ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

(http://www.thairath.co.th/2549/politics03/May/library/08/s_politic.jpg)

“ไม่ให้สัมภาษณ์ ผมลืมปากไว้ที่เตี้ยวยูไท่”

แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะออกลีลาพลิ้วหนีไมค์นักข่าว อ้างลืมปากไว้ที่พักรับรองแขกวีไอพีของประเทศจีน

ไม่หลุดปากบอกอะไร

แต่ไล่เรียงจากหน้าตา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เลขาธิการพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มวังน้ำยม นายสรอรรถ กลิ่นประทุม แม่ทัพภาคกลาง นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองหัวหน้าพรรค “เสี่ยเพ้ง” นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ถุงเงินใหญ่ ไปยันนายวราเทพ รัตนากร เด็กสร้าง “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เจ้าแม่วังบัวบาน

ดูจากรายชื่อก๊วนกอล์ฟนัดพิเศษที่สนามไพน์เฮิร์สทเมื่อสายๆวันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม

แม่ทัพนายกอง คีย์แมนสำคัญทั้งนั้น

โดยเฉพาะคิวของนายพงศ์เทพกับนายวราเทพขาจรหน้าใหม่ที่แทรกเข้ามาในหมู่มือโปร ปกติไม่เคยเห็นชื่อร่วมก๊วนกอล์ฟขาประจำของนายกฯทักษิณ

การจัดตัวประกบก๊วนกอล์ฟไม่น่าจะเป็นแค่การออกรอบธรรมดาๆ

มันต้องมีวาระพิเศษแทรก

และเป็นการยืนยันถึงความไม่ปกติ สายของวันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม ที่สนามกอล์ฟเลควูด บางนา พ.ต.ท.ทักษิณก็นัดแกนนำพรรคไทยรักไทย อดีตรัฐมนตรีอย่างนายอดิศัย โพธารามิก นายประยุทธ มหากิจศิริ ถุงเงินใหญ่

ออกรอบตีกอล์ฟเป็นวันที่สองติดต่อกัน

น่าจะไม่ใช่แค่เรื่องของคนที่มีกำลังเหลือเฟือ หรือคิวของคนว่างงานอย่างที่พลิ้วๆกัน

จากที่ซุ่มเงียบอยู่พักใหญ่ ทำตัวโลว์โปรไฟล์ถอยไปอยู่วงนอก

ล่าสุด “ทักษิณ” เริ่มกลับมามีปฏิสัมพันธ์ เรียกระดมพลแกนนำ นายทุน หัวหน้ากลุ่มก๊วนการเมืองในพรรคไทยรักไทย

ขยับเนื้อขยับตัวออกรอบก๊วนกอล์ฟการเมืองตลอดช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์

ช่วงเวลาเหมาะเจาะพอดิบพอดี

มันน่าจะเป็นอะไรที่สอดคล้องกับคิวรองรับสถานการณ์ในเวลา 10.30 น. วันที่ 8 พฤษภาคม ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟันธงลงมติ

โมฆะหรือไม่โมฆะ

และลึกไปกว่านั้น มันน่าจะเกี่ยวโยงกับคิวที่รัฐมนตรีระดับแม่ทัพของ พรรคไทยรักไทย หลุดปากในวงเหล้า โวยล่วงหน้า ถ้าศาลสั่งโมฆะเลือกตั้งใหม่ อย่างต่ำเลยผู้สมัครต้องใช้เงินเขตละหนึ่งล้านห้าแสนบาท

400 เขตของไทยรักไทยจะเอาเงินจากที่ไหน

ที่สำคัญเลย มันน่าจะต่อเนื่องเป็นคำตอบที่ว่า ทำไมอินทรีการเมือง คนที่ต้องอ่านกัน 2-3 ช็อต อย่าง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ต้องออกมานำลูกหาบกลุ่มวังน้ำยม

เปิดเกมขวางโมฆะเลือกตั้ง

เฮี้ยวถึงขั้นเสี่ยงคุกเสี่ยงตะราง โต้ตอบกับศาลปกครอง

กับปมร้อนๆปมเดียวที่เถียงกันในพรรคไทยรักไทย “ถ้าเลือกตั้งใหม่ ใครจะจ่าย”

เท่าที่รู้มา ในการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน ด้วยเหตุผลที่การยุบสภาเกิดจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เงื่อนไขทั้งหมดทั้งปวงมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ

การเลือกตั้งเป็นเดิมพันของคนชื่อ “ทักษิณ”

400 เขตเลือกตั้ง นายหญิงไทยรักไทยควักจ่ายแต่เพียงผู้เดียว

หัวหน้ากลุ่มหัวหน้าก๊วน สบายกระเป๋า เบาตัวไป

แต่ถ้าศาลสั่งให้การเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน เป็นโมฆะ ต้องลงสนามเลือกตั้งกันใหม่

ประเมินกันในสถานการณ์เบื้องต้น โดยเงื่อนไขที่ยังอึมครึมๆ ประกอบกับเงื่อนเวลาแค่ 1 ปีบวกลบ 3 เดือน สภาผู้แทนราษฎรเฉพาะกิจแก้ไขรัฐธรรมนูญ

“ทักษิณ” อาจมองว่า ไม่คุ้มค่าเสี่ยง

ถ้า “ทักษิณ” เว้นวรรคต่อไป ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ “นายหญิง” จะเว้นวรรคทุนด้วย

หัวหน้ากลุ่มก๊วนหนีไม่พ้นต้องแบกรับภาระก๊วนใครก๊วนมัน

และถ้านับกันตามขุมกำลัง กลุ่มวังน้ำยมปาเข้าไปร้อยกว่าคน คำนวณไปอย่างต่ำเขตละหนึ่งล้านห้าแสนบาท

“สมศักดิ์” ไม่ต้องควักกันกระเป๋าแหกหรือ.

“ทีมข่าวการเมือง”

ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/news.php?section=politics&content=5116

เที่ยวที่แล้ว ไร้คู่แข่ง หน้าเหลี่ยมก็ควักค่า "ยุบสภา" ไปเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ถึง "พันล้าน"

ขนหน้าแข้งไม่ร่วง

แต่เที่ยวนี้ ข้าศึกลงสู้เต็มอัตราศึก...หุ หุ...ไม่อยากรู้...เขตละ 20 ล้าน จะอยู่หรือเปล่า

โสน้าหน้า...

ผมว่าเที่ยวนี้ พรรคต่างๆที่คิดสู้ด้วยกระสุนดินดำอาจจะทำไม่เต็มร้อยครับ เพราะว่าจะติดปัญหาเรื่องที่จะต้องมีการปฏิรูปการเมืองและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็จะทำให้สภาอยู่ได้ไม่นาน คนพวกนี้คงไม่เสี่ยงทุ่มไปสุดตัวหรอกครับ เที่ยวนี้จึงน่าจะชิงกันที่นโยบายพรรคและตัวหัวหน้าพรรคมากกว่า ว่าใครจะสวยหรูกว่าใคร

ไม่เห็นมีใครพูดถึงค่าใช้จ่ายของประชาชนเลยนะครับที่ต้องกลับไปเลือกตั้งอีกรอบ
เห็นพูดกันแต่งบประมาณจัดเลือกตั้งแค่ 2 พันกว่าล้าน

ค่าใช้จ่ายที่แท้จริงอยู่ที่ประชาชนครับ สมมุติคิดแค่คนต่างจังหวัดที่มาทำงานอยู่ กทม.
รวมสัก 5 ล้านคน กลับบ้านทีแต่ละคนต้องมี 2 พันบาทแค่นี้ก็ร่วม 10,000 ล้านแล้วครับ
ตัวเลขจริงต้องสูงกว่านี้ ยังไม่นับเลือกตั้งซ่อม แล้วยังต้องมาจัดเลือกตั้งใหม่อีกรอบ
ไม่อยากคิดว่าความจริงต้องใช้น้ำมันขนคนหลายล้านคนไปๆ มาๆ รวมกันกี่บาท..

นักการเมืองก็คิดกันแต่เรื่องของตัวเอง พรรคร่วมฝ่ายค้านก็สบายไปประหยัดได้ 1 รอบ

ไม่มีฝนห่าใหญ่คอยช่วยแล้วด้วยซิ  คงต้องควักกันเอง กร๊ากกกกกก

ถูกต้องครับ

ค่าใช้จ่ายตรงนี้ ประเมินค่าไม่ได้ แต่ยังงัยผมว่าสูงกว่า ที่พวก สส เสีย แน่ ยกเว้น ค่าใช้จ่ายในการซื้อเสียงนะ :shock:

เอา 2 เดือนมานี่เข้าคูหาไปกี่รอบแล้วหว่า นับไม่ถูก

สส. สว. สท. อะไรอีกมั่งเนี่ย

ประชาธิปไตยเบ่งบานจริงๆ

หุหุ  :lol:

เท่าที่อ่านดู เกือบทั้งหมด เป็นแค่ ความคิดเห็นของทีมงานไทยรัฐเท่านั้น ไม่ทราบว่าไทยงานไทยรัฐไปออกรอบกับยายกด้วยเลยหรือไม่ถึงเขียนข่าวได้เช่นนี้ น่าคิด ๆ

ค่าใช้จ่ายในการสมัคร สส. 1 ครั้ง  เอาแบบตรงไปตรงมา ไม่ฟุ่มเฟือย  มันก็คงไม่น้อยนัก
แล้วนี่สารพัดจะค่าใช้ข่ายที่ซับซ้อน มากมายไปหมด

ถ้านายทุนเกิดไม่มั่นใจในการลงทุนขึ้นมา  .......  หืดขึ้นคอนะ  ก็มันเคยตัวแล้วนี่นา อิ อิ  ตามใจกันไว้เยอะ :lol:

 

โสน้าน่าด้วยคน  :cheesy:

เขตละ 20ล้าน 400 เขต เป็นเงิน 8พันล้าน ขนหน้าแข้ง ร่วง นิดหน่อย
มีเป็นแสน จิ๊บจอย
ลองนึกว่า ท่านๆมีเงิน 1 แสนบาท ในกระเป๋า
จะใช้ซื้อเครื่องเสียงสัก 8 พันบาท
ผมว่า มัน ชิว ชิว น้า

เรื่องเงิน ไม่ใช่ ปัญหา
ปัญหาคือ จะเสียที่ในสภากี่เสียง
จะได้เป็น รัฐบาลต่อหรือไม่
ถ้าได้เป็น ก็แล้วไป หาของชาติขายต่อไป คราวนี้ต้องเนียน กว่าเดิม
ถ้าไม่ได้เป็น ซวยแน่ โดนตามเช็คบิล แน่ๆ

แม้วคงไม่มีปัญหากับเงินตรงนี้เท่าไหร่เพราะกระเป๋าหนักอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เราเป็นห่วงพวกฝ่ายค้านมากกว่าไม่ได้เป็นรัฐบาลมาหลายสมัย แล้วจะสู้กับเขาไหวหรือ ในกทมคงไม่มีปัญหา แต่ในตจว.เนี่ย ห่วงจริงๆ :(

เป็นห่วงพวกฝ่ายค้านอยู่เหมือนกัน จะเอาเงินที่ไหนไปสู้

เมื่อไหร่จะล้าง ระบบหัวคะแนน ที่ใช้เงินซื้อเสียงให้มันสูญพันธุ์กันให้หมดๆไปเสียที

ยากครับลุงถึก "การจัดตั้ง" มันลงลึกไปถึงหมู่บ้าน

กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. กลุ่มแม่บ้าน อสม.

กลุ่มเหล่านี้แค่อาศัยญาติมิตรในหมู่บ้านก็เป็นเสียงข้างมากในหมู่บ้าน

เลือกกี่ทีก็ชนะ การเอาชนะในหมู่บ้านได้ ก็คือการเอาชนะในเขตใหญ่ได้

การสัญญาาว่าจะให้ไปหลายรูปแบบ ไม่ว่าจ่ายโดยตรง หรือ "จ่ายโดยงบประมาณ" เช่น SML กองทุนหมู่บ้าน

หรือ โครงการเกษตรทางเลือก เกษตรอินทรีย์ การให้สิทธิ์ ซื้อปุ๋ยหรืออุปกรณ์การผลิตราคาพิเศษจากงบประมาณของรัฐบาล

กลุ่มคาราวานคนจนที่สวนจตุจักร หากลงลึกในรายละเอียด จะพบว่า"แกนนำ" ต่างเป็นผู้รับผลประโยชน์ "เอื้ออาทร" จากรัฐบาลหลากหลายโครงการ

แต่มันเป็นการ"เอื้ออาทร" เฉพาะกลุ่ม เฉพาะพวก...ไม่กระจายตัวอย่างแท้จริง...( อาจมีปัญหาเรื่องงบประมาณ )

การปฏิรูปการเมือง มันคงยากตรงนี้ ในเมื่อนักเลือกตั้งทั้งหลาย วางเครือข่ายมะเร็งร้ายลงไปทุกอณูของคะแนนเสียง

วิธีแก้ไขมีทางเดียว ปล่อยให้คนชั่วเข้ามาได้บ้าง แล้วภาคประชาชนตรวจสอบอย่างเข้มข้น

การตรวจสอบอย่างเข้มข้นโดยสื่อ โดยกลุ่มการเมืองภาคประชาชน ตามกัดติดแบบไม่กระพริบตา

ต้องทำแบบนี้ ถึงจะสามารถช่วยให้ประเทศชาติอยู่รอด

พวกเราในฐานะประชาชนก็มีทางเดียว เป็นแนวร่วมฝ่ายค้าน ไม่ว่าในเรื่องใด ที่คิดว่าเป็นประโยชน์ของประเทศชาติ

ที่สำคัญ เราต้องเชื่อ "การอภิวัฒน์การเมือง อภิวัฒน์สังคมด้วยศาล" ด้วยอำนาจตุลาการ

ไว้ผมเขียนบทความเกี่ยวกับการอภิวัฒน์การเมืองโดยอำนาจตุลาการ อีกครั้งหนึ่ง