ต้องไปลง ประชามติ ให้จงได้ ชีวิตใคร ชีวิตมัน พวกกิ๊ก ชู้ ก็แล้วแต่ ชีวิตใครชีวิตมัน มันจะทิ้งใคร ผมไม่สนใจด้วยซ้ำไป ครับ ผมขอตอบอีกสักทีน่ะครับ เพื่อน ๆ คงไม่ว่า หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: อธิฏฐาน ที่ 13-09-2007, 22:05 เรื่องปกตินะผมว่า ถ้าเคลียร์ครอบครัวตัวเองได้ ผู้หญิงก็ระดับ ดร. ด้วยกัน ไม่เห็นจะอะไรนักหนา เปิดเผยดีกว่าทำลับ ๆ ล่อ ๆ พวกปิด ๆ บัง ๆ สร้างภาพเยอะนะจะบอกให้ ขอสนับสนุนความคิดลุงแคนค่ะ หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 14-09-2007, 03:43 :slime_cool:
เรื่องนี้จะกระทบถึงเสถียรภาพของหลายฝ่าย โดยเฉพาะทีมงานมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนครับ ในทางความคิดทางการเมืองติดตามตรวจสอบกันต่อไป ส่วนพวกที่ชอบเอาบทความของนิธิมาอ้าง ต้องขอให้ติดตามเป็นพิเศษครับ ว่าจะนำมาอ้างอิงได้มากน้อยเพียงไร? หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: สหายนำชัย ที่ 14-09-2007, 06:38 ผมไม่ทราบว่า นิธิ มันเป็นใคร ผมพอจะทราบ ตอนเรื่องดีเบต เรื่องประชามติ รัฐธรรมนูญ 2550 ผมว่าความเห็นเค้าไม่เอาอ่าว ไม่เอาความ ไม่ได้เรื่อง และไม่เชื่อมัน ผมก็เลยมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด ที่ต้องไปลง ประชามติ ให้จงได้ ชีวิตใคร ชีวิตมัน พวกกิ๊ก ชู้ ก็แล้วแต่ ชีวิตใครชีวิตมัน มันจะทิ้งใคร ผมไม่สนใจด้วยซ้ำไป ครับ ผมขอตอบอีกสักทีน่ะครับ เพื่อน ๆ คงไม่ว่า ผมสมเพชความคิดคุณจริง ๆ โดยเฉพาะข้อที่ว่า *** ผมว่าความเห็นเค้าไม่เอาอ่าว ไม่เอาความ ไม่ได้เรื่อง และไม่เชื่อมัน*** อาจารย์นิธิมีจุดยืนที่แน่วแน่ผิดคือผิดถูกคือถูกไม่เลือกข้างไม่เลือกฝ่าย กลุ่ม ม.เที่ยงคืนยืนหยัดต่อสู้กับเผด็จการตั้งแต่เริ่มปฏิวัติ กลุ่ม ม.เที่ยงคืนยืนหยัดในประชาธิปไตยเชื่อมั่นในอำนาจแห่งปวงชน กลุ่ม ม.เที่ยงคืนไม่ได้เกี่ยวข้องใด ๆ กับทักษิณหรือก๊วนการเมืองของใครคนใดคนหนึ่ง พวกเขาทำอย่างสุจริตใจ พวกเขาทำในสิ่งที่ที่ถูกต้อง พวกเขาทำในสิ่งที่ควรค่าแก่การสรรเสริญอย่างยิ่ง ผมว่าคุณต่างหากที่ ไม่เอาอ่าว ไม่เอาความ ไม่ได้เรื่อง ด้วยความไม่เคารพ ส.นำชัย หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! “นิธิ” หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: login not found ที่ 14-09-2007, 12:14 ผมสมเพชความคิดคุณจริง ๆ โดยเฉพาะข้อที่ว่า *** ผมว่าความเห็นเค้าไม่เอาอ่าว ไม่เอาความ ไม่ได้เรื่อง และไม่เชื่อมัน*** อาจารย์นิธิมีจุดยืนที่แน่วแน่ผิดคือผิดถูกคือถูกไม่เลือกข้างไม่เลือกฝ่าย กลุ่ม ม.เที่ยงคืนยืนหยัดต่อสู้กับเผด็จการตั้งแต่เริ่มปฏิวัติ กลุ่ม ม.เที่ยงคืนยืนหยัดในประชาธิปไตยเชื่อมั่นในอำนาจแห่งปวงชน กลุ่ม ม.เที่ยงคืนไม่ได้เกี่ยวข้องใด ๆ กับทักษิณหรือก๊วนการเมืองของใครคนใดคนหนึ่ง พวกเขาทำอย่างสุจริตใจ พวกเขาทำในสิ่งที่ที่ถูกต้อง พวกเขาทำในสิ่งที่ควรค่าแก่การสรรเสริญอย่างยิ่ง ผมว่าคุณต่างหากที่ ไม่เอาอ่าว ไม่เอาความ ไม่ได้เรื่อง ด้วยความไม่เคารพ ส.นำชัย 555 ล็อกอินเฉพาะกิจ โผล่มาแก้ตัวแทนเลยแฮะ ยืนอยู่บนหอคอยเนี่ยนะ เข้าใจรากหญ้าด้วยหรือ ช่วยชาวบ้านหรือสนองตัณหาตัวเองกันแน่ ผิดคือผิด สุจริตใจ จริงเร้ออออออออออออ หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ทะเล ที่ 14-09-2007, 12:27 วันหลังอนาจะตอบแบบพี่โซโก้ บ้างดีกว่า เราได้สมาชิกเพิ่มมาตั้งหนึ่งคนแนะ :slime_v: :slime_v:
หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: เพื่อนร่วมชาติ ที่ 14-09-2007, 14:00 ความรู้สึกของผมต่ออาจารย์นิธิในเวลานี้ก็คือ
เขียนเรื่องประวัติศาสตร์ต่อไปเถอะครับ อย่ามาเขียนเรื่องการเมืองเลย ทัศนะของอาจารย์ช่วงต่อต้านรัฐธรรมนูญนี่มันช่างเข้ารกเข้าพงจริง ๆ หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: นทร์ ที่ 14-09-2007, 14:38 ไม่กี่วัน อ. แกก็จะไปสัมนา
คอยดูคำตอบของแก กับนักข่าวแล้วกัน :mozilla_cool: หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: ชัย คุรุ เทวา โอม ที่ 14-09-2007, 14:45 ไม่อยากว่าแกครับ
เพราะว่าบทความกับหนังสือของอาจารย์ ทำผมได้ A หลายวิชาแล้วครับ :slime_bigsmile: หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: Can ไทเมือง ที่ 14-09-2007, 16:32 ผมคิดว่า ควรจะดีใจกับ อ.นิธิ และดร.หญิง คนนั้นมากกว่านะครับ
เรื่อง ความรัก ครอบครัว หากไม่ได้อื้อฉาวหรือเป็นชู้ชาวบ้าน ผมไม่เห็นผิดตรงใหน เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดา ๆ ของสังคมทั่วไป ถ้าเป็นแวดวงไฮโซ ก็เป็นข่าวซุบซิบวันเดียวก็จบ คนสองคนจะใช้ชีวิตร่วมกัน แล้วก็เลิกกัน ไม่ใช่เรื่องที่สังคมต้องกังวล เว้นแต่ผู้นั้นต้องเป็น "ผู้นำประเทศ" หรือ นักการเมืองผู้ทรงเกียรติทั้งหลาย ผมเคยเห็นคนแก่ ๆ ที่หมดภาระส่งเสียลูกหลานจนตั้งตัวได้แล้ว ก็กลับไปหาแฟนเก่า สมัยวัยหวานเยอะแยะไป... แต่ทั้งนี้ก็ต้องไม่ทำร้ายฝ่ายที่ถูกทิ้งไป ..ต้องเคลียร์ให้ได้อย่างจริงใจทั้งสองฝ่ายนะ :slime_inlove: :slime_inlove: หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: ไทมุง ที่ 14-09-2007, 20:44 เรื่องส่วนตัว หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: ********Q******** ที่ 14-09-2007, 23:08 เอาใจช่วยทีมงานมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ทำหน้าที่เชิงวิชาการต่อไป.. แต่ในด้านวิจารณญาณทางการเมืองและสังคม หากนิธิยังมีบทบาท ก็ขอลดอันดับความน่าเชื่อถือครับ.. เพราะท่านมัวแต่ตั้งข้อสงสัยสังคม จนลืมสงสัยตัวเอง ต้านเผด็จการ ทุกคนพูดได้เหมือนกัน..แต่ทุกอย่างต้องชัดเจนครับ ขอให้ดูแลครอบครัวใหม่ให้ดีอย่าให้มีปัญหาแตกร้าวได้อีกครับ..สิทธิ์ย่อมมาควบคู่กับความรับผิดชอบเสนอ.. นักวิชาการท่านอื่นๆจะลอยตัวออกมาแสดงความเห็น เหมือนในอดีตคงไม่ได้ครับ หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! “นิธิ” หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: room5 ที่ 15-09-2007, 03:21 ที่โพสเนี่ยกะจะแซว snowfake ไม่ได้ตั้งใจ ดิสเครดิตนะจะบอกให้
เรื่องจิ๊บๆเอาขำๆบาง หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: aiwen^mei ที่ 15-09-2007, 12:31 ที่โพสเนี่ยกะจะแซว snowfake ไม่ได้ตั้งใจ ดิสเครดิตนะจะบอกให้ เรื่องจิ๊บๆเอาขำๆบาง อ้าววว เป็นซะงั้น :mozilla_surprised: ...เดี๋ยวคุณ snowflake เธอโกรธไม่มาตัดแปะอีก พวกเราจะเหงานะคะ :mrgreen: ตอนนี้ทั่นเท้ามหาภัย กับคุณน้าติดแก๊ส หายหน้าไปหลายวันแล้วด้วยค่ะ :mrgreen: หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: meriwa ที่ 15-09-2007, 13:26 ถ้าจะมองเป็นเรื่องส่วนตัว ก็อาจจะพูดได้ว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัว มีสิทธิที่จะทำได้
แต่ถ้ามองเป็นเรื่องส่วนรวม ก็น่าจะมองได้ว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาสังคม(หรือเปล่า) หากเราจะบอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของสมัยนี้ ใครๆก็ทำกัน มันถึงจุดนั้นแล้วหรือยังที่เราจะมองว่าเป็นเรื่องปกติ ถ้ามองเป็นเรื่องธรรมดาปกติไปแล้ว ก็แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่ปัญหา และก็ไม่จำเป็นต้องมีการแก้ไขให้ดีขึ้น กรณี อ.นิธิ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องส่วนตัวก็จริง แต่ก็มีผลกระทบต่อสังคม อาจจะมีผลกว่าข่าวดารามีกิ๊กก็ได้ เพราะทั้งคุณวุฒิ และวัยวุฒิ ของ อ.นิธิ ก็มิใช่น้อย รวมทั้งหน้าที่การงาน ความคิดความอ่านย่อมจะมีมากกว่าบุคคลอื่นๆอยู่มาก การจะตัดสินใจอะไร ย่อมเป็นที่จับตาของคนอื่นๆ โดยเฉพาะคนที่ชอบนับถือที่ตัวบุคคล ไม่ได้นับถือที่เหตุผลและการกระทำ อาจทำให้เกิดพฤติกรรมการเลียนแบบได้ เพราะคิดว่าขนาด คนเรียนสูงขนาดนั้น อายุขนาดนั้น ทำงานอย่างนั้น ยังทำได้เลย ผมเห็นด้วยกับคุณ Q ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ภาพพจน์ของ อ. แกเสียไปพอสมควร การแก้ปัญหาสังคม ต้องอาศัยความเข้าใจ ไม่ได้ใช้แค่ความรู้ แค่ครอบครัวตัวเอง ยังไม่เข้าใจ จะไปเข้าใจปัญหาสังคมได้อย่างไร หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: meriwa ที่ 15-09-2007, 13:29 :slime_sentimental:
สังคมแห่งการคลิก ดร.อุทัย ดุลยเกษม ท่านผู้อ่านที่ฝืนใจอ่านข้อเขียนของผมในเล่มนี้ คงรู้สึกได้ว่าพักหลังๆ นี้ผมเขียนเกี่ยวกับเรื่องการหย่าร้าง และปัญหาในครอบครัวบ่อย... ซึ่งผมต้องยอมรับว่า เป็นความจริง เหตุผลก็เพราะผมเห็นว่าเรื่องของความเป็นปึกแผ่นของระบบครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญมาก หากระบบครอบครัวอ่อนแอหรือพังทลายแล้ว ปัญหาอื่นๆ จะตามมามากมาย ผมคิดว่าถ้าจะแก้ปัญหาเรื่องเด็กและเยาวชนกันอย่างถึงรากถึงโคน คงไม่มีหนทางใดดีไปกว่าการทำให้ระบบครอบครัวเป็นปึกแผ่น และได้ทำหน้าที่ของความเป็นครอบครัวอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ เมื่อไม่กี่วันมานี้ผมอ่านสถิติเกี่ยวกับอัตราการหย่าร้างในสังคมไทยในรอบ 10 ปี (2535-2544) เห็นสถิติแล้วก็ตกใจ เพราะอัตราการหย่าร้างในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ได้เพิ่มขึ้นมากจนน่าใจหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปีหลังๆ ตัวเลขสถิติที่สำนักบริหารการทะเบียน กระทรวงมหาดไทยรายงานนี้เป็นการหย่าร้างที่เป็นทางการเท่านั้น ... ในปี 2535 อัตราการหย่าร้างมีเพียง 9.7% ในปี 2540 อัตราการหย่าร้างสูงขึ้นเป็น 18.7% ... และในปี 2544 อัตราการหย่าร้างสูงขึ้นเป็น 23.4% ผมจึงพยายามวิเคราะห์แบบไม่เป็นระบบนักว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ก็พบว่าน่าจะมีผลมาจากกระแสโลกาภิวัฒน์มากกว่าเหตุอื่น ที่ผมเห็นอย่างนี้ก็เพราะ ประการแรกกระแสโลกาภิวัฒน์ได้สร้างระบบคุณค่าอย่างใหม่ขึ้นหลายอย่าง และมีอิทธิพลต่อผู้คนจำนวนมาก ระบบคุณค่าที่ว่านี้ได้แก่ ระบบคุณค่าแบบฉาบฉวยผิวเผิน ทุกวันนี้เราจะสังเกตเห็นได้ไม่ยากว่า ผู้คนจำนวนมากนิยมทำสิ่งต่างๆ อย่างผิวเผินฉาบฉวย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา การทำงาน การคบเพื่อน การติดต่อสัมพันธ์ระหว่างกัน เป็นต้น ล้วนแต่ฉาบฉวยผิวเผินกว่าแต่ก่อนเป็นอันมาก ระบบคุณค่าแบบเน้นความรวดเร็ว โดยเฉพาะความรวดเร็วในการได้รับผล เราเห็นได้ทุกเมื่อเชื่อวัน เช่น การเดินทางก็นิยมการเดินทางแบบเร็วๆ การเรียนหนังสือก็นิยมการจบเร็วๆ การตรวจคนไข้ก็ยมตรวจเร็วๆ การทำธุรกิจอยากรวยเร็วๆ การเป็นนักการเมืองก็อยากมีอำนาจ และตำแหน่งหน้าที่สูงเร็วๆ เป็นต้น การนิยมความรวดเร็วนี้มิได้สนใจว่าผลที่ได้รับจะมีคุณภาพหรือไม่ เพราะไม่สำคัญ ดังที่นักธุรกิจชื่อดังหลายคนกล่าวว่า เก่งไม่กลัว กลัวช้า เป็นต้น ระบบคุณค่าแบบเห็นแก่ได้ ไม่ว่าในเรื่องอะไร เมื่อลงมือทำก็จะคิดเฉพาะประโยชน์ที่ตนเองและพวกพ้องจะได้รับ แม้ว่าการได้รับประโยชน์นั้นจะเป็นการเบียดเบียนผู้อื่นก็ตาม เห็นได้ชัดเจนมากขึ้นทั้งในแวดวงธุรกิจ การเมือง และราชการ ระบบคุณค่าแบบคลิก (Click) หมายความว่า เมื่อไม่ชอบใจก็ 'คลิก' ทิ้งคำว่า 'คลิก' นี้ เป็นมือชนิดหนึ่งที่เรียกกันว่า Remote Control เช่นเราใช้รีโมตในการเปิดปิดและเปลี่ยนช่องโทรทัศน์นั่นแหละ เวลาเราไม่ชอบรายการใดก็คลิกเปลี่ยนช่องทันที และหากอยากกลับมาดูอีกก็คลิกได้อีก วัฒนธรรมการคลิกนี้กลายเป็นระบบคุณค่าที่คนจำนวนมากดูดซับไปโดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นเวลาไม่ชอบใจอะไรก็เปลี่ยนได้ง่ายๆ เหมือนการเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นการ 'คลิก' กันมากในกลุ่มเพื่อนทั้งชายและหญิง คนบางคน 'คลิก' บ่อยมากจนตามไม่ค่อยทัน ไม่เชื่ออ่านข่าวพวกดาราหรือลูกท่านหลายเธอที่มีเงินมีทองมากมากดูเถิด เมื่อวัฒนธรรมการ 'คลิก' บวกเข้ากับระบบคุณค่านิยม 'ความฉาบฉวย' และระบบคุณค่านิยม 'ความเร็ว' เรื่องที่ไม่เคยเกิดมาก่อนก็ย่อมเกิดขึ้นได้ไม่ยาก ว่าจำเพาะเรื่องการหย่าร้าง เราก็เห็นได้ชัดว่าผู้คนจำนวนมากในยุคนี้ตกลงใจเป็นคู่ผัวเมียกันได้ง่ายและรวดเร็วกว่าสมัยก่อนมาก และเมื่อไม่ชอบใจก็ 'คลิก' เปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าประหลาดใจ ที่เห็นอัตราการหย่าร้างเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ การ 'คลิก' เพื่อเปลี่ยนคู่นั้นอาจกระทำได้ง่าย แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นกลับมีมากมาย เช่น สถิติจากกองวิชาการและแผนงาน กรมประชาสงเคราะห์ ได้รายงานว่า ในการสำรวจสถานการณ์เด็กถูกทอดทิ้ง (0-6 ปี) ในสถานสงเคราะห์ 21 แห่งที่อยู่ในความดูแลของกรมประชาสงเคราะห์ ... เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 33.5 ในปี 2541 และจากการสำรวจจำนวนเด็กแรกเกิดถูกทิ้งในโรงพยาบาลรัฐรวม 40 แห่ง ... จาก 90 ต่อเด็กแสนคนในปี 2539 เพิ่มเป็น 120 ต่อเด็กแสนคนในปี 2541 สถิติเหล่านี้เป็นเพียงส่วนเสี้ยวหนึ่งของความเป็นจริงเท่านั้น แต่ก็ไม่ค่อยมีคนสนใจนัก เพราะคนส่วนใหญ่ก็นิยมความฉาบฉวยอยู่แล้ว หรือที่พอมีความอาทรอยู่บ้างก็จะช่วยเหลือ ในลักษณะฉาบฉวยเช่นบริจาคเงินสงเคราะห์ให้เท่านั้นเอง ผมรู้สึกว่าการมีคู่ของผู้คนในยุนี้คล้ายๆ กับการเป็นเจ้าของทรัพย์สินเท่านั้น เมื่อแรกเห็นก็ชอบใจหลงใหลอยากได้เป็นเจ้าเข้าเจ้าของ แต่เมื่อได้มาเป็นเจ้าของแล้ว ก็ชื่นชมอยู่เพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อหมดความชื่นชมแล้วก็ต้องการเปลี่ยนใหม่ คล้ายกับการเป็นเจ้าของรถยนต์หรือเครื่องประดับยังไงยังงั้น คนที่เก็บทั้งของเก่าไว้ และสามารถหาของใหม่มาเพิ่มได้ก็ทำทั้งสองอย่าง เราจึงเห็นคนบางคนมีรถยนต์หลายคัน มีนาฬิกาหลายเรือน มีเครื่องประดับหลายชุด แต่ของจำพวกนี้ไม่มีชีวิต ไม่มีความรู้สึก แต่ในกรณีของคนนั้น คนเราไม่สามารถทนต่อการที่จะเป็นเพียงเครื่องใช้หรือเครื่องประดับสำรอง การระหองระแหงและความบาดหมางต่างๆ จึงเกิดขึ้นและนำไปสู่การแตกหักหย่าร้างในที่สุด ผมคิดว่า ในยุคนี้อาจมีความจำเป็นอย่างมากที่สถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา และสถาบันทางสังคมชนิดอื่นๆ จักต้องเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ในการช่วยให้ผู้ที่จะเริ่มมีครอบครัวได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า การ 'มีคู่' ก็คือ การที่มีสมาชิกสองคนที่ตกลงใจร่วมมือร่วมใจกันสร้างองค์กรที่เรียกว่า 'ครอบครัว' ให้เป็นปึกแผ่น เฉกเช่นเดียวกับสมาชิกของบริษัทห้างร้าน ในการกระทำใดๆ สมาชิกทั้งสองคนจะต้องไม่คิดถึงตนเอง ให้มากกว่าคิดถึงเป้าหมายขององค์กร หากทำได้เช่นนี้ความขัดแย้งจะลดน้อยลงมากทีเดียว ผมคิดว่าผู้คนจำนวนมากไม่ค่อยได้คิดเรื่องเป้าหมายของการมีครอบครัวมากไปกว่าการได้มีคู่ที่ตนเองรักใคร่ชื่นชม เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นคือการสร้างครอบครัวให้เป็นปึกแผ่นก็คิดกันน้อย หาไม่ไฉนเลยอัตราการหย่าร้างจึงสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าตกใจ น่าจะต้องมีการเคลื่อนไหวผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจัง และต่อเนื่องเพื่อให้ระบบครอบครัวไทยเข้มแข็งและเป็นปึกแผ่นขึ้น หากเราปล่อยปละละเลยไม่รีบหาทางแก้ไขก็เท่ากับว่าเรากำลังช่วยกันสร้างปัญหาสังคมให้ขยายวงกว้างขึ้น และเพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้นด้วย ดังจะเห็น ได้จากสถิติการใช้ยาและสารเสพติดของนักเรียน ระดับมัธยมศึกษาที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากระบบคุณค่าที่เกิดจากวัฒนธรรม 'คลิก' แล้วสังคมปัจจุบันนี้ยังอาจเรียกได้ว่าเป็นสังคมแห่งการ 'รูด' ด้วยก็ยังได้ เพราะทุกวันนี้ผู้คนใช้วิธีรูดบัตรกันเป็นว่าเล่น หลายคนอาจไม่คิดว่าวัฒนธรรมการรูดบัตรมีนัยอะไร แต่ผมกลับเห็นว่าวัฒนธรรมการรูดบัตรนี้เป็นการสร้างระบบคุณค่าแห่งความฉาบฉวย ทำให้ไม่เห็นความเชื่อมโยงของสิ่งต่างๆ เช่นทำให้คนเรามองไม่เห็นความเชื่อมโยงระหว่างที่มาของเงิน (รายได้) และสัดส่วนของจำนวนเงินที่เรามีกับค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายออกไป (รายรับ-รายจ่าย) เป็นเหตุให้เราไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ทางการเงินของเราได้ สำหรับคนรวยคงไม่มีปัญหามากเท่ากับคนที่ไม่รวย แต่ใช้ชีวิตแบบคนรวย เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่รู้เท่าทันกับสิ่งเหล่านี้ สังคมเราก็จะเผชิญปัญหามากมาย ผมยังมีความเชื่อมั่นในระบบครอบครัวว่าจะเป็นแกนของการแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างยั่งยืน จึงอยากเห็นระบบครอบครัวเข้มแข็งและเป็นปึกแผ่น เพื่อจะช่วยให้ปัญหาสังคมหลายๆ ปัญหาลดน้อยลง เราในฐานะพ่อแม่หรือนักวิชาชีพ วิชาการทั้งหลายคงต้องลงมือปฏิบัติการ เพื่อแก้ปัญหานี้กันอย่างจริงจังเสียละกระมัง (update 5 มกราคม 2004) [ ที่มา... กรุงเทพวันอาทิตย์ ปีที่ 15 ฉบับที่ 5483 (360) วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2546 ] http://www.elib-online.com/doctors47/family_click001.html หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: สี่หามสามแห่ ที่ 20-09-2007, 02:52 มันก็เืรื่องของ มนุษย์ขี้เหม็น ที่ยังหลงอยู่ใน รูป รส กลิ่น เสียง แค่นั้นแหละ
ความเป็นนักวิชาการ ก็ไม่ได้ทำให้มันเป็น เทพ แต่อย่างไร หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: so what? ที่ 20-09-2007, 05:40 วันก่อนเห็นเว็บผู้จัดการเอารูปมาลงแล้วสงสาร :( :(
เฮี้ยว เหี่ยว แทบจะตะบันน้ำกินแล้ว เลยของดที่จะวิจารณ์ต่อครับ :slime_smile2: หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: meriwa ที่ 20-09-2007, 08:48 เรื่องอะไรที่มันอยู่ใต้สะดือ...สาวกเผด็จการช๊อบชอบ แต่พอเรื่องที่มันเกี่ยวกับสาระของสังคมเช่น การยึดอำนาจโดยทหาร การโคดนาชวนเชื่อรายวันที่ใช้ภาษีจากชาวบ้านตาดำๆ การใช้อำนาจเถื่อนแทรกแทรงวงการตุลาการ ต่างๆนานาเหล่านี้กลับทำเป็นดัดจริตไม่พูดสักแอ๊ะ ที่สำคัญก็คือ ทั้ง อ. นิธิและภรรยายคนใหม่ต่างก็เลิกกับคนเก่าเรียบร้อยแล้ว แต่บางคนที่แอบจดทะเบียนซ้อน หรือแย่งเมียเพื่อนในพรรคเดียวกันนี่ซิ...ชั่วแบบไม่ต้องตีความจริงๆ!!! ขอบคุณสำหรับทู้นี้ที่เป็นเวทีให้ท้าวฯเข้ามาชู๊ดเหน่งๆน๊า :slime_smile2: พูดอยู่ได้ หลักฐานน่ะหามาได้หรือยัง สาวกทักกี้นี่ทำไมหูเบาเชื่อคนง่ายจัง เถียงกับเท้านี้ เถียงจนตายก็ไม่จบ เพราะพูดเรื่องนึงก็ไปอีกเรื่องนึง โยงมั่วไปหมด ถึงว่าคิดอะไรไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอัน โน่นนิดนี่หน่อย หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: meriwa ที่ 20-09-2007, 11:10 หลักฐานเรื่องไรฤา!?! :slime_doubt: ไม่รู้ว่ะ ก็เห็นชอบถามหาหลักฐานไม่ใช่หรอ เวลาจะกล่าวหาใคร :slime_smile2: หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: สี่หามสามแห่ ที่ 20-09-2007, 13:39 โถ ...ที่ไอ้ตัวที่มันล่อเด็กในพรรค จนต้องไปโยนให้ทนายหน้าหอ รับเซ้งต่อหน่ะ มันใคร
อย่าคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนตัวเองซิ จ๊ัะ ในบอร์ดนี้คงมีแต่จ๊ะ เท่านั้นแหละ ที่พาลูกไปขายตัว แล้วพ่อเอาเงินไปเที่ยวไม้เอก หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: สี่หามสามแห่ ที่ 20-09-2007, 13:53 ไปจำขี้ปากยายแม้นกระเทยควายซ่องไหนมาหล่ะเนี่ย!?! :slime_smile2: อ้าวเรื่องจริงเหรอเนี่ย :slime_smile2: :slime_smile2: แต่ก็เป็นคนแก่ที่หน้าด้านหน้าทน จริงๆ นะ หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: peejho ที่ 24-09-2008, 08:22 ตามข่าวแจ้งแค่ว่าต่างคนต่างมีคู่ใหม่ แต่ไม่ได้นำเสนอ มิติ ของเจ้าตัวว่าเขามีเหตุผลอะไร
เราชอบคิดไปเองตามหลักกู (คล้ายหลักการ) ว่า นี่มันคือการแย่งผัว แย่งเมียชาวบ้าน ผิดศีลธรรม โดยที่ไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว เมีย อ.นิธิ และ ผัว อ. สุชาดา รู้สึกอย่างไร ทั้งหมดอาจจบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้งก็ได้ ที่ลงเอยแบบนี้ แต่เนื่องจากข่าวไม่ได้แจ้งไว้ ทำให้ข้อมูลค่อนข้างลำเอียง ไปยังฝ่ายที่โจมตี อ.นิธิ จากที่อาจารย์เขียนเรื่องปฏิรูปการเมืองในมติชนรายวัน และมีการพูดถึงการไฮแจ๊คทำเนียบ ทางฝ่ายพันธมิตรเล่นตอบโต้กลับว่าอาจารย์ไฮแจ๊คเมียเพื่อน ผมว่าการเล่นกลับอย่างนี้ดูไร้เหตุผลมาก ถ้าอ่านบทความของ อาจารย์นิธิ แล้วรู้จักจับประเด็น ท่านแค่ต้องการสื่อสารว่า จะปฏิรูปทั้งที ก็เห็นด้วย แต่อย่าปฏิรูปเฉพาะการเมือง ปฏิรูปทั้งองค์รวมไปเลย สังคม การศึกษา ฯลฯ และอีกปัจจัยที่สำคัญคือ อย่ามาเอาทำเนียบเป็นตัวประกัน การปฏิรูปไม่ได้เกิดจากการขู่เข็ญ บังคับ แต่ต้องเปิดใจปฏิรูป ทั้งทางฝ่ายพันธมิตร และฝ่ายรัฐบาล ในตอนท้ายของบทความ อาจารย์ ยังแอบกัดระบอบทักษิณพร้อมทั้งเสนอความเห็นว่าวิธีการที่พันมิตรทำ ไม่สามารถกำจัดระบอบนี้ได้ (ซึ่งหมายความว่าอาจารย์ก็ไม่เห็นด้วยกับระบอบทักษิณเช่นกัน) ผมเป็นอีกคนที่ไม่ชอบระบอบทักษิณ แต่เลือกวิธีการ และเหตุผลในการปฏิบัติตัว ลองเปิดกว้างฟังความคนที่เห็นแตกต่างบ้างก็ไม่เลวนะครับ สำหรับตัวพันธมิตรเองด้วย อย่าเห็นว่าคนที่เห็นแตกต่างเป็นคนเลวเลยครับ ขอร้อง หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! “นิธิ” หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: แอ่นแอ๊น ที่ 24-09-2008, 15:27 สามีคุณสุชาดา หน่ะไม่เท่าไหร่
แต่เท่าที่ทราบ ภรรยา จานนิธิ ช๊อคซีนีม่า ไปเลย เพราะอยู่ๆ แกเก็บของออกจากบ้านแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย คนในวงการ ต้องไปเยี่ยมให้กำลังใจแก เพราะแกไม่พูดไม่จา ไม่กินข้าวกินปลาอยู่หลายวัน เรื่องที่ด่าจานนิธิ ไม่ใช่ด่าแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยหรอก ขอบอก หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: Bo. ที่ 24-09-2008, 15:56 เหอๆ
เสียดายอ่ะ ที่ตอนเด็ก ๆ ชอบอ่านบทความนิธิ แต่โตมา ก็รู้อะไร ๆ ขึ้นเยอะ คนที่วิพากษ์สังคมได้ลุ่มลึก แต่ท้ายที่สุดกลับทำในสิ่งที่กระทบกระเทือนจิตใจและศีลธรรมของสังคม ถ้านิธีนี่เป็น ตาแก่ข้างบ้านที่ไม่ได้มีบทบาทอะไรมากนักก็คงไม่มีใครจะสนใจหรอก เห็นได้ชัดว่าขนาดคนใกล้ตัวแก ยังออกอาการรับไม่ได้ ยอมรับเถอะค่ะ นี่คือจุดหักเหของชีวิตนิธิ ที่จะต้องมาเป๋เอาตอนแก่ ขอให้มีความสุขกับชีวิตครอบครัวใหม่หลังวัยเกษียร หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: eAT ที่ 24-09-2008, 16:52 เหอๆ เสียดายอ่ะ ที่ตอนเด็ก ๆ ชอบอ่านบทความนิธิ แต่โตมา ก็รู้อะไร ๆ ขึ้นเยอะ คนที่วิพากษ์สังคมได้ลุ่มลึก แต่ท้ายที่สุดกลับทำในสิ่งที่กระทบกระเทือนจิตใจและศีลธรรมของสังคม ถ้านิธีนี่เป็น ตาแก่ข้างบ้านที่ไม่ได้มีบทบาทอะไรมากนักก็คงไม่มีใครจะสนใจหรอก เห็นได้ชัดว่าขนาดคนใกล้ตัวแก ยังออกอาการรับไม่ได้ ยอมรับเถอะค่ะ นี่คือจุดหักเหของชีวิตนิธิ ที่จะต้องมาเป๋เอาตอนแก่ ขอให้มีความสุขกับชีวิตครอบครัวใหม่หลังวัยเกษียร คนมีความรู้ วิเคราะห์เก่ง ไม่จำเป็นต้องสามารถ ทำอย่างทีตัวเองสั่งสอนก็ได้ นี่เป็นตัวอย่าง ถ้าคิดว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ ทำถูกต้อง ถ้าสังคมไทย ทำแบบนี้กันทุกคนจะเป็นอย่างไรกันเนี่ยะ เรื่องนี้ ขุดมาลึกแค่ไหน ก็ยังนินทากันหนุกหนานอยู๋นั่นเอง หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: personal jesus ที่ 24-09-2008, 16:58 ถ้าภรรยาเก่า ไม่ได้มีความผิดอะไร เพียงเพราะเจอรักใหม่ ก็ดูแลเค้าบ้าง คิดว่าอายุคงมากแล้ว เจ็บช้ำน้ำใจ ตอนอายุมาก ..................... เราก็ไม่รู้เรื่องของเค้าหรอก หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: Cylonn ที่ 24-09-2008, 17:08 ถ้าวันหนึ่งผมติดเด็ก แล้วตัดสินใจทิ้งลูกทิ้งเมียไปอยู่กับเด็กเนี้ย
ผมคงไม่ใช่ผู้ชายชาติหมาใช่ไหม หัวข้อ: Re: วิจารณ์แซด! นิธิ หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: Augustine ที่ 24-09-2008, 17:19 ตำหนิโพสต์ทูเดย์เถอะ คนต้นเรื่อง ผู้จัดการแค่นำมาเผยแพร่ต่อ น่าตำหนิทั้งคนต้นเรื่อง ทั้งคนเผยแพร่อะแหละ |