ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)

พนง.ทีโอที ออกแถลงการณ์จี้ "สพรั่ง" ลาออก


 วันนี้ (23 ส.ค.) นายนุกูล บวรสิรินุกุล รักษาการประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะกรรมการบริษัท ทีโอที ลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการทีโอที ซึ่งจะส่งผลให้คณะกรรมการทั้งหมดลาออกด้วย เนื่องจากการบริหารของบอร์ดชุดนี้ ทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงภายในองค์กร ทั้งในบอร์ดและผู้บริหารระดับสูง จนทำให้พนักงานขาดความเชื่อมั่น รายได้ถดถอยถึงร้อยละ 50 นับแต่คณะกรรมการฯ ชุดนี้เข้าบริหารตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และหากภายใน 7 วัน พล.อ.สพรั่ง และกรรมการทุกคนยังไม่ลาออก พนักงานจะชุมนุมขับไล่และปิดประตูไม่ให้เข้ามาทำงานในบริษัท นอกจากนี้ สหภาพฯ ยังส่งหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที และส่งหนังสือแจ้งให้ พล.อ.สพรั่ง รับทราบแล้ว

นายนุกูล ระบุด้วยว่า ทีโอทีอยู่ในธุรกิจโทรคมนาคมที่มีการแข่งขันสูง บอร์ดจะต้องเข้าใจธุรกิจและสร้างรายได้ แต่บอร์ดชุดนี้กลับเน้นการจับผิดคณะผู้บริหารชุดเดิม ส่วนงานใหม่ที่ควรสร้างรายได้กลับไม่อนุมัติ ทั้งการจัดซื้อจัดสร้างอุปกรณ์เพื่อให้บริการประชาชน อีกทั้งการตัดสินใจผิดพลาดเรื่องการปลดนายสมควร บรูมินเหนทร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ จนนายสมควร ร้องศาลปกครองกลางและมีคำสั่งคุ้มครองตำแหน่งในที่สุด ถือว่าเป็นสิ่งที่บอร์ดต้องรับผิดชอบ และพนักงานทีโอขอเรียกร้องให้ตั้งบอร์ดชุดใหม่ที่มีความรู้ด้านธุรกิจ และไม่ควรแต่งตั้งมากถึง 15 คน เหมือนบอร์ดชุดปัจจุบัน เพราะอุ้ยอ้ายเกิดความเห็นขัดแย้ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรุ่งนี้ (24 ส.ค.) พนักงานทีโอทีจะใส่ชุดดำประท้วงการทำงานของบอร์ดที่ไม่มีความชัดเจน โดยจะทำหนังสือทวงถามต่อที่ประชุมประชุมบอร์ดในวันพรุ่งนี้ เวลา 11.30 น.
 

การกระทำของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)นี้ถือว่าไม่ให้เกียรติ์วีรบุรุษอย่างยิ่ง ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควร ไร้จริยธรรม มโนธรรม และคุณธรรมที่บังอาจไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!! :slime_smile2:

(http://ads.dailynews.co.th/column/images/2007/cartoon/8/23/44627_42284.jpg)

ท่านไปลุ้นเป็น ผบ.ทบ.อยู่ไง

ติ๊งต่างว่าท่านอนุพงษ์ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.....แล้วแบบนี้พี่พรั่งต้องลาออกตามแบบวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเค้ามั้ยน๊า!?! :slime_whistle:

"พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร (เกิด 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2491 ที่จังหวัดลำปาง) อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 เป็น 1 ในคณะก่อการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549 ภายหลังได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ และเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และได้รับการพิจารณาให้เป็นประธานบอร์ดการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)


พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร มีชื่อเล่นในหมู่คนใกล้ชิดว่า เปย เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวน 8 คนของ พันโทศรี และนางเพ็ญแก้ว กัลยาณมิตร เป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 7, โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 18, วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่น 43 และปริญญาโทจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

พล.อ.สพรั่ง สมรสกับ วิภาดา กัลยาณมิตร มีบุตรชาย 3 คน คือ นักเรียนนายร้อยเอกวีร์ กัลยาณมิตร,นักเรียนนายเรืออากาศอัครวัต กัลยาณมิตร และนักเรียนนายเรืออากาศเอกวริษฐ์ กัลยาณมิตร กำลังศึกษาวิชาทหารทั้ง 3 คน


การรับราชการทหาร
พล.อ.สพรั่ง เริ่มรับราชการเมื่อ พ.ศ. 2512 เป็นผู้บังคับหมวดปืนเล็ก ร้อยอาวุธเบา กองพันทหารราบที่ 3 กรมผสมที่ 4 เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 4, ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 19, ผู้บังคับการกรม นักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร, ผู้บังคับการกรม นักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า

พล.อ.สพรั่ง ดำรงตำแหน่งผู้บัญชากองพลกองพลทหารราบที่ 15 เมื่อ พ.ศ. 2540, ตำแหน่งแม่ทัพน้อยที่ 3 เมื่อ พ.ศ. 2546 ,ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 3 เมื่อ พ.ศ. 2548 ก่อนจะเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ภายหลังการรัฐประหาร เมื่อ พ.ศ. 2549"

""พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร" บนทางสองแพร่งของ คมช.



 
แม้ไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่คนวงในพูดเสียงดังฟังชัดมาตลอดว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หลังเกษียณเดินต่อในเส้นทางการเมืองแน่

เป็นการเดินด้วยเหตุผลอย่างที่ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร สรุปไว้คือ เพราะภารกิจที่ประกาศช่วงที่ทำรัฐประหารหลายเรื่องยังไม่บรรลุ

คำของ พล.อ.สพรั่งดังกล่าว แม้ไม่ชัดว่าคือการ "สืบทอดอำนาจ" แต่ความหมายไม่ต่างไปจากนั้น

"บิ๊กบัง" ต้องเดินสู่สายทางการเมือง เพื่อปฏิบัติภารกิจของ คมช.ให้แล้วเสร็จ

เมื่อมีการทำรัฐประหาร เส้นทางสายอำนาจอย่างเป็นทางการมีอยู่สายเดียว คือ "อำนาจของกองทัพ"

การควบคุมการใช้อำนาจรัฐเพื่อบรรลุภารกิจ ไม่ซับซ้อน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ในฐานะหนึ่งคือ ผบ.ทบ. และอีกฐานะหนึ่งคือ ประธาน คมช. สามารถบริหารอำนาจให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันได้

รวมเส้นทางอำนาจสองเส้นคือ อำนาจในการกุมกำลัง กับอำนาจในการกุมรัฐบาลให้เป็นเส้นทางเดียวกันได้ ด้วยสภาวะที่ ผบ.ทบ.กับประธาน คมช.เป็นคนคนเดียวกัน

แต่เมื่อร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ หลังจากนั้นจะต้องมีการจัดตั้งพรรคการเมือง เพื่อทำการหาเสียง เรียกคะแนนในการเลือกตั้งจะมีขึ้นในเดือนธันวาคม

เส้นทางสายเดียวจะต้องถูกแบ่งเป็นสองแพร่ง

เพื่อการสืบทอดภารกิจของ คมช. พล.อ.สนธิต้องมาเดินในบทบาทของนักการเมือง ทิ้งบทบาทในกองทัพให้กับผู้ที่จะได้รับแต่งตั้งเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่

ประเด็นอยู่ที่ท่ามกลางความขัดแย้งที่ก่อให้เกิดการต่อสู้อย่างรุนแรง การจะสืบทอดภารกิจ สานต่ออำนาจได้ ต้องทำให้อำนาจรัฐ และอำนาจกุมกำลังยังเป็นหนึ่งเดียวกันให้มากที่สุด แม้จะได้อำนาจรัฐมาไว้ในมือ แต่สถานการณ์ที่เพิ่งผ่านการรัฐประหารต้องยอมรับว่า กองทัพเป็นอำนาจที่มีอิทธิพลสูงยิ่ง

พล.อ.สนธิมีภาพของตัวแทน คมช. เมื่อเลือกที่จะเดินเข้ายึดกุมอำนาจในเส้นทางการเมือง จะต้องไว้วางใจอย่างสูงยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนอย่างหนักแน่นและเชื่อฟังจากอำนาจในเส้นทางกุมกำลัง

นั่นหมายถึง ผู้ที่จะมาเป็น ผบ.ทบ.แทนจะต้องเป็นผู้ที่ พล.อ.สนธิไว้วางใจได้

ผบ.ทบ.คนใหม่ยิ่งนับวันจะถูกบังคับให้เป็นอื่นไปไม่ได้เลยนอกจาก พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ชี้ให้เรียนรู้ธรรมเนียมว่าหากน้องได้เป็น พี่ต้องลาออก

คำถามจึงกลับมาอยู่ที่ พล.อ.สนธิ วางใจใน พล.อ.สพรั่งได้แค่ไหน

เชื่อมั่นว่าหลังจากที่ทิ้งการกุมกำลังมาเดินหน้าต่อในเส้นทางการเมืองแล้ว จะยังคอนโทรลเส้นทางกุมกำลังได้

ในเส้นทางอำนาจการเมืองที่เต็มไปด้วยอุปสรรค ขวากหนาม เขี้ยวเล็บของฝ่ายตรงกันข้าม ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่หามิตรแท้ได้ยากเย็นยิ่ง จำเป็นต้องอาศัยความภักดีของกองทัพมาเป็นผนังทองแดง กำแพงเหล็กให้อิง

พล.อ.สนธิเชื่อมั่นใน พล.อ.สพรั่งแค่ไหน

ภาพของนายทหารใหญ่ในอดีตคนแล้วคนเล่าที่ถูกรุมสกรัมโหดบนเวทีต่อสู้ทางการเมือง เป็นภาพที่ต้องคำนึงไว้เตือนใจ

พล.อ.สนธิในฐานะผู้แทน คมช. มายืนอยู่ที่จุดแยกของทางสองแพร่งนี้แล้ว เมื่อเลือกเดินในสู่อำนาจการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยที่เต็มไปด้วยความเปราะบาง เพราะมากมายด้วยเหลี่ยมเล่ห์ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ความว้าเหว่ และเดียวดาย

หนึ่งเดียวที่จะทำให้พออบอุ่นได้ คือ อีกทางแห่งอำนาจที่ขนานอยู่ต้องให้การสนับสนุนทุ่มเทให้ทั้งใจ

ความอบอุ่นเช่นนั้นมีอยู่หรือไม่

ในสภาพที่นับวันยิ่งปรากฏชัดว่าเริ่มแตกกันใน คมช.

ในสถานการณ์น้ำแยกสาย ไผ่แยกกอ พล.อ.สนธิอยู่สายไหน พล.อ.สพรั่งอยู่กอไหน

นับเป็นเรื่องที่ละเอียด และอ่อนไหวยิ่งในการวิเคราะห์ ประเมิน"

ข่วล่าสุดเกี่ยวกับสุดยอดทหารไทยทั้ง 2 ท่านปรากฎดังนั้ฮ้า...... :slime_smile2:


"ทีโอทีระอุ "พล.อ.สพรั่ง"เรียกประชุมนัดพิเศษ เฉ่งฝ่ายบริหาร ทำงาน หลุดคำพูดทำงานห่วยแตก แล้วยังกีดกันทหารไม่ให้เข้ามาทำงาน ทำรายได้ทีโอทีมีแต่หดลง กลุ่มพนักงาน"พลังก้าวหน้า พัฒนา ทศท."แจกใบปลิวเรียกร้องคนทีโอทีแสดงพลัง ก่อนทุกอย่างสายเกินไป หลังผู้บริหารเอาแต่ทะเลาะกัน

แหล่งข่าวจากบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ทีโอที ได้เรียกผู้บริหารระดับรอง และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ทุกคนเข้าร่วมประชุม โดยสั่งการให้ทุกคนเดินหน้าในการดำเนินธุรกิจของทีโอทีอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ผ่านมาพบว่าการดำเนินงานของทีโอทีไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ไม่มีแผนธุรกิจเพื่อเสริมสร้างรายได้เพิ่มเติมที่ชัดเจน ทั้งๆ ที่ทีโอทีมีรายได้ลดลงอย่างต่อเนื่องตลอดมา

แหล่งข่าวกล่าวว่า การเรียกพบผู้บริหารระดับรอง และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ดังกล่าว พล.อ.สพรั่งได้ตำหนิการทำงานของทุกคนด้วยว่ายังทำงานไม่เต็มที่ ทั้งที่ได้รับเงินเดือนระดับหลักแสนบาท แต่ก็ไม่สามารถสร้างรายได้ให้กับทีโอที สมกับเงินเดือนที่รับไปเป็นแสนบาท "คำกล่าวของ พล.อ.สพรั่งถือเป็นคำตำหนิที่รุนแรงมาก มีการใช้คำว่า "ทำงานห่วยแตกไม่คุ้มกับเงินเดือน" โดย พล.อ.สพรั่งได้ออกตัวว่าไม่เคยใช้คำหยาบกับฝ่ายพลเรือนมาก่อน รวมถึงต่อว่าผู้บริหารทีโอทีว่าไม่เอาไหน แต่ก็ยังกีดกันไม่ให้ทหารเข้ามาเป็นบอร์ด"

แหล่งข่าวกล่าวว่า ในการประชุมของทีโอทีจะมีการบันทึกการประชุมทุกครั้ง ซึ่งครั้งนี้มีการบันทึกการประชุมเช่นกัน แต่หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมดังกล่าว พล.อ.สพรั่งให้มีคำสั่งให้เก็บเทปบันทึกการประชุมทั้งหมด และไม่อนุญาตให้มีการเผยแพร่ด้วย

แหล่งข่าวกล่าวว่า ก่อนการประชุมบอร์ดนัดพิเศษดังกล่าว พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ในฐานะประธานที่ปรึกษาประธานบอร์ดทีโอที ได้ทำเอกสารติดไว้หน้าห้องประชุมบอร์ด มีเนื้อหาว่าได้รับคำสั่งจาก พล.อ.สพรั่ง ดังนี้ 1.ไม่มีการประชุมบอร์ดวันที่ 21 สิงหาคม 2550 และให้มีการประชุมวันที่ 24 สิงหาคม ตามปกติ 2.ในการประชุมบอร์ดวันที่ 17 สิงหาคม 2550 ยังไม่มีข้อยุติที่จะเป็นมติในที่ประชุม

แหล่งข่าวกล่าวว่า การดำเนินการของ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ สร้างความสับสนต่อคณะกรรมการมาก เพราะ พล.อ.สพรั่งยังคงเรียกประชุมเหมือนเดิม จึงไม่แน่ใจว่าได้เกิดความขัดแย้งกันภายในหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ พล.อ.สพรั่งเดินทางมาถึงทีโอที พล.ร.อ.บรรณวิทย์ก็เดินทางกลับ นอกจากนี้ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ ยังได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายพิชัย อยู่คง ผู้จัดการสำนักงานเลขานุการบอร์ดที่ขัดคำสั่ง ปล่อยให้มีการประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มพนักงานทีโอทีที่ใช้ชื่อว่าพลังก้าวหน้า พัฒนา ทศท. โดยนายพรชัย มีมาก ได้แจกใบปลิวเรียกร้องให้พนักงานทีโอทีทุกคนแสดงพลังเพื่อความก้าวหน้าของทีโอทีก่อนที่จะสายเกินไป จากปัจจุบันการดำเนินธุรกิจของทีโอทีไม่มีความชัดเจน เพราะฝ่ายบริหารมีแต่ทะเลาะเบาะแว้งกัน"

""สพรั่ง" เมิน พนง.ทีโอที กดดันบอร์ดลาออก เชื่อปัญหาแก้ไขได้
 

 
 
       ก่อนการประชุมคณะกรรมการ หรือบอร์ด บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในช่วงสายวันนี้ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ประธานบอร์ดทีโอที ได้กล่าวถึงความพยายามของบุคคลบางกลุ่มที่ต้องการให้มีการปลดบอร์ดของบริษัท ว่า เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ และใครอยากจะทำอะไร หรือเคลื่อนไหวอะไรก็ทำไป ตนไม่รู้สึกหนักใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เชื่อว่าความดีเท่านั้นที่จะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็น และเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นสามารถแก้ไขได้ เนื่องจากเคยปกครองทหารมาก่อน โดยจะทำความเข้าใจและชี้แจงข้อเท็จจริงให้คนเข้าใจ
        ทั้งนี้ ระหว่างการสัมภาษณ์ พล.อ.สพรั่ง ได้มีเหตุการณ์ช่างภาพสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งได้ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผลักอย่างแรง จนเกิดการโต้เถียงกันขึ้น ทำให้ พล.อ.สพรั่ง ต้องขอร้องให้สื่อมวลชนเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ก็ต้องเข้าใจการทำงานของสื่อมวลชนด้วย"




 :slime_fighto: :slime_fighto: :slime_fighto:

เมื่อเช้าฟัง "เก็บตกจากเนชัน" โดย คุณกนก กับคุณธีระ สัมภาษณ์ พล.ร.อ. บรรณวิทย์ เก่งเรียน เกี่ยวกับปัญหาของทีโอทีนี่ล่ะ

แต่ขี้เกียจเล่าให้ทั่นเท้ามหาภัยฟัง อิอิ  :mrgreen: :lol: :mrgreen:

้อ้าว แต่ผมอยากรู้นี่นา พี่เม่ย ก้อออออออ............  :slime_sentimental:

น่าจะเป็นเกาหลีนะ อาจารย์จ๊ะ :slime_whistle:

ยืนยันว่าเกาหลี 55555

ทั่นเท้ามหาภัยต้องรีบบอกทางไปร้าน "ไม้เอก" ด่วนเลยนะ  :mrgreen:

จับความพอสรุปได้ดังนี้นะคะ

๑. ประเด็นเรื่อง พนักงานทีโอที ออกมาประท้วง

พล.ร.อ. บรรณวิทย์ ชี้แจงว่า เป็นฝีมือ..(ฝีปาก) ของบอร์ด 2 คนที่ท่านมีหลักฐานว่าไปพูดปลุกปั่นพนักงาน แต่เชื่อได้ว่ามีบอร์ดกระทำมากกว่านั้นน่าจะมีอีก 1-2 คน และเดี๋ยวท่านจะประกาศชืออกมาให้ได้ทราบว่า บอรด์ 2 คนนั้นเป็นผู้ใด๋

๒. ประเด็นเรื่อง พล.อ.สพรั่ง ใช้คำพูดตำหนิผู้บริหารระดับกลางรุนแรงได้แก่คำว่า "ห่วยแตก" ตามข่าวลือ

ได้รับคำชี้แจงว่า ถ้าท่านตำหนิ ก็เพื่อเป็นการ motivate ตามสไตล์ทหารให้ทำงานให้มากขึ้น ให้มีประสิทธิมากขึ้น แต่คงไม่ถึงกับใช้คำนี้หรอก การที่ท่านสพรั่งเคยพูดว่า "ละเว้นโทษตายให้คุณ" นั้นหมายความว่า ผมไม่เอาเรื่องคุณ ....ต้องเข้าใจความหมายที่ทางทหารใช้กัน ส่วนคำว่า "ห่วยแตก" อะไรนั่น ก็ว่ากันไป ไม่อาจยืนยันได้

๓. ประเด็นเรื่อง รายได้ตก

เรื่องนี้จริง แต่เป็นผลสืบเนื่องจากการบริหารของบอร์ดชุดก่อน สำหรับนโยบายของบอร์ดบริหารชุดใหม่ ได้วางแนวทางระยะยาวไว้ ทั้งในเรื่องของระบบใหม่ที่จะนำมาใช้คือ 3G ฯลฯ และเริ่มทำการโปรโมชันการใช้โทรศัพท์พื้นฐานคือโทรศัพท์บ้าน เพราะช่วงทีผ่านมา มียอดการใช้ลดลง

ผิดตกบกพร่องต้องขออภัยล่วงหน้าค่ะ  :D

คนน่ารัก...ทำอะไรก็ดูดีไปทุกอย่าง ท้าวฯไม่โกหกผิดศีลน๊า :slime_inlove:

คุณเม่ยเธอจะเล่าให้ท้าวฯฟังคนเดียว...ถ้าท่านSMอยากรู้เรื่องนี้กรุณาซิบลุงแคน หรือ ลุงปุถุชนด่วนเลยน๊า :slime_whistle:

อืมม...แนวๆนั้นอ่ะ สงสารพี่พรั่งเค้า อุตส่าห์เสี่ยงตายเป็นคนแรกๆในการล้มทักษิณเลยกลับไม่มีใครเห็นคุณงามความดีท่าน....น่าน้อยใจแทนท่านจริงๆ :slime_shy:

งับ...ทราบแล้วงับ :slime_agreed:

น้อยใจแทนพ่อแม่ เมิงก่อนดีกว่า ทำลูกออกมา กลายเป็นหมาไปซะงั้น พูดไปได้ทุกวัน ไม่โกหกๆๆ อายไหมนั้น หน้าด้านฉิบหายเลย แถ บวช ไปเหอะ ชาติหมาไร้สัจจะ